วัดพระมหาธาตวุ รมหาวิหาร นครศรีธรรมราช ในอดีต
หน้าบรรณ วิหารวดั สระเวียง นครศรีธรรมราช
เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีกรีฑาทัพเข้าสู่เมืองนครศรีธรรมราช ได้เข้านมัสการพระบรมธาตุและได้
เขา้ ประทบั ณ พลับพลาท่ปี ระทบั ทข่ี ้าราชบรพิ ารจดั สร้างถวาย ณ วัดสระเรียง พลับพลาท่ีประทับยังมีหน้าจ่ัว
ไม้แกะสลักขณะที่เก็บรักษาไว้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดนครศรีธรรมราชหรือที่เรียกกันว่า หน้าบัน
เจ้าตาก ขณะทีป่ ระทบั อยใู่ นนครศรธี รรมราชกท็ รงทราบว่า เจ้านครหนูได้หนีไปยังเมืองปัตตานี ท้ังน้ีเพราะชัย
ชนะและความยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระเจ้าตากสินในเวลาน้ัน ทาให้เจ้าพระยานครศรีธรรมราชบังเกิดความ
หวาดหวัน่ เกรงกลัวราชภัยเป็นอันมาก จึงได้นาบริวารหนีเตลิดต่อไปยังเมืองปัตตานี อันเป็นหัวเมืองประเทศ
ราชของกรุงศรีอยุธยา ซ่ึงถือว่าเป็นดินแดนสามนตราชท่ีอยู่พ้นปัจจันตประเทศแห่งราชอาณาจักรกรุงศรี
อยุธยา
ภาพเมืองปัตตานสี มยั โบราณ
เม่ือเรื่องทราบถึงพระกรรณของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ก็ทรงมีพระราชดารัสส่ังให้พระยาจักรี (หมุด)
กบั พระยาพิชัยราชา (ทองดี ฟนั ขาว) นายทหารเอกคูพ่ ระทัยของสมเด็จพระเจ้าตากสิน เร่งนากองกาลังไปตาม
จับตัวเจ้าพระยานครศรีธรรมราชกับสมัครพรรคพวกเอามาให้จงได้หาไม่จะต้องถูกลงพระราชอาญา ดังนั้น
ขุนพลท้ังสองจึงนากาลังเดินทัพไปจนถึงเมืองปัตตานี หยุดทัพอยู่ท่ีหน้าประตูเมืองแล้วเขียนสาสน์แจ้งแก่พระ
ยาปตั ตานศี รสี ลุ ตา่ น, สลุ ต่านแห่งเมืองปัตตานี ใหจ้ บั ตัวเจา้ พระยานครสรีธรรมราชกบั บริวารส่งมาให้แก่แม่ทัพ
ทั้งสองเสยี แต่โดยดี มิฉะนน้ั จะยกกาลงั บกุ ตะลยุ เข้าไปในเมืองปตั ตานี จบั ตัวเจา้ พระยานครฯกบั พวกเสยี เอง
ฝา่ ยพระยาปตั ตานีศรีสุลต่าน เกรงภัยจะมาถึงตัว จึงจับเจ้าพระยานครฯ พร้อมด้วยบริวารนามาส่งมอบให้แก่
พระยาจักรีและพระยาพิชัยราชาแต่โดยดี แล้วแม่ทัพท้ังสองก็คุมตัวเจ้าพระยานครฯ และบริวารมาถวายแก่
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งได้ทรงสอบสวนซักถามด้วยพระองค์เองอย่างใกล้ชิดเป็นเวลานาน จนใครๆ
พากันคาดวา่ เจ้าพระยานครศรีธรรมราชคงจะต้องถูกประหารชีวิตอย่างแน่ๆแล้วแต่ ต่างก็ผิดความคาดหมาย
ไปตามๆกัน เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงตกลงพระทัยมีพระราชวินิจฉัย ไม่ประหารชีวิตเจ้าพระยา
นครศรีธรรมราชและบริวาร โดยทรงให้เหตุผลประกอบพระราชวินิจฉัยของพระองค์ว่า เจ้าพระยา
นครศรีธรรมราชน้ี ในขณะกระทาผิด (คือ ประกาศต้ังตัวเป็นอิสระ) มิได้เป็นข้าราชการของพระองค์ (เพราะ
ขณะน้นั พระองคเ์ องกก็ าลงั ตง้ั ตวั เป็นอิสระอยู่ท่ีเมืองจันทบุรี) ดังน้ัน การต้ังตัวเป็นอิสระของเจ้าพระยานครฯ
จึงมิใช่เป็นกบฏต่อพระองค์และการประกาศตั้งตัวเป็นอิสระของเจ้าพระยานครศรีธรรมราชน้ัน ก็เพื่อ
วตั ถปุ ระสงค์ทจ่ี ะกอบกู้เอกราชของชาติ เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้กระทามาแล้วเหมือนกัน หากแต่เจ้าพระยา
นครศรธรรมราชไม่มีบุญญาบารมีมากพอ การกระทาของตนจึงได้ประสบกับความพ่ายแพ้ไปในท่ีสุดจึงไม่มี
อะไรทจี่ ะต้องโทษต้องทัณฑ์ เสร็จแล้วดารัสให้นาตัวเจ้าพระยานครศรีธรรมราช กับพระยาพิมลขันธ์เข้าไปรับ
ราชการอยู่ในกรงุ ธนบุรี
คณุ ฉมิ ธิดาเจ้าพระยานครราชสีมา
เจา้ พระยานครศรีธรรมราชกับพระยาพิมลขันธ์ เม่ือได้ฟังกระแสพระบรมราชวินิจฉัยเช่นนั้น ก็พร้อม
กันกราบลงแทบพระบาทของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพร้อมกับถวายสัตย์ปฏิญาณสาบานว่าจักรับใช้
สนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยความจงรักภักดี และด้วยความซ่ือสัตย์สุจริตกตัญญูกตเวทิตา
ธรรมจนถึงที่สุด คร้ันแล้ว เจ้าพระยานครศรีธรรมราชจึงได้น้อมเกล้าถวายธิดา 2 นางท่ีเหลืออยู่ คือ คุณฉิม
และคุณปราง ให้เป็นพระสนมสนองบาทของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อความสนิทสนมแน่นแฟ้นสืบ
ไป ดังนั้นเม่ือพรเจ้าตากทรงคิดจะหนีราชภัยสถานท่ีใดท่ีปลอดภัยท่ีสุดก็คือนครศรีธรรมราช เพราะเจ้านครก็
เป็นคนของพระองค์ท่ีทรงวางกาลังไว้ พระสนมก็มาจากเมืองนครถึง 2 องค์ หากสมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จ
หนีไปยังเมืองนครศรีธรรมราชได้จริงย่ิงมีข้อสงสัยว่า หากสมเด็จพระเจ้าตากสินพระองค์จริงไม่ได้ถูกประหาร
จะมีการติดตามจากเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ร.1) หรือไม่ ใช่ว่าจะไม่มีการติดตาม แต่ทางทหารของสมเด็จ
พระเจ้าตากได้มีการเตรียมการต้ังรับไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว การเดินทัพเพื่อมาติดตามสมเด็จพระเจ้าตาก ที่
นครศรีธรรมราชถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะอยู่ในฐานะเมืองประเทศราช เป็นเมืองใหญ่ มีกองทัพท่ีพร้อมรบได้
ทันที นอกจากนี้ยังสามารถเกณฑ์กาลังจากหัวเมืองในสังกัดได้อีกจานวนมาก มีกองทัพเรือท่ีเข้มแข็ง รวมกับ
ทหารที่มาพร้อมกับสมเด็จพระเจ้าตากสินอีกจานวนมาก ประกอบกับการติดพันในการจากัด ทายาทของ
สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ และตดิ พนั กบั การรบกับเขมร และพม่า ท่ีมีอยู่อย่างต่อเนื่องครั้งท่ีใหญ่ที่สุดคือ สงคราม
9 ทัพ จงึ ไมส่ ามารถติดตามไดโ้ ดยสะดวก
ตามรอยสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ ทเี่ มอื งนครศรธี รรมราช
หลักจากที่สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงขึ้นสาเภาจีนที่ปากน้าแล้ว เม่ือมาถึงเมืองนครศรีธรรมราชได้
เสดจ็ มาประทับทีเ่ ขาขนุ พนมไดอ้ ย่างไร มใิ ช่ เสด็จหนีอยา่ งเดยี ว แต่ยงั มีการวางแผนต้ังรับหากถูกติดตาม เม่ือ
ถึงยงั นครศรธี รรมราช ได้เสด็จเขา้ ทางปากน้าปากพูน ลงเรือกาป่ันล่องไป ตามคลอง และหยุดสรงน้าในคลอด
สายหน่ึง ซึ่งปัจจุบันเป็นวัดเรียกกันว่า “วัดน้าสรง” ถัดเข้ามาอีกหน่อย จะมีการต้ังกองกาลังเป็นหน่วยเฝ้า
ระวงั ภัย ปจั จุบันเปน็ วัดชือ่ ว่า “วัดโรงฆอ้ ง” คอื จะมีการตั้งกลอง ฆอ้ งขนาดใหญ่ ไว้คอยส่งสัญญาเมื่อมีผู้บุกรุก
เข้ามา เพื่อให้ทหารหน่วยที่อยู่ลึกเข้าไปได้ เตรียมการต่อสู้ได้ทัน ถัดเข้าไปยิ่งใกล้ “เขาขุนพนม” จะมีการวาง
กองกาลงั ไว้เป็นทัพหนา้ ปัจจุบนั คือ “วัดโยธาธรรม” บริเวณน้ีจะมีการต้ังกองกาลังหลักไว้มีทหารประจาการ
อยู่มากทสี่ ดุ โดยใหต้ ั้งเปน็ หมบู่ า้ นมีศูนยก์ ลางอยทู่ ีบ่ ริเวณท่ตี ้งั วัดในปัจจบุ ัน มีการผลัดเปล่ียนเวรยามกันตลอด
และบริเวณนี้เองที่มกี ารพบอาวุธโบราณมากที่สดุ เรียกไดว้ ่าพบไดท้ กุ ครวั เรือนในแถบนั้น
คุณสมชาย ฝ่ังชลจิตร ไว้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเลือกเขาขุนพนมเป็นท่ี
ประทับลี้ภัยทางการเมอื ง มเี หตสุ าคัญดงั ต่อไปนี้
เมอื งนครศรธี รรมราชกำแพงเมอื งและคเู มอื งนครศรธี รรมรำชดำ้ นทศิ ใต ้
1. ความเกี่ยวพนั ทางสายพระโลหติ กับผ้คู รองเมืองนครศรธี รรมราชเป็นท่ีทราบกันในตอนที่ผ่านมากัน
แลว้ ว่า พระองคท์ รงมอบหมอ่ นปรางให้กบั พระยานคร (พฒั น์) ซึ่งได้กาเนิดบุตรท่ีติดครรภ์ออกมาซ่ึงก็
คอื เจ้าพระยานคร (น้อย)
2. การท่ีสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเลือกที่จะไปประทับอยู่ที่เขาขุนพนมแทนที่จะเป็นตัวเมือง
นครศรีธรรมราชกเ็ พราะ เป็นพระองคต์ อ้ งการความสงบเพี่อการปฏิบัติธรรม และไม่ต้องการให้ผู้อ่ืนเดือดร้อน
เพราะพระองค์
คลองปากพนู นครศรธี รรมราช
3. “เขาขุนพนม” ท่ีอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองก็จริงแต่มีชัยภูมิที่เหมาะ กล่าวคือ เส้นทางเดินเรือ
สมัยก่อนจากปากน้าปากพูนท่ีเป็นท่าเรือขนาดใหญ่สามารถออกทะเลได้ มีคลองเล็กคลองน้อยท่ีแตกสาขา
ออกมา ในบรเิ วณ เขนขนุ พนมเองก็มีคลองที่สามารถเช่ือมถึงกันได้กับคลองท่ีแตกสาขามาจากปากน้าปากพูน
คอื สามารถเดนิ เรอื ไดง้ ่าย
วดั เขาขนุ พนม
อนึ่ง มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ีได้บันทึกไว้ในหนังสือประวัติวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ว่า
สมเด็จพระเจ้าตากสินได้โปรดให้สร้างวิหารทับเกษตรต่อจากฐานทักษิณรอบองค์พระธาตุใน พ.ศ. 2312 แต่
มไิ ดห้ มายความว่า พระองคเ์ ป็นผสู้ รา้ งวหิ ารสามจอมซ่ึงเป็นท่ปี ระดษิ ฐานอัฐิของ สกลุ ณ นคร
สรุปในชั้นต้นนี้ได้ว่า ตามความเช่ือของชาวนครศรีธรรมราชนั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จ
ประทับอย่ทู ่เี ขาขนุ พนม เมอื งนครศรีธรรมราชในฐานะพระภกิ ษุ โดยมไิ ดถ้ กู ประหารชีวิตตามท่ีบันทึกไว้ใน
พงศาวดารทุกฉบับ และประทับอยู่ ณ ที่นี้จนเสด็จสวรรคตในอีก 3 ปีต่อมา ตามหลักฐานจากการบอกเล่า
ของสกุล “ณ นคร” และ “ฝั่งชลจติ ร” และหลกั ฐานทาง โบราณคดบี นเขาขนุ พนม
มีนักวิชาการได้สรุปประเด็นสาคัญทางประวัติศาสตร์ เรื่อง อวสานพระเจ้าตากฯ ไว้น่าสนใจ
ดังนี้
เรื่อง "อวสานพระเจ้าตากฯ" เป็นประเด็นหน่ึงท่ียังคงถกเถียงกล่าวถึงอย่างมากในยุคปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าเน้ือหาตอนน้ีจะปรากฏอย่างชัดเจนในพระราชพงศาวดารฉบับต่างๆ แล้วก็ตาม จึงขอนาเสนอ
พระราชประวัติช่วงน้ีตามท่ีปรากฏในพระราชพงศาวดาร 4 ฉบับ ท่ีมักมีการกล่าวอ้างถึงพระราชประวัติ
สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช ดังนี้
1. พระราชพงศาวดาร ฉบับพนั จันทนุมาศ (เจมิ ) กลา่ วไว้ ดงั นี้
...เพลาเช้าสองโมง เสด็จพระราชดาเนินทัพมาจาก เสียมราบ ประทับ ณ พลับพลาหน้าวัดโพธาราม
ฝ่ายขา้ ทลู ละอองฯ ผู้ใหญ่ผู้น้อยพร้อมกันไปเชิญเสด็จ ลงเรือพระที่น่ัง กราบ ข้ามมาพระราชวังสถิต ณ ศาลา
ลูกขุน มีหมพฤฒามาตย์ ราชกุลกวีมุขเฝ้าพร้อมกัน จึ่งมีพระราชบริหารดารัสปรึกษา ว่า เม่ือพระเจ้าแผ่นดิน
อาสัตย์ธรรมดังน้ี แล้วท่านทั้งปวงจะ คิดเป็นประการใด มุขมนตรีพร้อมกันทูลว่า พระเจ้าแผ่นดิน ละสัตย์
สุจริตธรรมเสยี ประพฤตกิ ารทจุ รติ ฉะน้ี กเ็ ห็นว่าเป็น เสี้ยมหนามหลักตออันใหญ่อยู่ในแผ่นดินจะละเว้นไว้
มไิ ด้ ขอ ใหป้ รวิ รรตออกประหารเสยี ฝา่ ยทแกล้วทหารทงปวง มีใจเจ็บ แค้นเป็นอันมาก ก็นา เอาพระเจ้า
แผ่นดินและพวกโจทก์ทั้งปวงนั้นไปสาเร็จ ณ ป้อมท้ายเมืองในทันใดนั้น (ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนา
ภเิ ษก เลม่ 3. 2542 : 527)
2. พระราชพงศาวดาร ฉบับบรติ ิชมวิ เซยี ม กลา่ วไว้ ดงั น้ี
...เพลาเช้า 2 โมง พระเจ้ากระษัตรศึกเสด็จพระราชดาเนิน ทัพมาจากเสียมราบ ประทับ
ณ พลับพลาหน้าวัดโพธาราม ฝ่ายข้าทูลละอองผู้ใหญ่ผู้น้อยพร้อมกัน ไปเชิญเสด็จลงเรือ พระที่น่ังกราบข้าม
มาพระราชวัง สถิต ณ ศาลาลูกขุน มีหมู่ พฤฒามาตย์ ราชกูลกวีมุขเฝ้าพร้อมกัน จ่ึงมีพระราชบริหาร ดาารัส
ปรึกษาว่า เมอื่ พระเจ้าแผ่นดนิ อสตั ย์อธรรมดงั นแี้ ลว้ ท่านท้งั ปวงจะคิดประการใด มุขมนตรีท้ังปวงพร้อมกันทูล
ว่า พระเจ้าแผ่นดินละสัตย์สุจริตธรรมเสีย ประพฤติการทุจริตฉะนี้ ก็เห็นว่าเส้ียนหนาม หลักตออันใหญ่อยู่ใน
แผ่ดินจะละไว้มิได้ ขอให้ปริวัตรออกประหารเสีย ฝ่ายทแกล้วทหารท้ังปวงมีใจเจ็บแค้นเป็นอันมาก ก็นาาเอา
พระเจ้าแผ่นดินแลพวกโจทก์ทั้งปวงน้ัน ไปสาเร็จโทษ ณ ป้อมท้ายเมืองในทันใดนั้น (ประชุมพงศาวดารฉบับ
กาญจนาภเิ ษก เลม่ 2. 2542 : 371-372)
3.พระราชพงศาวดาร ฉบบั หมอบรัดเล กล่าวไว้ ดังนี้
...จึงตรัสปรึกษาด้วยมุขมนตรีท้ังหลายว่าเม่ือพระเจ้าแผ่นดินอาสัตยอ์าธรรมดังนี้แล้วท่านทั้งปวงจ ะ
คิดอ่านประการใด มุขมนตรีท้ังหลายพร้อมกันกราบทูลว่า พระเจ้าแผ่นดินละสุจริตธรรมเสีย ประพฤติการ
ทุจริตฉะนี้ ก็เห็นว่าเป็นเสี้ยนหนาม หลักตออันใหญ่อยู่ในแผ่นดิน จะละไว้มิได้ควรจะให้สาเร็จโทษเสีย จึง
รับส่ังให้มีกระทู้ถามเจ้าตากสิน เจ้าแผ่นดินทุจริตว่า ตัวเป็นเจ้าแผ่นดินใช้เราไปกระทาการสงคราม ได้ความ
ลาบาก กินเหงื่อต่างน้า เราอุตสาหะกระทาศึกมิได้อาลัยแก่ชีวิตคิดแต่ จะทานุบารุงแผ่นดินให้สิ้นเสี้ยนหนาม
จะให้สมณพราหมณาจารย์ และไพร่ฟ้าประชากรอยู่เย็น เป็นสุขสิ้นด้วยกัน ก็เหตุไฉนอยู่ภายหลัง ตัวจึงเอา
บุตรภรรยาเรามาจองจาทาาโทษ แลว้ โบยตพี ระภิกษุสงฆ์ และลงโทษแกข่ ้าราชการ และอาณา ประชาราษฎร
เร่งรัดเอาทรัพย์สินโดยพลการด้วยหาความผิด มิได้ กระทาให้แผ่นดินเดือดร้อนทุกเส้นหญ้า ท้ังพระพุทธ
ศาสนาก็เสื่อมทรุดเศร้าหมอง ดุจเมืองมิจฉาทิฐิฉะน้ี โทษตัว จะมี เป็นประการใดจงให้การไปให้แจ้ง แล้วเจ้า
ตากสนิ กร็ บั ผดิ ทง้ั สิ้นทุกประการ จงึ มีรับสั่งให้เอาไปประหารชวี ติ สาเร็จ โทษเสีย เพชฌฆาตกับผู้คุมก็ลากเอา
ตวั ขน้ึ แคร่หามไป กับ ท้ังสังขลกิ พันธนาการ เจ้าตากจึงว่าแก่ผู้คุมเพชฌฆาตว่า ตัวเราก็ส้ินบุญจะถึงท่ีตายแล้ว
ช่วยพาเราแวะเข้าไปหาท่าน ผู้สาาเร็จราชการจะขอเจรจาด้วยสักสองสามคา ผู้คุมก็ให้หาม เข้ามา ครั้นได้
ทอดพระเนตรเห็น จึงโบกพระหัตถ์มิให้นามา เฝ้า ผู้คุมและเพชฌฆาตก็หามออกไปนอกพระราชวังถึงหน้า
ป้อมวิชัยประสทิ ธิ์ ก็ประหารชีวิตตัดศีรษะเสีย ถึงแก่พิราลัย จึงรับสั่งให้เอาศพไปฝังไว้ ณ วัดบางย่ีเรือใต้ และ
เจ้าตากสนิ ขณะเมอื่ สิน้ บญุ ถึงทาลายชีพนัน้ อายไุ ด้สส่ี บิ แปดปี
4.พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหตั ถเลขา กลา่ วไว้ ดังน้ี
..จงึ ตรัสปรกึ ษาด้วยมุขมนตรที ั้งหลายว่า พระเจ้าแผ่นดินละสุจริตธรรมเสียประพฤติการทุจริตฉะน้ี ก็
เห็นว่าเป็นเส้ียนหนามหลักตออันใหญ่อยู่ในแผ่นดิน จะละไว้มิได้ควรจะให้สาเร็จโทษเสีย จึงรับสั่งให้มีกระทู้
ถามเจ้าตากสินเจ้าแผน่ ดินทจุ รติ ว่า ตัวเป็นเจ้าแผ่นดินใช้เราไปกระทาการสงครามได้ความลาบากกินเหงื่อต่าง
น้า เราก็อุตสาหะอาสากระทาศึกมิได้อาลัยแก่ชีวิต คิดแต่จะทานุบารุงแผ่นดินให้สิ้นเสี้ยนหนาม จะให้
สมณพราหมณาจารยแ์ ละไพร่ฟา้ ประชากรอย่เู ย็นเป็นสุข กเ็ หตไุ ฉน อยู่ภายหลังจึงเอาบุตรภรรยาเรามาจองจา
ทาโทษ แล้วโบยตีพระภิกษุสงฆ์ และลงโทษแก่ข้าราชการและอาณาประชาราษฎรเร่งรัดเอาทรัพย์สินโดย
พลการดว้ ยหาความผดิ มไิ ด้ กระทาให้แผ่นดินเดือดร้อนทุกเส้นหญ้า ทั้งพระพุทธศาสนาก็เส่ือมทรุดเศร้าหมอง
ดุจเมืองมิจฉาทิฐิฉะนี้ โทษตัวจะมีเป็นประการใดจงให้การไปให้แจ้งและเจ้าตากสินก็รับผิดท้ังสิ้นทุกประการ
จึงมีรับส่ังให้เอาตัวไปประหารชีวิตสาเร็จโทษเสีย เพชฌฆาตกับผู้คุมก็ลากเอาตัวข้ึนแคร่หามไปกับทั้งสังขลิก
พันธนาการ เจ้าตากจงึ ว่าแก่ผู้คมุ เพชฌฆาตว่า ตัวเราก็สิ้นบุญจะถึงที่ตายอยู่แล้ว ช่วยพาเราแวะเข้าไปหาท่าน
ผสู้ าเรจ็ ราชการ จะขอเจรจาดว้ ยสักสองสามคาผู้คุมก็ให้หามเข้ามา ได้ทอดพระเนตรเห็น จึงโบกพระหัตถ์มิให้
นามาเฝ้า ผู้คุมและเพชฌฆาตก็หามออกไปนอกพระราชวังถึงหน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์ ก็ประหารชีวิตตัดศีรษะ
เสียถงึ แกพ่ ิราลัย จึงรบั สั่งให้เอาศพไปฝังไว้ ณ วัดบางยี่เรือใต้ และเจ้าตากสินขณะเม่ือสิ้นบุญถึงทาลายชีพน้ัน
อายุไดส้ ีส่ ิบแปดปี (พระราชพงศาวดาร ฉบบั พระราชหัตถเลขา เล่ม 2. 2535 : 230)
นธิ ิ เอียวศรวี งศ์
เน้ือหาตอน "อวสานพระเจ้าตากฯ" จากพระราชพงศาวดารท้ัง 4 ฉบับอาจมีรายละเอียดที่แตกต่าง
กันเล็กน้อยเร่ืองอักขรวิธีการสะกดคา หรือเพ่ิมเติมรายละเอียดบางส่วน ดังที่ นิธิ เอียวศรีวงศ์ กล่าวว่า "...
ฉบับบริติชมิวเซียมคัดจากฉบับพันจันทนุมาศ ฉบับหมอบรัดเลย์คัดจากฉบับบริติชมิวเซียม และฉบับพระ
ราชหัตถเลขาคัดจากฉบับหมอบรัดเลย์" (นิธิ เอียวศรีวงศ์. 2550: 113) ประเด็นสาคัญคือพระราชพงศาวดาร
ทัง้ 4 ฉบับ บันทึกว่า "สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชถูกสาเรจ็ โทษ"
อย่างไรก็ตามพระราชประวัติตอนถูกสาเร็จโทษก็ยัง "ไม่เป็นท่ียุติ" ในสังคมปัจจุบัน ยังคงมีการ
กล่าวถึงวิพากษว์ ิจารณ์ แสดงเหตผุ ลท้ัง "เห็นด้วย" และ "เห็นต่าง" จากเนื้อหาที่ปรากฏในพระราชพงศาวดาร
การเห็นต่างไปจากพระราชพงศาวดารจึงมีความน่าสนใจว่า เหตุใดสังคมปัจจุบันส่วนหน่ึงจึงไม่เชื่อว่าสมเด็จ
พระเจา้ ตากสินมหาราชถกู ประหาร แล้วมีการอธิบายถึงสิ่งท่เี ชอ่ื อย่างไร
วรรณกรรมปัจจุบันเริ่มปรากฏการนาเสนอพระราชประวัติตอน "อวสานพระเจ้าตากฯ" มาก
ข้นึ ดว้ ยกลวธิ ีนาเสนอเหตุผลใหม่โดยยังอาศัยเน้ือความจากพระราชพงศาวดาร หรือการตัดทอนถ้อยคา
บางคาออก ท้ังน้ีเพื่อนาเสนอพระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตามทัศนะของผู้แต่งในฐานะ
เป็นส่วนหนึ่งของสังคมปัจจุบัน ขอยกตัวอย่างวรรณกรรมปัจจุบัน 10 เร่ือง พร้อมระบุปีที่ตีพิมพ์เผยแพร่
เพอ่ื ใหเ้ ห็นถงึ พฒั นาการความสบื เนือ่ ง ดงั นี้
1. วรรณกรรมเรอ่ื ง ใครฆ่าพระเจา้ กรุงธน ตีพิมพ์ครั้งแรกปี พ.ศ.2492 ผู้แต่งคือหลวงวิจิตรวาทการ
ได้นาเสนอพระราชประวัติช่วงน้ีที่แตกต่างจากพระราชพงศาวดาร ด้วยการนาเสนอว่าบุคคลผู้ท่ีถูกประหาร
ชีวติ นน้ั เปน็ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระองค์ปลอม และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระองค์จริงหนี
รอดไปได้ ดงั น้ี “บุคคลท่ถี กู ประหารชีวิต คอื หลวงอาสาศึก เขาตายด้วยความยินดี ไม่มีอะไรจะทาความปลาบ
ปลม้ื ใหแ้ กเ่ ขาเทา่ กบั ท่ไี ดต้ ายแทนมหาบรุ ษุ ผู้กู้ชาติ เขาตั้งคอรับคมดาบด้วยความเต็มใจ เขาตายโดยไม่รู้ว่าเขา
ได้รับแต่งต้ังเป็นเจ้าพระยา ศพของเขาได้ถูกนาไปฝังไว้ที่วัดบางยี่เรือใต้ ในขณะเดียวกันที่สาเภาลาใหญ่พา
พระองคส์ มเด็จพระเจ้ากรุงธนบรุ ีไปยังนครศรีธรรมราช” (หลวงวิจิตรวาทการ. 2544 : 356-357)
2. วรรณกรรมเรื่อง ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน ตีพิมพ์คร้ังแรกปี พ.ศ.2516 ผู้แต่งคือภิกษุณีวรมัย กบิล
สิงห์ นาเสนอพระราชประวัติคล้ายคลึงกับเรื่องใครฆ่าพระเจ้ากรุงธน คือผู้ท่ีถูกประหารชีวิตที่ป้อมวิชัย
ประสิทธ์ิเป็นพระองค์ปลอม และพระองค์จริงสามารถหลบหนีออกมาได้ ดังนี้ “พระยาสุริยอภัย กับ พระยา
สรรค์ บังคับให้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชลาผนวช แล้วเอาเคร่ืองจองจาใส่ครบมารับโทษถึงขั้นประหาร
แต่เมอ่ื จะประหารจรงิ นน้ั คุณมั่นผู้มีความกตัญญูกตเวทีต่อองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ยอมอุทิศชีวิต
ตายแทนพระเจา้ อยหู่ วั คุณมน่ั เป็นวีรบุรษุ โดยแท้” (ภิกษณุ วี รมยั กบลิ สงิ ห์. 2551: 124)
3. วรรณกรรมเร่อื ง แผน่ ดนิ พระเจา้ ตาก ตพี มิ พค์ ร้ังแรกปี พ.ศ. 2545 ผแู้ ตง่ คอื วบิ ลู วจิ ติ รวาทการ
ไดน้ าเสนอวาระสุดท้ายของสมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราชไดร้ ับการลงโทษประหารชีวติ ตดั ศรี ษะ ตามที่
ปรากฏในพระราชพงศาวดาร อกี ทั้งยังคัดลอกพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหตั ถเลขามาเปน็ สว่ นหนึง่ ของ
เร่ืองเล่า ดังนี้… “มาถึงวาระน้ีเหตุการณเ์ ปล่ยี นแปลงกลบั หน้ามือเปน็ หลงั มือ บคุ คลทท่ี า่ นเคยตอ้ งเคารพนอบ
น้อมและเกรงกลัว บดั นอ้ี ยูใ่ นสภาพนักโทษ และตัวท่านเองกลับเป็นผู้ท่ีย่ิงใหญ่ มีอานาจวาสนาสงู ที่สุดในกรงุ
สยาม จึงเปน็ ทีของทา่ นที่จะเปน็ ผูช้ าระความผิด ขไู่ ตถ่ ามสอบความสมเดจ็ พระเจ้ากรุงธนบรุ ดี ้วยพระราช
พงศาวดาร ฉบบั พระราชหัตถเลขา บันทึกเหตุการณต์ อ่ ไปว่า“และพระเจา้ ตากสนิ ก็รับผดิ ทงั้ ส้นิ ทกุ ประการ
จงึ มีรับสัง่ ให้เอาตวั ไปประหารชีวิตสาเร็จโทษเสยี ... ถึงหน้าปอ้ มวิชยั ประสิทธ์ิ ก็ประหารชีวิตตัดศรี ษะเสยี ถึงแก่
พริ าลัยจึงรับส่งั ใหเ้ อาศพไปฝังไว้ ณ วัดบางยเี่ รอื ใต้...” (วิบูล วิจิตรวาทการ)
4. วรรณกรรมเร่ือง ผ้อู ยู่เหนือเง่อื นไข ตีพมิ พค์ รั้งแรกปี พ.ศ. 2545 ผู้แต่งคือสภุ า ศิรมิ านนท์ ได้
นาเสนอโดยดาเนนิ เรอ่ื งตามเรือ่ ง ใครฆา่ พระเจา้ กรุงธน ทผี่ ู้ถกู ประหารชีวิตทีป่ ้อมวิชัยประสิทธิเ์ ปน็ พระองค์
ปลอม และพระองค์จริงสามารถหลบหนอี อกมาได้ แต่ได้ปรับเปลยี่ นเพิ่มเติมรายละเอยี ดต่างๆ ดงั น้ี“ทา่ นจา
หลวงอาสาศกึ ได้ไหม... ชอ่ื เดิมของเขาวา่ บุญคงนะ่ ? บญุ คงเป็นผูซ้ ่งึ มีความจงรักภกั ดตี ่อทา่ นสงู สุด เขาเปน็
เหมือนสุนัขท่ีซือ่ เขายอมตายแทนทา่ น และผมเชื่อวา่ เขาคงจะต้องตายโดยไม่มปี ัญหา บุญคงยอมรับตาแหนง่
และฐานะของทา่ นเพ่ือทีจ่ ะถูกประหารในวนั สองวันนี้ โดยนา้ ใจสงบเยอื กเยน็ ไมส่ ะทกสะท้าน ด้วยความจงใจ
อยา่ งทจ่ี ะหาใครเหมือนเขาอีกไม่ได้แลว้ ในโลกน้ี” (สุภา ศิริมานนท์. 2549: 85)
5. วรรณกรรมเร่ือง ตากสินมหาราชชาตินักรบ ตีพิมพ์ครั้งแรกปี พ.ศ. 2549 ผู้แต่งคือคีฟ-ฟอกซ์
แคลร์ (Claire Keefe-Fox) กล้วยไม้ แก้วสนธิ เป็นผู้แปล กล่าวถึงวาระสุดท้ายของพระองค์โดยอาศัยเนื้อหา
พระราชพงศาวดารวา่ พระองค์ถูกสาเร็จโทษจริง แต่สร้างเรื่องเล่าใหม่โดยเปล่ียนวิธีการประหารชีวิตตัดศีรษะ
เป็นการสาเร็จโทษทุบด้วยท่อนจันทน์ ดังน้ี “กฎมนเทียรบาลถูกนามาใช้ในการสาเร็จโทษพระเจ้าตากสิน
เช่นเดียวกับครั้งกรมหมื่นเทพพิพิธ มาธิวเคยได้ยินข่าวว่าขุนนางบางคนไม่อยากถวายพระเกียรติดังนี้ จะให้
ประหารแบบคนทรยศ แตร่ ชั กาลที่ 1 ทรงตดั สนิ ให้ประหารชีวิตพระเจ้าตากสินเยี่ยงกษัตริย์ ทรงพิจารณาเห็น
ว่าการท่ีราชอาณาจักรสยามยังตั้งอยู่ได้ ก็เพราะพระเจ้าตากสินเจ้าหน้าท่ีถอดโซ่ท่ีล่ามอดีตกษัตริย์ออก ให้
พระองค์ทรงภษู าสีแดง ให้ทรงน่ังคุกเข่า มัดพระหัตถ์กับพระบาท จากนั้นจึงคลุมถุงกามะหย่ีสีแดง เพชฌฆาต
ยกท่อนไม้จนั ทนข์ น้ึ ฟาดแรงๆ ซา้ แลว้ ซ้าเลา่ จนพระวรกายไม่ขยับ และพระโลหิตเป้ือนถุงเป็นปื้นดา ไม่มีเสียง
ครวญครางใดๆอกี (คีฟ-ฟอกซ์ แคลร์. 2550: 436-437)
6. วรรณกรรมเร่ือง ความหลงในสงสาร ตีพิมพ์คร้ังแรกปี พ.ศ. 2549 ผู้แต่งคือสุทัสสา อ่อนค้อม
ยังคงใช้วธิ กี ารสร้างเรื่องเลา่ ขึ้นใหม่ทม่ี เี น้ือหาปฏิเสธการสวรรคตของสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชท่ีป้อมวิชัย
ประสิทธ์ดิ ้วยการนาเสนอว่าผถู้ ูกประหารชีวติ ทีป่ ้อมวชิ ยั ประสทิ ธิเ์ ป็นพระองค์ปลอม และพระองค์จริงสามารถ
หลบหนอี อกมาได้ ดังนี้“… เพยี งแตท่ ถี่ ูกสาเรจ็ โทษไม่ใชเ่ รา เป็นสหายอีกคนหนง่ึ ของเราท่ีเขามีความจงรักภักดี
ต่อเรา ถงึ ขนาดยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อรักษาชีวิตเราไว้ บังเอิญว่า เขารูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับเรามาก
ทง้ั ทไี่ มไ่ ดเ้ ปน็ ญาติสบื สายโลหติ กนั ” (สทุ สั สา อ่อนคอ้ ม. 2551: 13)
7. วรรณกรรมเร่ือง พระเจ้าตากฯ ส้ินพระชนม์ที่เมืองนคร ตีพิมพ์คร้ังแรกปี พ.ศ. 2550 ผู้แต่งคือ
ทศยศ กระหม่อมแก้ว แม้ว่าไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์รอดชีวิตของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชท่ีป้อมวิชัย
ประสิทธ์ิในเวลาน้ัน แต่ได้นาเสนอว่าพระองค์มาอยู่ท่ีนครศรีธรรมราช ตามคาบอกเล่าของตระกูล ณ นคร ที่
สืบสายมาจากเจ้าพระยานคร (น้อย) เป็นบุตรติดครรภ์เจ้าจอมปราง ท่ีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
พระราชทานให้เปน็ ชายาเจ้าอปุราชพัฒน ์ เมื่อเจ้าอปุ ราชพัฒน์รับพระราชทานเป็นชายาแล้ว ก็ตั้งไว้เป็นนาง
เมืองโดยไม่ยุ่งเกี่ยวในฉันชู้สาว คนในตระกูล ณ นคร จึงมีความเชื่อกันว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไม่ได้
ถูกประหารชีวิต ดังนี้“เนินดิน” ที่ก่อข้ึนสูงบริเวณสนามหน้าเมืองนั้นคือกองอิฐ และมูลดินท่ีเหลือจากการ
ซ่อมแซมกาแพงที่ทรุดโทรมลงมาในสมัยธนบุรีต่อมาเม่ือพระเจ้าตากสินส้ินพระชนม์ที่เขาขุนพนม ก็ได้มีการ
ปรบั แตง่ พน้ื ท่ี ปลกู วิหารบนเนนิ สูงดังกลา่ ว แล้วมีการจัดขบวนแหพ่ ระศพมายังสนามหน้าเมือง และได้พักพระ
บรมศพไว้ที่วิหารสูงแห่งนี้ ภายหลังเมื่อฌาปนกิจพระบรมศพท่ีสนามหน้าเมืองเสร็จ เมรุท่ีใช้เผาก็ถูกร้ือออก
ตามประเพณีโบราณส่วนหอพระสูง หรือวิหารนั้น ถูกปลูกสร้างขึ้นมาระหว่างพักพระบรมศพนั่นเอง เพราะท่ี
บริเวณนั้นเป็นท่ีพักพระบรมศพของพระเจ้าตาก ซ่ึงถือว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เพ่ือป้องกันไม่ให้ใครมาใช้
สถานทีซ่ า้ กับบรเิ วณดังกล่าว (ทศยศกระหม่อมแกว้ . 2550: 67-68)
8. วรรณกรรมเรื่อง ตามรอยเลือดพระเจ้าตาก ตีพิมพ์คร้ังแรกปีพ.ศ. 2550 ผู้แต่งคือชานนท์ ท. มี
การสรา้ งเรอ่ื งเล่าท่คี ลา้ ยคลึงกับเรื่องแผ่นดินพระเจา้ ตาก ท่คี ดั ลอกเนอ้ื ความจากพระราชพงศาวดาร ฉบับพระ
ราชหัตถเลขา แต่ผู้แต่งได้ต้ังใจตัดทอนวิธีการประหารชีวิตโดยไม่ปรากฏคาว่า “ตัดศีรษะ” ดังน้ีสมเด็จ
เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกจึงต้ังกระทู้ถามต่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธน......ความในพระราชพงศาวดาร ฉบับพระ
ราชหตั ถเลขากล่าวต่อไปว่า“และพระเจ้าตากสินก็รับผิดท้ังส้ินทุกประการ จึงมีรับสั่งให้เอาตัวไปประหารชีวิต
สาเร็จโทษเสีย... ผู้คุมและเพชฌฆาตก็หามออกไปนอกพระราชวัง ถึงหน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์ ก็ประหารชีวิต”
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จสวรรคต พระศพฝังไว้ ณ วัดบางย่ีเรือใต้ ขณะมีพระชนมายุสี่สิบปี (ชานนท์ ท.
2550: 222)
9. วรรณกรรมเร่ือง จอมกษัตริย์แห่งนักรบ ตีพิมพ์คร้ังแรกปี พ.ศ.2550 ผู้แต่งคือศรีศากยอโศก ได้
กลา่ วถงึ เหตกุ ารณร์ อดชีวติ ของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ด้วยนาเสนอว่าผู้ที่ถูกประหารชีวิตในครั้งนั้นป็น
พระองค์ปลอม และพระองค์จริงสามารถหนีไปได้ ดังนี้ “ขณะที่นายเข้มกาลังจะประหารพระเจ้ากรุงธนนั้น
พระองคท์ รงตรัสถามนายเขม้ ผูเ้ พชฌฆาตว่า แผน่ ดนิ นพี้ ระองคเ์ ป็นผู้กอบกูก้ ลบั คนื มาเปน็ ปกึ แผ่นให้นายเข้ม ผู้
เพชฌฆาตได้มีที่ยืนให้ประหารชีวิตพระองค์ซ่ึงเป็นหน้าที่ของนายเข้มพระองค์มิได้บังเกิดความขัดเคืองแต่
ประการใด เพียงแต่เว้นชีวิตพระราชโอรสท่ียังทรงพระเยาว์ เพียงเท่าน้ัน ในกาลน้ันนายเข้มได้บังเกิดความ
เสียใจเปน็ อนั มาก จงึ เป็นกาลงั สาคญั ในการนาผู้อน่ื มาประหารชีวติ แทนด้วยความเต็มใจจากบุคคลท้ังหลาย ณ
ป้อมวิชยั ประสิทธิ์ วนั ท่ี ๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๓๒๕... (ศรศี ากยอโศก. 2550: 277)
10. วรรณกรรมเรื่อง ดวงพระเจ้าตากไม่ถูกประหาร ตีพิมพ์คร้ังแรกปี พ.ศ. 2551 ผู้แต่งคือเล็ก
พลูโต นาเสนอเรื่องเล่าด้วยเหตุผลทางโหราศาสตร์เพ่ือปฏิเสธการถูกสาเร็จโทษ ผู้แต่งได้นาเสนอด้วยการ
อธิบายดวงชะตาที่ปรากฏเกณฑ์ชะตาเป็นนักโทษประหารแล้วนามาเปรียบเทียบกับดวงชะตาสมเด็จพระเจ้ า
ตากสินมหาราชเพ่ือแสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง ดังน้ี... “จุดรอดของพระองค์ที่ใช้เป็นตัวชี้ขาดว่า เป็นดวง
ชะตานกั โทษประหาร หรอื ถูกผ้อู นื่ ฆ่าตายหรือไม่? อยูต่ รงที่ ทั้งพระราชลคั นา และดาวเจ้าเรือนพระราชลัคนา
ไม่ได้ต้องกระแสดาวมรณะ หรือดาวอังคารโดยตรง หรืออย่างจังคือกุมนาหน้าอยู่ในภพกัมมะ เหมือนกับดวง
นักโทษประหารสองรายที่ยกตวั อยา่ งมาอ้างอิง อีกทั้งพระราชลคั นา และดาวเจ้าเรือนพระราชลัคนาก็โดนบาป
เคราะห์หรือ ดาวร้ายเบียนแค่หอมปากหอมคอ ไม่มากมายหรือหนักหนาสาหัสนัก”... (เล็ก พลูโต. 2551:
119)
วรรณกรรมทั้ง 10 เร่ืองข้างต้นเป็นตัวอย่างท่ีแสดงให้เห็นถึงเร่ืองเล่าพระราชประวัติสมเด็จพระเจ้า
ตากสินมหาราชช่วงท้ายรัชกาล พบว่ามี วรรณกรรมถึง 8 เรื่องท่ีสร้างเรื่องเล่าข้ึนใหม่แตกต่างไปจากพระราช
พงศาวดารมีเน้ือหาปฏิเสธการถูกประหารชีวิตที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์จานวน 7 เรื่อง และเปล่ียนแปลงการ
ประหารชวี ิตตัดศีรษะเป็นการทุบด้วยท่อนจันทน์จานวน1 เร่ือง จึงเหลือวรรณกรรมอีกเพียง 2 เรื่องท่ียอมรับ
ว่าพระองคถ์ ูกประหารชีวิตตดั ศีรษะท่ีป้อมวชิ ัยประสทิ ธ์จิ รงิ โดยมี 1 เร่อื งที่ต้ังใจละคาวา่ “ตดั ศรี ษะ”ออก
ดังนั้นจงึ เหลอื วรรณกรรมเพียงเรื่องเดียวทีย่ ังคงนาเสนอตามพระราชพงศาวดาร วรรณกรรมปัจจุบันเหล่านี้จึง
สะท้อนความเชื่อในสังคมปัจจุบันบางส่วนท่ีมีต่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระราชประวัติของพระองค์
จึงมีแนวโน้มที่ปฏิเสธเรื่องการถูกประหารชีวิตมากขึ้นในรูปแบบเร่ืองเล่า จากการเปล่ียนแปลงเรื่องเล่า พระ
ราชประวัติตอนนี้จึงเกิดคาถามต่อมาท่ีน่าสนใจว่าเหตุใดสังคมปัจจุบันต้ องการนาเสนอว่าพระองค์ไม่ถูก
ประหารชวี ติ
วรรณคดีสมัยกรุงธนบรุ ี กวแี ละวรรณคดที ่ีสาคัญ มีดังน้ี
รามเกยี รต์ิตอนท้าวมาลีวราชว่าความ
สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช
บทละครเร่ืองรามเกยี รติ์ 4 ตอน คือ
ตอนพระมงกุฎประลองศร
ตอนหนุมานเกยี้ วนางวานริน
ตอนทา้ วมาลวี ราชว่าความ
ตอนทศกัณฐ์ต้ังพิธีทรายกรด พระลกั ษมณ์ตอ้ งหอกกบลิ พัท จนถงึ ตอนผูกผมทศกณั ฐก์ บั นาง
มณโฑ
จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอโุ บสถวัดดาวดงึ ษาราม กรุงเทพฯ“กฤษณาสอนน้องคาฉนั ท์”
ฉบับธนบรุ ี วา่ ด้วยหญิงในอุดมคตขิ องชายไทย
พระภกิ ษอุ นิ ท์และพระยาราชสุภาวดี
กฤษณาสอนน้องคาฉนั ท์
นายสวนมหาดเล็ก
โคลงยอพระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช
หลวงสรวิชิต (เจา้ พระยาพระคลัง (หน)
อิเหนาคาฉนั ท์
ลลิ ติ เพชรมงกุฎ
พระยามหานภุ าพ
นิราศเมืองกวางตงุ้
เพลงยาว
………………………………………………………………………….
แหล่งขอ้ มูลอ้างอิง
กรมหลวงนรนิ ทรเทวี. จดหมายความทรงจาของพระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรนิ ทรเทวี (เจ้าครอกวัดโพ)
ต้ังแต่ จ.ศ. 1129-1182. (กรุงเทพฯ : ต้นฉบบั , 2546), น. 139.
กุณฑล นิโครธา วัฒนวรี ์.กรณวี พิ ากย์”พระเจ้าตาก”สวรรคต ณ นครศรีธรรมราชจริงหรือ?.กรุงเทพฯ:
ปวี อก,2555.
ดารงราชานภุ าพ, สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ. พงศาวดาร เร่ือง ไทยรบพมา่ . พมิ พ์คร้ังท่ี 3. กรุงเทพฯ:
สานกั พิมพ์มตชิ น, 2551.
ทรงวทิ ย์ ดลประสทิ ธิ์. พระเจ้าตากสนิ กบั วดั อนิ ทาราม. ศลิ ปวัฒนธรรม. ปที ี่ 3, ฉบบบั ที่ 2 (ธ.ค. 2524)
ทิพากรวงศ์, เจา้ พระยา. พระราชงศาวดารกรุงรัตนโกสนิ ทร์ รชั กาลท่ี 1. พระนคร: คุรุสภา, 2503
ประวตั ศิ าสตรืไทยฉบับพัฒนาการ.กรงุ เทพฯ,อักษรเจริญทัศน์
ปรามนิ ทร์ เครือทอง.ปรศิ นาพระเจา้ ตาก.กรุงเทพฯ: มติชน,2555.
พระราชพงศาวดารกรงุ ธนบุรี (สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช) ฉบับหมอรัดเล. พิมพ์ครัง้ ที่3. กรงุ เทพฯ:
สานักพิมพโ์ ฆษิต, 2551.
ส.พลายน้อย. พระเจา้ ตากสิน มหาราชแห่งชาตไิ ทย. กรุงเทพฯ: สานักพมิ พ์ พมิ พ์คา, 2550
สาราญ ผลดี. ปรศิ นาตานานลับพระเจ้าตากสิน.กรุงทพฯ:กายใจ,2556.
พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบบั หลวงประเสริฐ พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทบุรี:
มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช, 2547
พระราชพงศาวดารกรงุ ธนบุรี ฉบบั พนั จันทนมุ าศ (เจมิ ) จดหมายเหตุรายวนั ทพั ,อภินิหารบรรพบุรษุ
และเอกสารอื่น. กรุงเทพฯ: สานกั พิมพ์ศรีปญั ญา, 2551.
พระราชพงศาวดารกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ รัชกาลที่ 1 ฉบบั เจา้ พระยาทพิ ากรวงศ์ ฉบับตวั เขียน, (กรุงเทพฯ :
อมรนิ ทรว์ ชิ าการ, 2539), น. 49.
พระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รัชกาลท่ี 1 ของเจา้ พระยาทิพากรวงศ์ (ขา บนุ นาค) สมเดจ็ พระเจา้
บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ ทรงตรวจชาระและทรงพระนิพนธ์อธบิ าย, พิมพ์ครั้งท่ี 6.
(กรุงเทพฯ : กองวรรณคดีและประวัตศิ าสตร์ กรมศลิ ปากร, 2531), น. 26.
พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหตั ถเลขา เลม่ 2, (กรุงเทพฯ : คลงั วิทยา, 2516), น. 475.
พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสนิ ทร์ รชั กาลท่ี 1 ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบบั ตวั เขียน, น. 186.
พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหตั ถเลขา เล่ม 2
พระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลท่ี 1 ฉบบั เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับตัวเขียน, น. 62.
นธิ ิ เอียวศรีองศ์. จากสมเดจ็ พระเจา้ กรุงธนบรุ ถี งึ สมเด็จฯ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ. ศลิ ปวฒั นธรรม. ปที ่ี 6,
ฉบับท่ี 7 (พ.ค. 2528)
รบพม่า เล่ม 2. กรงุ เทพฯ: สานกั พมิ พ์วสิ ดอม, 2553. ทศยศ กระหม่อมแก้ว. พระเจ้าตากสนิ ฯส้นิ พระชนม์
เมืองนคร.
วิมล พงศพ์ ิพฒั น์. สมเด็จพระเจ้ากรงุ ธนบรุ ีมีสติฟั่นเฟือน จริงหรอื ไม่? เหตุใดจึงต้องสาเร็จโทษพระองค์ทา่ น? :
พระราชงศาวดารเชอื่ ได้ หรอื ไม่?. ศลิ ปวฒั นธรรม. ปที ี่ 6, ฉบับที่ 4 (ก.พ. 2528)
ศิลปวฒั นธรรม. พระเจ้าตาก (สิน) และเจ้าพระยาจักรีมสุ ลิมสองพ่อลูก. ศลิ ปวฒั นธรรม. ปที ่ี 1,
ฉบับที่ 5 (มี.ค. 2523)
สม สุจริ า.ตานานสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช.กรงุ เทพฯ: สานกั พิมพ์อมรินทร์ธรรมะ,2555.
สันต์ สุวรรณประทีป. พระเจ้าตากเป็นจีนอะไร?. ศลิ ปวฒั นธรรม. ปที ่ี 12,cฉบับท่ี 9 (ก.ค.2534)
สุภทั ร สคุ นธาภิรมย์ ณ พทั ลงุ . น้าพระทยั สมเด็จพระเจ้าตากสนิ . ศิลปวฒั นธรรม. ปีที่ 10, ฉบบั ที่ 2
(ธ.ค. 2531)
สวุ ทิ ย์ ธรี ศาศวัต. สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ ทรงเสียพระสติจรงิ หรือไม่ :วเิ คราะห์ตามหลักฐานประวัตศิ าสตร์และ
จิตเวชศาตร์. ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 3, ฉบบั ท่ี 11 (ก.ย. 2525)
อณุชิต, พระยา. พระราชประวัตสิ มเดจ็ พระเจ้ากรงุ ธนบรุ ี (พระเจ้าตากสิน).ศลิ ปวัฒนธรรม. ปีที่ 5,
ฉบบั ที่ 2 (ธ.ค.2526)
เอกสารประกอบสมั มนาวชิ าการประจาปี 2560 "250 ปีเสียกรงุ ศรีอยุธยา-สถาปนากรุงธนบุรี 2310-2560"
250 Anniversary of the Fall of Ayutthaya and the Rise of Thonburi 1767-2017
ณ หอประชมุ ศูนย์มานษุ ยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ตล่ิงชัน กรงุ เทพฯ กนั ยายน 2560 :
ปฐมพงษ์ สขุ เล็ก
www.car.chula.ac.th
www.pattaya.go.th
www.thaipost.net
www.thebangkokinsight.com
huexonline.com
lrls.nfe.go.th
watnathawee.com
sites.google.com
https://www.matichonbook.com
https://www.thaipost.net/main/detai
https://th.wikipedia.org/wiki/
ขอขอบคุณเว็ปไซต์ หนงั สือ ขอ้ มูล ภาพ จากแหลง่ ตา่ งๆ ท่ขี ้าพเจา้ นามารวบรวมเรียบเรยี งพระราช
ประวัตสิ มเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช ใหส้ มบรู ณ์ในหลากหลายมิติ เพ่อื อนชุ นรุน่ หลงั หรือผู้ท่สี นใจในพระ
ราชประวัติของพระองค์ ได้ศึกษาหาความรู้และบังเกดิ ความรู้สึกเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ย่ังยืนนาน
ตลอดไป