ความทั่วไปประกันสังคม

ความรทู้ ว่ั ไปประกนั สงั คม

พิสมยั บตุ รสามบ่อ
นกั วิชาการแรงงานชานาญการ
สานกั งานประกนั สงั คมจงั หวดั ระยอง

ระบบกองทนุ ประกนั สงั คม

 สรา้ งความมน่ั คงและเป็ นหลกั ประกนั ใหก้ บั สมาชิก
 การบรหิ ารงานและออกเงินสมทบแบบไตรภาคี

ที่มีผปู้ ระกนั ตน นายจา้ ง และรฐั บาล

หลกั การประกนั สงั คม

1. เฉลีย่ ทกุ ข์ เฉลี่ยสขุ
2. เฉพาะกลม่ ุ ท่ีเป็ นสมาชิก

นายจา้ ง

“นายจ้าง” หมายความว่า ผ้ซู ่ึงรับลกู จ้าง
เข้าทางานโดยจ่ายค่าจ้าง และให้หมายความ
รวมถึ งผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทางานแทน
นายจ้าง ในกรณีที่นายจ้างเป็ นนิติบคุ คลให้
หมายความรวมถึงผ้มู ีอานาจกระทาการแทน
นิติบคุ คลและผซู้ ึ่งไดร้ บั มอบหมายจากผมู้ ีอานาจ
กระทาการแทนนิติบคุ คลใหท้ าการแทนดว้ ย

ลกู จา้ ง

หมายถึง
ผซู้ ึ่งทางานใหน้ ายจา้ ง โดยรบั คา่ จา้ ง

“ลกู จา้ ง”

ลกู จา้ งทดลองงาน ลกู จา้ งประจา
ลกู จา้ งชวั่ คราว ลกู จา้ งงานบา้ น
ลกู จา้ ง PART TIME
ฯลฯ

ผปู้ ระกนั ตน

หมายถึง
ผซู้ ่ึงจ่ายเงินสมทบอนั ก่อใหเ้ กิดสิทธิไดร้ บั

ป ร ะ โ ย ช น์ต า ม พ ร ะ ร า ช บัญ ญัติ ป ร ะ ก ัน ส ัง ค ม
พ.ศ. 2533

8 ประเภทของผปู้ ระกนั ตน

โดยบงั คบั ผปู้ ระกนั ตน ม. 33
โดยสมคั รใจ ผปู้ ระกนั ตน ม. 39
ผปู้ ระกนั ตน ม. 40

ผปู้ ระกนั ตน มาตรา 33

โดยบงั คบั

เป็ นลกู จา้ งท่ีมีอายไุ ม่ต่ากว่า 15 ปี บรบิ รู ณ์
และไม่เกนิ 60 ปี บรบิ รู ณ์

การข้ึนทะเบียนผปู้ ระกนั ตน (สปส.1-03)
ใหน้ ายจา้ งแจง้ ข้ึนทะเบียนผปู้ ระกนั ตน

ภายใน 30 วนั
นบั แต่วนั ที่ลกู จา้ งเขา้ ทางาน

ค่าจา้ ง

หมายความว่า เงินทกุ ประเภทที่นายจา้ งจ่ายใหแ้ ก่
ลกู จา้ งเป็ นค่าตอบแทนการทางานในวนั และเวลาทางาน
ปกติ ไม่ว่าจะคานวณตามระยะเวลาหรือคานวณตาม
ผลงานที่ลกู จ้างทาได้ และใหห้ มายความรวมถึงเงินท่ี
นายจ้างจ่ายให้ในวันหยดุ และวันลาซ่ึงลกู จ้างไม่ได้
ทางานด้วย ทั้งน้ีไม่ว่าจะกาหนด คานวณ หรือจ่ายใน
ลกั ษณะใดหรอื โดยวิธีการใด และไมว่ ่าจะเรยี กช่ืออะไร

เงินสมทบ

เงินท่ีจัดเกบ็ จากนายจา้ ง ผูป้ ระกนั ตน
และรฐั บาล เพ่ือการใหป้ ระโยชน์
ทดแทนแกผ่ ูป้ ระกนั ตน

น า ย จ ้า ง จ ะ ต้อ ง น า ส่ ง เ งิ น ส ม ท บ ก อ ง ท นุ
ประกันสังคมทกุ เดือน โดยคานวณจาก
ค่าจ้างท่ีลกู จา้ งได้รบั ซ่ึงกาหนดจากฐาน
ค่าจา้ งรายเดือนต่าสดุ เดือนละ 1,650 บาท
สงู สดุ เดือนละ 15,000 บาท โดยนาสง่ ภายใน
วนั ท่ี 15 ของเดือนถดั จากเดือนท่ีมีการหกั
เงินสมทบ

หลกั เกณฑเ์ ง่ือนไข

• หกั ลกู จา้ งรอ้ ยละ 5 ของค่าจา้ งจรงิ แต่ไม่ต่ากว่า 83
บาท และไม่เกนิ 750 บาท กรณีคานวณแลว้ มีเศษ
มากกว่า .50 ใหป้ ัดข้ึน ไมถ่ ึง .50 ใหป้ ัดท้ิง

• นายจา้ งชาระสมทบ เท่ากบั จานวนเงินสมทบของ
ลกู จา้ งที่คานวณได้ เชน่ หกั ลกู จา้ งหลงั จากปัดเศษแลว้
ได้ 250 ใหน้ ายจา้ งจ่ายเท่ากบั 250 รวมเป็ น 500 บาท

การคมุ้ ครอง นายจา้ ง ผูป้ ระกนั ตน รฐั บาล

4 กรณี 1.5 1.5 1.5
2 กรณี 3 31
วา่ งงาน 0.5 0.5 1.25
รวม 5 5 2.75

เจ็บป่ วย 1.06
คลอดบตุ ร 0.23
ทพุ พลภาพ 0.13
0.08
ตาย 1.50
รวม 4 กรณี



กรณีลกู จา้ งมีรายไดจ้ าก
การทางานกบั นายจา้ งหลายแห่ง

นายจา้ งทกุ แห่ง ท่ีลกู จา้ งทางานมีค่าจา้ ง
ต้องนาส่งเงินสมทบเข้ากองทนุ ประกันสังคม
ใหก้ บั ลกู จา้ ง โดยลกู จา้ งมีสิทธิขอคืนเงินสมทบใน
ส่ ว น ที่ เ กิ น จ า ก ฐ า น ค่ า จ ้า ง จ า ก ก า ร ท า ง า น ก ับ
นายจา้ งหลายรายรวมกนั เกิน 15,000 บาท ได้
ทกุ ส้ินปี

อตั รารอ้ ยละ 2 ต่อเดือนของจานวนเงินสมทบ
ที่นายจา้ งยงั มิไดน้ าสง่ หรอื ของจานวนเงินสมทบ
ที่ยงั ขาดอย่นู บั แต่วนั ถดั จากวนั ที่ตอ้ งนาส่งเงิน
สมทบ

เงินเพ่ิมที่คานวณไดต้ อ้ งไมเ่ กินจานวนเงินสมทบ
ท่ีนายจา้ งตอ้ งจา่ ย

ผปู้ ระกนั ตน มาตรา 39 โดยสมคั รใจ

 เคยเป็ นผปู้ ระกนั ตน ม. 33 และ
 สง่ เงินสมทบมาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่า 12 เดือน และ
 ประสงคจ์ ะเป็ นผปู้ ระกนั ตนต่อ
ใหย้ น่ื ภายใน 6 เดือน นบั แต่วนั ส้นิ สดุ ความ

เป็ นผปู้ ระกนั ตน

เงินสมทบ

จานวนเงินที่ใชเ้ ป็ นฐานในการคานวณเงินสมทบ 4,800 บาท
คิดเป็ นเงินสมทบ จานวน 432 บาทต่อเดือน

 นาสง่ เงินสมทบเขา้ กองทนุ เดือนละครงั้ ภายในวนั ท่ี 15 ของเดือนถดั ไป
 ไมส่ ง่ เงินสมทบหรือสง่ ไมค่ รบจานวนภายในเวลาที่กาหนดตอ้ งจ่าย

เงินเพิ่ม ในอตั รารอ้ ยละ 2 ต่อเดือนหรอื ของจานวนเงินสมทบท่ียงั ขาด
อยนู่ บั แต่วนั ถดั จากวนั ที่ตอ้ งนาสง่ เงินสมทบ
 สาหรบั เศษของเดือนถา้ ถึงสบิ หา้ วนั หรอื กว่านนั้ ใหน้ บั เป็ น 1 เดือน
ถา้ นอ้ ยกว่านน้ั ใหป้ ัดท้ิง.

(1) ตาย
(2) ไดก้ ลบั เป็ นผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 33
(3) ลาออกจากความเป็ นผปู้ ระกนั ตนโดยการแสดงความจานงต่อ
สานกั งาน
(4) ไมส่ ง่ เงินสมทบสามเดือนติดต่อกนั
(5) ภายในระยะเวลาสิบสองเดือนสง่ เงินสมทบมาแลว้ ไมค่ รบเกา้ เดือน

การส้ินสดุ ความเป็ นผปู้ ระกนั ตนตาม (4) ส้ินสดุ ลงตงั้ แต่เดือนแรก
ท่ีไมส่ ง่ เงินสมทบ และการส้นิ สดุ ความเป็ นผปู้ ระกนั ตนตาม (5) ส้ินสดุ
ลงในเดือนที่สง่ เงินสมทบไมค่ รบ 9 เดือน



กรณีเจ็บป่ วย จา่ ยเงินสมทบไมน่ อ้ ยกว่า
กรณีทพุ พลภาพ 3 เดือนภายใน 15 เดือน

กอ่ นป่ วย - ทพุ พลภาพ

กรณีคลอดบตุ ร จ่ายเงินสมทบไมน่ อ้ ยกว่า
กรณีตาย 5 เดือน ภายใน 15 เดือนกอ่ นคลอด

จา่ ยเงินสมทบไมน่ อ้ ยกว่า
1 เดือน ภายใน 6 เดือนกอ่ นตาย

กรณีสงเคราะหบ์ ตุ ร จา่ ยเงินสมทบไมน่ อ้ ยกว่า
กรณีว่างงาน 12 เดือน ภายใน 36 เดือน
กอ่ นมีสทิ ธิ
จ่ายเงินสมทบไมน่ อ้ ยกว่า
6 เดือน ภายใน 15 เดือนกอ่ นว่างงาน

กรณีสปส. ยงั ไม่กาหนด
สถานพยาบาลท่ีกาหนดสทิ ธิฯ

ผปต. เขา้ รพ.กรณีประสบอนั ตราย / เจ็บป่ วย

จ่ายคา่ รกั ษาไปกอ่ นนา รบี แจง้ สปส.พ้ืนที่/จงั หวดั /สาขา
ใบเสรจ็ ฯมาเบิกคืนกบั ในทอ้ งท่ีเกิดเหตทุ นั ที
สปส.พ้ืนท่ี/จงั หวดั /สาขา

1. สปส. จ่ายค่ารกั ษาตามหลกั เกณฑเ์ ดียวกนั กบั กรณีประสบอนั ตราย/
เจ็บป่ วยฉกุ เฉิน

2. กาหนด รพ. ใหแ้ ก่ ผปต. เพื่อไปใชบ้ รกิ ารต่อไป

“เจ็บป่ วยฉกุ เฉินวิกฤตมีสิทธิทกุ ท่ี” Universal Coverage
For Emergency Patients (UCEP) คือ สทิ ธิการรกั ษาพยาบาล

ตามนโยบายรฐั บาล เพ่ือคมุ้ ครองผปู้ ่ วยฉกุ เฉินวิกฤต
ใหส้ ามารถเขา้ รบั การรกั ษาในโรงพยาบาลเอกชนทกุ แห่ง
ที่ใกลท้ ี่สดุ ได้ โดยไม่ตอ้ งเสียค่าใชจ้ ่ายจนพน้ วิกฤต และ

สามารถเคลอ่ื นยา้ ยไดอ้ ยา่ งปลอดภยั
แต่ไมเ่ กิน 72 ชว่ั โมง (นบั รวมวนั หยดุ ราชการ)

เร่ิมมีผลใชบ้ งั คบั 1 เม.ย. 2560

อาการฉกุ เฉินวิกฤต
ที่มีผลต่อชีวิตและอวยั วะสาคญั

1. หมดสติ ไมร่ สู้ กึ ตวั ไมห่ ายใจ
2. หายใจเรว็ หอบเหนื่อยรนุ แรง หายใจติดขดั เสียงดงั
3. เจ็บหนา้ อกเฉียบพลนั รนุ แรง
4. ซึมลง เหง่ือแตกตวั เยน็ หรอื มีอาการชกั รว่ ม
5. แขนขาอ่อนแรงครงึ่ ซีก พดู ไมช่ ดั แบบปัจจบุ นั ทนั ด่วน

หรอื ชกั ต่อเน่ืองไมห่ ยดุ
6. มีอาการอ่ืนรว่ ม ท่ีมีผลต่อการหายใจ ระบบการไหล

เวียนโลหิต และระบบสมองท่ีอาจเป็ นอนั ตราย

ตรวจ ATK ข้ึน 2 ขีด
ติดเช้ือโควดิ

แต่ละสิทธิรกั ษาอย่างไร ?

สีเขยี ว รักษำกบั สถำนพยำบำล
ตำมสิทธิด้วยแนวทำง
เจ็บคอ ไม่ได้กลน่ิ ไม่รู้รส ไอ/
มนี ำ้ มูก มผี ื่น ถ่ำยเหลว ตำแดง ผปู้ ่ วยนอกและแยกกกั ตวั ที่บา้ น
(เจอ แจก จบ)
อุณหภูมิ 37.5 องศำขนึ้ ไป หรือ รักษาท่ีบา้ น

หำกมอี ำกำรเปลย่ี นแปลงเข้ำสู่ (Home Isolation)
กลุ่ม สีเหลือง / แดง ส่งต่อ

รพ.ทสี่ ำมำรถดูแล
( ใช้สิทธิ UCEP Plus ได้ )

กำรใช้สิทธิรักษำ สิทธิการักษา
สิทธิตำมบัตรทอง 30 บำท
• นอกจำกไปทส่ี ถำนพยำบำลประจำทีท่ ่ำนลงทะเบียนไว้ ยงั
(สปสช.) ไปหน่วยงำนบริกำรปฐมภูมทิ ีไ่ หนกไ็ ด้ท่ัวประเทศ

สิทธิประกนั สังคม • (ไม่ใช้ใบส่งตวั )
• หน่วยงำนปฐมภูมิ เช่น สถำนีอนำมัย, รพ.สต., หน่วย

บริกำรปฐมภูมิของโรงพยำบำล, ศูนย์สุขภำพชุมชน,
ศูนย์บริกำรสำธำรณสุข รวมถงึ คลนิ ิกชุมชนอบอุ่น

• รพ.ทล่ี งทะเบยี นไว้ (กรณอี ยู่ต่ำงพืน้ ทเี่ ข้ำ รพ.
เครือข่ำยประกนั สังคมได้)

สิทธิข้ำรำชกำร • สถำนพยำบำลรัฐทุกแห่ง

สีเหลือง สีแดง

แน่นหน้ำอก หำยใจเร็ว หำยใจ หอบเหนื่อยหนักมำก พดู ไม่เป็ นประโยค
ลำบำก หำยใจเหนื่อย อ่อนเพลยี แน่นหน้ำอก หำยใจเจบ็ หน้ำอก
ถ่ำยเหลวมำกกว่ำ 3 คร้ังต่อวนั
อำกำรแทรกซ้อนจำกโรคประจำตวั ปอดอกั เสบรุนแรง อ่อนเพลยี ตอบสนองช้ำ
ไม่รู้สึกตวั ไข้สูงกว่ำ 39 องศำต่อเนื่อง
เดก็ เลก็ ซึม หำยใจลำบำก ค่ำออกซิเจนตำ่ กว่ำ 94
กนิ นม/อำหำรน้อยลง

กลุ่ม 608 (ผ้ทู ี่มอี ำยุ 60 ปี ขนึ้ ไป, ผ้มู ี
โรคประจำตวั 7 โรค โรคทำงเดนิ
อำหำรเรื้อรัง, หัวใจและหลอดเลือด
สมอง, โรคอ้วน ,มะเร็ง, เบำหวำน
และ หญงิ ต้งั ครรภ์ อำยุครรภ์ 12
สัปดำห์ขนึ้ ไป

ความคมุ้ ครองการรกั ษากรณีโควดิ 19

• คลอบคลมุ การรกั ษากลมุ่ อาการ สีเขยี ว สเี หลอื ง และสแี ดง
โดยผปู้ ระกนั ตนสามารถเขา้ รบั บรกิ ารทางการแพทยไ์ ด้ ทงั้ ใน
สถานพยาบาลของรฐั และเอกชน ในระบบประกนั สงั คมและ
สถานพยาบาลเครอื ข่าย

• สถานพยาบาลท่ีใหบ้ รกิ ารสามารถเบิกค่าใชจ้ า่ ยกบั สานกั งาน
ประกนั สงั คมได้

ผลประโยชนต์ อบแทนกรณีชราภาพ

ปี อตั ราผลประโยชนต์ อบแทน
พ.ศ. 2542 2.4%
พ.ศ. 2543 3.7%
พ.ศ. 2544 4.2%

พ.ศ. 2545 4.3%

พ.ศ. 2546 6.5%

พ.ศ. 2547 2.0%

พ.ศ. 2548 3.9%

พ.ศ. 2549 4.45 %
พ.ศ. 2550 6.3 %

ผลประโยชนต์ อบแทนกรณีชราภาพ

ปี อตั ราผลประโยชนต์ อบแทน

พ.ศ. 2551 0.10 %
พ.ศ. 2552 4.05 %
พ.ศ. 2553 4.25 %

พ.ศ. 2554 4.08 %

พ.ศ. 2555 4.15%
พ.ศ. 2556 4.27 %
พ.ศ. 2557 3.66 %
พ.ศ. 2558 3.21 %

พ.ศ. 2559 3.65 %

พ.ศ. 2560 3.61 %

ตวั อยา่ งอตั ราเงินบานาญชราภาพที่ผปู้ ระกนั ตนไดร้ บั รายเดือน
ตามระยะเวลาการนาสง่ เงินสมทบ

จานวนเดือน อตั รารอ้ ยละ 4,800 คา่ จา้ งเฉลี่ย 60 เดือนสดุ ทา้ ย 15,000
ที่นาสง่ เงิน ของคา่ จา้ ง เงิน 5,000 8,000 10,000 12,000 เงิน

สมทบ เฉลี่ยฯ บานาญ เงิน เงิน เงิน เงิน บานาญ
(งวด) ท่ีไดร้ บั บานาญ บานาญ บานาญ บานาญ ท่ีไดร้ บั
20 % 960 ที่ไดร้ บั ท่ีไดร้ บั ที่ไดร้ บั ท่ีไดร้ บั 3,000
180 21.5 % 1,032 1,000 1,600 2,000 2,400 3,225
192 23 % 1,104 1,075 1,720 2,150 2,580 3,450
204 24.5 % 1,176 1,150 1,840 2,300 2,760 3,675
216 26 % 1,248 1,225 1,960 2,450 2,940 3,900
228 27.5 % 1,320 1,300 2,080 2,600 3,120 4,125
240 29 % 1,392 1,375 2,200 2,750 3,300 4,350
252 30.5 % 1,464 1,450 2,320 2,900 3,480 4,575
264 32 % 1,536 1,525 2,440 3,050 3,660 4,800
276 33.5 % 1,608 1,600 2,560 3,200 3,840 5,025
288 35 % 1,680 1,675 2,680 3,350 4,020 5,250
300 1,750 2,800 3,500 4,200

การใหค้ วามคมุ้ ครองประกนั สงั คมมาตรา 40

คณุ สมบตั ิของผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 40

1. มีสญั ชาติไทย
2. เป็ นชนกล่มุ น้อยซ่ึงอพยพเข้ามาอาศัยในประเทศไทย โดยมีมติ
คณะรฐั มนตรผี ่อนผนั ใหอ้ าศยั อยใู่ นประเทศไทยไดเ้ ป็ นการชว่ั คราวเป็ น
กรณีพิเศษ ท่ีมีบตั รประจาตวั คนซ่ึงไม่มีสญั ชาติไทย โดยเลขประจาตวั
หลกั แรกเป็ นเลข 6 หรอื เลข 7
3. เป็ นบคุ คลซ่ึงไม่มีสญั ชาติไทยท่ีไดร้ บั การผ่อนผนั ใหอ้ ย่ใู นประเทศ
ไทยไดเ้ ป็ นการชวั่ คราว เพื่อรอการสง่ กลบั ที่มีบตั รประจาตวั คนซ่ึงไม่มี
สญั ชาติไทย โดยเลขประจาตวั หลกั แรกเป็ นเลข 0 ทงั้ น้ี ไมร่ วมถึงกรณีที่
มีบตั รประจาตวั คนซึ่งไม่มีสญั ชาติไทยแต่มีเลขประจาตวั หลกั แรก และ
หลกั ท่ีสองเป็ นเลข 0 (00)
4. อายไุ มต่ ่ากว่า 15 ปี บรบิ รู ณ์ และไมเ่ กนิ 65 ปี บรบิ รู ณ์
5. ไมเ่ ป็ นผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39

คณุ สมบตั ิของผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 40

6. ไม่เป็ นสมาชิกของกองทนุ บาเหน็จบานาญขา้ ราชการ กองทนุ
บาเหน็จบานาญข้าราชการกรงุ เทพมหานคร กองทนุ บาเหน็จ
บานาญขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน หรอื ไมเ่ ป็ นสมาชิกกองทนุ ของรฐั วิสาหกิจ
หรือหน่วยงานอ่ืนของรฐั ท่ีมีลกั ษณะอย่างเดียวกบั กองทนุ บาเหน็จ
บานาญของส่วนราชการ รวมทั้งไม่เป็ นเจ้าหน้าที่ของรฐั ที่อยู่
ภ า ย ใ ต้บัง ค ับ ต า ม ก ฎ ห ม า ย ว่ า ด ้ว ย บ า เ ห น็ จ บ า น า ญ ข ้า ร า ช ก า ร
กฎหมายว่าดว้ ยบาเหน็จบานาญขา้ ราชการกรงุ เทพมหานคร หรือ
กฎหมายว่าดว้ ยบาเหน็จบานาญขา้ ราชการทอ้ งถิ่น
7. หากเป็ นบคุ คลซึ่งเป็ นผพู้ ิการ ให้ระบลุ กั ษณะหรืออาการของ
ผพู้ ิการโดยละเอียด (ยกเวน้ ผพู้ ิการทางสติปัญญาและผพู้ ิการท่ีไม่
อาจรบั รสู้ ิทธิที่พึงจะไดร้ บั จากการเป็ นผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 40
ไมส่ ามารถสมคั รและข้ึนทะเบียนเป็ นผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 40 ได)้

 หลกั ฐานการสมคั ร
1. แบบคาขอสมคั รเป็ นผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 40 (สปส.1-40)
โดยกรอกรายละเอียดใหถ้ กู ตอ้ งครบถว้ น พรอ้ มลงลายมือชื่อใน
ใบสมคั รดว้ ยตนเอง
***ในกรณีท่ีไมส่ ามารถลงลายมือช่ือได้ ใหใ้ ชก้ ารประทบั ลายน้ิวมือ
แทนการลงชื่อและใหม้ ีผรู้ บั รองลายมือชื่อจานวน 2 คน
2. บตั รประจาตวั ประชาชนหรอื บตั รอ่ืนที่ทางราชการออกใหแ้ ทน
บตั รประจาตวั ประชาชน

 ช่องทางการรบั สมคั ร
1. ทางเว็บไซดส์ านกั งานประกนั สงั คม
2. สานกั งานประกนั สงั คมทว่ั ประเทศ

เงนิ สมทบตามมาตรา 40 มีหลายทางเลือก

เงินสมทบ 100 บาท

• ผูป้ ระกันตนจา่ ย 70 บาท
• รัฐบาลสมทบ 30 บาท

เงินสมทบ 150 บาท

• ผู้ประกนั ตนจ่าย 100 บาท
• รัฐบาลสมทบ 50 บาท

เงนิ สมทบ 450 บาท (ใหม)่

• ผปู้ ระกันตนจา่ ย 300 บาท
• รัฐบาลสมทบ 150 บาท

การจ่ายเงินสมทบ

1. จ่ายเงินสมทบรายเดือน เดือนละครง้ั
2. จ่ายเงินสมทบลว่ งหนา้ ไดค้ รงั้ ละไมเ่ กิน12 เดือน คือ

จ่ายของเดือนท่ีจะจา่ ย 1 เดือน
จา่ ยลว่ งหนา้ ไมเ่ กิน 12 เดือน (จา่ ยเงินสมทบยอ้ นหลงั ไมไ่ ด)้
3. กรณีจ่ายเงินสมทบลว่ งหนา้ และผปู้ ระกนั ตนเสียชีวิต ใหผ้ ู้
มีสิทธิยื่นแบบคาขอรบั เงินสมทบคืน (กรณีผปู้ ระกนั ตนตาม
มาตรา 40 เสียชีวิต) สปส. 1-40/3 โดยจา่ ยใหแ้ ก่
3.1 บคุ คลท่ีผปู้ ระกนั ตนทาหนงั สอื ระบไุ ว้
3.2 หากไมไ่ ดท้ าหนงั สือระบไุ ว้ ใหน้ ามาเฉลี่ยจ่ายใหแ้ ก่ สามี
ภรยิ า บิดา มารดา หรอื บตุ รของผปู้ ระกนั ตนจานวนเท่ากนั

การจา่ ยเงินสมทบ (ตอ่ )

3.3 กรณีไม่มีผมู้ ีสิทธิ ใหท้ ายาทของผปู้ ระกนั ตนมีสิทธิไดร้ บั
เงินสมทบตามลาดบั หากบคุ คลลาดบั ใดมีจานวนมากกว่า 1
คน ใหบ้ คุ คลลาดบั นน้ั ไดร้ บั สว่ นแบ่งเท่ากนั ไดแ้ ก่

(1) พ่ีนอ้ งรว่ มบิดามารดาเดียวกนั
(2) พ่ีนอ้ งรว่ มบิดาหรอื รว่ มมารดา
(3) ป่ ู ยา่ ตา ยาย
(4) ลงุ ป้ า นา้ อา

การเปลีย่ นแปลงขอ้ เท็จจรงิ และทางเลอื กการจ่ายเงินสมทบ

 เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงทางเลือกการจ่ายเงินสมทบ
1. มีสิทธิเปล่ียนแปลงทางเลือกการจ่ายเงินสมทบได้ ปี ละ 1 ครง้ั

ตงั้ แต่เดือน ม.ค. -ถึง ธ.ค. ของทกุ ปี โดยมีผลในเดือนถดั จากเดือนท่ี
เลอื กยน่ื เปลี่ยนแปลงฯ

2. ย่ืนแบบแจง้ การเปลี่ยนแปลงฯ ไดท้ ี่สานกั งานประกนั สงั คมใน
ความรบั ผิดชอบหรอื สานกั งานประกนั สงั คมทวั่ ประเทศ

3. ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบทางเลือกใหม่กอ่ นถึงงวดเดือนท่ีมีผล
ในการเปล่ียนแปลงทางเลือกได้

4. หากจ่ายเงิ นสมทบล่วงหน้าไว้และมีความประสงค์ขอ
เปลี่ยนแปลงทางเลือกฯ ให้ยื่นแบบคาขอรับเงินไม่พึงชาระคืน
(สปส.1-40/5) เพื่อขอรบั เงินไม่พึงชาระคืนทนั ที)

การแจง้ ความจานงไม่ประสงคเ์ ป็ นผปู้ ระกนั ตน
ตามมาตรา 40

1. ใหย้ นื่ แบบแจง้ ความจานงไมป่ ระสงคเ์ ป็ นผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา
40 (สปส.1-40/2) ต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี สานกั งานประกนั สงั คม
กรงุ เทพมหานครพ้ืนที่/จงั หวดั /สาขา

2. การแจง้ ความจานงไม่ประสงคเ์ ป็ นผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 40
ไมส่ ามารถแจง้ วนั ท่ีลาออกยอ้ นหลงั ได้ ยกเวน้ กรณีไม่มีคณุ สมบตั ิเป็ น
ผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 40

ชอ่ งทางการชาระเงินสมทบผปู้ ระกนั ตนตามมาตรา 40

1. เคานเ์ ตอรธ์ นาคาร 3 แหง่ คือ
(1) ธ.กรงุ ไทย (2) ธ.กรงุ ศรอี ยธุ ยา
(3) ธ. ธกส.

2. เคานเ์ ตอรเ์ ซอรว์ ิส ( 7-eleven)
3. เคานเ์ ตอรเ์ ทสโกโ้ ลตสั (Tesco Lotus)
4. ตบู้ ญุ เติม
5. เคานเ์ ตอร์ cen pay
6. หกั บญั ชีเงินฝากธนาคารของ ผปู้ ระกนั ตน

ตามมาตรา 40 มี 9 แหง่ ไดแ้ ก่
(1) ธ. ออมสนิ (2) ธ. ธกส.
(3) ธ. กสกิ รไทย (4) ธ.ไทยพาณิชย์
(5) ธ. กรงุ ไทย (6) ธ.กรงุ ศรี
อยธุ ยา

(7) ธ.ธนชาติ (8) ธ.กรงุ เทพฯ (9)ธ.ทหารไทย

สทิ ธิประโยชนป์ ระกนั สงั คมมาตรา 40

สิทธิประโยชน์ คณุ สมบัติผู้ประกันตน อายุ 15-65 ปบี รบิ ูรณ์ เง่ือนไขการส่งเงนิ สมทบ ทางเลอื ก1 ทางเลือก2 ทางเลอื ก3
ทไี่ ด้รับ (ต้องไมเ่ ปน็ ผ้ปู ระกนั ตนตามมาตรา 33,39
หรือบคุ คลท่ไี ดร้ บั การยกเวน้ ตามกฎหมายประกันสงั คม) 100 บาท 150 บาท 450 บาท
1. กรณีเจ็บปว่ ย (70/30) (100/50) (300/150)
- นอน รพ. จา่ ย 300 บ. ไม่เกนิ 30 วัน/ปี - สมทบ 3 ใน 4 เดือน กอ่ นเจบ็ ปว่ ย
2. กรณที พุ พลภาพ - ไม่นอน รพ. มีใบแพทยต์ ง้ั แต่ 3 วนั จา่ ย 200 บ. ไมเ่ กนิ 30 วัน/ปี   
3. กรณตี าย
4. กรณชี ราภาพ (นอน+ไมน่ อน รวมกนั ไม่เกิน 30 วัน/ป)ี   
- ไปพบแพทย์ จา่ ย 50 บ. 3 ครงั้ /ปี
  
- นอน รพ. จา่ ย 300 บ. ไม่เกนิ 90 วัน/ปี
- ไม่นอน รพ. มใี บแพทย์ตง้ั แต่ 3 วัน จ่าย 200 บ. ไม่เกิน 90 วัน/ปี   

(นอน+ไม่นอน รวมกันไมเ่ กิน 90 วัน/ปี) ต่   
- จ่าย 500-1,000 บ./ด. 15 ปี ตายจา่ ย 20,000 บ.
- สมทบ 6 ใน 10 ด. = 500 บำท/เดือน   
- จ่าย 500-1,000 บ./ด. ตลอดชีพ ตายจา่ ย 40,000 บ. - สมทบ 12 ใน 20 ด. = 650 บำท/เดือน 
- สมทบ 24 ใน 40 ด. = 800 บำท/เดือน   
- สมทบ 36 ใน 60 ด. = 1,000 บำท/เดือน
 
- จา่ ย 20,000 บ. - สมทบ 6 ใน 12 เดือน กอ่ นตาย
หากส่งครบ 60 เดอื นรบั เงนิ เพิม่ 3,000 บ. - อบุ ตั เิ หตุ สมทบ 1 ใน 6 เดอื น กอ่ นตาย

- จ่าย 40,000 บ.

- สมทบบาเหน็จ 50 บ./ด. ออมเพิ่มได้ 1,000 บ./ด. - อายุ 60 ปบี ริบูรณ์
- สมทบบาเหน็จ 150 บ./ด. ออมเพ่มิ ได้ 1,000 บ./ด. - ส้ินสุดความเป็นผปู้ ระกันตน

สมทบครบ 180 ด. รบั เพม่ิ 10,000 บ.

กรณสี งเคราะห์บตุ ร - จา่ ย 200 บ./ด. คราวละ 2 คน อายแุ รกเกิดถงึ 6 ปี หาก - สมทบ 24 ใน 36 ด.  
เดือนใดไมจ่ ่ายเงนิ สมทบจะไมไ่ ด้เงนิ สงเคราะหใ์ นเดอื นนนั้ - ขาดสง่ เงนิ สมทบ ยอ้ นหลังไม่ได้

จำนวนผู้ประกนั ตนในระบบประกันสังคม
เดอื นเมษำยน 2565