คำนำ
เอกสาร ฉบับนี้ได้เรียบเรียงเนื้อหาเกี่ยวกับนิทานสำหรับเด็กปฐมวัยที่ครอบคลุมคำอธิบายรายวิชา
ประกอบด้วยเนื้อหาสาระความรู้พื้นฐานของนิทานความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความหมายความสำคัญและ
ประโยชน์ของนิทานที่มีต่อเด็กปฐมวัยประเภทของนิทานสำหรับเด็กปฐมวัย เทคนิคการเล่านิทานการอ่าน
นิทานและการแตง่ นทิ านสำหรบั เดก็ ปฐมวยั การจดั หาการผลิตการใช้สอื่ เพ่ือประกอบการเลา่ นิทานสำหรับเด็ก
ปฐมวัย การแบง่ เน้ือหาและช่วงเวลาการสอนในแตล่ ะบทเรียนน้ันใช้หลกั การวิเคราะหห์ ลักสูตรเป็นเกณฑ์โดย
อ้างองิ หรอื ประยกุ ต์จากตำราของไทยและของตา่ งประเทศหลายเล่มเพ่อื ให้นักศึกษาไดใ้ ช้คน้ คว้าหาความรู้ทาง
ในส่วนของทฤษฎีและแนวทางปฏบิ ัตจิ ึงหวงั เป็นอยา่ งยิ่งว่า เอกสารประกอบการสอนฉบับน้ีจะใช้ประโยชน์แก่
ผู้อ่านและเป็นเกียรตปิ ระวตั ิเจ้าของตำราที่ได้นำมาอ้างองิ เอกสารเล่มน้ีทุกทา่ น
สารบัญ
หน้า
คำนำ ข
สารบญั ค
ความหมายของนิทานและความสำคัญของนิทาน 1
ความสำคญั ของนทิ าน 3
ประเภทนทิ าน 5
องคป์ ระกอบของนทิ าน 12
นิทานทีเ่ หมาะสมกบั เดก็ ปฐมวยั 13
หลกั การเลือกนทิ านทเี่ หมาะกับเดก็ ปฐมวัย 15
วธิ ีการเลา่ นทิ านหรือเร่ืองราวสำหรับเดก็ 16
คุณค่าของนทิ าน 17
บรรณานกุ รม 18
ประวัตผิ ูจ้ ดั ทำ 19
ปกหลงั 20
ความหมายของนิทานและความสำคัญของนิทาน
ความหมายของนทิ าน มหี น่วยงาน และนักวิชาการหลายทา่ น ไดก้ ล่าวถงึ ความหมายของนทิ านไวไ้ ด้ ดงั น้ี
เกษลดา มานะจุติและ อภิญญา มนูญศิลป์ (2544 : 1) ได้ให้ความหมายของนิทานว่า หมายถึง เรื่อง
เล่าต่อกัน มาโดยใช้วาจาหรือเล่าโดยแสดงภาพประกอบ หรือการเล่าโดยวัสดุอุปกรณ์ ใช้ประเภทต่างๆ
ประกอบก็ได้เช่น หนังสือภาพ หุ่นหรือการใชค้ นแสดงบทบาทลีลาเป็นไปตามเนื้อเรือ่ งของนิทานน้ันๆ แต่เดิม
มานิทานถูกเล่าสู่กันและกันดว้ ยปากสืบกันมาเพือ่ เป็นเครื่องบันเทิงใจในยามว่าง และเพื่อถ่ายทอดความเชื่อ
ความศรทั ธาเลื่อมใสในสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ทิ เี่ ป็นทีย่ ดึ ถือของคนแต่ละกลมุ่
วิไล มาศจรัส (2545 : 12) ได้กล่าวถึงความหมายของนทิ านว่า นิทาน หมายถึง เรื่องที่เลา่ กันมา เช่น
นิทานอีสป นิทานชาดก ในทางคติชนวิทยา ถือว่า นิทานเป็นเรื่องเล่าสืบสานต่อๆ กันมา ถือเป็นมรดกทาง
วฒั นธรรมอยา่ งงหน่งึ ในหลายอย่างของมนษุ ย์เป็นส่ิงที่มคี วามหมาย มีคณุ ค่าซึง่ นิทานนน้ั จะมีท้ังนิทานเล่าปาก
เปล่า จดจากัน มาแบบมุขปาฐะและนิทานที่มีการเขียนการบันทกึ ไว้เปน็ ลายลกั ษณ์อักษร ราชบัณฑิตยสถาน
พุทธศกั ราช 2542(2546 : 588) ไดร้ ะบุความหมายของนทิ านไว้ว่านิทาน หมายถงึ เรื่องทีเ่ ลา่ กันมา เช่น นิทาน
ชาดก นิทานอีสป
เกริก ยุ้นพันธ์(2547 : 8) ไดให้ความหมายของนิทานไว้ว่าหมายถึง เรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่
สมยั โบราณ เป็นการผกู เรื่องขึ้น เพ่อื ใหผ้ ้ฟู งั เกิดความสนกุ สนานเพลดิ เพลิน และสอดแทรกคติสอนใจลงไป
ประคอง นิมมานเหมินทร์(2550 : 9)ได้ให้ความหมายของนิทานว่า หมายถึง เรื่องที่เล่ากันต่อๆ มา
จากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่งโดยไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้แต่ง เช่น นิทานเรื่องสังข์ทองปลาบูท่ อง หรือโสนน้อย
เรือนงาม มีการเล่าสู่กันฟังจากปู่ย่าตายายของเรา พ่อแม่ของเรารวมทั้งตัวเราเอง ไปจนถึงลูกหลานเหลนโหล
นของเรา เป็นทอดๆ กันไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า บางครั้งก็แพร่กระจายจากท้องถิ่นหนึ่งไปสู่อีกท้องถิ่นหนึ่ง เช่น
นทิ านเร่อื งสงั ข์ทองอาจมีหลายสำนวน แล้วแตค่ วามทรงจา ความเช่อื อารมณข์ องผ้เู ลา่ และวฒั นธรรมในแต่ละ
ทอ้ งถิน่ จากความหมายของนทิ านดังกลา่ ว
“นิทาน” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 (2546, หน้า 588) อธิบายความหมายไว้ว่า
“นิทาน คือ เรื่องที่เล่ากันมา เช่น นิทานชาดก และนิทานอีสป เป็นต้น” นอกจากนี้ยังมีท่านผู้รู้อธิบาย
ความหมายไวค้ ล้ายๆกัน เช่น
กิ่งแก้ว อัตถากร (2519, หน้า 12) อธิบายว่า นิทาน หมายถึง เรื่องเล่าสืบต่อกันมาเป็นมรดกทาง
วัฒนธรรม ส่วนใหญ่ถ่ายทอดด้วยวิธีมุขปาฐะ แต่ก็มีอยู่ส่วนมากที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ และ
นอกจากนี้ยังอธิบายว่านิทานเป็นเรื่องเล่าทั่วไป มิได้จงใจแสดงประวัติความเป็นมา จุดใหญ่เล่าเพื่อความ
สนุกสนาน บางครั้งก็จะแทรกคติเพื่อสอนใจไปด้วย นิทานมิใช่เรื่องเฉพาะเด็ก นิทานสำหรับผู้ใหญ่ก็มีจำนวน
มาก และเหมาะสำหรับผ้ใู หญ่เทา่ น้นั
กหุ ลาบ มลั ลิกะมาส (2518, หน้า 99-100) กล่าวถงึ “นทิ าน” ไวใ้ นหนงั สอื คติชาวบ้านว่า นิทานเป็น
วรรณกรรมมุขปาฐะที่เล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เพื่อความสนุกสนานเบิกบานใจ ผ่อน คลายความตึง
เครียด เพื่อเสริมศรัทธาในศาสนา เทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นคติเตือนใจ ช่วยอบรมบ่มนิสัย ช่วยให้เข้าใจ
สง่ิ แวดล้อมและปรากฏการณ์ธรรมชาติ เนื้อเรือ่ งของนิทานเป็นเรื่องนานาชนิด อาจเป็นเร่อื งเก่ียวกับการผจญ
ภยั ความรกั ความโกรธ เกลียด ริษยา อาฆาต ตลกขบขัน หรอื เร่ืองแปลกประหลาดผิดปกติธรรมดา ตัวละคร
ในเรอ่ื งก็มีลกั ษณะตา่ งๆกัน อาจเปน็ คน สัตว์ เจา้ หญิง เจ้าชาย อมนุษย์ แมม่ ด นางฟา้ แตใ่ หม้ ีความร้สู ึกนึกคิด
พฤติกรรมต่างๆเหมือนคนทั่วไปหรืออาจจะเหมือนที่เราอยากจะเป็น เมื่อนิทานตกไปอยู่ในท้องถิ่นใดก็มักมี
การปรับเนื้อเรื่องให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมของถิ่นนั้น นิทานในแต่ละท้องถิ่นจึงมีเนื้อเรื่องส่วนใหญ่คล้ายคลึงกัน
คอื สภาพความเปน็ มนษุ ย์ อารมณ์ ความรู้สกึ รัก เกลียด ความโง่ ฉลาด ขบขนั อาฆาตแค้น หรือทุกข์ สขุ ส่วน
รายละเอยี ดจะแตกต่างไปบา้ งตามสภาพแวดล้อมและอิทธิพลของวฒั นธรรมความเช่ือของ แต่ละทอ้ งถนิ่
สุมามาลย์ พงษ์ไพบูลย์ (2542, หน้า 7) กล่าวว่า นิทานเป็นคำศัพท์ภาษาบาลี หมายถึง คำเล่าเรื่อง
ไมว่ า่ เปน็ เรื่องประเภทใด แตอ่ ยู่ทล่ี ักษณะการเลา่ ท่ีเป็นกนั เอง แมจ้ ะเป็นข้อเขยี นก็มลี กั ษณะคลา้ ยกบั การเล่าที่
เป็นวาจา โดยใช้ภาษาพดู หรอื ภาษาปากในการเลา่
กล่าวโดยสรปุ นิทาน คือ เรื่องเล่าท่ีมนุษย์ผูกเรื่องข้ึนด้วยภูมิปัญญา โดยส่วนใหญ่จะถา่ ยทอดด้วยวิธี
มุขปาฐะ เนื้อเรื่องมีหลากหลายและใช้เล่าเพื่อจุดประสงค์ต่างๆกัน ตามโอกาสและสภาพแวดล้อมของแต่ละ
ท้องถิ่น คำที่ใช้เรียกนิทานมีต่างๆกันไป เช่น นิทานชาวบ้าน นิทานพื้นบ้าน นิทานพื้นเมือง วรรณกรรมมุข
ปาฐะ เป็นตน้ ในทนี่ ีจ้ ะใชว้ า่ นทิ านพน้ื บา้ น
ความสำคัญของนทิ าน
นทิ านเป็น ส่ิงที่สำคัญต่อชวี ิตเด็ก ชว่ ยใหเ้ ด็กมคี วามสุขใหแ้ ง่คิดและคตสิ อนใจการจัดประสบการณ์ให้
เด็กโดยใช้นิทานเป็นสิ่งจา เป็นเพราะการเล่านิทาน สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาและเตรียมความ
พรอ้ มใหก้ ับเด็ก ได้มีนักวชิ าการกลา่ วถงึ ความสำคัญของนทิ านไว้หลายท่านดังต่อไปน้ี
เกริก ยนุ้ พนั ธ์ (2547 : 55 - 56)ไดก้ ลา่ วถึงความสำคญั ของการเล่านิทาน ดงั น้ี
1. เด็กๆ หรอื ผู้ฟงั จะเกดิ ความรสู้ กึ อบอุ่นและใกล้ชดิ เปน็ กนั เองกบั ผ้เู ล่า
2. เด็กๆ หรอื ผฟู้ งั จะเกิดความรสู้ กึ รว่ มในขณะฟัง ทา ให้เขาเกดิ ความเพลดิ เพลนิ ผอ่ นคลายและสดชืน่ แจม่ ใส
3. เด็กๆ หรอื ผฟู้ ังจะมีสมาธิหรือความตั้งใจท่ีมีระยะเวลานานข้นึ หรือยาวข้ึน โดยเฉพาะผ้เู ล่าที่มีความสามารถ
ในการตรงึ ให้ผูฟ้ งั หรือกเด็กๆใจจดจอ่ อยู่กับเรือ่ งราวที่ผ้เู ล่าเลา่ เร่ืองที่มีขนาดยาว
4. เด็กๆ หรือผู้ฟังจะถูกกล่อมเกลาด้วยนิทานที่มีเนื้อหาส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม ทำให้เด็กๆ และผู้ฟัง
เขา้ ใจในความดีและความงามยิง่ ขนึ้
5. นทิ านจะทา ใหเ้ ด็กๆ หรือผู้ฟงั มคี วามละเอียดอ่อน รูจ้ ักการรับและการให้มองโลกในแง่ดี
6. นิทานจะทำใหเ้ ดก็ ๆ หรือผู้ฟงั ใช้กระบวนการคดิ ในการพจิ ารณาแก้ปัญหาได้
7. นทิ านสามารถสรา้ งความกล้าให้กบั เด็กๆหรือผฟู้ งั โดยการแสดงออกท่ผี า่ นกระบวนการคดิ ที่มปี ระสทิ ธิภาพ
8. เด็กๆ ผู้ฟังจะได้ความรู้ท่เี ปน็ ประโยชนแ์ ละสามารถประยกุ ต์ใช้กบั ชีวิตประจำวันได้
9. นทิ านชว่ ยสรา้ งเสรมิ จินตนาการทกี่ ว้างไกลไร้ขอบเขตให้กับเด็กหรือผฟู้ ัง
10. นิทานสามารถช่วยให้เด็กๆ และผู้ฟังได้รู้จักการใช้ภาษาที่ถูกต้อง การออกเสียง การกระดกลิ้นตัว ร เรือ
และ ล สงิ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเปน็ ธรรมชาติ
วเิ ชียร เกษประทมุ (2550 : 9-10)ไดก้ ล่าวถงึ ความสำคัญของนิทานวาม่ี คณุ ค่าและมปี ระโยชน์ ดังน้ี
1.นิทานให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน เป็นการผ่อนคลายความเครียดและช่วยให้เวลาผ่านไปอย่างไม่น่าเบื่อ
หน่าย
2. นิทานช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวเด็กบางคนอาจมองผุ้ใหญ่ว่าเป็นบคุ คลที่ขี้บน่ ชอบดุดา่ น่าเบ่ือ
หน่วยหรือน่าเกรงขาม แต่ถ้าผู้ใหญ่มีเวลาเล่านิทานให้เด็กฟังบ้าง นิทานที่สนุกๆ ก็จะช่วยให้เด็กอยากอยู่
ใกล้ชิดผใู้ หญ่ความเกรงกลวั หรือเบือ่ หนา่ ยผ้ใู หญ่ลง17
3. นิทานให้การศกึ ษาและเสริมสร้างจนิ ตนาการ
4. นิทานให้ข้อคิดและคติเตือนใจ ช่วยปลูกฝังคุณธรรมต่างๆ ที่สังคมพึงประสงค์ให้แก่ผู้ฟังเช่น ให้ซื่อสัตว์ให้
เชือ่ ผใู้ หญ่ ใหพ้ ดู จาไพเราะอ่อนหวาน ให้มคี วามเอ้ือเผอ่ื เผอื่ แผ่ใหข้ ยนั ขนั แขง็ เป็นตน้
5. นิทานช่วยสะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมในอดีตในหลายๆด้าน เช่น ลักษณะของสังคมวิถีชีวิตของ
ประชาชนในสังคมตลอดจนประเพณีค่านิยมและความเชือ่ เป็นต้นสำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา (2550 :
11-16) ได้ระบุถึงความสำคัญ ของนิทานว่านิทานเป็นสิ่งที่สำคัญ ต่อชีวิตทั้งและผู้ใหญ่ เพราะนอกจากนิทาน
จะช่วยให้เด็กๆ มีความสุขสนุกหรรษาแล้ว ยังเป็นโลกแห่งจินตนาการที่สมบูรณ์แบบที่คอยช่วยถักทอสายใย
ความรกั ความฝนั สานสัมพันธ์อันอบอุน่ ความละมุนละไมในกลุ่มสมาชกิ ของครอบครวั อกี ทั้งนทิ านยังให้แง่คิด
คตสิ อนใจ และปรชั ญาชวี ิตอนั ลำ ลกึ แกเ่ ดก็ นทิ านมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเดก็ ดงั น้ี
1. ช่วยพัฒนาเด็กทางด้านลักษณะชีวติ เด็กไดเ้ รยี นรถู้ งึ ลักษณะชวี ิตท่ีดีผา่ นนทิ านทป่ี รารถนาให้เด็กมี
พฤติกรรมท่ดี ีเช่น มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม มีความกลา้ หาญ มีความยตุ ิธรรม
2. การพัฒนาเด็กด้านบุคลิกภาพ บุคลิกภาพเป็นองค์ประกอบที่มีอยู่มากในนทิ านซึง่ เด็กจะได้รับรู้ถึง
บุคลิกภาพที่ดีที่จะช่วยให้อยู่ในสังคมได้อย่างดีเช่น ความเชื่อมั่นการรักษาตนความสุภาพอ่อนน้อม ความมี
มารยาทท่ีดคี วามเป็นผู้นำ
3. การพัฒนาเดก็ ด้านความรูแ้ ละสติปัญญา
4. การพฒั นาเด็กในดา้ นทักษะและความสามารถ
5. การพัฒนาเด็กในด้านสุขภาพ นิทานเป็นกระบวนการหนึ่งที่กำหนดบทบาท ในด้านสุขภาพให้เกิด
แก่เด็ก เพราะเมื่อเด็ก ได้อ่านหรือ ฟังนิทานแล้วจะก่อให้เกิด การเรียนรู้ในการที่จะรักษาสุขภาพกายและ
สุขภาพจติ ของตน
นอกจากนี้ บวรงามศิริอุดม (http://www.sk-hospital.com สืบค้นเมื่อวันท่ี10/05/2554) ได้
กล่าวถงึ ความสำคญั ทไี่ ด้จากการเลา่ นิทานว่า
1. สง่ เสรมิ พัฒนาการและการเรยี นรขู้ องเด็ก
2. ใหร้ ูจ้ กั คำ เรยี กชื่อส่ิงของต่างๆ จากรูปภาพในนิทาน
3. เปิดโอกาสให้เดก็ ไดแ้ สดงออก พฒั นาความคิด จินตนาการ
4. ให้ความร้สู ึกทด่ี ตี ่อเด็ก
5. มคี วามตลกขบขันให้ความสนุกสนาน ชว่ ยแกป้ ญั หาใหก้ ับตวั เด็กเม่ือเปรียบเทยี บ ตนเองกับตวั ละคร18จาก
ประเภทนทิ าน
นิทานสำหรับเด็กปฐมวัย ถือว่ามีความสำคัญกับเด็กเป็นอย่างมาก เพราะช่วยสร้างจินตนาการ
ปลกู ฝงั คณุ ธรรมจรยิ ธรรมใหก้ บั เด็ก มขี อ้ คิด มคี วามสนุกในเน้ือเรื่อง ช่วยเสริมสร้างทักษะทางภาษาให้กับเด็ก
ไดเ้ ป็นอยา่ งดี เดก็ รจู้ กั ความแตกตา่ งละหว่าบุคคล และรจู้ กั ปรับตัวเขา้ กบั สงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
1.นิทานปรัมปราหรอื นิทานทรงเคร่ือง (fairy tale) ลักษณะที่เห็นเด่นชัด คือเป็นเรื่องค่อนข้างยาว มี
เหตุการณ์ที่เป็นจุดขัดแย้งประกอบอยู่หลายเหตุการณ์ หรือหลายอนุภาค เนื้อเรื่องจะประกอบด้วยอิทธิฤทธิ์
ปาฏิหารยิ ์ต่างๆซึ่งพ้นวิสยั มนุษย์ สถานที่เกิดเหตุ ไม่แน่ชัดว่ามีอยูท่ ี่ใด ตัวเอกของเรือ่ งเป็นผู้มคี ุณสมบัติพิเศษ
เช่น มีบุญบารมี มีของวิเศษที่สามารถต่อสู้อุปสรรคขวากหนามทำให้ศัตรูพ่ายแพ้ไปในที่สุด และจบลงด้วย
ความสุข เช่น เรื่องโสนน้อยเรือนงาม ปลาบู่ทอง นางสิบสอง สังข์ทอง เป็นต้น (กุหลาบ มัลลิกะมาส, 2518,
หน้า 106) เนื้อหาของนิทานประเภทนี้สนุกสนานตื่นเต้น การดำเนินเรื่องอยู่ในโลกของจินตนาการ มีความ
มหัศจรรย์จากอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริยข์ องตวั ละครทีเ่ ป็นอมนุษย์ เช่น ยักษ์ เทวดา หรือพญานาค เข้ามาเกี่ยวขอ้ ง
ในบางแหง่ จึงเรียกนิทานประเภทน้วี ่า “นิทานมหศั จรรย์” และ ดว้ ยเน้อื เร่ืองสนุกสนานดังกล่าว ปัจจุบันจึงมีผู้
นำมาดดั แปลงสำหรับใช้แสดงลิเก ละคร ภาพยนตร์ และการแสดงอืน่ ๆ
2. นิทานท้องถิ่นหรือนิทานประจำท้องถิ่น (legend) นิทานประเภทนี้ผู้เล่าจะเล่าด้วยความเชื่อว่า
เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงและมักมีหลักฐาน อ้างอิงประกอบเรื่อง มีตัวบุคคลจริงๆมี
สถานที่จริงๆกำหนดไว้แน่นอนกว่าในนิทานปรัมปรา เช่น พระร่วง เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ท้าวแสนปม เมือง
ลบั แล พระยากง พระยาพาน เปน็ ตน้
3. นิทานประเภทอธิบายหรือนิทานอธิบายเหตุ (explanatory tale) เป็นเรื่องที่ตอบคำถามว่าทำไม
เพื่ออธิบายความเป็นมาของบุคคล สัตว์ ปรากฏการณ์ต่างๆของธรรมชาติอธิบายชื่อสถานที่ต่างๆสาเหตุของ
ความเชื่อบางประการ รวมทั้งเรื่องเกี่ยวกับสมบัติที่ฝังไว้ นิทานประเภทนี้ของไทยได้แก่ เหตุใดกาจึงมีสีดำ
ทำไมมดตะนอยจึงเอวคอด ทำไมจึงห้ามนำน้ำส้มสายชูเข้าเมืองลพบุรี ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ นิทานที่พบมากคือ
เรอ่ื งเกี่ยวกบั สถานที่ เช่น เกาะหนู เกาะแมว ในจงั หวัดสงขลา ถ้ำผานางคอย จงั หวดั แพร่ เขาตาม่องลา่ ย เป็น
ตน้
4. นิทานชีวิต (novella or romantic tales) เป็นเรื่องค่อนข้างยาว ประกอบด้วยหลายอนุภาค
หลายตอน (กิ่งแก้ว อัตถากร, 2519, หน้า 15) เนื้อหาของนิทานคล้ายชีวิตจริงมากขึ้น ตัวละครในนิทาน
ประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นคนธรรมดาสามัญมากกว่า ท้าวพระยามหากษัตริย์ มีบทบาท การใช้ชีวิตเหมือน
มนุษย์ปุถุชนทั่วไป แก่นของเรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก ความโกรธ ความหลง ความกลัว การผจญภัย
สะเทือนอารมณม์ ากกว่านิทานปรัมปรา ตัวเอกของเรื่องตอ้ งใช้ภมู ปิ ัญญา และความสามารถในการแกไ้ ขปัญหา
ต่างๆซึง่ เปน็ อุปสรรคของชีวติ แสดงความกล้าหาญ อดทน อดกล้นั เอาชนะอปุ สรรค ศัตรู จนบรรลุจุดหมายไว้
ฉากและบรรยากาศของนิทานชนิดนี้มีลักษณะสมจริงมากขึ้น นิทานชีวิตของไทยที่รู้จักกันทั่วไปก็คือ เรื่องขุน
ช้างขุนแผน พระลอ ไกรทอง ของตะวันตก ได้แก่ นิทานชุดเดคาเมรอน ของตะวันออก ได้แก่ นิทานอาหรับ
ราตรี
5. นิทานเรื่องผี (ghost tales) เป็นนิทานที่มีตัวละครเป็นผี วิญญาณ มีเหตุการณ์เกี่ยวกับผี ผีหลอก
ผีสิง เนื้อเรื่องตื่นเต้นเขย่าขวัญ ทั้งผู้เล่าและผู้ฟังค่อนข้างเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง นิทานเรื่องผีนี้สะท้อนให้เห็นถึง
ความเชื่อของคนไทยในเรื่องวิญญาณ และภูติผีต่างๆ อย่างชัดเจน ผีหรือวิญญาณในนิทานจะมาปรากฏร่าง
หรอื การกระทำกเ็ พือ่ ใหค้ วาม ชว่ ยเหลือ เพ่ือแก้แค้นและเพือ่ แสดงอทิ ธฤิ ทธิ์
6. นิทานวีรบุรุษ (hero tale) เป็นนิทานที่กล่าวถึงคุณธรรม ความสามารถ ฉลาดเฉลียว ความกล้า
หาญของบุคคล ส่วนมากเป็นวีรบุรุษของชาติหรือบ้านเมือง นิทานประเภทนี้คล้ายคลึงกับนิทานปรัมปรา คือ
ตัวเอกเป็นวีรบุรุษเหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างกันคือ นิทานวีรบุรุษมักกำหนดสถานที่ และเวลาในเรื่องแน่ชัด
ขึ้น แก่นเรื่องของนิทานวีรบุรุษเป็นเรื่อง วีรกรรมของตัวเอกซึ่งเกิดจากการต่อสู้เพื่อคนส่วนใหญ่ การผจญภัย
ต่างๆที่เก่งกลา้ เกินกว่า คนทั่วไป นิทานวีรบุรุษของภาคตะวันตก เช่น โรบินฮู้ด เฮอร์คิวลิส ของไทย เช่น ไกร
ทอง เจ้าสายน้ำผง้ึ พระรว่ งวาจาสิทธิ์ เป็นตน้ ชอื่ บุคคล ชอ่ื บ้านเมือง เหตกุ ารณ์หรือเค้าเรอ่ื งมสี ่วนท่ีเป็นความ
จรงิ อยู่ด้วย แตเ่ ล่าตกแต่งเพม่ิ เติมเสรมิ ข้นึ จนเปน็ รปู นิทานไป
7. นิทานคติสอนใจหรือนิทานประเภทคำสอน (fable) เป็นเรื่องสั้นๆไม่ สมจริง มีเนื้อหาในเชิงสอนใจ ให้
แนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องทำนองคลองธรรม บางเรื่องสอนโดยวิธีบอกตรงๆ บางเรื่องให้เป็นแนว
เปรียบเทียบเป็นอุทาหรณ์ ในบางแห่งจึงเรียกนิทานประเภทนี้ว่า นิทานอุทาหรณ์บ้าง หรือนิทานสุภาษิตบ้าง
ตัวละครในเรื่องอาจจะเป็นคน สัตว์ หรือเทพยดา เป็นตัวดำเนินเรื่อง สมมติว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอดีต
เชน่ เร่อื งหนูกัดเหล็ก นทิ านอีสป นิทานจากปัญจตนั ตระ เป็นต้น
8. นิทานศาสนา (religious tale) เป็นนทิ านเก่ียวกบั ศาสนา พระเจ้า นักบวชต่างๆ มปี ระวตั ิอภนิ หิ าร
หรืออิทธิฤทธิ์ เรื่องลักษณะนี้ของชาวตะวันตกมีมาก เช่น เรื่องพระเยซู และนักบุญต่างๆ ของไทยก็มีบ้างท่ี
เกี่ยวกบั อภนิ หิ ารของนกั บวชที่เจรญิ ภาวนามีฌาณแก่กลา้ มอี ิทธฤิ ทธิ์พิเศษ เชน่ เร่ืองหลวงพ่อทวด สมเด็จเจ้า
แตงโม เป็นต้น
9. นิทานชาดก (jataka tales) ชาดก หมายถึง เรื่องพระพุทธเจ้าที่มีมาในชาติก่อนๆ
(ราชบัณฑิตยสถาน, 2546, หน้า 359) เนื้อเรื่องจะกล่าวถึงประวัติและพระจริยวัตร ของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้ง
ยังเป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติในภพภูมิต่างๆ เป็นคนบ้าง เป็น สัตว์บ้าง ไม่ว่าพระพุทธเจ้าจะไป
เสวยพระชาติเป็นอะไรก็ตาม จะมีคุณสมบัติ แตกต่างจากผู้อื่นที่เห็นได้ชัดอยู่ 2 ประการ คือ รูปสมบัติ จะมี
รา่ งกายสมบรู ณ์ ถา้ เป็นสตั วจ์ ะเป็นเพศผู้ ถา้ เปน็ คนจะเป็นเพศบรุ ุษ มีความสง่างามเปน็ ทป่ี ระทับตาประทับใจ
แก่ผู้พบเห็น และมีน้ำเสียงไพเราะ และธรรมสมบัติ คือ จะมีคุณธรรมสูง โดยเฉพาะทศบารมี (พิสิฐ เจริญสุข,
2539, หน้า 3-4) ได้แก่ ทาน ศีล เนกขัมม์ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา และอุเบกขา แทรกคติ
ธรรมคำสอนไว้ในเนือ้ เรื่อง ท้ายเรือ่ งของนทิ านชาดกมักจะบอกการกลับชาตมิ าเกิดของตัวละครสำคัญในเรือ่ ง
นิทานชาดกท่รี จู้ กั กนั ทว่ั ไปกค็ ือ ทศชาดก โดยเฉพาะชาดกเรอ่ื งสดุ ท้ายคอื พระเวสสันดร
10. ตำนานหรือเทพนิยาย (myth) เป็นนิทานที่มีตัวละครสำคัญเป็น เทพยดา นางฟ้า หรือบุคคลใน
เรื่องต้องมีส่วนสัมพันธ์กับความเชื่อทางศาสนา และพิธีกรรมต่างๆที่มนุษย์ปฏิบัติอยู่ เช่น เรื่องท้าว
มหาสงกรานต์ เรื่องเกย่ี วกบั พระอนิ ทร์ เปน็ ตน้
11. นิทานสัตว์ (animal tale) เป็นนิทานที่มีตัวเอกเป็นสัตว์ แต่สมมติให้มี ความนึกคิด การกระทำ
และพูดได้เหมือนคน มีทั้งที่เป็นสัตว์ป่า และสัตว์บ้าน บางทีก็เป็นเรื่องที่มีคนเกี่ยวข้องด้วยและพูดโต้ตอบ
ปฏิบัติต่อกันเสมือนเป็นคนด้วยกัน บางเรื่องก็แสดงถึงความเฉลียวฉลาด หรือความโง่เขลาของสัตว์ บางทีก็
เป็นเรื่องของสัตว์ทีม่ ีลักษณะเป็น ตัวโกงคอย กลั่นแกล้งสตั ว์อ่ืน แล้วก็ได้รับความเดือดรอ้ นเอง นิทานสัตว์ถา้
เล่าโดยเจตนาจะสั่งสอนคตธิ รรมอย่างใดอยา่ งหน่งึ อยา่ งชดั เจน กจ็ ัดเปน็ นิทานคตสิ อนใจ
12. นิทานตลก (jest) ส่วนใหญ่เป็นนิทานสั้นๆซึ่งจุดสำคัญของเรื่องอยู่ที่พฤติกรรม หรือเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะ
เปน็ ไปได้ตา่ งๆ อาจเป็นเรื่องเกีย่ วกบั ความโง่ การแสดงไหวพริบปฏภิ าณ การแก้เผ็ดแก้ลำ การพนนั ขันตอ่ การ
เดินทางผจญภัยที่ก่อเรื่องผิดปกติในแง่ขบขันต่างๆ ตัวเอกของเรื่องอาจจะเป็นคนที่โง่เขลาที่สุด และทำเรื่อง
ผดิ ปกตวิ สิ ัยมนุษย์ทม่ี สี ตปิ ญั ญาธรรมดาเขาทำกัน เช่น เรื่องศรธี นญชัย หวั ล้านนอกครู เปน็ ต้น
13. นิทานเข้าแบบ (formula tale) เป็นนิทานที่มีแบบแผนในการเล่าเป็นพิเศษแตกต่างจากนิทาน
ประเภทอ่นื ๆ เชน่ ท่ีเลา่ ซ้ำตอ่ เนื่องกันไป หรอื มีตวั ละครหลายๆตวั พฤตกิ รรมเก่ียวขอ้ งกันไปเปน็ ทอดๆ นิทาน
ประเภทน้ีแบง่ ไดเ้ ป็น 4 ชนดิ (วิมล ดำศรี, 2539, หนา้ 48-49) คอื
13.1 นิทานไม่รู้จบ เป็นนิทานที่มีความยาวไม่จำกัด เล่าต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดจบ
จนกว่าผู้ฟังจะเบื่อหน่าย มักเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนับ หรือการกระทำซ้ำๆ นิทานลักษณะนี้เหมาะกับความ
สนใจของเดก็
13.2 นทิ านไม่จบเร่อื ง เป็นนทิ านท่ีผ้เู ล่าเลา่ หยอกเย้าผู้ฟงั ใหเ้ กิดความสนุกสนาน ผเู้ ล่ามักจะ
เร่มิ ตน้ จากเรอื่ งทีน่ า่ สนใจในท้องถิ่น แลว้ กจ็ ะหาทางให้เรือ่ งจบลงอย่างกระทนั หนั ท้ังๆทไ่ี ม่น่าจะจบ
13.3 นิทานหลอกผู้ฟัง เป็นนิทานที่ผู้เล่ามีเจตนาให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมในการเล่านิทานอาจจะมี
คำถามใหต้ อบ ผ้ฟู งั คาดวา่ คำตอบนา่ จะถูกตอ้ ง แตเ่ มื่อเฉลยแลว้ จะเปน็ คำตอบที่นา่ ขันและไม่มีเหตุผล
13.4 นิทานลูกโซ่ เป็นนิทานท่ีมเี รือ่ งราวที่ดำเนินไปอย่างเดียว แต่มี ตัวละครหลายตวั และมี
พฤติกรรมเกี่ยวข้องเป็นทอดๆพฤติกรรมนั้นอาจจะไม่สัมพันธ์กับ ตัวละครเดิมก็ได้ นิทานลูกโซ่ของไทยซึ่งที่รู้
จากกันทั่วไป คือ เรือ่ งยายกะตาปลูกถั่วปลกู งา ให้หลานเฝา้
14. นิทานปริศนา (riddle tale) เป็นนิทานที่มีการผูกถ้อยคำเป็นเงื่อนงำให้ทายหรือให้คิดไว้ในเน้ือ
เรื่อง อาจไว้ท้ายเรื่อง หรือตอนสำคัญๆของเนื้อเรื่องก็ได้เพื่อผู้ฟังได้มีส่วนร่วมแสดงความรู้ความคิดเห็น
เกี่ยวกับนิทานที่ได้ฟังหรืออ่าน นิทานปริศนาที่พบมากในไทยได้แก่ นิทานปริศนาธรรม นิทานเวตาลท่ี เรา
รบั เข้ามาก็จดั เป็นนิทานปริศนา อกี เร่อื งหนงึ่ ท่เี ป็นทรี่ จู้ กั คือเร่อื งสงกรานต์
องค์ประกอบของนทิ าน
1. ชอ่ื เรือ่ ง นิทานทุกเรื่องกต็ อ้ งมชี อื่ เรื่องทีด่ ึงดดู ความสนใจ การตัง้ ช่ือเรือ่ งส่วนใหญ่ก็จะเอาตัวละคร
พฤตกิ รรม หรอื สถานการณเ์ ด่นในเรื่องมาตัง้ เปน็ ชื่อ
2. โครงเรอ่ื งคือ องคป์ ระกอบเร่ืองราวของเรื่องในนิทานตงั้ แต่ต้นจนจบ โดยแบง่ ออกเป็น จุดเริ่มต้น
เรื่อง กลางเรื่อง ตอนจบ และบทสรุป นิทานที่มีบทสรุปนั้นเหมาะสำหรับเด็ก ๆ แต่นิทานบางอย่างที่
ต้องการให้คนได้คิดจากเนื้อหานิทาน ก็อาจไม่มีบทสรุปให้คนได้ตีความ แต่สำหรับเด็ก ๆ นั้นนิทานควรมี
บทสรปุ
3. เนื้อหาคือ รายละเอียดของเรื่อง ซึ่งอธิบายเหตุการณ์ ตัวละคร ฉาก ข้อคิด และอื่น ๆ โดย
เน้ือหาของเรอ่ื งเป็นตัวสำคญั ที่ทำให้นทิ านมีคุณค่า
4. ตัวละครคือ สิ่งที่ทำให้เกิดเรื่องราว ตัวละครเปน็ ตัวเดินเรือ่ งตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งนิทานแต่ละเรือ่ ง
อาจมีตัวละครมากน้อยขึน้ อยู่กับเนื้อหาสาระและปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นเหตุผลทำให้เกิดตัวละครนั้น ๆ และตัว
ละครบางเรื่องอาจมี ตัวเอก ตวั ร้าย ตัวประกอบ บางเร่ืองอาจมีแต่ตัวเอกกับเหตุการณ์ บางเร่ืองอาจมีแค่
ตัวเอกบั ตวั รา้ ย
5. ฉากคือ พื้นหลังของเหตุการณ์ และเหตุการณ์ เช่น เรื่องเกิดในน้ำ เกิดในวัด เกิดที่ใต้ต้นไม้
หรือเกดิ ในทต่ี า่ ง ๆ เพือ่ ให้คนฟังมโนภาพตาม และร้สู กุ มีอารมณร์ ว่ มไปกับตวั ละครและเนื้อหาของเรื่อง
นิทานทเ่ี หมาะสมกับเด็กปฐมวัย
ความเหมาะสมของนิทานสำหรบั เด็กปฐมวยั จำเป็นตอ้ งคำนึงถงึ ความสนใจการรบั รู้และความสามารถ
ตามวัยของเด็ก เป็นสำคัญจึงยังเกิดประโยชน์ที่แท้จริงต่อการเรียนรู้ของเด็กเด็กจะเริ่มรับรู้นิทาน จากภาพที่
มองเห็นและเสียงที่ได้ยิน โดยรู้ความหมายไปทีละเล็กทีละน้อยจนสามารถเชื่อมโยงภาพ และคำบอกเล่าที่ได้
ยินตลอดจนจดจำเนอื้ หาและเรอื่ งราวตา่ งๆที่นำไปสู่การอา่ นตัวหนังสอื ได้อย่างมีความหมายตอ่ ไป
เดก็ อายุ 0 - 1 ปี
นิทานที่เหมาะสมในวัยนี้ ควรเป็นหนังสือภาพที่เป็นภาพเหมือนรูปสัตว์ ผัก ผลไม้ สิ่งของใน
ชวี ิตประจำวนั และเขยี นเหมอื นภาพของจริงมีสีสวยงาม ขนาดใหญช่ ัดเจน เปน็ ภาพเดยี่ วๆทม่ี ชี วี ิตชีวา ไม่ควร
มีภาพหลัง หรอื ส่วนประกอบภาพทีร่ กรงุ รงั รูปเลม่ อาจทำด้วยผา้ หรือพลาสตกิ หนานมุ่ ใหเ้ ดก็ หยิบเล่นได้ เวลา
เด็กดูหนังสือภาพ พ่อแม่ควรชี้ชวนให้ดูด้วยความรักเด็กจะตอบสนองความรักของพ่อแม่ด้วยการแสดงความ
พอใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเดก็ และหนังสือภาพจงึ สง่ เสริมความสัมพนั ธ์ระหวา่ งพ่อแม่ลูกดว้ ย
เด็กอายุ 2 - 3 ปี
เด็กแต่ละคนจะเร่ิมชอบต่างกัน แล้วแต่สภาพแวดลอ้ มที่ถูกเลี้ยงดู การเลือกหนังสอื นิทานที่เหมาะกับ
เดก็ วยั น้ี ควรเปน็ หนังสอื นิทาน หรอื หนังสือภาพทีเ่ ด็กสนใจ ไม่ควรบังคับใหเ้ ดก็ ดแู ตห่ นงั สือท่ีพ่อแม่ต้องการให้
อา่ น หนังสือท่ีเหมาะสม ควรเปน็ ภาพเก่ยี วกับชวี ิตประจำวนั สัตว์ สง่ิ ของ เดก็ เลก็ ในชว่ งน้ี มีประสาทสมั ผสั ทาง
หดู มี ากหากมปี ระสบการณ์ดา้ นภาษา และเสียงทดี่ ใี นวยั นี้
เด็กจะสามารถพฒั นาศักยภาพดา้ นภาษาและดนตรีไดด้ ี โดยเฉพาะช่วงอายุ 2 - 4 ปเี ด็กมีความสนใจเสียงและ
ภาษาที่มีจังหวะเด็กบางคนจำหนังสือที่ชอบได้ทั้งเล่ม จำได้ทุกหน้า ทุกตัวอักษรเหมือนอ่านหนังสือออก เด็ก
อายุ 3 ปี มีจินตนาการสร้างสรรค์อยากรู้อยากเห็น เข้าใจเรื่องเลา่ งา่ ยๆ ชอบเรื่องซ้ำไปซ้ำมา ดังนั้นหากเด็กมี
ประสบการณท์ ดี่ ใี นชว่ งเวลานจี้ ะเป็นพ้นื ฐานในการสร้างนิสัยรักการอา่ น ของเด็กในอนาคต
เด็กอายุ 4 - 6 ปี
เด็กวัยนี้มีจินตนาการสร้างสรรค์อยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบตัวเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมว่าส่งิ นี้
มาจากไหน ทำไมจึงเปน็ เช่นนั้นเชน่ นี้เร่ิมเข้าใจความแตกต่างระหวา่ งความจริงกับเรื่องสมมุตินทิ านที่เหมาะสม
กับเด็กวัยนี้ควรเป็นนิทานที่เป็นเรื่องที่ยาวขึ้นแต่เข้าใจง่าย ส่งเสริมจินตนาการ และอิงความจริงอยู่บ้างเน้ือ
เรือ่ งสนกุ สนานน่าตดิ ตาม มีภาพประกอบทีม่ ีสีสนั สดใสสวยงามมีตัวอักษรบรรยายเน้ือเร่ืองไม่มากเกินไปและมี
ขนาดใหญ่พอสมควรใช้ภาษาง่ายๆ การอ่านนิทานให้เด็กฟังพร้อมกับชี้ชวนให้เด็กดูภาพ ในหนังสือประกอบ
จะเป็นการสรา้ งจินตนาการสร้างสรรค์ ซ่ึงเปน็ พื้นฐานสำคัญของพลังเรยี นร้จู ากการอา่ นหนังสือ
เด็กวยั 6-10 ปี
เป็นเด็กวัยที่มีกิจกรรมของโรงเรียนมากมาย ทั้งการเรียน การบ้าน เด็กๆ จะเริ่มรู้สิ่งที่เค้าสนใจจริงๆ
จังๆ เด็กจะเริ่มหาหนังสือที่ตัวเองชอบ หนังสือนิทานในช่วงวัยนี้ ควรเป็นนิทานที่ผูกเรื่องซับซ้อนขึ้นอาจมี
ภาพประกอบด้วย มีสีสันบ้างแต่ควรมีเนื้อเรื่องที่เร้าใจเด็ก จะช่วยให้เด็กใจจดใจจ่อ อ่านต่อเนื่องได้อย่างล่ืน
ไหล คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้เดินเลือกซื้อหนังสือได้เอง โดยคอยสังเกต หรือแนะนำบ้างเด็ก แต่
ละคนอาจชอบหนังสือในแนวที่แตกต่างกัน เช่นแนววิทยาศาสตร์ แนวสืบสวน ควรให้เด็กได้อ่านหนังสือ ท่ี
ตวั เองชอบ วันละอยา่ งนอ้ ย 10-15 นาที จะชว่ ยปลกู ฝงั ใหเ้ ดก็ รกั การอา่ นได้
หากเด็กพบว่าเด็กชอบหนังสือเล่มใดเป็นพิเศษก็จะให้พ่อแม่อ่านซ้ำไปมาทุกวันไม่เบื่อ ดังนั้นพ่อแม่
ควรอดทนเพื่อลูกเด็กบางคนจำข้อความในหนังสือได้ทุกคำ แม้ว่าจะมีคำบรรยายยาว ได้ทั้งเล่มซึ่งจะเป็น
ประโยชน์มากต่อพัฒนาการด้านภาษาของเดก็
หลกั การเลอื กนทิ านทเี่ หมาะกบั เดก็ ปฐมวยั
1. เหมาะสมกับวัย : เด็กในแต่ละวัยจะมีความสนใจฟังเรื่องราวต่างๆ แตกต่างกันไปตาม
ความสามารถในการรับรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับนิทานที่เหมาะสมกับเด็กอายุต่ำกวา่ 3 ปี
ควรเป็นหนังสือภาพ สมุดภาพหนังสือภาพผสมคำ นิทานที่มีบทร้อยกรอง ในขณะที่นิทานที่
เหมาะกับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ควรเป็นนิทานท่ีมเี ร่ืองราวที่เกี่ยวกับธรรมชาตินิทานเรื่องเลา่ ที่
ใหข้ ้อคิด
2. ประโยชน์ทเ่ี ด็กจะได้รับ การเลอื กหนงั สือต้องคำนงึ ถึงประโยชน์ท่ีเด็กจะได้รับในการส่งเสริม
พัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กด้วย เช่นสอนให้รู้จักคำเรียกชื่อสิ่งของต่างๆเปิดโอกาสให้
เด็กได้แสดงออกพัฒนาความคิด จินตนาการให้ความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก มีความตลกขบขันให้
ความสนุกสนานช่วยแก้ปัญหาให้กับตัวเด็ก เมื่อเปรียบเทียบตนเองกับตวั ละคร เป็นต้น การ
อ่านเรื่องราว หรือเนือ้ หาท้ังเล่มกอ่ นตดั สนิ ใจเลอื ก จึงเปน็ สิ่งสำคญั
3. เนื้อหาและลักษณะรูปเล่ม นิทานหรือหนังสือที่ดีสำหรับเด็กปฐมวัยควรเป็นเรื่องสั้นๆง่ายๆ
และไม่ซับซ้อน มีจุดเด่นของเนื่องจดุ เดียวเด็กดูภาพหรือฟังเรื่องราวเข้าใจได้ และสนุกสนาน
มีเนื้อเรื่องที่ชัดเจนชวนติดตาม เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเด็ก และใกล้ชิดตัวเด็กหรือธรรมชาติ
แวดล้อม ไม่มีการบรรยายเนื้อเรื่องควรมีลักษณะเป็นบทสนทนาโต้ตอบระหว่างตัวละคร ใช้
ภาษาที่ถูกต้องง่ายต่อความเข้าใจของเด็ก ตัวอักษรมีขนาดใหญ่ ใช้สีเข้มอ่านได้ชัดเจนมี
ภาพประกอบที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง เป็นภาพที่มีสีสันสวยงามมีชีวิตชีวาส่วนใหญ่จะเป็น
ภาพเขียนหรือวาดมากกว่าภาพถ่าย มรี ปู เล่มทแ่ี ข็งแรงทนทานขนาดพอเหมาะกับมือเด็ก ไม่
จำเป็นตอ้ งเปน็ รปู ส่เี หลี่ยมเสมอไปและมีจำนวนหนา้ ประมาณ 10-20 หนา้
วธิ กี ารเล่านิทานหรอื เรื่องราวสำหรบั เด็ก
เมื่อเลือกนิทานหรือเรื่องราวที่เหมาะสมกับวัยของเด็กได้แล้ว วิธีการเล่านิทานหรือเรื่องราว เพื่อให้
เด็กเกิดความสนใจติดตามฟังเนื้อเรื่องจนจบ จำเป็นต้องทำให้เหมาะสมกับเรื่องที่จะเล่าด้วยการเล่านิทานที่
นิยมมี 2 วธิ ี ดังน้ี
1.การเล่าเรื่องปากเปลา่ ไม่มีอุปกรณ์ : เป็นการเล่านิทานด้วยการบอกเล่าด้วยน้ำเสียงและลลี าของผู้
เลา่ ซง่ึ มีรายละเอียดดังน้ี
• การขึ้นต้นเรื่องที่จะเล่า ควรดึงดูดความสนใจเด็กโดยค่อยเริ่มเล่าด้วยเสียงชัดเจน
ลลี าของการเลา่ ชา้ ๆ และเรม่ิ เร็วขึน้ จนเป็นการเล่าด้วยจังหวะปกติ
• เสียงที่ใช้ควรดัง และเป็นประโยคสั้นๆได้ใจความการเล่าดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่
ควรเว้นจังหวะการเล่านิทานให้นานจะทำให้เด็กเบื่อ อีกทั้งไม่ควรมีคำถาม หรือ
คำพดู อ่นื ๆทีเ่ ปน็ การขัดจังหวะทำใหเ้ ด็กหมดสนุก
• การใช้นำ้ เสียง สหี น้า ท่าทาง แสดงให้สอดคล้องกบั ลักษณะของตวั ละคร ไม่ควรพูด
เนอื ยๆ เรอื่ ยๆ เพราะทำใหข้ าดความต่ืนเต้น
• อุ้มเด็กวางบนตัก โอบกอดเด็กขณะเล่า หรือถ้าเล่าให้เด็กหลายคนฟัง อาจจะน่ั ง
เก้าอีใ้ ห้เหมาะสมกบั สายตาเด็ก
• ใช้เวลาในการเลา่ ไม่ควรเกิน 15 นาที เพราะเดก็ มคี วามสนใจในช่วงเวลาส้ันๆ
• ให้โอกาสเด็กซักถาม แสดงความคิดเห็น
2.การเล่าเรื่องโดยมีอุปกรณ์ช่วย เช่น สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กเช่น สัตว์ พืช วัสดุเหลือใช้ เช่น กล่อง
กระดาษ กงิ่ ไม้
คุณค่าของนิทาน
1.ใหค้ วามรู้เก่ียวกับวฒั นธรรมของเจ้าของนิทาน เช่น ความรู้เก่ียวกบั ชีวิตความเปน็ อยู่ จารีตประเพณี
ความเช่อื คา่ นยิ ม สภาพเศรษฐกจิ ภมู ปิ ระเทศ และถน่ิ ฐานบา้ นเรอื น ทงั้ รูปแบบการเลา่ นิทานทีใ่ ชค้ ำประพนั ธ์
เข้ามาชว่ ย เช่น แหล่ เทศน์ เสภา ยงั สรา้ งความงามดา้ นรูปแบบอกี โสดหนึง่ ดงั นน้ั หากเยาวชนไดเ้ รียนรนู้ ิทาน
พืน้ บา้ นของตนจึงเปน็ ช่องทางในการร้ตู นเอง สามารถอธบิ ายตนเองได้ รวมทั้งอาจจะบอกได้ถึงข้อดีและ
ขอ้ จำกดั ในวัฒนธรรมนน้ั ๆ ของตนได้
2.ใหค้ วามสนุกสนานเพลิด เพลิน ปกตแิ ล้วผเู้ ลา่ นทิ านมักเป็นผู้ใหญห่ รอื ผมู้ ปี ระสบ การณ์ และผฟู้ งั
มกั จะเปน็ เดก็ หรือมีประสบการณน์ ้อยกวา่ การเลา่ นิทานพ้ืนบา้ นเป็นกิจกรรมทยี่ งั ความชื่นชอบในผู้ฟงั ทุกหมู่
ทกุ เหล่า ปัจจบุ นั การเลา่ นิทานก็ยงั มีอยทู่ ัว่ ไป เพยี งเปล่ยี นไปตามสถานการณห์ รือผู้ฟงั เท่านน้ั
3.สอนหรือสอดแทรกศีลธรรม จรยิ ธรรม คณุ ธรรม หรือใหค้ ตเิ ตอื นใจ เช่น นิทานชาดก นิทานอสี ป
นทิ านสุภาษติ นทิ านในศาสนาตา่ งๆ นิทานเหลา่ นลี้ ว้ นสอนใหผ้ ฟู้ งั ได้ตระหนักถงึ คณุ ธรรมทพี่ งึ ประสงค์ท้งั ทาง
โลกและทางธรรม เชน่ สอนให้ไมเ่ ห็นแกต่ วั สอนใหย้ ดึ มัน่ ในพระผ้เู ป็นเจา้ สอนใหร้ ะวังการใชค้ ำพดู ฯลฯ
กระตุ้นความเป็นวีรบรุ ษุ พัฒนาศรัทธาทีม่ ตี ่อศาสนา และเพื่อหลบหลกี ความจำเจในชีวิตประจำวัน มบี ทบาท
สำคัญท้ังในด้านการให้การศึกษา ให้ความบนั เทงิ และเปน็ แบบอย่างพฤติกรรมท่ีสงั คม วัฒนธรรมแตล่ ะแห่ง
ประสงค์
นิทานให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน นิทานช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว นิทานให้การศึกษาและ
เสริมสร้างจนิ ตนาการ นิทานให้ข้อคิดและคติเตือนใจ นทิ านช่วยสะท้อนให้เหน็ สภาพของสังคมในอดีตหลายๆ
ดา้ น
บรรณานุกรม
การแบง่ ประเภทของนทิ าน. (2559). [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก
https://sites.google.com/site/pisineekan48049/page
นทิ านสำหรับเด็กปฐมวัย. (2551). [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก :
https://www.gotoknow.org/posts/214750
บ้านจอมยุทธ. 2543. ความหมายของนทิ าน. [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา
https://sites.google.com/site/phasathaionline/hnwy-kar-reiyn-ru9