สังคมพหุวัฒนธรรม
ประเทศเกาหลีใต้
สารบัญ 3
4
ประวัติประเทศเกาหลีใต้ 5
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ 6
ลักษณะภูมิอากาศ 7
สกุลเงิน&ชุ ดประจำชาติ 8
เชื้อชาติ 9
ภาษา 10
ศาสนา 11
ความเชื่อ 12
วิถีการดำเนินชีวิต 12
ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม 13
14
-ขนมธรรมเนียม 15
-ประเพณี
-วัฒนธรรม
แหล่งท่องเที่ยว
ประวัติประเทศเกาหลี
ประวัติศาสตร์เริ่มจากอาณาจักรโชซ็อนโบราณ สถาปนาขึ้นโดย
"ทันกุน" ต่อมาสมัยสามอาณาจักรแห่งเกาหลี (โคกูรยอ, แพ็กเจ, และชิลลา)
ถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นสหอาณาจักรชิลลา ซึ่งมีพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง และ
ต่อมา ค.ศ. 918 ได้สถาปนาอาณาจักรโครยอซึ่งเป็นชื่อของเกาหลี (Korea)
และเมื่อราชวงศ์โชซ็อน (ราชวงศ์ลี) ครองอำนาจเปลี่ยนชื่ออาณาจักรใหม่ ชื่อ
อาณาจักรโชซ็อนเมืองหลวงชื่อว่า ฮันยาง (โซล) มีลัทธิขงจื๊อ เป็นคติธรรม
ประจำชาติ และได้ประดิษฐ์อักษรเกาหลี ขึ้น
ใน ค.ศ. 1910 เกาหลีต้องอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น
จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเกาหลีได้แบ่งเป็น 2 ประเทศ
คือ เกาหลีใต้ และ เกาหลีเหนือ อย่างถาวร โดยประเทศเกาหลีใต้สถาปนา
เป็นสาธารณรัฐเกาหลี ส่วนประเทศเกาหลีเหนือสถาปนาเป็นสาธารณรัฐ
ประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
ลักษณะทางภูมิศาสตร์
เกาหลีเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรเกาหลี ที่ทอดตัวมาจากประเทศ
จีนลงมาทางใต้ ทางปลายสุดของคาบสมุทรมีเกาะใหญ่ที่สุด คือ เกาะเชจู
พรมแดนทางด้านเหนือติดกับประเทศจีน แมนจูเรีย และไซบีเรียของรัสเซีย
โดยมีแม่น้ำยาลู ยาว 790 กิโลเมตร และแม่น้ำทูมัน ยาว 521 กิโลเมตร เป็น
เส้นกั้นพรมแดน ทางด้านตะวันตกใกล้กับประเทศจีน โดยมีทะเลเหลืองกั้น
ทางด้านตะวันออกใกล้กับประเทศญี่ปุ่น โดยมีทะเลตะวันออกกั้น
เกาหลีเหนือ มีกรุงเปียงยาง เป็นเมืองหลวง
เกาหลีใต้ มีกรุงโซล เป็นเมืองหลวง
สภาพภูมิประเทศของเกาหลีพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศร้อยละ 70 เป็น
ภูเขาและที่ราบสูง ภูเขาในเกาหลีเหนือจะสูงมากกว่าเกาหลีใต้ เทือกเขาที่
สำคัญ ได้แก่ เทือกเขาแบ็กตู และเทือกเขาเทแบ็ก ยอดที่สูงที่สุด คือ ยอด
เขาฮัลลา ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้วตั้งอยู่บนเกาะเซจู
ลักษณะทางภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศ 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดู
หนาว มีอากาศหนาวจัดในฤดูหนาวและร้อนจัดในฤดูร้อน เขตที่มีอากาศสบาย
ที่สุด คือ เกาะเซจู มีอุณหภูมิ 58 องศาฟาเรนไฮต์
สกุลเงินเกาหลี
วอน เป็นสกุลเงินของประเทศเกาหลีใต้ ตัวย่อตามมาตรฐานใน ISO
4217 คือ KRW ธนบัตรของเกาหลีใต้จะมี 4 ชนิดคือ ธนบัตร จำนวน
1,000 วอน ธนบัตร จำนวน 5,000 วอน ธนบัตร จำนวน 10,000 วอน
ธนบัตร จำนวน 50,000 วอน เหรียญของเกาหลีใต้จะมี 6 ชนิดคือ เหรียญ
จำนวน 1 วอน เหรียญจำนวน 5 วอน เหรียญจำนวน 10 วอน เหรียญจำนวน
50 วอน
ชุ ดประจำชาติเกาหลี
ฮันบก ความงามและความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมเกาหลีจะถูกถ่ายทอด
ออกมาผ่านทางภาพถ่ายของสุภาพสตรีในเครื่องแต่งกายฮันบกนี้
เชื้อชาติ
กลุ่มชาติพันธุ์
ชาวเกาหลีมีเชื้อสายมองโกเลีย มีภาษาพูดมาจากตระกูลอัลตาอิค เป็น
ภาษาแมนจูเรียและมองโกเลีย อักษรตัวเขียนของเกาหลีเรียกว่า ฮันกูล ซึ่ง
ประกอบด้วยพยัญชนะ 14 ตัว และสระ 10
เชื้อชาติเกาหลีประมาณร้อยละ 99.7 และอื่น ๆร้อยละ 0.3ศาสนา
ชาวเกาหลีใต้ไม่มีศาสนาประมาณร้อยละ 49.3
ศาสนาคริสต์ร้อยละ 26.3
ศาสนาพุทธร้อยละ 23.2และอื่นๆ
ร้อยละ 1.3
ภาษา ใช้ภาษาเกาหลีเป็นภาษาราชการ
ภาษา
ภาษาเกาหลี มีตัวอักษรที่เรียกว่า “ฮันกึล” เป็นอักษรที่กษัตริย์เซจง
ทรงประดิษฐ์ขึ้น ประกอบไปด้วย พยัญชนะ 14 ตัว และสระ 10 ตัว ซึ่ง
สามารถผสมกันเป็นพยางค์และคำต่างๆได้มากมาย อักษรฮันกึลได้รับการ
ยกย่องว่าเป็นตัวอักษรที่ประดิษฐ์ขึ้นตามหลักการทางวิทยาศาสตร์มากที่สุด
เป็นอักษรที่สามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย
ศาสนา
ชาวเกาหลีใต้มีศาสนาที่ตนนับถือกันอย่างหลากหลาย กล่าวคือ นับถือ
ศาสนาคริสต์ 26.3% (นิกายโปรแตสแตนท์ 19.7% และ นิกาย
โรมันคาทอลิก 6.6%) ศาสนาพุทธ 23.2% และศาสนาอื่นๆ 1.3% ส่วนกลุ่ม
ที่ไม่นับถือศาสนาใดเลย 49.3%
ความเชื่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเชื่อของคนเกาหลีผ่านวรรณกรรม
เรื่อง ผีเกาหลี ของ อิมบางและยี รยุค วรรณกรรมเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงลักษณะ
สังคม ประเพณี วัฒนธรรมและความเชื่อในยุคนั้นว่าเป็นอย่างไรโดยใช้
แนวคิดเรื่องความเชื่อทางวิญญาณ และความเชื่อทางพระพุทธศาสนา โดย
ผ่านการเล่าเรื่องในบทความต่างๆ ผ่านตัวละครในแต่ละบทเพื่อให้เข้าใจใน
ตัวละคร และเนื้อเรื่องจากสิ่งที่ผู้เขียนได้แสดงออกมาผ่านตัวหนังสือ เพื่อให้
เห็นอีกด้านหนึ่งทางความเชื่อของมนุษย์ที่มีกันมาอย่างยาวนานซึ่งมีอิทธิพล
ทางความคิดของคนในสมัยก่อน วรรณกรรมเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมที่มีความลึก
ซึ้งและแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา สามารถสะท้อนแง่มุมต่างๆทางสังคมที่มี
ต่อความเชื่อออกมาได้อย่างชัดเจน และสิ่งที่สำคัญคือ ความเชื่อของมนุษย์คือ
สิ่งที่นำไปสู่การมีวัฒนธรรม
วิถีการดำเนินชีวิต
อย่างแรกที่เราสังเกตได้ชัดเจนคือ การเดินเร็ว โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนอย่าง
ก่อนเข้าทำงานหรือหลังเลิกงาน ยิ่งตอนที่เปลี่ยนสายรถไฟใต้ดิน ทุกคนจะเห็นคน
เกาหลีกลุ่มใหญ่วิ่งกันให้วุ่นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะชีวิตต้อง "ปัลรี่ ปัลรี่" อยู่เสมอ
นิสัยและวิถีชีวิต ชาย-หญิง ชาวเกาหลี
1.แบบชาย - จะแข็ง ฉลาดเฉลียว มีความเป็นผู้นำสูงมาก สุภาพในบางโอกาส แต่
จะเสียที่ว่า ค่อนข้างหยาบคายและสถุนเวลาผู้ชายถึงวัยทำงานจะต้องจากบ้านตนเอง
ไปแต่ยังมีความกตัญูญรุ้คุณบิดามารดา เพือ่ให้ผู้ชายไปสร้างฐานะและความมั่นคง
ด้วยตนเอง หากมีครอบครัวแล้วยิ่งมีลูกด้วยผู้ชายเกาหลีต้องทำงานหนักเป็น 2 เท่า
แม้แต่ความเป็นผู้นำ
2.แบบหญิง - จะอ่อนโยน ฉลาดเฉลียว สุภาพและสำอางค์มากๆๆๆๆๆๆ เสียอย่าง
เป็นคนค่อนข้างนิ่มนวล เกรงใจมากเกินและขี้หึง สิ่งสำคัญ คือ การเตรียมตัวหา
ผู้ชายดีๆเพื่อมาเป็นคู่ชีวิต เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว แม่บ้านแม่เรือนที่ดี มีความกตัญูญ
ต่อบิดามารดาและเคารพพ่อแม่สามี
ขนบธรรมเนียม
ประเพณี วัฒนธรรม
ขนบธรรมเนียม
ชีวิตในเกาหลีและมารยาทเบื้องต้น
1. การทักทายและการบอก ขอบคุณ เป็นเรื่องสำคัญมากของคนเกาหลี คนเกาหลี
มักกล่าวคำทักทายและขอบคุณพร้อมก้มหัวคำนับเสมอ โค้งต่ำระดับไหนนั้นขึ้นอยู่กับ
ความอาวุโสของผู้พูดทั้ง 2 ฝ่าย
2. คนเกาหลีไม่นิยมการแสดงออกโดยเปิดเผยและมักจะจำกัดการถูกเนื้อต้องตัว
เพียงแค่การจับมือทักทายกันอย่างสุภาพ
3. สุขาสาธารณะสะอาดมีอยู่ทั่วประเทศเกาหลี และสามารถใช้ห้องสุขาในอาคาร
สำนักงาน โรงแรม ร้านค้า หรือภัตตาคาร
4. ตามประเพณีดั้งเดิมคนเกาหลีนั่งรับประทาน และนอนบนพื้น ดังนั้น จึงควร
ถอดรองเท้าเสมอ ก่อนเข้าบ้านของคนเกาหลี เมื่อท่านไปเยี่ยมครอบครัวคนเกาหลีที่บ้าน
ท่านควรสวมถุงเท้าหรือถุงน่อง เพราะการนั่งเท้าเปล่าต่อหน้าผู้มีอายุสูงกว่าถือว่าไม่สุภาพ
5. คนเกาหลีไม่ค่อยนิยม แชร์ค่าอาหารกัน ยกเว้นในกรณีพิเศษ ท่านควรเตรียม
พร้อมรับสถานการณ์ ที่จะเป็นเจ้าภาพหรือไม่ก็เป็นแขก
6. ตามประเพณีการพูดคุยกันระหว่างมื้ออาหารมากเกินไปถือว่าไม่สุภาพ คนเกาหลี
น้อมรับคำชมเกี่ยวกับรสชาติอาหาร และการบริการ การสั่งน้ำมูกในโต๊ะอาหารถือว่าไม่
สุภาพ
7.ในบทสนทนาทำความรู้จักของคนเกาหลี มักจะมีคำถามเรื่องส่วนตัวสำหรับคน
ไทย เช่น อายุเท่าไร มีแฟนหรือยัง มาเกาหลีแล้วพ่อแม่ละอยู่กับใคร ซึ่งทั้งนี้การที่คน
เกาหลีตั้งคำถามส่วนตัว เหตุผลหลักไม่ได้ต้องการระราบระล้วงแต่อย่างใด เพียงแต่เป็น
วัฒนธรรมในการทำความคุ้นเคยแบบพี่น้องหรือการใช้ภาษาในการพูดระดับทางสังคมได้
ถูกต้อง เพราะในภาษาเกาหลีนั้นผู้ที่มีอายุก่อนหรือหลังถูกแบ่งไว้อย่าชัดเจน
ขนบธรรมเนียม
ประเพณี วัฒนธรรม
ประเพณีเทศกาล
วันซอลลัล (วันปีใหม่ตามปฏิทินทางจันทรคติ; ซึ่งหมายถึงวันแรกของปีตามปฏิทิน
ทางจันทรคติ) เป็นหนึ่งในวันหยุดประจำชาติที่สำคัญที่สุดในเกาหลี วันซอลลัลเป็นช่วง
เวลาที่ชาวเกาหลีจะได้เดินทางกลับไปบ้านเกิดของตนเอง เพื่อกราบไหว้บรรพบุรุษและ
เพื่อพบปะกับสมาชิกในครอบครัวด้วยเช่นกัน ในช่วงเทศกาลซอลลัลนี้ คนเกาหลีมักจะ
ทำพิธีไหว้บรรพบุรุษ เล่นเกมพื้นบ้าน กินอาหารพื้นเมือง ฟังเรื่องราวและพูดคุยกันยาว
추석จนถึงตอนกลางคืน เเล้วคนเกาหลีจะเฉลิมฉลองในวันซอลลัล
เทศกาลชูซอก ( ) หรือ วันขอบคุณพระเจ้าของชาวเกาหลี เป็นหนึ่งในวัน
หยุดที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของประเทศเกาหลี สมาชิกครอบครัวแต่ละคน ไม่ว่าจะอยู่
ใกล้หรือไกล จะมารวมตัวกัน เพื่อแบ่งปันอาหารและเรื่องราวต่างๆของกันและกัน และที่
สำคัญเพื่อขอบคุณบรรพบุรุษของพวกเขาที่ให้ผลผลิตอันอุดมสมบูรณ์แก่พวกเขา
เทศกาลกิมจิ Gwangju World Culture Kimchi Festival นี้จัดขึ้นที่เมืองควังจู
ซึ่งมาพร้อมกับ การสอนทํากิมจิ นิทรรศการศิลปะ การสอนทําอาหาร และการแสดงพิเศษ
มากมาย เทศกาลนี้ยังมีการแข่งขันค้นหากิมจิมาสเตอร์ รวมไป ถึงมีตลาดที่ขายสินค้าและ
อาหารต่าง ๆ ที่ทําจากกิมจิ ๆ อีกด้วย
ขนบธรรมเนียม
ประเพณี วัฒนธรรม
วัฒนธรรม
ชาวเกาหลีจะชอบความก้าวหน้าก็ยังยังคงรักษาคุณค่าของประเพณีและ
คุณค่าของ ลัทธิขงจื๊อเอาไว้ดังเดิม วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมของเกาหลียัง
คงฝังรากลึกลงไปในครอบครัวแบบดั้งเดิมและมี วัฒนธรรมที่นับถือผู้ที่มี
ตำแหน่ง ระดับ อายุที่สูงกว่า เช่น พ่อแม่ ครู พี่ในบรรดาพี่น้อง เจ้านายในที่
ทำงานอย่างเคร่งครัด ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ผู้อาวุโส”
ก็จะมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบต่อผู้ที่อยู่ต่ำกว่า ชาวเกาหลีจะให้ความ
สำคัญต่อครอบครัวมากกว่าสิ่งอื่นใด
สถานที่เที่ยว
พระราชวังคยองบกกุง หมู่บ้านบุกชอนฮันอก
เมียงดง อุโมงค์ซากุระ คลองยอชวาชอน
เกาะนามิ อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน
โซล ทาวเวอร์ Ananti Hilton Busan
ฮงแด เกาะเซจู
อิแทวอน ตลาดมันแดมุน
เมอร์เคียว แอมบาสเดอร์ โซล ฮงแด หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน
ตลาดปลาจากัลจิ หาดแฮฮึนแด
สวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ วัดแฮดง ยงกุงชา
วัดพงอึนซา ย่านอิซาดง
คลองชองกเยซอน