วินัยและการด าเนินการทางวินัย ข้าราชการศาลย ุติธรรม นางสาวปานจิต อนิทุโศภน นิติกรช านาญการพิเศษ ศาลแขวงนครไทย
กฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ • พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ • กฎ ก.พ. วา ่ ดว ้ ยการดา เน ิ นการทางว ิ นย ั พ.ศ. ๒๕๕๖ • กฎ ก.พ. วา ่ ดว ้ ยการกระทา การอน ั เป็ นการล ่ วงละเม ิ ดหร ื อค ุ กคามทางเทศ พ.ศ. ๒๕๕๓ • ระเบียบ ก.พ. วา ่ ดว ้ ยการรายงานการดา เน ิ นการทางว ิ นย ั และการสงให้ ั่ ออกจากราชการ พ.ศ. ๒๕๕๖ • หนังสือส านักงานศาลยุติธรรม ที่ ศย ๐๐๔/๓๕๒ (ป) ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙
ข้าราชการพลเรือนสามัญต้องกระท าการอันเป็ น ขอ ้ปฏ ิ บต ัิ ดง ั น ้ ี(ม. ๘๒) ๑) ต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และ เที่ยงธรรม (๒) ต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็ นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ (๓) ตอ ้ งปฏ ิ บต ัิ หนา ้ ท ี ่ ราชการใหเ ้ ก ิ ดผลด ี หร ื อความกา ้ วหนา ้ แก ่ ราชการ ดว ้ ยความต ้ ง ัใจอ ุ ตสาหะเอาใจใส ่ และร ั กษาประโยชน์ ของทางราชการ
(๔) ตอ ้ งปฏ ิ บต ัิ ตามคา สง ั่ของผบ ู ้ ง ั คบ ั บญ ั ชาซ่ึ งส ั่งในหน้าที่ราชการ โดยชอบ ดว ้ ยกฎหมายและระเบ ี ยบของทางราชการโดยไม ่ ขด ั ข ื นหร ื อ หลีกเลี่ยงแต ่ ถา ้ เห ็ นวา ่ การปฏ ิ บต ัิ ตามคา สง ั่น ้ น ั จะทา ใหเ ้ส ี ยหายแก ่ ราชการ หร ื อจะเป็ นการไม ่ ร ั กษาประโยชน ์ ของทางราชการจะตอ ้ งเสนอความเห ็ น เป็ นหนง ั ส ื อทน ั ท ี เพ ื่อใหผ ้ บ ู ้ ง ั คบ ั บญ ั ชาทบทวนคา สง ั่น ้น และเมื่อได้เสนอ ั ความเห ็ นแลว ้ ถา ้ ผบ ู ้ ง ั คบ ั บญ ั ชายน ื ยน ัใหป้ ฏ ิ บต ัิ ตามคา สง ั่เด ิ ม ผอ ู ้ ยใ ู ่ ตบ ้ ง ั คบ ั บัญชาต้องปฏิบัติตาม (๕) ตอ ้ งอ ุ ท ิ ศเวลาของตนใหแ ้ ก ่ ราชการจะละท ิ ้ งหร ื อทอดท ิ ้งหน้าที่ ราชการมิได้
(๖) ต้องรักษาความลับของทางราชการ (๗) ตอ ้ งส ุ ภาพเร ี ยบร ้ อยร ั กษาความสามค ั ค ี และตอ ้ งช ่ วยเหล ื อกน ั ในการปฏ ิ บต ัิ ราชการระหวา ่ งขา ้ ราชการดว ้ ยกน ั และผร ู ้่ วมปฏ ิ บติราชการ ั (๘) ต้องต้อนรับ ให้ความสะดวก ให้ความเป็ นธรรม และให้การ สงเคราะห ์ แก ่ประชาชนผต ู ้ิ ดต ่ อราชการเก ี่ยวกบ ั หนา ้ ท ี่ของตน (๙) ต้องวางตนเป็ นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และในการปฏ ิ บต ัิ การอ ื่นท ี่เก ี่ยวขอ ้ งกบ ั ประชาชน กบ ั จะตอ ้ งปฏิบัติตาม ระเบ ี ยบของทางราชการวา ่ ดว ้ ยมารยาททางการเม ื องของขา ้ ราชการดว ้ ย (๑๐) ตอ ้ งร ั กษาช ื่อเส ี ยงของตน และร ั กษาเก ี ยรต ิ ศก ั ด ์ ิ ของตา แหน ่ ง หน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย (๑๑) กระทา การอ ื่นใดตามท ี่กา หนดในกฎ ก.พ.
ขา ้ ราชการพลเร ื อนสามญ ั ตอ ้ งไม ่ กระทา การใดอน ั เป็ น ขอ ้ หา ้ มดง ั ต ่ อไปน ้ ี(ม. ๘๓) (๑) ตอ ้ งไม ่ รายงานเทจ ็ ต ่ อผบ ู ้ ง ั คบ ั บญ ั ชาการรายงานโดย ปกปิ ดขอ ้ ความ ซ ่ ึ งควรตอ ้ งแจง ้ ถ ื อวา ่ เป็ นการรายงานเทจ ็ด้วย (๒) ตอ ้ งไม ่ปฏ ิ บต ัิ ราชการอน ั เป็ นการกระทา การขา ้ ม ผบ ู ้ ง ั คบ ั บญ ั ชาเหน ื อตน เวน ้ แต ่ ผบ ู ้ ง ั คบ ั บญ ั ชาเหน ื อตนข ้ึ นไปเป็ นผ ู ้ สง ั ่ ใหก ้ ระทา หร ื อไดร ้ั บอน ุญาตเป็ นพ ิ เศษชว ั ่ คร ้ ั งคราว (๓) ตอ ้ งไม ่ อาศย ั หร ื อยอมใหผ ้ อ ู ้ื ่ นอาศย ั ตา แหน ่งหน้าที่ ราชการของตน หาประโยชน ์ใหแ ้ ก ่ ตนเองหร ื อผอ ู ้ื ่ น (๔) ตอ ้ งไม ่ประมาทเล ิ นเล ่ อในหนา ้ ท ี ่ ราชการ
(๕) ตอ ้ งไม ่ กระทา การหร ื อยอมใหผ ้ อ ู ้ื่นกระทา การหาผลประโยชน์ อน ั อาจทา ใหเ ้ส ี ยความเท ี่ยงธรรม หร ื อเส ื่อมเส ี ยเก ี ยรต ิ ศก ั ด ์ ิ ของตา แหน ่ ง หน้าที่ราชการของตน (๖) ตอ ้ งไม ่ เป็ นกรรมการผจ ู ้ ด ั การ หร ื อผจ ู ้ ด ั การ หร ื อดา รงตา แหน ่ ง อ ื่นใด ท ี่ม ี ลก ั ษณะงานคลา ้ ยคล ึ งกน ั น ้ น ั ในหา ้ งห ุ น ้ ส ่ วนหร ือบริษัท (๗) ตอ ้ งไม ่ กระทา การอยา ่ งใดท ี่เป็ นการกลน ั่แกลง ้ กดข ี่หร ื อข ่ ม เหงกน ั ในการปฏ ิ บต ัิ ราชการ
(๘) ตอ ้ งไม ่ กระทา การอน ั เป็ นการล ่ วงละเม ิ ดหร ื อค ุ กคามทางเพศ ตามท ี่กา หนดในกฎ ก.พ. (๙) ตอ ้ งไม ่ ด ู หม ิ่น เหยย ี ดหยาม กดข ี่หร ื อข ่ มเหงประชาชนผต ู ้ิ ดต ่ อ ราชการ (๑๐) ไม ่ กระทา การอ ื่นใดตามท ี่กา หนดในกฎ ก.พ.
โทษทางวินัย ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดกระท าผิดวินัย จะต้องได้รับโทษทางวินัย เวน ้ แต ่ ม ี เหต ุ อน ั ควรงดโทษตามท ี่บญ ั ญต ัิไวใ้ นหมวด ๗ การด าเนินการทางวินัย โทษทางวินัยมี ๕ สถาน ดง ั ต ่ อไปน ้ ี (๑) ภาคทัณฑ์ (๒) ตัดเงินเดือน (๓) ลดเงินเดือน (๔) ปลดออก (๕) ไล ่ ออก
การกระทา ผด ิ วน ิ ย ัในลก ั ษณะดง ั ต ่ อไปน ้ ี เป็ นความผด ิ วน ิ ย ั อยา ่ งร ้ ายแรง (๑) ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ เก ิ ดความเส ี ยหายอยา ่ งร ้ ายแรงแก ่ ผห ู ้ น่ึ งผใ ู ้ ด หร ื อปฏ ิ บต ัิ หรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต (๒) ละท ิ ้ งหร ื อทอดท ิ ้ งหนา ้ ท ี่ราชการโดยไม ่ ม ี เหต ุ ผลอนสมควร ั เป็ นเหต ุ ใหเ ้ส ี ยหายแก ่ ราชการอยา ่ งร ้ ายแรง (๓) ละท ิ ้ งหนา ้ ท ี่ราชการต ิ ดต ่ อในคราวเด ี ยวกน ั เป็ นเวลาเก ินสิบห้า วน ั โดยไม ่ ม ี เหต ุ อน ั สมควร หร ื อโดยม ี พฤต ิ การณ ์ อน ั แสดงถ ึ งความจงใจไม ่ ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ (๔) กระทา การอน ัไดช ้ื่อวา ่ เป็ นผป ู ้ ระพฤต ิ ชว ั่อยา ่ งร ้ ายแรง
(๕) ด ู หม ิ่น เหยย ี ดหยาม กดข ี่ข ่ มเหง หร ื อทา ร ้ ายประชาชนผต ู ้ิ ดต ่ อ ราชการอยา ่ งร ้ ายแรง (๖) กระท าความผิดอาญาจนได้รับโทษจ าคุกหรือโทษที่หนักกวา ่ โทษจ าคุก โดยค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุกหรือให้รับโทษที่หนก ั กวา ่ โทษ จา ค ุ กเวน ้ แต ่ เป็ นโทษสา หร ั บความผด ิ ท ี่ไดก ้ ระทา โดยประมาทหรือความผิด ลหุโทษ (๗) ละเวน ้ การกระทา หร ื อกระทา การใดๆ อน ั เป็ นการไม ่ปฏ ิ บติั ตามมาตรา ๘๒ หรือฝ่ าฝื นข้อห้ามตามมาตรา ๘๓ อันเป็ นเหตุให้เสียหายแก ่ ราชการอยา ่ งร ้ ายแรง (๘) ละเวน ้ การกระทา หร ื อกระทา การใด ๆ อน ั เป็ นการไม ่ปฏ ิ บติั ตามมาตรา ๘๐ วรรคสอง และมาตรา ๘๒ (๑๑) หรือฝ่ าฝื นข้อห้ามตาม มาตรา ๘๓ (๑๐) ที่มีกฎ ก.พ. กา หนดใหเ ้ป็ นความผด ิ ว ิ นย ั อยา ่ งร ้ ายแรง
การด าเนินการทางวินัย • พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ หนังสือส ำนักงำนศำลยุติธรรม ที่ ศย ๐๐๔/๓๕๒ (ป) ลงวันที่ ๓๑ พฤษภำคม ๒๕๕๙ * การดา เน ิ นการทางว ิ นย ั ต ้ ง ั แต ่ วน ั ท ี่๑ มิถุนายน ๒๕๕๙ เป็ นต้นไป ให้เป็ นไปตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ * กรณ ี สอบสวนตามกฎหมายเด ิ มยง ัไม ่ แลว ้ เสร ็ จใหส้ อบสวนตาม กฎหมายเด ิ มต ่ อไป ส ่ วนการพ ิ จารณาและสง ั่ลงโทษใหด ้ า เน ิ นการตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑
* กรณ ี สอบสวนและพ ิ จารณาตามกฎหมายเด ิ มแลว ้ เสร ็ จ แต ่ ยง ั ม ิได้ ม ี การออกคา สง ั่ใหอ ้ อกคา สง ั่ตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ * กรณ ี การดา เน ิ นการทางว ิ นย ั แก ่ ขา ้ ราชการท ี่ออกจากราชการแล้ว ตอ ้ งม ี การต ้ ง ั คณะกรรมการสอบสวนภายใน ๑๘๐ วน ั นบ ั แต ่ วน ั ออกจาก ราชการ
อ านาจการด าเนินการทางวินัย • พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ กฎหมายกา หนดใหเ ้ป็ นอา นาจของผบ ู ้ ง ั คบ ั บญ ั ชาซ่ึ งม ี อา นาจสง ั่ บรรจุตามมาตรา ๕๗ ซ่ึ งเท ี ยบไดก ้ บ ั เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม มำตรำ ๙๑ กำรสืบสวนข้อเท็จจริง มำตรำ ๙๒ กำรด ำเนินกำรทำงวินัยอย่ำงไม่ร้ ำยแรง มำตรำ ๙๓ กำรด ำเนินกำรทำงวินัยอย่ำงร้ ำยแรง มำตรำ ๙๖ กำรลงโทษทำงวินัยอย่ำงไม่ร้ ำยแรง มำตรำ ๙๗ กำรลงโทษทำงวินัยอย่ำงร้ ำยแรง
การส ื บสวนหร ื อพ ิ จารณาเบ ้ ื องตน ้ • เม ื่อม ี การกล ่ าวหาหร ื อม ี กรณ ี เป็ นท ี่สงสย ั วา ่ ม ี การกระทา ผดวินัย ิ (ม. ๙๐ ว ๑ + ข้อ ๒) * ผู้บังคับบัญชา(ผู้อ านวยการฯ) รายงานต ่ อผบ ู ้ ง ั คบ ั บญชาซึ่งมีอ านาจ ั สง ั่บรรจ ุ(เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม) ทราบโดยเร็ว * การรายงานตอ ้ งทา เป็ นหนง ั ส ื อและม ี สาระสา คญ ั อยา ่ งนอ ้ ย ดง ั น ้ ี ๑. ช ื่อนามสกล ุ ผก ู ้ ล ่ าวหา (ถ้ามี) ๒. ช ื่อนามสกล ุ และตา แหน ่ งของผถ ู ้ ู กกล ่ าวหา ๓. ขอ ้ เทจ ็ จร ิ งหร ื อพฤต ิ การณ ์ แห ่ งการกระทา ผด ิ ๔. พยานหลก ั ฐานเท ่ าท ี่ม ี
• เม ื่อไดร ้ั บรายงานหร ื อความปรากฏแก ่ ผม ู ้ี อา นาจสง ั่บรรจ ุ(เลขาธิการ ส านักงานศาลยุติธรรม) ดา เน ิ นการดง ั น ้ ี(ม.๙๑ ว ๑ + ข้อ ๕ ข้อ ๖ ข้อ ๗) (๑) ร ี บดา เน ิ นการหร ื อสง ั่ใหม ้ี การส ื บสวน (๒) พ ิ จารณาเบ ้ ื องตน ้ -กรณ ีไม ่ ม ี ม ู ลใหส้ ง ั่ยต ุ ิ เร ื่อง -กรณีมีมูล ให้ด าเนินการทางวินัยตามมาตรา ๙๒ หรือ มาตรา ๙๓ แลว ้ แต ่ กรณ ี
การดา เน ิ นการในกรณ ี ม ี ม ู ลท ี ่ ควรกล ่ าวหาวา ่ กระทา ผด ิ วน ิ ย ั อยา ่ งไม ่ ร ้ ายแรง • กรณ ีไม ่ ต ้ ง ั กรรมการสอบสวน (ม. ๙๒ + ข้อ ๘ ข้อ ๙ ข้อ ๑๐ ข้อ ๑๑) ๑. ต้องแจ้งข้อกล่ำวหำและสรุปพยำนหลักฐำนให้ผู้ถูกกล่ำวหำ ทรำบเป็ นหนังสือ ๒. ต้องให้โอกำสได้ชี้แจงและรับฟังค ำชี้แจงแก้ข้อกล่ำวหำของ ผู้ถูกกล่ำวหำด้วย ๓. ต้องด ำเนินกำรให้แล้วเสร็จภำยใน ๔๕ วัน (ขยำยได้) ๔. กำรพิจำรณำสั่งกำร - เห็นว่ำไม่ผิด ให้สั่งยุติเรื่อง โดยท ำเป็ นค ำสั่ง - เห็นว่ำผิดไม่ร้ ำยแรง ให้สั่งลงโทษภำคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือตัดเงินเดือน
- เห็นว่ำกระท ำผิดเล็กน้อยและมีเหตุบรรเทำโทษ จะงดโทษ โดยให้ท ำทัณฑ์บนเป็ นหนังสือหรือว่ำกล่ำวตักเตือน โดยให้ท ำเป็ นค ำสั่ง - เห็นว่ำกระท ำผิดวินัยอย่ำงร้ ำยแรง ให้ด ำเนินกำรตำมหมวด ๔ (ตั้งกรรมกำรสอบสวน)
• กรณ ี แต ่ งต ้ ง ั กรรมการสอบสวนว ิ นย ั อยา ่ งไม ่ ร ้ ายแรง (ม. ๙๒ + ข้อ ๑๒ ข้อ ๑๓ ข้อ ๑๔) ๑. คา สง ั่แต ่ งต ้ ง ั คณะกรรมการสอบสวน ๒. ต้องด าเนินการสอบสวน รวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และ พยานหลก ั ฐานท ี่เก ี่ยวขอ ้ ง แจง ้ ขอ ้ กล ่ าวหาและสร ุ ปพยานหลก ั ฐานให้ผู้ถูก กล ่ าวหาทราบ ร ั บฟั งคา ช ้ ี แจงของผถ ู ้ ู กกล ่ าวเกบ ็ รวบรวมไวใ้ นสา นวนการ สอบสวน และทา รายงานการสอบสวนพร ้ อมความเห ็ นเสนอผส ู ้ ง ั่ต ้ ง ั กรรมการ สอบสวน ๓. กรรมการสอบสวนต้องด าเนินการ ให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน นบ ั แต ่ วน ั ท ี่ประธานกรรมการร ั บทราบคา สง ั่หากไม ่ เสร ็ จผส ู ้ ง ั่ต ้ ง ั กรรมการ สอบสวน ขยายได้ตามความจ าเป็ นโดยแสดงเหตุ หร ื อจะสง ั่ตามขอ ้ ๑๑
๔. การพ ิ จารณาสง ั่การ(การสง ั่ตามขอ ้ ๑๑) ผม ู ้ี อา นาจสง ั่บ ุรรจุ (เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม) - เห็นว่ำไม่ผิด ให้สั่งยุติเรื่อง โดยท ำเป็ นค ำสั่ง - เห็นว่ำผิดไม่ร้ ำยแรง ให้สั่งลงโทษภำคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน - เห็นว่ำกระท ำผิดเล็กน้อย และมีเหตุบรรเทำโทษ จะงดโทษ โดยให้ท ำทัณฑ์บนเป็ นหนังสือหรือว่ำกล่ำวตักเตือน โดยท ำเป็ นค ำสั่ง - เห็นว่ำกระท ำผิดวินัยอย่ำงร้ ำยแรง ให้ด ำเนินกำรตำมหมวด ๔ (ตั้งกรรมกำรสอบสวน)
การดา เน ิ นการในกรณ ี ม ี ม ู ลท ี ่ ควรกล ่ าวหาวา ่ กระทา ผด ิ วน ิ ย ั อยา ่ งร ้ ายแรง • หลักการส าคัญ ๑. ผด ู ้ า เน ิ นการตอ ้ งม ี อา นาจตามท ี่กฎหมายกา หนด ๒. ตอ ้ งม ี การแต ่ งต ้ ง ั คณะกรรมการสอบสวน ๓. ตอ ้ งม ี การแจง ้ ขอ ้ กล ่ าวหาและสร ุ ปพยานหลก ั บานท ี่สนบสนุน ั ขอ ้ กล ่ าวหา ใหผ ้ ถ ู ้ ู กกล ่ าวหาทราบ ๔. ตอ ้ งใหโ้ อกาสผถ ู ้ ู กกล ่ าวหาช ้ ี แจงแกข ้ อ ้ กล ่ าวหาและ ๕. หากการสอบสวนปรากฏวา ่ ผถ ู ้ ู กกล ่ าวหากระทา ผด ิ ว ิ นย ั อยา ่ งร ้ ายแรง ใหส้ ่ งให ้ อ.ก.ศ.วินัย
• ขั้นตอนการด าเนินการ ๑. ผม ู ้ี อา นาจสง ั่บรรจ ุ(เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม) ม ี คา สง ั่ต ้ ง ั คณะกรรมการสอบสวน (ม. ๙๓ + ข้อ ๑๕) ๒. การแต ่ งต ้ ง ั คณะกรรมการสอบสวนว ิ นย ั อยา ่ งร ้ ายแรง -คา สง ั่แต ่ งต ้ ง ั คณะกรรมการสอบสวนว ิ นย ั อยา ่ งร ้ ายแรง ประกอบด้วย (ข้อ ๑๙) (๑) ช ื่อและตา แหน ่ งของผถ ู ้ ู กกล ่ าวหา (๒) เร ื่องท ี่กล ่ าวหา (พฤติการณ์ที่เป็ นการกระท าผิดวินัย) (๓) ชื่อคณะกรรมการสอบสวน
-องคป์ ระกอบและค ุ ณสมบต ัิ คณะกรรมการสอบสวนว ิ นย ั อยาง ่ ร้ายแรง (ข้อ ๑๘) (๑) ประธานกรรมการ (๒) กรรมการอยา ่ งนอ ้ ย ๒ คน (๓) กรรมการคนหนึ่งเป็ นเลขานุการ (๔) ผช ู ้่ วยเลขาน ุ การ(กรณีจ าเป็ น) ท ้ ง ั น ้ ี กรรมการและเลขาน ุ การตอ ้ งเป็ นขา ้ ราชการศาลยต ุ ิ ธรรม ส ่ วนผช ู ้่ วยเลขาน ุ การจะต ้ ง ั จากล ู กจา ้ งประจา หร ื อพนก ั งานราชการศาล ยต ุ ิ ธรรมกไ็ ด ้ และตา แหน ่ งประธานตอ ้ งม ี ระดบ ัไม ่ ต่า กวา ่ ผถ ู ้ ู กกล ่ าวหา
• การคัดค้านคณะกรรมการสอบสวน (ข้อ ๒๑ ข้อ ๒๒ ข้อ ๒๓ ข้อ ๒๔ ข้อ ๒๕) สา นก ั งานศาลยต ุ ิ ธรรมจะแจง ้ คา สง ั่และส ิ ทธ ิใหผ ้ ถ ู ้ ู กกล ่ าวหาทราบ เรื่องการคัดค้านคณะกรรมการสอบสวน • การประชุมนัดแรก ภายใน ๗ วน ั นบ ั แต ่ วน ั ท ี่ประธานกรรมการร ั บเรื่อง (ข้อ ๒๗) -ก ำหนดประเด็น -วำงแนวทำงสอบสวน และกำรรวบรวมพยำนหลักฐำน
การสั่งลงโทษทางวินัย • โทษทางว ิ นย ัไม ่ ร ้ ายแรง * สง ั่ยต ุ ิ เร ื่อง ลดโทษ และงดโทษ * สง ั่ลงโทษทางว ิ นย ั อยา ่ งไม ่ ร ้ ายแรง - ภาคทัณฑ์ - ตัดเงินเดือน (คร ้ ั งละไม ่ เก ิ นร ้ อยละ ๒ หรือร้อยละ ๔ ของเดือน เป็ นเวลาไม ่ เก ิ น ๓ เดือน) -ลดเงินเดือน (คร ้ ั งละไม ่ เก ิ นร ้ อยละ ๒ หรือร้อยละ ๔ ของเงินเดือน
•โทษทางวินัยร้ายแรง * ปลดออกจากราชการ * ไล ่ ออกจากราชการ
ค าถาม - ค าตอบ