พระมหากัสสปะ
จั ด ทำ โ ด ย เด็กหญิงพิมพ์พิสุทธิ์ บุตรพรหม ม.1/3
เด็กหญิงตวงฤทัย สีเเรือง ม.1/3
เด็กชาย ชนกันต์ ป้องนาม ม.1/3
เด็กชายพิทักษ์ชน พงษ์คำพันธ์ม.1/3
เด็กชายสิรวิชญ์ รังมาตย์ม.1/3
เด็กชายจริยวิชญ์ จิถะพลม.1/3
ด.ญปัญญาพร แหลมทองม.1/3
ก่อนบวช
พระมหากัสสปะมีนามว่า ปิปผลิ เป็น
บุตรของกปิลพราหมณ์ เกิดที่หมู่บ้าน
มหาติตถะ แคว้นมคธ เมื่ออายุเข้า
ย่างสู่ 20 ปี มารดาบิดาของท่าน
รบเร้าให้ท่านแต่งงาน ท่านปฏิเสธ
เพราะตั้งใจว่าเมื่อดูแลมารดาบิดา
จนทั้งสองเสียชีวิตแล้วก็จะออกบวช
แต่มารดาบิดาของท่านยังยืนยันให้
ท่านแต่งงานเพื่อดำรงวงศ์ตระกูล
ออกบวช
วันหนึ่ง ปิปผลิไปตรวจนาเห็นฝูงนกจิกกินไส้เดือน จึงถามบริวารว่าบาปของสัตว์พวกนั้นตก
แก่ใคร บริวารว่าตกแก่ท่านปิปผลิ ท่านสังเวชใจว่าถ้าอกุศลกรรมแบบนี้ตกแก่ท่านแล้ว ถึง
เวียนว่ายตายเกิดสักพันชาติก็คงไม่พ้นทุกข์ กลับถึงบ้านแล้วจึงบอกภรรยาว่าจะออกบวช
ภรรยาของท่านก็จะออกบวชเช่นกัน ทั้งสองปลงผมนุ่งห่มผ้ากาสายะ ตั้งใจออกบวชเพื่ออุทิศ
พระอรหันต์ในโลก
บรรลุอรหัตผล
หลังจากบวชได้ครบ 7 วัน เข้าวันที่ 8 พระมหากัสสปะก็พบพระพุทธเจ้าขณะ
ประทับที่พหุปุตตเจดีย์ พระองค์ประทานโอวาทแก่ท่าน 3 ข้อ คือ
มีหิริและโอตตัปปะอย่างแรงกล้าในภิกษุทั้งหลายผู้เป็นเถระ ผู้เป็นนวกะ และ
ผู้เป็นมัชฌิมะ ฟังธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งประกอบด้วยกุศล จักกระทำ
ธรรมนั้นทั้งหมดให้เป็นประโยชน์ มนสิการถึงธรรมนั้นทั้งหมด จักประมวลจิต
มาทั้งหมด เงี่ยโสตสดับธรรม
ไม่ละกายคตาสติที่ประกอบด้วยความยินดี
ปฐมสังคายนา
พระมหากัสสปเถระได้ทราบข่าวการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า เมื่อ
พระองค์ปรินิพพานแล้วได้ 7 วัน ขณะที่ท่านกำลังเดินทางอยู่ ณ เมือง
ปาวาพร้อมด้วยหมู่ศิษย์จำนวนมาก เมื่อได้ทราบข่าวนั้น เหล่าศิษย์
ของพระมหากัสสปะซึ่งยังเป็นปุถุชนอยู่ ได้ร้องไห้คร่ำครวญกัน ณ ที่
นั้น จึงมีพระภิกษุผู้บวชเมื่อแก่รูปหนึ่ง ชื่อว่าสุภัททะ ได้กล่าวขึ้นว่า
"พอทีเถิด พวกท่านอย่าโศกเศร้า อย่าคร่ำครวญเลย พวกเรารอดพ้น
ดีแล้วจากพระมหาสมณะรูปนั้นที่คอยจ้ำจี้จ้ำไชพวกเราอยู่ว่า ‘สิ่งนี้
ควรแก่พวกเธอ สิ่งนี้ไม่ควรแก่พวกเธอ’ บัดนี้ พวกเราปรารถนาสิ่งใด
ก็จักทำสิ่งนั้น ไม่ปรารถนาสิ่งใด ก็จักไม่ทำสิ่งนั้น"
การสังคายนาครั้งที่หนึ่งในศาสนาพุทธจึงได้จัดขึ้นที่ถ้ำสัตบรรณคูหา กรุง
ราชคฤห์ ตามคำปรารภของพระมหากัสสปะเถระ โดยมีพระเจ้าอชาตศัตรูเป็น
องค์อุปถัมภ์ ใช้เวลาในการสังคายนารวบรวมพระธรรมวินัยอยู่ 7 เดือนจึงแล้ว
เสร็จ โดยในครั้งนั้น พระมหากัสสปะเถระเป็นประธานทำสังคายนา พระ
อานนท์เป็นองค์วิสัชชนาแสดงพระธรรม พระอุบาลีเป็นองค์วิสัชชนาพระวินัย
ปิฎก การสังคายนาครั้งนั้นนับเป็นต้นกำเนิดของพระไตรปิฎกภาษาบาลีที่ใช้
ในนิกายเถรวาทในปัจจุบัน
ขอบคุณครับ/ค่ะ