Copyright © Siam TC Technology Co., Ltd. ศาลจังหวัดสุโขทัย เอกสารคู่มือปฏิบัตงานหน้าบัลลังก์ นางสาวสมพร ปานทอง
การเตรียมสำนวนและตรวจสอบสำนวนก่อนวันนัด 1. เมื่อเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ได้รับสำนวนความนัดแล้ว จะต้องกรอกข้อมูลชื่อผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ผู้พิพากษาองค์คณะ รวมถึงห้องพิจารณาคดีในโปรแกรม User Manual ระบบสารสนเทศ สำนวนคดีศาลชั้นต้น เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วจึงพิมพ์ใบลอยเสนอผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน และนำไปติดไว้ที่หน้าห้องพิจารณาคดีนั้น ๆ เพื่อให้คู่ความตรวจสอบว่า คดีที่ตนเป็นคู่ความนั้น อยู่ห้องพิจารณาคดีใดและผู้พิพากษาท่านใดเป็นเจ้าของสำนวน โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1.1 เข้าสู่ระบบ http: // coj. 2sthailand.tk/ coj/ login 1.2 จากนั้นทำการ Loginเข้าสู่ระบบโดยกรอกชื่อผู้ใช้งาน และใส่รหัสผ่าน(Password) จากนั้นคลิก “เข้าสู่ระบบ”
เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วจะปรากฏหน้าจอดังนี้ หน้าระบบสารสนเทศสำนวนคดีศาลชั้นต้น 1.3 คลิกเลือกเมนู ระบบข้อมูลผู้บริหาร และคลิก
เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วจะปรากฏหน้าจอดังนี้ 1.4 คลิกเลือก ตรงวันที่นัด และคลิกเลือก ถึงวันที่นัด เช่น จะเตรียมคดีวันนัด ในวันที่ 18 ธันวาคม 2566 ก็ให้คลิก แล้วเลือกวันที่นัด 18 ธ.ค 66 ถึงวันที่นัด 18 ธ.ค. 66 แล้วคลิกเลือก“ทั้งหมด” เพื่อให้ แล้วคลิกที่ เมื่อเข้าคลิก จะปรากฏรายการสำนวนความนัดทั้งหมดดังนี้
1.5 ค้นหาสำนวนที่ต้องการ แล้วคลิก เลือกชื่อผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน คลิก เลือกบัลลังก์ คลิก เลือกชื่อผู้พิพากษาองค์คณะ โดยผู้ใช้สามารถค้นหาสำนวน ที่ต้องการและกรอกข้อมูลได้พร้อมกันหลายรายการ 1.6 เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ให้คลิก แล้วหน้าจอจะปรากฏ ข้อความดังภาพ แล้วให้คลิกเลือก “ใช่” ข้อมูลที่กรอกดังกล่าวก็จะถูกบันทึกในระบบ
1.7 คลิกเลือกเมนู ระบบพิจารณาคดี คลิกที่ ดังภาพ แล้วคลิกเลือก “บัญชีนัดพิจารณาคดี” เพื่อพิมพ์ใบลอยเสนอผู้พิพากษา 1.8 คลิกเลือก ที่ช่องตั้งแต่วันที่ (คือวันที่พิจารณาคดี) และคลิก ถึงวันที่ (ถึงวันที่นัด) และคลิกเลือก ห้องพิจารณาคดี จากนั้นคลิก เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วจะปรากฏหน้าจอดังนี้
เมื่อเข้าคลิก แล้วจะปรากฏรายการคดีความนัดประจำวันทั้งหมดและสามารถพิมพ์เสนอ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนและนำติดที่หน้าห้องพิจารณาคดีหรือบัลลังก์ 0 2. ตรวจสอบสำนวนความเรียบร้อยของสำนวน เช่น ติดตามผลหมาย/ประกาศ/แผนที่พิพาท/พยาน เอกสาร/เอกสารอ้างส่งเพิ่มเติม เป็นต้น หากจำเลยถูกคุมขังต้องลงบัญชีเบิกตัวจำเลยล่วงหน้า ก่อนวันนัดพิจารณา 3. ประสานคู่ความฝ่ายที่ยื่นขอพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์แต่ละบัลลังก์ จะติดต่อและส่งลิงค์ประจำห้องพิจารณาให้แก่คู่ความ เพื่อเข้าระบบประชุมทางจอภาพหรือระบบ อิเล็กทรอนิกส์ในวันนัด โดยก่อนวันนัดเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์จะต้องทำการทดสอบระบบ Google Meet /สัญญาณภาพและเสียง รวมถึงแจ้งขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติตนในการพิจารณาคดี ให้คู่ความทราบ 4. เตรียมแบบรายงานกระบวนพิจารณาโดยเปลี่ยนหมายเลขคดี/วันที่/ชื่อโจทก์-จำเลยของแต่ละ สำนวนทุกสำนวนก่อนวันนัดพิจารณาดังภาพ
5. เมื่อเตรียมความพร้อมดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จึงเสนอสำนวนพร้อมแนบบัญชีนัดความประจำ บัลลังก์ให้แก่ผู้พิพากษาต่อไป 6. หากสำนวนใดมีสืบพยานและมีพยานหมายที่ต้องจ่ายค่าป่วยการจ่ายเงินค่าป่วยการพยานจะมี วิธีการดังต่อไปนี้ 6.1 คลิกเลือก แล้วคลิก จะปรากฏให้กรอก “ เลขคดีดำ” เช่น อ808/2566 เมื่อกรอกเลขคดีดำดังกล่าวแล้วให้คลิก หากต้องการลบข้อมูลดังกล่าวให้คลิก เมื่อกรอก “เลขคดีดำ” และคลิกที่ แล้ว จะปรากฏสำนวนคดีและรายละเอียดในการ กรอกจ่ายค่าป่วยการพยานดังนี้ 6.2 คลิกเลือกขอมูลหัวข้อ “ประเภท” ที่ต้องการ/ระบุข้อมูลในหัวข้อ “ลงชื่อพยาน (จ่ายเงิน)” ผู้ใช้งานสามารถคลิกปุ่ม ระบบจะแสดงลงชื่อพยาน (จ่ายเงิน)ทั้งหมดคลิกเลือกที่ ต้องการ ระบบจะแสดงลงชื่อพยาน(จ่ายเงิน)โดยอัตโนมัติ คลิกเลือกขอมูลหัวข้อ “สถานที่ ปฏิบัติงาน” ที่ต้องการระบุข้อมูลในหัวข้อ “วันที่พิมพ์ใบสั่งจ่ายเงินค่าป่วยการ” ผู้ใช้งานสามารถ คลิกปุ่ม ระบุข้อมูลในหัวข้อ “หัวเรื่อง/ข้อหา/นัด” ระบุข้อมูลในหัวข้อ “จ่ายเงินให้แก่” ระบุ ข้อมูลในหัวข้อ “บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ” ระบุข้อมูลในหัวข้อ “ค่าป่วยการ” ระบุข้อมูลในหัวข้อ “กำหนดให้จำเลยมาพบ” ผู้ใช้งานสามารถคลิกปุ่ม ระบุ ข้อมูลในหัวข้อ “เวลา”ระบุข้อมูลในหัวข้อ “วันที่สอบคำให้การจำเลย และตรวจพยานหลักฐาน” ผู้ใช้งานสามารถคลิกปุ่ม ระบุข้อมูลในหัวข้อ “เวลา” ระบุข้อมูลในหัวข้อ “สถานที่”ระบุข้อมูล ในหัวข้อ “ผู้พิพากษา” ผู้ใช้งานสามารถคลิกปุ่ม ระบบจะแสดงผู้พิพากษาทั้งหมดคลิก เลือกที่ต้องการ ระบบจะแสดงผู้พิพากษาโดยอัตโนมัติระบุข้อมูลในหัวข้อ “ผู้จ่ายเงิน” ผู้ใช้งาน สามารถคลิกปุ่ม ระบบจะแสดงผู้จ่ายเงินทั้งหมดคลิก เลือกที่ต้องการ ระบบจะแสดงผู้จ่ายเงิน โดยอัตโนมัติ คลิกปุ่ม เพื่อบันทึกขอมูล
เมื่อคลิกปุ่ม แล้ว จะปรากฏรายการค้นหา โดยสามารถคลิกที่ เพื่อพิมพ์เอกสาร และสามารถคลิกที่ เพื่อแก้ไขเอกสารใบสั่งจ่ายค่าตอบแทนแก่พยาน หากต้องการลบข้อมูลให้คลิก ที่ เพื่อลบหรือล้างข้อมูลดังกล่าว หากคลิกที่ ระบบจะแสดงเอกสารเป็นไฟล์ Word ลงในคอมพิวเตอร์ ดังภาพด้านล่างนี้
ขั้นตอนการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในวันนัด 1. เมื่อถึงวันนัดคู่ความมาศาลแล้ว เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์จะอธิบายขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติตนในการ พิจารณาคดีให้คู่ความทราบ หากฝ่ายใดพิจารณาคดีผ่านทางระบบการประชุมทางจอภาพหรือทางสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ Google Meet เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์จะแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ให้แก่คู่ความ เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกันเสียก่อน เมื่อทราบผลการเจรจาแล้วเจ้าหน้าที่จะจัดพิมพ์แบบรายงานเจ้าหน้าที่ สำหรับคู่ความที่พิจารณาคดีผ่านการประชุมทางจอภาพหรือทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยตรวจสอบจำนวน ผู้เข้าร่วม/ชื่อ-สกุล/ที่อยู่ของคู่ความและบันทึกภาพคู่ความพร้อมถือใบอนุญาตว่าความหรือบัตร ประจำตัวประชาชนเพื่อประกอบรายงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวแล้วเสนอผู้พิพากษา เมื่อผู้พิพากษาพิจารณา คดีเสร็จสิ้นแล้วจะอัดเทปดิจิตอลเพื่อให้เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์จัดพิมพ์คำเบิกความพยาน /รายงานกระบวนพิจารณาของแต่ละสำนวน พิมพ์ใบสั่งจ่ายค่าตอบแทนแก่พยาน และให้คู่ความ ลงลายมือชื่อ กรณีที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล เพื่อควบคุมตัวจำเลยก่อนผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษา 2. ดำเนินการเกี่ยวกับการสืบพยานเด็ก โดยเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์จะต้องเตรียมความพร้อมของ ห้องพิจารณา ซึ่งการสืบพยานเด็กจะมีห้องพิจารณาสำหรับสืบพยานเด็กโดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่จึงต้องไป เตรียมความพร้อมและทดสอบเปิดเครื่องเสียง/กล้องวงจรปิด/โทรทัศน์ก่อนเวลานัด ขั้นตอนการพิจารณาคดีการพิจารณาคดีผ่านทางระบบการประชุมทางจอภาพหรือ อิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ Google Meet มีดังนี้ 1.1 เมื่อกรอกรหัสและเข้าสู่ระบบแล้ว กดคลิกเลือก “บัลลังก์1 - 4” ที่ต้องการ 1.2 จากนั้นคลิกเลือก “ขอเข้าร่วมเลย” ตามภาพ
1.3 การพิจารณาคดีผ่านทางระบบการประชุมทางจอภาพหรืออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ Google Meet รวมถึงความนัดอ่านคำพิพากษา/คำสั่งศาลชั้นต้น/ศาลสูง กรณีที่ จำเลยถูกคุมขังผ่านเรือนจำโดยไม่เบิกจำเลยมาศาล เมื่อถึงวันและเวลานัดเจ้าหน้าที่ หน้าบัลลังก์จะแจ้งให้คู่ความเข้าสู่ระบบ เมื่อผู้พิพากษาพิจารณาคดีเสร็จโดยอ่าน คำเบิกความพยานหรือรายงานกระบวนพิจารณาให้คู่ความฟังแล้ว ผู้พิพากษาจึงให้ แจ้งให้คู่ความอออกจากระบบดังกล่าวเป็นอันเสร็จขั้นตอนการพิจารณา กรณีที่อ่าน ผ่านเรือนจำเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์จะต้องจัดพิมพ์ใบสักขีพยานเพื่อให้จำเลยและ สักขีพยานลงลายมือชื่อเพื่อประกอบสำนวนต่อไป 2. เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาแล้ว เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ลงผลหลังการพิจารณาในระบบ User Manual ระบบสารสนเทศสำนวนคดีศาลชั้นต้น โปรแกรมหน้าบัลลังก์ โดยคลิกเมนู จากนั้นเลือก
เมื่อเข้าคลิก จะปรากฏรายการสำนวนความนัดทั้งหมดดังนี้ 3. ระบบจะปรากฏวันที่เป็นวันปัจจุบัน ไม่ต้องเลือกวันที่ แต่หากต้องการย้อนเวลาไปวันที่ผ่านมา สามารถเลือก แล้วเลือกวันนัดที่ต้องการดังภาพที่ปรากฏด้านล่างนี้
4. คลิกที่ และเลือกเลขห้องพิจารณาคดีหรือบัลลังก์ แล้วคลิก ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง เมื่อเข้าคลิก จะปรากฏรายการสำนวนความนัดทั้งหมดดังนี้ 5. คลิกสำนวนที่ต้องการลงระบบตามรายการที่ปรากฏ แล้วคลิก แล้วคลิกเลือก แบบOnline หรือแบบปกติ(ปกติคือคู่ความมาศาล) คลิกเลือกขัง หรือปล่อยตัวชั่วคราว/สืบพยานโจทก์/สืบพยาน จำเลย/สืบอื่น ๆ หากสืบอื่น ๆ ให้ใส่รายละเอียดสืบอื่น ๆ /สถานะ เสร็จ และไม่เสร็จ/แล้วใส่สาเหตุที่ เสร็จและสาเหตุที่ไม่เสร็จ/สาเหตุคดีที่ค้าง/สาเหตุที่คดีเลื่อน/สาเหตุที่คดีเลื่อนเพิ่มเติม/ผู้ขอเลื่อน หากคดีเสร็จการพิจารณาเมื่อลงรายละเอียดครบถ้วนแล้ว ให้คลิกเลือก หากคดีมีวันนัดต่อ ให้คลิก เพื่อลงวันนัดต่อไป และเขียนที่หน้าปกสำนวนว่าคดีนัดไปทำอะไร/ นัดวันที่เท่าไร
6. จัดเก็บสารบัญ จัดเก็บเอกสารต่าง ๆ ในสำนวน ลงนัดครั้งต่อไปในระบบสารสนเทศสำนวนคดี ศาลชั้นต้น 7. ปฏิบัติตามคำสั่งรายงานกระบวนพิจารณา เช่น จัดพิมพ์คำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษา/ หมายเรียก/หมายนัด/หมายจับ/ประกาศ ตรวจทานความถูกต้องของสำนวนก่อนส่งสำนวน 7.1 การพิมพ์คำบังคับให้คลิกเลือก จากนั้นคลิกเลือก แล้วคลิกเลือก จะปรากฏดังภาพด้านล่างนี้ 7.2 กรอกเลขคดีในช่อง “เลขคดีดำ” เมื่อกรอกเลขคดีดังกล่าวแล้วให้คลิก จะปรากฏ รายละเอียดของคดี และเลื่อนเมาส์ลงไปกรอกรายละเอียดหมายขาว คลิกเลือก แล้วเลือก ชื่อประเภทหมายว่า “คำบังคับ” แล้วกรอกคำสั่งศาลว่า “ไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด” โดยระบบจะปรากฏ ชื่อจำเลยและที่อยู่แล้ว แล้วคัดลอกข้อความคำพิพากษามาใส่ช่องคำพิพากษา แล้วคลิก เลือกชื่อ ของผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนนั้น ๆ เมื่อกรอกรายละเอียดครบถ้วนแล้ว ให้คลิกเลือก ดังภาพ ตัวอย่างตามภาพด้านล่างนี้
7.3 เมื่อคลิก แล้ว ระบบจะบันทึกอยู่ในรายการข้อมูล แล้วสามารถคลิก เพื่อ พิมพ์คำบังคับออกจากระบบ เมื่อคลิก เพื่อพิมพ์เอกสารแล้วจะปรากฏไฟล์ Word โดยผู้ใช้สามารถแก้ไข/จัดหน้า เอกสาร หากแก้ไขและตรวจสอบว่าถูกต้องแล้วก็สามารถพิมพ์และเสนอผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนต่อไป ปรากฏตามภาพที่ปรากฏด้านล่างนี้ 8. ดำเนินการจัดหน้ากระดาษคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ผู้พิพากษาส่งร่างให้พิมพ์คำพิพากษาความเรียง 9. รายงานผลคำสั่งศาลการจับกุม ยกเลิก – เพิกถอน ที่พิจารณาจำเลยในบัลลังก์ ในระบบ AWIS
10. ปฏิบัติงานหลังจากการพิจารณาคดีเสร็จ ตรวจสอบรับคำร้องหรือเอกสารต่าง ๆ ที่คู่ความยื่นผ่าน ระบบ e-Filing เฉพาะสำนวนที่อยู่ในความครอบครองและติดตามผลคำสั่งศาล เพื่อปฏิบัติตามคำสั่ง ศาลต่อไป 10.1 เข้าระบบ e-Filing เมื่อเข้าระบบดังกล่าวแล้วให้กรอกรหัสผู้ใช้ รหัสผ่าน รหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว แล้วกด “เข้าสู่ระบบ” 10.2 คลิกเลือกที่เมนู “ตรวจสอบ” เลือก “งานรอตรวจสอบ”
10.3 ระบบจะปรากฏผลการค้นหา คลิกเลือกหมายเลขคดีดำสำนวนที่อยู่ในความครอบครอง เพื่อตรวจสอบและรับเอกสารผ่านระบบ กรณีต้องการค้นหางาน ให้ใส่เงื่อนไขในการค้นหา ใน Secion "ค้นหาข้อมูล" และกดปุ่ม "ค้นหา" ระบบจะแสดงรายการงานขึ้นมาให้ตามที่ค้นหา และสามารถคลิกเลือกรายการที่ต้องการตรวจสอบได้ 11. เตรียมเอกสารและสแกนสำนวนเพื่อส่งร่างคำพิพากษาหรือคำสั่งเสนอภาคตรวจทางอิเล็กทรอนิกส์ หากเป็นกรณีส่งสำนวนและร่างคำพิพากษาหรือคำสั่งไปยังภาคให้ตรวจสอบความถูกต้อง/ลายมือชื่อ คู่ความ/ติดดัชนีที่คำให้การ บัญชีพยาน และพยานเอกสารเป็นต้น การเตรียมเอกสารเพื่อส่งร่างคำพิพากษาหรือคำสั่งเสนอภาคตรวจทางอิเล็กทรอนิกส์ 11.1 คลิกเลือก “เข้าสู่ระบบ”
11.2 กรอก User name Password แล้วกด Login 11.3 คลิกเลือกเมนู “เตรียมสำนวนส่งภาค”
11.4คลิกเลือกหมายเลขคดีดำที่ต้องการเตรียมสำนวนส่งภาคและเลือก “เตรียมเอกสารE” 11.3 คลิกเลือกเมนู “Choose Files” ตามภาพหมายเลข แล้วอัปโหลดเอกสารที่ แสกนเตรียมไว้ แล้วกด “บันทึก” ตามภาพถ่ายหมาย แล้วส่งหัวหน้าส่วน เพื่อตรวจความถูกต้องเมื่อตรวจสอบความถูกต้องเสร็จแล้ว หัวหน้าส่วนจะเสนอ ผู้พิพากษาเพื่อแนบคำพิพากษาหรือคำสั่งต่อไป
12. สแกนสำนวน/คำพิพากษาคดีทุกคดีลงระบบสแกนสำนวนอิเล็กทรอนิกส์ E-CMS และ upload ลง ระบบ 12.1 สแกนสำนวน/คำพิพากษาคดีทุกคดีลงระบบสแกนสำนวนอิเล็กทรอนิกส์ E-CMS ให้ ผู้ใช้งานเข้าสู่ระบบ https://10.36.18.12/praxticol85-coj/ กรอกใส่ผู้ใช้งาน และใส ่รหัสผ่าน (Password) เมื่อเข้าสู่ระบบดังกล่าวแล้วจะปรากฏหน้าจอดังนี้
12.2 ให้คลิกที่ จากนั้นคลิก แล้วคลิกเลือกความคดีแพ่ง คดีผู้บริโภค คดีอาญา หรือคดีสาขาตามสำนวนที่เราจะอัปโหลดเอกสาร ลงระบบ ดังภาพ เมื่อคลิกเลือกคดีแล้วจะปรากฏปี พ.ศ. ดังภาพ ให้เลือกปี พ.ศ. ของสำนวนที่ต้องการอัปโหลด
12.3 คลิกที่ช่องค้นหา ใส่ “หมายเลขคดีดำที่” เช่น อ612/66 แล้วคลิกที่ปุ่ม “ค้นหา” เมื่อคลิกที่ปุ่ม แล้ว จะปรากฏสำนวนที่ค้นหาดังกล่าวขึ้นมาดังภาพ 12.4 คลิกที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งของแถบคดีดังกล่าว แล้วคลิก เพื่อแนบเอกสาร แล้ว เลือกไฟล์เอกสาร PDF ที่สแกนไว้ เช่น จะแนบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้เลือกไฟล์คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค 6 13/12/66 แล้วคลิก Open เอกสารจะเข้าไปยังระบบดังกล่าว
12.5 กรอกลำดับเอกสาร เช่น ลำดับที่ 9 พิมพ์ 9 ในช่องลำดับ แล้วเลือกประเภทเอกสารแนบ เช่น ต้องการอัปโหลด “คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 13-12-66” ให้คลิกปุ่ม แล้วเลือก 29.คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม เป็นอันเสร็จสิ้นการอัปโหลดและ ส่งสำนวนให้หัวหน้าส่วนตรวจและอนุมัติสแกนต่อไป 13. สแกนสำนวน/คำพิพากษาคดีทุกคดีลงระบบสแกนสำนวนอิเล็กทรอนิกส์ e-Filing และ upload ลง ระบบ 13.1 เข้าระบบ e-Filing เมื่อเข้าระบบดังกล่าวแล้วให้กรอกรหัสผู้ใช้ รหัสผ่าน รหัสผ่าน แบบใช้ครั้งเดียว แล้วกด “เข้าสู่ระบบ”
13.2 คลิกที่ และคลิก เพื่อคลิกปุ่ม ดังภาพ 13.3 กรอกข้อมูล “หมายเลขคดีดำ”ดังภาพตัวอย่าง 13.4 เมื่อกรอกหมายเลขคดีดำแล้วให้คลิกที่ปุ่ม หน้าจอจะแสดงรายการ ของสำนวนที่ค้นหาตามภาพ
13.5 เลือกประเภทเอกสาร/เอกสารที่แนบ/เอกสารการเงิน เลือกรายการเอกสาร เช่น รายการ เดินหมาย/รายงานเจ้าหน้าที่/รายงานกระบวนพิจารณา/คำพิพากษาหรือคำสั่งศาล/คำเบิกความ/อื่นๆ เลือกประเภทเจ้าของเอกสาร เช่น เจ้าหน้าที่/ผู้พิพากษา ส่วนรายการแทนที่เอกสารใช้เฉพาะต้องการ แทนที่ฉบับเก่าที่เปลี่ยนแปลงโดยเลือกรายการและลำดับที่ต้องการแทนที่ดังกล่าว หากไม่ต้องการ แทนที่ให้คลิกที่ “ไม่แทนที่” จากนั้นเลือกไฟล์เพื่ออัปโหลดเอกสาร และคลิก เมื่ออัปโหลด เอกสารดังกล่าวแล้วให้คลิก เพื่อบันทึกข้อมูล