การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
ครูสมถวิลรัตน์ อาษาดี
การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
เปน็ ขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการทางสถติ ทิ ีม่ ีความสำคญั เพ่อื ให้ได้มาซึง่ ขอ้ มูลที่
ตอบสนองวตั ถปุ ระสงค์ และสอดคลอ้ งกับกรอบแนวความคดิ สมมุตฐิ าน เทคนคิ
การวดั และการวิเคราะหข์ อ้ มูล ซึง่ หมายรวมทงั้ การเก็บขอ้ มูล (Data Collection)
คือ การเก็บข้อมลู ขึ้นมาใหม่ และการรวบรวมขอ้ มูล (Data Compilation) ซ่ึง
หมายถงึ การนำเอาขอ้ มลู ตา่ งๆทีผ่ ูอ้ น่ื ไดเ้ กบ็ ไวแ้ ล้ว หรือรายงานไวใ้ นเอกสารต่างๆ
มาทำการศึกษาวิเคราะหต์ ่อ
ขอ้ มูล หมายถงึ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวแปรทส่ี ำรวจโดยใชว้ ธิ ีการวัดแบบ
ใดแบบหนง่ึ โดยท่วั ไปจำแนกตามลักษณะของข้อมลู ได้เป็น 2 ประเภท คือ
1) ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) คือ ข้อมลู ที่เปน็ ตัวเลขหรือ
นำมาใหร้ หัสเป็นตวั เลข ซึ่งสามารถนำไปใช้วิเคราะหท์ างสถิติได้
2) ข้อมูลเชงิ คณุ ภาพ (Qualitative Data) คอื ขอ้ มูลที่ไมใ่ ช่ตวั เลข ไม่ได้
มีการให้รหัสตวั เลขที่จะนำไปวิเคราะหท์ างสถิติ แต่เป็นขอ้ ความหรอื ข้อสนเทศ
แหลง่ ข้อมลู ทสี่ ำคญั ได้แก่ บคุ คล เช่น ผู้ใหส้ ัมภาษณ์ ผ้กู รอก
แบบสอบถาม บุคคลทถี่ กู สงั เกต เอกสารทกุ ประเภท และขอ้ มลู สถติ จิ ากหนว่ ยงาน
รวมไปถึง ภาพถา่ ย แผนที่ แผนภูมิ หรอื แม้แตว่ ัตถุ สง่ิ ของ ก็ถอื เปน็ แหลง่ ข้อมลู ได้
ท้งั สน้ิ โดยทั่วไปสามารถจัดประเภทข้อมูลตามแหล่งที่มาได้ 2 ประเภท คือ
1) ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) คือ ขอ้ มลู ทผ่ี ู้วิจยั เก็บขนึ้ มาใหมเ่ พ่อื
ตอบสนองวัตถุประสงค์การวจิ ยั ในเรอ่ื งน้นั ๆ โดยเฉพาะ การเลือกใชข้ อ้ มลู แบบปฐม
ภูมิ ผู้วจิ ัยจะสามารถเลอื กเก็บข้อมลู ไดต้ รงตามความต้องการและสอดคล้องกับ
วัตถปุ ระสงค์ ตลอดจนเทคนคิ การวเิ คราะห์ แตม่ ีข้อเสยี ตรงทส่ี นิ้ เปลอื งเวลา
ค่าใชจ้ ่าย และอาจมีคณุ ภาพไมด่ ีพอ หากเกดิ ความผดิ พลาดในการเกบ็ ข้อมลู
ภาคสนาม
2) ขอ้ มลู ทตุ ิยภมู ิ (Secondary Data) คอื ข้อมูลตา่ งๆ ทม่ี ผี เู้ กบ็ หรอื
รวบรวมไวก้ ่อนแลว้ เพยี งแต่นักวจิ ยั นำข้อมลู เหลา่ น้นั มาศึกษาใหม่ เชน่ ข้อมูลสำ
มะโนประชากร สถิติจากหน่วยงาน และเอกสารทุกประเภท ช่วยให้ผูว้ ิจัยประหยดั
ค่าใชจ้ ่าย ไมต่ อ้ งเสยี เวลากบั การเกบ็ ข้อมลู ใหม่ และสามารถศึกษายอ้ นหลงั ได้ ทำ
ใหท้ ราบถงึ การเปล่ียนแปลงและแนวโน้มการเปลย่ี นแปลงของปรากฏการณท์ ี่ศกึ ษา
แตจ่ ะมขี อ้ จำกดั ในเรื่องความครบถ้วนสมบูรณ์ เน่ืองจากบางคร้ังข้อมลู ทีม่ อี ยูแ่ ลว้
ไม่ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ของเร่ืองท่ีผ้วู ิจัยศกึ ษา และปัญหาเร่อื งความ นา่ เชอื่ ถือของ
ข้อมูล ก่อนจะนำไปใช้จงึ ตอ้ งมีการปรบั ปรุงแก้ไขข้อมลู และเก็บขอ้ มูลเพม่ิ เติมจาก
แหล่งอ่ืนในบางสว่ นที่ไม่สมบูรณ์
ข้อมูลและแหล่งของข้อมลู จะเปน็ สิ่งท่ีใช้กำหนดวธิ ีการรวบรวมข้อมลู ขอ้ มูล
แตล่ ะอย่างอาจต้องใชว้ ิธกี ารรวบรวมทแ่ี ตกต่างกนั ไป
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
การสังเกตุ(observe) เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ใช้สำหรับรวบรวมข้อมูลจาก
เหตุการณ์ สถานการณ์ หรือพฤติกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น การสังเกต
พฤติกรรมของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างรับประทานอาหาร การ
สังเกตพฤติกรรมการทิ้งขยะของนักเรียนการสังเกตการณ์ (Observation) ทั้งการ
สังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม (Participant Observation) และการสังเกตการณ์
แบบไม่มีส่วนร่วม (Non-participant Observation) หรืออาจจะแบ่งเป็น การ
สังเกตการณ์แบบมีโครงสร้าง (Structured Observation) และการสังเกตการณ์
แบบไมม่ ีโครงสร้าง (Unstructured Observation)
การสัมภาษณ์ (Interview) นิยมมากในทางสังคมศาสตร์ โดยเฉพาะการ
สัมภาษณ์โดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-
depth Interview) หรืออาจจะจำแนกเป็นการสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล และการ
สัมภาษณ์เป็นกลุ่ม เช่น เทคนิคการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) ซ่ึง
นิยมใช้กันมาก อาจเป็นการสัมภาษณ์โดยตรงหรือผ่านช่องทาง การสื่อสารอื่น เชน่
โทรศพั ท์ สอ่ื สังคมออนไลน์ คำ ถามท่ใี ช้ตอ้ งชดั เจน ตรงประเดน็ และมลี ักษณะเปน็
คำ ถามปลายเปิด สามารถรวบรวมข้อมลู ทไี่ มจ่ ำกดั คำตอบและไดผ้ ลการสมั ภาษณ์
ทันที การสัมภาษณ์มกั นิยมใช้ รวบรวมข้อมลู เชงิ คณุ ภาพ เช่น การสมั ภาษณ์เพอ่ื รับ
ฟังความเห็นของ นักเรียนต่อระเบียบปฏิบัติในห้องเรียน การสัมภาษณ์เพื่อทราบ
ความร้สู ึก ของผบู้ ริโภคเก่ยี วกับผลิตภณั ฑ์ใหม่
การทบทวนเอกสาร (document/literature review) เปน็ การ
รวบรวม ขอ้ มูลจากเอกสาร หนังสอื รายงาน รายงานวิจัย วิทยานิพนธ์ บทความ
ส่งิ พิมพต์ า่ งๆ หรือแบบฟอร์มสำหรับรวบรวมขอ้ มูล เช่น แบบบันทกึ การเข้าเรียน
ของนักเรียน รายงานประจำ ปี รายงานการประชุม จดหมายขา่ ว แบบฟอร์มลง
เวลาปฏบิ ตั ิงาน
1) กำหนดข้อมูลและตัวช้วี ัด
2) กำหนดแหล่งขอ้ มลู
3) เลอื กกลุม่ ตัวอย่าง
4) เลือกวิธกี ารเก็บรวบรวมขอ้ มูล
5) นำเครอ่ื งมือรวบรวมข้อมลู ไปทดลองใช้
6) ลงมือเก็บรวบรวมขอ้ มูล
การสำรวจ (survey) ทำ โดยสร้างแบบสำรวจที่กำหนดคำถามเพื่อค้นหา
ข้อมูล หรือความเห็นที่ต้องการ เช่น การสำรวจความพึงพอใจของการบริหารงาน
ของสภานักเรยี น การสำรวจแหลง่ ท่องเทีย่ วท่นี กั ท่องเท่ียวสนใจ
การทดลอง (experiment) เป็นการรวบรวมข้อมูลจากการทดลอง หรือ
ทดสอบที่มีการควบคุมปัจจัยบางประการ เช่น การบันทึกผลการเจริญเติบโต ของ
ถั่วงอกเมอ่ื มีแสงแดดและไมม่ ีแสงแดด
การสำมะโน (census) เปน็ การรวบรวมข้อมูลด้วยการสำรวจจากประชากร
เกี่ยวกับเรื่องที่กำ หนด เช่น สำ นักงานสถิติแห่งชาติได้มีการสำ มะโนประชากร
และเคหะ ซึ่งดำ เนนิ การเป็นประจำ ทกุ 10 ปี