โครงงาน อาหารไทย ภาคกลาง

โครงงาน

อาหารไทย ภาคกลาง

ชื่อผู้จัดทำโครงงาน

นางสาว อาภัสรา ดวงแจ่มใส ม.4/12 เลขที่40
นางสาว สุภา สมดี ม.4/12 เลขที่39
นางสาว ปภาดา จันทร์หอม ม.4/12 เลขที่37
นางสาว กนกกาญจน์ สงบสมัยม.4/12 เลขที่28
นาย นฤดม ผุดผ่อง ม.4/12 เลขที่12

ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน

ครู ณัฏฐณิชา แทบทาม

ที่มาและความสำคัญ

ปัจจุบันวัฒนธรรมทางด้านอาหารของต่างชาติได้เข้ามามีอิทธิพลในประเทศไทยย่างแพร่หลายไม่ว่าจะร้านอาหารที่ใดส่วน
มากก็จะมีอาหารต่างประเทศอยู่ในเมนูและผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกทานอาหารต่างประเทศมากกว่าอาหารไทยไม่ว่าจะเป็นอาหารจีน
อาหารญี่ปุ่นหรืออาหารเกาหลี จึงอยากจะศึกษาอาหารไทยให้มากกว่านี้โดยเริ่มจากภาคกลาง

ประกอบกับทางเราจะทำการรวบรวมข้อมูลและศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องอาหารไทยภาคกลางอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อ
ให้ผู้คนที่สนใจได้ศึกษาและเรียนรู้ได้อย่างเข้าใจ

ดังนั้นคณะผู้จัดทำจึงประสงค์ที่จะทำโครงงานเกี่ยวกับอาหารไทยภาคกลางเพื่อให้ผู้คนที่สนใจได้ศึกษาและนำไปประอบ
อาหารในชีวิตประจำวันได้

จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า

1. เพื่อศึกษาเรื่องอาหารไทยภาคกลาง
2. เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องอาหารไทยภาคกลางให้กับผู้คนที่สนใจศึกษา
3. เพื่อนำความรู้ที่ได้จากการเรียนโปรแกรมมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในรูปแบบของโครงงาน

สมมติฐาน

อาหารภาคกลางเป็นอาหารที่มีความหลากหลาย รสชาติของอาหาร ภาคนี้ไม่เน้นอาหารไปทางรสใดรถหนึ่ง
รสใด คือต้องมีความกลมกล่อม มีรสเปรี้ยว รถเค็ม รสหวาน รสเผ็ด ไปตามชนิดของอาหารนั้นๆและมัก
จะประกอบด้วยเครื่องปรุงแต่งกลิ่น รส เครื่องเทศ สมุนไพร อาหารพื้นบ้านภาคกลาง มีชื่อเสียงและได้รับ

ความนิยมไปทั่วโลก

ขอบเบตการศึกษาค้นคว้า

ศึกษาเฉพาะเรื่องอาหารไทยภาคกลางเท่านั้น จากแหล่งข้อมูลสาระสนเทศ

วิธีการดำเนินการ

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
1. โทรศัพท์มือถือ
2. แบบบันทึก




แนวทางการศึกษาค้นคว้า

สำรวจข้อมุลทางอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับอาหารภาคกลาง
และรวบรวมข้อมูลโดยจัดอยู่ในรูปแบบ Power Point เพื่อนำเสนอ

ที่ กิจกรรม ระยะเวลา สถานที่ วัสดุอุปกรณ์ ผู้รับผิดชอบ
เค้าโครงโครงงาน นางสาว ปภาดา จันทร์หอม
๑ เสนอเค้าโครงของงานแล้วขอคำปรึกษา ๓ ม.ค. ๖๕ บ้าน

๒ ศึกษาและรวบรวมข้อมูล ๕ ม.ค. ๖๕ บ้าน โทรศัพท์มือถืออินเตอร์เน็ต นางสาว กนกกาญจน์ สงบสมัย
ของอาหารไทย

๓ จัดทำโครงงานเป็นรูปเล่ม ๘ ม.ค. ๖๕ บ้าน รูปเล่มรายงาน นาย นฤดม ผุดผ่อง

๔ นำเสนอต่อหน้าครูที่ปรึกษาเพื่อ ๑๐ ม.ค. ๖๕ บ้าน โครงงานและรูปเล่มรายงาน นางสาว สุภา สมดี
แก้ไขปรับปรุง นางสาว อาภัสรา ดวงแจ่มใส

ประโยคที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารไทย
2. ได้คุณค่าทางโภชนาการของอาหารไมยภาคกลาง
3. ได่รู้ว่าเครื่องเทศบางชนิดมีสรรพคุณทางยาอย่างไร

เอกสารอ้างอิง

สรีณา ควรดี. (2556). โครงงานคอมพิวเตอร์อาหารไทย [ออนไลน์].
เข้าถึงได้จาก:https://sites.google.com/site/crayzy123654/bth-thi2/xahar-phakh-klang

(วันที่เข้าค้นข้อมูล 4 มกราคม 2565)



วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2562). อาหารไทย [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B

2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
(วันที่เข้าค้นข้อมูล 4 มกราคม 2565)



นางสาวบุญสิตา ทุมทอง. (ไม่ระบุ). อาหารไทยภาคกลาง [ออนไลน์].2. เข้าถึงได้จาก:ความเป็นมา
ของอาหารไทยภาคกลาง - อาหารไทยภาคกลาง (google.com)

อาหารไทย
ภาคกลาง

ที่มาและความสำคัญ

อาหารท้องถิ่นของชาวภาคกลาง นอกจากจะเป็นที่นิยมของชาวไทยภาคกลางแล้วยังจะมีชนต่างถิ่นและชาวต่างชาติที่มา เที่ยว กิน ต่างก็ชื่นชอบเพราะรสชาติ
อร่อย กลมกล่อมของอาหารที่ยังให้คุณค่าอาหารสูงมีธาตุและสารอาหารจากเครื่องปรุง เครื่องเทศ สมุนไพร ที่ให้สรรพคุณเป็นยาป้องกันและบำบัดโรคอีกด้วย
ภาคกลางเป็นเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำ เหมาะแก่การ เพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ข้าวปลาอาหารก็จะอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ในประเทศไทยสมัยก่อนนั้น ภาคกลางเป็น

ศูนย์กลางค้าขายสำคัญของประเทศไทย มีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติต่างๆ เข้ามาด้วยเช่น เครื่องแกง แกงกะทิได้รับมาจากชาวฮินดู อาหารประเภทต้ม
ผัด
ได้รับมาจากชาวจีนผู้เข้ามาติดต่อค้าขายทางเรือสำเภา แม้กระทั่งขนมหวานที่มีไข่และแป้งเป็นส่วนผสมก็ได้รับการสืบทอดมาจากชาวตะวันตกเช่นเดียวกัน
ซึ่งคนไทยก็นำสูตรอาหารต่างๆมาประยุกต์มีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบอาหารที่หาได้ง่ายในประเทศมาใช้แทนกันนำออกเผยแพร่ต่อไปจนมาเป็นเอกลักษณ์ รสชาติที่
เด่นชัดของอาหารไทยภาคกลางที่เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันนี้ โดยมีอิทธิพลด้านรสชาติและวิธีการปรุงจากอาหารชาววัง ซึ่งอาหารบางชนิดได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ
มาอีก อาหารภาคกลางปรุงขึ้นจากวัตถุดิบที่หลากหลาย ทั้งเนื้อสัตว์ ผั ก เครื่องเทศ ถั่ว งา และน้ำตาลชนิดต่างๆ ซึ่งทำให้มีรสชาติที่หลากหลายและซับซ้อน ทั้ง
เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด มีวิธีการปรุงอาหารซับซ้อนกว่าภาคอื่นๆจะนิยมปรุงด้วยกะทิ เช่น แกงพะแนง หลนปลาร้า หลนเต้าเจี้ยว หรือแม้แต่ น้ำพริกก็ยังนิยม
บริโภคน้ำ
พริกที่มีเครื่องปรุงหลากหลาย เช่น น้ำพริกมะขาม น้ำพริกลงเรือ และมักมีเครื่องเคียงประกอบให้อาหารมีครบรสยิ่งขึ้น เช่น น้ำพริกกะปิคู่กับปลาทูทอด ผัก
ทอด ผัก
สด กินแกงส้มคู่กับปลาเค็ม ขนมจีนน้ำพริกคู่กับไข่ต้ม ผักลวกผักทอด กินสะเดาน้ำปลาหวานกับกุ้งเผาหรือปลาดุกย่างและ ชาวไทยภาคกลางรับประทานอาหารที่มี
รสกลมกล่อมกินข้าวเจ้าเป็นหลัก เช่น ข้าวหอมมะลิกล้องคู่กับข้าวขาว เป็นต้น

ลักษณะอาหารไทยภาคกลาง

1.ได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศ เช่น เครื่องแกง แกงกะทิ จะมาจากชาวฮินดู การผัดโดยใช้กระทะและน้ำมันมาจากประเทศจีนหรือ
ขนมเบื้องไทย ดัดแปลงมาจาก ขนมเบื้องญวน ขนมหวานประเภททองหยิบ ทอดหยอด รับอิทธิพลจากประเทศทางตะวันตก เป็นต้น

2. เป็นอาหารที่มักมีการประดิษฐ์ โดยเฉพาะอาหารจากในวังที่มีการคิดสร้างสรรค์อาหารให้เลิศรส วิจิตรบรรจง เช่น หรุ่มลูกชุบ
กระเช้าสีดา ทองหยิบ หรืออาหารประเภทข้าวแช่ผัก ผลไม้แกะสลัก

3. เป็นอาหารที่มักจะมีเครื่องเคียง ของแนม เช่น น้ำพริกลงเรือ ต้องแนมด้วยหมูหวานแกงกะทิ แนมด้วยปลาเค็ม สะเดาน้ำปลา
หวานก็ต้องคู่ กับกุ้งนึ่งหรือปลาดุกย่าง ปลาสลิดทอดรับประทานกับน้ำพริกมะม่วงหรือไข่เค็มที่มักจะรับประทานกับน้ำพริกลงเรือ น้ำพริก

มะขามสดหรือน้ำพริกมะม่วง นอกจากนี้ยังมีของแหนมอีกหลายชนิด เช่น ผักดอง ขิงดอง หอมแดงดอง เป็นต้น
4. เป็นภาคที่มีอาหารว่าง และขนมหวานมากมาย เช่น ข้าวเกรียบปากหม้อ ข้าวตังหน้าตั้ง ขนมชั้น ขนมถั่วแปบ ถั่วกวน เป็นต้น

เมนูอาหารไทยภาคกลาง

อาหารคาว

ข้าวผัด ต้มแซ่บปลากะพง
ผัดกะเพราหมู ปลาดุกฟู
แกงส้มกุ้งผักรวม เต้าเจี้ยวหลน
ต้มข่าไก่ ต้มโคล้งปลาทู
ต้มยำกุ้ง แกงเลียง
แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย สะเดาน้ำปลาหวาน
แกงจืดมะระยัดไส้หมูสับ มัสมั่นเนื้อ
แกงเทโพ แกงป่า
แกงเผ็ดไก่ใส่หน่อไม้ แกงเผ็ดเป็ดย่าง
ปลากะพงนึ่งมะนาว

ตัวอย่าง ต้
มยำกุ้ง

ต้มยำกุ้ง (Tom Yam Goong) เป็นอาหารที่โด่งดังมากที่สุดของ
ประเทศไทย ชาวต่างชาติจะรู้จักต้มยำกุ้งมากกว่าต้มยำชนิดอื่น ๆ การ
ปรุงต้มยำกุ้งจะเน้นรสชาติเปรี้ยวและเผ็ดเป็นหลัก จะออกเค็มและ

หวานเล็กน้อย มีเครื่องเทศที่ใส่ในน้ำแกงที่สำคัญคือ ใบมะกรูด
ตะไคร้ ส่วนผักที่นิยมใส่ในต้มยำ ได้แก่ มะเขือเทศ เห็ดฟาง เห็ด
นางฟ้า ใบผักชี ส่วนเครื่องปรุงที่จำเป็นต้องใส่ คือ มะนาว น้ำปลา

น้ำตาล และน้ำพริกเผา



เนื่องจากต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่มีรสเปรี้ยว และเผ็ดเป็นหลัก
ทำให้รับประทานแล้วไม่เลี่ยน จึงทำให้ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่ได้รับ
ความนิยมในทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงชาวต่างชาติเองก็ติดอก

ติดใจในความอร่อยของต้มยำกุ้งเช่นเดียวกัน

ตัวอย่าง แก
งเทโพ

แกงเผ็ดชนิดหนึ่ง ใส่กะทิ ผักบุ้งและหมูสามชั้นเป็นส่วนประกอบ แกง
เทโพเป็นอาหาร ภาคกลาง ดั้งเดิมนั้นใส่ปลาเทโพเท่านั้น แต่ปัจจุบัน

นิยมใส่หมูสามชั้น แกงเทโพเป็นแกงกะทิรสเข้มข้น รสชาติออก
เปรี้ยว เค็มนำ และหวานเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะจากใบมะกรูดใช้
ผักบุ้งยอดอ่อนๆ มาแกงกับกะทิและหมูสามชั้น มีรสเปรี้ยวจากมะขาม

เปียกตัดความมันของกะทิ ความสมดุลลงตัวของรสชาติทั้งสามรสคือ
ความอร่อยของแกงชนิดนี้

ตัวอย่าง แ
กงป่า

แกงป่าเป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ช่วยไล่ลม ขับเหงื่อ ทำให้
เลือดลมหมุนเวียนดี จัดอยู่ในประเภทแกงที่ไม่มีกะทิ จึงเป็นอาหารที่มี
ไขมันต่ำ แต่มีใยอาหารสูง โดยเฉพาะจากมะเขือพวง มะเขือเปราะ
ใบกะเพรา กระชาย และมีเครื่องเทศสมุนไพรเป็นส่วนประกอบหลาย

ชนิดเช่น พริกแห้ง พริกขี้หนูสด พริกไทย กระเทียม ข่า ตะไคร้
มะกรูด กะเพรา กระชาย ฯลฯ เป็นอีกหนึ่งเมนูสุขภาพสำหรับทุกคน

โดย

แกงป่าจึงเป็นอาหารที่ช่วยเรื่องระบบการย่อย มีความเผ็ดร้อน รับ
ประทานได้ทั่วไป ในฤดูหนาวหรือวันที่มีอากาศเย็น จะช่วยเพิ่มความ
ร้อนให้กับร่างกาย มีจุดเด่นที่สามารถเติมส่วนผสมประเภทโปรตีน
หรือเนื้อสัตว์ได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ปลา เนื้อ ไก่ กุ้ง ส่วนประกอบ

ของแกงป่ายังช่วยลดกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่าง ผัดเผ
็ดเป็ดย่าง

เป็นอาหารของภาคกลางโดยการผสมผสานระหว่างเป็ดย่างแบบจีนเข้า
กับแกงเผ็ดแบบไทยโดยเมนูนี้รสชาติจะออกหวานเค็มเผ็ดมีความมัน
เล็กน้อยโดยการนำเป็ดย่างหอมๆ รวมกับพริกแกงเผ็ดรสเด็ดปรุงรส
ด้วยน้ำปลา น้ำตาล และได้รสชาติจากผลไม้ที่ใส่ลงไป เช่น สัปปะรด
มะเขือเทศ องุ่นแดง ทำให้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้นรับประทานคู่

กับข้าวสวยร้อนๆหรือจะทานกับขนมจีนเส้นสดก็อร่อยมากๆ