รายงานการใชช้ ุดฝึกอบรมด้วยตนเอง
เร่ือง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะศตวรรษที่ 21 ของครผู สู้ อน
ในสหวทิ ยาเขตภูกามยาว สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษาพะเยา
รัมภณฏั ฐ์ อภิวัฒนภ์ ิญโญ[1] ประเวศ เวชชะ[2]
บทคัดย่อ
การวิจัยเร่ือง รายงานการใช้ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เรื่อง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับ
ทักษะศตวรรษท่ี 21 ของครูผู้สอน มีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) ศึกษาผลการใช้ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง 2) ศึกษา
พฤติกรรมการสอนของครูผู้สอน 3) ศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน 4) ศึกษาความพึงพอใจของ
ครูผู้สอนที่มตี ่อการใช้ชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง 5) ศกึ ษาความสัมพันธ์ระหว่าง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง กบั
ทักษะในศตวรรษที่ 21 ของครูผ้สู อน ผลการศกึ ษาพบว่า ผูท้ ม่ี สี ่วนเก่ียวข้องได้
1)ศึกษาชุดฝึกอบรมด้วยตนเองท้ังหมด 6 ชุด ได้แก่ (1) ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง ชุดท่ี 1 เร่ือง การ
ประเมนิ ผลทักษะในศตวรรษที่ 21 (2) ชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง ชุดท่ี 2 เรอื่ ง การประเมินตามสภาพจรงิ (3) ชดุ
ฝึกอบรมด้วยตนเอง ชุดที่ 3 เร่ือง การประเมินภาคปฏิบัติ (4) ชุดฝึกอบรมด้วยตนเองชุดท่ี 4 เรื่อง การ
ออกแบบภาระตามสภาพจริง (5) ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง ชุดที่ 5 เรื่อง การประเมินแฟ้มสะสมงาน(6) ชุด
ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง ชดุ ที่ 6 เรอ่ื ง เกณฑ์การประเมิน
2)ตอบแบบทดสอบความรคู้ วามเขา้ ใจ ก่อนและหลังศกึ ษาชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง
3)ศกึ ษาพฤตกิ รรมการสอนของครผู ้สู อน และพฤติกรรมการเรียนรขู้ องนักเรียน
4)แบบสอบถามความพึงพอใจของครูผู้สอน ที่มีต่อการใช้ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง การประเมินผล
ตามสภาพจรงิ สาหรับทักษะในศตวรรษที่ 21ของครผู ู้สอน ทัง้ 6 ชดุ ฝึกอบรม
5)สนทนากลุม่ แบบนเิ ทศ เรอ่ื ง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ สาหรับทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ทง้ั หมด 4
ประเด็น (1)ทักษะศตวรรษที่ 21 ด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม (2)ทักษะในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะ
สารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี (3)ทักษะในศตวรรษท่ี 21 ดา้ นทักษะชีวิตและอาชพี (4)ความสมั พันธร์ ะหว่าง การ
ประเมนิ ผลตามสภาพจริง กับทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
คาสาคญั การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ,ทกั ษะในศตวรรษที่ 21
1ศึกษานเิ ทศก์ ชานาญการ สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษาพะเยา
2รองศาสตราจารย์ ดร. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั เชียงราย (ท่ปี รกึ ษา)
บทนา
การประเมินผลตามสภาพจริง ได้กาหนดให้สถานศึกษา จัดประเมินผู้เรียนโดยพิจารณาจาก
พัฒนาการเรยี น ความประพฤติ การสังเกตพฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรม และการทดสอบควบคู่ไปใน
กระบวนการเรียนการสอน ตามความเหมาะสมแต่ละระดับของรปู แบบการศึกษาจากการปฏิรูปหลักสูตรการ
เรียนการสอนและการประเมินผล โดยเน้นคณุ ภาพของผลงานคุณลักษณะอันพึงประสงคแ์ ละ พฒั นาการด้าน
ตา่ ง ๆ ของผ้เู รยี น มีการปฏริ ปู การเรียนรู้ ทเ่ี นน้ ผูเ้ รยี นเปน็ ศูนย์กลางอย่างแท้จรงิ วิธกี ารวัดผลและประเมินผล
จากท่นี ิยมปฏิบตั กิ ันมา จึงเปลยี่ นมาเป็นการประเมินผลตามสภาพจรงิ
การประเมินทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ต้องเป็นการประเมินผลสภาพท่ีแท้จรงิ ของนกั เรียนเป็นพื้นฐาน
ของเหตุการณ์ในชวี ิตจรงิ ยดึ การปฏบิ ัติเปน็ สาคัญและสัมพันธ์กบั การเรยี นการสอน เนน้ พัฒนาการที่ปรากฏให้
เห็นผเู้ กีย่ วข้องในการประเมนิ มีหลายฝา่ ยและเกดิ ขน้ึ ในทุกบรบิ ททง้ั ในห้องเรยี นและนอกห้องเรยี นหรือสถานที่
อ่นื ๆ นอกโรงเรียนโดยครไู มไ่ ดจ้ ัดสถานการณ์ ตอ้ งบรู ณาการอยใู่ นกระบวนการเรยี นการสอนในชัน้ เรยี นอยา่ ง
แนบเนียนและเหมาะสม มีการประเมินท้ังที่ เป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยการดาเนินการดังกล่าว
เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาของการจัดการเรียน การสอน นับต้ังแต่ก่อนการเรียนการสอน ระหว่างการเรียนการ
สอน และหลังการเรียนการสอน เพื่อให้ ประสบความสาเร็จทั้งในด้านการทางานและการดาเนินชีวิต ดังนั้น
การประเมินทักษะ ในศตวรรษท่ี 21 จะต้องเป็นการประเมินผลเชิงคุณภาพ เน้นการปฏิบัติจริง บูรณาการ
วิธีการประเมิน และใช้เคร่ืองมือวัดท่ีหลากหลาย สร้างและพัฒนาระบบแฟ้มสะสมงานของผู้เรียน นา
เทคโนโลยีมาใช้ใน การวัดและประเมินผล และนาประโยชน์ของผลสะท้อนจากการปฏิบัติของผู้เรียนมา
ปรบั ปรุงแก้ไขงาน
ผู้วิจัยจึงมีความสนใจท่ีจะพัฒนาครูผู้สอนให้ มีการพัฒนาตนเอง ด้านการจัดการเรียนการสอน ใน
ศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการประเมินตามสภาพจริงทักษะศตวรรษที่ 21 โดยนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีท่ี 5 เป็นระดับช้ันที่ ครูผู้สอนมีความตระหนัก และเห็นความสาคัญในการจัดกิจกรรมการเรยี น
การสอนมากท่ีสุด เน้นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะเฉพาะด้าน ของผู้เรียนในแต่ละคน ทั้งด้านวิชาการ และ
วิชาชพี มีทักษะในการใชว้ ทิ ยาการ และเทคโนโลยี ทักษะกระบวนการคดิ ข้นั สงู สามารถนาความรไู้ ปประยุกต์
ให้เกิดประโยชน์ ในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย และการประกอบอาชีพในอนาคต เพ่ือมุ่งพัฒนาตนเอง
และประเทศตามบทบาทของตนเอง สามารถเปน็ ผ้นู า และเปน็ ผู้ให้บรกิ ารชุมชนใน ดา้ นต่างๆ ซง่ึ ตรงกับทกั ษะ
ศตวรรษท่2ี 1 ทงั้ 3 ดา้ น จงึ ถอื ว่าเปน็ ชั้นปี ท่ีใกล้จะจบการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ของหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพ้ืนฐาน สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาพะเยา ให้ความสาคัญกับการวัดผลประเมินผลคุณภาพ
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ 5 สาระการเรียนรู้หลัก ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย,
คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตลอดจนเพื่อส่งเสริม การ
เตรยี มความพรอ้ มเพ่ือการศกึ ษาในศตวรรษที่ 21
ในฐานะผู้วิจัยเป็นศึกษานิเทศก์ และร่วมรับผิดชอบการพัฒนาการเรียนการสอน โรงเรียน
มัธยมศึกษาในสังกัด จึงสนใจท่ีจะศึกษาและพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะด้านการประเมินผลตาม
สภาพจริงทักษะศตวรรษที่ 21 ให้กับครูผู้สอน โดยเลือกโรงเรียนจุนวิทยาคม เพื่อเป็นกลุ่มทดลอง และ
โรงเรยี นในสหวทิ ยาเขตภูกามยาวทง้ั 9 โรงเรยี น เพอ่ื เปน็ กลมุ่ ตวั อย่าง ในการวจิ ัยจากนวัตกรรม ชดุ ฝึกอบรม
ด้วยตนเอง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะในศตวรรษที่ 21 ที่ผู้วิจัยสร้างข้ึน ชุดฝึกอบรมการ
เรียนรู้ด้วยตนเองสามารถศึกษาผ่านระบบแบบออนไลน์ (Online) และสามารถศึกษาได้ตลอดเวลา (Real-
time)มีการลงทะเบียนเรยี น (QR-Code) ชุดฝกึ อบรมศึกษาชุดฝกึ อบรม(E-Book)ทดสอบกอ่ นและหลงั ศึกษา,
ตอบคาถามกิจกรรม (Google From) และตอบแบบสอบถามหลงั จากศกึ ษาชุดฝกึ อบรมการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง
ท้ัง 6 ชุด ส่ิงที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เพ่ือให้ครูผู้สอนมีความสะดวกต่อการศึกษา และความรู้ ความเข้าใจ ในการ
ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ตอ่ ไป
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่ือสร้างและพัฒนา ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เร่ือง การประเมินผลตามสภาพจริง สาหรับทักษะ
ในศตวรรษท่ี 21 ของครผู ู้สอน
2. เพ่ือศึกษาผลการใช้ชุดฝึกอบรม และพฤติกรรมการสอนของครูผู้สอน ก่อนหลังศึกษา ชุด
ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง เรื่อง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะในศตวรรษท่ี 21 ของครผู ูส้ อน
3. เพื่อศึกษาพฤตกิ รรมการเรียนร้ขู องนกั เรยี น หลงั จากครูผสู้ อนศึกษาการใชช้ ุดฝึกอบรมดว้ ยตนเอง
เร่ือง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรบั ทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ของครผู สู้ อน
4. เพื่อศึกษาความพงึ พอใจของครูผู้สอนท่ีมตี ่อการใช้ ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เรื่อง การประเมินผล
ตามสภาพจริงสาหรบั ทักษะศตวรรษท่ี 21 ของครูผู้สอน
5. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง การประเมินผลตามสภาพจริง กับ ทักษะในศตวรรษที่ 21 ของ
ครผู ู้สอน
วิธีดาเนินการ
วิธีดาเนินการวจิ ัย 5 ขนั้ ตอน ได้แก่
ขนั้ ตอนที่ 1 การสรา้ งและพัฒนา ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง เรือ่ ง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับ
ทักษะในศตวรรษที่ 21 ของครูผู้สอน ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ การวิจัยเอกสาร(Documentary
Research) การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงสารวจ (Survey Research)
เคร่ืองมือท่ีใช้ในการศึกษา (Research Instrument) คือ ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง จานวน 6 ชุด แบบทดสอบ
ออนไลน์ (Google Form) ก่อนศึกษาและหลังศึกษาชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เก็บข้อมูลจาก ครู นักเรียน
ผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนจุนวิทยาคม สหวิทยาเขตภูลังกา กลุ่มทดลอง (Experimental Group) และ
โรงเรยี นในสหวทิ ยาเขตภกู ามยาว ทง้ั หมด 9 โรงเรยี น กลุ่มตัวอยา่ งแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
ข้ันตอนที่ 2 การศึกษาผลการใช้ชุดฝึกอบรม และพฤติกรรมการสอนของครผู ู้สอน ก่อนหลังศึกษา
ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เร่ือง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะในศตวรรษที่ 21 ของครูผู้สอน ใช้
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงสารวจ
(Survey Research) เคร่ืองมือท่ีใช้ในการศึกษา (Research Instrument) คือ แบบประเมินพฤติกรรมการ
สอนของครูผสู้ อน ครูผู้สอนประเมินตนเอง และผ้บู ริหารสถานศึกษาประเมินครูผู้สอน หลังศึกษาการใช้ชุดฝึก
อบรมด้วยตนเอง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะในศตวรรษท่ี 21ของครผู ู้สอน เก็บข้อมลู จาก ครู
ผู้บริหาร โรงเรียนจุนวิทยาคม สหวิทยาเขตภูลังกา กลุ่มทดลอง (Experimental Group) และโรงเรยี นในสห
วทิ ยาเขตภูกามยาว ทั้งหมด 9 โรงเรียน กลุ่มตวั อย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
ขน้ั ตอนท่ี 3 การศึกษาพฤตกิ รรมการเรียนรู้ของนักเรยี น หลังจากครผู สู้ อนศึกษาการใช้ชุดฝึกอบรม
ด้วยตนเอง เรื่อง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะในศตวรรษที่ 21 ของครูผู้สอน ใช้วิธีการเก็บ
รวบรวมข้อมูลโดยใช้ การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงสารวจ (Survey
Research) เคร่ืองมือที่ใช้ในการศึกษา (Research Instrument) คือ แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของ
นักเรียน นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง และครผู สู้ อนประเมนิ นกั เรียน หลังจากครผู สู้ อนศึกษาการใช้ชุดฝึกอบรมด้วย
ตนเอง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะในศตวรรษที่ 21 เก็บข้อมูลจาก ครู นักเรียน โรงเรียนจนุ
วิทยาคม สหวิทยาเขตภูลังกา กลุ่มทดลอง (Experimental Group) และโรงเรียนในสหวิทยาเขตภูกามยาว
ทั้งหมด 9 โรงเรียน กลมุ่ ตวั อยา่ งแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
ข้ันตอนท่ี 4 การศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการใช้ ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เรื่อง
การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะในศตวรรษท่ี 21 ของครูผู้สอนใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้
การวจิ ยั เชงิ ปริมาณ (Quantitative Research) และการวจิ ยั เชิงสารวจ (Survey Research) เคร่อื งมอื ที่ใช้ใน
การศึกษา(Research Instrument)คือ แบบสอบถามความพึงพอใจของครูผู้สอน ท่ีมีต่อการใช้ชุดฝึกอบรม
ด้วยตนเอง การประเมินผลตามสภาพจริงทักษะในศตวรรษท่ี 21ของครูผู้สอน เก็บข้อมูลจาก ครู ในสหวิทยา
เขตภูกามยาว ทัง้ หมด 9 โรงเรียน กลมุ่ ตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
ขั้นตอนที่ 5 การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง การประเมินผลตามสภาพจริง กับ ทักษะใน
ศตวรรษที่ 21 ของครผู ู้สอนใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ การวิจยั เชิงปริมาณ (Quantitative Research)
และการวิจัยแบบสารวจ (Survey Research) เครื่องมือท่ีใช้ในการศึกษา (Research Instrument) คือการ
นิเทศแบบสนทนากล่มุ (Focus Group Discussion) เรอื่ ง การวเิ คราะหค์ วามสัมพันธร์ ะหวา่ ง การประเมนิ ผล
ตามสภาพจริง กับ ทักษะในศตวรรษท่ี 21 ของครูผู้สอนเกบ็ ข้อมูลจาก ครู โรงเรียนในสหวิทยาเขตภูกามยาว
ท้งั หมด 9 โรงเรยี น กลุ่มตวั อย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
ผลการดาเนินการ
ตอนท่ี 1 ผลการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เรื่อง การประเมินผลตามสภาพจริง
สาหรับทักษะในศตวรรษท่ี 21 ของครผู ูส้ อน
1.1 ชุดฝึกอบรม ที่ 1 - 6 มปี ระสทิ ธิภาพของกระบวนการระหว่างฝึกอบรม (E1) รวมเฉลี่ยร้อย
ละ 93.75 และมีประสิทธิภาพของผลลัพธ์หลังใช้ชุดฝึกอบรม (E2)รวมเฉล่ีย ร้อยละ 90.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์
มาตรฐานท่กี าหนดไว้ คอื 80/80
ตอนที่ 2 ผลการใช้ชุดฝึกอบรม และพฤติกรรมการสอนของครูผู้สอน ก่อนหลังศึกษาชุดฝึกอบรม
ดว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ สาหรับทักษะในศตวรรษที่ 21 ของครผู ู้สอน
2.1 ครูผู้สอน ที่ใช้ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง มีคะแนนเฉล่ียร้อยละก่อนเรียนชุดฝึกอบรมด้วย
ตนเอง (26.78 คะแนน) และหลังเรียนชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง (36.34 คะแนน) แตกต่างกัน โดยหลังเรียน
ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเองสงู กว่าก่อนเรียนชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง แสดงว่าชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเองมีประสทิ ธิภาพ
และคุณภาพ ตามร้อยละความก้าวหน้า (24.00 คะแนน) ทาให้ครูผู้สอนมีความรู้เพิ่มข้ึนจริง โดยวิเคราะห์
ข้อมลู หาค่าความเชอื่ มั่นของแบบทดสอบ สตู ร KR –20 ของ วิธแี บบคูเดอร์-ริชารด์ สนั (Kuder-Richardson) ท่ี
สรา้ งข้ึน มคี า่ เทา่ กบั 0.84
2.2 พฤติกรรมการสอนของครูผู้สอน โดยครูผู้สอนประเมินตนเอง และผู้บริหารประเมิน
ครูผ้สู อน เมอื่ พิจารณาครูผู้สอนประเมนิ ตนเอง มคี ่าเฉลี่ย (X̅ = 4.25,S.D. = 0.57) และผูบ้ ริหารประเมนิ ครผู สู้ อน มี
คา่ เฉล่ีย (X̅ = 4.59,S.D.= 0.60) ในภาพรวม มคี า่ เฉล่ยี (X̅ = 4.55,S.D. = 0.59) ของระดบั ผลการประเมนิ อยู่
ในระดับ มากที่สดุ
ตอนท่ี 3 ผลการศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนหลังจากครูผู้สอนศึกษาการใช้ เร่ือง ชุด
ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ สาหรับทกั ษะในศตวรรษที่ 21
3.1 พฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน โดยนักเรียนประเมินตนเอง และครูผู้สอนประเมนิ
นักเรียน เมื่อพจิ ารณาค่าเฉล่ยี นักเรียนประเมนิ พฤตกิ รรมการเรียนรู้ของตนเอง มคี า่ เฉลีย่ (X ̅= 4.53, S.D. =
0.67) อยู่ในระดับมากท่ีสดุ และครผู ู้สอนประเมนิ พฤติกรรมการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น มีค่าเฉลีย่ (X ̅= 4.32, S.D.
= 0.69) อยู่ในระดับ มาก ในภาพรวม มีค่าเฉลี่ย (X ̅ = 4.43, S.D. = 0.68) ของระดับผลการประเมิน อยู่ใน
ระดับ มาก
ตอนท่ี 4 ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนท่ีมีต่อการใช้ ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เรื่อง การ
ประเมนิ ผลตามสภาพจริงสาหรบั ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ของครูผ้สู อน
4.1 ความพงึ พอใจของครูผสู้ อนทมี่ ีตอ่ การใช้ การใชช้ ดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง ชดุ ฝกึ อบรมท่ี 1 - 6
ในภาพรวม มคี า่ เฉล่ีย (X̅ = 4.59, S.D. = 0.57) ของระดับผลการประเมนิ อยู่ในระดับ มากทส่ี ุด
4.1.1 ความพงึ พอใจของครผู ู้สอนท่มี ีต่อการใช้ การใช้ชุดฝึกอบรมดว้ ยตนเอง ชุดท่ี 1 เรอ่ื ง
การประเมินผลทักษะในศตวรรษที่ 21 มีค่าเฉลี่ย (X̅ = 4.55, S.D. = 0.57) ของระดับผลการประเมินอยู่ใน
ระดับ มากทีส่ ุด
4.1.2 ความพงึ พอใจของครผู ู้สอนทม่ี ีตอ่ การใช้ การใช้ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง ชุดท่ี 2 เรอื่ ง
การประเมินตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย (X̅ = 4.67, S.D. = 0.49) ของระดับผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก
ท่สี ดุ
4.1.3 ความพงึ พอใจของครผู ู้สอนที่มีตอ่ การใช้ การใชช้ ดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง ชดุ ที่ 3 เรื่อง
การประเมินภาคปฏบิ ัติ มคี ่าเฉลี่ย (X̅ = 4.62, S.D. = 0.54) ของระดับผลการประเมนิ อยใู่ นระดับ มากทีส่ ดุ
4.1.4 ความพงึ พอใจของครูผู้สอนทม่ี ีต่อการใช้ การใช้ชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง ชุดที่ 4 การออกแบบ
ภาระตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย (X̅ = 4.54, S.D. = 0.61) ของระดบั ผลการประเมินอยใู่ นระดับ มากท่ีสดุ
4.1.5 ความพึงพอใจของครผู สู้ อนท่ีมีตอ่ การใช้ การใช้ชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง ชดุ ท่ี 5 การ
ประเมนิ แฟ้มสะสมงาน มีคา่ เฉลีย่ (X̅ = 4.56, S.D. = 0.61) ของระดบั ผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั มากทส่ี ดุ
4.1.6 ความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการใช้ การใช้ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง ชุดท่ี 6
เกณฑ์การประเมนิ มคี ่าเฉลย่ี (X̅ = 4.61, S.D. = 0.59) ของระดับผลการประเมนิ อย่ใู นระดับ มากท่สี ดุ
ตอนที่ 5 ผลการสารวจความสัมพันธ์ ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง กับ การประเมินผลตามสภาพจริง
สาหรับทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
5.1 ผลการสารวจความสัมพันธ์ ของชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง กับ การประเมินผลตามสภาพจริง
สาหรบั ทักษะในศตวรรษที่ 21 ภาพรวม มคี า่ เฉลีย่ ร้อยละ 80.25 ทาใหค้ รูผู้สอนมีความเข้าใจสาหรบั ทักษะใน
ศตวรรษท่ี 21 เพมิ่ ขึน้ จริง โดยวเิ คราะห์ขอ้ มูลหาความเชอ่ื มนั่ สัมประสทิ ธ์แิ อลฟาของครอนบาค (Cronbach’s
Alpha Coefficient) ท่สี รา้ งขึ้น มีคา่ เท่ากบั 0.97
5.2 ผลการวิเคราะห์เน้ือหาเชิงสัมพันธ์และสรุปเนื้อหาเชิงบรรยายแสดงข้อคิดเห็นของการ
ประเมินผลตามสภาพจริงกับทักษะในศตวรรษที่ 21
5.2.1ด้านการเรยี นรแู้ ละนวตั กรรม พบวา่
1)ผเู้ รยี นมคี วามคิดแตกตา่ งมีจิตนาการหรือคิดต่างอยา่ งสรา้ งสรรค์
2)ผเู้ รียนมคี วามคิดรอบครอบเปน็ ระบบขนั้ ตอนกล้าตัดสนิ ใจและมีความเชอ่ื มัน่
3)ครูผู้สอนสามารถตั้งประเด็นคาถามจากสถานการณ์ที่เกิดข้ึนคิดหาคาตอบและ
แกป้ ัญหาสถานการณท์ ี่เกิดข้ึนได้
4)ผู้เรียนฉลาดในความคิดของตนเองรู้ว่าคาตอบที่คิดได้นั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
และสื่อสารเพ่อื สะท้อนคิดได้
5)ครูผู้สอนมีความใส่ใจกระตือรือร้นกับงานสอนท่ีได้รับมอบหมายมีความใส่ใจใน
งานพเิ ศษและเต็มใจรว่ มมอื กับเพ่อื นรว่ มงาน
5.2.2 ด้านทกั ษะสารสนเทศ สือ่ เทคโนโลยี พบวา่
1)นกั เรยี นสามารถสรุปประเดน็ ปญั หาจากแหลง่ ข้อมูลทมี่ อี ยจู่ รงิ
2)นกั เรียนสามารถตัดสนิ ขอ้ มูลทน่ี า่ เชอ่ื ถอื โดยสืบคน้ ขอ้ มลู อยา่ งถกู ต้อง
3)ครูผู้สอนสามารถแกไ้ ขปญั หาจากแหลง่ ขอ้ มูลที่มอี ยู่จริงและทนั สมัย
4)ครูผู้สอนสามารถส่ือสารกบั ผู้เรยี นได้อย่างถูกต้องชดั เจนมีแนวโนม้ การสื่อสารใน
ทางบวกและรบั ฟ้งผู้เรยี นดว้ ยความเต็มใจ
5.2.3 ดา้ นทกั ษะชวี ิตและอาชพี พบวา่
1)ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทางานกลุ่มมีความยืดหยุ่นในการทางานปรับตัวและ
ควบคุมอารมณ์ของตนเองไดก้ บั งานท่ีครูผูส้ อนมอบหมาย
2)ผู้เรียนสามารถยอมรับและเข้าใจความผิดพลาดของผู้อ่ืนได้สามารถเป็นผู้นาผู้
ตามทด่ี ไี ดใ้ นอนาคต
3)ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีของตนเองสามารถทางานท่ียากลาบากจน
สาเรจ็ ได้
4)นักเรียนแสวงหาความรู้ เรยี นรู้ เพอ่ื พฒั นาหรือตอ่ ยอดอาชีพ
สรุปอภิปรายผล
1.ผลการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เรื่อง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับ
ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ของครูผสู้ อน การหาประสทิ ธภิ าพของชุดฝกึ อบรม พบว่า ชดุ ฝึกอบรมดว้ ยตนเอง เร่ือง
การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะในศตวรรษที่ 21 ของครูผู้สอน ชุดท่ี 1- 6 มีประสิทธิภาพของ
กระบวนการระหว่างฝกึ อบรม (E1)รวมเฉล่ยี รอ้ ยละ 93.75 และมปี ระสทิ ธภิ าพของผลลัพธห์ ลังใช้ชุดฝึกอบรม
(E2) รวมเฉลย่ี รอ้ ยละ 90.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานทก่ี าหนดไว้ คอื 80/80 สอดคล้องกับ ประยงค์ มาแสง
(2561,น.6) ได้ทาการวจิ ยั เร่ือง การพฒั นาชุดฝึกอบรมครเู พอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ของนกั เรียนช้ันอนุบาลปที ่ี 3
ในโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 กล่าวว่า ได้หาประสิทธิภาพของชุด
ฝึกอบรมครู ซ่ึงสูงกว่าเกณฑม์ าตรฐานที่กาหนดไว้คือ 80/80 จากการวิเคราะห์กระบวนการผลิตชุดฝึกอบรม
ครูของผู้วิจัยถ้ามีขั้นตอนกระบวนการผลิตชุดฝึกอบรมครูที่เป็นระบบ ผ่านการตรวจสอบ และประเมินจาก
ผู้เชยี่ วชาญ นาเอาชดุ ฝึกอบรมครูท่ไี ดร้ ับคาแนะนาจากผู้เชี่ยวชาญไปปรับปรงุ แกไ้ ข และนาไปไปทดลองใช้กับ
กลมุ่ ตวั อย่าง 40 คน ทไี่ ม่ใช่กลมุ่ ประชากร ทาใหร้ ับทราบจุดเด่นและจุดดอ้ ยของชุดฝึกอบรมจากกลุ่มทดลอง
อันเป็นประโยชน์ต่อการนาผลการทดลองใช้มาปรับปรุงคุณภาพของชุดฝึกอบรมก่อนนาไปใช้จริงกับกลุ่ม
ประชากรและอกี ประการหน่ึง ชุดฝึกอบรมครูน้ีได้สร้างขึ้นโดยวิเคราะห์โครงสร้าง เน้ือหา และจุดประสงคใ์ น
แต่ละกิจกรรม ทาให้ง่ายต่อการศึกษาด้วยตนเอง จึงทาให้ชุดฝึกอบรมครูที่ผ่านกระบวนการสร้างดังกล่าว
พบว่ามีประสิทธภิ าพสงู กว่าเกณฑม์ าตรฐานที่กาหนดไวท้ ุกครัง้ คือ 80/80
2. ผลการศึกษาผลการใช้ชุดฝึกอบรม และพฤติกรรมการสอนของครูผู้สอน ก่อนหลังศึกษา ชุด
ฝกึ อบรมด้วยตนเอง เรือ่ ง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทกั ษะในศตวรรษที่ 21 ของครูผู้สอน
2.1 ผลการศึกษาความรู้ความเข้าใจ พบว่า ครูผู้สอน มีคะแนนทดสอบหลังการใช้ชุดฝึกอบรม
สูงกว่าก่อนการศึกษาชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง โดยคะแนนเฉล่ียร้อยละหลังการใช้ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง
เท่ากับ 90.85 คะแนน ก่อนการใช้ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง 66.95 คะแนน ทีอัตราความก้าวหน้า 24.00
คะแนน ซึ่งสอดคล้องกับ สุนีย์ จาปาเงิน,สุวพัชร์ ช่างพินิจ (2558 ,บทคัดย่อ อ้างอิงถึง ศิริชัย กาญจนวาสี,2552,น.
223) ได้ทาการวิจัยเร่ือง แนวทางการแก้ปัญหาการประเมินผลตามสภาพจริงของเด็กท่ีมีความต้องการพิเศษในโรงเรียน
แกนนาจัดการเรียนร่วม สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1 กล่าวว่า 1) เนื้อหาและ
กิจกรรมท่ีมีอยู่ในชุดฝึกอบรมทุกชุด เน้นการให้ครูผู้สอนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจากชุดฝึกอบรมมากท่ีสุด ทา
ให้เป็นตัวกระตุ้นที่จะทาให้ครูผู้สอนเกิดการเรียนรู้ สอดคล้องกับ ความหมายของการวัดผลตามสภาพจริงวา่
เป็นการประเมินผลท่ีสะท้อนให้เห็นถึงสภาพการเรียนการสอนที่แท้จริงโดยมีการปฏิบัติจริงในชีวิตจริง 2)
ปัจจัยหนึ่งน่าจะเป็นสาเหตุทาให้ครูผู้สอนมีความรู้หลังศึกษาชุดฝึกอบรมเพิ่มขึ้นก่อนการศึกษาชุดฝึกอบรม
อาจเปน็ เพราะวา่ ผ้วู ิจยั ไดน้ เิ ทศตดิ ตามติดตามครผู ู้สอนเปน็ ระยะ ๆ หลงั จากท่ีครูผู้สอนได้ศกึ ษาแล้วนาความรู้
ท่ีได้ไปปฏิบัติกิจกรรมการเรียนการสอน และการประเมินผลตามสภาพจริง จึงทาให้เกิดความรู้ ความเข้าใจท่ี
ลึกซง้ึ และชดั เจน
2.2 ผลการศึกษาพฤตกิ รรมการสอน พบว่า ครูผสู้ อนเป็นผู้ประเมนิ ตนเอง และผบู้ รหิ ารประเมนิ
ครผู ูส้ อน ในภาพรวมมีคา่ เฉลี่ยของระดับผลการประเมนิ ตรงกัน คอื อยู่ในระดับ มากท่สี ดุ โดยมคี า่ เฉล่ยี 4.52
และ 4.59 ตามลาดบั และเม่ือพจิ ารณาเป็นรายข้อ ทกุ รายการทง้ั ของครูผู้สอนและผู้บริหาร มีผลการประเมิน
อยู่ในระดับมากที่สดุ และมาก และมรี ายการประเมินทมี่ ีความสอดคล้อง ตรงกนั มคี ่าเฉลย่ี สงู สุดสูงสดุ คอื วดั
และประเมินผลพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรยี นควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน อย่ใู นระดับมาก
ที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.87 และ 4.83 ตามลาดับ จากผลที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่า หลังจากท่ีครูผู้สอนได้ศึกษาชุดฝึก
อบรมชดุ ที่ 1 มีความเขา้ ใจในเน้อื หาเพ่ิมขน้ึ และเขา้ ใจความแตกต่างของการประเมนิ ทัง้ สองแบบ ทาให้เข้าใจ
ว่า การทีจ่ ะจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ใหผ้ ู้เรยี นได้เรียนรู้ไดอ้ ย่างเต็มศักยภาพ และผ้เู รียนมีความก้าวหน้า
ทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จึงได้ปรับเปล่ียนพฤติกรรมการ
สอน มาเก็บข้อมูลนักเรียนในระหว่างเรียน เพื่อค้นหาความก้าวหนา้ ทางการเรียน โดยประเมินผลไปพร้อม ๆ
กับการเรียนรู้ของผู้เรียน และในระหว่างเรียนก็เน้นการฝึกปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน ใช้วิธีการประเมินผลด้วย
วิธีการหลากหลาย ทาให้ครูผสู้ อนสามารถมองเห็นพฤตกิ รรม ความแตกต่างระหวา่ งเรียน ของผเู้ รยี นไดช้ ัดเจน
ทาให้มีโอกาสปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาให้นักเรียนได้ใช้ความสามารถเต็มศักยภาพ สามารถรู้จุดเด่นจุดด้อย
ของนกั เรียน รู้จดุ บกพรอ่ งทค่ี วรแก้ไข ซ่ึงสอดคล้องกับ นชุ วนา เหลอื งองั กูร (2550,บทคัดย่อ) ไดท้ าการวิจัย
เรื่อง การวางแผนพัฒนาแฟ้มสะสมผลงานเพ่ือให้สอดคล้องกับการประเมินผลตามสภาพจริง กล่าวว่า การ
ประเมินผลการเรียนรู้ ต้องจัดควบคู่ไปกับการเรียนการสอน ครูต้องทาหน้าท่ีทดสอบ และการสอนเป็นเน้ือ
เดียวกัน ในกระบวนการเรียนการสอน ครูผู้สอน จะต้องทาการประเมินการเรียนการสอนและการประเมิน
จะตอ้ งหลอมรวมกัน การประเมินต้องประเมนิ ตอ่ เนอื่ งตลอดเวลาท่ีทาการเรียนการสอน โดยผเู้ รยี นมีส่วนร่วม
เนน้ การปฏบิ ตั ิจรงิ ในสภาพท่สี อดคล้องหรอื ใกลเ้ คยี งกบั ธรรมชาตคิ วามเป็นจริงของการดารงชีวิต งานกจิ กรรม
การเรยี น
3. ผลการศึกษาพฤตกิ รรมการเรียนรูข้ องนกั เรียน หลงั จากครูผู้สอนศึกษาการใช้ เร่อื ง ชดุ ฝกึ อบรม
ดว้ ยตนเอง การประเมินผลตามสภาพจรงิ สาหรับทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ผลการศกึ ษาพฤติกรรมการเรยี นรู้ของ
นักเรยี น พบวา่ นกั เรยี นประเมินตนเอง และครูผสู้ อนประเมนิ นักเรียน ในภาพรวม มีค่าเฉลย่ี ของระดับผลการ
ประเมิน อยู่ในระดับ มากขึ้นไป โดยนักเรียนประเมนิ พฤติกรรมการเรยี นร้ขู องตนเอง อยู่ในระดบั มากท่ีสุด มี
คา่ เฉลยี่ 4.53 และครผู ู้สอนประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน อย่ใู นระดับมาก มคี ่าเฉลี่ย 4.32 ทเี่ ป็น
เช่นน้ี เน่ืองมาจาก ในขณะที่ครูผู้สอนได้ศึกษาชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง ควบคู่ไปพร้อม ๆ กับการจัดกิจกรรม
การเรยี นการสอนในชั้นเรียน และผวู้ จิ ยั ได้ไปนิเทศ ในการให้ความรู้ โดยพิจารณาจากการเขยี นแผนการจดั การ
เรียนรู้ ผลงานของครูผู้สอน และผลงานของนักเรียน ซึ่งผู้วิจัยได้ให้คาแนะนาแก่ครูผู้สอน ในเร่ืองของการทา
ชิ้นงานหรือผลงานของนักเรียน ซึ่งเป็นวิธีการประเมินอีกด้านหน่ึงท่ีสามารถสะท้อนถึงความสามารถของ
นักเรียนในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เป็นวธิ ีการประเมนิ ท่ีให้นักเรียนได้ลงมือปฏบิ ัติดว้ ยตนเอง เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง โดยสามารถนาพ้ืนฐานความรู้ที่มี
อยู่ นามาปรับใชใ้ หเ้ กิดความร้ใู หม่ ๆ ในการสรา้ งช้นิ งาน หรอื ผลงาน ซ่ึงจากเดมิ ครผู ู้สอนส่วนใหญจ่ ะใช้วิธีการ
ประเมินวัดความรู้เพียงด้านเดียว คือให้นักเรียนทาแบบทดสอบ ซ่ึงไม่สามารถสะท้อนความสามารถของ
นักเรียนในด้านอ่ืน ๆ จากการท่ีครูผู้สอนได้แนวทางการศึกษาครั้งน้ี ครูผู้สอน ได้ปรับเปล่ียนวิธีการประเมนิ
โดยใหน้ ักเรยี นทุกคนได้ประเมินดว้ ยการทาชิ้นงาน หรอื ผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบตั จิ ริงของนักเรยี น เพ่อื ให้ได้
หลักฐานหรือร่องรอย ที่แสดงว่า นักเรียนได้เรยี นรู้บรรลุตามมาตรฐาน ซ่ึงสอดคล้องกบั วรรณ์ดี แสงประทปี
ทอง (2561,บทคัดย่อ) ได้ทาการวิจัยเร่ือง แนวทางการประเมินผลการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 พบว่า การ
ประเมินสภาพจริงจะไม่เน้นการประเมินเฉพาะทักษะพ้ืนฐานแต่จะเป็นการประเมินทักษะการคิดซับซ้อนใน
การทางานของนักเรยี น ความสามารถในการแกป้ ัญหา และการแสดงออกท่เี กิดจากการปฏิบัตใิ นสภาพจริงใน
การเรียนการสอน ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ให้เป็นผู้ค้นพบและผู้ผลิตความรู้ ให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติจริง
เพอ่ื สนองจุดประสงค์ของหลักสูตรและความต้องการทางสงั คม การประเมนิ ผลการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ส่ิง
ที่ประเมินประกอบด้วย ความรู้ในสาระวิชาแกน คุณลักษณะและทักษะในศตวรรษท่ี 21 วิธีการประเมินเปน็
การประเมินตามสภาพจรงิ ใช้วิธีการและเคร่ืองมือท่ีหลากหลายให้เหมาะสมกับส่ิงท่ีประเมิน โดยประยุกต์ใช้
กรอบการประเมนิ ให้ตอบสนองทกั ษะในศตวรรษที่ 21 ทง้ั 5 มติ ิ ไดแ้ ก่การเรียนรู้ความเข้าใจ การสารวจ การ
สร้างสรรค์ และการแบ่งปัน เพ่ือนาผลการประเมินมาเป็นแนวทางพัฒนาผู้เรียนต่อไป คาถามสาคัญสาหรับ
ผู้สอนคือผู้เรียนของท่านมีทักษะในศตวรรษที่ 21 มากน้อยเพียงใด และจะพัฒนาให้พวกเขามีทักษะใน
ศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการใช้ ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เรื่อง การ
ประเมินผลตามสภาพจริงสาหรบั ทักษะในศตวรรษที่ 21 ของครูผู้สอน ผลการศึกษาความพึงพอใจ พบว่า ชุด
ฝึกอบรมด้วยตนเองเรื่อง การประเมินผลตามสภาพจริงสาหรับทักษะในศตวรรษท่ี 21 ของครูผู้สอนชุด
ฝึกอบรมท่ี 1 - ชุดฝึกอบรมที่ 6 ในภาพรวมมีคุณภาพในระดับมากท่ีสุด โดยมีค่าเฉลี่ย 4.59 จากผลการ
ประเมินของแต่ละชุดฝึก โดยเฉพาะชุดฝึกอบรมท่ี 1 มีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด คือ มีเนื้อหาชัดเจน และเข้าใจง่าย
สว่ นชุดฝึกอบรมท่ี 2, 3, 4, 6 เม่อื พจิ ารณาแต่ละชุดฝกึ ปรากฏว่า มีผลการประเมนิ ที่มคี วามสอดคล้อง ตรงกนั
คือ เน้ือหาและกิจกรรมน่าสนใจและสามารถนาไปปฏิบัติได้ โดยมีค่าเฉลี่ย มากท่ีสุด และชุดฝึกอบรมท่ี 5 มี
ค่าเฉลี่ย มากท่ีสุด คือ มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์และเนื้อหา จากชุดฝึกอบรมทั้ง 6 ชุดน้ี มีผลอาจ
เน่ืองจากการจัดทาชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง ผู้วิจัยได้ศึกษา วิเคราะห์ หลักการ แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้
วิเคราะห์รูปแบบ รายละเอียดและองค์ประกอบของชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง จากเอกสารรายงานการวิจัยท่ี
เกี่ยวข้อง ประกอบกับผู้วิจัยได้ผ่านการประชุม อบรม สัมมนา ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พื้นฐาน มีความรู้ ความเข้าใจในการจัดทาชุดฝึกอบรม โดยนามาสร้างและนาเสนอสาระความรู้ โดยแบ่งเปน็
ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง 6 ชุด ทาให้ง่ายต่อการศึกษาด้วยตนเอง แต่ละชุดได้รับการพัฒนาและปรับปรุงแก้ไข
ตามข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนการหาคุณภาพตามขั้นตอน ก่อนนาไปทดลองใช้ จึงมีผลให้ชุด
ฝึกอบรมด้วยตนเองมีคุณภาพ เป็นที่เช่ือถือได้ ประกอบกับผู้วิจัยได้นิเทศ ติดตาม ได้ชี้แจงแนวปฏิบัติจึง
สามารถนาไปสูก่ ารปฏิบัติจริงได้ ซึ่งสอดคลอ้ งกบั ทวีศักด์ิ ปันคามลู (2558,บทคัดยอ่ อา้ งองิ ถึง ทวศี กั ด์ิ ไชย
มาโย, 2545,น.72- 73) ได้ทาการวิจัยเรื่อง วิธีประยุกต์การประเมินตามสภาพจริงให้สอดคล้องกับหลักการ
ประเมินผู้เรียน พบว่า ลักษณะเด่นของชุดฝึกอบรมด้วยตนเองท่ีพัฒนาขึ้น ลักษณะแรกชุดฝึกอบรมด้วย
ตนเองที่ไดร้ ับการพัฒนาขนึ้ ไดร้ ับการทดสอบและทดลองงานจนได้ผลดแี ล้ว สามารถนาไปใชเ้ ปน็ ส่ือเพ่ือแก้ไข
ข้อบกพร่องสภาพการพัฒนาบุคลากรได้เป็นอย่างดี ลักษณะที่สอง ชุดฝึกอบรมด้วยตนเองท่ีได้รับการพฒั นา
อย่างเป็นระบบ ได้รับการตรวจสอบจากผู้รู้ ผู้ชานาญ ตลอดจนได้รับการปรับปรุงแก้ไขทุกระยะ ทาให้การ
เสนอเนื้อหา มีองค์ความรู้ เป็นเอกภาพ ลักษณะที่สาม ชุดฝึกอบรมด้วยตนเองท่ีผ่านการทดลอง ทดสอบ จน
เปน็ ท่ีพอใจ แลว้ จะทาให้ผู้เรียนเกิดการเปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรมการเรียนร้ไู ด้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพความท้อถอย
ในการเรียนรู้เพราะเขามีโอกาสทาได้สาเร็จเหมือนกับคนอ่ืน ๆ ครูต้องคานึงเสมอว่า หลักสูตรการเรียนการ
สอน และการประเมนิ มคี วามสัมพนั ธก์ ัน และร้จู ักเลอื กวธิ ีการประเมนิ ทห่ี ลากหลายเพือ่ จะตรวจสอบคุณภาพ
ของงานของนักเรียน การประเมินทุกครั้งต้องสะท้อนให้เห็นพฤติกรรม และทักษะที่จาเป็นของนักเรียนใน
สถานการณ์ที่เป็นจริงแห่งโลกปัจจุบัน และเน้นงานที่นักเรียนแสดงออกในภาคปฏิบัติ กระบวนการเรียนรู้
ผลผลิต และแฟ้มสะสมผลงาน โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการประเมินและมีส่วนร่วมในการจัด
กระบวนการเรยี นรู้ของตนเอง
5. ผลการศกึ ษาความสัมพันธร์ ะหว่าง การประเมินผลตามสภาพจรงิ กับทักษะในศตวรรษที่ 21 ของ
ครูผู้สอน การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง การประเมินผลตามสภาพจริง กับ ทักษะในศตวรรษที่ 21 ของ
ครูผู้สอน ภาพรวม มีค่าเฉลีย่ รอ้ ยละ 80.25 เม่ือพจิ ารณาเปน็ รายข้อ รายการท่มี คี ่าเฉล่ยี ร้อยละสงู สุด คอื ชดุ
ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง สามารถวดั ผลว่านกั เรยี นรู้และทาอะไรไดบ้ ้าง มีคา่ เฉลี่ยรอ้ ยละ 93.33 รองลงมา คอื ชุด
ฝึกอบรมด้วยตนเอง สามารถวัดผลเกิดข้ึนหลายคร้ังและต่อเน่ือง นักเรียนได้รับข้อมูลเก่ียวกับการเรยี นรู้ของ
ตนเอง เพ่ือปรับปรุงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 85.00 และ ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง สามารถ
วัดผลหลายรูปแบบ วัดเป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มย่อย วัดผลรายบุคคล มีค่าเฉล่ียร้อยละ 85.00 ส่วนรายการที่มี
คา่ เฉลีย่ ร้อยละตา่ สุด คอื ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง สามารถวดั ผลความสามารถด้านกระบวนการ วธิ ีการคิดและ
การแสดงออก มีค่าเฉลย่ี ร้อยละ 68.33 วธิ กี ารประเมินผลของผูว้ ิจัย มดี งั นี้ 1)การประเมนิ ผลทักษะในศตวรรษ
ท่ี 21 2)การประเมินตามสภาพจริง 3)การประเมินภาคปฏิบัติ 4)การออกแบบภาระงานสภาพจริง 5)การ
ประเมินแฟม้ สะสมงาน 6)เกณฑ์การประเมิน ซ่ึงสอดคล้องกับ กับ ศศิธร บัวทอง (2560,บทคัดย่อ) ได้การทา
วิจัยเร่ือง การประเมินผลทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 พบว่า องศ์ประกอบวธิ ีการการประเมินผล ทักษะ
การเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี 21 มดี งั น้ี 1)การประเมินด้วยการส่ือสารส่วนบุคคล 2) การประเมินจากการปฏบิ ัติ 3)
การประเมินตามสภาพจริง 4) การประเมินดว้ ยแฟ้มสะสมผลงาน การจัดการเรียนการสอนทเ่ี น้นผู้เรยี น ให้คิด
เป็น ทาเปน็ และพัฒนาตามธรรมชาติของผู้เรียนอยา่ งเต็มศักยภาพ และการประเมนิ ผลการเรียนท่ีสอดคล้อง
กับการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางจะให้ความสาคัญแก่ผู้เรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมิน
ตนเอง ประเมินเพ่ือน หรือให้เพื่อนประเมินผู้เรียน ผู้เรียนจะต้องมีความเต็มใจ และมีความสุขกับการเรียน
การมีส่วนร่วมระหว่างผู้เรียนกับครู ผู้ปกครอง จะช่วยแก้ไขจุดอ่อนการประเมินผลแบบเดิม ท่ีทาให้นักเรียน
ขาดโอกาสท่ีจะบูรณาการความรู้ และทักษะวิชาการต่าง ๆ เพ่ือใช้ในการปฏิบัติงาน หรือแก้ไขปัญหาที่พบ
สอดคล้องกับชีวิตประจาวัน การประเมินผลทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ต้องเป็นการประเมนิ ผลสภาพที่
แทจ้ ริงของนักเรยี นเปน็ พนื้ ฐานของเหตกุ ารณ์ในชีวิตจริง ยดึ การปฏบิ ัตเิ ปน็ สาคญั และสัมพันธ์กับการเรียนการ
สอน เน้นพัฒนาการท่ีปรากฏให้เห็นผู้เก่ยี วข้องในการประเมินมีหลายฝ่ายและเกิดขึ้นในทุกบรบิ ท จึงเป็นการ
ผสมผสานองค์ความรู้ทักษะเฉพาะด้าน ความชานาญการและความเท่าทันด้านต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อให้
ประสบความสาเร็จทั้งในด้านการทางานและการดาเนินชีวิต ดงั นัน้ การประเมนิ ผลทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษ
ท่ี 21 จะต้องเป็นการประเมนิ ผลเชิงคุณภาพ เน้นการปฏบิ ตั จิ ริง บรู ณาการวิธกี ารประเมนิ และใช้เคร่อื งมือวัด
ท่ีหลากหลายสร้างและพัฒนาระบบแฟ้มสะสมงาน (Portfolios) ของผู้เรียนนาเทคโนโลยีมาใช้ในการ
ประเมินผล และนาประโยชนข์ องผลสะท้อนจากการปฏิบัตขิ องผ้เู รยี นมาปรบั ปรงุ แก้ไขงาน
ขอ้ เสนอแนะ
จากผลการศึกษาครั้งน้ี มีข้อเสนอแนะที่จะนาไปใช้ในการนิเทศภายใน และการพัฒนานวัตกรรม
ดังน้ี
1. ควรจะขยายผลการใช้ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง การประเมินผลตามสภาพจริงไปใช้ใน ทุก
ระดับชนั้ เรยี น และ โรงเรยี นอื่น ๆ ตา่ งสงั กดั
2. ผอู้ านวยการโรงเรียนควรนเิ ทศภายในโรงเรยี น ติดตามผลการใช้ชุดฝกึ อบรมด้วยตนเอง การ
ประเมนิ ผลตามสภาพจริง ของครูผู้สอนอย่างสม่าเสมอ เพ่อื ใหค้ าปรึกษาแนะนาการใชน้ วตั กรรม และเปน็ การ
ใหข้ วัญกาลังใจในการปฏบิ ัติงานของครู
3. ผู้อานวยการโรงเรียนควรสนับสนุนให้ครูผู้สอนพัฒนานวัตกรรมที่ใช้ในการประเมินผลตาม
สภาพจรงิ ตามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ระดบั ช่วงชัน้ ตา่ ง ๆ เป็นตน้
4. ศึกษานิเทศก์ควรมีการวิจัย และพัฒนาชุดฝกึ อบรมด้วยตนเอง การประเมินผลตามสภาพจริง
ในรูปแบบอื่นๆ เช่น การประเมินผลตามสภาพจริง หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พ.ศ.2551, การ
ประเมนิ ผลตามสภาพจริง การจดั การเรียนการสอนในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเช้ือ โควดิ -19 เป็นตน้
รายการอา้ งอิง
กิตติธัช สีหะวงษ์,พัชราวลัย มีทรัพย์,วิราพร พงศ์อาจารย์.(2557,82).สาขาวิชาวิจัยและประเมินผลทางการ
ศึกษา,หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต.มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามการศึกษาสภาพและแนว
ทางการพัฒนาการประเมินตามสภาพจริงของครู สังกัดสานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา
เขต 39 อาเภอเนนิ มะปราง จังหวดั พษิ ณโุ ลก
เชดิ เกียรติ แก้วพวง,ลักขณา สรวิ ัฒน์.(2563,64).การพฒั นาแนวทางการพัฒนาครูด้านการวัดผลประเมินผล
การเรียนรู้ตามสภาพจริง สาหรับสถานศึกษาสังกัดสานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษาเขต
24.วารสารมหาวทิ ยาลัยราชภฏั รอ้ ยเอด็ .คณะศกึ ษาศาสตร.์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ร้อยเอด็
ไพฑรู ย์ สินลารัตน.์ (2565).บทบาทของครูในศตวรรษที่ 21.ออนไลน์.สืบคน้ ขอ้ มลู เมอ่ื 12 มถิ ุนายน 2565
วรรณ์ดี แสงประทีป(2561,2).แนวทางการประเมินผลการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21.วิจัยและประเมินผลอุบล
ราธานี.สาขาวชิ าศกึ ษาศาสตร์.มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช
ศศธิ ร บวั ทอง.(2560,6).แนวคิดการวัดและประเมนิ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21.
ศศิธร บัวทอง.(2560,1856).การวัดและประเมินทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21.ฉบับภาษาไทย สาขา
มนษุ ย์ศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศลิ ปะ.มหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช
สานักงานการบรหิ ารมัธยมศึกษาตอนปลาย.(2559,65).แนวทางการจดั การทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21