ภาคเหนือ ภาคใต้
ภาคกลาง
ไขทนยมภาคอีสาน
น.ส.อัญมณี โคตนายูง ม.5/5 เลขที่ 8
ภาคเหนือ
ข น ม มั น สำ ป ะ ห ลั ง
ขนมมันสำปะหลังมักจะเป็นการเตรียมเพื่อทำบุญ เช่น วันพระ วันสำคัญทางพุทธ
ศาสนา วันสงกรานต์ งานประเพณี งานทำบุญ
ส่วนผสม วิธีทำ
1.มันสำปะหลังมันสำปะหลังโม่ 500 กรัม 1. มันสำปะหลังโม่ เลือกเอากากที่มีชิ้นใหญ่ออก
2.น้ำตาลทราย 400 กรัม 2. ใส่น้ำตาล เกลือ และน้ำเปล่า คลุกให้เข้ากัน
3.มะพร้าวมะพร้าวขูด 1 ถ้วย 3. นวดส่วนผสมจนน้ำตาลละลาย
4.เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 4. เทขนมใส่ลงในถาด แต่งให้หน้าขนมเรียบ
5.น้ำเปล่า 1 ถ้วย 5. วางในลังถึง นึ่งไฟกลาง ประมาณ 45 นาที
6. นึ่งสุกแล้วทิ้งไว้ให้เย็น ใช้มีดตัดขนมเป็นรูปสี่เหลี่ยม
7. คลุกกับมะพร้าวขูด
ขนมวง
ขนมวงชาวไทใหญ่นิยมทำขนมนี้ในงานปอยหรืองานบุญ
ส่วนผสม วิธีการทำ
1.แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม 1. ผสมแป้งข้าวเหนียวและกล้วยน้ำว้าสุก นวดให้เข้ากัน
2.กล้วยน้ำว้าสุก 5 ลูก 2. ใส่ไข่ไก่ นวดให้เข้ากัน
3.ไข่ไก่ 3 ฟอง 3. เติมน้ำทีละน้อย นวดไปเรื่อย ๆ
4.น้ำอ้อยป่น 1 ถ้วย 4. นวดจนส่วนผสมเข้ากัน และติดกันเป็นก้อน
5. หยิบแป้งมาคลึงให้เป็นเส้นยาว แล้วนำปลายมาชนกันเป็นวงกลม
6. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำแป้งที่เตรียมไว้ลงทอด
7. พอขนมเหลืองทั่ว ตักขึ้นใส่ตะแกรงพักไว้
8. เคี่ยวน้ำอ้อยจนเหนียวได้ที่ หยอดลงบนหน้าขนมวง
ขนมศิล า อ่อน
ขนมศิลาอ่อนนิยมใช้ในงานมงคลสมรส งานบวช งาน
ขึ้นบ้านใหม่งานมงคลต่าง ๆ
ส่วนผสม วิธีทำ
1.แป้งข้าวเจ้า 1 กิโลกรัม 1. ผสมแป้งข้าวเจ้า กะทิ และ เกลือ นวดให้เข้ากัน
2.กะทิ 2 ถ้วย 2. ใส่น้ำใบเตย และน้ำเปล่า ประมาณ 2 ถ้วย นวดให้เข้ากัน
3.น้ำตาลทราย 800 กรัม 3. ใส่น้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลทรายละลาย
4.เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 4. เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง นำไปตั้งไฟอ่อนๆ
5.น้ำใบเตย 1 ถ้วย 5. กวนขนมตลอดเวลา จนกระทั่งแป้งสุก และข้นเหนียว ปิดไฟ
6. เทขนมลงในถาด ทิ้งไว้ให้เย็น ตัดขนมเป็นรูปสี่เหลี่ยม
ข้าวหลามตัด โรยด้วยถั่วเขียวคั่ว
ภาคใต้
ข น ม จู้ จุ น
ขนมจู้จุน เป็นการดัดแปลงขนมจากการทำขนมในเทศกาลเดือนสิบ ชื่อขนม
รังนกมาเป็นขนมจู้จุน รับประทานกันในพื้นบ้าน และสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
ส่วนผสม วิธีทำ
1.แป้งข้าวเหนียว 1 กก 1. นำน้ำตาลละลายน้ำตั้งไฟเคี่ยวให้เป็นยางเหนียวๆ
2. น้ำตาลแดง 0.5 กก 2. เอาแป้งข้าวเหนียวมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3.เกลือละเอียด 3. ใส่เกลือเล็กน้อยให้พอออกรสเกลือ
4.น้ำมันพืช 4. นำกระทะใส่น้ำมันพืชตั้งไฟ
5.น้ำเปล่า 5. เมื่อน้ำมันพืชร้อนดีแล้วตักแป้งใส่กระทะแผ่เป็นแผ่น
บางๆ จนแป้งสุกเหลืองจึงยกลง
ข น ม ห น้ า ไ ข่
ขนมหน้าไข่ เป็นขนมหวานชนิดหนึ่งของชาวสทิงพระ มีลักษณะเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
ทำด้วยแป้งข้าวเจ้าผสมน้ำตาลแล้วนำมานึ่ง หน้าขนมทำด้วยไข่ไก่ผสมหัวกะทิ
น้ำตาลทราย เกลือ จึงเรียกว่าขนมหน้าไข่ ใช้รับประทานทั่วไป
ส่วนผสม วิธีทำ
1.แป้งข้าวเจ้า 1. ข้าวสารเจ้ามาล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำให้เมล็ดพองได้ที่แล้ว
2.มะพร้าว (คั้นเอาน้ำกะทิ) นำไปโม่ให้ละเอียด
3.ไข่ไก่ 2. นำน้ำตาลทรายใส่ลงในแป้ง ใส่น้ำพอประมาณ คนให้น้ำตาล
4.น้ำตาลทราย ละลายแล้วคนด้วยผ้าขาวบาง เอาถาดสำหรับที่จะใช้นิ่งขนมไป
5.เกลือ นึ่งให้ถาดร้อน แล้วจึงเอาขนมใส่ถาด แต่ไม่ให้เต็มถาดเพราะ
6.หอมแดง ใบตะไคร้ า ยังต้องใส่หน้าอีกครั้ง
3. ทำหน้าโดยเอาหัวกะทิ ไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือ หอมแดง ใบ
ตะไคร้ ขยำเข้าด้วยกันจนได้ที่แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำ
ไปเทลงในถาดขนมที่นึ่งสุกแล้วโดยใช้ไฟแรง
ขนมด้ว ง
ขนมด้วงทอดเป็นขนมโบราณ ทำจากแป้งข้าวเหนียว ที่สามารถหาทานได้ตาม
ตลาดพื้นบ้านทางภาคใต้ได้ตลอดทุกเทศกาล
ส่วนผสม วิธีทำ
1. แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ 1.แป้งมันและแป้งข้าวจ้าวผสมเข้าด้วยกัน ค่อยๆเท
2. แป้งข้าวจ้าว 1 ถ้วย น้ำดอกมะลิลงไป กวนจนแป้งเป็นก้อนร่อนจากกระทะ
3. แป้งมันสำหรับทำแป้งนวล ½ ถ้วย ทองเหลืองยกลง
4. มะพร้าวทึนทึกขูดขาว 200 กรัม 2. นำแป้งมานวดมือ โดยผสมสีผสมอาหารลงไปตาม
5. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย ชอบ นวดจนแป้งนุ่มและไม่ติดมือ คลึงแป้งเป็นตัว
6. งาขาวคั่ว ¼ ถ้วย ด้วงปลายแหลมด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งมน ยาว
7. น้ำดอกมะลิ 2 ถ้วย ประมาณ 4 เซนติเมตร
8. หัวกะทิ 1 ถ้วย 3. นำไปนึ่งในซึ้งโดยปูรองด้วยผ้าขาวบาง นึ่งจนสุก
9. เกลือ 1 ช้อนชา นำขนมที่นึ่งสุกแล้วจัดใส่จาน พรมด้วยหัวกะทิโรย
10. สีผสมอาหารตามชอบ ด้วยมะพร้าวขูด งาข้าวและน้ำตาลทราย
ภาคอีสาน
ข้ า ว โ ป่ง
ข้าวโป่งแต่เดิมเป็นขนมที่ชาวนานิยมทำในประเพณีรับขวัญข้าว ช่วงฤดูเก็บเกี่ยว เมื่อ
ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวแล้วก่อนจะนำข้าวขึ้นยุ้งฉาง จะทำพิธีรับขวัญข้าวโดยการโขลกข้าวโปง
ส่วนผสม วิธีทำ
1. ข้าวเหนียวสุก (ข้าวใหม่) 1. นำข้าวเหนียวสุกใส่ครกกระเดื่องตำให้ละเอียด ผสม
2. น้ำตาลทราย น้ำตาลทราย และงาดำ ตำต่อไปจนข้าวเหนียวสุกผสมกับ
3. ไข่ไก่ต้มสุก น้ำตาลเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้
4. น้ำมันหมู 2. นำไข่ไก่ต้มสุกเลือกเฉพาะไข่แดงผสมกับน้ำมันหมูเป็น
5. งาดำ เนื้อเดียวกัน นำไปทาบาง ๆ บนแผ่นพลาสติก นำแป้งจากข้อ
1 ปั้ นเป็นลูกกลม ๆ ประมาณไข่ไก่ วางลงบนแผ่นพลาสติก
แล้วใช้ไม้รีดให้เป็นแผ่นบาง ๆ มน ๆ แล้วลอกออกจากแผ่น
พลาสติก นำไปผึ่งแดดประมาณ 1 วัน สามารถเก็บไว้รับ
ประทานได้ 3 สัปดาห์
3. ย่างด้วยไฟอ่อน ๆ แป้งข้าวโป่งจะค่อย ๆ พองออก ลักษณะ
สีน้ำตาลอ่อนผสมสีขาว ให้รสชาติหอมหวาน
ขนมกาละแม
ขนมกาละแมเป็นขนมหนึ่งในสามชนิดที่นิยมทำขึ้นในวันปีใหม่ของคนไทยใน
สมัยก่อน นิยมทำกันในช่วงงานเทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทย
ส่วนผสม วิธีทำ
1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง 1. นำกะทิไปตั้งในกระทะทองเหลืองบนไฟปานกลาง
2. น้ำกะทิ 5 ถ้วยตวง 2. ใส่น้ำตาล แป้งข้าวเหนียว และแป้งท้าวยายม่อมลง
3. น้ำตาลโตนด 1 1/2 ถ้วยตวง ไป
4. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
3. กวนส่วนผสมจนงวด เหนียว เทใส่ถาดแบบหรือ
ภาชนะ ที่เตรียมไว้ พักไว้ให้เย็น
4. นำน้ำมันทาผิวบางๆ เพื่อให้เงาสวย จากนั้นใช้มีดตัด
เป็นชิ้นตามต้องการ
ขนมกระยาสารท
ขนมกะยาสาทรมักทำกันมากในช่วงสารทไทย แรม 15 ค่ำ ปลาย
เดือน 10 และบางท้องถิ่นนิยมรับประทานกับกล้วยไข่
ส่วนผสม วิธีทำ
1. น้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลมะพร้าว 1 ถ้วยตวง 1. เคี่ยวน้ำตาลกับหัวกะทิด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อนจน
2. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง เป็นยางมะตูม ใส่แบะเซ คนให้เข้ากัน ยกลงพักไว้
3. แบะแซ 1 ช้อนโต๊ะ 2. ผสมของที่คั่วทั้งหมดคนให้เข้ากันดี ใส่ลงในน้ำตาลที่
4. ข้าวเม่าราง 1 1/2 ถ้วยตวง เครี่ยวไว้คนให้เข้ากัน
5. ข้าวตอกคั่วกรอบ 1 1/2 ถ้วยตวง 3. ปั้ นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2
6. งาขาวหรือดำคั่ว 1 1/2 ถ้วยตวง เซนติเมตร หรือจะเทใส่ถาดเกลี่ยให้แบน เย็นแล้วตัด
7. ถั่วลิสงคั่ว 1/2 ถ้วยตวง เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมก็ได้
ภาคกลาง
ข น ม ห ม้ อ แ ก ง
ขนมหม้อแกง เป็นขนมไทยที่แต่ก่อนใช้หม้อดินในการทำ เนื้อขนมมีความนุ่ม
เนื้อเนียน เป็นสีน้ำตาล เนื้อให้รสหวานมัน นิยมทำกันมากในภาคกลาง แต่ที่
ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นตำรับ และนิยมมาก คือ จังหวัดเพชรบุรี
ส่วนผสม วิธีทำ
1. เผือกนึ่งสุกหรือถั่วเขียวผ่าซีกนึ่ง 1.นึ่งเผือกทั้งเปลือกหรือถั่วเขียวผ่าซีกให้สุกปอกเปลือก
แล้วบดให้ละเอียด 1 ถ้วยตวง เผือก แล้วบดให้ละเอียดอย่าให้เป็นเม็ด
2. ไข่เป็ด 5 ฟอง 2.ผสมไข่ น้ำตาล มะพร้าว ให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง
3. มะพร้าวขูด 1 1/2 ถ้วยตวง 3.ผสมเผือกหรือถั่วเขียวกับน้ำกะทิ ในข้อ 2 ค่อย ๆ ผสม
4. น้ำตาลปีบ 1/2 ถ้วยตวง ทีละน้อย จนเผือกหรือถั่วเขียวละลายเข้าเป็นเนื้อ
5. หอมเจียวสีเหลือง เดียวกัน เอาขึ้นตั้งไฟกลาง ๆ คนพอขนมข้นและแข็งตัว
6. น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันพืช 4.ทาน้ำมันในถาดสำหรับปิ้ งแล้วนำขนมใส่ลงในถาด นำ
เข้าเตาอบหรือผิงไฟล่าง ไฟบน แล้วแต่สะดวก
ขนมฝอยทอง
ขนมฝอยทองที่นิยมเป็นของหวานงานแต่งงาน หรืองานมงคลสมรส จะเป็นอีก
หนึ่งขนมมงคลขึ้นบ้านใหม่ อาจด้วยเอกลักษณ์ที่เป็นเส้นยาว จึงเหมาะกับเป็น
ขนมมงคลที่สื่อถึงการมีอายุยืนยาวนั่นเอง
ส่วนผสม วิธีทำ
1.น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม 1.ล้างไข่ให้สะอาด เช็ดให้แห้ง
2. ไข่เป็ด 15 ฟอง 2.ต่อยไข่ใส่ภาชนะ เอาแต่ไข่แดง ตีให้แตก
3. น้ำดอกไม้สด 6 ถ้วยตวง 3.กระทะทองตั้งไฟ ผสมน้ำดอกไม้สด น้ำตาลละลาย น้ำ
ดอกไม้สด กรองให้สะอาด เคี่ยวต่อไปจนน้ำตาลแดง
4.ตักไข่แดงใส่กรวย โรยลงในกระทะน้ำเชื่อมกะดูว่าไข่สุก
ใช้ไม้เล็กช้อนขึ้นวางในภาชนะ ทำให้เป็นจับตามต้องการ
ขนมส เ น่ห์จันทร์
ขนมฝอยทองที่นิยมเป็นของหวานงานแต่งงาน หรืองานมงคลสมรส จะเป็นอีก
หนึ่งขนมมงคลขึ้นบ้านใหม่ อาจด้วยเอกลักษณ์ที่เป็นเส้นยาว จึงเหมาะกับเป็น
ขนมมงคลที่สื่อถึงการมีอายุยืนยาวนั่นเอง
ส่วนผสม วิธีทำ
1.แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง 1. ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน
2.แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง 2.ผสมหัวกะทิกับน้ำตาล ละลายแล้วกรอง
3.หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
4.น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง ผสมแป้งกับกะทิ และผงจันป่นสีเหลือง ตั้ง
5.ไข่ไก่ 2 ฟอง ไฟอ่อน กวนจนจับกัน
6.ผงจันป่น 1/2 ช้อนชา 3.ไข่ไก่ใช้แต่ไข่แดง ใส่ขณะแป้งร้อน รีบคน
7.ผสมอาหารสีเหลือง ให้เข้ากัน ยกลง
4.พอขนมอุ่นปั้ นได้ ให้ปั้ นเป็นรูปผลจัน ตรง
ขั้วผลใช้น้ำตาลเคี่ยวสีน้ำตาลหยอด