ประวัติพระอุบาลี ม.1/2

ประวัติพระอุบาลี

สมาชิก

ด.ช.ณัฐวิทย์ เตียวตระกูล ม.1/2 เลขท่ี 3
ด.ช.ทินภัทร พิมเสน ม.1/2 เลขท่ี 4
ด.ช.พัทธดนย์ จันย์เหมือน ม.1/2 เลขท่ี 12
ด.ญ.กนกพิชญ์ นาบุดดา ม.1/2 เลขท่ี 17
ด.ญ.ณัฐนิชา ใจบุญ ม.1/2 เลขท่ี 22

ด.ญ.พชรพรรณ สิ ทธิจิรพัฒน์ ม.1/2 เลขท่ี 27

ด.ญ.สิ รินท์ดา บัวเมืองเพีย ม.1/2 เลขท่ี 32

เ ป็ น ห น่ึ ง ใ น พ ร ะ ม ห า เ ถ ร ะ ท่ี มี ค ว า ม สา คั ญ
ย่ิ ง ท่ า น ห น่ึ ง ใ น ก า ร สั ง ค า ย น า พ ร ะ ไ ต ร ปิ ฎ ก
ค ร้ั ง แ ร ก โ ด ย เ ฉ พ า ะ อ ย่ า ง ยิ่ ง ใ น เ ร่ื อ ง พ ร ะ
วิ นั ย ปิ ฎ ก ท้ั ง น้ี เ ป็ น เ พ ร า ะ เ ห ล่ า พ ร ะ เ ถ ร ะ
ท ร า บ ดี ว่ า พ ร ะ พุ ท ธ อ ง ค์ ท ร ง ย ก ย่ อ ง ใ ห้ ท่ า น
เ ป็ น เ อ ต ทั ค ค ะ เ ลิ ศ ก ว่ า พ ว ก ภิ ก ษุ ผู้ ท ร ง
วิ นั ย ใ น ก า ร ที่ พ ร ะ พุ ท ธ อ ง ค์ ท ร ง ย ก ย่ อ ง
ท่ า น เ ช่ น น้ั น ก็ มี เ ห ตุ เ น่ื อ ง ม า จ า ก ค ว า ม
ป ร า ร ถ น า ข อ ง ท่ า น ใ น อ ดี ต น่ั น เ อ ง

ประวัติพระอุบาลี

เป็นบุตรของนายช่างกัลบกในนครกบิลพัสดุ์ เดิมชื่อว่าอุบาลี เม่ือเติบโตแล้ว
เจ้าศากยวงศ์ท้ัง 5 พระองค์ ทรงโปรดปรานมากจึงแต่งต้ังให้เป็นให้เป็นรายภูษามาลาประจา

พระองค์ เม่ือพระบรมศาสดาอัมพวนารามของมัลลกษั ตริย์ คร้ังน้ันศากยกุมารท้ัง 5 กุมาร
คือภัททยะ อนุรุทธะ อานันทะ ภคุ และกิมพิละ รวมท้ังเทวทัตซ่ึงเป็นเจ้าในโกลิยวงศ์เข้าด้วยเป็น 6

เสด็จออกจากพระนครด้วยจาตุรงคเสนาเพื่อที่จะออกบวชในพระพุ ทธศาสนา อุบาลีผู้ที่เป็น
ภููษามาลาได้ติดตามออกไปด้วยพากันไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา ที่อนุปิยนิคม แคว้นมัลละ
ทูลขอบุปสมบท แต่ก่อนจะอุปบทพวกเจ้าศากยเหล่าน้ันทูลขอให้บวชอุบาลีก่อน เมื่ออุบาลีอุปสมบท
แล้วได้ฟั งพระกรรมฐานท่ีพระบรมศาสดาทรงส่ั งสอน ต่อมาท่านไม่ประมาทต้ังใจบาเพ็ญความเพียร
ไม่ช้าไม่นานก็บรรลุพระอรหันตตผลเป็นอริยบุคคลในพระพุ ทธศาสนา และทรงศึกษาจาพระวินัย
แม่นยาชานาญมาก สามารถทาเรื่องราวอะไรเกี่ยวด้วยพระวินัยได้เป็นอย่างดี ในข้อนี้พึงเห็นตัวอย่าง
ที่ท่านได้รับพระพุ ทธานุญาตให้เป็นผู้วินิจฉันอธิกรณ์ 3 เร่ือง คือ ภารตัจฉกวัตถุ อัชชุกวัตถุ และ
กุมารกัสสปวัตถุ ด้วยเหตุน้ีพระอุบาลีจึงได้รับยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุ

ท้ังหลาย ผู้ทรงไว้ซ่ึงพระวินัย เมื่อพระตถาคตเจ้าปรินิพพานแล้ว
พระมหากัสสปะกระทาสั งคายนา พระธรรมวินัย สงฆ์ได้เลือกท่านให้เป็นให้เป็นผู้วิสั ชนา
ในส่ วนพระวินัยปิฎก เพราะท่านเป็นผู้มีความสามารถในเร่ืองนี้ดี คร้ันท่านดารงชนมายุสั งขอยู่

โ ด ย ส ม ค ว ร แ ก่ ก า ล แ ล้ ว ก็ ดั บ ขั น ธ์ ป ริ นิ พ พ า น ไ ป

คุ ณ ธ ร ร ม ท่ี ค ว ร ถื อ เ ป็ น แ บ บ อ ย่ า ง

1)เป็ นผู้เชี่ยวชาญพระวินัยเร่ื องพระวินัยเป็ นเร่ื องกฏระเบียบแบบแผน แห่ งความ
ประพฤติ
2)เป็ นครู ที่ดี ท่านมีความชานาญพิเศษด้านพระวินัยไม่หวงความรู้มีโอกาสเม่ือใดก็สั่งสอนภิกษุรู ป
อื่ น ๆ ใ ห้ รู้ ต า ม เ ม่ื อ น้ ั น

3)ใฝ่ รู้เสมอถึงแม้ท่านจะได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่ามีความรู้เร่ื องพระวินัยกว่ารู ปอื่นๆ ท่านก็
ไม่พอใจต่อเพียงแค่น้ัน หากยังต้องขวนขวายหาความรู้เพ่ิมอยู่ตลอดเวลา

ข อ บ คุ ณ