อาหารในภาคใต้
1.คั่วกลิ้ง
เมนูอาหารใต้ที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น "คั่ว
กลิ้ง" แน่นอน ด้วรสชาติที่จัดจ้าน หอมกลิ่นน้ำพริกคั่วกลิ้ง พริกแกงใต้
รสชาติจัดจ้าน ผัดรวมกับเนื้อหมูสับ ติดมัน ยิ่งกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
บอกเลยว่าอร่อยลื้มมม
2.แกงคั่วหอยขมใบชะพลู
เป็นเมนูสุดเข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องแกง และตัดด้วยความ
ละมุนของน้ำกะทิอย่าง "แกงคั่วหอยขมใบชะพลู" โดยถือ
เป็นแกงโบราณรสชาติเข้มข้นที่ชูวัตถุดิบสุดพิเศษอย่างหอย
ขม มาเคียงคู่กับใบชะพลู ที่หากินได้ยาก และเป็นอาหารขึ้น
ชื่อของภาคใต้อีกด้วย เป็นเมนูที่รสชาติเข้มข้นสุดๆ
3.แกงไตปลา
อีกหนึ่งเมนูชื่อดังของภาคใต้ ที่คนไทยชื่นชอบไม่แพ้กัน นั่นก็คือ "แกงไตปลา"
ซึ่งไตปลา หรือ พุงปลา เป็นการถนอมอาหารแบบหมักดองของคนใต้ นำมาหมัก
กับเกลือ โดยนำขี้และดีออกจากกระเพาะก่อน ซึ่งนำไปทำอาหารได้หลายชนิด
และมีกลิ่นเฉพาะตัว ซึ่งรสชาติเด่นของแกงไตปลาคือความเผ็ดและเค็มนั่นเอง
4.ขนมจีนน้ำยาปู
เป็นเมนูยอดฮิตที่หลายร้านอาหารนำมาเป็นเมนูชูโรงอย่าง "ขนมจีนน้ำยาปู" ด้วยความเข้ม
ข้นของพริกแกงนำมาผัดให้หอม เติมกะทิลงไป ปรุงรสให้ได้ความจัดจ้าน ใส่เนื้อปูตามชอบ
เป็นเมนูโปรดของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ ความเข้มข้นของน้ำยาปูที่เคลือบเส้นขนมจีน
5.หมูผัดกะปิ
เป็นเมนูอาหารใต้ที่อาจจะหากินไม่ได้ง่ายมากนัก ถือเป็นเมนูท้องถิ่น ที่มีกลิ่น
และรสชาติเฉพาะตัวมากๆ "หมูผัดกะปิ" คือการนำหมูมาผัดกับกะปิให้หอมสุดๆ
ปรุงรสชาติให้มีความเผ็ดตามาเล็กๆ
6.น้ำพริกกุ้งเสียบ
อีกหนึ่งเมนูอร่อย ที่หลายคนอาจจะรู้จักกันอยู่แล้วอย่าง "น้ำพริกกุ้งเสียบ" เป็นเมนู
น้ำพริกทำง่าย ที่ได้ความหอมของพริกตำ เครื่องแกงใต้ ผสานกับความเค็มและเทก
เจอร์เฉพาะตัวของกุ้งเสียบ บอกเลยว่าเป็นเมนูที่ทำตามได้ไม่ยาก สามารถเก็บไว้กิน
ได้นาน
7.แกงเหลืองปลากระพง
"แกงเหลือง" หรือที่คนภาคกลางจะรู้จักกันในชื่อ แกงส้ม นั่นเอง มีรสชาติคล้ายกัน
แต่หอมและมีกลิ่นที่ชัดกว่า ความแตกต่างของแกงเหลืองคือ จะปรุงรสเปรี้ยวด้วย
มะนาว, มะขาม, ขมิ้นในน้ำพริกแกงมีสีเหลือง เลยทำให้เป็นเมนูที่ชื่อแกงเหลืองนั่นเอง
ส่วนเนื้อปลาที่นิยมนำมาทำคือปลากระพงค่ะ
8.ใบเหลียงผัดไข่
"ใบเหลียงผัดไข่" ซึ่งผักเหลียง เป็นผักพื้นบ้านสารพัดประโยชน์ที่ปลูกง่ายตายยาก แถมรสชาติ
อร่อย ทำกินได้สารพัดเมนู บางคนจึงขนานนามใบเหลียงว่า ราชินีผักพื้นบ้านของคนใต้ เลยก็ว่า
ได้ รสชาติจะมีความขมอ่อนๆ แต่กินคู่กับไข่ที่นำมาผัดด้วยกัน กลับอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ
9.ไก่กอและ
"ไก่กอและ" หรือ ไก่ฆอและ เป็นอาหารมลายูปักษ์ใต้และมาเลเซีย ถือเป็นอาหารที่ชาว
มุสลิมแถบชายแดนใต้ของไทยมักกินกันเป็นประจำ โดยเฉพาะที่ปัตตานี และนอกจากจะใช้
ไก่ทำแล้ว ยังสามารถใช้เนื้อสัตว์อื่น ๆ ทำได้เช่นกัน รสชาติจะมีความหอมกลิ่นเครื่องแกง
ชัดมาก และไก่จะมีความแห้งแต่ยังฉ่ำอยู่
10.ไก่ทอดหาดใหญ่
เรียกว่าเป็นเมนูที่หลายคนเห็นกันมานาน แม้จะตั้งชื่อว่า "ไก่ทอดหาดใหญ่" แต่มี
ขายแทบทุกที่ในกรุงเทพเลยทีเดียว ซึ่งไก่ทอดหาดใหญ่ต้นตำรับ หนังต้องกรอบ
บาง รสชาติเค็มนำ เนื้อไก่ข้างในยังชุ่มฉ่ำ และทีเด็ดที่เป็นซิกเนเจอร์ของไก่ทอด
หาดใหญ่เลยคือ หอมแกงเจียว กินคู่กับข้าวเหนียว
11.ข้าวยำ
"ข้าวยำ" เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารใต้ขึ้นชื่อพอสมควร ข้าวยำ หรือ ข้าวยำบูดู เป็น
อาหารไทยภาคใต้ โดยถือกันว่าเป็นอาหารที่ครบโภชนาการมากที่สุด และมี
คุณลักษณะพิเศษแตกต่างโดยเป็นอาหารจานเดียวที่มีน้ำปรุงราด ส่วนผักที่นิยมนำมา
ทำยำ ได้แก่ ถั่วฝักยาว ถั่วงอก ตะไคร้ กระถิน ยอดมะม่วงหิมพานต์ ผักบุ้ง ใบยอ
ถั่วพู และพาโหม เป็นต้น
12.ผัดสะตอ
13.หมูฮ้อง "ผัดสะตอ" เมนูอาหารใต้ขึ้นชื่อ ที่นำเอาสะตอที่มีกลิ่นและความมันเฉพาะตัว มาผัด
กับเนื้อสัตว์ตามชอบ โดยส่วนใหญ่นิยมเป็นเนื้อกุ้ง บางสูตรผัดกับกะปิ ยิ่งเพิ่ม
ความหอมเข้าไปอีก รสชาติจะมีความเค็ม เผ็ด หอม เป็นเมนูที่คนหลายภาคชื่นชอบ
สุดๆ
อาหารใต้ไม่ได้มีแค่อาหารรสชาติจัดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเมนู "หมูฮ้อง" หรือเมนูหมู
ามชั้นต้มซีอิ๊ว รสชาติหวานเค็ม เป็นการนำเนื้อหมูสามชั้นเนื้อนุ่ม มาตุ๋นกับเครื่องที่มีความ
คล้ายพะโล้ ตุ๋นจนน้ำซึมเข้าเนื้อ ทำให้ได้ความเข้มข้นในทุกคำ เป็นเมนูอาหารใต้ที่เด็กก็
สามารถทานได้ อร่อยสุดๆ
14.ปลาทรายทอดขมิ้น
15.น้ำพริกกะปิกุ้งสด อีกหนึ่งเมนูอร่อย ที่รสชาติไม้เผ็ดอย่าง "ปลาทรายทอดขมิ้น" ซึ่งเป็นการนำปลามาทอด
กับขมิ้นที่เป็นเครื่องที่บ่งบอกความเป็นคนใต้ได้เป็นอย่างดี ทำให้เนื้อปลาที่นำมาทอด
ด้วยขมิ้นมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และตัวเมนูจะเป็นสีเหลืองอร่ามสวย โดยคนใต้ที่นิยมนำ
ปลาทรายมาทำ เพราะเนื้อปลามีความนุ่มและร่วน อร่อยเข้ากันดี
"น้ำพริกกะปิกุ้งสด" ถือว่าเป็นอีกเมนูน้ำพริกใต้ที่รสชาติกลมกล่อมนุ่มนวล โดยใช้กะปิ
เป็นตัวชูโรง เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี การทำคือนำกะปิไปตำกับพริก หอมแดง การตำให้
ละเอียดนี่แล้วแต่ความชอบเลยละ แต่ทีเด็ดคือการนำเนื้อกุ้งสดหั่นและนำไปใส่ไว้ด้วย เพิ่ม
เทกเจอร์ให้เมนูนี้อร่อยยิ่งขึ้น
16.ไก่ต้มขมิ้น
"ไก่ต้มขมิ้น" ไก่ต้มขมิ้นภาคใต้จะหอมสมุนไพรหลากหลายชนิด และรสชาติคล้าย
ๆ ต้มยำของภาคกลาง แต่ด้วยความที่เป็นภาคใต้ เลยต้องชูโรงความเป็นขมิ้นขึ้น
มา มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ยิ่งกินยิ่งซดยิ่งคล่องคอ
17.ผัดไทยไชยา
หลายคนอาจสงสัยว่า ผัดไทยไชยาต่างจากผัดไทยธรรมดาทั่วไปอย่างไร ชื่อก็บอก
อยู่แล้วว่ามาจากภาคใต้แน่ ๆ ซึ่งผัดไทยไชยา หลายคนก็เรียก ผัดหมี่ท่าฉาง หรือ
ผัดหมี่ไชยา เป็นเมนูเด็ดดังมาจากอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีตามชื่อนั่นเอง
ซึ่งเอกลักษณ์ของผัดไทยไชยาก็คือ ผัดไทยไชยาจะมีแค่เส้นที่นำไปผัดกับน้ำผัดไทย
เท่านั้น ไม่ตอกไข่ลงไปผัดหรือนำมาห่อไข่ ไม่ใส่เนื้อสัตว์ กินเพียงเปล่า ๆ กับผัก
เคียงเต็มโต๊ะ เพราะความโดดเด่นของน้ำผัดไทยที่มีรสชาติเข้มข้มอยู่แล้วนั่นเอง
18.แกงคั่วหมูลูกเหรียง
เป็นแกงกะทิ รับประทานกับข้าวสวย และผักเหนาะ รสชาติเผ็ดพริกไทยและพริกขี้หนู
ลูกเหรียงมีลักษณะคล้ายถั่วงอกหัวโต แต่หัวจะโตกว่าถั่วงอกและมีสีเขียว กลิ่นฉุน ใช้
เป็นผักเหนาะหรือประกอบอาหารได้หลายรูปแบบ
19.โกยุค
เมนูโกยุค หรือ เกาหยุค เป็นเมนูเฉพาะที่หากินที่ได้ที่จังหวัดตรัง และแม้แต่คน
จังหวัดตรังเองก็ยังหากินได้ยากมากๆ เพราะเมนูโกยุคนั้นมีความซับซ้อนทำ
หลายขั้นตอนกว่าจะได้ออกมาเป็นโกยุคใน 1 จาน ซึ่งเมนูโกยุคนี้ในจังหวัดตรัง
เรามักจะพบได้ในงานแต่งงาน งานศพ หรืองานพิธีต่างๆ ที่จะต้องใช้พ่อครัวที่มี
ฝีมือมาทำอาหาร
20.มะละกอผัดไข่
ผัดมะละกอใส่ไข่คือการนำเอามะกอที่ดิบมาผัดแล้วปรุงรสด้วยซีอิ๋ว
แล้วนำไข่ลงไปผัดเข้าด้วยกัน รสชาติจะมีความหวานจากมะละกอและ
มันๆจากการผัดที่ใส่ไข่เข้าไป
อาหารภาคเหนือ
1.กระบอง
คนรักของทอดต้องร้องถูกใจสิ่งนี้ กระบองคืออาหารว่างที่คน
ภาคอื่นอาจไม่คุ้น มันคือผักชุบแป้งทอด กรอบนอก นุ่มใน เผ็ด
เล็กน้อยจากพริกแกงที่ผสมในแป้ง ปกติมักใช้ฟักทอง แต่อาจ
จะใช้ผักอย่างอื่นเช่น มะละกอ หัวผลี หรือหัวหอมก็ได้
2.ข้าวหลาม
ของหวานชนิดนี้หาทานได้ทั้งทางภาคเหนือและอีสาน มักวางขายในราคาไม่
แพง (ปกติ เริ่มต้นที่กระบอกละประมาณ 20 บาท) ทำจากข้าวเหนียวผสม
ถั่วดำ คลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายและกะทิ กรอกลงกระบอกไม้ไผ่ นำไปเผาบน
ถ่าน ถ้าหรูหราขึ้นมาหน่อย อาจจะใส่เผือกหรือมะพร้าวอ่อนลงไปด้วย อร่อย
ที่สุดตอนร้อนอุ่น ๆ
3.ข้าวซอยไก่
อาจกล่าวได้ว่าเป็นอาหารเหนือที่ขึ้นชื่อที่สุด เส้นข้าวซอยราดแกงกะทิ ใส่น่องไก่
โรยด้วยหมี่กรอบ ทานคู่กับหอมแดงซอย พริกป่นผัดน้ำมัน หรือจะบีบมะนาว
เพิ่มความสดชื่นด้วยก็ได้ เป็นอาหารที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ และยังมีแบบอิสลามที่
ใช้เนื้อวัวหรือแกะแทนน่องไก่อีกด้วย
4.ไส้อั่ว
ไส้กรอกรสเผ็ดจากภาคเหนือของไทย คำว่า “อั่ว” ในภาษาเหนือ
แปลว่ากรอกหรือยัดไส้ ไส้อั่วจึงเป็นการนำหมูบดมาผสมกับ
กระเทียม สมุนไพร พริก และเครื่องแกง ก่อนนำไปกรอกใส่ไส้
นั่นเอง ทานเป็นกับแกล้ม หรือจะทานคู่กับข้าวเหนียวเป็นจานหลัก
ก็ได้
5.ขนมจีนน้ำเงี้ยว
น้ำเงี้ยวได้รสเปรี้ยวหวานจากมะเขือเทศ ผัดรวมกับเลือดหมู
เนื้อหมู ถั่วเน่าและพริก กลายเป็นน้ำแกงสีแดงนำไปราดเส้น
ขนมจีน เพิ่มรสชาติด้วยการโรยกระเทียมเจียว ผักกาดดอง
มะนาว และแคบหมู แค่ฟังก็น้ำลายสอ
6.แกงฮังเล
เมนูนี้มักทำเลี้ยงระหว่างเทศกาลงานฉลองต่าง ๆ เช่น งานแต่ง งานขึ้นบ้าน
ใหม่ ตำนานกล่าวว่าแกงฮังเลมีต้นกำเนิดจากพม่า เพื่อนบ้านของไทยและ
อินเดีย ซึ่งก็พอจะช่วยให้เข้าใจได้ว่า ทำไมผงแกงฮังเลถึงมีส่วนผสมใกล้เคียง
กับผงมาซาลา (masala) หลังจากคลุกเคล้าเนื้อหมูและเครื่องเทศให้เข้ากัน
ดีแล้ว ให้นำไปเคี่ยวอย่างน้อย 40 นาที ตัวแกงจะเริ่มส่งกลิ่นหอมของเครื่อง
เทศและสมุนไพร ทั้งมะขาม ขิง และกระเทียมดอง แม้ไม่มีกะทิแต่ก็เข้มมันจน
บางสูตรใส่สับปะรดลงไปด้วยเพื่อตัดเลี่ยน
7.น้ำพริกหนุ่มกับแคบหมู
ของฝากชื่อดังจากเมืองเหนือ ของว่างคู่นี้อร่อยจนคุณกินแทนมื้อหลักได้
3 มื้อ ตัวน้ำพริกทำจากพริกหนุ่ม กระเทียม หอมแดง และผักชี ให้รส
เผ็ดเล็กน้อย เข้ากันได้ดีกับความเค็มจากแคบหมู ลองเปลี่ยนจาก
แคบหมูมาเป็นผักสดหรือผักต้มแทนบ้างก็ได้เพื่อให้ได้สารอาหารครบหมู่
8.ลาบดิบ
เรียกได้ว่าเป็น Carpaccio หรือ Tartare เนื้อแบบไทย นิยมทานทั้งในภาคเหนือและ
อีสาน ส่วนผสม-ของลาบดิบคล้ายคลึงกับลาบ มีทั้งพริกลาบ สะระแหน่ และน้ำปลา
สิ่งที่ต่างคือเนื้อที่ใช้จะเป็นเนื้อดิบที่บดหรือสับ แถมยังมีเครื่องในและเลือดด้วย จานนี้
ควรรับประทานตามร้านอาหารที่ถูกสุขลักษณะอนามัยเท่านั้น ถ้าเนื้อดิบไม่ใช่ปัญหา
ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศดูกัน
9.หมูยอ
ไส้กรอกหมูสีอ่อนชนิดนี้ถือเป็นส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ของอาหารเหนือ
หลายเมนู รสเค็มเล็กน้อยเหมาะสำหรับนำไปทอดทานเป็นของว่าง หรือ
จะนำไปผสมกับยำก็ได้
10.แกงโฮะ
“โฮะ” ในภาษาเหนือแปลว่ารวม ดังนั้น จานนี้คือการนำอาหารเหลือ
หลาย ๆ อย่างมารวมกัน น้ำแกงที่เหลือ (ปกติมักเป็นแกงฮังเล) นำ
มาผัดกับวุ้นเส้น ใบมะกรูด หน่อไม้ดอง ตะไคร้ และเนื้อหมู ดูแห้ง ๆ
แต่รสแรง ในปัจจุบัน แกงโฮะอาจจะไม่ได้ทำจากของเหลืออีกต่อไป
แต่ใช้ของสดใหม่เพื่อคุณค่าทางโภชนาการที่ไม่สูญหาย
อาหารภาคอีสาน
1. ส้มตำ
เมนูที่ทุกคนทั่วโลกรู้จักจานนี้มาในหลากหลายรูปแบบ ลูกอีสานบางคน
ยืนยันว่าส้มตำจะขาดปลาร้าไม่ได้ แต่หัวใจของจานนี้อยู่ที่เส้นมะละกอดิบ
ที่ต้องสดกรอบ ก่อนนำมาตำกับมะเขือเทศ พริก และกระเทียม ตำ
ปลาร้าฉบับอีสานแท้ ๆ โดดเด่นด้วยกลิ่นแรงจากปลาร้า รสนัวจาก
มะกอก และความกรอบจากเม็ดกระถิน ถ้าใจยังไม่ถึงพออาจลองตำไทย
ที่คนภาคกลางนำมาปรับให้ทานได้ง่ายขึ้นก่อนได้ รสชาติออกเปรี้ยว
หวานจากน้ำตาลปี๊ บและน้ำมะนาว ผสานรสเค็มจากน้ำปลาและกุ้งแห้ง
ความกรอบก็ยังมีอยู่ แต่ใช้ถั่วลิสงแทนเม็ดกระถิน นอกจากตำปลาร้า
และตำไทยแล้ว ยังมีตำซั่ว (ส้มตำผสมเส้นขนมจีน) ตำข้าวโพด ตำแตง
ตำผลไม้ และอื่น ๆ ตามแต่ร้านจะสร้างสรรค์ ทุกแบบเพิ่มความอร่อยได้
ด้วยการจกคู่ข้าวเหนียวหรือขนมจีน
2. ลาบ
อาหารอีสานขึ้นชื่ออีกจาน ทำจากเนื้อสัตว์บดคลุกกับข้าวคั่ว
หอมแดง ต้นหอม ใบสะระแหน่ เสริมรสด้วยพริก น้ำมะนาว และ
น้ำปลาหรือปลาร้า เนื้อที่ใช้โดยมากจะเป็นหมู วัว ไก่ หรือเป็ด แต่
บางพื้นที่ก็ใช้เนื้อสัตว์ที่หาได้ในท้องถิ่นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเมนู
ลาบเลือดที่ผสมเลือดวัวหรือหมูสด เช่นเดียวกับอาหารอีสานอื่น ๆ
ลาบมักทานคู่กับข้าวเหนียวนึ่ง ในปัจจุบัน บางร้านยังมีเมนูลาบ
ทอดที่นำวัตถุดิบลาบมาปั้ นเป็นก้อนกลมแล้วนำไปทอดกรอบ
3. ก้อย
ถ้าเปรียบเมนูนี้กับวัฒนธรรมอาหารฝั่ งตะวันตก เราคงเรียกเมนูนี้ว่า ทาร์ทาร์
(tartare) ในแบบฉบับอีสาน ก้อยคือเนื้อดิบสับหรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้ว
นำไปคลุกเคล้ากับเครื่องเทศและผัก เนื้อที่ใช้ทำมีทั้งวัว ควาย กวาง ปลา กุ้ง
หรือแม้แต่ไข่มดแดง ส่วนผสมอื่น ๆ จะเหมือนกับลาบ และแน่นอนว่าต้อง
ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ เพื่อให้ซึมซับประสบการณ์อาหารอีสานอย่างเต็ม
ที่
4. อ่อม
แกงกะหรี่แดนอีสาน ทำจากน้ำพริกโขลกสด ๆ แคลอรี่น้อยเพราะ
ไร้กะทิ ความอร่อยอยู่ที่ผักสดตามฤดูกาลที่นำมาทำ ใส่เนื้อได้
หลากหลายทั้งไก่ กบ หมู ปลาดุก หรือหอยทาก พริกแกงผสาน
รสชาติจากทั้งกระเทียม หอมแดง ตะไคร้ และพริก แล้วเสริมกลิ่น
อันเป็นเอกลักษณ์ด้วยผักชีลาวและใบแมงลัก บางสูตรจะระบุไว้
ชัดเจนว่าเนื้อชนิดไหนใช้คู่กับผักอะไร
5. แกงหน่อไม้ใบย่านาง
แกงอีสานแสนอร่อยนี้ เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก
เพราะ เป็นแกงที่ไม่ใส่กะทิ อันดับแรก นำหน่อไม้สดมาต้ม
เพื่อกำจัดรสขม ก่อนนำไปต้มรวมกับพริกแกงสีเขียวจาก
ใบย่านาง แล้วเสริมความข้นด้วยข้าวเบือที่โขลกไว้ ใส่
เครื่องแกงอื่นๆ ที่เตรียมไว้ทั้งพริกขี้หนูและหอมแดง และ
ปลาร้าเพื่อเพิ่มรส นอกจากนี้ยังสามารถใส่ผักตามฤดูกาล
เพิ่มรสชาติได้อีกด้วย
6. ข้าวจี่
ข้าวจี่ตำรับอีสานคือข้าวเหนียวอัดเป็นแผ่นกลมหรือก้อนรี ชุบ
ไข่ผสมเกลือแล้วนำไปย่าง เป็นภูมิปัญญาการถนอมข้าวเหนียว
ไม่ให้เสียเพราะอากาศแสนร้อน
7. ไส้กรอกอีสาน
ไส้กรอกอีสานมาจากการนำเนื้อ มัน และหนังหมูมาบด จาก
นั้นใส่ข้าวสวยเพื่อให้เกิดกระบวนการหมัก ทิ้งไว้ระยะสั้น ๆ
แค่ 2-3 วันพอให้มีรสเปรี้ยวเล็ก ๆ ระหว่างทำยังปรุงรสด้วย
กระเทียม เกลือ และพริกไทย เหมาะทานเป็นของว่างแสน
อร่อย คู่กับพริก ขิง และกะหล่ำปลี
8. ปลาส้ม
“ส้ม” ภาษาอีสานแปลว่าเปรี้ยว ดังนั้น เตรียมลิ้นรับรสเปรี้ยวที่เกิด
จากการหมักได้ ปลาที่นำมาทำส่วนมากเป็นปลาน้ำจืดอย่างปลา
ตะเพียน อาจจะใช้ทั้งตัวหรือเฉพาะเนื้อ นำมาหมักกับข้าวสุกปรุงรส
แล้วทิ้งไว้ 2-3 วัน ได้ที่แล้วนำไปทอดหรือย่างตามใจชอบ
9. หมก
“หมก” คือวิธีการรังสรรค์อาหารแบบหนึ่ง ใกล้เคียงกับ
ห่อหมกของภาคกลาง เนื้อสัตว์หรือผักผสมกับเครื่องแกง
ห่อใบตอง แล้วนำไปนึ่งหรือย่าง แต่หมกแบบอีสานจะไม่ใส่
กะทิ แล้วเพิ่มความหอมด้วยสมุนไพรอย่างใบแมงลักแทน
วัตถุดิบทำหมกมีหลากหลาย ตั้งแต่ปลา กบ ไข่มด ไข่ปลา
หรือจะเป็นผักอย่างหน่อไม้ ปลีกล้วย หรือเห็ด
10. แจ่ว
แจ่วมีหลายสูตร แต่สูตรที่เราแนะนำวันนี้ คือ แจ่วมะเขือ
ปลาร้า จับคู่ทานกับผักนึ่ง ปลา หรือข้าวเหนียวเปล่า
วัตถุดิบสำคัญคือปลาร้า พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู และพริกกะ
เหลี่ยงคั่ว กระเทียม หอมแดง มะเขือเทศย่าง และเพิ่มรส
เปรี้ยวด้วยมะนาว
อาหารภาคกลาง
1.ต้มยำกุ้ง
อาหารไทยประเภทที่มีรสเปรี้ยวเผ็ด ดังนั้น "ต้มยำ" คือแกงไทยที่มีความเผ็ดร้อนและ
เปรี้ยว อันที่จริงคุณลักษณะของต้มยำมาจากความแตกต่างระหว่างความเผ็ดร้อนและ
ความเปรี้ยวและกลิ่นหอมของสมุนไพรในน้ำแกง ที่สำคัญน้ำแกงนั้นประกอบด้วย น้ำ
ต้มกระดูกและเครื่องปรุงส่วนผสมสดได้แก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า น้ำมะนาว น้ำปลา
และพริก
2.แกงเขียวหวาน
แกงเขียวหวาน เป็นอาหารไทยประเภทแกง ประกอบด้วยเนื้อ ปลา ไก่ หรือ
หมู และผัก ปรุงรสด้วยกะทิ มะเขือ น้ำตาล น้ำปลา ใบมะกรูด และใบ
โหระพา นิยมรับประทานกับข้าวสวยหรือขนมจีนน้ำพริกแกงมีสีเขียวเพราะ
ใช้พริกขี้หนูสดสีเขียว บางท้องที่ใส่ใบพริกลงไปตำด้วย
3.มัสมั่นไก่
แกงมัสมั่น เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู ชาวไทยมุสลิม
เรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น แกงมัสมั่นแบบมุสลิมไทยออกรสหวานในขณะที่ตำรับ
ดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน ในไทยมีวิธีการทำสองแบบคือ แบบไทย น้ำ
พริกแกงมี พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ลูกผักชี ยี่หร่า ดอกจันทน์ กานพลู
ปรุงรสให้หวานนำ
4.ต้มข่าไก่
ต้มข่าไก่ เป็นอาหารไทยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นแกงใส่กะทิ ใส่เนื้อไก่ และเห็ด น้ำแกง
มีสีขาวขุ่น มีการใส่สมุนไพรต่าง ๆ คล้ายต้มยำ เช่น ข่า ใบมะกรูด ตะไคร้ มะนาว พริก
โรยหน้าด้วยผักชี มีรสชาติเปรี้ยว เค็ม มัน
5.แกงเทโพ
แกงเทโพ เป็นแกงไทยประเภทแกงชักส้ม มีส่วนผสมประกอบด้วยเครื่องแกงที่ทำ
มาจากพริกแห้ง ตะไคร้ ข่า รากผักชี พริกไทย หอม กระเทียม เกลือ และกะปิ
ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำส้มมะขาม น้ำตาล ส่วนเนื้อสัตว์นั้นเดิมใส่ปลาเทโพซึ่งเป็น
ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ไม่มีเกล็ด มักพบในภาคกลางของประเทศไทย ผักที่ใส่มัก
เป็นผักบุ้งไทยเท่านั้นจึงจะเข้ากัน
6.แกงจืดมะระยัดไส้
แกงจืดมะระเป็นการปรุงอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารจีน แต่ประณีตแบบไทยๆ
เป็นการทำ แกงจืดบวกกับการตุ๋น เพื่อลดความขมของมะระ ทำให้มีรสชาติกลมกล่อม
7.ผัดกระเพรา
ผัดกะเพรา เป็นอาหารจานเดียวของไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจานหนึ่ง เป็น
อาหารริมทาง อาหารตามสั่งที่มีทั่วไปในประเทศไทย บางครั้งเรียกว่า เมนูสิ้นคิด
เนื่องจากเมื่อจะสั่งอาหารแล้วไม่รู้ว่าจะรับประทานอะไรก็มักจะสั่งผัดกะเพรา
8.ยำปลาดุกฟู
ยำปลาดุกฟู เป็นปลาพื้นบ้านของไทยมาแต่โบราณ มักจะใช้ ปลาดุกอุย ซึ่งจะมี
ลักษณะเป็นสีเหลือง และมีรสชาติอร่อย แต่ในปัจจุบัน จะใช้ปลาเลี้ยง ที่เรียกว่า
ปลาดุกด้าน
9.หลนปู
เคี่ยวกะทิ กับพริกป่นให้แตกมัน จากนั้นนำเนื้อปูและเนื้อหมูลงไปให้สุก · จาก
นั้นปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำปลา และ น้ำมะขามเปียก · ใส่ หอมแดง พริกหยวก
10.แกงส้มกุ้งผักรวม
นำพริกแกงมาโขลกเข้าเข้ากันแล้วใส่กุ้งใส่ผักลงไป รสชาติจะมีความเผ็ด
จากพริกแกงและความเปรี้ยวจากมะนาวที่ใส่ลงไป เป็นอาหารยอดนิยมของ
คนไทย