น้ า ต า ล ที่ พื ช ส ร้ า ง จ ะ ถู ก เ ป ล่ี ย น เ ป็ น
ส า ร อ า ห า ร ค า ร์ โ บ ไ ฮ เ ด ร ต พ ว ก แ ป้ ง
นอกจากนี้พืชยังสามารถสร้างสารอาหาร
ไ ข มั น แ ล ะ โ ป ร ตี น ไ ด้ อี ก ส า ร อ า ห า ร
คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน ล้วนมีสาร
คาร์บอนเป็นองค์ประกอบ เม่ือสารเหล่าน้ีถูก
เผาผลาญในร่าง ก าย ส่ิง มี ชีวิตได้รับ
พลังงานจากสารอาหาร พลังงานท่ีได้น้ี
สิ่งมีชีวิตจะนามาใช้เพ่ือการเจริญเติบโต
รวมทั้งใช้ในกิจวัตรประจาวัน เช่น เดิน วิ่ง
นั่ง ทางาน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3
4.1 โซ่อาหาร
เราเรียกสัตว์ท่ีกินสัตว์อ่ืนว่า ผู้ล่า (predator) และเรียกสัตว์ท่ีถูกกินว่า
เหย่ือ (prey) สตั วบ์ างชนดิ เปน็ ทง้ั ผลู้ ่าและบางครง้ั เปน็ เหยื่อของสตั ว์อืน่
สตั ว์ที่เป็นเหยอื่ ผลู้ า่ และเปน็ ท้งั เหยื่อและผ้ลู ่า
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3
หนอนกินพืชเป็นอาหาร นกกินหนอน งูกินนก และเหย่ียวกินงู นักเรียน
จะเห็นได้ว่าสิ่งมีชีวิตมีการกินเป็นทอด ๆ ถ้านาการกินเป็นทอด ๆ ไปเขียน
แผนภาพ ต้ังแต่ใบไม้ คือ พืช ซึ่งเป็นอาหารเร่ิมต้น แล้วเขียนลูกศร ( )
ใหห้ ัวลกู ศรชไี้ ปยังผู้กินหรือผลู้ า่ จนถึงเหยี่ยว จะไดแ้ ผนภาพ ดงั นี้
การกินเปน็ ทอด ๆ
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
โซ่อาหาร คือ การกินเป็นทอด ๆ หรือการถ่ายทอดพลังงาน โดยพืชใช้
พลังงานแสงจากดวงอาทิตย์สร้างอาหารเพ่ือใช้ในการเจริญเติบโต พืช คือ ผู้ผลิต
(producer) หนอนกินพืชเก็บสะสมพลังงาน พลังงานถ่ายทอดจากพืชมายังหนอน
หนอน คือ ผู้บริโภค (consumer) นกกินหนอนเป็นอาหาร พลังงานมีการถ่ายทอด
จากหนอนมายังนก งูกินนกเป็นอาหาร ดังนั้น จึงมีการถ่ายทอดพลังงานจากนก
มายังงู จากข้อมูลการกินกันเป็นทอด ๆ ข้างต้น สามารถเขียนแสดงโซ่อาหารอย่าง
ง่ายได้ ดังน้ี
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3
การถา่ ยทอดพลงั งานในโซ่อาหาร
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
4.2 พรี ะมดิ โซ่อาหาร
พลังงานในโมเลกุลของสารอาหารถูก
ถ่ า ย ท อ ด จ า ก ผู้ ผ ลิ ต ไ ป ยั ง ผู้ บ ริ โ ภ ค ล า ดั บ
ต่าง ๆ รวมท้ังผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์
การถ่ายทอดพลังงานนั้นพบว่าพลังงานมีค่า
ลดลงตามลาดับ ดังน้ัน ลาดับการถ่ายทอด
พลังงานในโซ่อาหารจึงมีความยาวจากัด
ซึ่งส่วนใหญ่จะส้ินสุดท่ีผู้บริโภคลาดับท่ี 4-5
เท่าน้นั
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
ความสัมพนั ธ์ของสง่ิ มชี ีวิตในแง่การกินกันเป็นทอด ๆ น้ัน สามารถเขียน
ในรูปโซ่อาหารหรือนาเสนอในรูปของพีระมิด จะได้พีระมิดฐานกว้าง ท่ีเรียกว่า
พีระมิดจานวนของสง่ิ มชี ีวิต (pyramid of number) ดงั แผนภาพ
แผนภาพ ตวั อย่างพีระมิดจานวนของสง่ิ มชี วี ติ
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
จากการศึกษาพีระมิดจานวนซ่ึงมีฐานกว้างอาจมีความคลาดเคลื่อน
นักนิเวศวิทยาจึงเสนอในรูปของพีระมิดมวลของส่ิงมีชีวิต (pyramid of
biomass) โดยใช้มวลทั้งหมดของส่ิงมีชีวิตแต่ละลาดับแทนการนับจานวน
เพือ่ ให้ข้อมลู ถูกต้องตามความเป็นจรงิ มากข้ึน ดังแผนภาพ
แผนภาพ ตัวอย่างพรี ะมดิ มวลของส่งิ มชี วี ติ
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3
ในการถ่ายทอดพลังงานในพีระมิดจานวนของส่ิงมีชีวิต และพีระมิดมวลของ
สิ่งมีชีวิต จานวนหรือมวลของส่ิงมีชีวิตก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงไปแต่ละช่วงเวลา และ
อตั ราการเจริญเติบโตของส่ิงมีชีวิตก็แตกต่างกัน พลังงานปริมาณมากจะสูญหายไปใน
สง่ิ แวดล้อมในรปู ของความร้อนขณะหายใจ และบางสว่ นกก็ นิ ไม่ได้กลายเป็นของเหลือ
หรือกากอาหาร สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถถ่ายทอดไปได้จะถ่ายทอดไปได้เฉพาะพลังงาน
เพยี งบางสว่ น จงึ มีผเู้ สนอขอ้ มูลพรี ะมดิ พลังงานของสิ่งมีชีวิต (pyramid of energy)
ดงั แผนภาพ
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3
แผนภาพ ตัวอย่างพรี ะมดิ พลงั งานของสิ่งมชี วี ติ
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
4.3 สายใยอาหาร
ในระบบนิเวศท่ีมีโซ่อาหารมากมาย ส่ิงมีชีวิตท่ีเป็นส่วนหน่ึงของ
โซ่อาหารหน่ึง อาจเป็นส่วนของโซ่อาหารอีกหลาย ๆ โซ่อาหาร เราเรียก
ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งโซอ่ าหารหลายโซน่ ี้ว่า สายใยอาหาร (food web)
หญา้ กระตา่ ย เหยี่ยว
โซอ่ าหาร 1
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
หญา้ ตั๊กแตน กบ เหยย่ี ว
โซ่อาหาร 2
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
กบ เหยย่ี ว กระตา่ ย
ตั๊กแตน หญา้ สายใยอาหาร
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
นอกจากผู้ผลิตและผู้บริโภคแล้ว ยังมีส่ิงมีชีวิตอีกพวกหน่ึงทาหน้าท่ีย่อยสลาย
ซากสงิ่ มีชวี ติ ท่ตี ายแล้ว เช่น ย่อยสลายสุนัขท่ีตายแล้วจนเหลือซากกระดูก ย่อยสลายต้นไม้
ที่ตายแล้วจนเหลือขอนไม้ผุ เราเรียกส่ิงมีชีวิตพวกน้ีว่า ผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์
(decomposer)
ผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์น้ันสามารถพบในทุกแห่ง ทั้งในอากาศ ในน้า และในดิน
ซากพืช ซากสัตว์ ถูกสลายเน่าเปื่อยฝังจมอยู่ในดิน ในน้า และยังสลายให้สารที่จาเป็นต่อ
การดาเนนิ ชวี ิตของพืช ซง่ึ พืชจะนาไปใช้ต่อไป
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3
ผ้ยู อ่ ยสลายสารอนิ ทรีย์
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
5. วฏั จักรของสารในระบบนิเวศ
โดยทั่วไปในสภาวะแวดล้อมจะมีแร่ธาตุและสารต่าง ๆ เป็นองค์ประกอบอยู่แล้วตาม
ธรรมชาติ ส่ิงมีชีวิตก็นาแร่ธาตุเหล่านั้นมาใช้ เช่น พืชนาแร่ธาตุในดินมาใช้ พืชถูกกินโดย
ผู้บริโภคต่อเน่ืองกันไป เมื่อพืชและผู้บริโภคตายลง จะถูกย่อยโดยผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์
ซง่ึ จะเปลย่ี นสารอินทรยี เ์ ป็นสารอนนิ ทรีย์กลบั คนื ส่สู ิ่งแวดล้อม ทาให้เกิดการหมุนเวียนสาร
เป็นวัฏจักร (cycle) จานวนผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์จะต้องมีความ
เหมาะสม
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
ความสมั พนั ธข์ องส่งิ มีชีวติ กบั ส่งิ แวดล้อม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
5.1 วฏั จกั รนา้ (water cycle)
การหมนุ เวยี นของน้าในระบบนิเวศ
1. การหมุนเวียนของน้าโดยผ่าน
ส่ิงมีชีวิต เริ่มจากส่ิงมีชีวิตกินน้าแล้วมี
การขับถ่าย การหายใจ การคายน้าของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ซ่ึงกลายเป็น
ไอขึ้นสู่บรรยากาศ รวมตัวเป็นเมฆและ
ควบแน่นตกเป็นฝนกลบั ให้พืชและสตั วต์ อ่ ไป
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3
2. การหมุนเวียนของน้าโดยไม่ผ่านสิ่งมีชีวิต เร่ิมจากน้าในแหล่งน้าต่าง ๆ
เช่น แม่น้า ทะเล มหาสมุทร ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ เกิดการกลายเป็น
ไอลอยขึ้นไปรวมตัวกับไอน้าในบรรยากาศ ไอน้าบางสว่ นจะควบแน่นเป็นหยดน้า
วฏั จักรนา้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3
5.2 วัฏจกั รคาร์บอน (carbon cycle)
สารคาร์บอนเป็นส่วนประกอบสาคัญในสารอาหารประเภทน้าตาล โปรตีน
และไขมนั พชื สามารถสร้างสารคารบ์ อนได้จากการสังเคราะห์ด้วยแสง สัตว์ได้รับ
สารคารบ์ อนจากการกินพืชและสตั ว์ เมอื่ พชื และสตั ว์ตาย ผยู้ ่อยสลายสารอินทรีย์
จะสลายสารในส่ิงมี ชีวิตท่ีตายให้ เป็นสารขนาดเล็ก ๆ และได้แก๊ ส
คารบ์ อนไดออกไซด์
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3
วฏั จกั รคารบ์ อน
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
วัฏจักรคารบ์ อน
ในสายใยอาหาร
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3
5.3 วฏั จักรไนโตรเจน (nitrogen cycle)
ไนโตรเจนเป็นธาตุท่ีสาคัญที่พืชต้องการในปริมาณมาก ในอากาศมีไนโตรเจนเป็น
องค์ประกอบมากที่สุด เพราะมีประโยชน์ทาให้บรรยากาศเจือจางเหมาะในการหายใจ
พืชใช้ธาตุไนโตรเจนในรูปของสารประกอบพวกเกลือแอมโมเนีย ซ่ึงพืชสามารถนา
สารประกอบไนเตรตไปสร้างสารประกอบ
ต่าง ๆ ภายในเซลล์ ส่วนสัตว์จะได้รับสาร
ดังกล่าวโดยถ่ายทอดมาตามโซ่อาหาร
และสายใยอาหาร ดงั แผนภาพ
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3
วฏั จกั รไนโตรเจน
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
5.4 วัฏจักรฟอสฟอรัส (phosphorus cycle)
ฟอสฟอรัสเป็นธาตุท่ีจาเป็นในการดารงชีวิต
ข อ ง ส่ิ ง มี ชี วิ ต เ ป็ น แ ร่ ธ า ตุ ที่ ส า คั ญ ต่ อ ก า ร
เจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของพืช ตาม
ธรรมชาติฟอสฟอรัสอยู่ในรูปของฟอสเฟตไอออน
และสารประกอบฟอสเฟต ซึ่งจะถ่ายทอดไปยัง
มนุษย์และสัตว์ทางสายใยอาหาร เม่ือมนุษย์ สัตว์
และพืชตายลง แบคทีเรียบางกลุ่มท่ีอยู่ในดิน
จะย่อยสลายเป็นกรดฟอสฟอริก แล้วทาปฏิกิริยา
กับสารในดินเกิดเป็นสารประกอบฟอสฟอรัส
ดังเดิม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3
วฏั จกั รฟอสฟอรสั
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
6. การสะสมสารพษิ ในโซ่อาหาร
การกินอาหารของผบู้ ริโภคตามลาดับข้ัน
ในโซ่อาหาร นอกจากจะก่อให้เกิดการถ่ายทอด
พลังงานในระบบนิเวศแล้วยังก่อให้เกิดการ
ถ่ายทอดสารพิษในระบบนิเวศอีกด้วย นักเรียน
คดิ ว่า ถ้ามีสารพิษปนเปื้อนอยู่ในผู้ผลิต สารพิษ
จะถกู ถา่ ยทอดไปส่ผู ู้บรโิ ภคลาดบั ใดมากทส่ี ุด
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
ในธรรมชาติกระบวนการกินอาหาร
ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ทาให้ส่ิงมีชีวิต
ได้รับท้ังพลังงานและสารพิษ ยาฆ่าแมลง
ปร อท แค ดเ มี ยม แ ล ะ ส าร พิ ษ ต่ าง ๆ
ท่ีมนุษย์ใช้และท้ิงลงสู่ส่ิงแวดล้อม สารพิษ
เหล่านี้สามารถถ่ายทอดไปตามโซ่อาหารไปสู่
ผู้บริโภคได้ เรียกว่า การสะสมสารพิษ
ในโซ่อาหาร
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3
ตั ว อ ย่ า ง แ ส ด ง ป ริ ม า ณ
สารพิษ DDT ท่ีเจือจางมากในน้า
มี ก า ร ส ะ ส ม ใ น สิ่ ง มี ชี วิ ต แ ล ะ เ พ่ิ ม
ค ว า ม เ ข้ ม ข้ น ม า ก ขึ้ น เ ร่ื อ ย ๆ
ตามลาดบั ข้ันของการกินในโซ่อาหาร
สารพษิ DDT ในน้า 0.000003 ppm วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3
สภาวะความคงท่ีในการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ
ส่ิงแวดล้อม เรียกว่า ความสมดุลของระบบนิเวศ ซ่ึงในระบบนิเวศนั้น สิ่งมีชีวิตและ
ส่ิงไม่มีชีวิตจะมีการแลกเปล่ียนพลังงานซ่ึงกันและกัน ขณะเดียวกันความสัมพันธ์
ระหว่างสิ่งมีชีวิตด้วยกันคือ การถ่ายทอดพลังงานไปตามโซ่อาหาร มีองค์ประกอบ
ภายในระบบทาหน้าท่ีเป็นผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ ความสมดุล
ของระบบนิเวศจะอย่ไู ด้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3
1. ขอ้ ใดแสดงความหมายของระบบนิเวศทถ่ี ูกต้องที่สุด
1. ต้นมะมว่ ง ตน้ กระถนิ และหนอนทะเล
2. ปลาการต์ ูน ดอกไม้ทะเล และตน้ หญา้
3. ขอนไม้ผใุ ตต้ น้ กระท้อนมเี หด็ ห้ิง มด และแมงมมุ
4. ทั้ง 3 ขอ้ ให้ความหมายไม่ชดั เจน
เฉลย 3 เหตุผล ระบบนิเวศ คือ กลุ่มส่ิงมีชีวิตในแหล่งท่ีอยู่เดียวกัน มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
และมีความสัมพันธ์กับสิ่งไม่มีชีวิตในแหล่งที่อยู่นั้น ดังนั้น ข้อ 1 และข้อ 2 มีเฉพาะสิ่งมีชีวิต
สว่ นข้อ 3 เป็นความหมายของระบบนเิ วศทีถ่ ูกต้องท่สี ุด
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
2. ขอ้ ใดจัดเป็นกลมุ่ ส่งิ มีชีวิต
1. ประชากรแมว ตาบลทา่ แค ส่งิ มีชวี ิตเพยี ง 1 ชนิด
2. ปลา หอย กงุ้ ปู ลกู นา้ ในสระนา้ ข้างบา้ น
3. ปลาทู ปลาไสต้ ัน ปลากราย ในตู้เยน็ ท่สี ะพานปลา สงิ่ มชี วี ติ ทต่ี ายแล้ว
4. ขอ้ 2 และ 3
เฉลย 2 เหตผุ ล กล่มุ สง่ิ มชี วี ิต คือ ส่งิ มชี วี ติ ตั้งแต่ 2 ชนดิ ขนึ้ ไป อาศัยอยู่ในทีเ่ ดยี วกันในทีแ่ หง่ หนึ่ง
ในช่วงระยะเวลาหนงึ่
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3
4. ข้อใดเปน็ ตัวอย่างการกนิ เปน็ ทอด ๆ ตามแผนภาพโซ่อาหาร
1. หญา้ แมลง แผนภาพ โซอ่ าหาร
2. ซากสตั ว์ ปลาดกุ นก มนุษย์ เ ฉลย 1 เ หตุผล หลักก า รเ ขีย น
3. สาหรา่ ย กงุ้
4. ผกั บุง้ กระต่าย โซ่อาหาร คือ เริ่มต้นจากผู้ผลิตก่อน
มนุษย์ เสือ แล้วจึงเป็นผู้บริโภคท่ีเป็นสัตว์กินพืช
ปลาช่อน พยาธิ สัตว์กินสัตว์ หรือสัตว์ท่ีกินท้ังพืช
และสตั ว์ ตามลาดับ
มนุษย์ พยาธิ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
3. สิ่งมีชีวิตชนดิ ใด ทีเ่ ป็นไดท้ ้งั เหยื่อและผู้ลา่ สงิ่ มีชวี ิตท่กี นิ พชื
ผูผ้ ลติ (พืช) แผนภาพ โซอ่ าหาร สิ่งมชี ีวติ ท่กี นิ
สตั ว์ หรือผู้ล่า
1. 2. 3.
4.
เฉลย 2 เหตผุ ล ผ้ลู ่า คือ สิ่งมีชีวิตท่กี ินสัตว์ ส่วนเหยอ่ื คือ สิ่งมชี ีวติ ที่ถูกกนิ
ดงั นัน้ ส่ิงมชี ีวิตทเี่ ปน็ ทัง้ เหย่ือและผูล้ า่ คือ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
5. ถา้ โลกของเราปราศจากผยู้ อ่ ยสลายสารอนิ ทรีย์ เราะจะพยากรณ์ไดว้ ่า
น่าจะเกดิ เหตุการณใ์ ด
1. พชื ตาย เพราะขาดแรธ่ าตุในดนิ ที่จาเปน็ ตอ่ การดารงชีวิต
2. ขยะลน้ โลก เตม็ ไปดว้ ยซากพืช ซากสัตว์ และสารอินทรียต์ า่ ง ๆ
3. ไมเ่ กดิ เหตกุ ารณใ์ ด เพราะธรรมชาตสิ ามารถรกั ษาความสมดุลด้วยตนเอง
4. อาจเป็นไปไดท้ งั้ ข้อ 1 และ 2
เฉลย 4 เหตุผล ผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ ทาหน้าท่ีย่อยสลายซากส่ิงมีชีวิตที่ตายแล้ว
ทาใหพ้ ืชและสัตว์ท่ตี ายเกดิ การเนา่ เป่ือยสลายเปน็ แรธ่ าตลุ งสู่ดินและน้า
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
6. ส่ิงมีชวี ิตกลุม่ ใดท่ีแสดงความสมั พันธใ์ นระบบนเิ วศไดต้ ามธรรมชาติ
1. มา้ นก ควาย ทะเล เฉลย 4 เหตุผล แมงมุมน้า ปลาหางนกยูง
2. แรง้ สุนขั นกเขา ทะเล และคางคกอาศัยอยู่ในสระน้า ส่วนม้า นก
3. แมลงปอ งหู างกระดง่ิ กบ ทะเลทราย ควาย แร้ง สุนัข และนกเขา อาศัยอยู่บนบก
4. แมงมมุ น้า ปลาหางนกยงู คางคก สระนา้ ไม่อาศัยอยู่ในทะเล ส่วนแมลงปอและกบ
อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีความชื้น ไม่อาศัยอยู่ใน
ทะเลทราย
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
7. จากแผนภาพ ส่ิงมชี วี ติ ที่เป็นผ้บู ริโภคใดบ้าง
ทีไ่ ด้รับพลงั งานมากท่สี ดุ ในสายใยอาหาร
1. หนอน นก
2. หนอน ตั๊กแตน
3. เหยย่ี ว ตั๊กแตน
4. ตั๊กแตน กบ
เฉลย 2 เหตุผล การถ่ายทอดพลังงานในโซ่อาหารจะมีค่าลดลงตามลาดับข้ัน
การบริโภค ดงั นน้ั ผูบ้ รโิ ภคลาดับท่ี 1 จงึ ได้รบั พลงั งานมากที่สุด
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
8. จากแผนภาพ ถ้าพชื ไดร้ บั การปนเป้ือนสารพิษ
สิ่งมีชวี ิตในสายใยอาหารขอ้ ใดท่ีมีการสะสม
สารพษิ ในรา่ งกายมากที่สุด
1. หนอน 2. เหยีย่ ว
3. กบ 4. งู
เฉลย 2 เหตผุ ล การสะสมสารพษิ จะมคี ่าความเขม้ ขน้ มากข้นึ
ตามลาดับของการกิน โดยจะมากที่สุดในผู้บริโภคลาดับ
สุดท้าย ดังนั้น เหยี่ยวเป็นผู้บริโภคลาดับสุดท้ายในสายใย-
อาหารน้ี สารพิษจงึ จะสมในร่างกายของเหย่ียวมากท่ีสุด
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3
9. จากการสารวจนเิ วศวิทยาบริเวณสระนา้ แห่งหนึ่ง พบว่ามีสงิ่ มีชีวิต
อาศยั อยู่บริเวณรมิ ตลง่ิ มากชนดิ กว่าในสระและบนบก
น่ันแสดงว่ารมิ ตล่งิ มลี ักษณะอยา่ งไร
1. ที่หลบภยั มากกว่า
2. มีอนินทรียสารมากกวา่
3. สภาพแวดลอ้ มเหมาะสมกว่า
4. ทส่ี าหรับวางไขป่ ลอดภัยกว่า
เฉลย 3 เหตุผล สิ่งมชี วี ิตจะอาศยั อยใู่ นบริเวณทม่ี ีสภาพแวดล้อมเหมาะสม เพอื่ การดารงชวี ติ
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
10. ข้อใดเป็นสภาพของระบบนเิ วศท่ีมคี วามสมบูรณม์ ากที่สดุ
1. มีผผู้ ลิตและผบู้ ริโภคหลายลาดบั มีสตั วก์ ินพืชจานวนมาก
2. มีผู้ลา่ จานวนน้อย มสี ัตวก์ ินพชื จานวนมาก
3. มผี ้ลู า่ จานวนมาก มสี ตั ว์กนิ พืชจานวนนอ้ ย
4. มเี ฉพาะผผู้ ลิตและผู้บริโภคลาดบั ท่ี 1
เฉลย 1 เหตุผล ระบบนิเวศท่ีมีความสมบูรณ์มากท่ีสุด คือ ในระบบนิเวศมีสิ่งมีชีวิตท่ีมีท้ังผู้ผลิตและ
ผู้บริโภคจานวนมากสมดุลกัน มีความสัมพันธ์กันในแบบสายใยอาหาร ยิ่งผู้ผลิตและผู้บริโภค
หลายลาดบั สายใยอาหารย่ิงซบั ซอ้ นมากขึน้ ยิง่ แสดงถงึ ความสมบรู ณข์ องระบบนิเวศ
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3