The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Salinthip Ngamjaroen, 2022-12-19 13:07:23

คำแผลง

คำแผลง

HOW TO

คำแผลงVER. ONENIGHT MIRACLE GANG


คำแผลง

การแผลง คือ การเปลี่ยนรูปหรือเสียงอักษรในคำให้ผิดแผกไป
จากเดิม บ้างก็เพิ่มพยัญชนะนะหรือรูปวรรณยุกต์ลงไปให้เสียงเพี้ยน
ไปแต่ยังคงความหมายเดิมหรือเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ยังพอมีเค้าเดิม

การแผลง เป็นวิธีการสร้างคำที่ไทยได้แบบมาจากภาษาเขมร บาลี
สันสกฤต คำในภาษาเหล่านี้เป็นคำหลายพยางค์มีอักษรควบ อักษรนำ
และตัวการันต์ วิธีการแผลงเป็นวิธีที่ทำให้เกิดพยางค์มากขึ้น เมื่อไทย
นำคำภาษาเขมร บาลีสันสกฤต ไม่ได้ดัดแปลงวิธีขึ้นใหม่

การแผลงนอกจากจะทำให้ไทยมีคำใช้ในการสื่อสารเพิ่มขึ้นแล้ว
ยังทำให้มีคำใช้ในการแต่งคำประพันธ์เพื่อให้สำเนียงนุ่มนวลไพเราะ
ในการอ่านและมีพยางค์มากพอที่จะบรรจุเข้าเป็นคณะที่ถูกต้องตาม
ฉันทลักษณ์

นอกจากนี้การแผลงคำยังทำให้ความหมายของคำคลี่คลายขยาย
ความเพิ่ม มีคำใช้ในภาษามากขึ้น แสดงความเจริญของภาษา

หลักสังเกตการแผลงคำในภาษาไทย

การแผลงคำในภาษาไทย แม้จะได้รับอิทธิพลจากภาษาเขมร
บาลีและสันสกฤตหรือเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก็พอสังเกตได้
ว่าการกลายเสียงส่วนมากเป็นไปตามธรรมชาติของเสียง คำบางคำ

จะกำหนดแน่นอนว่าเสียงใดเป็นเสียงเดิม หรือเสียงใด
เป็นเสียงกลายไม่ได้ทั้งนี้เป็นแต่เพียงว่าเป็นเสียงซึ่ง
เปลี่ยนแทนที่กัน


HOW TO คำแผลง VER. ONENIGHT Miracle GANG

วิธีการแผลงคำในภาษาไทยส่วนหนึ่งรับวิธีการมาจากภาษาเขมร
รวมทั้งรับคำที่เขมรแผลงแล้วมาใช้ด้วยวิธีการแผลงคำของภาษาเขมรที่
ไทยรับมาใช้มีดังนี้

1.แผลงเป็นคำสองพยางค์ โดยคงเสียงสระเดิมไว้ที่พยางค์หลังและ
เพิ่มเสียงสระ อำ ลงที่หน้าพยางค์หน้า ดังนี้

1.1 คำเดิมเป็นพยัญชนะต้นเดี่ยว ให้เพิ่ม สระอำ ที่พยัญชนะต้นเดิม และ
เพิ่มพยัญชนะต้นของพยางค์หลังอีกรูปหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเพิ่ม น และใช้
เสียงสระเดิมเช่น

เกิด -กำเนิด แข็ง -กำแหง คูณ -คำนวณ
จง- จำนง จน จำนน จอง -จำนอง จ่าย- จำหน่าย
จำ - จำนง แจก -จำแนก ช่วย- ชำร่วย

1.2 คำเดิมมีพยัญชนะต้นสองตัว ให้เพิ่มสระ อำ ลงที่ยัญชนะต้นตัวแรก
เป็นพยางค์แรก ส่วนพยางค์ที่สองคงรูปเดิมไว้บางคำอาจมีการปลี่ยนแปลง
รูปพยัญชนะต้นตัวแรกด้วย เช่น

ขจร – กำจร ขจาย – กำจาย ขลัง – กำลัง

จรัส – จำรัส เจริญ – จำเริญ เฉพาะ –

จำเพาะ ตรวจ – ตำรวจ ตรัส – ดำรัส เถลิง

– ดำเกิง


HOW TO คำแผลง VER. ONENIGHT Miracle GANG

2. แผลงเป็นคำสองพยางค์ โดยเติมอุปสรรค บ ลงหน้าคำไทย
แผลงเป็น บัง บัน บำ ดังนี้

2.1 แผลง บ เป็นบัง เช่น

2.2 แผลง บ เป็น บัน เช่น

2.3 แผลง บ เป็น บำ เช่น

นอกจากการแผลงคำที่กล่าวมาแล้ว ยังมีการแผลงภายในคำ เพื่อให้เป็น
ไปตามลักษณะภาษาไทย ทั้งเรื่องการเขียนและการออกเสียง แต่ความหมาย
ยังคงเดิม การแผลงในลักษณะนี้มี 3 ลักษณะ คือ การแผลงสระ การแผลง
พยัญชนะและการแผลงวรรณยุกต์


การแผลงสระ

การแผลงสระ คือการกลายเสียงสระ แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ
การเปลี่ยนเสียง และตัดเสียง

การเปลี่ยนเสียง
สระเสียงสั้น (รัสสระ)สระเสียงยาว (ทีฆสระ)สระเสียงสั้นและ

เสียงยาวมีฐานที่เกิดและวิธีทำเสียงอย่างเดียวกัน ต่างกันที่ช่วงเวลา
ในการเปล่งเสียง ทำให้การกลายเสียงสลับที่กับได้ง่าย


จดไว้ใช้จำ
สระอุที่ยุ แผลงเป็น เอาหรือ เอาว ได้เสมอ

สระอุที่สุ แผลงเป็น โอเอา อุว หรือเอาว ได้เสมอ

จดไว้ใช้จำ

คำบางคำ ในภาษาบาลีใช้สระโอ แต่ภาษาสันสกฤตใช้สระเอา เช่น
โปราณ – เปาราณคำชนิดนี้ไม่ใช่คำแผลง เพราะมีใช้อยู่ในภาษาเดิมแล้ว
ดังตัวอย่างต่อไปนี้

การตัดเสียง

คือ การลบเสียงสระบางเสียง เช่น

ศาลา เป็นศาล ชีพิตักษัยเป็น ชีพตักษัย

อนิจจา เป็นนิจจา อุโบสถเป็น โบสถ์


การแผลงพยัญชนะ

การแผลงพยัญชนะ คือการเปลี่ยนรูปพยัญชนะตัวหนึ่งให้เป็นอีกตัวหนึ่ง
หรือเพิ่มพยัญชนะทำให้เสียงผิดไปจากเดิมหรือมีพยางค์มากกว่าเดิม การแผลง
พยัญชนะไม่มีกฎตายตัวเช่นเดียวกับการแผลงสระ เพราะการแผลงเกิดจาก
วิวัฒนาการทางภาษามากกว่าเกิดจากกฎเกณฑ์ในภาษา การแผลงพยัญชนะใน
ภาษาไทยมีส่วนคล้ายกับวิธีการแผลงในภาษาเขมรมากกว่าการแผลงในภาษา
บาลี สันสกฤตการแผลงพยัญชนะแบ่งออกเป็น 4 วิธี คือ เปลี่ยนเสียงพยัญชนะ
เพิ่มเสียงพยัญชนะ เพิ่มเสียง อำ อัง อัน อำ น และตัดเสียง

เปลี่ยนเสียงพยัญชนะเสียงพยัญชนะมักเปลี่ยนภายในหมู่พยัญชนะที่มีฐานะเกิด

หรือวิธีทำเสียงเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เช่น

กัน เป็น คั่น กิ้งโคลง เป็น คลิ้งโคลง

เก เป็น เข , เห กะท้อน เป็น สะท้อน

เกรียน เป็น เหี้ยน ขาม เป็น คร้าม

เพิ่มเสียงพยัญชนะ เช่น ขด เป็น ขนด
ชัก เป็น ชะงัก ชิด เป็น ชนิด
ชวน เป็น ชนวน บวก เป็น ผนวก
ตก เป็น ตระหนก

เพิ่มเสียง อำ อังอัน อำ น เช่น จรูญ เป็น จำรูญ
แข็ง เป็น กำแหง แซะ เป็น ชำแหละ
ชะ เป็น ชำระ ตรง เป็น ดำรง
ตริ เป็นดำริ

ตัดเสียง คือ การตัดพยางค์ อาจตัดพยางค์หน้าหรือพยางค์หลังของคำก็ได้

และอาจตัดพยางค์เดียวหรือหลายพยางค์ก็ได้ เช่น

วินิจฉัย เป็น วินิจ พินิจ อัญชลี เป็น ชลี

อนุโมทนา เป็น โมทนา ชีพิตักษัย เป็น ตักษัย

อุบาสิกา เป็น สีกา อรุโณทัย เป็น อโณทัย


การแผลงวรรณยุกต์

การแผลงวรรณยุกต์ คือ การเปลี่ยนรูปหรือเสียงของวรรณยุกต์หรือเพิ่ม

รูปวรรณยุกต์ลงไปในคำบางคำเพื่อให้เสียงหรือรูปวรรณยุกต์ผิดไปจากคำเดิม

อาจเป็นคำไทยหรือคำที่มาจากภาษาอื่นก็ได้ ตัวอย่าง

จึง เป็น จึ่ง ปิ้ม เป็น ปิ่ม เพียง เป็น เพี้ยง

ดัง เป็น ดัง ไท เป็น ไท้ บ เป็น บ่

เทห เป็น เท่ห์ พยุห เป็น พยู่ห์ พาห เป็น พ่าห์

พุทโธ เป็น พุทโธ่

คำที่แผลงแล้วบางคำก็คงเป็นชนิดเดียวกับคำเดิม คือคำเดิมเป็นนามหรือ
กริยาเมื่อแผลงแล้วก็ยังคงเป็นนามหรือกริยาอย่างเดิม แต่บางคำเปลี่ยนชนิด
ไปจากเดิม เช่น

เดิมเป็นคำนามแผลงแล้วก็ยังคงเป็นคำนาม - เสียงเป็น สำเนียง
เดิมเป็นคำวิเศษณ์แผลงแล้วยังคงเป็นคำวิเศษณ์ -สวย เป็น สำรวย
เดิมเป็นคำกริยาแผลงแล้วยังคงเป็นคำกริยา -ตรวจ เป็น สำรวจ
เดิมเป็นคำวิเศษณ์แผลงแล้วกลายเป็นคำนาม -เรียบ เป็น ระเบียบ
เดิมเป็นคำกริยาแผลงแล้วกลายเป็นคำนาม -ตรับ เป็น ตำรับ

คำเขมร คำบาลี สันสกฤตถ้าอยู่ในกฎเกณฑ์ที่วางไว้สามารถแผลงได้
ทุกคำ แต่ถ้าเป็นคำไทย แม้จะแผลงตามวิธีที่วางไว้ แต่ก็ไม่สามารถแผลง
ได้พร่ำเพรื่อ ต้องพิจารณาคำที่แผลงด้วย เช่น แต่ง เป็น ตำแหน่ง ใช้ได้
เพราะมีที่ใช้อยู่ แต่ ต้อง จะแผลงเป็น ตำหน้อง กลายเป็นคำไม่มีความหมาย
ไม่ควรแผลง


Happy
Happy
Happy


Click to View FlipBook Version