กรมการเงินกลาโหม
บริการทันใจ ซื่อสัตยโปรงใส ทันสมัยสามัคคี
หมวด ๕
คาํ นิยาม กฎหมาย และระเบยี บแบบแผน
ของทางราชการที่เกี่ยวกบั เบ้ยี หวดั บาํ เหน็จบาํ นาญ
๔๖ คมู ือ ขาราชการทหารทอ่ี อกจากราชการ
๑. ข้อบงั คับกระทรวงกล�โหมว�่ ด้วยเงินเบี้ยหวัด พ.ศ.๒๔๙๕
เบี้ยหวัด หมายถึง เงินตอบแทนความชอบท่ีรับราชการมาจ่ายให้ทหารชายเท่านั้น
ซ่ึงได้แก่ นายทหารช้ันสัญญาบัตร และนายทหารชั้นประทวน ท่ีออกจากราชการจนถึง
ก่อนวันย้ายประเภท หรือวันปลดเปน กองหนุนชนั้ ท่ ี ๒
เกณฑ์คำานวณเบี้ยหวัด ให้นับเวลาราชการปกติรวมกับเวลาราชการทวีคูณ (ถ้ามี) ได้เวลา
ราชการเทา่ ไรแลว้ ตกเกณฑไ์ หน กจ็ ะไดเ้ กณฑ์คาำ นวณเบย้ี หวดั ดงั นี้
๑. มเี วลาราชการไม่ถึง ๑๕ ปี ได้ ๑๕/๕๐ ของเงนิ เดอื นเดอื นสุดทา้ ย
๒. มเี วลาราชการ ๑๕ ป ี แต่ไมถ่ ึง ๒๕ ปี ได้ ๒๕/๕๐ ของเงนิ เดือนเดอื นสุดท้าย
๓. มเี วลาราชการ ๒๕ ปี แต่ไม่ถงึ ๓๐ ป ี ได้ ๓๐/๕๐ ของเงนิ เดอื นเดือนสุดท้าย
๔. มีเวลาราชการ ๓๐ ป ี แต่ไมถ่ ึง ๓๕ ปี ได้ ๓๕/๕๐ ของเงินเดอื นเดือนสุดทา้ ย
๕. มีเวลาราชการ ๓๕ ป ี ถึง ๔๐ ปี ได ้ ๔๐/๕๐ ของเงินเดือนเดอื นสุดทา้ ย
๖. มเี วลาราชการเกินกว่า ๔๐ ปขี น้ึ ไป จะได้รบั เบย้ี หวดั
= เ ง นิ เ ด อื น เ ด ือ น ส ดุ ท ้า ย ๕x๐ จาำ นวนปีเวลาราชการ
เบีย้ หวัดให้จ�ำ กัดจ�ำ นวนอย่�งสูงไมเ่ กนิ เงนิ เดอื นเดือนสดุ ท�้ ย
๒. พระร�ชบญั ญตั บิ �ำ เหนจ็ บ�ำ น�ญข�้ ร�ชก�ร พ.ศ.๒๔๙๔ และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ
ข�้ ร�ชก�ร หมายถึง ทหารและข้าราชการพลเรอื น
ทห�ร หมายถึง นายทหารสัญญาบัตร นายทหารประทวน ตลอดจนว่าท่ียศนั้น ๆ และ
พลทหารประจาำ การ
ข�้ ร�ชก�รพลเรอื น หมายถงึ
ข้าราชการพลเรือน
ข้าราชการฝา ยอัยการ
ข้าราชการการเมอื ง
ขา้ ราชการตาำ รวจ
ข้าราชการกลาโหมพลเรือน
ขา้ ราชการฝายตลุ าการ
ขา้ ราชการพลเรือนในมหาวิทยาลยั
คมู ือ ขา ราชการทหารทีอ่ อกจากราชการ ๔๗
ข้าราชการฝา ยรฐั สภา
ข้าราชการครู
บำ�เหน็จ หมายถึง เงินตอบแทนความชอบที่ได้รับราชการ จ่ายให้เปนก้อนคร้ังเดียว
มหี ลักเกณฑ์ดงั นี้
๑. สทิ ธทิ ีจ่ ะไดร้ บั บ�ำ เหนจ็
๑.๑ มเี วลาราชการไมถ่ ึง ๑๐ ปีบริบรู ณ์
ทางราชการให้ออกดว้ ยเหตทุ ดแทน
ออกจากราชการเพราะเหตทุ ุพพลภาพ
ทางราชการใหอ้ อกเพราะครบเกษยี ณอายรุ าชการ
ลาออกเมือ่ ครบอายุ ๕๐ ปีบรบิ ูรณ์แล้ว
๑.๒ ลาออกโดยมีเวลาราชการครบ ๑๐ ปบี รบิ รู ณ ์ แตไ่ ม่ถงึ ๒๕ ปีบรบิ ูรณ์
๑.๓ มีสิทธิไดร้ บั บาำ นาญ แต่ขอรับบำาเหนจ็ แทนบาำ นาญ
๒. เกณฑ์ค�ำ นวณบำ�เหนจ็ = เงินเดอื นเดือนสุดทา้ ย x จำานวนปีเวลาราชการ
บำ�น�ญปกติ หมายถงึ เงินตอบแทนความชอบท่ไี ด้รับราชการ จ่ายใหเ้ ปนรายเดือนจนกว่า
จะถึงแก่กรรม หรือหมดสทิ ธิ มหี ลักเกณฑ์ดังนี้
๑. สิทธิทจ่ี ะได้รับบำ�น�ญ
ตอ้ งมีเวลาราชการตั้งแต่ ๑๐ ปบี ริบรู ณ์ขึ้นไป
ทางราชการให้ออกโดยไมม่ คี วามผิด
ทางราชการใหอ้ อกเพราะครบเกษียณอายุ
ทหารกองหนุนมเี บีย้ หวดั ครบกำาหนดย้ายประเภท
ออกจากราชการเพราะเหตุทพุ พลภาพ
ทางราชการให้ออกเมื่อมีเวลาราชการครบ ๓๐ ปีบริบรู ณ์แลว้
ลาออกจากราชการเมอื่ อายคุ รบ ๕๐ ปบี ริบรู ณ์
ลาออกจากราชการเมื่อมเี วลาราชการครบ ๒๕ ปีบรบิ ูรณ์แลว้
๒. เกณฑค์ ำ�นวณบำ�น�ญ
= เ ง นิ เ ด อื น เ ด ือ น ส ุด ท ้า ย ๕x๐ จำานวนปีเวลาราชการ
บำ�น�ญปกติใหจ้ ำ�กดั จำ�นวนอย�่ งสูงไมเ่ กนิ เงินเดอื นเดือนสุดท�้ ย
๔๘ คมู ือ ขา ราชการทหารท่ีออกจากราชการ
บำ�น�ญพิเศษ หมายถึง เงินที่จ่ายให้แก่ข้าราชการ พลทหาร
กองประจำาการ หรือบุคคลที่ทำาหน้าท่ีทหารตามที่กระทรวงกลาโหม
กำาหนด ซ่ึงได้รับอันตรายจนพิการหรือปวยเจ็บถึงทุพพลภาพจนไม่
สามารถรับราชการต่อไปได้ หรือจ่ายให้แก่ทายาทของบุคคลดังกล่าว
กรณีถึงแก่ความตายเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหน้าท่ี จ่ายให้เปน
รายเดือน มีหลักเกณฑ์ดงั น้ี
๑. บำ�น�ญพเิ ศษแบง่ ออกไดเ้ ป็น ๒ กรณี คอื
กรณที พุ พลภาพ เพราะเหตปุ ฏบิ ตั ริ าชการในหนา้ ท ่ี ผทู้ ท่ี พุ พลภาพเปน ผไู้ ดร้ บั บาำ นาญ
พิเศษ
กรณีถึงแก่ความตาย เพราะเหตุปฏิบตั ิราชการในหน้าที่ ทายาทไดร้ บั บาำ นาญพเิ ศษ
๒. ก�รค�ำ นวณบ�ำ น�ญพเิ ศษ
๒.๑ เงนิ เดอื นเดอื นสดุ ทา้ ย หมายถงึ เงนิ เดือนทีไ่ ดป้ ูนบาำ เหนจ็ พิเศษแล้ว
๒.๒ กรณีทพุ พลภาพ (ไดร้ ับท้ังบำานาญปกติและบาำ นาญพิเศษ)
ยามปกติ ได้รับบำานาญพิเศษอัตราตั้งแต่ห้าจนถึงย่ีสิบในห้าสิบส่วนของเงินเดือน
เดอื นสุดท้าย
ผู้มีหน้าที่ต้องไปราชการหรือปฏิบัติราชการโดยอากาศยานในอากาศ ทำาการโดดร่ม
ดาำ นำ้า กวาดท่นุ ระเบดิ ชดุ ทาำ ลาย ทำาประกอบวตั ถรุ ะเบิด หรือมหี นา้ ทเ่ี ก่ยี วกบั ไอพษิ ได้รบั บำานาญ
พเิ ศษ เปนจำานวนกงึ่ เงนิ เดอื นเดือนสดุ ท้าย
ผู้ที่ทำาหน้าท่ีในระหว่างเวลาที่มีการรบ การสงคราม และปราบปรามการจลาจล หรือ
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้รับบำานาญพิเศษอัตราต้ังแต่สามสิบจนถึงสามสิบห้าในห้าสิบส่วน
ของเงินเดือนเดอื นสุดทา้ ย
๒.๓ กรณถี ึงแกค่ วามตาย
ยามปกต ิ ทายาทไดร้ ับบาำ นาญพิเศษเปน จำานวนก่งึ เงินเดือนเดอื นสุดท้าย
ผู้มีหน้าที่ต้องไปราชการหรือปฏิบัติราชการโดยอากาศยานในอากาศ ทำาการโดดร่ม
ดำานำ้า กวาดทุ่นระเบิด ชุดทำาลาย ทำาประกอบวัตถุระเบิด หรือมีหน้าที่เกี่ยวกับไอพิษ การรบ
การสงคราม ปราบปรามการจลาจลหรือประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทายาทได้รับบำานาญพิเศษ
เปน จำานวนสส่ี บิ ในห้าสบิ ส่วนของเงินเดือนเดือนสดุ ทา้ ยของผตู้ าย
คมู อื ขา ราชการทหารท่ีออกจากราชการ ๔๙
ท�ย�ทผู้มีสทิ ธไิ ดร้ ับบำ�น�ญพเิ ศษ
๑. บิดา มารดา หรอื คนใดคนหนงึ่ ทมี่ ีชีวติ อย ู่ ได้รับ ๑ ส่วน
๒. คู่สมรส ได้รับ ๑ ส่วน
๓. บุตร ๑ ถงึ ๒ ไดร้ ับ ๒ ส่วน บุตร ๓ คนขึน้ ไป ได้รบั ๓ ส่วน
๔. ถ้าไม่มีทายาทในข้อใด หรือทายาทน้ันได้ตายไปก่อนแล้ว ให้แบ่งบำานาญพิเศษระหว่าง
ทายาทท่ีมี
๕. ถ้าไม่มีทายาทตามข้อ ๑ ถึงข้อ ๓ ก็ให้จ่ายแก่ผู้อยู่ในความอุปการะของผู้ตาย หรือ
ผอู้ ุปการะผตู้ ายแลว้ แต่กรณี
เง่ือนไขทจ่ี ะได้รับบ�ำ น�ญพิเศษ
๑. บดิ า มารดา ให้ไดร้ ับจนตลอดชวี ติ
๒. คสู่ มรส ได้รบั จนตลอดชีวติ เว้นแตจ่ ดทะเบยี นสมรสใหม่
๓. บุตร ได้รับจนอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ แต่ถ้ากำาลังศึกษาอยู่ในชั้นเตรียมอุดมศึกษา
ชั้นอดุ มศกึ ษาหรอื ช้ันการศกึ ษาที่เทียบเทา่ ก็ใหไ้ ดร้ ับจนสำาเรจ็ การศึกษา แตอ่ ายุตอ้ งไม่เกนิ ๒๕ ป ี
บำ�เหน็จดำ�รงชีพ หมายถึง เงินที่จ่ายให้แก่ผู้รับบำานาญเพื่อช่วยเหลือการดำารงชีพ
จ่ายเปนเงินกอ้ น โดยไมต่ ้องนาำ ไปรวมคาำ นวณภาษีเงนิ ได้ มหี ลักเกณฑ์ดงั น้ี
๑. จ่ายให้ผู้รับบำานาญปกติ หรือผู้รับบำานาญพิเศษเพราะทุพพลภาพ โดยย่ืนขอพร้อมกับ
การขอรับบาำ นาญ
๒. จ่ายให้ผ้ไู ด้รบั บาำ นาญปกติ และบำานาญพเิ ศษเพราะทพุ พลภาพ รวมบำานาญเขา้ ดว้ ยกนั
เพ่ือคาำ นวณบำาเหน็จดำารงชพี
๓. จ่ายให้ในอัตราสิบห้าเท่าของบำานาญรายเดือนที่ได้รับแต่ไม่เกินส่ีแสนบาท โดยให้มีสิทธิ
ขอรับบาำ เหน็จดาำ รงชีพได้ตามวิธกี ารดงั น้ี
๓.๑ ผู้รับบาำ นาญซงึ่ มีอายตุ ่าำ กวา่ หกสบิ หา้ ปีบรบิ ูรณ์ ให้มสี ิทธขิ อรับบาำ เหน็จดาำ รงชีพได้
ไมเ่ กนิ สองแสนบาท
๓.๒ ผู้รับบำานาญซึ่งมีอายุต้ังแต่หกสิบห้าปีบริบูรณ์ขึ้นไป ให้มีสิทธิขอรับบำาเหน็จ
ดาำ รงชพี ได ้ ไมเ่ กนิ สแ่ี สนบาท แตถ่ า้ ผรู้ บั บาำ นาญนน้ั ไดใ้ ชส้ ทิ ธติ าม ๓.๑ ไปแลว้ ใหข้ อรบั บาำ เหนจ็ ดาำ รงชพี
ไดไ้ มเ่ กินสว่ นท่ียงั ไม่ครบตามสทิ ธิของผนู้ ้นั แต่รวมแลว้ ไม่เกนิ ส่ีแสนบาท
กรณี ผู้รับบำานาญอยู่แล้วยังไม่ได้ยื่นขอรับบำาเหน็จดำารงชีพ ให้ย่ืนขอต่อหน่วยเบิกจ่าย
ที่ตนเองรับบำานาญอยู่
บ�ำ เหนจ็ ตกทอด หมายถงึ เงนิ ทจี่ า่ ยเพอื่ บรรเทาความเดอื ดรอ้ นใหแ้ กท่ ายาทของขา้ ราชการ
หรือทหารกองหนุนมีเบ้ียหวัด หรือผู้รับบำานาญถึงแก่ความตาย จ่ายให้เปนเงินก้อนคร้ังเดียว
แบง่ ออกเปน ๒ ประเภท ดังนี้
๕๐ คมู อื ขา ราชการทหารทอ่ี อกจากราชการ
๑. ขา้ ราชการ หรอื ผรู้ บั เบย้ี หวดั ถงึ แกค่ วามตาย ถา้ ความตายนน้ั ไมไ่ ดเ้ กดิ ขน้ึ จากการประพฤตชิ ว่ั
อย่างร้ายแรงของตนเอง ทายาทจะได้รบั บำาเหน็จตกทอด
= เงินเดือนเดือนสุดท้าย x จำานวนปีเวลาราชการ
๒. ผู้รับบำานาญปกติ หรือบำานาญพิเศษเหตุทุพพลภาพถึงแก่ความตาย ทายาทจะได้รับ
บาำ เหน็จตกทอดเปน เงนิ ๓๐ เท่า ของบาำ นาญ รวมเงินช่วยคา่ ครองชพี ผรู้ บั เบี้ยหวดั บำานาญ
กรณรี บั บำาเหน็จดาำ รงชีพไปแลว้ ทายาทจะได้รบั บาำ เหนจ็ ตกทอดหกั ด้วยบาำ เหน็จดำารงชพี
ท�ย�ทผมู้ ีสทิ ธิรบั บ�ำ เหน็จตกทอด
๑. บุตร ๑ ถึง ๒ คน ใหไ้ ดร้ บั ๒ ส่วน ๓ คนข้นึ ไป ไดร้ ับ ๓ สว่ น
๒. คู่สมรส ได้รับ ๑ ส่วน
๓. บดิ า มารดา หรอื คนใดคนหนึ่งทมี่ ีชีวติ อยู่ ได้รับ ๑ สว่ น
๔. ถา้ ไม่มที ายาทในขอ้ ใด หรอื ทายาทนั้นได้ตายไปก่อนแล้ว ใหจ้ ่ายแก่บคุ คลซงึ่ ผู้ตายแสดง
เจตนาระบุไว้ต่อส่วนราชการต้นสังกัดถ้าไม่มีทายาท และผู้ตายไม่ได้แสดงเจตนาระบุไว้ให้สิทธิ
ในบาำ เหน็จตกทอดนัน้ เปนอนั ยตุ ิ
พ.ร.บ. บำ�เหน็จบำ�น�ญข้�ร�ชก�ร (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ.๒๕๕๑ มีผลใช้บังคับตั้งแต่
๑ ก.พ.๕๑ เป็นต้นไป
ผู้ที่ได้รับบำานาญพิเศษเหตุทุพพลภาพรวมกับบำานาญปกติถ้ามีจำานวนเงินรวมกันไม่ถึง
เดือนละหน่ึงหม่ืนห้าพันบาท ให้ได้รับบำานาญพิเศษข้ึนอีกจนครบหนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน และ
บรรดาผู้มีสิทธิจะได้รับ จะย่ืนขอเปลี่ยนเปนการรับบำาเหน็จพิเศษแทนได้ เปนจำานวนเงินเท่ากับ
บาำ นาญพิเศษหกสบิ เดอื น
พ.ร.บ. บำ�เหน็จบำ�น�ญข้�ร�ชก�ร (ฉบับท่ี ๒๖) พ.ศ.๒๕๕๓ มีผลใช้บังคับตั้งแต่
๑ ม.ค.๕๔ เป็นต้นไป
ผรู้ บั บาำ นาญปกตหิ รอื ผรู้ บั บาำ นาญพเิ ศษเพราะเหตทุ พุ พลภาพอาจนาำ สทิ ธใิ นบาำ เหนจ็ ตกทอดไป
เปนหลกั ทรพั ย์ในการประกนั การกูเ้ งินกับสถาบันการเงิน ท้งั น้ ี ตามหลกั เกณฑ ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไข
ท่ีกำาหนดในกฎกระทรวง
กรณีผู้รับบำานาญปกติหรือผู้รับบำานาญพิเศษเหตุทุพพลภาพ ได้รับบำาเหน็จดำารงชีพไปแล้ว
หากประสงค์จะนำาสิทธิในบำาเหน็จตกทอดไปเปนหลักทรัพย์ในการประกันการกู้เงินกับสถาบัน
การเงินให้หักบาำ เหน็จดำารงชีพออกจากสทิ ธิในบาำ เหน็จตกทอดเสยี กอ่ น
คูม ือ ขาราชการทหารท่อี อกจากราชการ ๕๑
๓. พระร�ชบัญญัติกองทุนบำ�เหน็จบำ�น�ญข้�ร�ชก�ร พ.ศ.๒๕๓๙
และทแ่ี กไ้ ขเพ่ิมเติม
ข�้ ร�ชก�ร หมายถงึ
ข้าราชการพลเรอื น
ข้าราชการฝา ยตุลาการ
ขา้ ราชการฝายอัยการ
ข้าราชการพลเรือนในมหาวทิ ยาลัย
ข้าราชการครู
ข้าราชการรฐั สภาสามญั
ข้าราชการตำารวจ
ข้าราชการทหาร
ขา้ ราชการสำานกั งานศาลรฐั ธรรมนญู
ขา้ ราชการตลุ าการศาลปกครอง
ขา้ ราชการสาำ นักงานตรวจเงินแผ่นดนิ
ขา้ ราชการสำานกั งานการปองกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ
สม�ชิกและก�รเข�้ เปน็ สม�ชกิ
เขา้ รับราชการหรอื โอนมาเปนขา้ ราชการตัง้ แต ่ ๒๗ มนี าคม ๒๕๔๐ ต้องเปน สมาชกิ
ข้าราชการซ่งึ รับราชการอยูก่ อ่ น ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ จะสมคั รเปน สมาชกิ หรือไมก่ ไ็ ด้
ข้าราชการซ่ึงออกจากราชการเพ่ือปฏิบัติงานตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำาหนด
หลกั เกณฑก์ ารสง่ั ใหข้ า้ ราชการไปทาำ การ ซงึ่ ใหน้ บั เวลาระหวา่ งนน้ั เหมอื นเตม็ เวลาราชการ และกลบั
เข้ารบั ราชการกอ่ น ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ จะสมคั รเปน สมาชกิ หรือไม่กไ็ ด้
สิทธปิ ระโยชน์
๑. สมาชกิ จ่ายเงินสะสมเขา้ กองทุน ๓% ของเงนิ เดือน รฐั จะจา่ ยสมทบอีก ๓%
๒. รัฐจ่ายเงนิ ประเดมิ ให้
= ๒๕ x เงินเดอื น (๑.๐๙) เวลาราชการ - (๑.๐๘) เวลาราชการ
(๑.๐๘) เวลาราชการ - ๑
๓. รฐั จ่ายเงนิ ชดเชยให ้ ๒%
๕๒ คูม อื ขา ราชการทหารที่ออกจากราชการ
๔. สมาชิกจะได้ดอกผลจากกองทุน
๕. สมาชิกมีสิทธิกู้เงินจากกองทุนได้ไม่เกินจำานวนเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์
ตอบแทน
หม�ยเหต ุ : เงนิ เดอื นไมร่ วมถงึ เงนิ เพมิ่ พเิ ศษรายเดอื นคา่ วชิ า เงนิ เพมิ่ พเิ ศษรายเดอื น สาำ หรบั
นักโดดรม่ ประจาำ กอง เงินเพมิ่ พิเศษรายเดือนสำาหรบั นกั บินประจาำ กอง
เงินประเดิมจา่ ยใหต้ ั้งแตว่ ันท่เี ขา้ รับราชการจนถึงวันสมคั รเขา้ เปนสมาชิก
เงนิ ชดเชย จ่ายให้ตงั้ แต่วันเปนสมาชิกจนถงึ วนั ออกจากราชการ
บ�ำ เหนจ็ จ�่ ยให้เป็นเงนิ กอ้ นครงั้ เดียว
๑. สทิ ธทิ ่จี ะได้รับบาำ เหน็จ
๑.๑ มเี วลาราชการต้งั แต่ ๑ ปบี รบิ ูรณ์ขึน้ ไป แต่ไม่ถงึ ๑๐ ปบี ริบูรณ์
ออกจากราชการเพราะเหตทุ ุพพลภาพ
ออกจากราชการเพราะเลกิ หรอื ยบุ ตำาแหนง่
ออกจากราชการโดยไม่มคี วามผิด
ทหารซึ่งออกจากกองหนนุ มีเบี้ยหวัด
ออกจากราชการ เมอ่ื มีอายคุ รบ ๖๐ ปีบริบรู ณ์
ลาออกจากราชการ เมอ่ื มอี ายคุ รบ ๕๐ ปีบรบิ รู ณ์
๑.๒ ออกโดยมเี วลาราชการครบ ๑๐ ปีบริบรู ณ ์ แตไ่ มถ่ ึง ๒๕ ปบี รบิ รู ณ์
๑.๓ มสี ทิ ธิรบั บำานาญ แต่ขอรับบำาเหน็จแทนบาำ นาญ
๒. เกณฑ์คำานวณบาำ เหน็จ
= อัตราเงินเดอื นเดือนสุดท้าย x เวลาราชการ
บ�ำ น�ญ จ่�ยใหเ้ ปน็ ร�ยเดือน
๑. สิทธทิ ่ีจะได้รบั บาำ นาญ
๑.๑ มีเวลาราชการตงั้ แต ่ ๑๐ ปบี ริบรู ณ์ข้นึ ไป
ออกจากราชการเพราะเหตุทพุ พลภาพ
ออกจากราชการเพราะเลิกหรอื ยบุ ตาำ แหนง่
ออกจากราชการโดยไมม่ ีความผิด
ทหารซงึ่ ออกจากกองหนุนมีเบ้ยี หวัด
ออกจากราชการ เมื่อมอี ายุครบ ๖๐ ปบี ริบรู ณ์
ลาออกจากราชการ เมอื่ มอี ายุครบ ๕๐ ปบี ริบรู ณ ์
คูม ือ ขา ราชการทหารท่อี อกจากราชการ ๕๓
๑.๒ ออกจากราชการโดยมเี วลาราชการตั้งแต ่ ๒๕ ปีบรบิ รู ณ์ข้นึ ไป
๑.๓ ผู้ท่ีเข้ารับราชการ หรือผู้ที่โอนมาเปนข้าราชการตามพระราชบัญญัตินี้ ต้ังแต่
๒๗ มนี าคม ๒๕๔๐ มีสทิ ธไิ ดร้ ับบาำ นาญ เงินชดเชย และดอกผลของเงินดงั กลา่ ว เวน้ แต่จะเลอื กรับ
บำาเหนจ็
๑.๔ ผู้ท่ีเข้ารับราชการก่อน หรือผู้ซึ่งออกจากราชการเพ่ือไปปฏิบัติงานตามพระราช
กฤษฎกี า ว่าดว้ ยการกาำ หนดหลกั เกณฑก์ ารส่ังใหข้ ้าราชการไปทำาการ และกลับเขา้ รบั ราชการกอ่ น
๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ ท่ีเปนสมาชิก มีสิทธิได้รับบำานาญ เงินประเดิม เงินชดเชย ดอกผลของเงิน
ดังกล่าว เว้นแต่จะเลอื กรบั บำาเหนจ็
๒. เกณฑ์ค�ำ นวณบ�ำ น�ญ
= อตั ราเงนิ เดอื นเฉลย่ี ๖๐ เดอื นสดุ ท้าย x เวลาราชการ
๕๐
(แต่ตอ้ งไม่เกิน ๗๐% ของเงินเดือนเฉลี่ย ๖๐ เดือนสดุ ทา้ ย)
ก�รจ่�ยเงิน
๑. บำาเหน็จ บำานาญ บาำ เหนจ็ ดาำ รงชพี บำาเหนจ็ ตกทอด จ่ายจากเงินงบประมาณ
๒. เงนิ สะสม เงนิ สมทบ เงนิ ประเดมิ เงนิ ชดเชย และผลประโยชนต์ อบแทน จา่ ยจากเงนิ กองทนุ
๓. ผ้รู บั บำาเหนจ็ จะไม่ไดร้ ับเงินประเดมิ และเงินชดเชย
บ�ำ เหนจ็ ด�ำ รงชีพ หมายถึง เงินทจี่ า่ ยใหแ้ ก่ผรู้ บั บำานาญเพอื่ ชว่ ยเหลอื การดาำ รงชพี จา่ ยเปน
เงินก้อน โดยไมต่ อ้ งนำาไปรวมคาำ นวณภาษเี งนิ ได้ มหี ลกั เกณฑ์ดังนี้
๑. จ่ายให้กับผู้รับบำานาญปกติหรือผู้รับบำานาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพ โดยยื่นขอ
พรอ้ มกบั การขอรับบาำ นาญ
๒. จา่ ยให้ผูไ้ ด้รบั บาำ นาญปกตแิ ละบาำ นาญพเิ ศษเพราะเหตทุ พุ พลภาพ รวมบาำ นาญเขา้ ด้วยกนั
เพื่อคาำ นวณบาำ เหน็จดาำ รงชพี
๓. จ่ายใหใ้ นอัตรา ๑๕ เทา่ ของบาำ นาญรายเดอื นท่ีไดร้ บั แต่ไม่เกนิ ๔๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้
มสี ิทธิขอรบั บาำ เหน็จดำารงชพี ไดต้ ามวธิ ีการดงั น้ี
๓.๑ ผู้รับบำานาญซึ่งมีอายุตำ่ากว่า ๖๕ ปีบริบูรณ์ ให้มีสิทธิขอรับบำาเหน็จดำารงชีพได้
ไมเ่ กิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
๓.๒ ผู้รับบำานาญซ่ึงมีอายุต้ังแต่ ๖๕ ปีบริบูรณ์ข้ึนไป ให้มีสิทธิขอรับบำาเหน็จดำารงชีพ
ไดไ้ มเ่ กนิ ๔๐๐,๐๐๐ บาท แตถ่ า้ ผรู้ บั บาำ นาญนน้ั ไดใ้ ชส้ ทิ ธติ าม ๓.๑ ไปแลว้ ใหข้ อรบั บาำ เหนจ็ ดาำ รงชพี
ได้ไมเ่ กินสว่ นท่ยี งั ไมค่ รบตามสทิ ธิของผู้นัน้ แตร่ วมแล้วไม่เกนิ ๔๐๐,๐๐๐ บาท
๕๔ คูมอื ขา ราชการทหารท่ีออกจากราชการ
บ�ำ เหน็จตกทอด (จ่ายเปน เงนิ กอ้ นครั้งเดียว)
๑. สมาชิกถงึ แก่กรรม ทายาทจะไดร้ บั บำาเหน็จตกทอด
= เงนิ เดือนเดอื นสดุ ท้าย x จาำ นวนปเี วลาราชการ
๒. ผู้รับบำานาญถึงแก่กรรม ทายาทจะได้รับบำาเหน็จตกทอดเปนเงิน ๓๐ เท่า ของบำานาญ
รวมเงินช่วยคา่ ครองชีพผ้รู บั เบี้ยหวดั บำานาญ
กรณรี บั บาำ เหน็จดำารงชีพไปแล้ว ทายาทจะไดร้ ับบำาเหน็จตกทอดหักดว้ ยบำาเหนจ็ ดาำ รงชพี
ท�ย�ทผู้มสี ทิ ธไิ ดร้ ับบ�ำ เหนจ็ ตกทอด
๑. บตุ ร ๑ ถงึ ๒ คน ให้ได้รับ ๒ สว่ น ๓ คนขึ้นไป ไดร้ บั ๓ ส่วน
๒. ค่สู มรส ไดร้ บั ๑ ส่วน
๓. บิดา มารดา หรอื คนใดคนหน่งึ ทม่ี ีชวี ติ อยู่ ไดร้ ับ ๑ สว่ น
๔. ถ้าไม่มีทายาทในข้อใด หรือทายาทนั้นได้ตายไปก่อนแล้ว ให้จ่ายแก่บุคคลซึ่งผู้ตาย
แสดงเจตนาระบุไว้ต่อส่วนราชการต้นสังกัดถ้าไม่มีทายาท และผู้ตายไม่ได้แสดงเจตนาระบุไว้
ให้สทิ ธิในบาำ เหนจ็ ตกทอดนั้น เปนอันยตุ ิ
สทิ ธิของผ้รู บั เบยี้ หวัดที่เป็นสม�ชกิ กองทนุ บ�ำ เหน็จบ�ำ น�ญข้�ร�ชก�ร
ตามหนงั สือกระทรวงการคลัง ท ี่ กค ๐๕๒๖.๒/ว. ๑๒ ลงวันท่ี ๒๒ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๔๒ เรอ่ื ง
สิทธิของข้าราชการทหารที่เปนสมาชิกกองทุนบำาเหน็จบำานาญข้าราชการ กรณีออกรับเบ้ียหวัด
กำาหนดดงั น้ี
ในวันที่ทหารที่ออกจากราชการเปนทหารกองหนุนมีเบ้ียหวัดตามข้อบังคับ กห. ว่าด้วยเงิน
เบยี้ หวดั พ.ศ.๒๔๙๕ ถอื วา่ พน้ จากราชการแลว้ ยอ่ มพน้ จากสมาชกิ กองทนุ บาำ เหนจ็ บาำ นาญขา้ ราชการ
ใหม้ สี ทิ ธไิ ดร้ บั เงนิ สะสม เงนิ สมทบ และผลประโยชนต์ อบแทนของเงนิ ดงั กลา่ วทนั ท ี สาำ หรบั เงนิ ประเดมิ
เงนิ ชดเชย และผลประโยชนต์ อบแทนใหม้ ีสิทธิรับเมอ่ื ย้ายประเภท และเลอื กรับบำานาญ
๔. ท�ย�ททีไ่ ม่มีสิทธิรบั บ�ำ เหนจ็ ตกทอด
ทายาทไมม่ สี ทิ ธริ บั บาำ เหนจ็ ตกทอด เกดิ จากการกระทาำ ของขา้ ราชการทหาร หรอื ผรู้ บั เบย้ี หวดั
บาำ นาญ หรอื เกดิ จากการกระทำาของทายาทเอง ดงั น้ี
๑. ขา้ ราชการทหารตายระหวา่ งรับราชการ หรือผรู้ บั เบ้ยี หวดั บำานาญตาย ถา้ ความตายนนั้
เกิดจากการประพฤติช่ัวอย่างร้ายแรงของตนเอง ทายาทไมม่ สี ทิ ธิรบั บำาเหนจ็ ตกทอด
๒. ข้าราชการทหารต้องหาว่ากระทำาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ถึงแก่ความตายก่อนได้รับ
คูมือ ขาราชการทหารทีอ่ อกจากราชการ ๕๕
วินิจฉัยเร่ืองที่กระทำาผิดนั้น ให้กระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาวินิจฉัยว่า ถ้าผู้น้ันไม่ถึงแก่ความตาย
เสยี ก่อนจะตอ้ งได้รับโทษ ถงึ ไลอ่ อกหรอื ไม ่ ถา้ เห็นวา่ ผู้นัน้ จะตอ้ งถูกลงโทษถงึ ไลอ่ อก ทายาทไม่มสี ทิ ธิ
รบั บาำ เหน็จตกทอด
๓. ผู้รับบาำ นาญปกต ิ บำานาญพเิ ศษเหตทุ ุพพลภาพ หรือทหารกองหนุนมเี บยี้ หวัด ได้กระทำา
ความผิดอาญา ซ่ึงไม่ใช่ความผิดในลักษณะฐานลหุโทษ หรือความผิดอันได้กระทำาโดยประมาท
หรือถูกฟองว่าเปนบุคคลล้มละลาย ถ้าถึงแก่ความตายก่อนมีคดีหรือก่อนคดีถึงที่สุด ให้กระทรวง
เจ้าสังกัดท่ีผู้นั้นเคยสังกัดอยู่พิจารณาวินิจฉัยว่า ผู้นั้นได้กระทำาความผิดจริงหรือไม่ ถ้าเห็นว่าผู้น้ัน
ได้กระทำาความผิดซึ่งกฎหมายกำาหนดโทษจำาคุกอย่างสูงไว้เกินกว่าหนึ่งปีแล้ว ทายาทไม่มีสิทธิ
รบั บาำ เหนจ็ ตกทอด
๔. ทายาทหรอื บคุ คลซง่ึ ผรู้ บั บาำ นาญแสดงเจตนาไว ้ เสยี สทิ ธริ บั บาำ เหนจ็ ตกทอด กรณดี งั ตอ่ ไปน้ี
๔.๑ เปน ผ้ตู ้องคำาพิพากษาถึงทส่ี ุดวา่ ได้เจตนากระทาำ หรอื พยายามกระทำาให้เจ้าบาำ นาญ
ถงึ แกค่ วามตายโดยมชิ อบดว้ ยกฎหมาย
๔.๒ เปน ผตู้ อ้ งคาำ พพิ ากษาถงึ ทสี่ ดุ วา่ ไดเ้ จตนากระทาำ หรอื พยายามกระทาำ ใหท้ ายาทดว้ ยกนั
ถึงแกค่ วามตายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
๔.๓ เปนผู้ที่ได้ฟองเจ้าบำานาญ หาว่ากระทำาความผิดโดยมีระวางโทษถึงประหารชีวิต
และตนเองกลับตอ้ งคาำ พิพากษาถงึ ท่สี ดุ ว่า มคี วามผิดฐานฟอ งเทจ็ หรอื ทาำ พยานเท็จ
๕. พระร�ชกฤษฎีก�ก�รจ่�ยเงนิ เดือน เงินป บ�ำ เหน็จ บำ�น�ญ และเงนิ อนื่
ในลักษณะเดียวกัน พ.ศ.๒๕๓๕
เงินช่วยพิเศษ คอื เงินจาำ นวนหนง่ึ ทที่ างราชการจ่ายใหแ้ ก่บุคคลทขี่ า้ ราชการ ผรู้ ับเบยี้ หวดั
บาำ นาญ ที่เสียชวี ติ ไดแ้ สดงเจตนาระบชุ อ่ื ตัวผู้รบั เงนิ ชว่ ยพิเศษไว ้ หรอื จา่ ยใหแ้ ก่ทายาท กรณีไมไ่ ด้
แสดงเจตนาไว้ เพื่อจัดการงานศพของข้าราชการทหาร ผู้รับเบ้ียหวัดบำานาญ ซึ่งเสียชีวิตและไม่ได้
เกดิ จากการประพฤตชิ วั่ อยา่ งรา้ ยแรงของตนเอง
หลกั เกณฑ์ก�รจ�่ ย
ข้าราชการทหารเสียชวี ิต จ่ายเงินชว่ ยพเิ ศษ ๓ เทา่ ของเงนิ เดือน รวมเงนิ เพ่ิมต่าง ๆ
ผรู้ ับเบยี้ หวัดเสียชีวิต จา่ ยเงนิ ชว่ ยพเิ ศษเท่ากับเบีย้ หวัด ๓ เดือน รวมเงนิ ชว่ ยค่าครองชพี
ผ้รู ับบำานาญเสียชวี ติ จา่ ยเงนิ ช่วยพิเศษเทา่ กบั บำานาญ ๓ เดือน รวมเงินชว่ ยค่าครองชพี
๕๖ คมู ือ ขาราชการทหารที่ออกจากราชการ
ผมู้ สี ิทธไิ ดร้ บั เงินชว่ ยพิเศษ
บคุ คลท่ีขา้ ราชการทหาร ผูร้ บั เบ้ียหวัดบำานาญ ได้แสดงเจตนาระบุตวั ไวเ้ ปนหนงั สือ ตามแบบ
ท่ีกระทรวงการคลงั กำาหนดไวก้ อ่ นตายใหเ้ ปน ผู้รบั เงินชว่ ยพิเศษ
บคุ คลทข่ี า้ ราชการทหาร ผรู้ บั เบยี้ หวดั บาำ นาญ ไดแ้ สดงเจตนาระบตุ วั ไวเ้ ปน หนงั สอื ไดต้ ายไป
ก่อนขา้ ราชการทหาร ผรู้ ับเบีย้ หวัดบาำ นาญหรอื ไมไ่ ดท้ าำ หนังสือแสดงเจตนาไว ้ ให้จา่ ยแก่บคุ คลตาม
ลำาดับ ดังน้ี
๑. คสู่ มรส - กรณ ี ยน่ื ขอรบั เงนิ ชว่ ยพเิ ศษ และกระทรวงการคลงั โอนเงินให้หน่วยเบิกจ่ายแลว้
เสียชวี ิตกอ่ นไดร้ ับเงนิ ใหจ้ า่ ยเงินชว่ ยพเิ ศษแก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
- กรณ ี ย่ืนขอรบั เงินช่วยพิเศษแลว้ เสยี ชวี ติ กอ่ นท่กี ระทรวงการคลังจะโอนเงนิ
ให้หนว่ ยเบกิ จา่ ย ให้จา่ ยเงนิ ชว่ ยพเิ ศษแกบ่ ุคคลลาำ ดับตอ่ ไป
๒. บุตร
๓. บดิ า - มารดา
ถ้าบุคคลในลำาดับกอ่ นยังมชี ีวิตอย ู่ บุคคลในลำาดบั ถดั ไปไม่มสี ทิ ธไิ ดร้ บั เงนิ ช่วยพเิ ศษ ถา้ บุคคล
ผู้มีสิทธใิ นลำาดับเดียวกันมีหลายคน สามารถมอบหมายใหบ้ คุ คลหนง่ึ บคุ คลใดมารับเพยี งคนเดียวได้
ระยะเวล�ก�รขอรับเงนิ ช่วยพเิ ศษ
การขอรบั เงนิ ชว่ ยพเิ ศษ ใหผ้ มู้ สี ทิ ธยิ นื่ ขอรบั เงนิ (ตามแบบ) ภายใน ๑ ป ี นบั แตว่ นั ทขี่ า้ ราชการ
ทหาร ผรู้ บั เบ้ยี หวดั บำานาญเสยี ชีวติ
วิธกี �รรับและเอกส�รประกอบ
ข้นั ตอนการขอรบั เงนิ ช่วยพเิ ศษ มดี งั นี้
๑. ใหผ้ ูม้ ีสิทธยิ ื่นต่อส่วนราชการต้นสังกดั ของผเู้ สยี ชีวิต
๒. กรอกแบบการขอรบั เงินชว่ ยพเิ ศษพร้อมแนบหลกั ฐาน
การเสียชวี ติ (สาำ เนาใบมรณบตั ร)
๖. ก�รท�ำ หนังสือแสดงเจตน�ระบุตวั ผู้รับบ�ำ เหนจ็ ตกทอด
กระทรวงการคลังได้ออกประกาศ เร่ืองการแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำาเหน็จตกทอดเพ่ือให้
ขา้ ราชการ หรอื ผรู้ บั เบยี้ หวดั บาำ นาญซง่ึ ไมม่ ที ายาทผมู้ สี ทิ ธไิ ดร้ บั บาำ เหนจ็ ตกทอดไดแ้ สดงเจตนาระบุ
ตวั ผรู้ บั บาำ เหนจ็ ตกทอด โดยทาำ เปน หนงั สอื ยน่ื ไวต้ อ่ สว่ นราชการเจา้ สงั กดั หรอื หนว่ ยเบกิ จา่ ยเงนิ เบยี้
หวดั บำานาญตามแบบและวธิ ีการดงั นี้
คมู ือ ขา ราชการทหารท่ีออกจากราชการ ๕๗
๑. ให้ข้าราชการ หรือผู้รับเบี้ยหวัดบำานาญแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำาเหน็จตกทอด
โดยทำาเปนหนังสือตามแบบท่ีกระทรวงการคลังกำาหนด จำานวน ๒ ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน
เก็บไว้ที่ผู้แสดงเจตนา ๑ ฉบับ อีกฉบับหน่ึงส่งเก็บไว้ที่สมุดหรือแฟมประวัติของข้าราชการสำาหรับ
ผรู้ ับเบี้ยหวัดบาำ นาญ ใหเ้ กบ็ ไว้ท่หี นว่ ยเบกิ เบ้ียหวัดบาำ นาญท่ตี นเองขอรบั เงนิ ๑ ฉบบั
๒. เมื่อได้แสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำาเหน็จตกทอดแล้ว จะมีผลนับแต่วันที่ได้ย่ืนหนังสือ
แสดงเจตนาฯ ต่อส่วนราชการเจา้ สงั กดั หรือหนว่ ยเบิกเบย้ี หวดั บำานาญ
๓. การแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำาเหน็จตกทอด สามารถแสดงเจตนาระบุตัวผู้มีสิทธิได้รับ
บำาเหน็จตกทอดได้ หากกรณีที่ได้แสดงเจตนาฯ ผู้มีสิทธิไว้เกินกว่าหน่ึงคนให้กำาหนดส่วนผู้มีสิทธิ
ทกุ คนไวใ้ หช้ ดั เจน ถ้าไมไ่ ดก้ ำาหนดส่วนไว้ให้ถอื วา่ ทกุ คนมีสิทธไิ ดร้ ับในอัตราส่วนที่เท่ากัน
๔. เมอื่ มกี ารโอนเบย้ี หวดั บาำ นาญไปเบกิ จา่ ยหนว่ ยใด หนว่ ยเบกิ เบยี้ หวดั บาำ นาญจะสง่ หนงั สอื
แสดงเจตนาฯ ดังกล่าวไปพร้อมกับหนังสือสำาคัญการโอน โดยหน่วยเบิกเบ้ียหวัดบำานาญแห่งใหม่
เกบ็ ไว้ เพ่ือให้ผมู้ สี ทิ ธิติดต่อขอรับหนงั สือแสดงเจตนาฯ เมอื่ ผู้แสดงเจตนาฯ เสยี ชีวติ แล้ว
๕. ขา้ ราชการ หรือผ้รู ับเบ้ียหวัดบำานาญประสงค์จะเปลย่ี นแปลงผูม้ สี ทิ ธริ ับบำาเหน็จตกทอด
ตามหนงั สอื แสดงเจตนาฯ ใหท้ าำ หนงั สอื แสดงเจตนาระบตุ วั ผรู้ บั บาำ เหนจ็ ตกทอดฉบบั ใหม ่ แลว้ นาำ ไป
ยนื่ ตอ่ สว่ นราชการเจา้ สงั กดั หรอื หนว่ ยเบกิ เบย้ี หวดั บาำ นาญ และใหบ้ นั ทกึ การเปลย่ี นแปลงขอยกเลกิ
ลงในหนงั สอื แสดงเจตนาฯ ฉบบั เดมิ
๖. การขูดลบ ขีดฆ่า หรือการแกไ้ ขเปลย่ี นอย่างอนื่ ในหนังสือแสดงเจตนาฯ ใหล้ งลายมอื ช่อื
กาำ กับไวด้ ้วย
๗. ก�รทำ�หนังสือแสดงเจตน�ระบตุ วั ผูร้ บั เงินชว่ ยพิเศษ
ข้าราชการ หรือผู้รบั เบย้ี หวัดบาำ นาญ ประสงค์จะทำาหนงั สือแสดงเจตนาระบตุ วั ผรู้ ับเงินช่วย
พเิ ศษ ใหจ้ ดั ทาำ ตามแบบทกี่ ระทรวงการคลงั กาำ หนด
๑. ให้มอบหนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับเงินช่วยพิเศษไว้ ณ ส่วนราชการท่ีตนสังกัด
ถา้ เปน ผรู้ บั เบยี้ หวดั บาำ นาญสงั กดั จะระบไุ วใ้ นคาำ สงั่ ใหอ้ อกจากราชการ เพอ่ื เกบ็ ไวใ้ นสมดุ ประวตั ิ หรอื
แฟม ประวตั ิ เมอ่ื มกี ารโอนยา้ ยกใ็ หส้ ง่ หนงั สอื ดงั กลา่ วตามไปดว้ ยและใหม้ กี ารบนั ทกึ การแสดงเจตนา
ไวใ้ นสมุด หรอื แฟม ประวตั ิ
๕๘ คมู อื ขา ราชการทหารท่อี อกจากราชการ
๒. ใหร้ ะบชุ อื่ ผ้รู ับเงนิ ช่วยพิเศษแต่เพยี งรายเดียว หากจะเปลย่ี นแปลงตวั ผรู้ ับเงนิ ช่วยพเิ ศษ
ในภายหลัง ให้ทำาหนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับเงินช่วยพิเศษฉบับใหม่แทนฉบับเดิม ตามแบบท่ี
กระทรวงการคลงั กำาหนด และใหแ้ นบฉบบั เดมิ ไว้ด้วย
๓. การขูดลบ ตก เติม หรือการแก้ไขเปล่ียนแปลงอย่างอื่นในหนังสือแสดงเจตนาระบุตัว
ผู้รบั เงินชว่ ยพิเศษ ใหล้ งลายมอื ช่ือกาำ กบั ไว้
๘. พระร�ชกฤษฎกี �เงนิ ช่วยค�่ ครองชพี ผรู้ บั เบี้ยหวดั บ�ำ น�ญ พ.ศ.๒๕๒๑
และทแ่ี กไ้ ขเพ่ิมเตมิ
เงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำานาญ หรือ ช.ค.บ. คือ เงินที่ผู้มีสิทธิรับเบ้ียหวัดบำานาญ
บำานาญพิเศษ รวมถึงทายาท ผู้อุปการะ ผู้อยู่ในอุปการะ ท่ีจะได้รับโดยจะจ่ายเพิ่มตามจำานวน
และอัตราท่กี ฎหมายกาำ หนดไว ้ เพ่ือช่วยเหลอื ค่าครองชพี ท่สี ูงขึน้ แกผ่ ู้รบั เบย้ี หวัดบำานาญ
มาตรา ๕ บญั ญัตวิ า่ ผูไ้ ดร้ บั หรอื มสี ิทธิไดร้ ับเบย้ี หวดั หรือบำานาญไมม่ สี ิทธไิ ด้รับ ช.ค.บ. ตาม
มาตรา ๓ หรอื มาตรา ๔ ถา้ เขา้ รบั ราชการหรอื กลบั เขา้ รบั ราชการหรอื เขา้ ทาำ งานหรอื กลบั เขา้ ทาำ งาน
สงั กัดราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมภิ าคหรือราชการสว่ นทอ้ งถ่ิน
คมู อื ขา ราชการทหารท่อี อกจากราชการ ๕๙
ส่วนร�ชก�รและหม�ยเลขโทรศพั ท์เพื่อตดิ ตอ่ ร�ชก�ร
ส่วนราชการ หมายเลขโทรศพั ท,์ โทรสาร
กบน.กง.กห. ๐ ๒๕๐๑ ๖๘๕๑
อาคารบรกิ าร สป.(ศรสี มาน) ชัน้ ๒ ๐ ๒๕๐๑ ๖๘๖๕
๐ ๒๕๐๑ ๖๖๖๐ ตอ่
๕๑๓๖, ๕๑๓๗, ๕๑๘๔
กบน.กง.กห. ศาลาว่าการกลาโหม ๐ ๒๒๒๑ ๖๘๑๑
* แผนกเงนิ สวสั ดกิ าร ฯ
กองบรกิ ารกาำ ลังพล กรมเสมยี นตรา ๐ ๒๒๒๑ ๓๘๔๖
กองรกั ษาความปลอดภัย ๐ ๒๒๒๑ ๑๘๕๕
สาำ นกั นโยบายและแผนกลาโหม ๐ ๒๒๙๗ ๘๑๐๑
กรมสารบรรณทหารบก (สบ.ทบ.) ๐ ๒๒๙๗ ๗๕๑๙
* กองประวตั แิ ละบาำ เหน็จบำานาญ ๐ ๒๒๙๗ ๗๕๑๐
๐ ๒๒๙๗ ๗๕๘๘
มทบ.๑๑ ๐ ๒๒๔๑ ๕๑๔๓
กง.ทบ. ๐ ๒๒๙๗ ๘๒๙๔ - ๙๗
กพ.ทร. (ศนู ยบ์ ริการแบบเบ็ดเสร็จขา้ ราชการ ๐ ๒๔๗๕ ๔๖๙๖
กองทัพเรอื นอกประจำาการ)
กง.ทร. (แผนกเบ้ียหวัดและบาำ นาญ) ๐ ๒๔๗๕ ๔๕๖๓
กง.ทอ. ๐ ๒๕๓๔ ๒๑๒๙ - ๓๔
กพ.ทอ.(ศนู ยบ์ รกิ ารกำาลังพลแบบเบ็ดเสร็จ) ๐ ๒๕๓๔ ๕๔๖๓ (กาำ ลงั พล)
๐ ๒๕๓๔ ๒๑๓๔ (การเงนิ )
๖๐ คูมอื ขาราชการทหารทีอ่ อกจากราชการ
ส่วนร�ชก�รและหม�ยเลขโทรศัพทเ์ พอ่ื ตดิ ตอ่ ร�ชก�ร
สว่ นราชการ หมายเลขโทรศพั ท์, โทรสาร
บก.ทหาร (ศนู ยบ์ รกิ ารแบบเบ็ดเสรจ็ ) ๐ ๒๕๗๒ ๑๖๑๔
กง.บก.ทหาร ๐ ๒๕๗๕ ๖๓๖๕
สมาคมฌาปนกจิ สงเคราะห์ ๐ ๒๔๙๖ ๑๑๙๙
สมาชิกสหกรณอ์ อมทรพั ยท์ หาร (สสอท.) ๐ ๒๔๙๖ ๑๑๗๗
เลขท่ ี ๑๙๙ หมู่ ๒ ถนนนครอนิ ทร์ ๐ ๒๔๙๖ ๑๑๘๘
ตาำ บลบางสที อง อำาเภอบางกรวย ๐ ๒๒๒๒ ๗๒๐๔
จังหวัดนนทบรุ ี ๑๑๑๓๐ ๐ ๒๒๒๑ ๑๒๗๕
สหกรณ์ออมทรัพย ์ สป. จำากัด
สาำ นกั อาลักษณแ์ ละเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๐๐ ต่อ
๔๒๖, ๔๒๗
๐ ๒๒๘๐ ๙๐๒๑
ศูนย์ประสานงานนายทหารนอกประจาำ การ โทรสาร ๐ ๒๒๒๒ ๒๑๙๙
กรมเสมยี นตรา
จดั ทำ�และเผยแพร่โดย
กองเบย้ี หวดั บ�ำ เหน็จบำ�น�ญ กรมก�รเงนิ กล�โหม
อ�ค�รบรกิ �ร สำ�นักง�นปลัดกระทรวงกล�โหม (ศรสี ม�น)
เลขที่ ๑๒๗ ต�ำ บลบ�้ นใหม่ อำ�เภอป�กเกรด็
จงั หวดั นนทบุรี ๑๑๑๒๐
ใบแทรก ค่มู อื ขา้ ราชการทอี่ อกจากราชการ
หนา้ ๔๙ บาเหน็จดารงชพี
ยกเลกิ ข้อความ ขอ้ ๓. และใช้ข้อความต่อไปนแี้ ทน
ข้อ ๓. จ่ายให้ในอัตราสิบห้าเท่าของบานาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกินห้าแสนบาท โดยให้มีสิทธิขอรับบาเหน็จ
ดารงชีพได้ตามวิธีการดังน้ี
๓.๑ ผู้รับบานาญซ่ึงมีอายุตา่ กว่าหกสิบห้าปีบริบรู ณ์ ใหม้ ีสทิ ธขิ อรบั บาเหนจ็ ดารงชีพได้ไม่เกินสองแสนบาท
๓.๒ ผรู้ ับบานาญซง่ึ มีอายตุ ั้งแต่หกสิบห้าปีบรบิ รู ณ์ข้ึนไป ใหม้ ีสิทธิขอรับบาเหน็จดารงชีพได้ไม่เกินส่ีแสนบาท
แต่ถ้าผู้รับบานาญน้ันได้ใช้สิทธิตาม ๓.๑ ไปแล้ว ให้ขอรับบาเหน็จดารงชีพได้ไม่เกินส่วนที่ยังไม่ครบตามสิทธิของ
ผ้นู ้ัน แตร่ วมแล้วไม่เกนิ สี่แสนบาท
๓.๓ ผู้รบั บานาญซึง่ มีอายุต้งั แต่เจด็ สิบปีบริบูรณ์ข้ึนไป ให้มีสิทธิขอรับบาเหน็จดารงชีพได้ไม่เกินห้าแสนบาท
แตถ่ ้าผรู้ ับบานาญนนั้ ได้ใชส้ ิทธิตาม ๓.๑ และ ๓.๒ ไปแล้ว ให้ขอรับบาเหน็จดารงชีพได้ไม่เกินส่วนท่ียังไม่ครบตาม
สิทธิของผู้นนั้ แต่รวมแลว้ ไม่เกินห้าแสนบาท
หน้า ๕๓ บาเหน็จดารงชีพ
ยกเลกิ ข้อความ ขอ้ ๓. และใช้ขอ้ ความต่อไปน้ีแทน
๓. จ่ายให้ในอัตรา ๑๕ เท่าของบานาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้มีสิทธิขอรับบาเหน็จ
ดารงชีพได้ตามวิธีการดงั น้ี
๓.๑ ผู้รับบานาญซ่ึงมีอายตุ ่ากว่า ๖๕ ปบี รบิ รู ณ์ ให้มีสทิ ธิขอรับบาเหน็จดารงชพี ได้ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
๓.๒ ผรู้ บั บานาญซึ่งมีอายตุ งั้ แต่ ๖๕ ปีบริบูรณ์ขนึ้ ไป ใหม้ สี ทิ ธขิ อรับบาเหน็จดารงชีพได้ไม่เกิน ๔๐๐,๐๐๐ บาท
แต่ถ้าผู้รับบานาญน้ันได้ใช้สิทธิตาม ๓.๑ ไปแล้ว ให้ขอรับบาเหน็จดารงชีพได้ไม่เกินส่วนท่ียังไม่ครบตามสิทธิของ
ผู้นั้น แตร่ วมแลว้ ไมเ่ กิน ๔๐๐,๐๐๐ บาท
๓.๓ ผรู้ ับบานาญซึ่งมอี ายุตง้ั แต่ ๗๐ ปีบรบิ ูรณ์ข้นึ ไป ให้มีสทิ ธขิ อรับบาเหน็จดารงชีพได้ไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
แต่ถ้าผูร้ บั บานาญน้ันได้ใช้สทิ ธิตาม ๓.๑ และ ๓.๒ ไปแล้ว ให้ขอรับบาเหน็จดารงชีพได้ไม่เกินส่วนที่ยังไม่ครบตาม
สทิ ธขิ องผ้นู น้ั แต่รวมแลว้ ไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท