หลกั สตู รท้องถ่นิ
โรงเรียนบ้านสนั ยงู
น้ายาล้างจานสมนุ ไพร
โรงเรยี นบา้ นสนั ยูง อาเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
๑สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถามศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน
หลกั สตู รทอ้ งถ่นิ
น้ำยำล้ำงจำนสมุนไพร
ชันประถมศึกษำปที ่ี ๔ – ๖
โรงเรียนบำ้ นสันยูง อำ้ เภอลำนสกำ
ส้ำนกั งำนเขตพืนทีก่ ำรศึกษำประถมศึกษำนครศรธี รรมรำช เขต๑
สำ้ นกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั พืนฐำน
กระทรวงศึกษำธกิ ำร
ควำมน้ำ
กระทรวงศึกษาธิการไดป้ ระกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคาส่งั กระทรวงศกึ ษาธิการ
ที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคาสงั่ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน
ท่ี๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐาน การเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคาสั่งให้โรงเรียนดาเนินการใช้
หลักสูตรในปี การศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ , ๔ และ ม.๑ ต้ังแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑
เป็นต้นมา ให้ เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็น
เป้าหมายและกรอบ ทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพและมี
ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษ ที่ ๒๑ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของสานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
โรงเรียนบ้านสันยูง จึงได้ทาการปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนบ้านสันยูง พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และได้จัดทาหลักสูตรท้องถ่ิน เพ่ือนาไปใช้
ประโยชน์และเปน็ กรอบในการ วางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมี
เป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน ให้มีกระบวนการน าหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกาหนด
วิสัยทัศน์ จดุ หมาย สมรรถนะสาคัญ ของผูเ้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วัด
โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจน เกณฑ์การวัดประเมินผลให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปิด
โอกาสให้โรงเรียนสามารถกาหนด ทิศทางในการจัดทาหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความ
พร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบ แกนกลางเป็นแนวทางท่ีชัดเจนเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มี
ความพร้อมในการก้าวสสู่ งั คม คุณภาพ มคี วามร้อู ยา่ งแทจ้ รงิ และมที กั ษะในศตวรรษที่ ๒๑
มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัดท่กี าหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยทาให้หนว่ ยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุกระดบั
เห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีชัดเจนตลอดแนว ซ่ึงจะสามารถช่วยให้
หน่วยงานที่เก่ียวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างม่ันใจ ทาให้การจัดทา
หลักสูตรในระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยิ่งข้ึน อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความชัดเจนเรื่อง
การ วัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังนั้นในการพัฒนา
หลักสูตรในทุกระดับต้ังแต่ระดับชาติจนกระทั่งถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการ
เรียนรู้ และตัวชี้วดั ทีก่ าหนดไวใ้ นหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน รวมท้ังเปน็ กรอบทศิ ทางในการจัด
การศึกษา ทกุ รูปแบบ และครอบคลุมผเู้ รียนทุกกลุม่ เป้าหมายในระดับการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน
การจัดหลักสูตรท้องถิ่นจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายท่ีคาดหวังได้ ทุกฝ่าย ท่ีเก่ียวข้องทั้ง
ระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลตอ้ งร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเปน็ ระบบ และต่อเน่ือง
ในการวางแผนการดาเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาเยาวชนของ
ชาติ ไปสู่คุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรูท้ ี่กาหนดไว้
คำ้ นำ้
หลักสูตรเล่มน้ีจัดทาขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนของรายวิชาการพัฒนาหลักสูตรท้องถ่ินซึ่งมี
เนือ้ หาสาระเก่ยี วกับการจดั ทาหลักสตู รทอ้ งถน่ิ น้ายาล้างจานสมุนไพรสามสงาย
โรงเรียนบ้านสันยูงสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษานครศรีธรรมราช เขต ๑ เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ประกอบการ
เรียนการสอนของผู้เรียนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ท้ังภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ โดยมุ่งให้ผู้เรียนได้มีความ
ตระหนักถึงความสาคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงพัฒนาหลักสูตรการทาน้ายาล้างจานสมุนไพรสามสงายสืบ
สานภมู ิปญั ญาและวัฒนธรรมใหค้ งอยู่ตลอดไป
หลักสูตรเล่มน้ีสาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเน่ืองจากได้รับความกรุณาจาก ว่าที่ร้อยตรีหญิงชนัตพร
วงศ์ทิม ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านสันยงู ที่ได้แนะนาแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรทอ้ งถนิ่ รวมทั้งผู้ให้ข้อมลู
ในการจัดทาหลกั สูตรทอ้ งถนิ่ ในคร้งั นีท้ กุ ท่าน จงึ ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
สำรบญั
เรื่อง หนำ้
คานา…………………………………………………………………………………………..…....................….ก
สารบญั ……………………………………………………………………………………..…...................…….ข
ความเป็นมาของหลักสตู ร…………………………….................................................................1
เป้าหมายของหลักสูตร....……………………………..................................................................2
ความเปน็ มาและสภาพปัญหา…………………..…………………………..………..................……….2
วิสัยทัศน์ ……………………………….…………………......………….…….…….....................……..… 2
จุดมุง่ หมาย……………………………………………………..….…………………...…....................……. 3
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค…์ …………………………………………………………………..............…. 3
คาอธิบายรายวชิ า……………………………………………………………….…………..................……..4
โครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี นรู้และอตั ราเวลาเรยี น .…………….…………………………….........…. 9
แนวทางการดาเนินการจัดการเรยี นร้.ู ................…………………………………..............……….11
สือ่ การเรียนและแหล่งเรยี นร…ู้ …..……………………………………………………….............………12
การวดั และประเมินผล………………………….……………………………………………….............….12
เปำ้ หมำยของหลกั สตู ร
หลักสูตรสถานศึกษา เรื่องการนวดแผนไทย เป็นส่วนหน่ึงของสถานศึกษาท่ีมุ่งพัฒนาผู้เรียน ให้เป็น
มนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข จึงกาหนดเป้าหมายไว้
ดงั น้ี
1. นกั เรยี นเหน็ ความสาคญั ของการอนรุ ักษ์ ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น
2. มีทกั ษะกระบวนการท างานโดยการท างานเปน็ ข้นั ตอน
3. มคี วามขยนั หม่นั เพยี ร มีวินยั มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นยิ ม อนั พงึ ประสงค์
4. มีจติ สานึกในการอนรุ ักษ์และเห็นคณุ คา่ ของภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น
5. นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นด้านความรู้ ทักษะปฏบิ ตั ิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตาม
มาตรฐานการเรียนร้ขู องหลักสูตรสถานศกึ ษา
หลกั กำรและเหตุผล
1. ส่งเสรมิ ความสมั พนั ธอ์ ันดี ระหว่างโรงเรียนกบั ชมุ ชนโดยตา่ งฝ่ายตา่ งมี สว่ นร่วมในการแก้ปญั หา
คือโรงเรยี นให้นักเรียนศกึ ษาข้อมูลจากชุมชน ชุมชนเปน็ แหล่งเรียนรใู้ หโ้ รงเรียน ส่งผลใหเ้ กิดความร่วมมือใน
การแกป้ ญั หาของชมุ ชนโดยใหช้ ุมชน ตระหนักถงึ การอนุรักษภ์ มู ปิ ัญญาท้องถ่ิน
2. เปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนจากการท่องจาตามหนังสือ มาเป็นการลงมือฝึก
ปฏิบัตจิ รงิ ดว้ ยตนเอง
3. เปลี่ยนแปลงกระบวนการสอนของครู จากการท่ีมีครูเป็นศูนย์กลาง มาเป็น การใช้แหล่งเรียนรู้
ในชุมชนเป็นที่ศึกษาหาความรู้ นักเรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติโดยมีครู และวิทยากรท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลให้
คาปรึกษาแนะนา ส่งเสริม สนับสนุน สร้างบรรยากาศ ให้นักเรียนเกิดความสนใจในการเรียนรู้และทา
กจิ กรรม
4. เกดิ การเรยี นรูจ้ ากภูมิปัญญาท้องถ่นิ อนั นาไปสู่การพฒั นาหลักสูตรเกีย่ วกบั กจิ กรรมการเรยี น
การสอน ทีเ่ รียกว่าหลกั สตู รทอ้ งถนิ่ หรือหลกั สูตรสถานศึกษา
วิสัยทศั น์ของโรงเรยี น
โรงเรียนบ้านสันยูงจัดการศึกษาให้นักเรียนมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานภายใต้การพัฒนา
กระบวนการเรยี นรู้ การใช้เทคโนโลยี การบริหาร จัดการตามมาตรฐานวชิ าชีพและการมีส่วนร่วมของชมุ ชน
ในทอ้ งถิน่
จดุ มุง่ หมำย
เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นมีคุณลักษณะดังนี้
1. มคี วามรแู้ ละทกั ษะในการประกอบอาชพี สามารถสรา้ งรายไดท้ ่ีมั่นคง ม่ังคัง่
2. เป็นแนวทางพน้ื ฐานในการประกอบอาชีพใหส้ อดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพของตนเอง ชุมชน
สังคม และส่งิ แวดลอ้ มอยา่ งมี คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
3. มีเจตคติท่ดี ใี นการท ากิจกรรมการนวดแผนไทย
4. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจและฝกึ ทักษะการนวดแผนไทยอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
5. มโี ครงการประกอบอาชพี เพอ่ื ใช้เปน็ แนวทางในการพัฒนาอาชพี ของตนเองต่อไป
สมรรถนะสำ้ คญั ของผู้เรียน
หลกั สตู รโรงเรียนบ้านสนั ยงู ม่งุ เนน้ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ สมรรถนะ สาคัญ คอื
๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้
ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของ ตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร
และ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและ
ลด ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง
ตลอดจนการ เลอื กใช้วธิ กี ารสื่อสาร ที่มปี ระสทิ ธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือน าไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศ เพอ่ื การตัดสนิ ใจเกี่ยวกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่
เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ใน
การป้องกันและแก้ไข ปัญหา และมีการตัดสินใจท่ีมีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดข้ึน ต่อตนเอง
สังคมและสง่ิ แวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการน ากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้
ในการดาเนนิ ชีวิตประจาวนั การเรียนร้ดู ้วยตนเอง การเรยี นรอู้ ยา่ งต่อเน่ือง การทางาน และการอย่รู ว่ มกนั ใน
สังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง
เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง
พฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ท่สี ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู ่ืน
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้าน
ต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและ สังคม ในด้านการเรียนรู้ การ
สื่อสาร การทางาน การแก้ปญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอ่ื สัตย์สจุ รติ
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยู่อย่างพอเพยี ง
๖. ม่งุ ม่ันในการทางาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย
๘. มีจติ สาธารณะ
ควำมเปน็ มำและสภำพปญั หำ
โรงเรียนบ้านสันยูงตั้งอยู่หมู่ที่ ๗ ตาบลท่าดี อาเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะทาง
จากโรงเรียนถึงท่ีว่าการอาเภอลานสกาประมาณ ๗ กิโลเมตร จากโรงเรียนไปตัวจังหวัดนครศรีธรรมราช
ประมาณ ๑๘ กิโลเมตร สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต ๑ บรเิ วณโรงเรียนมี
เนื้อที่ประมาณ ๑๔ ไร่ ๓ งาน นักเรียนท่ีมาโรงเรียนน้ีส่วนใหญ่เป็นนักเรียนท่ีอยู่ในชุมชน และบริเวณ
ใกล้เคียง ผู้ปกครองมีฐานะปานกลาง ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทาสวน ผลไม้ สวนยางพารา
และปลูกผักต่าง ๆที่ใชใ้ นท้องถ่ิน โดยเฉพาะพืชสมนุ ไพรเชน่ มะนาว ตะไคร้ และอญั ชัน
โรงเรียนเห็นคุณค่าและความสาคัญพืชสมุนไพรดังกล่าวจึงได้นาสมุนไพรที่มีในท้องถ่ิน ได้แก่
มะนาว ตะไคร้ และอัญชนั จัดทาเป็นผลิตภัณฑ์ท่ีสามารถใช้ในครัวเรือนเพอื่ ลดค่าใช้จ่ายและเพมิ่ มูลค่าโดย
การนามาทาเป็นผลิตภัณฑ์น้ายาสมุนไพรอเนกประสงค์ ข้ึนซ่ึงสอดคล้องกับแนวพระราชดาริ อีกท้ังนักเรียน
ได้ ปฏิบัติจริงในเร่ืองการทางาน การจัดการ เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่องาน ตลอดจนรู้จักการนาสิ่งท่ีมี
อยู่ใน ท้องถ่ินมาเพม่ิ คุณค่า เพ่ิมรายได้ นักเรียนไดอ้ อกแบบ ตามจินตนาการ ผเู้ รียนรู้จักพง่ึ ตนเอง ดารงชีวิต
อย่ใู น สงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
อธบิ ำยรำยวชิ ำ
หลักสูตรทอ้ งถ่นิ ชันประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ –๖ เวลำ ๑๐ ชว่ั โมง
ศึกษา ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของมะนาว ตะไคร้ และอัญชัน การประกอบอาหาร
การถนอมอาหาร การ แปรรูป นาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดเพ่ือเพ่ิมรายได้ให้กับผู้เรียน การทาบัญชีรายรับ-
รายจ่ายโดยใช้ กระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ เห็นความสาคัญ และประโยชน์ของการทางานแล้วนามา
วิเคราะห์ วางแผน ค้นคว้ารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการแสวงหาความรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลายเพ่ือให้เกิด
ความรู้ ความเข้าใจ เกิดทักษะ มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทางานพ่ึงพาตนเองโดย ยึดหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลกำรเรียนรู้
1. บอกถงึ ลักษณะทั่วไปของส่วนประกอบของมะนาว ตะไคร้ และอัญชัน
2. อธบิ ายประโยชนแ์ ละสรรพคณุ ของมะนาว ตะไคร้ และอัญชนั ได้
3. ผูเ้ รียนสามารถแปรรูปมะนาว ตะไคร้ และอญั ชันได้
4. ผู้เรียนเลอื กเครื่องมอื ในการตวง และวสั ดุอปุ กรณ์ในการแปรรูปมะนาว ตะไคร้ และอัญชันได้
5. ผู้เรยี นจาแนกสารอาหารได้
๖. ผู้เรยี นสามารถทาบญั ชรี ายรับ รายจ่ายได้
รวม ๖ ผลการเรียนรู้
โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ
หลกั สูตรทอ้ งถ่ิน
หนว่ ยเรียนรทู้ ี่ ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา(ชม) น้าหนกั คะแนน
๑ น้ายาลา้ งจานสมนุ ไพร ความรู้เบอื้ งต้นเก่ียวพืชสมุนไพรทอ้ งถิ่น ๑
๑ น้ายาลา้ งจานสมุนไพร พืชสมนุ ไพรท่ใี ชท้ านา้ ยาล้างจาน ๒
๑ น้ายาลา้ งจานสมุนไพร สาธิตวิธกี ารทาน้ายาลา้ งจาน ๒
๑ น้ายาล้างจานสมนุ ไพร กระบวนการทาน้ายาล้างจาน ๓
๑ น้ายาลา้ งจานสมุนไพร การสรปุ ผลและนาเสนอ ๒
รวม ๑๐
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
หน่วยกำรเรียนร้ทู ่ี ๑ เรื่อง น้ำยำลำ้ งจำนสมนุ ไพร เวลำ ๑๐ ชวั่ โมง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑. แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ ๑ เรือ่ ง ควำมรู้เบืองตน้ เกย่ี วพชื สมนุ ไพรทอ้ งถ่ิน เวลำ ๑ ช่ัวโมง
๒. กลมุ่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี
๓. คำ้ อธิบำยรำยวชิ ำ
เพ่ือให้นกั เรียนได้ศกึ ษารายละเอยี ดเกยี่ วกับสว่ นผสมของนา้ ยาล้างจานสมนุ ไพร สามารถนามา
เป็นส่วนผสมในการทาน้ายาล้างจานเพื่อเป็นการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวันก่อให้เกิด ความสุขการทาน้ายาล้างจานจากพืชสมุนไพรไว้ใช้เองได้เป็นการปลูกจิตสานึกใน
ด้านคุณธรรมด้านการประหยัด ความ ขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์สุจริต การพึ่งตนเองและความ
เอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติในการดารงชีวิต ทั้งนี้ เพื่อนาผลผลิตที่ได้และประสบการณ์จากการ
เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันในโอกาสต่อไป หรือสามารถทาเพ่ือ นาไปจาหน่ายซึ่งเป็นอีกหน่ึง
ทางเลอื กในการประกอบอาชีพ
๔. ผลกำรเรียนรทู้ ค่ี ำดหวงั
- มีความรู้ ความเขา้ ใจ และมีเจตคติทดี่ ีในงานอาชีพ มองเห็นช่องทางและการตดั สินใจในการ
ประกอบอาชพี ไดต้ ามความต้องการและศักยภาพของตนเอง
- เลอื กใช้พชื สมนุ ไพรในการทานา้ ยาลา้ งจานทีเ่ หมาะสม
- มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะในอาชพี ทีต่ ัดสินใจเลอื ก
- มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการจดั การอาชีพ อย่างมคี ณุ ธรรม
- วเิ คราะหค์ ณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ข้อท่ี 5 อยอู่ ย่างพอเพียงได้
๕. สำระกำรเรยี นรู้
- ศกึ ษารายละเอียดเกี่ยวกบั สว่ นผสมของนา้ ยาล้างจานสมุนไพร
- ศึกษาเข้าใจถึงพืชสมนุ ไพรชนดิ ต่าง ๆที่สามารถนามาเป็นส่วนผสมในการทาน้ายาล้างจาน
- ขนั้ ตอนวธิ กี ารทานา้ ยาลา้ งจานและสามารถทานา้ ยาลา้ งจานไวใ้ ชเ้ องได้
- เปน็ การปลกู จติ สานึกในดา้ นคุณธรรมด้านการประหยัด ความขยนั หมนั่ เพียร ความซื่อสัตย์สจุ ริต
การพึ่งตนเองและความเอื้อเฟ้ือเผือ่ แผเ่ พือ่ ใชเ้ ปน็ หลักปฏบิ ัตใิ นการดารงชีวติ
๖. กำรบูรณำกำรกบั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๑. ควำมพอประมำณ
๑.๑ นกั เรยี นได้สารวจความร้ขู องตนเองเกีย่ วกบั พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจ้าอย่หู ัวในการพัฒนาทอ้ งถิ่น และพสกนิกรให้ย่ังยนื และสมดุล
๑.๒ นักเรยี นได้เขา้ ใจสภาพการใชท้ รัพยากรของตนเอง ครอบครัว และชุมชน เพอ่ื ประมาณตน
ได้ถกู ตอ้ ง
๒. ควำมมีเหตผุ ล
๒.๑ การปฏิบตั ติ นตามหลักเศรษฐกจิ พอเพยี งจะทาใหร้ จู้ ักใชเ้ หตุผลในการวางแผน และการ
ปฏิบัตติ นเอง ใช้ความรทู้ างหลักวชิ าการดว้ ยความรจู้ ริง รอบคอบ ไมเ่ บียดเบยี นผู้อ่ืนและสงิ่ แวดลอ้ ม
๓. กำรมีภมู คิ ุม้ กนั ในตวั ทดี่ ี
๓.๑ ตระหนกั ถึงความเปล่ยี นแปลงต่าง ๆทเี่ กดิ ข้ึนในชีวิตประจาวัน จะไดไ้ มป่ ระมาท ไม่ดาเนนิ
ชวี ติ ดว้ ยความเสีย่ ง มีการเรียนรู้อย่างตอ่ เนื่องเพ่อื ให้รู้เทา่ ทันการเปลี่ยนแปลง และพฒั นาตนเองใหม้ ีความ
พอเพยี งยงิ่ ๆข้ึน
๔. เงอ่ื นไขควำมรู้
๔.๑ เข้าใจความหมายและหลักคิดปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอยา่ งถูกตอ้ ง
๔.๒ รอบร้เู ก่ียวกับความสาคัญของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และ
๔.๓ รอบคอบในการใช้ทรัพยากรตา่ ง ๆอย่างมีประสทิ ธิภาพ
๕. เง่ือนไขคณุ ธรรม
๕.๑ ความอดทน ความเพียร ความประหยดั และอดออม ความจงรักภักดี การรักษ์
สิ่งแวดลอ้ ม
๗. สมรรถนะส้ำคญั
- ความสมารถในการใชส้ ือ่
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๘. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
- อยอู่ ยา่ งพอเพียง
- ใฝเ่ รยี นรู้
- ม่งุ ม่นั ในการทางาน
๙. ภำระงำน/ชินงำน
- ใบงาน
- ศกึ ษาสมุนไพรท่ีเปน็ สว่ นประกอบ
- เขยี นขนั้ ตอนวธิ กี ารทานา้ ยาล้างจาน
- น้ายาล้างจานสมุนไพร
๑๐. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ขนั นำ้
- ครูใช้คาถามกับนักเรยี น ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั ส่วนผสมของนา้ ยาล้าง
จานสมุนไพร มสี มุนไพรชนดิ ใดบา้ งที่สามารถนามาเปน็ สว่ นประกอบได้
ขนั สอ
- ครใู หน้ ักเรยี นศกึ ษาพืชสมุนไพรแตล่ ะชนดิ วา่ ชนิดใดทส่ี ามารถนามา
ทานา้ ยาลา้ งจานสมนุ ไพรได้ สามารถนามาเป็นส่วนประกอบในการนา้ ยาลา้ งจานสมนุ ไพรไดจ้ ริง
ขนั สรปุ
- ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความร้จู ากการศกึ ษาพชื สมนุ ไพรแต่ละชนิดท่ีสามารถนามา
เปน็ วัตถดุ บิ ในการทานา้ ยาล้างจานสมุนไพรได้ และนกั เรยี นมคี วามรไู้ ดท้ ราบถงึ ประโยชน์ของสมุนไพรชนิด
ต่างๆ ท่ีได้นามาศกึ ษาในการทานา้ ยาล้างจานสมุนไพร และได้ทราบถึงสมนุ ไพรชนดิ ตา่ งๆทีม่ ีในส่ิงแวดล้อม
ส่ือ
- ภาพสมุนไพรที่ศึกษา เชน่ มะนาว ตะไคร้ อญั ชนั
- ภาพพืชสมนุ ไพรตา่ งๆ
- ภาพการนาสมุนไพรมาเปน็ ส่วนประกอบ
เกณฑก์ ำรวดั ผลประเมินผล
วิธกี ำร เครอื่ งมือ เกณฑก์ ำรประเมนิ
พืชสมุนไพรทน่ี กั เรยี นศึกษา
๑.นกั เรยี นรว่ มกนั สรุป ระดบั คณุ ภาพ
ความรูจ้ ากการศกึ ษา ดี : นกั เรยี นสามารถบอกถงึ พชื สมนุ ไพรแต่
พชื สมุนไพรแตล่ ะชนิด ละชนิดท่ีสามารถนามาเป็นวัตถุดบิ ในการ
ทานา้ ยาลา้ งจานสมนุ ไพรได้ และมคี วามรู้
บอกประโยชน์ของสมนุ ไพรชนดิ ชนดิ ตา่ งๆ
ท่ีมีในส่ิงแวดล้อม ชุมชน
ปำนกลำง : นกั เรียนสามารถบอกถึงพชื
สมนุ ไพรแต่ละชนดิ ทีส่ ามารถนามาเป็น
วตั ถุดิบในการทาน้ายาลา้ งจานสมนุ ไพรได้
ต้องปรับปรุง : ไม่สามารถบอกถงึ พืช
สมุนไพรแตล่ ะชนิดทีส่ ามารถนามาเปน็
วตั ถดุ ิบในการทานา้ ยาลา้ งจานสมนุ ไพรได้
ระดับคณุ ภำพ
ดี : ไดค้ ะแนน ๙ – ๑๐
ปานกลาง : ได้คะแนน ๘ – ๖
ต้องปรบั ปรงุ : ได้คะแนนตา่ กวา่ ๕
กจิ กรรมเสนอแนะ
๑ .นกั เรยี นศึกษาหาขอ้ มลู ของชมุ ชนทพ่ี ฒั นาบนพน้ื ฐานหลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๒ .ให้นักเรียนติดตามข่าวด้านเศรษฐกจิ สงั คม ส่ิงแวดล้อม และดา้ นวฒั นธรรมทางส่ือตา่ ง ๆ และศกึ ษาสมนุ
ในชมุ ชนท่ีสามารถมาใช้ทาน้ายาลา้ งจาน
๓ .นกั เรยี นรว่ มกนั จดั ทาแฟม้ สง่ิ แวดลอ้ มเพอ่ื ใชเ้ ปน็ แหลง่ เรยี นรใู้ นโรงเรยี น
๔.นกั เรยี นสามารถคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ เทคนคิ ตา่ ง ๆ ไดจ้ ากอินเตอรเ์ นต็
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ ๑ เรอ่ื ง นำ้ ยำล้ำงจำนสมนุ ไพร เวลำ ๑๐ ชวั่ โมง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑. แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรอื่ ง พืชสมุนไพรที่ใชท้ ำ้ นำ้ ยำล้ำงจำน เวลำ ๒ ช่วั โมง
๒. กล่มุ สำระกำรเรยี นร้กู ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี
๓. ค้ำอธบิ ำยรำยวิชำ
เพื่อใหน้ กั เรียนไดศ้ กึ ษารายละเอยี ดเกยี่ วกับส่วนผสมของน้ายาลา้ งจานสมุนไพร สามารถนามา
เป็นส่วนผสมในการทาน้ายาล้างจานเพื่อเป็นการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจาวันก่อให้เกดิ ความสุขการทาน้ายาล้างจานจากพืชสมนุ ไพรไว้ใช้เองไดเ้ ปน็ การปลกู จิตสานึกในด้าน
คุณธรรมด้านการประหยัด ความขยันหม่ันเพียร ความซ่ือสัตย์สุจริต การพ่ึงตนเองและความเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่
เพือ่ ใชเ้ ป็นหลกั ปฏบิ ัตใิ นการดารงชีวิต ท้ังน้เี พ่อื นาผลผลิตท่ไี ด้และประสบการณจ์ ากการเรียนรู้ไปประยุกตใ์ ช้
ในชีวิตประจาวันในโอกาสต่อไป หรือสามารถทาเพ่ือนาไปจาหน่ายซ่ึงเป็นอีกหน่ึงทางเลือกในการประกอบ
อาชพี
๔. ผลกำรเรยี นรู้ทคี่ ำดหวงั
- มีความรู้ ความเข้าใจ และมเี จตคตทิ ่ีดีในงานอาชพี มองเหน็ ชอ่ งทางและการตดั สนิ ใจในการ
ประกอบอาชพี ไดต้ ามความต้องการและศกั ยภาพของตนเอง
- เลอื กใช้พชื สมนุ ไพรในการทานา้ ยาล้างจานท่เี หมาะสม
- มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะในอาชีพท่ตี ัดสนิ ใจเลือก
- มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในการจัดการอาชีพ อยา่ งมีคณุ ธรรม
- วิเคราะหค์ ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ข้อท่ี 5 อย่อู ย่างพอเพยี งได้
๕. สำระกำรเรียนรู้
- ศึกษารายละเอยี ดเกี่ยวกบั ส่วนผสมของนา้ ยาลา้ งจานสมุนไพร
- ศึกษาเข้าใจถงึ พชื สมนุ ไพรชนิดต่าง ๆที่สามารถนามาเป็นสว่ นผสมในการทาน้ายาลา้ งจาน
- ขนั้ ตอนวธิ ีการทานา้ ยาล้างจานและสามารถทานา้ ยาลา้ งจานไว้ใชเ้ องได้
- เปน็ การปลกู จิตสานึกในดา้ นคณุ ธรรมดา้ นการประหยดั ความขยนั หมน่ั เพยี ร ความซ่ือสตั ยส์ ุจริต
การพึง่ ตนเองและความเอ้อื เฟ้อื เผ่ือแผเ่ พือ่ ใชเ้ ป็นหลักปฏบิ ตั ใิ นการดารงชีวิต
๖. กำรบูรณำกำรกบั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๑. ควำมพอประมำณ
๑.๑ นกั เรยี นไดส้ ารวจความรู้ของตนเองเกยี่ วกับพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจา้ อยหู่ ัวในการพฒั นาท้องถนิ่ และพสกนกิ รใหย้ ่ังยนื และสมดลุ
๑.๒ นักเรยี นได้เขา้ ใจสภาพการใช้ทรพั ยากรของตนเอง ครอบครัว และชุมชน เพอื่ ประมาณตน
ได้ถูกตอ้ ง
๒. ควำมมเี หตผุ ล
๒.๑ การปฏิบตั ิตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี งจะทาให้รู้จกั ใช้เหตผุ ลในการวางแผน และการ
ปฏิบตั ติ นเอง ใชค้ วามร้ทู างหลักวิชาการด้วยความรู้จรงิ รอบคอบ ไมเ่ บยี ดเบยี นผ้อู ่ืนและสิ่งแวดล้อม
๓. กำรมีภูมคิ ุ้มกันในตัวทด่ี ี
๓.๑ ตระหนักถงึ ความเปล่ียนแปลงตา่ ง ๆทเี่ กิดขึ้นในชวี ิตประจาวัน จะได้ไม่ประมาท ไมด่ าเนิน
ชวี ิตดว้ ยความเส่ียง มีการเรียนร้อู ย่างตอ่ เนื่องเพ่ือให้รูเ้ ท่าทันการเปลี่ยนแปลง และพฒั นาตนเองให้มคี วาม
พอเพียงยิ่งๆขึ้น
๔. เง่อื นไขควำมรู้
๔.๑ เขา้ ใจความหมายและหลกั คดิ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยา่ งถูกตอ้ ง
๔.๒ รอบรเู้ ก่ียวกับความสาคัญของทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม
๔.๓ รอบคอบในการใชท้ รพั ยากรต่าง ๆอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
๕. เงื่อนไขคณุ ธรรม
๕.๑ ความอดทน ความเพยี ร ความประหยดั และอดออม ความจงรักภักดี การรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม
๗. สมรรถนะส้ำคญั
- ความสามารถในการใชส้ อ่ื
- ความสามารถในการคดิ
- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
๘. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
- ใฝเ่ รียนรู้
- มงุ่ มน่ั ในการทางาน
๙. ภำระงำน/ชนิ งำน
- ใบงาน
- ศึกษาสมนุ ไพรท่ีเป็นสว่ นประกอบ
- เขยี นข้ันตอนวธิ ีการทานา้ ยาล้างจาน
- นา้ ยาล้างจานสมุนไพร
๑๐. กิจกรรมกำรเรยี นรู้
ขนั นำ้
- ครใู ชค้ าถามกบั นกั เรียนเก่ยี วกับสมุนไพรที่ศึกษา และเขา้ ใจถงึ พชื สมุนไพรชนดิ ตา่ งๆท่ีสามารถ
นามาเป็นส่วนผสมในการทาน้ายาลา้ งจาน สมนุ ไพร
ขนั สอน
- ครใู หน้ ักเรยี นนาสมุนไพรท่ไี ดศ้ ึกษา ทใี่ ชเ้ ปน็ ส่วนผสมในการทาน้ายาล้างจาน สมุนไพรมาเพือ่ จะใหน้ ัก
เรยี นรู้ถึงทักษะในการทานา้ ยาล้างจานสมนุ ไพร โดยผลิตไวเ้ พ่อื ใชใ้ นครัวเรอื นถือเปน็ การลดรายจา่ ย
ประหยัดค่าใช้จา่ ย ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ และยังอกี หนง่ึ ทางเลอื กในการตัดสนิ ใจประกอบาชพี ตอ่ ไป
ขนั สรุป
- ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับพืชสมุนไพรท่ีสามารถนามาทาเป็นน้ายาล้างจานสมุนไพร
เป็นสมุนไพรชนิดใด และนักเรียนไดร้ ับความรู้ประโยชน์ตา่ ง ๆ ของสมุนไพรนอกเหนือจากการนามาทาน้ายา
ล้างจานสมุนไพร เช่น ใช้เป็นยารักษาโรค แก้ไอ เป็นต้น และใช้เป็นวัตถุดิบอีกหนึ่งทางเลือกในการตัดสินใจ
ประกอบาชพี ตอ่ ไป
สือ่
- ภาพของสมนุ ไพรท่ีนกั เรียนนามาทาน้ายาลา้ งจาน เชน่ มะนาว ตะไคร้ อญั ชัน เปน็ ต้น
- ภาพผลิตภณั ฑ์นา้ ยาล้างจานสมนุ ไพร
เกณฑก์ ำรวดั ผลประเมินผล
วธิ ีกำร เคร่ืองมอื เกณฑก์ ำรประเมิน
1.ให้นกั เรยี นนาพชื - มะนาว ตะไคร้ อัญชนั ระดบั คณุ ภาพ
สมุนไพรทนี่ กั เรียนได้ - ภาพผลติ ภณั ฑน์ ้ายาลา้ งจาน ดี : สรปุ ความรู้เกี่ยวกบั พชื สมนุ ไพรท่ี
ศกึ ษาเพ่อื ใช้เปน็ สามารถนามาทาเป็นน้ายาล้างจานสมุนไพร
สว่ นประกอบ เป็นสมุนไพรชนดิ ใด และบอกประโยชน์
ต่าง ๆ ของสมนุ ไพรนอกเหนือจากการ
นามาทานา้ ยาลา้ งจานสมนุ ไพร
ปำนกลำง : สรุปความรเู้ ก่ียวกับพชื
สมนุ ไพรที่สามารถนามาทาเปน็ น้ายา
ลา้ งจานสมนุ ไพร เป็นสมนุ ไพรชนดิ ใดได้
ต้องปรับปรงุ : ไมส่ ามารถสรปุ ความรู้
เกย่ี วกบั พืชสมุนไพรทสี่ ามารถนามาทาเป็น
น้ายาลา้ งจานสมุนไพรได้
ระดบั คณุ ภำพ
ดี : ได้คะแนน ๙ – ๑๐
ปานกลาง : ได้คะแนน ๘ – ๖
ต้องปรบั ปรุง : ได้คะแนนตา่ กว่า ๕
กจิ กรรมเสนอแนะ
๑. นกั เรยี นศึกษาหาขอ้ มลู ของชมุ ชนทพ่ี ฒั นาบนพน้ื ฐานหลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๒. ใหน้ กั เรยี นตดิ ตามข่าวดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม สงิ่ แวดล้อม และด้านวฒั นธรรมทางสือ่ ต่าง ๆ และ
ศึกษาสมนุ ในชมุ ชนท่สี ามารถมาใช้ทาน้ายาลา้ งจาน
๓. นกั เรยี นรว่ มกนั จดั ทาแฟม้ สง่ิ แวดลอ้ มเพอ่ื ใชเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรู้ในโรงเรียน
๔.นกั เรยี นสามารถคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ เทคนคิ ตา่ ง ๆ ไดจ้ ากอินเตอรเ์ น็ต
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง นำ้ ยำลำ้ งจำนสมนุ ไพร เวลำ ๑๐ ชวั่ โมง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑. แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี ๓ เรอ่ื ง สำธติ วิธีกำรทำ้ นำ้ ยำล้ำงจำน เวลำ ๒ ชั่วโมง
๒. กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้กู ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี
๓. ค้ำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสมของน้ายาล้างจานสมุนไพร สามารถนามาเป็น
ส่วนผสมในการทาน้ายาล้างจานเพ่ือเป็นการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวนั ก่อให้เกิดความสุขการทานา้ ยาลา้ งจานจากพืชสมุนไพรไวใ้ ชเ้ องได้เปน็ การปลกู จิตสานกึ ในด้าน
คุณธรรมด้านการประหยัด ความขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์สุจริต การพ่ึงตนเองและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
เพอ่ื ใช้เปน็ หลักปฏบิ ัติในการดารงชีวติ ท้ังน้เี พื่อนาผลผลิตทีไ่ ด้และประสบการณ์จากการเรยี นรู้ไปประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจาวันในโอกาสต่อไป หรือสามารถทาเพ่ือนาไปจาหน่ายซ่ึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการประกอบ
อาชพี
๔. ผลกำรเรยี นรู้ทคี่ ำดหวงั
- มคี วามรู้ ความเข้าใจ และมเี จตคตทิ ด่ี ใี นงานอาชีพ มองเหน็ ช่องทางและการตดั สนิ ใจในการ
ประกอบอาชพี ได้ตามความตอ้ งการและศักยภาพของตนเอง
- เลือกใชพ้ ืชสมุนไพรในการทาน้ายาลา้ งจานทีเ่ หมาะสม
- มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะในอาชีพทตี่ ดั สินใจเลอื ก
- มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจดั การอาชีพ อยา่ งมคี ุณธรรม
- วเิ คราะห์คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ข้อที่ ๕ อยอู่ ยา่ งพอเพยี งได้
๕. สำระกำรเรยี นรู้
- ศกึ ษารายละเอียดเกยี่ วกบั ส่วนผสมของนา้ ยาล้างจานสมนุ ไพร
- ศึกษาเขา้ ใจถงึ พืชสมุนไพรชนิดตา่ ง ๆทส่ี ามารถนามาเป็นส่วนผสมในการทาน้ายาลา้ งจาน
- ข้นั ตอนวธิ กี ารทาน้ายาลา้ งจานและสามารถทาน้ายาลา้ งจานไว้ใช้เองได้
- เป็นการปลกู จติ สานึกในดา้ นคุณธรรมด้านการประหยัด ความขยันหมนั่ เพยี ร ความซอื่ สัตย์สจุ รติ
การพึง่ ตนเองและความเอ้ือเฟอ้ื เผ่ือแผเ่ พือ่ ใช้เปน็ หลักปฏิบัติในการดารงชีวติ
๖. กำรบรู ณำกำรกบั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๑. ควำมพอประมำณ
๑.๑ นกั เรยี นได้สารวจความรขู้ องตนเองเกยี่ วกบั พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจา้ อยู่หัวในการพฒั นาทอ้ งถน่ิ และพสกนกิ รใหย้ ัง่ ยืนและสมดุล
๑.๒ นักเรยี นไดเ้ ขา้ ใจสภาพการใชท้ รพั ยากรของตนเอง ครอบครัว และชมุ ชน เพอื่ ประมาณตน
ไดถ้ ูกตอ้ ง
๒. ควำมมีเหตผุ ล
๒.๑ การปฏิบตั ิตนตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งจะทาให้รจู้ กั ใช้เหตุผลในการวางแผน และการ
ปฏิบัตติ นเอง ใช้ความรู้ทางหลักวชิ าการดว้ ยความรูจ้ ริง รอบคอบ ไม่เบยี ดเบยี นผอู้ ืน่ และสงิ่ แวดลอ้ ม
๓. กำรมภี มู คิ ุ้มกนั ในตัวทด่ี ี
๓.๑ ตระหนักถงึ ความเปล่ยี นแปลงตา่ ง ๆทีเ่ กิดข้ึนในชีวิตประจาวัน จะไดไ้ ม่ประมาท ไมด่ าเนิน
ชีวติ ดว้ ยความเสย่ี ง มกี ารเรยี นรอู้ ย่างตอ่ เน่อื งเพอ่ื ให้รเู้ ทา่ ทันการเปล่ียนแปลง และพัฒนาตนเองให้มคี วาม
พอเพยี งย่ิงๆขึ้น
๔. เง่ือนไขควำมรู้
๔.๑ เขา้ ใจความหมายและหลกั คดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอย่างถูกตอ้ ง
๔.๒ รอบรเู้ ก่ียวกบั ความสาคญั ของทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม และ
๔.๓ รอบคอบในการใชท้ รพั ยากรต่าง ๆอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
๕. เง่อื นไขคุณธรรม
๕.๑ ความอดทน ความเพยี ร ความประหยัด และอดออม ความจงรกั ภกั ดี การรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม
๗. สมรรถนะส้ำคญั
- ความสามารถในการใช้ส่อื
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแกป้ ญั หา
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
๘. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- อย่อู ยา่ งพอเพียง
- ใฝเ่ รยี นรู้
- มุ่งมั่นในการทางาน
๙. ภำระงำน/ชินงำน
- ใบงาน
- ศึกษาสมนุ ไพรทีเ่ ป็นส่วนประกอบ
- เขียนขัน้ ตอนวธิ ีการทานา้ ยาลา้ งจาน
- น้ายาลา้ งจานสมุนไพร
๑๐. กิจกรรมกำรเรยี นรู้
ขันนำ้
- ครูอธิบายถึงกระบวนการข้ันตอนวิธีการทาน้ายาล้างจานและสามารถทาน้ายาล้างจานไวใ้ ช้
เองในครวั เรอื นถือเป็นการลดรายจา่ ยในครวั เรือน
ขันสอน
- ครูเป็นผคู้ อยแนะนานักเรียน และสอนนกั เรยี นดว้ ยวธิ กี ารสาธิตขนั้ ตอนวิธกี ารทานา้ ยาล้าง
จาน เพอ่ื จะให้นักเรยี นไดล้ งมือปฏิบตั เิ กิดประสบการณ์จริง และมีทักษะในการทานา้ ยาลา้ งจานสมนุ ไพร โดย
ผลิตไว้เพอื่ ใชใ้ นครวั เรอื นถอื เปน็ การลดรายจ่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย
ขันสรุป
- ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ ก่ียวกบั กระบวนการขัน้ ตอนวธิ ีการทาน้ายาลา้ งจาน
สมุนไพรที่นาท่ีสามารถนามาทาเป็นน้ายาล้างจานสมุนไพร เป็นสมุนไพรชนิดใด และนักเรียนได้รับความรู้
ประโยชน์ตา่ ง ๆ ของสมนุ ไพรนอกเหนือจากการนามาทาน้ายาล้างจานสมุนไพร
สอ่ื
- ภาพกระบวนการทาน้ายา
- ภาพผลติ ภณั ฑ์น้ายาลา้ งจานจากสมนุ ไพร
เกณฑก์ ำรวดั ผลประเมนิ ผล
วธิ กี ำร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ำรประเมนิ
๑ให้นกั เรยี นอธิบาย. - ภาพกระบวนการทาน้ายา ระดบั คุณภาพ
บอกวธิ กี าร - ภาพผลติ ภณั ฑน์ ้ายาลา้ งจาน ดี : สรปุ ความร้เู กย่ี วกบั กระบวนการ
กระบวนการทาน้ายา จากสมนุ ไพร ขัน้ ตอนวธิ ีการทาน้ายาลา้ งจานสมุนไพรที่
ล้างจาน นาที่สามารถนามาทาเปน็ นา้ ยาล้างจาน
สมุนไพร เปน็ สมนุ ไพรชนดิ ใด และนกั เรียน
ได้รบั ความรปู้ ระโยชนต์ ่างๆ ของสมนุ ไพร
นอกเหนือจากการนามาทานา้ ยาลา้ งจาน
สมนุ ไพร
ปำนกลำง : สรปุ ความรเู้ กีย่ วกบั
กระบวนการข้นั ตอนวิธีการทานา้ ยาล้าง
จานสมนุ ไพรทนี่ าทสี่ ามารถนามาทาเปน็
น้ายาลา้ งจานสมนุ ไพร เปน็ สมนุ ไพรชนิดใด
ตอ้ งปรบั ปรงุ : ไม่สามารถสรปุ ความรู้
เกี่ยวกับกระบวนการข้นั ตอนวิธกี ารทา
น้ายาลา้ งจานสมนุ ไพรได้
ระดับคณุ ภำพ
ดี : ไดค้ ะแนน ๙ – ๑๐
ปานกลาง : ได้คะแนน ๘ – ๖
ต้องปรบั ปรุง : ได้คะแนนตา่ กวา่ ๕
กิจกรรมเสนอแนะ
๑ .นกั เรยี นศึกษาหาขอ้ มลู ของชมุ ชนทพ่ี ฒั นาบนพน้ื ฐานหลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๒.นกั เรยี นสามารถค้นควา้ เพิ่มเติม เทคนคิ ต่าง ๆ ไดจ้ ากอนิ เตอรเ์ น็ต
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้
หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ่ี ๑ เรอื่ ง นำ้ ยำลำ้ งจำนสมนุ ไพร เวลำ ๑๐ ชว่ั โมง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑. แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ ๔ เรื่อง กระบวนกำรทำ้ นำ้ ยำลำ้ งจำน เวลำ ๓ ชว่ั โมง
๒. กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี
๓. คำ้ อธบิ ำยรำยวิชำ
เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษารายละเอียดเก่ียวกับส่วนผสมของน้ายาล้างจานสมุนไพร สามารถนามาเป็น
ส่วนผสมในการทาน้ายาล้างจานเพ่ือเป็นการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวนั กอ่ ให้เกิดความสุขการทาน้ายาล้างจานจากพืชสมนุ ไพรไวใ้ ชเ้ องไดเ้ ป็นการปลูกจิตสานึกในด้าน
คุณธรรมด้านการประหยัด ความขยันหมั่นเพียร ความซ่ือสัตย์สุจริต การพ่ึงตนเองและความเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่
เพอื่ ใชเ้ ปน็ หลกั ปฏบิ ัตใิ นการดารงชีวติ ทัง้ นเี้ พอ่ื นาผลผลิตทไ่ี ดแ้ ละประสบการณจ์ ากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจาวันในโอกาสต่อไป หรือสามารถทาเพื่อนาไปจาหน่ายซ่ึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการประกอบ
อาชีพ
๔. ผลกำรเรยี นรทู้ คี่ ำดหวงั
- มีความรู้ ความเขา้ ใจ และมีเจตคตทิ ด่ี ใี นงานอาชพี มองเหน็ ชอ่ งทางและการตดั สินใจในการ
ประกอบอาชีพไดต้ ามความต้องการและศกั ยภาพของตนเอง
- เลือกใช้พชื สมนุ ไพรในการทานา้ ยาลา้ งจานทเ่ี หมาะสม
- มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในอาชพี ท่ีตัดสินใจเลอื ก
- มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในการจัดการอาชีพ อยา่ งมีคณุ ธรรม
- วิเคราะห์คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ขอ้ ท่ี ๕ อยูอ่ ย่างพอเพยี งได้
๕. สำระกำรเรียนรู้
- ศึกษารายละเอยี ดเกี่ยวกบั สว่ นผสมของนา้ ยาลา้ งจานสมุนไพร
- ศึกษาเขา้ ใจถึงพชื สมุนไพรชนิดตา่ ง ๆทสี่ ามารถนามาเป็นส่วนผสมในการทาน้ายาล้างจาน
- ขน้ั ตอนวิธีการทาน้ายาล้างจานและสามารถทานา้ ยาล้างจานไวใ้ ช้เองได้
- เป็นการปลูกจิตสานึกในด้านคณุ ธรรมด้านการประหยดั ความขยันหมนั่ เพยี ร ความซ่อื สัตย์สจุ รติ
การพงึ่ ตนเองและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผเ่ พื่อใชเ้ ปน็ หลักปฏิบตั ิในการดารงชวี ิต
๖. กำรบรู ณำกำรกบั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๑. ควำมพอประมำณ
๑.๑ นักเรยี นได้สารวจความร้ขู องตนเองเกยี่ วกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจา้ อยูห่ วั ในการพัฒนาท้องถน่ิ และพสกนกิ รใหย้ ั่งยืนและสมดุล
๑.๒ นักเรยี นไดเ้ ขา้ ใจสภาพการใชท้ รพั ยากรของตนเอง ครอบครวั และชุมชน เพ่อื ประมาณตน
ได้ถกู ตอ้ ง
๒. ควำมมเี หตผุ ล
๒.๑ การปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงจะทาให้รู้จกั ใชเ้ หตุผลในการวางแผน และการ
ปฏบิ ตั ิตนเอง ใชค้ วามรทู้ างหลักวิชาการด้วยความร้จู รงิ รอบคอบ ไม่เบียดเบียนผ้อู ืน่ และสงิ่ แวดลอ้ ม
๓. กำรมภี ูมคิ ุ้มกันในตวั ทด่ี ี
๓.๑ ตระหนกั ถงึ ความเปล่ียนแปลงตา่ งๆท่เี กิดข้นึ ในชวี ิตประจาวัน จะได้ไม่ประมาท ไม่ดาเนิน
ชวี ิตด้วยความเส่ียง มีการเรยี นร้อู ย่างตอ่ เนอ่ื งเพอ่ื ให้รู้เท่าทันการเปลย่ี นแปลง และพฒั นาตนเองให้มคี วาม
พอเพียงยง่ิ ๆข้ึน
๔. เงื่อนไขควำมรู้
๔.๑ เข้าใจความหมายและหลักคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอยา่ งถกู ตอ้ ง
๔.๒ รอบรเู้ กี่ยวกบั ความสาคญั ของทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม และ
๔.๓ รอบคอบในการใช้ทรพั ยากรตา่ งๆอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
๕. เงอ่ื นไขคณุ ธรรม
๕.๑ ความอดทน ความเพียร ความประหยัด และอดออม ความจงรักภกั ดี การรักษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม
๗. สมรรถนะสำ้ คญั
- ความสามารถในการใชส้ ื่อ
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแกป้ ญั หา
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
๘. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
- อยู่อยา่ งพอเพยี ง
- ใฝเ่ รยี นรู้
- ม่งุ ม่ันในการทางาน
๙. ภำระงำน/ชนิ งำน
- ใบงาน
- ศึกษาสมนุ ไพรทีเ่ ปน็ ส่วนประกอบ
- เขยี นขน้ั ตอนวิธกี ารทานา้ ยาล้างจาน
- นา้ ยาลา้ งจานสมนุ ไพร
๑๐. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ขนั นำ้
- ครูอธิบายถึงกระบวนการขั้นตอนวิธีการทาน้ายาล้างจานและสามารถทาน้ายาล้างจานไวใ้ ช้
เองในครวั เรอื นถือเปน็ การลดรายจ่ายในครวั เรอื น
ขันสอน
- ครเู ปน็ ผคู้ อยแนะนานกั เรยี น และสอนนักเรยี นด้วยวธิ กี ารสาธิตขั้นตอนวิธีการทาน้ายาล้าง
จาน เพอ่ื จะใหน้ ักเรียนไดล้ งมอื ปฏิบตั เิ กดิ ประสบการณ์จรงิ และมที ักษะในการทานา้ ยาล้างจานสมนุ ไพร โดย
ผลิตไวเ้ พ่อื ใช้ในครัวเรอื นถือเป็นการลดรายจ่าย ประหยดั ค่าใชจ้ า่ ย
ขนั สรปุ
- ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เกี่ยวกับกระบวนการข้นั ตอนวิธกี ารทาน้ายาล้างจาน
สมุนไพรที่นาที่สามารถนามาทาเป็นน้ายาล้างจานสมุนไพร เป็นสมุนไพรชนิดใด และนักเรียนได้รับความรู้
ประโยชน์ตา่ ง ๆ ของสมนุ ไพรนอกเหนอื จากการนามาทาน้ายาล้างจานสมนุ ไพร
สอ่ื
- ภาพกระบวนการทาน้ายา
- ภาพผลติ ภณั ฑน์ า้ ยาล้างจานจากสมุนไพร
เกณฑก์ ำรวดั ผลประเมินผล
วิธีกำร เคร่อื งมอื เกณฑก์ ำรประเมิน
๑.นกั เรยี นนาเสนอ - ภาพกระบวนการทาน้ายา ระดับคณุ ภาพ
หลักการดาเนินชวี ิต - ภาพผลติ ภัณฑน์ า้ ยาลา้ งจาน ดี : สรุปความรเู้ ก่ียวกบั กระบวนการ
เชน่ การมคี ณุ ธรรม จากสมุนไพร ข้นั ตอนวธิ กี ารทาน้ายาลา้ งจานสมนุ ไพรท่ี
การประหยดั นาทสี่ ามารถนามาทาเปน็ น้ายาล้างจาน
สมุนไพร เป็นสมุนไพรชนดิ ใด และนกั เรียน
ไดร้ ับความรู้ประโยชนต์ า่ ง ๆ ของสมุนไพร
นอกเหนือจากการนามาทาน้ายาล้างจาน
สมนุ ไพร
ปำนกลำง : สรปุ ความรเู้ ก่ียวกับ
กระบวนการขั้นตอนวธิ กี ารทาน้ายาลา้ ง
จานสมนุ ไพรทนี่ าท่สี ามารถนามาทาเปน็
นา้ ยาล้างจานสมุนไพร เปน็ สมนุ ไพรชนดิ ใด
ต้องปรับปรงุ : ไม่สามารถสรปุ ความรู้
เกย่ี วกบั กระบวนการขนั้ ตอนวิธีการทา
นา้ ยาล้างจานสมุนไพรได้
ระดบั คณุ ภำพ
ดี : ได้คะแนน ๙ – ๑๐
ปานกลาง : ไดค้ ะแนน ๘ – ๖
ตอ้ งปรบั ปรุง : ได้คะแนนต่ากวา่ ๕
กจิ กรรมเสนอแนะ
๑. นกั เรยี นศึกษาหาขอ้ มลู ของชมุ ชนทพ่ี ฒั นาบนพน้ื ฐานหลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๒. นกั เรยี นสามารถค้นควา้ เพม่ิ เตมิ เทคนคิ ตา่ ง ๆ ไดจ้ ากอนิ เตอรเ์ น็ต
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรื่อง น้ำยำลำ้ งจำนสมุนไพร เวลำ ๑๐ ช่วั โมง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑. แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี ๕ เรือ่ ง กำรสรปุ ผลและน้ำเสนอ เวลำ ๒ ชั่วโมง
๒. กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี
๓. ค้ำอธบิ ำยรำยวิชำ
เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษารายละเอียดเก่ียวกับส่วนผสมของน้ายาล้างจานสมุนไพร สามารถนามาเป็น
ส่วนผสมในการทาน้ายาล้างจานเพ่ือเป็นการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวันกอ่ ให้เกิดความสุขการทาน้ายาล้างจานจากพืชสมนุ ไพรไวใ้ ช้เองได้เป็นการปลกู จิตสานกึ ในด้าน
คุณธรรมด้านการประหยัด ความขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์สุจริต การพ่ึงตนเองและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
เพ่อื ใชเ้ ป็นหลกั ปฏบิ ตั ใิ นการดารงชวี ติ ทั้งนเ้ี พอ่ื นาผลผลิตที่ไดแ้ ละประสบการณจ์ ากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจาวันในโอกาสต่อไป หรือสามารถทาเพ่ือนาไปจาหน่ายซึ่งเป็นอีกหน่ึงทางเลือกในการประกอบ
อาชีพ
๔. ผลกำรเรียนรทู้ ค่ี ำดหวัง
- มีความรู้ ความเข้าใจ และมีเจตคติที่ดีในงานอาชีพ มองเหน็ ชอ่ งทางและการตดั สินใจในการ
ประกอบอาชีพได้ตามความต้องการและศักยภาพของตนเอง
- เลอื กใชพ้ ชื สมนุ ไพรในการทาน้ายาล้างจานที่เหมาะสม
- มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะในอาชพี ทต่ี ัดสินใจเลือก
- มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในการจัดการอาชีพ อยา่ งมคี ณุ ธรรม
- วิเคราะห์คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ขอ้ ที่ ๕ อยู่อย่างพอเพียงได้
๕. สำระกำรเรียนรู้
- ศกึ ษารายละเอยี ดเก่ยี วกับสว่ นผสมของนา้ ยาล้างจานสมุนไพร
- ศกึ ษาเขา้ ใจถึงพชื สมุนไพรชนิดต่าง ๆท่สี ามารถนามาเป็นส่วนผสมในการทาน้ายาล้างจาน
- ขั้นตอนวิธีการทานา้ ยาลา้ งจานและสามารถทานา้ ยาล้างจานไว้ใช้เองได้
- เปน็ การปลกู จิตสานกึ ในด้านคณุ ธรรมด้านการประหยัด ความขยนั หมน่ั เพียร ความซ่ือสตั ยส์ ุจรติ
การพ่ึงตนเองและความเอื้อเฟือ้ เผอื่ แผ่เพ่อื ใชเ้ ป็นหลกั ปฏบิ ตั ิในการดารงชวี ติ
๖. กำรบรู ณำกำรกบั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๑. ควำมพอประมำณ
๑.๑ นักเรยี นได้สารวจความรู้ของตนเองเกย่ี วกบั พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจ้าอยหู่ วั ในการพฒั นาทอ้ งถิ่น และพสกนิกรใหย้ ง่ั ยืนและสมดุล
๑.๒ นกั เรยี นได้เข้าใจสภาพการใช้ทรพั ยากรของตนเอง ครอบครวั และชมุ ชน เพ่อื ประมาณตน
ได้ถกู ตอ้ ง
๒. ควำมมีเหตผุ ล
๒.๑ การปฏิบัตติ นตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี งจะทาให้รู้จกั ใชเ้ หตผุ ลในการวางแผน และการ
ปฏิบัติตนเอง ใช้ความรู้ทางหลักวชิ าการด้วยความรจู้ ริง รอบคอบ ไมเ่ บยี ดเบยี นผอู้ ่ืนและสิ่งแวดล้อม
๓. กำรมภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี
๓.๑ ตระหนักถึงความเปลยี่ นแปลงต่าง ๆทเ่ี กดิ ขึ้นในชวี ิตประจาวัน จะไดไ้ มป่ ระมาท ไมด่ าเนนิ
ชวี ติ ด้วยความเสย่ี ง มีการเรียนรู้อย่างตอ่ เนื่องเพอื่ ใหร้ เู้ ท่าทนั การเปลยี่ นแปลง และพฒั นาตนเองให้มีความ
พอเพียงยิ่งๆข้ึน
๔. เงื่อนไขควำมรู้
๔.๑ เข้าใจความหมายและหลกั คิดปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอยา่ งถกู ตอ้ ง
๔.๒ รอบรเู้ กี่ยวกบั ความสาคัญของทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม และ
๔.๓ รอบคอบในการใช้ทรัพยากรต่าง ๆอย่างมีประสทิ ธิภาพ
๕. เงอ่ื นไขคณุ ธรรม
๕.๑ ความอดทน ความเพยี ร ความประหยัด และอดออม ความจงรักภักดี การรกั ษ์สง่ิ แวดล้อม
๗. สมรรถนะสำ้ คญั
- ความสามารถในการใชส้ ่อื
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
๘. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- อยอู่ ย่างพอเพยี ง
- ใฝเ่ รียนรู้
- มงุ่ มั่นในการทางาน
๙. ภำระงำนชนิ งำน/
- ใบงาน
- ศกึ ษาสมุนไพรท่ีเป็นสว่ นประกอบ
- เขียนข้นั ตอนวธิ ีการทาน้ายาล้างจาน
- น้ายาล้างจานสมนุ ไพร
๑๐. กิจกรรมกำรเรยี นรู้
ขนั น้ำ
- ครอู บรมให้ความรูแ้ กน่ ักเรยี นในการดาเนนิ ชวี ติ ปลูกจิตสานึกในดา้ นคุณธรรมด้านการ
ประหยดั ความขยนั หมัน่ เพยี ร ความซือ่ สตั ยส์ ุจริต การพง่ึ ตนเองและความเอ้ือเฟื้อเผอ่ื แผ่เพ่อื ใชเ้ ปน็ หลัก
ปฏิบตั ิในการดารงชีวิต
ขันสอน
- นกั เรยี นมีคุณธรรมประหยัดอดออม ความขยนั หม่ันเพียร ความซือ่ สัตย์สจุ รติ และมีจิต
สาธารณะ
ขนั สรปุ
- นกั เรยี นนาน้ายาลา้ งจานสมุนไพร มาประยุกต์ ในการดาเนินชีวติ เช่น คุณธรรมดา้ นการ
ประหยัด ความขยันหม่นั เพยี ร ความซ่ือสตั ย์สจุ รติ การพึ่งตนเองและความเอื้อเฟือ้ เผอื่ แผเ่ พอ่ื ใช้เป็นหลัก
ปฏบิ ตั ใิ นการดารงชวี ติ ทที่ าใหต้ นเอง ครอบครัว มีเงนิ ออมไมเ่ ดือดร้อน
สอ่ื
- ภาพกจิ กรรมในการทาความดี
- ภาพผลของการทาความดี
เกณฑก์ ำรวดั ผลประเมนิ ผล
วธิ กี ำร เคร่อื งมอื เกณฑก์ ำรประเมนิ
ภาพกจิ กรรมในการทาความดี
๑.นกั เรยี นนาเสนอ ระดับคณุ ภาพ
หลกั การดาเนนิ ชวี ติ ดี : นกั เรยี นนาน้ายาล้างจานสมนุ ไพร
เช่น การมคี ุณธรรม มาประยุกต์ ในการดาเนนิ ชีวติ เช่น
การประหยดั การประหยัด ด้านคุณธรรม ความ
ขยันหมนั่ เพยี ร ความซอื่ สัตยส์ จุ ริต
การพง่ึ ตนเองและความเอ้ือเฟ้ือเผือ่ แผเ่ พ่อื
ใช้เป็นหลกั ปฏบิ ัติในการดารงชวี ติ ทท่ี าให้
ตนเอง ครอบครวั มีเงินออมไม่เดอื ดรอ้ น
ปำนกลำง : นกั เรียนนาน้ายาลา้ งจาน
สมนุ ไพรมาประยุกต์ ในการดาเนินชีวิต
เช่น การประหยัด ด้านคณุ ธรรม
ความขยนั หมน่ั เพียร ความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ
ต้องปรับปรุง : ไมส่ ามารถบอกหลกั ในการ
ดาเนินชีวิต เช่น การทาความดี การ
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
ระดบั คณุ ภำพ
ดี : ไดค้ ะแนน ๙ – ๑๐
ปานกลาง : ได้คะแนน ๘ – ๖
ต้องปรบั ปรงุ : ไดค้ ะแนนตา่ กวา่ ๕
กจิ กรรมเสนอแนะ
๑. นกั เรยี นศึกษาหาขอ้ มลู ของชมุ ชนทพ่ี ฒั นาบนพน้ื ฐานหลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๒. นกั เรยี นสามารถค้นควา้ เพม่ิ เตมิ เทคนคิ ตา่ ง ๆ ได้จากอนิ เตอรเ์ น็ต
บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้
รำยวชิ ำ ........................................................ระดบั กำรศึกษำ........................................................................
หนว่ ยที่........ ................... ..................เรอ่ื ง....................................................................................................
ครูผสู้ อน ………………………………….………………….โรงเรยี น……………………………………………………………………..
ผลทเี่ กดิ ขนึ กบั ผ้เู รียน
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
................…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ปญั หำและอปุ สรรค
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
ลงชื่อผ้บู ันทกึ ...................................................................
(……............................................................)
…………../……………………./………………..
นำ้ ยำล้ำงจำนสมุนไพร
วสั ดุ – อปุ กรณ์
๑. N๗๐ ๑ กิโลกรัม
๒. นา้ สมนุ ไพรรสเปรีย้ ว (มะนาว มะกรดู ) ๑ กโิ ลกรมั
๓. เกลือ ๑ กโิ ลกรัม
๔. นา้ สะอาด ๑๐ กิโลกรมั
๕. น้าดอกอญั ชัน ๑ กิโลกรมั
๖. น้าตะไคร้ ๑ ขวด
๗. ถงั สใี บใหญ่ ๑ ใบ
๘. ไม้พาย ๑ อนั
๙. กะละมงั ๔ ใบ
๑๐. แกลลอนพลาสตกิ ๕ ใบ
๑๑. ผา้ ขาวบาง ๑ ผนื
๑๒. มีด ๑ เล่ม
ขนั ตอนและวธิ ดี ำ้ เนนิ งำน
๑. นามะนาว ๑๐ – ๒๐ ลูก มาหน่ั เปน็ ช้ินเลก็ ๆ
๒. นามะกรดู ทห่ี นั่ แลว้ มาตม้ กับน้า ๑ กิโลกรัม แลว้ มาคนั้ และกรองเอาแต่น้า
๓. เตรียมนา้ เกลือ นาเกลอื ๑ กิโลกรมั มาตม้ หรือคนกับนา้ ใหล้ ะลายโดยใชน้ า้ ๒ กโิ ลกรัม
๔.การเตรยี มสจี ากดอกอัญชนั นาดอกอญั ชนั สดหรือแหง้ มาต้มกบั น้า 1กิโลกรัม ดอกอญั ชันใชต้ าม
ความต้องการวา่ จะให้สีของน้ายาล้างจานออกมามสี เี ข้มขนาดไหน) คน้ั และกรองเอาแตน่ ้า
๕. เท N๗๐ ใส่ภาชนะที่เตรียมไว้คนไปทางเดยี วกันจนเป็นครมี ขาวข้น
๖.จากนั้นค่อยๆ เทนา้ เกลอื ลงไป(ทลี ะนอ้ ย) จนหมด แล้วคนให้เข้ากนั
เมอื่ น้าเกลือกับ N70 เขา้ กนั ดแี ล้วเทนา้ สมุนไพรลงไป(ทลี ะนอ้ ย)จนหมด แล้วคนใหเ้ ขา้ กัน
เมอ่ื สว่ นผสมเข้ากนั ดีแล้วใหเ้ ตมิ นา้ 10 กโิ ลกรัม แลว้ คนใหเ้ ข้ากนั
๗. จากนั้นใส่สดี อกอัญชนั (ทีละนอ้ ย) แลว้ คนใหเ้ ข้ากนั ตงั้ ท้งิ ไว้หนึ่งคืนเพ่อื ใหฟ้ องหา
ไป แลว้ จงึ บรรจุขวดเพ่อื น้าไปใช้งานจากสูตรนถี้ า้ ต้องการให้น้ายามีความขน้ มากกว่านี้ให้ลด
ปริมาณน้าไดต้ ามต้องการ
ผลกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มูล
สมนุ ไพรนอกจากจะไม่ทาใหส้ ภาพแวดลอ้ มเปน็ พษิ ยงั ออ่ นโยนตอ่ มือของผใู้ ชอ้ ีกดว้ ย ผูใ้ ช้ไมต่ อ้ ง
กังวลเรื่องสารเคมแี รงๆ ยง่ิ ไปกวา่ นนั้ ผลิตภัณฑท์ ่ใี ช้สารสงั เคราะหส์ ่วนใหญ่จะใส่ขผ้ี ึง้ สารขจัดคราบและ
ซิลิโคนเข้าไปมากเกนิ ไป ทาให้ไมส่ ามารถลา้ งออกหมด สว่ นสารสกัดจากดอกไม้และพชื เช่น มะนาว ตะไคร้
อญั ชัน สามารถขจดั คราบ ดับกลิน่ คาวและสามารถล้างออกได้ง่าย
เมอ่ื นาเอานา้ ยาลา้ งจานสมนุ ไพร ทีเ่ ราได้ผลิตขนึ้ น้นั ไปล้างจานชามท่ีเราใชบ่ รรจุอาหารแลว้ ผล
ปรากฏว่าจานชามทม่ี สี ิง่ สกปรกตดิ อยู่สะอาดข้นึ ไม่มคี ราบมนั และไมม่ ีกลนิ่ คาว ซงึ่ เปน็ ผลทน่ี า่ พอใจอยา่ ง
มาก
อภิปรำยและสรุปผล
จากการท่ีเราไดศ้ ึกษาและได้ทาการผลิตน้ายาลา้ งจานจากมะกรดู ออกมาใช้นั้น นา้ ยาลา้ งจาน
สมุนไพรมีประสทิ ธิภาพในการชาระสิ่งสกปรก ซง่ึ น้ามะนาวมีปฏิกริ ยิ ากบั ไขมัน จงึ ช่วยขจัดคราบมันและกล่นิ
คาว เกลอื ชว่ ยขจัดสิ่งสกปรก สว่ นหัวเชือ้ N๗๐ ชว่ ยใหน้ ้ายาล้างจานของเรามฟี องน่าใช้ ตะไคร้ชว่ ยให้ความ
หอมและนา้ อญั ชันช่วยใหส้ ีสันท่ีสวยงาม ดังนั้นนา้ ยาลา้ งสมนุ ไพรท่ีเราผลติ ข้ึนนี้จึงเป็นผลติ ภณั ฑ์ทาความ
สะอาดทางเลือกใหม่ทด่ี อี ีกทางหน่ึง ซ่ึงประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยและทาจากสมนุ ไพร
ขอ้ เสนอแนะ
๑.หัวเชือ่ N๗๐ ทีน่ ามาเปน็ วตั ถุดบิ ในการทาน้ายาลา้ งจานนสี้ ามารถหาซือ้ ได้ท่ี ธนาคารเพอ่ื
การเกษตรและสหกรณ(์ .ธ.ก.ส)
ขอ้ ควรระวัง
๑. ห้ามรับประทาน
๒. ระวังอย่าใหน้ ้ายาเขา้ ตา
๓. ห้ามทง้ิ ภาชนะท่ีใช้หมดแล้วลงในแม่น้าลาคลองหรือแหล่งนา้ สาธารณะ
๔. ผทู้ ีแ่ พส้ ารเคมีงา่ ยควรสวมถงุ มอื ยาง
๕. น้ายาล้างจานทกุ ชนิดมสี ารเคมีผสมอยดู่ ้วย ดงั น้ันควรลา้ งจานดว้ ยน้าสะอาดและควรล้างจน
ม่นั ใจว่าไมม่ นี า้ ยาตกคา้ งอยูใ่ นจาน ชามอีก
วธิ ีกำรใช้
๑.ใชน้ ้ายาลา้ งจาน ๑ ช้อนชา ผสมน้า ๒ ลติ ร ลา้ งภาชนะตามปกติ
๒.ลา้ งออกด้วยน้าสะอาด
๓.ถา้ ภาชนะสกปรกมากให้ใช้นา้ ยาในอัตราส่วน ๑ ช้อนชาต่อน้า ๑ ลิตร
วิธีกำรเกบ็ รกั ษำ
ควรเก็บในทีม่ ดิ ชิด ห่างจากมอื เด็ก อาหารและสัตว์เลี้ยง
ประโยชน์
น้ายาล้างจานช่วยขจัดคราบมนั คราบอาหารแหง้ กรัง และกลน่ิ คาวตา่ ง ๆทต่ี ิดจาน ชาม
กำรประเมนิ รำคำผลงำน (จะต้องค้ำนวณรำคำทุน กำ้ ไร รำคำขำย)
การคดิ ราคาคานวณ ผขู้ ายจะต้องคิดจากราคาสินค้าทงั้ หมดรวมกับคา่ สกึ หรอของเครื่องใช้ คา่ แรง ค่า
ขนส่ง คา่ พาหนะ คา่ น้าค่าไฟ
การคดิ กาไร ขึ้นอยกู่ บั ความตอ้ งการของผูผ้ ลิต เชน่ กาไร 40/50/หรอื 60/
การกาหนดราคาขาย จะตอ้ งคดิ ตน้ ทุนทัง้ หมดบวกด้วยกาไรที่ต้องการ ที่จะเป็นราคาขาย
คำ้ ถำมชวนคดิ
1. การใช้มะนาวผสมในการทานา้ ยาล้างจานมผี ลดีอย่างไร
2. การทาน้ายาลา้ งจานใช้เองช่วยรกั ษาสภาพแวดลอ้ มอย่างไร
บูรณำกำรกบั กล่มุ สำระ
1. กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การช่งั ตวง
2. กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง สารเคมีในชวี ิตประจาวัน