น.ส.อัญมณีโคตนายูง ม.6/5 เลขที่ 8 ช่างสิบหมู่
สารบัญ หัวข้อ หน้า 1 2 4 5 6 3 ช่างสิบหมู่ ช่างเขียน ( Drawing and Painting ) ช่างแกะ ( Carving ) ช่างสลัก ( Engraving ) ช่างกลึง ( Turning ) ช่างหล่อ ( Casting ) ช่างสิบหมู่
สารบัญ หัวข้อ หน้า 7 8 10 11 12 9 ช่างปั้น ( Molding and Sculpting ) ช่างหุ่น ( Model Building ) ช่างรัก ( Lacquering ) ช่างบุ ( Metel Beating ) ช่างปูน ( Plastering ) ช่างสิบหมู่ ความเป็นมาแต่โบราณ ของ “ช่างสิบหมู่”
หนังสือเล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อประกอบการ เรียนวิชาศิลปะ และวิชาวิทยาการคำ นวณ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีจุดประสงค์เพื่อ ศึกษาความรู้ด้านศิลปะไทยได้อย่างเข้าใจ และเพื่อเป็นประโยชน์กั น์ กับการเรียน ซึ่ง หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับช่างสิบหมู่ ผู้จัดทำ หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็น ประโยชน์กั น์ กับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษาที่ กำ ลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ผู้จัดทำ ขอน้อ น้ มรับไว้และขออภัย ณ ที่นี้ด้วย น.ส.อัญมณี โคตนายูง คำ นำ
ช่างสิบหมู่ “ช่างสิบหมู่” หรือ “ช่างหลวง” เป็นคำ ไทย ภาษาอังกฤษคือ Ten Essential Traditional Craftsmenship ทำ หน้าน้ที่ราชการ จำ เพาะด้านการช่างที่เกี่ยวข้องกับงาน ศิลปกรรม ต่างๆ ทั้งใน ด้านวิจิตรศิลป์และประณีตศิลป์ภายในพระบรมราชูปถัมภ์มาแต่ โบราณ แต่เดิมกรมช่างสิบหมู่และข้าราชการซึ่งเป็นช่างต่าง ๆ ในกรมมีหน้าน้ที่รับสนองพระราชประสงค์ในองค์พระมหากษัตริย์ รวมถึงทำ หน้าน้ที่รวบรวมช่างมีฝีมือเพื่อเป็นกำ ลังในกิจการงาน ศิลปกรรม รุ่นต่อ ๆ ไปด้วย 1
ช่า ช่ งเขีย ขี น 1. ช่างเขียน (Drawing and Painting) เขียนลายและ ภาพทั้ง 4 หมวด ได้แก่ “กนก นารี กระบี่ และคชะ” เรียง ตามลำ ดับคือ “ตัวกนก” แบบต่าง ๆ ภาพมนุษนุย์ชาย-หญิง เทวดา-นางฟ้าฟ้ภาพวานร อมนุษนุย์ อสูร และภาพสัตว์ต่าง ๆ ทั้งสัตว์หิมพานต์และสัตว์ตามธรรมชาติ โดยยึดหลัก “คดให้ได้วง ตรงให้ได้เส้น” 2
ช่า ช่ งแกะ 2. ช่างแกะ (Carving) ทั้งงานแกะตรา แกะลาย และแกะ ภาพ หรือเรียกรวมกันว่า “แกะสลัก” เริ่มต้นจากการแกะขุด หรือการแรเส้นโดยใช้สิ่วขนาดเล็ก ขุดเส้นเดินบนแผ่นไม้ เรียบ หรืองานแกะแรวัสดุที่เป็นโลหะ เงิน-ทอง ช่างผู้ เชี่ยวชาญงานโลหะแต่ละประเภทจะทำ งานร่วมกับช่างแกะ ด้วย 3
ช่า ช่ งสลัก ลั 3. ช่างสลัก (Engraving) หรือ “ช่างฉลัก” มีหน้าน้ที่ประดับ สถานที่สลักเสาให้สวยงาม แบ่งเป็น ช่างสลักกระดาษ สำ หรับใช้ประดับสิ่งก่อสร้างชั่วคราว เช่น พลับเพลา พระ เมรุ ฯลฯ และช่างสลักของอ่อนที่เรียกว่า “เครื่องสด” เช่น การสลักเผือก มัน ฟักทอง ฯลฯ 4
ช่างกลึง 4. ช่างกลึง (Turning) งานกลึงเป็นงานสลักเสลาเกลาแต่ง ที่ต้องใช้ความประณีต โดยมากใช้กับงานไม้และงาช้าง เครื่องมือกลึงจะต้องคมกลิบตลอดเวลา หากกลึงสิ่งของ ใหญ่ ๆ จะใช้ “กงหมุน” หากเป็นสิ่งของขนาดย่อมและไม่ ประณีตจะใช้เครื่องกลึง “คานดีด” 5
ช่า ช่ งหล่อ ล่ 5. ช่างหล่อ (Casting) เกี่ยวข้องกับการหล่อโลหะ เช่น การหล่อกลองมโหระทึก หล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ การหล่อพระพุทธรูปโลหะทำ ได้โดยการใช้ขี้ผึ้งทำ เป็น หุ่นแล้วละลายขี้ผึ้งจนเกิดที่ว่างในแม่พิมพ์ แล้วจึงเท โลหะหรือทองที่กำ ลังหลอมละลายเข้าแทนที่ จะได้เป็น รูปหล่อโลหะสำ ริด เรียกวิธีนี้ว่า “ไล่ขี้ผึ้ง” 6
ช่า ช่ งปั้น 6. ช่างปั้น (Molding and Sculpting) ทำ งานด้าน การปั้นพระพุทธรูปเสียเป็นส่วนใหญ่ อาจใช้ดิน เหนียวอย่างเดียว ปั้นด้วยดินแล้วติดกระดาษทับ เพื่อรักษาเนื้อดิน หรือแม้แต่ปั้นด้วยกระดาษโดยมี ลวดตาข่ายเป็นโครงภายใน 7
ช่างหุ่น 7. ช่างหุ่น (Model Building) “หุ่น” ในที่นี้คือ “ตัว” หรือ “รูปร่าง” คือการประกอบสร้างรูปของ คน สัตว์ หรือสิ่งของที่ต้องทำ เป็นรูปร่าง ดังนั้น ช่างหล่อ ช่างปั้น และช่างหุ่นจึงมีงานสัมพันธ์กัน และอาจสร้างงานด้วยคน ๆ เดียวกัน 8
ช่า ช่ งรัก 8. ช่างรัก (Lacquering) ประกอบด้วย ช่างผสมรัก ลงรักพื้น ช่างปิดทอง ช่างประดับกระจก และช่างมุก เพื่อการทำ ลวดลายประดับมุก “รัก” คือยางไม้ที่ได้จาก ต้นรักนั่นเอง ซึ่งสามารถนำ มาใช้งานทางศิลปกรรมได้ โดยเฉพาะงานปิดทองในการทำ “ลายรดน้ำ ” 9
ช่า ช่ งบุ 9. ช่างบุ (Metel Beating) “บุ” คือการตีแผ่ให้แบน ทั้ง เป็นแผ่นเรียบ ๆ และเป็นรูปร่างต่าง ๆ ช่างบุต้อง ชำ นาญด้านงานโลหะทุกชนิด เช่น ทองแดง เงิน นาก และทองคำ อุปกรณ์คื ณ์ คือ ทั่งและค้นเหล็ก ซึ่งมีหลาย ขนาดและรูปร่างต่างกันไป 10
ช่า ช่ งปูน ปู 10. ช่างปูน (Plastering) งานปูนจะมีทั้งงานซ่อมและ สร้าง แบ่งเป็น หมู่ปูนก่อ เป็นเพียงการเรียงอิฐ ไม่ต้อง ประณีต หมู่ปูนฉาบ คือการตกแต่งอิฐที่ก่อให้เรียบงาม และหมู่ปูนปั้น หมู่นี้จะสร้างงานให้มีความงดงามทาง ศิลปะ ลายปูนปั้นต้องทำ ตอนปูนยังไม่แข็งตัว 11
ความเป็นมาแต่โบราณ ของ “ช่างสิบหมู่” การมีอยู่ของช่างสิบหมู่ปรากฏเป็นหลักฐานมาตั้งแต่สมัย อยุธยาแล้ว โดยมีอยู่ในทำ เนียบศักดินาพลเรือนและทหาร ในกฎหมายเก่า (กฎหมายตราสามดวง) ในสมัย สมเด็จ พระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ. 1991-2031) สันนิษฐานว่า ตระกูลช่างในสมัยอยุธยาน่าจะมีมากกว่า 10 หมู่ อย่างไรก็ตาม งานประณีตศิลป์สาขาต่าง ๆ ที่เจริญ ก้าวหน้าน้ในสมัยอยุธยาตอนปลายต้องสลายตัวไปหลังการ เสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 เพราะช่างฝีมือบางส่วนถูกกวาดต้อนไป ส่วนที่เหลือมีการรวบรวมขึ้นใหม่ในสมัยกรุงธนบุรี และจัด ตั้งเป็นสำ นักช่างอย่างเป็นทางการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าฟ้จุฬาโลกมหาราช โดยมีเป้าป้หมายเพื่อให้ช่าง เหล่านี้สร้างสรรค์ปราสาทและพุทธสถานในกรุงเทพฯ ให้ วิจิตรงดงามเหมือนครั้งกรุงศรีอยุธยา 12
สำ นักช่างสิบหมู่ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ยังแบ่งออก เป็นสำ นักช่างประจำ “วังหลวง” และ “วังหน้าน้” คือเป็นคนละ สังกัดกัน ต่อมาหมู่ช่างในสังกัดวังหน้าน้ได้ถูกยกเลิกในสมัย รัชกาลที่ 5 พร้อมการประกาศยกเลิกตำ แหน่งกรมพระราชวัง บวร หรือตำ แหน่งพระมหาอุปราช (วังหน้าน้) เมื่อ พ.ศ. 2428 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล ที่ 5 ยังเป็นช่วงเวลาที่มีการแบ่งสำ นักช่างสิบหมู่เป็นกรม อย่างเช่นเจนว่ามีประเภทใดบ้าง ซึ่ง สมเด็จกรมพระยานริศ รานุวันุวัดิวงศ์ ทรงตรัสประทานแก่ พระยาอนุมนุานราชธน ไว้ว่า “ช่างสิบหมู่เป็นแต่ชื่อกรมที่รวบรวมช่างไว้ มีสิบหมู่ด้วย กัน ไม่ใช่ช่างในบ้านเมืองมีแต่สิบอย่างเท่านั้น” พระวรวงศ์ เธอพระเจ้าประดิษฐ์วรการ ผู้ซึ่งได้ควบคุมช่างสิบหมู่เมื่อ รัชกาลที่ 5 ได้แต่งโคลงบอกชื่อช่างที่ท่านได้ควบคุมไว้ มี ดังนี้ ‘เขียนกระดาษแกะหุ่นปั้น ปูนรัก บุฮา กลึงหล่อไม้สูง สลัก ช่างไม้’ จำ นวนหมู่ช่างในโคลงนี้ นับได้ 13 หมู่ เกินกว่า ชื่อไปสามหมู่ คิดว่าจะเติมขึ้นทีหลัง” 13
จากโคลงดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า “ช่างสิบหมู่” ในสมัย รัชกาลที่ 5 แท้จริงมีถึง 13 หมู่ ซึ่งยังไม่รวมหมู่ช่างที่เป็นช่าง มหาดเล็กและช่างทหารในฯ สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อศิลปวัฒนธรรมยุโรปหลั่งไหลเข้ามาในสยามอย่างและมี อิทธิพลต่อรูปแบบงานก่อสร้างและสถาปัตยกรรมราชสำ นัก อย่างสูง งานศิลปกรรมแบบไทยในวัดวาอารามจึงประสบภาวะ ซบเซา จนทำ ให้ความสำ คัญของช่างสิบหมู่ค่อย ๆ ถูกลดทอน ลง จนถูกโยกไปรวมกับ “กรมช่างมหรสพ” ภายหลังมีการก่อตั้ง “กรมศิลปากร” ช่างสิบหมู่จึงถูกโยกมา อยู่ในสังกัดกรมศิลปากร กระทั่ง พ.ศ. 2481 มีการจัดตั้ง “กอง สถาปัตยกรรม” ขึ้นในสังกัดกรมศิลปากร ซึ่งกองนี้ทำ หน้าน้ที่ ของงานช่างสิบหมู่ ระหว่าง พ.ศ. 2495-2518 ช่างสิบหมู่ในสังกัดกรม ศิลปากรถูกโยกย้ายไป-มา ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมกับ กระทรวงศึกษาธิการ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่ง เสริมศิลปวัฒนธรรมของชาติ กระทั่งมีการตราพระราช บัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 กรมศิลปากร (พร้อมด้วยสำ นักช่างสิบหมู่) จึงมาอยู่กับกระทรวงวัฒนธรรม อย่างถาวรจวบจนปัจจุบัน 14
บรรณานุกรม https://www.silpa-mag.com/art/ariicle_96093