การสร้างe-book capcut

CapCut

Movie Editor
By Praewpan Bangsang

64410150 Group 1

CAPCUT

Movie Editor

Movie Editor

คือออะไร

สร้างวิดีโอของคุณให้ขึ้นมาโลดแล่นมีชีวิตชีวาด้วยโปรแกรมแก้ไขวิดีโอขั้นสูง
ประกอบด้วยทรานซิชัน เอฟเฟค และฟิลเตอร์หลายร้อยแบบ PITI คือเครื่องมือ
ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการแก้ไขวิดีโอ ไม่ว่าคุณจะต้องการ เก็บความทรงจําใน
ครอบครัว ทำวิดีโอเป็นของขวัญให้กับเพื่อน หรือสร้างวิดีโอแบบมืออาชีพ

Capcut คืออะไร?



CAPCUT คืออะไร ไม่นานมานี้ มีการเปิดตัวแอปพลิเคชั่นตัดต่อวิดีโอซึ่งในหมู่
ผู้ใช้จนถึงทุกวันนี้ ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์
ที่กว้างขวางกับแพลตฟอร์ม TIKTOK แม้ว่าจะไม่ได้ทำงานโดยพึ่งพาอาศัยกัน
ก็ตาม

ใครเป็นคนสร้าง CapCut ?



CAPCUT เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบโดย BYTEDANCE ซึ่งเป็น
เจ้าของ TIKTOK ซึ่งในช่วงหลายเดือนมานี้ได้กลายเป็นหนึ่งในแอพที่มีจำนวน
การดาวน์โหลดสูงสุดจากผู้ใช้ทั่วโลก อันดับ 10 จากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น
GOOGLE PLAY STORE และ APPLE STORE

วันที่เปิดตัวคือ 10 เมษายน 2020 หลังจากทดสอบแอพนี้แล้ว
สามารถยืนยันได้ว่ามันคือแอพ สมบูรณ์และเป็นมืออาชีพมากขึ้น ในแง่ของ
การตัดต่อวิดีโอคลิป เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขวิดีโอในแนวตั้ง
และส่งออกด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยม แม้กระทั่งถึง 4K HDR

วิธีการ ตัดต่อวิดีโอด้วย CapCut

1.ดาวน์โหลดแอป. คุณดาวน์โหลด CAPCUT ได้ทั้งใน IPHONE และ
ANDROID โดยเข้าไปที่ APP STORE ตามระบบที่ใช้งาน (APPLE APP
STORE หรือ GOOGLE PLAY STORE

2 แตะไอคอน ‘SEARCH’ มุมขวาล่าง. แตะแถบค้นหาด้านบน แล้วพิมพ์
‘CAPCUT’
-ถ้าเป็น ANDROID แล้วใช้ GOOGLE PLAY ให้แตะแถบค้นหาด้านบน
ที่เขียนว่า ‘GOOGLE PLAY’ จากนั้นพิมพ์ ‘CAPCUT’
-แตะแอป ‘CAPCUT - VIDEO EDITOR’ ในผลการค้นหาที่โผล่มา

วิธีการ ตัดต่อวิดีโอด้วย CapCut

3. แตะปุ่ม DOWNLOAD/INSTALL. แอปนี้ดาวน์โหลดได้ฟรีเลย

4. อนุญาตให้ CAPCUT เข้าถึง CAMERA ROLL. เพื่อให้ใส่คลิปที่จะตัด
ต่อได้นั่นเอง! เปิดแอปแล้วแตะปุ่ม “NEW PROJECT” ด้านบนของหน้า
จอได้เลย

วิธีการ ตัดต่อวิดีโอด้วย CapCut

5. แตะปุ่ม ‘CONFIRM’ สีเขียว. เพื่อยอมรับว่า CAPCUT ต้องเข้าถึงรูป
ของคุณได้ ในหน้าต่าง POP-UP ถัดไป ให้แตะปุ่มอนุญาตการเข้าถึงรูป
ทั้งหมดเราจะทำขั้นตอนนี้แค่เฉพาะครั้งแรกที่เปิดแอปเท่านั้น

1.สร้าง NEW PROJECT. พอเปิดแอปแล้ว ให้แตะปุ่ม “NEW PROJECT”
หน้าจอใหม่จะโผล่มา เห็นคลิปต่างๆ ใน CAMERA ROLL ของเรา

วิธีการ ตัดต่อวิดีโอด้วย CapCut

2. เลือกคลิปที่ต้องการ. หาคลิปที่จะเพิ่มเข้าโปรเจกต์
โดยเลื่ อนไปตามหน้าใหม่นี้ที่แสดงคลิปที่มีใน
CAMERA ROLL จากนั้นแตะ THUMBNAIL
ของคลิปที่ต้องการ แล้วแตะปุ่ม “ADD” มุมขวาล่าง
ของหน้าจอตอนนี้ให้เลือกแค่คลิปเดียวก่อน เดี๋ยวเรา
จะแนะนำวิธีเพิ่มคลิปในขั้นตอนต่อๆ ไป

3. ทำความคุ้นเคยกับเมนูต่างๆ ของแอป. CAPCUT
จะเปิดหน้าเมนูสำหรับตัดต่อคลิปขึ้นมาทันทีหลังอัป
โหลดคลิปแรกแล้ว เป็นหน้าที่เดี๋ยวจะเห็นจนชินเวลา
ใช้แอป จากด้านบนลงไปที่ด้านล่าง จะเห็น PREVIEW
PANEL (กรอบแสดงตัวอย่างคลิป) TIMELINE
ของคลิป และ TOOLBAR

4. สำรวจ PREVIEW PANEL. หรือก็คือครึ่งบนของ
หน้าจอ จะเห็นตัวอย่างของคลิปว่าตัดต่อแล้วจะออก
มาเป็นยังไง

5. สำรวจ TIMELINE และ TOOLBAR. หรือก็คือ
ครึ่งล่างของหน้าจอ โดย TIMELINE จะอยู่ล่างกรอบ
PREVIEW เป็นพื้นที่สำหรับตัดต่อคลิป ส่วน
TOOLBAR จะอยู่ล่างสุดของหน้าจอ มี EDITING
TOOLS หรือเครื่องมือตัดต่อทั้งหมด เช่น SPLIT,
AUDIO, TEXT, STICKERS, EFFECTS และอื่นๆ

วิธีการ ขั้นที่ 3 ตัดต่อขั้นสูง

1.ปรับความเร็วของคลิป. การทำให้ภาพในคลิปเล่นเร็ว
ขึ้นหรือช้าลงนั้น ให้แตะคลิปใน TIMELINE แล้วแตะ
ปุ่ม "SPEED" ใน TOOLBAR ที่ไอคอนเป็นวงกลม
เล็กๆ ในวงกลมใหญ่ FRAME RATE ของคลิปควรจะ
เป็น 60 FPS หรือมากกว่า คลิปที่ได้หลังปรับความเร็ว
จะได้ยังคมชัดอยู่

2.ใช้ตัวปรับความเร็วแบบ "NORMAL". CAPCUT
จะมีตัวปรับความเร็วคลิป 2 แบบด้วยกัน คือ
"NORMAL" กับ "CURVE" ให้แตะ "NORMAL"
เพื่อทำให้ทั้งคลิปเร็วขึ้นหรือช้าลง จะเห็นแถบเลื่อน
ปรับความเร็วตั้งแต่ 0.1X ถึง 100X

3.ใช้ตัวปรับความเร็วแบบ "CURVE". ให้แตะ "CURVE"
ถ้าจะปรับความเร็วแต่ละส่วนของคลิปไม่เท่ากัน จะแตะ
เลือกเทมเพลตที่มีอยู่แล้วของ CAPCUT หรือทำ
CURVE เองก็ได้

4.เล่นคลิปแบบย้อนกลับ. ถ้าอยากให้ภาพในวิดีโอเล่น
ย้อนกลับ ให้แตะคลิป แล้วเลือก “REVERSE”
ใน TOOLBAR ไอคอนจะเป็นสามเหลี่ยมในวงกลม

วิธีการ ขั้นที่ 3 ตัดต่อขั้นสูง

5.แตะ "AUDIO" ใน TOOLBAR เพื่อใส่เสียงประกอบ
CAPCUT ให้คุณใส่เสียงได้ 4 แบบด้วยกัน คือแตะ
“SOUNDS" ถ้าจะใส่เพลง แตะ "EFFECTS" ถ้าจะใส่
SOUND EFFECTS แตะ "EXTRACTED" ถ้าจะใช้เสียง
จากคลิปอื่นใน CAMERA ROLL และแตะ
"VOICEOVER" ถ้าจะอัดเสียงทับ

6. ดาวน์โหลด SOUND EFFECTS หรือเพลงถ้าเป็น
"EFFECTS" กับ "SOUNDS" จะเลือกเสียงตาม
หมวดหมู่ใน CAPCUT ได้ แล้วแตะ SOUND
EFFECT หรือเพลง เพื่อฟังตัวอย่าง พอเจอเสียงที่
ต้องการแล้ว ให้แตะปุ่ม DOWNLOAD ข้างเสียงที่
เลือก เสร็จแล้วแตะปุ่มเครื่องหมายบวก

7.ใส่ SOUND EFFECTS หรือเพลง. ถ้าเลือก
"EFFECTS" หรือ "SOUNDS" ก็เลือกเสียงจากใน
หมวดหมู่ต่างๆ ของ CAPCUT ได้เลย แล้วแตะ SOUND
EFFECT หรือเพลง เพื่อฟังตัวอย่าง จะทดลองฟังกี่อัน
ก็ได้ จนกว่าจะเจอเสียงที่ใช่

8.ดึงเสียงมาจากคลิปอื่นใน CAMERA ROLL. พอแตะ
"EXTRACTED" แล้ว จะเห็นหน้ารวมคลิปใน
CAMERA ROLL ก็แตะคลิปที่อยากดึงเสียงมาใช้ได้
เลย เสร็จแล้วแตะ "ADD" ที่มุมขวาล่าง เท่านี้เสียงจาก
คลิปนั้นก็จะกลายเป็นเสียงของคลิปในโปรเจกต์

วิธีการ ขั้นที่ 3 ตัดต่อขั้นสูง

9.อัดเสียงทับ. ขั้นแรกให้ลาก PLAYHEAD ไปยังจุดที่
อยากเริ่มอัดเสียง แตะ "VOICEOVER" แล้วแตะไอคอน
วงกลมสีฟ้า มีไมโครโฟน ค้างไว้เพื่อเริ่มอัดเสียง พอจะเลิก
อัด ก็แค่ปล่อยนิ้ว เสร็จแล้วแตะติ๊กถูกที่ด้านขวาล่าง

10.ขยับตำแหน่งเสียง. เสียงที่เพิ่มเข้ามา จะโผล่มา
ล่างคลิป ใน TIMELINE ให้แตะค้างไว้ แล้วลากส่วน
ของเสียงไปไว้ตำแหน่งที่ต้องการใน TIMELINE

11 .ใส่ฟิลเตอร์ ข้อความ หรือสติกเกอร์ให้คลิปยิ่งดูดี
ถึงเวลาระดมสมอง ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ลองตกแต่ง
คลิปด้วยไอเท็มต่างๆ ดู ใน TOOLBOX ให้แตะไอคอน
เช่น “TEXT”, “STICKERS”, "EFFECTS" หรือ
“FILTERS” ได้เลย

12.พิมพ์ข้อความ. แตะ "TEXT" แล้วพิมพ์ข้อความ
จากนั้นแตะข้อความในหน้าตัวอย่าง (PREVIEW
SCREEN) เท่านี้ก็ปรับเปลี่ยนหน้าตาข้อความได้ โดย
แตะไอคอนไหนก็ได้ใน TOOLBAR รวมถึง "STYLE"
(เปลี่ยนสี ฟอนต์ ขนาด เป็นต้น), "EFFECTS",
"BUBBLE" และ "ANIMATION"

วิธีการ ขั้นที่ 3 ตัดต่อขั้นสูง

13.เลือกสติกเกอร์ใช้ตกแต่งคลิปได้สารพัดแบบ พอแตะ
"STICKERS" แล้ว ก็เลือกหมวดหมู่ที่สนใจได้โดยปัดส่วน
นี้ไปทางซ้ายหรือขวา จะได้เห็นสติกเกอร์ทั้งหมด เปลี่ยน
ตำแหน่งและขนาดสติกเกอร์ได้ด้วย โดยแตะสติกเกอร์ใน
กรอบ PREVIEW แล้วลากเปลี่ยนตำแหน่ง และ/หรือ
ขยายหรือย่อ โดยใช้สองนิ้ว

14.ใส่ลูกเล่นอื่นๆ. ลูกเล่นของ CAPCUT จะแบ่งเป็น
"VIDEO EFFECTS" และ "BODY EFFECTS"
ถ้าเป็น "VIDEO EFFECTS" ลูกเล่นจะซ้อนอยู่ตลอด
ทั้งคลิป แต่ "BODY EFFECTS" จะสแกนหาร่างกาย
ในคลิป

15.ใส่ฟิลเตอร์เลือกใช้ปรับเปลี่ยนหน้าตาของคลิป สีคลิป
เปลี่ยน อารมณ์ก็เปลี่ยน เริ่มจากเลือกหมวดหมู่ (สไตล์
ต่างๆ เช่น "FOOD", "MOVIES" และ "RETRO")
แล้วแตะเลือกฟิลเตอร์ในหมวดหมู่นั้นๆ เสร็จแล้วแตะติ๊ก
ถูกด้านขวาล่างได้เลย

16.ยกเลิกอะไรที่ทำ. ถ้าแต่งคลิปไปแล้วอยากเปลี่ยน
ก็ UNDO หรือยกเลิกได้ง่ายๆ แค่แตะลูกศรย้อนกลับ
(BACK) ด้านบนของ TIMELINE เท่านี้ก็ยกเลิกอะไรที่
ทำไปได้แล้ว

วิธีการ ขั้นที่ 3 ตัดต่อขั้นสูง

17. หลังจากตกแต่งคลิปวิดิโอตามที่ต้องการแล้ว จะกดบันทึกวิดิโอ ให้แตะเครื่องมือ
มุมขวาบน แล้วเลือกความละเอียด และ อัตราเฟรม ที่ต้องการและเหมาะสม และกดลูก
ศร เพื่อบันทึกคลิปวิดิโอ