ก
รายวิชา เคมี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 4
หน่วยที่ 2 อะตอมและสมบตั ขิ องธาตุ
ชดุ ที่ 4 ตารางธาตุและสมบตั ขิ องธาตหุ มู่หลกั
โดย
นางสาวอนิ ทิรา สอี ่อนแสง
นางสาวสพุ ศิ ตรา เหมือนตาล
ก
ชุดท่ี 4 เรอื่ ง ตารางธาตุและสมบตั ิของธาตหุ มู่หลกั
คานา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จัดทาขึ้นเพ่ือใช้
ประกอบการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนรายวิชา เคมี หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
เรื่อง อะตอมและสมบตั ขิ องธาตุ ซง่ึ มที ง้ั หมด 7 ชดุ คือ
- ชุดท่ี 1 แบบจาลองอะตอม
- ชุดที่ 2 อนภุ าคในอะตอมและไอโซโทป
- ชุดท่ี 3 การจัดเรยี งอิเลก็ ตรอนในอะตอม
- ชุดท่ี 4 ตารางธาตแุ ละสมบัตขิ องธาตหุ ม่หู ลกั
- ชดุ ที่ 5 ธาตุแทรนซิชัน
- ชดุ ท่ี 6 ธาตกุ มั มนั ตรังสี
- ชดุ ท่ี 7 การนาไปใชป้ ระโยชน์และผลกระทบต่อสิ่งมชี วี ติ
การศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วย
ตนเองทั้งที่โรงเรยี นและทบ่ี ้านหรือฝึกในเวลาว่างและอาจใชซ้ ่อมเสริมสาหรับ
นักเรียน ท่ีเรียนอ่อนหรือเรียนไม่ทัน โดยนักเรียนต้องศึกษาและทากิจกรรม
เป็นข้นั ตอน เป็นระบบด้วยความซื่อสัตย์ ซง่ึ จะส่งผลใหน้ ักเรียนมีคุณลักษณะ
ทดี่ ตี ่อไป
ผู้รายงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เล่มนี้ จะเป็น
ประโยชน์แก่นักเรียนหรือผู้ท่ีสนใจเพื่อเป็นพ้ืนฐานและเป็นประโยชน์ ใน
การศึกษาเร่อื งอ่ืน ๆ ไดเ้ ปน็ อย่างดี
อินทริ า สอี ่อนแสง
สุพศิ ตรา เหมือนตาล
ข
ข
ชุดที่ 4 เรอ่ื ง ตารางธาตแุ ละสมบัติของธาตหุ มหู่ ลกั
สารบญั
เร่อื ง หน้า
คานา........................................................................................................................ก
สารบญั ……………………………………………..……………………………………………….………..ข
คาชแ้ี จง……………………………………………………………………………………………………....1
ข้ันตอนการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรยี นร.ู้ ........................................................................2
สาระและมาตรฐานการเรยี นร.ู้ ..................................................................................3
แบบทดสอบก่อนเรยี น..............................................................................................4
กระดาษคาตอบ........................................................................................................6
บัตรกจิ กรรม............................................................................................................7
กจิ กรรมที่ 1 เรือ่ ง ตารางธาตุ..................................................................................8
กิจกรรมที่ 2 เรื่อง สมบตั ิของธาตุหมูห่ ลัก................................................................9
แบบทดสอบหลังเรยี น…………………………………………………………………..………………11
กระดาษคาตอบ……………….…………………………………………………………………………13
บรรณานกุ รม……………….…………………………………………………………………………….14
ภาคผนวก……………….……………………………………………………………………………......15
เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น.............................................................................16
เฉลยกิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง ตารางธาต.ุ .........................................................................17
เฉลยกิจกรรมท่ี 2 เรอื่ ง สมบตั ขิ องธาตุ.....................................................................18
ใบความรทู้ ่ี 4 เรื่อง ตารางธาตุและสมบัติของธาตหุ ม่หู ลัก........................................19
ชุดท่ี 4 เรอ่ื ง ตารางธาตุและสมบตั ิของธาตหุ มู่หลกั 1
คาช้ีแจงเกีย่ วกบั
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรชู้ ุดน้ีเป็นชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ชดุ ที่ 4 เรอ่ื ง ตารางธาตุ
และสมบตั ิของธาตหุ มู่หลัก รายวชิ าเคมี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดน้ี ประกอบด้วย
- คาแนะนาการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้
- ขั้นตอนการศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้
- สาระสาคญั
- ผลการเรยี นรู้ / จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- บตั รทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
- บัตรเนื้อหา / บัตรกิจกรรม / บตั รเสริมทกั ษะการเรยี นรู้
- เฉลยบัตรเน้ือหา / เฉลยบัตรกจิ กรรม / เฉลยบัตรเสรมิ ทักษะการเรียนรู้
- บัตรเฉลยทดสอบหลงั เรียน
- บรรณานกุ รม
3. ชุดกจิ กรรมการเรยี นรูช้ ดุ นี้ ใช้เวลาในการเรียนรู้ 3 ช่วั โมง
ชุดที่ 4 เรื่อง ตารางธาตุและสมบตั ิของธาตหุ มู่หลกั 2
คาแนะนาการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. อ่านคาชี้แจง และคาแนะนาการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ใหเ้ ขา้ ใจก่อนท่ี
จะลงมือศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้
2. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 4 ขอ้ เพื่อประเมินความรพู้ ื้นฐาน
ของนักเรยี น
3. ศึกษาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยการปฏิบตั ิกจิ กรรมตามคาชแี้ จงทไ่ี ด้ระบุ
ไว้ในบตั รเน้ือหา บัตรกิจกรรม บัตรกจิ กรรมเสรมิ ตามขั้นตอนให้ครบถ้วนทกุ เร่ือง
4. หากนกั เรยี นยงั ไมเ่ ขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ใหก้ ลบั ไปศึกษาอีกคร้ัง หรือ
ขอคาแนะนาจากครเู พื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึน้
5. ทาแบบทดสอบหลังเรียน จานวน 4 ขอ้
6. ในการทากจิ กรรมขอใหน้ ักเรยี นทาด้วยความต้งั ใจ และมีความซ่อื สตั ยต์ ่อ
ตนเองโดยไมเ่ ปิดดูเฉลยก่อน
ชุดที่ 4 เรื่อง ตารางธาตแุ ละสมบัตขิ องธาตหุ มูห่ ลกั 3
ข้นั ตอนการศกึ ษาชุดกจิ กรรม
ศกึ ษาคู่มอื ในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
ทดสอบก่อนเรียน
ดาเนินการใช้ชดุ กิจกรรม
ศกึ ษาบตั รเนือ้ หา
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
ปฏบิ ตั เิ สรมิ ทกั ษะการเรยี นรู้
ทดสอบหลงั เรียน
ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผา่ นเกณฑ์
ศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้อื่นต่อไป
ชุดท่ี 4 เรอื่ ง ตารางธาตุและสมบตั ขิ องธาตหุ มหู่ ลกั 4
สาระสาคัญ
ตารางธาตุในปัจจุบันจัดเรียงธาตุตามเลขอะตอมและสมบัติท่ีคล้ายคลึงกันเป็นหมู่
และคาบโดยอาจแบ่งธาตุในตารางธาตุเป็นกลุ่มธาตุโลหะ กึ่งโลหะ และอโลหะ นอกจากนี้
อาจแบง่ เปน็ กลุ่มธาตเุ รพรเี ซนเททีฟและกลมุ่ ธาตแุ ทรนซิชัน
ธาตเุ รพรเี ซนเททีฟในหม่เู ดยี วกนั มจี านวนเวเลนซ์-อิเลก็ ตรอนเท่ากัน และธาตุที่อยู่
ในคาบเดียวกันมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักเดียวกัน ธาตุเรพรีเซนเททีฟมี
สมบัติทางเคมีคล้ายคลึงกันตามหมู่ และมีแนวโน้มสมบัติบางประการเป็นไปตามหมู่และ
ตามคาบ เชน่ ขนาดอะตอม รศั มีไอออน พลังงานไอออไนเซชนั อิเล็กโทรเนกาติวิตี
สมั พรรคภาพอิเล็กตรอน
ชุดที่ 4 เรอ่ื ง ตารางธาตุและสมบตั ขิ องธาตหุ มหู่ ลกั 5
มาตรฐานการเรียนรู้
สาระเคมี
1. เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติของสาร
แกส๊ และสมบตั ิของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมท้ังการนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์
ตัวชี้วดั
4. ระบุหมู่ คาบ ความเปน็ โลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ ของกลมุ่ ธาตเุ รพรีเซนเททีฟ และธาตแุ ทรนซิ
ชันในตารางธาตุ
5. วเิ คราะห์และบอกแนวโนม้ สมบัติของกลุ่มธาตเุ รพรเี ซนเททีฟ ตามหมู่และตามคาบ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกแนวคิดของนักวิทยาศาสตร์ในยุคต่าง ๆ เกีย่ วกบั การจัดธาตเุ ป็นหมวดหมจู่ นไดเ้ ป็นตารางธาตุ พรอ้ มท้งั
ระบุปญั หาของการจดั กล่มุ ธาตุ
2. จาแนกธาตเุ ป็นกลุ่มโลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ หรอื เป็นกล่มุ ธาตเุ รพรเี ซนเททฟี หรอื ธาตุหมู่หลกั
ธาตุแทรนซิชัน หรอื ตามการจัดเรียงอเิ ล็กตรอน เม่ือทราบเลขอะตอม
3. วเิ คราะหแ์ ละสรุปแนวโน้มสมบัติต่าง ๆ ของธาตุตามหมูแ่ ละคาบเกยี่ วกบั ขนาดอะตอมรัศมีไอออน
พลงั งานไอออไนเซชนั อเิ ล็กโทรเนกาติวิตี สมั พรรคภาพอเิ ล็กตรอนพรอ้ มทั้งอธิบายเหตุผลประกอบ
6
ชุดท่ี 4 เรอื่ ง ตารางธาตุและสมบัติของธาตหุ มหู่ ลกั
แบบทดสอบก่อนเรยี น
เรอื่ ง ตารางธาตแุ ละสมบัตขิ องธาตหุ มหู่ ลัก
คาช้ีแจง
1. แบบทดสอบฉบับนเี้ ปน็ แบบทดสอบแบบปรนัย ชนดิ 4 ตวั เลอื กจานวน 4 ขอ้ คะแนนเต็ม 5
คะแนน ใชเ้ วลาทดสอบ 10 นาที
2. ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบที่ถกู ท่ีสดุ เพยี งคาตอบเดียว แลว้ ทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงใน
กระดาษคาตอบ
1. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ งเกยี่ วกับ กฎพริ อิ อดกิ
ก. การจดั เรยี งธาตุโดยแบง่ เปน็ โลหะกับอโลหะ
ข. การจดั ธาตุเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 3 ธาตตุ ามสมบตั ิท่คี ลา้ ยคลงึ กัน
ค. เรยี งธาตตุ ามมวลอะตอมจากน้อยไปมากพบว่าธาตุมสี มบตั ิคล้ายกันเปน็ ช่วง
ง. เรยี งธาตตุ ามมวลอะตอมจากน้อยไปมากพบว่าธาตุที่ 8 จะมีสมบตั ิเหมือน
กบั ธาตุท่ี 1 เสมอ
2.กาหนดธาตุ 3A , 10B , 12C และ 19D ธาตุใดมสี มบัตทิ างเคมีคล้ายกันท่สี ุด
ก. ธาตุ A และ B
ข. ธาตุ B และ C
ค. ธาตุ C และ D
ง. ธาตุ A และ D
3.สารในข้อใด ถา้ ต้องการดึงอเิ ล็กตรอนออกจะต้องใช้พลังงานมากท่สี ดุ
ก. 16S2-
ข. 17Cl-
ค. 19K+
ง. 20Ca2+
7
ชุดที่ 4 เรอื่ ง ตารางธาตแุ ละสมบัตขิ องธาตหุ มู่หลกั
จงใช้ขอ้ มูลจากตารางตอบคาถามข้อที่ 4 จานวนอเิ ลก็ ตอน จานวนนวิ ตรอน
ธาตุ จานวนโปรตอน
A 15 18 16
B 21 19 22
C 17 18 20
D 37 36 37
4. ขอ้ ใดต่อไปนถ้ี ูกต้อง
ก. D คือ อะตอมท่เี ปน็ กลาง
ข. A คอื ไอออนบวกและมีประจุ +3
ค. B คอื ไอออนบวกและ B เป็นโลหะ
ง. C เปน็ อะตอมที่มเี วเลนซ์อิเลก็ ตรอน = 8
8
ชุดที่ 4 เร่อื ง ตารางธาตแุ ละสมบตั ิของธาตหุ มหู่ ลกั
กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน
เรอ่ื ง ตารางธาตุและสมบตั ิของธาตุหมู่หลัก
กขคง
1
2
3
4
ช่ือ …………………………………………………………………..ชน้ั ……………………..เลขท…่ี …………………
ชดุ ท่ี 4 เร่ือง ตารางธาตแุ ละสมบตั ขิ องธาตหุ มู่หลกั 9
บัตรกจิ กรรม
คาชแ้ี จง 1. บัตรกจิ กรรมนม้ี ีทั้งหมด 2 กิจกรรม คือ กิจกรรมท่ี 1 ตารางธาตุ และกิจกรรมท่ี 2 สมบัติ
2. ให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิตามขนั้ ตอนการทากจิ กรรมโดยไม่ข้ามขัน้ ตอน
ของธาตุ
กิจกรรมที่ 1 ตารางธาตุ
ขัน้ ตอนการทากจิ กรรม
1. นกั เรยี นศึกษาความรจู้ าก ใบความร้ทู ี่ 4 เร่อื ง ตารางธาตุและสมบัติของธาตหุ มู่หลัก
2. นกั เรียนทาความเข้าใจเกีย่ วกบั ตารางธาตแุ ละววิ ัฒนาการ
3. นักเรียนนาความรู้ที่ได้มาบันทึกในแบบบันทึกกิจกรรมที่ 1 เร่ือง ตารางธาตุ โดยอ่านคา
ช้ีแจงก่อนลงมอื ทา
กจิ กรรมท่ี 2 สมบตั ธิ าตขุ องธาตุ
ขน้ั ตอนการทากจิ กรรม
1. นกั เรียนศกึ ษาความรจู้ าก ใบความรู้ท่ี 4 เรือ่ ง ตารางธาตแุ ละสมบัติของธาตหุ มู่หลัก
2. นกั เรยี นวิเคราะหข์ อ้ มูลวา่ สมบัตขิ องธาตุแตล่ ะชนิดเปน็ อย่างไร
3. นักเรียนนาความรู้ท่ีได้มาบันทึกในแบบบันทึกกิจกรรมที่ 2 สมบัติของธาตุ โดยอ่านคา
ชแี้ จงก่อนลงมือทา
ชดุ ท่ี 4 เรอ่ื ง ตารางธาตแุ ละสมบัติของธาตหุ มหู่ ลกั 10
แบบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 1
เร่ือง ตารางธาตุ
คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนพิจารณาขอ้ ความตอ่ ไปนี้ ถ้าข้อใดถกู ตอ้ งใหเ้ ขยี นเครอ่ื งหมาย
และถา้ ขอ้ ใดผดิ ใหเ้ ขยี นเครื่องหมาย ขา้ งหนา้ ขอ้ ความน้ัน
(จานวน 10 ข้อ รวมเปน็ 10 คะแนน)
คาตอบ ข้อท่ี ข้อความ
1 นักวิทยาศาสตรท์ จ่ี ัดธาตุเป็นหมวดหมู่ โดยใชห้ ลัก
"ธาตชุ ุดสาม" คือ จอห์น นิวแลนด์
2 ในคาบเดยี วกนั ความเปน็ อโลหะของธาตจุ ะเพิม่ ขน้ึ จากซ้าย
ไปขวาของตารางธาตุ
3 ตารางธาตปุ ระกอบดว้ ยธาตุทง้ั หมด 7 คาบ และ 18 หมู่
4 ธาตุท่อี ยูห่ มเู่ ดยี วกนั จะมจี านวนระดับพลังงานเท่ากัน
5 20Ca เป็นธาตุทอ่ี ยใู่ นกลมุ่ s-block
6 กฎพริ อิ อดิก กลา่ วว่า ถา้ จดั เรียงธาตุตามเลขอะตอมจาก
น้อยไปหามากธาตุจะมีสมบัติคลา้ ยกนั เป็นชว่ ง ๆ
7 ตวั อยา่ งของธาตกุ ่งึ โลหะ เช่น Si As Te Ar Br
8 ธาตุ 13A และ 31X เปน็ ธาตุที่อยู่ในหมู่เดียวกัน
9 ธาตุ Al มีความเป็นโลหะมากกว่าธาตุ N
10 ธาตทุ ่มี เี ลขอะตอม 120 มสี ัญลักษณ์ คือ Ubn
ชดุ ที่ 4 เร่ือง ตารางธาตแุ ละสมบัตขิ องธาตหุ ม่หู ลกั 11
แบบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 2
เรือ่ ง สมบตั ิของธาตุ
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นจับคูต่ อ่ ไปนีใ้ หถ้ ูกตอ้ ง (10 ข้อ 10 คะแนน)
.......... 1. ธาตหุ มู่ IA ถงึ VIIIA A. โลหะแอลคาไล
.......... 2. ธาตุหมู่ VIIA B. โลหะแอลคาไลน์เอิร์ท
.......... 3. ธาตทุ ่ีอยู่ในแนวต้งั C. แก๊สเฉื่อย
.......... 4. ธาตทุ ่มี ีเลขอะตอม 58 ถึง 71 D. ธาตุแลนทาไนด์
.......... 5. ธาตุหมู่ IIA E. ธาตุแอกทิไนด์
.......... 6. ธาตุ Li , Na , K F. ธาตุแทรนซชิ นั
.......... 7. ธาตทุ อี่ ยูร่ ะหว่างหมู่ IIA และ IIIA G. ธาตแุ ฮโลเจน
.......... 8. ธาตทุ อ่ี ยู่แนวนอน H. หมู่
.......... 9. เกณฑ์ท่ีใชจ้ ดั ธาตใุ นตารางธาตุปัจจบุ ัน I. คาบ
.......... 10. ธาตุ Kr , Xe , Rn J. ธาตุเรพรเี ซนเททฟี
K. เลขอะตอม
L. มวลอะตอม
M. ธาตุกึง่ โลหะ
12
ชดุ ที่ 4 เรอ่ื ง ตารางธาตแุ ละสมบัติของธาตหุ มู่หลกั
แบบทดสอบหลังเรียน
เรื่อง ตารางธาตแุ ละสมบัติของธาตหุ ม่หู ลกั
คาชี้แจง
1. แบบทดสอบฉบับนีเ้ ปน็ แบบทดสอบแบบปรนัย ชนดิ 4 ตวั เลอื กจานวน 4 ข้อ คะแนนเต็ม
5 คะแนน ใช้เวลาทดสอบ 10 นาที
2. ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกทีส่ ุดเพียงคาตอบเดียว แล้วทาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงใน
กระดาษคาตอบ
จงใชข้ อ้ มูลจากตารางตอบคาถามขอ้ ท่ี 4 จานวนอิเล็กตอน จานวนนวิ ตรอน
ธาตุ จานวนโปรตอน 18 16
A 15 19 22
B 21 18 20
C 17 36 37
D 37
1. ขอ้ ใดต่อไปนีถ้ กู ต้อง
ก. D คือ อะตอมทเ่ี ปน็ กลาง
ข. A คือ ไอออนบวกและมีประจุ +3
ค. C เป็นอะตอมทมี่ ีเวเลนซอ์ ิเล็กตรอน = 8
ง. B คอื ไอออนบวกและ B เป็นโลหะ
2.กาหนดธาตุ 3A , 10B , 12C และ 19D ธาตใุ ดมีสมบัตทิ างเคมคี ล้ายกนั ที่สดุ
ก. ธาตุ A และ D
ข. ธาตุ B และ C
ค. ธาตุ A และ B
ง. ธาตุ C และ D
3. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั กฎพริ ิออดกิ
ก. การจัดเรียงธาตุโดยแบ่งเป็นโลหะกับอโลหะ
ข. การจัดธาตุเป็นกลุ่ม ๆ ละ 3 ธาตุตามสมบัตทิ คี่ ล้ายคลึงกนั
ค. เรยี งธาตุตามมวลอะตอมจากน้อยไปมากพบว่าธาตุมีสมบตั ิคล้ายกนั เปน็ ชว่ ง
ง. เรียงธาตตุ ามมวลอะตอมจากนอ้ ยไปมากพบว่าธาตุที่ 8 จะมีสมบัติเหมอื นกบั ธาตทุ ่ี 1 เสมอ
13
ชดุ ท่ี 4 เรอื่ ง ตารางธาตแุ ละสมบัตขิ องธาตหุ มู่หลกั
4.สารในข้อใด ถ้าต้องการดึงอิเล็กตรอนออกจะตอ้ งใชพ้ ลังงานมากทีส่ ุด
ก. 16S2-
ข. 17Cl-
ค. 19K+
ง. 20Ca2+
14
ชุดที่ 4 เรอ่ื ง ตารางธาตแุ ละสมบตั ขิ องธาตหุ มู่หลกั
กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรยี น
เรือ่ ง ตารางธาตแุ ละสมบัตขิ องธาตหุ ม่หู ลกั
ขอ้ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
ช่อื …………………………………………………………………..ชน้ั ……………………..เลขท…ี่ …………………
15
บรรณานุกรม
สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ระทรวงศึกษาธิการ. (พ.ศ. 2561) หนังสือเรยี น
รายวิชาเพิม่ เตมิ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 เล่ม 1. สืบคน้ เม่ือวนั ที่ 12 มกราคม
2564.
สมบัติของธาตตุ ามตารางธาตุ (ออนไลน)์ . เข้าถึงได้จาก https://www.scimath.org/lesson-
chemistry/item//.สบื คน้ เมื่อ 25 ธันวาคม 2563.
ตารางธาตุ (ออนไลน์). เขา้ ถึงได้
http://www.nakhamwit.ac.th/pingpong_web/PeriodicTable.htm /. สบื คน้ เมอ่ื 26 ธันวาคม 2564.
ตารางธาตุ (ออนไลน)์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://th.wikipedia.org/wiki/ตารางธาตุ /. สืบคน้ เมอ่ื 2
มกราคม 2564.
สมบตั ิของธาตตุ ามตารางธาตุ (ออนไลน์). เข้าถึงไดจ้ าก
https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/34039/. สืบคน้ เม่ือ 3 มกราคม 2564.
16
ภาคผนวก
ชดุ ที่ 4 เร่ือง ตารางธาตแุ ละสมบัตขิ องธาตหุ มู่หลกั 17
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
เรอื่ ง ตารางธาตุ เร่ือง ตารางธาตุ
ข้อ ตอบ ขอ้ ตอบ
1ค 1ง
2ง 2ก
3ง 3ค
4ค 4ง
18
ชดุ ที่ 4 เรอ่ื ง ตารางธาตแุ ละสมบตั ิของธาตหุ ม่หู ลกั
เฉลยแบบบนั ทกึ กจิ กรรมท่ี 1
เร่อื ง ตารางธาตุ
คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นพิจารณาข้อความต่อไปนี้ ถา้ ข้อใดถูกตอ้ งให้เขียนเคร่ืองหมาย
และถา้ ขอ้ ใดผดิ ให้เขยี นเคร่อื งหมาย ขา้ งหน้าข้อความน้ัน
(จานวน 10 ขอ้ รวมเปน็ 10 คะแนน)
คาตอบ ขอ้ ที่ ขอ้ ความ
1 นักวิทยาศาสตรท์ ีจ่ ัดธาตุเปน็ หมวดหมู่ โดยใช้หลกั
"ธาตชุ ุดสาม" คอื จอห์น นวิ แลนด์
2 ในคาบเดยี วกันความเป็นอโลหะของธาตุจะเพม่ิ ขึ้นจากซ้าย
ไปขวาของตารางธาตุ
3 ตารางธาตปุ ระกอบดว้ ยธาตุทั้งหมด 7 คาบ และ 18 หมู่
4 ธาตุท่อี ยูห่ มูเ่ ดยี วกนั จะมีจานวนระดับพลงั งานเท่ากัน
5 20Ca เปน็ ธาตุท่อี ยูใ่ นกลุ่ม s-block
6 กฎพริ ิออดกิ กล่าววา่ ถ้าจัดเรยี งธาตุตามเลขอะตอมจาก
น้อยไปหามากธาตุจะมีสมบัติคลา้ ยกนั เป็นชว่ ง ๆ
7 ตวั อย่างของธาตกุ ง่ึ โลหะ เช่น Si As Te Ar Br
8 ธาตุ 13A และ 31X เป็นธาตุทอ่ี ยูใ่ นหมู่เดยี วกัน
9 ธาตุ Al มคี วามเป็นโลหะมากกว่าธาตุ N
10 ธาตุทม่ี ีเลขอะตอม 120 มสี ัญลกั ษณ์ คือ Ubn
19
ชดุ ท่ี 4 เรื่อง ตารางธาตแุ ละสมบัติของธาตหุ มหู่ ลกั
เฉลยแบบบนั ทึกกิจกรรมท่ี 2
เรอื่ ง สมบตั ิของธาตุ
คาชแ้ี จง ให้นักเรียนจบั ค่ตู ่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง (10 ขอ้ 10 คะแนน)
.....J.... 1. ธาตุหมู่ IA ถึง VIIIA A. โลหะแอลคาไล
.....G.... 2. ธาตุหมู่ VIIA B. โลหะแอลคาไลนเ์ อริ ์ท
.....H.... 3. ธาตุทีอ่ ยใู่ นแนวตั้ง C. แก๊สเฉ่อื ย
.....D.... 4. ธาตทุ ่มี เี ลขอะตอม 58 ถึง 71 D. ธาตุแลนทาไนด์
.....B.... 5. ธาตุหมู่ IIA E. ธาตแุ อกทิไนด์
.....A.... 6. ธาตุ Li , Na , K F. ธาตุแทรนซชิ นั
.....F.... 7. ธาตทุ ีอ่ ยู่ระหว่างหมู่ IIA และ IIIA G. ธาตุแฮโลเจน
.....I.... 8. ธาตทุ ่อี ยู่แนวนอน H. หมู่
.....K.... 9. เกณฑ์ท่ีใช้จดั ธาตใุ นตารางธาตปุ จั จบุ ัน I. คาบ
.....C.... 10. ธาตุ Kr , Xe , Rn J. ธาตเุ รพรีเซนเททีฟ
K. เลขอะตอม
L. มวลอะตอม
M. ธาตุกึ่งโลหะ
20
ใบความรู้ 4
เรอื่ ง ตารางธาตแุ ละสมบัติของธาตุหมู่หลัก
ตารางธาตุ ( Periodic Table ) : ตารางท่รี วบรวมธาตุตา่ ง ๆ เขา้ เปน็ หมวดหมู่ ธาตุท่ีมีสมบตั ิเหมอื นกนั จะถกู
จัดไวใ้ นพวกเดยี วกนั เพื่อความสะดวกในการศึกษา และจดจา
ววิ ฒั นาการของตารางธาตุ
ตารางธาตุทใ่ี ช้อยู่ในปจั จบุ ัน เปน็ ผลจากการรวบรวม การหาความสัมพนั ธ์ของธาตุ ของนักวทิ ยาศาสตร์ในสมยั
ต่างๆ โดยการจัดธาตเุ ป็นหมวดหมู่ จนกระทั่งเป็นตารางธาตุทีส่ มบรู ณ์ในปจั จบุ นั
I. โยฮันน์ โดเบอ ไรเนอร์ (Johann wolfgang Dobereiner)
(ค.ศ. 1817) ได้ตงั้ กฎแหง่ สาม หรอื Triads Law โดยสรุปวา่ “ภายในหม่เู ดยี วกนั ธาตทุ ่ีอยูต่ รงกลางจะมี
น้าหนกั อะตอมเท่ากับค่าเฉล่ียของสองธาตุที่อยู่ก่อนและหลงั ” ซ่งึ ธาตุทง้ั 3 น้ัน มีสมบตั คิ ล้ายกนั เชน่ การ
จดั Li, Na , K ไว้ในหม่เู ดยี วกัน
II. จอห์น นิวแลนด์ (John Alexander Reina Newlands)
(ค.ศ. 864) ได้ต้ังกฎแหง่ แปด หรอื Law of octaves โดยเรยี งธาตุตาม แนวนอน 5 คาบ แตล่ ะคาบบรรจุธาตุ
7 ธาตุ โดยธาตทุ ่ี 8 ทมี่ ีสมบตั ิคล้ายกบั ธาตทุ ี่ 1 จะจดั ไวเ้ ปน็ ธาตุที่ 1 ของคาบถัดไป ดังนี้
21
เรียงธาตตุ ามมวลอะตอมจากนอ้ ยไปหามากตามแนวนอน
จัดเรยี งธาตทุ ี่มสี มบัติคลา้ ยกันเป็นช่วงๆ โดยจดั ไวช้ ว่ งละ 8 ธาตุ แต่ธาตุท่ี 8 ของชว่ งแรกจะมสี มบตั คิ ล้ายกับ
ธาตุที่ 1ของชว่ งถัดมาจึงจัดใหธ้ าตทุ ่ี 8 เลื่อนมาอยเู่ ปน็ ธาตุที่ 1 ของช่วงถัดมา ดังน้ี
Li Be B CN OF
Na Mg Al Si P S Cl
K Ca Cr Ti Mn Fe Co and Ni
Cu Zn Y In As Se
Br Rb Sr Ce and Zr Nb and Mo Rh and Ru
แตก่ ฎของนิวแลนด์ใช้ได้กบั 20 ธาตแุ รก ทมี่ ีมวลอะตอมน้อยเท่านัน้ สว่ นธาตทุ มี่ ี
มวลอะตอมมากขึ้น จะไม่ค่อยเปน็ ไปตามกฎ และการจดั เชน่ นี้ ไมส่ ามารถอธิบาย
ได้วา่ มวลอะตอมกบั สมบตั ิที่คล้ายกันของธาตุสมั พนั ธก์ นั อย่างไร
III. ยลู ิอุส โลทาร์ ไมเออร์ (Lothar Meyer)
(ค.ศ. 1869-1870) ไมเออร์ได้เขียนกราฟแสดงสมบตั ิกายภาพของธาตโุ ดยเรยี งอะตอม ซึ่งกราฟที่ได้
จะชี้ให้เหน็ วา่ สมบัติของธาตมุ ีความคลา้ ยคลึงกันเปน็ ชว่ งๆ
จึงไดท้ าการเขียนกราฟสมบตั ทิ างกายภาพของธาตุ เชน่ จดุ เดอื ด จดุ หลอมเหลว และความหนาแนน่
โดยเรียงลาดับตามมวลอะตอมของธาตุ เรียกวา่ ‘Lothar Meyer’s Curve’
เช่น การเขยี นกราฟตามจดุ หลอมเหลวของธาตโุ ดยเรยี งตามมวลอะตอม
พบว่า จดุ หลอมเหลวของธาตุจะซา้ กันเปน็ ชว่ งๆ คือ จดุ หลอมเหลวข้นึ -ลง
เป็นช่วงๆ ซ่ึงแสดงให้เหน็ วา่ สมบัติของธาตมุ ีความคลา้ ยคลึงกับเป็นชว่ งๆ
IV. มทิ รี อิวาโนรชิ เมนเดลีฟ (Dimitri Mendeleev)
ในปี ค.ศ. 1869 เมนเดลีฟ ได้เสนอการจดั ตารางธาตุท่ยี ดึ ถือเป็นแบบฉบับจนถึงปจั จุบัน ซึ่งไดจ้ ัดเรยี งธาตุท่ี
ค้นพบในสมยั นนั้ 63 ธาตตุ ามมวลอะตอมเปน็ 8 หมู่ โดยจัดใหธ้ าตทุ ่ีมสี มบัติคล้ายคลึงกันอยใู่ นหม่เู ดียวกนั
โดยเรียงอะตอมจากน้อยไปมาก และเว้นชอ่ งว่างไว้
เม่อื พบวา่ มีธาตุทม่ี ีสมบตั ไิ มส่ อดคล้องที่จะอยู่ในหมู่เดียวกัน ซึ่งเมนเดลฟี เสนอวา่
ชอ่ งวา่ งเหลา่ นั่นควรเปน็ ตาแหนง่ สาหรบั ธาตุทียังไม่ค้นพบ และยงั สามารถทานาย
สมบตั ขิ องธาตุทค่ี ้นไม่พบน้นั ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง โดยอาศัยตางรางธาตทุ ่ีเขาสร้างขึน้
การจดั ธาตเุ ปน็ หมวดหมู่ของเมนเดลฟี จะเรียงตาม (i) มวลอะตอมจากนอ้ ยไปมากและ (ii) สมบตั ทิ ่คี ล้ายกนั
เปน็ ชว่ งๆ
22
เมนเดลีฟ ต้งั กฎพีริออดิก ( Periodic Law ) ไว้วา่ “สมบัติของธาตเุ ป็นไปตามมวลอะตอม
ของธาตุ โดยเปลีย่ นแปลงเป็นช่วงๆ ตามมวลอะตอมทเ่ี พิ่มข้ึน” นน่ั คือ ธาตุในคาบเดยี วกันจะมรี ะดบั พลังงาน
เทา่ กันและธาตใุ นหมู่เดียวกนั จะมจี านวนวาเลนต์อเิ ล็กตรอนเท่ากนั และมีสมบัติทางเคมีคล้ายกนั
V. เฮนรีย์ โมสลีย์ (Henry Mosley)
ในปี ค.ศ. 1913 โมสลียไ์ ดอ้ าศัยความรู้ทาง X-rays หาเลขอะตอมของธาตุพบวา่ การจดั เรยี งธาตตุ ามเลข
อะตอมหรือจานวนโปรตอนในนิวเคลียสของอะตอมสอดคล้องกับกฎพรี ิออดิก ไม่มีปญั หาการสลับทเี่ หมือน
การเรียงมวลอะตอม (เช่นตารางธาตุของเมนเดลฟี Co อยู่หนา้ Ni ท้ังทม่ี วลอะตอมของ Co มากกว่า Ni) และ
โมสลีย์ได้ตัง้ กฎพีริออดิกว่า “สมบตั ิของธาตตุ ่างๆข้นึ อยู่กับเลขอะตอม และการจัดเรียงอิเล็กตรอนของธาตุ
เหล่านัน้ และข้ึนอยู่กบั การจัดอิเลก็ ตรอนของธาตุเหล่านนั้ ” กฏพิริออดกิ ใหม่น้ีชว่ ยให้สามารถจดั ธาตุต่างๆโดย
เรียงตามเลขอะตอมได้ตามตารางธาตทุ ี่สมบรู ณ์ขึน้ ทาใหง้ า่ ยต่อการจดจา
และใชท้ านายสมบัติของธาตไุ ดด้ ี
ตารางธาตใุ นปัจจบุ ันไดป้ รบั ปรงุ มาจากตารางธาตขุ องเมนเดลีฟ
โดยใช้เกณฑด์ งั น้ี
- จดั เรยี งธาตตุ ามลาดับของเลขอะตอมจากน้อยไปมาก
- จดั ตามสมบตั ิท่ีคลา้ ยคลงึ กนั และซา้ กนั เปน็ ชว่ งๆ
- จดั ธาตุตามความสมั พันธ์ทเี่ กย่ี วข้องกับการจัดเรียงอเิ ลคตรอนในอะตอม
กลา่ วคอื ถา้ เลขอะตอมเพิ่มข้ึนอีก 1 แล้วอิเล็กตรอนทีเ่ พิ่มข้นึ นี้ เขา้ อยู่ในระดับพลงั งานนอกสุดจัดเปน็ ธาตุ
เรพรเี ซนเตติฟ ถ้าเขา้ ในระดับพลงั งานรองสุดทา้ ยจดั เป็นธาตทุ รานซิชัน ถา้ เข้าไปในระดับพลังงานท่ี 3 นับจาก
ข้างนอกจัดเปน็ ธาตุอินเนอร์ทรานซิชัน
23
หมูธ่ าตุในตารางธาตุ
หมู่ของธาตุ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลมุ่ A ตัง้ แต่ IA – VIIIA ( หมู่ O )
1. หมูIA – VIIIA เรียกวา ธาตเุ รพรเี ซนเทที
2. หมู่ IA (Alkali metal) มคี วามเปน็ โลหะมากสุด
3. หมู่ IIA (Alkali earth)
4. หมู่ VIIA (Halogen) มีความเปน็ อโลหะมากท่ีสดุ
5. หมู่ VIIIA (Noble gas) เปน็ แกส๊ เฉอ่ื ย
กลุม่ B ตง้ั แต่ IIIB ถึง IIB (ระหวา่ งหมู่ IIA และ IIIA เร่มิ คาบที่ 4 )
ธาตใุ นกลุ่มนเ้ี ปน็ โลหะท้งั หมด เรยี กวา่ Transition Metal
ธาตเุ รพรเี ซนเททีฟ (Representative Elements)
• คอื ธาตุที่มเี วเลนซ์อิเล็กตรอนอยใู่ น s- และ p-orbital โดยทีใ่ น d- และ f-orbitals อาจจะไม่มีหรอื มี
อิเลก็ ตรอนอยู่เต็มก็ได้หมธู่ าตุท่ีมีเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนอยูใ่ น
s-orbitals ได้แก่หมู่ IA และ IIA
p-orbitals ได้แกห่ มู่ IIIA, IVA, VA, VIA, VIIA และ VIIIA หรอื noble gas
โลหะหมู่ IA : (Li, Na, K, Rb, Cs และ Fr โลหะ)
• สามารถเสยี เวเลนซ์อิเล็กตรอนใน ns1 แล้วกลายเปน็ ไอออนบวก +1
• เป็นโลหะท่วี ่องไว จึงไมพ่ บธาตุอิสระในธรรมชาติ เชน่ NaCl ในนา้ ทะเล NaNO3 ในดนิ
• ออ่ น ตัดงา่ ย จุดหลอมเหลวและจุดเดือดต่า นาความร้อนและไฟฟ้าได้ดี
• คาย e เม่ือถกู แสง (photoelectric effect) ; Cs จึงถกู นาไปใช้เป็น photocell
(เปลยี่ นพลงั งงานแสง --> พลังงานไฟฟ้า) เปน็ ตัววดั ความเขม้ แสงในกล้องถา่ ยรูป
• คา่ IE1 ของ Li มคี า่ สงู ท่ีสดุ (แสดงวา่ ตอ้ งใช้พลังงานสงู ในการทาให้ Li เสยี e กลายเปน็ Li+ ) ในขณะที่ Cs
มคี ่าตา่ สดุ
• ค่าศักย์ไอออนิก ของ Li+ มีคา่ สงู เน่อื งจากมีขนาดเลก็ ที่สุดในหมู่ (ionic potential= จานวนประจุ/รศั มี
ไอออน)
• Li ธาตุแรกในหมู่ IA มีสมบัติบางอย่างคลา้ ยกับ Mg ธาตทุ ่ี 2 ในหมู่ IIA เชน่
24
1. การละลายในนา้ และตวั ทาละลายอินทรยี ์ของเกลือของ Li และ Mg
มคี วามคล้ายคลงึ กนั แต่ต่างจาก Na
2. ทั้ง Li และ Mg ทาปฎิกริ ิยากบั N2 ไดโ้ ลหะไนไตรด์ ในขณะท่ี โลหะอัลคาไลตวั อ่ืน ไมเ่ กิดปฏิกิรยิ า
• เชน่ เดียวกนั Be (ธาตแุ รกในหมู่ IIA) ก็มีสมบัตคิ ล้ายกบั Al (ธาตุท่ี 2 ในหมู่IIIA) ทาใหเ้ หน็ ความสัมพันธใ์ น
ลักษณะทแยงมมุ
Li Be B C
Na Mg Al Si
ซึ่งอธิบายโดย อิเล็กโตรโพสิทฟิ และขนาดทีใ่ หญ่ข้ึนในหมแู่ ละลดลงตามคาบ
และคา่ ศักย์ไอออนิกที่ใกลเ้ คียงกนั ของธาตใุ นแนวทแยง
โลหะหมู่ IIA : (Be, Mg, Ca, Sr, Ba และ Ra โลหะ)
• ธาตุหมู่ IIA ทุกตัวเป็นธาตอุ เิ ล็กโตรโพสิทีฟ (ทีเ่ ปน็ ไอออนบวก)
• มคี วามว่องไวน้อยกวา่ หมู่ IA และไม่พบเป็นธาตอุ สิ ระในธรรมชาติ
• นิวเคลยี สของธาตุในหมู่ IIA มีโปรตอนมากกวา่ ธาตใุ นหมู่ IA (แรงดงึ ดูดทางไฟฟา้ มากกว่า) ทาให้มีขนาดเลก็
กว่า
• เน่อื งจากมี 2 valence electrons (เกิดพนั ธะได้มากกว่า) ทาาใหม้ ีจดุ หลอมเหลว จุดเดือดความหนาแนน่
และความแข็งสูงกวา่
• ไอออนของธาตหุ มู่ IIA เป็น +2 หากเปรยี บเทียบไอออน +2 กับ +1 ไอออน +2 มขี นาด
เลก็ กว่าและมปี ระจุมากกว่า ทาใหม้ ีพลงั งานไฮเดรชนั สูงกวา่ (เนื่องจากศกั ย์ไอออนิกสูง)
พลงั งานท่ีคายออกมามาก ทาให้ไอออนมเี สถยี รภาพมาก เช่น Ca2+ เสถียรกว่า Ca+
• Ca3+ ตอ้ งใช้พลงั งาน IE3 ซ่งึ มีค่าสูง ทาให้เกดิ ไดย้ าก แมว้ า่ จะมคี ่าศกั ย์ไอออนิกสูงกว่า
25
โลหะหมู่ IIIA : (B กึง่ โลหะ) (Al, Ga, In, Tl โลหะ)
• ธาตุตัวแรกในหมู่ IIIA (B) เปน็ กึง่ โลหะ
• Al, Ga, In และ Tl โดยที่ Al มมี ากบนผิวโลกในรูป complex aluminium silicate (KAlSi3O8) หรอื
oxide (Al2O3. nH2O)
• โลหะหมนู่ ว้ี อ่ งไว สามารถทาปฏกิ ริ ยิ ากบั O2 ในอากาศ เกิดเป็นออกไซด์เคลอื บผวิ ได้ (ยกเว้น Tl)
• มีการจัด valence electron แบบ ns2 np1 จงึ อาจเสีย e ได3้ ตัว เปน็ ไอออน +3
• การเผา Al(OH)3 ให้ Al2O3 (alumina) ซ่งึ ทน T สูง
โลหะหมู่ IVA : : (C อโลหะ), (Si, Ge กงึ่ อโลหะ), (Sn, Pb โลหะ)
• เปน็ หมู่ทีม่ ีทง้ั โลหะ ก่ึงโลหะ และอโลหะ
• ธาตุ Sn และ Pb เปน็ โลหะท่ีอ่อน มีจุดหลอมเหลวต่า และค่อนขา้ งว่องไว
• มีการจัด valence electron แบบ ns2 np2 จงึ อาจเสีย e ได้ 2 หรือ 4 ตัว เปน็
ไอออน +2 หรือ +4 ตามลาดับ
• สารประกอบของ Pb มักเป็น +2 หรือ Pb (II) โดยทเ่ี กดิ Pb (IV) นอ้ ย เช่น
PbO2 (ตัวออกซิไดซ์ทรี่ ุนแรงในกรด)
• Carbon มโี ครงสร้างได้หลายแบบ และเรียกช่ือแตกต่างกันไป เชน่ แกรไฟต์ เพชร
โลหะหมู่ VA : (N, P อโลหะ), (As, Sb กงึ่ โลหะ), (Bi โลหะ)
• ธาตุ 2 ตวั แรก N, P เป็นอโลหะ
• ธาตุ 2 ตวั ถัดมา As, Sb เปน็ กึง่ โลหะ
• มีเพียงธาตตุ ัวสดุ ท้าย Bi เทา่ น้นั ทีเ่ ป็นโลหะ และมีการนาไฟฟ้าและความร้อนไดน้ ้อย
• Bi มกี ารจัด valence electron แบบ ns2 np3 จงึ อาจเสีย e- ได้ 3 หรอื 5 ตวั เป็น ไอออน +3 หรอื +5
ตามลาดับ แต่ Bi (V) เปน็ รปู ที่เสถยี รกว่า
26
โลหะหมู่ VIA : (O, S, Se อโลหะ), Te (ก่ึงโลหะ), (Po โลหะ)
• กามะถนั อยู่ในรูปของ S8 มีโครงสร้างเป็นวง
Rhombic >heat >> melt >cooldown>> Monoclinic >longtime>> Rhombic
Monoclinic Sulphite เสถยี รที่ T สูงกว่า 95.5 ºc
โลหะหมู่ VIIA (Halogens): (F, Cl, Br, I อโลหะ), At (ก่งึ โลหะ)
• คาว่า Halogen มาจากภาษากรีก hal หมายถึง “salt” genes หมายถงึ “forming”.
• เกดิ ปฏกิ ริ ิยากบั ธาตุหมู่ IA ได้เกลอื และว่องไวในการเกดิ ปฏิกิรยิ า
โลหะหมู่ VIIIA (Noble gas) : He, Ne, Ar, Kr, Xe, Rn
• แม้ว่าแกส๊ มีตระกลู จะมี valence electrons ครบแปด จึงสามารถอย่ใู นลักษณะ monoatomic molecule
แต่ ครปิ ตอน (Kr) ซีนอน (Xe) และเรดอน (Rn) ก็เกิดสารประกอบได้ (แกส๊ เฉ่ือย 3 ตัวแรก He, Ne, Ar ไม่
เกดิ เพราะมีค่า IE1 สงู มาก)
• ธาตุ เลขออกซิเดชนั ทเ่ี กดิ
Kr +2
Xe +2, +4, +6, +8
Rn +4
27
สมบัติของโลหะ (Metals)
มีสถานะเปน็ ของแข็งทอ่ี ุณหภมู ปิ กติ (ยกเวน้ ปรอท เป็นของเหลว)
มจี ุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง
แขง็ และเหนยี วสามารถตีเปน็ แผ่นบางๆ หรอื ดึงให้เป็นเสน้ ได้
นาไฟฟ้าและนาความร้อนได้ดี (การนาไฟฟ้าลดลงเม่ืออุณหภมู ิสงู ข้ึน)
มีความแตกต่างของอุณหภูมริ ะหวา่ งจุดเดือดและจดุ หลอมเหลวกวา้ ง
เคาะมีเสยี งดังกังวาน ขัดเปน็ มันวาว
มคี วามหนาแน่นสงู แต่บางชนิดมีความหนาแน่นต่า ได้แก่ โลหะเบา เชน่
ธาตหุ มู่ IA และ IIA
มคี า่ EN ต่า จงึ เสยี อเิ ลก็ ตรอนเกิดเปน็ ไอออนบวกได้ง่าย เช่น ทาปฏิกริ ยิ า
กับกรดเกิดก๊าช ไฮโดรเจน ยกเวน้ โลหะมตี ระกลู
สมบตั ิของอโลหะ (Nonmetals)
มไี ดท้ ้ัง 3 สถานะ คอื ของแข็ง เชน่ คารบ์ อน (C) กาามะถัน (S) ของเหลว เช่น โบรมีน (Br2 ) กา๊ ช
เช่น ไฮโดรเจน (H2) ออกซเิ จน (O2)
มีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวตา่ ยกเวน้ แกรไฟต์
เปราะ แตกงา่ ย ตเี ป็นแผน่ หรือดงึ เป็นเส้นไม่ได้
ไม่นาไฟฟ้าและความร้อน ยกเวน้ แกรไฟต์
มีความแตกตา่ งของอณุ หภมู ิระหว่างจดุ เดือด และจดุ หลอมเหลวแคบ
เคาะไมม่ ีเสยี งกงั วาน ผิวไมม่ ันวาว มีความหนาแน่นตา่
มีคา่ EN สงู จึงรับอิเล็กตรอน และเกดิ เป็นไอออนลบไดง้ ่าย
สมบตั ขิ องธาตุก่ึงโลหะ (Metalloid)
มีสมบตั ิทางเคมีท่หี ลากหลาย
ทาตวั เปน็ โลหะ เมื่อทาปฏกิ ริ ิยากับอโลหะ
ทาตัวเปน็ อโลหะ เมื่อทาปฏิกิริยากบั โลหะ
มีสมบัตเิ ปน็ สารก่งึ ตวั นา (semiconductor)
B, Si, Ge, As, Sb, Te, Po
28
ขนาดอะตอม (Atomic Size)
ขนาดของอะตอม วัดจากระยะห่างระหวา่ งนวิ เคลยี สของอะตอมที่อยู่ตดิ กนั
สาหรบั ธาตทุ ่ีอย่ใู นลกั ษณะโมเลกลุ อะตอมคู่ รัศมีอะตอมจะถอื วา่ เป็นคร่งึ หนึ่งของ
ระยะระหว่างนิวเคลยี สของ 2 อะตอมในโมเลกลุ
พลังงานไอออไนเซชัน (Ionization Energy; IE)
พลังงานไอออไนเซชัน คือ “พลังงานท่ีใช้ในการดึงอเิ ล็กตรอน 1 อนุภาค ออกจากอะตอมในสถานะ
แก๊ส กลายเป็ นไอออนบวก”
• ธาตุทมี่ อี ิเลก็ ตรอน 1 ตัว คือ ธาตุไฮโดรเจน (H)
H(g) --> H+(g) + e- IE = 1,318 kJ/mol
• ธาตทุ ม่ี อี เิ ลก็ ตรอนมากกว่า 1 ตวั เชน่ ธาตลุ ิเทยี ม (Li)
Li(g) --> Li+(g) + e- IE1 = 520 kJ/mol
Li+(g) --> Li2+(g) + e- IE2 = 7,394 kJ/mol
Li2+(g) --> Li3+(g) + e- IE3 = 11,815 kJ/mol
จะพบว่า IE1 คือ มีคา่ น้อยทสี่ ุด เพราะเปน็ พลงั งานทใี่ หแ้ ก่อะตอมเพ่ือดงึ อิเล็กตรอนที่อยวู่ งนอกสุด
หรอื เวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอน (หา่ งจากนิวเคลยี ส หลดุ ออกได้งา่ ย ไมต่ อ้ งใช้พลงั งานมากเพราะไดร้ ับแรงดงึ ดูดจาก
นวิ เคลยี สน้อย)
- ธาตุในหม่เู ดยี วกนั IE ลดลงจากบนลงลา่ ง เพราะระยะห่างระหวา่ งนวิ เคลียสกับ
เวเลนซ์อิเล็กตรอนเพ่ิมขน้ึ ทาใหแ้ รงดึงดดู ระหว่างนิวเคลยี สกับเวเลนซ์อิเล็กตรอน
ลดลง อเิ ล็กตรอนจึงหลดุ จากอะตอมไดง้ ่าย เชน่ ธาตุในหมู่ IA IE ของ Li > Na > K
> Rb > Cs > Fr
- ธาตุในคาบเดียวกนั IE เพม่ิ ข้นึ จากซา้ ยไปขวา เพราะคา่ ประจุนิวเคลยี สสทุ ธิมากขึ้นอะตอมขนาดเล็ก
จงึ มีแรงดึงดดู ระหว่างนิวเคลียสกับเวเลนซ์อิเล็กตรอนมากข้ึน ทาให้อิเล็กตรอนหลดุ ยาก จงึ ต้องใชพ้ ลงั งานสงู
ในการดึงอเิ ล็กตรอนออกจากอะตอม
เชน่ ธาตุในคาบที่ 2 IE ของ Li < Be < B < C < N < O < Fธาตุที่ไม่เปน็ ไปตามแนวโน้มพลังงานไอออไนเซ
ชนั ของธาตใุ นตารางธาตเุ ชน่ ธาตุเบริลเลยี ม(Be) และธาตไุ นโตรเจน(N)
29
สมั พรรคภาพอิเล็กตรอน (Electron Affinity; EA)
สัมพรรคภาพอเิ ล็กตรอน คอื “พลงั งานที่อะตอมในสถานะแก๊สคายออกมาเมอื่ ไดร้ ับอิเลก็ ตรอน” หรือ
ความสามารถในการรบั อเิ ลก็ ตรอนของอะตอมในสถานะแกส๊
เช่น F(g) + e- --> F-(g) + 328 kJ/mol
ฟลูออรีน รับอิเลก็ ตรอนเข้ามา 1 ตวั และคายพลงั งานออกมา 328 กโิ ลจลู กลายเปน็
ไอออนลบ ค่าสมั พรรคภาพอิเล็กตรอนเปน็ ลบ เพราะระบบ(อะตอม) คายพลงั งาน
ออกมาเมือ่ รับอเิ ลก็ ตรอนเข้าไป ตามหลักเทอรโ์ มไดนามกิ ส์ ( thermodynamics)
- ถา้ เราพจิ ารณาคา่ สัมพรรคภาพอเิ ล็กตรอน (ไม่คานงึ ถงึ เครือ่ งหมายลบ) จะเหน็ วา่
- ธาตใุ นหมู่เดียวกัน EA ลดลงจากบนลงลา่ ง เช่น ธาตใุ นหมู่ IA สมั พรรคภาพอิเล็กตรอน
Li > Na > K > Rb > Cs แสดงวา่ Li รับอิเล็กตรอนเข้ามาใน อะตอมไดด้ กี ว่า Cs
- ธาตใุ นคาบเดยี วกนั EA เพ่มิ ขนึ้ จากซ้ายไปขวา เช่น ธาตใุ นคาบที่ 2 สัมพรรคภาพอเิ ล็กตรอน
Li < Be < B < C < N < O < F แสดงว่า F รบั อิเลก็ ตรอนเข้า
มาในอะตอมได้ดกี วา่ Li
ธาตทุ ี่ไมเ่ ป็นไปตามแนวโนม้ สัมพรรคภาพอเิ ล็กตรอนของธาตุในตารางธาตุ เช่น ธาตุคลอรนี (Cl) มีสมั
พรรคภาพอิเลก็ ตรอนมากกว่า F เพราะการเตมิ อเิ ลก็ ตรอนเขา้ ไปใน 2p ออร์บิทลั ของ F ทาไดย้ าก เนื่องจาก
เกดิ แรงผลกั จากนวิ เคลียสมาก จงึ คายพลงั งานน้อยกว่าการเตมิ อิเลก็ ตรอนเข้าไปใน 3p ออร์บิทัลของ Cl ซง่ึ
สามารถเตมิ อเิ ลก็ ตรอนเข้าไปได้งา่ ยกว่า F น่นั เพราะว่าระดับพลงั งาน 3p อยูห่ า่ งจากนิวเคลียสมากกว่า 2p
จึงได้รบั แรงผลกั จากนิวเคลยี สน้อยกว่า
อเิ ล็กโทรเนกาติวติ ี (Electronegativity; EN)
อิเลก็ โทรเนกาตวิ ิตี หมายถึง
“ความสามารถในการดงึ ดดู อิเลก็ ตรอน ในพันธะเข้ามาหาตัวเองของอะตอม”
จากภาพจะเหน็ ว่า อะตอมของ Cl มคี วามสามารถในการดงึ ดดู อิเล็กตรอนเข้าหาตัวเองไดด้ ีกว่า O และ
H แสดงวา่ Cl มีคา่ อิเล็กโทรเนกาตวิ ติ สี ูงกว่า O, H
- ธาตุในหมเู่ ดยี วกัน EN ลดลงจากบนลงลา่ ง เช่น ธาตุในหมู่ IA อิเล็กโทรเนกาติวติ ี Li > Na > K > Rb
> Cs > Fr
- ธาตุในคาบเดยี วกัน EN เพม่ิ ขึน้ จากซา้ ยไปขวา เชน่ ธาตใุ นคาบท่ี 2
อิเล็กโทรเนกาตวิ ิตี Li < Be < B < C < N < O < F