พระอจั ฉริยภาพ
พระอัจฉริยภาพดา้ นคอมพวิ เตอร์
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระอัจฉริยภาพด้านการ
ใช้เครื่องมือเทคโนโลยีโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ ทรงใช้คอมพิวเตอร์เพ่ือบันทึกพระราชกรณียกิจต่างๆ ทรง
ประดิษฐ์อกั ขระ และในปใี หม่ของทกุ ๆ ปี เราคนไทยจะได้รับ ส.ค.ส ที่ทรงประดิษฐ์ด้วยคอมพิวเตอร์ เผยแพร่
ผ่านสื่อมวลชนเพ่ือทรงอวยพรปวงชนชาวไทย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงแค่ส่วนหน่ึงของพระอัจฉริยภาพด้าน
เทคโนโลยีเทา่ นั้น และเน่ืองดว้ ยวันท่ี 19 ตุลาคมของทกุ ปเี ปน็ วันเทคโนโลยีของไทย รัฐบาลได้ตระหนักถึงพระ
ปรีชาสามารถในทางเทคนิค จึงมีมติคณะรัฐมนตรี ถวายพระเกียรติให้ทรงเป็น "พระบิดาแห่งเทคโนโลยี
ไทย" ด้วยทรงมีพระอจั ฉรยิ ภาพและทรงสนพระทัยในด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ ไดท้ าให้พระองค์ทรงมุ่งมั่นใน
การพัฒนาด้านการสื่อสารดา้ นตา่ งๆ ทรงนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในโครงการพัฒนาต่างๆ เพื่อประโยชน์
ในการพฒั นาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม
ความเป็นมาของพระอัจฉริยภาพด้านคอมพิวเตอร์นั้นเกิดข้ึนเม่ือประมาณปี พ.ศ. 2529 ขณะน้ัน
ม.ล.อัศนี ปราโมช ได้ซ้ือคอมพิวเตอร์ย่ีห้อ Macintosh SE ข้ึนทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชน
กาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร เป็นเครอ่ื งทที่ ันสมยั ที่สดุ ในยุคนน้ั เพราะสามารถเก็บและพิมพ์
โน้ตเพลงได้ การเรียนรู้และใช้งานก็ไม่ยาก ซึ่งพระองค์ไม่เพียงแต่ทรงงานด้วยคอมพิวเตอร์เท่าน้ัน หากแต่ยัง
ทรงประดิษฐ์และสร้างสรรค์งานต่างๆ มากมายด้วยคอมพิวเตอร์ อาทิประดิษฐ์ตัวอักษรบนคอมพิวเตอร์
พระองค์ได้ทรงประดิษฐ์อักษรไทยหลายแบบ ซ่ึงเป็นสิ่งที่ทรงสนพระทัยเป็นพิเศษ เช่น แบบจิตรลดา แบบภู
พิงค์ ฯลฯ และเม่ือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 ได้ทรงทดลองใช้โปรแกรม "Fontastic" สร้าง
ตัวอักษรภาษาไทยและภาษาอังกฤษรูปแบบต่างๆ และขนาดต่างๆ ในการสร้างรูปแบบตัวอักษร (Font) ตาม
วิธีการท่ัวๆ ไปคือ กาหนดเป็นจุดๆ มาต่อกันเป็นตัวอักษร ซึ่งต้องใช้ความอดทนและความประณีตมาก
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงใช้เวลาที่ทรงว่างจากพระราช
กรณียกิจต่างๆ เพื่อสร้างตัวอักษรด้วยคอมพิวเตอร์ ในเวลาต่อมาได้มีผู้ทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องคอมพิวเตอร์
IBM PC Compatible และทรงสนพระทัยศึกษาในการพัฒนา Software ต่างๆ และได้สร้างโปรแกรมใหม่ๆ
ขน้ึ มา ทรงแก้ซอฟต์แวร์ในเคร่อื ง เช่น โปรแกรมภาษาไทย CU WRITER ให้เปน็ ไปตามพระราชประสงค์
โปรแกรมคอมพวิ เตอร์อักษรเทวนาครี
อกั ษรเทวนาครจี ากโปรแกรมพระองคท์ รงประดษิ ฐ์
พระองค์ทรงสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์สาหรับพิมพ์ตัวอักษรเทวนาครี หรือท่ีพระองค์ท่าน ทรง
เรียกว่า "ภาษาแขก" เร่ิมเม่ือประมาณเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2530 ได้ทรงศึกษาตัวอักษรเทวนาครีด้วย
พระองค์เอง จากพจนานุกรมและตาราภาษาสันสกฤต และทรงสอบถามจากผู้เช่ียวชาญด้านภาษาบาลี
สันสกฤต เช่น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และท่านองคมนตรี ม.ล. จิรายุ นพวงศ์ ซึ่ง
จะต้องตรวจสอบตัวอักษรที่ทรงสร้างข้ึน ซ่ึงจัดทาได้ยากกว่าตัวอักษรภาษาไทย เพราะตัวอักษรเทวนาครีน้ัน
รปู แบบไมค่ งที่ พระองคน์ าโปรแกรมออกแสดงเป็นครั้งแรกเมอ่ื วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530
เมื่อหลังจากเสด็จพระราชดาเนินทอดพระเนตรงานจุฬาวิชาการ '30 บนศาลาพระเกี้ยวแล้ว
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสดจ็ ฯ มาท่ีที่มหาวิทยาลัยจัดไว้
ทรงนาโปรแกรมท่ีบรรจุอยู่ในแผ่นจานแม่เหล็ก (diskette) ซ่ึงทรงใช้ช่ือรหัสว่า Devwrit Test และ Devwrit
Temp ทรงพระกรุณาแสดงการพิมพ์ตัวอักษรต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ เริ่มด้วย Chulalongkorn University
โดยทรงประดิษฐ์ให้ตัวอักษรมีขนาดต่างๆ ลดหล่ันตามขนาดของรูปแบบตัวอักษร (Font) พร้อมทั้ง
พระราชทานคาอธิบายตอ่ จาก Chulalongkorn University ทรงพิมพ์ช่อื มหาวิทยาลัยเป็นภาษาสันสกฤตด้วย
ตัวอักษรเทวนาครี หลังจากน้ันทรงพิมพ์พระนามสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วย
ตัวอกั ษรเทวนาครี ตามด้วยอักษรโรมนั ซึง่ ออกเสยี งแบบสนั สกฤตและอกั ษรไทยตามลาดับ หลังจากน้ันทรงใช้
อักษรเทวนาครพี มิ พช์ ือ่ "จิรายุ นพวงศ"์ และ "สมชาย" (รองศาสตราจารยส์ มชาย ทยานยง)
พระไตรปฎิ กฉบับคอมพิวเตอร์
พระไตรปิฎกฉบับคอมพิวเตอร์ เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดาริท่ีพระบาทสมเด็จพระบรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ บริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์
จานวน 1,472,900 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2534 ให้มหาวิทยาลัยมหิดลจัดทาโครงการพัฒนาระบบ
คอมพวิ เตอร์เพือ่ การศึกษาพระไตรปฎิ กและอรรถกถา ทาให้การศึกษาพระไตรปิฎกและชุดอรรถกถาเป็นไปได้
อย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยา อีกท้ังรวบรวมเนื้อหาไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ สาหรับโครงการพัฒนา
ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อการศึกษาพระไตรปิฎกและอรรถกถาตามพระราชดาริน้ี ได้พัฒนาแล้วเสร็จในเดือน
พฤศจิกายน 2534 ได้รับการพัฒนาท้ังหมด 4 รุ่น จนมาถึงรุ่นที่ 4 ช่ือ BUDSIR IV (บุดเซอร์ รุ่น 4) มาจากคา
ว่า Buddhist Scriptures Information Retrieval ทั้งน้ีมหาวิทยาลัยมหิดลได้บันทึกพระไตรปิฎกและอรรถ
กถา ลงบนแผ่น CD-ROM แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2537 ปัจจุบันได้มีการพัฒนาทาให้สามารถเข้าถึงได้
ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ท่ี http://budsir.mahidol.ac.th/ (ผู้ใช้ใหม่จะต้องลงทะเบียนก่อน) นับเป็น
พระไตรปฎิ กและอรรถกถา ฉบบั คอมพิวเตอรท์ สี่ มบรู ณท์ ่สี ดุ ในปัจจุบนั
ส.ค.ส. พระราชทานด้วยคอมพิวเตอร์
ส.ค.ส. อวยพรปใี หมพ่ ระราชทานถึงคนไทย
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จะทรงพระราชทาน
ส.ค.ส. อวยพรปีใหม่ พระราชทานฉบับแรกส่งถึงคนไทยในปีพ.ศ. 2530 โดยทรงปลีกเวลาจากพระราชกรณีย
กิจมาปรแุ ถบเทเลก็ ซห์ รือโทรพิมพ์ เราจงึ เห็นข้อความตามท้าย ส.ค.ส. วา่ “กส. 9 ปรุ” เป็นรหัสเรียกขานวิทยุ
แทนพระองค์เปน็ ผปู้ รุขน้ึ สว่ นตวั เลขท่ีตามหลงั คือวันที่และเวลาที่ทรงสรา้ ง ในรูปแบบ วว ชช นน ดด ปปปป.
ในส.ค.ส. พระราชทานฉบับแรกจึงหมายถึงเวลา 14.30 น. วันท่ี 31 ธันวาคม 2529 ส.ค.ส. ฝีพระหัตถ์ล้วน
เป็นสีขาว-ดา ซึ่งเรื่องนี้ ดร.สุเมธ ได้แสดงทรรศนะว่า “เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการสะท้อนให้ลูกหลานไทย
ได้เห็นถึงตัวอย่างของความประหยัด มัธยัสถ์ สิ่งของหลาย ๆ สิ่งแม้จะไม่มีสีสันดึงดูดตา แต่ก็มากมายด้วย
ความหมาย พระองค์พยายามทาทกุ สง่ิ ให้เกดิ ประโยชน์ตลอดเวลา ทรงรักความเรียบง่าย ยึดมั่นในความหมาย
และคณุ คา่ ของสรรพสิ่งเปน็ ท่ีต้ัง มากกวา่ จะมองกันท่คี วามสวยงาม ฟุ้งเฟอ้ ”
ทรงใช้แผนที่แสดงสภาวะอากาศผ่านอินเทอรเ์ นต็ ตดิ ตามใต้ฝนุ่ แองเจลา
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2538 ได้เกิดไต้ฝุ่นแองเจลา (Angela) ทาความเสียหายให้แก่ประเทศ
ฟิลิปปินส์ และจะเข้าสู่ประเทศไทยในเวลาต่อมา ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนประชาชนชาวไทยให้
เตรียมระวังอันตรายท่ีจะเกิดขึ้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ทรงติดตามความเคลอื่ นไหวของไต้ฝุ่นน้ีผ่านทางอินเทอร์เน็ต และได้พระราชทานความเห็นว่าไม่ควรตระหนก
แต่อย่างใดเนื่องจากไต้ฝุ่นได้อ่อนกาลังลงเมื่อเคล่ือนเข้าสู่ประเทศเวียดนาม และได้แปรสภาพเป็นความกด
อากาศขนาดย่อมแล้ว นบั แตน่ น้ั ทางกรมอตุ อนิยมวทิ ยากไ็ ดพ้ ฒั นาตามเบ้อื งพระยุคลบาทต่อไป
พระอจั ฉริยภาพดา้ นจิตรกรรม
ตัวอย่างภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถพ์ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลที่ 9
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระปรีชามาสารถ
ทางด้านจิตรกรรมมาก แม้จะไม่ได้ทรงเริ่มฝึกหัดตั้งแต่ยังเยาว์วัย ทรงเร่ิมจากการวาดภาพแบบเสมือนจริง
(realistic) มาเร่อื ยๆ จนทรงพฒั นารูปแบบภาพวาดฝพี ระหตั ถใ์ นรปู แบบของพระองคเ์ องมาเป็นแนวนามธรรม
(abstract) และรปู แบบ expressionism ได้พระราชทานภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ร่วมแสดงในงานศิลปกรรม
แห่งชาติครั้งท่ี 14 เป็นการแสดงนิทรรศการภาพฝีพระหัตถ์คร้ังแรกของพระองค์ และต่อมาได้ทรงพระกรุณา
พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์จานวน 47 องค์ ไปจัดแสดง ณ
พิพธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ
พระอัจฉรยิ ภาพดา้ นประติมากรรม
ผลงานประตมิ ากรรมฝพี ระหัตถ์
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีความสนพระราช
หฤทยั ย่งิ ในดา้ นประติมากรรม พระองคท์ รงศึกษาค้นคว้าเทคนิควิธีการต่างๆ ด้วยพระองค์เอง ท้ังการปั้นการ
หล่อ และการทาแม่พิมพ์ โดยผลงานประติมากรรมฝีพระหัตถ์ชิ้นสาคัญก็คือ ประติมากรรมลอยตัว สมเด็จ
พระนางเจ้าฯ พระบรมมราชินีนาถ ครึ่งพระองค์ สูง 12 นิ้ว ทั้งยังโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปและพระ
พิมพ์ในโอกาสต่างๆ และทรงแกะแบบแม่พิมพ์ของพระพิมพ์ที่เรียกกันว่า สมเด็จจิตรลดา หรือพระกาลัง
แผ่นดิน ทรงบรรจุผงศักด์ิสิทธิ์ต่างๆ ด้วยพระองค์เอง และโปรดเกล้าฯ พระราชทานผู้ใกล้ชิดเบ้ืองพระยุคล
บาท
สมเด็จพระภทั รมหาราช พระจอมปราชญ์ คมุ้ ไผท ไทยท่วั หลา้
ธ สรา้ งสรรค์ งานด้านศลิ ป์ เพือ่ ประชา เหล่าไพร่ฟ้า ล้วนสุขสนั ต์ ไทยยืนยง
ธ ปกราษฎร์ ปอ้ งภยั ไทยท้ังผอง ธ ทรงครอง คณุ ธรรม อนั สงู ส่ง
ธ สถิต ในจิตใจ ไทยมนั่ คง ขอพระองค์ คุ้มเกลา้ ไทย ไว้นิรันดร์
(นายประสาร ธาราพรรค์ รอ้ ยกรอง)
พระอจั ฉรยิ ภาพด้านการดนตรี
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรทรงเร่ิมเรียนดนตรีเม่ือมี
พระชนมายุ 13 พรรษา ขณะประทับทปี่ ระเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ โดยทรงเรียนกับนายเวย์เบรชท์ (Weybrecht)
ชาวอัลซาส (Alsace) เร่ืองการเป่าแซกโซโฟน วิชาการดนตรี การเขียนโน้ต และการบรรเลงดนตรีสากลต่างๆ
ในแนวดนตรคี ลาสสกิ เป็นเบ้ืองต้น ต่อมาจงึ เริ่มฝึกดนตรีแจ๊ส โดยทรงหัดเป่าแซกโซโฟนจนชานาญ ทรงเคร่ือง
ดนตรีได้ดีหลายชนิด ทั้งประเภทเครื่องลม เช่น แซกโซโฟน, คลาริเนต และประเภทเครื่องทองเหลืองเช่น
ทรัมเปต็ รวมท้งั เปยี โนและกีตาร์ที่ทรงฝึกเพม่ิ เตมิ ในภายหลังเพือ่ ประกอบการพระราชนพิ นธ์เพลงและเพ่ือทรง
ดนตรีรว่ มกบั วงดนตรีส่วนพระองค์
แนวดนตรที พ่ี ระองค์โปรดคอื แจ๊สดิ๊กซแี ลนด์ (Dixieland Jazz) ซึ่งมีท่มี าจากชอื่ วงดนตรีแจส๊ นัก
ดนตรีผิวขาว The Original Dixieland Jazz Band เป็นสไตล์ของวงดนตรีจากเมืองนิวออร์ลีนส์ เป็นแจ๊สท่ีมี
จังหวะและความสนกุ เร้าใจ ต่ืนเตน้ ครึกครน้ื สนกุ สนานเร้าใจ The Preservation Hall Jazz Band วงดนตรี
แจ๊สจากนิวออรล์ ีนสค์ อื วงโปรดของพระองค์ ซ่งึ เลน่ ดนตรกี ันสดๆ ไม่มีโนต้ ทาให้นกั ดนตรตี ้องใช้ความสามารถ
มาก
เมื่อครัง้ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรเสด็จนิวัตประเทศ
ไทย ได้ทรงรวบรวมพระประยูรญาตทิ ่ีเปน็ นักดนตรีมาจัดตั้งวงดนตรีลายคราม เป็นวงดนตรีส่วนพระองค์ ร่วม
เล่นดนตรี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ทุกเย็นวันศุกร์ กระทั่งในปี พ.ศ. 2495 กรมประชาสัมพันธ์ได้น้อมเกล้าฯ
ถวายเครื่องส่งวิทยุกาลังส่ง 100 วัตต์ พระองค์จึงทรงจัดตั้งสถานีวิทยุ อ.ส. ข้ึน เพื่อเป็นสื่อกลางให้ความ
บันเทิงและสาระประโยชน์ ตลอดจนข่าวสารต่างๆ แก่ประชาชน โดยวงดนตรีลายครามได้มีโอกาสบรรเลง
เพลงผ่านทางสถานีวิทยุ อ.ส.วนั ศุกร์ หรืออัมพรสถานวันศุกร์
ขณะมีพระชนมายุได้ 18 พรรษา ทรงเร่ิมพระราชนิพนธ์เพลง และในปี พ.ศ. 2489 ทรงพระราช
นิพนธ์ทานองเพลง “แสงเทียน” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรก จนถึงปัจจุบันมีเพลงพระราชนิพนธ์ทั้งส้ิน
48 เพลง แต่ละเพลงมีท่วงทานองที่ไพเราะประทับใจผู้ฟัง สอดคล้องกับเน้ือหาเพลงซ่ึงมีความหมายดีงาม ท้ัง
ในแง่ของภาษาและการสือ่ ถึงเรอ่ื งราวต่างๆ ได้อยา่ งลกึ ซ้ึง พระองคท์ รงประพันธ์ทานองเองท้ังหมด แต่ละเพลง
ล้วนมีความไพเราะอย่างน่าทึ่ง ทั้งยังมีเอกลักษณ์ในการประพันธ์ทานองของพระองค์เอง เวลาที่ศิลปินแต่ง
เพลง เรามักจะรสู้ กึ ได้ว่าเขามแี รงบันดาลใจจากใคร อาจเป็นศิลปินไทยด้วยกนั หรอื ศิลปนิ ตา่ งประเทศ
นอกจากพระอจั ฉริยภาพในการประพนั ธท์ านองและเรียบเรียงเพลงแลว้ ในบทเพลงพระราชนิพนธ์ก็มี
เพลงที่ทรงประพันธ์คาร้องภาษาอังกฤษในเพลง “Still on My Mind”, “Old-Fashioned Melody”, “No
Moon”, “Dream Island”, “ECHO” ซง่ึ ลว้ นแลว้ แตม่ ีภาษางดงามดง่ั กวี นอกจากนัน้ บทเพลงพระราชนิพนธ์
ยังได้รับการอัญเชิญจากศิลปินชื่อดังและวงออร์เคสตราระดับโลกไปบรรเลงในงานคอนเสิร์ตซ่ึงจัดขึ้นในวาระ
สาคญั ต่างๆ ทงั้ พระองค์ท่านได้ทรงดนตรีกับนักดนตรีท่ีมีช่ือเสียงระดับโลกมากมาย อาทิ Benny Goodman,
Louis Armstrong, Jack Teagarden, Stan Getz นักดนตรีระดับโลกเหล่านี้ต่างให้การยกย่อง
ด้วยพระอัจฉริยภาพอันสูงส่งดา้ นดนตรีของพระองค์นั้น สถาบันการดนตรีและศิลปะแห่งกรุงเวียนนา
(Academy for Music and Performing Arts) จึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรเกียรติคุณชั้นสูงแด่
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้ทรงดารงตาแหน่งสมาชิก
กิตติมศักด์ิ ลาดับที่ 23 พร้อมทั้งจารึกพระปรมาภิไธยลงบนแผ่นศิลาของสถาบัน ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักด์ิท่ี
มีอายุน้อยทส่ี ุดและเป็นชาวเอเชียเพียงผเู้ ดียวทีไ่ ด้รบั เกียรติอนั สูงสุดน้ี
ทง้ั หมดน้ีเป็นเพียงมุมหน่งึ ในพระอจั ฉรยิ ภาพด้านดนตรใี นพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหา
ภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร ดนตรเี ป็นสว่ นหนง่ึ ของพระองคท์ า่ น และเช่ือวา่ ทุกคนย่อมมีดนตรใี นหัวใจไม่
มากกน็ ้อย ดังพระราชดารัสแกน่ กั ข่าวอเมริกนั ในรายการเสียงแห่งวทิ ยอุ เมริกา เมื่อวันท่ี 21 มิถนุ ายน พ.ศ.
2503 ความตอนหนงึ่ วา่
“ดนตรีเป็นสว่ นหนึ่งของขา้ พเจ้า จะเป็นแจ๊สหรอื ไมใ่ ช่แจส๊ ก็ตาม ดนตรีล้วนอยู่ในตวั ทุกคน เป็นสว่ นที่
ย่ิงใหญ่ในชีวติ คนเรา สาหรับขา้ พเจา้ ดนตรีคอื ส่ิงประณีตงดงามและทกุ คนควรนิยมในคุณคา่ ของดนตรีทุก
ประเภท เพราะว่าดนตรแี ตล่ ะประเภทต่างก็มีความเหมาะสมตามแตโ่ อกาสและอารมณ์ทตี่ ่างกนั ออกไป”
องค์บรมราชูปถัมภกดา้ นดนตรี
นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวจะทรงเปน็ ศลิ ปนิ ผูเ้ พียบพร้อมด้วยพระปรชี าสามารถในการ
สร้างสรรคศ์ ลิ ปะด้านดนตรแี ลว้ ยงั ทรงเป็นองคบ์ รมราชปู ถัมภกทางดนตรีอีกด้วย ทรงส่งเสริมทัง้ ดนตรีไทย
และสากล และมีพระมหากรุณาธิคณุ แก่ศลิ ปนิ ดนตรีอยา่ งท่ัวหน้า
ทางด้านดนตรไี ทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงเห็นว่าวิชาดนตรีไทยเป็นศิลปะท่ีสาคัญของชาติ สมควรท่ีจะได้
รวบรวมเพลงไทยเดิมต่าง ๆ ไว้มิให้เส่ือมสูญและผันแปรไปจากหลักเดิม โดยมีการบันทึกโน้ตเพลงให้ถูกต้อง
และจัดพิมพ์ข้ึนไว้เป็นหลักฐาน เพราะในการบันทึกแนวเพลงเป็นโน้ตสากลแต่เดิมนั้น ยังมิได้มีการบันทึกไว้
อย่างครบถ้วนและจัดพิมพ์ให้เป็นการสมบูรณ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมศิลปากรรับเรื่องนี้ไป
ดาเนินการ ทรงสละพระราชทรพั ยส์ ว่ นพระองค์ในการจดั พมิ พ์โน้ตเพลงไทยชุดน้ี เป็นการรกั ษาศิลปะดนตรีอัน
สาคญั ของไทยไว้มิใหเ้ ส่อื มสูญ และยังเป็นการเผยแพรว่ ิชาดนตรีของไทยออกไปในหมู่ประชาชนผู้สนใจ ให้เป็น
ท่ีรู้จักแพร่หลายยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากน้ันยังทรงริเริ่มให้มีการวิจัยเก่ียวกับดนตรีไทยในด้านบันไดเสียงของ
เคร่ืองดนตรีไทยประเภทต่าง ๆ เช่น ความแตกต่างระหว่างบันไดเสียงของเคร่ืองสาย และบันไดเสียงของ
ระนาด ฯลฯ เปน็ ต้น ซึง่ ผู้เช่ียวชาญทางดนตรีกาลงั ดาเนนิ การอยูใ่ นขณะนี้
นอกจากนี้ยังทรงริเร่ิมให้มีการบรรเลงเพลงไทยที่เรียบเรียงข้ึนจากเพลงสากล โดยโปรดเกล้าฯ ให้
นายเทวาประสิทธิ์ พาทยโกศล นาทานอง "มหาจุฬาลงกรณ์" มาแต่งให้เป็นแนวไทย นายเทวาประสิทธิ์ ได้
อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์น้ีมาดัดแปลงเพ่ือใช้บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ถึง 2 คร้ัง ภายหลังจึงปรับปรุงเป็น
เพลงโหมโรงในการบรรเลงดนตรีไทยของชมรมดนตรีไทย สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับว่าเป็น
เพลงไทยเพลงแรกที่ประดิษฐ์ข้ึนมาจากเพลงไทยสากล ตามพระราชดาริในการสร้างสรรค์และส่งเสริมดนตรี
ไทยและเปน็ การแสดงวา่ ดนตรีไทยสามารถววิ ัฒนาการไปตามกาลเวลาอยา่ งไม่หยดุ ย้ัง
เพลงพระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวรชั กาลที่ 9
1. แสงเทยี น (Candlelight Blues)
2. ยามเยน็ (Love at Sundown)
3. สายฝน (Falling Rain)
4. ใกล้ร่งุ (Near Dawn)
5. ชะตาชีวติ (H.M. Blues)
6. ดวงใจกับความรัก (Never Mind the Hungry Men's Blues)
7. มารช์ ราชวัลลภ (Royal Guards March) (เพลงท่ี 49 ช่ือ เพลงราชวลั ลภ เป็นอกี เพลงที่ทรงพระราช
นพิ นธ์ แตกต่างจากเพลง มาร์ชราชวลั ลภ)
8. อาทิตย์อบั แสง (Blue Day)
9. เทวาพาคูฝ่ ัน (Dream of Love Dream of You)
10. คาหวาน (Sweet Words)
11. มหาจฬุ าลงกรณ์ (Maha Chulalongkorn)
12. แก้วตาขวัญใจ (Lovelight in My Heart)
13. พรปใี หม่
14. รกั คนื เรือน (Love Over Again)
15. ยามคา่ (Twilight)
16. ยิ้มสู้ (Smiles)
17. มาร์ชธงไชยเฉลมิ พล (The Colours March)
18. เม่อื โสมสอ่ ง (I Never Dream)
19. ลมหนาว (Love in Spring)
20. ศกุ ร์สญั ลักษณ์ (Friday Night Rag)
21. Oh I say
22. Can't You Ever See
23. Lay Kram Goes Dixie
24. คา่ แลว้ (Lullaby)
25. สายลม (I Think of You)
26. ไกลกังวล (When), เกดิ เป็นไทยตายเพ่ือไทย
27. แสงเดือน (Magic Beams)
28. ฝนั (Somewhere Somehow), เพลนิ ภูพงิ ค์
29. มารช์ ราชนาวกิ โยธนิ (Royal Marines March)
30. ภริ มย์รกั (A Love Story)
31. Nature Waltz
32. The Hunter
33. Kinari Waltz
34. แผน่ ดินของเรา (Alexandra)
35. พระมหามงคล
36. ยงู ทอง (ธรรมศาสตร์)
37. ในดวงใจนริ ันดร์ (Still on My Mind)
38. เตอื นใจ (Old-Fashioned Melody)
39. ไร้เดือน (No Moon), ไรจ้ นั ทร์
40. เกาะในฝนั (Dream Island)
41. แวว่ (Echo)
42. เกษตรศาสตร์
43. ความฝนั อนั สูงสุด (The Impossible Dream)
44. เราสู้
45. เรา-เหล่าราบ 21 (We-Infantry Regiment 21)
46. Blues for Uthit
47. รัก
48. เมนูไข่
49. ราชวัลลภ
พระอัจฉรยิ ภาพดา้ นการกฬี า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯโปรดทรงกีฬาต่างๆ ท้ัง เรือใบ แบดมินตัน สกีน้า สกีหิมะ ฮอกกี้
นา้ แข็ง ยงิ ปนื กอลฟ์ เลก็ การแข่งขันรถเลก็ เทนนสิ และการออกกาลังพระวรกายดว้ ยการวา่ ยน้า
เรือใบเปน็ กฬี าทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรโปรดเป็น
พิเศษ พระองค์ทรงเป็นตัวแทนของประเทศไทยลงแข่งเรือใบในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 9-16
ธันวาคม พ.ศ. 2510 ท่ีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยทรงเข้าค่ายฝึกซ้อมตามโปรแกรมการฝึกซ้อม และทรง
ได้รับเบี้ยเล้ียงในฐานะนักกีฬา เช่นเดียวกับนักกีฬาคนอื่น ๆ ในท่ีสุด ด้วยพระปรีชาสามารถ พระองค์ทรง
ชนะเลิศเหรียญทอง และทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเหรียญทอง จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ
พระบรมราชินนี าถ เมอ่ื วนั ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ท่ามกลางความปลืม้ ปีตขิ องพสกนกิ รชาวไทยท้ังประเทศ
และเป็นที่ประจักษ์แก่ชนทั่วโลก ทาให้พระอัจฉริยภาพทางกีฬาเรือใบของพระองค์ที่ยอมรับกันทั่วโลก
พระองค์ยังได้ทรงออกแบบและประดิษฐ์เรือใบยามว่างออกมาหลายรุ่น พระองค์พระราชทานนามเรือใบ
ประเภทม็อธ (Moth) ที่ทรงสร้างขึ้นว่า เรือใบมด เรือใบซูเปอร์มด และ เรือใบไมโครมด ถึงแม้ว่าเรือใบลา
สุดท้ายท่ีพระองค์ทรงต่อคือ เรือโม้ค (Moke) เมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 เรือใบซูเปอร์มดยังถูกใช้
แขง่ ขนั ในระดบั นานาชาตทิ จี่ ัดในประเทศไทยหลายครง้ั ครงั้ สดุ ท้ายคอื เมอื่ พ.ศ. 2528 ในกีฬาซเี กมส์ครั้งที่ 13
พระอัจฉริยภาพทางด้านการถ่ายภาพ
ภาพถา่ ยฝพี ระหตั ถ์
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรทรงเชย่ี วชาญการถ่ายภาพ
ทั้งกล้องธรรมดาและกล้องถ่ายภาพยนตร์ ทรงเร่ิมจากการถ่ายภาพด้วยกล้องรุ่นเก่าท่ีไม่มีท่ีวัดแสงในตัว จึง
ต้องทรงคานวณความเร็วของแสงด้วยพระองค์เองจนชานาญและเชี่ยวชาญ ทรงสามารถใช้กล้องรุ่นเก่า
ประเภทน้ีและทรงวัดแสงได้อย่างแม่นยา ทรงประดิษฐ์ Bicolocer Filter หรือแผ่นกรองแสงสาหรับกล้องขึ้น
เอง และยังทรงเชย่ี วชาญในการล้างฟลิ ์มอดั ขยายภาพขาวดาและภาพสี
พระอัจฉรยิ ภาพดา้ นการช่าง
เม่ือวนั ท่ี 2 มีนาคม พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ
บพิตร ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดาเนินทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงานแนะแนว
อาชีพและแข่งขันฝีมือของสโมสรโรตารี กรุงเทพฯใต้ ณ ลุมพินีสถาน และมีพระราชดารัสเก่ียวกับความเป็น
ช่างของคนไทยตอนหน่ึงว่า ''ช่างทุกประเภท เป็นกลไกสาคัญอย่างย่ิงในชีวิตของบ้านเมืองและของคนทุกคน
เพราะตลอดชีวิตของคนเรา เราต้องอาศัยและใช้บริการสิ่งต่างๆ ที่ได้มาจากฝีมือของช่างอยู่ทุกว่ีทุกวัน ผู้เป็น
ชา่ งจงึ สมควรได้รบั ความเอาใจใส่สนับสนนุ จากทุกๆ ฝา่ ยย่งิ ในสมยั ปัจจบุ ัน วทิ ยาการทกุ อย่างเจริญก้าวหน้าย่ิง
จาเปน็ ต้องส่งเสรมิ มากเปน็ พิเศษเพือ่ ใหไ้ ด้ช่างทม่ี คี วามสามารถสูง ให้มีส่ิงใช้สอยท่ีมีคุณคุณภาพดีและเพียงพอ
กบั ความต้องการ''
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีฝีพระหัตถ์เป็นเย่ียมในด้านการช่าง ท้ังช่างไม้ ช่างโลหะ และ
ช่างกล ซึ่งเป็นงานพื้นฐานด้านวิศวกรรมศาสตร์ ทรงสร้างมอเตอร์ไฟฟ้าใช้เอง และทรงสร้างเคร่ืองรับวิทยุ
ร่วมกับพระเชษฐาธิราช โดยซ้ืออุปกรณ์ราคาถูกมาประกอบเอง ทรงจาลองส่ิงของต่างๆ ได้หลายอย่างตั้งแต่
ทรงพระเยาว์ ทรงประดิษฐ์เคร่ืองร่อน ทรงจาลองเรือรบหลวงของไทยชื่อ “ศรีอยุธยา” ซึ่งยาวเพียงสองฟุต
แต่มีท้ังสายเคเบ้ิล และปืนเรือครบครัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงต่อเรือใบ ตามมาตรฐานสากล
อีกหลากหลายประเภท ในการสร้างเรือใบทรงร่างแบบ คิดคานวณ เลื่อยไม้ ไสไม้ และทรงประกอบด้วย
พระองค์เองทุกข้ันตอน ทรงใชว้ ธิ ีการทีง่ ่ายและประหยดั และทรงใชว้ สั ดุทห่ี าไดใ้ นประเทศ
พระราชอารมณข์ นั
พระราชอารมณข์ นั ของในหลวง เรือ่ งท่ี 1 “ย้มิ ของฉัน”
เม่อื พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั เสดจ็ ประพาสสหรฐั อเมริกาเป็นครง้ั แรก เป็นท่ีสนใจต่อ
สื่อมวลชนของอเมริกาเป็นอย่างมาก จึงได้มีพระราชทานสัมภาษณ์ นักข่าวหนุ่มคนหน่ึงได้ทูลถามว่า “ทาไม
พระองค์จึงทรงเคร่งขรึมนัก… ไม่ทรงย้ิมเลย?” ทรงหันพระพักตร์ไปทางสมเด็จพระนางเจ้าฯ พลางรับส่งว่า
“นนั่ ไง… ย้ิมของฉนั ”แสดงให้เห็นถงึ พระราชปฏิภาณ และพระราชอารมณข์ ันอันล้าลึกของพระองค์ท่าน ทาให้
เปน็ ท่รี กั ของประชาชนอเมรกิ ันโดยทว่ั ไป ในวันท่ีเสดจ็ ฯ สภาคองเกรส เพ่ือทรงมีพระราชดารัสต่อสภา จึงทรง
ได้รับการถวายการปรบมอื อย่างกกึ กอ้ งและยาวนานหลายครัง้
พระราชอารมณข์ นั ของในหลวง เร่อื งท่ี 2 “ชอ่ื เดยี วกัน”
เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน เพราะเรียนมา
ตั้งแต่เล็กแต่ไม่เคยได้ใช้ เม่ือออกงานใหญ่จึงตื่นเต้นประหม่า ซ่ึงเป็นธรรมดาของคนทั่วไป และไม่เว้น
แม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่ีได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน หรือกราบบังคมทูลทราบฝ่า
ละอองธลุ พี ระบาทในพระราชานุกจิ ต่างๆ นานปั การ ท่านผู้หญงิ บุตรี วรี ะไวทยะ รองราชเลขาธิการ เคยเล่าให้
ฟังว่า ด้วยพระบุญญาธิการและพระบารมีในพระองค์น้ันมีมากล้น จนบางคนถึงกับไม่อาจระงับอาการกิริยา
ประหม่ายามกราบบังคมทูลฯ จึงมีผิดพลาดเสมอ แม้จะซักซ้อมมาเป็นอย่างดีก็ตาม ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
มีข้าราชการระดับสูงผู้หน่ึงกราบบงั คมทูลรายงานว่า
“ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า “พลตรีภูมิพลอดุลยเดช” ขอ
พระราชทานพระบรมราชานญุ าตกราบบงั คมทูลรายงาน …. ”
เม่ือคากราบบงั คมทลู ในหลวงทรงแย้มพระสรวลอยา่ งมพี ระอารมณด์ ีและไม่ถือสาว่า “เออ ดี เราชื่อเดียวกัน..
.” ข่าวว่าวันน้ันผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขาขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย เพราะผู้กราบบังคมทูลรายงานตื่นเต้น
จนกระท่ังจาช่ือตนเองไม่ได้
พระราชอารมณ์ขันของในหลวง เรื่องท่ี 3 หลานรัง [บทความ “พระมหากษัตริย์นักปกครอง” โดย เฉลียว
วัชรพกุ ก์ อดตี อธิบดีกรมทางหลวง]
คร้งั หนง่ึ ในภาคใต้ ขา้ พเจา้ ตดิ ตามคณุ หญิงเลอศกั ด์ิ สมบตั ศิ ริ ิ (ต่อมาเป็นท่านผู้หญิง) ซึ่งขณะน้ันดารง
ตาแหนง่ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงคมนาคม ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชนิ นี าถ ทคี่ ่ายทหารบา้ นทอน จ.นราธิวาส พระองค์มีพระราชดารัสกับคุณหญิงหลายเร่ือง ได้รับส่ัง
ถึงสภาพทางหลวงหลายสายในภาคใต้ ซง่ึ คุณหญงิ ได้ให้ข้าพเจา้ เป็นผู้กราบบังคมทูลถวายรายงาน เมื่อทรงถาม
ถึงสภาพทางสาย อ.รามัน – ดโละหะลอ – อ.รือเสาะ ข้าพเจ้ากราบบังคมทูลว่า ยังมีสภาพทางเป็นทาง
ก่อสร้าง และได้จัดให้เข้าอยู่ในโครงการเงินกู้ธนาคารโลก ขณะน้ีได้ลงลูกรังไว้แล้ว รถยนต์ว่ิงผ่านได้ตลอดปี
พระองค์รับสัง่ ว่า.. “เห็นมีแตห่ ลานรงั ”ครงั้ แรกข้าพเจ้ายังงงอยู่ นึกไม่ออกว่าคาว่าหลานรังคืออะไร แต่ก็คิดได้
ทนั ทนี ้นั วา่ แม่รังหมายถึงลูกรังกอ้ นใหญ่ และลูกรังน้นั มีขนาดเล็กขนาดต่างๆ คละกัน ดังน้ัน คาว่าหลานรังคง
หมายถงึ ลูกรังท่ีมีขนาดละเอียดมากนั่นเอง…ทางท่ีพระองค์ เสด็จพระราชดาเนินมา คงจะล่ืนมากหรือติดหล่ม
ในเวลาฝนตก
พระราชอารมณ์ขนั ของในหลวง เรอื่ งท่ี 4 “เพือ่ นเยอะ”
การเสดจ็ ประพาสอเมรกิ าครัง้ น้นั ควรจะได้เล่าถึง “บ๊อบ โฮ้พ” ไว้ด้วย เพราะทรงคุ้นเคยกับดาราผู้น้ี
ต้ังแต่คร้ังบ๊อบ โฮ้พ มาแวะกรุงเทพฯ เพื่อจะไปเปิดการแสดงกล่อมขวัญทหารอเมริกันในเวียดนาม ระหว่าง
แวะพกั ที่กรงุ เทพฯ บ๊อบ โฮ้พ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ที่วังสวนจิตรฯ โดยโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลี้ยงดินเนอร์
ดว้ ย บ๊อบ โฮพ้ กราบบงั คมทูลวา่ “ขา้ พระพุทธเจ้า ขอพาเพอ่ื นไปดว้ ย”
“ได้เลย… ไม่ขัดข้อง” รับส่งั ตอบ “พาเพอื่ นของคณุ มาไดเ้ ลย”
“ต้องขอขอบพระทยั แทนเพือ่ นหกสิบสามคนของขา้ พระพทุ ธเจ้าดว้ ย”
คืนน้ัน บ๊อบ โฮ้พ ได้นาวงดนตรีของเขา เข้าไปเล่นถวายอยู่จนดึก จึงกราบกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ที่บ้าน
ของเขา รับส่งั ว่า “ยินดี… ฉันพาเพ่ือนหกสิบสามคนของฉันไปด้วยนะ”
พระราชอารมณข์ นั ของในหลวง เรอื่ งท่ี 5 “ไมข่ ึน้ เงินเดือน”
ด้วยความท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดการถ่ายภาพ และทรงถ่ายภาพต่างๆอยู่เป็นประจา
ภาพถา่ ยฝีพระหัตถไ์ ปปรากฏอยู่ในนิตยสาร “สแตนดาร์ด” ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ทรง
มพี ระราชดารสั ด้วยพระอารมณ์ขันแกผ่ ูใ้ กลช้ ดิ ผหู้ นึ่งถงึ การเป็นช่างภาพอาชีพของพระองคว์ ่า…
“ฉนั เป็นกษัตริย์กจ็ รงิ แต่ฉันยังมีอาชีพเป็นช่างภาพของหนังสือพิมพ์สแตนดาร์ด ได้เงินเดือนละ 100 บาท ตั้ง
หลายปมี าแลว้ จนบดั นก้ี ย็ ังไม่เหน็ เขาขน้ึ เงินเดอื นให้สักที เขาก็คงถวายเดอื นละ 100 บาทอยูเ่ ร่ือยมา”
พระราชอารมณข์ ันของในหลวง เรอื่ งที่ 6 “คล่องราชาศพั ท”์
อีกคร้ังหน่ึงท่ีภาคอีสาน เม่ือเสด็จข้ึนไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หน่ึง คณะผู้ตามเสด็จท้ังหลาย
ต่างก็แปลกใจในการกราบบังคมทูลที่คล่องแคล่ว และใช้ราชาศัพท์ได้ดีอย่างน่าฉงนของราษฎรผู้นั้น เมื่อใน
หลวงมพี ระราชปฏิสนั ถารถงึ การใช้ราชาศัพทไ์ ดด้ นี ี้ จงึ มีคากราบทูลว่า “ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่า บัดนี้
มอี ายุมากจงึ เลิกรามาทานาทาสวน พระพุทธเจ้าข้า..”มาถึงตอนสาคัญท่ีทรงพบนกในกรงที่เล้ียงไว้ท่ีชานเรือน
ก็ทรงตรสั ถามวา่ เปน็ นกอะไรและมกี ี่ตวั .. พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า “มีท้ังหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนี
ไป ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย และทิ้งให้พระบิดาเล้ียงดูแต่ผู้เดียว” เร่ืองน้ี ดร.
สุเมธเลา่ ว่าเป็นท่ีตอ้ งสะกดกลน้ั หวั เราะกันท้งั คณะ ไม่ยกเว้นแม้แต่ในหลวง…
พระราชอารมณ์ขนั ของในหลวง เรอื่ งที่ 7 “เราจบั ได้แลว้ ”
….คร้ังหน่ึงในงานนิทรรศการ “ก้าวไกลไทยทา” วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2538 “The BOI Fair
1995 commemorates the 50th Anniversary of His Majesty King Bhumibol Adulyadej’s reign”
(Board of Investment Fair 1995 BOI) หลังจากท่ีเสด็จพระราชดาเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชนิ ีนาถ ตามศาลาการแสดงตา่ งๆ กม็ าถึงศาลาโซน่ี (อเิ ล็กทรอนกิ ส์) ภายในศาลาแต่งเป็น “พิภพใต้
ทะเล” โดยใชเ้ ทคนคิ ใหมล่ า่ สดุ “Magic Vision” น้าลกึ 20,000 league จะมชี ่วงให้แลเห็นสัตว์ทะเลว่ายผ่าน
ไปมา ปลาตัวเล็กๆ สีสวยจะว่ายเข้ามาอยู่ตรงหน้า ข้อสาคัญเขาเขียนป้ายไว้ว่า ถ้าใครจับปลาได้เขาจะให้
เครื่องรับโทรทัศน์ พวกเราไขว่คว้าเท่าไหร่ก็จับไ ม่ได้ เพราะเป็นเพียงแสงเท่าน้ัน แต่พระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัวมีพระราชดารัสว่า “เราจับได้แล้ว” พร้อมท้ังทรงยกกล้องถ่ายรูปชูให้ผู้บรรยายดู แล้วรับส่ังต่อ “อยู่
ในนี้” ต่อจากนน้ั คงไม่ต้องเล่า เพราะเม่ืออัดรูปออกมาก็จะเป็นภาพปลาและจับต้องได้ บริษัทโซนี่จึงต้องน้อม
เกลา้ ฯ ถวายเคร่ืองรับโทรทศั น์ตามทีป่ ระกาศไว้…
พระราชอารมณข์ ันของในหลวง เรื่องที่ 8 “เรียกนา้ ซิ ถงึ จะถูก”
วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเย่ียมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับ
ในหลวงมากมายพระองค์ทา่ นเสดจ็ พระราชดาเนินมาตามลาดพระบาทที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหน่ึงได้ก้ม
ลงกราบแทบพระบาทแล้วก็เอามือของแกมา จับ พระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่ายายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอ
ในหลวง แล้วก็พูดว่ายายอย่างโน้น ยายอย่างน้ีอีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรงเฉย ๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่า
กระไร แตพ่ วกข้าราชบริภารกม็ องหนา้ กนั ใหญ่ กลวั ว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัยหรือไม่ แต่พอพวกเรา
ได้ยินพระองค์รับส่ังตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น ก็ทาให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวเพราะ พระองค์ทรงตรัส
วา่ “เรยี กว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตัง้ เยอะ ต้องเรียกนา้ ซิ ถึงจะถกู ”
พระราชอารมณ์ขนั ของในหลวง เรอ่ื งที่ 9 ซุม้ สาหรบั ในหลวง
ระยะแรกราวปี พ.ศ.2498 เป็นต้นมา คราใดท่ีเสด็จพระราชดาเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ
พระราชวังไกลกังวลนั้น จะทรงขับรถยนต์พระท่ีน่ังไปยังท้องท่ีห่างไกลทุรกันดารย่านหัวหิน หนองพลับ แก่ง
กระจาน ด้วยพระองค์เอง ทานองเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ห้า โดยท่ีราษฎรไม่รู้ตัวล่วงหน้าว่าทรงมาถึง
แล้ววันหนึ่งทรงขับรถยนต์พระที่นั่งผ่านไปถึงยังบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านหมู่บ้านห้วยมงคล อาเภอหัวหิน
ซึ่งราษฎรกาลังช่วยกันตบแต่งประดับซุ้มรับเสด็จกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง และไม่คาดคิดว่าเป็นรถยนต์
พระท่ีน่ังส่วนพระองค์ จึงไม่ยอมให้รถผ่าน …ต้องให้ในหลวงเสด็จฯก่อนแล้วพรุ่งน้ีถึงจะลอดผ่านซุ้มได้… วันน้ี
ห้ามลอดผ่านซุ้มนี้ เพราะขอให้ในหลวงผ่านก่อน พระองค์จึงทรงขับรถพระท่ีน่ังเบ่ียงออกข้างทางไม่ลอดซุ้ม
ดังกลา่ ว…. วันรงุ่ ข้นึ เม่อื ทรงขับรถยนต์พระทน่ี ั่งเสดจ็ พระราชดาเนินไปทรงเย่ียมราษฎรในหมู่บ้านนี้อย่างเป็น
ทางการพร้อมคณะขา้ ราชบริพารผตู้ ิดตาม และทรงมีพระดารัสทักทายกับชายผู้นั้นท่ีเฝ้าอยู่หน้าซุ้มเม่ือวันวาน
ว่า “วนั น้ฉี ันเปน็ ในหลวง..คงผา่ นซุ้มนไี้ ดแ้ ล้วนะ..”
ทรงได้รบั การเทดิ พระเกยี รติถวายพระราชสมัญญา “มหาราช”
จากคาถวายอาศิรวาทราชสดุดี และถวายชัยมงคลของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
นายกรัฐมนตรีขณะนนั้ เมอื่ งานสโมสรสันนิบาต เน่ืองในวโรกาสวันฉัตรมงคล วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช
2530 ณ ทาเนียบรัฐบาล ดังปรากฏในเอกสารดงั น้ี
“....ในอภิลักขิตมหามงคลสมัยแห่ง “วันฉัตรมงคล” ในรอบปีที่ 37 ในวันน้ี บรรดาอาณา
ประชาราษฎร์ทั้งปวงและรัฐบาล สานึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาท่ีสุดมิได้ จึงขอ
พระราชทานพระบรมราชานุญาต ประกาศความสมานฉันท์พร้อมเพรียงกันเฉลิมพระเกียรติ และถวายพระ
ราชสมญั ญาเป็น “มหาราช” ดว้ ยความจงรกั ภักดมี ใี นปวงขา้ พระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าฯ ตั้งสัตยาธิษฐานเดชะ
คุณพระศรีรัตนตรัย เป็นประธาน พร้อมด้วยส่ิงศักดิ์สิทธ์ิโปรด อภิบาลพระบรมราชจักรีวงศ์ให้สถิตธารง อยู่คู่
ดินฟ้าและโปรดประทานชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ
บพิตรมหาราช ขอจงทรงพระเจริญสิริสวัสด์ิในไอศูรย์ ราชสมบัติแห่งสยามรัฐสีมาขอพระมหาราชเจ้า เผยแผ่
พระบรมกฤษฎาเดชานุภาพ คุม้ เกล้าคุ้มกระหมอ่ มเหล่าพสกนิกร ตลอดในจริ ฐั ิตกิ าล เทอญ”
“...เม่ือประชาชนชาวไทยในปัจจุบันได้พิจารณาข้อความจารึกท่ีฐานพระบรมราชานุสรณ์ ณ ลาน
พระราชวังดุสิต ถึงปัจจัยที่ประชาชนในกาล 80 ปีก่อนโน้น น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา
“มหาราช” แดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว ก็ประจักษ์ชัดว่าพระบรมราชคุณูปการแห่งพระ
มหาราชเจา้ พระองคน์ ั้น มไิ ด้ผดิ เพ้ยี นไปจากพระมหากรณุ าธคิ ุณแหง่ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทแม้แต่น้อย ดังนั้น
อาณาประชาราษฎร์แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ก็ยิ่งทวีความปิติปราโมทย์ มีสามัคคีสมานฉันท์เทิดทูนไว้
เหนือเศยี รเกล้า และภาคภูมิใจนักท่ีได้มีพระบรมธรรมิกราช ผู้ทรงย่ิงด้วยพระขัตติยวัตรธรรม จึงขอ พระราช
ทาน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา “มหาราช” แด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในขณะยังทรง
ดารงพระชนมชีพอย่ใู นไอศรู ยร์ าชสมบตั ิ ทานองเดียวกับประชาราษฎร์ สมัยเมื่อ 80 ปี ที่ล่วงมาได้พร้อมใจกัน
น้อมเกล้านอ้ มกระหม่อมถวาย พระราชสมัญญาแก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว
เหตกุ ารณส์ าคญั ในรัชสมัยพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร
พ.ศ. 2470
5 ธนั วาคม - เสดจ็ พระราชสมภพ ณ สหรฐั อเมรกิ า มีพระนามเดมิ ว่า พระวรวงศ์เธอ พระองคเ์ จา้ ภมู ิ
พลอดุลยเดช
พ.ศ. 2471
เสดจ็ นิวตั ิพระนครคร้ังแรก พรอ้ มสมเดจ็ พระบรมราชชนก สมเดจ็ พระบรมราชชนนี สมเด็จพระโสทร
เชษฐภคินี และสมเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าช
พ.ศ. 2472
สมเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศร อดุลยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก ส้นิ พระชนม์
พ.ศ. 2475
ทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอี กรงุ เทพมหานคร
พ.ศ. 2476
เสดจ็ ไปประทับ ณ เมอื งโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
พ.ศ. 2477
พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยู่หวั สละราชสมบัตริ ัฐบาลอัญเชญิ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจา้
อานนั ทมหดิ ล เสดจ็ ขึน้ ครองราชย์ เปน็ พระมหากษัตริย์รชั กาลที่ 8 แหง่ ราชวงศ์จักรี ขณะมพี ระชนมายุ 9
พรรษา เฉลิมพระนามาภไิ ธยว่า สมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
พ.ศ. 2478
ทรงไดร้ ับการสถาปนาพระอิสรยิ ยศเป็น สมเดจ็ พระเจ้านอ้ งยาเธอ เจา้ ฟา้ ภูมพิ ลอดลุ ยเดช
พ.ศ. 2481
เสดจ็ นวิ ัตพระนครครั้งท่ี 2 ชว่ งปลายปี
พ.ศ. 2482
เกิดสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 เสด็จกลับไปประทบั ท่ีสวิตเซอรแ์ ลนด์อกี ครัง้
พ.ศ. 2488
ทรงรับประกาศนียบัตรจากโรงเรียนยมิ นาส คลาสสกิ กังโตนาล 5 ธนั วาคม - เสดจ็ นวิ ัตพระนครเปน็
ครงั้ ที่ 3
พ.ศ. 2489
9 มิถนุ ายน - สมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสดจ็ สวรรคตรฐั บาลอัญเชญิ สมเดจ็ พระเจา้
น้องยาเธอ เจา้ ฟา้ ภูมิพลอดุลยเดช เสดจ็ ขนึ้ ครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลท่ี 9 แหง่ ราชวงศจ์ กั รี เฉลิม
พระนามาภิไธยวา่ สมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช
11 สิงหาคม - ประกาศพระราชโองการเฉลิมพระปรมาภไิ ธย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหดิ ล ขึน้
เปน็ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหิดล อดลุ ยเดชวิมลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามนิ ทราธิ
ราช
19 สงิ หาคม - เสด็จกลับไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโลซานน์ ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ โดยทรงเปลี่ยน
คณะ จากวิทยาศาสตร์เป็นรัฐศาสตร์
พ.ศ. 2491
ทรงประสบอบุ ัติเหตุทางรถยนต์ ท่ปี ระเทศสวิตเซอรแ์ ลนด์
พ.ศ. 2492
ทรงหมน้ั กับ หม่อมราชวงศห์ ญงิ สิริกิต์ิ กิตยิ ากร ทเี่ มอื งโลซานน์
พ.ศ. 2493
24 มนี าคม - เสด็จนิวัตพระนคร พร้อมด้วย หมอ่ มราชวงศ์หญิง สริ กิ ิติ์ กติ ยิ ากร พระคหู่ มัน้
29 มนี าคม - พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
28 เมษายน - พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทมุ ในการนั้น โปรดเกลา้ ฯ ประกาศสถาปนา
หมอ่ มราชวงศห์ ญิง สิริกติ ์ิ กิติยากร เป็น สมเด็จพระราชนิ ีสริ ิกิต์ิ
5 พฤษภาคม - พระราชพิธบี รมราชาภิเษก ตามโบราณราชประเพณี ในการนัน้ โปรดเกลา้ ฯ
พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการ เราจะครองแผ่นดนิ โดยธรรม เพ่ือประโยชนส์ ุขแห่งมหาชนชาวสยาม
สถาปนา สมเด็จพระราชนิ สี ิริกติ ิ์ เปน็ สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิติ์ พระบรมราชินี
9 มิถนุ ายน - เสด็จพระราชดาเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินี เพ่อื รกั ษา
พระองค์ทส่ี วติ เซอรแ์ ลนด์
พ.ศ. 2494
5 เมษายน - สมเดจ็ พระเจา้ ลูกเธอ เจา้ ฟ้าอบุ ลรัตนราชกญั ญา ประสูติ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศ
สวติ เซอรแ์ ลนดพ์ ฤศจิกายน - เสดจ็ นวิ ตั พระนครเป็นการถาวร พร้อมสมเด็จพระบรมราชนิ ี และพระธดิ า
พ.ศ. 2495
28 กรกฎาคม - สมเดจ็ พระเจ้าลูกยาเธอ เจา้ ฟ้าวชิราลงกรณ ประสตู ิ ณ พระที่นัง่ อัมพรสถาน
พระราชวงั ดสุ ติ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ้งั สถานีวิทยุกระจายเสียงข้นึ ภายในพระท่นี ง่ั อมั พรสถาน
พระราชทานนามว่า สถานวี ทิ ยุ อ.ส. พระราชวงั ดสุ ติ
พ.ศ. 2497
พระราชทานพระราชทรพั ย์แก่กระทรวงสาธารณสุข เพอ่ื จัดตัง้ หนว่ ยแพทยเ์ คล่ือนที่พระราชทาน
เพอ่ื รักษาราษฎรตามชนบท
28 ธนั วาคม เสด็จพระราชดาเนนิ ทรงวางพวงมาลา ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จ
พระเจ้าตากสนิ มหาราช ทว่ี งเวียนใหญ่
พ.ศ. 2498
2 เมษายน - สมเด็จพระเจา้ ลูกเธอ เจา้ ฟ้าสริ นิ ธรเทพรัตนสดุ าฯ ประสตู ิ ณ พระท่ีน่งั อมั พรสถาน
พระราชวังดุสิตเสด็จพระราชดาเนินเยยี่ มราษฎรในภาคต่างๆ โดยทรงเป็นพระมหากษตั รยิ ์ไทยพระองคแ์ รก ท่ี
เสด็จเยย่ี มราษฎรในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือมีแนวพระราชดารใิ ห้ทาฝนเทยี ม เพอ่ื ชว่ ยเหลือราษฎร
พระราชทานพระราชทรพั ย์ ในการจดั ตงั้ กองทุนอานนั ทมหิดล (มูลนิธอิ านันทมหดิ ล ในปัจจบุ นั )
17 ธันวาคม - สมเดจ็ พระศรสี วรินทิราบรมราชเทวี พระพนั วัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จสวรรคต
พ.ศ. 2499
22 ตลุ าคม - พระราชพธิ ีทรงผนวช ทวี่ ดั บวรนิเวศวิหาร โดยโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สมเดจ็ พระนางเจ้า
สริ ิกติ ์ิ พระบรมราชนิ ี เปน็ ผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์
5 ธันวาคม - ประกาศสถาปนาพระอสิ รยิ ยศ 'สมเด็จพระนางเจา้ สริ ิกิติ์ พระบรมราชนิ ี เป็น สมเดจ็
พระนางเจา้ สิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถหลงั ทรงศึกษาวา่ ทาได้จริงแล้ว จงึ พระราชทานแนวพระราชดาริเกยี่ วกบั
การทาฝนเทียม ให้ หมอ่ มราชวงศเ์ ทพฤทธิ์ เทวกุล ไปศึกษาทดลอง
พ.ศ. 2500
พฤษภาคม - งานเฉลิมฉลองย่สี ิบหา้ พทุ ธศตวรรษ : เรม่ิ ก่อสรา้ งพทุ ธมณฑล ทจ่ี ังหวดั นครปฐม
4 กรกฎาคม - สมเด็จพระเจา้ ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลยั ลักษณ์ อัครราชกุมารี ประสตู ิ ณ พระทีน่ ง่ั
อัมพรสถาน พระราชวงั ดุสิต
พ.ศ. 2501
เสด็จฯ เยย่ี มราษฎรภาคเหนือทุกจงั หวดั
พ.ศ. 2502
เสด็จฯ เยีย่ มราษฎรภาคใต้ทกุ จังหวดั
เสดจ็ พระราชดาเนินเยอื นตา่ งประเทศอย่างเป็นทางการ โดยประเทศเวยี ดนามเป็นประเทศแรก
พ.ศ. 2503
โปรดเกล้าฯ ใหฟ้ ื้นฟู พระราชพธิ ีพชื มงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวญั
เสด็จพระราชดาเนนิ เยอื นสหรฐั อเมริกา และประเทศในยุโรปรวม 14 ประเทศ ใช้เวลาทง้ั ส้ินประมาณ
7 เดอื น
พ.ศ. 2504
ทรงเร่มิ โครงการแปลงนาสาธติ ภายในสวนจิตรลดา
พ.ศ. 2505
เสดจ็ พระราชดาเนนิ เยอื นออสเตรเลียอย่างเป็นทางการเกดิ วาตภัยครั้งรา้ ยแรงในภาคใต้ ทรงพระ
กรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ถานีวทิ ยุ อ.ส.ประกาศชักชวน ใหร้ าษฎรบรจิ าคทรพั ย์และสิ่งของ เพอื่ ช่วยเหลอื
มีผู้น้อมเกล้าฯ ถวายโคนม 6 ตวั จงึ พระราชทานพระราชทรพั ย์ สร้างโรงโคนมสวนจติ รลดาขึน้ เพ่ือ
ศกึ ษาการเล้ียงโคนม
พ.ศ. 2506
5 ธันวาคม - พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ 5 ธนั วาคม พุทธศักราช 2506
โปรดเกล้าฯ ให้ก่อตง้ั มูลนธิ ิราชประชานเุ คราะห์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์
พ.ศ. 2507
สถาบันดนตรแี ละศลิ ปะการแสดง แหง่ กรุงเวยี นนา ประเทศออสเตรยี ทูลเกลา้ ฯ ถวายปริญญา และ
ตาแหนง่ สมาชกิ กิตตมิ ศักด์ิ โดยทรงเป็นสมาชกิ กติ ตมิ ศักด์ิ ที่มอี ายนุ ้อยท่สี ดุ และเปน็ ชาวเอเชียคนแรก ที่ไดร้ บั
เกียรตนิ ี้
ทรงมพี ระราชดารใิ หจ้ ัดตัง้ โครงการพฒั นาที่ดินแห่งแรก ขึ้นที่ ตาบลหบุ กระพง อาเภอชะอา จงั หวัด
เพชรบรุ ี
เจา้ ฟา้ อากิฮโิ ตะ มกุฎราชกมุ ารแห่งประเทศญปี่ ุ่น (สมเด็จจักรพรรดิอะกิฮโิ ตะ สมเด็จพระจักรพรรดิ
แหง่ ญ่ีป่นุ องคป์ ัจจบุ นั ) น้อมเกล้าฯ ถวายพันธุ์ปลาแด่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว โดยพระราชทานช่ือวา่
ปลานลิ และโปรดเกล้าฯ ให้เพาะเล้ียง และขยายพันธ์ุ ภายในสวนจติ รลดา ต่อมาจงึ โปรดเกลา้ ฯ ใหน้ าพนั ธุ์
ปลาดังกลา่ ว แจกจ่ายแกป่ ระชาชนทวั่ ไป
พ.ศ. 2510
16 ธนั วาคม - ทรงได้รับรางวลั เหรยี ญทอง จากการแข่งขันเรือใบ ในกีฬาแหลมทอง ครัง้ ที่ 4
พ.ศ. 2511
ทรงมพี ระราชดาริ ให้จัดทา สารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จ
พระเจา้ อย่หู ัว
พ.ศ. 2512
ทรงมพี ระราชดารใิ ห้ตงั้ โครงการหลวงโดยจุดมงุ่ หมายเพ่อื ตอ่ ต้านการค้ายาเสพติด
พ.ศ. 2513
ทรงมพี ระบรมราชโองการ ประกาศเฉลิมพระนามาภิไธย สมเดจ็ พระราชบิดา เจ้าฟา้ มหดิ ลอดุลยเดช
กรมหลวงสงขลานครินทร์ ข้นึ เป็น สมเด็จพระมหติ ลาธิเบศร อดลุ ยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และเฉลิมพระ
นามาภไิ ธย สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ขึน้ เปน็ สมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี
พ.ศ. 2514
9 มถิ ุนายน - พระราชพิธรี ัชดาภเิ ษก พุทธศักราช 2514
พ.ศ. 2516
เหตุการณ์ 14 ตุลาคม : ทรงมพี ระราชดารสั ทางสถานโี ทรทัศน์ เพอื่ ระงบั เหตแุ ห่งความรุนแรง หลัง
เหตกุ ารณ์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคณุ โปรดเกล้าฯ เสด็จฯ พรอ้ มดว้ ยพระบรมวงศานุวงศ์ ไปทรงเยยี่ ม
ผู้ไดร้ บั บาดเจบ็ ตามโรงพยาบาลตา่ งๆ และสาหรับผูเ้ สียชีวิต ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ เสด็จฯ ทรงเปน็ องค์
ประธาน ในพิธพี ระราชทานเพลิงศพผ้เู สยี ชีวิต ณ บริเวณตอนเหนือของทอ้ งสนามหลวงดว้ ย ตลอดจนนาอัฐิ
เหลา่ นั้นไปลอยอังคาร ดว้ ยเครือ่ งบนิ ของกองทัพอากาศ ท่ีปากแม่นา้ เจ้าพระยา อา่ วไทย
พ.ศ. 2525
เมษายน - สมโภชกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ 200 ปี พุทธศักราช 2525
พ.ศ. 2527
22 พฤษภาคม - สมเด็จพระนางเจ้าราไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลท่ี 7 เสด็จสวรรคต
พ.ศ. 2528
9 เมษายน - พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเดจ็ พระนางเจ้าราไพพรรณี พระบรมราชินีใน
รชั กาลท่ี 7
พ.ศ. 2530
5 ธันวาคม - พระราชพธิ มี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 5 ธนั วาคม พุทธศกั ราช 2530
พ.ศ. 2531
2 กรกฎาคม - พระราชพธิ ีรัชมังคลาภิเษก 2 กรกฎาคม พทุ ธศักราช 2531
พ.ศ. 2535
เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ : 20 พฤษภาคม - ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายสัญญา ธรรมศักดิ์
ประธานองคมนตรี และ พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ องคมนตรแี ละรฐั บุรุษ นา พลเอก สุจนิ ดา คราประยรู
นายกรัฐมนตรีในขณะนัน้ และ พลตรี จาลอง ศรีเมือง เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โดยทรงมีพระราชดารสั
ให้ท้งั สองฝ่ายหันหนา้ เขา้ หากัน ร่วมกันแกไ้ ขปัญหาความรุนแรงในประเทศ
พ.ศ. 2536
17 ธันวาคม พ.ศ. 2536 - ดาวเทยี มดวงแรกของไทยถกู ยงิ ขนึ้ สู่วงโคจร ณ เมืองคูรู ประเทศเฟรนซ์
กิอานา โดยมีชื่อดาวเทียมในขณะนัน้ ว่าดาวเทียมไทยคม 1
พ.ศ. 2538
6 พฤษภาคม - ทรงมีพระบรมราชโองการดารัสส่งั ใหส้ ถาปนา สมเดจ็ พระเจา้ พี่นางเธอ เจ้าฟา้
กลั ยาณิวัฒนา ขึ้นเป็นเจ้าฟ้าตา่ งกรมฝ่ายใน พระนามวา่ สมเดจ็ พระเจ้าพนี่ างเธอ เจา้ ฟา้ กลั ยาณวิ ฒั นา กรม
หลวงนราธวิ าสราชนครินทร์
18 กรกฎาคม - สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสดจ็ สวรรคต
พ.ศ. 2539
10 มีนาคม - พระราชพิธถี วายพระเพลิงพระบรมศพ สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี
8 มิถนุ ายน - ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อม ถวายเพ่มิ พระนาม พระบาทสมเด็จพระ
ปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เป็นพระปรมาภิไธยอันวเิ ศษ ตามแบบแผนโบราณราชประเพณี โดยให้ขานพระ
ปรมาภิไธยอย่างสังเขปว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอฐั มรามาธบิ ดินทร
9 มถิ ุนายน - พระราชพิธกี าญจนาภิเษก พทุ ธศักราช 2539
พ.ศ. 2540
4 ธนั วาคม - ทรงมพี ระราชดารสั แก่คณะบุคคลต่างๆ ทม่ี าเฝา้ ฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนอ่ื งในวโรกาส
วันเฉลิมพระชนมพรรษา เกีย่ วกบั เศรษฐกิจพอเพียง และ ทฤษฎีใหม่
พ.ศ. 2542
5 ธนั วาคม - พระราชพธิ มี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม พุทธศกั ราช 2542
พ.ศ. 2548
29 เมษายน - พระเจ้าหลานเธอ พระองคเ์ จา้ ทปี งั กรรัศมโี ชติ ประสตู ิ ณ โรงพยาบาลศิริราช
16 มถิ นุ ายน - ทรงมพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศสถาปนา หม่อมศรีรศั ม์ิ มหดิ ล ณ
อยุธยา ขน้ึ เป็น พระเจา้ วรวงศ์เธอ พระองคเ์ จ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธริ าชฯ สยาม
มกุฎราชกุมาร
พ.ศ. 2549
9 มถิ ุนายน - งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พุทธศักราช 2549
19 กันยายน รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 เป็นรัฐประหารในประเทศไทย ซ่งึ เกิดขึน้ ในคนื
วนั ท่ี 19 กันยายน พ.ศ. 2549 นาโดย คณะปฏิรปู การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์
ทรงเปน็ ประมขุ ซึ่งมพี ลเอก สนธิ บุญยรัตกลนิ เปน็ หวั หน้าคณะ โดยโคน่ ลม้ รักษาการนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.
ทกั ษิณ ชนิ วัตร ซง่ึ นบั เป็นการกอ่ รัฐประหารเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี รัฐประหารครง้ั น้ีเกิดข้ึนก่อนการ
เลือกตงั้ ทั่วไปในเดือนต่อมา หลังจากท่ีการเลือกตั้งเดอื นเมษายนถูกตัดสนิ ให้เปน็ โมฆะ นับเป็นจดุ เปล่ียน
สาคญั ในวิกฤตการณ์ทางการเมืองท่ีดาเนินมายาวนานนบั ต้ังแตเ่ ดอื นกนั ยายน พ.ศ. 2548 คณะรัฐประหารได้
ยกเลิกการเลือกต้ังในเดือนตุลาคม ยกเลิกรัฐธรรมนูญ สง่ั ยุบสภา ส่ังห้ามการประท้วงและกิจกรรมทางการ
เมือง ยบั ยง้ั และเซน็ เซอร์ส่อื ประกาศใช้กฎอัยการศึก และจบั กุมสมาชกิ คณะรฐั มนตรหี ลายคน
พ.ศ. 2550
5 ธันวาคม - พระราชพธิ มี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม พทุ ธศักราช 2550
พ.ศ. 2551
2 มกราคม - สมเดจ็ พระเจา้ พีน่ างเธอ เจา้ ฟา้ กัลยาณวิ ฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครนิ ทร์
ส้ินพระชนม์
พ.ศ.2554 - 2555
เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทย พ.ศ. 2554 หรือท่ีนิยมเรียกกันว่า มหาอุทกภัย เป็นอุทกภัย
รุนแรงท่ีส่งผลกระทบต่อบริเวณลุ่มแม่น้าเจ้าพระยาและลุ่มน้าโขง เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมและส้ินสุด
เมอื่ วันท่ี 16 มกราคม พ.ศ. 2555 มรี าษฎรได้รับผลกระทบกวา่ 12.8 ล้านคน ธนาคารโลกประเมินมูลค่าความ
เสยี หายสงู ถึง 1.44 ล้านล้านบาท เม่ือเดือนธันวาคม พ.ศ. 2554 และจัดให้เป็นภัยพิบัติครั้งสร้างความเสียหาย
มากทส่ี ดุ เป็นอนั ดับส่ีของโลกอุทกภัยดังกล่าวทาให้พ้ืนดนิ กว่า 150 ล้านไร่ (6 ล้านเฮกตาร์) ซ่ึงในจานวนน้ีเป็น
ท้ังพ้ืนที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมใน 65 จังหวัด 684 อาเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,086,138
ครัวเรือน 13,595,192 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 2,329 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 96,833 หลัง
พ้ืนท่ีการเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 11.20 ล้านไร่ ถนน 13,961 สาย ท่อระบายน้า 777 แห่ง ฝาย
982 แห่ง ทานบ 142 แห่ง สะพาน/คอสะพาน 724 แห่ง บ่อปลา/บ่อกุ้ง/หอย 231,919 ไร่ ปศุสัตว์ 13.41
ล้านตัว มีผู้เสียชีวิต 813 ราย (44 จังหวัด) สูญหาย 3 คนอุทกภัยคร้ังน้ีถูกกล่าวขานว่าเป็น "อุทกภัยคร้ัง
ร้ายแรงทสี่ ุดท้งั ในแง่ของปริมาณน้าและจานวนผ้ไู ดร้ ับผลกระทบ
พ.ศ.2556
รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เกิดข้ึนเม่ือวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16:30 น. โดย
คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาติ (คสช.) อนั มีพลเอก ประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา เป็นหวั หน้าคณะ โค่นรฐั บาลรักษาการ
นิวัฒน์ธารง บญุ ทรงไพศาล นับเปน็ รัฐประหารคร้ังท่ี 13 ในประวัติศาสตร์ไทย รัฐประหารดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง
วิกฤตการณก์ ารเมอื งซ่งึ เร่ิมเม่ือเดอื นตุลาคม 2556 เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ และอิทธิพล
ของพันตารวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในการเมืองไทยก่อนหน้านั้นสองวัน คือ วันท่ี 20 พฤษภาคม 2557 พล
เอก ประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา ผบู้ ัญชาการทหารบก ประกาศใช้กฎอัยการศึกท่ัวราชอาณาจักรต้ังแต่เวลา 3.00 น.
กองทัพบกต้ังกองอานวยการรักษาความสงบเรยี บรอ้ ย (กอ.รส.) และให้ยกเลิกศูนย์อานวยการรักษาความสงบ
เรียบร้อย (ศอ.รส.) ท่ีรัฐบาลชุดก่อนต้ังขึ้น กอ.รส. ใช้วิธีการปิดควบคุมส่ือ ตรวจพิจารณาเนื้อหาบน
อนิ เทอร์เน็ต และจัดประชมุ เพื่อหาทางออกวิกฤตการณ์การเมืองของประเทศ แต่การประชุมไม่เป็นผล จึงเป็น
ข้ออ้างรัฐประหารคร้ังนี้หลังรัฐประหาร มีประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
ส้นิ สดุ ลงยกเวน้ หมวด 2 คณะรัฐมนตรรี ักษาการหมดอานาจ ตลอดจนใหย้ ุบวฒุ ิสภา
22 กรกฎาคม 2557 มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับช่ัวคราว) พุทธศักราช
2557 ซ่ึงใหม้ สี ภานติ บิ ญั ญัตแิ หง่ ชาติทาหน้าที่แทนสภาผูแ้ ทนราษฎร วุฒสิ ภา และรฐั สภา
21 สิงหาคม 2557 สภาฯ มีมตเิ ลอื กพลเอก ประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชาเปน็ นายกรัฐมนตรี
13 ตุลาคม 2559 เป็นวนั ทป่ี ระชาชนคนไทยต่างมคี วามรูส้ ึกโศกเศรา้ อาลัยกันถ้วนหน้า เม่ือสานัก
พระราชวังออกแถลงการณ์วา่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
เสด็จสวรรคตเม่อื เวลา 15.52 น.
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ รสวรรคต
อาคารเฉลมิ พระเกยี รติ โรงพยาบาลศริ ริ าช
วนั ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 สานกั พระราชวังแจง้ วา่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิ
พลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดาเนินมา
ประทับ ณ ช้ัน 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ตามคากราบบังคมทูลเชิญเพื่อมาตรวจพระ
วรกายของคณะแพทย์ ผลการตรวจพบว่าพระโลหิต อุณหภูมิพระวรกาย ความดันพระโลหิตพระหทัย และ
ระบบการหายพระทยั เป็นปกติ
ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา สานักพระราชวังออกแถลงการณ์ประชวร ว่ามีพระ
ปรอทต่า หายพระทัยเรว็ มีพระเสมหะ พระปับผาสะซ้ายอักเสบ มีพระโลหิตเป็นกรด และพบว่ามีน้าค่ังในช่อง
เยอ่ื หมุ้ พระปปั ผาสะเลก็ น้อย
ในวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีความดันพระโลหิตลดต่าลง คณะแพทย์จึงรักษาด้วยพระโอสถ
ปฏิชีวนะ และใช้สายสวนเข้าหลอดพระโลหิตดาเพื่อฟอกพระโลหิตระยะยาว แต่มีพระความดันพระโลหิตต่า
จึงใช้เคร่อื งช่วยหายพระทยั และมีการฟอกไต พระอาการไม่คงที่ก่อนท่ีพระอาการจะเร่ิมทรุดลงเร่ือย ๆ ทรงมี
การติดเช้อื และการทางานของพระยกนะ (ตบั ) ผดิ ปกติ และมแี ถลงการณส์ านักพระราชวัง ฉบับท่ี 38 ความว่า
วันน้ี คณะแพทยผ์ ถู้ วายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานว่า เม่ือวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ความดนั พระโลหิตลดตา่ ลงอีก พระชีพจรเร็วขึ้น ร่วมกบั ภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นอีก ผลของการ
ถวายตรวจพระโลหติ บง่ ช้วี ่า มภี าวะการติดเช้ือและการทางานของพระยกนะ (ตับ) ผิดปรกติ คณะแพทย์ฯ ได้
ถวายพระโอสถปฏิชีวนะและแก้ไขภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรด ตลอดจนถวายพระโอสถควบคุมความดัน
พระโลหิตเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งถวายเครื่องช่วยหายพระทัย (Ventilator) และถวายการรักษาด้วยวิธีทดแทนไต
(CRRT) พระอาการประชวรโดยรวมยังไม่คงที่ ต้องควบคุมด้วยพระโอสถ คณะแพทย์ฯ ได้เฝ้าติดตามพระ
อาการและถวายการรักษาอยา่ งใกล้ชิด
วันท่ี 12 ตุลาคม พระราชโอรส-ธิดาทั้งส่ีพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวร
ราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธออีกสองพระองค์เข้าเย่ียมพระอาการประชวร โดยนับตั้งแต่สานัก
พระราชวังได้แถลงการณ์พระอาการประชวร ฉบับท่ี 37 ประชาชนจานวนมากได้เดินทางมายัง
โรงพยาบาลศิริราชเพ่ือถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวร กิจกรรมสาคัญคือการสวดบท
โพชฌังคปริตร ซ่ึงเช่ือว่าจะเป็นบทสวดมนต์ปัดเป่าโรคร้าย พร้อมท้ังมีการเชิญชวนประชาชนสวมเส้ือสี
ชมพูซ่ึงเป็นสีเสริมดวงพระราชสมภพและมีการร่วมกันถวายพระพรท่ัวทั้งสื่อสังคม วันท่ี 13 ตุลาคม พระ
บรมวงศานุวงศท์ กุ พระองค์เสด็จฯ มายังโรงพยาบาลศิรริ าช
สานักพระราชวังมีประกาศเรื่องพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรม
นาถบพิตร สวรรคต เมื่อวันท่ี 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ความว่าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา
ภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จกั รนี ฤบดนิ ทร สยามนิ ทราธิราช บรมนาถบพิตร
เสด็จพระราชดาเนนิ ไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ ท่ี 3 ตุลาคม
พ.ศ. 2557 ตามท่ีสานักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะแล้วน้ัน แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษา
อย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลาดับ ถึงวัน
พฤหัสบดี ท่ี 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริ
ราช ด้วยพระอาการสงบ สริ ิพระชนมพรรษาปที ี่ 89 ทรงครองราชสมบตั ไิ ด้ 70 ปี
เคลือ่ นพระบรมศพสู่พระบรมมหาราชวัง
ขบวนเคลอื่ นพระบรมศพฯ จากโรงพยาบาลศิรริ าช ไปยังพระบรมมหาราชวัง
วันท่ี 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรม
หาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร
พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จพระราชดาเนินไปโรงพยาบาลศิริราช เพ่ือเคล่ือนพระบรมศพของ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรไปพระบรมมหาราชวัง เพ่ือ
ประกอบพระราชพิธสี รงนา้ พระบรมศพ ณ พระที่น่ังพิมานรัตยา โดยขบวนเคล่ือนออกจากโรงพยาบาลศิริ
ราชทางถนนอรุณอมรินทร์ ผ่านไปยังแยกอรุณอมรินทร์ขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เคล่ือนต่อไปถนน
ราชดาเนินในส่พู ระบรมมหาราชวงั ทางถนนหน้าพระลานทปี่ ระตพู มิ านไชยศรีและประตเู ทวาภิรมย์
พระราชพธิ ถี วายน้าสรงบรมพระศพ
วนั ศกุ ร์ที่ 14 ตลุ าคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.00 นาฬิกาโดยประมาณ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร
รามาธบิ ดีศรสี ินทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชิรเกลา้ เจา้ อยู่หวั ครงั้ ยงั เปน็ สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช สยาม
มกุฎราชกุมาร เสดจ็ พระราชดาเนนิ ยังพระที่นั่งพมิ านรัตยา ในพระบรมมหาราชวังในการถวายสรงนา้ พระบรม
ศพ พร้อมด้วยพระบรมวงศานวุ งศ์ เสดจ็ เข้าสภู่ ายในพระฉาก ซง่ึ พระบรมศพบรรทมอยู่บนพระแทน่
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูป
เทียนเครื่องทองน้อยสาหรับพระบรมศพบูชาพระพุทธรูปประจาพระชนมวาร จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยราช
สักการะพระบรมศพ ทรงรับขวดน้าพระสุคนธ์ โถน้าอบไทยและโถน้าขม้ิน ถวายสรงท่ีพระบาทพระบรมศพ
ต่อจากน้ัน ทรงหวีเส้นพระเจ้าพระบรมศพข้ึนคร้ังหนึ่ง หวีลงอีกครั้งหนึ่ง แล้วหวีข้ึนอีกคร้ังหน่ึง แล้วทรงหัก
พระสางนั้นวางไว้ในพานซึ่งเจ้าพนักงานเชิญอยู่ จากน้ันเสด็จฯ ไปทรงถวายซองพระศรีบรรจุดอกบัวและธูป
เทียน แผ่นทองคาจาหลักลายปดิ พระพกั ตร์ พระชฎาหา้ ยอดวางข้างพระเศยี รพระบรมศพ
ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้เจ้าพนักงานเชิญพระบรมศพลงสู่หีบ ทหารราชวัลลภรักษาพระองค์เชิญ
หีบพระบรมศพไปยังพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยาม
มกุฎราชกุมารและพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดาเนินและเสดจ็ ตาม ตารวจหลวงเชิญหีบพระบรมศพข้ึน
ประดิษฐานเหนือพระแทน่ แวน่ ฟ้าเบอื้ งหลังพระฉากและพระแท่นสุวรรณเบญจดล ประกอบพระลองทองใหญ่
ภายใต้นพปฎลเศวตฉัตร แวดล้อมด้วยเครื่องสูงหักทองขวาง บังแทรก ชุมสาย ต้นไม้ทองเงิน ณ มุขตะวันตก
พระทีน่ งั่ ดสุ ติ มหาปราสาท
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงวางพวงมาลาที่หน้าพระโกศพระบรมศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะพระบรม
ศพ ทรงกราบ แล้วทรงจุดเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจาพระชนมวารท่ีหน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร
ทรงกราบ เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์เที่ยวละ 10 รูป ทรงทอดผ้าไตรเที่ยวละ 10 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์
เมื่อครบ 100 รูป ทรงหล่ังทักษิโณทก ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระ
ปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปท่ีหน้าพระโกศ
พระบรมศพ ทรงกราบ และเสด็จพระราชดาเนินไปที่หน้าพระพุทธรูปประจาพระชนมวารที่ประดิษฐานอยู่บน
พระแท่นมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ จากน้ันทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองบูชากระบะมุกท่ีหน้าพระแท่นเตียงพระสวด
พระอภิธรรม ณ มุขหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จากนั้น เสด็จลงบันไดมุขกระสันด้านทิศเหนือพระท่ีน่ัง
ดุสติ มหาปราสาท ประทบั รถยนต์พระทีน่ ่งั เสด็จพระราชดาเนนิ กลบั
หมายกาหนดการพระราชพิธีทรงบาเพ็ญพระราชกศุ ลถวายพระบรมศพฯ
สานกั พระราชวัง กาหนดการพระราชพธิ ีทรงบาเพ็ญพระราชกุศล ถวายพระบรมศพ พระบาทสมเดจ็
พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ดงั นี้
พระราชพิธี ระยะเวลา วนั ท่ี
พระราชพธิ ีทรงบาเพญ็ พระราชกศุ ลสัตตมวาร 7 วัน 19 – 20 ตลุ าคม พ.ศ. 2559
พระราชพิธีทรงบาเพญ็ พระราชกุศลปณั รสมวาร 15 วัน 27 – 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559
พระราชพิธีทรงบาเพญ็ พระราชกศุ ลปญั ญาสมวาร 50 วัน 1 – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559
พระราชพธิ ีทรงบาเพญ็ พระราชกศุ ลสตมวาร 100 วัน 20 – 21 มกราคม พ.ศ. 2560
พระราชพิธที รงบาเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต 365 วนั 13 – 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560
การบาเพญ็ กศุ ลพิธกี งเตก็ ถวายพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระ
กรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้คณะสงฆ์จีนนิกาย คณะสงฆ์อนัมนิกาย นายกอง
เอก เจริญ สิริวัฒนภักดี และ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี พร้อมครอบครัวสิริวัฒนภักดี สมาคมนักธุรกิจ
สัมพันธ์แห่งประเทศไทย และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นเจ้าภาพบาเพ็ญกุศลพิธีกงเต็ก ถวายพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่น่ังดุสิตมหาปราสาท ใน
พระบรมมหาราชวัง ในวันท่ี 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560 วันท่ี 12 เมษายน พ.ศ.
2560 วนั ท่ี 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 และวนั ที่ 28 มิถนุ ายน พ.ศ. 2560 ตามลาดับ
หีบพระบรมศพ
นายพรเทพ สุริยา เจ้าของร้านสุริยาหีบศพ กล่าวว่า สานักพระราชวังได้ติดต่อให้จัดสร้างหีบพระบรม
ศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยสร้างหีบพระบรมศพทรง
หลุยส์ผสมทองคาแท้ 100% จากแผ่นไม้สักทองอายุมากกว่า 100 ปีขนาดใหญ่เพียงแผ่นเดียวไม่มีรอยต่อ
ขนาดความกว้าง 29 นิ้ว ความยาว 2.15 เมตร วัดรอบหีบทั้งใบ 229 นิ้ว ท้ังนี้ใช้เวลาประกอบทันทีหลังการ
เสด็จสวรรคต เจ้าของร้านสุริยาหีบศพ กล่าวเพ่ิมเติมว่า หีบพระบรมศพดังกล่าวแกะสลักลายกุหลาบไทย
ผสมผสานลายหลุยส์ รอบหีบปิดด้วยทองคาแท้ ภายในหีบพระบรมศพ ใช้ผ้าไหมสีงาช้าง มีท่ีรองที่บรรทม
และซลี ภายในเพื่อความแขง็ แรง สว่ นผา้ คลุมเป็นผ้าไหมปักดิ้นทอง ซงึ่ ทางสรุ ยิ าเปน็ ผู้ออกแบบเองท้ังหมด
การประโคมยา่ ยาม
ในการประโคมงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถ
บพิตร มหี นว่ ยงานเขา้ ร่วมประโคม วงประโคมของงานเครื่องสูง สานกั พระราชวงั (วงแตรสงั ข์และวงปี่ไฉน
กลองชนะและกลองมโหรทึก) และวงปี่พาทย์นางหงส์ ของกล่มุ ดุริยางค์ไทย สานักการสังคีต กรมศิลปากร
กระทรวงวฒั นธรรม
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
รวิ้ กระบวนเชญิ พระมหาพิชัยราชรถทรงพระโกศทองใหญ่ทรงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร
พระราชพิธถี วายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรม
นาถบพิตร เป็นพระราชพิธีที่รัฐบาลไทยจดั เพ่ือถวายความอาลยั เป็นครง้ั สุดท้ายแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชน
กาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยรัฐบาลกาหนดวันพระราชพิธีระหว่างวันท่ี 25-29 ตุลาคม
พ.ศ. 2560 และได้ประกาศให้วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็น
วนั หยดุ ราชการเปน็ กรณพี เิ ศษ
สาหรับการดาเนนิ การพระราชพิธฯี นั้น คณะทางานทกุ ฝา่ ยได้ดาเนินการอย่างต่อเน่ือง มีการสร้างพระ
เมรุมาศและอาคารประกอบ เช่น พระที่น่ังทรงธรรม ศาลาลูกขุน เป็นต้น ส่วนการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ
ราชยาน รวมทั้งประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศในพระราชพิธีคร้ังน้ีได้มีการปรับปรุงให้มีความร่วม
สมัย คาดการณ์ว่าการจัดสร้างพระเมรุมาศจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 โดยมีสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์วินิจฉัยในการจัดสร้างพระเมรุมาศ พลเอก ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานอานวยการพระราชพิธี และเคร่ืองประกอบพระราชพิธีน้ัน ได้มีการ
ซ่อมแซมพระมหาพิชัยราชรถ พระยานมาศสามลาคาน ราชรถน้อย พระที่น่ังราเชนทรยาน และพระวอสีวิกา
กาญจน์ เพื่อพร้อมใช้ในพิธีจริง นอกจากน้ียังมีการจัดสร้างราชรถ ราชยานข้ึนมาใหม่ คือ ราชรถปืนใหญ่และ
พระที่น่ังราเชนทรยานน้อย ซ่ึงราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบเหล่าน้ีได้ใช้ในการซ้อมย่อยเม่ือวันที่ 8
ตุลาคม และ 15 ตลุ าคม รวมถงึ การการซอ้ มใหญใ่ นวันท่ี 21 ตุลาคม
คณะรัฐมนตรไี ด้กาหนดการพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพ โดยมีพระราชพิธีสาคัญ ได้แก่ พระราช
พิธีทรงบาเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ ในวันท่ี 25 ตุลาคม, พระราชพิธีเชิญพระบรมโกศออกพระเมรุ
มาศ และถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันท่ี 26 ตุลาคม ซึ่งคณะรัฐมนตรีกาหนดให้เป็นวันหยุดราชการเป็น
กรณีพิเศษด้วย, พระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิและเชิญพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารกลับเข้าสู่
พระบรมมหาราชวงั ในวนั ที่ 27 ตลุ าคม, พระราชพิธีทรงบาเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ในวันท่ี 28 ตุลาคม,
พระราชพิธเี ลยี้ งพระ และเชิญพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระที่น่ังจักรีมหาปราสาท และพระราชพิธีบรรจุ
พระบรมราชสรรี างคาร ในวันที่ 29 ตลุ าคม
วันพุธท่ี 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.00 น .พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร
มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปทรงบาเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุมาศ
ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ณ พระที่น่ังดุสิตมหาสาท พระบรมมหาราชวัง ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียน
เคร่ืองราชสักการะพระบรมศพ ทรงจุดธูปเทียนนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจาพระชนมวาร ทรงประเคนพัด
กรองที่ระลกึ งานออกพระเมรุแดส่ มเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะท่ีจะถวายพระธรรม
เทศนา และพระราชาคณะที่จะสวดศราทธพรต 30 รูป พระสงฆ์ท่ีจะสดับปกรณ์ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษา
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์ที่จะสวดพระ
อภิธรรม 8 รูป บรรพชิตจีนและญวน 20 รูป พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา ถวายไทยธรรมบูชากัณฑ์
เทศน์ จากน้ันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าไตรถวายพระเทศนา พระสงฆ์สวดศราทธพรต พระสงฆ์
สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา บรรพชิตจีนและญวนสวดมาติกา สดับปกรณ์ และ
ถวายอนุโมทนา ทรงจุดธูปเทียนท่ีแท่นเตียงพระสวดพระอภิธรรม แล้วเสด็จพระราชดาเนินกลับพระราชพิธี
เชิญพระบรมโกศออกพระเมรุมาศ
วันพฤหัสบดีที่ 26 ตลุ าคม พ.ศ. 2560 เวลา 07:24 น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรี
สินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปในการเชิญพระบรมโกศออกพระเมรุ
มาศ ในการน้ีทรงจุดธูปเทียนเครอื่ งราชสกั การะพระบรมศพและเครื่องนมสั การบูชาพระพุทธรูปประจาพระชน
มวาร ทรงทอดผ้าไตร ก่อนอัญเชิญพระบรมโกศพระราชาคณะ 30 รูป สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวาย
อดิเรก ถวายพระพรลา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปล้ืองพระโกศทองใหญ่เชิญพระลอง ลงจากพระแท่น
สุวรรณเบญจดลไปประดิษฐานท่ีพระยานมาศสามลาคาน ท่ี ประตูกาแพงแก้วพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ตามไปส่งที่ชาลาพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาท มุขเหนือ อัญเชิญพระบรม
โกศดว้ ย พระยานมาศสามลาคานออกจากพระบรมมหาราชวงั ถวายนพปฎลมหาเศวตฉัตรคันดาลกางกั้น แล้ว
ยาตราขบวนพระบรมราชอิสริยยศไปยังพระมหาพิชัยราชรถ หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาร าม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดาเนินไปยังพลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทรง
ทอดผ้าไตร 20 ไตร ทีท่ ้ายเกรนิ บันไดนาคพระมหาพิชยั ราชรถ พระสงฆ์สดับปกรณเ์ ที่ยวละ 5 รูป อัญเชิญพระ
บรมโกศ ข้ึนประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชยั ราชรถ ยาตราขบวนแห่อัญเชิญพระบรมโกศ ไปยังพระเมรุมาศ
ท้องสนามหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ตาม เมื่อขบวนพระบรมราชอิสริยยศแห่อัญเชิญพระ
บรมโกศเข้าสู่ท้องสนามหลวง ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ ไปประทับรอท่ีพลับพลายกนอก
ราชวัติพระเมรุมาศ เม่ือเทียบพระมหาพิชัยราชรถอัญเชิญพระบรมโกศลงจากพระมหาพิชัยราชรถโดยเกริน
บันไดนาคประดษิ ฐานพระบรมโกศบนราชรถปืนใหญ่เพื่อต้ังขบวนพระบรมราชอิสริยยศ สาหรับเวียนพระเมรุ
มาศ เสร็จแลว้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯ ตามพระบรมโกศเวียนพระ
เมรุมาศ ครบ 3 รอบแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯ ไปประทับ ณ พระที่นั่งทรง
ธรรม เทยี บราชรถปนื ใหญ่ที่เกรนิ บนั ไดนาคพระเมรมุ าศอญั เชญิ พระบรมโกศข้ึนประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน
ปิดพระฉากและพระวิสูตร ประกอบพระโกศจันทน์ ต้ังแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว เปิดพระฉากและพระวิสูตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นพระเมรุมาศ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรม
ศพ เสดจ็ ลงจากพระเมรุมาศ เสดจ็ ขนึ้ ผา่ นพระท่นี ง่ั ทรงธรรมไปประทับรถยนต์พระที่นั่งหลังพระที่น่ังทรงธรรม
เสดจ็ พระราชดาเนินกลับ
วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17:15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราช
ดาเนินไปยัง พระท่ีน่ังทรงธรรม ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงพระ
กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร
มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูป
เทยี นเครอื่ งทองน้อย สาหรับพระบรมศพทรงธรรมท่ีพระเมรมุ าศ สมเดจ็ พระสังฆราชถวายพระธรรมเทศนาจบ
พระราชาคณะ 50 รูป สวดศราทธพรต ถวายไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตร ถวายพระเทศน์
และพระสงฆ์ท่ีสวด ศราทธพรตสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระท่ีนั่งทรงธรรม เสด็จฯ
ไปประทับที่มุขหน้าพระที่น่ังทรงธรรม ผู้แทนจิตอาสาเชิญดอกไม้จันทน์ 9 พานผ่านพระท่ีนั่งทรงธรรม ถวาย
ความเคารพแลว้ เดินออกจากมณฑลพิธี จากนั้นเสด็จขึ้นพระเมรุมาศ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพเป่าแตร
นอน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนดอกไม้จันทนถวายพระเพลิงพระบรมศพ ชาวพนักงาน
ประโคมกระท่ังมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ป่ี กลองชนะและป่ีพาทย์ ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ
ถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และยิงปืนเล็กยาว 9 นัด พร้อมกับทหารปืน
ใหญ่ยิงปืนใหญ่ถวาย พระเกียรติ 21 นัด เสด็จฯ ไปประทับมุขหน้าพระท่ีน่ังทรงธรรม จากน้ัน คณะบุคคล
ต่างๆ จะได้ขึ้นถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชปฏิสันถารกับพระราชพิธี
จริง (สว่ นพระองค)์
สดุ วปิ โยค สดุ ตรอมตรม ทวั่ ท้ังชาติ เหล่าทวยราษฎร์ ปราศสิ้นสุข ทุกขเ์ ศร้าหมอง
26 ตลุ า ปวงประชา น้าตานอง ไทยท้ังผอง รวมนา้ ใจ ให้ภูมี
ถวายพระเพลงิ องค์ราชนั สชู่ ัน้ ฟ้า หวงั ภพหนา้ ข้ารองบาท พระทรงศรี
ถวายอาลยั ครง้ั สุดท้าย องคจ์ กั รี ม่ันทาดี ทว่ั ถิ่นไทย ถวายพระองค์
(นายประสาร ธาราพรรค์ ร้อยกรอง)
เวลา 17:15 น. สมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวเสด็จพระราชดาเนนิ ไปยังพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวงในการพระ
ราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และในเวลา 22:30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จข้ึนพระเมรุมาศ พร้อม
ด้วยพระบรมวงศานวุ งศใ์ นการถวายพระเพลิงพระบรมศพ (จริง)
วันศุกร์ท่ี 27 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 8:43 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนิน
ไปยงั พระเมรุมาศ พรอ้ มดว้ ยพระบรมวงศานุวงศ์เสดจ็ ข้ึนพระเมรุมาศ เจ้าพนักงานภูษามาลาเปิดผ้าเยียรบับท่ี
ถวายคลุมพระบรมอัฐิ ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระบรมอัฐิ ถวายสรงพระบรมอัฐิด้วยน้าพระสุคนธ์
ทั่วแล้ว เจ้าพนักงานภูษามาลาถวายผ้าเยียรบับคลุมพระบรมอัฐิ ทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อยสาหรับพระ
บรมอัฐิบูชาพระสงฆ์ ทรงทอดผ้าไตรถวายพระ 3 หาบ พระสงฆ์ข้ึนสดับปกรณ์พระบรมอัฐิ พระสงฆ์
สดับปกรณ์ครบ 9 รูป แล้ว เจ้าพนักงานภูษามาลาเปิดผ้าคลุมพระบรมอัฐิทรงเก็บพระบรมอัฐิสรงพระสุคนธ์
แล้วประมวลลงในพระโกศทองคาลงยารวม 6 พระโกศทรงพระราชทานพระโกศพระบรมอัฐิแก่พระบรมวงศ์
แลว้ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนกั งานภษู ามาลาอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิลงจากพระเมรุมาศไปยัง
พระท่ีน่ังทรงธรรม เสด็จฯ ตามประทับที่หน้าอาสน์สงฆ์เจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ
ประดิษฐานในบุษบกเหนือพระแท่นแว่นฟ้า ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิแล้วทรงประเคน
โตกสารับภตั ตาหาร 3 หาบ แด่พระสงฆ์ 9 รูป พระสงฆ์ 3 หาบ รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว เสด็จฯ ไปถวาย
เครื่องสังเคด็ งานถวายพระเพลิงพระบรมศพแด่พระสงฆ์ 3 หาบและพระสงฆ์ 30 รูป พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา
ถวายอดิเรก ออกจากพระท่ีนั่ง พระสงฆ์อีก 30 รูป ขึ้นน่ังยังอาสน์สงฆ์ สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์
สดับปกรณ์พระบรมอัฐิถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระท่ีนั่งต้ังขบวนพระบรมราชอิสริยยศอัญเชิญ
พระโกศพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคาร เข้าไปยังพระบรมมหาราชวังพระราชพิธีทรงบาเพ็ญพระราช
กุศลพระบรมอัฐิ
วนั เสารท์ ่ี 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17:32 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนิน
ไปยังพระทีน่ ่ังดุสติ มหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวงั ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระบรมอัฐิและพระ
อัฐสิ มเด็จพระบรมราชบุพการีที่ประดิษฐานบนพระแท่นมหาเศวตฉัตรและทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ
พระบรมอัฐิพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซ่ึงประดิษฐาน
ณ พระแท่นแว่นฟ้า แล้วทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจาพระชนมวารสมเด็จพระบรมราชบุพการีและ
พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แล้วทรง
ประเคนพัดรองที่ระลึกงานทรงบาเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิแด่พระราชาคณะท่ีถวายพระธรรมเทศนา
พระราชาคณะ 31 รูป ที่สวดพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ท่ีรับอนุโมทนา 4 รูป พระสงฆ์ที่สวดมาติกาและ
สดับปกรณ์ 12 รปู ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณพ์ ระบรมอฐั ิถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพร
ลา ออกจากพระที่นั่ง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนาจบ ถวาย
อนโุ มทนา (บนธรรมาสน์) พระสงฆ์ 4 รูปรับอนุโมทนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทย
ธรรมบชู ากณั ฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตรถวายพระเทศน์และพระสงฆ์ท่ีรับอนุโมทนา รวม 5 รูป ถวายอดิเรก
ถวายพระพรลา ออกจากพระท่ีน่ัง ทรงทอดผ้าไตรพระสงฆ์ 12 รูป สวดมาติกา สดับปกรณ์พระบรมอัฐิและ
พระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการีท่ีอัญเชิญออกมาในการพระราชกุศลน้ี ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวาย
พระพรลา ออกจากพระทนี่ ง่ั
วนั อาทิตยท์ ี่ 29 ตลุ าคม พ.ศ. 2560 เวลา 10:43 น. น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรี
สินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปยังพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท ใน
พระบรมมหาราชวัง ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา
ภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ทรงจดุ ธูปเทียนเคร่ืองนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจาพระชนมวาร
ที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป ที่สวดพระพุทธมนต์แต่วันก่อนถวายพระพร ทรงประเคน
ภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
ถวายพระพรลา ออกจากพระท่ีนั่ง ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองทรงธรรม ทรงศีล พระราชาคณะถวายพระธรรม
เทศนาจบแล้ว ถวายอนุโมทนา พระสงฆ์ 4 รูปรับอนุโมทนา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์
แล้วทรงทอดผ้าไตร ถวายพระเทศน์และพระสงฆ์ท่ีรับอนุโมทนา รวม 5 รูป สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวาย
พระพรลา ออกจากพระทน่ี ่ัง พระสงฆ์ 89 รูป เทา่ พระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา
ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ข้นึ นัง่ ยัง อาสน์สงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์
เป็นเที่ยวๆ จบครบ 89 รูป (เท่ียวแรก 12 รูป สดับปกรณ์ แล้วถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
เที่ยวต่อไปเทีย่ วละ 11 รูป จานวน 7 เที่ยว ข้ึนสดับปกรณ์แล้วลงจากพระที่นั่ง)พระราชพิธีบรรจุพระบรมราช
สรีรางคาร[แก้]ริ้วขบวนที่ 6 ขบวนกองทหารม้า เชิญพระบรมราชสรีรางคารจากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรี
รัตนศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่น่ัง ออกจากพระบรมมหาราชวังไปบรรจุ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ราชวรวิหาร และวดั บวรนิเวศราชวรวหิ ารวันเดียวกัน
เวลา 17:28 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้า
เจ้าอยู่หัว ไปยังศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าฯ รับเสด็จเจ้า
พนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิ
พลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยพระราชยานจากพระศรีรัตนเจดีย์ มีตารวจหลวงนา ไปออกประตู
เกยหลงั วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม อญั เชญิ ไปถวายพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราช
เจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณี
พีรยพฒั น รฐั สมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี ณ รถยนต์พระที่นั่ง แล้วรถพระท่ีนั่งเคล่ือนเข้าริ้วขบวน
ท่ี 6ขบวนกองทหารม้านาและตามตั้งขบวน พร้อมอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารจากวัดพระศรีรัตนศาสดา
รามโดยรถยนตพ์ ระทน่ี ง่ั ออกจากพระบรมมหาราชวงั ทางประตวู เิ ศษไชยศรีไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
โดยขบวนทหารม้านา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ประทับรถยนต์พระที่น่ังทรง
อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร กองทหารม้าตาม เจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารจาก
รถยนต์พระท่นี ง่ั เข้าประตูวัดราชบพิธสถติ มหาสมี าราม พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาว
ชริ าลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้า
มหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราช
กุมารี เสด็จฯ ไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรง
จุดธูปเทียนเคร่ืองทองน้อยถวายราชสักการะ แล้วเสด็จฯ ไปยังพระอุโบสถ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูป
เทียนเคร่ืองนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรส พระประธาน พระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองทองน้อยถวายราช
สกั การะพระบรมราชสรรี างคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชสรีรางคารสมเด็จพระนาง
เจ้าราไพพรรณีพระบรมราชนิ ี ในรัชกาลที่ 7 และพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตรพระสงฆ์ 30 รูป สดับปกรณ์ ถวาย
อนโุ มทนา ถวายอดิเรก แลว้ ทรงบรรจพุ ระบรมราชสรรี างคารที่ ฐานพทุ ธบลั ลงั กพ์ ระพุทธอังคีรส ชาวพนักงาน
ประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตร กลองชนะ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลง
สรรเสริญพระบารมี จบแล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยจากน้ัน
เสด็จพระราชดาเนินไปประทับรถยนต์พระท่ีน่ังในขบวนกองทหารม้าขบวนเดิม ทรงอัญเชิญพระบรมราช
สรีรางคาร อีกส่วนหนึ่งออกจากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร โดยขบวน
ทหารมา้ นาและตามอัญเชิญพระบรมราชสรรี างคาร โดยรถยนต์พระที่นั่งเข้าประตูวัดบวรนิเวศวิหารไปยังพระ
อุโบสถ สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองนมัสการบูชาพระพุทธชินสีห์ พระประธานพระอุโบสถ ทรง
จุดธูปเทียนเคร่ืองทองน้อยถวายราช สักการะพระบรมราชสรี รางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้า
เจ้าอยูห่ วั ทรงจดุ ธปู เทียนเครือ่ งทองนอ้ ยถวายราชสกั การะพระบรมราชสรรี างคารพระบาทสมเด็จพระบรมชน
กาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ 30 รูป
สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรกแล้วทรงบรรจุพระบรมราชสรีรางคารท่ีฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธชิน
สีห์ ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตร กลองชนะ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วง
ดุรยิ างคบ์ รรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จบแลว้ สมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัวทรงวางพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่อง
ทองน้อย แล้วเสด็จพระราชดาเนินไปประทับรถยนตพ์ ระท่นี ั่ง เสด็จพระราชดาเนนิ กลบั
เอกสารอา้ งองิ
จดหมายเหตคุ วามทรงจา กรมหลวงนรนิ ทรเทวี.พรนคร: องคก์ ารคา้ ครุ สุ ภา,2516.
ทิพยากรณ.์ เจา้ พระยา.พระราชพงศาวดารกรงุ รัตนโกสนิ ทร์.พระนคร: หอสมดุ แหง่ ชาติ,2506.
วรนุช อุษณกร. ในหลวงผู้ทรงพระอัจฉริยภาพ. พมิ พ์ครงั้ ที่ 1, พ.ศ. 2544 ,โอเดยี นสโตร์, กรงุ เทพฯ
วโิ รจน์ ไตรเพียร, 9 รชั กาลแหง่ ราชวงศ์จักรี, สานักพิมพ์ คลงั ศกึ ษา,2543,หน้า 108-116
วกิ ิพีเดีย สารานุกรม
วฒุ ชิ ัย มูลศลิ ป์ และคณะ, พระมหากษตั ริยแ์ ห่งกรงุ รตั นโกสินทร์, อลั ฟ่า มิเลน็ เนียม
พระราชประวตั ิพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู วั ภูมพิ ลอดุลยเดช จากเวบ็ ไซต์
พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา, กรุงเทพฯ : สานักวรรณกรรมและประวัตศิ าสตร์
กรมศิลปากร 2548.
สมเดจ็ พระเจ้าพ่นี างเธอ เจ้าฟา้ กลั ป์ยาณวิ ัฒนา, เจ้านายเล็กๆ – ยวุ กษตั รยิ ์, ซลิ ค์เวอร์ม บคุ ส์, พมิ พ์
ครงั้ ท่ี 6 พ.ศ. 2549, 450 หน้า,
เสทือ้ น ศุภโศภณ. ประวัติศาสตรไ์ ทย ฉบบั พัฒนาการ. พระนคร: อักษรเจริญทัศน์,2506.
WWW.GOOGLE.COM
https://th.wikipedia.org › wiki › ฝนหลวง
www.เรารกั พระเจา้ อยหู่ วั .com
Sosicty Softbizplus http://siweb.dss.go.th/sci60/team6/data/page4.htm
https://king.kapook.com
https://th.wikipedia.org
www.wice.co.th
https://today.line.me
https://www.autoinfo.co.th
https://urbancreature.co
https://ka.mahidol.ac.th
https://th.wikipedia.org
https://www.sanook.com
https://www.loveyouflower.com
https://sites.google.com
https://www.jamsai.com
https://www.voicetv.co.th
https://www.youtube.com
https://www.photoontour.com
http://www.เรารักพระเจ้าอยูห่ ัว.com
https://www.vogue.co.th
https://news.omumusic.net
www.trueplookpanya.com
https://sites.google.com
http://www.rspg.org/kbd_80.htm
http://www.bangkokbiznews.com
http://www.vcharkarn.com/varticle/38236
www.finearts.go.th
ขอขอบคณุ เนอื้ หาและภาพจากเว็บไซตต์ า่ งๆ