นางวิสาขา
รายชื่อผู้จัดทำ
1.ด.ช.พลัฏฐ์ คฑาวุธเจริญกุล
2.ด.ช.ณัชนนท์ สมศรี
3.ด.ญ.กชกมล เศวตกมล
4.ด.ญ.ชวัลลักษณ์ จันทร์ขาว
5.ด.ญ.พชรการณ์ ยืนยง
6.ด.ญ.วิรัญชนา บุญยืด
ม.1/1
นางวิสาขา
ประวัติของนางวิสาขา
นางวิสาขาเป็นธิดาธนัญชัยเศรษฐี มีบิดาชื่อ ธนญชัย มารดาชื่อ สุมนาเทวี ณ
เมืองแคว้นภัคคะ เมื่ออายุ 7 ปี ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าจนบรรลุเป็นพระ
โสดาบันตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อนางเจริญวัยขึ้นมีลักษณะดัง "เบญจกัลยาณี"
ได้แต่งงานกับบุตรเศรษฐีผู้ไม่นับถือพระพุทธศาสนาแห่งเมืองสาวัตถี ย้ายมา
อยู่ตระกูลสามี นางก็ยังทำบุญในพระพุทธศาสนาเหมือนเดิม เพราะพระ
อริยบุคคลระดับนี้ ย่อมมีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัยเป็นอย่างยิ่ง
วันหนึ่งเกิดเรื่องทะเลาะกับบิดาสามีถึงขั้นฟ้องขับไล่นางออกจากตระกูลสามี
เมื่อพระภิกษุรูปหนึ่งมายืนอุ้มบาตรอยู่หน้าบ้าน ขณะเศรษฐีบิดาสามีรับประทาน
อาหารอยู่ นางกระซิบกับภิกษุรูปนั้นให้ไปโปรดข้างหน้า เพราะคุณพ่อนาง (บิดา
สามี) กำลัง “กินของเก่า” อยู่
คณะผู้พิจารณาความตัดสินว่านางไม่มีความผิด เพราะตามคำอธิบายของนาง
“กินของเก่า” หมายถึง กินบุญเก่า มิใช่คำหยาบหรือด่าว่าเสียดสีแต่ประการใด
บิดาสามีก็ยอมไม่เอาเรื่องต่อไป การณ์กลับเป็นว่า หลังจากนั้นไม่นาน บิดาสามี
กลับมีความเลื่อมใสในตัวลูกสะใภ้มากขึ้น จนถึงกับหันมานับถือพระพุทธศาสนา
ตามลูกสะใภ้
ตั้งแต่นั้นมานางวิสาขาได้สมญานามคล้ายๆ สร้อยนามเพิ่มขึ้นว่า วิสาขา มิคา
รมาตา (นางวิสาขาผู้เป็นบิดาแห่งมิคารเศรษฐี)
ลูกสะใภ้ได้กลายเป็น “แม่” ของพ่อสามี มิใช่ธรรมดานะครับ
ในระหว่างนั้นพระสงฆ์ได้รับอนุญาตให้มีผ้าเพียง 3 ผืน เรียกไตรจีวร คือผ้านุ่ง
เรียกอันตรวาสก หรือผ้าสบง ผ้าห่มคลุมเรียก อุตตราสงค์ หรือผ้าจีวร ผ้าห่ม
ซ้อนเรียกว่าสังฆาฏิ 3 ผืนแค่นั้นจริงๆ ผ้าอาบน้ำหรือผ้าขาวม้า (ผ้าขะม้า) ไม่มี
เพิ่งจะมีในเวลาต่อมา ก็ต้องยกเครดิตให้นางวิสาขา มหาอุบาสิกา
วันหนึ่งนางตระเตรียมภัตตาหารไว้รอถวายพระสงฆ์ ซึ่งเป็นกิจวัตรที่ทำอยู่ประจำ
เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พระคุณเจ้าก็ไม่มาสักที จึงบอกสาวใช้ให้ไปดูซิว่า ทำไม
พระคุณเจ้ายังไม่มา
บังเอิญตอนนั้นฝนตก พระคุณเจ้าทั้งหลายก็พากันอาบน้ำฝนกัน ก่อนจะเข้าบ้านเพื่อ
ฉันภัตตาหารตามที่นิมนต์ สาวใช้เห็นเข้าก็ตกใจวิ่งหน้าตื่นไปรายงานนายหญิงว่า
“ที่วัดไม่มีภิกษุเลยเจ้าค่ะ”
“ไม่มีได้อย่างไร ก็ฉันนิมนต์ท่านไว้แล้ว ท่านก็รับปากแล้ว ไม่มีสักรูปเลยหรือ” นาง
วิสาขาถามย้ำ
“มีค่ะ แต่ไม่ใช่พระภิกษุ” สาวใช้ตอบ
“เป็นใคร”
“ชีเปลือยเจ้าค่ะ ชีเปลือยเต็มวัดเลย”
นางวิสาขาตกใจ นึกว่าวัดพระเชตวันถูกพวกนิครนถ์ยึดไปซะแล้ว ไม่น่าเป็นไปได้ จึง
ตรงดิ่งไปยังวัดพระเชตวันด้วยความร้อนใจ ไปเห็นพระคุณเจ้าบางรูปกำลังอาบน้ำใน
ชุดวันเกิดอยู่ บางรูปก็อาบน้ำเสร็จแล้ว นุ่งห่มผ้าเรียบร้อยแล้ว
จนถึง “บางอ้อ” ที่สาวใช้ว่าในวัดมีแต่พวกชีเปลือยก็คืออย่างนี้นี่เอง (ก็เปลือยจริงๆ นี่
คะ)
เมื่อพระท่านมีผ้าเพียงสามผืนเท่านั้น เวลาอาบน้ำก็ต้องเปลือยกายอาบเป็นธรรมดา
นางวิสาขาเห็นว่า พระสมณศากยบุตรควรจะ “เรียบร้อย” กว่านี้ หาไม่ก็ไม่ต่างอะไรกับ
พวกนิครนถ์ จึงนำความคิดเรื่องผ้าอาบน้ำฝนไปกราบทูลพระพุทธองค์ และขอพรให้
ทรงอนุญาตให้นางได้ถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่พระสงฆ์
พระพุทธเจ้าทรงเห็นดีด้วยกับข้อเสนอของนางวิสาขา จึงตรัสอนุญาตให้ชาวบ้าน
ถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่ภิกษุได้ตั้งแต่บัดนั้นมา นางวิสาขาจึงเป็นคนแรกที่ได้ถวาย
ผ้าอาบน้ำฝนแก่พระสงฆ์
ตั้งแต่วันนั้นมา ไม่มีใครเห็น “ชีเปลือย” ในวัดพระเชตวันอีกเลย
สรุป
นางวิสาขาเกิดในตระกูลเศรษฐีที่เมืองภัททิยะ แคว้นอังคะ บิดานามว่าธนญชัย มารดา
นามสุมนาเทวี เมื่อนางอายุได้ 7 ขวบ บรรลุอรหรร ปู่ได้ทราบว่าพระพุทธเจ้ากำลังมา
สู่เมืองภัททิยะ จึงให้เด็กสาวไปต้อนรับพระพุทธองค์ พุทธองค์ก็ได้แสดงธรรมจน
สำเร็จเป็นพระโสดาบัณ เมื่องนางเจริญวัยขึ้น นางมีลักษณะดัง"เบญจกัลยาณี" นาง
วิสาขาได้แต่งงาานกับตระกูลเศรษฐีที่นับถือพราหมณ์ แต่นางก็ยังนับถือศาสนาพุทธ
อยู๋ เมื่อแต่งงานไปแล้วได้เปลี่ยนแนวคิดของพ่อแม่สามีให้มานับถือศาสนาพุทธ
เบญจกัลยาณี
1.ผมงาม : ผมยาวงามถึงสะเอว ปลายผมงอนขึ้น
2.เนื้องาม : มีริมฝีปากแดงและเรียบสนิท
3.กระดูกงาม : มีฟันสีขาวและเรียบชิดกัน
4.ผิวงาม : มีผิวงามละเอียด
5.วัยงาม : มีความสวยงามตามวัย
คุณธรรม
1.มีคารวะธรรมอย่างยิ่ง : เคารพเชื่อฟังบิดามารดาและผู้ใหญ่ในตระกูลอย่างดี
ยิ่ง
2.เป็นผู้มีปัญญาและมีกุศลโลบายในการแนะนำคนเข้าหาพระธรรม : นาง
พยายามหาทางชี้แนะพ่อสามีที่นับถือลัทธิพระเปลือยกาย จนกระทั่งพ่อสามีเข้าใจ
และหันมานับถือศาสนาพุ ทธ
3.จริงใจต่อเพื่อนและช่วยเหลือเพื่อนเสมอ : แม้นางจะร่ำรวยก็ไม่ทิ้งเพื่อน สตรีที่
ฐานะไม่ดีเท่านาง
นางวิสาขา ขอบคุณค่ะ