PA 1/ส
PA 1/ส
ขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน (PA)
สำหรับขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู
ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2566
ระหว่างวันท่ี 1 เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 30 เดือนกนั ยายน พ.ศ. 2566
ผจู้ ดั ทำข้อตกลง
ชื่อ นางสาวนัดดา นามสกุล รัตนพนั ธ์ ตำแหนง่ ครู
สถานศกึ ษา โรงเรียนวดั ลาดสนนุ่ สงั กัด สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2
รับเงินเดือนในอันดับ คศ. 1 อตั ราเงนิ เดือน 19,590 บาท
ประเภทหอ้ งเรียนท่ีจัดการเรยี นรู้
หอ้ งเรยี นวชิ าสามญั หรอื วชิ าพนื้ ฐาน
หอ้ งเรียนปฐมวยั
หอ้ งเรียนการศกึ ษาพิเศษ
หอ้ งเรียนสายวชิ าชพี
ห้องเรียนการศกึ ษานอกระบบ / ตามอัธยาศัย
ขา้ พเจา้ ขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน ตำแหน่งครู ซงึ่ เปน็ ตำแหน่ง
ทดี่ ำรงอยใู่ นปัจจุบนั กบั ผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ไวด้ ังต่อไปน้ี
สว่ นที่ 1 ขอ้ ตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2565
1. ภาระงาน จะมภี าระงานเป็นไปตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 18 ช่ัวโมง/สัปดาหด์ งั นี้
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- รายวิชาเทคโนโลยี (ว14101) ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
- รายวิชาเทคโนโลยี (ว15101) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จำนวน 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์
- รายวชิ าเทคโนโลยี (ว16101) ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 จำนวน 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
- รายวิชาแนะแนว ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 จำนวน 4 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
- รายวชิ าชมุ นมุ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์
PA 1/ส
- รายวิชาลูกเสอื เนตรนารี ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 จำนวน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนนุ การจัดการเรียนรู้ รวมจำนวน 3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์
- งานจัดทำส่อื การเรยี นรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานจดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การมสี ว่ นร่วมในชมุ ชนวชิ าชีพ (PLC) จำนวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์
1.3 งานพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา รวมจำนวน 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
- งานประชาสัมพนั ธ์ จำนวน 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์
- งานระบบประกนั คณุ ภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา จำนวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์
- งานอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
เข้ารว่ มโครงการโรงเรยี นคณุ ภาพ (SMT) ตามมาตรฐาน สสวท. ทส่ี อดคล้องกับ
นโยบายข้อท่ี 3 ด้านคุณภาพ ของสำนักงานคณกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.
2565 - 2566
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566
1. ภาระงาน จะมภี าระงานเป็นไปตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ช่วั โมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 18 ชวั่ โมง/สัปดาหด์ งั นี้
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- รายวชิ าเทคโนโลยี (ว14101) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
- รายวิชาเทคโนโลยี (ว15101) ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 จำนวน 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์
- รายวชิ าเทคโนโลยี (ว16101) ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 จำนวน 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน
- รายวชิ าแนะแนว ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 จำนวน 4 ช่ัวโมง/สปั ดาห์
- รายวชิ าชุมนุม ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 จำนวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์
- รายวิชาลูกเสือ เนตรนารี ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 จำนวน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนบั สนนุ การจดั การเรยี นรู้ รวมจำนวน 3 ช่วั โมง/สัปดาห์
- งานจัดทำส่อื การเรยี นรู้ จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
- งานจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
- การมีส่วนร่วมในชมุ ชนวิชาชพี (PLC) จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา รวมจำนวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์
- งานประชาสัมพนั ธ์ จำนวน 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
- งานระบบประกนั คณุ ภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานอาคารสถานที่และสภาพแวดลอ้ ม จำนวน 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
PA 1/ส
เขา้ ร่วมโครงการโรงเรยี นคุณภาพ (SMT) ตามมาตรฐาน สสวท. ท่สี อดคล้องกับ
นโยบายข้อท่ี 3 ด้านคณุ ภาพ ของสำนกั งานคณกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ปงี บประมาณ พ.ศ.
2565 - 2566
2. งานท่ีจะปฏิบตั ติ ามมาตรฐานตำแหนง่ ครู
ลกั ษณะงานท่ปี ฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตวั ช้วี ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหนง่ ท่จี ะดำเนินการพัฒนา ของงานตามขอ้ ตกลง ทจ่ี ะเกิดขนึ้ กับผู้เรยี น
ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ ท่ีคาดหวงั ใหเ้ กิดขึ้น ท่ีแสดงให้เห็นถึงการ
การประเมิน กบั ผ้เู รียน เปลย่ี นแปลงไปในทาง
ทดี่ ขี ้นึ หรอื มีการพฒั นา
มากข้นึ หรือผลสมั ฤทธิส์ ูงขน้ึ
1. ด้านการจดั การเรยี นรู้ 1. จัดทำหลกั สตู รกลมุ่ 1. นักเรียนไดเ้ รียนรู้ตรงตาม 1. นักเรียนรอ้ ยละ 80
ลักษณะงานท่ีเสนอให้ สาระการเรียนรู้ หลักสตู รตอ้ งรู้ หลักสตู ร มีความรู้ตามตัวชีว้ ัดท่ีตอ้ งร้ใู น
ครอบคลุมถึงการสรา้ งและหรอื วทิ ยาศาสตร์และ สมรรถนะและตวั ชวี้ ดั ท่ี รายวิชาเทคโนโลยี (วทิ ยาการ
พฒั นาหลักสตู รการออกแบบ เทคโนโลยี เพือ่ พฒั นา กำหนดอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ คำนวณ) กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์
การจัดการเรยี นรกู้ ารจดั ทักษะดา้ นการเขียน และเทคโนโลยี ชั้นป.5 ตรงตาม
กจิ กรรมการเรียนรกู้ ารสรา้ ง โปรแกรม 2. นกั เรยี นไดเ้ รียนรูต้ าม หลกั สูตรสมรรถนะทกี่ ำหนด
และหรือพฒั นาส่อื นวตั กรรม 2. ออกแบบหน่วยเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้รู ายวิชา 2. นกั เรยี นร้อยละ 80
รายวิชาเทคโนโลยี มีความรู้ตามหลักสตู ร
เทคโนโลยี และแหลง่ เรยี นรู้การ (วิทยาการคำนวณ) กลุม่ เทคโนโลยี (วทิ ยาการ ท่ีตอ้ งรตู้ ามตัวชวี้ ัด และ
วัดและประเมนิ ผลการจดั การ สาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละ คำนวณ) กลุ่มสาระ มีคณุ ลักษะอันพึงประสงค์
เรียนรกู้ ารศึกษา วเิ คราะห์ เทคโนโลยี ชนั้ ป.5 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ตามทก่ี ำหนดไว้
ชั้นป.5 ท่มี ีประสทิ ธภิ าพ
สงั เคราะห์เพอ่ื แก้ปัญหาหรือ 3. จดั ทำแผนการจดั การ 3. นักเรียนไดเ้ รยี นรู้ตาม 3. นักเรียนรอ้ ยละ 80
พัฒนาการเรยี นรู้การจัด เรียนรูร้ ายวิชาเทคโนโลยี แผนการจัดการเรยี นรู้ ไดเ้ รียนรู้อย่างมีความสขุ และมี
รายวชิ าเทคโนโลยี ความรตู้ ามตวั ชี้วัดตามหลกั สตู ร
บรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนา (วทิ ยาการคำนวณ) กลุ่ม (วิทยาการคำนวณ) กลุ่ม สมรรถนะ/หลักสตู รต้องรู้ และ
ผเู้ รียนและการอบรมและ
สาระวิทยาศาสตร์และ
พฒั นาคุณลกั ษณะทีด่ ขี อง เทคโนโลยี ชนั้ ป.5 สาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละ สง่ ผลใหม้ คี วามเขา้ ใจในเน้อื หาท่ี
ผู้เรยี น เทคโนโลยี ชั้นป.5 ท่มี ี ครูได้ทำการสอน
คณุ ภาพ และบนั ทกึ ผลหลัง
การสอนที่สะทอ้ นผลในการ
จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
4. ผลิตสือ่ การสอน ท้งั สอ่ื 4. นกั เรยี นได้รับการพัฒนา 4. นกั เรยี นร้อยละ 80 เกิดทกั ษะ
ออนไลน์ และสอ่ื ทำมอื ใน ในการเรยี นการสอนโดยใช้ 4 Cs คือ ทักษะการคดิ
รายวชิ าเทคโนโลยี สอ่ื ออนไลน์ และส่ือทำมือใน วจิ ารณญาณ (Critical Thinking)
(วิทยาการคำนวณ) กลุ่ม รายวิชาเทคโนโลยี ทกั ษะการทำงานร่วมกัน
(วทิ ยาการคำนวณ) กลุ่ม
PA 1/ส
ลักษณะงานที่ปฏบิ ตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตัวชว้ี ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหน่ง
ท่ีจะดำเนินการพฒั นา ของงานตามข้อตกลง ท่จี ะเกิดขน้ึ กบั ผเู้ รียน
ตามขอ้ ตกลง ใน 1 รอบ ทค่ี าดหวังใหเ้ กิดขน้ึ ท่แี สดงใหเ้ ห็นถึงการ
เปลี่ยนแปลงไปในทาง
การประเมนิ กับผเู้ รยี น ที่ดีขนึ้ หรือมีการพฒั นา
มากขึน้ หรอื ผลสัมฤทธสิ์ ูงข้นึ
สาระวิทยาศาสตร์และ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละ (Collaboration Skill) ทกั ษะการ
เทคโนโลยี ช้นั ป.5 เทคโนโลยี ชน้ั ป.5 ท่มี ี ส่อื สาร (Communication Skill)
ประสิทธิภาพ ทักษะความคดิ สร้างสรรค์
5. สร้างเครอ่ื งมอื วัด (Creative Thinking) ตามเกณฑ์
ประเมินผลการเรยี นรู้ 5. นกั เรยี นไดร้ บั การวดั ทกี่ ำหนดไว้สง่ ผลให้นักเรยี นมี
ตามมาตรฐาน และตวั ชี้วดั ประเมินผลโดยใช้เครอื่ งมือ ความเขา้ ใจและมีสมรรถนะตาม
รายวิชาตรงตามหลักสตู ร และแบบประเมินตาม ตัวช้ีวัดตรงตามหลักสตู ร
ที่ต้องรู้ ตวั ชว้ี ัด (หลกั สตู รตอ้ งรู้) ท่มี ี 5. นกั เรียนรอ้ ยละ 80
ประสทิ ธภิ าพและน่าเชือ่ ถอื มีผลสมั ฤทธิผ์ ่านตามเกณฑ์ท่ี
6. ศกึ ษาขอ้ มลู นกั เรยี น จดั เกบ็ ขอ้ มูลเปน็ ระบบ สถานศึกษากำหนดไวท้ ุกตัวช้ีวัด
เป็นรายบคุ คลเพอื่ หา 6. นักเรยี นไดร้ ับการ
แนวทางแกป้ ัญหาและ แก้ปญั หาโดย 6. นกั เรยี นรอ้ ยละ 80
จดั ทำวิจยั ในชัน้ เรยี น กระบวนการวิจยั ในชั้นเรยี น มีทักษะการคดิ เชงิ คำนวณผา่ น
7. จดั บรรยากาศในชน้ั เกณฑ์ตามทกี่ ำหนดไว้
เรยี นการสอน ใหเ้ ออื้ ตอ่ 7. นกั เรียนมีส่วนรว่ มในการ
การจัดกจิ กรรมภายใต้ชว่ ง จดั บรรยากาศในชัน้ เรียน 7. นักเรียนรอ้ ยละ 80
สถานการณ์ Covid-19 มีความพึงพอใจ และมี มีความสนใจ และกระตือรอื รน้ ใน
ความสขุ กับการเรยี น การรว่ มทำกิจกรรมสง่ ผลให้
8. สอดแทรกคณุ ธรรม นักเรียนมคี วามสขุ ในการเรียนรู้
จริยธรรม คุณลกั ษณะอัน 8. นักเรยี นมคี ณุ ลกั ษณะทดี่ ี สง่ ผลตอ่ การพฒั นาผลสัมฤทธิ์ของ
พงึ ประสงค์ ระหวา่ งการ ทงั้ ตอ่ ตนเองและผอู้ นื่ นักเรียนใหส้ ูงข้ึน
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ 8. นักเรยี นรอ้ ยละ 80 มคี ะแนน
ส่งเสริมคณุ ลกั ษณะทดี่ ี คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ตงั้ แต่
ของผเู้ รยี น เชน่ ความ ระดับดีข้นึ ไป
รับผดิ ชอบการสง่ งาน มี
ความซ่ือสตั ย์ สุจรติ มีวินยั
และมุง่ มัน่ ในการทำงาน
PA 1/ส
ลกั ษณะงานที่ปฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตัวชวี้ ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหนง่ ทจ่ี ะดำเนินการพัฒนา ของงานตามขอ้ ตกลง ทจ่ี ะเกิดขนึ้ กับผู้เรียน
ตามขอ้ ตกลง ใน 1 รอบ ที่คาดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ ทแ่ี สดงใหเ้ ห็นถึงการ
การประเมนิ กบั ผ้เู รียน เปล่ียนแปลงไปในทาง
ท่ดี ขี ้ึนหรือมกี ารพัฒนา
มากขึ้นหรอื ผลสัมฤทธ์สิ ูงข้ึน
2. ดา้ นการส่งเสรมิ และ 1. จดั ทำขอ้ มูลในระบบ 1. นักเรยี นมีระบบข้อมลู 1. นักเรยี นรอ้ ยละ 80
สนบั สนนุ การจดั การเรยี นรู้ สารสนเทศของนักเรียน สารสนเทศ สะดวกตอ่ การ มขี อ้ มลู ในระบบ สารสนเทศ
ลกั ษณะงานทเ่ี สนอให้ ชนั้ ป.5 และในรายวชิ าที่ ใชง้ านและมปี ระสิทธิภาพ ครบถว้ น ในทกุ ด้านเปน็ ระบบและ
ทำการสอน และสามารถนำข้อมลู มา รายบคุ คล
ครอบคลุมถงึ การจัดทำขอ้ มลู ใชไ้ ดท้ ันที
สารสนเทศของผู้เรียนและ 2. ติดตามการเรยี นท้งั ใน 2. นักเรยี นช้นั ป.5 มีขอ้ มูล 2. นกั เรยี นรอ้ ยละ 80 ไดร้ ับการ
รายวชิ าการดำเนนิ การตาม ชน้ั เรียนและทบี่ ้านของ พนื้ ฐานเป็นรายบคุ คล และ ดูแลเอาใจใสต่ รงตามความ
ระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรยี น การ นกั เรียน จากผู้ปกครอง ชว่ ยเหลอื ในเรื่องตา่ ง ๆ จาก ต้องการรายบุคคลและมี
ปฏิบัติงานวชิ าการและงานอ่ืน นักเรยี นป.5 ขอ้ มูลการสอบถามจาก ความสัมพนั ธ์อันดรี ะหว่างครแู ละ
ๆ ของสถานศึกษา และการ ผ่านแอพลเิ คชนั Line ผู้ปกครอง หาแนวทางการ นกั เรยี น
ประสานความร่วมมือกับ แก้ไขปญั หาดา้ นการเรยี น
ผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และ 3. โครงการตา่ ง ๆ 3. นกั เรียนได้เรยี นรู้ 3. นักเรยี นรอ้ ยละ 80 ไดร้ ับการ
หรอื สถานประกอบการ ทีไ่ ด้รบั มอบหมายตาม ในกจิ กรรมท่หี ลากหลาย พฒั นา มสี ่วนรว่ มในกิจกรรมทาง
ท่โี รงเรยี นแตง่ ตัง้ ตามโครงการและกิจกรรมท่ี วชิ าการที่โรงเรียนจัดขึ้น ไดร้ ับ
ใหร้ ับผดิ ชอบ จดั เกบ็ ทางโรงเรยี นได้กำหนดข้ึน ประโยชน์และมคี วามสขุ ในการ
ข้อมูลสารสนเทศของ ตลอดปกี ารศกึ ษา ร่วมกจิ กรรม
โรงเรียนและปฏิบตั ิหนา้ ที่
จาก 4 กลุม่ งานตามท่ี
ไดร้ บั มอบหมาย
4. รว่ มประชมุ ผปู้ กครอง 4. ผู้เรยี นไดร้ บั ความ 4. ผู้เรยี นรอ้ ยละ 80 ได้รับ
ติดตามการเรียนรหู้ ลาย ช่วยเหลือจากผปู้ กครอง ทุนการศึกษาและสง่ิ ของช่วยเหลือ
ช่องทาง โรงเรยี น หนว่ ยงานที่ ทำใหม้ คี ณุ ภาพชีวิตทีด่ ขี ้ึน
เกย่ี วข้อง และมขี อ้ มูลใน
ระบบสารสนเทศของ
โรงเรยี น
3. ด้านการพฒั นาตนเองและ 1. พฒั นาตนเองโดยการ 1. นักเรียนได้รับการจดั 1. นกั เรียนร้อยละ 80
วิชาชีพ เข้าอบรม/ประชุม/สัมมนา กิจกรรมการเรยี นการสอนที่ ไดร้ ับการจดั กิจกรรมการเรียนการ
ลักษณะงานท่ีเสนอให้ ตลอดปงี บประมาณ 2566 เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ สอนดว้ ยวิธกี ารท่ีหลากหลายและ
ในสาขาและวิชาเหมาะสม มกี จิ กรรมทห่ี ลากหลาย เหมาะสมกับเนอ้ื หาสง่ ผลใหม้ ี
ครอบคลุมถงึ การพัฒนาตนเอง กบั ระดบั ของตนเองไดแ้ ก่ เหมาะสมตามความแตกต่าง ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนสงู ขึน้
อยา่ งเป็นระบบและต่อเนื่อง การใช้แอพลิเคชันชว่ ย ระหวา่ งบุคคล ทำให้
การมีสว่ นรว่ มในการ สอน และเทคนิคการสอน นกั เรยี นมผี ลสัมฤทธทิ์ ี่สงู ข้นึ
PA 1/ส
ลกั ษณะงานทีป่ ฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตัวช้ีวัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหน่ง
ที่จะดำเนนิ การพฒั นา ของงานตามข้อตกลง ที่จะเกิดข้นึ กับผูเ้ รียน
แลกเปลีย่ นเรียนรูท้ างวิชาชีพ
เพ่อื พัฒนาการจัดการเรยี นรู้ ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ ทคี่ าดหวงั ใหเ้ กิดขึน้ ทแ่ี สดงใหเ้ ห็นถึงการ
และการนำความรู้
ความสามารถทกั ษะทไี่ ดจ้ าก การประเมิน กับผูเ้ รียน เปล่ยี นแปลงไปในทาง
การพัฒนาตนเองและวิชาชพี
มาใชใ้ นการพฒั นาการจัดการ ท่ีดขี ึน้ หรอื มกี ารพัฒนา
เรียนรู้ การพฒั นาคุณภาพ
ผเู้ รยี น และการพฒั นา มากข้นึ หรือผลสัมฤทธส์ิ งู ขนึ้
นวัตกรรมการจดั การเรยี นรู้
เทคโนโลยีทน่ี ่าสนใจ
เพือ่ ใหม้ คี วามรู้
ความสามารถ ทกั ษะ
ประสบการณจ์ ัดการ
เรยี นรู้ ทักษะทางดา้ น
เทคโนโลยดี ิจิทัล ทกั ษะ
การใช้ภาษาไทยและ
ภาษาอังกฤษเพอ่ื การ
สอ่ื สารและทกั ษะอืน่ ๆ ท่ี
จำเป็นตอ่ การจัดกิจกรรม
การเรียนรู้
2. เข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 2. นกั เรียนชนั้ ป.5 ไดร้ ับ 2. นักเรยี นร้อยละ 80 ได้รับการ
เพ่ือพัฒนางานด้านวชิ าชีพ การแกไ้ ขปญั หาในการเรยี น แก้ไขเม่อื เกิดปัญหาทางการเรียนรู้
(PLC) นำความรูท้ ่ไี ดม้ า อยา่ งเหมาะสม โดยคำนงึ ถงึ และปัญหาอื่น ๆ ทีพ่ บเห็นอยา่ ง
สรา้ งส่ือและนวัตกรรมเพ่ือ ความแตกต่างระหว่างบคุ คล ต่อเนอ่ื ง เปน็ ระบบ มผี ลสัมฤทธท์ิ ี่
แก้ปญั หาในการเรียน ทำให้นักเรียนมีผลการเรียน สงู ขึน้ และไดร้ บั การพฒั นา
นกั เรยี นช้นั ป.5 และกล่มุ ท่ีดีข้นึ รวมถงึ ไดร้ ับการ แกป้ ัญหาในการเรยี นอย่าง
สาระการเรียนรู้ พฒั นาจากส่ือนวัตกรรมการ ตอ่ เนอื่ ง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละ เรียนการสอนที่ครไู ด้
เทคโนโลยี การพฒั นา พฒั นาขนึ้ และนำมาใช้จดั
ทกั ษะการเรยี นรรู้ ายวิชา กจิ กรรมการเรยี นรู้ รายวิชา
เทคโนโลยี (วิทยาการ เทคโนโลยี (วทิ ยาการ
คำนวณ) ด้านการเขยี น คำนวณ)
โปรแกรม ช้ัน
ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ตาม
แนวคิดของซมิ พ์ชนั
3. นำความรู้ 3. ผู้เรียนได้รบั การสนับสนนุ 3. นกั เรียนร้อยละ 80 มีผลลมั
ความสามารถและทักษะที่ ดแู ลดา้ นวชิ าการและ ฤทธ์ิทางการเรียน สงู ขึ้น และมี
ไดจ้ ากการพัฒนาจัดการ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
เรยี นรู้ นวัตกรรม และ ต้งั แต่ระดบั ดีขึ้นไป
พฒั นาผู้เรยี น
PA 1/ส
หมายเหตุ
1. รปู แบบการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนา ตามแบบ PA 1 ใหเ้ ปน็ ไปตามบริบท และสภาพการจัดการ
เรียนรู้ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการสถานศึกษา และข้าราชการครู
ผู้จดั ทำข้อตกลง
2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการพัฒนางานต้องเป็นงานในหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ที่
สง่ ผลโดยตรงตอ่ ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน และให้นำเสนอรายวิชาหลักที่ทำการสอน โดยเสนอในภาพรวม
ของรายวิชาหลักที่ทำการสอนทุกระดับชั้น ในกรณีที่สอนหลายรายวิชา สามารถเลือกรายวิชาใดวิชาหนึ่งได้
โดยจะตอ้ งแสดงให้เหน็ ถึงการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางาน
ตามขอ้ ตกลงสามารถประเมนิ ได้ตามแบบการประเมิน PA 2
3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ ของผู้เรียน
(Outcomes) และตัวชี้วัด (Indicators) ที่เป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลการ
พัฒนางานตามข้อตกลง ให้คณะกรรมการดำเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริง สภาพ
การจัดการเรียนรู้ในบริบทของแต่ละสถานศึกษา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนางาน
ตามข้อตกลงเป็นสำคญั โดยไมเ่ นน้ การประเมนิ จากเอกสาร
PA 1/ส
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานทเ่ี ปน็ ประเดน็ ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรยี นร้ขู อง
ผูเ้ รยี น
ประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรง
ตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การปรับประยุกต์
การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
หรือมีการพัฒนามากข้ึน
ประเดน็ ท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะการเรยี นรรู้ ายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ดา้ นการเขียน
โปรแกรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ตามแนวคิดของซิมพช์ นั
1. สภาพปัญหาของผเู้ รยี นและการจดั การเรยี นรู้
เนื่องด้วยรายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กระบวนการเรียนรู้ของสาระวิชาเน้นไปที่
กระบวนการแกป้ ญั หาเชิงตรรกะ การออกแบบการแก้ปญั หาและกระบวนการด้านเทคโนโลยี เปน็ เรอ่ื งทีผ่ ู้เรยี น
ต้องใช้ประสบการณ์ในการเรียนมากกว่าการสอนในหนงั สือ การให้ทำแบบฝกึ หัดในรูปแบบการเขียนบรรยาย
หรือการท่องจำ ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาในหลายตัวชี้วัดของหลักสูตรได้ ปัญหาที่พบคือ ผลการ
เรียนเรื่อง การเขียนโปรแกรม Scratch มีผลคะแนนจากการทดสอบหลังเรียนไม่ถึงเกณฑ์ร้อยละ 80 % และ
แสดงให้เห็นว่า นักเรียนยังขาดความเข้าใจในบทเรียน ไม่สามารถแก้โจทย์ปัญหาและสร้างผลงานที่มีความ
แปลกใหม่ได้ จึงส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต่อผู้เรียนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนา
ทักษะด้านการเขยี นโปรแกรมที่ดีข้ึน ครูผู้สอนจึงใช้วิธกี ารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของซิมพช์ ัน ซึ่งเชื่อมั่นวา่
ทักษะปฏิบัติน้ีสามารถพัฒนาได้ด้วยการฝึกฝน ซึ่งหากไดร้ บั การฝึกฝนที่ดีแล้ว จะเกิดความถูกต้อง ความ
คล่องแคล่ว และความคงทน เข้ามาช่วยในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้และให้ผู้เรียนฝึกกระบวนการคิด
และเขา้ ใจเนอ้ื หาที่เรยี นมากข้นึ
2. วธิ ีการดำเนนิ การใหบ้ รรลุผล
1) ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแกนกลาง และหลักสูตรนักเรียนต้องรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ศึกษาการจัดการเรียนรู้ตาม
แนวคดิ ของซมิ พช์ ัน เพ่อื ออกแบบหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมเบื้องต้น ตามตัวชว้ี ัด
2) ใชก้ ระบวนการ PLC เขา้ มาช่วยในการแกไ้ ขปญั หา พฒั นาส่อื และนวัตกรรมท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ
3) ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ ตามรูปแบบแนวคิดของซิมพ์ชัน
4) จัดทำส่อื การเรียนรตู้ ามท่ีไดอ้ อกแบบไว้
5) นำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างและนำผลท่ีไดม้ าปรบั ปรงุ
6) นำผลสะท้อนในการใช้แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของซิมพ์ชัน บันทึกข้อมูลคะแนนใน
ระบบสารสนเทศผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนเพอ่ื ประเมนิ การเรยี นรู้
PA 1/ส
3. ผลลพั ธก์ ารพฒั นาทีค่ าดหวงั
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 177 คน โรงเรียนวัดลาดสนุ่น ที่เรียนในรายวิชา
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2566 ดา้ นการเขียนโปแกรม มผี ลการพัฒนาทักษะ
ดา้ นการเขียนโปรแกรมสูงขึน้ รอ้ ยละ 80
3.2 เชงิ คุณภาพ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดลาดสนุ่น สามารถเขียนโปแกรมและสร้างผลงานที่มี
ความแปลกใหม่ได้ มีกระบวนการคิดแก้ปัญหา และทักษะด้านเทคโนโลยี ตรงตามสมรรถนะของผู้เรียนใน
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2561)
ลงชื่อ...................................................................
(นางสาวนัดดา รัตนพนั ธ์)
ครู
ผจู้ ัดทำข้อตกลงในการพฒั นางาน
1 ตลุ าคม 2565
ความเหน็ ของผู้อำนวยการสถานศกึ ษา
( ) เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพฒั นางาน
( ) ไมเ่ ห็นชอบใหเ้ ปน็ ขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน โดยมขี ้อเสนอแนะเพอ่ื นำไปแก้ไข และเสนอ
เพ่ือพิจารณาอีกคร้ัง ดังนี้
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...................................................................
(นายจตุรงค์ สโรบล)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวัดลาดสนุน่
1 ตุลาคม 2565