The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือความปลอดภัยงานเคลื่อนย้ายโดยเครื่องจักร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by s_u_rapa, 2021-10-19 04:00:52

คู่มือความปลอดภัย งานเคลื่อนย้ายโดยเครื่องจักร

คู่มือความปลอดภัยงานเคลื่อนย้ายโดยเครื่องจักร

SAFETY MANUAL

คู่มือ
ความปลอดภัย

งานเคลื่อนย้ายโดยเครื่องจักร

ส า ร บัญ

บทนำ 03
04อันตรายงานเคลื่อนย้ายโดยเครื่องจักร

กฎหมาย 08
ข้อปฏิบัติ 19

แผนฉุกเฉิน 26
บรรณานุกรม 29

3

บทนำ

ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการ
ทำงาน พ.ศ. 2554 กำหนดให้นายจ้าง จัดให้มีการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อให้การบริหารจัดการและดำเนิน
การด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานได้อย่าง
ปลอดภัย ให้แก่ลูกจ้างระดับบริหาร หัวหน้างาน และลูกจ้างในทุกระดับ

คณะผู้จัดทำจึงได้มีการจัดทำคู่มือความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพ
แวดล้อมในการทำงาน เกี่ยวกับงานเคลื่อนย้ายโดยเครื่องจักรทั้ง 5 ประเภท
ได้แก่ รถยก(Forklift) รถกระเช้า ลิฟต์(Lift ) ปั้ นจั่น(Crane) รอก(Hoist) โดยใน
คู่มือมีสาระเกี่ยวกับ อันตรายที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายโดยเครื่องจักร กฎหมายที่
เกี่ยวข้องกับงานเคลื่อนย้ายโดยเครื่องจักรคือ กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานใน
การบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพ
แวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้ นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ.2564 อีกทั้ง
ยังประกอบไปด้วยข้อปฎิบัติต่างๆในการใช้เครื่องจักรต่างๆ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือนี้จะช่วยสร้างความเข้าใจให้กับผู้อ่าน และสามารถนำ
องค์ความรู้นี้ไปใช้ ในการปฏิบัติงานเพื่อให้สถานที่ปฏิบัติงานมีสภาพแวดล้อมใน
การทำงานที่ปลอดภัย

คณะผู้จัดทำ

4

อันตราย !

งานเคลื่อนย้ายโดยเครื่องจักร

1. บรรทุกน้ำหนักเกิน

การขนย้ายวัสดุเกินน้ำหนัก อาจทำให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์บางชิ้นเกิดการ
ชำรุดเสียหาย หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

2. สภาพร่างกายไม่พร้อม

สภาพร่างกายของผู้ปฏิบัติงานไม่พร้อมที่จะทำงาน เช่น อ่อนเพลีย
ง่วงนอน มึนเมา ไข้ ปวดหลัง เป็นต้น อาจทำให้มีการเกิดอุบัติเหตุขึ้น

3. ขาดความรู้ ความชำนาญ

ถ้าผู้ปฏิบัติงานขาดความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการใช้อุปกรณ์
ขนถ่ายก็อาจเกิดปัญหาต่อการใช้งาน อาจเกิดอุบัติเหตุได้

4. ความประมาท

ในการเคลื่อนย้ายวัสดุอุปกรณ์ อาจมีการพูดคุย หยอกล้อกัน และ
ใจลอยระหว่างปฏิบัติงาน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้และส่งผลเสียต่างๆ
ตามมา

5. เครื่องมือ เครื่องจักร ชำรุดเสียหาย

ขาดการดูแลรักษาตามอายุการใช้งาน หรือหมดสภาพ เมื่อใช้งานไป
นาน ๆ อาจทำให้ชำรุดเสียหาย เช่น สายของปั้ นจั่น หรือลิฟต์ยกของเป็น
สนิมและมีส่วนขาดเสียหาย

6. ผังของโรงงานหรือโครงสร้างอาคาร

การเลือกอุปกรณ์ขนถ่ายจะต้องให้เหมาะสมกับผังโรงงาน โดยเฉพาะ
พื้นสามารถรับน้ำหนักได้หรือไม่ ความสูงของหลังคาสูงพอหรือไม่ ระดับ
ของพื้นโรงงานที่ต่างระดับกันก็เป็นอุปสรรคต่อการใช้รถยกด้วยในกรณี
ที่พื้นโรงงานต่างระดับหลายช่วง

7. สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย

ขณะทำงานมีแสงสว่างไม่เพียงพอ เสียงดังเกินมาตรฐาน มีสิ่งกีดขวาง
ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

5

อันตรายจากรถยก
FORKLIFT

1 อุบัติเหตุชนกัน 3 การยกสินค้าสูงเกินกำหนด
เนื่องจากไม่มีการกำหนดเส้นทางของ อาจทำให้สิ่งของหล่นทับคนขับรถ
รถยกหรือมีแต่ไม่เหมาะสม หรือผู้ปฏิบัติงานที่อยู่บริเวณนั้น

2 การชนบุคคลหรือสิ่งของที่กีดขวาง 4 รถยกพลิกคว่ำ
คนขับรถยกมองไม่เห็นผู้ปฏิบัติงาน เมื่อขับรถเร็วเกินหรือน้ำหนักไม่
ที่เดินอยู่ สมดุล

5 ผู้ปฏิบัติงานอาจตกจากที่สูง
หากขึ้นไปยืนบนงาของรถยก

1 สิ่งของหรือบุคคลตกจากกระเช้า อันตรายจาก
ผู้ปฏิบัติงานมีความประมาท สภาพของ รถกระเช้า
ราวกันตกไม่มั่นคง เก็บวัสดุ อุปกรณ์
ไม่เรียบร้อย 4 รถกระเช้าถล่ม
ยกน้ำหนักที่เกินกำหนด ไม่มีการ
2 รถกระเช้าพลิกคว่ำ ตรวจสอบก่อนใช้งาน
มีลมแรง พื้นที่ปฏิบัติงานมีหลุม บ่อ เอียง
หรือมีสิ่งกีดขวาง 5 การชน
มีบุคคลหรือสิ่งของกีดขวางเส้นในพื้นที่
3 ไฟดูด ปฏิบัติงาน หรือผู้ปฏิบัติงานมีความ
การเผาไหม้จากความร้อนสูง มีการ ประมาท
ทำงานใกล้สายไฟ เกิดไฟฟ้าเหนี่ยวนำ

6

อันตรายจากลิฟต์
LIFT

1 บรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด 4 ไฟฟ้าดูด
จากการบรรทุกของ หรือผู้โดยสารที่ ไม่มีการตรวจสอบระบบไฟฟ้า สายไฟ
หนักเกินไป เสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุ มีการชำรุด ส่งผลให้เกิดไฟดูด

2 ทางเดินเชื่อมไม่ปลอดภัย 5 สิ่งของตกหล่นจากตัวลิฟต์
ทำด้วยวัสดุที่ไม่มั่นคง หรือมีสภาพ มีการจัดวางสิ่งของไม่เหมาะสม
ชำรุดเสียหาย และไม่มีราวกันตก สิ่งของอาจยื่นออกจากตัวลิฟต์
ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
6 ตัวลิฟต์ไม่ปลอดภัย
3 โครงหอลิฟต์ถล่ม มีโครงสร้างไม่มั่นคงแข็งแรง ขณะ
มีการยึดโยง ค้ำยัน หรือตรึงกับพื้นดิน เคลื่ อนที่ประตูลิฟต์ไม่ปิด
หรือตัวอาคารที่ไม่แข็งแรง

ลิฟต์โดยสาร ลิฟต์ขนส่งวัสดุ

อันตรายจากปั่ นจั่น 7
CRANE

1 ปั้ นจั่นพลิกคว่ำ 4 วัสดุตกหล่นทับ
การยกวัสดุเกินพิกัด และอยู่ห่างไกลหรือสูง สภาพลวดสลิงที่ชำรุด การผูกมัดที่ไม่
จากตัวรถทำให้รถปั้ นจั่นเสียเสถียรภาพได้ แน่นหนาหรือไม่ถูกวิธี ยึดเกาะวัสดุที่
ง่าย หรือยกในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ไม่ได้มาตรฐาน
เช่น มีลมแรง
5 ไฟฟ้าดูดลงรถปั้ นจั่น
2 ปั้ นจั่นถล่ม มักมีการยกวัสดุในตำแหน่งที่ใกล้
การยกเกินพิกัด สภาพโครงสร้างที่เก่า สายไฟแรงสูง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ชำรุด การติดตั้งปั้ นจั่นที่ไม่ถูกต้อง หรืออาจเสียชีวิตได้
หรือการยึดที่ฐานไม่แข็งแรงพอ
6 แขนปั้ นจั่นโก่งงอ แขนต่อหัก
3 การชนกัน อาจมาจากการยกเกินพิกัดน้ำหนัก
การชนกันของแขนปั้ นจั่นในขณะสวิงทำงาน สภาพแขนปั้ นจั่นเก่า มีสนิม การติดตั้ง
หรือรถปั้ นจั่นขณะเคลื่อนที่ ที่ไม่ถูกต้อง หรือการเหวี่ยงแรง

1 อันตรายจากรอก
HOIST
สิ่งของตกหล่น
2
มีการติดตั้งรอกที่ไม่มีความมั่นคง แข็งแรง
และปลอดภัย รอกหลุด
การเหวี่ยงแรงเกินไปในขณะเคลื่ อนย้าย
การยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก การเหวี่ยงแรงเกินไปในขณะเคลื่ อนย้าย
การเคลื่ อนย้ายสิ่งของอย่างรวดเร็ว การยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก
โซ่หรือสลิงมีสภาพที่ชำรุด เสียหาย การเคลื่ อนย้ายสิ่งของอย่างรวดเร็ว
โซ่หรือสลิงสำหรับยกของ มีความไม่มั่นคง
และสมดุลกับของที่จะยก
มีคนยืนอยู่ใต้สิ่งของ

กกดแเำำคฎลหเระืน่กนสอินดงภรกมจาะัาพกาทรตรแดร้รวปาัฐ้ดวนนาลคงจน้ัอ่วนใมนาแมใกนลปากระลหบาอรมรด้ิทอหภำันายง้รำาอจนพัาดเ.ชศกกีี่วย.าอ๒รวนก๕แัา๖บลม๔ัะย 8

“เครื่องจักร” หมายความว่า สิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นสำหรับก่อกำเนิดพลังงาน เปลี่ยนหรือ
แปลงสภาพพลังงาน หรือส่งพลังงาน ทั้งนี้ ด้วยกำลังน้ำ ไอน้ำ เชื้อเพลิง ลม ก๊าซ แสงอาทิตย์ ไฟฟ้า หรือ
พลังงานอื่น และหมายความรวมถึงเครื่องอุปกรณ์ ล้อตุนกำลัง รอก สายพาน เพลา เฟือง หรือสิ่งอื่นที่

ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งเครื่องมือกล

หมวด ๑
เครื่องจักร
ส่วนที่ ๑
บททั่วไป

ข้อ ๖ นายจ้างต้องดูแลให้ลูกจ้างซึ่งทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(๑) สวมใส่เครื่องนุ่งห่มให้เรียบร้อยรัดกุม
(๒) ไม่สวมใส่เครื่องประดับที่อาจเกี่ยวโยงกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้
(๓) รวบผมที่ปล่อยยาวเกินสมควรหรือทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้อยู่ในลักษณะที่ปลอดภัย

ข้อ ๗ ในบริเวณที่มีการติดตั้ง การซ่อมแซม หรือการตรวจสอบเครื่องจักรหรือเครื่องป้องกันอันตราย
จากเครื่องจักรนายจ้างต้องติดป้ายแสดงการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งจัดให้มีระบบ วิธีการ
หรืออุปกรณ์ป้องกันมิให้เครื่องจักรนั้นทำงาน

ข้อ ๘ ในการประกอบ การติดตั้ง การทดสอบ การใช้ การซ่อมแซม การบำรุงรักษา การตรวจสอบ
การรื้อถอน หรือการเคลื่อนย้ายเครื่องจักร รถยก ลิฟต์ เครื่องจักรสำหรับใช้ในการยกคนขึ้น
ทำงานบนที่สูง นายจ้างต้องปฏิบัติตามรายละเอียดคุณลักษณะและคู่มือการใช้งานที่ผู้ผลิต
กำหนดไว้ และต้องมีสำเนาเอกสารดังกล่าวไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้
ในกรณีที่มีการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรที่มีน้ำหนักตั้งแต่ ๑ ตันขึ้นไป นายจ้างต้องจัดให้มีแผน
ป้องกันอันตรายจากการเคลื่ อนย้ายดังกล่าว

ข้อ ๑๐ นายจ้างต้องไม่ยอมให้ลูกจ้างใช้เครื่องจักรทํางานเกินพิกัด หรือขีดความสามารถที่กําหนดไว้
ข้อ ๓๖ นายจ้างต้องบํารุงรักษาและดูแลเครื่องป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพ ที่สามารถ

ป้องกันอันตรายได้
ข้อ ๓๙ นายจ้างต้องจัดให้ทางเดินเข้าออกจากพื้นที่สําหรับปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครื่องจักร มีความกว้าง

ไม่น้อยกว่า ๔๐ เซนติเมตร
ข้อ ๑๘ นายจ้างต้องจัดทํารั้ว คอกกั้น หรือเส้นแสดงเขตอันตราย ณ บริเวณที่ตั้ง ของเครื่องจักรให้

ลูกจ้างเห็นได้ชัดเจนและต้องดูแลไม่ให้ลูกจ้างซึ่งไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณดังกล่าว
ข้อ ๑๔ นายจ้างต้องติดตั้งเครื่องป้องกันวัสดุตกหล่นบริเวณสายพานลําเลียงเพื่อให้เกิด ความ

ปลอดภัยแก่ลูกจ้าง และต้องมีอุปกรณ์ฉุกเฉินที่สามารถหยุดการทํางานของสายพานได้ทันที
ติดตั้งไว้ในตําแหน่งที่เหมาะสม พร้อมใช้งานและเห็นได้ชัดเจน
ข้อ ๒๐ นายจ้างต้องควบคุมดูแลไม่ให้ผู้ซึ่งไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณเส้นทางสายพานลําเลียง
ข้อ ๒๓ นายจ้างต้องจัดให้มีวิศวกรควบคุมดูแลการติดตั้งเครื่องจักรที่ควบคุมโดยระบบ อิเล็กทรอนิกส์
หรือคอมพิวเตอร์ ในบริเวณพื้นที่ที่มีกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ

ส่วนที่ ๔ 9
รถยก
“รถยก” หมายความว่า รถที่ติดตั้ง อุปกรณ์ใช้
สําหรับการยกหรือเคลื่ อนย้ายสิ่งของ
เช่น ฟอร์คลิฟต์ (forklift) หรือ
รถที่ทํางานในลักษณะเดียวกัน

ข้อ ๓๔ ในการทํางานเกี่ยวกับรถยก นายจ้างต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) จัดให้มีโครงหลังคาของรถยกที่มั่นคงแข็งแรง สามารถป้องกันอันตรายจากวัสดุตกหล่นได้
เว้นแต่ รถยกที่ออกแบบมาให้ยกวัสดุสิ่งของที่มีความสูงไม่เกินศีรษะของผู้ขับขี่
(๒) จัดให้มีป้ายบอกพิกัดน้ำหนักยกอย่างปลอดภัยตามที่กําหนดไว้ในรายละเอียดคุณลักษณะ และคู่มือ
การใช้งานพร้อมทั้งติดตั้งป้ายเตือนให้ระวัง
(๓) ตรวจสอบรถยกให้มีสภาพใช้งานได้ดีและปลอดภัยก่อนการใช้งานทุกครั้ง และต้องมีสําเนาเอกสาร
การตรวจสอบไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้
(๔) จัดให้มีสัญญาณเสียงหรือแสงไฟเตือนภัยในขณะทํางานตามความเหมาะสมของการใช้งาน
(๕) จัดให้มีอุปกรณ์ช่วยการมองเห็นตามสภาพในการทํางาน เช่น กระจกมองข้าง
(๖) ให้ลูกจ้างซึ่งทําหน้าที่ขับรถยกชนิดนั่งขับสวมใส่เข็มขัดนิรภัยในขณะทํางานบนรถตลอดเวลา

ข้อ ๓๖ นายจ้างต้องควบคุมดูแลบริเวณที่มีการเติมประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่สําหรับรถยก ที่ใช้ไฟฟ้าให้อยู่ห่าง
จากบริเวณที่ลูกจ้างทํางานได้อย่างปลอดภัย และจัดให้มีมาตรการเกี่ยวกับ การระบายอากาศเพื่อ
ป้องกันการสะสมของไอกรดและไอระเหยของไฮโดรเจนจากการประจุไฟฟ้า

ข้อ ๓๗ นายจ้างต้องตีเส้นช่องทางเดินรถยกบริเวณภายในอาคารหรือกําหนดเส้นทางเดิน รถยกใน
บริเวณอื่ นที่มีการใช้รถยกเป็นประจํา

ข้อ ๓๘ นายจ้างต้องติดตั้งกระจกนูนหรือวัสดุอื่นที่มีคุณสมบัติคล้ายกันไว้ที่บริเวณทางแยก หรือทางโค้ง
ที่มองไม่เห็นเส้น ทางข้างหน้า

ข้อ ๓๙ นายจ้างต้องจัดทางเดินรถยกให้มีความมั่นคงแข็งแรง และสามารถรองรับน้ำหนักรถ รวมทั้งน้ำ
หนักบรรทุกของรถยกได้อย่างปลอดภัย

ข้อ ๔๐ นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างซึ่งจะทําหน้าที่เป็นผู้ขับรถยก ผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับ การใช้รถยก
แต่ละประเภท ความปลอดภัยในการขับรถยก การตรวจสอบและบํารุงรักษารถยก โดยวิทยากรซึ่ง
มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์การทํางานเกี่ยวกับรถยก ตามหลักสูตร

ข้อ ๔๑ นายจ้างต้องควบคุมดูแลการนํารถยกไปใช้ปฏิบัติงานใกล้สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดัน
ไฟฟ้า โดยต้องมีระยะห่างเพื่อความปลอดภัย ดังต่อไปนี้

(๑) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน ๖๙ กิโลโวลต์ ต้องห่างไม่น้อยกว่า ๓.๑ เมตร
(๒) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน ๖๙ กิโลโวลต์แต่ไม่เกิน ๑๑๕ กิโลโวลต์ ต้องห่าง

ไม่น้อยกว่า ๓.๓ เมตร
(๓) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน ๑๑๕ กิโลโวลต์แต่ไม่เกิน ๒๓๐ กิโลโวลต์ ต้องห่าง

ไม่น้อยกว่า ๔ เมตร
(๔) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน ๒๓๐ กิโลโวลต์แต่ไม่เกิน ๕๐๐ กิโลโวลต์ ต้องห่าง

ไม่น้อยกว่า ๖ เมตร
ข้อ ๔๒ นายจ้างต้องควบคุมดูแลไม่ให้บุคคลอื่นนอกจากผู้ขับรถยกโดยสารหรือขึ้นไป บนส่วนหนึ่งส่วนใด

ของรถยก

10

“ลิฟต์โดยสาร” หมายความว่า เครื่องจักรใช้สําหรับบุคคลโดยสารหรือขนส่งวัสดุสิ่งของขึ้นลง ระหว่างชั้น
ต่างๆ ของอาคาร ยานพาหนะ หรือโครงสร้างอื่น

“ลิฟต์ขนส่งวัสดุ” หมายความว่า เครื่องจักรใช้เฉพาะขนส่งวัสดุสิ่งของขึ้นลงระหว่างชั้นต่างๆ ของอาคาร
ยานพาหนะหรือโครงสร้างอื่ นที่ไม่ใช้สําหรับบุคคลโดยสาร

ส่วนที่ ๕
ลิฟต์

ข้อ ๔๓ ในกรณีที่มีลิฟต์โดยสาร นายจ้างต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) ติดตั้งลิฟต์ไว้ในที่มั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย
(๒) จัดให้มีการตรวจสอบความพร้อมของลิฟต์ทุกวัน หากส่วนใดชํารุดเสียหายต้องซ่อมแซมให้
เรียบร้อยก่อนการใช้งานและต้องมีสําเนาเอกสารการตรวจสอบไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัย
ตรวจสอบได้
(๓) จัดให้มีมาตรการป้องกันอันตราย และติดป้ายห้ามใช้ลิฟต์ให้ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องเห็นได้ชัดเจน ในระหว่าง
ที่มีการทดสอบ ตรวจสอบ ซ่อมแซม หรือบํารุงรักษาลิฟต์
(๔) จัดให้มีระบบสัญญาณเตือน และมีอุปกรณ์ตัดระบบการทํางานของลิฟต์ เมื่อมีการใช้ลิฟต์ บรรทุก
น้ำหนักเกินพิกัดที่ผู้ผลิตกําหนด
(๕) จัดให้มีมาตรการป้องกันมิให้ลิฟต์เคลื่อนที่ ในกรณีที่ประตูลิฟต์ยังไม่ปิด
(๖) จัดทําคําแนะนําและวิธีการใช้ลิฟต์ และการขอความช่วยเหลือติดไว้ในห้องลิฟต์
(๗) จัดให้มีระบบการติดต่อกับภายนอกห้องลิฟต์และสัญญาณแจ้งเหตุขัดข้อง
(๘) จัดทําคําแนะนําและวิธีการให้ความช่วยเหลือติดไว้ในห้องเครื่องต้นกําลัง และห้องผู้ดูแลลิฟต์
(๙) จัดทําข้อห้ามใช้ลิฟต์ ติดไว้ที่ข้างประตูลิฟต์ด้านนอกทุกชั้น
(๑๐) จัดทําป้ายบอกพิกัดน้ำหนักและจํานวนคนโดยสารได้อย่างปลอดภัยติดตั้งไว้ในห้องลิฟต์
(๑๑) จัดให้มีระบบไฟส่องสว่างและระบบระบายอากาศที่เพียงพอภายในห้องลิฟต์ ทั้งในขณะใช้งานปกติ
และกรณีฉุกเฉิน

ข้อ ๔๔ ในกรณีที่มีลิฟต์ขนส่งวัสดุ นายจ้างต้องปฏิบัติตามข้อ ๔๓ (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๕) และจัดทําป้าย
บอกพิกัดน้ำหนักวัสดุสิ่งของที่บรรทุกได้อย่างปลอดภัยตามที่ผู้ผลิตกําหนด และป้าย ห้ามโดยสาร
ติดไว้ในจุดที่เห็นได้ชัดเจนภายในห้อง และนอกประตูลิฟต์ทุกชั้น รวมทั้งกําหนดมาตรการ เกี่ยวกับ
การดูแลวัสดุที่ขนส่งเพื่ อป้องกันไม่ให้วัสดุเคลื่ อนที่และมาตรการป้องกันการติดขัดของห้องลิฟต์

ข้อ ๔๕ นายจ้างต้องจัดให้มีการทดสอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์ของลิฟต์หลังจากติดตั้ง และเมื่อมีการใช้งาน
อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ทั้งนี้ การทดสอบการรับน้ำหนักของลิฟต์ต้องไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๑๐๐
ของน้ำหนักการใช้งานสูงสุดที่ผู้ผลิตกำหนด ให้นายจ้างปิดประกาศผลการทดสอบที่อย่างน้อย
ต้องมีรายละเอียดประกอบด้วยวัน เดือน ปี ที่มีการทดสอบ วัน เดือน ปีที่การรับรองหมดอายุ และ
รายชื่อผู้ทดสอบไว้ในห้องลิฟต์ให้เห็นได้ชัดเจน และต้องมีสําเนาเอกสารการทดสอบไว้ให้พนักงาน
ตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้

ข้อ ๔๖ นายจ้างต้องตรวจสอบระบบความปลอดภัยและระบบการทํางานของลิฟต์เป็นประจํา ทุกเดือน และ
ต้องมีสําเนาเอกสารการทดสอบไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้

ข้อ ๔๗ นายจ้างต้องจัดให้ลวดสลิงที่ใช้สําหรับลิฟต์ขนส่งวัสดุมีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๕ ในกรณีใช้
โซ่ต้องมีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๔ และลวดสลิงที่ใช้สําหรับลิฟต์โดยสารมีค่าความปลอดภัย
ไม่น้อยกว่า ๑๐

ส่วนที่ ๖ 11
เครื่องจักรสําหรับใช้ใน
การยกคนขึ้นทํางานบนที่สูง เฉพาะใช้สำหรับ“ยเกครื่อเคงลืจ่ัอกนรยส้ำายหกครัรบหนะใมขเชึช้้าน้ใายนอไแปคยกข่ทวาาวำงรานมงยปาวกล่นหาคอรบดืนเอนคภขกึัท้รีนยื่ร่สอทูะงงเำเชชหจ้ง่ัานกราแืนอรบททรบีีบ่่ถตอนก่กอาทีรง่รกสรูระแงไเะกชบ”ด้ัารบบ

ข้อ ๔๙ ในการทํางานเกี่ยวกับเครื่องจักรสําหรับใช้ในการยกคนขึ้นทํางานบนที่สูง นายจ้างต้องปฏิบัติ

ดังต่อไปนี้

(๑) จัดให้มีการป้องกันการตกจากที่สูงตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกําหนดมาตรฐานในการ บริหาร

จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ใน

สถานที่ที่มีอันตรายจากการตกจากที่สูงและที่ลาดชันจากวัสดุกระเด็น ตกหล่น และพังทลาย และ

จากการตกลงไปในภาชนะเก็บหรือรองรับวัสดุ

(๒) จัดให้มีป้ายบอกพิกัดน้ําหนักและจํานวนคนที่สามารถยกได้อย่างปลอดภัย
(๓) ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรสําหรับใช้ในการยกคนขึ้นทํางานบนที่สูงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ให้มี

สภาพใช้งานได้อย่างปลอดภัยก่อนการใช้งานทุกครั้ง และต้องมีสําเนาเอกสารการตรวจสอบไว้ให้
พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้

(๔) จัดให้มีสัญญาณเสียงหรือแสงไฟเตือนภัยขณะทํางานตามความเหมาะสมของการใช้งาน
(๕) จัดให้มีอุปกรณ์ตัดระบบการทํางานเมื่อมีการใช้งานเกินพิกัดที่ผู้ผลิตกําหนด และต้องตรวจสอบ

ให้อุปกรณ์ดังกล่าวอยู่ในสภาพที่สามารถทํางานได้ตลอดเวลา

ข้อ ๕๐ นายจ้างต้องไม่ดัดแปลงหรือกระทําการใดกับเครื่องจักรสําหรับใช้ในการยกคน ขึ้นทํางานบนที่สูง

ที่มีผลทําให้ความปลอดภัยในการทํางานลดลง

ข้อ ๕๑ นายจ้างต้องควบคุมดูแลบริเวณที่มีการเติมประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่เครื่องจักรสําหรับ ใช้ในการยก

คนขึ้นทํางานบนที่สูงที่ใช้ไฟฟ้าให้อยู่ห่างจากบริเวณที่ลูกจ้างทํางานได้อย่างปลอดภัย และจัดให้มี

มาตรการเกี่ยวกับการระบายอากาศเพื่อป้องกันการสะสมของไอกรด และไอระเหย ของไฮโดรเจน

จากการประจุไฟฟ้า

ข้อ ๕๒ ในการทํางานบนเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนย้าย เครื่องจักรนั้นไปตามแนวระนาบ นายจ้างต้องจัดให้
พื้นที่ที่เป็นเส้นทางการเคลื่อนย้ายมีความแข็งแรง ราบเรียบ ไม่ต่างระดับ และปรับระดับของ

เครื่องจักรดังกล่าวให้อยู่ในตําแหน่งที่ผู้ผลิตกําหนดหรือ ในตําแหน่งที่ปลอดภัย

ข้อ ๕๓ นายจ้างต้องจัดให้มีการอบรมลูกจ้างเกี่ยวกับการปฏิบัติตามรายละเอียดคุณลักษณะ และคู่มือการ

ใช้งานเครื่องจักรสําหรับใช้ในการยกคนขึ้นทํางานบนที่สูงเพื่อความปลอดภัยในการทํางาน

ข้อ ๕๔ ในการใช้งานเครื่องจักรสําหรับใช้ในการยกคนขึ้นทํางานบนที่สูงแบบแขวน นายจ้าง ต้องปฏิบัติ

ดังต่อไปนี้

(๑) จัดให้มีการทดสอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องภายหลังการติดตั้ง และต้องมีสําเนา เอกสาร

การทดสอบไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้

(๒) ต้องใช้ลวดสลิงที่มีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๑๐

“รอก” หมายความว่า อุปกรณ์ผ่อนแรงมีลักษณะ 12

คล้ายล้อเพื่ ออำนวยความสะดวกในการเคลื่ อนย้าย ส่วนที่ ๗
สิ่งของ โดยร้อยไว้กับเชือก โซ่ หรือลวดสลิง รอก

ข้อ ๕๕ ในการใช้รอกโยก รอกมือสาว รอกหางปลา รอกไฟฟ้าหรือรอกที่ใช้พลังงานอื่น หรือรอกชนิด

อื่นที่มีการใช้งานลักษณะเดียวกัน นายจ้างต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(๑) ติดตั้งรอกไว้ในที่มั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย
(๒) จัดให้มีการตรวจสอบความพร้อมของรอกทุกวัน หากส่วนใดชํารุดเสียหายต้องซ่อมแซม

ให้เรียบร้อยก่อนใช้งาน และต้องมีสําเนาเอกสารดังกล่าวไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัย

ตรวจสอบได้

(๓) จัดให้มีมาตรการป้องกันอันตรายและติดป้ายห้ามใช้รอกให้ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องเห็นได้ชัดเจน

ในระหว่างที่มีการทดสอบ การซ่อมบํารุง และการตรวจสอบรอก

(๔) จัดให้มีป้ายบอกขนาดพิกัดน้ําหนักยกอย่างปลอดภัยตามที่กําหนดไว้ในรายละเอียด

คุณลักษณะและคู่มือการใช้งาน พร้อมทั้งติดตั้งป้ายเตือนให้ระวัง

(๕) อุปกรณ์สําหรับการผูกมัดหรือยึดโยงวัสดุสิ่งของต้องมีค่าความปลอดภัย
(๖) ควบคุมดูแลไม่ให้บุคคลใดเกาะเกี่ยวไปกับส่วนหนึ่งส่วนใดของรอกหรือไปกับวัสดุสิ่งของ ที่ทํา

การยก หรืออยู่ภายใต้วัสดุสิ่งของที่ทําการยกหรือบริเวณที่ใช้รอกที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

(๗) รอกที่มีขนาดพิกัดน้ําหนักยกตั้งแต่ ๑ ตันขึ้นไป นายจ้างต้องจัดให้มีการทดสอบ ส่วนประกอบ

และอุปกรณ์ของรอกเพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง และต้องมีสําเนา
เอกสารการทดสอบไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้

13

“ปั้ นจั่น” หมายความว่า เครื่องจักรที่ใช้ยกสิ่งของขึ้นลงตามแนวดิ่ง และเคลื่อนย้ายสิ่งของเหล่านั้นใน
ลักษณะแขวนลอยไปตามแนวราบ

“ปั้ นจั่นชนิดอยู่กับที่” หมายความว่า ปั้ นจั่นที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ควบคุม และเครื่องต้นกําลังอยู่ในตัว
ซึ่งติดตั้งอยู่บนหอสูง ขาตั้ง หรือบนล้อเลื่อน

“ปั้ นจั่นชนิดเคลื่อนที่” หมายความว่า ปั้ นจั่นที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ควบคุม และเครื่องต้นกําลังอยู่ในตัว
ซึ่งติดตั้งอยู่บน ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนได้

หมวด ๒
ปั้ นจั่น
ส่วนที่ ๑
บททั่วไป

ข้อ ๕๖ ในการประกอบ การติดตั้ง การทดสอบ การใช้ การซ่อมแซม การบํารุงรักษา การตรวจสอบ การรื้อ
ถอนปั้ นจั่นหรืออุปกรณ์อื่นของปั้ นจั่น นายจ้างต้องปฏิบัติตามรายละเอียดคุณลักษณะและคู่มือ
การใช้งานที่ผู้ผลิตกําหนดไว้ และต้องมีสำเนาเอกสารดังกล่าวไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัย
ตรวจสอบได้
รายละเอียดคุณลักษณะและคู่มือการใช้งานตามวรรคหนึ่งต้องเป็นภาษาไทย หรือภาษาอื่น ที่
ลูกจ้างสามารถศึกษาและปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในการทํางานได้

ข้อ ๕๗ นายจ้างต้องจัดให้มีการทดสอบการติดตั้งปั้ นจั่นเมื่อติดตั้งเสร็จตามรายละเอียดคุณลักษณะและ
คู่มือการใช้งาน และต้องมีสําเนาเอกสารการทดสอบไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบ

ข้อ ๕๘ นายจ้างต้องจัดให้มีการทดสอบส่วนประกอบและอุปกรณ์ของปั้ นจั่นอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ตาม
ประเภทและลักษณะของงาน ตามที่กําหนดไว้ในรายละเอียดคุณลักษณะและคู่มือการใช้งานและ
ต้องมีสําเนาเอกสารการทดสอบไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้

ข้อ ๕๙ ในการทํางานเกี่ยวกับปั้ นจั่น นายจ้างต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) ควบคุมให้มีลวดสลิงเหลืออยู่ในม้วนลวดสลิงไม่น้อยกว่าสองรอบตลอดเวลาที่ปั้ นจั่นทํางาน
(๒) จัดให้มีชุดล็อกป้องกันลวดสลิงหลุดจากตะขอของปั้ นจั่นและทําการตรวจสอบให้อยู่ในสภาพที่ใช้
งานได้อย่างปลอดภัย
(๓) จัดให้มีที่ครอบปิดหรือกันส่วนที่หมุนรอบตัวเอง ส่วนที่เคลื่อนไหวได้ หรือส่วนที่อาจเป็นอันตราย
ของปั้ นจั่น และให้ส่วนที่เคลื่อนที่ของปั้ นจั่นหรือส่วนที่หมุนได้ของปั้ นจั่นอยู่ห่างจากสิ่งก่อสร้าง
หรือวัตถุอื่ นในระยะที่ปลอดภัย
(๔) จัดให้ลูกจ้างสวมใส่เข็มขัดนิรภัยและสายช่วยชีวิตตลอดเวลาที่ทํางานบนแขนปั้ นจั่นหรือชุดสะพาน
(๕) จัดให้มีพื้นชนิดกันลื่น ราวกันตก และแผงกันตกระดับพื้น สําหรับปั้ นจั่นชนิดที่ต้องมีการจัดทําพื้น
และทางเดิน
(๖) จัดให้มีเครื่องดับเพลิงที่เหมาะสมและพร้อมใช้งานไว้ที่ห้องบังคับปั้ นจั่นหรือตําแหน่งที่สามารถใช้
งานได้สะดวก
(๗) ติดตั้งปั้ นจั่นบนฐานที่มั่นคงโดยวิศวกรเป็นผู้รับรอง
(๘) จัดให้มีการติดตั้งชุดควบคุมการทํางานเมื่อยกวัสดุขึ้นถึงตําแหน่งสูงสุดที่ใช้งานได้ตามปกติ
(๙) จัดให้มีชุดควบคุมพิกัดน้ำหนักยก ที่ใช้งานได้ตามปกติ

ข้อ ๖๐ ในการทํางานเกี่ยวกับปั้ นจั่นที่ใช้เครื่องยนต์ นายจ้างต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) จัดให้มีที่ครอบปิดหรือฉนวนหุ้มท่อไอเสีย
(๒) จัดให้มีถังเก็บเชื้อเพลิงและท่อส่งเชื้อเพลิงติดตั้งอยู่ในลักษณะที่จะไม่เกิดอันตราย เมื่อเชื้อเพลิง
หก ล้น หรือรั่ว ออกมา
(๓) จัดให้มีมาตรการในการเก็บและเคลื่อนย้ายเชื้อเพลิงสํารองด้วยความปลอดภัย

ข้อ ๖๑ นายจ้างต้องเคลื่อนย้ายวัตถุไวไฟออกจากบริเวณที่ใช้ปั้ นจั่น เว้นแต่กรณีที่ไม่สามารถเคลื่อนย้าย
ได้ นายจ้างต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันอันตรายที่เหมาะสมก่อนให้ลูกจ้างปฏิบัติงาน

14

ข้อ ๖๒ นายจ้างต้องไม่ให้ลูกจ้างใช้ปั้ นจั่นที่ชํารุดเสียหายหรืออยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย
ข้อ ๖๓ นายจ้างต้องไม่ดัดแปลงหรือแก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใดของปั้ นจั่นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างที่มีผลต่อ

การรับน้ำหนัก หรือยินยอมให้ลูกจ้างหรือผู้อื่นกระทําการเช่นว่านั้น เว้นแต่นายจ้างได้จัดให้มีการคำนวณ
ทางวิศวกรรม พร้อมกับจัดให้มีการทดสอบ และต้องมีสําเนาเอกสารการทดสอบ ไว้ให้พนักงานตรวจ
ความปลอดภัยตรวจสอบได้
ข้อ ๖๔ นายจ้างต้องจัดให้มีสัญญาณเสียงและแสงไฟเตือนภัยตลอดเวลาที่ปั้ นจั่นทํางาน โดยติดตั้งไว้ให้เห็นและ
ได้ยินชัดเจน
ข้อ ๖๕ นายจ้างต้องจัดให้มีป้ายบอกพิกัดน้ำหนักยกไว้ที่ปั้ นจั่นและรอกของตะขอ พร้อมทั้งติดตั้งป้ายเตือนให้
ระวังอันตรายที่ลูกจ้างเห็นได้ชัดเจน สําหรับปั้ นจั่นชนิดเคลื่อนที่และปั้ นจั่นชนิดอยู่กับที่ที่มีพิกัดยกหลาย
พิกัด นายจ้างต้องจัดให้มีตารางการยกสิ่งของตามที่ผู้ผลิตกําหนด โดยติดประกาศไว้ให้เห็นได้ชัดเจน
ข้อ ๖๖ นายจ้างต้องจัดทําเส้นแสดงเขตอันตราย เครื่องหมายแสดงเขตอันตราย หรือเครื่อง กันเขตอันตรายใน
เส้นทางที่มีการใช้ปั้ นจั่นเคลื่อนย้ายสิ่งของ
ข้อ ๖๗ นายจ้างต้องจัดให้มีคู่มือการใช้สัญญาณสื่อสารระหว่างผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับปั้ นจั่น
ในกรณีที่การใช้สัญญาณตามวรรคหนึ่งเป็นการใช้สัญญาณมือ นายจ้างต้องจัดให้มีรูปภาพ หรือคู่มือการ
ใช้สัญญาณมือตามมาตรฐาน ASME หรือมาตรฐานอื่นที่เทียบเท่าตามแบบที่อธิบดีประกาศ กําหนด
ติดไว้ที่จุดหรือตําแหน่งที่ลูกจ้างผู้ปฏิบัติงานเห็นได้ชัดเจน
ข้อ ๖๘ ในกรณีที่มีการติดตั้งหรือใช้ปั้ นจั่นใกล้สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้า นายจ้างต้องควบคุม
ดูแลให้ลูกจ้างปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีที่ใช้ปั้ นจั่นยกวัสดุ ให้มีระยะห่างระหว่างสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้า กับส่วนหนึ่ง
ส่วนใดของปั้ นจั่นหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของวัสดุที่ปั้ นจั่นกําลังยก ดังต่อไปนี้
(ก) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน ๖๙ กิโลโวลต์ ต้องห่างไม่น้อยกว่า ๓.๑ เมตร
(ข) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน ๖๙ กิโลโวลต์แต่ไม่เกิน ๑๑๕ กิโลโวลต์ ต้องห่างไม่

น้อยกว่า ๓.๓ เมตร
(ค) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน ๑๑๕ กิโลโวลต์แต่ไม่เกิน ๒๓๐ กิโลโวลต์ ต้องห่างไม่

น้อยกว่า ๔ เมตร
(ง) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน ๒๓๐ กิโลโวลต์แต่ไม่เกิน ๕๐๐ กิโลโวลต์ ต้องห่างไม่

น้อยกว่า ๖ เมตร
(๒) ในกรณีที่เคลื่อนย้ายปั้ นจั่นชนิดเคลื่อนที่โดยไม่ยกวัสดุและไม่ลดแขนปั้ นจั่นลงให้มีระยะห่าง ระหว่างสาย

ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้า กับส่วนหนึ่งส่วนใดของปั้ นจั่น ดังต่อไปนี้
(ก) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน ๖๙ กิโลโวลต์ ต้องห่างไม่น้อยกว่า ๑.๓ เมตร
(ข) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน ๖๙ กิโลโวลต์แต่ไม่เกิน ๒๓๐ กิโลโวลต์ ต้องห่างไม่

น้อยกว่า ๓ เมตร
(ค) สายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน ๒๓๐ กิโลโวลต์แต่ไม่เกิน ๕๐๐ กิโลโวลต์ ต้องห่างไม่

น้อยกว่า ๕ เมตร
ข้อ ๖๙ ในกรณีที่มีการติดตั้งหรือใช้ปั้ นจั่นใกล้เสาส่งคลื่นโทรคมนาคมที่อาจมีกระแสไฟฟ้า เหนี่ยวนํา นายจ้าง

ต้องต่อสายตัวนํากับปั้ นจั่นหรือวัสดุที่จะยกเพื่อให้ประจุไฟฟ้าไหลลงดิน ทั้งนี้ การต่อลงดินให้เป็นไปตาม
มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสําหรับประเทศไทย ที่กําหนดโดยสมาคมวิศวกรรม สถานแห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์
ข้อ ๗๐ นายจ้างต้องปิดประกาศวิธีการทํางานเกี่ยวกับปั้ นจั่นไว้บริเวณที่ลูกจ้างทํางาน เป็นภาษาไทยหรือภาษาอื่น
ที่ลูกจ้างเข้าใจได้ โดยอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งาน การบํารุงรักษา และการใช้อุปกรณ์
คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล
ข้อ ๗๒ นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้บังคับปั้ นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้ นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้

ควบคุมการใช้ปั้ นจั่นผ่านการอบรมเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการทํางานที่ปลอดภัย ในการทํางานของปั้ นจั่น
การป้องกันอันตรายจากปั้ นจั่น รายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างอุปกรณ์ การตรวจสอบและบํารุงรักษา
อุปกรณ์ของปั้ นจั่น รวมทั้งการฝึกอบรมทบทวนการทํางานเกี่ยวกับปั้ นจั่น แต่ละประเภท โดยวิทยากรซึ่ง
มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์การทํางานเกี่ยวกับปั้ นจั่นแต่ละประเภท

15

ส่วนที่ ๒
ปั้ นจั่นเหนือศีรษะและปั้ นจั่นขาสูง

ข้อ ๗๓ ปั้ นจั่นเหนือศีรษะหรือปั้ นจั่นขาสูงที่เคลื่อนที่บนราง นายจ้างต้อง
จัดให้มีสวิตซ์ หยุดการทํางานของปั้ นจั่นได้โดยอัตโนมัติ และให้มี
กันชนหรือกันกระแทกที่ปลายทั้งสองข้างของราง

ข้อ ๗๔ นายจ้างต้องควบคุมดูแลไม่ให้มีสิ่งกีดขวางการเลื่อนของล้อปั้ นจั่น
ข้อ ๗๕ ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างขึ้นไปทํางานบนปั้ นจั่นหรืออุปกรณ์อื่น

ของปั้ นจั่นที่มีความสูงเกิน ๒ เมตร นายจ้างต้องจัดให้มีบันได
พร้อมราวจับและโครงโลหะกันตกหรือจัดให้มีอุ ปกรณ์อื่ นใดที่มี
ความเหมาะสมและปลอดภัยต่อลูกจ้างตามกฎกระทรวงว่าด้วย
การกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินการด้าน
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน
ในสถานที่ ที่มีอันตรายจากการตกจากที่สูงและที่ลาดชันจากวัสดุ
กระเด็น ตกหล่น และพังทลาย และจากการ ตกลงไปในภาชนะเก็บ
หรือรองรับวัสดุ

ส่วนที่ ๓
ปั้ นจั่นหอสูง

ข้อ ๗๖ ในกรณีที่ลูกจ้างปฏิบัติงานบนแขนปั้ นจั่น นายจ้างต้องจัดให้มีมาตรการป้องกัน การพลัดตกของ
ลูกจ้าง และให้ลูกจ้างสวมใส่เข็มขัดนิรภัยและสายช่วยชีวิตตลอดเวลาที่ลูกจ้างทํางาน

ข้อ ๗๘ ปั้ นจั่นที่มีแขนเคลื่อนที่ขึ้นลงได้ นายจ้างต้องจัดให้มีสวิตช์ควบคุมมุมองศาการทํางาน ของแขน
ปั้ นจั่น ให้เป็นไปตามที่กําหนดไว้ในรายละเอียดคุณลักษณะและคู่มือการใช้งานตามข้อ ๕๖

ข้อ ๗๙ นายจ้างต้องจัดให้มีตารางการยกสิ่งของตามที่ผู้ผลิตกําหนดไว้ในรายละเอียดคุณลักษณะ และ
คู่มือการใช้งาน แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับน้ําหนักสิ่งของ มุมองศา และระยะ ของแขนที่ทํา
การยก ติดไว้ในบริเวณที่ผู้บังคับปั้ นจั่นเห็นได้ชัดเจน

ข้อ ๘๐ ในการประกอบ การติดตั้ง การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง การเพิ่มความสูง หรือ การรื้อถอนปั้ นจั่น
หอสูง นายจ้างต้องจัดให้มีวิศวกรควบคุมตลอดระยะเวลาดําเนินการจนแล้วเสร็จ

ข้อ ๘๑ นายจ้างต้องควบคุมดูแลไม่ให้ลูกจ้างหรือบุคคลใดเกาะเกี่ยวไปกับส่วนหนึ่งส่วนใดของปั้ นจั่น หรือ
ไปกับวัสดุที่ทําการยก หรืออยู่ภายใต้วัสดุที่ทําการยกหรือบริเวณที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

16

ส่วนที่ ๔
รถปั้ นจั่นและเรือปั้ นจั่น

ข้อ ๘๒ ในการติดตั้งปั้ นจั่นบนรถ เรือ แพ โป๊ะ หรือยานพาหนะลอยน้ําอย่างอื่นนายจ้าง ต้องปฏิบัติ
ดังต่อไปนี้

(๑) ยึดปั้ นจั่นไว้กับรถ เรือ แพ โป๊ะ หรือยานพาหนะลอยน้ําอย่างอื่นให้มั่นคง โดยมีวิศวกร ควบคุม

การดําเนินการจนแล้วเสร็จ และต้องมีสําเนาเอกสารดังกล่าวไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัย

ตรวจสอบได้

(๒) จัดให้มีป้ายบอกพิกัดน้ําหนักยกอย่างปลอดภัยตามที่กําหนดไว้ในรายละเอียดคุณลักษณะ และ

คู่มือการใช้งาน พร้อมทั้งติดตั้งป้ายเตือนให้ระวัง โดยน้ําหนักของปั้ นจั่นรวมกับ พิกัดน้ําหนักยก
ต้องไม่เกินระวางบรรทุกเต็มที่ของรถ เรือ แพ โป๊ะ หรือยานพาหนะลอยน้ําอย่างอื่น

ข้อ ๘๓ นายจ้างต้องจัดให้มีตารางการยกสิ่งของตามที่กําหนดไว้ในรายละเอียดคุณลักษณะ และคู่มือ
การใช้งาน แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับน้ําหนักสิ่งของ มุมองศา และระยะ ของแขนที่ทําการยก
ติดไว้ในบริเวณที่ผู้บังคับปั้ นจั่นเห็นได้ชัดเจน

ข้อ ๘๔ การทํางานเกี่ยวกับรถปั้ นจั่นที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ นายจ้าง ต้องจัดให้มี
การจัดทําแผนการยก และควบคุมให้มีการปฏิบัติตามแผนการยกนั้น เพื่อให้ลูกจ้างปฏิบัติงาน
ได้อย่างปลอดภัย

(๑) การใช้ปั้ นจั่นตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไปในการยกวัสดุสิ่งของ
(๒) การยกวัสดุสิ่งของที่มีน้ําหนักมากกว่าร้อยละ ๗๕ ของพิกัดยกอย่างปลอดภัยตามตาราง การยก

สิ่งของตามที่กําหนดไว้ในรายละเอียดคุณลักษณะและคู่มือการใช้งาน

(๓) การทํางานของปั้ นจั่นใกล้สายไฟฟ้าที่มีระยะน้อยกว่าระยะที่กําหนดในข้อ ๖๘
(๔) การยกวัสดุสิ่งของที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของจุดศูนย์ถ่วงของวัสดุสิ่งของที่ทําการยก
(๕) การยกวัสดุสิ่งของที่อาจเกิดการระเบิดหรืออุบัติภัยร้ายแรง
(๖) การยกวัสดุสิ่งของที่มีน้ําหนักตั้งแต่ ๒๕ ตันขึ้นไป

ข้อ ๘๕ แผนการยกต้องจัดทําโดยผู้ควบคุมการใช้รถปั้ นจั่นซึ่งผ่านการอบรม โดยต้องทําเป็นหนังสือและ
อย่างน้อยต้องมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

(๑) ผู้ทําหน้าที่เกี่ยวกับปั้ นจั่น
(๒) ตารางการยกวัสดุสิ่งของ
(๓) รายละเอียดของปั้ นจั่น ได้แก่ รัศมีการยกและความยาวของแขนปั้ นจั่นที่ใช้ยกขณะทําการ ยกวัสดุ

สิ่งของ

(๔) รายละเอียดของอุปกรณ์ประกอบการยกและลักษณะการยึดเกาะวัสดุสิ่งของ
(๕) ข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุสิ่งของที่ทําการยก เช่น ขนาด น้ําหนัก ตําแหน่งจุดศูนย์ถ่วง โดยระบุ อัตราส่วน

ของน้ําหนักที่ยกต่อความสามารถในการยก

(๖) ความสามารถในการรับน้ําหนักของพื้นที่รองรับปั้ นจั่น
(๗) ขนาดพื้นที่ของแผ่นรองขารับน้ําหนักของปั้ นจั่น
(๘) ขั้นตอนการยกที่กําหนดมาตรการ

ความปลอดภัยและวิธีการป้องกันอันตรายนายจ้าง

ต้องปิดประกาศแผนการยกไว้ในบริเวณที่ทํางาน

ให้เห็นได้ชัดเจน และต้องมีสําเนา เอกสารดังกล่าว

ไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้

17

ส่วนที่ ๕
อุปกรณ์ที่ใช้เกี่ยวกับปั้ นจั่น

ข้อ ๘๖ นายจ้างต้องไม่ใช้ลวดสลิงที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

(๑) ลวดสลิงที่ลวดเส้นนอกสึกไปตั้งแต่หนึ่งในสามของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นลวด
(๒) ลวดสลิงที่ขมวด ถูกบดกระแทก แตกเกลียว หรือชํารุดที่ทําให้ประสิทธิภาพในการใช้งานของลวด

สลิงลดลง

(๓) ลวดสลิงมีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กลงเกินร้อยละ ๕ ของเส้นผ่านศูนย์กลางที่ระบุ
(๔) ลวดสลิงถูกความร้อนทําลายหรือเป็นสนิมมากจนเห็นได้ชัดเจน (๕) ลวดสลิงถูกกัดกร่อนชํารุด

มากจนเห็นได้ชัดเจน

(๖) ลวดสลิงเคลื่อนที่ที่มีเส้นลวดในหนึ่งช่วงเกลียวขาดตั้งแต่สามเส้นขึ้นไปในเส้นเกลียวเดียวกัน

หรือขาดรวมกันตั้งแต่หกเส้นขึ้นไปในหลายเส้นเกลียว

(๗) ลวดสลิงยึดโยงที่มีเส้นลวดขาดตรงข้อต่อตั้งแต่สองเส้นขึ้นไปในหนึ่งช่วงเกลียว

ข้อ ๘๗ นายจ้างต้องใช้ลวดสลิงที่มีค่าความปลอดภัยตามที่กําหนดไว้ ดังต่อไปนี้

(๑) ลวดสลิงเคลื่อนที่ต้องมีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๕
(๒) ลวดสลิงยึดโยงต้องมีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๓.๕

ข้อ ๘๘ นายจ้างต้องใช้ปั้ นจั่นที่มีรอกที่มีอัตราส่วนระหว่างเส้นผ่านศูนย์กลางของรอกหรือล้อใด ๆ กับเส้น
ผ่านศูนย์กลางของลวดสลิงที่พันตามที่กําหนดไว้ ดังต่อไปนี้

(๑) สิบแปดต่อหนึ่ง สําหรับรอกปลายแขนปั้ นจั่น
(๒) สิบหกต่อหนึ่ง สําหรับรอกของตะขอ
(๓) สิบห้าต่อหนึ่ง สําหรับรอกหลังแขนปั้ นจั่น

ไม่ใช้บังคับแก่อัตราส่วนระหว่างเส้นผ่านศูนย์กลางของรอกหรือล้อใด ๆ กับเส้นผ่านศูนย์กลาง
ของลวดสลิงที่พันตามที่ผู้ผลิตกําหนด
ข้อ ๘๙ นายจ้างต้องใช้อุปกรณ์สําหรับการผูก มัด หรือยึดโยงวัสดุที่มีค่าความปลอดภัย ตามที่กําหนดไว้
ดังต่อไปนี้

(๑) ลวดสลิง ต้องมีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๕
(๒) โซ่ ต้องมีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๔
(๓) เชือก ต้องมีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๕
(๔) ห่วงหรือตะขอ ต้องมีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๓.๕
(๕) อุปกรณ์สําหรับผูก มัด หรือยึดโยงอื่นนอกเหนือจากที่กําหนดไว้ใน (๑) ถึง (๔) ต้องมี ค่าความ
ปลอดภัยไม่น้อยกว่า ๓.๕

ข้อ ๙๐ นายจ้างต้องจัดหาวัสดุที่มีความทนทานและอ่อนตัวมารองรับบริเวณจุดที่มีการสัมผัส ระหว่าง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการผูก มัด หรือยึดโยงกับวัสดุที่ทําการยกเคลื่อนย้าย
ข้อ ๙๑ ในการยกเคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของ นายจ้างต้องให้ลูกจ้างผูก มัด หรือยึดโยง วัสดุสิ่งของ โดยมีมุม
องศาระหว่างอุปกรณ์สําหรับการผูก มัด หรือยึดโยงกับวัสดุที่จะทําการยก ไม่น้อยกว่า ๔๕ องศา
กรณีที่มีความจําเป็นต้องทําการผูก มัด หรือยึดโยงด้วยมุมองศาที่น้อยกว่าที่กําหนดไว้ในวรรคหนึ่ง
นายจ้างต้องกําหนดให้มีการคํานวณแรงรับน้ําหนักของอุปกรณ์สําหรับการผูก มัด หรือยึดโยงเพื่อให้เกิด
ความปลอดภัยโดยผู้ควบคุมการใช้ปั้ นจั่น และต้องมีสําเนาเอกสารดังกล่าวไว้ให้พนักงานตรวจความ
ปลอดภัย ตรวจสอบได้

18

ข้อ ๙๒ นายจ้างต้องไม่ใช้ตะขอที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

(๑) มีการบิดตัวของตะขอ
(๒) มีการถ่างออกของปากตะขอเกินร้อยละ ๕
(๓) มีการสึกหรอที่ท้องตะขอเกินร้อยละ ๑๐
(๔) มีการแตกหรือร้าวส่วนหนึ่งส่วนใดของตะขอ
(๕) มีการเสียรูปทรงหรือสึกหรอของห่วงตะขอ

หมวด ๔
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล

ข้อ ๑๑๙ นายจ้างต้องจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกิจการให้อยู่ในลักษณะที่ไม่เป็น
อันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง หากนายจ้างไม่สามารถดำเนินการป้องกันหรือ
แก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายได้ นายจ้างต้องจัดหาอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่
สามารถป้องกันอันตรายนั้นให้ลูกจ้างสวมใส่

ข้อ ๑๒๐ นายจ้างต้องจัดให้มีอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ได้มาตรฐานตามประเภทและ
ชนิดของงาน

(๗) งานยก ขนย้าย หรือติดตั้ง ให้สวมหมวกนิรภัย ถุงมือผ้า และรองเท้านิรภัย
(๙) งานปั้ นจั่น ให้สวมหมวกนิรภัย ถุงมือผ้า หรือถุงมือหนัง และรองเท้านิรภัย สำหรับกรณีปั้ นจั่น

หอสูง ปั้ นจั่นขาสูงหรือปั้ นจั่นเหนือศีรษะที่ลูกจ้างต้องขึ้นไปทำงานเหนือพื้นดิน ให้สวมใส่เข็มขัด
นิรภัยและสายช่วยชีวิตด้วย

ข้ อ ป ฏิ บั ติ

Stop, think, then act.

ข้อปฏิบัติในการใช้ รถยก ( Forklift ) 20

1 ผู้ขับรถยกต้องเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมและมีใบอนุญาตขับขี่โดยเฉพาะ
2 ตรวจสอบสภาพของรถก่อนเริ่มงานทุกครั้ง
3 คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่รถทุกครั้ง
4 ปฏิบัติตามกฎจราจรในการขับขี่และใช้ความเร็วตามที่โรงงานกำหนด
5 ห้ามออกรถเร็ว เลี้ยวฉับพลัน และหยุดรถกระทันหัน
6 ก่อนการเลี้ยว ถึงทางแยก ถอยหลัง และเมื่ออยู่ในมุมอับ

ต้องให้สัญญาณแตรทุกครั้ง

7 ต้องไม่ขับเคลื่อนรถ ในขณะที่มีผู้อื่นโดยสารบนรถเด็ดขาด
นอกเหนือจากผู้ขับขี่

8 เว้นระยะห่างจากยานพาหนะอื่นประมาณ 3 ช่วงคันรถ
9 การเคลื่อนรถออกทุกครั้งต้องยกงาสูงกว่าพื้นประมาณ

6 – 8 นิ้ว

1 0 ห้ามยกของสูงบังระดับสายตาของผู้ขับ

ข้อปฏิบัติในการใช้ 21

เครื่องจักรสำหรับใช้ในการยกคนขึ้นทำงานบนที่สูง

1 ไม่ดัดแปลงเครื่องจักรสำหรับใช้ในการยกคนขึ้นทำงานบนที่สูง

2 ขณะใช้ต้องแต่งตัวให้รัดกุม ไม่สวมใส่เครื่องประดับที่อาจ
เกี่ยวโยงกับอุปกรณ์

3 ไม่บรรทุกจำนวนคนและน้ำหนักเกิดพิกัดที่สามารถยกได้
อย่างปลอดภัย

4 ผู้ที่ใช้งานเครื่องจักรสำหรับยกคนขึ้นทำงานบนที่สูงต้องได้รับ
การอบรม คู่มือการใช้งานเพื่อความปลอดภัย

5 ไม่เล่นหรือหยอกล้อกันขณะโดยสารอยู่บนเครื่องจักรสำหรับใช้ในการ
ยกคนขึ้นทำงานบนที่สูง

6 ขณะเครื่องจักรทำงานต้องปิดกั้นควบคุมพื้นที่ปฏิบัติงาน

7 ห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานเข้าในพื้นที่การทำงานขณะ
เครื่องจักรกำลังทำงาน

8 ห้ามให้เครื่องจักรยกคนขึ้นทำงานในขณะที่อยู่บนพื้นที่ลาดเอียง
และไม่มีสิ่งกีดขวาง
9 ห้ามเครื่องจักรยกคนขึ้นทำงานในขณะที่มีลมกรรโชกแรง

:ข้อปฏิบัติในการใช้ ลิฟต์โดยสาร 22

1 ต้องดูให้แน่ใจว่ามีลิฟต์จอดอยู่ก่อนก้าวเข้าไปในลิฟต์โดยสาร
2 ห้ามใช้ลิฟต์ในขณะเกิดไฟไหม้
3 ห้ามสูบบุหรี่ภายในลิฟต์
4 ไม่ให้เด็กใช้ลิฟต์โดยสารตามลำพัง
5 เมื่อเข้าลิฟต์โดยสารแล้วให้เดินเข้าไปด้านใน ยืนกระจายน้ำหนัก

ให้ทั่วห้องโดยสาร

6 ไม่ใช้ของแข็ง หรือของมีคมกดปุ่มลิฟต์
7 ไม่ใช้ลิฟต์ขณะเกิดแผ่นดินไหว

:ข้อปฏิบัติในการใช้ ลิฟต์ขนส่ง

1 เมื่อลิฟต์ชำรุดเสียหาย ห้ามซ่อมแซมเองเด็ดขาด
2 ให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมการใช้ลิฟต์มาแล้วบังคับลิฟต์เสมอ
3 ห้ามใช้ลิฟต์ในขณะที่ลิฟต์ไม่พร้อมใช้งานหรือชำรุด
4 ไม่บรรทุกของเกินกว่าพิกัดน้ำหนักที่ลิฟต์สามารถรับได้
5 ห้ามใช้ลิฟต์ขณะมีฝนตกฟ้าคะนองโดยเด็ดขาด

6 ห้ามแก้ไข ดัดแปลงสภาพ ลิฟต์โดยเด็ดขาด
7 ห้ามคนโดยสารไปกับลิฟต์ขนส่ง

23

ข้อปฏิบัติ
ในการใช้รอก

ตรวจสอบฐานรอกว่ามีความมั่นคง 1 ตรวจสอบความพร้อมของรอกก่อน
แข็งแรงและปลอดภัยก่อนใช้งาน 2 ใช้งาน หากพบว่าชำรุดต้องซ่อมแซม
ให้เรียบร้อยก่อนใช้งาน
เลือกขนาดรอกให้เหมาะกับน้ำหนักของ 3
วัสดุที่ต้องการยก และห้ามยกวัสดุที่มี 4 เมื่อผูกรอกแล้ว ให้ทดลองยกวัสดุ
น้ำหนักเกินพิกัดกฎหมายกำหนด เพื่อตรวจเช็คสภาพเสมอ
5
ห้ามใช้งานรอกเมื่อมีการติดป้าย 6 ห้ามนำรอกมาใช้งานผิดประเภท
ห้ามใช้รอกในขณะการทดสอบ การ
ซ่อมบำรุง และการตรวจสอบรอก 7 ใช้อุปกรณ์สำหรับการผูกมัดหรือยึด
8 โยงวัสดุที่มีค่าความปลอดภัยตามที่
ไม่ใช้ลวดสลิงที่มีลักษณะไม่ กฎหมายกำหนด
เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด 9
มีการทดสอบความปลอดภัยของ
ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณ 10 รอกอย่างสม่ำเสมอ
ที่ใช้รอกยกวัสดุ และห้ามคนยืนอยู่ใต้ 11
วัสดุขณะกำลังยกด้วยรอก หลังใช้งานรอกเสร็จ ต้องจัดเก็บรอก
12 ให้เรียบร้อยอย่างถูกวิธี
เมื่อใช้งานรอกเสร็จ หากรอกมีการ
ชำรุดหลังการใช้งาน ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่
ที่เกี่ยวข้องทันทีเพื่อดำเนินการแก้ไข

24

ข้อปฏิบัติในการใช้ปั้ นจั่น

1. ติดตั้งปั่ นจั่นบนฐานที่มั่นคง และเมื่อติดตั้งเสร็จต้องมีการทดสอบความปลอดภัย
2. ตรวจสอบการทำงานของปั้ นจั่นว่ามีความปลอดภัย ก่อนเริ่มใช้งาน
3. มีการทดสอบส่วนประกอบและอุปกรณ์ของปั้ นจั่นอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
4. ห้ามใช้ปั้ นจั่นที่ชำรุดเสียหาย หรืออยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย
5. ภายในห้องควบคุมปั้ นจั่นต้องมีถังดับเพลิงที่เหมาะและพร้อมใช้งาน
6. ควบคุมให้มีลวดสลิงเหลืออยู่ในม้วนลวดสลิงไม่น้อยกว่าสองรอบตลอดเวลาที่ปั้ นจั่นทำงาน
7. ห้ามใช้ปั่ นจั่นยก หรือเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักเกินพิกัด
8. ห้ามยกสิ่งของค้างไว้บนที่สูงโดยไม่จำเป็น
9. เคลื่อนย้ายปั้ นจั่นอย่างช้าๆ เพื่อรักษาสมดุล ป้องกันการแกว่งไปมาของสิ่งของ
10. ขณะปั้ นจั่นเคลื่อนที่ต้องมีแสงวับวาบ และสัญญาณเสียงเตือนให้ผู้ปฏิบัติงานทราบ
11. ในการทำงานเกี่ยวกับปั้ นจั่นที่ใช้เครื่องยนต์ต้องมีที่ครอบปิดหรือฉนวนหุ้มท่อไอเสีย
12. ต้องเคลื่อนย้ายวัตถุไวไฟออกจากบริเวณที่ใช้ปั้ นจั่น
13. ห้ามดัดแปลงหรือแก้ไขส่วนใดส่วนหนึ่งของปั้ นจั่น เว้นแต่มีการคำนวณทางวิศวกรรมพร้อมกับมีการทดสอบ
14. ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณที่ใช้งานปั้ นจั่น และห้ามคนยืนอยู่ใต้วัสดุขณะกำลังยก
15. ต้องมีผู้ควบคุมการทำงานของปั้ นจั่นตลอดเวลา
16. ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับปั้ นจั่นต้องผ่านการอบรมตามที่กฎหมายกำหนด
17. ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม
18. มีการให้สัญญาณมือในการสื่อสารระหว่างผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับปั้ นจั่นเพื่อให้เกิดความปลอดภัย
19. การใช้ปั้ นจั่นใกล้กับสายไฟฟ้าแรงสูง ชิ้นส่วนต่างๆ ของปั้ นจั่นต้องห่างจากสายไฟตามที่กฎหมายกำหนด
20. หากพบว่าปั้ นจั่นมีการชำรุดหลังการใช้งาน ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันทีเพื่อดำเนินการแก้ไข
21. หลังเลิกใช้งานต้องตัดไฟที่เมนสวิตช์ทุกครั้ง

25

อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล

อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ
ใช้สำหรับป้องกันศีร
ษะที่อาจเกิดจากการ
กระเเทก หรือสิ่งของร่ว
งหล่นใส่ขณะปฏิบัติงาน

แว่นนิรภัย
ใช้สำหรับป้องกันดวง
ตา จากสารเคมี เศษโลหะ
และเศษฝุ่น ที่อาจโดนดวงตาจากการปฏิบัติงาน

อุปกรณ์ป้องกันหู
ใช้สำหรับป้องกันหูจาก
การทำงานในพื้นที่ที่มีเสียง

ดังมากกว่าปกติ เป็นระยะเวลานาน

หน้ากากป้องกันฝุ่นและสารเคมี
ใช้เพื่อป้องกันฝุ่นละอองหรือสารเคมี ในพื้นที่ที่มี

ฝุ่นละอองหรือสารเคมีมากกว่าปกติ

ถุงมือนิรภัย
ใช้เพื่อป้องกันมือจากความ
ร้อน ของมีคม สะเก็ดไฟจาก
งานตัดหรืองานเชื่อม และงานที่ต้องสัมผัสสารเคมี เป็นต้น

เข็มขัดนิรภัยหรือสายช่วยชีวิต
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับ
สวมใส่ในการทำงาน

บนที่สูง เพื่อป้องกันการตก

รองเท้านิรภัย
ใช้ป้องกันการกระ
แทก หรือสิ่งของ

ที่มีน้ำหนักมากตกใส่เท้า

26

แผนฉุกเฉิน

ภาวะฉุกเฉินหรือเหุตฉุกเฉิน (Emergency) หมายถึง สภาวะที่มีอันตรายหรือ
อันตรายแฝงสูงซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบต่อ ชีวิต ทรัพย์สิน สิ่งแวดล้อม ที่
ประกอบไปด้วยเหตุไฟไหม้, น้ำท่วม, สารเคมีหกรั่วใหล หรือเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นแล้ว
ไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในสภาวะปกติได้ในเวลาอันจำกัด ดังนั้นจึงมีแผนสำรองเพื่อ
ทำให้เหตุการณ์กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติให้เร็วที่สุด

กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้

1 ให้ดำเนินการระงับเหตุในทันทีด้วย 2 จป.วิชาชีพ / หัวหน้างาน เข้า
ถังดับเพลิงที่อยู่ใกล้ตามชนิดของ สำรวจความเสียหาย
เชื้อเพลิง

3 จป.วิชาชีพ รายงานผู้อำนวยการ 4 ถ้าดับไม่ได้ให้แจ้งเพื่อนร่วมงานและ
ดับเพลิง หัวหน้างาน แจ้งให้ผู้อำนวยการดับเพลิง
ตัดสินใจใช้แผนระงับอัคคีภัยและอพยพ
หนีไฟ

5 เมื่อผู้อำนวยการดับเพลิงรับทราบและแจ้งให้
ประชาสัมพันธ์ประกาศพร้อมกดสัญญาณแจ้งเหตุ
เพลิงไหม้เพื่อให้ทุกคนออกนอกบริเวณเกิดเหตุ

27

กรณีเกิดอุบัติเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

1 ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้ไปอยู่ใน 2 ตั้งกรวยจราจรทั้ง 3 ด้าน
ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

3 ฝ่ายปฐมพยาบาลเข้าทำการ 4 สำรวจความเสียหายเบื้องต้น
ปฐมพยาบาล หากไม่ดีขึ้นให้ และรีบแจ้งกลับมาที่ผู้บังคับ
เคลื่ อนย้ายผู้บาดเจ็บส่ง บัญชาทันที
โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

กรณีรถเสีย หรือ รถเกิดอุบัติเหตุ

1 2กรณีเกิดเหตุรถเสียหรืออุปกรณ์ของ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ทำการปิดกั้น
รถขนส่งมีปัญหา ทีมซ่อมบำรุงจะ บริเวณที่ปฏิบัติงาน โดยใช้กรวย
ต้องเตรียมเครื่องมือช่างและบุคลากร จราจร
ให้พร้อม และออกไปซ่อมบำรุงทันทีที่
ได้รับแจ้ง

กรณีลิฟต์โดยสารหยุดกระทันหัน 28

1.ติดต่อกับแผนกบำรุงรักษาทันที
2.ถ้าลิฟต์ค้างระหว่างชั้น แจ้งให้ผู้โดยสารที่อยู่ในลิฟต์ทราบผ่าน
ทางโทรศัพท์ภายใน ว่าการช่วยเหลือกำลังดำเนินการและให้รอ
อย่างสงบอยู่ภายในลิฟต์ พร้อมทั้งแจ้งเพิ่มเติมว่าการอยู่ภายใน
ลิฟต์จะปลอดภัยที่สุดห้ามมิให้ผู้โดยสารใช้กำลังเปิดประตูลิฟต์
เพื่อออกจากลิฟต์ ถึงแม้ผู้โดยสารจะติดภายในลิฟต์เป็นเวลานาน
ก็ตามจะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นแก่ผู้โดยสาร เนื่องจากตัวลิฟต์
มีการระบายอากาศที่ดี


กรณีลิฟต์โดยสารไฟฟ้าดับ

( กรณีไม่มีอุปกรณ์จ่ายไฟฉุกเฉิน )

1.ไฟแสงสว่างฉุกเฉินจะสว่างขึ้นทันทีในระหว่างไฟฟ้าดับ
2.แจ้งให้ผู้โดยสารทราบว่าไฟฟ้าดับโดยใช้โทรศัพท์ติดต่อภายใน
(สามารถใช้ได้เพราะใช้ไฟจากแบตเตอรี่สำรอง)
3.เมื่อกระแสไฟฟ้ามาตามปกติแล้วแจ้งให้ผู้โดยสารกดปุ่ม
หมายเลขจอดชั้นเพื่อให้ลิฟต์วิ่งได้ตามปกติ
4.ถ้าคาดว่าอีกนานกว่าไฟฟ้าจะมาเป็นปกติให้เรียกแผนกบำรุง
รักษา และการช่วยเหลือผู้โดยสารออกจากลิฟต์จะต้องดำเนินการ
โดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

กรณีลิฟต์โดยสารเกิดเหตุเพลิงไหม้

1.แจ้งให้ผู้โดยสารทราบถึงชั้นที่ปลอดภัย และแนะนำให้ออกจาก

ลิฟต์ที่ชั้นนั้น

2.ตรวจให้แน่ว่าไม่มีผู้โดยสารหลงเหลืออยู่ภายในลิฟต์แล้วจึงปิด

ประตูลิฟต์พร้อมตัดกระแสไฟฟ้าออก

3.ห้ามขนย้ายผู้อาศัยในอาคารโดยใช้ลิฟต์โดยเด็ดขาด

กรณีลิฟต์โดยสารแช่อยู่ในน้ำ

1.ถ้าลิฟต์แช่อยู่ในน้ำเพราะการดับเพลิงหรือพายุฝน ให้หยุด

การใช้ลิฟต์และตัดกระแสไฟฟ้าที่จ่ายเข้าลิฟต์ออก

2.หาวิธีป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าไปในส่วนที่เป็นอุปกรณ์ลิฟต์
3.ก่อนการใช้งานลิฟต์ต่อไป จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญของแผนก

บำรุงรักษาทำการตรวจสอบฉนวนก่อน

29

บรรณานุกรม

กฎกระทรวงว่าด้วยกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม

ในการทํางานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้ นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2564. (2564). สืบค้น 17 กันยายน 2564, จาก
https://www.labour.go.th/attachments/article/59597/T_0003.pdf

กองความปลอดภัยแรงงาน. (2560). หลักการติดตั้งปั้ นจั่นหอสูงอย่างปลอดภัย. สืบค้น 18 กันยายน 2564, จาก
http://osh3.labour.go.th/2018/2015-12-03-04-55-08/37-2017-05-30-03-18-56

บริษัท กัลฟ์. คู่มือปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน. สืบค้น 20 กันยายน
2564, จาก https://eia.onep.go.th/images/monitor/1596184100.pdf

บริษัท ทีโอที จําากัด (มหาชน). (2561). คู่มือความปลอดภัยในการทํางานของพนักงาน. สืบค้น 24 กันยายน 2564, จาก
http://my.tot-os.co.th/images/uploads/1367คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน.pdf

สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ- องค์การมหาชน. (2564). ปั้ นจั่น รู้ก่อนใช้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ. สืบค้น 1 ตุลาคม
2564, จาก https://youtu.be/61T_tLhARGU

กฎกระทรวงว่าด้วยกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม

ในการทํางานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้ นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2564. (2564). สืบค้น 27 กันยายน 2564, จาก
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/A/052/T_0003.PDF

วุฒินันทน์ ปัทมวิสุทธิ์. (2563). สามอันตรายหลักจากรถกระเช้าชนิดกรรไกร. สืบค้น 26 กันยายน 2564, จาก
https://www.ohswa.or.th/17668364/safety-engineer-for-jor-por-series-ep6

วุฒินันทน์ ปัทมวิสุทธิ์. (2564). อุบัติเหตุจากปั้ นจั่นในงานก่อสร้าง. สืบค้น 26 กันยายน 2564, จาก
https://www.ohswa.or.th/17737811/safety-engineer-for-jor-por-series-ep10

บริษัท เมคคานิก้า จำกัด. Safety First วิธีการใช้รอกและเครน. สืบค้น 27 กันยายน 2564, จาก
https://mechanika.co.th/2021/02/25/safety-first/

ลิฟต์ชั่วคราว. สืบค้น 2 ตุลาคม 2564, จาก
http://building.cmtc.ac.th/main/images/stories/warisa/pp/pp12.pdf

บริษัท ท๊อปโปรเฟสชั่นแนล แอนด์ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด. (2663). 5 สาเหตุอันตรายจากรถโฟล์คลิฟท์. สืบค้น 3 ตุลาคม
2564, จาก https://www.safetyinthai.com/17134093/5-สาเหตุอนั%20ตรายจากรถโฟล์คลิฟท์

ดร.วิทยา อินทร์สอน. (2552). การขนถ่ายวัสดุในโรงงานอุตสาหกรรม. สืบค้น 1 ตุลาคม 2564, จาก
http://www.thailandindustry.com/onlinemag/view2.php?id=933&section=37&issues=76

สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน). (2563). คู่มือความ
ปลอดภัยในการทำงาน. สืบค้น 2 ตุลาคม 2564, จาก https://www.tosh.or.th/e-book/safety-
manual/mobile/index.html#p=1

บมจ. เกียรติธนา ขนส่ง. (2563). แผนปฏิบัติการฉุกเฉิน. สืบค้น 2 ตุลาคม 2564, จาก
http://dcc.kiattana.co.th/wordpress/wp-content/uploads/2016/09/WI-SHE-09-แผนปฏิบัติการ
ฉุกเฉิน.pdf

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กองความปลอดภัยแรงงาน. อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล Personal
Protective Equipment (PPE). สืบค้น 4 ตุลาคม 2564, จาก http://osh.labour.go.th/index.php?
option=com_k2&view=item&id=2112:อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล-personal-protective-
equipment-ppe&Itemid=233

สมาชิก

นางสาว จริยา ไกรทอง รหัสนักศึกษา 6208063 เลขที่ 7
นางสาว ญาณิศา 6208181 เลขที่ 33
นาย ณัฐวัฒน์ ไพศาล รหัสนักศึกษา 6208183 เลขที่ 35
นางสาว ณิชาดา 6208184 เลขที่ 36
นางสาว ปนิดา เอ๊ฟวา รหัสนักศึกษา 6208201 เลขที่ 49
นางสาว วิลาวัณย์ 6208220 เลขที่ 64
นางสาว สุภาวดี นิยมสุข รหัสนักศึกษา 6208225 เลขที่ 68
นางสาว สุภาวรรณ 6208226 เลขที่ 69
นางสาว สุอาภา แก้วกุศลบารมี รหัสนักศึกษา 6208227 เลขที่ 70
นางสาว อภิญญา 6208228 เลขที่ 71
แสนโส รหัสนักศึกษา

ชนะพงษ์ รหัสนักศึกษา

อินทรสิงห์ รหัสนักศึกษา

อุ่นศิริ รหัสนักศึกษา

จันทร์เพ็ง รหัสนักศึกษา

Safety is everyone’s
responsibility.


Click to View FlipBook Version