The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระราชประวัติ รัชกาลที่ 6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tharaphan.prasan, 2022-10-11 09:44:04

พระราชประวัติ รัชกาลที่ 6

พระราชประวัติ รัชกาลที่ 6

ดา้ นการศาสนา
พระองค์ทรงได้ทานุบารุงทางวัด แล้วยังให้พระภิกษุได้รับการศึกษา

อย่างกวา้ งขวาง พระองคท์ รงส่งั สอนข้าราชการในเร่ืองศาสนาด้วยพระองค์
เอง และพระราชนิพนธห์ นังสือเรอื่ งพระพุทธเจา้ ตรัสรอู้ ะไร
ดา้ นกจิ การเสอื ปา่ และลูกเสือ

พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว รัชกาลท่ี 6
ประทบั ฉายพระบรมฉายาลักษณพ์ ร้อมดว้ ยเหลา่ เสอื ปา่

ทีส่ โมสรเสอื ปา่ พระราชวงั ดุสติ
พระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งท่ียังดารงตาแหน่ง
มกฎุ ราชกมุ ารทรงมพี ระราชประสงค์จะจัดต้ัง “กองเสือป่า” หลังจากเสด็จ
กลับจากมณฑลพายัพใน พ.ศ. 2448 หากทรงระงับไว้และทรงรับส่ังให้

มหาดเล็กและข้าราชบริพารในพระองค์ฝึกทหารและเล่นซ้อมรบ เช่น การ
เล่นโปลิศจบั ขโมย หรอื การเลน่ ปราบเจ๊กกอ่ การองั้ ยี่ หลังจากกระยาหารค่า
ในพระราชอุทยานของพระราชวังสราญรมย์ ซ่ึงผู้ที่ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่
แท้จริงก็มองว่าเป็นการละเล่นเพื่อสร้างพระราชสาราญให้แก่พระองค์เป็น
สาคัญ

พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัวทรงชดุ กองเสอื ปา่
เม่ือเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติใน พ.ศ. 2453 พระราชดาริที่จะจัดต้ัง
กองเสือป่าได้เกิดขึ้นพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ ัวทรงมพี ระบรม
ราชาธิบายเร่ืองเสือป่าว่า มีลักษณะคล้ายทหารรักษาดินแดนของอังกฤษ
(Territory Army) มหี น้าทส่ี นับสนุนการทางานของทหารโดยเฉพาะในยาม
ศึกสงคราม ซ่ึงจาเป็นต้องมีอาสาสมัครคอยป้องกันประเทศในขณะที่ทหาร
ออกไปรบ แต่ต่างกนั ท่ีรปู แบบการปกครองด้วยกองทหารรกั ษาดนิ แดนของ

อังกฤษข้ึนตรงกบั กระทรวงกลาโหม แต่กองเสือป่าขึ้นตรงต่อพระองค์เดือน
พฤษภาคม พ.ศ. 2454 กองเสือป่าได้ถือกาเนิดข้ึนอย่างเป็นทางการ
พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจา้ อยหู่ วั ทรงเปน็ สมาชิกเสือป่าหมายเลข 1
และทรงดารงตาแหน่งนาย กองใหญ่ และสมาชิกเม่ือเร่ิมก่อต้ังอีก 16 คน
ซึง่ ทัง้ หมดเป็นข้าราชบรพิ ารท่ีใกล้ชดิ พระองค์ กองเสอื ป่ายังได้เปิดรบั สมัคร
สมาชิกเพ่ิมเติม จนมีสมาชิกเสือป่าทั้งส้ิน 141 คน ต่อมาในวันท่ี 5
พฤษภาคม พ.ศ. 2454 มีพระราชพิธีถือน้าพิพัฒน์สัตยาของสมาชิกเสือป่า
ขึ้นเป็นคร้ังแรก ท่ีวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในลักษณะท่ีคล้ายคลึงกับการ
ถือน้าพิพัฒน์สัตยาของทหาร ท่ีมีการอ่านโองการแช่งน้า และให้สมาชิก
กล่าวคาปฏิญาณ ว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะเช่ือฟังคาส่ัง
ของผบู้ ังคับบญั ชาอย่างเครง่ ครัด

วันที่ 17 มถิ นุ ายน จดั พระราชพิธีถือน้าพิพัฒน์สัตยาครั้งที่ 2 (กระทา
เหมอื นในคร้ังแรก) โดยมีสมาชิกเสือป่าเพิ่มข้ึนมาเป็น 2 กองร้อย ซ่ึงก่อนท่ี
จะเร่ิมพธิ ี พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้เสือป่าท่ี
มียศนายหมู่ขึ้นไปร่วมถ่ายรูปกับพระองค์ พร้อมกันนี้ยังเสด็จฯ ไป
ทอดพระเนตรการถ่ายรูปหมขู่ องบรรดาสมาชิกเสอื ปา่ บรเิ วณสนามหญา้ ขา้ ง
หอวชริ ญาณ

พระราชพิธีถือน้าพิพัฒน์สัตยาทั้ง 2 คร้ัง สะท้อนให้เห็นว่าทรงให้
ความสาคัญแก่กองเสือป่าเป็นอย่างมากเมื่อ “เสือป่า” เป็นพระราชนิยม
ของพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หัว ข้าราชการกระทรวงตา่ ง ๆ จงึ
สมคั รเข้าเป็นสมาชกิ เปน็ จานวนมาก ขา้ ราชการพลเรอื นทไ่ี มเ่ ขา้ รว่ มกจ็ ะถกู
มองว่าแปลกแยกออกจากผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่น่าจะทาให้มี
ผู้สมัครเข้าเป็นเสือป่าเป็นจานวนมาก คือได้รับการยกเว้นไม่ต้องเกณฑ์
ทหาร นอกจากฝกึ ทหารแล้ว พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจา้ อยู่หัวทรงมี
พระบรมราชโองการให้เสือป่าเข้ารับการอบรมโดยทรงเป็นผู้สอนด้วย
พระองคเ์ อง ณ สโมสรเสือปา่ ทุกบา่ ยวันเสาร์ และทรงกาหนดใหเ้ สอื ปา่ ต้อง
ทาการซ้อมรบรวมถึงเดนิ ทางไกลเปน็ ประจาทกุ ปี

ด้านกิจการลกู เสอื

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เม่ือพระชนมายุได้ 13
พรรษา ได้เสด็จไปทรงศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ ทวีปยุโรป ระหว่างท่ีทรง
ศึกษาอยู่นั้น ได้ทรงทราบเรื่องการสู้รบเพื่อรักษาเมืองมาฟิคิง (Mafeking)
ของ ลอร์ดเบเดน โพเอลล์ (Lord Baden Powell) ซึ่งได้ต้ังกองทหารเด็ก
เป็นหน่วยสอดแนมช่วยรบในการรบกับพวกบัวร์ (Boar) จนประสบผลสา
เร็จ และได้ต้ังกองลูกเสือขึ้นเป็นคร้ังแรกของโลก ท่ีประเทศอังกฤษ เม่ือ
พ.ศ. 2450 เมื่อพระองค์เสด็จนิวัติสู่ประเทศไทย ก็ได้ทรงจัดตั้งกองเสือป่า
(Wild Tiger Corps) ขึ้น เมื่อวันท่ี 6 พฤษภาคม 2454 มีจุดมุ่งหมายเพื่อ
ฝึกหัดให้ข้าราชการและพลเรือนได้เรียนรู้วิชาทหาร เพ่ือเป็นคุณประโยชน์
ต่อบ้านเมือง รู้จักระเบียบวินัย มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา
และพระมหากษัตริย์ ต่อจากนั้นอกี 2 เดือน ก็ได้พระราชทานกาเนิดลูกเสือ
ไทยข้ึนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2454 ด้วยทรงมีพระราชปรารภว่า เม่ือฝึก
ผู้ใหญ่เป็นเสือป่า เพื่อเตรียมพร้อมในการช่วยเหลือชาติบ้านเมืองแล้ว เห็น
ควรที่จะมีการฝึกเด็กชายปฐมวัยให้มีความรู้ทางเสือป่าด้วย เม่ือเติบโตขึ้น

จะไดร้ ู้จกั หน้าทแ่ี ละประพฤตติ นให้เป็นประโยชน์ต่อชาตบิ า้ น เมือง จากนั้น
ทรงต้ังกองลูกเสือกองแรกขึ้นท่ีโรงเรียนมหาดเล็กหลวง (โรงเรียนวชิราวุธ
ในปัจจุบัน) และจัดต้ังกองลูกเสือตามโรงเรียน ต่าง ๆ ให้กาหนดข้อบังคับ
ลักษณะปกครองลูกเสือข้ึน รวมท้ังพระราชทาน คาขวัญให้ลูกเสือว่า
“เสียชีพ อย่าเสยี สัตย์ ”

นายชพั ท์ บนุ นาค
ผู้ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นลูกเสือไทยคนแรก คือ นายชัพท์ บุนนาค ซึ่ง
ต่อมา ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “นายลิขิตสารสนอง” ปี พ.ศ.
2463 ได้จัดส่งผู้แทนคณะลูกเสือไทย จานวน 4 คน ไปร่วมงานชุมนุม
ลูกเสือโลก ครั้งท่ี 1 (1st World Scout Jamboree) ซึ่งจัดเป็นครั้งแรก
ของโลก ณ อาคารโอลิมเปีย กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี พ.ศ. 2465
คณะลกู เสือไทย ไดส้ มัครเขา้ เปน็ สมาชกิ ของสมัชชาลกู เสือโลก ซ่งึ ขณะนน้ั มี

สมาชกิ รวมทง้ั สิน้ 31 ประเทศ ประเทศท้ัง 31 ประเทศนี้ นับเป็นสมาชิกรนุ่
แรก หรือสมาชิกผู้ก่อการจัดต้ัง (Foundation Members) สมัชชาลูกเสือ
โลกขน้ึ มา ปี พ.ศ. 2467 ได้จัดส่งผูแ้ ทนคณะลกู เสอื ไทย 10 คน ไปร่วมงาน
ชมุ นุมลกู เสอื โลก ครัง้ ท่ี 2 ณ ประเทศเดนมารก์

ลกู เสือโลก เกิดครง้ั แรก ที่องั กฤษ
เปน็ แนวคดิ เตรยี มคนไว้ เปน็ ทหาร
ลอรด์ บาเดน วางแนวคดิ ทุกกจิ การ
โลกสบื สาน แพรห่ ลายไป ท่วั ธาตรี
วันลกู เสอื แหง่ ชาติ 1 กรกฎา
องคร์ าชา ทรงกอ่ ตง้ั เสริมศกั ดศ์ิ รี
รชั กาลที่ 6 พระประสงค์ ไทยสามัคคี
สุขเปรมปรดี ิ์ มีนา้ ใจ รแู้ บง่ ปนั

ลกู เสือไทย คนแรกชอื่ “ชัพน์ บนุ นาค”
เรอื่ งดมี าก การลกู เสือ ไทยสรา้ งสรรค์
พระประมขุ สนบั สนุน สว่ นสาคญั
โลกลือลน่ั ลกู เสอื ไทย กา้ วหนา้ ไกล
คาปฏิญาณ เสยี ชพี อยา่ เสยี สตั ย์
มงุ่ มนั่ ชดั คาสัญญา ไม่หวนั่ ไหว
รกั ษค์ วามดี ดจุ ชวี ิต สดุ หวั ใจ
ปญั หาใด แกไ้ ขได้ ใหร้ ว่ มมอื
รว่ มรกั ษช์ าติ ศาสน์กษตั ริย์ เสียสละ
มธี รรมะ รบั ผดิ ชอบ นา่ เชือ่ ถือ
กตญั ญู มศี ลี ธรรม คนเล่ืองลอื
ผลลัพธค์ อื ชาตริ งุ่ เรอื ง นนั้ เรือ่ งจรงิ
มศี รทั ธา เปน็ พน่ี อ้ ง ของลกู เสือ
ร้เู ออ้ื เฟ้ือ ช่วยเหลอื กนั หลากหลายสงิ่
ทาประโยชน์ เพอื่ สงั คม นนั้ ดยี งิ่
ไมท่ อดทงิ้ อดุ มการณ์ ลกู เสือไทย

....................................................................

ประสาร ธาราพรรค์ รอ้ ยกรอง

ด้านจติ รกรรม

ภาพฝพี ระหตั ถ์รชั กาลที่ 6
ทรงส่งเสริมการวาดภาพฝาผนัง เช่น ทรงให้ทดลองเขียนภาพเทพ
ชุมนมุ ในหอ้ งพระเจ้า ณ พระทนี่ ่งั พมิ านในพระราชวังสนามจันทน์ กอ่ นทีจ่ ะ
นาไปวาดท่ฝี าผนังพระวหิ ารทศิ วัดพระปฐมเจดีย์ ทัง้ ยงั ทรงพระกรณุ าใหห้ า
ผู้เช่ียวชาญต่างประเทศด้านจิตรกรรมและประติมากรรม คือ
PROF.C.FEROCI หรือท่านศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรีเข้าเฝ้า เพ่ือส่งเสริม
ให้ศิลปินไทยได้เรียนรู้ศิลปะสากลขึ้น อันส่งผลต่อการพัฒนาแนวคิด

สร้างสรรค์ทางด้านศิลปะไทยส่วนพระองค์สนพระทัยในการวาดภาพล้อ
ทรงวาดภาพล้อไว้หลายชุด แล้วส่งไปพิมพ์ในหนังสือดุสิตสมิต ภาพล้อ
เหล่าน้ีถ้าเป็นภาพล้อผู้ใด ผู้นั้นก็จะซื้อในราคาสูง เงินค่าภาพล้อจะ
พระราชทานไปใช้ในกิจการกุศลทงั้ สิน้
ด้านวรรณกรรมและหนังสอื พมิ พ์

ทรงส่งเสริมให้มีการแต่งหนังสือ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
ตราพระราชบัญญัติวรรณคดีสโมสร สาหรับในด้านงานหนังสือพิมพ์ ทรง
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติสมุดเอกสาร พ.ศ.2465 ขึ้น
พระองค์ทรงมีอัจฉริยะทางด้านการประพันธ์สูงย่ิงสามารถทรงงานเขียนได้
หลากหลายรูปแบบ ซึ่งพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว ที่นามาใช้เป็นแบบเรียนมีมงคลสูตร พระนลคาหลวง ธรรมา
ธรรมะสงคราม มทั ธนะพาธา สาวิตรี ตามใจท่าน และทรงมีนามปากกา ใน
การ พระราชนิพนธ์ถึง 37 นามปากกา อาทิ ศรีอยุธยา พระขรรค์เพชร
อศั วพาหุ ฯลฯ

งานช้ินแรกที่ทาให้พระองค์ทรงมีช่ือเสียงคือได้ทรงพระราชนิพนธ์
ประวัติศาสตร์ชิ้นหน่ึงเป็นภาษาอังกฤษ ช่ือ THE POLISH SUCCESSION
ออกจาหน่ายอย่างกว้างขวางและทรงริเร่ิมออกนิตยสารภาษาไทยสาหรับ
คนไทยในอังกฤษช่ือ “สามคั คีสาร” เปน็ ทแี่ พร่หลายในหม่คู นไทยเป็นอย่าง
มาก เสด็จฯนิวตั ิกลับประเทศไทยเมอ่ื ปี พ.ศ.2445 รวมเวลาทป่ี ระทับอยู่ใน
ประเทศองั กฤษถงึ 9 ปี

ระหว่างท่ียังทรงพระยศเป็นพระบรมโอรสาธิราชประทับท่ีวังสราญ
รมย์ได้ทรงริเริ่มออกหนังสือรายเดือน ชื่อ “ทวีปัญญา” ข้ึนเม่ือ พ.ศ.2447
ทรงมีพระราชนิพนธ์บทความและเรื่องราวต่าง ๆ ลงพิมพ์โดยทรงใช้พระ
นามาภิไธยบ้าง พระนามแฝงบ้าง เช่น นายแก้วนายขวญั พันแหลม ฯลฯ

ในระหว่างท่ีทรงครองราชย์ได้ทรงปรับปรุงการใช้ภาษาไทยเป็นการ
ใหญ่ทรงเปน็ ผูน้ าในการใช้ภาษาไทย เมื่อมีผู้ใช้ผิด ๆ ก็จะทรงทักท้วงทั้งกับ
ผู้ใช้โดยตรงหรือโดยทางอ้อม ทรงมีพระราชนิพนธ์วรรณกรรมต่าง ๆ ไว้
มากกว่า 200 เรื่อง ทั้งร้อยแก้ว บทกวี คาประพันธ์ ประเภท โคลง ฉันท์
กาพย์ กลอน ลิลิต และบทละคร ทรง พระราชนิพนธ์เรื่อง พญาราชวังสัน
พระร่วง เรื่อง ท้าวแสนปม เร่ือง เวนิสวาณิช ซึ่งทรงแปลจากเรื่องของ
นักเขียนช่ือดังของโลกชาวอังกฤษ ชื่อ วิลเลียม เช็กสเปียร์ และพระราช
นิพนธ์ออกมาเป็นกลอนอย่างไพเราะอย่างยิ่งชนิดคาต่อคาก็ว่าได้รวมทั้ง
เรื่อง มัทนะพาธา หรือตานานดอกกุหลาบซึ่งพระราชทานนิพนธ์เป็นกาพย์
และฉันท์ เร่ือง ศกุณตลา วิวาห์พระสมุทร หนามยอกเอาหนามบ่ง หัวใจ
นักรบและอื่น ๆ รวมท้ังละคร นาฏศิลป์ และโขนเป็นตอน ๆ ชนิดที่ไม่มีรัต
นกวีใดเคยกระทาได้มาก่อน

เน่อื งจากก่อนหน้านั้นเปน็ ยคุ ที่ความรงุ่ เรอื่ งในดา้ นต่าง ๆ จากตา่ งชาติ
แพร่เข้ามาในประเทศเป็นอย่างมาก จึงมีคาแปลก ๆ ท่ีใช้กันทับศัพท์ภาษา

ฝร่งั เชน่ คาว่า รถมอเตอรค์ าร์โปสตอ์ อฟฟิศ โปลิสสเตช่นั โรงการด์ นคิ เนม
สเคตตารี่ ฯลฯ พระองค์ได้ทรงใช้ภาษาไทยโดยอาศัยความรู้ด้านบาลีและ
สันสกฤตท่ีทรงศึกษามาประกอบเป็น “รถยนต์” “ที่ทาการไปรษณีย์”
“สถานีตารวจ” “กองรักษาการณ์” “นามแฝง” และ “เลขานุการ” ทาให้
ผอู้ ืน่ ใชต้ ามในภายหลัง

พระองค์ไดท้ รงใช้คาใหมท่ ่ไี ม่เคยมีมาก่อน เชน่ อหวิ าตกโรค ไขท้ รพษิ
กาฬโรค สหกรณ์ หอพระสมุด มหรสพ เคร่ืองบิน อินทรธนู อนุบาล
กระทรวงนครบาล (แทนคาว่ากระทรวงเมือง) กรมชลประทาน (แทนคาว่า
กรมทดนา้ ) ทรงใหใ้ ช้พทุ ธศักราช แทน “รัตนโกสนิ ทร์ศก” และใช้ นาง กับ
นางสาว แทนคาวา่ “อาแดง”

ความรอบรู้ในภาษาบาลี และพระอัจฉริยะในการพระราชนิพนธ์คา
ฉันท์ที่เห็นได้ชัดเจนคือคาสวดมนต์บทนมัสการคุณานุคุณของสมเด็จพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระราชทานช่ือบทคาฉันท์น้ีว่า “มนต์นักรบสยาม”
สาหรับกองทหารเสือป่าและลูกเสือสวดมนต์ในเวลาค่า ได้แก่บทถวายพร
พระหรือพาหุง 8 บท ซึ่งได้ทรงถอดคาฉันท์ภาษามคธมาเป็นคาฉันท์
ภาษาไทยอย่างสมบรู ณ์และไพเราะใช้มาจนทุกวนั น้ี
บทพระราชนพิ นธท์ น่ี ับว่าแปลกและดีเดน่ มากอกี เรอ่ื งหนงึ่ คอื เรอื่ ง “พระนล
คาหลวง” เพราะทรงรวมเอาคาประพันธ์ไว้ในท่ีเดียวกันอย่างครบถ้วน ทั้ง
โคลง ฉนั ท์ กาพย์ และกลอน อยา่ งท่ไี มเ่ คยมีกวีผใู้ ดประพันธ์มาก่อน

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ไว้หลายด้าน
อาทิ

ประเภทวรรณคดี –พระนลคาหลวง นารายณ์สิบปาง ศกุนตลา
มทั นะพาธา ฯลฯ
ประเภทบทละคร -หัวใจนักรบ พระร่วง โรมิโอและจูเลียต ตามใจท่าน
เวนิชวาณิช ฯลฯ

ประเภทธรรมะ -เทศนาเสือป่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร พระบรม
ราโชวาทในงานวสิ าข บชู า ฯลฯ

ประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดี – เท่ียวเมืองพระร่วง สันนิษฐาน
เร่ืองพระรว่ ง เที่ยวเมืองอยี ปิ ต์ สันนษิ ฐานเรอื่ งท้าวแสนปม ฯลฯ

ประเภททหาร -การสงครามป้อมค่ายประชิด พันแหลม ความเจริญ
แหง่ ปนื ฯลฯ

ประเภทปลุกใจรักชาติ -เมืองไทยจงต่ืนเถิด ยิวแห่งบูรพาทิศ
ปลกุ ใจเสอื ปา่ โคลนติดล้อ ลทั ธิเอาอย่าง

ประเภทนทิ าน -นทิ านทองอิน นิทานทหารเรือ นทิ านชวนขัน ฯลฯ
ประเภทกฎหมาย -กฎหมายทะเล หวั ข้อกฎหมายนานาประเทศแผนก
คดเี มอื ง

ประเภทการเมือง -ความกระจัดกระจายแห่งเมืองจีน การจราจลใน
รัสเซีย ปกณิ กคดขี องอัศวพาหุ ประเภทสขุ วิทยา – กนั ป่วย
ด้านการแพทยแ์ ละสาธารณสุข

วชิรพยาบาล
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ต้ัง วชิรพยาบาล เม่ือ พ.ศ. 2455
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยใช้ทุนส่วนพระองค์เม่ือ พ.ศ. 2457เพื่อ
รักษาพยาบาลประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ทรงเปิดสถานเสาวภา เม่ือวันท่ี
7 ธันวาคม พ.ศ. 2465 เพื่อผลิตวัคซีนและเซรุ่ม เป็นประโยชน์ท้ังแก่
ประชาชนชาวไทยและประเทศใกล้เคียงอีกด้วย ทรงเปิดการประปา
กรุงเทพฯ เมอ่ื วันที่ 14 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2457

ด้านการรเิ รมิ่ เปลย่ี นแปลงแกไ้ ขให้เหมาะกบั ยคุ สมยั

ในสมัยรัชกาลท่ี 6 ได้โปรดให้เปล่ียนแปลงแก้ไขขนบประเพณีของ
บ้านเมืองให้เหมาะสมสอดคล้องกับหลักสากล ทรงริเริ่มเพื่อความ
เจริญกา้ วหนา้ ทันยุคสมยั ดังน้ี
- ตราพระราชบัญญัตินามสกุล ทรงเห็นว่าชาติที่เจริญแล้วย่อมมีช่ือ
สกุลเป็นหลักฐาน หลักฐานเคร่ืองช่วยกาหนดบุคคลแต่ละคน การเรียกชื่อ
เพยี งอย่างเดยี วอาจสบั สนวุ่นวายได้ทรงตราพระราชบัญญัตนิ ามสกลุ ขนึ้ เมอ่ื
วันท่ี 22 มนี าคม พ.ศ. 2445 ทรงประกาศใชว้ ันท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2456
เมษายน พ.ศ. 2456 ตามทางสุริยคติ เป็นวันขึ้นปีใหม่และเปลี่ยนศักราช
ราชการ พ.ศ. ใหม่ พรอ้ มกบั ใหใ้ ช้คา “ไชโย” แทนคา”โฮ่หิว้ ” -

ทรงใหก้ าเนดิ ธงชาติ และพระราชทานนามว่าธงไตรรงค์ หรือธงสามสี

คือ สีแดง สีขาว และสีน้าเงิน ทรงตราเป็นพระราชบัญญัติธงพุทธศักราช
2460

- กาหนดคานาหน้าสตรีและเด็ก ตามพระราชกฤษฎีกา พ.ศ. 2460
ให้สตรีโสดใช้คานาหน้าตนว่า “นางสาว” เม่ือมีสามีแล้วให้ใช้คาว่า “นาง”
ส่วนคาว่า “เด็กชาย” “เด็กหญิง” โปรดให้กาหนดไว้ในกฤษฎีกาปี พ.ศ.
2464

- เปล่ียนแปลงการนับเวลา ทรงเห็นว่า การนับเวลาแบบทุ่มโมงไม่
สะดวกแก่วงการธรุ กิจ จงึ โปรดให้เปล่ียนตามสากล ให้ถือเวลาเที่ยงคืนเป็น
วนใหม่ และระยะเวลาทุม่ โมงให้เปลย่ี นเป็นนาฬกิ า
- ตรากฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ มีการห้ามราชนารี
เสด็จขึน้ ครองราชย์
ดา้ นเศรษฐกิจ

ธนาคารออมสิน “แบงคล์ ีฟอเทยี ” ต้นแบบการออม

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 6 ทรงเห็น
คุณประโยชน์ของการออมทรัพย์ เพื่อให้ประชาชนรู้จักการประหยัด การ
เก็บออม มีสถานที่เก็บรักษาทรัพย์สินเงินทองของประชาชน ให้ปลอดภัย
จากโจรผู้ร้าย จึงทรง ริเร่ิมจัดต้ังคลังออมสินทดลองขึ้น โดยทรง
พระราชทานนามแบงค์ว่า “ลีฟอเทีย” ในปี พ.ศ. 2450 เพ่ือทรงใช้ศึกษา
และสารวจนสิ ัยคนไทยในการออมเบอื้ งตน้ พระองคท์ รงเขา้ ใจในราษฎรของ
พระองค์และทรงทราบดีว่าควรใช้ กุศโลบายใดอันจะจูงใจคนไทยให้
มองเห็นความสาคญั ของการออมเพ่อื ให้คลงั ออมสนิ ไดเ้ ป็นประโยชน์เก้ือกูล
เผ่ือแผ่ไปถึงราษฎรโดยท่ัวกัน พระองค์จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
ดาเนินการจัดต้ัง “คลังออมสิน” ขึ้นในสังกัด กรมพระคลังมหาสมบัติ
กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และพระราชทานพระบรมราชานุญาต
ประกาศใช้ “พระราชบัญญัติคลังออมสิน พ.ศ.2456” ประกาศใช้ในวันที่
1 เมษายน พ.ศ. 2456

ตราสญั ลักษณธ์ นาคารออมสนิ

ตราสัญลักษณ์ของธนาคารออมสิน เป็นรูปวงกลม ภายในแบ่ง
ออกเป็นสามส่วน แต่ละส่วนประกอบด้วย วชิราวุธ เบญจปฎลเศวตฉัตร
(ฉตั รหา้ ชั้น) และตน้ ไทร อนั มคี วามหมายดงั ต่อไปนี้

- วชิราวธุ เปน็ เครอื่ งหมายประจาพระองค์ พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎ
เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6ผู้ทรงพระราชทานกาเนิดคลังออมสินขึ้นใน
ประเทศไทย

- เบญจปฎลเศวตฉัตร เป็นเครื่องหมายประจาพระองค์ พลเอกพระ
เจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า บุรฉัตรไชยากร กรมพระกาแพงเพ็ชรอัคร
โยธิน ผู้ทรงวางรากฐาน และทานุบารุงกิจการธนาคารออมสินให้มีความ
เจรญิ ก้าวหน้า

- ต้นไทร หมายถึงความร่มเย็น ความม่ันคง และความเจริญงอกงาม
ตลอดกาล

ตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมาธนาคารออมสินได้เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง
พัฒนาระบบการดาเนินงานและการบริการในทุกด้านอย่างเป็น พลวัตร
ธนาคารจงึ ไดป้ รบั ตวั ให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อรักษาฐานลูกค้ามากกว่า 26
ล้านบัญชี โดยระดมทรัพยากรในทุกด้าน เตรียมการเพื่อปรับปรุง
ภาพลักษณ์ และรูปแบบการให้บริการท่ีทันสมัยและครบวงจรย่ิงขึ้น เพ่ือ
รองรับการให้บริการท่ีสอดคล้องต่อความต้องการและครอบคลุมทุกกลุ่ม
ทุกอาชีพ และทุกช่วงวัย ธนาคารออสินมีอายุครบ 100 ปี เม่ือวันที่ 1
เมษายน 2556

เหตกุ ารณส์ าคัญในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หัว

เหตุการณ์สาคัญในประเทศไทยในพระชนมชีพของ พระบาทสมเด็จพระ
มงกฎุ เกล้าเจา้ อย่หู ัว (รชั กาลที่ 6)

พ.ศ. 2423วนั ที่ 1 มกราคม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประสูติ มีพระนามเดมิ วา่ เจ้าฟา้ มหาวชริ าวุธ

พ.ศ. 2431 เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธได้รับการสถาปนาเป็น กรมขุนเทพ
ทวาราวดี

พ.ศ. 2436 เสด็จฯไปทรงศึกษาด้านนิติศาสตร์ อักษรศาสตร์ และ
ประวัติศาสตร์ ท่ีมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด และวิชาการทหาร ท่ีโรงเรียน
นายร้อยแซนเฮิร์สต์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2436
ขณะน้ันพระชนมายุได้ 12 พรรษา เป็นระยะเวลา 9 ปี และได้เสด็จกลับ
จากอังกฤษผา่ นสหรฐั อเมรกิ าและญ่ีปุ่น

พ.ศ. 2437 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยาม
มกุฎราชกุมาร รัชทายาทเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยูห่ ัวจงึ โปรดเกลา้ ฯ สถาปนากรมขุนเทพทวาราวดเี ปน็ สมเดจ็ พระบรม
โอรสาธริ าช เจ้าฟา้ มหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกมุ าร สืบแทน

พ.ศ. 2447 เสด็จเยือนนครเชียงใหม่ โดยข้ึนรถไฟไปลงท่ีปากน้าโพ
แล้วต่อเรือล่องแก่ง ผ่านเมืองตากขึ้นไปถึงเชียงใหม่ ในการเสด็จฯ เยือน
เชยี งใหม่น้ไี ดม้ ีการสถาปนาโรงเรยี นปรินสร์ อยแยลส์วิทยาลยั และ โรงเรียน
ยพุ ราชวทิ ยาลัย เมือ่ วันท่ี 2 มกราคม พ.ศ. 2447

พระราชวงั สนามจันทร์

พ.ศ. 2450 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังสนามจันทร์ท่ี
นครปฐม

พ.ศ. 2452 เสดจ็ ฯ เยอื นเมืองสวรรคโลก เสด็จฯเยือนหวั เมอื งปกั ษ์ใต้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวัง
พญาไท

พ.ศ. 2453พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
บรรดาเชื้อพระวงศ์และข้าราชการชั้นสูงพร้อมใจกันอัญเชิญ สมเด็จพระ
บรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟ้ามหาวชิราวธุ สยามมกุฎราชกมุ าร ข้นึ ครองราชย์เปน็
รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี พระนามว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจา้ อยู่หวั ปรับปรงุ ระเบยี บการป้องกันพระราชอาณาจักร เมือ่ 10 ธนั วาคม

พ.ศ. 2453 กล่าวคือ ยุบเลิกกรมยุทธนาธิการ ให้ไปรวมกับ
กระทรวงกลาโหม ยกกรมทหารเรือเป็นกระทรวงทหารเรือ ตั้งยศจอมพล
โดยพระราชทานให้ สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษี
สว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช (สมเด็จวังบูรพา) เป็นองค์ปฐม
ให้ใช้คาว่า จอมทัพ แทนคาว่า จอมพล ซึ่งได้ใช้แทนยศท่ีเหนือกว่าพลเอก
ตั้งสภาป้องกันพระราชอาณาจักร (ต้นรากแห่งสานักงานสภาความมั่นคง
แห่งชาติ) ตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวง (วชิราวุธวิทยาลัย) เม่ือ 29 ธันวาคม

พ.ศ. 2453 ยกฐานะโรงเรียนมหาดเล็ก เป็นโรงเรียนข้าราชการพล
เรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั ซงึ่ ตอ่ มาคอื จฬุ าลงกรณ์
มหาวทิ ยาลัย เม่ือ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2453

เกิดภาวะวกิ ฤติทางการเงินที่ธนาคารสยามกัมมาจลทุนจากัด จนต้อง
ปลดผู้จัดการธนาคารสยามกัลมาจล ที่เป็นคนไทยออกไป ฐานก่อความ
วุ่นวายทางการเงินของธนาคารโดยการปล่อยกู้ไม่รู้ประมาณ แล้วยึด
สวนสาธารณะซ่ึงเป็นที่ของผู้จัดการธนาคารสยามกัลมาจลเพ่ือชาระหนี้
ก่อนให้ นาย ปี. ชวาซ์ ผู้จัดการแผนกต่างประเทศซ่ึงเป็นปรัสเซีย เข้าทา
หน้าที่แทนโดยนากาไรจากแผนกต่างประเทศ มาแซมทุนพอแก้ไขภาวะ
วกิ ฤตทางการเงินไปได้

พ.ศ. 24541 พฤษภาคม โปรดเกล้าฯ ใหต้ ง้ั กองเสอื ป่าซง่ึ เป็นรากฐาน
ของกรมการรักษาดินแดน หรือ หน่วยบัญชาการกาลังสารองในปัจจุบัน
1 กรกฎาคม โปรดเกล้าฯ ใหต้ ั้งกองลูกเสือ

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก รัชกาลท่ี 6
11 พฤศจิกายน จัดพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก มีการเชิญราชวงศ์จาก
ยุโรปและญ่ีปุ่นให้เสด็จมาทรงร่วมการพระราชพิธีในกรุงสยาม นับเป็นการ
รบั พระราชอาคันตกุ ะจานวนมาก เป็นคร้ังย่ิงใหญ่ครง้ั แรกของประเทศ เกิด
ร.ศ. 130 เพื่อเปล่ียนแปลงการปกครอง และหากไม่สามารถดาเนินการได้
สาเร็จก็ต้องการลอบปลงพระชนม์
26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2454 สามารถจับกุมควบคุมสถานการณ์ได้ ทรง
ริเริ่มการศึกษาพระปริยัติธรรมใหม่ขึ้นอีกหลักสูตรหน่ึง เรียกว่า "นักธรรม"
โดยมีการสอบครั้งแรกเม่ือ เดือนตุลาคม 2454 ตอนแรกเรียกว่า "องค์ของ
สามเณรรู้ธรรม"สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้าฯ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรง
เปลี่ยนวิธีการสอบบาลีสนามหลวงจากปากเปล่ามาเป็นข้อเขียน เป็นครั้ง
แรก
พ.ศ. 2455 โปรดเกล้าฯ ใหเ้ ปลี่ยนมาใชพ้ ทุ ธศักราช (พ.ศ.) ในราชการ
แทนรัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) มผี ลบังคับใช้เมอื่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456

พ.ศ. 2456 จัดต้ังคลังออมสิน เม่ือ 1 เมษายน 2456 ต้นรากแห่ง
ธนาคารออมสิน ตราพระราชบัญญัตินามสกุล เกิดภาวะวิกฤตทางการเงิน
เนื่องจากแบงค์จีนสยามทุนล้มละลาย ทาให้ฐานะทางการเงินของธนาคาร
สยามกมั มาจลและ บรรดาโรงสขี า้ วตกอยู่ในภาวะคบั ขนั

พ.ศ. 2457 เป็นปีสถาปนากองบินทหารบก ซ่ึงเป็นรากฐานของ
กองทัพอากาศไทยในปัจจุบนั ตงั้ กองบนิ ขนึ้ ในกองทัพบก เร่ิมสร้างสนามบิน
ดอนเมือง เปิดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต้ัง วชิรพยาบาล ต้ังโรงเรียน
พยาบาลของสภากาชาดไทย เริม่ ให้บริการน้าประปา ตั้งเนติบณั ฑิตยสภา มี
พระบรมราชานุมัติให้กู้ยืมเงินเพ่ือสร้างทางรถไฟสายใต้ จากรัฐบาลสหรัฐ
มลายู

พ.ศ. 2458 เสดจ็ ฯ เยือนหัวเมอื งปักษใ์ ต้ คร้ังแรกหลงั จากเสวยราชย์
พ.ศ. 2459 1 เมษายน เลิกหวย ก.ข. 26 กุมภาพันธ์ ทดลองจัดต้ัง
สหกรณ์เป็นแห่งแรก ท่ี วัดจันทร์ จังหวัดพิษณุโลก 1 เมษายน ทางรถไฟ
สายใต้เช่ือมกันตลอด ที่ชุมพร 25 มิถุนายน เปิดสถานีรถไฟหลวงกรุงเทพ
26 มีนาคม สถาปนาจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย

พ.ศ. 2460 ธงชาติสยามเปลีย่ นจากธงชา้ งเผือกมาเปน็ ธงไตรรงค์อย่าง
สมบูรณ์

22 กรกฎาคม ทรงประกาศเข้าร่วมสงครามโลกครั้งท่ี 1 กับฝ่าย
สมั พันธมิตรทาสงครามกับฝ่ายมหาอานาจ เกิดเหตุน้าท่วมปีมะเส็ง ตั้งกรม
มหาวิทยาลยั เลิกการพนันบ่อนเบ้ีย เปลี่ยนแปลงการนับเวลาให้สอดคล้อง
กับสากล คือใช้คาว่า ก่อนเท่ียง (ก.ท. -AM) และหลังเที่ยง (ล.ท. -PM)
แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติการเกณฑ์ทหาร กาหนดคานาหน้านามสตรี
จากอาแดงเปน็ นางและ นางสาวตามธรรมเนียมสากล ออกพระราชบัญญัติ
ห้ามส่งเงนิ แท่งและเหรียญบาทออกนอกประเทศ

พ.ศ. 2461 6 เมษายน เปลี่ยนนามพระพุทธปรางค์ปราสาท เป็น
ปราสาทพระเทพบิดร ต้ังดุสิตธานี ทดลองการปกครองตนเองตามระบอบ
ประชาธิปไตย พร้อมออกหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิต และ ดุสิตสมัย ตรา
ธรรมนูญลักษณะการปกครองคณะ นคราภิบาล ตราพระราชบัญญัติ
โรงเรยี นราษฎร์ ฉบบั แรก ตั้งกรมสาธารณสุข ในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็น
ตน้ รากแหง่ กระทรวงสาธารณสขุ ขุดอโุ มงคข์ ุนตานทะลถุ ึงกนั สาเรจ็ เริ่มใช้
ธนบตั ร 1 บาท ตราครฑุ แทนการใช้เหรียญกษาปณ์เงนิ 1 บาท
1 กรกฎาคม รถไฟหลวงสายใต้ เปดิ เดินไดถ้ งึ ปาดังเบซาร์

พ.ศ. 2462 ทหารอาสาของไทย ร่วมเดนิ สวนสนามสวนสนามฉลองชัย
ชนะ ในสงครามโลกคร้ังท่ี 1 ท่ีประตูชัย ณ นครปารีส วันที่ 14 กรกฎาคม
พ.ศ. 2462 ประกาศให้ วันท่ี 6 เมษายนเป็นวันจักรี และ ให้ถือว่าเป็นวัน
ชาติในยุคสมบูรณาญาสิทธิราช วางระเบียบการเรียกเก็บเงินรัชชูปการ ซ่ึง
เป็นการเสียเงินปีละ 6 บาท ในยุคที่ข้าวสารถังละ 50 สตางค์ เร่ิมการใช้
เวลามาตรฐาน เกิดภาวะฝนแล้ง ทาให้ข้าวตายเป็นจานวนมาก ถึงข้ันต้อง
ขุดหัวมัน หัวเผือก หัวกลอย กินประทังชีวิต จนรัฐบาลต้องประกาศ พระ
ราชกาหนดห้ามการสง่ ออกข้าวไปตา่ งประเทศ

20 ตุลาคม สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนี
พนั ปหี ลวง เสด็จสวรรคต ณ วังพญาไท โปรดเกล้าฯใหพ้ ิมพ์คัมภรี ์อรรถกถา
แห่งพระไตรปิฎกและอรรถกถาชาดก และคัมภีร์อ่ืน ๆ เช่นวิสุทธิมรรค มิลิ
นทปัญหา เป็นต้น ทรงนิพนธ์หนังสือแสดงหลักคeสอนในพระพุทธศาสนา
หลายเร่อื ง เช่น เทศนาเสือปา่ พระพุทธเจ้าตรัสร้อู ะไร

พ.ศ. 2463 แก้ไขสนธิสัญญาใหม่กับสหรัฐอเมริกาสาเร็จเป็นประเทศ
แรก เปิดการขนส่งไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศระหว่าง กรุงเทพ -
นครราชสีมา สตรีในพระราชสานัก เร่ิมนุ่งซ่ิน ไว้ผมยาว ตั้งกระทรวง
พาณชิ ย์

สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ จักรพงษภ์ วู นาถ

สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอผู้ทรงเป็นพระรัชทายาท (สมเด็จพระเจ้า
บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ) เสด็จ
ทวิ งคตจากอาการไข้หวดั ใหญ่
พระเจา้ พ่ยี าเธอ กรมหลวงราชบรุ ดี ิเรกฤทธ์ิ (พระบิดาแหง่ กฎหมายไทย)

พ.ศ. 2464 ตราพระราชบัญญัติประถมศึกษา ฉบับแรก บังคับใช้ 25
พฤศจิกายน พ.ศ. 2464 กาหนดคานาหน้านาม เด็ก เป็นเด็กชาย เด็กหญิง
รถไฟหลวงสายใต้ เปดิ เดินไดถ้ ึงสไุ หงโกลก รถไฟหลวงสายเหนอื เปิดเดินได้
ถึงเชียงใหม่ โปรดฯ ให้จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษี
สวา่ งวงศ์ กรมพระยาภาณพุ ันธวุ งศว์ รเดช และ กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ
เสด็จประกอบพิธีเริ่มการก่อสร้างทางรถไฟ สายตะวันออก ที่สถานีแปดร้ิว
สภากาชาดไทยสมัครเข้าเปน็ สมาชิกสนั นบิ าตสภากาชาด

พ.ศ. 2465 เริ่มก่อสร้างสะพานพระราม 6 ตราข้อบังคับลักษณะการ
ปกครองหวั เมืองช่วั คราว สถาปนากรมตารวจ เปิดสถานเสาวภา หลังจากที่
ได้พระราชทานนามใหมแ่ ทนช่ือเดมิ ว่า "ปาสตุรสภา"

พ.ศ. 2466ประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้ังสถานี
อนามัย แกไ้ ขสนธิสัญญาใหมก่ บั ญปี่ ุ่นสาเร็จเปน็ ประเทศท่ี 2 สมเดจ็ พระเจา้
บรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ
เสนาบดีกระทรวงต่างประเทศ ส้ินพระชนม์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์
เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สิ้นพระชนม์สมเด็จ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย
เสดจ็ ทิวงคต

พ.ศ. 2467 เสด็จเยือนสหรัฐมลายูและสิงค์โปร์โดยทางรถไฟพร้อม
ด้วยเจ้าจอมสุวัทนา (ต่อมาคือพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี) ส่งคณะ
ทตู พิเศษนาโดยพระยากลั ยาณไมตรไี ปเจรจาแก้ไขสนธิสัญญากับนานาชาติ
ตรากฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันติวงศ์ พ.ศ. 2467 พระราชทาน
อภยั โทษใหป้ ลอ่ ยนกั โทษคดีกบฏ ร.ศ. 130 ปัญหางบประมาณขาดดลุ ยงั ไม่
บรรเทา จาเป็นต้องกู้เงินเพ่ิมอีก 3 ล้านปอนด์ ดอกเบ้ียร้อยละ 6 ต่อปี ทา
ให้ต้องเริ่มกระบวนการตัดทอนงบประมาณ และลดจานวนข้าราชการ
ออกไป อย่างนอ้ ยร้อยละ 10 พ.ศ. 2468 มีพระราชพนิ ยั กรรม

พระนางเจ้าสวุ ทั นา พระวรราชเทวี ประสตู ิ
สมเดจ็ พระเจา้ ภคนิ เี ธอ เจ้าฟา้ เพชรรตั นราชสดุ า สริ ิโสภาพณั ณวดี
วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 พระนางเจ้าสุวัทนา พระวร
ราชเทวี ประสูติ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริ
โสภาพณั ณวดี พระราชธิดาพระองคเ์ ดยี วในรชั กาลที่ 6
26 พฤศจิกายน รัชกาลท่ี 6 เสด็จสวรรคต เม่อื เวลา 7 ทุ่ม 45 นาที (1
นาฬิกา 45 นาที) หลังจากท่ีทรงพระประชวรด้วยอาการพระอันตะ (ลาไส้)
ทะลุ จากแผลผ่าตัดพระนาภีท่ีเกิดอาการอักเสบข้ันทะลุบริเวณพระนาภี
(ผวิ หนงั หนา้ ท้อง) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยหู่ วั ทรงบรรจุพระบรม
ราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ไว้ใต้ฐานพุทธ
บลั ลงั ก์ พระพทุ ธชินสหี ์ พระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร และ
ใต้ฐาน พระรว่ งโรจนฤทธ์ิ ณ พระวหิ ารด้านทิศเหนือ พระปฐมเจดยี ์ จงั หวัด
นครปฐม เมอื่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2469

พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัวเสดจ็ สวรรคต

พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระประชวรพระโรคพระ
โลหิตเป็นพิษในพระอุทรต้ังแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2468 ทรงพระ
ประชวรหนักและมีพระอาการรุนแรงขึ้น ในยามน้ันพระองค์ประทับ ณ
พระที่น่ังจักรพรรดิพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง จึงทรงพระกรุณาโปรด
เกล้าฯ ให้พระนางเจา้ สวุ ทั นา พระวรราชเทวปี ระทบั ณ พระท่นี ั่งเทพสถาน
พิลาส ซึง่ ตดิ กบั พระที่นงั่ จกั รพรรดิพิมาน เพือ่ ทรงรอฟงั ขา่ วพระประสตู กิ าร
อยา่ งใกล้ชดิ จนกระทั่งพระนางเจ้าสุวัทนา มีพระประสูติการเจ้าฟ้าหญิงใน
วันท่ี 24 พฤศจิกายน จากน้ันในเวลาบ่าย เจ้าพระยารามราฆพ
(หมอ่ มหลวงเฟื้อ พึง่ บุญ) ได้เขา้ เฝ้าฯ กราบบงั คมทลู พระกรุณาว่า พระนาง

เจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ประสูติ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ” เมื่อความ
ทราบฝ่าละอองธุลพี ระบาทแล้ว มีพระราชดารสั วา่ “ก็ดีเหมือนกนั ”

พระนางเจ้าสวุ ทั นา และ เจา้ ฟา้ เพชรรตั นราชสดุ า

ในวนั พุธที่ 25 พฤศจกิ ายน เจ้าพระยารามราฆพ เชญิ เสด็จสมเด็จพระ
เจา้ ลูกเธอพระองค์นอ้ ยไปเฝ้าฯ สมเดจ็ พระบรมชนกนาถผทู้ รงพระประชวร
หนกั บนพระแท่น เม่อื ทอดพระเนตรแล้ว ทรงพยายามยกพระหตั ถข์ ึ้นสมั ผัส
พระราชธิดา แต่ก็ทรงอ่อนพระกาลังมากจนไม่สามารถจะทรงยกพระหัตถ์
ได้เน่ืองจากขณะนั้นมีพระอาการประชวรอยู่ในขั้นวิกฤต เจ้าพระยาราม
ราฆพจึงเชิญพระหัตถข์ ึน้ สมั ผัสพระราชธิดา เมื่อจะเชิญเสด็จพระราชกุมารี
กลับ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงโบกพระหัตถ์แสดง
พระราชประสงค์จะทอดพระเนตรพระราชธิดาอีกคร้ัง จึงเสด็จสมเด็จ
พระเจ้าลูกเธอมาเฝา้ ฯ เป็นคร้ังท่ีสอง และเป็นคร้ังสุดท้ายแห่งพระชนมชีพ
จนกลางดกึ คืนนัน้ เองก็เสด็จสวรรคต

เสด็จสวรรคต ณ พระท่ีน่ังจักรพรรดิพิมาน ภายใน
พระบรมมหาราชวัง เม่ือวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2468 เวลา 1 นาฬิกา
45 นาที เสด็จสวรรคต เม่ือเวลา 7 ทุ่ม 45 นาที (1 นาฬิกา 45 นาที) ของ

วันที่ 26 พฤศจิกายน ปีฉลู พ.ศ. 2468 หลังจากที่ทรงพระประชวรด้วย
อาการพระอันตะ (ลาไส้) ทะลุ จากแผลผ่าตัดพระนาภีที่เกิดอาการอักเสบ
ข้นั ทะลุบรเิ วณพระนาภี (ผิวหนังหน้าทอ้ ง)

พระทนี่ งั่ ดสุ ติ มหาปราสาท
อญั เชญิ พระบรมศพไปประดษิ ฐาน ณ พระที่น่ังดุสิตมหาปราสาทรวม
พระชนมพรรษาได้ 45 พรรษา และเสด็จดารงสิริราชสมบัติได้ 15 พรรษา
แต่รัชกาลที่ 7 มีพระราชประสงค์กาหนดวันสวรรคตของรัชกาลที่ 6 เป็น
วันที่ 25 พฤศจิกายน และถือว่าวันมหาธีรราชเจ้า ตรงกับวันที่ 25
พฤศจิกายน ส่วนพระบรมราชสรีรางคารได้เชิญไปประดิษฐาน ณ วัดบวร
นิเวศวิหาร และเชิญไปประดิษฐาน ณ พระปฤศฤางค์ พระร่วงโรจน์ฤทธ์ิ
สว่ นพระบรมอัฐิสว่ นหนึ่งเชิญไปประดิษฐาน ณ พระวิมานองค์กลาง พระที่
นั่งจักรีมหาปราสาท และ อีกส่วนหนึ่งเชิญไปประดิษฐาน ณ พระวิมาน

พระอัฐิ วงั รน่ื ฤดี ของ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริ
โสภาพัณณวดี พระราชธดิ าพระองคเ์ ดยี ว

สมเดจ็ พระเจ้าภคินเี ธอ เจา้ ฟ้าเพชรรตั นราชสดุ า สิริโสภาพัณณวดี
ส่วนพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวของพระองค์คือ สมเด็จพระเจ้า
ภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ประสูติเม่ือวันที่ 24
พฤศจิกายนพ.ศ. 2468 ได้รับพระราชทานพระนามจากพระบาทสมเด็จ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ เม่ือ
วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2468 โดยมีสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี
พระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า ทรงพระเมตตาเอาพระราชหฤทัยใส่ดูแลท้ังด้าน
พระอนามัยและความเป็นอยู่มาโดยตลอด ด้วยเม่ือพระบาทสมเด็จพระ
มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงพระประชวรหนักน้ัน ได้มีพระราชดารัสกับ

สมเดจ็ พระมาตจุ ฉาเจา้ ว่า “ขอฝากลูกดว้ ย”

พระนางเจ้าสวุ ทั นา พระวรราชเทวี

ต่อมาเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา พร้อมด้วยพระนางเจ้าสุวัทนา พระวร
ราชเทวี ได้เสด็จฯ ไปประทับท่ีประเทศอังกฤษตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 จนใน
ปี พ.ศ. 2501 ท้ังสองพระองคไ์ ด้เสดจ็ ฯ นิวตั ิกลับประเทศไทยเป็นการถาวร
และประทับที่วังรื่นฤดีร่วมกัน ท้ายท่ีสุด สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้า
เพชรรัตนราชสดุ า สริ ิโสภาพณั ณวดไี ดส้ น้ิ พระชนม์ด้วยพระอาการตดิ เชอ้ื ใน
กระแสพระโลหิตเม่ือวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.37
นาฬกิ า ณ ตกึ 84 ปี โรงพยาบาลศิรริ าช สริ พิ ระชนมายไุ ด้ 85 พรรษา

………………………………………………………

แหลง่ ขอ้ มูลอา้ งอิง

สมบตั ิ จาปาเงนิ . รัชกาลท่ี 6 พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจา้ อย่หู วั .
กรงุ เทพฯ: 2020 เวลิ ดม์ เี ดยี จากดั , 2542.

www.campus-star.com
www.parwat.com
www.sriayudhya.ac.th

www.vajiravudh.ac.th

http://www.dek-d.com
http://www.guru.google.co.th
http://www.gsb.or.th/about/
http://www.gsb.or.th/museum/evolution/history
http://www.learners.in.th/blogs/posts
https://www.matichon.co.th
http://www.memohall.chula.ac.th/article
https://norapontorn.wordpress.com
https://www.silpa-mag.com
https://www.msn.com
https://www.thairath.co.th
https://sites.google.com
https://teen.mthai.com
https://lifestyle.campus-star.com › knowledge
http://th.wikipedia.orgi
ขอขอบคณุ ขอ้ มลู และภาพจากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ


Click to View FlipBook Version