The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วันสำคัญทางศาสนา (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 621011263, 2022-09-15 13:38:43

วันสำคัญทางศาสนา (1)

วันสำคัญทางศาสนา (1)

วันสำคัญ

ทางศาสนาพุทธ

คำนำ

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เรื่องวันสำคัญทางศาสนาได้จัดทำโดยมี
จุดประสงค์เพื่อสร้างการเรียนการสอนที่มีเนื้อหาเเละรูปภาพประกอบอย่าง
เหมาะสม สามารถสร้างองค์ความรู้ได้อย่างครบถ้วน ภายในหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อหาของ วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา
วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา

ทางคณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้
จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน สามารถนำไปเป็นสื่อประกอบการเรียนรู้ เเละ
ใช้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับวันสำคัญทางศาสนาได้ หากมีข้อผิดพลาด
ประการใดต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย

คณะผู้จัดทำ

สารบัญ

เรื่อง หน้า
วันมาฆบูชา 1
วันวิสาขบูชา 2
วันอัฏฐมีบูชา 3
วันอาสาฬหบูชา 4
วันเข้าพรรษา 5
วันออกพรรษา 6
เเบบทดสอบหลังเรียน 7-10
เฉลย 11
บรรณานกรรม 12

วันมาฆบูชา

"มาฆะ" เป็นชื่อของเดือน ๓ มาฆบูชานั้น ย่อมาจากคำว่า"มาฆบุรณมี" แปล
ว่าการบูชาพระในวันเพ็ญเดือน ๓ วันมาฆบูชาจึงตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓
แต่ถ้าปีใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน ๘ สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวัน
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ในวันพุทธศาสนา คือวันที่มีการ
ประชุมสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพุทธศาสนา ที่เรียกว่า "จาตุรงคสันนิบาต" และ
เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง

โอวาทปฎิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวกเป็นครั้งแรก ณ เวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์
เพื่อให้พระสงฆ์นำไปประพฤติปฏิบัติเพื่อจะยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อ
ไป

วันวิสาขบูชา

ความหมาย คำว่า "วิสาขบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบูชา ย่อมาจาก " วิสาขปุ
รณมีบูชา " แปลว่า " การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ " ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน ก็
เลื่อนไปเป็นกลาง เดือน ๗

ความสำคัญ : วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้า
ประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง ๓ คราวการประกอบพิธีในวัน
วิสาขบูชาในประเทศไทย จึงได้รื้อฟื้นให้มีขึ้นอีกครั้งหนึ่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นภาลัย รัชกาลที่ ๒ และถือปฏิบัติมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน

การจัดงานเฉลิมฉลองในวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกยุคทุกสมัย คงได้แก่การจัดงานเฉลิมฉลอง
วันวิสาขบูชา พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งทางราชการเรียกว่างาน " ฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ " ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง
๑๘ พฤษภาคม รวม ๗ วัน ได้จัดงานส่วนใหญ่ขึ้นที่ท้องสนามหลวง ส่วนสถานที่ราชการ และวัด
อารามต่างๆ ประดับธงทิวและโคมไฟสว่างไสวไปทั่วพระ ราชอาณาจักร ประชาชนถือศีล ๕ หรือศีล ๘
ตามศรัทธาตลอดเวลา ๗ วัน มีการอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์รวม ๒,๕๐๐ รูป ประชาชน งดการฆ่าสัตว์
และงดการดื่มสุรา ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๔ พฤษภาคม รวม ๓ วัน มีการก่อสร้าง พุทธมณฑล จัด
ภัตตาหาร เลี้ยงพระภิกษุสงฆ์วันละ ๒,๕๐๐ รูป ตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารแก่ประชาชน วันละ
๒๐๐,๐๐๐ คน เป็นเวลา ๓ วัน ออกกฎหมาย สงวนสัตว์ป่าในบริเวณนั้น รวมถึงการฆ่าสัตว์ และจับ
สัตว์ในบริเวณวัด และหน้าวัดด้วย และได้มีการปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่ อย่างพร้อมเพรียงกัน
เป็นกรณีพิเศษ ในวันวิสาขบูชาปีนั้นด้วย

วันอัฏฐมีบูชา

ประวัติความเป็นมา : เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว ๘ วัน มัลลกษัตริย์แห่งนครกุสิ
นารา พร้อมด้วยประชาชน และพระสงฆ์อันมีพระมหากัสสปเถระเป็นประธาน ได้พร้อมกันกระทำ
การถวายพระเพลิงพุทธสรีระ ณ มกุฏพันธนเจดีแห่งกรุงกุสินารา วันนั้นเป็นวันหนึ่งที่ชาวพุทธ
ต้องมีความสังเวชสลดใจ และวิปโยคโศกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะการสูญเสียแห่งพระพุทธสรีระ
เมื่อวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ ซึ่งนิยมเรียกกันว่าวันอัฏฐมีนั้นเวียนมาบรรจบแต่ละปี
พุทธศาสนิกชนบางส่วน โดยเฉพาะพระสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาแห่งวัดนั้น ๆ ได้พร้อมกัน
ประกอบพิธีบูชาขึ้น เป็นการเฉพาะภายในวัด เช่นที่ปฏิบัติกันอยู่ในวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์
เป็นต้น แต่จะปฏิบัติกันมาแต่เมื่อใด ไม่พบหลักฐาน ปัจจุบันนี้ก็ยังถือปฏิบัติกันอยู่

ความสำคัญ : โดยที่วันอัฏฐมีคือวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ เป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญทาง
พระพุทธศาสนา ถือเป็นวันที่ตรงกับวันที่ตรงกับวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระเป็นวันที่ชาว
พุทธต้องวิปโยค และสูญเสียพระบรมสรีระแห่งองค์พระบรมศาสดา ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอย่าง
สูงยิ่ง และเป็นวันควรแสดงธรรมสังเวชและระลึกถึงพระพุทธคุณให้สำเร็จเป็นพุทธานุสสติภาวนา
มัยกุศล

วันอาสาฬหบูชา

วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ นับเป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา คือวันที่พระพุทธ
องค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ มฤคทายวัน ตำบล
อิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ด้วยพระพุทธองค์
ทรงเปรียบดังผู้ทรงเป็นธรรมราชา ก็ทรงบันลือธรรมเภรียังล้อแห่งธรรมให้หมุนรุดหน้า เริ่มต้นแผ่ขยาย
อาณาจักรแห่งธรรม นำความร่มเย็นและความสงบสุขมาให้แก่หมู่ประชา ดังนั้นธรรมเทศนาที่ทรงแสดงครั้ง
แรกจึงได้ชื่อว่า "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม หรือพระสูตรแห่งการแผ่
ขยายธรรมจักร

กล่าวคือดินแดนแห่งธรรม เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้วนั้น ชมพูทวีปในสมัยโบราณกำลังย่างเข้าสู่ยุคใหม่
แห่งความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองเฟื่องฟูทุกด้านและมีคนหลายประเภท ทั้งชนผู้มั่งคั่งร่ำรวย นักบวชที่พัฒนา
ความเชื่อและข้อปฏิบัติทางศาสนา เพื่อให้ผู้ร่ำรวยได้ประกอบพิธกรรมแก่ตนเต็มที่ ผู้เบื่อหน่ายชีวิตที่วน
เวียนในอำนาจและโภคสมบัติที่ออกบวช หรือบางพวกก็แสวงหาคำตอบที่เป็นทางรอกพ้นด้วยการคิดปรัชญา
ต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เหลือวิสัยและไม่อาจพิสูจน์ได้บ้าง พระพุทธเจ้าจึงทรงอุบัติในสภาพเช่นนี้ และดำเนิน
ชีพเช่นนี้ด้วยแต่เมื่อทรงพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นขาดแก่นสาน ไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง แก่
ตนเองและผู้อื่น จึงทรงคิดหาวิธีแก้ไขด้วยการทดลองต่าง ๆ โดยละทิ้งราชสมบัติ และอิสริยศแล้วออกผนวช
บำเพ็ญตนนานถึง ๖ ปี ก็ไม่อาจพบทางแก้ได้ ต่อมาจึงได้ทางค้นพบ มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง
เมื่อทรงปฏิบัติตามมรรคานี้ก็ได้ค้นพบสัจธรรมที่นำคุณค่า แท้จริงมาสู่ชีวิต อันเรียกว่า อริยสัจ ๔ ประการ
ในวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศก ๔๔ ปี ที่เรียกว่า การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นทรงงานประกาศ
ศาสนาโดยทรงดำริหาทางที่ได้ผลดีและรวดเร็ว คือ เริ่มสอนแก่ผู้มีพื้นฐานภูมิปัญญาดีที่รู้แจ้งคำสอนได้
อย่างรวดเร็วและสามารถนำไปชี้แจงอธิบาย ให้ผู้อื่นเข้ามาได้อย่างกว้างขวาง จึงมุ่งไปพบนักบวช ๕ รูป หรือ
เบญจวัคคีย์ และได้แสดงธรรม เทศนาเป็นครั้งแรกในวันเพ็ญ เดือน ๘

วันเข้าพรรษา

“เข้าพรรษา” แปลว่า “พักฝน” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่ง
ระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาลมีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่
พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน
ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบ
การจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ
เดือน 8 ของทุกปี ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง
และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เว้นแต่มีกิจธุระเจ้าเป็นซึ่งเมื่อเดินทางไปแล้วไม่
สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืนเรียกว่า
สัตตาหะ หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์ แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด

วันออกพรรษา

วันออกพรรษา คือ วันสิ้นสุดระยะการจำพรรษา หรือออกจากการอยู่ประจำที่ในฤดูฝนซึ่ง
ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑

วันออกพรรษานี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" คำว่า "ปวารณา" แปลว่า
"อนุญาต" หรือ "ยอมให้" คือ เป็นวันที่เปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ด้วยกันว่ากล่าวตักเตือนกัน
ได้ ในข้อที่ผิดพลั้งล่วงเกินระหว่างที่จำพรรษาอยู่ด้วยกัน

ในวันออกพรรษานี้กิจที่ชาวบ้านมักจะกระทำก็คือ การบำเพ็ญกุศล เช่น ทำบุญตักบาตร
จัดดอกไม้ ธูป เทียน ไปบูชาพระที่วัด และฟังพระธรรมเทศนา ของที่ชาวพุทธนิยมนำไปใส่
บาตรในวันนี้ก็คือ ข้าวต้ม มัดไต้ และข้าวต้มลูกโยน และการร่วมกุศลกรรมการ "ตักบาตรเทโว"
คำว่า "เทโว" ย่อมาจาก"เทโวโรหน" แปลว่าการเสด็จจากเทวโลกการตักบาตรเทโว จึงเป็นการ
ระลึกถึงวันที่ พระพุทธองค์เสด็จกลับจากการโปรด พระพุทธมารดาในเทวโลก

เเบบทดสอบหลังเรียน

1) วันใดที่มีพระรัตนตรัยครบองค์สาม

ก.วันอาสาฬหบูชา
ข.วันมาฆบูชา
ค.วันออกพรรษา
ง.วันเข้าพรรษา

2) ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวันเข้าพรรษา

ก.พระสงฆ์จะไม่ไปค้างแรมที่อื่นเป็นเวลา 3เดือน
ข.ตรงกับฤดูฝนการเดินทางไม่สะดวก
ค.พระสงฆ์เหยียบย่ำพืชผลของชาวนา
ง.เป็นการหยุดพักผ่อนของพระสงฆ์




3) วันใดที่ไม่มีการเดินเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ

ก.วันออกพรรษา
ข.วันมาฆบูชา
ค.วันวิสาขบูชา
ง.วันอาสาฬหบูชา

เเบบทดสอบหลังเรียน

4) เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ เรียกว่าอย่างไร
ก.ทุกข์
ข.สมุทัย
ค.นิโรธ
ง.มรรค

5) วันออกพรรษาตรงกับข้อใด
ก.15 ค่ำ เดือน 3
ข.15 ค่ำ เดือน 5
ค.15 ค่ำ เดือน 8
ง.15 ค่ำ เดือน 11




6) หลักธรรมที่พระพุทธเจ้ตรัสรู้ เรียกว่าอะไร
ก.อริยมรรค
ข.สังคหวัตถุ 4
ค.อริยสัจ 4
ง.โอวาทปาฏิโมกข์

เเบบทดสอบหลังเรียน

7) เข้าพรรษามีกำหนดระยะเวลานานกีเดือน
ก.3 เดือน
ข.4 เดือน
ค.5 เดือน
ง.6 เดือน

8) พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานที่เมืองใด
ก.สังกัสสนคร
ข.กุสินารา
ค.พาราณสี
ง.มัลละ

9) วันใดที่มีการแสดงโอวาทปาฏิโมกข์
ก.วันวิสาขบูชา
ข.วันเข้าพรรษา
ค.วันอาสาฬหบูชา
ง.วันมาฆบูชา

10) ธัมมจักกัปปวัตนสูตรเป็นหลักธรรมที่แสดงในวันใด
ก.วันเข้าพรรษา
ข.วันวิสาขบูชา
ค.วันออกพรรษา
ง.วันอาสาฬหบูชา



เฉลย

1. ก. อาสาฬหบูชา
2. ง. เป็นการหยุดพักผ่อนของพระสงฆ์
3. ก. วันออกพรรษา
4. ข. สมุทัย
5. ง. 15 ค่ำ เดือน 11
6. ค. อริยสัจ 4
7. ก. 3 เดือน
8. ข. กุสินารา
9. ง. วันมาฆบูชา
10. ง. วันอาสาฬหบูชา

บรรณานุกรม

วันสำคัญทางศาสนา [ออนไลน์] แหล่งที่มา
http://www.dhammathai.org/day/buddhismday.php [28สิงหาคม2565]


Click to View FlipBook Version