The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sathaporn Parachasit, 2020-10-21 04:10:52

DSI Test

test

แนวทางการสบื สวนคดีฟอกเงิน

พันตำ� รวจตรี อนชุ า รศั มี1

ในการดำ� เนนิ คดีฟอกเงนิ นน้ั มีการด�ำเนินการ 2 สว่ นดว้ ยกนั คอื การดำ� เนินคดีทางแพ่ง หรอื เรยี กว่า มาตรการ
ทางแพ่ง ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของส�ำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นผู้รับผิดชอบในการด�ำเนินการ
ส่วนอีกมาตรการหนึ่ง คือ การด�ำเนินคดีอาญา ซึ่งในส่วนน้ีจะเป็นหน้าท่ีของพนักงานสอบสวนท่ีด�ำเนินคดีมูลฐาน
เป็นผู้รับผิดชอบ (ระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานงานในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ข้อ 4) โดยในการด�ำเนินคดีนั้น มีแนวทางในการสืบสวนสอบสวน ดังนี้

1. พิจารณาความผิดมูลฐาน การจะด�ำเนินคดีฟอกเงินได้นั้น จะต้องมีการด�ำเนินคดีความผิดมูลฐานตามที่
บญั ญตั ไิ ว้ในพระราชบัญญตั ปิ อ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 หรือกฎหมายบางฉบับบัญญัติให้
เป็นความผดิ มลู ฐาน เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เป็นต้น ซ่ึงในการพิจารณาความผิดมูลฐานน้ี จะตอ้ งพิจารณา
ด้วยวา่ เหตเุ กิดเมื่อใด เพราะความผิดมูลฐานแต่ละข้อนัน้ บัญญัติไว้เป็นความผิดมูลฐานในระยะเวลาที่ไม่เท่ากัน ดงั น้นั
ในเบ้ืองต้นต้องพิจารณาว่า ความผิดที่ด�ำเนินคดีนั้น เป็นความผิดท่ีก�ำหนดไว้ตามมาตรา 3 หรือกฎหมายฉบับดังกล่าว
ได้ระบุให้เป็นความผิดมูลฐานหรือไม่ จากนั้นมาพิจารณาตอ่ ไปว่า ในช่วงเกดิ เหตนุ น้ั ได้มกี ารบญั ญัติกฎหมายใหค้ วามผดิ
ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานหรือไม่ ถ้าการกระท�ำความผิดเกิดก่อนที่กฎหมายจะบัญญัติให้เป็นความผิดมูลฐาน
จะไม่สามารถด�ำเนินคดีอาญาข้อหาฟอกเงินได้ แต่ในส่วนมาตรการทางแพ่งสามารถด�ำเนินการได้

2. พิจารณาว่าทรัพย์หรือผลประโยชน์ที่ผู้กระท�ำผิดได้ไปจากการกระท�ำความผิดมูลฐาน การฟอกเงินคือ
การทน่ี �ำทรัพย์หรือผลประโยชนใ์ ดทไี่ ดม้ าจากการกระทำ� ความผดิ มลู ฐานไปไดด้ ำ� เนนิ การตามมาตรา 5 แหง่ พระราชบญั ญตั ิ
ปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ. 2542 เพราะทรัพย์หรือผลประโยชน์ดังกล่าว คือจุดเร่ิมต้นของการด�ำเนินคดี
ฟอกเงิน เพราะผู้กระท�ำผิดจะต้องน�ำทรัพย์ดังกล่าว ไปด�ำเนินการตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 5 เช่น การยักย้ายถ่ายเท
การแปรสภาพทรพั ย์ เป็นตน้ ซึ่งในการสอบสวนของพนกั งานสอบสวน จะต้องติดตามทรัพย์ดังกล่าว ว่าไปอยู่ท่ีใคร เช่น
มกี ารโอนทรพั ยต์ ่อไปยงั ผใู้ ด เป็นต้น หรือแปรสภาพเป็นอะไร เช่น แปรสภาพจากเงินที่ได้มาแล้วน�ำไปซือ้ ทด่ี ินหรอื บ้าน
เป็นตน้ แต่การทีจ่ ะตอ้ งตรวจสอบไปถงึ ช้ันใดบา้ งนนั้ มีแนวทางในการด�ำเนนิ ทาง 2 แนวทาง คอื

2.1 ไม่สามารถแยกเงินหรอื พสิ ูจนเ์ งินท่ีไดจ้ ากการกระทำ� ความผิดได้ ยกตวั อย่างเชน่ ผู้กระท�ำผดิ โอน
เงนิ ทไ่ี ดจ้ ากการกระทำ� ความผดิ เขา้ ไปในบญั ชเี งนิ ฝากของนายดำ� จำ� นวน 1,000 บาท แต่เงนิ ทม่ี ีอยเู่ ดิมในบญั ชีของนายดำ�
มอี ยจู่ ำ� นวน 10,000 บาท จากนนั้ มกี ารโอนเงนิ ออกจากบญั ชนี ายดำ� 11 ครงั้ ครง้ั ละ 1,000 บาท เชน่ นจี้ ะไมส่ ามารถแยกไดว้ า่
เงินที่มาจากการกระท�ำความผิดคือยอดเงินจ�ำนวนใด เพราะอาจจะเป็นเงินท่ีมีอยู่ในบัญชีเดิมของนายด�ำก็ได้
ซึ่งหลักการในการด�ำเนินคดีฟอกเงิน จะต้องพิสูจน์ใหไ้ ด้วา่ ตลอดสายของเส้นทางการเงินทด่ี �ำเนนิ คดีนน้ั เป็นเงินทไี่ ดจ้ าก
การกระท�ำผดิ หรอื มีสว่ นของเงนิ ทไี่ ด้มาจากการกระท�ำความผิดมลู ฐานรวมอยู่ดว้ ย หากพิสูจน์ไมไ่ ดก้ จ็ ะหยุดอยใู่ นช้นั นี้

1 พนกั งานสอบสวนคดีพิเศษชำ� นาญการพเิ ศษ ผ้อู ำ� นวยการส่วนคดคี มุ้ ครองผู้บริโภค 3 กองคดคี มุ้ ครองผบู้ รโิ ภค กรมสอบสวนคดพี เิ ศษ (DSI) กระทรวงยตุ ธิ รรม

DSI 50 ไตรสาร

2.2 มีธรุ กรรมที่ชอบด้วยกฎหมายมารองรบั เชน่ นายแดงขายที่ดินใหก้ บั นายดำ� โดยสุจรติ แต่นายดำ�
น�ำเงนิ ที่ไดจ้ ากการกระทำ� ความผิดมูลฐานมาช�ำระหนี้ให้กับนายแดง ดังนีจ้ ะยตุ ใิ นการติดตามเงินดงั กลา่ ว แต่จะตอ้ งไป
ตดิ ตามที่ดินที่นายดำ� ได้ไป เพราะทรพั ยส์ นิ มกี ารแปรสภาพจากเงนิ ไปเป็นที่ดนิ แลว้

3. ในการตรวจสอบเส้นทางการเงนิ ควรจะมกี ารท�ำแผนผงั การโอนเงินในแต่ละยอดทไี่ ดม้ าจากการกระทำ� ความ
ผิดไวด้ ้วย เพ่อื ทีจ่ ะได้ไวใ้ ชใ้ นการนำ� เสนอและการทบทวนพยานหลักฐานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับการโอนเงนิ

ตัวอยา่ งแผงผังเสน้ ทางการเงิน

วันท่ี 21 ส.ค. 2556 มกี ารถอนเงิน วันท่ี 21 ส.ค. 2556 มีการโอนเงินเข้า
จาก บัญชีเลขที่ xxx-x-xx274-6 บญั ชเี ลขที่ xxx-x-xx429-0 ช่ือบัญชี
ชื่อบัญชี นางขาว จำ� นวนเงนิ นายด�ำ จ�ำนวนเงิน 200,000 บาท
200,000 บาท

วันท่ี 21 ส.ค. 2556 มีการถอนเงินจากบัญชีเลขท่ี xxx-x-xx429-0 บัญชี นายด�ำ
จ�ำนวนเงิน 2,000,000 บาท (อย่างน้อยมเี งนิ ในสว่ นทไ่ี ด้จากการกระทำ� ผิดรวมไปดว้ ย
จ�ำนวน 130,978.62 บาท)

วันที่ 21 ส.ค. 2556 มีการโอนเงินเข้าบัญชีเลขท่ี xxx-x-xx223-7 ช่ือบัญชี นางแดง
จ�ำนวนเงิน 2,000,000 บาท
4. ผู้รับโอนทรพั ย์ท่ีได้มาจากการกระทำ� ความผดิ แบ่งเปน็ 2 กรณี คอื
4.1 รับโอนโดยสุจริต ซ่ึงในกรณีนี้ผู้รับโอนรับโอนโดยสุจริตและมีนิติกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย
มารับรอง เช่น นายด�ำกู้เงินมาจากนายแดงจริง ต่อมานายด�ำได้น�ำเงินท่ีได้จากการกระท�ำความผิดมาช�ำระหนี้
ใหก้ บั นายแดง เชน่ น้นี ายแดงจะไม่มีความผดิ ฐานฟอกเงนิ เปน็ ตน้ กรณีนีจ้ ะมแี ตน่ ายดำ� ท่ีกระทำ� ความผิดฐานฟอกเงนิ
แต่นายแดงจะตอ้ งไม่รูว้ ่าเงินท่ีนำ� มาชำ� ระนั้นเป็นเงินท่ไี ดม้ าจากการกระท�ำความผิด แต่หากนายแดงทราบและยงั รบั เงนิ
ดังกล่าวไว้ นายแดงอาจจะต้องรับผิดฐานฟอกเงินด้วย
4.2 รับโอนโดยทุจริต หรือไมม่ ีนติ ิกรรมทีช่ อบด้วยกฎหมายใดมารองรับ ผ้รู ับโอนจะตอ้ งถกู ดำ� เนินคดี
ฐานฟอกเงนิ ดว้ ย

DSI 51 ไตรสาร



รายงานความคบื หนา้ ผลการดำ� เนินงานปอ้ งกนั
และปราบปรามการค้ามนุษยข์ องประเทศไทย

(1 มกราคม – 31 มนี าคม 2563)

กองคดีการคา้ มนุษย์1

1. ดา้ นด�ำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย
ความคบื หน้าสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ในประเทศไทยในปี 2563
1.1 สถติ กิ ารดำ� เนินคด/ี ผกู้ ระทำ� ผดิ /ผเู้ สยี หาย
จากการตรวจสอบพบว่าสถิติคดีค้ามนุษย์ในปี 2562 ได้เพิ่มข้ึนอีกจ�ำนวน 2 คดี เน่ืองจากพนักงานสอบสวน
ได้รายงานเข้ามาในปี 2563 จงึ ขอเปลี่ยนแปลงสถิตแิ ละแผนภาพจาก 286 คดเี ปน็ 288 คดี โดยมีรายละเอยี ด ดังต่อไปน้ี

แผนภาพที่ 1 ภาพรวมแสดงสถิตคิ ดคี า้ มนุษย์

แผนภาพที่ 2 การวิเคราะห์สถติ คิ ดคี า้ มนษุ ย์ในรูปแบบการแสวงหาประโยชนท์ างเพศ

1กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม

DSI 53 ไตรสาร

1.1.1 สถิตกิ ารดำ� เนนิ คดี
ปี 2563 การปราบปรามการค้ามนุษย์ มีการด�ำเนินคดี จ�ำนวน 16 คดี โดยจ�ำแนกเป็นการแสวงหา

ประโยชน์ทางเพศ (ค้าประเวณี สื่อลามก และทางเพศอย่างอื่น) จ�ำนวน 12 คดี การแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน
จำ� นวน 4 คดี (ตารางที่ 1)

ตารางที่ 1 สถิตกิ ารปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ จ�ำแนกตามรูปแบบการค้ามนุษย์

1.1.2 จ�ำนวนผู้กระท�ำผิด
ปี 2563 ได้มีการจบั กมุ ผูต้ ้องหาได้ จ�ำนวน 25 คน เปน็ ชาย 10 คน หญิง 15 คน ส่วนใหญ่
เป็นผู้ต้องหาสัญชาติไทย 19 คน สัญชาติเมียนมา 2 คน และอ่ืน ๆ จ�ำนวน 3คน แยกเป็น สัญชาติจีน 2 คน สัญชาติ
เกาหลใี ต้ 1 คน (ตารางท่ี 2)

ตารางท่ี 2 จ�ำนวนผู้กระทำ� ผดิ คดีคา้ มนษุ ย์ จ�ำแนกตามเพศและสัญชาติ

DSI 54 ไตรสาร

1.1.3 จ�ำนวนผู้เสยี หาย
ปี 2563 สามารถช่วยเหลือผู้เสียหายจากการคา้ มนษุ ยไ์ ด้ จ�ำนวน 61 คน เปน็ ชาย 31 คน หญิง 30 คน
โดยเปน็ สญั ชาติไทย สัญชาติลาว (ตารางที่ 3)

ตารางที่ 3 จ�ำนวนผ้เู สียหายคดีค้ามนุษย์ จำ� แนกตามเพศและสัญชาติ

1.1.4 การด�ำเนินคดีด้านการบงั คบั ใช้แรงงาน
ในปี 2563 ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ส�ำนักงานต�ำรวจ
แห่งชาติ สั่งการให้ชุดปฏบิ ัตกิ าร TATIP ด�ำเนินการสอบสวนขยายผลความผิดฐาน “บังคับใชแ้ รงงาน” กรณี เจา้ หนา้ ที่
ตำ� รวจพร้อมด้วยเจ้าหนา้ ท่จี ัดหางานและเจา้ หนา้ ทแ่ี รงงานจงั หวดั นครราชสมี า ตรวจสอบห้างหุ้นส่วนจำ� กัด สหมิตร ฟดู ส์
(แพลนท์2) ประกอบกิจการช�ำแหละและแปรรูปเน้ือไก่ โดยมีนายจ้างหญิงไทย ยึดหนังสือเดินทางและหักค่าใช้จ่าย
ในการเดินทางเขา้ มาท�ำงานของคนตา่ งดา้ ว จำ� นวน 39 คน แยกเป็นชาย 24 คน หญิง 15 คน สัญชาติลาว ซงึ่ นายจา้ ง
หลอกลวงไม่สามารถน�ำสัญญาจ้างงานมาแสดงได้ เพราะไม่ได้ท�ำสัญญาจ้างระหว่างนายจ้างกับคนต่างด้าว แต่ หจก.
อา้ งกับแรงงานตา่ งด้าววา่ มสี ัญญาจ้าง จำ� นวน 2 ปี และยังค้างค่าดำ� เนินการในการทำ� งานทยี่ ังค้างอยู่ เปน็ ความผิดตาม
พรก.การบริหารจัดการการท�ำงานของคนต่างด้าวฯ และ พรบ.คุ้มครองแรงงานฯ เข้าข่ายบังคับใช้แรงงาน เหน่ียวรั้ง
มใิ หค้ นงานไปท�ำงานที่อ่ืน จ�ำต้องท�ำงานอยู่ท่ีเดิม ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ เพ่ือแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้
แรงงาน ถูกส่งเข้ารับการคุ้มครองท่ีบ้านปทุมธานีจ�ำนวน 22 คน ต่อมาผู้เสียหาย 2 คน ได้สมัครใจขอเปลี่ยนนายจ้าง
ไปทำ� งานในจงั หวดั นครราชสมี า ส่วน แรงงานหญิงทั้ง 15 คน เข้ารับการคุ้มครองท่ีบ้านนารีสวัสดิ์ ทางคดีทั้ง 39 ราย
ไดท้ �ำการสบื พยานลว่ งหนา้ แล้วทง้ั หมด


DSI 55 ไตรสาร

1.2 การด�ำเนนิ คดชี ัน้ ตา่ ง ๆ
1.2.1 ชั้นพนักงานสอบสวน

1) ความกา้ วหน้าการดำ� เนินคดชี น้ั พนักงานสอบสวน
ปี 2563 พนกั งานสอบสวนรบั สำ� นวนการสอบสวนจำ� นวน 16 คดี อยรู่ ะหวา่ งการสอบสวนทง้ั หมด (ตารางที่ 4)

ตารางที่ 4 ความกา้ วหน้าการด�ำเนินคดีช้ันพนักงานสอบสวน

หมายเหตุ คดีปี 2560 ทอี่ ยรู่ ะหวา่ งการสอบสวน จ�ำนวน 1 คดี เปน็ คดที เ่ี กย่ี วเนอื่ งทงั้ ในและนอกราชอาณาจกั ร ขณะนอี้ ยรู่ ะหวา่ ง
แปลคำ� ใหก้ ารทอี่ ยั การประเทศเกาหลใี ตส้ อบปากคำ� ผตู้ อ้ งหาชาวเกาหลใี ตท้ ถี่ กู ดำ� เนนิ คดขี อ้ หาบงั คบั ใชแ้ รงงานทปี่ ระเทศเกาหลใี ต้ มาเพอื่ พจิ ารณา
ดำ� เนินการตอ่ ไป
คดีปี 2561 ทอ่ี ย่รู ะหว่างการสอบสวน จำ� นวน 2 คดี เปน็ คดที เี่ กย่ี วเนอ่ื งท้งั ในและนอกราชอาณาจักร ซึง่ จำ� เปน็ ต้องรอ

หลกั ฐานที่ขอจากประเทศปลายทาง มาเพ่ือพจิ ารณาด�ำเนนิ การตอ่ ไป

1.2.2 ช้ันพนกั งานอัยการ
ปี 2563 ส�ำนักงานคดีค้ามนุษย์ ส�ำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับส�ำนวนคดีการสอบสวนจากพนักงาน
สอบสวนทวั่ ประเทศ รวมทงั้ หมด 35 คดี (จำ� แนกเป็นคดที ่ีมีตัวผู้ตอ้ งหา จ�ำนวน 34 คดี และคดีทีผ่ ู้ตอ้ งหาหลบหนี จำ� นวน
1 คด)ี โดยจ�ำแนกตามประเภทการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเป็น 3 กลมุ่ เป็นการแสวงหาประโยชนท์ างเพศ (การค้า
ประเวณี ผลติ และเผยแพรส่ อื่ ลามก ทางเพศรปู แบบอ่ืน) จำ� นวน 27 คดี และบงั คบั ใชแ้ รงงานหรอื บรกิ าร จ�ำนวน 8 คดี
(ตารางที่ 5-7)

DSI 56 ไตรสาร

ตารางท่ี 5 จำ� นวนสำ� นวนคดี จ�ำแนกตามประเภทการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

หมายเหตุ จ�ำนวนส�ำนวนคดีในตารางนี้ในปี 2559 ไม่สามารถน�ำจ�ำนวนคดีในแนวตั้งรวมกันเพื่อให้ได้จ�ำนวนคดีสุทธิได้เนื่องจาก
ในหนึ่งส�ำนวนคดีอาจเป็นการเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบมากกว่าหนึ่งประเภท

1) ความก้าวหน้าการด�ำเนินคดชี ้นั พนกั งานอยั การ
ตารางที่ 6 จำ� นวนส�ำนวนคดที ่มี ตี ัวผ้ตู อ้ งหา จำ� แนกตามประเภทการพจิ ารณาด�ำเนินการของพนกั งานอยั การ

หมายเหตุ ปี 2559 มสี �ำนวนท่พี นกั งานอัยการมีความเห็นและค�ำสั่งอยา่ งอื่น โดยส่ังคืนส�ำนวน 1 สำ� นวน
ปี 2561 มสี ำ� นวนท่ีพนักงานอยั การมคี วามเห็นและคำ� สัง่ อยา่ งอ่ืน โดยสง่ั คืนสำ� นวน 4 ส�ำนวน
ปี 2562 มีส�ำนวนทีพ่ นกั งานอยั การมีความเหน็ และค�ำส่งั อย่างอ่นื โดยสั่งคืนส�ำนวน 6 สำ� นวน

DSI 57 ไตรสาร

ตารางที่ 7 จำ� นวนสำ� นวนคดที ย่ี งั ไมไ่ ดต้ วั ผตู้ อ้ งหามาฟอ้ ง จำ� แนกตามประเภทการพจิ ารณาดำ� เนนิ การของพนกั งานอยั การ

หมายเหต ุ ปี 2559 มสี ำ� นวนทพี่ นกั งานอยั การมคี วามเหน็ และคำ� สงั่ อยา่ งอน่ื โดยสง่ั ยตุ กิ ารดำ� เนนิ คดี เนอ่ื งจากผตู้ อ้ งหาถงึ แกค่ วามตาย 1 สำ� นวน
ปี 2560 มีสำ� นวนท่พี นักงานอัยการมคี วามเห็นและคำ� สัง่ อย่างอน่ื โดยสง่ั คืนส�ำนวน 1 สำ� นวน
ปี 2561 มีส�ำนวนทพ่ี นักงานอยั การมีความเหน็ และคำ� สั่งอย่างอน่ื โดยสั่งคืนสำ� นวน 2 ส�ำนวน

1.2.3 ช้ันศาล
1) ความก้าวหน้าการพิจารณาพพิ ากษาคดี

ในปี 2563 มีคดีค้ามนุษย์ (ท้ังท่ีค้างอยู่เดิมในปี 2562 จ�ำนวน 113 คดี และรับใหม่ 24 คดี) เข้าสู่
กระบวนการพิจารณาของศาลช้ันต้นทั่วราชอาณาจักร จ�ำนวน 137 คดี ซึ่งกระบวนการพิจารณาในศาลชั้นต้น
ได้พิพากษาเสร็จส้นิ แล้ว จ�ำนวน 8 คดี (ร้อยละ 5.84) สามารถพิพากษาลงโทษในคดีค้ามนุษย์ จ�ำนวน 8 คดี (ร้อยละ
100) และยังคงเหลือคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจ�ำนวน 129 คดี (ตารางท่ี 8)

ตารางท่ี 8 ผลการพิจารณาพิพากษาคดีคา้ มนษุ ยใ์ นชัน้ ศาล

หมายเหตุ คดีท่อี ย่รู ะหวา่ งพจิ ารณาเปน็ คดที อ่ี ยรู่ อการพิจารณา ณ สน้ิ ปี พ.ศ. น้ัน ๆ

DSI 58 ไตรสาร

ในปี 2563 มจี ำ� เลยทถี่ กู ฟอ้ งตอ่ ศาลในคดคี า้ มนษุ ย์ จำ� นวนทง้ั สน้ิ 11 คน จำ� แนกตามสญั ชาติ เปน็ ชาวไทย 10 คน
สัญชาติอ่ืน 1 คน และจ�ำแนกตามเพศ เป็นชาย 6 คน หญิง 5 คน โดยศาลได้มี ค�ำพิพากษาลงโทษ จ�ำนวน 11 คน
(ร้อยละ 100) (ตารางที่ 9)

ตารางท่ี 9 จ�ำนวนจำ� เลยคดีคา้ มนษุ ย์ที่เขา้ สกู่ ารพิจารณาของศาล

ทง้ั น้ี ปี 2563 มจี ำ� เลยทไี่ ดร้ บั โทษจำ� คกุ จำ� นวน 11 คน พบวา่ มจี ำ� เลยทไ่ี ดร้ บั โทษจำ� คกุ ไมเ่ กนิ 1 ปี จำ� นวน 2 คน
(ร้อยละ 18.18) โทษจ�ำคุก 2 ปี ไม่เกิน 5 ปี จ�ำนวน 6 คน (ร้อยละ 54.55) และจ�ำคุกเกิน 10 ปีข้ึนไป จ�ำนวน 3 คน
(ร้อยละ 27.27) ของจ�ำเลยทีไ่ ดร้ บั โทษจำ� คกุ ทง้ั หมด (ตารางที่ 10)

ตารางท่ี 10 ความรนุ แรงของอตั ราโทษทศี่ าลพิพากษาโทษจำ� คกุ แก่จำ� เลย

DSI 59 ไตรสาร

1.3 การดำ� เนนิ การกรณเี จา้ หนา้ ทรี่ ฐั เขา้ ไปมสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งกบั การคา้ มนษุ ย์
1.3.1 จำ� นวนเจา้ หนา้ ทรี่ ฐั ทถ่ี กู ดำ� เนนิ คดคี า้ มนษุ ย์
ในปี 2563 มีเจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวหาว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เพ่ิมข้ึน 1 คน เป็น

ผูอ้ ำ� นวยการโรงเรียนในจังหวัดอุบลราชธานี โดยเมื่อวนั ท่ี 4 กุมภาพนั ธ์ 2563 กองคดกี ารคา้ มนษุ ย์ กรมสอบสวนคดพี เิ ศษ
ไดร้ ว่ มกนั แจง้ ขอ้ กลา่ วหาแกผ่ ตู้ อ้ งหา เปน็ ผู้อ�ำนวยการของสถานศึกษา ในจงั หวดั อบุ ลราชธานี ซงึ่ เกย่ี วขอ้ งกบั สถานบรกิ าร
ร้านหนองบัวคาราโอเกะ และร้านกิ่งทองคาราโอเกะ ในคดีพิเศษที่ 80/2562 โดยเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่วมกันค้ามนุษย์
โดยเป็นธุระจัดหา เพ่ือแสวงหาประโยชน์ทางเพศ และสมคบกันตั้งแต่ 2 คน เพ่ือกระท�ำความผิดฐานค้ามนุษย์ ฯ
ด้วยการน�ำเด็กหญิงลาว อายุต่�ำกว่า 18 ปี เข้ามาแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ฯ ทั้งน้ี เป็นการขยายผลมาจากคดีพิเศษ
ที่ 68/2562 ที่จับกุมผู้เก่ียวข้องก่อนหน้าน้ีแล้ว จ�ำนวน 2 คน โดยคดีนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล โดย
ในการจับกุมผู้อ�ำนวยการของสถานศึกษา ซ่ึงเป็นเจ้าหน้าท่ีรัฐ และอยู่เบ้ืองหลังการกระท�ำผิดในคร้ังน้ี แสดงถึง
ความมงุ่ มน่ั ของเจา้ หนา้ ทท่ี จ่ี ะดำ� เนนิ การปราบปรามเจา้ หนา้ ทร่ี ฐั ทเ่ี ขา้ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั การคา้ มนษุ ยอ์ ยา่ งจรงิ จงั (ตารางที่ 11)

ตารางท่ี 11 เจ้าหนา้ ท่ีรัฐท่ถี กู ดำ� เนินคดีอาญาทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับการค้ามนษุ ย์

หมายเหตุ ตัวเลขในวงเลบ็ คอื ตัวเลขสถติ ขิ องปี 2561


1.3.2 ความคืบหนา้ ในการดำ� เนนิ คดีอาญาท่ีน่าสนใจ
ในปี 2563 กรณตี ำ� รวจ 3 คน ที่รบั สว่ ยในคดโี ขงเจียม เมอ่ื ปี 2559 และกรณีต�ำรวจ 1 คน ท่ีรับสว่ ย

ในคดภี เู รือเมื่อปี 2560 อยั การไดย้ ืน่ ฟ้องคดีตอ่ ศาลแล้ว ขณะน้ีอย่ใู นระหวา่ งการพิจารณาของศาล

DSI 60 ไตรสาร

1.3.3 ความคบื หนา้ ในการดำ� เนนิ การทางวนิ ยั
ปี 2563 มเี จ้าหนา้ ที่รฐั พน้ จากราชการ โดยเป็นต�ำรวจ 2 คน ( 1 คน ท่ีรับส่วยในคดภี เู รอื เมือ่ ปี 2560
และอีก 1 คน ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องกับการซ่อนเร้นกักขังแรงงานต่างด้าวที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) (ตารางที่ 12)

ตารางท่ี 12 เจา้ หนา้ ท่รี ัฐถกู ด�ำเนินการทางวินยั ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั การค้ามนุษย์

หมายเหตุ ตัวเลขในวงเลบ็ คอื ตัวเลขสถิติของปี 2561

1.4 การยึดอายัดทรัพยส์ นิ
ในปี 2563 (มกราคม – มีนาคม) ส�ำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีผลการด�ำเนินการเก่ียวกับ
ทรัพย์สินของผู้กระท�ำความผิดฐานค้ามนุษย์และบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ เพิ่มเติมจากปี 2562 โดยมีการมอบหมาย
พนักงานเจ้าหนา้ ท่ีตรวจสอบธุรกรรมหรอื ทรพั ยส์ นิ ทีเ่ กย่ี วกับการกระท�ำความผดิ จ�ำนวน 1 ราย มีการยึดอายัดทรัพย์สิน
จำ� นวน 1 ราย เป็นเงินท้งั สน้ิ 1,148,417.60 บาท
สำ� หรบั การแกไ้ ขกฎหมายเพอ่ื น�ำเงนิ ที่ไดจ้ ากการยดึ อายดั ทรัพยส์ นิ ของผกู้ ระทำ� ความผดิ ฐานคา้ มนษุ ยม์ าเยยี วยา
เปน็ คา่ สินไหมทดแทนให้แกผ่ ู้เสียหายจากการคา้ มนษุ ย์นน้ั ขณะน้ีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนกุ รรมการทีป่ รึกษา
กฎหมายซง่ึ จะมกี ารประชมุ ในเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 2563 อกี จำ� นวน 3 ครง้ั คาดวา่ จะเสนอคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปราม
การฟอกเงนิ พจิ ารณาไดใ้ นเดือนมีนาคม 2563 โดยมเี น้อื หาทแ่ี ก้ไขเพม่ิ เตมิ ดงั น้ี
มาตรา 51/1 บญั ญตั วิ ่า “ผซู้ ึ่งอ้างวา่ เป็นผเู้ สียหายในความผดิ มลู ฐานท่ีมสี ิทธไิ ดร้ บั การชดใช้ คา่ สนิ ไหมทดแทน
จากทรัพย์สินที่พนักงานอัยการร้องขอให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 49 อาจยื่นค�ำร้องขอคุ้มครองสิทธิของตน
ก่อนศาลมีค�ำสั่ง โดยแสดงให้ศาล เห็นว่า
(1) มคี ำ� พพิ ากษาอันถึงทีส่ ดุ ในคดีความผิดมูลฐานหรือคดีแพง่ ทเ่ี ก่ียวเนือ่ งกบั คดคี วามผิดมูลฐานนั้น ให้ตนไดร้ ับ
การชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หรอื
(2) ตนเปน็ ผ้เู สียหายในความผดิ มลู ฐานและไดด้ ำ� เนนิ การเพอ่ื ใชส้ ทิ ธทิ างศาลเพอื่ เรยี กรอ้ ง คา่ สนิ ไหมทดแทนไวแ้ ลว้ ”

DSI 61 ไตรสาร

1.5 การชว่ ยเหลอื คมุ้ ครองพยานและผเู้ สยี หายในคดคี า้ มนษุ ย์
ในปี 2563 กรมคมุ้ ครองสทิ ธแิ ละเสรภี าพ กระทรวงยตุ ธิ รรม มกี ารคมุ้ ครองพยานในคดคี า้ มนษุ ย์ ตามพระราชบญั ญตั ิ
คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 และการเยียวยาผู้เสียหายที่ตกเป็นเหย่ือใน คดีค้ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติ
ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จ�ำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ดังน้ี
1.5.1 การคุ้มครองพยานในคดีคา้ มนษุ ย์
- เดอื นมกราคม จ�ำนวน 1 ราย ใช้งบประมาณ 402,738.80 บาท
- เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ จำ� นวน - ราย ใช้งบประมาณ 216,353.33 บาท
- เดอื นมีนาคม จ�ำนวน - ราย ใช้งบประมาณ - บาท
ในช่วงเดือนมกราคมท่ีผ่านมา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้ประสานงาน
กับส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ ส�ำนักงานอัยการสูงสุด และโครงการ Hug project ภายใต้มูลนิธิสานสัมพันธ์ครอบครัว
ในการปฏิบัติภารกิจคุ้มครองพยานในคดีค้ามนุษย์รายหน่ึง ซึ่งตกเป็นเหยื่อถูกนายหน้าที่เป็นคนไทยหลอกลวงให้เหยื่อ
เดนิ ทางไปท�ำงานทส่ี าธารณรฐั เกาหลี และถูกนายจ้างต่างชาติบงั คับและท�ำร้ายใหพ้ ยานค้าประเวณที ส่ี าธารณรัฐเกาหลี
โดยระหว่างการคุ้มครองได้จัดเจ้าหน้าท่ีชุดคุ้มครองความปลอดภัยท่ีเป็นผู้หญิง ดูแลความปลอดภัยพยาน 24 ชั่วโมง
และก�ำชบั มิให้กระท�ำการใด ๆ ทอ่ี าจสง่ ผลกระทบต่อสภาพจติ ใจตอ่ พยาน รวมทั้งได้จัดกิจกรรมสันทนาการให้แก่พยาน
เพ่ือให้พยานได้คลายความวิตกกังวล และลดความเครียดท่ีอาจส่งผลต่อพยานดังกล่าว
1.5.2 การเยยี วยาผู้เสียหายท่ตี กเปน็ เหยอ่ื ในคดีค้ามนุษย์
- เดือนมกราคม จ�ำนวน 1 ราย ใช้งบประมาณ 5,000 บาท
- เดือนกมุ ภาพันธ์ จ�ำนวน 2 ราย ใช้งบประมาณ 115,400 บาท
- เดือนมีนาคม จ�ำนวน - ราย ใชง้ บประมาณ - บาท
1.6 การเพอ่ื เพมิ่ ประสิทธิภาพในการดำ� เนนิ คดี
1.6.1 ความร่วมมือระหวา่ งประเทศ

1) กองคดีการคา้ มนุษย์ กรมสอบสวนคดพี ิเศษ ไดร้ บั การประสานงานจากส�ำนักงานตำ� รวจปราบปราม
การค้ามนุษย์ เมียนมา (MPF) ให้ท�ำการสืบสวนติดตามหาตัวนาง DAW WA TOTE หรือ DAW WA TOKE สัญชาติ
เมียนมา ซึ่งได้กระท�ำความผิดตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
โดยหลอกลวงชาวเมียนมาให้เข้ามาท�ำงานในประเทศไทย ประเภทการคัดแยกสัตว์น้�ำ แต่กลับกักขังหน่วงเหน่ียวและ
บงั คบั ใหท้ ำ� งานบนเรอื ประมง ซึง่ ไดร้ บั เรื่องไวด้ ำ� เนินการสืบสวน ต่อมาเมอ่ื วันที่ 24 มกราคม 2563 สามารถจบั กมุ ตวั ไดท้ ี่
จังหวัดราชบุรี ด�ำเนินคดีความผิดตามพระราชบัญญัติ คนเข้าเมืองแล้ว ได้ร่วมกับเจ้าหน้าท่ีต�ำรวจตรวจคนเข้าเมือง
และเจ้าหน้าท่ีจากสถานทูตเมียนมา ประจ�ำประเทศไทย น�ำตัวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ต�ำรวจทางการเมียนมาเรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันท่ี 29 มกราคม 2563

2) สำ� นกั งานศาลยตุ ธิ รรมรว่ มกบั โครงการอาเซยี น-ออสเตรเลยี เพอื่ ตอ่ ตา้ นการคา้ มนษุ ย์ (ASEAN-ACT)
จดั กจิ กรรม “การสมั มนาผพู้ พิ ากษาเพอื่ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการดำ� เนนิ คดคี า้ มนษุ ย์ การค้ามนษุ ย์ด้านแรงงาน การแสวงหา
ประโยชนท์ างเพศ และแนวทางการปฏบิ ัตทิ ีส่ �ำคญั ของศาลอทุ ธรณ์ แผนกคดีค้ามนุษย์” ท่ีกรงุ เทพ ฯ ซ่งึ เป็นการอภิปราย
และแลกเปล่ียนข้อคิดเห็นเก่ียวกับการด�ำเนินคดีค้ามนุษย์และ แนวปฏิบัติที่ส�ำคัญของศาลอุทธรณ์ แผนกคดีค้ามนุษย์
อันจะเป็นการเสริมสร้างกระบวนการยุติธรรมของ ประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ

DSI 62 ไตรสาร

1.6.2 ความรว่ มมอื กบั NGOs และภาคเอกชน
1) กองบังคบั การปราบปรามการค้ามนษุ ยไ์ ดด้ �ำเนนิ การคุม้ ครองผเู้ สียหาย (เดก็ ชาย) จากคดขี บวนการ
คา้ มนษุ ยท์ ห่ี วั ลำ� โพงอยา่ งครบวงจร โดยได้รว่ มกบั NGOs ให้ความช่วยเหลอื ผเู้ สียหายอยา่ งตอ่ เน่อื ง โดยไดเ้ ขา้ ไปปรบั ปรงุ
บา้ นพกั ของครอบครวั ผเู้ สยี หายและหาอาชพี ให้กับผู้เสยี หาย

2) เมือ่ วันที่ 7 มกราคม 2563 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ได้จัดประชุม โดยเชิญ NGOs
เชน่ Stella Marris, A21, Hug project, Exodus และกลมุ่ อนื่ ๆ มาพดู คยุ เพอ่ื รบั ทราบปญั หาและแสวงหาความรว่ มมอื
ในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดความร่วมมือ กับมูลนิธิ Exodus ในการระดม
จบั กมุ และชว่ ยเหลอื ผเู้ สยี หายจากการคา้ มนษุ ยไ์ ดจ้ ำ� นวน 4 คดี โดยสามารถจบั กมุ ผตู้ ้องหาได้จ�ำนวน 4 คน และชว่ ยเหลอื
ผู้เสียหายได้จ�ำนวน 10 คน
3) คณะท�ำงาน TICAC ได้สร้างเครือข่ายการท�ำงานโดยเพิ่มจ�ำนวนศูนย์ CAC อีก 2 แห่ง ในเดือน
กุมภาพันธ์ 2563 ได้แก่ มูลนิธิราฟาและมูลนิธิ Zoe International ที่จังหวัดเชียงใหม่

4) ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ
และมลู นธิ ิ Hug Project ของประเทศไทย กับมูลนิธิ Durebang ของประเทศเกาหลีใต้ ได้สร้าง International NGO
Network ร่วมกันในกรณีที่หญงิ ไทยถกู หลอกไปบงั คับคา้ ประเวณที ปี่ ระเทศเกาหลใี ต้

1.6.3 การพฒั นาประสทิ ธภิ าพการด�ำเนินคดี
1) เดอื นมกราคม – กุมภาพนั ธ์ 2563 สำ� นกั งานคดคี า้ มนษุ ย์ สำ� นกั งานอยั การสงู สดุ ไดม้ ี ความรว่ มมอื

เพ่ือการพฒั นาและเพิม่ ประสิทธิภาพในการด�ำเนนิ คดี ดังนี้
- รว่ มกับมูลนธิ ิ ไอเจเอ็ม ส�ำนักงานกรุงเทพมหานคร จัดการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติ ต่อผเู้ สียหาย
อย่างค�ำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจ (Trauma-Informed Care) ให้พนักงานอัยการในพื้นที่ภาค 8 และจะมีการอบรม
ครัง้ ตอ่ ไปในพนื้ ท่ี 7 โดยมีวัตถุประสงค์ เพอื่ ใหพ้ นกั งานอัยการตระหนักรแู้ ละปฏิบัติตอ่ ผู้เสยี หายคดคี า้ มนุษยท์ ี่มีบาดแผล
ทางจิตใจอย่างเหมาะสม

- รว่ มกับองคก์ ารโอเปอร์เรชน่ั อันเดอรก์ ราวน์ เรลโรด (Operation Underground Railroad-OUR)
จดั การอบรมพฒั นาศักยภาพการสบื สวนออนไลนข์ องพนกั งานอัยการ โดยมวี ัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มทักษะเรยี นรู้ การไดม้ า
ของพยานหลักฐานดจิ ิทลั ความน่าเชอ่ื ถอื ความถูกต้อง และการน�ำเสนอพยานหลักฐานดิจิทลั ในชั้นศาล

2) เมื่อวันท่ี 30 มกราคม 2563 องค์กรภาคเอกชน ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากมูลนิธิพิทักษ์สตรี
Alliance Anti Traffic, มูลนิธิรณสิทธิ์, มูลนิธิ A21 THAILAND และมูลนิธิ ไอเจเอ็ม และกองคดีการค้ามนุษย์
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น ในการด�ำเนินการปราบปราม การค้ามนุษย์
ท่จี ะดำ� เนนิ การร่วมกนั ระหว่างกองคดีการค้ามนษุ ย์ และองค์กรภาคเอกชน ส�ำหรบั ปี พ.ศ. 2563 โดยเฉพาะคดีที่เกยี่ วกบั
การบังคบั ใช้แรงงานทั้งภาคอตุ สาหกรรมและประมง ซึ่งยังมีข้อจ�ำกดั ในเรือ่ ง การแสวงหาพยานหลักฐาน และผู้เสียหาย
ทจ่ี ะใหข้ อ้ มลู รวมท้ังขอ้ กฎหมาย นอกจากนใี้ นปี 2563 องค์กรภาคเอกชนและกองคดีการคา้ มนษุ ย์ กรมสอบสวนคดพี เิ ศษ
จะเพ่ิมเป้าหมายมากขึ้นในส่วนท่ีมีการกระท�ำผิดบนโลกออนไลน์ ทั้งนี้ ในการประชุมได้จัดขึ้นที่มูลนิธิพิทักษ์สตรี
กรุงเทพฯ และมีก�ำหนดจะจัดทุก 2-3 เดือน

DSI 63 ไตรสาร



ระวงั !! ถูกหลอกผา่ นออนไลน์ นางสาว อังศุมาลนิ บุญแชม่ 1

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความเจริญกา้ วหน้าเปน็ อย่างมาก ทำ� ให้ประชาชนสามารถเข้าถงึ ระบบอินเทอรเ์ น็ตไดท้ กุ ท่ี
ทกุ เวลา และสามารถส่ังซือ้ สินค้าออนไลน์ได้จากทั่วทุกมุมโลก เพราะเพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือก็สามารถเลือกซ้ือสินค้า
และโอนเงินได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินซื้อของหรือตามหาของท่ีเราต้องการ ด้วยเหตุน้ีจึงส่งผลให้ธุรกิจพาณิชย์
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หรือการซอ้ื ขายสนิ คา้ ออนไลน์เตบิ โตขึ้นอย่างรวดเรว็ แตน่ นั่ กเ็ ปน็ ชอ่ งวา่ งใหม้ จิ ฉาชพี อาศยั ความเปลย่ี นแปลง
และความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและการติดต่อส่ือสารดงั กลา่ ว มาเป็นเครื่องมอื อำ� นวยความสะดวก
หรือใชเ้ ป็นสว่ นหนึง่ ของการกระท�ำความผดิ ได้ง่ายขน้ึ โดยเฉพาะการกระทำ� ความผิดเก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์

ขณะน้ี ท่ัวโลกก�ำลังประสบปัญหา “ภัยไซเบอร์” อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการหลอกลวงผ่านสื่อออนไลน์
ในประเทศไทย นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ท่ีส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นอย่างย่ิง โดยมิจฉาชีพไม่ได้ใช้วิธีการ
หลอกลวงแบบใช้กลวิธีง่าย ๆ เหมือนในอดีต แต่ไดม้ กี ารพัฒนารปู แบบการกระทำ� ความผดิ ใหม้ คี วามซบั ซ้อนมากยงิ่ ข้นึ
ตามพัฒนาการทางเทคโนโลยที ี่มคี วามเปล่ยี นแปลงไปอย่างรวดเรว็ เพ่ือให้ประชาชนรู้ไม่เทา่ ทันและตกเปน็ เหย่อื ดังน้ัน
การรับรู้ถึงสภาพปัญหาและวิธีการรับมือเกี่ยวกับการหลอกลวงผ่านส่ือออนไลน์ จึงเปน็ สง่ิ สำ� คญั เพราะปัญหาดังกลา่ ว
นบั ว่าเปน็ เร่อื งใกล้ตวั



1 นักประชาสมั พันธ์ สว่ นประชาสมั พนั ธ์ สำ� นักงานเลขาณุการกรม กรมสอบสวนคดพี ิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม

DSI 65 ไตรสาร

กรมสอบสวนคดพี เิ ศษไดร้ บั การประสานจาก บรษิ ทั ไปรษณยี ไ์ ทย จำ� กดั กรณมี มี จิ ฉาชพี สรา้ งกลอบุ ายรปู แบบใหม่
หลอกลวงประชาชนใหห้ ลงเชอื่ โดยกลมุ่ มิจฉาชพี มีลกั ษณะพฤตกิ ารณค์ ลา้ ยแกง๊ คอลเซนเตอรใ์ นอดตี ซงึ่ สรา้ งสถานการณ์
โทรศัพท์ไปหลอกลวงประชาชนใหโ้ อนเงนิ มายังบญั ชีธนาคารของแกง๊ มจิ ฉาชพี ดังตอ่ ไปนี้
กรณีที่ 1 มิจฉาชีพแอบอ้างให้ผู้เสียหายตอบแบบสอบถามทางเว็บไซต์แห่งหนึ่ง โดยระบุว่าเป็นแบบสอบถาม
จากบรษิ ทั ไปรษณยี ไ์ ทย จ�ำกดั เพื่อรบั ของรางวัลเปน็ สมาร์ทโฟนฟรี หรือบตั รรางวลั ต่าง ๆ ทง้ั ทบ่ี รษิ ทั ฯ ไมไ่ ดจ้ ดั กจิ กรรม
ดังกล่าว และไม่มีนโยบายในการส�ำรวจแบบสอบถามผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าวเพื่อลุ้นรับรางวัลไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งส้ิน
ท�ำให้ผู้ใช้บริการเกิดความเข้าใจผิดเป็นจ�ำนวนมาก และหลงเช่ือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เลขบัตรประชาชน
จึงขอแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้บริการ โปรดอย่าหลงเช่ือบุคคลที่แอบอ้างเป็นตัวแทนจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จ�ำกัด
กรณีท่ี 2 กรณีแอบอ้างวา่ เป็นตวั แทนจากบรษิ ัท ไปรษณีย์ไทย จ�ำกัด ส่วนใหญ่จะแจ้งไปยังผู้ใช้บรกิ ารว่า มพี สั ดุ
ตกคา้ ง ณ ที่ท�ำการไปรษณีย์ โดยเรยี กใหโ้ อนเงินผา่ นบัญชีธนาคารเพ่ือนำ� พัสดุ ซ่ึงอ้างว่าเป็นของมีค่า ออกจากท่ที ำ� การ
ไปรษณยี ์ จึงขอแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้บริการ โปรดอยา่ หลงเชือ่ บคุ คลท่ีแอบอา้ งเป็นตัวแทนจากบรษิ ทั ไปรษณยี ์ไทย จำ� กดั
ใชโ้ ทรศพั ทใ์ นการหลอกลวงใหโ้ อนเงนิ เพอื่ นำ� พสั ดอุ อกจากทที่ ำ� การไปรษณยี ์ ทั้งนี้ บรษิ ทั ไปรษณีย์ไทย จำ� กดั ไมม่ นี โยบาย
การเรยี กเก็บเงินผา่ นบัญชธี นาคารเพือ่ น�ำพัสดอุ อกจากท่ีท�ำการไปรษณีย์ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทงั้ ส้นิ
กรณีท่ี 3 กรณีมิจฉาชีพสร้างเพจขายสินค้าออนไลน์หลอกลวงผู้เสียหาย โดยสนทนาซ้ือขายสินค้า และเม่ือ
ท�ำการตกลงซ้อื ขายกันเรยี บร้อยจะใหผ้ ้เู สียหายโอนเงินเพอ่ื ช�ำระคา่ สนิ ค้าและมจิ ฉาชพี จะให้เลขพสั ดุPB190248267TH
ซึ่งเมื่อตรวจสอบเลขพัสดุดังกล่าวแล้ว พบว่าไม่มีการส่งสินค้าจริง และมิจฉาชีพยังส่งเลขพัสดุเดียวกันไปยงั ผูเ้ สียหาย
รายอื่น ๆ เมื่อผู้เสียหายขอส�ำเนาหลักฐานใบน�ำฝากส่งสินค้า มิจฉาชีพจะไม่ให้และท�ำการบ่ายเบี่ยง บางรายถูกบล็อค
รายชื่อผู้ติดต่อหลังจากโอนเงินค่าสินค้า ซึ่งมีแนวโน้มว่า ผู้เสียหายในกรณีดังกล่าวจะมีจ�ำนวนเพิ่มข้ึน
กรณีท่ี 4 มิจฉาชีพ Hack Facebook หรือ Line ของผู้เสียหาย และสวมรอยว่าเป็นญาติพ่ีน้องหรือเพ่ือน
ของผู้เสียหาย จากนั้นจะขอยืมเงินต้ังแต่หลักร้อยถึงหลายพันบาท เพื่อไม่ให้เกิดข้อพิรุธ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ก็จะให้
โอนเงินผ่าน QR Code ที่ผูกไว้กับ Wallet@POST ของมิจฉาชีพ

DSI 66 ไตรสาร



พระราชกฤษฎกี ากำ� หนดหนว่ ยงานและกิจการ
ทีผ่ คู้ วบคมุ ข้อมลู สว่ นบุคคลไม่อยู่ภายใตบ้ ังคับ
แห่งพระราชบญั ญัตคิ มุ้ ครองข้อมลู ส่วนบคุ คล

พ.ศ. 2562 - พ.ศ. 2563

ดร.ปริญญา นิราศนภาภัย

การคมุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คลในประเทศไทยไดม้ พี ฒั นาการอยา่ งเปน็ รปู ธรรม โดยได้มีการตรากฎหมายในระดบั
พระราชบัญญตั คิ อื “พระราชบญั ญัติคุ้มครองข้อมูลสว่ นบุคคล พ.ศ. 2562” และได้ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเมอื่ วนั ที่
27 พฤษภาคม 2562 ทผี่ ่านมา โดยก�ำหนดให้ใชบ้ ังคับตั้งแตว่ ันถดั จาก วันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป เว้นแต่
หมวด 2 หมวด 3 หมวด 5 หมวด 6 หมวด 7 และความในมาตรา 95 และมาตรา 96 ให้ใช้บังคับเม่ือพ้นก�ำหนดหนึ่งปี
นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซ่ึงผู้เขียนได้เคยน�ำมาเล่าสู่กันฟังไปแล้วใน DSI ไตรสาร ฉบับที่ 4
พ.ศ. 2562 สำ� หรับ DSI ไตรสารฉบับน้ถี ือว่าเป็นภาคตอ่ ของเรื่องดงั กลา่ ว มีอะไรทเี่ พม่ิ เติมหรือมกี ารเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร

“เลอ่ื นบงั คบั ใชบ้ างมาตราในพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล พ.ศ. 2562”

เพราะอะไรจึงต้องประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับน้ี เป็นค�ำถามท่ีหลายท่านอาจมีข้อสงสัยเกิดข้ึน เหตุผล
ประการสำ� คญั คอื การปฏบิ ตั ิตามพระราชบญั ญัติคุ้มครองขอ้ มูลสว่ นบุคคล พ.ศ. 2562 นนั้ เปน็ การปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑ์
วธิ กี าร และเงือ่ นไขทมี่ รี ายละเอยี ดและมีความซบั ซอ้ นมาก ต้องใช้เทคโนโลยีขน้ั สงู เพอื่ ให้การค้มุ ครองข้อมูลสว่ นบคุ คล
เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพสมดงั เจตนารมณข์ องกฎหมาย ทำ� ใหผ้ คู้ วบคมุ ขอ้ มลู สว่ นบคุ คลซง่ึ เปน็ หนว่ ยงานและกจิ การตา่ ง ๆ
ท้ังภาครัฐและภาคเอกชนจ�ำนวนมากทัว่ ประเทศยงั ไม่มีความพร้อมทีจ่ ะปฏิบตั ติ ามพระราชบัญญัติดงั กลา่ ว ประกอบกับ
มาตรา 4 วรรคสอง แห่งพระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองข้อมูลส่วนบคุ คล พ.ศ. 2562 บญั ญัตไิ ว้ว่า การยกเวน้ ไมใ่ ห้น�ำบทบญั ญัติ
แห่งพระราชบัญญัตินี้ท้ังหมดหรือแต่บางส่วนมาใช้บังคับแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะใด กิจการใด หรือ
หน่วยงานใด หรอื เพ่อื ประโยชน์สาธารณะอนื่ ใด ใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎีกา จงึ เหน็ สมควรก�ำหนดใหบ้ างหนว่ ยงานและ
บางกจิ การทผ่ี คู้ วบคุมขอ้ มลู สว่ นบุคคลไม่อยภู่ ายใตบ้ ังคับแหง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล พ.ศ. 2562 ในชว่ ง
ระยะเวลาท่ียังไมม่ ีความพร้อมท่จี ะปฏบิ ัติใหถ้ กู ต้องตามกฎหมายนี้ จงึ จำ� เป็นต้องตราพระราชกฤษฎกี านี้

1เจา้ หน้าทีค่ ดีพิเศษช�ำนาญการพิเศษ สว่ นอำ� นวยการ กองกฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม

DSI 68 ไตรสาร

การครบก�ำหนดให้ใช้บังคับของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งจะ มีข้ึนในวันท่ี 27
พฤษภาคม 2563 นั้น ปรากฏว่าสถานการณ์บ้านเมืองทั้งในประเทศและเกือบทุกประเทศท่ัวโลก ได้เผชิญกับปัญหา
การระบาดของไวรสั COVID-19 ซึ่งกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การค้าขาย
การใช้ชีวิตของผู้คนจ�ำนวนมาก หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ต่างประสบปัญหาในการด�ำเนินงานไม่ว่าจะเป็นด้าน
การวางระบบงาน/ระบบสารสนเทศ ปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงนิ ปัญหาการจา้ งงาน ปัญหาบคุ ลากรในองค์การ
ล้วนส่งผลต่อความพร้อมและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และการปฏิบัติตามกฎหมายเพ่ือให้ความคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคล คณะรัฐมนตรใี นคราวประชุมเมื่อวนั ที่ 19 พฤษภาคม 2563 จงึ ไดอ้ นมุ ัติหลักการรา่ งพระราชกฤษฎกี าก�ำหนด
หน่วยงานและกจิ การทค่ี วบคมุ ขอ้ มลู สว่ นบคุ คลไมอ่ ยภู่ ายใตบ้ งั คบั แหง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล พ.ศ. 2562
ตามท่ีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ โดยมิให้น�ำบทบัญญัติเฉพาะในบางหมวดมาใช้บังคับแก่ผู้ควบคุม
ขอ้ มลู สว่ นบคุ คล ซง่ึ เปน็ หนว่ ยงานหรอื กจิ การตามบญั ชที า้ ยพระราชกฤษฎกี า แตท่ ส่ี ำ� คญั ทส่ี ดุ คอื “ผคู้ วบคมุ ขอ้ มลู สว่ นบคุ คล
ยงั จะตอ้ งจดั ใหม้ มี าตรการรักษาความปลอดภยั ของขอ้ มลู สว่ นบุคคลให้เปน็ ไปตามที่กระทรวงดิจิทลั ฯ ก�ำหนด”
กฎหมายใหมฉ่ บบั นม้ี เี พียง 4 มาตรา สำ� คญั อยา่ งไร พระราชกฤษฎีกาก�ำหนดหน่วยงานและกิจการที่ผู้ควบคุม
ขอ้ มลู ส่วนบุคคลไมอ่ ยู่ภายใต้บงั คบั แหง่ พระราชบญั ญัตคิ มุ้ ครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2563 ฉบับน้ีถือเป็น
กฎหมายใหม่ซ่งึ ได้ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเม่อื วันท่ี 21 พฤษภาคม 2563 ที่ผา่ นมา มีเพียง 4 มาตราเท่านั้น โดยมี
บญั ชที า้ ยพระราชกฤษฎกี า อกี 1 หน้า มาดสู าระสำ� คญั ของกฎหมายใหม่ฉบบั น้กี นั ค่ะ
มาตรา 1 เปน็ มาตราที่ก�ำหนดช่ือของพระราชกฤษฎีกาฉบบั น้ี
มาตรา 2 เปน็ มาตราท่กี ำ� หนดวนั ให้ใชบ้ งั คบั โดยก�ำหนดให้ใช้บังคับตั้งแต่วันท่ี 27 พฤษภาคม 2563 ถึงวันท่ี
31 พฤษภาคม 2564 ซ่ึงหมายความว่า กฎหมายฉบับนี้ให้เลื่อนการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 ในบางหน่วยงานและกิจการท่ีจะต้องด�ำเนินการตามกฎหมายออกไปถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

DSI 69 ไตรสาร

มาตรา 3 เป็นมาตราที่กำ� หนดสาระส�ำคัญของกฎหมายฉบับนี้ ซงึ่ บัญญตั ิไวว้ า่ “มิให”้ นำ� บทบญั ญตั ใิ นหมวด 2
หมวด 3 หมวด 5 หมวด 6 และหมวด 7 และมาตรา 95 แหง่ พระราชบัญญัติคมุ้ ครองขอ้ มลู ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาใช้
บังคับแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเปน็ หนว่ ยงานหรือกิจการตามบญั ชีท้ายพระราชกฤษฎานี้ จากบทบัญญัติดงั กล่าว
สามารถขยายความได้ว่า ยังไม่ให้ใช้บังคับแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นหน่วยงานหรือกิจการตามบัญชีท้าย
พระราชกฤษฎานี้ในบางหมวด ซ่ึงผู้เขียนได้สรุปสาระส�ำคัญในเนื้อหาของแต่ละหมวด ดังปรากฏตามตารางน้ี

DSI 70 ไตรสาร

หน่วยงานหรือกิจการใดบ้างที่ปรากฏตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา ซ่ึงเป็นหน่วยงานหรือกิจการท่ีได้รับ
การขยายเวลาบังคับใช้ ประกอบด้วย 22 หน่วยงานและกิจการ ดังน้ี

1. หน่วยงานของรัฐ
2. หน่วยงานของรัฐต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศ
3. มูลนิธิ สมาคม องค์กรศาสนา และองค์กรท่ีไม่แสวงหาก�ำไร
4. กิจการด้านเกษตรกรรม
5. กิจการด้านอุตสาหกรรม
6. กิจการด้านพาณิชยกรรม
7. กิจการด้านการแพทย์และสาธารณสุข
8. กิจการด้านพลังงาน ไอน้�ำ น้�ำ และการก�ำจัดของเสีย รวมทั้งกิจการที่เก่ียวข้อง
9. กิจการด้านการก่อสร้าง
10. กิจการด้านการซ่อมและบ�ำรุงรักษา
11. กิจการด้านการคมนาคม ขนส่ง และการเก็บสินค้า
12. กิจการด้านการท่องเท่ียว
13. กิจการด้านการส่ือสาร โทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ และดิจิทัล
14. กิจการด้านการเงิน การธนาคาร และการประกันภัย
15. กิจการด้านอสังหาริมทรัพย์
16. กิจการด้านการประกอบวิชาชีพ
17. กิจการด้านการบริหารและบริการสนับสนุน
18. กิจการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาการ สังคมสงเคราะห์ และศิลปะ
19. กิจการด้านการศึกษา
20. กิจการด้านความบันเทิงและนันทนาการ
21. กิจการด้านการรักษาความปลอดภัย
22. กิจการในครัวเรือนและวิสาหกิจชุมชน ซึ่งไม่สามารถจ�ำแนกกิจกรรมได้อย่างชัดเจน

“หากเกิดปัญหาไม่แน่ใจว่าหน่วยงานหรือกิจการรายใด
อยู่ในบัญชีรายช่ือข้างต้นหรือไม่

สามารถสอบถามได้ท่ีคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ซ่ึงเป็นได้รับมอบอ�ำนาจให้เป็นผู้วินิจฉัยดังกล่าว”

กฎหมายฉบับนี้ได้ก�ำหนดให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ก�ำหนดในบัญชีท้าย จะต้องจัดให้มีมาตรการ
รักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามมาตรฐานท่ีกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมก�ำหนด

DSI 71 ไตรสาร

มาตรา 4 เป็นมาตราสุดท้ายของกฎหมายฉบับน้ี ก�ำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและ
สังคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
นายพุทธิพงษ์ ปณุ ณกนั ต์ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คม ไดใ้ หส้ มั ภาษณแ์ กส่ อ่ื มวลชนวา่
“ไมอ่ ยากใหป้ ระชาชนกงั วลตอ่ กฎหมายฉบบั น้ี (พ.ร.บ.คมุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล พ.ศ. 2562) ยนื ยนั วา่ กฎหมายนค้ี อื หลกั เกณฑ์
กลางเพอ่ื คุ้มครองข้อมลู ส่วนบคุ คลไม่ใหถ้ ูกละเมิดตามหลกั สากล จงึ ไม่ใชก้ ารไปล้วงลกู ขอ้ มลู ของบคุ คลใด และการเลื่อน
บังคับใช้กฎหมายออกไปน้ัน ท�ำให้ผู้ท่ีมีข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ท่ีประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีเวลาเตรียมความพร้อม
ในการจัดท�ำหรือปรับปรุงกระบวนการท�ำงานและระบบงานเพื่อรองรับมาตรการคุ้มครองข้อมุลส่วนบุคคลที่ก�ำหนดไว้
ในกฎหมายให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งอาจจะต้องใช้งบประมาณและบุคลากรจ�ำนวนมากในการด�ำเนินการ
กรมสอบสวนคดพี ิเศษ (DSI) เปน็ หนว่ ยงานของรฐั ในสงั กดั กระทรวงยตุ ธิ รรม มภี ารกจิ ในการปอ้ งกนั ปราบปราม
สืบสวนสอบสวนคดีความผิดทางอาญาท่ีมีลักษณะเป็นคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม ซึ่งถือเป็นหน่วยงานของรัฐภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
และพระราชกฤษฎีกาก�ำหนดหน่วยงานและกิจการที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติ
คุ้มครองข้อมูลสว่ นบุคคล พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2563 โดยในปัจจุบัน กรมสอบสวนคดพี ิเศษมมี าตรการรกั ษาความปลอดภยั
ของข้อมูลท่ีอยู่ในความควบคุมอย่างมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ ท้ังที่เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบ
ปฏิบัติงานต่าง ๆ และมาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ แต่เพื่อให้เป็นไปตามท่ีกฎหมายก�ำหนด
อยา่ งเครง่ ครดั ขณะนจ้ี งึ ไดม้ กี ารเตรยี มพรอ้ มในการปฏบิ ตั ติ ามทก่ี ฎหมายกำ� หนด โดยมกี ารทบทวนและปรบั ปรงุ ระบบตา่ ง ๆ
ท้ังในเร่ืองกระบวนการท�ำงาน ระบบงาน ระบบสารสนเทศ ให้รัดกุมในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การเก็บรวบรวมข้อมูล
ส่วนบุคคล การใช้ การเปิดเผย หรือการด�ำเนินการต่าง ๆ เพื่อรักษาสิทธิของบุคคลอันพึงจะได้รับความคุ้มครอง
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานและกิจการซ่ึงจะได้รับการขยายระยะเวลาเพ่ือเตรียม
ความพร้อม ถือได้ว่าจะท�ำให้เกิดความรอบคอบ ความครบถ้วนสมบูรณ์ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคประชาชน
ภาครฐั และภาคเอกชน พระราชกฤษฎกี าฉบบั นจี้ งึ เปน็ กฎหมายใหมท่ ม่ี คี วามสำ� คญั และไดน้ ำ� มา เลา่ สกู่ นั ฟงั แบบไมต่ กหลน่
ตดิ ตาม คอลมั น์ กฎหมายใหม.่ ..ชวนรู้ กันอยา่ งตอ่ เนอื่ งนะคะ สวัสดคี ะ่
ทา่ นสามารถดขู ้อมลู กฎหมายไดใ้ นเวบ็ ไซตก์ รมสอบสวนคดพี เิ ศษ www.dsi.go.th หวั ข้อ กฎหมาย/ระเบียบฯ หวั ข้อย่อย
กฎหมาย/ระเบียบฯ ที่เกยี่ วกับการปฏบิ ัตริ าชการทว่ั ไป หรือเว็บไซตร์ าชกจิ จานเุ บกษา

DSI 72 ไตรสาร



ขยะทะเล ท่ไี มไ่ ด้มาจากทะเล

จากการศกึ ษาวจิ ยั เชิงพืน้ ทข่ี อง รศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ อาจารยภ์ าควิชาวิทยาศาสตรท์ างทะเล คณะวทิ ยาศาสตร์
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั พบวา่ คนไทยสว่ นใหญย่ งั เขา้ ใจผดิ วา่ ขยะทะเลในอา่ วไทยและ ฝ่ังอนั ดามนั น้ันมาจากตา่ งประเทศ
ท้ังท่ีความจริงแล้วเป็นขยะท่ีมาจากบนบก โดยท่ีคนไทยด้วยกันเองและนักท่องเที่ยวเป็นผู้ทิ้ง ขณะท่ีแม่น�้ำสายหลัก
เปน็ เสมอื นเสน้ ทางลำ� เลยี งขยะบกลงสทู่ ะเล อาทิ แมน่ ำ�้ แมก่ ลอง แมน่ ำ้� ทา่ จนี แมน่ ำ้� ปา่ สกั แมน่ ำ�้ เจา้ พระยา ฯลฯ โดยเฉพาะ
แมน่ �้ำเจ้าพระยาถือเป็นต้นธารมาจากแมน่ ้ำ� สายยอ่ ย ๆ ท้งั ปงิ วงั ยม น่าน เปน็ เสมอื นเสน้ ทางไหลรวมของขยะทางตรง
ลงสอู่ า่ วไทย โดยในช่วงลมมรสุมขยะทล่ี งทะเลไปแล้วจะถกู ซัดยอ้ นกลับมาเกยบริเวณชายหาดของจงั หวดั อา่ วไทยตอนใน
หรือทางภาคใต้ตอนล่างซึ่งเปน็ ไปตามกระแสของคลนื่ ลมมรสมุ
ขยะทะเล คอื อะไร? ขยะทะเล คอื ของเสียทีเ่ กิดจากมนษุ ย์ซงึ่ ถกู ท้ิงลงส่ทู ะเลทงั้ ทางตรง และทางออ้ ม โดยตง้ั ใจ
และไมไ่ ดต้ ง้ั ใจ มตี งั้ แตข่ นาดเลก็ จนถงึ ขนาดใหญ่ ซงึ่ ขยะดงั กลา่ วเปน็ ขยะพลาสตกิ มนี ำ้� หนกั เบาและไมส่ ามารถยอ่ ยสลายได้
ในเวลาท่ีสน้ั จงึ ถกู พดั พาไปในทที่ หี่ ่างไกลจากแหลง่ กำ� เนดิ โดยคล่นื ลม กระแสน้�ำ และน้�ำขึ้นน้ำ� ลง ขยะพลาสตกิ ส่วนใหญ่
ประกอบด้วยของใช้ในชวี ิตประจำ� วนั เช่น ถุง ขวด ภาชนะใสอ่ าหาร และวัสดุท่ีใช้ในการบรรจหุ ีบหอ่ รวมทั้ง ผลิตภณั ฑ์
อุตสาหกรรม เช่น สายรดั แผน่ พลาสติก หมวกนริ ภยั และเครอ่ื งมอื ประมง เชน่ แห อวน ลอบ

DSI 74 ไตรสาร

ทม่ี าของขยะทะเล ขยะทะเลมที งั้ ขยะทเ่ี กดิ จากการทอ่ งเทย่ี ว การทำ� ประมง ภาคอตุ สาหกรรม การเดนิ เรอื พาณชิ ย์
รวมถึงการท้ิงขยะลงทะเลโดยผิดกฎหมาย โดยแหล่งที่มาของขยะทะเลส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมบนฝั่ง เช่น ชุมชน
แหลง่ ทง้ิ ขยะบนฝง่ั บรเิ วณทา่ เรอื และการทอ่ งเทยี่ วชายหาด และจากกจิ กรรมในทะเล เชน่ การขนสง่ ทางทะเล การประมง
และการท่องเท่ียวทางทะเล เปน็ ตน้ และขยะพลาสติกท่ีพบในทะเลส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมบนบกถึงร้อยละ 80 ดงั น้นั
หากยงั ไมร่ บี แกไ้ ข หรอื ปอ้ งกันจะส่งผลกระทบต่อสงิ่ แวดลอ้ มมากข้นึ ท้งั ท�ำลายระบบนิเวศปะการงั การตายของสตั วท์ ะเล
หายาก อย่างเต่าและโลมา ทัง้ นี้จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั พบว่า ในปี พ.ศ. 2560 เต่าและโลมา
กลืนขยะไปถึงร้อยละ 2-3 บางตัวถูกอวนหรือเชือกรัดกว่าร้อยละ 20 - 40 นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ
(การท่องเท่ียว) เร่ืองของทัศนียภาพเส่ือมโทรมที่เกิดจากปัญหาขยะทะเล ปัญหาสุขภาพ และอาหารท่ีมีผลกระทบ
จากสารพิษ เน่ืองจากพลาสติกสามารถถูกย่อยเป็นขนาดเล็กลงได้โดยแสงแดด (photodegradation) ท�ำให้สารเคมี
บางชนิดที่เป็นพิษ ละลายไปในน้�ำทะเล ขณะที่พลาสติกบางชนิดยังสามารถดูดซึมสารพิษเช่น PCB ท่ีอยู่ในน้�ำทะเล
สามารถเขา้ ส่หู ว่ งโซอ่ าหารไดเ้ ม่อื ถูกกินโดยสตั วร์ วมถึงนำ� ไปสกู่ ารเกดิ ปญั หาระหวา่ งประเทศเร่ืองปัญหาขยะข้ามแดน
ชะตากรรมสัตว์ทะเล
1. เต่าตนุตาย เพราะกินขยะในทะเลไทย พบแม่เต่าตนุตัวหนึ่งซ่ึงมีชีวิตอยู่มาหลายสิบปี น้�ำหนักประมาณ
100 กิโลกรัม แต่ตอนน้ีตายไปแล้ว โดยผลการชันสูตรพบเศษขยะอัดแน่นเต็มกระเพาะ เพราะเต่าตนุไม่สามารถแยก
เศษเชือกกบั สาหร่ายออกจากกัน จึงเป็นเร่ืองที่น่าเศร้าใจว่าเต่าทะเลเป็นสัตว์ท่ีหายาก แม้ว่าจะมีการอนุรักษ์ ฟักไข่เต่า
ปล่อยลูกเตา่ แตส่ ุดท้ายกล็ งเอยดว้ ยความตายจากขยะพลาสตกิ
2. เตา่ หญา้ ขาขาด เพราะติดอวนประมง เศษเครื่องมือท�ำประมงทลี่ อยอยู่กลางทะเล เปน็ อกี หน่งึ สาเหตุสำ� คญั
ท่ีส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเล เช่น วายุภักดิ์ เต่าหญ้าอายุ 10 ปี ชีวิตของมันเปลี่ยนไป จากการติดเศษเคร่ืองมือประมง
ในทะเล ทำ� ใหม้ นั ไม่สามารถว่ายน้�ำได้เหมอื นเดิม เพราะฟรปิ เปอรห์ รอื พายคู่หนา้ ซงึ่ เปน็ ตวั ควบคมุ ทศิ ทางการเคลอื่ นไหว
หายไปหนึ่งขา้ งถกู ตัดออกจากการรกั ษา เวลาวา่ ยนำ�้ จะว่ายทวนในทศิ ทางเดียว และเวลากินอาหารจะไม่ทันเตา่ ตวั อน่ื ๆ
และถ้าไปรวมกับธรรมชาติอาจจะว่ายน�้ำไม่ทันปลา และหมึกท่ีเป็นอาหารของเต่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาการด�ำน้�ำ
เพราะมีผลจากปอดเสียหาย เวลาด�ำน�้ำต้องใช้แรงส่งมากกว่าตัวอื่น แม้ว่าตามธรรมชาติเต่าหญ้ามีอายุยืนเฉล่ีย
ไม่ต�่ำกว่า 70 - 80 ปี แต่ความพิการที่ไม่เป็นธรรมชาตินี้อาจท�ำให้อายุของวายุภักด์ิอาจไม่ยืนยาวอย่างท่ีควรเป็น
3. ปูเสฉวน ในฝาเคร่ืองด่ืมชูก�ำลัง ปูเสฉวน เป็นอาร์โธรพอดที่ไม่มีเปลือกแข็งแบบปูหรือกุ้ง จึงต้องอาศัย
ในเปลือกหอยเปล่า แต่จะโผลเ่ ฉพาะหัวและขา 2 คู่ ออกจากเปลือก ส่วนขาอีก 2 คู่ใช้ยึดกับเปลือกหอย และจะเปลีย่ น
เปลือกหอยส�ำหรับอาศัยไปเรื่อย ๆ เมื่อมีขนาดตัวที่ใหญ่ข้ึน น่ีไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์หรือนวัตกรรม แต่เป็นภาพสะท้อนว่า
มีขยะบนหาดทรายมากกว่าเปลือกหอย จึงท�ำให้ปูเสฉวนใช้ขยะเป็นที่อาศัยแทนเปลือกหอย
4. ขยะพลาสตกิ 85 ช้ินในท้องวาฬ เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย
ตอนล่าง พบว่าบริเวณหลอดอาหารของวาฬมขี ยะอยู่ แต่หลังจากสอดท่อหายใจเป็นเวลา 1 ชัว่ โมง วาฬก็ไดเ้ สยี ชีวิตลง
ทีมแพทย์จึงได้ท�ำการผ่าชันสูตรซากวาฬ พบความผิดปกติในระบบต่าง ๆ เช่น ปอดอักเสบ หัวใจขาดเลือด พบพยาธิ
ในปอด ท่อน้�ำดีและล�ำไส้ และพบขยะจ�ำพวกพลาสติกในส่วนต้นของกระเพาะอาหารจ�ำนวน 8 กิโลกรัม นับได้จ�ำนวน
85 ชิ้น ซึ่งนี่อาจเป็นครั้งแรกของประเทศไทยท่ีพบขยะพลาสติกจ�ำนวนมากในร่างของสัตว์ที่ตายจากการกินขยะ
ในท้องทะเล และขยะพลาสติกที่พบในล�ำไส้ของวาฬ พบว่าส่วนใหญ่เป็นสีด�ำ ซึ่งเกิดคราบเลือดที่โดนกรดไปเคลือบ
ท่ีถุงพลาสติก ซึ่งแสดงว่าวาฬมีเลือดออกในกระเพาะและทางเดินอาหาร เหมือนกับคนที่เป็นโรคกระเพาะ

DSI 75 ไตรสาร

วธิ กี ารจดั การแก้ไข
การจัดการขยะทะเลต้องแก้ไขตั้งแต่ต้นทางคือ “คน” โดยต้องสร้างความตระหนักให้กับประชาชน และการ
ปรบั เปลยี่ นมุมมองการแก้ปัญหาขยะใหม่ ไม่ใช่แก้ด้วยการเก็บขยะแล้วน�ำไปรีไซเคิลเพียงอย่างเดียว แต่ควรเปล่ียน
มุมมองของคนท้งิ ขยะใหม่ ไม่มองขยะเป็นเพียงแค่ขยะหรือของเหลือท้ิง แต่มองขยะให้เป็นวัตถุดิบ ให้การจัดการขยะ
เปน็ เร่อื งของbusiness model ทำ� ให้เหน็ ประโยชน์จากขยะเหล่านม้ี ากกวา่ การมองวา่ เป็นปญั หา ยกตัวอย่างการจัดการ
ขวดนำ้� ดมื่ หนงึ่ ใบ ถา้ เรามองวา่ มนั เปน็ ขยะหลงั ดม่ื นำ�้ เสรจ็ แลว้ กโ็ ยนทง้ิ ในถงั ขยะ เพยี งแคน่ ข้ี วดนำ�้ ดมื่ นกี้ ก็ ลายเปน็ ขยะแลว้
แตถ่ า้ เราจัดการขวดนำ้� ดม่ื ด้วยการนำ� กลบั ไปรไี ซเคลิ ขวดน�้ำดื่มนี้ก็จะกลายเป็นวัตถุดิบ ฉะนั้น อยู่ที่การบริหารจัดการ
ของเราว่าจะให้เป็นขยะหรือให้เป็นวัตถุดิบ
การแกป้ ัญหาผา่ นการวจิ ยั และพัฒนา
1.ผู้ผลิตสินค้าท่ีเก่ียวข้องกับพลาสติกต้องผลิตสินค้าท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ง่ายต่อการจัดการขยะและการ
น�ำกลับไปใชใ้ หม่ สามารถตรวจสอบเส้นทางวงจรผลิตภัณฑ์ตั้งแต่การผลิตถึงวาระสุดท้ายของพลาสติก โดยรว่ มมอื กบั
ภาคเอกชนทีผ่ ลติ เม็ดพลาสติก ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เช่น หลอด วสั ดุกอ่ สรา้ ง วัสดปุ ระกอบอาคาร และ
เครอ่ื งนุ่งห่ม เป็นต้น
2.ชมุ ชนในพน้ื ที่ทกุ จงั หวัดทตี่ ิดทะเล จะต้องรู้วิธีจัดการขยะพลาสติกได้ด้วยตนเองและเบ็ดเสร็จในพื้นที่ซึ่งได้
ด�ำเนินการไปแล้วใน 23 จังหวดั ในฝ่งั อ่าวไทยและอันดามนั อาทิ ชายหาดบางแสน แสมสาร เกาะหลเี ปะ๊ และเกาะภูเก็ต
3.ต้องมีกระบวนการเกบ็ และจัดการขยะในทะเลอยา่ งเปน็ ระบบในทุกพ้ืนท่ี โดยการมีสว่ นรว่ มและใช้เทคโนโลยี
ท่ีเหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นท่ีและชุมชน และรู้ตัวเลขขยะพลาสติกในทะเลท่ียังตกค้างอยู่ในพ้ืนท่ีท่ีส�ำคัญ โดยมี
เปา้ หมายลดปริมาณขยะในพ้ืนทไ่ี ด้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ภายในปที ่ีหนึ่ง และเพ่ิมขึน้ ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 50 ในปีถดั ไป
4.น�ำขยะพลาสติกมารีไซเคิลโดยไม่เกิดผลกระทบต่อเนื่องต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ โดยเฉพาะการตกค้าง
ในสัตว์ทะเลและสิ่งมีชีวิต
5.ลดการตกค้างของไมโครพลาสติกทตี่ กคา้ งในทะเลและสง่ิ มีชวี ติ บนฐานจากการวิจัยทส่ี ามารถเทียบมาตรฐาน
กบั นานาชาติได้

DSI 76 ไตรสาร

ทะเลสวย ด้วยมือเรา
1. Refuse (ปฏิเสธถุงพลาสติกและโฟม) เพราะพลาสติกจะใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปี และขยะประเภทนี้
ก็ไม่สามารถน�ำไปเผาท�ำลายได้ เพราะถุงพลาสติกมีส่วนประกอบของเม็ดปิโตรเลียม ซ่ึงเม่ือระเหยไปในบรรยากาศ
จะสร้างสารปนเปื้อนในดินและน�้ำ ทางที่ดีคือเลือกปฏิเสธแล้วหันมาใช้ถุงผ้าหรือกล่องข้าวท่ีผลิตจากวัสดุธรรมชาติ
ไปจนถึงภาชนะใช้ซ�้ำต่าง ๆ เช่น หลอด ขวดน้�ำ ช้อนส้อม ตะเกียบ
2. Recycle (แยกขยะให้เปน็ นิสยั ) นอกจากการแยกขยะใหเ้ ป็นนิสยั จะชว่ ยใหก้ ำ� จัดขยะได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
มากขนึ้ แลว้ ยังช่วยลดคา่ ใชจ้ า่ ยทใ่ี ช้ในกระบวนการก�ำจัดขยะอกี ดว้ ย เพราะแต่ละวันเจา้ หน้าทีต่ อ้ งเกบ็ ขยะวนั ละมากกวา่
9,000 ตัน ซ่ึงใช้งบประมาณมากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นค่าจ้างฝังกลบขยะตันละมากกว่า 100 บาท
ซง่ึ การแยกขยะ และทิ้งขยะลงถังตามสี คอื ท้ิงเศษอาหาร กากของผัก ผลไม้ ในถังสีเขียว ทิ้งแก้ว อลูมิเนียม หรือวัสดุ
ที่สามารถรีไซเคิลได้ในถังสีเหลือง และทิ้งขยะท่ัวไปที่สามารถน�ำไปเป็นเชื้อเพลิง และเป็นส่ิงประดิษฐ์ เช่น กล่องนม
เศษผ้า ยาง ไม้ ในถังสีน้�ำเงิน
3. Reuse (ใช้อย่างคุ้มค่า) อาจจะเร่ิมจากการใช้ปากกาจนหมดด้าม เขียนดินสอจนหมดแท่ง หรือเร่ิมจาก
การใช้กระดาษให้เต็มทั้งสองหน้าจนเป็นนิสัย เอาของที่ไม่ใช้แล้วมาท�ำเป็นของใช้ หรือดัดแปลงเป็นของเร่ิมจาก
อะไรง่าย ๆ เชน่ การท�ำกระถางตน้ ไม้จากขวดน้ำ� พลาสตกิ หรือการน�ำเสอ้ื ยดื ทไ่ี ม่ใส่แลว้ มาตัดเป็นถุงผ้า ซึ่งนอกจากวธิ นี ี้
จะช่วยลดปริมาณขยะไดแ้ ล้ว ยงั เปน็ การฝกึ ความคิดสร้างสรรค์ และใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชนอ์ ีกดว้ ย
4. Refiffiill (เลือกซื้ออะไรที่เติมได้ ลดขยะจากบรรจุภัณฑ์) เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของอุปโภคต่าง ๆ เช่น
นำ้� ยาซกั ผา้ ผงซกั ฟอก น้�ำยาปรบั ผ้านุ่ม ฯลฯ มาเปน็ แบบ Refli l กส็ ามารถลดค่าใช้จ่ายในบา้ นลงได้มากกวา่ 30 เปอรเ์ ซน็ ต์
นอกจากนี้ ยังช่วยลดมลภาวะทเ่ี กดิ จากกระบวนการผลิต Packaging ในโรงงานได้
5. Repair (ใช้อย่างทะนุถนอม ซ่อมแซมเท่าท่ีท�ำได้) โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น การเปิดแอร์
ร้อนกว่าอุณหภูมิห้อง หรือการใช้ไมโครเวฟก�ำลังแรง อุ่นอาหารเป็นเวลานาน ๆ หรือใช้คอมพิวเตอร์มากกว่าวันละ
แปดช่ัวโมง ส่ิงเหล่านี้จะท�ำให้เราต้องจ่ายค่าไฟมากข้ึน และท�ำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ พังเร็วข้ึน ควรฝึกซ่อมอุปกรณ์
ด้วยตนเอง เช่น การเปลี่ยนอะไหล่ ต่อ เติม ปะ แทนการซ้ือใหม่
6. Reduce (ลดการใช้ส่ิงต่าง ๆ) การบริโภค หรือใช้ส่ิงต่างๆเท่าท่ีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าขนาดใหญ่
ใช้ได้นานแทนการซื้อสินค้าท่ีมีขนาดเล็ก ไม่ซื้อของประเภทเดียวกัน
7. Return (หมุนเวียนมาใช้ใหม่) น�ำบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ มาท�ำความสะอาดและฆ่าเช้ือ น�ำกลับมาใช้ใหม่
เพ่ือรักษาส่ิงแวดล้อมทั้งบนบก แม่น้�ำล�ำคลองรวมไปถึงในทะเล

ขอขอบคณุ
กรมสง่ เสรมิ สุขภาพและสง่ิ แวดลอ้ ม
สำ� นักงานกองทุนสนับสนุนการวจิ ัย (สกว.)
Thai PBS
Green Network
มลู นิธสิ บื นาคะเสถยี ร
ส�ำนักงานกองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

DSI 77 ไตรสาร



ทศั นคตเิ ปน็ เรอ่ื งส�ำคัญ

ทศั นคตคิ อื อะไร พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑติ สถานใหค้ วามหมายงา่ ย ๆ วา่ ทศั นคตคิ อื
“แนวความคดิ เหน็ ” และถา้ เราตอ่ ดว้ ยคำ� วา่ “ทดี่ ”ี โดยเปน็ คำ� วา่ “ทศั นคตทิ ด่ี ”ี กน็ า่ จะแปลวา่ “แนวความคดิ เหน็ ทด่ี ”ี
คณุ สมบัติที่ส�ำคญั ของการเปน็ คนเก่งหรอื ท่เี ราเรยี กว่า Talent หรือ High Potential ท่ีแปลว่าต้องเป็นคนท่ีมี
คุณสมบัติอะไรบ้าง เช่น ความรู้ ความสามรถ มีทักษะ ค�ำตอบท่ีได้มานั้นเชื่อว่าหลายคนต้องมี แต่การท่ีจะมีทักษะ
เพียบพร้อมในการท�ำงาน และมีพฤติกรรมที่เหมาะสมกับการท�ำงานในองค์กรแล้ว องค์กรแต่ละองค์กรมีคุณสมบัติ
ท่ีแตกต่างกันออกไป แต่มีอยู่คุณสมบัติหนึ่งที่ทุกคนและทุกองค์กรต่างพูดถึงเหมือนกันหมดว่า คนเก่งจริงน้ันจะต้องมี
คุณสมบัติที่เรียกว่า “ทัศนคติท่ีดี” อีกด้วย
ทศั นคติ หรือ เจตคติ ในทางจิตวทิ ยา คอื การแสดงออกถึงความชอบหรอื ไม่ชอบต่อบคุ คล สถานที่ ส่ิงของ หรอื
เหตุการณ์ส่ิงใดส่ิงหนึ่ง (ซึ่งเรียกว่าวัตถุแห่งทัศนคติ) กอร์ดอน ออลพอร์ต นักจิตวิทยาได้อธิบายเกี่ยวกับทัศนคติไว้ว่า
“เป็นแนวคิดอันเด่นชัดท่ีสุดและจ�ำเป็นท่ีสุดในจิตวิทยาสังคมร่วมสมัย” ทัศนคติสามารถสร้างข้ึนจากประสบการณ์
ในอดีตและปัจจุบันของบุคคลหน่ึง ๆ สามารถตรวจวัดและเปลี่ยนแปลงได้ ส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมของบุคคล
นน้ั ด้วย
ในโลกแหง่ การทำ� งานและการใชช้ วี ติ ประจำ� วนั “ปัญหา” คอื สง่ิ ทีเ่ กิดขึ้นอยตู่ ลอดเวลา แตล่ ะคนมวี ธิ ีมองปัญหา
และวิธีแก้ไขแตกต่างกันไป บางคนมองว่าปัญหานั้นเป็นอุปสรรคท่ีขัดขวางการท�ำงาน แต่บางคนก็สนุกที่จะคิดหา
หนทางใหม่ ๆ ในการแกไ้ ขปญั หา เพราะมองวา่ ย่ิงมีปัญหาย่งิ ทา้ ทายความสามารถของตวั เอง ส่ิงเดยี วท่ที ำ� ใหค้ นสองคนน้ี
มองปัญหาแตกต่างกันก็คือ “ทัศนคติ” นั่นเอง การท�ำงานในโลกปัจจุบันนั้นมีความเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา และ
มีปัญหาเกิดข้ึนได้อย่างไม่หยุดหย่อน การมีทัศนคติในทางบวกจะช่วยให้เรารับกับปัญหาในการท�ำงานได้ดีข้ึน
ซงึ่ การสรา้ งทศั นคตทิ างบวกทเ่ี รมิ่ ตน้ ไดง้ า่ ยกค็ อื การพูดคยุ กับตวั เองด้วยการใช้ค�ำพูดทด่ี แี ละสร้างสรรค์ แต่ยงั มีเคลด็ ลับ
อื่นอีก 5 ข้อที่รวบรวมมาฝาก เพ่ือให้เราท�ำงานได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ พร้อมกับความสุขในการท�ำงาน

DSI 79 ไตรสาร

1. แค่ประเมนิ กพ็ อ อยา่ ตำ� หนติ วั เอง
การประเมินตัวเองเป็นสิ่งท่ีควรท�ำอยู่แล้ว เพราะมันจะช่วยให้รู้ว่าเราพลาดตรงไหนและควรแก้ไขอะไร
แต่ไม่ใช่การต�ำหนิตัวเองในทุกอย่างที่ท�ำ อย่าคิดว่าเราท�ำอะไรก็ไม่ได้ ท�ำอะไรก็ไม่ดี ถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นก็แค่
ยอมรับมัน เรียนรู้ และก้าวต่อไป แค่นี้ก็จะช่วยผลักดันให้เรามีทัศนคติท่ีดีแล้ว เราอาจจะลองบอกกับตัวเองว่า
“งานนเี้ ปน็ งานยาก ไมม่ ใี ครอยากให้ผดิ พลาด แตพ่ อเกดิ ขนึ้ แลว้ กเ็ ปน็ เรอ่ื งดนี ะทเ่ี ราจะไดเ้ รยี นรวู้ า่ เราทำ� อะไรผดิ คราวหนา้
จะได้ไมพ่ ลาดแบบเดมิ อีก แล้วลองคิดหาวิธีใหม่ ๆ ในการเรียนรแู้ ละพัฒนาตัวเองตอ่ ไป”
2. มองคนอน่ื แบบเข้าใจ
เม่อื หยุดมองตัวเองในแงร่ ้ายแลว้ ก็ต้องไม่มองว่าเราถกู เสมอ คนอืน่ คือคนท่ีทำ� ผิดตลอด เราตอ้ งใหเ้ กียรตคิ นอืน่
มองวา่ แต่ละคนมีความแตกต่างกนั ถา้ เราเรยี นรแู้ ละเขา้ ใจในความตา่ งนนั้ กจ็ ะชว่ ยใหเ้ ราใชช้ วี ติ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ มากขนึ้
“การกระทบกระทงั่ กนั เกดิ ข้นึ ได้ เพราะบางครั้งเราก็มีเรือ่ งทไี่ มเ่ ข้าใจ หรือเขา้ ใจไม่ตรงกันบ้างถ้าเราไดช้ ว่ ยกันหาวิธีทีด่ ี
ทสี่ ดุ ในการแก้ไขปัญหา นอกจากจะได้งานแล้วเรายังไดร้ ู้จักกนั มากข้ึนดว้ ย”
3. อยา่ ให้เรอื่ งน่าหงุดหงิดมาท�ำลายเรื่องที่ดี
ถ้ารู้ว่าส่ิงท่ีเกิดข้ึนไม่ได้มีอะไรเป็นประเด็น เป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ที่เกิดข้ึนช่ัวคราว ก็ระลึกไว้เสมอว่าไม่นาน
เรื่องพวกน้ีก็จะผ่านไป ลองบอกกับตัวเองบ่อย ๆ ก็ได้ว่า “เร่ืองน่าเบื่อน่าหงุดหงิดอาจจะเลี่ยงไม่ได้ แต่เราใช้โอกาสนี้
เพ่ือฝึกฝนทักษะการเผชิญหน้ากับสถานการณ์”

DSI 80 ไตรสาร

4. ก�ำจัดความกลวั ด้วยความคิดท่ดี ี
เป็นธรรมดาเม่ือเราได้รับโอกาสแสดงความสามารถทั้ง ๆ ท่ียังรู้สึกว่าไม่พร้อม ความกลัวก็จะเข้ามาแทน
ความคิดท่ีดีของเรา เม่ือเจอสถานการณ์แบบนี้ เราควรโยนความคิดท่ีว่าเราท�ำไม่ได้ หรือถ้าท�ำได้มันก็คงพังไม่เป็นท่า
ออกไป แล้วเรม่ิ ตั้งสมาธิ ท�ำทกุ อย่างใหช้ า้ ลงเพอ่ื ใหจ้ ติ ใจผอ่ นคลาย แลว้ ความคดิ ดี ๆ ของเราจะเร่ิมกลับมา จากน้นั ก็พูด
กบั ตวั เองชา้ ๆ ว่า “เราทำ� ได้ เราจะจัดการมัน” หรอื “เราจะต้องท�ำงานนอี้ อกมาได้อย่างดีแน่นอน”
5. ยำ้� ความคดิ ในเชิงบวก ท�ำจนเป็นนิสัย
การจะเปลี่ยนนิสัยภายในเดือนหรอื สองเดอื นไม่ใชเ่ ร่อื งง่าย แต่นี่คือบททดสอบระยะยาวที่เราต้องย�้ำความคิด
ในเชิงบวกอย่างสม�่ำเสมอ แล้วนิสัยของเราจะเปล่ียนไปทีละน้อย ถึงทกุ วันจะมีบททดสอบทม่ี ากระตุ้นความคิดในแงล่ บ
ของเราอย่าง “เราท�ำไม่ไดแ้ น”่ “คนอื่นน่าจะท�ำได้ดีกว่า” หรือ “วันน้ีเราโชคร้ายจัง” กต็ ้องพยายามหาเหตผุ ลที่จะสรา้ ง
ความคิดเชิงบวกมาหักล้าง “ตอนนี้เราคิดลบอยู่ ที่จริงแล้วมันต้องมีทางออกที่ดี แค่เราค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ หา ก็จะเจอ
วิธีแก้ปัญหาน้ีได้แน่นอน” แม้หลายคนจะรู้สึกว่าแค่การพูดกับตัวเองไม่เห็นจะได้ผลการเปล่ียนแปลงอะไร แต่เมื่อ
ท�ำบ่อย ๆ เข้า เราก็จะกลายเป็นคนท่ีมีทัศนคติดี มองโลกในแง่บวกท้ังการใช้ชีวิตและการท�ำงาน ถ้าฝึกจนเคยชิน
เป็นนิสัยแล้ว การท�ำงานของเราก็จะราบรื่นและประสบผลส�ำเร็จมากขึ้นด้วย

เรยี บเรยี งข้อมลู จากhttps://blog.jobthai.com/career-tips/5

DSI 81 ไตรสาร



“Food Coma” อาการงว่ งหลงั รับประทานอาหาร

วนั นจ้ี ะพาทกุ คนไปทำ� ความรจู้ กั Food Coma หรอื อาการงว่ งจดั แมฝ้ นื แลว้ กอ็ ยากจะหลบั ใหไ้ ดห้ ลงั รบั ประทาน
อาหารมาก ๆ เช่ือว่า หลายคนคงเคยมีอาการแบบนี้ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องตลกร้ายที่เรามักบ่นกับคนรอบข้างว่า
“ทานอ่ิมแล้วง่วงจัง ของีบก่อนแล้วค่อยท�ำงานต่อได้ไหม” บางคนคงเคยสงสัยกับค�ำถามว่า รับประทานข้าวเหนียว
แล้วจะง่วงนอน จริงหรือไม่ ? แล้วอะไร คือ สาเหตุของอาการนี้ เราสามารถป้องกันหรือบรรเทาอาการนี้ได้อย่างไร
ตามมาค้นหาค�ำตอบพร้อม ๆ กัน
ลักษณะอาการท่ีกล่าวมาข้างต้นน้ี คือ อาการของฟู้ดโคม่า หรือ อาการง่วงจัดหลังมื้ออาหารกลางวัน
ซง่ึ เปน็ ชอื่ เรยี กของอาการเหลา่ น้ี “ฟู้ดโคม่า” ไมใ่ ชโ่ รค แตเ่ ปน็ ภาวะทางสรรี ะวทิ ยามากกวา่ ซง่ึ ความจรงิ แลว้ เปน็ ธรรมดา
ของคนทัว่ ไปท่ีหนงั ทอ้ งตึง หนังตาก็หย่อนตามไปด้วย อาการนเี้ กดิ ข้ึนไดก้ ับทุกคนแต่ระดับความงว่ งอาจไม่เท่ากัน ขน้ึ อยู่
กับปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คุณภาพการนอนหลับในช่วงกลางคืนของแต่ละคน การจัดสรรเวลาในการท�ำงาน
หากตอนเช้าเราท�ำงานหนักเกินไป ในชว่ งบ่ายก็อาจเกดิ อาการออ่ นลา้ และงว่ งได้ แนะนำ� ว่างานที่ทำ� ในช่วงบ่ายควรเปน็
งานท่ีต้องมีปฏิสัมพันธ์ เคลื่อนไหวขยับร่างกายก็จะช่วยได้มาก
อาการฟู้ดโคม่า มีชื่อเรียกทางวิชาการว่า Postprandial Somnolence คือ อาการง่วงซึมหลังม้ือกลางวัน
มีอีกชื่อหนึ่งว่า Carb Coma

DSI 83 ไตรสาร

สองสาเหตุของอาการ Food Coma
สาเหตแุ รกมาจากการทส่ี มองสง่ั งานใหร้ า่ งกายใชพ้ ลังงานในการย่อยอาหารมากข้นึ และใชพ้ ลังงานในสว่ นอนื่ ๆ
ให้นอ้ ยลง ทุกคร้ังท่ีเรารับประทานอาหารมื้อใหญ่ ระบบประสาท Parasympathetic หรอื ระบบประสาทท่สี รา้ งสมดุล
ในร่างกายจะถกู กระต้นุ และสงั่ การใหร้ า่ งกายรบี ไปย่อยอาหารในกระเพราะของเรา ทำ� ใหเ้ ลอื ดและพลงั งานในสว่ นตา่ ง ๆ
ของรา่ งกายท�ำงานช้าลง เราจะรู้สึกเหมือนหมดแรง เหน่ือย และอุณหภูมิภายในร่างกายเย็นกว่าปกติ ดว้ ยเหตุนีจ้ ึงเป็น
ท่ีมาของการรับประทานข้าวเหนียวแล้วง่วงนอน เพราะข้าวเหนียวเป็นหน่ึงในอาหารจ�ำพวกย่อยยากต้องใช้พลังงาน
ย่อยอาหารมากกว่าอาหารชนิดอื่น ๆ นั่นเอง
ส่วนอีกสาเหตุหน่ึงนั้นเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนที่ถูกผลิตขึ้นมาหลังรับประทานอาหารจ�ำพวกแป้งและน�้ำตาล
เม่ืออาหารตกถึงท้อง ร่างกายจะย่อยคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นน้�ำตาลโมเลกุลเล็ก ๆ มีช่ือว่า กลูโคสและซูโครส และ
เม่อื ปริมาณน้�ำตาลในเลอื ดข้ึนสูงจะทำ� ร้ายรา่ งกายเราได้ รา่ งกายก็จะหลง่ั ฮอร์โมนอนิ ซลู ิน (insulin) เพ่ือลดระดบั น�ำ้ ตาล
ใหอ้ ยใู่ นสภาพปกติ แตเ่ มอื่ อนิ ซลู นิ ถกู หลง่ั ออกมาแลว้ จะนำ� พาสารเซโรโทนนิ (serotonin) และเมลาโทนนิ (melatonin)
ตามออกมาดว้ ย ทำ� ใหเ้ รามีอาการงว่ งจัด
วิธีหลกี เลย่ี ง Food Coma มี 4 วิธี
1. หลังรับประทานอาหาร ให้หากิจกรรมอย่างอ่ืนท�ำก่อนไปลุยงานต่อท่ีโต๊ะ อาจจะเป็นการเคลือ่ นไหวรา่ งกาย
ใหม้ ากกว่าปกติ หรือพักคุยกับเพื่อนร่วมงาน หรือจะเป็นการแวะจบิ กาแฟก่อนแลว้ ค่อยเขา้ งานชว่ งบา่ ยก็ได้
2. รบั ประทานอาหารแตพ่ อดคี ำ� เคีย้ วใหช้ า้ ลงเพือ่ ลดความเร็วในการรับประทาน เพื่อไมใ่ ห้กระเพาะทำ� งานหนกั
และดม่ื นำ�้ ใหเ้ ยอะ เพราะนกั วจิ ยั พบวา่ อาหารออ่ น หรอื อาหารทม่ี ลี กั ษณะเปน็ ของเหลวจะชว่ ยลดอาการได้ และการดม่ื นำ้�
กเ็ ปน็ การบังคบั ให้รา่ งกายต่ืนตวั ทำ� ใหต้ ้องการเข้าห้องนำ�้ จึงไม่ตอ้ งนั่งแชใ่ นหอ้ งนำ�้ นาน ๆ
3. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน�้ำตาลสูง แป้ง ขนมขบเค้ียว เครื่องด่ืมรสหวานจัด เปลี่ยนไปรับประทานผลไม้แทน
เพราะอาหารที่มีไขมันสูงมักจะท�ำให้รู้สึกง่วง ถ้าเกิดหาสมดุลของคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนที่ต้องการในแต่ละวันเจอ
จะท�ำให้คุณสามารถรักษาสัดส่วนอาหารท่ีร่างกายต้องการได้
4. พักผ่อนให้เพียงพอในตอนกลางคืน และจะดียิ่งข้ึนถ้าพักผ่อนเต็มอิ่มก่อนไปรับประทานอาหารกลางวัน
หากคุณนอนพักผ่อนน้อยและยังรับประทานเยอะ จะท�ำให้มีโอกาสมีอาการฟู้ดโคม่าสูง ท�ำให้คนที่ต้องขับรถ
หลังรับประทานอาหารเที่ยงมีแนวโน้มท่ีจะ “หลับใน” มากกว่าปกติและอาจจะท�ำให้เกิดอุบัติเหตุได้

DSI 84 ไตรสาร

แม้อาการฟู้ดโคม่าจะไม่ส่งผลกระทบที่ท�ำให้เกิดอันตรายท่ีร้ายแรงต่อสุขภาพ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการ
ฟู้ดโคม่าสร้างความทรมานให้ร่างกายไม่น้อย แทนที่จะได้รับประทานอาหารให้อร่อย กลับต้องมาอึดอัดท้องและ
หายใจไม่ออก รวมท้ังมีอาการง่วงอีกด้วย ดังน้ันจึงไม่ควรนึกถึงแต่ของอร่อยจนลืมนึกถึงสุขภาพร่างกายของตัวเอง
นอกจากนี้ ช่วงรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ สมองมักไม่ค่อยแล่น ควรงดท�ำกิจกรรมท่ีใช้ความคิดมาก ๆ
แล้วหันมาท�ำกิจกรรมเบา ๆ อย่างอ่ืนแทน เพ่ือลดการท�ำงานหนักของสมอง ถ้ามีเวลาได้งีบสัก 10 – 15 นาที
ก็จะท�ำให้รู้สึกดีข้ึน หรือถ้าไม่หาย การดื่มกาแฟก็ช่วยได้เหมือนกัน

ขอขอบคุณข้อมลู จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Postprandial_somnolence

DSI 85 ไตรสาร

อาหารแก้ง่วงยามบ่าย
1. มะมว่ งดบิ
ของว่างยามบา่ ยสดุ ฮติ ของสาวออฟฟิศหลาย ๆ คน ด้วยความเปร้ียวจี๊ดท่ีกัดเข้าไปต้องตาสว่างแน่ ๆ มีคุณค่า
ทางโภชนาการแถมยงั ไมม่ ไี ขมนั ทำ� ใหท้ านไดเ้ รอ่ื ย ๆ ไมต่ ้องกลัวเรอ่ื งความอ้วนแตอ่ ยา่ งใด
2. ผลไมด้ อง / แชอ่ ม่ิ
หากคิดว่าผลไม้สดกระตุ้นให้ตื่นได้ไม่มากพอ ลองเปลี่ยนมารับประทานผลไม้ดองดู ไม่ว่าจะเป็นองุ่นดอง
มะมว่ งดอง มะมว่ งแชอ่ มิ่ มะขามแชอ่ มิ่ และอน่ื ๆ ดว้ ยรสหวานอมเปรี้ยวอนั เปน็ เอกลกั ษณ์เฉพาะตัวของอาหารหมักดอง
ท�ำให้หลายคนเลอื กทจ่ี ะรับประทานผลไม้ดอง แทนผลไม้สด ท้ังน้ี ก็ไม่ควรรับประทานติดต่อกันหลายวันเนื่องจากผลไม้
หนกั ดองนนั้ มีโซเดยี มสูงมาก หากเปน็ ไปไดก้ ค็ วรรบั ประทานสลับกับผลไม้สดบ้าง
3. มะขามคลกุ
อีกหน่ึงผลไม้แปรรูปแก้ง่วงท่ีได้ผลชะงัก มะขามคลุก 3 รส เปรี้ยว หวาน เผ็ด แถมยังให้สัมผัสหนึบหนับ
ตอนเค้ียว ท�ำให้หลายคนเลือกที่จะซื้อมาต้ังไว้ที่โต๊ะท�ำงานสักกระปุก
4. ขนมอบกรอบ
แม้จะไม่ดีต่อสุขภาพไปนิด แต่ขนมกรุบกรอบนี่แหละของกินแก้ง่วงชั้นดี ความกรอบของขนมผสมกับรสเค็ม
จากผงปรุงรส ท�ำให้หลายคนเลือกที่จะหามาติดไว้ท่ีโต๊ะยามง่วง แต่อย่าลืมว่าควรรับประทานแต่พอดี ไม่อย่างน้ัน
จะท�ำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้
5. ปอ๊ ปคอรน์
หากต้องการรับประทานขนมขบเคี้ยวแต่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ป๊อบคอร์นแบบท่ีไม่ปรุงรสก็เป็นทางเลือกที่ดี
เพราะไม่มีน�้ำมัน ท�ำจากพืช และมีกากใยสูงเป็นประโยชน์ต่อการขับถ่าย

DSI 86 ไตรสาร

6. หมากฝรงั่
การเคย้ี วจะช่วยกระตุ้นการหมนุ เวียนของเลอื ดบริเวณใบหน้า และลําคอใหไ้ หลเวียนสูส่ มองได้มากขน้ึ จึงทําให้
คล่ืนสมองตื่นตัวและทํางานได้ดียิ่งข้ึน ลองสังเกตว่าหลังจากเค้ียวไปสัก 10 นาทีจะรู้สึกกระฉับกระเฉง คิดและทํางาน
ได้ไวขึ้นครับ ยิ่งไปกว่านั้นการเคี้ยวหมากฝร่ังทาํ ใหเ้ ราตอ้ งขยบั ปากไปเรือ่ ย ๆ ช่วยบริหารบรเิ วณใบหนา้ และช่วงกราม
ได้ดอี กี ด้วยครบั
7. ลกู อมรสเปรี้ยว
มาถึงข้อนี้หลายคนคงนึกภาพในหัวออกกันบ้างล่ะว่ามีย่ีห้ออะไรบ้าง ลูกอมรสมะนาว หรือผลไม้เปรี้ยวอื่น ๆ
จะท�ำให้รู้สึกตาสว่างในความเปร้ียวจี๊ด อีกทั้งยังหาซ้ือง่าย เพราะวางขายตามร้านสะดวกซ้ือทั่วไป
8. วาซาบิ
ในทนี่ เ่ี ราไมไ่ ดห้ มายถงึ ใหบ้ บี วาซาบเิ ปลา่ ๆ เขา้ ปากนะ! แตห่ มายถงึ ขนมทมี่ รี สชาตวิ าซาบิ เชน่ ถวั่ ลสิ งคลกุ วาซาบิ
มนั ฝรง่ั แผน่ คลุกวาซาบิ นอกจากท�ำใหต้ าสวา่ งได้ดีมากแลว้ ผูท้ ี่เป็นหวดั เม่ือรบั ประทาน ยังทำ� ให้หายคดั จมกู อกี ดว้ ย
9. ชาร้อน
ดมื่ ของอนุ่ ๆ สามารถทำ� ใหร้ า่ งกายรู้สึกสดชนื่ ได้ และยิ่งถ้าด่ืมชา ยงิ่ ทำ� ใหร้ สู้ กึ ตวั มากขน้ึ เพราะในชามสี ว่ นผสม
ของกาเฟอีนอยู่ แมจ้ ะไม่มากเท่ากาแฟกต็ าม เหมาะส�ำหรับผู้ต้องการเลิกการดื่มกาแฟแต่ยังต้องการกาเฟอีนไว้กระตุ้น
ตัวเองระหว่างวัน
10. กาแฟ
แม้จะไม่สนับสนุนให้ผู้อ่านดื่ม แต่เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใส่ไว้ในบทความ เพราะกาแฟเป็นเครื่องด่ืม
ทที่ �ำใหต้ าสวา่ งใหไ้ ด้ผลชะงักมากทส่ี ดุ ด้วยสารกาเฟอีนในกาแฟ ท�ำให้ผู้ดื่มรู้สึกตาสว่างข้ึนมาทันทีหลังด่ืม ถึงอย่างน้นั
การดมื่ กาแฟตดิ ตอ่ กนั ทกุ วนั เปน็ เวลานานทำ� ใหเ้ กดิ อาการดอื้ กาแฟ กลา่ วคอื ตอ้ งดมื่ เพมิ่ มากกวา่ 1 แกว้ ตอ่ วนั ถงึ จะหายงว่ ง
จึงควรพักการด่ืมกาแฟเป็นระยะ ๆ และหันไปดม่ื “กาแฟดคี าฟ” ให้รา่ งกายได้ปรบั สมดุลกาเฟอีนในร่างกายบา้ ง สุดทา้ ย
ไมค่ วรด่มื กาแฟเกนิ วนั ละ 2 แกว้ เพราะจะสง่ ผลต่อหวั ใจ ทำ� ใหห้ ัวใจเต้นเร็ว ใจสัน่ และความดันโลหิตสงู ได้

DSI 87 ไตรสาร

11. ผลไมร้ สเปรี้ยว
ลองซื้อผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม หรือเสาวรส ติดโต๊ะทํางานไว้สิครับ เพราะเพียงแค่รสชาติของมัน
ก็สามารถทําให้คุณต่ืนได้แล้ว แถมยังมีวิตามินซีสูง ท่ีจะช่วยให้เราสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย และอาการปวดหัว
ได้อีกต่างหาก ซ่ึงเหมาะกับชาวออฟฟิศท่ีหักโหมงานหนัก พักผ่อนน้อย รวมไปถึงผู้ที่มักขับรถทางไกลเป็นอย่างมาก
12. ชาเขียว
ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มท่ีมีกาเฟอีน ถึงแม้จะออกฤทธ์ิไม่รวดเร็วเท่ากาแฟ แต่สารแอนตี้ออกซิแดนท์ในน้ําชา
จะสามารถช่วยให้คุณต่อสู้กับความเหน่ือยล้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดความเส่ียงการเกิดโรคต่าง ๆ ที่มาจาก
ความเครยี ด เช่น โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันอดุ ตนั ในเสน้ เลือดไดอ้ ีกด้วยครบั แต่อย่างไรกต็ ามควรเลือกด่มื ชา
ท่ไี มผ่ สมนํา้ ตาล และไม่ควรดื่มชาตอนท้องว่าง เพราะจะทําให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามากกว่าปกติ ซ่งึ อาจจะ
ท�ำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
13. ปลาทะเล
การทานเน้ือปลาในมื้อเช้าและม้ือกลางวัน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ง่วงระหว่างวันนะครับ เน่ืองจาก
ในปลามีโปรตีน กรดไขมันโอเมก้า 3 สูงมาก เป็นส่วนช่วยให้สมองแจ่มใส และมีสมาธิกับสิ่งที่ทํามากขึ้น ยงิ่ ไปกวา่ น้ัน
ยังชว่ ยแกอ้ าการปวดเม่ือยตวั ได้ดอี ีกด้วย
14. นํ้าเย็น
ปดิ ทา้ ยดว้ ยเครอ่ื งดมื่ งา่ ย ๆ นน่ั กค็ อื นาํ้ สะอาดแชเ่ ยน็ เพราะนา้ํ มสี ว่ นชว่ ยทาํ ใหร้ า่ งกายสดชนื่ และกระปรก้ี ระเปรา่
มากข้ึนอยู่แล้ว ยิ่งเพ่ิมความเย็นเข้าไปอีกยิ่งให้ความสดช่ืนขึ้นอีกครับ ร่างกายของคนเราปกติจะมีน้ํามากกว่า 70%
ถ้าหากเม่ือใดท่ีร่างกายขาดน้ํา ย่อมส่งผลให้อ่อนเพลียได้เช่นกัน ดังนั้นน้ําเย็นจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกท่ีดีสําหรับ
ผู้ท่ีพักผ่อนน้อย

ขอบคณุ ข้อมูลจาก
YU Serviced Office
Fest For Food

DSI 88 ไตรสาร



เขา้ ถงึ ความยุติธรรมผ่านทาง
DSI Application

DSI
( กรมสอบสวนคดีพิเศษ )

DSI à¾่ÁÔ ª‹Í§·Ò§¡ÒõÃǨÊͺʶҹФ´¾Õ àÔ ÈÉ
¼‹Ò¹Ãкº Google Play Store

ÊÒÁÒöµ´Ô µÒÁʶҹÐàÃÍ่× §ÃŒÍ§àÃÂÕ ¹·µ่Õ ¹à¡ÕÂ่ Ç¢ŒÍ§
ÊÓËÃѺ¼ÙŒ·่àÕ ¤ÂÂ่¹× àÃ่×ͧÌͧ·¡Ø ¢ÁÒàáÅÇŒ

à¾ÂÕ §¤¹Œ ËÒ¤ÓÇ‹Ò ¡ÃÁÊͺÊǹ¤´¾Õ àÔ ÈÉ

ã¹ Google Play Store

â´ÂÃºÑ ªÁÇÔ¸¡Õ ÒõԴµ§้Ñ ä´·Œ ่Õ

https://www.dsi.go.th


Click to View FlipBook Version