ใบงาน รหัสนักศึกษา 63010210003 นาย อภินันท์ ธรรมเจริญ ชั้นปีที่4 สาขาเทคโนโลยีดิจิทัลทางธุรกิจ ให้นักศึกษาตอบค าถามต่อไปนี้ ให้ครบถ้วน 1. ให้นักศึกษาค้นคว้าติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่เล็งเห็นการ เปลี่ยนแปลงและสามารถเข้าใจผลกระทบของเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมทั้งสามารถน าไปประยุกต์ได้ถูกต้อง โดย เขียนบรรยายมาครึ่งหน้ากระดาษ A4 ว่าสนใจเรื่องนี้เพราะเหตุใด มาอย่างครอบคลุม และน ามาเขียนเป็นผัง มโนทัศน์หรือ ไมด์แม็ป (Mind Map) วิวัฒนาการกล้องถ่ายภาพ อดีต-ปัจจุบัน วิวัฒนาการของกล้องถ่ายภาพเริ่มจากมีผู้สังเกตุเห็นภาพเหมือนในลักษณะกลับ หัวบนผนังภายใน ห้องที่ทึบและอับแสง ภาพดังกล่าวเกิดจากแสงของภาพวิวภายนอกลอดผ่านรูเล็กๆ ที่ผนังห้องไปก่อเกิด ภาพเหมือนบนผนังอีกด้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของห้อง ต่อมาได้มีการน าหลักการดังกล่าวมาประดิษฐ์เป็นกล้อง ออบสคิวรา (Camera Obscura) ค าว่า "camera" มีความหมายว่า "ห้อง" ส่วน "Obscura" มีความหมายว่า "ความมืด" ในปีค.ศ.1558 นาย Giovanni Battista della Porta ได้เขียนบทความแนะน าให้ใช้กล้องออบสคิวรา เป็นเครื่องมือในการวาดภาพ Johannes Zahn (1641–1707) ท่านได้ออกแบบกล้องออบสคิวราแบบพกพาไว้หลายแบบ และยังมี การใช้กระจกติดไว้ด้านหลังของกล้องสะท้อนแสงขึ้นไปปรากฏภาพที่ด้าน บนของกล้อง ท าให้ภาพที่ได้ไม่กลับ หัวอีกต่อไป ประจวบกับในช่วงคริสตวรรษที่ 16 ได้มีการประดิษฐ์กล้องส่องทางไกล จึงมีการน าเลนส์มาใส่ที่ ช่องรับแสงแทนรูเข็มท าให้ได้ภาพที่สว่างและคมชัด ขึ้น ในปีค.ศ. 1814 ชาวฝรั่งเศสชื่อ Joseph Nicéphore Niépce ได้ทดลองน าสาร silver chloride เคลือบลงบน กระดาษมารับภาพในกล้องออบสคิวรา โดยเปิดรับแสงอยู่นานถึง 8 ชั่วโมง กระดาษดังกล่าวมีภาพปรากฏขึ้น แต่สามารถอยู่ได้สักพักแล้วก็จางหายไป แม้กระนั้นก็ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ส าคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยี การถ่ายภาพ ในปีค.ศ. 1837 ชาวฝรั่งเศสชื่อ Louis Jacques Mandé Daguerre ผู้เป็นหุ้นส่วนกับนาย Niépce ได้ท า การพัฒนาวิธีการสร้างภาพต่อจากนาย Niépce เขาสามารถท าการบันทึกภาพให้อยู่คงทนได้ส าเร็จอีกทั้งใช้ เวลาในการรับแสงน้อย กว่า 30 นาที วิธีการของนาย Daguerre เรียกว่า "Daguerreotype"
ในปีค.ศ. 1841 นาย William Henry Talbot ได้พัฒนาระบบที่ชื่อ Calotype โดยสร้างภาพจากการบันทึกให้ เป็นภาพกลับสี (Negative Image ขณะนั้นยังเป็นภาพสีขาวกับด าอยู่) จากนั้นน าภาพที่ได้มาท าการส าเนาได้ เป็นภาพสีเหมือน (Positive Image) ซึ่งวิธีการนี้สามารถท าส าเนาจากภาพต้นฉบับได้หลาย ๆ ชุด ทั้งนาย Daguerre และนาย Talbot ต่างก็ใช้กล้องออบสคิวราแบบติดเลนส์ด้านหน้าซึ่งสามารถเลื่อนปรับระยะได้ เพื่อ หาระยะชัดของภาพ ส่วนแผ่นรับภาพจะติดไว้ด้านหลังที่ช่องมองภาพ ในปีค.ศ. 1843 ได้มีการน าภาพถ่ายมาใช้ในการโฆษณาครั้งแรกที่เมืองฟิ ลาเดลเฟี ย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีค.ศ. 1851 Frederick Scott Archer ได้คิดค้นระบบที่มีชื่อเรียกว่าระบบ Collodion โดยใช้แผ่นรับ ภาพแบบแห้ง ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 ถึง 3 วินาทีในการบันทึกภาพในสภาพแสงปกตินอกอาคาร ในช่วงเวลา เดียวกันนั้นเองก็มีการทดลองบันทึกภาพถ่ายใต้น ้าด้วย ในปีค.ศ. 1859 มีการจดสิทธิบัตรกล้องถ่ายภาพแบบ Panorama ในปีค.ศ. 1871 นาย Richard Leach Maddox ได้คิดค้นแผ่นรับภาพแบบแห้งโดยใช้สารเจลาตินซึ่งมีชื่อ เรียกระบบนี้ว่า ระบบ Gelatin Dry Plate Silver Bromide แผ่นรับภาพชนิดนี้ท าให้ช่างถ่ายภาพไม่จ าเป็นต้อง ชะโลมด้วยน ้ายาเคมีเพื่อท า การล้างภาพทันทีหลังจากบันทึกภาพเสร็จเหมือนกรรมวิธีในระบบก่อนหน้านี้ ในช่วงท้ายของทศวรรษ 1870 ความเร็วในการบันทึกภาพเหลือเพียง 1 ใน 25 วินาที ในปีค.ศ. 1880 นาย George Eastman ได้ก่อตั้งบริษัท Eastman dry plate สี่ปีให้หลังทางบริษัทได้ประดิษฐ์ แผ่นรับภาพท าจากกระดาษท าให้โค้งงอได้เป็น ที่มาของค าว่า "ฟิ ล์มถ่ายภาพ (Photographic Film)" ในปีค.ศ. 1888 บริษัท Eastman ได้ประดิษฐ์ฟิ ล์มแบบเป็นม้วนทั้งยังประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพแบบ ประหยัดใช้ชื่อ ว่า "Kodak" ตัวกล้องมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมไม่มีการปรับระยะชัดและมีความเร็วในการ รับแสงตายตัวอีกทั้งได้ท าการเปลี่ยนฟิ ล์มแบบกระดาษเป็นแบบเซลลูลอยด์ (Celluloid) ในปีค.ศ. 1889 ผู้ใช้กล้อง Kodak เมื่อถ่ายภาพจนหมดม้วนก็จะน าฟิ ล์มมาส่งให้บริษัท Kodak เพื่อเป็น ผู้จัดท าขบวนการสร้างภาพ ต่อมาในปีค.ศ. 1900 บริษัทยังได้ออกกล้องรุ่นใหม่มีชื่อว่า "Brownie" เป็นกล้อง ราคาประหยัดและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง กล้อง Brownie ออกมาอีกหลายรุ่น บางรุ่นยังมีจ าหน่ายจน สิ้นทศวรรษ 1960 ผลการประดิษฐ์ฟิ ล์มม้วนของ Kodak ยังเป็นก้าวส าคัญในการประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพยนต์ ของนาย Thomas Edison's ในปีค.ศ. 1891 ในปีค.ศ. 1913 นาย Oskar Barnack จากสถาบัน Ernst Leitz Optishe Werke ได้มีการประดิษฐ์ต้นแบบ กล้อง 35 มม. และผลิตออกจ าหน่ายในปีค.ศ. 1925 ใช้ชื่อกล้องว่า "Leica I" กล้อง 35 มม.ได้เป็นที่นิยมเพราะ ขนาดกระทัดรัด และฟิ ล์มที่ใช้ได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลให้ผู้ผลิตกล้องต่างก็ลงมา แข่งขันในตลาดนี้
ในปีค.ศ. 1927 บริษัทไฟฟ้า General Electric ได้ประดิษฐ์หลอดไฟแฟลชใช้ส าหรับถ่ายภาพในพื้นที่ที่มี แสงสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งก่อนหน้านี้การให้แสงสว่างท าได้โดยใช้ผงเคมีท าปฏิกริยากันจนเกิดแสงจ้า ซึ่งถูก คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ในปีค.ศ. 1928 นาย Franke & Heidecke Roleiflex ได้น าเสนอกล้อง Rolleiflex เป็นกล้องขนาดเหมาะ กับการพกพาใช้ฟิ ล์มขนาด 120 ประกอบด้วยเลนส์สองชุด ชุดหนึ่งใช้ส าหรับบันทึกภาพ อีกชุดหนึ่งใช้กระจก สะท้อนให้เกิดภาพบนกระจกฝ้าส าหรับมองภาพ เรียกว่า กล้องระบบสะท้อนภาพเลนส์คู่ (Twin-lens Reflex Cameras เรียกย่อ ๆ ว่า TLR) ในปีค.ศ. 1933 นาย Ihageen Exakgta ได้ออกกล้องระบบสะท้อนภาพเลนส์ เดี่ยว (Single-lens Reflex Camera เรียกย่อๆ ว่า SLR) กล้องดังกล่าวใช้ฟิ ล์ม 120 ความเป็นจริงในยุคนั้นมี การผลิตกล้อง TLR และ SLR อยู่ก่อนแล้ว แต่กล้องของ Rolleiflex กับ ของ Exakgata มีขนาดกระทัดรัดพกพา สะดวก จึงเป็นที่นิยมมากกว่า และอีก 3 ปีให้หลัง Kine Exakta ได้ออกกล้อง SLR ที่ใช้ฟิ ล์มขนาด 35 ม.ม. ซึ่ง เป็นแบบที่สามารถท าตลาดได้ดี ท าให้มีผู้ผลิตกล้องประเภทนี้ออกมาเป็นจ านวนมาก ในปีค.ศ. 1947 กล้อง Duflex ได้มีการใช้ปริซึมห้าเหลี่ยม (Pentaprism) ในการสะท้อนภาพท าให้มีช่อง มองภาพอยู่ด้านหลังของกล้องแทนที่ดูจากด้านบน เหมือนกล้องอื่นๆ ในยุคนั้นช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง ได้ ก าเนิดกล้อง Hasselblad 1600F ซึ่งถือเป็นมาตรฐานส าหรับกล้อง SLR ขนาดกลางซึ่งใช้ฟิ ล์ม 120 ในปีค.ศ. 1935 บริษัท Eastman Kodak ได้วางจ าหน่ายฟิ ล์มสไลด์สี "Kodachrome" ซึ่งให้สีสรรที่สวยสดเป็น ที่นิยมของช่างภาพมืออาชีพ เนื่องจากขบวนการสร้างภาพที่ซับซ้อน ฟิ ล์มรุ่นนี้ขายในราคาที่รวมค่าล้างและ ต้องส่งไปเข้าสู่ขบวนการล้างที่ศูนย์ ของ Kodak เท่านั้น ต่อมาในปีค.ศ. 1941 บริษัท ยังได้แนะน าฟิ ล์ม negative สี "Kodacolor" เข้าสู่ตลาดอีกด้วย ในปีค.ศ. 1948 นาย Edwin Land ได้น าสิ่งประดิษฐ์ใหม่ออกสู่ตลาด เป็นกล้องถ่ายภาพแบบสร้างภาพทันที หลังการบันทึกภาพ (Instant-picture camera) ซึ่งมักเรียกกันว่า "Land Camera" รุ่นของกล้องที่ออกตลาด ใน ตอนนั้นเรียกว่า "Polaroid Model 95" เนื่องจากราคากล้องยังค่อนข้างสูง จึงมีการออกรุ่นใหม่ๆ อีกหลายรุ่น ในปีค.ศ. 1963 Polaroid ได้เริ่มจ าหน่ายฟิ ล์มสีสร้างภาพทันทีหลังการบันทึกภาพ (Instant Colour Film) ในปีค.ศ. 1965 Polaroid ได้ออกกล้องรุ่น "Model 20 Swinger" ซึ่งถือแป็นรุ่นที่ประสบความส าเร็จอย่าง สูง มียอดขายสูงสุดตลอดกาลรุ่นหนึ่งของบริษัท ในปีค.ศ. 1953 นาย Harold Eugene Edgerton จากบริษัท EG&G ได้ร่วมมือกับนาย Jaques Yves Cousteau นักส ารวจใต้น ้าชาวฝรั่งเศสเริ่มใช้กล้องถ่ายภาพท้องมหาสมุทรโดยใช้คลื่น โซนาร์ในการวัดระยะ ระหว่างกล้องกับพื้นมหาสมุทร
ในปีค.ศ. 1968 ยาน Apollo 8 ได้ท าการบันทึกภาพของโลกจากดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ในปีค.ศ. 1978 บริษัทผลิตกล้อง Konica ได้ประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพแบบหาระยะชัดโดยอัตโนมัติ (Automatic Focus Camera) ในปีค.ศ. 1980 บริษัท Sony เริ่มแสดงต้นแบบกล้องถ่ายวีดิโอ ในปีถัดมา บริษัท Sony ได้ออกกล้อง ถ่ายภาพนิ่งแบบอีเลคทรอนิคซึ่งใช้หลักการเดียวกับการบันทึกวีดีโอและใช้แผ่น เก็บข้อมูลขนาดเล็ก ซึ่ง สามารถดูภาพและพิมพ์ภาพจากเครื่องอ่านที่สร้างเฉพาะงาน ระบบดังกล่าวคล้ายกับระบบที่บริษัท Texas Instruments คิดค้นขึ้นในปี ค.ศ. 1972 คุณภาพของภาพที่ได้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต ่าเทียบเท่ากับภาพบนจอทีวี ในปีค.ศ. 1985 บริษัท Pixar ได้น าเสนอเทคโนโลยีการสร้างและประมวลภาพด้วยระบบดิจิตอล ในปีค.ศ. 1986 บริษัท Fuji ได้ริเริ่มผลิตกล้องแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ในปีค.ศ. 1988 บริษัท Fuji ได้ออกกล้อง Fuji DS-1P ซึ่งถือเป็นกล้องดิจิตอลแรกที่สร้างไฟล์ภาพน ามาใช้ ในคอมพิวเตอร์ได้ ตัวกล้องมีการ์ดความจ า 16 MB และต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รักษาข้อมูลตลอดเวลา กล้องดังกล่าวไม่ได้มีการวางจ าหน่ายมากนัก ในปีค.ศ. 1990 กล้องที่มีการวางจ าหน่ายในเชิงพาณิชย์ คือกล้อง Dycam Model 1 ใช้หน่วยบันทึกภาพ แบบ CCD (Charge Couple Device) และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โดยตรงในการส่งข้อมูลภาพ ในปีค.ศ. 1991 บริษัท Kodak ได้น ากล้อง Kodak DCS-100 ออกจ าหน่ายโดยใช้ตัวกล้องแบบใช้ฟิ ล์มของ ยี่ห้ออื่นมาดัดแปลง (ใช้กล้องของ Nikon) Kodak ได้ให้การนิยามในการเรียกเม็ดสีแต่ละเม็ดของภาพดิจิตอล ว่า “พิกเซล” (Pixel) ขนาดของไฟล์ภาพส าหรับกล้องรุ่นนี้อยู่ที่ 1.3 เมกกะพิกเซล กล้องดังกล่าวมีราคาค่อนข้าง สูงและมีเป้าหมายในการจ าหน่ายแก่ช่างภาพมือ อาชีพและนักข่าว ในปีค.ศ. 1995 กล้อง Ricoh RDC-1 ได้ถูก วางจ าหน่าย ถือเป็นกล้องแรกที่สามารถอัดคลิบวีดีโอได้ ในปีค.ศ. 1995 นาย Phillipe Kahn ได้ประดิษฐ์ระบบบันทึกภาพส าหรับโทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องแรก และ ใน ปีค.ศ. 2000 บริษัท J-Phone ได้ออกโทรศัพท์มือถือรุ่น J-SH04 ที่สามารถบันทึกภาพได้จ าหน่ายในเชิง พาณิชย์เป็นครั้งแรก หลังจากนั้น บริษัทผลิตกล้องชั้นน าต่างก็ผลิตกล้องดิจิตอลที่มีคุณภาพสูงขึ้น มีหน่วย บันทึกภาพที่ให้คุณภาพ และความละเอียดสูงขึ้น ในขณะที่ราคาลดต ่าลง มีแบบและรุ่นต่าง ๆ ให้เลือก มากมาย ท าให้การถ่ายภาพเป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น และแล้วในที่สุด ก็ถึงยุคทองของกล้อง DSLR ในปัจจุบัน ยุคที่กล้องระดับสุดยอดของค่ายต่าง ๆ มีราคาที่ ชาวบ้านหาซื้อมาเล่นได้สบาย ๆ ยุคที่กล้องฟุลเฟรมราคาลดลงมาเยอะมาก มีทั้งรุ่นถูก รุ่นแพงให้เลือกตามใจ
ชอบ ทางค่ายแคนนอน และนิคอน รวมทั้งโซนี่ ต่างผลิตกล้องที่มีเซนเซอร์ระดับฟุลเฟรมราคาถูกออกมา จ าหน่ายมากมายหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น D600, D610, EOS 6D เป็นต้น กล้องระดับนี้ถ่ายภาพออกมาได้สุด ยอดมาก เพียงแต่ความแข็งแรงทนทานอาจจะไม่เท่ากล้องที่มีรูปร่างบึกบึน และลดความสามารถบางอย่าง (ที่ ตากล้องทั่วไปอาจไม่จ าเป็นต้องใช้) เพื่อท าให้ราคาลดลงอย่างมาก เมื่อกล้องพัฒนาเป็นอย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ ในยุคที่กล้องดิจิตอลพัฒนาไปถึงขีดสุด ไม่รู้ภาพจะ ชัดกว่านี้ยังไงแล้ว ก็หันมาพัฒนาด้านอื่นแทน เช่น บรรจุ GPS, Wifi, เพิ่มฟังก์ชั่นการถ่ายวิดีโอ Full HD หรือสโลว์โมชั่น, ท าหน้าจอสัมผัส หรือใส่ฟังก์ชั่นการแก้ไขภาพเข้าไปในกล้องเลย อะไรอย่างนี้เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาให้ตัวกล้องเล็กลงเรื่อย ๆ จนแตกกล้องออกเป็นกล้องอีกประเภทหนึ่งคือ กล้อง Mirrorless คือใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่เท่า DSLR ในบางรุ่นถึงกับใส่เซนเซอร์ระดับฟุลเฟรมเข้าไปเลย เพื่อให้ขนาดกล้องเล็กลง เนื่องจากไม่ต้องบรรจุกระจกสะท้อนเข้าไปในกล้อง ส าหรับกล้องประเภทนี้ ทางค่าย Sony และ Olympus เป็นผู้น า ซึ่งผลิตออกมานานแล้ว และมีหลากหลายรุ่น หลายระดับให้เลือกใช้
1. การพัฒนาเกมสามมิติโดยการจ าลองสถานทจี่ริง ปัจจุบันการพัฒนาแบบทวีคูณของเทคโนโลยีสารสนเทศด้านเกมคอมพิวเตอร์ ท าให้อุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศในภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากขึ้น ด้วยนวัตกรรมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์และการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง สามารถ เข้าถึงมวลชนทุกระดับได้อย่างไร้พรมแดน แต่ ยังไม่ ค่อยมีซอฟต์แวร์ราคาถูกและง่ายต่อการพัฒนาเกม ที่สามารถพัฒนาเพื่อให้เกิดการ ควบคุมเกม คอมพิวเตอร์ที่ เสมือนจริง ท าให้เล็งเห็นถึงความสามารถขอโปรแกรม Game Engine (Unreal Engine) ที่ สามารถสร้างเกมสาม มิติที่สมจริง เปิดให้ใช้พัฒนาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและมีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งเป็นที่ ได้รับความนิยมสูงในวงการ นักพัฒนาเกม ที่ช่วยสร้างเกม 3 มิติ ซึ่งสามารถท างานได้บน 2 แพลตฟอร์ม คือ Windows และ OSX และสามารถ น าไปใช้งานได้หลายแพลตฟอร์มอาทิเช่น Windows หรือ Androids ซึ่ง รูปแบบการพัฒนาเกมสามมิติที่มีในปัจจุบัน มีการออกแบบสถานที่สภาพแวดล้อมและรูปแบบการเล่นเกม สามมิติจากบริษัทผู้ผลิตเกม โดยที่ผู้ใช้ทั่วไปจะไม่ สามารถทราบได้ว่ามีรูปแบบการพัฒนามาอย่างไร ซึ่ง แนวทางในการพัฒนาเกมในปัจจุบันมีการออกแบบและพัฒนาขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิตเกมโดยตรง ที่ ออกแบบ และก าหนดเงื่อนไขของเกมหรือออกแบบสถานที่ตามที่ผู้พัฒนาได้ออกแบบไว้ โดยที่ผู้เล่นไม่สามารถเพิ่ม เงื่อนไขของเกมหรือเพิ่มเติมสถานที่ตามความต้องการของผู้เล่นได้โดยการพัฒนาเกมสามมิติจะพัฒนาโดย การใช้โปรแกรม Unreal Engine ในการพัฒนาด้านการออกแบบ การจ าลองตัวละคร การจ าลองเงื่อนไขของ เหตุกรณ์ต่างๆ การเขียนโปรแกรมตามเงื่อนไขที่คณะผู้วิจัยได้วางรูปแบบ และวิธีคิด ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ออกแบบ เป็นเกมยิงมอนสเตอร์เพื่อให้สามารถระบุเงื่อนไขด้านต่างๆได้ตามที่คณะผู้วิจัย ได้วางรูปแบบไว้ เพื่อสร้างเก มท าหน้าที่แสดงผลตามเงื่อนไขตามรูปแบบของเกม ให้สามารถท างานร่วมกับ โปรแกรมในการออกแบบสาม มิติหรือโปรกรมจ าลองสถานที่จริงได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งคณะผู้วิจัยได้สร้าง แบบจ าลองสามมิติเป็น สถานที่จริง คืออาคารในมหาวิทยาลัยราชภัฏก าแพงเพชร แม่สอด เพื่อให้กลุ่มประชากร เป้าหมายที่คณะผู้วิจัย ท าการทดสอบได้ทดลองเล่นและมีความรู้สึกถึงบรรยากาศจริง โดยใช้โปรแกรม Sketch Up ในการพัฒนาเกม ด้านสภาพแวดล้อม จากนั้นจึงน าไปเข้ากระบวนการก าหนดค าสั่งและเงื่อนไขให้โมเดลที่ถูก ออกแบบมาโดย โปรแกรม Sketch Up สามารถใช้งานร่วมกับการพัฒนาเกมตามเงื่อนไขที่ถูกออกแบบมาด้วย โปรแกรม Unreal Engine
แหล่งที่มา https://research.kpru.ac.th/research2/pages/filere/5702020-01-10.pdf 2. ระบบจัดการร้านอาหาร Restaurant Management System วัตถุประสงค์ของภาคนิพนธ์นี้ออกแบบและพัฒนาระบบจัดการร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้นทั้ง ในส่วนของการจัดเก็บข้อมูล เพื่อป้องกนการสูญหายของข้อมูลต่างๆ และช่วยให้การ ปฏิบัติงานมีความสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น การพัฒนาระบบจัดการร้านอาหาร โดยใช้โปรแกรม Microsoft Visual Studio 2017 ในการ ออกแบบพัฒนาระบบจัดการร้านอาหาร ใช้ภาษา C# ในการ เขียนโปรแกรม และใช้การจัดการฐานข้อมูลโดย ใช้โปรแกรม Microsoft SQL Server 2017 ระบบ จัดการร้านอาหารสามารถใช้งานด้านการเก็บข้อมูลต่างๆ มี เมนูให้เลือก เช่น จองโต๊ะอาหาร ตัดจ าหน่ายวัตถุดิบ เพิ่มสูตรวัตถุดิบ รายงานสรุปยอดแบบเลือกวันที่ ซึ่งผลที่ ได้รับจากการพัฒนาระบบ แสดงให้เห็นว่าระบบสามารถท างานได้ตรงขอบเขต ลดข้อผิดพลาดในการให้บริการ ตลอดจนท าให้ลดความซับซ้อนของการสั่งซื้อ และจัดการวัตถุดิบพร้อมทั้งการตัดจ าหน่ายวัตถุดิบให้มี ประสิทธิภาพ มากขึ้น แหล่งที่มา https://e-research.siam.edu/wp-content/uploads/2020/02/IT-Informationtechnology-project-2019-3- Restaurant-Management-System_compressed.pdf
3. ระบบร้านเช่ารถยนต์ ร้าน ECOCAR ตั้งอยู่เลขที่ 2/3 ถนนลาดกระบัง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520 ห่างจากสนามบิน 6 กิโลเมตร บริหารงานโดย ฉัตรชัย โคตถา เริ่มก่อตั้ง ECOCAR ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึง ปัจจุบัน เนื่องจากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเมืองไทยหลายกลุ่มและมีปัญหาเกี่ยวกับการเดินทางใน พื้นที่ จึงเลือกหา รถยนต์เช่าเพื่ออ านวยความสะดวก จึงเกิดธุรกิจเช่ารถยนต์ขึ้นและเกิดปัญหาเกี่ยวกับการ ควบคุมระบบ กลุ่มของ ข้าพเจ้าจึงจัดท าระบบการเช่ารถยนต์ขึ้นเพื่ออ านวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเช่า รถยนต์ให้มีประสิทธิภาพและ รวดเร็วมากขึ้น ระบบการให้บริการเดิมของร้านเช่ารถยนต์มีกระบวนการดังนี้คือ เมื่อมีลูกค้ามาเช่ารถยนต์ลูกค้าต้องน าบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับขี่รถยนต์มาให้กับทางร้านเพื่อเป็นหลัก ฐานในการเช่ารถยนต์ และเลือกรถยนต์พนักงานจึง เขียนใบเช่ารถยนต์และก าหนดวันที่ส่งคืนลงแฟ้มเก็บ ข้อมูล พนักงานรับช าระค่าเช่ารถยนต์จากลูกค้า ในการรับคืนรถยนต์และตรวจเช็ควันที่ส่งคืนพร้อมความ เสียหายที่เกิดจากการใช้งานรถยนต์เพื่อคิดค่าปรับจะเห็นได้ว่าการท างานในระบบเดิมนั้นจะใช้แรงงานคนใน ทุกขั้นตอนการ จึงเกิดปัญหาล่าช้าในการบริการกับลูกค้า เช่นในการ เขียนก าหนดวันที่ส่งคืน และการรับ รถยนต์เกิดความล่าช้า และพนักงาน 1 คน ท าการเช่ารถยนต์ได้หลายครั้ง จึงเกิด ปัญหาการเขียนข้อก าหนด ต่างๆผิดพลาดและไม่มีการออกใบเสร็จให้ลูกค้า ทั้งนี้เกิดจากทางร้านยังไม่มีการเก็บข้อมูล ของลูกค้าและ ข้อมูลรถยนต์ภายในร้าน (ฉัตรชัย โคตรถา, 2556) ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวผู้ศึกษาจึงได้จัดท า โปรแกรมระบบบริหารจัดการร้านเช่ารถยนต์ ท าให้การเช่ารถยนต์และการรับคืนรถยนต์เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังช่วยจัดการฐานข้อมูลที่จ าเป็นต่อ กิจการ ป้องกันการสูญหายและลดการ ซ ้าซ้อนของข้อมูลอีกด้วยโดยใช้ Microsoft SQL Server 2019 ส าหรับการ จัดการฐานข้อมูล ในการพัฒนา ระบบโปรแกรม Microsoft Visual Studio 2019 แหล่งที่มา http://journal.nmc.ac.th/th/admin/Journal/2564Vol13No1_72.pdf
4. การพัฒนาระบบจัดการการจองห้องพักและบริการ การใช้เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีความส าคัญส าหรับยุคสมัยในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการ ติดต่อสื่อสารและรวมถึง การค้นคว้าข้อมูลต่างๆและการใช้เทคโนโลยีเพื่อการท างานและจัดการกับ ธุรกิจของผู้ประกอบการรวมถึงธุรกิจ ด้านที่พักโรงแรม ซึ่งมีความส าคัญแก่นักท่องเที่ยวในการค้นหา ข้อมูลในการเข้าพักบางครั้งบางเวลาการ ท างานและการจองสถานที่พักอาจเกิดปัญหาในเวลาที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักในวันและเวลาเดียวกันจ านวน มากเพราะการท างานในด้านการจองที่พักยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ปัจจุบันในการบริหารและการ ตัดสินใจของที่พักน ้าตกตายายโฮมสเตย์ท าโดยเจ้าของแต่เพียง ผู้เดียว ในขั้นตอนการโทรมาจองห้องพักนั้นท า ให้เกิดการสับสนและซ ้าซ้อนของข้อมูลลูกค้าจึงท าให้เกิดปัญหาในการจองห้องพักที่ไม่ตรงตามคุณภาพที่ ลูกค้าต้องการอีกทั้งระบบจัดเก็บข้อมูล ความส าคัญของลูกค้ายังไม่เป็นหมวดหมู่และไม่ถูกต้องจึงท าให้มี ปัญหาในการช าระเงินของลูกค้า ท า ให้ค านึงว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นเครื่องมือส าคัญ ส าหรับการให้บริการ น ้าตกตา ยายโฮมสเตย์ เพื่อท าการปรับปรุงรูปแบบการท างานภายในและต้องการขยาย ฐานตลาดของลูกค้าให้มากขึ้นเพื่อรองรับการให้บริการและรูปแบบการจองห้องพักให้มีมาตรฐานมากขึ้น จึง ต้องการ ให้บริการจองที่พักแบบ On line โดยผ่านเว็บไซต์ของ น ้าตกตายายโฮมสเตย์ดังนั้นในส่วนของ การ จองห้องพักแบบ On line จึงมีส่วนส าคัญที่จะช่วยให้การบริการของ น ้าตกตายายโฮมสเตย์ นั้นมีมาตรฐาน มากขึ้น รวมไปถึงการช่วยลดความซ ้าซ้อนของข้อมูล เพิ่มการ เชื่อมโยงข้อมูล และการท างานได้อย่างต่อเนื่อง และมีความน่าเชื่อถือและที่ส าคัญเพิ่มตลาดของลูกค้า ที่มากขึ้นด้วยเป็นการจัดท าโดยพัฒนาขึ้นในลักษณะ เว็บแอพพลิเคชั่น (Web Application) ซึ่ง วิเคราะห์และออกแบบพัฒนาระบบด้วยภาษา PHP และ html ใน การรันเป็นเซิฟเวอร์ใช้ระบบการ จัดการฐานข้อมูล MySQL โดยใช้การทดสอบผลการประเมินประสิทธิภาพ ให้ กลุ่มตัวอย่างตอบ แบบสอบถามและทดลองใช้งาน โดยแบ่งผู้ใช้งานออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ และ ผู้ใช้ทั่วไป
5. แอปพลิเคชันข้อมูลข่าวสาร งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชันข้อมูลข่าวสารและระบบส่งข้อมูล การแจ้งเตือน จากกูเกิลคลาวด์เมจเสจสู่อุปกรณ์สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รวมถึงทดลองใช้งาน และศึกษา ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้งาน คณะผู้วิจัยได้ใช้ทฤษฎีการวิเคราะห์และออกแบบระบบสารสนเทศ และ แผนภาพยูเอ็มแอล เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์และออกแบบเชิงวัตถุ โปรแกรมที่ใช้พัฒนาระบบ บนเว็บไซต์ ได้แก่โปรแกรมอาปาเช่ภาษาพีเอชพี โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลพีเอชพีมายแอดมิน ฐานข้อมูลมาย เอสคิวแอล โปรแกรมที่ใช้พัฒนาบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้แก่โปรแกรมอีคลิปส์โปรแกรมเอดีทีและ ฐานข้อมูลเอส คิวแอลไลท์แอปพลิเคชันมีการแจ้งข่าวสารของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครไปยังนักศึกษาและ บุคลากร โดย อาศัยการท างานของกูเกิลคลาวด์เมจเสจ ท าให้แอปพลิเคชันสามารถแจ้งเตือนแบบพุช ไปยัง อุปกรณ์ สมาร์ทโฟนของผู้ใช้ได้เมื่อมีข่าวสารแจ้งไปยังผู้รับจะมีการแจ้งเตือนทันทีโดยไม่ต้องรอการร้องขอข้อมูล จาก ผู้ใช้จึงท าให้ไม่พลาดข่าวสาร ไม่มีค่าใช้จ่ายไม่จ ากัดจ านวนผู้รับข่าวสารและแอปพลิเคชันสามารถค้นหา ต าแหน่งสถานที่ เบอร์โทรศัพท์ภายในของมหาวิทยาลัยคณะผู้วิจัยท าการทดลองใช้โดยเผยแพร่แอปพลิเคชัน ในกูเกิลเพลย์ ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมาติดตั้ง จากการศึกษาความพึงพอใจโดยใช้แบบสอบถาม การทดลองกับ กลุ่มตัวอย่างนักศึกษาและอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจ านวน 51คน วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดย ใช้ สถิติพรรณนา พบว่าผลการประเมินความพึงพอใจต่อการใช้งานอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.95 แหล่งที่มา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journaldru/article/view/253633 6. The Effects of Using Mobile Phone Application on Health Assessment Skill for Postpartum Mother among Nursing Students This quasi-experimental research aimed to examine the effects of using mobile phone application on health assessment skill for postpartum mother among nursing students. The samples consisted of 48, 3rd-year nursing students who studied at Phrapokklao Nursing College, Chanthaburi, in an academic year of 2019 and were equally divided into the experimental group (n = 24) and the control
group (n = 24). The research instruments included the mobile phone application, the questionnaire of general data, and the assessment form of health assessment skill for postpartum mother with reliability as .91. The implementation and data collection were conducted from October to December, 2019. Data were analyzed using frequency, percentage, mean, standard deviation, independent ttest, and two-way repeated measures ANOVA with multiple comparisons by Bonferroni method. The research results revealed that 1) at the post-test period and the 2-week follow-up period, the experimental group had statistically significant higher mean scores of health assessment skill for postpartum mother than those of the control group (p < .001); and 2) at the post-test period and the 2-week follow-up period, the experimental group had statistically significant higher mean scores of health assessment skill for postpartum mother than that of the pre-test period (p < .001). This research suggests that nursing instructors should apply this mobile phone application as a media for learning and teaching health assessment for postpartum as well as for nursing practicum preparation or real situation of nursing practicum. Source https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pnc/article/view/244676
7. FACTOR AFFECTING THE DECISION MAKING ON PURCHASING PRODUCTS FROM THE ONLINE APPLICATION IN BANGKOK METROPOLITAN REGION Due to the advance of technology, consumers in Thailand nowadays can access the Internet with ease, resulting in increasing popularity of Electronic Commerce (E-Commerce), particularly making a purchase on an online application. A number of businesses consider this purchasing method a major distribution channel because of two main characteristics: convenient payment system and reliable logistics management. These two factors encourage consumers to have more confidence when purchasing products from the online service. The objective of the present study is to examine factors in the decisionmaking on making a purchase on an online application in Bangkok metropolitan region. The data analyzed in this study included differences of demographic factors - namely sex, age, education level, occupation and income – together with marketing mix factors (4Ps) and technology acceptance factors - namely product, price, place, promotion, technology acceptance, security and privacy. The data were collected by online questionnaires distributed to 405 people who made a purchase on an online application, and the collected data were later analyzed by SPSS Statistics, a software package used for statistical analysis. The findingsshow that four factors: 1) product place and technology acceptance factor, 2) security and reliability factor, 3) price quality and variety of products in application and prompt delivery factor, and 4) public relations consumer communication and popularity of application factor, were found to affect the decision-making on making a purchase on an online application in descending order, with a significant difference at 0.05. Regarding the result of demographic factors, occupational differences affect the decision-making on purchasing on an online application. That is, students have a higher mean of purchase decision than business employees. The results of the present study can help executives and application developers create the online application system that can satisfy customers’ needs more effectively. Keywords: application, online products
Source https://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2015/TU_2015_5702031690_2852_1783.pdf