The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทความเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 44302, 2022-03-05 02:01:06

บทความเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน

บทความเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน

โคลนตดิ ล้อ

ตอน ความนิยมเป็นเสมยี น

ผู้ทรงพระราชนพิ นธ์

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หวั

พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หวั
(เจา้ ฟา้ มหาวชิราวุธ)

สมเด็จพระศรพี ัชรินทราบรมราชินีนาถ

ทรงศกึ ษาเบอ้ื งต้น ณ พระบรมมหาราชวงั

ทรงศึกษาตอ่ ณ ประเทศองั กฤษ

ออกวารสารรายสัปดาหส์ าหรับเด็ก
+หนงั สือพมิ พข์ องสมาคมนักเรียนไทย

เสด็จขน้ึ ครองราชย์ ณ ประเทศไทย

ออกหนงั สือพมิ พ์

(รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน)

หนงั สอื พมิ พ์

(รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดอื น)

ชวนหัว
ทวปี ญั ญา
ดสุ ติ สมิต
ดุสิตสมัย
ดุสิตรีคอร์ดเดอร์
ฯลฯ

พระราชนพิ นธ์บทความ โคลนตดิ ล้อ
ภาษาไทย ตีพิมพ์ เม.ย. – พ.ค. พ.ศ.

ภาษาองั กฤษ

หนงั สือพมิ พไ์ ทย หนงั สือพิมพ์ Siam Observer

พระนามแฝง

ใชใ้ นบทความ อศั วพาหุ Dilton March
โคลนตดิ ล้อ Young Tommy
(เหตุการณบ์ า้ นเมอื ง) Tom Toby

นายแกว้ นายขวญั

(บทละคร)

รามจิตติ

(เรือ่ งแปล)

พนั แหลม

(ทหารเรือ)

พระราชนิพนธ์

(รอ้ ยแก้วและร้อยกรอง)

บทเสภาสามัคคเี สวก
มัทนะพาธาคาฉันท์
ศกนุ ตลา
หัวใจนกั รบ
พระนลคาหลวง
ฯลฯ

โคลนติดล้อ
Clogs on Our Wheels

โคลนติดลอ้
Clogs on Our Wheels

ปัญหาและอุปสรรค
ที่ทาใหป้ ระเทศไทย
เจรญิ กา้ วหน้าชา้ กวา่ ท่คี วร

การตง้ั ช่ือเร่อื ง การเปรียบสิ่งหนึ่ง
เปน็ อกี สิ่งหน่งึ
การใช้ภาพพจน์อปุ ลักษณ์

โคลนตดิ ล้อ

ปัญหาและอุปสรรค ชาติบา้ นเมือง/ประเทศไทย
ทีก่ ีดขวางความเจริญ

จดุ ประสงค์

โคลนติดลอ้

เพอ่ื ช้ใี หเ้ ห็นปัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ
ท่เี ป็นเคร่ืองกดี ขวางความเจรญิ ของชาติ

ตอน ความนยิ มเปน็ เสมียน

ร. ทรงแสดงทรรศนะเก่ยี วกบั ปัญหาคนมกี ารศกึ ษาสูง
นิยมเปน็ เสมียน ไม่ยอมกลับภูมลิ าเนาของตนไปทาอาชพี
เกษตรกรรมทีม่ ีประโยชนต์ อ่ ประเทศชาตมิ ากกวา่

ลักษณะคาประพนั ธ์

บทความ-ร้อยแกว้ ตอน
ตอนท่ี จบด้วยกาพยย์ านี จานวน บท

บทความฉบบั พมิ พ์ทลู เกลา้ ทูลกระหม่อมถวาย สมเด็จพระเจา้ ภคนิ ีเธอ
เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสดุ า สิริโสภาพัณณวดี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ พรรษา

การเอาอย่างโดยไม่ตรติ รอง

การเอาอยา่ งชาวตะวันตกโดยไมล่ ืมหูลืมตา

การทาตนใหต้ า่ ต้อย

การไมเ่ ช่อื คนไทยด้วยกนั เอง

การบูชาหนงั สอื จนเกนิ เหตุ

ไม่ควรเชือ่ ทกุ สิง่ ในหนงั สือพิมพ์

ความนยิ มเปน็ เสมยี น

นิยมรบั ราชการและใช้ชวี ติ ในกรงุ

ความเห็นผิด

เห็นผดิ วา่ การประพฤตติ นตามแบบฝร่งั เปน็ เรือ่ งถกู ตอ้ ง

ถอื เกียรตยิ ศไมม่ ีมลู

นยิ มลทั ธแิ หง่ ความเสมอภาค

ความจนไมจ่ ริง

ชอบใช้จา่ ยสรุ ุย่ สรุ า่ ยและเล่นการพนัน

แต่งงานช่ัวคราว

หญงิ สาวถกู ขายใหช้ ายโดยไมย่ นิ ดี

ความไมร่ ับผิดชอบของบิดามารดา

บดิ ามารดามกั ทาใหเ้ ด็กมีปญั หา

การคา้ หญงิ สาว

การซอ้ื หญิงสาวมาเป็นภรรยาลับ

ความหยุมหยมิ

บุคคลใจแคบ คอยจบั ผิดคดิ ทาลายกัน

หลกั ฐานไมม่ นั่ คง

คนไทยควรประพฤติตนเป็นผู้ทสี่ ุจริตทั้งกาย วาจา ใจ

บทความหลายตอนที่เขียนตอบโต้ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์
พระองค์และพระบรมราโชบายโดยตรง ก่อให้เกิดสงคราม
ปากกา โดยมีผ้ใู ชน้ ามปากกาว่า โคนันทวิศาล เขียนบทความ
เรือ่ งลอ้ ติดโคลน แสดงความคิดเห็นตอบโตโ้ คลนตดิ ล้อ

โคลนตดิ ลอ้ VS ล้อตดิ โคลน
อัศวพาหุ โคนันทวิศาล

เรื่องย่อ

การตั้งโรงเรียนขึ้นทั่วพระราชอาณาจักร ที่ให้โอกาสชายหญิงทุกชนชั้น
ได้ศึกษา กลับใหผ้ ลท่ที าให้เปน็ ที่ราคาญ

เรอื่ งยอ่

เจ้าหนา้ ทเ่ี กี่ยวกบั หนงั สือ/การนิยมรบั ราชการ

เดก็ ที่เรียนสาเรจ็ ลว้ นหวงั จะเป็นเสมยี นหรือเลขานุการ จะไดเ้ ล่อื นตาแหน่ง
เร็ว ๆ และยังเหน็ ว่าอาชีพอ่ืนไม่สมเกียรติ

เร่อื งย่อ ไมม่ ปี ระโยชน์จะพูด

การจะบอกให้กลับบ้านไปเพาะปลูกเป็นการป่วยกล่าวเสียเวลา เพราะพวกเขา

ได้รับการศกึ ษามาแลว้ ไมค่ วรเสียเวลาทางานทีค่ นไมร่ ู้หนงั สือกท็ าได้ จึงสู้สมัคร
อดอยากอย่กู รุงเทพฯ ได้เงินเดือน บาท หรือ บาท

ใช้จ่ายเงิน สมัครใจ

แม้จะเงินน้อย แต่ก็ยังจาหน่ายจ่ายทรัพย์ ซื้อเครื่องแต่งกาย ไปดูหนัง
สปั ดาห์ละ ครั้ง ไปกินข้าวตามกุ๊กช้อป และเสียค่าเช่าห้อง ครั้นเมื่อเงินเดือน
ขึน้ เป็น บาท กค็ ิดจะแตง่ งาน

ภัตตาคารท่ีมพี อ่ ครวั ทาอาหารฝรง่ั
มาจาก cookshop

เครื่องแต่งกาย หมวกสกั หลาด
กางเกงแพรจนี
เสื้อขาว
ผา้ มว่ ง

เรื่องย่อ

การกล่าวว่าถ้าอยู่ในเมืองอาจทาประโยชน์ได้มากกว่าอยู่บ้านนอก นับเป็น
ความเหลวไหลโดยแท้ ถ้าเปรยี บพชื ทเี่ ขาทาให้งอกนับว่านอ้ ยกว่าผลทก่ี นิ เข้าไป
แตพ่ วกเขาก็ยงั คิดวา่ ตนดกี วา่ ชาวนา และพวกเรากย็ อมใหเ้ ขาคดิ เชน่ นั้นด้วย

คาตอบแห่งปญั หาคือเป็นความผดิ ของเราทั้งหลายด้วย ไมใ่ ช่ความผดิ ของ
พวกหนุ่ม ๆ อย่างเดียว หากเรายังเห็นว่าเสมียนเป็นบุคคลชั้นสูงกว่าอาชีพอื่น
พวกเขาก็จะฝักใฝ่เป็นเสมียนอยเู่ รอ่ื ยไป

เรอื่ งย่อ

เมอื่ มเี สมยี นมากเกินจาเปน็ กจ็ ะตอ้ งคัดออกเพอ่ื รบั คนใหม่ ๆ
คนทที่ าประโยชน์ไดอ้ ยู่ กไ็ ด้เล่อื นไปตาแหน่งอืน่

คนทถี่ ูกคดั ออก

ไปเปน็ ชาวนาไมไ่ ด้ ไปเปน็ เจ้าของกจิ การไม่ได้
เพราะความหย่งิ เหน็ ว่าไม่สมเกยี รติ เพราะไมม่ ีเงินเก็บ
และไมอ่ ยากทง้ิ เมอื งไปอยูบ่ า้ นนอก

เร่ืองย่อ

เม่ือโอกาสหางานทามีน้อย หาเล้ียงชพี ไมไ่ ด้

หากเป็นคนมีนิสัยสุจริต หากเป็นคนมนี ิสยั ทุจริต
จะเลี่ยงไปตายในที่ลับ ไม่มี อาจจะสนุกสนานอยู่พักหนึ่ง
ใครรู้จัก ไมม่ ีใครอาลัย แล้วก็เข้าสู่ศาล ไปอยู่ในคุก
และทา้ ยสุดก็อนั ตรธาน

สูญลบั ไป หายไป

เร่ืองย่อ

ดังนั้นเราควรสอนพวกเขาให้ปรารถนางานอื่น สอนให้รู้สึกเกียรติยศของ
อาชพี ภาคเกษตรกรรมหรอื ชา่ งต่าง ๆ เพราะเราจะมีข้าวของเครื่องใช้ได้อย่างไร
หากไมอ่ ดุ หนนุ คนทจี่ ะเพาะสิง่ ของเหลา่ นี้

ทาให้เกดิ

หากสาธารณชนทั่วไปเห็นว่าชาวนาชาวสวน พ่อค้า และช่างต่าง ๆ
มีเกียรตยิ ศเทยี บเทา่ เสมยี น ก็จะเปน็ ประโยชน์ได้มาก

เพราะฉะน้นั ท่านจะไมช่ ่วยกนั ในทางนี้บา้ งหรือ?

คณุ คา่

โคลนติดล้อ ตอน ความนยิ มเป็นเสมยี น
คุณค่าดา้ นเนอ้ื หา
คณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์
คุณค่าด้านสังคม

คุณค่าดา้ นเนื้อหา

รปู แบบ องคป์ ระกอบของเรอ่ื ง

รปู แบบ

เป็นงานเขยี นประเภทรอ้ ยแกว้ เปน็ การใชร้ ูปแบบงานเขียน
ได้เหมาะสมกบั เนอ้ื หา
มเี น้ือหาสรา้ งสรรค์ ทรงคุณค่า
ความรู้ + ความคิด

องคป์ ระกอบของเรอื่ ง

สาระ
เป็นการแสดงแนวความคดิ เร่อื งคา่ นิยมเกยี่ วกบั อาชพี

คนทวั่ ไปมกั นยิ มยกยอ่ งขา้ ราชการและผู้ที่ทางานในสานกั งาน
จนมองข้ามความสาคญั ของอาชพี อนื่ เสมือนโคลนที่ตดิ ล้อรถ

องคป์ ระกอบของเรื่อง

โครงเรื่อง

ลาดับเร่ืองตามลกั ษณะการเขยี นบทความ
ซง่ึ มีองค์ประกอบ สว่ น

สว่ นนา เน้ือเรอื่ ง ส่วนท้าย

องคป์ ระกอบของเรื่อง

โครงเรอื่ ง

สว่ นนา
ใช้ขอ้ ความต่อเน่ืองจากบทที่ เรื่องการบูชาหนังสือจนเกินเหตุ

ดังนั้น ผู้อ่านบทความเรื่องโคลนติดล้อที่ลงพิมพ์อย่างต่อเนื่อง จะเห็น
การเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาที่ผู้ประพันธ์เปิดประเด็นถึงความเสียหายที่จะ
ตามมาเม่อื ผู้เขา้ ศกึ ษาในระบบโรงเรยี นมีมากขึน้

องค์ประกอบของเรือ่ ง

โครงเรอื่ ง

เนื้อเรือ่ ง
แบ่งเป็น ย่อหน้า เชื่อมโยงกันเป็นลาดับ ตั้งแต่การตั้ง

ความหวังในอนาคตเมื่อเรียนจบ โดยลืมดูพื้นความหลังทางวัฒนธรรมว่า
สังคมไทยเปน็ สังคมเกษตรกรรม แตล่ ะย่อหน้ามีการยกตัวอย่างมาอธิบาย
ใหเ้ ขา้ ใจชัดเจน

องคป์ ระกอบของเร่ือง

โครงเรื่อง

ส่วนท้าย
ผปู้ ระพันธ์ไดก้ ลา่ วถึงวิธีการแก้ปัญหาและใชก้ ลวิธีการปิดเร่อื ง

โดยใชค้ าถามในบรรทัดสุดท้ายวา่

“เพราะฉะน้ันทา่ นจะไมช่ ว่ ยกนั ในทางนบ้ี ้างหรือ?”

องคป์ ระกอบของเรอ่ื ง

กลวธิ ีการแตง่

มีกลวิธีการเขยี นทชี่ วนอา่ น น่าติดตาม
ลาดบั เนอื้ หาเปน็ ขัน้ ตอน อ่านเขา้ ใจงา่ ย
แบ่งยอ่ หนา้ ส้ันยาวสลบั กนั รวม ยอ่ หนา้
แตล่ ะย่อหนา้ มปี ระเด็นสาคญั มเี น้ือหาสาระนา่ สนใจ
นาเสนอเนื้อเรื่องต่อเนอื่ งสัมพนั ธก์ ันอยา่ งดี

องคป์ ระกอบของเร่ือง

กลวิธีการแต่ง

เรมิ่ ตน้ คานาที่จงู ใจให้ผู้อ่านสนใจติดตาม

การนาเสนอปัญหาทเี่ กิดจากการใหก้ ารศกึ ษาแก่ประชาชน

ผปู้ ระพนั ธแ์ สดงความคดิ เหน็ ว่า
“ใหผ้ ลที่ทาใหเ้ ปน็ ที่ราคาญ”

ทาให้ผู้อา่ นเกิดความสนใจตดิ ตามหาคาตอบวา่ ปัญหานน้ั คอื อะไร

กลวธิ ีการแตง่ องคป์ ระกอบของเรื่อง

เนื้อหาในแต่ละยอ่ หน้า

ผู้ประพนั ธ์ อธิบายเนอ้ื ความสาคญั
+

แสดงเหตุผล
ใช้ตวั อย่างป+ระกอบชัดเจน

+
ใชค้ าถามท่ไี มต่ ้องการคาตอบ

สุดทา้ ย จบเรื่องดว้ ยวธิ ีการตง้ั คาถามให้ผอู้ า่ นนาไปคดิ ตอ่

นบั เปน็ กลวธิ กี ารประพนั ธ์ที่มคี ณุ ค่า
เป็นแบบอย่างของบทความแสดงความคิดเหน็ ได้เป็นอย่างดี

คุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์

การสรรคา การใช้โวหาร

การสรรคา

ใช้สานวนภาษาเรยี บงา่ ย แต่แฝงไปด้วยศิลปะการใช้ภาษา
ทาให้บทความนา่ อ่านและน่าติดตาม

การใชถ้ ้อยคาเรียบงา่ ย + การใช้คาทับศพั ทภ์ าษาองั กฤษบ้าง

ดงั บทประพนั ธ์

...เด็กทุก ๆ คนซึ่งเล่าเรียนสาเร็จออกมาจากโรงเรียนล้วนแต่มีความหวังฝังอยู่ว่าจะได้มาเป็นเสมียน
หรือเป็นเลขานุการ และจะได้เล่ือนยศเลื่อนตาแหน่งขึ้นเร็ว ๆ เป็นลาดับไป เด็กที่ออกมาจากโรงเรียน
เหล่าน้ีย่อมเห็นว่ากิจการอย่างอ่ืนไม่สมเกียรติยศนอกจากการเป็นเสมียน ข้าพเจ้าเองได้เคยพบเห็น
พวกหนุ่ม ๆ ชนิดนี้หลายคน เป็นคนฉลาดและว่องไว และถ้าหากเขาทั้งหลายนั้นไม่มีความกระหาย
จะทางานอยา่ งที่พวกเขาเรียกกนั วา่ “งานออฟฟศิ ” มากดี ขวางอยูแ่ ล้วเขากอ็ าจจะทาประโยชน์ได้มาก...

การสรรคา

การซ้าคา
เพื่อเน้นย้าและแสดงความหนักแน่นของความ ทาให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์
คลอ้ ยตาม

ดงั บทประพันธ์

...ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรัก ไม่มีใครอาลัย เป็นการลงเอยอย่างมืดแห่งชีวิตท่ีมืด
ไมม่ ีสาระ! ...

การใชโ้ วหาร

ภาพพจนอ์ ปุ ลกั ษณ์
การทาใหผ้ ู้อ่านเหน็ ภาพ เข้าใจชัดเจนยงิ่ ขนึ้
จากช่ือเรือ่ ง บทความ “โคลนตดิ ลอ้ ” เป็นการใชภ้ าพพจน์ประเภทอปุ ลักษณ์

โคลน ปัญหาและอุปสรรคทก่ี ดี ขวางความเจรญิ ของประเทศชาติ
ล้อ ชาตบิ า้ นเมอื ง/ประเทศไทย

การใช้โวหาร

ภาพพจนอ์ ุปมา

การใช้ความเปรียบใหผ้ ู้อ่านเกิดความรูส้ กึ คล้อยตามและเห็นดว้ ย

ดงั บทประพันธ์

...ท่านผู้มีความคิดคงจะเข้าใจได้ดีว่า อันประเทศอย่างเมืองไทยของเรานี้ชาวนาชาวสวนอาจจะทาประโยชน์
ให้แก่บ้านเมืองได้มากกว่าเสมียน ซ่ึงเป็นแต่เคร่ืองมือเท่ากับปากกาและพิมพ์ดีด ซึ่งเขาใช้ (หรือใช้ผิด)
ถา้ จะเปรยี บพชื ทเี่ ขาได้ทาให้งอกต้องนบั ว่านอ้ ยกว่าผลทเ่ี ขาได้กินเข้าไป แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังนึกว่าตัวเขา
ดีกวา่ ชาวนา และขอ้ ที่ร้ายน้ัน พวกเราท้ังหลายกพ็ ลอยยอมให้เขาคิดเห็นเชน่ น้ันเสียดว้ ย...

การเปรียบเทยี บผ้ทู ี่เป็นเสมยี นว่าสามารถสร้างประโยชนใ์ ห้แก่สังคม
ได้นอ้ ยกวา่ ส่ิงทีเ่ ขาบริโภคเข้าไปเลยี้ งชีวิต กลา่ วคือ เป็นผรู้ ับมากกว่าเปน็ ผ้ใู ห้

คุณค่าดา้ นสงั คม

สะท้อนคา่ นยิ ม สะทอ้ นขอ้ คิด
เกีย่ วกับสงั คมไทย เพ่ือนาไปใช้
ในการดาเนินชีวติ

สะทอ้ นคา่ นยิ มเก่ยี วกบั สังคมไทย

ผู้อ่านจะมองเห็นสภาพสงั คมและคา่ นิยมในสมัยรชั กาลท่ี ไดเ้ ป็นอย่างดี

เช่น ค่านิยมของสงั คมที่ยกย่องการเป็นข้าราชการ

ดังบทประพนั ธ์

...เขาตอบว่าเขาเป็นผู้ท่ีได้รับการศึกษามาจากโรงเรียนแล้ว ไม่ควรจะเสียเวลาไปทางานชนิดอ่ืนซ่ึงคนที่ไม่รู้
หนงั สือก็ทาได้ และเพราะเขาไมอ่ ยากจะลมื วชิ าทเี่ ขาไดเ้ รียนรู้มาจากโรงเรียนน้ันด้วย เพราะเหตุนี้เขาสู้สมัคร
อดอยากอยู่ในกรุงเทพฯ ได้เงินเดือนเพียงเดือนละ ๑๕ บาท หรือ ๒๐ บาท ยิ่งกว่าที่จะกลับไปประกอบการ
เพ่ือเพิม่ พนู ความสมบูรณแ์ หง่ ประเทศในภมู ิลาเนาเดิมของเขา...

สะทอ้ นคา่ นยิ มเกยี่ วกบั สงั คมไทย

ค่านิยมผิด ๆ ของผู้ที่นิยมเป็นเสมียนซึ่งส่งผลให้ต้องอดทนต่อความลาบาก
คือ มักมีสภาพความเป็นอยู่เกินฐานะ โดยเฉพาะการใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย
เพื่อรกั ษาเกียรติและหนา้ ตาของตน

ดงั บทประพนั ธ์

...ในเงนิ เดอื น ๑๕ บาทนี้พ่อเสมยี นยงั อุตส่าหจ์ าหน่ายจ่ายทรัพย์ได้ต่าง ๆ เช่น นุ่งผ้าม่วงสี ใส่เส้ือขาว
สวมหมวกสักหลาด และในเวลาที่กลับจากออฟฟิศแล้วก็ต้องสวมกางเกงแพรจีนด้วย และจะต้องไป
ดูหนังอกี อาทิตย์ละ ๒ ครง้ั เปน็ อยา่ งน้อย...

สะท้อนขอ้ คิดเพือ่ นาไปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิต

บทความเรอ่ื ง โคลนติดล้อให้คติขอ้ คิดแก่คนในสังคมไทยไดเ้ ป็นอยา่ งดี
ไมค่ วรลืมรากฐานของตนเอง

ไม่ดถู ูกอาชีพเกษตรกรรม

ไมค่ วรใชจ้ า่ ยเกินรายได้
และฐานะทางเศรษฐกจิ ของตน

ควรรู้จักใชค้ วามรู้ ความสามารถของตน
สร้างประโยชน์ใหแ้ ก่สังคมอยา่ งเต็มที่


Click to View FlipBook Version