The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมี 4 ภาคเรียนที่ 2 อินทิรา 108

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ernginthiraseeonsaeng, 2022-03-06 05:37:16

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมี 4 ภาคเรียนที่ 2 อินทิรา 108

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมี 4 ภาคเรียนที่ 2 อินทิรา 108

แผนการจัดการเรยี นรู้

รายวชิ า เคมี 4 (ว32222)
ภาคเรียนท่ี 2 /2564

นางสาวอินทิรา สีอ่อนแสง

นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โรงเรยี นประจกั ษ์ศิลปาคาร
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษาอุดรธานี

แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวชิ าเคมี 4 (ว32222)

โดย
นางสาวอนิ ทริ า สีอ่อนแสง 60100141108

สาขาวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุดรธานี
ปกี ารศกึ ษา 2564



คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาเคมี 4 (ว32222) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดหรือ
วางแผนเรือ่ งทีจ่ ะสอนอย่างเป็นระบบ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของกลุม่ สาระการเรยี นรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญให้ผู้เรียนได้เป็นผู้คิดและ
ปฏิบตั ิด้วยตนเองตามสภาพแวดลอ้ มและบริบทของโรงเรียนคดิ ออกแบบ จัดหา จดั ซอ้ื สื่ออุปกรณท์ ่ีเหมาะสม
กับสาระการเรียนรู้ วัดและประเมินผลด้วยวิธีทีห่ ลากหลายเหมาะสมกบั จุดประสงค์ในการเรยี นรู้และวัยของ
ผู้เรียน ผู้จัดทำขอขอบคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณิสร ต้นสีนนท์ ที่แนะนำและเป็นที่ปรึกษาในการจัดทำ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีประโยชน์และคุณค่าต่อการจัดการเรียนการสอน อันเป็นประโยชน์สูงสุด ต่อตัว
ผเู้ รยี นไว้ ณ โอกาสนี้

อินทิรา สีออ่ นแสง
ผจู้ ัดทำ

สารบญั ข

เรอื่ ง หนา้

คำนำ ข
สารบัญ 1
การวิเคราะห์หลกั สูตรแกนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 7
คำอธิบายรายวิชา 9
โครงสร้างรายวชิ า 14
กำหนดการจัดการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้ 15
29
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 กรด-เบส 45
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 63
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 78
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 92
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 105
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 119
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6 136
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 152
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 163
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 178
192
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เคมไี ฟฟา้ 209
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 11 223
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 12 239
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 13
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 14
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 15
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 16

สารบญั (ต่อ) ค

เร่อื ง หน้า
251
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17 266
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18

1

เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร์เพ่ิมเตมิ

วทิ ยาศาสตร์เพิม่ เติม ผูเ้ รียนจะไดเ้ รยี นร้สู าระสำคัญ ดังนี้
✧ ชีววทิ ยา เรยี นรูเ้ ก่ียวกบั การศกึ ษาชวี วิทยา สารท่ีเป็นองคป์ ระกอบของ ส่งิ มีชีวิต เซลล์
ของสิ่งมีชีวิต พันธุกรรมและการถ่ายทอด วิวัฒนาการ ความหลากหลายทางชีวภาพ โครงสร้างและ
การทำงานของสว่ นต่าง ๆ ในพืชดอก ระบบและการทำงานในอวยั วะต่าง ๆ ของสัตว์ และมนุษย์และ
สิ่งมีชีวติ และสงิ่ แวดลอ้ ม
✧ เคมี เรยี นรู้เกย่ี วกับ ปริมาณสาร องคป์ ระกอบและสมบตั ิของสาร การเปลีย่ นแปลง ของ
สาร ทกั ษะและการแกป้ ัญหาทางเคมี
✧ ฟิสิกส์ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติและการค้นพบทางฟิสิกส์แรงและการเคลื่อนที่ และ
พลงั งาน
✧ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกบั โลกและกระบวนการเปลี่ยนแปลง ทาง
ธรณวี ทิ ยา ข้อมูลทางธรณีวิทยาและการนำไปใช้ประโยชน์การถ่ายโอนพลังงานความรอ้ นของโลก การ
เปลี่ยนแปลงลักษณะลมฟ้าอากาศกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ โลกในเอกภพ และดาราศาสตร์ กับ
มนษุ ย์

2

สาระการเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้

สาระเคมี

2. เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิด

ปฏิกิริยาเคมี สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด–เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์

เคมไี ฟฟา้ รวมทงั้ การนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ช้ัน ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้เู พิม่ เติม

ม.5 1. ระบุและอธิบายว่าสารเป็นกรดหรอื -สารในชีวิตประจำวนั หลายชนิดมีสมบัติเป็นกรด

เบสโดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เร หรือเบส ซึ่งพิจารณาได้โดยใช้ทฤษฎีกรด-เบส

เนียส เบรินสเตด ลาวรแี ละลวิ อิส ของอารเ์ รเนยี ส เบรนิ สเตด–ลาวรหี รือลวิ อสิ

2. ระบุคู่กรด-เบสของสารตามทฤษฎี - ตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตด–ลาวรีเมื่อ

กรด-เบสของเบรินสเตด ลาวรี กรดหรือเบสละลายน้ำหรือทำปฏกิ ิรยิ ากับสารอื่น

จะมกี ารถ่ายโอนโปรตอนระหว่างสารตั้งต้นท่ีเป็น

กรดและเบส เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นโมเลกุล

หรือไอออนที่เป็นคู่กรด-เบสของสารตั้งต้นนั้น

โดยสารที่เป็นคู่กรด-เบสกันจะมีโปรตอนต่างกัน

1 โปรตอน

3 . ค ำ น ว ณ แ ล ะ เ ป ร ี ย บ เ ท ี ย บ - กรดและเบสแต่ละชนิดสามารถแตกตัวในน้ำได้

ความสามารถในการแตกตัวหรือความ แตกต่างกัน กรดแก่หรือเบสแก่สามารถแตกตัว

แรงของกรดและเบส เป็นไอออนในน้ำได้เกือบสมบูรณ์ส่วนกรดอ่อน
หรือเบสอ่อนแตกตัวเป็นไอออนได้น้อย โดย

ความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของ

กรดหรือเบสอาจพิจารณาไดจ้ ากค่าคงที่การแตก

ตัวของกรดหรือเบส หรือปริมาณการแตกตัวเป็น

รอ้ ยละของกรดหรอื เบส

4. คำนวณค่า pH ความเข้มข้นของ - น้ำบริสทุ ธท์ิ ีอ่ ุณหภมู ิ๒๕ องศาเซลเซียสแตกตัว

ไฮโดรเนียม ไอออนหรือไฮดรอกไซด์ ให้ไฮโดรเนยี มไอออน และไฮดรอกไซดไ์ อออน ท่ี
ไอออนของ สารละลายกรดและเบส มีความเข้มข้นเท่ากัน คือ1.0x10-7 โมลต่อลิตร

โดยมีค่าคงที่การแตกตัวของน้ำ เท่ากับ
1.0 x 10-14

3

ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

- เมื่อกรดหรือเบสแตกตัวในน้ำ ค่าความเป็น

กรด-เบสของสารละลายแสดงได้ด้วยค่า pH ซ่ึง

สัมพันธ์กับความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออน

โดยสารละลายกรดมคี วามเข้มขน้ ของไฮโดรเนียม

ไอออนมากกว่า 1.0 x 10-7 โมลตอ่ ลิตร หรือมีค่า

pH น้อยกว่า ๗ ส่วนสารละลายเบสมี ความ

เข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนน้อยกว่ า

1.0 x 10-7 โมลต่อลิตร หรือมคี า่ pH มากกวา่ 7

5. เขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิริยา - ปฏิกิริยาสะเทินระหว่างกรดแก่และเบสแก่ ให้

สะเทิน และระบุความเป็นกรด-เบส สารละลายที่เป็นกลาง ปฏิกิริยาสะเทินระหว่าง

ของสารละลาย หลังการสะเทนิ กรดแก่และเบสอ่อน ให้สารละลายที่เป็นกรด

ส่วนปฏกิ ิริยาสะเทินระหว่างกรดอ่อนและเบสแก่

6. เขียนปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเกลือ ใหส้ ารละลายที่เป็นเบส
และระบุความเป็นกรด-เบสของ - เกลือที่ได้จากการสะเทินของกรดแก่ด้วยเบส
อ่อนเมื่อละลายในน้ำจะเกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส
สารละลายเกลือ
ได้สารละลายที่มีสมบัติเป็นกรด ส่วนเกลือที่ได้

จากการสะเทินของกรดอ่อนด้วยเบสแก่ เม่ือ

ละลายในน้ำจะเกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสได้

สารละลายทม่ี ีสมบตั เิ ปน็ เบส

7. ทดลอง และอธิบายหลักการการ - การไทเทรตเป็นเทคนิคในการวิเคราะห์หา

ไทเทรต และเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่ ปริมาณหรือความเข้มข้นของสารที่ทำปฏิกิริยา

เหมาะสมสำหรบั การไทเทรตกรด-เบส พอดกี นั จุดทสี่ ารทำปฏกิ ิรยิ าพอดกี ันเรียกว่า จุด

สมมูล ในทางปฏิบัตจิ ุดสมมูลของปฏิกริ ิยาอาจไม่

สามารถสังเกตเห็นได้จึงสังเกตจากการเปลี่ยนสี

ของอินดิเคเตอร์เพื่อบอกจุดยุติของการไทเทรต

ดังนนั้ อนิ ดิเคเตอรท์ เี่ หมาะสมในการไทเทรตกรด-

เบส ควรเปน็ อนิ ดเิ คเตอรท์ ี่เปลยี่ นสีในชว่ ง pH

4

ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ตรงกับหรือใกล้เคียงกับ pH ของสารละลาย ณ

จุดสมมลู

8. คำนวณปริมาณสารหรือความ - ปริมาณกรดและเบสที่ทำปฏิกิริยาพอดีกันจาก

เข้มข้นของสารละลายกรดหรือเบส การไทเทรตกรด-เบส สามารถนำไปคำนวณความ

จากการไทเทรต เข้มข้นของกรดหรือเบสที่ต้องการทราบความ

เขม้ ข้นได้

9. อธิบายสมบัติองค์ประกอบ และ - สารละลายบัฟเฟอร์เป็นสารละลายของกรด

ประโยชน์ของสารละลายบฟั เฟอร์ อ่อนกับเกลือของกรดอ่อนนั้น หรือเบสอ่อนกับ

เกลือของเบสอ่อนนั้น เมื่อเติมกรด เบส หรือน้ำ

จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงค่า pH น้อยกว่า

สารละลายทั่วไป สมบัติเฉพาะของสารละลาย

บัฟเฟอร์เป็นประโยชน์ต่อการควบคุม pH ของ

ระบบในสิง่ มีชีวติ และสง่ิ แวดล้อม

10. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่าง - ความรู้เกี่ยวกับกรด-เบสสามารถนำมาใช้

การใช้ประโยชน์และการแก้ปัญหาโดย ประโยชน์และแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน

ใช้ความร้เู ก่ียวกบั กรด–เบส เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม และการแพทย์

11. คำนวณเลขออกซิเดชัน และระบุ - เคมีไฟฟ้าเป็นก าร ศึกษาเก ี่ยวก ับ ก าร

ปฏิกริ ยิ าที่เปน็ ปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์ เปลี่ยนแปลงระหว่างพลังงานไฟฟ้าและการ

เกิดปฏกิ ิริยาเคมี ทีม่ ีการถ่ายโอนอิเล็กตรอนแล้ว

ทำใหเ้ กิดการเปล่ยี นแปลงเลขออกซเิ ดชัน ซึง่ เปน็

เลขที่แสดงประจไุ ฟฟ้าหรือประจุไฟฟา้ สมมติของ

อะตอมธาตุเรียกปฏิกิริยาชนิดนี้ว่า ปฏิกิริยารี

ดอกซ์

12. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเลข - ปฏิกิริยารีดอกซ์มีทั้งครึ่งปฏิกิริยาที่มีการให้

ออกซิเดชัน และระบุตัวรีดิวซ์และตัว อิเล็กตรอน เรียกว่า ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน

ออกซิไดส์ รวมท้ังเขยี นครงึ่ ปฏิกิริยา และครึ่งปฏกิ ริ ิยาท่ีมีการรบั อเิ ลก็ ตรอน เรียกวา่

5

ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน ครึง่ ปฏิกิริยารดี ักชนั โดยสารทีใ่ หอ้ ิเล็กตรอนจะมี

ของปฏิกิริยารีดอกซ์ระหว่างโมเลกุล เลขออกซิเดชนั เพิ่มข้ึน เรยี กว่า ตวั รดี วิ ซ์ ส่วนสาร

ตามสภาพขั้วหรือการเกิดพันธะ ที่รับอิเล็กตรอนจะมีเลขออกซิเดชันลดลง

ไฮโดรเจน เรยี กวา่ ตวั ออกซไิ ดส์

13. ท ด ล อ ง แ ล ะ เ ป ร ี ย บ เ ท ี ย บ - การเปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัว

ความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือ รีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์สามารถพิจารณาได้จาก

ตัวออกซไิ ดส์และเขียนแสดงปฏิกิริยารี ผลการทดลองของปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์

ดอกซ์

14. ดุลสมการรีดอกซ์ด้วยการใช้เลข - ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซ์เขยี นแทนได้ดว้ ยสมการรดี อกซ์

ออกซิเดชนั และวิธีคร่งึ ปฏิกิรยิ า ซึ่งการดุลสมการรีดอกซ์ทำได้โดยการใช้เลข

ออกซเิ ดชันและวธิ คี รึ่งปฏกิ ริ ยิ า

15. ระบุองค์ประกอบของเซลล์ - เซลล์เคมีไฟฟ้าประกอบด้วยแอโนด แคโทด

เคมีไฟฟ้า และเขียนสมการเคมีของ และสารละลายอิเล็กโทรไลต์ซึ่งอาจเชื่อมต่อกัน

ปฏกิ ริ ยิ าทแี่ อโนดและแคโทด ปฏกิ ริ ิยา ด้วยสะพานเกลือ โดยที่แอโนดเกิดปฏิกิริยา

รวม และแผนภาพเซลล์ ออกซิเดชัน และแคโทดเกิดปฏิกิริยารีดักชัน ทำ

ให้อิเล็กตรอนเคลื่อนที่จากแอโนดไปแคโทด

เซลล์เคมีไฟฟ้า สามารถเขียนแสดงได้ด้วย

แผนภาพเซลล์

16. คำนวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐาน - ค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์คำนวณได้จาก

ของเซลล์ และระบุประเภทของเซลล์ ค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์ถ้าค่า

เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้าและปฏิกิริยาเคมที ี่ ศักย์ไฟฟ้าของเซลล์เป็นบวก แสดงว่าปฏิกิริยา

เกดิ ขนึ้ รีดอกซ์เกิดขึ้นได้เอง ซึ่งทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า

เรียกเซลล์ชนิดนี้ว่า เซลล์กัลวานิก แต่ถ้าค่า

ศักย์ไฟฟ้าของเซลล์เป็นลบ แสดงว่าปฏิกิริยา

รีดอกซ์ไม่สามารถเกิดได้เอง ต้องมีการให้

กระแสไฟฟ้าจึงจะเกิดปฏิกิริยาได้เซลล์ชนิดน้ี

เรียกวา่ เซลลอ์ ิเล็กโทรลิตกิ

6

ชั้น ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

17. อธิบายหลักการทำงาน และเขียน - เซลล์เคมีไฟฟ้าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ใน

สมการแสดงปฏกิ ิรยิ าของเซลล์ปฐมภูมิ ชีวิตประจำวัน เช่น แบตเตอรี่ซึ่งมีทั้งเซลล์ปฐม

และเซลลท์ ตุ ยิ ภูมิ ภูมิ และเซลล์ทุติยภูมิโดยปฏิกิริยาเคมีที่เกิดข้ึน

ภายในเซลลป์ ฐมภูมิไมส่ ามารถทำใหเ้ กิดปฏิกิริยา

ย้อนกลับได้โดยการประจุไฟ จึงไม่สามารถนำ

กลับมาใช้ได้อีก ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นภายใน

เซลล์ทตุ ยิ ภมู ิสามารถทำใหเ้ กิดปฏิกริ ิยาย้อนกลับ

ไดโ้ ดยการประจุไฟ จงึ นำกลบั มาใช้ไดอ้ กี

18. ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมี - เซลล์อิเล็กโทรลิติก สามารถนำไปใช้ประโยชน์

ด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการ ไดท้ ัง้ ในชวี ิตประจำวนั และในอตุ สาหกรรมหลาย

ทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการชุบโลหะ ประเภท เช่น การชุบโลหะ การแยกสารเคมดี ้วย

การแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า การ กระแสไฟฟ้า การทำโลหะให้บริสุทธิ์ การป้องกัน

ทำโลหะให้บริสุทธิ์และการป้องกันการ การกัดกรอ่ นของโลหะ

กดั กร่อนของโลหะ

19. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่าง - ปฏิก ิร ิยาเคมีหลายปฏิก ิร ิยาที่พ บ ใ น

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ ชีวติ ประจำวัน เป็นปฏิกิริยารดี อกซเ์ ชน่ ปฏกิ ิริยา

เกี่ยวข้องกับเซลล์เคมีไฟฟ้าใน การเผาไหม้ ปฏกิ ริ ยิ าในเซลล์เคมีไฟฟา้ ซ่ึงความรู้

ชวี ติ ประจำวนั เรื่อง เซลล์เคมีไฟฟ้าและความก้าวหน้าทาง

เทคโนโลยี ที่เกี่ยวขอ้ งกับเซลลเ์ คมไี ฟฟ้า นำไปสู่

นวัตกรรมดา้ นพลงั งานท่เี ป็นมิตรตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม

7

คำอธบิ ายรายวิชา

ชือ่ รายวชิ า เคมี 4 รหสั ว32222 1.5 หน่วยกิต

รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปี่ท่ี 5 เวลา 60 ชัว่ โมง 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์

ศึกษาทฤษฎกี รด-เบส ของอาร์เรเนยี ส เบรนิ สเตด-ลาวรี และลวิ อสิ คำนวณความสามารถใน
การแตกตัวหรือความแรงของกรด-เบส ค่าpH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮโดรเจน
ไอออนของสารละลายกรดและเบส ศึกษาปฏิกิริยาสะเทนิ และปฏิกิรยิ าไฮโดรไลซิสของเกลือ การไท
เทรด การเลอื กใชใ้ นอินดิเคเตอร์ และองคป์ ระกอบของละลายบัฟเฟอร์ รวมทง้ั การนำความรู้เกี่ยวกับ
กรด-เบสไปใชป้ ระโยชน์

ศึกษาเลขออกซิเดชนั ปฏกิ ริ ิยารีดอกซ์ ตัวรีดิวซ์ ตัวออกซิไดส์ ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชันและ
ครึ่งปฏกิ ริ ิยารดี กั ชันของปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์ เปรียบเทยี บความสามารถในการเปน็ ตวั รดี วิ ซ์ ตัวออกซิไดส์
การเขียนและดุลสมาการรีดอกซ์ดว้ ยการใช้เลขออกซิเดชันและวธิ ีครง่ึ ปฏกิ ิริยา ศกึ ษาเซลล์เคมีไฟฟ้า
และการเขียนแผนภาพเซลล์ คำนวณคา่ ศกั ย์ไฟฟา้ มาตรฐานของเซลล์ ศึกษาหลักการทำงานของเซลล์
ปฐมภูมิและเซลล์ทุติยภูมิ หลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการชุบโลหะ การแยกสารเคมีด้วย
กระแสไฟฟา้ การทำโลหะให้บริสทุ ธ์ิ และการป้องกนั การกัดกร่อนของโลหะ รวมทั้งการก้าวหน้าทาง
เทคโนโลยที เี่ กย่ี วขอ้ งกับเซลลเ์ คมีไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวนั

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วเิ คราะห์เปรียบเทียบ อธบิ าย อภิปรายและสรุปเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการ
ตดั สินใจ มีทกั ษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทงั้ ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ในดา้ นการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ ดา้ นการคดิ และการแกป้ ัญหา ดา้ นการส่ือสาร สามารถส่อื สารส่งิ ทเ่ี รียนรู้และนำความรู้ไป
ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้

1. ระบแุ ละอธบิ ายว่าสารเป็นกรดหรือเบสโดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียส เบรินสเตด
ลาวรีและลิวอิส

2. ระบคุ ่กู รด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตด ลาวรี
3. คำนวณและเปรียบเทยี บความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของกรดและเบส
4. คำนวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลาย
กรดและเบส

8

5. เขียนสมการเคมีแสดงปฏกิ ิรยิ าสะเทนิ และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายหลังการ
สะเทิน

6. เขียนปฏิกิรยิ าไฮโดรลิซสิ ของเกลือและระบุความเป็นกรด-เบสเของสารละลายเกลือ
7. ทดลองและอธิบายหลักการการไทเทรตและเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับการ
ไทเทรตกรด-เบส
8. คำนวณปริมาณสารหรือความเขม้ ข้นของสารละลายกรดหรอื เบสจากการไทเทรต
9. อธิบายสมบัติ องค์ประกอบและประโยชน์ของสารละลายบฟั เฟอร์
10. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์และการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้
เกย่ี วกับกรด-เบส
11. คำนวณเลขออกซิเดชนั และระบปุ ฏิกิรยิ าท่เี ป็นปฏิกิรยิ ารดี อกซ์
12. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันและระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์ รวมทั้ง
เขยี นครึ่งปฏกิ ริ ยิ าออกซเิ ดชนั และคร่ึงปฏกิ ิรยิ ารีดกั ชนั ของปฏิกิริยารดี อกซ์
13. ทดลองและเปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดเจและเขียนแสดง
ปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์
14. ดุลสมการรดี อกซด์ ว้ ยการใช้เลขออกซิเดชนั และวิธีครง่ึ ปฏิกิรยิ า
15. ระบุองค์ประกอบของเซลล์เคมีไฟฟ้าและเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาที่แอโนดและ
แคโทดปฏกิ ริ ิยารวม และแผนภาพเซลล์
16. คำนวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้า
และปฏกิ ิรยิ าเคมที เ่ี กดิ ขึน้
17. อธิบายหลักการทำงานและเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาของเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ทุตยิ
ภูมิ
18. ทดลองชบุ โลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟา้ และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้
ในการชุบโลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การทำโลหะให้บริสุทธิ์ และการป้องกันการกัด
กรอ่ นของโลหะ
19. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเซลล์
เคมีไฟฟ้าในชีวติ ประจำวัน
รวมท้งั หมด 19 ผลการเรียนรู้

9

โครงสรา้ งรายวิชา

วิชาเคมี 4 รหัสวชิ า ว32222 สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

สาระเคมี

2. เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุลใน
ปฏกิ ริ ิยาเคมี สมบัตแิ ละปฏกิ ริ ยิ าของกรด–เบส ปฏกิ ิริยารดี อกซ์และเซลล์เคมีไฟฟา้ รวมท้งั การนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

หน่วย ช่อื ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้/สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
ท่ี หน่วยการ (ชัว่ โมง) คะแนน

เรียนรู้

1 กรด-เบส 1.ระบุและอธิบายว่า สารในชีวิตประจำวันหลายชนิด 2 3

สารเป็นกรดหรือเบส มีสมบัติเป็นกรดหรือเบส การ

โดยใช้ทฤษฎีกรด- ระบุว่าสารใดเป็นกรดหรือเบส

เบสของอาร์เรเนียส สามารถพิจารณาโดยใช้ทฤษฎี

เบรินสเตด-ลาวรี กรด-เบสของอาร์เรเนยี ส เบรินส

และลวิ อิส เตด-ลาวรี และการพิจารณาคู่

2.ระบุคกู่ รด-เบสของ กรด-เบสใช้ทฤษฎีกรด-เบสของ 1 2

สารตามทฤษฎีกรด- เบรนิ สเตด-ลาวรี

เบสของเบริน สเตด-

ลาวรี

3 . ค ำ น ว ณ แ ล ะ กรดแกห่ รอื เบสแกเ่ ม่ือละลายน้ำ 6 5

เ ป ร ี ย บ เ ท ี ย บ ถือว่าแตกตัวได้สมบูรณ์ ส่วน 4 10
ความสามารถในการ กรดอ่อนหรือเบสอ่อนแตกตัวได้
แตกตวั หรือความแรง บางส่วน ความสามารถในการ
ของกรดและเบส แตกตัวหรือความแรงของกรด
4 . ค ำ น ว ณ ค ่ า pH หรือเบส พิจารณาจากค่าคงที่
ความเข้มข้นของ การแตกตัวหรือร้อยละการแตก
ไฮโดรเนียมไอออน ตัว นอกจากนี้เกลือบางชนิด
หรือไฮดรอก ไ ซ ด์ สามาร ถแตก ตัว ใน น ้ำแล ะ
ไ อ อ อ น ข อ ง เกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสได้ทำให้
สารละลายกรดและ ได้สารละลายที่มีสมบัติเป็ยกรด
เบส หรือเบส ความเป็นกรด-เบสของ

สารละลายพิจารณาจากความ
เข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออน

10

หน่วย ช่ือ ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนร/ู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก
ท่ี หนว่ ยการ (ชัว่ โมง) คะแนน

เรยี นรู้

ซึ่งใช้ในการคำนวณหา pH ของ

สารละลาย

5.เขียนสมการเคมี ปฏิกิริยาเคมีระหว่างสารละลาย 1 2

แ ส ด ง ป ฏ ิ ก ิ ร ิ ย า กรดและเบสที่พอดีกัน เรียกว่า

สะเทนิ และระบุความ ปฏิกิริยาสะเทิน ซึ่งให้ผลิตภัณฑ์

เป็นกรด-เบสของ เป็นเกลือที่อาจมีสมบัติเป็นกรด

สารละลายหลังการ กลาง หรือเบส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ

สะเทิน ชนิดของกรดและเบสที่ทำ

6.เขียนปฏิกิริยา ปฏกิ ิริยากนั 12

ไฮโดรลิซิสของเกลือ

และระบุความเป็น

กรด-เบสของ

สารละลายเกลือ

7.ทดลองและอธิบาย จุดที่สารทำปฏิกิริยาพอดีกัน 6 8

หลักการ ไ ทเ ท ร ต เร ียกว่าจุดสมมูล สำหรับ

และเลือกใช้อินดิเค ปฏิกิริยาระหว่างกรดและเบส

เตอร์ที่เหมาะสม อาจสังเกตจุดสมมูลได้จากการ

สำหรับการไทเทรต เปลี่ยนสีของอินดิเคเตอร์ที่

กรด-เบส เหมาะสมระหว่างการไทเทรตท่ี

8.คำนวณปริมาณ เรียกวา่ จดุ ยุติ ซงึ่ ใกล้เคียงกบั จดุ 4 8

สารหรอื ความเข้มข้น สมมูล ข้อมูลจากการไทเทรต

ของสารละลายกรด สามารถนำมาใช้คำนวณความ

หร ือเบสจาก ก า ร เข้มข้นหรือปริมาณของสารที่

ไทเทรต เกีย่ วข้องในปฏกิ ิรยิ าได้

9 . อ ธ ิ บ า ย ส ม บ ั ติ สารละลายบัฟเฟอร์มีสมบัติใน 3 6

องค์ประกอบ และ การควบคุม pH ของสารละลาย

ป ร ะ โ ย ช น ์ ข อ ง ไม่ให้เปลี่ยนแปลงมากนัก เมื่อมี

สารละลายบัฟเฟอร์ การเติมกรด เบส หรือน้ำลงไป

10.สืบค้นข้อมูลและ เล็กน้อย ความรู้เกี่ยวกับ กรด- 2 4

นำเสนอตัวอย่างการ เบส สามารถนำไปใช้ประโยชน์

11

หน่วย ช่ือ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้/ู สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
ท่ี หนว่ ยการ (ชั่วโมง) คะแนน

เรียนรู้

ใช้ประโยชน์และการ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน

แ ก ้ ป ั ญ ห า โ ดยใช้ ได้

ความรู้เกี่ยวกับกรด-

เบส

2 เคมีไฟฟ้า 1 1 . ค ำ น ว ณ เ ล ข เคมีไฟฟ้าเป็นการศกึ ษาปฏิกิริยา 2 3

ออกซิเดชันและระบุ เคมีที่เกีย่ วข้องกับพลังงานไฟฟา้

ป ฏ ิ ก ิ ร ิ ย า ท ี ่ เ ป็ น โดยปฏิกิริยาเคมีทีม่ กี ารถ่ายโอน

ปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ อิเล็กตรอนระหว่างสารเรียกว่า

12.วิเคราะห์การ ปฏิกิริยารีดอกซ์ ประกอบด้วย 3 3

เปลี่ยน แปลงเลข ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชันของตัว

ออกซิเดชันและระบุ รีดิวซ์ซึ่งให้ และครึ่งปฏิกิริยา

ตัวรีดิวซ์และตัวออก รีดักชันของตัวออกซิไดส์ซึ่งรับ

ซ ิไ ดส์ และ เขียน อิเล็กตรอน ความสามารถในการ

แสดง ปฏิก ิร ิ ย า รี ใหห้ รือรับอเิ ลก็ ตรอนในปฏิกิริยา

ดอกซ์ รีดอกซ์สังเกตได้จากการทดลอง

1 3 . ท ด ส อ บ แ ล ะ การดุลสมการรีดอกซ์ทำได้โดย 3 3

เปรียบเทียบความ วิธีเลขออกซิเดชันหรือวิธีครึ่ง

สามารถในการเป็น ปฏิกิรยิ า

ตัวรีดิวซ์หรือตัวออก

ซิไดส์ และเขียน

แสดง ปฏิกิร ิ ย า รี

ดอกซ์

14.ดุลสมการรีดอกซ์ 49

ด้วยการใช้เลข

ออกซิเดชันและวิธี

ครึง่ ปฏกิ ิริยา

15.ระบุองค์ประ เซลล์เคมีไฟฟ้าประกอบด้วย 4 5

ก อ บ ข อ ง เ ซ ล ล์ ขั้วไฟฟ้าและอิเล็กโทรไลต์ ซึ่ง

เคมีไฟฟ้าและเขียน อาจเชื่อมต่อแต่ละครึ่งเซลล์ดว้ ย

สมการเคมีของ สะพานเกลือหรือเยื่อ โดย

12

หน่วย ช่ือ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้/ู สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
ท่ี หนว่ ยการ (ช่วั โมง) คะแนน

เรยี นรู้

ปฏิกิริยาที่แอโนด ขั้วไฟฟ้าที่เกิดปฏิกิริยา

และแคโทด ปฏกิ ริ ิยา ออกซิเดชันเรียกว่าแอโนด และ

รวมและแผนภาพ ขั้วไฟฟ้าที่เกิดปฏิกิริยารีดักชัน

เซลล์ เรียกว่า แคโทด เซลล์เคมีไฟฟ้า

สามารถเขียนแสดงได้ด้วย

แผนภาพเซลล์

1 6 . ค ำ น ว ณ ค่ า ค่าศกั ย์ไฟฟ้าของเซลลค์ ำนวณได้ 5 5

ศักย์ไฟฟ้ามาตรฐาน จากค่าศักย์ไฟฟ้าของครึ่งเซลล์

ของเซลล์ และระบุ ถ้ามีค่าเป็น บว ก แสดง ว่ า

ประเภทของเซลล์ ปฏิกิริยา รีดอกซ์เกิดขึ้นได้

เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้า เองซึ่งพบในเซลล์กัลป์วานิก แต่

และปฏิกิริยาเคมีที่ ถา้ มีค่าเปน็ ลบแสดงวา่ ปฏิกิริยารี

เกดิ ขนึ้ ดอกซ์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เอง

17.อธิบายหลักการ ต้องมีการให้พลังงานไฟฟ้าจาก 2 5

ทำง าน และ เขียน แหลง่ กำเนิดไฟฟา้ ภายนอกจึงจะ

ส ม ก า ร แ ส ด ง เกิดปฏิกิริยาซึ่งพบในเซลล์อิเล็ก

ปฏิกิริยาของเซลล์ โทรลิตกิ

ป ฐ ม ภ ู ม ิ แ ล ะ เ ซ ล ล์

ทุตยิ ภูมิ

18.ทดลองชุบโลหะ ความรู้เกยี่ วกบั เซลล์เคมีไฟฟ้าท้ัง 4 11

และแยกสารเคมดี ้วย เซลล์กัลวานกิ และเซลล์อิเล็กโทร

กระแสไฟฟ้า และ ลิติกสามารถนำไปใช้ในการผลิต

อธิบายหลักการทาง แบตเตอรี่ การชุบโลหะ การ

เคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการ แยกสลายด้วยไฟฟ้า การทำ

ชุบโลหะ การแยก โลหะให้บริสุทธิ์ การป้องกันการ

สารเคมีด้วยกระแส กัดกร่อนของโลหะ และการ

ไฟฟ้า การทำโลหะ พัฒนาเทคโนโลยีที่นำไปสู่

ให้บริสุทธิ์ และการ นวัตกรรมด้านพลังงานที่เป็น

ป ้ อ ง ก ั น ก า ร ก รั ด มิตรตอ่ สิง่ แวดล้อม

กรอ่ นของโลหะ

13

หนว่ ย ชอื่ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้/สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
ท่ี หน่วยการ (ชัว่ โมง) คะแนน

เรยี นรู้

19.สืบค้นข้อมูลและ 36

นำเสนอตัวอย่าง

ความก้าวหน้าทาง

เทคโนโลยีท่เี กี่ยวข้อง

กับเซลล์เคมีไฟฟา้

รวม 60 100

14

กำหนดการจัดการเรียนรู้

รหสั วชิ า ว32222 รายวิชา เคมี 4

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ สาระเคมี

ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 5 เวลาเรยี น 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

หน่วย ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ เวลา สปั ดาห์ท่ี น้ำหนักคะแนน
ที่ (ช่ัวโมง) (100คะแนน)

1 กรด-เบส 27 1-9 50 คะแนน(45/5)

1.1ทฤษฎีกรด-เบส 31 3

1.2คูก่ รด-เบส 22 2

1.3การแตกตัวของกรด เบส และนำ้ 4 2-3 5

1.4สมบัติกรด-เบสของเกลือ 24 4

1.5pH ของสารละลายกรดและเบส 3 4-5 6

1.6ปฏกิ ิริยาเคมีระหวา่ งกรดและเบส 2 5-6 4

1.7การไทเทรตกรด-เบส 6 6-8 16

1.8สารละลายบฟั เฟอร์ 3 8-9 2/ปลายภาค 4

1.9การประยกุ ต์ใชค้ วามรูเ้ กี่ยวกับกรด-เบส 2 9 3/ปลายภาค 1

สอบกลางภาค - 10

2 เคมีไฟฟ้า 27 11-19 50 คะแนน

2.1เลขออกซิเดชันและปฏกิ ริ ยิ ารีดอกซ์ 6 11-12 9

2.2การดุลสมการรดี อกซ์ 6 13-14 9

2.3เซลลเ์ คมีไฟฟา้ 6 15-16 15

2.4ประโยชนข์ องเซลลเ์ คมีไฟฟ้า 6 17-18 11

2.5เทคโนโลยที ่ีเกยี่ วข้องกบั เคมไี ฟฟา้ 3 19 6

สอบปลายภาค - 20

รวม 54 100 คะแนน

15

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1

กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าเคมี 4 (ว32222)

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 2/2564

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 10 กรด-เบส เวลารวม 27 ชว่ั โมง

เรอื่ ง ทฤษฎีกรด-เบส เวลา 3 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นางสาวอนิ ทริ า สอี อ่ นแสง ปฏบิ ตั กิ ารสอน ม.5/3 วันที่.……เดือน……..……พ.ศ…….…….

ม.5/4 วันที่.……เดือน……..……พ.ศ….……….

1. สาระการเรยี นร้แู ละผลการเรยี นรู้
สาระที่ 5 สาระเคมี
2. เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการ

เกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี สมดุลในปฏกิ ิริยาเคมี สมบตั แิ ละปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกริ ิยารีดอกซ์ และเซลล์
เคมไี ฟฟา้ รวมทัง้ การนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์

ผลการเรยี นรู้
14. ระบุและอธิบายว่าสารเป็นกรดหรือเบส โดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียส

เบรินสเตด-ลาวรี และลวิ อสิ
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

สารในชีวิตประจำวันหลายชนิดมีสมบัติเป็นกรดหรือเบส ซึ่งพิจารณาได้โดยใช้ทฤษฎีกรด-
เบสของอาร์เรเนยี ส เบรนิ สเตด-ลาวรี หรอื ลิวอิส
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถ

1. ระบุ และอธิบายว่าสารใดเป็นกรดหรือเบส โดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนยี ส เบริน
สเตด-ลาวรี และลวิ อสิ

2. เขียนสมการทแ่ี สดงความเป็นกรดเปน็ เบสตามทฤษฎีกรด-เบสของอารเ์ รเนยี ส เบรินสเตด-
ลาวรี และลิวอสิ ได้

3. มีสว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรมในชั้นเรียน รบั ผิดชอบต่อภาระงานของตนเอง ทำงานร่วมกับ
ผอู้ ื่นได้
4. สาระการเรียนรู้

- ทฤษฎีทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียส กรดคือสารทีเ่ ม่ือละลายน้ำจะเพิ่มความเข้มข้นของ
H3O+ ส่วนเบสคือสารทเี่ มื่อละลายนำ้ จะเพมิ่ ความเขม้ ขน้ ของ OH-

16

- ทฤษฎกี รด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี กรดคือสารทีใ่ ห้โปรตอน และเบสคือสารท่รี บั โปรตอน
- ทฤษฎีกรด-เบสของลิวอิส โดยให้นิยามว่า กรดคือสารทีร่ ับคูอ่ ิเล็กตรอน และเบสคือสารท่ี
ใหค้ อู่ ิเลก็ ตรอน
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
6.1 รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
6.2 ซ่ือสัตย์สุจรติ
6.3 มวี นิ ัย
6.4 ใฝเ่ รยี นรู้
6.5 อยู่อย่างพอเพียง
6.6 มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
6.7 รกั ความเปน็ ไทย
6.8 มีจติ สาธารณะ
6.9 ทักษะกระบวนการคดิ
6.10 ความเปน็ ธรรมทางสังคม
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ใชร้ ปู แบบการจดั การเรียนรูต้ ามรปู แบบซปิ ปา (CIPPA MODEL)
7.1 ขั้นทบทวนความรูเ้ ดิม

1. นกั เรียนรว่ มกันตอบคำถาม เพื่อทบทวนความรู้เดมิ ของนกั เรียน โดยมีคำถามดงั นี้
- สมการเคมีคืออะไร และปะกอบด้วยอะไรบ้าง (แนวคำตอบ สมการเคมี คือ

กลุ่มสัญลักษณ์ที่เขียนแทนปฏิกิริยาเคมี เพื่อให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดขึ้นในระบบ
สมการเคมปี ระกอบดว้ ยสัญลกั ษณ์ แสดงสารตั้งต้นและผลติ ภัณฑ์ เงอ่ื นไขแสดงปฏกิ ริ ิยาเคมีที่เกิดข้ึน
พรอ้ มด้วยลูกศรแสดงทิศทางของปฏิกิรยิ า)

17

- นักเรียนยกตัวอย่างสารในชีวิตประจำวันที่มีสมบัติเป็นกรด และสารใน
ชีวติ ประจำวนั ท่ีมีสมบตั ิเป็นเบส (แนวคำตอบ นกั เรียนตอบตามความเข้าใจ)

- นกั เรียนคิดวา่ กระดาษลิตมสั คืออะไร (แนวคำตอบ กระดาษลติ มสั เป็นกระดาษ
ท่ีใชท้ ดสอบสมบัติความเป็นกรด-เบสของของเหลว กระดาษลติ มัสมีสองสีคือสีแดงหรือสีชมพู และสี
นำ้ เงินหรอื สฟี ้า)

2. นักเรียนทำแบบทดสอบความรู้ก่อนเรียน เกี่ยวกับการดุลสมการเคมี สมบัติ
เบื้องต้นของกรด-เบส สารประกอบไอออนิก ปริมาณสัมพันธ์ ค่าคงที่สมดุล ในหนังสือรายวิชาเคมี
เพมิ่ เติม เล่ม 4

7.2 ขัน้ แสวงหาความรใู้ หม่
1. ครูตง้ั ประเด็นคำถามเพื่อให้นกั เรยี นเกิดการแสวงหาความร้ใู หม่ ดังน้ี
- ทฤษฎีท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั กรด-เบสมีกท่ี ฤษฎี และแตท่ ฤษฎีมนี ิยามว่าอยา่ งไร
- นกั วิทยาศาสตร์ทไ่ี ด้ศกึ ษาทฤษฎกี รด-เบสมใี ครบ้าง
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยแต่ละคนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับทฤษฎีกรด-

เบสแต่ละรูปแบบจากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ เช่น คลิป
วดิ โี อ เรื่อง ทฤษฎกี รด-เบส

OR Code
เรือ่ ง ทฤษฎีกรด-เบส อารเ์ รเนียส

OR Code
เรอ่ื ง ทฤษฎกี รด-เบส เบรินสเตด-ลาวรี ลวิ อีส

3 นักเรียนแต่ละคนศึกษาสมการที่แสดงความเป็นกรดเป็นเบสตามทฤษฎีต่าง ๆ
พร้อมยกตัวอยา่ งสมการทีแ่ สดงความเปน็ กรดเปน็ เบสตามทฤษฎนี ้ัน ๆ

7.3 ข้ันการศกึ ษาทำความเขา้ ใจขอ้ มูล/ความรู้ใหมแ่ ละเชือ่ มความรใู้ หม่กบั ความรเู้ ดมิ
1. นักเรียนแต่ละคนสรุปองคค์ วามรู้การสืบค้นขอ้ มูลเก่ียวกับทฤษฎีกรด-เบสแต่ละ

รปู แบบและสมการที่แสดงความเป็นกรดเป็นเบสตามทฤษฎตี า่ ง ๆ ลงในสมุดบันทึก

18

2. ครูเขยี นสมการเคมีบนกระดานใหน้ กั เรยี นพจิ ารณา ดงั นี้
2.1
HCl(g) H+ (aq) + Cl- (aq)

NaOH (s) Na+ (aq) + OH- (aq)

- พร้อมตง้ั คำถามให้นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายวา่ “จากสมการ สารใดเป็นกรด สาร
ใดเป็นเบส ตามทฤษฎีกรด-เบสอาร์เรเนียส เพราะเหตุใด” (แนวคำตอบ HCl เป็นกรด เพราะเมื่อ
ละลายน้ำแล้วแตกตัวให้ไฮโดรเจนไอออน ส่วน NaOH เป็นเบส เพราะเมื่อละลายน้ำแล้วแตกตัวให้
ไฮดรอกไซดไ์ อออน)

2.2

- พรอ้ มตง้ั คำถามใหน้ ักเรยี นรว่ มกันอภิปรายวา่ “จากสมการ สารใดเปน็ กรด สาร
ใดเปน็ เบสตามทฤษฎกี รด-เบสของเบรนิ สเตต-ลาวรี เพราะเหตใุ ด” (แนวคำตอบ NH4+ เป็นสารท่ีให้
โปรตอน (H+) ดังนัน้ NH4+ จงึ เป็นกรด และ H2O เป็นสารท่ีรับโปรตอน (H+) ดังนัน้ H2O จงึ เป็นเบส)

2.3

- พร้อมตง้ั คำถามให้นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายว่า “จากสมการ สารใดเป็นกรด เบส
ตามทฤษฎีกรด-เบสของลิวอิส เพราะเหตใุ ด” (แนวคำตอบ NH3 เป็นเบส เพราะ มีอเิ ลก็ ตรอนคู่ 1 คู่
จะให้อเิ ลก็ ตรอนคู่กับกรดในการเกดิ พนั ธะโคเวเลนต์ และ BF3 รบั อเิ ลก็ ตรอนจาก NH3 ดงั นนั้ BF3 จึง
เป็นกรด)

7.4 ขน้ั การแลกเปลย่ี นความร้คู วามเข้าใจกบั กล่มุ
1. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันนำเสนอองค์ความรู้การสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ

ทฤษฎีกรด-เบสแต่ละรูปแบบและสมการที่แสดงความเป็นกรดเป็นเบสตามทฤษฎีต่าง ๆ ในสมุด

19

บันทึกของตนเองให้เพื่อนในกลุ่มฟัง แล้วซักถามข้อสงสัย จนทุกคนในกลุ่มมีความรู้ความเข้าใจท่ี
ถูกตอ้ งตรงกัน

7.5 ขั้นการสรปุ และจดั ระเบียบความรู้
1. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ มารับอปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ กระดาษชาร์ต ปากกาเคมี
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการสืบค้นและอภิปรายกับเพ่อื น

เก่ียวกบั ทฤษฎีกรด-เบสลงในกระดาษชาร์ต พร้อมทัง้ เขียนสมการแสดงความเป็นกรดเบสตามทฤษฎี
น้ัน ๆ ตามท่นี ักเรยี นเข้าใจ

3. ครูตั้งคำถามเพื่อจัดระเบียบองค์ความรู้ของนักเรียน โดยให้นักเรียนร่วมกัน
อภปิ รายดังหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้

- นกั เรยี นอธบิ ายเกย่ี วกบั ทฤษฎกี รด-เบสของอารเ์ รเนียส (แนวคำตอบ กรดตาม
ทฤษฎีทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียสคือสารท่ีเมือ่ ละลายน้ำจะเพ่ิมความเข้มข้นของ H3O+ ส่วนเบส
คอื สารท่เี ม่ือละลายน้ำจะเพม่ิ ความเขม้ ข้นของ OH-)

- นักเรียนอธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตด-ลาวรี (แนวคำตอบ
กรดคอื สารท่ใี ห้โปรตอน และเบสคอื สารทร่ี บั โปรตอน)

- นักเรียนอธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีกรด-เบสของลิวอิส (แนวคำตอบ กรดคือสารท่ี
รับค่อู เิ ล็กตรอน และเบสคอื สารทใ่ี ห้คู่อิเล็กตรอน)

- นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่าทฤษฎีทั้งสามนี้ มีข้อดี ข้อจำกัดอย่างไร (แนว
คำตอบ ทฤษฎีกรด-เบส อาร์เรเนียส จะเน้นเฉพาะการแตกตัวในน้ำ ให้เป็น H+ และ OH- ไม่รวมถึง
ตัวทำละลายอื่น ๆ ทำให้อธิบายความเป็นกรด-เบสได้จำกัด และสารที่จะเป็นกรดได้ต้องมี H+ อยู่ใน
โมเลกุล และสารที่จะเป็นเบสได้ก็ต้องมี OH- อยู่ในโมเลกุล ทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตต-ลาวรี
ใช้อธิบายสมบัติของกรด-เบส ได้กว้างกว่าทฤษฎีของอาร์เรเนียส แต่ยังมีข้อจำกัดคือ สารที่จะทำ
หน้าที่เป็นกรดจะต้องมีโปรตอนอยู่ในสารนั้น ทฤษฎีกรด-เบสของลิวอิสมีข้อดีคือ สามารถจำแนก
กรด-เบส ที่ไม่มีทั้ง H+ หรือ OH- ในสารนั้น และแม้ว่าสารนั้นไม่ได้อยู่ในรูปสารละลาย แต่อยู่ใน
สถานะกา๊ ซกส็ ามารถใชท้ ฤษฎลี วิ อิสอธบิ ายความเปน็ กรดเบสได้)

7.6 การแสดงผลงาน
1. นักเรียนแต่ละกลุม่ นำผลงานทีส่ ืบค้นขอ้ มูลเก่ียวกับทฤษฎีกรด-เบสไปนำเสนอท่ี

หน้าชัน้ เรียน
2. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ตรวจสอบข้อมูลของเพือ่ น ๆ แต่ละกลุ่ม โดยร่วมกันพิจารณา

วา่ ขอ้ มลู ของแต่ละกลมุ่ เหมือนหรอื ต่างกนั อยา่ งไร

20

7.7 การประยกุ ตใ์ ช้ความรู้

1. นักเรียนนำความรูท้ ี่ได้จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับทฤษฎีกรด-เบสมาใช้ในการ

ตอบคำถามในตรวจสอบความเข้าใจ และแบบฝกึ หดั 10.1

8. สือ่ และแหล่งเรยี นรู้

8.1 สอ่ื การเรยี นรู้

- หนงั สอื เรยี นรายวชิ าเคมีเพิม่ เติม เล่ม 4 สสวท. (ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา

ขนั้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

- อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการทำกิจกรรม ได้แก่ กระดาษชาร์ต ปากกาเคมี

- คลิปวดิ ีโอ เรือ่ ง ทฤษฎีกรด-เบส

8.2 แหลง่ การเรียนรู้

- หอ้ งสมดุ

- แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ เชน่ https://proj14.ipst.ac.th

9. การวัดและประเมิน

จุดประสงค์ เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ระบุ และอธิบายว่าสาร - สมดุ บันทกึ , แบบฝกึ หัด - ได้คะแนนร้อยละ70 ขึน้ ไป

ใดเปน็ กรดหรือเบส โดยใช้ ท่ี 10.1 - ได้คะแนนร้อยละ70 ขึน้ ไป

ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เร -ตรวจสอบความเขา้ ใจ -มีการตอบคำถามในชั้นเรียนและ

เนียส เบรินสเตด-ลาวรี - การตอบคำถาม แสดงความสนใจในเนื้อหาที่สอน

และลิวอสิ อยู่ในเกณฑด์ ีขึ้นไป

2. เขียนสมการที่แสดง - การนำเสนอ - ได้คะแนนร้อยละ70 ขึ้นไป

ความเปน็ กรดเปน็ เบสตาม - การตอบคำถาม -มีการตอบคำถามในชั้นเรียนและ

ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เร แสดงความสนใจในเนื้อหาที่สอน

เนียส เบรินสเตด-ลาวรี อยใู่ นเกณฑด์ ขี ึน้ ไป

และลวิ อสิ ได้

3. มีส่วนร่วมในการทำ - การสงั เกตพฤติกรรม -ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดี

กิจกรรมในชั้นเรียน ขนึ้ ไป

รับผิดชอบต่อภาระงาน

ของตนเอง ทำงานร่วมกับ

ผอู้ ืน่ ได้

21

แบบประเมินพฤตกิ รรมของนกั เรยี น

คำช้แี จง ให้ครผู ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นตามรายการทกี่ ำหนด แล้วเขยี นเครือ่ งหมาย ✓ ลงใน

ช่องทตี่ รงกบั พฤติกรรมนกั เรียนเป็นรายบคุ คล

ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5/3

เลขที่ ชอื่ -นามสกลุ ความสนใจ การตอบคำถามงารนับทผีม่ิดชอบอบหตม่อาย ผลการ
ประเมิน

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผา่ น ไม่ผา่ น

1 นายธนดล ศรษี ะ

2 นายวรนิ ทร ทิพวัจนา

3 นายธนวัฒน์ สดี ายา

4 นายภทั รชนนท์ สุระขันธ์

5 นายรชต นลิ จิตร์

6 นายอนุวัฒน์ คำดีบญุ

7 นายเริงฤทธิ์ ขันวงั

8 นายนรตุ ม์ เมืองมา

9 นายชชั วาล คำบึงกลาง

10 นายอธชิ าติ ขันทองคำ

11 นายธนกร วฒุ สิ าร

12 นายพงษ์ศรัญ เช็งเส็ง

13 นายรจุ น์ รุดชาติ

14 นางสาวปพิชญา มกุ ดาม่วง

15 นางสาวปิยธิดา อดุ มา

16 นางสาวทิฆมั พร ศรอี ุดม

17 นางสาวประวนิ รตั น์ ศรคี ำภา

18 นางสาวกรรณิกา นาคโชติ

19 นางสาวกัญญาณฐั จนั ทะจร

20 นางสาวศุภลกั ษณ์ จิตธรรม

22

เลขท่ี ชอ่ื -นามสกุล ความสนใจ การตอบคำถามงารนับทผี่มดิ ชอบอบหตม่อาย ผลการ
ประเมนิ
21 นางสาวอารยา คำพลแสน
22 นางสาวชนิตรน์ ันท์ ยนื นาน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผา่ น ไมผ่ า่ น
23 นางสาววรรณวษิ า จันทร
24 นางสาววรรณษา คำมุกชิก
25 นางสาวอรปรยี า นวลจนั ทร์

ลงชอ่ื ……………………………….ผู้สงั เกต
(………….………..…….........…………….…)
วนั ท่ี………..เดือน.….....………พ.ศ……….....

23

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5/4 ความสนใจ การตอบคำถามงารนบั ทผมี่ิดชอบอบหตมอ่าย ผลการ
ประเมิน
เลขที่ ช่อื -นามสกลุ
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผ่าน ไม่ผา่ น
1 นายชยั วฒั น์ ทสิ า
2 นายพงษ์สพัฒน์ พฤพล
3 นายศราวุฒิพงษ์ นนทะชติ
4 นายอดิศักด์ิ สมวาส
5 นายกันตภณ สุภาอ้วน
6 นายเจษฎาภรณ์ พากุล
7 นายธนากร พรมยาลี
8 นายวรี พฒั น์ พากุล
9 นายพงศภ์ ัค ห่อหุ้มดี
10 นายณวพล พาพินิจ
11 นายภดู ิศ ซนุ ลาภเจรญิ
12 นายวรากร บอ่ คำเกดิ
13 นายสุรพัฒน์ โทนผุย
14 นายจริ นลิ จติ ร์
15 นายธญั พิสษิ ฐ์ อุดมภกั ดี
16 นายชวกรณ์ ทองดี
17 นายกรณ์ดนยั นวกะคาม
18 นายกิตติศักด์ิ นอ้ ยมี
19 นายชติ ติพัฒน์ อ้ยุ ปะโค
20 นายประวิทย์ ธชทรงธรรม
21 นายวรพล ศรีสงคราม
22 นายศภุ กร ไชยสทิ ธ์ิ
23 นายศุภราช แสงจนั ทร์
24 นายอนุชา พนั ธ์เสนา

24

เลขที่ ชอ่ื -นามสกลุ ความสนใจ การตอบคำถามงารนบั ทผม่ีดิ ชอบอบหตม่อาย ผลการ
ประเมนิ
25 นางสาวอมราพร จงใจดี
26 นางสาวนิศานาถ มีคำแสน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผ่าน ไมผ่ า่ น
27 นางสาววีนัส จนั ทำ
28 นางสาวปาริชาติ คำแก้ว
29 นางสาวเบญจพร บัวจมู
30 นางสาวณิชมน พลสกั ขวา
31 นางสาวชลิดา อะสชุ วี ะ
32 นางสาวธนพร แสงออ่ น

ลงช่ือ……………………………….ผู้สังเกต
(………….………..…….........…………….…)
วันท่ี………..เดือน.….....………พ.ศ……….....

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ = ดีมาก ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั = ดี ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั = พอใช้

ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง = ปรับปรุง

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

10-12 ดีมาก

7-9 ดี

4-6 พอใช้

0-3 ปรบั ปรุง

25

26

27

28

บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรียนรู้
สรุปผลการเรียนการสอน

1. นกั เรยี นจำนวน........................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ..............คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................................
ไม่ผ่านจดุ ประสงค์............................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................................. ไดแ้ ก่
1. ..........................................................................................
2. ..........................................................................................
3. ..........................................................................................
นกั เรยี นที่มคี วามสามารถพิเศษไดแ้ ก่
1. ...........................................................................................
2. ..........................................................................................

2. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจ (K) ……………………………….…………………..………..……………..
……………………………………………………………………………………………………………………………….…………..…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. นกั เรียนมีความร้เู กิดทักษะ (P) ……………………………………………………………………..…….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. นกั เรยี นมีเจตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแก้ไข .........................................................................................................
................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………..……………………….
................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.................................................................
(นางสาวอินทิรา สีออ่ นแสง)
ผูส้ อน

นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู

29

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 2

กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาเคมี 4 (ว32222)

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2/2564

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 10 กรด-เบส เวลารวม 27 ชว่ั โมง

เรอื่ ง คกู่ รด-เบส เวลา 2 ช่วั โมง

ผู้สอน นางสาวอนิ ทริ า สอี อ่ นแสง ปฏบิ ตั ิการสอน ม.5/3 วนั ท.่ี ……เดอื น……..……พ.ศ…….…….

ม.5/4 วันที่.……เดอื น……..……พ.ศ….……….

1. สาระการเรยี นรแู้ ละผลการเรยี นรู้
สาระที่ 5 สาระเคมี
2. เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการ

เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี สมดลุ ในปฏิกิริยาเคมี สมบัตแิ ละปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์ และเซลล์
เคมีไฟฟา้ รวมท้งั การนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ผลการเรยี นรู้
15. ระบคุ ู่กรด-เบสของสารตามทฤษฎกี รด-เบสของเบรินสเตด-ลาวรี

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี เมอื่ กรดหรอื เบสละลายน้ำ หรอื ทำปฏิกิริยากบั สาร

อื่นจะมีการถ่ายโอนโปรตอนระหว่างสารตั้งต้นที่เป็นกรดและเบส เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นโมเลกลุ
หรือไอออนที่เป็นคู่กรด-เบสของสารตั้งต้นนั้น โดยสารที่เป็นคู่กรด-เบสกันจะมีโปรตอนต่างกัน 1
โปรตอน
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ

1. ระบุ และอธิบายว่าสารใดเป็นกรดหรือเบส โดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียส เบริน
สเตด-ลาวรี และลวิ อสิ

2.บอกความแตกต่างของจำนวนโปรตอนของสารที่เป็นคู่กรด-เบสกัน พร้อมทั้งเขียนแสดง
ปฏกิ ิริยาการถ่ายโอนโปรตอนของสารได้

3. นกั เรยี นเขยี นแผนภาพแสดงคกู่ รด-เบสของสารได้
4. มสี ่วนรว่ มในการทำกิจกรรมในช้ันเรียน รับผดิ ชอบตอ่ ภาระงานของตนเอง ทำงานร่วมกับ
ผูอ้ นื่ ได้

30

4. สาระการเรยี นรู้
- คู่กรด-เบสตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตด-ลาวรี คือคู่ของสารที่ทำหน้าที่เป็นกรดใน

ปฏิกิริยาไปขา้ งหน้ากับสารที่ทำหน้าที่เปน็ เบสในปฏิกริ ยิ าย้อนกลับหรือคู่ของสารที่ทำหน้าท่ีเป็นเบส
ในปฏกิ ริ ิยาไปข้างหนา้ กับสารท่ที ำหนา้ ท่ีเป็นกรดในปฏิกิริยายอ้ นกลับ

- สารที่เปน็ ค่กู รด-เบสกันจะมีโปรตอน (H+) ต่างกัน 1 โปรตอน โดยค่กู รดมีโปรตอนมากกว่า
เบส 1 โปรตอน และคู่เบสมีโปรตอนน้อยกว่ากรด 1 โปรตอน และสารบางชนิดสามารถให้หรือรับ
โปรตอนไดม้ ากกว่า 1 โปรตอนต่อ 1 โมเลกลุ ในแตล่ ะข้ันของปฏกิ ริ ิยา

- การแตกตวั จะมคี ู่กรด-เบสเกดิ ขนึ้ เรยี กสารน้วี า่ สารแอมโฟเทอรกิ คือสารทส่ี ามารถเป็นได้
ทงั้ คู่กรดและค่เู บสขน้ึ อย่กู ับปฏิกิริยา เชน่ H2PO4- และ HS- เปน็ ตน้
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

5.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
5.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
5.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
6.1 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
6.2 ซ่อื สัตย์สจุ ริต
6.3 มีวนิ ยั
6.4 ใฝเ่ รยี นรู้
6.5 อยู่อย่างพอเพียง
6.6 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
6.7 รกั ความเป็นไทย
6.8 มจี ติ สาธารณะ
6.9 ทกั ษะกระบวนการคดิ
6.10 ความเปน็ ธรรมทางสังคม

31

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ใชร้ ูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL)
7.1 ข้นั ทบทวนความรู้เดมิ
1. นกั เรียนรว่ มกนั ตอบคำถาม เพอ่ื ทบทวนความรู้เดมิ ของนกั เรียน โดยมคี ำถามดังนี้
- ทฤษฎที ่ีเกยี่ วขอ้ งกบั กรด-เบสมีกี่ทฤษฎี อะไรบา้ ง (แนวคำตอบ 3 ทฤษฎี ได้แก่

ทฤษฎกี รด-เบสของอารเ์ รเนยี ส ทฤษฎกี รด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรีและทฤษฎกี รด-เบสของลิวอสิ
- ทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตด-ลาวรีมีนิยามว่าอย่างไร (แนวคำตอบ กรด คือ

สารที่ใหโ้ ปรตอน เบส คอื สารทีร่ ับโปรตอนจากสารอ่นื
2. นักเรียนร่วมกันตอบคำถามเพื่อทบทวนความรู้เดิมและตอบคำถามเพื่อนำไปสู่

เนอ้ื หาการเรียนรู้เร่ือง ค่กู รด-เบส
7.2 ข้ันแสวงหาความร้ใู หม่
1. ครูยกตวั อย่างปฏิกริ ยิ าของกรดไฮโดรฟูลออริกในนำ้ แลว้ ให้นกั เรียนระบวุ ่าสาร

ตั้งตน้ แต่ละชนดิ เปน็ กรดหรือเบสตามทฤษฎกี รด-เบสเบรนิ สเตด-ลาวรี ซ่งึ ควรไดค้ ำตอบว่า HF เป็น
กรดและ H2O เปน็ เบส จากนนั้ ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาปฏิกริ ยิ าย้อนกลบั และระบุความเป็นกรด-เบสของ
H3O+และ F- ซง่ึ ควรได้คำตอบว่า H3O+ เป็นกรด และ F- เปน็ เบส

คกู่ รด-เบส

HF(aq) + H2O(l) ⇌ F-(aq) + H3O+(aq)

กรด เบส เบส กรด

ค่กู รด-เบส

2. นักเรียนตอบคำถามต่อไปนีเ้ พ่ือให้เกิดการแสวงหาความรู้ใหม่ ดังนี้
- นักเรียนรูจ้ ักคู่กรด-เบสหรอื ไม่
- คู่กรด-เบสคอื อะไร
- การระบคุ ่กู รด-เบสของสาร พจิ ารณาได้อย่างไร
- สารแอมโฟเทอรกิ คอื อะไร

3. ให้ความรู้เกีย่ วกับความหมายของคู่กรด-เบสโดยใชต้ ัวอยา่ ง F- ซึ่งเป็นคู่เบสของ
กรด HF จากนน้ั ใชค้ ำ ถามวา่ สารใดเป็นคกู่ รดของ H2O ซึง่ ควรได้คำ ตอบว่า H3O+

32

4. นักเรยี นจบั กล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน แต่ละคนสบื ค้นขอ้ มลู เกี่ยวกบั คูก่ รด-เบสของสาร
ตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรแี ละการเขยี นแผนภาพคู่กรด-เบสของสารจากหนังสือเรียน
หนงั สือค้นควา้ เพิ่มเติม และแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ เชน่ คลปิ วดิ ีโอ เรื่องคู่กรด-เบส

QR Code คลปิ วิดโี อ
เร่ือง คู่กรด-เบส

7.3 ขน้ั การศึกษาทำความเขา้ ใจข้อมลู /ความร้ใู หมแ่ ละเช่อื มความร้ใู หม่กบั ความร้เู ดมิ
1. นกั เรียนแตล่ ะคนสรปุ องค์ความรู้การสบื คน้ ข้อมลู เก่ียวกบั คกู่ รด-เบสของสารตาม

ทฤษฎกี รด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี และการเขยี นแผนภาพคกู่ รด-เบสของสารลงในสมุดบันทกึ
2. เขียนสมการเคมบี นกระดานใหน้ กั เรียนพิจารณา

2.1 H2O(l) + NH3(aq) ⇌ NH4+ (aq) + OH-(aq)

- พร้อมตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า “จากสมการ สารใดเป็นคู่กรด-
เบสกันและเขียนแผนภาพแสดงคู่กรดเบสของสารได้อย่างไร” (แนวคำตอบ ในปฏิกิริยาไป
ขา้ งหน้า H2O เป็นกรดเพราะใหโ้ ปรตอนเกิดเปน็ OH- สว่ นปฏกิ ิรยิ าย้อนกลับ OH- เปน็ เบส เพราะรับ
โปรตอนเกดิ เป็น H2O จึงเรยี ก H2O และ OH- วา่ เปน็ ค่กู รด-เบส ซ่งึ กันและกัน โดยเรยี ก OH- วา่ เป็น
คู่เบสของ H2O และเรียก H2O ว่าเป็นคู่กรดของ OH- สำหรับ NH3 พิจารณาได้ในทำนองเดียวกัน
คือในปฏิกิริยาไปข้างหน้า NH3 เป็นเบสเพราะรับโปรตอนจาก H2O เกิดเป็น NH4+ ส่วนปฏิกิริยา
ย้อนกลับ NH4+ เปน็ กรดเพราะใหโ้ ปรตอนแก่ OH- แลว้ เกิดเปน็ NH3 จึงเรียก NH4+ และ NH3 ว่าเป็น
คู่กรด-เบส ซึ่งกันและกัน โดยเรียก NH4+ ว่าเป็นคู่กรดของ NH3 และเรียก NH3 ว่าเป็นคู่เบส
ของ NH4+ สามารเขียนแผนภาพแสดงคกู่ รดเบสไดด้ ังนี้

ค่กู รด-เบส

H2O(l) + NH3(aq) ⇌ NH4+ (aq) + OH-(aq)

กรด เบส กรด เบส

คูก่ รด-เบส

33

2.2 CH3COO-(aq) + H2O(l) ⇌ CH3COOH(aq) + OH-(aq)
- พร้อมต้ังคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายวา่ “จากสมการ สารใดเป็นคู่กรด-
เบสกัน และเขียนแผนภาพแสดงคู่กรดเบสของสารได้อย่างไร” (แนวคำตอบ ในปฏิกิริยาไป
ข ้ า ง ห น ้ า CH3COO- เ ป ็ น เ บ ส เ พ ร า ะ ร ั บ โ ป ร ต อ น เ ก ิ ด เ ป ็ น CH3COOH ส ่ ว น ป ฏ ิ ก ิ ร ิ ย า
ย้อนกลับ CH3COOH เป็นกรด เพราะให้โปรตอนเกิดเป็น CH3COO- จึงเรียก CH3COO- และ
CH3COOH ว่าเป็น คู่กรด-เบส ซึ่งกนั และกนั โดยเรียก CH3COO- ว่าเป็นคู่เบสของ CH3COOH และ
เรียก CH3COOH ว่าเป็นคู่กรดของ CH3COO- สำหรับ H2O พิจารณาได้ในทำนองเดียวกันคือใน
ปฏิกิริยาไปขา้ งหน้า H2O เป็นกรดเพราะให้โปรตอน เกิดเป็น OH- ส่วนปฏิกิรยิ ายอ้ นกลับ OH- เป็น
เบสเพราะรับโปรตอนแล้วเกดิ เป็น H2O จึงเรยี ก H2O และ OH- ว่าเปน็ คกู่ รด-เบส ซงึ่ กันและกันโดย
เรียก H2O ว่าเป็นคู่กรดของ OH- และเรียก OH- ว่าเป็นคู่เบสของ H2Oสามารเขียนแผนภาพแสดงคู่
กรดเบสได้ดงั น้ี

คกู่ รด-เบส

CH3COO-(aq) + H2O(l) ⇌ CH3COOH(aq) + OH-(aq)

เบส กรด กรด เบส

คกู่ รด-เบส

3.นักเรียนพิจารณาศัพท์น่ารู้ ในหนังสือเรียนรายวิชาเคมีเพิ่มเติม เล่ม 4 หน้า11
กรดมอนอโปรตกิ และกรดพอลิโปรตกิ

4. เขียนสมการเคมีบนกระดานให้นกั เรยี นพิจารณา ดังนี้

4.1 H3PO4(aq) + H2O(l) ⇌ H2PO4-(aq) + H3O+(aq)
H2PO4-(aq) + H2O(l) ⇌ HPO42-(aq) + H3O+(aq)
HPO42-(aq) + H2O(l) ⇌ PO43-(aq) + H3O+(aq)
H3PO4 แตกตวั ในน้ำให้ 3 โปรตอน

4.2 S2-(aq) + H2O(l) ⇌ HS-(aq) + OH-(aq)
HS-(aq) + H2O(l) ⇌ H2S(aq) + OH-(aq)
S2- รับโปรตอนจากนำ้ ได้ 2 โปรตอน

จากปฏิกิริยาเคมีของ H3PO4 และ S2- ในน้ำจะเห็นว่าสารบางชนิด เช่น H2PO4-
HS- เป็นไดท้ ัง้ กรดและเบสข้นึ อยูก่ บั ปฏกิ ิรยิ า เรียกสารประเภทนี้ว่า สารแอมโฟเทอริก (amphoteric
substances) ซงึ่ มีทั้งคูก่ รดและค่เู บส

34

7.4 ขน้ั การแลกเปลย่ี นความรคู้ วามเข้าใจกบั กลุ่ม
1. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับคู่กรด-เบสของสารตาม

ทฤษฎีของเบรินสเตด-ลาวรี
2. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มร่วมกันคิดและตอบคำถามตรวจสอบความเข้าใจใน

หนงั สือเรียนรายวิชาเคมเี พมิ่ เตมิ เลม่ 4 หน้า 10, 12
7.5 ขัน้ การสรุปและจดั ระเบียบความรู้
1. นักเรียนร่วมกันอภปิ รายเพื่อจัดระเบียบองค์ความรู้ เรื่องคู่กรด-เบสจากคำถาม

ต่อไปน้ี
- ค่กู รด-เบส คืออะไร (แนวคำตอบ คู่กรด-เบส คอื คขู่ องสารท่ีทำหน้าที่เป็นกรด

ในปฏิกิริยาไปข้างหน้ากบั สารท่ีทำหน้าที่เป็นเบสในปฏิกิรยิ าย้อนกลบั หรือคู่ของสารทีท่ ำหน้าที่เปน็
เบสในปฏิกิรยิ าไปข้างหน้ากับสารท่ที ำหน้าทีเ่ ป็นกรดในปฏิกริ ยิ าย้อนกลบั โดยสารท่ีเปน็ คู่กรด-เบสกัน
จะมีโปรตอน (H+) ต่างกัน 1 โปรตอน โดยคู่กรดมีโปรตอนมากกว่าเบส 1 โปรตอน และคู่เบสมี
โปรตอนนอ้ ยกว่ากรด 1 โปรตอน)

- ในปฏิกิรยิ าหนง่ึ ๆ อาจจดั คู่กรด-เบสไดท้ ัง้ หมดกีค่ ู่ (แนวคำตอบ 2 ค)ู่
- การระบุคู่กรด-เบสของสาร พิจารณาได้อย่างไร (แนวคำตอบ จากทฤษฎีกรด-
เบสของเบรินสเตด-ลาวรี พิจารณาจาก 1. ทิศทางของปฏิกิริยาเคมีของสารนั้นว่าไปข้างหน้าหรือ
ยอ้ นกลับ 2. โปรตอน)
- สารแอมโฟเทอริกคืออะไร จงยกตัวอย่าง (แนวคำตอบ สารแอมโฟเทอริกคือ
สารที่สามารถเป็นได้ทั้งคู่กรดและคู่เบสขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาเนื่องจากสารบางชนิดสามารถให้หรือรับ
โปรตอนได้มากกว่า 1 โปรตอนต่อ 1 โมเลกุลในแต่ละขั้นของปฏิกิริยาการแตกตัวจะมีคู่กรด-เบส
เกิดขึ้น เช่น H2PO4- และ HS- เป็นตน้ )
7.6 การแสดงผลงาน
1. สุ่มนกั เรยี นในแต่ละกลมุ่ เขยี นคำตอบตรวจสอบรู้ความหน้ากระดาน และใหเ้ พอ่ื น
แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
2. สุ่มนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลงานนำผลงานที่สืบคน้ ข้อมูลเก่ียวกับคู่กรด-เบส
ของสารตามทฤษฎีของเบรินสเตด-ลาวรไี ปนำเสนอทห่ี น้าชนั้ เรียน
7.7 การประยกุ ต์ใช้ความรู้
1. นกั เรยี นนำความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการสืบคน้ ขอ้ มลู เกีย่ วกับคกู่ รด-เบสของสารตามทฤษฎี
ของเบรินสเตด-ลาวรีมาใช้ในการตอบคำถามตรวจสอบความเข้าใจในหนงั สือเรยี นรายวชิ าเคมีเพ่ิมเติม
เลม่ 4 หน้า 10, 12

35

2. นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการสืบค้นขอ้ มูลเกี่ยวกับทฤษฎีกรด-เบสมาใช้ในการ
ตอบคำถามในตรวจสอบความเขา้ ใจ และแบบฝกึ หัด 10.2
8. สอื่ และแหลง่ เรยี นรู้

8.1 สอ่ื การเรียนรู้
- หนงั สือเรียนรายวชิ าเคมีเพมิ่ เติม เลม่ 4 สสวท. (ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา

ขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
- คลปิ วิดีโอ เรือ่ ง คกู่ รด-เบส

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
- ห้องสมุด
- แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ เช่น https://proj14.ipst.ac.th

36

9. การวัดและประเมนิ

จุดประสงค์ เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
- ได้คะแนนรอ้ ยละ70 ขน้ึ ไป
1. ระบุ และอธิบายว่าสาร - สมดุ บันทกึ , แบบฝกึ หดั - ได้คะแนนรอ้ ยละ70 ขึ้นไป
-มีการตอบคำถามในชั้นเรียนและ
ใดเป็นกรดหรอื เบส โดยใช้ ที่ 10.2 แสดงความสนใจในเนื้อหาที่สอน
อยู่ในเกณฑด์ ีขน้ึ ไป
ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เร -ตรวจสอบความเขา้ ใจ

เนียส เบริน สเตด-ลาวรี - การตอบคำถาม

และลวิ อสิ

2.บอกความแตกต่างของ - สมุดบันทึก, แบบฝึกหัด - ได้คะแนนร้อยละ70 ขน้ึ ไป
จำนวนโปรตอนของสารที่ ท่ี 10.2 - ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ70 ขน้ึ ไป
เป็นคู่กรด-เบสกัน พร้อม -ตรวจสอบความเข้าใจ -มีการตอบคำถามในชั้นเรียนและ
ทง้ั เขียนแสดงปฏกิ ิริยาการ - การตอบคำถาม แสดงความสนใจในเนื้อหาที่สอน
ถ่ายโอนโปรตอนของสาร อยูใ่ นเกณฑ์ดีขึ้นไป
ได้

3. นักเรียนเขียนแผนภาพ - สมดุ บันทึก, แบบฝกึ หดั - ได้คะแนนร้อยละ70 ขึน้ ไป
แสดงคู่กรด-เบสของสาร ที่ 10.2 - ไดค้ ะแนนร้อยละ70 ขึ้นไป
ได้ -การนำเสนอ -มีการตอบคำถามในช้ันเรียนและ
แสดงความสนใจในเนอ้ื หาท่ีสอน
- การตอบคำถาม อยู่ในเกณฑด์ ขี ้นึ ไป
-ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดี
4. มีส่วนร่วมในการทำ - การสังเกตพฤติกรรม ขึน้ ไป
กิจกรรมในชั้นเรียน
รับผิดชอบต่อภาระงาน
ของตนเอง ทำงานร่วมกับ
ผู้อน่ื ได้

37

แบบประเมินพฤตกิ รรมของนกั เรยี น

คำช้แี จง ให้ครผู ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นตามรายการทกี่ ำหนด แล้วเขยี นเครือ่ งหมาย ✓ ลงใน

ช่องทตี่ รงกบั พฤตกิ รรมนกั เรียนเป็นรายบคุ คล

ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/3

เลขที่ ชอื่ -นามสกลุ ความสนใจ การตอบคำถามงารนับทผีม่ิดชอบอบหตม่อาย ผลการ
ประเมิน

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผา่ น ไม่ผา่ น

1 นายธนดล ศรษี ะ

2 นายวรินทร ทิพวัจนา

3 นายธนวฒั น์ สดี ายา

4 นายภัทรชนนท์ สุระขันธ์

5 นายรชต นลิ จิตร์

6 นายอนวุ ัฒน์ คำดีบญุ

7 นายเรงิ ฤทธิ์ ขันวงั

8 นายนรตุ ม์ เมืองมา

9 นายชัชวาล คำบึงกลาง

10 นายอธชิ าติ ขันทองคำ

11 นายธนกร วฒุ สิ าร

12 นายพงษ์ศรัญ เช็งเส็ง

13 นายรุจน์ รุดชาติ

14 นางสาวปพิชญา มกุ ดาม่วง

15 นางสาวปิยธิดา อดุ มา

16 นางสาวทิฆัมพร ศรอี ุดม

17 นางสาวประวนิ รตั น์ ศรคี ำภา

18 นางสาวกรรณิกา นาคโชติ

19 นางสาวกัญญาณฐั จนั ทะจร

20 นางสาวศุภลกั ษณ์ จิตธรรม

38

เลขท่ี ชื่อ-นามสกุล ความสนใจ การตอบคำถามงารนับทผี่มดิ ชอบอบหตม่อาย ผลการ
ประเมนิ
21 นางสาวอารยา คำพลแสน
22 นางสาวชนิตรน์ ันท์ ยนื นาน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผา่ น ไมผ่ า่ น
23 นางสาววรรณวษิ า จันทร
24 นางสาววรรณษา คำมุกชิก
25 นางสาวอรปรยี า นวลจนั ทร์

ลงชอ่ื ……………………………….ผู้สงั เกต
(………….………..…….........…………….…)
วนั ท่ี………..เดือน.….....………พ.ศ……….....

39

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5/4 ความสนใจ การตอบคำถามงารนบั ทผมี่ิดชอบอบหตมอ่าย ผลการ
ประเมิน
เลขที่ ช่อื -นามสกลุ
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผ่าน ไม่ผา่ น
1 นายชยั วฒั น์ ทสิ า
2 นายพงษ์สพัฒน์ พฤพล
3 นายศราวุฒิพงษ์ นนทะชติ
4 นายอดิศักด์ิ สมวาส
5 นายกันตภณ สุภาอ้วน
6 นายเจษฎาภรณ์ พากุล
7 นายธนากร พรมยาลี
8 นายวรี พฒั น์ พากุล
9 นายพงศภ์ ัค ห่อหุ้มดี
10 นายณวพล พาพินิจ
11 นายภดู ิศ ซนุ ลาภเจรญิ
12 นายวรากร บอ่ คำเกดิ
13 นายสุรพัฒน์ โทนผุย
14 นายจริ นลิ จติ ร์
15 นายธญั พิสษิ ฐ์ อุดมภกั ดี
16 นายชวกรณ์ ทองดี
17 นายกรณ์ดนยั นวกะคาม
18 นายกิตติศักด์ิ นอ้ ยมี
19 นายชติ ติพัฒน์ อ้ยุ ปะโค
20 นายประวิทย์ ธชทรงธรรม
21 นายวรพล ศรีสงคราม
22 นายศภุ กร ไชยสทิ ธ์ิ
23 นายศุภราช แสงจนั ทร์
24 นายอนุชา พนั ธ์เสนา

40

เลขที่ ชอ่ื -นามสกลุ ความสนใจ การตอบคำถามงารนบั ทผม่ีดิ ชอบอบหตม่อาย ผลการ
ประเมนิ
25 นางสาวอมราพร จงใจดี
26 นางสาวนิศานาถ มีคำแสน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผ่าน ไมผ่ า่ น
27 นางสาววีนัส จนั ทำ
28 นางสาวปาริชาติ คำแก้ว
29 นางสาวเบญจพร บัวจมู
30 นางสาวณิชมน พลสกั ขวา
31 นางสาวชลิดา อะสชุ วี ะ
32 นางสาวธนพร แสงออ่ น

ลงช่ือ……………………………….ผู้สังเกต
(………….………..…….........…………….…)
วันท่ี………..เดือน.….....………พ.ศ……….....

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ = ดีมาก ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั = ดี ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั = พอใช้

ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง = ปรับปรุง

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

10-12 ดีมาก

7-9 ดี

4-6 พอใช้

0-3 ปรบั ปรุง

41

42

43

44

บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรียนรู้
สรุปผลการเรียนการสอน

1. นกั เรยี นจำนวน........................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ..............คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................................
ไม่ผ่านจดุ ประสงค์............................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................................. ไดแ้ ก่
1. ..........................................................................................
2. ..........................................................................................
3. ..........................................................................................
นกั เรยี นที่มคี วามสามารถพิเศษไดแ้ ก่
1. ...........................................................................................
2. ..........................................................................................

2. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจ (K) ……………………………….…………………..………..……………..
……………………………………………………………………………………………………………………………….…………..…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. นกั เรียนมีความร้เู กิดทักษะ (P) ……………………………………………………………………..…….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. นกั เรยี นมีเจตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแก้ไข .........................................................................................................
................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………..……………………….
................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.................................................................
(นางสาวอินทิรา สีออ่ นแสง)
ผูส้ อน

นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู

45

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3

กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาเคมี 4 (ว32222)

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2/2564

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 10 กรด-เบส เวลารวม 27 ชวั่ โมง

เร่ือง การแตกตวั ของกรด เบส เวลา 3 ชวั่ โมง

ผู้สอน นางสาวอนิ ทริ า สีอ่อนแสง ปฏิบัตกิ ารสอน ม.5/3 วันท่ี.……เดอื น……..……พ.ศ…….…….

ม.5/4 วนั ท่ี.……เดอื น……..……พ.ศ….……….

1. สาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้
สาระท่ี 5 สาระเคมี
2. เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการ

เกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี สมดุลในปฏิกริ ิยาเคมี สมบตั ิและปฏกิ ิริยาของกรด-เบส ปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ และเซลล์
เคมไี ฟฟา้ รวมทั้งการนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

ผลการเรียนรู้
16. คำนวณและเปรยี บเทยี บความสามารถในการแตกตัวหรอื ความแรงของกรดและเบส

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
กรดและเบสแต่ละชนิดสามารถแตกตัวในน้ำไดแ้ ตกต่างกัน กรดแก่หรอื เบสแกส่ ามารถแตก

ตัวเป็นไอออนในน้ำได้เกือบสมบูรณ์ ส่วนกรดอ่อนหรือเบสอ่อนแตกตัวเป็นไอออนได้น้อยโดย
ความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของกรดหรอื เบสอาจพิจารณาไดจ้ ากค่าคงที่การแตกตัวของ
กรดหรอื เบส หรอื ปรมิ าณการแตกตวั เป็นรอ้ ยละของกรดหรอื เบส
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรียนสามารถ

1. อธิบายความหมายของกรดแก่ เบสแก่ กรดอ่อน เบสออ่ น พรอ้ มทัง้ ระบุว่าสารใดเป็นกรด
แก่ เบสแก่ กรดอ่อนเบสออ่ น

2. อธิบายการแตกตวั ของกรดแก่ เบสแก่ กรดอ่อน เบสอ่อน พร้อมทั้งเขียนสมการการแตก
ตวั เปน็ ไอออนได้

3. อธิบายความหมายของกรดมอนอโปรติก กรดไดโปรติก และกรดพอลิโปรติก พร้อมทั้ง
เขยี นสมการการแตกตัวเปน็ ไอออนได้

4. คำนวณหาความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนและไฮดรอกไซด์ไอออน สารอื่น ๆ ใน
ปฏกิ ริ ยิ าเคมี รอ้ ยละการแตกตวั และค่าคงทก่ี ารแตกตวั ของกรดอ่อนและเบสอ่อนได้


Click to View FlipBook Version