คำนำ คู่มือการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านของฝ่ายสูติ-นรีเวชกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จัดทำขึ้นเพื่อให้แพทย์ประจำบ้านที่เข้าฝึกอบรมได้ทราบถึงสิทธิ์บทบาทและหน้าที่ของตนเอง รวมถึงขอบเขตเนื้อหาของการฝึกอบรม แนวทางการปฏิบัติตัวระหว่างฝึกอบรม และการประเมินผลการ ฝึกอบรม ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ การฝึกอบรมของท่านสัมฤทธิ์ผลตามเป้าประสงค์ต่อไป
สารบัญ หน้า อาจารย์ประจำฝ่ายสูติ-นรีเวชกรรม 1 ระเบียบและแนวทางการปฏิบัติงานของแพทย์ประจำบ้าน 2 แนวทางการปฏิบัติงาน 2 การอยู่เวรนอกเวลาราชการ 9 การลา 10 การวัดและประเมินผล 11 การทำวิจัย 14 สวัสดิการและสิ่งอำนวยความสะดวก 15 ภาคผนวก ภาคผนวกที่ 1 ข้อบังคับการปฏิบัติงานในเวลาราชการ แพทย์ประจำบ้านสาขาสูติศาสตร 16 ภาคผนวกที่ 2 รหัส ICD โรคและหัตถการทางนรีเวชที่พบบ่อย 17 ภาคผนวกที่ 3 การประเมินทักษะหัตถการของแพทย์ประจำบ้าน 19 ภาคผนวกที่ 4 หมุนเวียนการปฏิบัติงานของแพทย์ประจำบ้าน สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา 21 ภาคผนวกที่ 5 กิจกรรมวิชาชีพที่เชื่อถือไว้ใจได้ (Entrustable professional activities: EPAs) 22 การประเมินโดยวิธี Entrustable professional activities: EPAs และ/หรือDirect observation procedural skills: DOPS) ภาคผนวกที่ 6 เกณฑ์การขอดูผลการสอบอ้างอิงตามราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย 50 ภาคผนวกที่ 7 ตารางกิจกรรมรายปีแพทย์ประจำบ้าน สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา 51 ภาคผนวกที่ 8 ตารางการเรียนวิจัย แพทย์ประจำบ้านสาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา 52
1 อาจารย์ประจำฝ่ายสูติ-นรีเวชกรรม นพ. สมศักดิ์ เจษฎาพรชัย พญ. นภัส อินจำปา พญ. ธัญดา เทียมพงศ์ พญ. พรนภา วนาพัทธ์ หัวหน้าฝ่ายสูติ-นรีเวชกรรม นพ. จันทรวัฒน์ นีละศรี พญ. จุฬารัตน์ สุต๋า พญ. ธนนันท์ จงสมบูรณ์สุข พญ.อรอนงค์ นุ่มเจริญ พญ. นุชนารถ พัฒนาปัญญาสัตย์ พญ.เบญจมาภรณ์ เสรีนนท์ชัย พญ.เหมือนนภา ลิ้มโสภาธรรม นพ.ธีรภัทร เอี่ยมสำราญ พญ.ธัญวรัตน์ ติละกุล
2 ระเบียบและแนวทางการปฏิบัติงานของแพทย์ประจำบ้าน ฝ่ายสูติ – นรีเวชเวชกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ปีการฝึกอบรม 2566-2567 1. แนวทางการปฏิบัติงาน 1.1 ข้อปฏิบัติในการปฏิบัติงานของแพทย์ประจำบ้าน • แพทย์ประจำบ้านที่เข้ารับการฝึกอบรม ต้องปฏิบัติตามระเบียบและกฎเกณฑ์ของราชวิทยาลัย สูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด • ฝ่ายฯ จะแบ่งสายในการปฏิบัติงานเป็น 2 สาย ได้แก่ ▪ สายสูติกรรม ▪ สายนรีเวชกรรม โดยแต่ละสายจะประกอบไปด้วยแพทย์ประจำบ้านชั้นปีสูงสุดเป็นหัวหน้าสาย แพทย์ประจำ บ้านชั้นปีรองลงมา แพทย์เพิ่มพูนทักษะ และนิสิตแพทย์ • ผู้ป่วยในฝ่ายฯ แต่ละรายจะมีอาจารย์แพทย์เจ้าของไข้เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบสูงสุด • เมื่อเกิดปัญหาในการตัดสินใจเกี่ยวกับผู้ป่วย ให้แพทย์ประจำบ้านรายงานอาจารย์แพทย์ เจ้าของไข้ หรืออาจารย์แพทย์ผู้รับผิดชอบหอผู้ป่วยทุกครั้ง • การผ่าตัดผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV มีข้อกำหนดดังนี้ ▪ แพทย์ประจำบ้าน 1 สามารถทำได้ใน Case หัตถการ หรือการผ่าตัดเล็ก เช่น ขูด มดลูก, Marsupialization, ใส่ห่วงอนามัย, ฝังและถอดคุมกำเนิด, ผ่าตัดทำหมัน ▪ แพทย์ประจำบ้าน 2 ขึ้นไป สามารถทำผ่าตัดใหญ่ได้เช่น ผ่าตัดคลอด (Cesarean delivery , ผ่าตัดทางนรีเวชประเภท Explore laparotomy โดยจะต้องมีการระมัดระวังป้องกันตัวเองอย่างสูงสุด ตามหลัก Universal precaution ภายใต้การควบคุมดูแผลของอาจารย์แพทย์เจ้าของไข้ หมายเหตุแต่ละหน่วยปฏิบัติงานไม่ว่าจะเป็นคลินิกผู้ป่วยนอก คลินิกฝากครรภ์ ห้องคลอด ห้อง ผ่าตัด หรือหอผู้ป่วยใน จะมีอาจารย์แพทย์ผู้รับผิดชอบประจำอยู่เสมอ เมื่อมีปัญหาในการดูแลผู้ป่วย ให้ปรึกษาอาจารย์ที่ได้รับมอบหมายให้อยู่ประจำหน่วยนั้นๆ ตามตารางปฏิบัติงานประจำเดือน ซึ่งจะ ประกาศให้ทราบไม่เกินวันที่ 25 ของแต่ละเดือน
3 1.2 รายละเอียดการปฏิบัติงานสายนรีเวชกรรม 1.2.1 งานผู้ป่วยใน ดูแลผู้ป่วยนรีเวชที่อาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ 150 ปีชั้น 18B และชั้น 23A, 26A (หอผู้ป่วยพิเศษ) 1.2.2 งานผู้ป่วยนอก ออกตรวจผู้ป่วยนอก (OPD) คลินิกนรีเวชที่อาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ 150 ปีชั้น 6 และงานผ่าตัดทางนรีเวชอาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ 150 ปีชั้น 12,13 ตามตารางการปฏิบัติงานที่กำหนดให้ การออกตรวจที่คลินิกนรีเวช ให้ออกตรวจตามเวลาดังนี้ ช่วงเช้า เวลา 9.00 – 12.00 น. และ ช่วงบ่าย เวลา 13.30 - 16.00 น. ตามภาคผนวกที่ 1 หมายเหตุ • เมื่อตรวจพบผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ในการทำผ่าตัด หรือมีความจำเป็นต้องรับไว้รักษา เป็น ผู้ป่วยใน (admit) ให้ปรึกษาอาจารย์แพทย์ประจำคลินิกนรีเวช ณ ขณะนั้นทุกราย • ไม่อนุญาตให้แพทย์ใช้ทุนเพิ่มพูนทักษะและนิสิตแพทย์ตรวจอัลตราซาวด์ผู้ป่วย ด้วยตนเอง ต้องปรึกษาแพทย์ประจำบ้าน หรืออาจารย์แพทย์ประจำคลินิกนรี เวชร่วมตรวจประเมินด้วยทุกครั้ง • ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในทุกรายต้องบันทึกข้อมูลในเวชระเบียน ผู้ป่วยให้ถูกต้องสมบูรณ์และเซ็นต์เอกสารยินยอมให้ทำการรักษา (Inform consent) ให้เรียบร้อยก่อนเสมอ (เอกสารตามภาคผนวกที่ 2) • ผู้ป่วยฉุกเฉินที่วินิจฉัยจากคลินิกนรีเวชว่าจำเป็นต้องรับการผ่าตัดเร่งด่วน หาก ทำการผ่าตัดโดยแพทย์ประจำบ้าน ให้อาจารย์แพทย์ประจำคลินิกนรีเวชเป็น เจ้าของไข้ รวมถึงควบคุมดูแลการผ่าตัดของแพทย์ประจำบ้าน
4 1.3 รายละเอียดการปฏิบัติงานสายสูติกรรม 1.3.1 งานผู้ป่วยใน ดูแลผู้ป่วยตั้งครรภ์ที่รับไว้รักษาในโรงพยาบาล ที่อาคารศรีสวรินทิรา นุสรณ์ 150 ปีชั้น 13 (ห้องคลอด) ชั้น 18A (หอผู้ป่วยหลังคลอด) และชั้น 26A (หอ ผู้ป่วยพิเศษ) กิจกรรม Service round แพทย์ประจำบ้านทุกคนจะต้องเข้าร่วมตรวจเยี่ยมผู้ป่วยใน สายของตนเอง พร้อมกับอาจารย์แพทย์ที่มีหน้าที่ดูแล service round ทุกวันเวลา 08.30-09.00 น. 1.3.2 งานผู้ป่วยนอก งานคลินิกฝากครรภ์ การออกตรวจที่คลินิกฝากครรภ์ให้ออกตรวจตามช่วงเวลาดังนี้ ช่วงเช้า เวลา 09.00 – 12.00 น. และ ช่วงบ่าย เวลา 13.30 – 16.00 น. โดยช่วงบ่ายจะเป็นการตรวจผู้ป่วยที่ค้างตรวจจากช่วงเช้า หรือผู้ป่วยที่รอฟังผลตรวจ ทางห้องปฏิบัติการ (ตามภาคผนวกที่ 1) หมายเหตุ • ในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ให้นัดผ่าคลอด (Elective cesarean delivery) นัดเร่งคลอด (Induction of labor) หรือต้องรับเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน ให้ปรึกษาอาจารย์ แพทย์ประจำคลินิกฝากครรภ์ทุกครั้ง • เมื่อมีปัญหาในการตรวจรักษาผู้ป่วย ให้ปรึกษาอาจารย์แพทย์ประจำคลินิกฝาก ครรภ์วันนั้นๆ 1.3.3 งานห้องคลอด • ตรวจเยี่ยมผู้ป่วยพร้อมอาจารย์แพทย์ประจำห้องคลอดเวลา 9.00 น. ถ้า อาจารย์มาช้าเกิน 10 นาทีควรโทรศัพท์ติดต่ออาจารย์ประจำห้องคลอดวันนั้น ทันทีเพื่อนัดหมาย หรือรายงานผู้ป่วยในห้องคลอด • แพทย์ประจำบ้านที่เป็นหัวหน้าห้องคลอด (Chief LR) ต้องรายงานผู้ป่วยรับ ใหม่ และผู้ป่วยที่ตรวจแล้วเห็นสมควรให้กลับบ้าน (Discharge) แก่อาจารย์ ประจำห้องคลอดให้ทราบทุกราย • ให้แพทย์ประจำบ้านที่มีหน้าที่ปฏิบัติงานในห้องคลอด อยู่ประจำที่ห้องคลอด ยกเว้นช่วงเวลาที่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการของฝ่ายฯ เช่น noon conference, grand round โดยต้องแจ้งอาจารย์แพทย์ประจำห้องคลอดให้
5 ทราบก่อนที่จะออกจากห้องคลอด และต้องมีแพทย์เพิ่มพูนทักษะอยู่ประจำ ห้องคลอดแทน ไม่ควรให้นิสิตแพทย์ดูแลห้องคลอดตามลำพัง • กรณีที่แพทย์เพิ่มพูนทักษะ หรือนิสิตแพทย์ทำหัตถการใดๆ ในห้องคลอดต้องมี แพทย์ประจำบ้าน หรืออาจารย์แพทย์ประจำห้องคลอด เป็นผู้ดูแลควบคุม เสมอ • แพทย์ประจำบ้านมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลความสะอาดของเครื่องอัลตราซาวด์ • กรณีที่ผู้ป่วยมีข้อบ่งชี้ในการผ่าคลอด ให้แพทย์ประจำบ้านโทรรายงานอาจารย์ แพทย์ประจำห้องคลอดก่อน set ผ่าตัดคลอดทุกครั้ง และแจ้งอาจารย์อีกครั้ง เมื่อผู้ป่วยไปถึงห้องผ่าตัด • การรายงานอาจารย์แพทย์ให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ประจำบ้านผู้มีอาวุโสสูงสุด ยกเว้นติดภารกิจที่ไม่อาจรายงานด้วยตนเองได้ เช่น ติดทำผ่าตัดหรือทำคลอด • แพทย์ประจำบ้านที่จะสามารถทำผ่าตัดคลอดได้นั้น ต้องได้รับการประเมิน ผ่าตัดคลอดโดยอาจารย์อย่างน้อย 3 ครั้ง ตามเกณฑ์ที่แนบไว้ในภาคผนวก โดยมีอาจารย์แพทย์ประจำห้องคลอดเป็นผู้ควบคุม ดูแล และรับผิดชอบสูงสุด (ตามภาคผนวกที่ 3) 1.4 การรับปรึกษาผู้ป่วยจากต่างแผนก เมื่อมีการปรึกษาจากต่างแผนก (Consult) ให้แพทย์ประจำบ้านสายนรีเวชที่มีหน้าที่รับให้ คำปรึกษาเป็นผู้ตรวจประเมินผู้ป่วย และรายงานผลให้อาจารย์แพทย์ที่รับให้คำปรึกษาประจำวัน นั้นๆ ทราบทุกราย เพื่อรับเป็นเจ้าของไข้ และร่วมประเมินรักษาผู้ป่วยร่วมกับแพทย์ประจำบ้าน หากผู้ป่วยที่ต้องการปรึกษากำลังตั้งครรภ์ และมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 20 สัปดาห์ขึ้นไป ให้แพทย์ ประจำบ้านที่เป็นหัวหน้าห้องคลอดเป็นผู้รับให้คำปรึกษา และรายงานให้อาจารย์แพทย์ประจำ ห้องคลอดรับเป็นเจ้าของไข้ และประเมินรักษาผู้ป่วยร่วมกับแพทย์ประจำบ้าน 1.5 การหมุนเวียนปฏิบัติงานของแพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านจะต้องหมุนเวียนฝึกปฏิบัติงานในระยะเวลา 3 ปี(36 เดือน) ของการฝึกอบรม ดังนี้ วิชาหลัก เป็นเวลา 30 เดือน แบ่งเป็น • สูติศาสตร์ 15 เดือน • นรีเวชวิทยา 15 เดือน
6 วิชารองและวิชาเลือก เป็นเวลา 6 เดือน แบ่งเป็น • มะเร็งวิทยาทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา 4 สัปดาห์ • เวชศาตร์การเจริญพันธุ์ 4 สัปดาห์ • พยาธิวิทยาทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา 2 สัปดาห์ • เซลล์วิทยาทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา 2 สัปดาห์ • ศัลยศาสตร์ช่องท้อง 2 สัปดาห์ • ศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ 2 สัปดาห์ • วิสัญญีวิทยา 2 สัปดาห์ • วิทยาทารกแรกเกิด 2 สัปดาห์ ฝ่ายฯ จะจัดตารางหมุนเวียนปฏิบัติงานให้แก่แพทย์ประจำบ้านเป็นรายปี (ตามภาคผนวกที่ 4) โดยสถานที่หลักในการปฏิบัติงานจะเป็นโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และจัด ให้หมุนเวียนไปปฏิบัติงานในโรงพยาบาลที่เป็นสถาบันฝึกอบรมร่วม ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ วิชา • เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ 2 สัปดาห์ • เวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม 2 สัปดาห์ โรงพยาบาลศิริราช วิชา • มะเร็งวิทยาทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา 2 สัปดาห์ 1.6 การเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการ แพทย์ประจำบ้านทุกคนต้องให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการของฝ่ายฯ ตามตาราง ที่จัดให้ทุกเดือน ดังนี้ • Morning Report ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 07.30 – 08.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) จัดในรูปแบบ Video conference ผ่านโปรแกรม zoom โดยเนื้อหาของกิจกรรมประกอบด้วย การรายงานผู้ป่วยที่ผ่าตัดในเวร, ผู้ป่วยทางสูติ-นรี เวชกรรมที่มีความซับซ้อนหรือมีภาวะแทรกซ้อน โดยแพทย์ประจำบ้านที่อาวุโสสูงสุดใน เวร รายงานผู้ป่วยที่รอคลอด ยับยั้งคลอดในห้องคลอดโดยแพทย์ประจำบ้านที่เป็น หัวหน้าห้องคลอด และรายงานผู้ป่วยที่นัดมาผ่าตัดในเวลาโดยแพทย์ประจำบ้านที่เป็น หัวหน้าสายนรีเวช • Grand round ทุกวันพุธ เวลา 12.30 – 13.30 น. จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์
7 โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ ให้แพทย์ประจำบ้านแต่ละสายนำเคสผู้ป่วยที่น่าสนใจแก่ อาจารย์แพทย์ในฝ่ายฯ ทุกท่าน เพื่อให้ความเห็นในการการวินิจฉัยหรือแนวทางการ ดูแลรักษา และเพื่อเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน • Interesting case ทุกวันอังคาร ที่ 3 และ 4 ของเดือน เวลา 12.30 – 13.30 น. จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์ โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ ให้แพทย์ประจำบ้านและแพทย์ใช้ทุนแต่ละสายนำเสนอเคส ผู้ป่วยในสายที่มีความน่าสนใจในแง่ของการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา จำนวน 2 เคสต่อ เดือน (สายละ 1 เคสต่อเดือน) เพื่อให้ที่ประชุมได้ร่วมกันเสนอความคิด วิเคราะห์ วิจารณ์บนพื้นฐานวิชาความรู้ทางสูตินรีเวชศาสตร์ และเพื่อฝึกทักษะภาษาอังกฤษของแพทย์ประจำบ้าน ฝ่ายฯ ได้กำหนดให้มีการนำเสนอ และร่วมกันให้ความเห็นเป็นภาษาอังกฤษ 1 เคสต่อเดือน โดยสลับสายสูติกรรม กับสาย นรีเวชกรรมเดือนเว้นเดือน โดยมีอาจารย์เจ้าของไข้ และอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในฝ่ายฯ เป็นผู้ให้ คำปรึกษา • MFM / Onco Conference เดือนละ 1 ครั้ง เวลา 12.30 – 13.30 น. (เฉพาะในเดือนที่มีแพทย์ประจำบ้านหมุนเวียนมาปฏิบัติงานในวิชาเวชศาสตร์มารดา และทารกในครรภ์ และวิชามะเร็งทางนรีเวชวิทยา) จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์ โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ ให้แพทย์ประจำบ้านที่ปฏิบัติงานในวิชาเวชศาสตร์มารดา และทารกในครรภ์ และวิชามะเร็งทางนรีเวชวิทยาของโรงพยาบาลสมเด็จฯ ณ ศรีราชา นำเสนอเคสผู้ป่วยที่น่าสนใจ หรือ Topic ที่น่าสนใจ แก่ที่ประชุม โดยมีอาจารย์แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในฝ่ายฯ เป็นผู้ให้คำปรึกษา • Topic presentation เดือนละ 1-2 ครั้ง เวลา 12.30 – 13.30 น. จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์ โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ แพทย์ประจำบ้านทุกคนจะต้องนำเสนอ Topic เกี่ยวกับวิชา สูติศาสตร์นรีเวชวิทยา ที่มีความน่าสนใจแก่ที่ประชุมคนละ 1 หัวข้อต่อปี โดยฝ่ายฯ จะ กำหนดอาจารย์ที่ปรึกษา และวันที่ต้องนำเสนอให้ทุกปี • Journal club เดือนละ 1-2 ครั้ง เวลา 12.30 – 13.30 น. จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์ โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ ให้แพทย์ประจำบ้านแต่ละคน ร่วมกับแพทย์ใช้ทุนนำเสนอ บทความวิจัยทางวิชาการ (Research paper) เกี่ยวกับวิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยาที่
8 น่าสนใจ และมีประโยชน์ต่อที่ประชุม กำหนดให้แพทย์ประจำบ้าน 1 คน นำเสนอ บทความวิจัย 2 ฉบับต่อปี และบทความวิจัยที่นำเสนอจะต้องทันสมัย ได้รับการตีพิมพ์ ในวารสารที่มีความน่าเชื่อถือ • OB-PED Conference ทุก 2 เดือน (เดือนเลขคู่) เวลา 12.30 – 13.30 น. จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์ โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ ให้แพทย์ประจำบ้านฝ่ายสายสูติกรรม และแพทย์ใช้ทุนของ ฝ่ายกุมารเวชกรรม ร่วมกันนำเสนอเคสผู้ป่วยตั้งครรภ์หรือผู้ป่วยหลังคลอดที่มีความ น่าสนใจ มีความซับซ้อน ต้องอาศัยการดูแลเป็นทีมระหว่างสูติแพทย์ และกุมารแพทย์ แก่ที่ประชุม เพื่อร่วมกันให้ความเห็นและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสายงาน โดยมี อาจารย์เจ้าของไข้ และอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเวชศาสตร์มารดาและทารก ในครรภ์ของฝ่ายฯ เป็นผู้ให้คำปรึกษา • Morbid-Mortal Conference หลังวันที่ 20 ของเดือน เดือนละ 2 วัน (สายสูติกรรม 1 วัน และสายนรีเวชกรรม 1 วัน) เวลา 12.30 – 13.30 น. จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์ โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ ให้แพทย์ประจำบ้านแต่ละสายนำเสนอเคสผู้ป่วยในสายที่มี ภาวะแทรกซ้อนทางสูตินรีเวช สอดคล้องกับตัวชี้วัดของฝ่ายฯ เพื่อให้ที่ประชุมได้ร่วมกัน วิเคราะห์สาเหตุและหาแนวทางป้องกันที่เหมาะสมต่อไป (Root cause analysis; RCA) • Inter-department Conference (Patho / Surgery / Medicine / Anes / Radiology) ทุก 3 เดือน เวลา 12.30 – 13.30 น. จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์ โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ ให้แพทย์ประจำบ้านนำเสนอเคสผู้ป่วยที่มีความน่าสนใจ และต้องได้รับการรักษาร่วมจากฝ่ายงานอื่นๆ ได้แก่ ฝ่ายพยาธิวิทยา ฝ่ายศัลยกรรม ฝ่ายอายุรกรรม ฝ่ายวิสัญญีวิทยา และฝ่ายรังสีวิทยา แก่ที่ประชุม เพื่อร่วมกันให้ ความเห็นและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสายงาน โดยมีอาจารย์เจ้าของไข้ และอาจารย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะในฝ่ายฯ เป็นผู้ให้คำปรึกษา • Interhospital Conference ตามตารางที่ราชวิทยาลัยสูติฯ กำหนด โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ ให้แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่3 ทุกคน เข้าร่วมประชุมกับ แพทย์ประจำบ้านต่างสถาบัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเคสผู้ป่วยที่น่าสนใจ และร่วมเป็นผู้นำเสนอเคสผู้ป่วยตามวาระที่ราชวิทยาลัยสูติฯ กำหนด
9 1.7 การเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานต่างๆ • ประชุมฝ่ายฯ ทุกวันศุกร์ที่ 2 ของเดือน เวลา 12.30 – 13.30 น. จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์ หัวหน้าแพทย์ประจำบ้านหรือตัวแทน ต้องเข้าร่วมประชุมฝ่ายฯ เดือนละ 1 คน เพื่อรับทราบเรื่องแจ้งที่เกี่ยวข้อง และนำไปปฏิบัติให้เป็นแนวทางเดียวกัน • ประชุมแพทย์ประจำบ้าน ทุกวันศุกร์ที่ 2 ของเดือน เวลา 13.30 – 14.30 น. จัดที่ห้องประชุม 202 อาคารเกษตร สนิทวงศ์ แพทย์ประจำบ้านทุกคน มีหน้าที่เข้าประชุมแพทย์ประจำบ้านร่วมกับอาจารย์แพทย์ใน ฝ่ายฯ เพื่อติดตามการดำเนินการฝึกอบรม รวมถึงรับทราบปัญหาระหว่างการฝึกอบรม ของแพทย์ประจำบ้าน โดยเน้นให้แพทย์ประจำบ้านแลกเปลี่ยนความเห็น • ประชุมทีมการดูแลผู้ป่วย (Patient Care Team; PCT) เดือนละ 1 ครั้ง ตามวาระที่กลุ่มงาน PCT ฝ่ายสูติฯ กำหนด หัวหน้าแพทย์ประจำบ้านหรือตัวแทน ต้องเข้าร่วมประชุม PCT ฝ่ายสูติฯ เดือนละ 1 คน เพื่อรับทราบเรื่องแจ้งที่เกี่ยวข้อง และนำไปปฏิบัติให้เป็นแนวทางเดียวกัน 2. การอยู่เวรนอกเวลาราชการ 2.1 การจัดตารางเวร อาจารย์แพทย์จะเป็นผู้จัดตารางเวรนอกเวลาให้แก่แพทย์ประจำบ้าน โดยกำหนดให้แจ้งตารางเวร ก่อนอย่างน้อย 10 วัน 2.2 จำนวนเวร ให้แพทย์ประจำบ้านอยู่เวรดังนี้ • เวรวันธรรมดา ตั้งแต่เวลา 16.00 น. – 09.00 น. ของวันถัดไป • เวรวันหยุด ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 09.00 น. ของวันถัดไป โดยจะต้องอยู่เวรเดือนละ 8 เวรต่อคน แบ่งเป็นเวรวันธรรมดา 4 เวร และเวรวันหยุด 4 เวร (1 วันหยุด เท่ากับ 2 เวร) ซึ่งรวมแล้วต้องไม่น้อยกว่า 50 เวรวันธรรมดา และไม่น้อยกว่า 20 เวรวันหยุดต่อปี หมายเหตุ • แพทย์ประจำบ้านทุกคน มีหน้าที่ตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในสายตัวเอง หากมีปัญหาในการดูแล ผู้ป่วย ให้โทรปรึกษาอาจารย์แพทย์เจ้าของไข้ หรืออาจารย์ประจำเวรวันนั้นๆ • นิสิตแพทย์แพทย์ใช้ทุนเพิ่มพูนทักษะ และแพทย์ประจำบ้านต้องอยู่ที่ห้องคลอดขณะที่อยู่ เวรนอกเวลาราชการ หากมีความจำเป็นต้องไปทำธุระข้างนอก ให้แจ้งแพทย์ประจำบ้านที่ อาวุโสที่สุดในเวร และอาจารย์แพทย์ที่อยู่เวรให้ทราบก่อนเสมอ ไม่ควรเขียนแจ้งไว้บน
10 กระดาน White Board และไม่ควรหายไปโดยไม่อาจติดตามได้แสดงว่าขาดความ รับผิดชอบ • เมื่อได้รับปรึกษาให้ไปดูผู้ป่วยที่แผนกฉุกเฉิน, แผนกผู้ป่วยนอก หรือหอผู้ป่วยใน ให้แพทย์ ประจำบ้านตามแพทย์ในทีม ได้แก่แพทย์พิ่มพูนทักษะ และนิสิตแพทย์ที่อยู่เวรวันนั้นๆไป ด้วยเสมอ • ไม่อนุญาตให้แพทย์ใช้ทุน และนิสิตแพทย์ทำการตรวจภายใน หรืออัลตราซาวด์ผู้ป่วยก่อน แพทย์ประจำบ้าน หากแพทย์ประจำบ้านไม่แน่ใจผลการตรวจ ให้ปรึกษาอาจารย์เวรมาร่วม ประเมินซ้ำ ไม่ให้ตรวจภายในหรืออัลตราซาวด์ทางช่องคลอดเกิน 2 ครั้งต่อผู้ป่วย 1 ราย • การรับปรึกษาผู้ป่วยให้ปรึกษากันตามลำดับขั้น คือ นิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 6 ต้องรายงานแพทย์ เพิ่มพูนทักษะและแพทย์ประจำบ้านตามลำดับ หรืออาจจะรายงานอาจารย์แพทย์ที่อยู่เวร ทั้งนี้แล้วแต่ความจำเป็นของผู้ป่วยแต่ละราย ในกรณีผู้ป่วยที่ขอปรึกษาจากต่างแผนกจะต้อง มีการรายงานถึงหัวหน้าแพทย์ประจำบ้านที่อยู่เวรทุกราย • ในกรณีต้องผ่าตัดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Explore Laparotomy หรือจะทำ Cesarean Section ต้องรายงานอาจารย์แพทย์ที่อยู่เวรทราบทุกราย • กรณีมีผู้ป่วยอาการหนักอยู่ในหอผู้ป่วย ขอให้มีการรับส่งเวรระหว่างแพทย์ประจำบ้านที่เป็น หัวหน้าสายกับแพทย์ประจำบ้านที่อาวุโสสูงสุดในเวรวันนั้นทุกครั้ง • ผู้ป่วยที่มีอาการหนักควรแจ้งให้อาจารย์แพทย์เวรรับทราบทุกราย • แพทย์ประจำบ้านทุกคนที่อยู่เวรต้องนอนที่ห้องพักแพทย์เวร ห้ามกลับไปนอนที่หอพัก • เวลามี ผู้ป่วย Death , Morbidity , Severe Asphyxia ให้แพทย์ประจำบ้านที่อาวุโสสูงสุด ในเวรรายงานอาจารย์ที่รับผิดชอบให้ทราบทันทีและบันทึกเวชระเบียนให้สมบูรณ์ 3. การลา • วันลากิจ แพทย์ประจำบ้านสามารถลากิจได้ไม่เกินปีละ 10 วัน และไม่มีการสะสมวันลาในปี ถัดไป และหากต้องการลากิจจะต้องแจ้งอาจารย์แพทย์ประจำหน่วยปฏิบัติงาน เพื่อลงนาม รับทราบก่อนแล้วจึงส่งใบลาให้หัวหน้าฝ่ายฯ ลงนามอนุมัติ • ลาป่วย ให้แพทย์ประจำบ้านส่งใบลาแก่หัวหน้าฝ่ายฯ ด้วยทุกครั้งที่ลาป่วย โดยหากเป็นกรณี ฉุกเฉินหรือป่วยหนัก สามารถส่งใบลาป่วยย้อนหลังได้ในวันที่กลับมาปฏิบัติงาน • วันพักร้อน (Vacation) ฝ่ายฯ ได้กำหนดวันพักร้อนให้แพทย์ประจำบ้านคนละ 14 วันต่อปี หากมีความจำเป็นต้องการเปลี่ยนแปลงวันพักร้อนขอให้แจ้งหัวหน้าฝ่ายฯ ล่วงหน้า 1 เดือน • ลาประชุมวิชาการ การประชุมวิชาการประจำปีของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย หรือการประชุม ฟื้นฟูวิชาการของราชวิทยาลัยสูติฯ อนุญาตให้แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3 และแพทย์ประจำ บ้านที่หมุนเวียนไปปฏิบัติงานนอกฝ่ายฯ เข้าร่วมประชุมได้ปีละ 2 ครั้ง Interhospital Conference ให้แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่2 และ 3 ไปเข้าร่วมประชุมได้ทุก คน โดยจะต้องแจ้งอาจารย์แพทย์ที่รับผิดชอบหน่วยปฏิบัติงานของตนให้ทราบด้วยเสมอ
11 การประชุมวิชาการ อื่นๆ นอกโรงพยาบาล ให้หัวหน้าแพทย์ประจำบ้านเสนอต่อที่ประชุม แพทย์ประจำบ้านเพื่อพิจารณาอนุมัติเป็นกรณีไป ในกรณีเร่งด่วนให้ขออนุมัติต่อหัวหน้า ฝ่ายฯ โดยตรง ทั้งนี้งานประจำและเวรนอกเวลาราชการต้องมีผู้รับผิดชอบ แพทย์ประจำบ้านปีที่ 1 และ 2 ที่มีความต้องการจะเข้าร่วมประชุมนอกโรงพยาบาล ต้องแจ้งความประสงค์ต่อหัวหน้าฝ่ายฯ เพื่อพิจารรณา หมายเหตุหากมีความจำเป็นต้องการลากิจหรือลาป่วย ในวันที่ต้องอยู่เวรนอกเวลาราชการแต่หาคน อยู่เวรแทนไม่ได้ให้ปรึกษาหัวหน้าฝ่ายฯ และแจ้งอาจารย์แพทย์ประจำเวรในวันนั้นทราบด้วย 4. การวัดและประเมินผล แพทย์ประจำบ้านทุกคนต้องผ่านการวัดและประเมินผลการฝึกอบรม ดังนี้ 4.1 การประเมินความสามารถในการทำหัตถการทางสูติศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ดังนี้ (เอกสารตามภาคผนวกที่3) • การขูดมดลูก • การผ่าตัดทำหมัน • การทำคลอด Normal labor • การผ่าตัดคลอด cesarean delivery • การใช้หัตถการในการช่วยทำคลอด (Vacuum extraction) และ Forceps extraction • การผ่าตัดมดลูกทางหน้าท้อง (TAH) • การผ่าตัดปีกมดลูกทางหน้าท้อง Adnexal surgery 4.2 การประเมินผลขณะฝึกอบรมและการประเมินผลเพื่อเลื่อนชั้นปี • ประเมินสมรรถนะโดยวิธี Entrustable professional activities: EPAs และ Direct observation procedural: DOPS แพทย์ประจำบ้านที่จะสามารถเลื่อนชั้นปีได้นั้น จะต้องผ่านการประเมินกิจกรรมวิชาชีพที่ เชื่อถือไว้ใจได้ EPAs และ DOPS ในสมรรถนะต่างๆ ตามที่ราชวิทยาลัยสูติฯ กำหนดให้ในแต่ ละชั้นปีภาคผนวกที่5 โดยอาจารย์แพทย์ในฝ่ายฯ เป็นผู้ประเมิน • ประเมินระยะเวลาในการปฏิบัติงาน แพทย์ประจำบ้านจะสามารถเลื่อนชั้นปีได้นั้น จะต้องมีระยะเวลาปฏิบัติงานในฝ่ายฯ ไม่ต่ำ กว่าร้อยละ 80 ของระยะเวลาในการปฏิบัติงานตามระเบียบที่ราชวิทยาลัยสูติฯ กำหนด • ประเมินการเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการ แพทย์ประจำบ้านจะสามารถเลื่อนชั้นปีได้นั้น จะต้องเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการของฝ่ายฯ ไม่ ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกิจกรรมที่จัดขึ้นทั้งหมด
12 • ประเมินผลสอบข้อเขียนที่จัดภายในสถาบัน และผลสอบที่ร่วมสอบกับแพทย์ประจำ บ้านฯ ของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แพทย์ประจำบ้านจะสามารถเลื่อนชั้นปีได้นั้น จะต้องมีคะแนนสอบข้อเขียน ได้แก่ MCQ, MEQ และคะแนนสอบ OSCE ผ่านเกณฑ์ผ่านขั้นต่ำ (Minimal passing level: MPL) หรือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 • การประเมินสมรรถนะโดยผู้ร่วมงาน 360 องศา แพทย์ประจำบ้านจะสามารถเลื่อนชั้นปีได้นั้น จะต้องมีผลการประเมิน 360 องศา ที่ไม่มี รายงานว่ามีพฤติกรรมอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ป่วย หรือก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อ สถาบันฝึกอบรม การดำเนินการกรณีไม่ผ่านการประเมินเพื่อเลื่อนชั้นปี • ให้แพทย์ประจำบ้านปฏิบัติงานเพิ่มเติมในส่วนที่ไม่ผ่านการประเมิน หรือจัดให้มีการสอบ ซ่อม แล้วทำการประเมินซ้ำโดยอาจารย์แพทย์ในฝ่ายฯ ทุกคน หากผลการประเมินซ้ำยังไม่ ผ่าน ต้องปฏิบัติงานในชั้นปีเดิมอีก 1 ปี • หากปฏิบัติงานซ้ำในชั้นปีเดิมอีก 1 ปี แล้วยังไม่ผ่านการประเมินเพื่อเลื่อนชั้นปี จะต้องยุติ การฝึกอบรม การดำเนินการเพื่อยุติการฝึกอบรม • การลาออก แพทย์ประจำบ้านต้องทำเรื่องชี้แจงเหตุผลก่อนพักการปฏิบัติงานล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัป ดาห์เมื่อสถาบันฝึกอบรมอนุมัติให้พักการปฏิบัติงานแล้ว จึงแจ้งต่อคณะอนุกรรมการฝึกอบ รม และสอบฯ เพื่อเห็นชอบและแจ้งต่อแพทยสภา พร้อมความเห็นประกอบว่าสมควรให้พัก สิทธิ์การสมัครเป็นแพทย์ประจำบ้านเป็นเวลา 1 ปี ในปีการศึกษาถัดไปหรือไม่ โดยพิจารณา จากเหตุผลประกอบการลาออกและคำชี้แจงจากสถาบันฝึกอบรมการลาออกจะถือว่าสมบูรณ์ เมื่อได้รับอนุมัติจากแพทยสภา • การให้ออกจากการอบรม ▪ ปฏิบัติงานโดยขาดความรับผิดชอบหรือประพฤติตนเสื่อมเสียร้ายแรงจนก่อให้เกิด ผลเสียต่อผู้ป่วยหรือต่อชื่อเสียงของสถาบันฝึกอบรม ▪ ปฏิบัติงานโดยขาดความรับผิดชอบหรือประพฤติตนเสื่อมเสีย ไม่มีการปรับปรุง พฤติกรรมหลังการตักเตือน และกระทำซ้ำภายหลังการภาคทัณฑ์ เมื่อสถาบันฝึกอบรมเห็นสมควรให้ออกให้ทำการแจ้งแพทย์ประจำบ้านรับทราบพร้อมให้พัก การปฏิบัติงาน แล้วทำเรื่องแจ้งต่อคณะอนุกรรมการฝึกอบรมและสอบฯ เพื่อดำเนินการ พิจารณาและแจ้งต่อยังแพทยสภา จนเมื่อได้รับการอนุมัติจึงถือว่าการให้ออกสมบูรณ์
13 4.3 การประเมินโดยสถาบัน เพื่อเสนอชื่อเข้าสอบเพื่อวุฒิบัตรฯ แพทย์ประจำบ้านที่ผ่านการประเมินโดยสบาบัน เพื่อเสนอชื่อเข้าสอบเพื่อวุฒิบัตรฯ จะต้อง • สอบผ่านการประเมินภายในสถาบัน ตามหัวข้อการประเมินที่ 4.1 และ 4.2 ทุกข้อ • เป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม และมารยาทแห่งวิชาชีพ มีความรับผิดชอบ และไม่มีความ ประพฤติอันก่อให้เกิดผลเสียหรือชื่อเสียงของสถาบันฝึกอบรม 4.4 การประเมินแพทย์ประจำบ้านผู้มีสิทธิเข้าสอบเพื่อวุฒิบัตรฯ และวิธีการประเมินผลเพื่อ วุฒิบัตรฯ 4.4.1 ประเมินความรู้รากฐานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และความรู้อื่นที่เกี่ยวข้อง (Basic science) จัดสอบปีละ 1 ครั้ง ตามวันเวลาที่ราชวิทยาลัยฯ กำหนด วิธีประเมินคือการสอบข้อเขียน MCQ โดยคุณสมบัติของแพทย์ประจำบ้านที่มีสิทธิ์เข้ารับการประเมิน คือ • แพทย์ประจำบ้านทุกชั้นปี เกณฑ์การตัดสินการประเมินคือ ต้องได้คะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ MPL ของคะแนนสอบรวม จึงจะถือว่าผ่าน กรณีสอบผ่าน มีระยะเวลาในการคงอยู่ 3 ปี กรณีสอบไม่ผ่านมีสิทธิ์สอบแก้ตัวได้ โดยการสอบแก้ตัวทุกครั้งจะต้องชำระค่าสมัครสอบใหม่ ตามอัตราที่ราชวิทยาลัยฯ กำหนด 4.4.2 ประเมินความรู้ทางคลินิกในขณะที่อยู่ระหว่างการฝึกอบรม วิธีการประเมิน • การสอบ OSCE, OSLER หรือการสอบปากเปล่า ปรับเปลี่ยนตามมติของคณะ อฝส. โดยผ่านการเห็นชอบของคณะผู้บริหารของราชวิทยาลัยฯ • การตรวจสอบเวชระเบียน • การตรวจรายงานการวิจัย • การตรวจเอกสารรับรองของสถาบันฝึกอบรมในด้านความประพฤติ(จริยธรรมและ มารยาทแห่งวิชาชีพ) มนุษยสัมพันธ์ ความรับผิดชอบ การปฏิบัติตามกฎหมาย ความ เคารพในสิทธิของผู้ป่วย คุณสมบัติของแพทย์ประจำบ้านที่มีสิทธิ์เข้ารับการประเมิน คือ • แพทย์ประจำบ้านที่กำลังฝึกอบรมในชั้นปีที่ 3 • สอบผ่านการประเมิน Basic science แล้ว (มีระยะเวลาคงอยู่3 ปี) • สถาบันฝึกอบรมเห็นสมควรเสนอชื่อเข้ารับการประเมิน เกณฑ์การตัดสินการประเมินคือ ต้องผ่านตามเกณฑ์ที่คณะ อฝส. กำหนด
14 4.4.3 การประเมินภายหลังฝึกอบรมเพื่อวุฒิบัตรฯ (Board exams) วิธีการประเมิน • การสอบข้อเขียน MCQ, MEQ หรือ Essay ปรับเปลี่ยนตามมติของคณะ อฝส. โดยผ่าน การเห็นชอบของคณะผู้บริหารของราชวิทยาลัยฯ คุณสมบัติของแพทย์ประจำบ้านที่มีสิทธิ์เข้ารับการประเมิน คือ • ผ่านการปฐมนิเทศแพทย์ประจำบ้านของราชวิทยาลัยฯ • แพทย์ประจำบ้านที่กำลังฝึกอบรมในชั้นปีที่ 3 • สถาบันฝึกอบรมเห็นสมควรเสนอชื่อเข้ารับการประเมิน • สอบผ่านการประเมิน Basic science แล้ว • ส่งงานวิจัยตามเกณฑ์ที่คณะ อฝส. กำหนด (มีระยะเวลาคงอยู่ 3 ปี) เกณฑ์การตัดสินการประเมินคือ ต้องได้คะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ MPL ของคะแนนสอบรวม จึงจะถือว่าผ่าน ผู้ที่สอบผ่านการประเมินเพื่อวุฒิบัตรฯ หมายถึงผู้ที่สอบผ่านทั้งการประเมินในข้อ 4.4.1, 4.4.2 และ 4.4.3 ผู้ที่สอบไม่ผ่านการประเมินเพื่อวุฒิบัตรฯ หมายถึงสอบไม่ผ่านส่วนใดส่วนหนึ่งในข้อ 4.4.1, 4.4.2 และ 4.4.3 โดยมีสิทธิ์สอบแก้ตัวได้ในส่วนที่สอบไม่ผ่าน และการสอบแก้ตัวทุกครั้งจะ ต้องชำระค่าสมัครสอบใหม่ ตามอัตราที่ราชวิทยาลัยฯ กำหนด ผู้สอบไม่ผ่านในแต่ละการประเมินสามารถขอดูผลการสอบด้วยตัวเองได้ภายใน 15 วันทำ การ นับตั้งแต่วันที่ประกาศผลสอบ ที่สถาบันฝึกอบรม หรือที่ราชวิทยาลัยฯ (ตามผนวกที่ 6) 5. การทำวิจัย • แพทย์ประจำบ้านต้องทำงานวิจัยอย่างน้อยคนละ 1 เรื่องในระหว่างการฝึกอบรม โดยแพทย์ ประจำบ้านต้องเป็นผู้วิจัยหลัก เพื่อส่งเสริมให้แพทย์ผู้จบหลักสูตร และได้รับวุฒิบัตรฯ มี คุณวุฒิ “เทียบเท่าปริญญาเอก” โดยงานวิจัยจะต้องได้รับการตีพิมพ์หรือหรือยอมรับการ ตีพิมพ์ก่อนจบการฝึกอบรม หรือหลังจบการฝึกอบรมภายในระยะเวลา 3 ปี และวารสารที่ ตีพิมพ์ต้องเป็นวารสารระดับชาติหรือนานาชาติในฐานข้อมูล Thai-Journal Citation Index (TCI) กลุ่มที่ 1 และ 2 ▪ วารสารทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับโดยคณะ อฝส. มีดังต่อไปนี้ ▪ วารสารทางการแพทย์ที่ปรากฏใน Index Medicus หรือ ▪ PubMed หรือ ▪ Scopus หรือ ▪ Institute for scientific Information (ISI) หรือ ▪ Thai Journal of Obstetrics and Gynecology หรือ
15 ▪ Journal of Medical Association of Thailand รายละเอียดเกณฑ์การทำวิจัยของแพทย์ประจำบ้านเพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการ ประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ได้แนบไว้ตามภาคผนวกที่ 7 • แพทย์ประจำบ้านชั้นปี่ที่ 3 ทุกคน จะต้องส่งผลงานวิจัยเข้าร่วมประกวดการนำเสนอ ผลงานวิจัย ในรูปแบบ Oral presentation ในการประชุมสามัญประจำปี ที่จัดขึ้นโดย คณะอนุกรรมการจัดประชุมวิชาการ ของราชวิทยาลัยฯ 6. สวัสดิการและสิ่งอำนวยความสะดวก • ทางโรงพยาบาลได้จัดหาหอพักให้กับแพทย์ประจำบ้านที่ตึกไวทยนิเวศน์ พร้อมทัศนียภาพที่ สวยงาม และสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิเช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน และ อินเตอร์เนตผ่านระบบ Wi-fi • มีห้องสันทนาการเพื่อสุขภาพเช่น ห้อง fitness, สนามกีฬาแบดมินตัน , สนามเทนนิส, สนาม บาสเกตบอล • มีบริการนวดแผนไทยเพื่อสุขภาพบริเวณใต้หอพัก • โรงพยาบาลมีการจัดบริการอาหารทั้ง 3 มื้อให้กับแพทย์และแพทย์ประจำบ้าน โดยสามารถ ไปรับประทานที่โรงอาหารของโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาได้โดยไม่ต้อง เสียค่าใช้จ่ายใดๆ • โรงพยาบาลมีสวัสดิการให้ตรวจสุขภาพประจำปี บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีน ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่แพทย์ และแพทย์ประจำบ้านทุกคน • กรณีมีภาวะเจ็บป่วย แพทย์ประจำบ้านมีสิทธิการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลสมเด็จพระ บรมราชเทวี ณ ศรีราชาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
16 ภาคผนวกที่ 1 ข้อบังคับการปฏิบัติงานในเวลาราชการ แพทย์ประจำบ้านสาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา สาย GYN: 1. แพทย์ประจำบ้านที่ออกตรวจ OPD GYN จะต้อง attend คลินิกพิเศษนรีเวชที่ได้รับมอบหมายตาม ตารางงาน โดย - Onco. clinic แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3, 2 - Colpo clinic แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3, 2 - Menopause clinic แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3, 2 - Lap. Sur. Clinic แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3, 2 - Family planning แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 1 หมายเหตุ: กรณีมีการงดคลินิกพิเศษ ให้ออกตรวจ OPD GYN 2. หากมีเวลาว่างจากการปฏิบัติงาน ให้แพทย์ประจำบ้านประจำอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติงานของฝ่ายฯ ห้าม ไม่ให้ออกนอกโรงพยาบาล หรือกลับหอพัก หมายเหตุ: กรณีมีเหตุจำเป็นต้องออกนอกพื้นที่ปฏิบัติงาน ต้องแจ้งอาจารย์ให้รับทราบทุกครั้ง สาย OB: 1. แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 1 ที่ได้รับมอบหมายให้ประจำห้องผ่าตัดสูติฯ ให้เข้าช่วยอาจารย์ผ่าตัดคลอด ทุกเคส 2. แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3 จะต้อง attend คลินิกวินิจฉัยทารกในครรภ์ (PND clinic) ตามตารางงาน ที่ได้รับมอบหมาย 3. ชั่วโมง Self-learning (SL) ของแพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3 กำหนดให้แพทย์ประจำบ้านประจำอยู่ใน พื้นที่ปฏิบัติงานของฝ่ายฯ ห้ามไม่ให้ออกนอกโรงพยาบาล หรือกลับหอพัก หมายเหตุ: กรณีมีเหตุจำเป็นต้องออกนอกพื้นที่ปฏิบัติงาน ต้องแจ้งอาจารย์ให้รับทราบทุกครั้ง
17 ภาคผนวกที่ 2 รหัส ICD โรคและหัตถการทางสูตินรีเวชที่พบบ่อย ICD 9 สูติ หัตถการ NST IP032 US XU116 1 st level ultrasound IP030 US สูติ 8878 diagnostic ultrasound of gravid uterus NST 7534/1 antepartum fetal nonstress test PV สูติ 6811 digital examination of uterus Counseling 9449 Other counseling Amniocentesis 751 diagnosis amniocentesis cordocentesis 7535 Other diagnostic procedures on fetus and amnion amnioreduction 753 other intrauterine operations on fetus and amnion IUT 752 Intrauterine transfusion
18 ICD 9 นรีเวช PV นรี 8926 gynecological examination US นรี 8879/2 8876 diagnostic ultrasound of non-gravid uterus diagnostic ultrasound of abdomen and retroperitoneum Biopsy 6712 7024 other cervical biopsy vaginal biopsy ET sampling 68.19 Other diagnostic procedures on uterus and supporting structures IUD insertion Mirena insertion IUD removal 697 6991 9771 Insertion of intrauterine contraceptive device insertion of therapeutic device into uterus removal of intrauterine contraceptive device Pessary 9618 9774 insertion of other vaginal pessary removal of other pessary จี้หูด 7033 6739 Excision or destruction of vagina and cul de sac other excision or destruction of lesion or tissue of cervix Polypectomy 6739 other excision or destruction of lesion or tissue of cervix Vg packing 9614 9775 vaginal packing removal of vaginal or vulvar packing Foreign body 9817 Removal of intraluminal foreign body from vagina colposcopy 7021 vaginoscopy ECC 6719 Other diagnostic procedure on cervix hysteroscope 6812 hysteroscopy
19 ภาคผนวกที่ 3 การประเมินทักษะหัตถการของแพทย์ประจำบ้าน เอกสารประเมินทักษะหัตถการจะส่งให้แพทย์ประจำบ้านตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนในแต่ละชั้นปี และมีการเก็บใบ ประเมิน และสรุปทุกเดือนในที่ประชุมฝ่ายสูตินรีเวชกรรม แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 1 - การขูดมดลูก ภายใต้การกำกับดูแลภายใน 3 เดือนแรก o ผ่านการสอบ 3 ครั้งขึ้นไป จึงสามารถทำหัตถการได้ด้วยตนเอง - การทำหมัน ภายใต้การกำกับดูแลภายใน 3 เดือนแรก o ผ่านการสอบ 3 ครั้งขึ้นไป จึงสามารถทำหัตถการได้ด้วยตนเอง - การทำคลอด Normal labor ภายใต้การกำกับดูแลภายใน 3 เดือนแรก o ผ่านการสอบ 3 ครั้งขึ้นไป จึงสามารถทำหัตถการได้ด้วยตนเอง - การเข้าช่วยผ่าตัดคลอดบุตร o บังคับเข้าช่วยผ่าตัดเดือนละ 10 ราย โดยให้อาจารย์แพทย์ประเมินด้วยทุกครั้งหลังเข้าเคส และในระหว่างวันหากไม่มีอาจารย์เข้าร่วมผ่าตัด ให้แพทย์ประจำบ้านเข้าช่วยแพทย์ประจำ บ้านอาวุโสแทน จนกว่าจะหมดผู้ป่วยของวันผ่าตัดนั้นๆ - การผ่าตัดคลอดบุตร o เริ่มเก็บหัตถการตั้งแต่ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการเป็นแพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 1 ภายใต้การ กำกับดูแล o ผ่านการสอบ 3 ครั้งขึ้นไป จึงสามารถทำหัตถการได้ด้วยตนเอง แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2 - การผ่าตัดคลอดบุตร o เริ่มเก็บหัตถการตั้งแต่ช่วง 3 เดือนแรกของการเป็นแพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2 ภายใต้การ กำกับดูแล o ผ่านการสอบ 3 ครั้งขึ้นไป จึงสามารถทำหัตถการได้ด้วยตนเอง - การใช้หัตถการในการช่วยทำคลอด (Vacuum extraction) และ Forceps extraction o เริ่มเก็บหัตถการตั้งแต่ 6เดือนแรกของการเป็นแพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2 ภายใต้การกำกับ ดูแล o ผ่านการประเมิน 3 ครั้งขึ้นไป จึงสามารถทำหัตถการได้ด้วยตนเอง - การทำหัตถการทางนรีเวช o เน้นการทำหัตถการ Adnexal surgery โดยเริ่มเก็บหัตถการตั้งแต่ 6 เดือนแรกของการเป็น แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2 ภายใต้การกำกับดูแล o ผ่านการสอบ 3 ครั้งขึ้นไป จึงสามารถทำหัตถการได้ด้วยตนเอง - การเข้าช่วยผ่าตัดมดลูกในเคส Benign และ Malignancy ของแพทย์ประจำบ้านที่วนสายนรีเวช เก็บ ลงบันทึกใน Logbook
20 แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3 - การผ่าตัดมดลูกทางหน้าท้องด้วยตนเอง o เริ่มเก็บหัตถการตั้งแต่ 6 เดือนแรกของการเป็นแพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3 ภายใต้การกำกับ ดูแล o ผ่านการสอบ 3 ครั้งขึ้นไป จึงสามารถทำหัตถการได้ด้วยตนเอง - การผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอด โดยเข้าช่วยอาจารย์แพทย์ และเก็บบันทึกหัตถการลงใน Logbook ทุกราย - การผ่าตัดมดลูกโดยการส่องกล้อง โดยเข้าช่วยอาจารย์แพทย์ และเก็บบันทึกหัตถการลงใน Logbook ทุก ราย
21 ภาคผนวกที่ 4 หมุนเวียนการปฏิบัติงานของแพทย์ประจำบ้าน สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชราชเทวี ณ ศรีราชา
22 ภาคผนวกที่ 5 กิจกรรมวิชาชีพที่เชื่อถือไว้ใจได้ (Entrustable professional activities: EPAs) การประเมินโดยวิธี Entrustable professional activities: EPAs และ/หรือ Direct observation procedural skills: DOPS)
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47