คู่มืออาสาสมัครแรงงาน ปีวาระ พ.ศ 2563 - 2566

๕๐ คมู่ อื อาสาสมคั รแรงงงาน สำนักงานแรงงานจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา

รายช่อื กฎหมายแรงงานท่คี วรรู้

กฎหมายหลักเกี่ยวกับแรงงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงแรงงานทีอ่ าสาสมคั ร

แรงงานควรรเู้ พ่ือท่นี ำใช้ประโยชน์กบั งานในหน้าท่ี "อาสาสมคั รแรงงาน " มีดังต่อไปนี้

ท่ี ชื่อกฎหมาย หน่วยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ

๑ พระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. กรมการจดั หางาน(กกจ.)

๒๕๒๑

๒ พระราชบัญญัติจัดหางานและคมุ้ ครองคนหางาน พ.ศ. กรมการจดั หางาน (กกจ.)

๒๕๒๘

๓ พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. กรมพฒั นาฝีมอื แรงงาน (กพร.)

๒๕๔๕

๔ พระราชบญั ญัติแรงงานสมั พันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ กรมสวัสดิการและคุ้มครอง

แรงงาน

(กสร.)

๕ พระราชบัญญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ กรมสวัสดิการและคุ้มครอง

แรงงาน

(กสร.)

๖ พระราชบญั ญัตแิ รงานรฐั วิสาหกิจสัมพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ กรมสวัสดิการและคุ้มครอง

แรงงาน

(กสร.)

๗ พระราชบัญญตั ปิ ระกนั สังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ สำนักงานประกนั สังคม (สปส.)

๘ พระราชบญั ญัติเงนิ ทดแทน พ.ศ. ๒๕๓๗ สำนักงานประกนั สงั คม (สปส.)

๕๑ คมู่ อื อาสาสมคั รแรงงงาน สำนักงานแรงงานจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา

พระราชบญั ญัตกิ ารทำงานของคนต่างดา้ ว พ.ศ. ๒๕๒๑
บญั ญัตไิ วค้ วบคมุ ทำงานของคนต่างด้าวท่ีขออนุญาตทำงานในประเทศไทย ซ่ึงมีการสงวน

อาชีพบางอยา่ งไวใ้ หส้ ำหรบั คนไทย โดยคนต่างด้าวทจ่ี ะอนุญาตทำงานได้มี ๓ ประเภท คอื

• คนต่างด้าวที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาใน
ราชอาณาจกั รในลกั ษณะชัว่ คราวแตไ่ มใ่ ช่นักท่องเท่ยี ว หรือผเู้ ดินทางผ่าน

• คนตา่ งด้าวท่รี บั ไดร้ ับอนุญาตให้เข้างานในราชอาณาจักร ตามกฎหมายว่าด้วยการ
ลงทุนหรอื กฎหมายอ่ืน

• คนตา่ งด้าววที่ถูกเนรเทศ ซง่ึ ไดร้ ับการผ่อนผนั ใหไ้ ปปะกอบอาชพี ณ ที่แห่งใดแทน
การเนรเทศหรืออยู่ในระหว่างรอการเนรเทศ คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยไม่ถูกตอ้ ง
ตามกฎหมาย หรืออยู่ในระหว่างรอการส่งกลับออกนอก ราชอาณาจักร คนต่าง
ด้าวที่เกิดในราชอาณาจักรแต่ไม่รับสัญชาติไทยหรือถูกถอนสัญชาติ ซึ่งสามารถ
ทำงานได้ ๒๗ อาชพี ตามทร่ี ฐั มนตรปี ระกาศกำหนด คือ

ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง กำหนดงานทีใ่ ห้คนตา่ งด้าวตามมาตรา ๑๒ แหง่
พระราชบัญญตั กิ ารทำงานของคนต่างดา้ ว พ.ศ. ๒๕๒๑ ทำได้

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบญั ญัตกิ ารทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.
๒๕๒๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้งานตอ่ ไปนี้ เปน็ งานทใี่ หค้ นต่างด้าวทำได้

๑. งานชา่ งซอ่ มจกั รยาน
๒. งานชา่ งประกอบและซ่อมเบาะรถ
๓. งานช่างประกอบและซ่อมตัวถงั รถ
๔. งานช่างประกอบและซ่อมทอ่ ไอเสียรถ
๕. งานช่างบัดกรีโลหะแผน่ ดว้ ยมือ
๖. งานช่างไมเ้ ครอื่ งเรอื น
๗. งานชา่ งไม่ก่อสร้างอาคาร
๘. งานเลื่อยไมใ้ นโรงงานแปรรูปไม้
๙. งานชา่ งปูน
๑๐. งานชา่ งทาสี
๑๑. งานชา่ งประกอบและซอ่ มประตูหน้าต่าง

๕๒ คูม่ ืออาสาสมคั รแรงงงาน สำนักงานแรงงานจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

๑๒. งานช่างติดตง้ั มุ้งลวด
๑๓. งานช่างย้อมผา้
๑๔. งานชา่ งตัดเย็บเสอื้ ผา้ ยกเวน้ การตัดเยบ็ เสือ้ ผ้าสตรี
๑๕. งานชักรีดเสอื้ ผา้
๑๖. งานทำสวนผกั และผลไม้
๑๗. งานเล้ยี งสัตว์ ยกเวน้ งานเลี้ยงไหม
๑๘. งานขายปลีกสนิ คา้ ที่ไม่ใชส่ ินค้าเวชภัณฑ์ เคมภี ัณฑ์ เคร่ืองรบั วทิ ยุ เครื่องรับโทรทัศน์
กล้องถ่ายภาพนิ่ง กล้องถ่ายภาพยนตร์ อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวม
เครื่องอะไหล่
๑๙. งานขายอาหารหรือเคร่อื งดื่ม
๒๐. งานผลติ อาหารหรือเครอ่ื งดืม่
๒๒. งานชา่ งยอ่ มนาฬกิ า ปากกา และแว่นตา
๒๓. งานชา่ งลับมีด และของมีคมอืน่ ๆ
๒๔. งานชา่ งทำกรอบรูป
๒๕. งานชา่ งเคร่ืองทอง เคร่อื งเงิน หรือเครื่องโลหะมคี า่ อ่นื ๆ
๒๖. งานช่างหอถกั ไหมพรมและทอผ้าด้วยมือ ยกวนงานทอผ้าไหมและงานทำผลติ ภณั ฑ์
เกย่ี วกบั เส้นไหม
๒๗. งานกรรมการ

ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๒
พลเอก เลก็ แนวมาลี

รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย

พระราชบัญญตั ิจดั หางานและคมุ้ ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘
เดิมมพี ระราชบัญญตั ิจัดหางานและคมุ้ ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๑๑ บงั คับใช้ จนกระท่งั ได้

มีการประกอบธุรกิจในการจัดส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศจำนวนมากขึ้น และมีการ
หลอกลวงคนหางาน จึงได้มีการปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติจัดหางาน พ.ศ. ๒๕๑๑ มาเป็น
พระราชบัญญัตจิ ัดหงานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ (พระราชบญั ญัติ ดงั กล่าวมกี ารแก้ไข
เพมิ่ เติมในปี ๒๕๓๗ และปี ๒๕๓๘. โดยมีสาระสำคญั คอื

1. ใหม้ ีสำนักงานจัดหางานของรฐั ท่จี ะให้บรกิ ารจดั หางานแก่ประชาชนโดยไมค่ ดิ มูลค่า

๕๓ คู่มอื อาสาสมคั รแรงงงาน สำนักงานแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา

2. ขยายรูปแบบการคุ้มครองคนหางานให้ได้รับความเป็นธรรม และได้รับการช่วยเหลือเม่ือ
ประสบความเดอื ดร้อน

3. ควบคุมและดแู ลการประกอบธุรกิจจัดหางานของเอกชนอยา่ งจรงิ จัง ทงั้ น้ี
- ผู้ขออนุญาตจัดหางานในประเทศ จะต้องมีสัญชาติไทย และมีหลักประกันเป็น
จำนวนเงินหนึ่งแสนบาท วางไว้กับนายทะเบียน เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติ
ตามพระราชบญั ญัตินี้ ในกรณีทีผ่ ู้ขออนุญาตจัดหางาน ดังกล่าวเป็นนิติบุคคล นิติ
บุคคลนั้นต้องมีสัญชาติไทยและมีผู้จัดการ ซึ่งเป็นผู้คุณสมบัติและไม่มีลักษณะ
ตอ้ งห้าม
- ผู้ขออนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศ จะต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือ
บริษัทมหาชน จำกัด มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท มี
ผู้จัดการซึ่งมีผู้จัดการ ซึ่งเป็นผู้คุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องห้าม และมี
หลักประกันเป็นเงินจำนวนห้าล้านบาทำไว้กับนายทะเบียนกลาง เพื่อเป็น
หลกั ประกนั การปฏิบตั ิตามพระราชบัญญตั นิ ้ี

4. กำหนดให้ผูร้ บั อนญุ าตจัดหางาเพื่อไปทำงานต่างประเทศ ส่งคนหางานเช้ารับการทดสอบ
ฝีมอื

5. กำหนดมาตรการในการควบคุมการดำเนินการทดสอบฝีมอื โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบ
ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ทั้งนี้การดำเนินการทดสอบฝีมืออาจจะดำเนินการโดยสถาน
ทดสอบฝมี ือของรัฐ หรอื ดำเนนิ การโดยสถานทดสอบฝีมอื ของเอกชน

พระราชบญั ญตั สิ ่งเสริมการพฒั นาฝมี อื แรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕
ได้ปรับปรุงพระราชบัญญัติส่งเสริมการฝึกอาชีพ พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการฝึกอาชีพ แก่บุคคลซึ่งอยู่ในวัยทำงานให้มีฝีมือสอดคล้องกับความ
ต้องการของธุรกิจอุตสาหกรรม และเพื่อให้บุคคลซึ้งทำงานอยู่แล้ว ได้รับการฝึกเพื่อยกระดับ
มาตรฐานฝีมอื แรงงาน และการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน รวมทงั้ เพอ่ื ใหม้ กี ารร่วมมือระหว่าง
สถานประกอบการและสถานศึกษาในการรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาเข้ารับการฝึกในสถาน
ประกอบการ และการส่งผู้รับ การฝึกหรือผู้ซึ่งสถานประกอบการจะรับเข้าทำงานไปรับการฝึก
อาชีพในสถานศึกษาหรือสถานฝึกอาชีพของทางราชการ ทั้งนี้ผู้ที่ทีไ่ ด้มีการฝกึ อบรมฝมี ือแรงงาน
ตามหลักสูตรและรายละเอียดเกี่ยวกับการฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่นายทะเบียน ได้พิจารณาให้
เห็นชอบจะดำเนินการฝึกอาชีพมไี ดร้ ับสิทธิและประโยชน์ตามพระราชบัญญตั ิน้เี พื่อให้นายจ้างและ
สถานประกอบกจิ การมสี ว่ นรว่ มในการพัฒนาฝมี ือแรงงานรวมทงั้ ให้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาฝีมือ

๕๔ คูม่ อื อาสาสมคั รแรงงงาน สำนักงานแรงงานจังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

แรงงานเพื่อเป็นทุนหมุนเวียน สำหรับใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ซ่ึง
พระราชบัญญัตินี้ส่งสริมการพัฒนาฝีมือแรงาน พต. ๒๕๔๕ มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและ
สนับสนุนใหส้ ถานประกอบกิจการภาคเอกชนมีส่วนรว่ มในการพัฒนามือแรงนใหม้ ากยิ่งขึ้นโดยมี
มาตรการ จูงใจดา้ นการยกเว้นและลดหย่อนภาษีอากร รวมทงั้ การให้สทิ ธิและประโยชนในด้านตง
ๆ โดยปรบั ปรงุ สิทธแิ ละประโยชนใ์ หน้ ายจ้างและสถานประกอบกิจการที่ดำเนนิ การฝึกเตรียมเข้า
ทำงาน การฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน ตลอดจนการฝึกเพื่อเปลี่ยนสาขาอาชีพฝีมือแรงงานให้กับ
บุคคลทจี่ ะรบั เข้าทำงานและลกู จา้ งของตนเองใหม้ คี วามเหมาะสมและเพม่ิ มากขนึ้

การฝึกอบรม นอกจากสถานประกอบการจะเป็นผู้ดำเนินการฝกึ เอง หรอื จ้างจัดฝึกอบรม
แล้ว สถานประกอบการ อาจส่งผู้รับการฝึกไปฝึกในสถานศึกษา หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงาน
ของทางราชการ หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานอื่นที่นายทะเบียน(กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน)
เหน็ ชอบก็ได้โดยผ้ดู ำเนินการฝึกจะไดร้ บั สทิ ธแิ ละประโยชน์เช่นเดียวกับการฝึกเอง กรณผี ู้ประกอบ
กิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ ๑๐๐ คนขึ้นไปไม่จัดให้มีการฝึกอบรมฝีมือแรงานในสัดส่วนร้อยละ ๕๐
ของลกู จา้ งทั้งหมด หรือจดั แลว้ ไม่ครบตามสัดสว่ นที่กำหนดต้องส่งเงินสทบเข้ากองทุนพัฒนาฝีมือ
แรงานเป็นรายปีในอัตราร้อยละ ๑ ของค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบ โดยคิดจาก
จำนวนลกู จา้ งที่ไมไ่ ด้จดั ให้มีการฝกึ อบรมฝมี อื แรงงานตามสัดสว่ นท่ีกำหนด

สิทธิประโยชน์ ผู้ดำเนินการฝึกที่จัดให้มีการฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามหลักเกณฑ์ตาม
พระราชบัญญัตเิ สรมิ การพฒั นาฝีมือแรงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ จะได้รบั สิทธแิ ละประโยชนด์ งั ต่อไปนี้

๑. มีสิทธิได้รับยกเวันภาษีเงินได้เป็นกรณีพิศษสำหรับค่าใช้จ่ายทีใ่ ช้ไปในการจดั ให้มีการ
ฝึกอบรมฝมี ือแรงานได้ตามพระราชกฤษฎีกาทอ่ี อกตามประมวลรษั ฎากร

๒. มีสิทธินำคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ไต้แก่ช่างฝีมือแรงงานหรือผู้ชำนาญการ
เพอ่ื เปน็ ครูฝึกรวมทั้งคูส่ มรสและบุคคลซงึ่ อยู่ในอปุ การะเข้ามาในราชอาณาจกั ร

๓. มสี ทิ ธไิ ด้รับการยกเวนั อากรขาเข้าและภาษมี ูลคา่ เพ่ิมสำหรบั เครอ่ื งมือ เคร่ืองจักร และ
อปุ กรณท์ น่ี ำเขา้ มาในราชอาณาจักรเพ่ือใช้ฝกึ อบรมในศนู ย์ฝกึ อบรฝีมอื แรงงาน

๔. มีสิทธิได้รับการหักค่าไฟฟ้าและค่าประป่าเป็นจำนวน ๒ เท่าของค่าใช้จ่ายที่เสียไปใน
การฝึกอบรมใศูนย์ฝกึ อบรมฝีมอื แรงงาน

๕. สทิ ธไ์ิ ด้รับยกเว้นไมต่ อ้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชน
๖. ได้รับยกเว้นจากกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและกฎหมายว่าด้วยแรงงาน
สมั พนั ธ์ (เฉพาะกรณีฝกึ เตรียมเข้าทำงาน)
๗. ไดร้ ับความชว่ ยเหลอื จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในด้านการฝึกอบรมตา่ งๆ

๕๕ คู่มอื อาสาสมัครแรงงงาน สำนักงานแรงงานจังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

๘. ได้รับคำปรึกษาแนะนำจากกรมพัฒนาฝีมือแรงานเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาฝีมือ
แรงงาน

๙. สทิ ธิประโยชนอ์ นื่ ตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง
พระราชบญั ญตั ิแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘

กฎหมายแรงงานสมั พนั ธ์เป็นเรื่องทีเ่ กี่ยวกับกระบวนการเสรมิ สร้างระบบแรงงานสัมพนั ธ์
ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง โดย กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยื่นข้อเรียกร้องเพื่อแก้ไข
เปลยี่ นแปลงสภาพการจา้ ง การระงบั ขอ้ พิพาทแรงาน สิทธขิ องนายจา้ งลูกจา้ งในการจัดตั้งสมาคม
และสหภาพแรงงาน เพื่อแสวงหาและคุ้มครองประโยชน์เกี่ยวกับการจ้าง การจัดสวัสดิการและ
ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่านายจ้างกับลูกจ้าง การจัดตั้งคณะกรรมการลูกจ้าง เพื่อหารือ
กิจการต่างๆ กับนายจ้างเป็นการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันและหาทางปรองดอง ระหว่าง
นายจา้ งกบั ลูกจา้ ง เพื่อให้เกดิ ความสงบสขุ ในอุตสาหกรรมอนั เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ
พระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑

กฎหมายคุ้มครองแรงงาน เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
เป็นกฎหมายที่กำหนด มาตรฐานขั้นต่ำในการใช้แรงานทั่วไป การใช้แรงานหญิง การใช้แรงงาน
เด็ก ค่าตอบแทนการทำงานสวัสดิการ ความปลอดภัยในการทำงาน ค่าชุดเชยการเลิกจ้าง และ
กองทุนสงเคราะห์ลกู จา้ ง รวมทัง้ การดำเนนิ การของพนักงาน เจา้ หน้าทใี่ หก้ ารคุม้ ครองลูกจ้างท้ังน้ี
เพ่ือใหเ้ กดิ ความเป็นธรรมและลูกจ้างมสี ุขอนามยั ทีด่ ี อันจะเกดิ ประโยชน์สงู สดุ แกน่ ายจา้ ง ลกู จ้าง
และการพัฒนาประเทศ
พระราชบญั ญัติแรงงานรฐั วสิ าหกจิ สมั พันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓

กฎหมายแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมาตรฐานสิทธิประโยชน์และ
ความสัมพันธ์ระหวา่ งฝ่ายบริหาร และลูกจา้ งรฐั วิสาหกิจ เปน็ กฎหมายทท่ี ก่ี ำหนดสิทธิในการร่วม
เจรจาต่อรรองตามหลักเกณฑ์ทีเ่ กี่ยวกบั การยื่นขอ้ เรยี กร้อง เพอ่ื การปปกไ้ ขเปลย่ี นแปลงสภาพการ
จ้าง การระงับขอ้ พพิ าทแรงงาน การจัดตั้งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อแสวงหา และคุ้มครอง
ประโยชน์ เกี่ยวกับการจ้างให้รัฐวิสาหกิจ การกำหนดให้มีคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหากิจ
สัมพันธ์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการไตรภาคีที่จะกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างงานใน
รัฐวิสาหกิจ การกำหนดให้มีการปรึกษาหารือให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน และหาทาง
ปรองดอง ใหก้ ารทำงานของฝา่ ยบรหิ ารและลูกจา้ งรฐั วสิ าหกจิ เกดิ สนั ติ

๕๖ คู่มืออาสาสมคั รแรงงงาน สำนกั งานแรงงานจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา

พระราชบัญญัตปิ ระกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓
กำหนดใหม้ กี ารจดั เก็บเงินสมทบจากนายจ้าง ลกู จ้าง และรัฐบาล เพอ่ื ใหค้ วามคุ้มครองแก่

ลูกจ้างที่ประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือตายที่มิใช่เป็นผลสืบเนื่องจากการทำงาน
รวมทั้งกรณีคลอดบุตร กรณีสงเคราะห์บุตร กรณีชราภาพ และกรณีว่างงาน โดยอัตราเงินสมทบ
กรณีประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และคลอดบุตรให้จัดเก็บในอัตรารวม ๓ ฝ่ายไม่
เกินร้อยละ ๔.๕ ของค่าจ้าง สำหรับกรณีสงเคราะห์บุตรและกรณชี ราภาพ ให้จัดเก็บในอัตรารวม
๓ ฝ่ายไมเ่ กินร้อยละ ๙ ของคา่ จา้ ง และกรณวี า่ งงาน ใหจ้ ดั เก็บในอตั รารวม ๓ ฝ่ายไม่เกินร้อยละ
๑๕ ของค่าจ้างท้ังนีล้ ูกจ้างทีเข้าข่ายจะได้รับบริการทางการแพทย์และเงินทดแทนการขาตรายได้
รวมถึงค่าคลอดบุตร ค่าทำศพ เงินสงเคราะห์ทายาทในกรณีตาย ค่าสงเคราะห์บุตร และเงิน
บำเหน็จบำนาญ กรณีชราภาพ สำหรับกรณีว่างงาน จะดำเนินการเมื่อใดให้ตราเป็นพระราช
กฤษฎีกาขึ้นใชบ้ ังคับ
พระราชบญั ญัติเงินทดแทน พ.ศ. ๒๕๓๗

กำหนดให้มีการจัดก็บเงินสมทบจากนายจ้างปีละหนึ่งครั้ง ในอัตราร้อยละ ๐๒๑.๐ ของ
ค่าจ้าง ตามลักษณะความของเสี่ยงภยั ของประเภทกิจการนั้น ๆ เงินสมทบที่จัดเก็บได้นี้ให้นำไป
จ่ายเป็นเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างที่ประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย สูญเสียอวัยวะ สูญเสีย
สมรรถภาพของร่างกายตายหรือสูญหายอันเนื่องมาจากกรทำงานให้กับนายจ้าง โดยลูกจ้างจะ
ได้รับเงินทดแทนเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนการขาดรายได้ ค่าทำศพ หรือ ค่าฟื้นฟู
สมรรถภาพ ในการทำงาน ซึง่ ขึน้ อยกู่ บั ระดบั ของการประสบอันตรายนน้ั ๆ

โดยองค์ความรู้ในการศึกษาเรื่องกฎหมายแรงงานนั้น ผู้จัดทำโครงการจะนำมารู้มา
ดังกล่าวมาทบทวนและทำความเข้าใจถึงบทบาทและขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของ
อาสาสมัครแรงงาน และนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเป็นสื่อในรูปแบบอื่น ๆ ต่อไปเพื่อนำไป
ถ่ายทอดและส่งเสริมองค์ความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครแรงงานต่อไป และ
เพ่ิมประสทิ ธภิ าพในทำงานของเหล่าอาสาสมัครแรงงานให้เพม่ิ มากขึ้น

๕๗ คมู่ ืออาสาสมัครแรงงงาน สำนักงานแรงงานจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

บทท่ี ๔
บทบาทและหนา้ ท่ขี องอาสาสมัครแรงงาน

สืบเนื่องกระทรวงแรงงานได้กำหนดระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยอาสาสมัครแรงงาน
ลงวันที่ ๒ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อพัฒนาการทำงานด้านอาสาสมัครแรงงานของกระทรวง
แรงงานเป็นเอกภาพและประสิทธิภาพในการบริหารดา้ นแรงงานและให้ประชาชนไดเ้ ข้ามามีส่วน
ร่วมเปน็ เครือขา่ ยช่วยเหลืองานกระทรวงแรงงาน
การแต่งตงั อาสาสมัครแรงงาน

การแต่งตั้งอาสาสมคั รแรงงานภายใตก้ รอบระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วย
อาสาสมคั รแรงงาน ลงวันที่ ๒ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้กำหนดอย่างกว้างๆ ดังต่อไปนี้

๑. กรุงเทพมหานคร กลุ่มสนับสนุนเครือข่ายและประสานภูมิภาค สำนักตรวจและ
ประเมินผล เป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าทีร่ ับสมัครอาสาสมัครแรงงานจากผู้มีคุณสมบัติตามตาม
ข้อ ๗ ในระเบยี บกระทรวงแรงงานว่าด้วยอาสาสมคั รแรงงาน

๒. ภมู ิภาค สำนกั งานแรงงานจงั หวดั หนว่ ยงานหลักที่ทำหนา้ ทร่ี บั สมคั รอาสาสมคั รแรงงาน
จากผู้มีคุณสมบัติตามตามข้อ ๗ในระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยอาสาสมัครแรงงาน พ.ศ.
๒๕๔๘
ขั้นตอนการแต่งต้ังอาสาสมคั รแรงงาน

๑. สำนักงานแรงงานจังหวัดประชาสัมพันธ์ ประกาศ แถลงการณ์ ข่าวให้ผู้ที่ประสงค์จะ
สมคั รเปน็ อาสาสมคั รแรงงานเข้าสมคั รเปน็ อาสาสมัครแรงงานท่สี ำนักงานแรงงานจังหวัด

๒. สำนกั งานแรงงานจงั หวัดประสานหน่วยงานในสงั กัดแจง้ อาสาสมัครแรงงานเดิมท่ีสังกัด
ของกรมในสงั กัดกระทรงแรงงานใหท้ ราบวา่ กระทรวงแรงงานได้ยกระดบั ให้อาสาสมัครแรงงานที่
สังกัดของกรมต้องยกระดับเป็นอาสาสมัครแรงานของกระทรวงแรงงาน และกรมแจ้งอาสาสมัคร
เดมิ ทีม่ คี วามประสงคจ์ ะเปน็ อาสาสมัครแรงงานย่ืนความจำนงค์ขอสมัครเปน็ อาสาสมัครแรงงานท่ี
สำนักงานแรงงานจังหวดั

๓. ผู้ที่ประสงค์จะเป็นอาสาสมัครแรงงานยื่นความประสงค์และสมัครเป็นอาสาสมัคร
แรงงาน

๔. สำนกั งานแรงงานจงั หวดั จัดเก็บและรวบรวมใบสมัคร
๖.สำนักงานแรงงานจังหวัดรวบรวมรายชื่อของผู้ที่ยื่นความจำนงค์จะเป็นอาสาสมัคร
แรงงานและแจ้งใหผ้ ู้ย่ืนความจำนงค์จะเปน็ อาสาสมคั รแรงงานดังกล่าวเขา้ ร่วมการอบรมให้ความรู้

๕๘ คูม่ ืออาสาสมัครแรงงงาน สำนักงานแรงงานจงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา

๗.สำนักงานแรงงานจังหวั ดรวบรวมรายชื่อผู้ที่ผ่านการอบรมดังกล่าวเพื่อเส นอให้ผู้ว่า
ราชการแต่งตั้งบุคคลเหล่านี้เปน็ อาสาสมัครแรงงาน

๘.สำนักงานแรงงานจังหวัดออกบัตรอาสาสมคั รแรงานโดยใหผ้ ูว้ ่าราชการจังหวัดเป็นผูล้ ง
นามในบัตรประจำตัวอาสาสมัครแรงงานดงั กล่าว

๙.สำนักงานแรงงานจังหวัดแจ้งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในส่วนภูมิภาค คือ
ศูนย์/สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครอง
แรงงานจงั หวัด สำนักงานประกันสังคมจังหวัดทราบ และหนว่ ยงานในสังกัด ส่วนภูมิภาคดังกล่าว
มอบหมายภารกิจและกิจกรรมให้อาสาสมัครแรงงานดำเนนิ การ

๑๐. สำนักงานแรงงานจังหวัดติดตามประเมินผลการดำเนินงานอาสาสมคั รแรงงานอย่าง
เป็นระยะ

๑๑. สำนักงานแรงงานจังหวดั จัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการในระดบั จังหวัดเพ่ือหารือการ
พฒั นาอาสาสมัครแรงงานตามยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาอาสาสมัครแรงงานของกระทรวงแรงงาน คอื

๑๑.๑ การขยายการบูรณการพัฒนาอาสาสมัครแรงงานทั้งหน่วยงานในสังกัดของ
กระทรวงแรงงานและหน่วยงานนอกสงั กัดกระทรวงแรงงานท้งั ภาครัฐและเอกชนเพือ่ เสริมสร้างให้
อาสาสมัครแรงงานมคี วามเขม้ แข็งและมปี ระสทิ ธิภาพประสิทธิผลในการดำเนินงาน

๑๑.๒ การพัฒนารูปแบบการอบให้ความรแู้ ก่อาสาสมัครแรงงานอย่างต่อเนื่องและ
สม่ำเสมอ สง่ เสรมิ ให้มกี ารจดั กิจกรรมสายสัมพนั ธ์ในกล่มุ เครอื ขา่ ยอาสาสมัครแรงงาน

๑๑.๓ การสรา้ งแรงจูงใจในการดำเนินงานของอาสาสมัครแรงงานโดยจัดสวัสดิการ
ในรูปแบบตา่ งๆให้เหมาะสมกบั การดำเนนิ งานในแตล่ ะดา้ น

๑๑.๔ การติดตามประเมินผลการดำเนินงานด้านอาสาสมัครแรงงานเพื่อใช้เป็น
ข้อมูล ในการวิเคราะห์แนวทาง การพัฒนาอาสาสมัครแรงงานให้มีทิศทางที่สอดคล้องกับ
ยทุ ธศาสตร์ของกระทรวงแรงงาน

นอกจากน้ี สำนกั งานแรงงานจังหวัดต้องกับดูแลการดำเนินงานอาสาสมัครแรงงานให้เป็น
นโยบายการพัฒนาอาสาสมัครแรงงานของกระทรวงแรงงาน ดงั น้ี

การบรู ณาการงานอาสาสมัครแรงงานของหนว่ ยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานให้เป็นหนึ่ง
เพื่อเป็นเครือข่ายด้านแรงงานที่เสริมสร้างและพัฒนางานด้านแรงงานให้มีประสิทธิภาพและ
ประสิทธผิ ลโดยให้อาสาสมัครแรงงานดำเนินการขบั เคลื่อนการพัฒนาอาสาสมัครแรงงาน ภายใต้
ขอบเขต ดงั นี้

๕๙ ค่มู อื อาสาสมคั รแรงงงาน สำนักงานแรงงานจังหวัดพระนครศรอี ยุธยา

๑. การประสานงานด้านแรงงานในพื้นที่ระหว่างประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนกับ
กระทรวงแรงงาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน หรอื หนว่ ยงานอนื่ ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ในการขาย
บริการดา้ นแรงงานไปสู่ประชาชนในหมู่บ้านและชมุ ชนอย่างทว่ั ถึง

๒. เปน็ ส่ือกลางในการประชาสมั พนั ธเ์ ผยแพรค่ วามรใู้ ห้คำปรกึ ษา และแนะนำดา้ นแรงงาน
ให้แก่กลมุ่ ผ้ใู ช้แรงงานหรอื ประชาชนทว่ั ไป ในหมู่บ้านและชุมชน

๓.รวบรวมข้อมูลดา้ นแรงงานในพื้นที่ ซึ่งกระทรวงแรงงานสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้
ประกอบการวางแผนในการปฏิบตั งิ าน กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ

๔.สง่ เสรมิ ให้ประชาชนมสี ่วนร่วมในการป้องกันและแกไ้ ขปญั หาดา้ นแก้ไข
แรงงานในหมู่บา้ นและชุมชนของตนเอง

นอกจากนี้ กลุ่มสนับสนุนเครือข่ายและประสานภูมิภาค สำนักตรวจและประเมินผลได้
ประสานกรมพฒั นาฝีมือแรงงาน กรมการจดั หางาน กรมสวสั ดิการและค้มุ ครองแรงงาน สำนักงาน
ประกนั สังคม ใหก้ ำหนดกจิ กรรมใหอ้ าสาสมัครแรงงานดำเนนิ การ โดยมีรายละเอยี ดดังนี้
หน้าที่ของอาสาสมัครแรงาน แบง่ แยกตามกรม มีดังน้ี

๑. กรมพัฒนาฝมี ือแรงงานไดก้ ำหนดหน้าทข่ี องอาสาสมัครแรงงาน ดงั นี
๑.๑ ให้คำปรึกษาแนะนำประชาสัมพันธ์ภารกิจด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานของ

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
๑.๒ ประสานงานดน้ การพัฒนาฝีมอื แรงงาน
๑.๒.๑ ประสานความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กร

ท้องถ่ินในการฝกึ อบรมอาชพี
๑.๒.๒ รวบรวมข้อมูลความต้องการพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อนำขอ้ มูลมาใช้

ในการวางแผนพัฒนาฝีมือแรงงาน
๑.๓ รบั สมัครฝึกอบรมอาชีพ
๑.๔ ปฏิบตั หิ นา้ ท่ีอ่นื ๆตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

๒. กรมการจดั หางานได้กำหนดหน้าทข่ี องอาสาสมัครแรงงาน ดังน้ี
๒.๑ ด้านบรหิ ารจัดหางานภายในประเทศ
๒.๑.๑ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ข้อมูลตำแหน่งงานว่าง ข่าวสาร

ตลาดแรงงานที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานจัดหางานจังหวัด /สำนักงานจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นท่ี
หรือกรมการจดั หางานให้กับผู้ทตี่ ้องการหางานและประชาทั่วไปไดร้ ับทราบ

๖๐ คู่มืออาสาสมคั รแรงงงาน สำนกั งานแรงงานจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา

๒.๑.๒ ให้คำแนะนำปรกึ ษาแก่ผตู้ ้องการหางานทำ และประชาชนท่ัวไปได้
มคี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั การให้บรกิ ารจดั หางานของรฐั ท่ีไม่ตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ ่าย วธิ ีการหางานทำ
การเตรียมตวั สมัครงานเอกสารทีใ่ ช้สมัครงาน แหลง่ การจ้างงาน

๒.๑.๓ ทำหน้าที่ประสานงานระหวา่ งสำนักจัดหางานจังหวัด/สำนกั จัดหา
งานกรงุ เทพเขตพนื้ ทีก่ ับผตู้ อ้ งการหางานทำใหไ้ ดส้ มัครงานกบั กรมการจดั หางาน

๒.๑.๔ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ว่างงานในท้องถิ่นเพื่อประสานส่งให้
สำนักงานจัดหางานจังหวัด/สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ ส่งไปทำงานตามตำแหน่งงานว่าง
เพื่อเป็นการลดปญั หาการวา่ งงาน

๒.๑.๕ รวบรวมตำแหน่งงานว่างในท้องถิ่นและประสานให้สำนักงานจัด
งานจังหวัด/สำนักงานจดั หางานกรงุ เทพเขตพื้นท่ี เพอื่ จดั หางานใหแ้ กผ่ ้ทู ่ีตอ้ งการหางานทำ

๒.๑.๖ ติดตามผลการทำงานของผู้ที่ได้รับการส่งตัวไปพบนายจ้าง แล้ว
รายงานใหส้ ำนกั งานจดั หางานจงั หวัด/สำนกั งานจัดหางานกรงุ เทพเขตพื้นท่ีท่ีรบั ผิดชอบ

๒.๒ ด้านบรหิ ารแรงงานไทยในต่างประเทศ
๒.๒.๑ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ข้อมูลการรับสมัครงาน ข่าวสาร

ตลาดแรงงานต่างประเทศที่ได้รับแจ้งจากสำนกั งานจัดหางานจังหวัด/สำนกั งานจัดหางานกรุงเทพ
เขตพื้นที่ /สำนักบริหารแรงงานไปตา่ งประเทศ หรือ กรมการจัดหางานให้กับผู้ทีต่ อ้ งการเดินทาง
ไปทำงานต่างประเทศได้รับทราบ

๒.๒.๒ ให้คำแนะนำ คำปรึกษา แก่ผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำงาน
ตา่ งประเทศและประชาชนท่ัวไปไดม้ ีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการไปทำงานในต่างประเทศโดย
ถกู ต้องตามกฎหมาย ๕ วิธี ไปทำงานอย่างไรโดยไมถ่ ูกหลอกลวง การเตรยี มตัวและเตรยี มเอกสาร
ในการสมคั รงาน ตลอดจนข้ันตอนการดำเนินงาน

๒.๒.๓ ทำหน้าที่ประสานระหว่างคนหางาน และสำนักงานจัดหางาน
จังหวัด/สำนักงานจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่/สำนักบริหารจัดหางานไทยไปต่างประเ ทศเพื่อลด
ปัญหาการตดิ ตอ่ หลอกลวงจากสาย/นายหนา้ จดั หางานเถอ่ื น

๒.๒.๔ แนะนำขั้นตอนและวิธีการลงทะเบียนที่ศูนย์บริการไปทำงาน
ตา่ งประเทศสำหรบั ผูท้ ี่ต้องการเดินทาง ไปทำงานในต่างประเทศ

๒.๒.๕ ทำหน้าทปี่ ระสานสถาบันการเงิน ธนาคาร ใหค้ นหางานได้รับทราบ
วิธีการและขั้นตอนการขอก้เู งินโดยถูกต้อง

๖๑ คมู่ อื อาสาสมคั รแรงงงาน สำนกั งานแรงงานจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

๒.๓ ดา้ นแนะแนวและส่งเสริมอาชพี
๒.๓.๑ เผยแพร่ข้อมลู ประกอบอาชพี ในระบบ-นอกระบบและอาชพี อิสระ
๒.๓.๒ รวบรวมขอ้ มูล ปัญหา ความต้องการประกอบอาชพี ของประชาชน

ในพ้ืนที่/หมู่บ้าน พร้อมทั้งประสานกับหนว่ ยงานที่เก่ียวขอ้ งท้ังภาครัฐและเอกชนเพ่ือความร่วมมือ
ในใหบ้ รกิ ารหรอื สง่ เสริมบรกิ ารตามภารกิจของหนว่ ยงาน

๒.๓.๓ รวมกลมุ่ ผวู้ ่างงาน/ตกงานท่สี นใจประกอบอาชีพอิสระแบบเดียวกัน
และดำเนินการแจ้งรายชื่อให้สำนักงานจัดหางานจังหวัด/สำนักงานจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่
ดำเนินการอบ รมให้แบ บ ครบ วงจรตามโครงการ สร้างอาชีพใ ห้คนตกง าน/ว่ าง งานพร้ อ ม ทั้ ง
ให้บริการแนะแนวอาชีพให้คำแนะนำปรึกษา การวมกลุ่มอาชีพ ประสานแหล่งเงินทุนเพื่อ
ประกอบอาชพี

๒.๓.๔ ส่งเสริมการร่วมกลุ่มผู้ที่ประสงค์จะรับงานไปทำที่บ้านและแจ้ง
สำนักงานจัดหางานจังหวัด/สำนักงานจัดหางานกรุงเพเขตพื้นที่ เพื่อจดทะเบียนกลุ่มและพัฒนา
ศกั ยภาพกลมุ่ พรอ้ มท้งั ประสานสถานประกอบการหรอื ผวู้ ่าจ้างที่สามารถส่ังงานให้ผู้รับงานไปทำ
ที่บา้ น

๒.๓.๕ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ศักยภาพในการรับงานของกลุ่มผูร้ ับงานไป
ทำที่บา้ นทข่ี ้ึนทะเบียนกบั หน่วยงานของกรมการจดั หางานในจงั หวัดเป้าหมาย ผา่ นส่ือตา่ งๆของรัฐ
เพื่อเป็นการเชิญชวนให้นายจ้าง/สถานประกอบการทุกจังหวัด ให้ความร่วมมือช่วยเหลือในการ
จ้างงาน/จา้ งทำงานแกป่ ระชาชนผวู้ ่างงานและกลุ่มผู้รับงานไปทำทบ่ี า้ นในจงั หวดั เป้าหมาย

๒.๔ ด้านการควบคมการทำงานของคนตา่ งด้าว
๒.๔.๑ ทำหน้าที่ประสาน ระหว่างสำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือ

สำนกั งานจัดหางานกรุงเทพเขตพืน้ ท่ี เพ่อื รับขอ้ มลู ขา่ วสารไปถ่ายทอดใหป้ ระชาชนในชุมชนได้รับ
ความรู้เก่ยี วกบั การจา้ งแรงงานตา่ งดา้ ว

๒.๔.๒ ให้คำแนะนำช้ีแจงขอ้ มูลเกีย่ วกบั แรงงานต่างด้าว
๒.๔.๓ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการขออนุญาตทำงานของ
แรงงานตา่ งด้าว
๒.๔.๔ สอดส่องดูแล แจ้งเบาะแสแรงงานต่างด้าว ลักลอบทำงานให้
สำนักงานจัดหางานหางานจังหวัดหรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพเขตพ้ืนท่ี
๒.๕ ดา้ นการค้มุ ครองคนหางาน

๖๒ คูม่ อื อาสาสมัครแรงงงาน สำนักงานแรงงานจังหวัดพระนครศรอี ยุธยา

๒.๕.๑ ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการไปทำงาน
ต่างประเทศ อย่างถูกต้องตามฎหมาย รวมทั้งแบบ วิธีการหลอกลวงคนหางานของสาย/นายจ้าง
จดั หางานเถอ่ื นใหก้ ับประชาชนและคนหางานไดร้ บั ทราบ

๒.๕.๒ ให้คำปรึกษา แนะนำแก่ประชาชนและคนหางานเกี่ยวกับปัญหา
การหลอกลวงและวิธีการไม่ให้ถูกหลอกลวงจากสาย/นายหน้าจัดหางานเถื่อนรวมทั้งให้ความรู้
เกย่ี วกับพระราชบญั ญัตจิ ดั หางานและคุม้ ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘

๒.๕.๓ สอดส่อง ดูแล และแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมการการ
หลอกลวงคนหางานของสาย/นายหน้าจัดหางานเถื่อนให้กรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางาน
จังหวดั หรือสำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพ้นื ทไี่ ด้รบั ทราบ

๒.๕.๔ ประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และชุมชน
ท้องถิ่นเพื่อสร้างความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการหลอกลวงให้กับประชาชนและ
คนหางาน

๒.๕.๕ รวบรวมข้อมูลและจัดทำรายงานสรุปประจำเดือนเกี่ยวกับ
สถานการณแ์ ละปัญหาการหลอกลวงคนหางานในพื้นทีใ่ หก้ รมการจัดหางาน สำนักงานจดั หางาน
จังหวัด หรอื สำนกั งานจัดหางานกรงุ เทพเขตพนื้ ทไ่ี ด้รับทราบ

๒.๕.๖ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับการตรวจสอบการ
ทำงานของแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมอื งในพื้นท่ี

๒.๕.๗ รวบรวมข้อมูลและจัดทำรายงานสรุปประจำเดือนเกี่ยวกับ
สถานการณแ์ ละปัญหาการลักลอบทำงานของแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมอื งในพ้นื ที่ให้กรมการ
จัดหางาน สำนกั งานจัดหางานจังหวัดหรอื สำนักงานจดั หางานกรงุ เทพเขตพนื้ ที่ได้รับทราบ

๓. กรมสวัสดิการและคมุ้ ครองแรงงานไดก้ ำหนดหนา้ ท่ขี องอาสาสมคั รแรงงาน ดังน้ี
๓.๑ สอดส่องดูแล แจ้งเบาะแสการใช้แรงงานที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม

โดยเฉพาะการใชแ้ รงงานหญงิ และเดก็ ทไ่ี ม่เปน็ ธรรม
๓.๒ ใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั ขา่ วสารการใชแ้ รงงาน โดยเฉพาะสิทธิขนั้ พน้ื ฐานแก่แรงงาน

เดก็ ท่ีถกู ตอ้ งตามกฎหมายให้แกป่ ระชาชนในหมู่บ้านและชุมชน
๓.๓ ประชาสัมพันธ์เผยแพรค่ วามรู้ ใหค้ ำปรึกษาแนะนำดน้ สวัสดกิ ารและคุ้มครอง

แรงงานใหแ้ กป่ ระชาชนในหมบู่ า้ น
๓.๔ สำรวจตดิ ตามรวบรวมขอ้ มลู ด้านแรงงานในระบบ และนอกระบบในเขตพ้ืนที่

ที่รับผิดชอบ

๖๓ คู่มืออาสาสมัครแรงงงาน สำนกั งานแรงงานจงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

๓.๕ ส่งเสรมิ ประชาชนให้มสี ว่ นรว่ มในการป้องกนั และแก้ไขดา้ นแรงงานในหมู่บ้าน
ของตนเอง

๓.๖ ปฏิบตั ิหน้าทอี่ นื่ ๆตามทีก่ รมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงานมอบหมาย
๔.สำนักงานประกนั สังคมไดก้ ำหนดหน้ทอ่ี าสาสมคั รแรงงาน ดังนี้

๔.๑ ให้อาสาสมัครแรงงานช่วยประชาสัมพันธ์และแนะแนวการขึ้นทะเบียนของ
นายจ้างหรือผู้ประกันตนตามกฎหมายประกันสังคม และฎหมายเงินทดแทนในถิ่นที่อยู่ของ
อาสาสมัครแรงงานนนั้ ๆ

๔.๒ แนะนำความรดู้ ้านการคุ้มครองซ่ึงตอ้ งปฏบิ ตั ิตามกฎหมายท้ังสองฉบับในการ
นำสง่ เงนิ สบทบและขอรบั สทิ ธิประโยชนต์ ามกฎหมาย

๔.๓ ใหร้ ายงานผลการทำงานของอาสาสมัครภายในระยะเวลาทีก่ ำหนด