1 โครงงานภาษาไทย เรื่อง ปริศนาค าทายในท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ ผู้จัดท ำ นายทกัษ ิ ณ แกว ้ ศร ี ทอง เลขท ี่๖ นางสาวกญัญาณฐั ไทรแกว ้ เลขท ี่๑๔ นางสาวสโรชา สายนุ้ย เลขที่๓๕ ช ้ นั มัธยมศึกษาปี ที่ ๔/๓ เสนอ คุณครูจรรยา อังศุกาญจนกุล ภาคเรียนที่๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๖ โรงเรียนเทศบาล๒ (คลองจิหลาด)
ก ชื่อโครงงาน ปริศนาค าทายในทอ ้ งถิ่นจังหวัดกระบี่ ผู้จัดทา ๑. นายทักษิณ แกว ้ ศรีทอง ๒. นางสาวกญัญาณฐั ไทรแกว ้ ๓. นางสาวสโรชา สายนุ้ย อาจารย์ที่ปรึกษา คุณครูจรรยา อังศุกาญจนกุล คุณครูยาวารี หะยีเมาะลอ ปี การศึกษา ๒๕๖๖ บทคัดย่อ โครงงานภาษาไทย เรื่องศึกษาปริศนาคา ทา นายในทอ ้ งถิ่นน้ีจดัทา ข้ึนเพื่อรวบรวม ปริศนาค าทายในทอ ้ งถิ่นที่มาจากภูมิปัญญาของชาวบ้าน ซึ่งนับวันจะหมดไปเพราะขาดการ เผยแพร่และสืบต่อกนัมาคณะผจู้ ดัทา รวบรวมไวเ ้ พื่อที่จะไดเ ้ ผยแพร่แก่ผทู้ี่สนใจ การศึกษา ปริศนาคา นายในทอ ้ งถิ่นน้ีได้ศึกษาจากผู้สูงอายุในหมู่บา ้ นโดยตรง โดยการออกสัมภาษณ ์ นอกเวลาเรียนแล้วจดบนัทึกไว ้ ซ่ึงในปริศนาคา ทา นายที่ไดน ้ ้นัมีท้งัภาษาถิ่น คา ผวน คา คลอ ้ ง จองคา ศพัทแ ์ ปลกๆและมีการใชภ ้ าษาสองแง่สองง่าม ปริศนาคา ทายที่ไดศ้ึกษามีคุณค่ามาก สามารถรวบรวมได้ ๕๐ ปริศนาค าทาย และแยกเป็ นหมวดได้ ๗ หมวด เพื่อใหน ้ กัเรียนรุ่น หลังได้ศึกษาสืบไป
ข กิตติกรรมประกาศ โครงงาน เรื่อง ปริศนาคา ทายในทอ ้ งถิ่นฉบบับน้ีเป็ นส่วนหน่ึงของรายวชิาภาษาไทย พ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยโดยมีจุดประสงคเ ์ พื่อรวบรวมปริศนาคา ทายใน ทอ ้ งถิ่นเพื่ออนุรักษม ์ าดกทางวฒันธรรมของทอ ้ งถิ่นใหค ้ งอยตู่ลอดไป คณะผจู้ ดัทา สามารถจดัทา โครงงานน้ีสา เร ็ จไดด ้ ว ้ ยดีเนื่องจากได้รับค าแนะน าที่ดีจาก คุณครู ยาวารี หะยีเมาะลอ ซึ่งเป็ นคุณครูสอนวชิาภาษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปีที่๔ และมี เพื่อนๆที่ช่วยคน ้ ควา ้ หาขอ ้ มูลเพื่อจดัทา โครงงานเล่มน้ีคณะผจู้ ดัทา ขอขอบพระคุณเป็ นอยา่ง สูง ณ โอกาสน้ี สุดทา ้ ยน้ีทางคณะผจู้ ดัทา หวงัวา่ โครงงาน เรื่อง ปริศนาคา ทาย ฉบบัน้ีจะสามารถให ้ ความรู้ และเป็ นประโยชน ์ แก่ผอู้่านทุกๆท่าน คณะผู้จัดท า
ค สารบัญ เรื่อง หน้า บทคดัยอ่ -------------------------------------------------------------------------------ก กิตติกรรมประกาศ--------------------------------------------------------------------ข สารบัญ---------------------------------------------------------------------------------ค บทที่ ๑ บทน า - ที่มาและความส าคัญของโครงงาน-----------------------------------------๑ - วัตถุประสงค์ในการศึกษา---------------------------------------------------๑ -ขอบเขตของการศึกษา-------------------------------------------------------๑ - สมมติฐานในการศึกษา------------------------------------------------------๒ -ผลที่คาดวา่จะไดร ้ับ----------------------------------------------------------๒ - นิยามศัพท์เฉพาะ-------------------------------------------------------------๒ บทที่ ๒ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวขอ ้ ง -ความหมายของปริศนาค าทาย---------------------------------------------๓ -ความส าคัญของปริศนาค าทาย--------------------------------------------๓ -ลักษณะปริศนาค าทาย------------------------------------------------------๔ - ประเภทปริศนาค าทาย------------------------------------------------------๕
ก บทที่ ๓ วิธีด าเนินการศึกษา - เครื่องมือที่ใช้-------------------------------------------------------------๖ - แหล่งศึกษาคน ้ ควา ้-------------------------------------------------------๖ - วิธีการศึกษา---------------------------------------------------------------๖ บทที่ ๔ ผลการศึกษา - ปริศนาค าทายหมวดสัตว์-------------------------------------------------๘ - ปริศนาค าทายหมวดพืช--------------------------------------------------๑๒ - ปริศนาค าทายหมวดของใช้ในชีวิตประจ าวัน--------------------------๑๖ - ปริศนาค าทายหมวดอวัยวะ-----------------------------------------------๑๙ - ปริศนาค าทายหมวดมทา มาหากิน---------------------------------------๒๐ - ปริศนาค าทายหมวดการใช้ค าผวน--------------------------------------๒๑ - ปริศนาค าทายการใชภ ้ าษาสองแง่สองง่าม-----------------------------๒๒ บทที่ ๕ สรุปผลการศึกษา - ประโยชน์ที่ได้รับจากการท าโครงงาน----------------------------------๒๓ - การน าผลการศึกษาไปใช้-------------------------------------------------๒๔ - ข้อเสนอแนะ---------------------------------------------------------------๒๔ บรรณานุกรม---------------------------------------------------------------------------๒๕
๑ บทที่๑ บทน า ๑. ที่มาและความส าคัญของโครงงาน จากการเรียนภาษาไทยจะมีการนา ปริศนาคา ทาย มาทายกนัอยเู่สมอโดยมากนา มาจาก หนงัสือ ซ่ึงเป็นคา ถามที่คลา้ยๆกนัทา ใหไ้ม่ชวนติดตาม เมื่อได้ฟังปริศนาค าทายจากผู้สูงอายุในหมู่บา้น รู้สึกสนุกสนานน่าสนใจเพราะมีท้งัภาษาถิ่นที่คนรุ่นใหม่ไม่รู้ความหมาย มีคา คลอ้งจอง ซ่ึงบางปริศนา จะสร้างคา ใหม่ข้ึนใชเ้พื่อให้มีสัมผสัคลอ้งจอง มีคา ผวนชวนใหค้ิด บางปริศนาก็ใชภ้าษาสองแง่สองง่าม ท าให้การทายมีความสนุกสนาน คา ตอบของปริศนาคา ทายส่วนมากเป็นสิ่งใกลต้วัและเกี่ยวขอ้งกบั ชีวติประจา วนัสามารถคิดหาคา ตอบไดง้่าย ปริศนาคา ทายในทอ้งถิ่นเป็นความคิดของคนในทอ้งถิ่น แสดงใหเ้ห็นถึงภูมิปัญญาใน การใชภ้าษาของชาวบา้น ถือเป็นวฒันธรรมทางภาษาของทอ้งถิ่นสมาชิกในกลุ่มเห็นวา่ ปริศนาค าทายใน ทอ้งถิ่นน้ีน่าศึกษาและรวบรวมไวเ้ผยแพร่ให้ผอู้ื่นไดรู้้จกัและศึกษา เพื่อเป็นการอนุรักษม์รดกทางภาษา ของทอ้งถิ่น จึงไดจ้ดัทา โครงงานน้ีข้ึน ๒. วตัถุประสงค ์ในการศึกษา ๑. เพื่อรวบรวมปริศนำคำ ทำยในทอ้งถิ่น ๒. เพื่อนำ ปริศนำคำ ทำยมำทำยกนั ในเวลำวำ่ง ๓. เพื่ออนุรักษม์รดกทางวฒันธรรมของทอ้งถิ่น ๓. ขอบเขตของการศึกษา เนื้อหา ศึกษาและรวบรวมปริศนาค าทายในจงัหวดักระบี่ในหมู่บา้นบา้นทุ่ง แหล่งศึกษา ศึกษาจากผูรู้้ในหมู่บ้าน โดยการสัมภาษณ์และจดบันทึกรวบรวมไว้ ระยะเวลา ใชเ้วลาในการศึกษาระหวา่งวันที่ ๑-๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เป็ นเวลา ๑ เดือน ๔. สมมติฐานในการศึกษา ปริศนาคา ทายในทอ้งถิ่นเป็นภูมิปัญญาชาวบา้นและเป็นมรดกทางวฒันธรรมของทอ้งถิ่นที่มีค่า และน่าศึกษาและควรเผยแพร่เพื่อเป็นการอนุรักษไ์วใ้หอ้ยคูู่่ทอ้งถิ่นตลอดไป
๒ ๕. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ๑. ได้ปริศนาค าทายในทอ้งถิ่นไวท้ายในเวลาวา่ง ๒. จัดท าเผยแพร่ให้แก่โรงเรียน และผู้ที่สนใจ ๓. ปริศนาคา ทายในทอ้งถิ่นเป็นที่รู้จกัของเพื่อนๆ น้อง ๆ และบุคคล ที่สนใจไม่สูญหายไปจาก ทอ้งถิ่น ๖. นิยามศัพท์เฉพาะ ปริศนาค าทาย หมำยถึงถอ้ยคำ ที่เป็นคำ ถำมพูดข้ึนเพื่อใชส้ำ หรับทำย ทดสอบควำมรู้ ควำมรอบคอบ มักใช้ถ้อยค ำคล้องจอง ปริศนาค าทาย เป็นทั้งวรรณกรรมมุขปาฐะและไม่ใช่มุขปาฐะ เช่นปริศนา ท่าทาง ปริศนาอักษรไขว้ ปริศนาภาพ นิทานปริศนา เป็นต้น
๓ บทที่๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษาโครงงานเรื่องปริศนาคา ทายในทอ้งถิ่นจงัหวดักระบี่ทางคณะผู้จัดท าได้ท าการศึกษา คน้ควา้รวบรวมขอ้มูลจากเอกสารที่เกี่ยวขอ้งและสัมภาษณ์จากผรูู้้ในแต่ละเขตโดยจะขอนา เสนอ ตามล าดับ ดงัน้ี ๑.ปริศนาค าทายหมวดสัตว์ ๒.ปริศนาค าทายหมวดพืช ๓.ปริศนาค าทายหมวดของใช้ในชีวิตประจ าวัน ๔.ปริศนาค าทายหมวดอวัยวะ ๕.ปริศนาค าทายหมวดค าผวน ๖.ปริศนาคา ทายหมวดทา มาหากิน ๗.ปริศนาค าทายหมวดการใชภ้าษาสองแง่สองง่าม ความหมายของปริศนาค าทาย ปริศนาค าทายคือ ถอ้ยคา ที่เป็นคา ถามพูดข้ึนเพื่อใชส้า หรับทายเกิดจากกรอบวธิีคิดและทดสอบ ความรู้ความรอบคอบ มักใช้ถ้อยค าคล้องจองเป็ นปัญหาหรือค าถามซึ่งผู้ถามอาจจะถามตรงๆ หรือถาม ทางออ้มก็ตาม คา ถามอาจจะใชถ้อ้ยคา ธรรมดาเป็นภาษาร้อยแกว้หรือจะมีสัมผสัแบบภาษาร้อยกรองก็ได้ ภาษาที่ใชน้ ้นัเป็นภาษาส้ัน ๆ ง่าย ๆ กระชบัความแต่ยากแก่การตีความในตวัปริศนาอยบู่า้ง ส่วนคา ไข มกัจะเป็นสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจา วนัในสมยัน้นัๆ และในบางคา ถามน้นัมกัจะมีเคา้หรือแนวทาง ส าหรับค าตอบ ซึ่งผู้ตอบจะต้องใช้การสังเกต ความคิดและไหวพริบ ความส าคัญของปริศนาค าทาย การเล่นปริศนาคา ทายช่วยในการฝึกไหวพริบ เชาวน์ปัญญาผทู้ี่เล่นปริศนาคา ทายจะไดฝ้ึกคิดแก้ ปมปริศนา ดงัที่กล่าวไปแลว้วา่ ปริศนาคา ทายเกิดจากกรอบวิธีคิดที่สร้างสรรค์การจะคลี่คลายปมปริศนา ได้ตอ้งคิดอยา่งรอบดา้นและคิดแบบนอกกรอบ ผทู้ี่จะเขา้ใจและหาทางไขปริศนาไดน้ ้นั ต้องมองโจทย์ อยา่งถี่ถว้น และคิดอยา่งรอบคอบ
๔ ลักษณะของปริศนาค าทาย ปริศนาค าทายมีองค์ประกอบหลัก ๒ส่วนคือ ปริศนาและค าเฉลย ปริศนาเป็นส่วนที่อธิบายหรือ บอกใบ้ค าเฉลยแต่ในขณะเดียวกนัคา อธิบายในปริศนาก็ลวงใหผ้ ฟู้ ังหลงทางดว้ยลกัษณะที่ท้งั"แนะ" และ"ลวง" ดงักล่าวทา ใหป้ริศนาคา ทายมีความน่าสนใจกล่าวคือเมื่อแรกได้ยินข้อปริศนาคนฟังมักถูก ลวงให้คิดผิดทางจนเกิดความงมงายแต่เมื่อไดทราบค าเฉลยแล้ว ้ก็จะคิดไดถู้กแนวทาง ปริศนาที่ดู เหมือนลึกลับ ก็กลบักลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่มีอะไรชวนสงสัยลกัษณะดงักล่าว ท าให้ปริศนาค าทาย สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็ นจ านวนมาก ประเภทของปริศนาคา ทายทวั่ไปได้จัดหมวดหมู่ไว้ดังนี้ ๑. ปริศนาที่เปรียบกบัสิ่งมีชีวติแต่ไม่ทราบแน่ชดัวา่เป็นคนหรือสัตว์เช่น อะไรเอ่ย มีปากไม่มีฟันกินขา้วทุกวนัไดม้ากกวา่คนอื่น (หม้อข้าว) ๒. ปริศนาที่เปรียบกบัสัตวต์วัเดียวเช่น อะไรเอ่ย ตวัอยนู่า ตาอยบู่า้น ( ตาปู) ๓. ปริศนาที่เปรียบกบัสัตวห์ลายตวั เช่น อะไรเอ่ย จะวา่นกก็ไม่ใช่นก จะวา่กาก็ไม่ใช่กา บินมาใต้เขา (หูวัว หูควาย) ๔. ปริศนาเปรียบเทียบบุคคลคนเดียวเช่น อะไรเอ่ย ตาแก่หัวโล้น กระโจนน้า แต่ดึก (ขนัตกัน้า ) ๕. ปริศนาที่เปรียบเทียบกบับุคคลหลายคน เช่น อะไรเอ่ย พระหน่อนอนกลาง พระนางนอนริม พระหน่อลุกข้ึนทิ่ม พระนางยมิ้แฉ่ง(ไม้ขีดไฟ ) ๖. ปริศนาที่เปรียบกบัพืช เช่น อะไรเอ่ย ตน้เท่าครก ใบปรกดิน ( ตะไคร้) ๗. ปริศนาที่เปรียบกบัสิ่งไม่มีชีวติ เช่น อะไรเอ่ย เวลาใช้เอาทิ้ง เวลาไม่ใชเ้ก็บไวบ้นหวั ( สมอเรือ)
๕ ๘. ปริศนาที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกบัการเปรียบเทียบ เช่น อะไรเอ่ย ขาวเหมือนนกยาง มีแต่รังไม่มีไข่ (งอบ ) ๙. ปริศนาที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกบัรูป และอาการ เช่น อะไรเอ่ย ตูดเป็ นขน กน้เป็นเหลี่ยม (กระเทียม กระบุง) ๑๐. ปริศนาที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกบัสี เช่น อะไรเอ่ย ชักออกมาด า ต าเข้าไปแดง (ไม้ขีดไฟ ) ๑๑. ปริศนาที่ใหร้ายละเอียดเกี่ยวกบัการกระทา เช่น อะไรเอ่ย เช้ามา เย็นกลับ ( พระอาทิตย์) ๑๒. ปริศนาเกี่ยวกบัภาษา เช่น อะไรเอ่ย ตัดหัว ตัดหาง เหลือกลางวาเดียว (ควาย หรือกวาง) ปริศนาค าทายในท้องถิ่น หมายถึงปริศนาค าทายที่คนในทอ้งถิ่นคิดข้ึนมาเพื่อใชท้ายกนั เฉพาะคนในทอ้งถิ่น โดยใชภ้าษาถิ่นของตนเป็นหลกั ทา ใหค้นต่างถิ่นเขา้ใจยาก แต่มีคา สัมผสัคลอ้งจอง เหมือนปริศนาค าทาย ทวั่ ไปส่วนคา ตอบก็เป็นของใกลต้วัและมีใชใ้นทอ้งถิ่น
๖ บทที่๓ วิธีด าเนินการศึกษา โครงงานฉบบัน้ีเป็ นการทา โครงงานเพื่อศึกษาเกี่ยวกบั ปริศนาคา ทายในทอ ้ งถิ่น โดยวิธีการดา เนินงานของการทา โครงงานฉบบัน้ี มีดงัน้ี ๑. เครื่องมือที่ใช้ - แบบบันทึก - ดินสอ ปากกา ๒. แหล่งศึกษาค้นคว้า - สัมภาษณ์ผู้รู้ในหมู่บา้น - พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน - พจนานุกรมภาษาถิ่น ๓.วิธีการศึกษา ขั้นที่๑ ขั้นศึกษา - ประชุมสมาชิกในกลุ่มแบ่งเขตศึกษาคน้ควา้ - สา รวจผูรู้้ในหมู่บ้าน ในครอบครัวและเพื่อนๆ - รวบรวมปริศนาค าทาย พร้อมค าตอบ - แยกหมวดปริศนาค าทาย - จัดท าผลงานเป็นรูปเล่ม นา เสนอต่อคุณครูที่ปรึกษาเพื่อแกไ้ขปรับปรุงส่วนที่บกพร่อง ขั้นที่๒ขั้นน าเสนอผลงาน - แนะน าและช้ีแจงการจดัทา โครงงาน หนา้ช้นัเรียน - เสนอผลงาน
๗ บทที่ ๔ ผลการศึกษา จากการศึกษาปริศนาคา ทายในทอ้งถิ่นจงัหวดักระบี่หมู่บา้นบา้นทุ่งน้นั สามารถรวบรวมปริศนา ค าทายได้ ๕๐คา ทายและแยกออกเป็นหมวดๆไดท้ ้งัหมด ๗หมวด ดงัน้ี ๑.ปริศนาค าทายหมวดสัตว์ ๒.ปริศนาค าทายหมวดพืช ๓.ปริศนาค าทายหมวดของใช้ในชีวิตประจ าวัน ๔.ปริศนาค าทายหมวดอวัยวะ ๕.ปริศนาค าทายหมวดค าผวน ๖.ปริศนาค าทายหมวดทา มาหากิน ๗.ปริศนาค าทายหมวดการใชภ้าษาสองแง่สองง่าม
๘ ปริศนาค าทายหมวดสัตว์ ๑. อะไรเอ่ย สี่ตีนผาดโผน สองโคนหกยอด ค าคล้องจอง โผน –โคน ความหมาย เป็นสัตวส์ี่เท่า มีเขาสองเขาแต่ปลายเขา มีหกยอด ค าตอบ กวาง ๒. อะไรเอ่ย ฤๅษอียู่ในถ ้า นอนคว ่าทงหัวเขา ค าคล้องจอง ถ้า –คว ่า ความหมาย ทงหวัเข่า ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง งอเขาแลว้ยกข้ึน ถ้า หมายถึง รู ค าตอบ จิ้งหรีด ๓. อะไรเอ่ย ไอ้ขนยนไอ้แขวน น ้าออก ค าคล้องจอง ขน – ยน ความหมาย ไอ้ขน หมายถึง สัตว์ที่มีขน ยน(เป็ นภาษาถิ่น) หมายถึง กระแทกเข้าไปแรงๆ ไอ้แขวน หมายถึง ผลมะพร้าวที่ติดอยกู่บัทะลายบนตน้ ค าตอบ กระรอกเจาะมะพร้าว
๙ ๔. อะไรเอ่ย แบกขวานขึ้นหมาก แบกขวากขึ้นเขา นกเภาตอีู่ตีนทู่ลงน า้ ค าคล้องจอง หมาก-ขวาก เขา – เภา อู่– ทู่ ความหมาย แบกขวานข้ึนหมาก หมายถึง เอาขวานข้ึนบนตน้ ไม้คือนกหวัขวาน แบกขวาก หมายถึง มีหนาม แหลม คือเม่น นกเภาตีอู่หมายถึง การหมุนส่ายตะแกรงชอ้นกุง้ ในน้า ใหน้ ้า วนเพื่อใหกุ้ง้เขา้ อยใู่นตะแกรงคือ ตะแกรงชอ้นกุง้ ตีนทู่ลงน้า หมายถึง สัตวท์ ี่มีเทา้ทู่ๆ ชอบเล่นน้า คือ ชา้ง ค าตอบ นกหัวขวาน เม่น ตะแกรงช้อนกุ้ง และช้าง ๕. อะไรเอ่ย ตะโจหุ้มมงัสัง โลมายังทั่วกายี บัพโตโงหากัน สองเนตรนั้นอยู่ใต้คีรีทันตะบน ไม่มี แลให้ดีข้างล่างยัง ค าคล้องจอง สัง – ยัง โต – โง กนั – น้นั รี – มี – ดี ความหมาย ตะโจหุม้มงัสา หมายถึง หนงัหุม้เน้ือ โลมายงัทวั่กายีหมายถึง มีขนอยทู่วั่ บพัโตโงหากนัหมายถึง เขาโงง้เขา้หากนั (โง เป็นภาษาถิ่น) สองเนตรน้นัอยใู่ตค้ีรีหมายถึง มีสองตาใต้เขา ทนัตะบนไม่มีหมายถึงไม่มีฟันบน แลใหด้ีขา้งล่างยงัแลเป็นภาษาถิ่น หมายถึง ดู แปลวา่ ฟันล่างยงัมี ค าตอบ ควาย ๖. อะไรเอ่ย นอนคว ่า เห็นลาย นอนหงายเห็นตับ นอนไม่หลับ ยกขึ้นว่าเพลง ค าคล้องจอง ลาย – หงาย ตับ – หลับ ความหมาย ลาย หมายถึง ลายเสื่อ ตับ หมายถึง ตับจากมุงหลังคา
๑๐ ยกข้ึน เป็นภาษาถิ่น หมายถึง ลุกข้ึน วา่เพลงเพลง เป็นภาษาถิ่น หมายถึง ร้อง ค าตอบ เสื่อ จาก และไก่ ๗. อะไรเอ่ย สองสกณุา มีนามเรียกว่า ขังไว้ไม่อยู่ คู้ไว้ไม่เข้า ปักษีนั้นเล่า คือใคร ค าคล้องจอง ณา –วา่อยู่–คู้ เข้า –เล่า ความหมาย สองสกุณา หมายถึง นกสองชนิด ขงัไวไ้ม่อยู่หมายถึง ออก คูไ้วไ้ม่เขา้หมายถึง คูไ้ม่ได้ตอ้งแอ่นไว้ ค าตอบ นกออก นกนางแอ่น ๘.อะไรเอ่ย สัตว์สี่ตีน กินตีนเดียว สัตว์หัวเขียวกินสัตว์ปากคว ่า เต่ากินเห็ด เป็ ดกินหอย ต้นทาย ปลายบอก ค าคล้องจอง เดียว–เขียว เห็ด –เป็ ด ทาย– ปลาย ความหมาย มีตีนเดียว หมายถึง เห็ด สัตว์หัวเขียว หมายถึง เป็ ด สัตว์ปากคว ่า หมายถึง หอย ต้นท้ายปลายบอก หมายถึง ข้อความข้างต้นเป็ นค าทาย ส่วนขอ้ความขา้งหลงัเป็นการบอกคา ตอบ ค าตอบ เต่ากินเห็ด เป็ ดกินหอย
๑๑ ๙.อะไรเอ่ย ตัวด าเหมือนกา บินมาเหมือนนก สี่ปี กตีนหก ตีทุ่มลงน ้า ค าคล้องจอง กา– มา นก– หก ความหมาย สี่ปี กตีนหก หมายถึง มีปี กสีปี ก คือปี กใน๒ปี ก ปี กนอก๒ปี ก ตีนหก หมายถึง มี ๖ เท้า ตีทุ่ม หมายถึง วา่ยน้า ค าตอบ เต่าเหนี่ยง ( ภาษาถิ่น )แมลงเหนี่ยง ( ภาษากลาง) ๑๐.อะไรเอ่ย ตัวด าเหมือนกา บินมาเหมือนนก สี่ปี กตีหก เจาะต้นไม้ตาย ค าคล้องจอง กา– มา นก– หก ความหมาย สี่ปี กตีนหก หมายถึง มีปี กสี่ปี ก คือปี กใน๒ปี ก ปี กนอก ๒ปี ก ตีนหก หมายถึง มี๖ เท้า เจาะต้นไม้ตาย หมายถึง เจาะรูอยทู่ ี่ตน้ ไมผุ้ๆ ค าตอบ แมลงภู่
๑๒ ปริศนาค าทายหมวดพืช ๑.อะไรเอ่ย ไอ้แดงไปเที่ยว ไอ้เขียวอยู่บ้าน ค าคล้องจอง เที่ยว–เขียว ความหมาย ไอ้แดงไปเที่ยว หมายถึง ที่เป็นสีแดงเขาเก็บไปกิน ไอเ้ขียวอยบู่า้น หมายถึง สีเขียวอยกู่บัตน้ ค าตอบ พริก ๒.อะไรเอ่ย ถอดพลกแดงแจ๋ มองแลรูว่ง ค าคล้องจอง แจ๋–แล ความหมาย ถอดพลก หมายถึง ดึงออกอยา่งรวดเร็ว( พลกเป็นภาษาถิ่น ) แดงแจ๋ หมายถึง แดงมาก (แจ๋เป็นภาษาถิ่น ) มองแล หมายถึง เห็น ( แล เป็นภาษาถิ่น ) รูวง่ หมายถึง รูกลวง ( วง่เป็นภาษาถิ่น ) ค าตอบ มะขาม ( ฝักมะขามแหง้เมื่อดึงเน้ือสีแดงออกเหลือแต่เปลือกจะเป็นรูโหว่ กลวง) ๓. อะไรเอ่ย เล็กๆ นุ่งผ้า พอใหญ่ขึ้นมาแก้ผ้าโพกหัว ค าคล้องจอง ผ้า – มา –ผ้า ความหมาย พอใหญ่ข้ึนมา ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง เมื่อโตข้ึน ค าตอบ มะเขือ ๔. อะไรเอ่ย สุกไม่หอมงอมไม่หล่น เหลืองคาต้น คนกินได้
๑๓ ค าคล้องจอง หอม – งอม หล่น – ต้น ค าตอบ ข้าว ๕. อะไรเอ่ย นกคูดตูดตนั ผลดัขนทุกวัน ค าคล้องจอง คูด – ตูด ตัน – วัน ความหมาย นกคูด ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง นกกะปูด ตูดตนัหมายถึง กน้ ไม่มีรู ค าตอบ หัวปลี ( เมื่ออยบู่นตน้จะสลดัเปลือกทิ้งวนัละเปลือก) ๖. อะไรเอ่ย ค่อนไม้พกุไปถูกไม้แก่น เจอแท่นดินสอ พบบ่อน ้าใส ค าคล้องจอง พุก –ถูก แก่น –แท่น สอ– บ่อ ความหมาย ค่อน ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง โค่น พุก ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง ผุ แก่น ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง แข็ง แท่น ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง แท่ง ไม้พุก ( ไม้ผุ ) หมายถึง เปลือกมะพร้าว ไม้แก่น หมายถึง กะลา แท่นดินสอ ( แท่งดินสอ ) หมายถึง เนื้อมะพร้าว บ่อน ้าใส หมายถึง น ้ามะพร้าว ความหมาย มะพร้าว ๗. อะไรเอ่ย ต้นเท่าครก ใบหกวา ค าคล้องจอง ครก – หก ค าตอบ มะพร้าว ๘. อะไรเอ่ย ต้นเท่าขา ใบวาเดียว ค าคล้องจอง ขา – วา ค าตอบ หมาก
๑๔ ๙. อะไรเอ่ย ต้นเท่าแขน ใบแล่นเสี้ยว ค าคล้องจอง แขน –แล่น ความหมาย ใบแล่นเส้ียว หมายถึง เส้นใบตรง ค าตอบ อ้อย ๑๐. อะไรเอ่ย เล็กๆ นุ่งผ้าพอใหญ่ขึ้นมาแก้ผ้าไว้โคน ค าคล้องจอง ผ้า – มา –ผ้า ความหมาย พอใหญ่ข้ึนมา หมายถึง เมื่อเติบโตข้ึน ค าตอบ ไผ่ ๑๑. อะไรเอ่ย ต้นเท่าล าเรือ ใบห่อเกลือไม่เม็ด ค าคล้องจอง เรือ – เกลือ ความหมาย ไม่เมด็ ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง ไม่มิด ค าตอบ มะขาม ๑๒. อะไรเอ่ย ไอ้เขียวหางเรียวชี้ฟ้า พอใหญ่ขึ้นมานุ่งผ้าแดงแปร๊ด ค าคล้องจอง เขียว – เรียว ฟ้า – มา –ผ้า ความหมาย พอใหญ่ข้ึน หมายถึง เมื่อโตข้ึน ค าตอบ พริกชี้ฟ้า ๑๓. อะไรเอ่ย นกไม่ใช้นก ถึงเดือนหกร้องเอ๊าะๆ ค าคล้องจอง นก – หก ค าตอบ ดอกลา พู ๑๔. อะไรเอ่ย มาจากเมืองเทศ มจีุกบนเกศ มีตารอบตัว ค าคล้องจอง เทศ – เกศ
๑๕ ความหมาย เมืองเทศ หมายถึง เมืองนอก ค าตอบ สับปะรด ๑๕. อะไรเอ่ย หางพวงเหมือนกระรอก ยอกเท้าพระยายอกสกสีกา ยอกมึงยอกกู ยอกสูยอกเรา ค าคล้องจอง รอก – ยอก ยา –กา กู – สู ความหมาย สก หมายถึง ประสก แปลวา่ชายที่นบัถือศาสนาพุทธ ค าตอบ หญ้าเกรย ( ภาษากลาง ใช้ หญ้าเจ้าชู้ )
๑๖ ปริศนาค าทายหมวดของใช้ในชีวิตประจ าวัน ๑. อะไรเอ่ย ไอ้สูงจูงไอ้วัลย์ รบกันในห้วย ขี้เมาเข้าช่วย เลือดย้อยหลามไหล ค าคล้องจอง สูง –จูง วัลย์ –กนั ห้วย – ช่วย ความหมาย ไอ้สูง หมายถึง พืชที่อยสูู่ง ไอ้วัลย์ หมายถึง พืชที่เป็ นเถา ในห้วย หมายถึง ปาก ข้ีเมา หมายถึง สิ่งที่เสพแลว้เมา เลือดย้อยหลามไหล หมายถึง มีของเหลวสีแดงไหลออกมา ค าตอบ คนกินหมาก ๒. อะไรเอ่ย ผูกคอเพ ื่อนแล้ว ตีหัวเพ ื่อนเล่า ค าคล้องจอง ไม่มี ความหมาย ตีหวัเพื่อนเล่า ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง ตีหัวเพื่อนอีก ค าตอบ หลักล่ามควาย ๓. อะไรเอ่ย สีซุ้มสี่เสา สีซุ้มนกเขา สีเสานางนอน ค าคล้องจอง เสา – เขา – เสา ความหมาย ใช้เสาสี่ต้นส าหรับผูกเพื่อใช้ในการนอน ค าตอบ มุ้ง
๑๗ ๔. อะไรเอ่ย ขลกุ ๆ เขลียะๆ หัวเปี ยะ น้อยหนึ่ง ค าคล้องจอง เขลยะ – เปี ยะ ความหมาย ขลุกๆเขลียะๆ เสียงดัง เปี ยะ หมายถึง เปี ยก ( การใช้ภาษาที่ประสมสระเสียง) ยาว มีก สะกด เมื่อเป็นภาษาถิ่น ก สะกดจะหายไปแลว้เสียงจะเปลี่ยนเป็น สระเสียงส้ัน น้อยหนึ่ง หมายถึง นิดเดียว ค าตอบ กระบวยตักน ้า ๕. อะไรเอ่ย กะล่มุกะเหล็ด ลูกเท่าไข่เป็ ด เจ็ดคนกินไม่หมด ค าคล้องจอง เหล็ด - เป็ ด – เจ็ด ความหมาย กะลุ่มกะเหล็ด ไม่มีความหมาย ตอ้งการเล่นคา สัมผสั ค าตอบ ปูนกนิกบัหมาก ๖. อะไรเอ่ย พอแรกได้หนู เขาถูเขาไถ พอหนูผอมลงเขาทงิ้หนูไป ค าคล้องจอง หนู –ถู ไถ – ไป ค าตอบ สบู่ ๗. อะไรเอ่ย ไอ้แดงแยงท้ายไอด า ไอ้ด าร้องไห้น า้ลายเป็นฟู ความหมาย ไอ้แดง หมายถึง ไฟ ไอ้ด า หมายถึง หมอ้หุงขา้วที่มีควนัดา ติดอยู่ น้า ลายเป็นฟูหมายถึง หมอ้ขา้วที่กา ลงัเดือดมีเฟื อง ค าตอบ หม้อหุงข้าวด้วยเตาฟืน ๘. อะไรเอ่ย ต้นเท่าสายพาน ตัวทะยานบนเวหา ค าคล้องจอง พาน –ยาน
๑๘ ค าตอบ ว่าว ๙. อะไรเอ่ย เอาศิลามาท าไส้ เอาใบไม้มาท าตัว ใครทายผดิต้องเป็นลูกใครทายถูกให้ได้ผัว ค าคล้องจอง ไส้ –ไม้ ตัว –ผัว ค าตอบ ปูนกบัพลู ๑๐. อะไรเอ่ย หินหันร่อยๆ น ้าย้อยสก ๆ ค าคล้องจอง ร่อย – ย้อย ความหมาย หนัร่อย ๆ (ภาษาถิ่น) หมายถึง หมุนไปเรื่อย ๆ น้า ยอ้ยสก ๆ (ภาษาถิ่น) หมายถึง น้า หยดติ๋งๆ ค าตอบ เครื่องโม่แป้ง (ท าด้วยหิน) ๑๑. อะไรเอ่ย พี่น้องเราไป พี่น้องเรามา ฉีกแข้งฉีกขา เข้าไปทีละหน่วย ค าคล้องจอง มา –ขา ความหมาย หน่วย หมายถึง ลูก(ผล) ค าตอบ กรรไกรหนีบหมาก ๑๒. อะไรเอ่ย แปดหูสองขา อัศจรรย์หนักหนา เอาขาแยงหู ค าคล้องจอง ขา – หนา –ขา ความหมาย แยง ( ภาษาทอ้งถิ่น ) หมายถึง แหย่ ค าตอบ ปิ่ นโต
๑๙ ปริศนาค าทายหมวดอวัยวะ ๑. อะไรเอ่ย เห็ดกระด้างขึ้นข้างเขาเขียว หวายกอเดียว ตัดลัด ตัดลัด ค าคล้องจอง ด้าง –ข้าง เขียว – เดียว ความหมาย เห็ดกระด้าง หมายถึง อวยัวะที่คลา้ยเห็ดแต่ค่อนขา้งแขง็ เขาเขียว หมายถึง อวยัวะที่ใหญ่ หวายกอเดียว หมายถึง อวยัวะที่รวมกนัเป็นกลุ่ม ตดัลดัตดัลดัหมายถึง ตดัแลว้ข้ึนอีก ค าตอบ หูศีรษะ ผม ๒. อะไรเอ่ย หนองน้อยหนองแหน ก้มลงแลปากเบีย้วถึงหู ค าคล้องจอง แหน –แล ความหมาย หนองน้อยหนองแหน ( หนองแหนเป็นคา เสริมบท ไม่มีความหมาย ใชใ้หเ้กิดคา สัมผสัคลอ้งจอง ) หมายถึง แอ่งนอ้ยๆ กม้ลงแลปากเบ้ียวถึงหูหมายถึง เมื่อกม้ดูปากจะเบ้ียว ค าตอบ รักแร้ ๓. อะไรเอ่ย หีบน้อยใส่แจเหล็ก ผ้าผืนเล็กตากไม่แห้ง ค าคล้องจอง เหล็ก - เล็ก ความหมาย ใส่แจ ( ภาษาถิ่น) หมายถึง ใส่กุญแจ ค าตอบ ลิ้น
๒๐ ปริศนาค าทายหมวดการท ามาหากิน ๑. อะไรเอ่ย ข้างใต้รนข้างบนกด พอถึงก าหนดเอามือคล าแล ค าคล้องจอง รน – บน กด – หนด ความหมาย รน หมายถึง ดิ้น คล าแล ( ภาษาถิ่น) หมายถึง คล าดู ค าตอบ คนสุ่มปลา ๒. อะไรเอ่ย สีขายืนหยัด ท าท่าหนอยๆ ท าท่าเหมือนจะต่อย ขี้ย้อยติดขา ค าคล้องจอง หนอย – ต่อย – ย้อย ความหมาย สีขายืนหยัด หมายถึง สองคนยนือยกู่บัที่ หนอย ๆ (ภาษาถิ่น) หมายถึง นิดหน่อย ข้ียอ้ย หมายถึง ข้ีไหล ค าตอบ คนเลื่อยไม้ ๓. อะไรเอ่ย มาจากเมืองกรุง สาวน้อยเจ็บพงุ ร้องให้แม่บีบ ค าคล้องจอง กรุง – พุง ความหมาย เจ็บพุง (ภาษาถิ่น) หมายถึง ปวดท้อง ค าตอบ ท าขนมจีน
๒๑ ๑.อะไรเอ่ย ฝรั่งท า จีนขาย ไทยเขียน ความหมายขอ้ความขา้งหนา้เป็นการหลอก ส่วนคา ตอบอยทู่ ี่ขอ้ความหลงัคือไทยเขียน ค าตอบ เทียนไข ๒. อะไรเอ่ย หนึ่งหน า สองหน า เข้าหน าเดียว ความหมายที่ต้องการ คือ เข้าหน าเดียว ค าตอบ ข้าวเหนียวด า ๓. อะไรเอ่ย ปี่ แจ้ง ข้าวแหนงเดียว ค าตอบ แป้งจี่ ข้าวเหนียวแดง ๔. อะไรเอ่ย หัวโม่ง คันคน โค่ง (ภาษาถิ่น) หมายถึง ใหญ่ มดคันโค่ง หมายถึง มดตัวใหญ่ ๆ ค าตอบ หัวมดคันโค่ง ปริศนาค าทายหมวดการใช้ค าผวน
๒๒ ๑. อะไรเอ่ย รูปร่างเหม ื อนใบพลู มขีนรุมรู่มีรูตรงกลาง ค าคล้องจอง พลู – รู่– รู ความหมาย รุมรู่ (ภาษาถิ่น ) หมายถึง รุงรัง ค าตอบ ใบหูควาย ๒. อะไรเอ่ย ปั่นให้แข็ง แยงเข้าหว่างขา ค าคล้องจอง แข็ง –แยง ความหมาย แยง (ภาษาถิ่น) หมายถึง แหย่ หวา่งขา (ภาษาถิ่น) หมายถึงระหวา่งขา ค าตอบ นุ่งโจงกระเบน ๓. อะไรเอ่ย ฉีกสองริม ทิ่มเข้ารู ค าคล้องจอง ริม – ทิ่ม ความหมาย ทิ่ม (ภาษาถิ่น) แหยเ่ขา้ไป ค าตอบ ฉีกขนไก่แยงหู ปริศนาค าทายหมวดการใช้ภาษาสองง่ามสองง่าม
๒๓ บทที่ ๕ สรุปผลการศ ึ กษา ๑. ประโยชน์ที่ได้รับจากการท าโครงงาน - ไดป้ริศนาคา ทายในทอ้งถิ่น โดยการรวบรวมไวศ้ึกษาเองและใหผ้อู้ื่นได้ศึกษา ไดท้ ้งัหมด ๗ หมวด มี ๑. ปริศนาค าทายหมวดสัตว์ ๑๐ ค าทาย ๒. ปริศนาค าทายหมวดพืช ๑๕ ค าทาย ๓. ปริศนาค าทายหมวดของใช้ในชีวิตประจ าวัน ๑๒ ค าทาย ๔. ปริศนาค าทายหมวดอวัยวะ ๓ ค าทาย ๕. ปริศนาคา ทายหมวดการทา มาหากิน ๓ ค าทาย ๖. ปริศนาค าทายหมวดการใช้ค าผวน ๔ ค าทาย ๗. ปริศนาค าทายหมวดการใชค้า สองแง่สองง่าม ๓ ค าทาย ไดป้ริศนาคา ทายท้งัหมด ๕๐ ค าทาย - รู้จกัคา และความหมายของภาษาถิ่นในปริศนาคา ทายเช่น วง่ หมายถึง โหว่ นกคูด หมายถึง นกกะปูด ลุกขี้ หมายถึง ก้น ฯลฯ - ไดเ้รียนรู้คา คลอ้งในปริศนาคา ทายทา ใหเ้ขา้ใจคา คลอ้งจองดียงิ่ข้ึน เช่น อะไรเอ่ย มาจากเมืองเทศ มีจุกบนเกศ มีตารอบตัว เทศ คลอ้งจองกบัคา วา่เกศ อะไรเอ่ยกะลุ่มกะหลู วงิ่ลงรูปิดหางไม่เม็ด หลู คลอ้งจองกบัคา วา่รู - เห็นคุณค่าของปริศนาทา ทาย โดยไดร้วบรวมปริศนาคา ทายที่ไดศ้ึกษาไวเ้ป็นรูปเล่มของ เอกสารและจะหาเพิ่มเติมจากหมู่บา้นอื่น ๆ ที่ใกลเ้คียงบนัทึกเพิ่มเติม
๒๔ ๒. การน าผลการศึกษาไปใช้ - นา ปริศนาคา ทายมาทายกบัเพื่อน ๆ ในเวลาวา่ง ทา ใหส้นุกสนานและเกิดปัญญา - ใชภ้าษากลางไดด้ีข้ึน โดยไม่นา ภาษาถิ่นมาใชป้ะปนกบัภาษากลาง - เขา้ใจคา คลอ้งจอง สามารถเขียนบทร้อยกรองและปริศนาคา ทายง่าย ๆ ได้ - ได้น าปริศนาค าทายที่ไดจ้ากการศึกษา เผยแพร่แก่เพื่อน ๆ นอ้ง ๆ และผทู้ี่สนใจโดยการทาย ในเวลาวา่งท้งัที่บา้นและที่โรงเรียน ๓. ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาปริศนาคา ทายในทอ้งถิ่น ทา ใหเ้ห็นคุณค่าของปริศนาคา ทาย ตอ้งการใหทุ้กคนได้ ศึกษาปริศนาคา ทายที่ไดร้วบรวมไว้และถา้มีโอกาสน่าจะศึกษาเพิ่มเติมใหม้ากกวา่น้ี การที่ได้พบปะกบัผสูู้งอายใุนหมู่บา้น ทา ให้รู้จกัสิ่งดีๆอีกหลายอยา่ง ซ่ึงสิ่งเหล่าน้ีเป็น วัฒนธรรมของทอ้งถิ่น ควรอนุรักษไ์วใ้หช้นรุ่นหลงัไดรู้้จกัเพื่อที่จะไดร้ักและหวงแหนไว้และน่าจะทา โครงงานเรื่องเหล่าน้ีในโอกาสต่อไป
๒๕ บรรณานุกรม ปริศนาค าทายในท้องถิ่น https://www.scribd.com/document/513326302/ex ความหมายปริศนาค าทายhttp://www.satriwit3.ac.th/external_links.php?links=2835 พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน https://dictionary.orst.go.th/ พจนานุกรมภาษาถิ่น https://www.porsor.com/product