The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระราชประวัติ รัชกาลที่ 2 พัฒนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tharaphan.prasan, 2023-07-17 09:08:49

พระราชประวัติ รัชกาลที่ 2 พัฒนา

พระราชประวัติ รัชกาลที่ 2 พัฒนา

พ.ศ. 2357 โปรดเกล้าฯ ให้ส่งคณะสมณทูตเดินทางไปศรีลังกา โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง นครเขื่อนขันธ์ ขึ้นที่บริเวณพระประแดง เพื่อ ส าหรับรับข้าศึกที่มาทางทะเล พ.ศ. 2359 โปรดเกล้าฯ ให้จัดการปรับปรุงการสอบปริยัติธรรมใหม่ ก าหนดขึ้น เป็น 9 ประโยค พ.ศ. 2360 ทรงฟื้นฟูประเพณี วันวิสาขบูชา


พ.ศ. 2361 ขยายเขตพระบรมมหาราชวังจนจรดวัดพระเชตุพน โดยสร้างถนน ท้ายวังคั่น โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการออกแบบและสร้างสวนขวาขึ้นใน พระบรมมหาราชวัง คณะสมณทูตที่พระองค์ทรงส่งไปฟื้นฟูพระพุทธศาสนาที่ ประเทศ ลังกาเดินทางกลับ เจ้าเมืองมาเก๊า ส่งทูตเข้ามาถวายพระราชสาส์นและเครื่องราช บรรณาการเพื่อเจริญทางพระราชไมตรี พ.ศ. 2362 หมอจัสลิส มิชชันนารีประจ าย่างกุ้ง หล่อตัวพิมพ์อักษรไทยเป็นครั้ง แรก พ.ศ. 2363 ัลองวัดอรุณราชวราราม สังคายนาบทสวดมนต์ภาษาไทยครั้งแรก ในประเทศไทย โปรตุเกสตั้งสถานกงสุลในกรุงเทพฯ นับเป็นสถานกงสุลต่างชาติแห่ง แรกของสยาม พ.ศ. 2365 เซอร์จอห์น ครอฟอร์ด เป็นทูตเข้ามาเจริญพระราชไมตรี พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต


พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ครองราชย์สมบัติถึง ปี พ.ศ. 2367 รวมอยู่ในสิริราชสมบัตินาน 15 ปี ก็ทรงพระประชวรด้วย พิษไข้ มิได้รู้สึกพระองค์ จึงไม่ได้พระราชทานราชสมบัติให้แก่ผู้ใด และทรงพระ ประชวรด้วยพิษไข้อยู่ 3 วัน ก็เสด็จสวรรคตซึ่งตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม พุทธศักราช 2367 สิริพระชนมายุ 56 พรรษา มีเอกสาร บันทึกการสิ้นพระชนม์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลัย ไว้ดังนี้ 1. เอกสารับับแรกเป็นพรกเป็นพระราชพงษาวดาร ับับพิมพ์ ร.ศ. 120 (พ.ศ. 2444) เล่ม 3 กรมศึกษาธิการ กระทรวงธรรมการ ที่จัดพิมพ์ขึ้นใหม่ โดยส านักพิมพ์มติชน[4] เมื่อพ.ศ. 2550 ได้กล่าวถึงอาการพระประชวรของ พระองค์ ดังนี้“ครั้น ณ วัน 4 แรม 4 ค่ า เดือน 8 ค่ า ปีวอก ัศก ศักราช 1186 เป็นปีที่ 16 ในรัชกาลทรงพระประชวร มีพระอาการมึนพระองค์ซึมเซื่อมไป มิ ใคร่จะมีพระราชด ารัส ถึง ณ วัน 4 แรม 11 ค่ า เดือน 8 ค่ า พระองค์ก็เสด็จ


สวรรคต สถิตย์ในอิศริยยศราชสมบัติ 16 พรรษา พระชนมายุพรรษกาล 58 พรรษา นับโดยอายุโหราได้ 56 พรรษา 7 เดือน 19 วัน” 2. หนังสือวันสวรรคต 66 กษัตริย์ไทย ซึ่งเขียนโดยคุณพิมาน แจ่มจรัส ับับพิมพ์ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2508 ได้บรรยายกรณีสวรรคต โดยบอกว่าเป็น ข้อความที่ปรากฏในพระราชพงศาวดาร แต่ไม่ได้แจ้งว่าเป็นับับใด“มีพระ อาการให้มึนและเมื่อยพระองค์ จึงเรียกพระโอสถข้างที่ชื่อจรไนเพชร ซึ่งเคย เสวยมาแต่ก่อนนั้นมาเสวย ครั้นเสวยแล้วก็เกิดพระอาการให้ร้อนเป็นก าลัง จึง รับสั่งเรียกพระโอสถชื่อว่าทิพโอสถมาเสวยอีกขนานหนึ่ง พระอาการก็ไม่คลาย กลับเซื่อมซึมไป มิได้ตรัสสิ่งใด แพทย์หลวงประกอบพระโอสถถวายก็เสวยไม่ได้ ประชวรได้ 8 วันก็เสด็จสู่สวรรคต”หนังสือวันสวรรคตของ 66 กษัตริย์ ซึ่งเขียน โดย คุณพิมาน แจ่มจรัส ับับพิมพ์ครั้งที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2543 ได้เขียนถึงกรณี สวรรคตของพระองค์โดยข้อมูลเพิ่มเติมจากับับพิมพ์ครั้งที่ 21 ดังที่ผมจะได้ น าเสนอต่อไปคือ 3.1 น ามาจากพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 3 ความ ดังต่อไปนี้“ศุภมัสดุ ศักราชพันแปดร้อยหกสิบ )พ.ศ. 2367) พานรสังวัจัระ อาสาธมาสกาฬปักษ์ สัตตมีดิถี โสรวาระ ณ วันเสาร์ เดือน 8 แรม 7 ค่ า เวลา บ่ายสามโมง หกบาทปีวอกัศก พระบาทบรมนาถบรมบพิตร สมเด็จ พระพุทธเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณธรรมอันมหาประเสริฐ ทรงพระประชวรพระ โรค เพื่อไข้พิษ จึงมีพระบรมราชโองการด ารัสสั่งเจ้าจอมข้างในให้ออกมาเชิญ เสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าพระองค์ใหญ่กับสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นศักดิ์พลเสพย์ เข้าไปเฝ้าในพระที่นั่ง จึงตรัสประทานพระราชอาการว่า การประชวรครั้งนี้หนักพระทัยยิ่งกว่าทุกครั้ง เร่งคิดอ่านปฤกษาแพทย์ทั้งปวง


ประกอบพระโอสถแก้ประชวรพระเจ้าและพระโอสถแก้พระพิษที่เชื่อมมัว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้ากับสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอทรงทราบพระ อาการ จึงเสด็จออกมาสถิตที่ศาลายามค่ า พร้อมด้วยพระราชวงศานุวงศ์ฝ่าย หน้า ให้ประชุมแพทย์หมอโรงพระโอสถ พระพงศนรินทร์ จางวางหลวงสิทธิสาร หลวงทิพจักษุ เจ้ากรมขุนหมื่น หมอมีชื่อเจ้าพนักงานเครื่องต้น พระโอสถหลวง ราชรักษา หลวงราโช หลวงประสิทธิหัตถา ขุนภักดีองคสัมพาหะแพทย์ หมออยู่ งาน และผู้ก ากับพระโอสถนั้น เจ้าพระยาพระคลัง พระยาศรีพิพััน์ พระยา อุทัยธรรม พระราชโกษาปฤกษาพร้อมกันประกอบพระโอสถเสวย พระโอสถ ทรงชะโลม พระโอสถทรงกวาดทรงหา ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเป็นหลาย ขนาน พระอาการพระโรคสงบเป็นคราวๆ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้ากับ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นรักษารณเรศร์ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นสุนทรธิ บดีพระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นเดชอดิศร พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นพิพิธภูเบนทร์ และพระราชวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าฝ่ายในทรงประคับประคองสนองพระเดช พระคุณอยู่ทั้งกลางวันกลางคืนโดยล าดับ แต่สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรม ขุนอิศรานุรักษ์ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นเทพพลภักดิ์นั้นทรงจัดแจงให้พระ ยาราชสงคราม จางวางหลวงวิสูตรโยธามาตย์ หลวงราชโยธาเทพ เจ้ากรมกับ ขุนหมื่นมีชื่อช่วงทหารในท าพระแท่นที่บรรทมส าหรับทรงพระประชวร มีพระ วิสูตรและเพดานดาดด้วย เศวตพัสตร์ องค์ 1 พระแท่นที่สรง องค์ 1 แล้วข้าทูล ละอองผู้ใหญ่ผู้น้อย ฝ่ายทหารพลเรือนมหาดเล็ก ชาวที่รักษาพระองค์ ชาวป้อม ล้อมพระราชวังประจ าพร้อมกันตามต าแหน่งที่ทุกกรม ครั้ง ณ วัน 3 เดือน 8 แรม 10 ค่ า พระอาการพระโรคซึ่งทรงพระประชวรนั้น หนักจวนพรชนมาวสานต์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าจึงสั่งให้สังฆการี อาราธนาสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระวันรัด พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนุ


ชิตชิโนรสและพระสงฆ์ราชาคณะฝ่ายคามวาสีอรัญวาสี ผลัดเปลี่ยนเข้าไป จ าเริญพระปริตรในพระเัลียงพระที่นั่งฝ่ายบูรพาทิศที่สูงครั้งละ 10 รูป ทั้ง กลางคืนกลางวัน ให้กรมพระราชวังเบิกพระราชทรัพย์ในพระคลังมหาสมบัติ จัดซื้อสุกร ไก่ ปลา ปล่อยวันละชั่งให้เป็นพระราชกุศลทุกวัน” 3.2 หนังสือเัลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ (คุณพิมาน แจ่มจรัส ไม่ได้ให้รายละเอียดที่มาของหนังสือเล่มนี้- ผู้เขียน( ที่กล่าวว่า “ทรง พระประชวรไข้พิษอันแรงกล้า มิได้รู้สึกพระองค์ ได้แต่เรียกพระโอสถชื่อว่า จาระไนเพ็ชร์ข้างพระที่ที่เคยเสวยนั้นมาเสวย ครั้นเสวยแล้วก็ให้ร้อนเป็นก าลัง เรียกทิพยโอสถมาเสวยอีก พระอาการก็ไม่ถอยให้เซื่องซึมไป แพทย์ประกอบ พระโอสถถวายก็เสวยไม่ได้ มิได้ตรัสสิ่งใด จนครั้นวัน 4 เดือน 8 แรม 1 ค่ า เวลาย่ าค่ าแล้ว 5 บาท พุธ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 พระบาทบรมนาถบรม บพิตร สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวรพระโรคก าเริบกล้าเหลือ ก าลังที่แพทย์จะประกอบพระโอสถัลองพระเดชพระคุณสืบไปก็เสด็จสู่ สวรรคตท่ามกลางพระประยูรวงศาพร้อมทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายในมีสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชเจ้าเป็นประธานก าหนด แต่สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จได้มหา ปราบดาภิเษกเป็นเอกราชาธิปไตยในศิริราชสมบัติได้ 16 ปี พระชนมายุได้ 58 พรรษา เสด็จสวรรคาลัยในพระที่นั่งมหามณเฑียรองค์บุรพทิศ…” 4. หนังสือ “เจ้าชีวิต : พงศาวดาร 9 รัชกาล แห่งราชวงศ์จักรี” ซึ่งทรง พระนิพนธ์โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พ.ศ. 2554 ความ ดังต่อไปนี้ “ภายในไม่กี่วัน ภายหลังที่สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎทรงผนวช พระ เจ้าอยู่หัวก็ทรงประชวรหนัก มีพระอาการมึนและเมื่อยพระองค์ ไม่โปรดเรียก แพทย์และในชั้นต้นรักษาพระองค์เอง ทรงเรียกยาไทยแบบโบราณซึ่งเคยแก้ได้


แต่ก็มิได้ผลกลับท าให้ทรงหนาวสะท้าน จึงทรงเรียกยาที่จะท าให้ร้อน เมื่อยานี้ ท าให้ทรงร้อนเกินไปก็ทรงเรียกยาเย็นการรักษาพระองค์เองไม่เป็นการแก้ไข พระโรคได้ กลับทรงเซื่องซึมไป ตรัสอะไรไม่ได้ แพทย์หลวงประกอบพระโอสถ ถวายก็เสวยไม่ได้ ประชวรอยู่ได้ 8 วัน ครั้นถึงวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 (ค.ศ.1824) ก็เสด็จสวรรคตพระชนมายุ 56 ปี กับ 5 เดือน )หนังสือภาษาไทย มักจะว่าสวรรคตเมื่อพระชนมพรรษา 58)” ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ถือว่าเป็นแผ่นดิน ทองแห่งวรรณกรรม ด้วยพระองค์มีพระปรีชาสามารถอย่างยิ่งในด้านศิลปะ ไม่ ว่าจะเป็นทางด้านสถาปัตยกรรม วรรณกรรม รวมถึงนาฏกรรม เห็นได้จาก มรดกทางวัันธรรมที่พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างไว้ให้กับอนุชนรุ่นหลัง อุทยาน พระบรมราชานุสรณ์รัชกาลที่ 2 ที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ถือเป็นสถานที่ ที่แสดง ให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้อย่าง ชัดเจนที่สุดและในอุทยานแห่งนี้ก็ได้ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ของพระองค์เพื่อให้ประชาชนได้เคารพสักการะด้วย


พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นทั้ง นักรบ นักปกครอง ศิลปิน กวีและช่าง ซึ่งได้พระราชทานศิลปวัันธรรมอัน งดงามประณีตไว้เป็นมงคลแก่ชาติ และปรากฏพระเกียรติคุณแพร่หลายไปใน นานาประเทศ จนได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และ วัันธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก )UNESCO) ให้ทรงเป็นบุคคลส าคัญ ของโลก เนื่องด้วยทรงสร้างสรรค์วรรณคดีที่ทรง คุณค่าทางวัันธรรมไว้เป็น มรดกของชาติจ านวนมากรวมถึงทรงปกครองบ้านเมืองให้ ราษฎรได้อยู่เย็นเป็น สุขภายใต้พระบรมโพธิสมภารและได้ส่งเสริมให้มีการจัดงานเัลิมพระเกียรติ ัลองพระบรมราชสมภพครบรอบ 200 ปี เมื่อพ.ศ. 2511 ………………………………………………


แหล่งข้อมูลอ้างอิง จดหมายเหตุความทรงจ า กรมหลวงนรินทรเทวี.พรนคร: องค์การค้าคุรุสภา ,2516. ทิพยากรณ์.เจ้าพระยา.พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์.พระนคร: หอสมุดแห่งชาติ,2506. พระราชพงศาวดาร ับับพระราชหัตถเลขา, กรุงเทพฯ : ส านักวรรณกรรมและ ประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2548. พระราชพิธีสมโภชกรุงรัตน์โกสินทร์ครบ 200 ปี และพระราชพิธีสมโภชหลัก เมือง, ส านักงานส่งเสริมสร้าง เอกลักษณ์ของชาติ, 2554. พระราชลัญจกรประจ ารัชกาลที่ 2, หอมรดกไทย, 2554. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระราชสกุล ข้อความและความเห็นจากเว็บบอร์ดพันทิป เสทื้อน ศุภโศภณ. ประวัติศาสตร์ไทย ับับพัันาการ. พระนคร: อักษรเจริญทัศน์,2506. วิกิพิเดีย สารานุกรมเสรี WWW.GOOGLE.COM https://th.wikipedia.org http://www2.nac2.navy.mi.th http://kingrama2found.or.th


https://www.silpa-mag.com http://www.chakridynasty.krusudruadee. http://dcms.lib.nu.ac.th https://www.tungsong.com http://www.ilc2012.org https://m.se-ed.com ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ


Click to View FlipBook Version