The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bluegadang koisang, 2023-12-26 22:51:42

คู่มือปฏิบัติงานรับฟ้องอาญา

ส่วนบริหารจัดการคดี

แนวทางปฏิบัติ การรับฟ้อง (คดีอาญา) คดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ ๑. การตรวจคำฟ้อง ๑.๑ ชื่อศาล วัน เดือน ปี ถูกต้องหรือไม่ ๑.๒ เขตอำนาจศาล ๑.๓ ฐานความผิด ๑.๔ สถานที่เกิดเหตุ ๑.๕ สอบสวนในเขตอำนาจศาลหรือไม่ ๑.๖ สำเนาคำฟ้องมีครบตามจำนวนจำเลยหรือไม่ ๑.๗ พนักงานอัยการลงลายมือชื่อท้ายฟ้องถูกต้องหรือไม่ ๑.๘ ถ้าพบข้อผิดพลาดและพนักงานอัยการโจทก์ยังไม่ได้แก้ไข ให้แจ้งโจทก์แก้ไข ทันที ๒. ประทับตราของงานรับฟ้องด้านบนมุมขวาของคำฟ้อง ลงวัน เดือน ปี เวลาที่รับพร้อมกับลง ลายมือชื่อ กำกับไว้ แล้วลงหมายเลขคดีดำ ๓. ลงชื่อในสำเนาคำฟ้องของพนักงานอัยการเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้รับคำฟ้องไว้แล้ว ๔. บันทึกข้อมูลรับฟ้องในระบบโปรแกรมรับฟ้องโดยให้เรียงตามลำดับเลขคดีดำ ซึ่งมีรายการโจทก์ จำเลย ผู้เกี่ยวข้อง ข้อมูลคดีฐานความผิด มูลคดีเกิด ชื่อผู้พิพากษา และลงวันนัดพิจารณาในรางวัน นัดรับฟ้อง ดังนี้...


-๒- ขั้นตอนการกรอกข้อมูลในโปรแกรมระบบสารสนเทศสำนวนคดีศาลชั้นต้น คดีรับฟ้องอาญา (๑.) เข้ามาที่ระบบสำนวนคดีหลัก


-๓- (๒.) เข้าระบบบันทึกข้อมูลรับฟ้อง


-๔- (๓.) เข้าข้อมูลคดี ใส่รหัส คดีอาญาทั่วไป “101” หรือคดียาเสพติด “109” แล้วกด “บันทึก” (๓.๑) กดบันทึก


-๕- (๔) เข้ามาข้อมูลคู่ความ รายการ โจทก์ จำเลย ผู้เกี่ยวข้อง เมื่อจะพิมพ์ชื่อโจทก์ จำเลย หรือ ผู้เกี่ยวข้อง ให้กดเพิ่มข้อมูล (๔.๑) พิมพ์ข้อมูลโจทก์และกดบันทึก


-๖- (๔.๒) พิมพ์ข้อมูลจำเลยและกดบันทึก (๔.๓) พิมพ์ข้อมูลผู้เกี่ยวข้องและกดบันทึก


-๗- (๕.) เข้ามาพิมพ์ข้อมูลคดีและฐานความผิดในแต่ละช่องให้ครบเพราะข้อมูลในส่วนนี้จะขึ้นตรงหน้า ปกสำนวนคดี (๖.) เข้ามาพิมพ์มูลคดีเกิดให้ครบทุกช่อง


-๘- (๗.) ใส่ชื่อผู้พิพากษารับฟ้องและกดปรับปรุง (๘.) กรณีหากคดีมีวันนัดพิจารณาให้ลงนัดพิจารณาในรางนัดของรับฟ้อง โดยกดเพิ่มข้อมูล ใส่ ข้อมูลในช่องวันนัด เวลาที่นัด และสาเหตุที่นัด


-๙- ใส่ข้อมูลในช่องวันนัด เวลาที่นัด และสาเหตุที่นัด ขั้นตอนการปริ้นปกสำนวนเมื่อลงข้อมูลคดีเสร็จ ขั้นตอนต่อไปให้ปริ้นปกสำนวนสามารถทำได้ ๒ ช่องทาง ดังนี้.. (๑) เมื่อบันทึกข้อมูลคดีเสร็จให้ปริ้นปก โดยเข้ามาที่ พิมพ์


-๑๐- จะมีหน้าต่างให้ปริ้นปกสำนวน เราก็สามารถปริ้นปกสำนวนเพื่อมาทำสำนวนได้ทั้งปกในและปกหน้า (๒) เข้ามาที่บันทึกข้อมูล และกดมาที่ รายงาน


-๑๑- เมื่อเข้ามาที่รายงาน แล้วให้มาที่ ปกสำนวนคดีหลัก เมื่อมาปกสำนวนคดีหลักแล้ว ให้มาใส่ รหัสคดี เช่น คดียาเสพติด ให้ใส่ 109 คดีอาญา 101 และ กด ค้นหา


-๑๒- จะมีหน้าต่างให้ปริ้นปกขึ้นมาก็ให้เรากดมาที่ พิมพ์คดีสำนวนคดีหลัก หรือพิมพ์ปกอื่นได้ที่เราต้องการ ๕. การเข้าปกสำนวนเรียงตามลำดับ ๕.๑ ปกหน้าสำนวน ๕.๒ หน้าสำนวน ๕.๓ สารบัญ โดยลงรายการให้ครบถ้วน ๕.๔ สำนวนฝากขัง (กรณีมีสำนวนฝากขัง) ๕.๕ คำฟ้อง เอกสารท้ายคำฟ้อง ๕.๖ ประทับตรายาง “ประทับฟ้อง” ในคำฟ้อง ถ้ายังไม่ครบฝากขังให้ประทับฟ้อง หมายขัง เบิกจำเลยมาสอบคำให้การวันรุ่งขึ้นหรือวันทำการปกติ ในกรณีจำเลยประกัน ตัวและยังไม่ครบกำหนดส่งตัวให้ประทับฟ้อง นัดสอบคำให้การในวันนัดส่งตัว ๖. กรณีมีการสืบพยานก่อนฟ้อง หรือกรณีศาลมีคำสั่งให้แยกฟ้อง ให้นำสำนวนที่สืบพยานไว้ ก่อน หรือสำนวนที่ฟ้องไว้ก่อนมาผูกพ่วงกับสำนวนฟ้องใหม่ ๗. เมื่อเราจัดทำสำนวนคดีเสร็จแล้วให้เราทำคำให้การจำเลยและสอบคำให้การก่อนที่จะเสนอผู้ พิพากษาเวรชี้ คำให้การจำเลยมี ๒ แบบ ดังนี้....


-๑๓- (๗.๑) คำให้การรับสารภาพ (๗.๒) คำให้การปฏิเสธ ๘. เมื่อคดีเสร็จการพิจารณา โดยผู้พิพากษามีคำพิพากษาตัดสินจำเลยแล้ว ให้เรานำสำนวนคดีนั้น มาออกเลขคดีแดงในโปรแกรม ดังนี้... (๘.๑) เข้ามาที่ ระบบสารบบคดี/ออกแดง (๘.๒) เมื่อเข้ามาระบบแล้ว ให้มากด บันทึกข้อมูลคำพิพากษา


-๑๔- (๘.๓) เข้ามาตรง คำพิพากษา ใส่เลขคดีที่เราจะออกเลขแดงแล้วกด ๑ ครั้ง โปรแกรม ก็จะขึ้นเลขคดีแดงมาให้ (๘.๔) โปรแกรมจะขึ้นเลขแดงให้ และให้เราตรวจดูด้วยว่าตรงกับเลขที่เราใส่ในหน้าปก สำนวนและหูสำนวนที่เราออกเลขคดีหรือเปล่า เมื่อตรวจดูแล้วว่าตรงกันให้เรากด บันทึก


-๑๕- (๘.๕) เมื่อเราออกเลขคดีแดงเสร็จแล้วให้มากรอกข้อมูลคดีแดง ตรงพิพากษาให้โดย ให้ตรวจดูว่าศาลพิพากษาให้ใครชนะก็ให้กด เช่น โจทก์ชนะ จำเลยชนะ หรืออื่น ๆ (๘.๖) เมื่อใส่ว่าใครชนะแล้วก็ให้ใส่ ผู้ตัดสิน และผลคำพิพากษา


-๑๖- (๘.๗) เมื่อเราใส่ผลคำพิพากษาแล้ว ให้เรามาช่อง โทษของจำเลย กดแล้วข้อมูลจะ ขึ้นมาให้เราใส่โทษของจำเลย


-๑๗- โฟล์วชาร์ต ขั้นตอนการดำเนินงานรับฟ้องคดีอาญา (พนักงานอัยการเป็นโจทก์) 1. 10. 2 3 4 5 6 รับฟ้อง และตรวจคำฟ้อง ประทับตราของงานรับฟ้องและลงรายละเอียด ประทับตราและลงชื่อในสำเนาคำฟ้องของพนักงานอัยการ ลงสารบบความในคอมพิวเตอร์ แจ้ง พนักงานอัยการโจทก์แก้ไข ตรวจ ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง เข้าปกสำนวนเรียงตามสารบาญ ประทับตรายาง “ประทับฟ้อง” ในคำฟ้อง


-๑๘- 7 8 9 สอบคำให้การจำเลย ตรวจสอบและลงลายละเอียดในคำให้การ เสนอสำนวนต่อผู้พิพากษา


-๑๙- กรณีฟ้องมีตัวจำเลยมาศาล ๑. ฟ้องพร้อมส่งตัวจำเลย ๑.๑ ให้พนักงานอัยการหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คุมตัวจำเลยมาศาลลงลายมือชื่อรับตัว จำเลยไว้ นำไปฝากขังไว้ที่ห้องขังศาล ๑.๒ ให้จำเลยลงลงลายมือชื่อรับสำเนาคำฟ้อง ๑.๓ สอบคำให้การจำเลย ทำสำนวน ๑.๔ เสนอสำนวนต่อผู้พิพากษาเวรชี้ ๒. ฟ้องเมื่อครบกำหนดฝากขัง ๒.๑ นำสำนวนฝากขังมารวมไว้กับสำนวนฟ้อง ๒.๒ ให้จำเลยลงลายมือชื่อรับสำเนาคำฟ้อง ๒.๓ สอบคำให้การจำเลย ทำสำนวน ๒.๔ เสนอสำนวนต่อผู้พิพากษาเวรชี้ กรณีจำเลยประกันตัวชั้นฝากขัง กรณียังไม่ถึงวันนัดกำหนดการส่งตัวจำเลย ๑.๑ นำสำนวนฝากขังมารวมไว้กับสำนวนฟ้อง ๑.๒ ลงวันนัดสอบคำให้การในวันครบกำหนดส่งตัวผู้ต้องหาตามที่งานประชาสัมพันธ์ นัดไว้ ๑.๓ ทำสำนวน เสนอสำนวนต่อผู้พิพากษาเวรชี้ กรณีถึงวันนัดกำหนดส่งตัว นายประกันขอผัดการส่งตัวเนื่องจากมีเหตุขัดข้อง ๑. นำสำนวนฝากขังมารวมไว้กับสำนวนฟ้อง ๒. ทำสำนวนพร้อมเสนอสำนวนพร้อมคำร้องขอผัดการส่งตัวต่อผู้พิพากษาเวรชี้ กรณีถึงวันนัดกำหนดส่งตัวแล้ว นายประกันไม่ส่งตัวจำเลยโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ๑. นำสำนวนฝากขังมารวมไว้กับสำนวนฟ้อง ๒. ทำสำนวน เสนอสำนวนต่อผู้พิพากษาเวรชี้เพื่อมีคำสั่ง


-๒๐- กรณีจำเลยต้องขังและยังไม่เบิกตัวจำเลยมาศาล (ฟ้องเบิก) ๑. นำสำนวนฝากขังมารวมไว้กับสำนวนฟ้อง ๒. ลงวันนัดสอบคำให้การภายใน ๑ วันทำการหรือในวันทำการปกติแล้วแต่กรณี - นำสำนวนไปให้งานหมายออกหมายขังระหว่างพิจารณา - เสนอสำนวนพร้อมหมายขัง และหมายเบิกจำเลยต่อผู้พิพากษาเวรชี้ คดีราษฎรเป็นโจทก์ ๑. ตรวจคำฟ้อง ปฏิบัติเช่นเดียวกันกับตรวจรับคำฟ้องในคดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ เปลี่ยนจากอัยการเป็นโจทก์ลงลายมือชื่อท้ายฟ้องถูกต้องหรือไม่ และยกเว้นข้อ ๑.๘ และข้อ ๓ ๒. ตรวจดูภูมิลำเนาของจำเลยได้ระบุไว้ชัดเจนพอที่จะส่งหมายได้หรือไม่ ๓. ตรวจใบอนุญาตทนายความและใบแต่งทนายความ เมื่อใบอนุญาตถูกต้องให้ลง ลายมือรับรองความถูกต้องไว้ที่ใบแต่งทนาย ๔. หากในคำฟ้องและใบแต่งทนายเป็นกรณีพิมพ์ลายนิ้วมือให้ตรวจดูว่ามีพยานรับรอง ๒ คนหรือไม่ ๕. ประทับตรานัดไต่สวนมูลฟ้องในคำฟ้อง ๖. ให้โจทก์ลงชื่อทราบวันเวลานัด แนวปฏิบัติของศาล วันตรวจสอบผลหมายในคำ ฟ้องด้านล่าง ๗. ลงวันในสมุดนัดความของศาล (ปัจจุบันลงนัด ลงสารบบคำฟ้องด้วยเครื่อง คอมพิวเตอร์) ออกหมายนัดไต่สวนมูลฟ้อง (ในเขตนัดไม่ต่ำกว่า ๔๕ วัน นอกเขตนัดไม่ต่ำกว่า ๖๐ วัน) ๘. เสนอสำนวนต่อผู้พิพากษาเวรชี้


-๒๑- รับฟ้องคดีพิเศษ ๑. คดีรับโอน เมื่องานรับฟ้องได้รับสำนวนคดีที่โอนมาจากศาลอื่นแล้ว จะต้องปฏิบัติดังนี้ ๑.๑ นำปกสำนวนและหน้าสำนวนใหม่ซ้อนทับปกหน้าสำนวนเดิม ๑.๒ ลงสารบบความและออกหมายเลขคดีดำต่อจากหมายเลขคดีดำสุดท้ายเช่นเดียวกับคดีรับ คดีรับฟ้องใหม่ และเขียนไว้ด้วยหมึกสีแดงบนปกหน้าสำนวนว่า “คดีโอนมาจากศาล...” ๑.๓ นำสำนวนเสนอต่อผู้พิพากษาเวรชี้เช่นเดียวกับสำนวนคดีฟ้องใหม่เพื่อมีคำสั่งต่อไป ๑.๔ เมื่อศาลมีคำสั่งแล้วให้นำสำนวนไปลงวันนัด (ในเขตนัดไม่ต่ำกว่า ๔๕ วัน นอกเขตนัดไม่ ต่ำหว่า ๖๐ วัน) แล้วส่งสำนวนให้งานหมายไปดำเนินการหรือส่งคืนงานเก็บดำ ๒. คดีละเมิดอำนาจศาล (คดีดำที่ ล.) ๒.๑ กรณีศาลมีคำสั่งลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลแล้วให้ปฏิบัติดังนี้ ๒.๑.๑ ให้ถ่ายสำนวนรายงานกระบวนพิจารณา คำสั่งและเอกสารที่เกี่ยวข้องโดย รับรองสำเนาถูกต้อง ๒.๑.๒ ลงลายละเอียดในสมุดบัญชีคดีละเมิดอำนาจศาลออกหมายเลขคดีดำที่ ล. ตามลำดับ ๒.๑.๓ เข้าปกสำนวนดำเนินการเช่นเดียวกับการเข้าปกสำนวนคดีธรรมดา ๒.๑.๔ นำสำนวนคดีละเมิดอำนาจศาลที่ทำขึ้นใหม่ไปผูกพ่วงกับสำนวนคดีเดิม ๒.๑.๕ ลงคำสั่งศาลในสมุดบัญชี ถ้าศาลลงโทษจำคุกให้ออกหมายจำคุก ถ้าศาล ลงโทษปรับให้ ส่งงานการเงิน ๒.๒ กรณีมีการละเมิดอำนาจศาลและศาลยังไม่มีคำสั่งลงโทษให้ปฏิบัติดังนี้ ๒.๒.๑ ให้นำบันทึกคำกล่าวหา รายงานเจ้าหน้าที่และเอกสารต่าง ๆ มารวมทำเป็น สำนวนคดีละเมิดอำนาจศาล ๒.๒.๒ ลงสมุดบัญชีคดีละเมิดอำนาจศาล ออกเลขคดีดำคดีละเมิดอำนาจศาลเป็นคดี หมายเลขดำที่ ล.


-๒๒- ๒.๒.๓ เข้าปกสำนวน ดำเนินการเช่นเดียวกับการฟ้องคดีอาญาธรรมดา ๒.๒.๔ เสนอสำนวนผู้พิพากษาเวรชี้ หรือผู้พิพากษาที่ได้รับมอบหมายเพื่อสั่ง ๒.๒.๕ เมื่อศาลมีคำสั่งอย่างใดแล้ว ให้ลงคำสั่งในสมุดบัญชีคดีละเมิดอำนาจศาล คดี หมายเลขแดง ที่ ล. ๒.๒.๖ ถ้าศาลลงโทษจำคุก ให้ออกหมายจำคุก ถ้าศาลลงโทษปรับให้ส่งงานการเงิน ๒.๒.๗ การละเมิดอำนาจศาลเกิดขึ้นในความรับผิดชอบของงานใด ให้หัวหน้างานนั้น เป็นผู้ทำรายงานเจ้าหน้าที่ ๓. คดีขอสืบพยานไว้ก่อนฟ้อง (คดีดำที่ อส.) เมื่อพนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้สืบพยานไว้ก่อนฟ้องคดี หรือผู้ต้องหายื่นคำร้องขอ สืบพยานไว้ก่อนถูกฟ้อง ให้ปฏิบัติดังนี้ ๓.๑ ลงสมุดบัญชีคดีขอสืบพยานไว้ก่อน ออกหมายเลขคดีดำที่ อส. ๓.๒ เข้าปกสำนวน ดำเนินการเช่นเดียวกับการทำปกสำนวนคดีอาญาธรรมดา ๓.๓ นำสำนวนเสนอต่อผู้พิพากษาเวรชี้ ๓.๔ กรณีศาลสั่งสืบพยานตามขอ และสืบพยานเสร็จแล้ว ลงรายการในสมุดคุมบัญชีคดีขอ สืบพยานและเก็บสำนวนไว้ก่อน ๓.๕ เมื่อมีการฟ้องคดีต่อศาลแล้วให้นำสำนวนคดีขอสืบพยานไว้ก่อนไปผูกพ่วงไว้กับสำนวนที่ ฟ้องแล้ว ๔. คดีมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดให้โทษ (คดีหมายเลขดำที่ อม.) ๔.๑ ในกรณียื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งริบทรัพย์ของกลางมาพร้อมกับคำฟ้องหรือก่อนศาล มีคำพิพากษา ๔.๑.๑ ลงสมุดสารบบคดีมาตรการการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้ โทษ (คดีดำที่ อม.)


-๒๓- ๔.๑.๒ จัดทำสำนวนเฉพาะคดีมาตรการเช่นเดียวกับการรับคำร้องหรือคำฟ้องคดี ทั่วไป และผูกพ่วงสำนวนมาตรการไว้กับสำนวนที่ยื่นฟ้องจำเลย ๔.๑.๓ เสนอสำนวนมาตรการรวมไปกับสำนวนฟ้องใหม่ต่อผู้พิพากษาเวรชี้หรือ เฉพาะสำนวนมาตรการต่อผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนในคดีที่จำเลยถูกฟ้องเพื่อมีคำสั่ง ๔.๑.๔ ลงคำสั่งในสมุดสารบบคดีมาตรการฯ ๔.๒ กรณียื่นคำร้องมาภายหลังศาลมีคำพิพากษาในคดีที่จำเลยถูกฟ้องแล้วให้ปฏิบัติดังนี้ ๔.๒.๑ ดำเนินการเช่นเดียวกับในข้อ ๕.๑ ๔.๒.๒ ขอสำนวนคดีเดิมมาเพื่อผูกพ่วงสำนวนคดีมาตรการฯ ๔.๒.๓ นำเสนอผู้พิพากษาเจ้าของเดิมหรือองค์คณะเดิมเพื่อมีคำสั่ง ๕. คดีขอคืนของกลาง (อก) เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบ เมื่อได้รับคำร้องแล้วจะต้องปฏิบัติดังนี้ ๕.๑ ขั้นตอนการรับเช่นเดียวกับการรับคำร้องหรือคำฟ้องคดีทั่วไป โดยใช้หมายเลขคดีอก. ๕.๒ ขอสำนวนคดีเดิมมาจากงานเก็บสำนวนคดีแดงและนำมาผูกพ่วง ๕.๓ เสนอสำนวนผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเดิมหรือกรณีเจ้าของสำนวนไม่อยู่ปฏิบัติราชการ ให้เสนอเวรชี้ ๕.๔ ถ้าศาลมีคำสั่งริบให้ส่งสำนวนไปงานออกหมาย หรือถ้าศาลมีคำสั่งไม่รับให้ส่งสำนวนคืน งานเก็บสำนวน


Click to View FlipBook Version