การปฏิวัติวิทยาศาสตร์
เพิ่มคำอธิบายสั้น ๆ
คำนำ
หนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในรายวิชา
ประวัติศาสตร์สากล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้ได้
ศึกษาหาความรู้ในเรื่องการสำรวจทางทะเลและได้
ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์กับการเรียน ผู้
จัดทำหวังว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน
หรือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่
หากมีข้อเเนะนำหรือข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทำ
ขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดทำ
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติ
ทางวิทยาศาสตร์
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ คือ
การพัฒนาความเจริญก้าวหน้า
ในวิทยาการของโลกตะวันตก ใน 1. การฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ
2. การพัฒนาเทคโนโลยีในดินแดน
คริสต์ศตวรรษที่ 17 มีการ
ค้นคว้าแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยว เยอรมันตอนใต้ โดยเฉพำะกำร
กับธรรมชาติโลกและจักรวาล ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์แบบใช้วิธี
เรียงตัวอักษรขอกูเตนเบิร์กในปี
ทำให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ค.ศ.1448 ทำให้สำมำรถพิมพ์
เจริญรุ่งเรือง เป็นผลให้ชาติ หนังสือเผยแพร่ความรู้ต่างๆ
ตะวันตกพัฒนาความเจริญ 3. การสารวจทางทะเลและการ
ก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ อย่าง
ติดต่อกับโลกตะวันออก
รวดเร็ว
ความสำคัญของการ นักวิทยาศาสตร์นิ
ปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ โคลัส โคเปอร์นิคัส
นิโคลัส โคเปอร
์นิคัส (Nicolaus
1. ทาให้มนุษย์เชื่อมั่นในสติปัญญาและ
ความสามารถของตน เชื่อมั่นในความมี Copernicus)ชาวโปแลนด์ เสนอทฤษฎี
ว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล
เหตุผล
2. ก่อให้เกิดความรู้และความเจริญ โดยมีดาวเคราะห์รวมทั้งโลกหมุนรอบ
ก้าวหน้าในวิทยาการด้านต่าง ๆ ดวงอรทิตย์กาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo
3. ทาให้เกิดการค้นคว้าทดลองและ
Galilei)ชาวอิตาลี ได้ประดิษฐ์กล้อง
แสวงหาความรู้ด้านต่าง ๆ โทรทัศน์ เพื่อสังเกตการโคจรรอบดวง
4. ทาให้ชาวตะวันตกมีทัศนคติเป็นนัก ดำว ทำให้นักดาราศาสตร์ได้รับความรู้
คิด ชอบสังเกต ชอบซักถาม ชอบ เกี่ยวกับจักรวาล
ค้นคว้าทดลอง เพื่อหาคาตอบ และนาค
วามรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิด
ประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิต
ยุคเรืองปัญญา ฌ็อง-ฌัก รูโซ
เป็นนักปรัชญา นักเขียน นักทฤษฎีการเมือง และนัก
ยุคเรืองปัญญา (อังกฤษ: Age of ประพันธ์เพลงที่ฝึกหัดด้วยตนเองแห่งยุคเรืองปัญญา
Enlightenment; ฝรั่งเศส: Siècle des เรืองปัญญาเริ่มตั้นขึ้นในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1650
Lumières) หรือ ยุคแสงสว่าง เป็นการเคลื่อนไหว - 1700 โดยถูกจุดประกายจากเหล่านักปราชญ์และ
ทางวัฒนธรรมของเหล่าปัญญาชนในยุโรปและ
อาณานิคมบนทวีปอเมริกาช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 นักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เช่น เรอเน เดการ์ต
โดยมีเป้าหมายเพื่อปฏิรูปสังคมและส่งเสริมการใช้ (1596–1650), บารุค สปิโนซา(1632–1677),
หลักเหตุผลมากกว่าการใช้หลักจารีต หรือสิทธันตนิ จอห์น ล็อก (1632–1704), ปิแยร์ เบย์ล(1647–
ยม (dogmatism) ความเชื่อ และการเปิดเผยจาก 1706), ไอแซก นิวตัน (1643–1727), วอลแตร์
พระเจ้า รวมไปถึงส่งเสริมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ (1694–1778). จุดเริ่มต้นของยุคเรืองปัญญามีที่มา
ขั้นสูง การเคลื่อนไหวในยุคเรืองปัญญาให้ความ จากการผนวกเข้าด้วยกันของอุดมคติว่าด้วยมนุษย์
สำคัญเป็นพิเศษต่อเสรีภาพในการแสดงออก นิยมของสมัยฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ กับการบุกเบิก
ความรู้และการค้นพบในสาขาปรัชญาธรรมชาติหรือ
วิทยาศาสตร์สมัยใหม่
ลิสบอนสึนามิคือจุดสูงสุด ของ การปฏิวัติทาง
ยุคเรืองปัญญา วิทยาศาสตร์ในยุคเริ่มต้น
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ในยุคเริ่มต้น เป็นการค้นพบความรู้ทาง
ยุคเรืองปัญญา (Age of Enlightenment) ดาราศาสตร์ ทำให้เกิดคำอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
คือสมัยของขบวนการการเปลี่ยนแปลงทาง ต่าง ๆ ซึ่งเป็นการท้าทายความเชื่อดั้งเดิมของคริสต์ศาสนา สรุปได้
วัฒนธรรม
ดังนี้
ถึงขั้นปฏิวัติทางความคิดของบรรดาปัญญาชน 1. การค้นพบทฤษฎีระบบสุริยะจักรวาลของนิโคลัส ชาวโปแลนด์ ใน
ในยุโรปและอาณานิคมของอังกฤษที่ทวีปอเมริกา ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 สาระสำคัญ คือ ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง
เหนือช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยมีวัตถุประสงค์ ของจักรวาล โดยมีโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ โคจรโดยรอบ ทฤษฎี
เพื่อปฏิรูปสังคมและส่งเสริมการใช้หลักเหตุผล ของโคเปอร์นิคัสขัดแย้งกับหลักความเชื่อของคริสต์จักรอย่างมากที่เชื่อ
มากกว่าการใช้หลักจารีตประเพณีหรือความเชื่อ ว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล แม้จะถูกประณามอย่างรุนแรง แต่
ถือว่าความคิดของโคเปอร์นิคัสเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติทาง
แบบศรัทธาฝังหัวต่อพระผู้เป็นเจ้าของศาสนา วิทยาศาสตร์ ทำให้ชาวตะวันตกให้ความสนในเรื่องราวลี้ลับของ
คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ทรงอิทธิพลสูงสุดใน
ยุโรปตะวันตกสมัยนั้น ด้วยการส่งเสริมความรู้ ธรรมชาติ
2. การประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ ของกาลิเลโอ ชาวอิตาลีในปี ค .
ทางวิทยาศาสตร์ ศ . 1609 ทำให้ความรู้เรื่องระบบสุริยจักรวาลชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ได้
เห็นจุดดับในดวงอาทิตย์ได้สังเกตการเคลื่อนไหวของดวงดาว และได้
เห็นพื้นขรุขระของดวงจันทร์ เป็นต้น
3. การค้นพบทฤษฎีการโคจรของดาวเคราะห์ ของโจฮันเนส เคป
เลอร์ ชาวเยอรมัน ในช่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 สรุปได้ว่า เส้นทาง
โคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์เป็นรูปไข่หรือรูปวงรี มิใช่เป็น
วงกลมตามทฤษฎีขอโคเปอร์นิคัส
การเสนอวิธีสร้างความรู้แบบ การจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ แห่งชาติ
ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีนักคณิตศาสตร์ 2 1. การเสนอทฤษฏีการศึกษาค้นคว้าด้วย “วิธีการทาง
คน ได้เสนอแนวความคิดเกี่ยวกับวิธีสร้างความรู้เพื่อ วิทยาศาสตร์ ” ทำให้เกิดความตื่นตัวในหมู่ปัญญาชนของ
ยุโรป มีการจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นในประเทศ
การศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ สรุปได้ดังนี้ ต่าง ๆ หลายแห่ง ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17เพื่อ
1. เรอเนส์ เดส์การ์ตส์ ( Rene Descartes ) ชาว สนับสนุนงานวิจัย การประดิษฐ์อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง
ฝรั่งเศส และเซอร์ ฟรานซิส เบคอน ( Sir Francis ๆ และแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ทำให้วิทยาศาสตร์
Bacon ) ชาวอังกฤษ ได้ร่วมกันเสนอหลักการใช้
เหตุผล วิธีการทางคณิตศาสตร์ และการค้นคว้าวิจัยมา เจริญก้าวหน้าโดยลำดับ
ใช้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและการแสวงหาความรู้ทาง 2. ความร่วมมือระหว่างนักวิทยาศาสตร์กับนักประดิษฐ์นำ
ไปสู่การพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ มากมาย ความรู้ทาง
ด้านวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์จึงเป็นรากฐานของความเจริญ ก้าวหน้าทาง
2. ความคิดของเดส์การ์ตส์ เสนอว่าวิชาเรขาคณิต เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ จึงมีผู้กล่าวว่ากรปฏิวัติวิทยาศาสตร์ใน
เป็นหลักความจริงสามารถนำไปใช้สืบค้นข้อเท็จจริง คริสต์ ศตวรรษที่ 17 เป็นยุคแห่งอัจฉริยะ ( The Age of
ทางวิทยาศาสตร์ได้ ซึ่งได้รับความเชื่อถือจากนัก Genius ) เพราะมีการค้นพบความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ
วิทยาศาสตร์ในสมัยต่อมาเป็นอย่างมาก เกิดขึ้นมากมาย
3. ความคิดของเบคอน เสนอแนวทางการค้นคว้า
วิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ “วิธีการทางวิทยาศาสตร์
” เป็นเครื่องมือศึกษา ทำให้วิทยาศาสตร์ได้รับความ
สนใจอย่างกว้างขวาง
การค้นพบกฎแห่งความโน้ม ผลจากการปฏิวัติวิทยาศาสตร์
ในคริสต์ศตวรรษที่ 17
ถ่วงของนิวตัน
1. การปฏิวัติวิทยาศาสตร์เป็นสาเหตุผลักดันให้เกิดการ
ปฏิวัติอุตสาหกรรมในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ทำให้
1. การค้นพบความรู้หรือทฤษฎีใหม่ของ เซอร์ ไอแซค นิวตัน ( ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปพัฒนาความเจริญก้าวหน้าใน
ด้านการผลิตจนกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ
Sir Isaac Newton ) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ในตอน
ปลายคริสต์สตวรรษที่ 17 มี 2 ทฤษฏี คือ กฎแรงดึงดูดของ ของโลก
2. การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ทำให้เกิด “ ยุค
จักรวาลและกฎแห่งความโน้มถ่วง ภูมิธรรม ” หรือ “ ยุคแห่งการรู้แจ้ง ” ทำให้ชาวตะวัน
2. ผลจากการค้นพบทฤษฏีทั้งสองดังกล่าว ทำให้นัก ตกเชื่อมั่นในเหตุผล ความสามารถ และภูมิปัญญาของ
วิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใดโลกและดาว ตนเชื่อมั่นว่าโลกจะก้าวหน้าพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เคราะห์จึงหมุนรอบดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จึงหมุนรอบโลกได้ มีความมั่นในว่าจะสามารถแสวงหาความรู้ต่อไปไม่มีวัน
โดยไม่หลุดจากวงโคจร และสาเหตุที่ทำให้วัตถุต่าง ๆ ตกจากที่ สิ้นสุด โดยอาศัยเหตุผลและสติปัญญาของตน
สูงลงสู่พื้นดินโดยไม่หลุดลอยไปในอวกาศ
3. ความรู้ที่พบกลายเป็นหลักของวิชากลศาสตร์ ทำให้นัก
วิทยาศาสตร์เข้าในเรื่องราวของเอกภพสะสาร พลังงาน เวลา
และการเคลื่อนตัวของวัตถุในท้องฟ้า โดยใช้ความรู้และวิธีการ
ทางคณิตศาสตร์ช่วยค้นหาคำตอบ
นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ ในการปฏิวัติทาง 1.นิโคลัส โคเปอร์นิคัส
วิทยาศาสตร์ (NICOLUS COPERNICUS :
ในคริสต์ศตวรรษที่ 16-18 มีการเปลี่ยนแปลงด้าน ค.ศ. 1473-1543) ชาว
วิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่มีการค้นคว้าทดลองพิสูจน์ โปแลนด์ เสนอทฤษฎีว่าดวง
อาทิตย์เป็น ศูนย์กลางของ
ทฤษฎีต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ ในยุคนี้มีนัก จักรวาล โดยมีดาวเคราะห์รวม
วิทยาศาสตร์ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ ทั้งโลกหมุนรอบ ดวงอาทิตย์
ทฤษฎีของเขาล้มล้างความเชื่อ
ของคนในสมัย โบราณและ
สมัยกลางที่ยึดถือข้อ
สมมติฐานของอริสโตเติล
(ARISTOTLE) และงานเขียน
ของโตเลมี (PTOLEMY) ที่
อธิบายว่า โลกเป็นศูนย์กลาง
ของจักรวาล
2. กาลิเลโอ กาลิ 3. เซอร์ ฟรานซิส
เลอิ (GALILEO เบคอน (SIR
GALILEI : ค.ศ. FRANCIS
1564- 1642) ชาว BACON : ค.ศ.
อิตาลีได้ประดิษฐ์
กล้องโทรทัศน์ เพื่อ 1561-1626) ชาว
สังเกตการโคจร อังกฤษได้วาง
รอบ ดวงดาว ทำให้
นักดาราศาสตร์ได้ รากฐานการศึกษา
รับความรู้เกี่ยวกับ งานด้าน
จักรวาลและการ
เคลื่อนที่ในระบบ วิทยาศาสตร์ จน
สุริยจักรวาลตาม ในที่สุดทำให้มีการ
ทฤษฎีของโคเปอร์นิ จัดตั้งราชบัณฑิตย
คัส ทฤษฎีของ กา สมาคม ที่ เรียกว่า
ลิเลโอขัดแย้งกับ
คริสต์ศาสนา ทำให้ THE ROYAL
ถูกลงโทษจากคริ SOCIETY OF
LONDON FOR
สตจักร
THE
PROMOTION OF
NATURAL
KNOWLEDGE ขึ้น
เพื่อส่งเสริมการ
ค้นคว้าทาง
วิทยาศาสตร์
4. เรอเน เดส์การ์ส 5. เซอร์ ไอแซก นิ
(RENE DESCARTES : วตัน (SIR ISAAC
ค.ศ. 1596- 1650) ชาว NEWTON : ค.ศ.
ฝรั่งเศสได้เสนอหลัก 1642- 1727) ชาว
การใช้เหตุผล และการ อังกฤษค้นพบกฎ
ศึกษาค้นคว้า วิจัยใน แรงดึงดูด (LAW
การแสวงหาความรู้และ OF UNIVERSAL
ATTRACTION)
การวิเคราะห์ทาง และกฎแห่งความ
คณิตศาสตร์ว่า
สามารถนำมาพิสูจน์ โน้มถ่วง (LAW
และตรวจสอบข้อเท็จ OF GRAVITY)
ซึ่งเป็นผลให้นัก
จริงได้
วิทยาศาสตร์
อธิบายการโคจร
ของโลกและดาว
เคราะห์ต่างๆ ที่
หมุนรอบ ดวง
อาทิตย์ได้
กลุ่ม การปฏิวัติวิทยาศาสตร์
นางสาวทรงพร วงค์ศรี เลขที่ 19
นางสาวปฐมวดี โยธิกา เลขที่ 20
นางสาวเยาวมาลย์ จะยินรัมย์ เลขที่ 24