!!
Pronouns
By…Teacher Yodcheewan
Pronouns
English by
Teacher
Yodcheewan
ก
คำนำ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการ
เรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเป็นสื่อ
นวัตกรรมที่ครบถ้วนทั้งด้านเนื้อหาสาระ เป็นขั้นตอน เข้าใจง่ายในเรื่อง
Pronouns ความหมาย หลักการใช้ ตัวอย่างประโยค และการเเต่งประโยค
สำหรับครูสามารถนำไปประกอบการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี สำหรับ
นักเรียนใช้เป็นเเนวทางในการศึกษาค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เรื่อง
Pronouns เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนและจะ
สามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาและนำไปปรับใช้ไก้ในชีวิตประจำวัน
ผู้จัดทำ
นางสาวยอดชีวัน คันธี
สารบัญ ข
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
Pronoun คืออะไร 1
ประเภทของ Pronoun 2-5
หน้าที่และการใช้งาน Pronoun 6-11
Pronoun Chart 12
แบบฝึกหัด 13-17
เฉลยแบบฝึกหัด 18-22
บรรณานุกรม 23
ประวัติผู้เขียน ค
1
Pronoun คืออะไร?
Pronoun (คำสรรพนาม) คือ คำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อหลีก
เลี่ยงการกล่าวถึงซ้ำ หรือแทนสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วระหว่างผู้พูด
ผู้ฟัง หรือแทนสิ่งของที่ยังไม่รู้ หรือไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร
คำสรรพนาม (pronouns ) แยกออกเป็น 7 ชนิด คือ
1. Personal Pronoun ( บุรุษสรรพนาม )
เช่น I, you, we, he , she ,it, they
2. Possessive Pronoun ( สรรพนามเจ้าของ )
เช่น mine, yours, his, hers, its,theirs, ours
3. Reflexive Pronouns ( สรรพนามตนเอง ) เป็นคำที่มี - self
ลงท้าย
เช่น myself, yourself,ourselves
4. Definite Pronoun ( หรือ Demonstrative Pronouns
สรรพนามเจาะจง )
เช่น this, that, these, those, one, such, the same
5. Indefinite Pronoun ( สรรพนามไม่เจาะจง )
เช่น all, some, any, somebody, something, someone
6. Interrogative Pronoun ( สรรพนามคำถาม )
เช่น Who, Which, What
7. Relative Pronoun ( สรรพนามเชื่อมความ )
เช่น who, which, that
2
ประเภทของ Pronoun
1. Personal Pronoun (บุรุษสรรพนาม)
Personal Pronoun คือสรรพนามที่ใช้แทนบุคคลหรือสิ่งของ
ในการพูดสนทนา มี 3 บุรุษ คือ
- บุรุษที่ 1 คือ ตัวผู้พูด ได้แก่ I และ we
- บุรุษที่ 2 คือ ตัวผู้ฟัง ได้แก่ you
- บุรุษที่ 3 คือ ผู้ที่พูดถึงหรือสิ่งที่พูดถึง ได้แก่ he she และ it
3
ประเภทของ Pronoun
2. Possessive Pronoun (สรรพนามเจ้าของ)
Possessive Pronoun คือ สรรพนามที่ใช้แสดงความเป็น
เจ้าของ ได้แก่ mine, yours, his, hers, its, theirs, ours
3. Reflexive Pronouns (สรรพนามตนเอง)
Reflexive Pronouns คือ สรรพนามที่อ้างถึงตัวของ
ประธานของประโยคเอง และถูกนำมาใช้เป็นกรรมของประโยค
เพื่อเน้นว่าตัวประธานนั้นทำกริยาบางอย่างต่อตัวเอง (Direct
Object) หรือทำกริยาหรือกิจกรรมบางอย่างนั้นให้ตัวเอง
(Indirect Object) ได้แก่ myself, yourself, himself,
herself, yourselves, ourselves. themselves, itself
จะใช้รูป -self หรือ -selves ขึ้นอยู่กับว่าประธานเป็นรูป
เอกพจน์ (Single Subject) หรือว่าพหูพจน์ (Plural
Subject)
4. Definite Pronoun (สรรพนามชี้เฉพาะเจาะจง)
Definite Pronouns หรือ Demonstrative Pronouns
คือ สรรพนามที่บ่งชี้ชัดเจนว่าใช้แทนสิ่งใด เช่น this, that,
these, those, one, ones, such, the same, the
former, the latter
ประเภทของ Pronoun
5. Indefinite Pronoun (สรรพนามไม่เจาะจง)
Indefinite Pronoun คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็น
คนใด สิ่งใด หรือที่ใด โดยสรรพนามประเภทนี้ส่วนมากนับเป็น
เอกพจน์ (singular) แต่ก็มีบางคำเป็นพหูพจน์ (plural) ด้วย
เช่น one, all, some, any, somebody, something,
someone, many, both
6. Interrogative Pronoun (สรรพนามคำถาม)
คือ สรรพนามที่ใช้ในการถามคำถาม ได้แก่ Who, Which,
What
7. Relative pronoun (สรรพนามเชื่อมความ)
Relative pronoun คือ สรรพนามที่ใช้แทนคำนามในประโยค
หน้าและความประโยคหลังให้มีความหมายไปทางเดียวกัน ได้แก่
Who, Whom, Whose, Which, That
5
หน้าที่เเละการใช้งาน
Pronoun
1. Personal Pronoun
Subject Pronoun (สรรพนามรูปประธาน) ทำหน้าที่เป็นประธาน
ได้แก่ I, you, we, he, she, it, they
Ex. : She is my friend from England.
(เธอเป็นเพื่อนของฉันมาจากอังกฤษ)
Ex. : It is a very interesting movie.
(มันเป็นหนังที่น่าสนใจมาก ๆ)
Object Pronoun (สรรพนามรูปกรรม) ทำหน้าที่เป็นกรรม ได้แก่
me, you, us, them, him, her, it โดยจะตามหลังคำกริยาหรือคำ
บุพบท
Ex. : She is going to meet me next week.
(เธอจะมาพบฉันสัปดาห์หน้า)
*me เป็น Object Pronoun ตามหลังกริยา meet
Ex. : Mr.Wilson talked with him about the project.
(คุณวิลสันพู ดกับเขาเกี่ยวกับโครงการ)
* him เป็น Object Pronoun ตามหลังบุพบท with
• หมายเหตุ : ถ้ากริยาเป็น verb to be สรรพนามที่ตามหลังจะใช้
เป็นประธานหรือเป็นกรรม ให้พิจารณาว่า สรรพนามในประโยคนั้นอยู่
ในรูปผู้กระทำ หรือ ผู้ถูกกระทำ เช่น
- It was she who came here yesterday.
(เธอคนนึ้ ที่มาเมื่อวานนี้) *ใช้ she ที่เป็นรูปประธานเพราะเป็นผู้กระทำ
- It was her whom you met at the party last night.
(เธอคนนี้ที่คุณพบที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้) *ใช้ her ที่เป็นรูปกรรมเพราะ
เป็นกรรมของ you met
หน้าที่เเละการใช้งาน
Pronoun 6
2. Possessive Pronoun
Possessive Form สรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ แบ่ง
เป็น 2 รูปแบบ คือ
1.) Possessive Adjective สรรพนามใช้แสดงความเป็น
เจ้าของทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ ได้แก่ my, your, our,
their, his, her, its จะต้องตามหลังด้วยคำนามเสมอ
Ex. : My brother is an engineer.
(น้องชายเขาฉันเป็นวิศวกร)
Ex. : His parents were gone.
(พ่อแม่ของเขาได้จากไปแล้ว)
2.) Possessive Pronoun สรรพนามที่ใช้แทนคำนามเพื่อ
แสดงความเป็นเจ้าของ ได้แก่ mine, yours, his, hers, its,
yours, ours, theirs รูปแบบนี้ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง
สามารถใช้เดี่ยว ๆ ได้เลย
Ex. : This iPad is mine.
(ไอแพดเครื่องนี้คือของฉัน)
Ex. : That house is ours.
(บ้านหลังนั้นเป็นของพวกเรา)
7
หน้าที่เเละการใช้งาน
Pronoun
3. Reflexive Pronoun
1.) ใช้เพื่อเน้นประธานให้เห็นว่าเป็นผู้กระทำการนั้นๆ ให้วางไว้
หลังประธานนั้น ถ้าต้องการเน้นกรรม (object ) ให้วางหลัง
กรรม เช่น
Ex. : She herself doesn't think she'll get the job.
The film itself wasn't very good but I like the
music.
Ex. : I spoke to Mr.Wilson himself. วางหลังคำกริยา
2.) เมื่อกริยาของประโยคเป็นกริยาที่ทำต่อตัวประธานเอง
Ex. : They blamed themselves for the accident.
พวกเขาตำหนิตนเองในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ( ตามหลังกริยา
blamed )
Ex. : You are not yourself today. วันนี้คุณไม่เป็นตัว
ของคุณเอง ( ตามหลังกริยา are )
3.) เมื่อต้องการจะเน้นว่า ประธานเป็นผู้ทำกิจกรรมนั้นเอง
Ex. : Who repaired your bicycle for you? Nobody,
I repaired it myself. ใครซ่อมรถจักรยานให้คุณ ไม่มีใคร
ทำให้ฉันซ่อมเอง
Ex. : I'm not going to do it for you. You can do it
yourself. ฉันจะไม่ทำ( อะไรสักอย่างที่รู้กันอยู่ )ให้ คุณต้องทำ
เอง
8
หน้าที่เเละการใช้งาน
Pronoun
4. Definite Pronoun
Definite Pronoun ที่สำคัญได้แก่ This, That, These,
Those
This และ That ใช้แทนนามที่เป็นเอกพจน์
These และ These ใช้แทนคำนามพหูพจน์ โดยมีราย
ละเอียดดังต่อไปนี้
This – นี้
ใช้แทนคำนามที่เป็นเอกพจน์และสิ่งนั้นต้องอยู่ใกล้ตัวผู้พู ด
ใช้แทนได้ทั้งประธาน(subject) และกรรม(object)
Ex. : This is an interesting book.
That – นั่น
ใช้แทนนามที่เป็นเอกพจน์และสิ่งนั้นต้องอยู่ห่างไกลตัวผู้พู ด
ใช้แทนได้ทั้งประธาน(subject) และกรรม(object)
Ex. : That is the thing I need.
These – เหล่านี้
ใช้แทนคำนามที่เป็นเอกพจน์และสิ่งนั้นต้องอยู่ใกล้ตัวผู้พู ด
ใช้แทนได้ทั้งประธาน(subject) และกรรม(object)
Ex. : These are students.
Those – เหล่านั้น
ใช้แทนนามที่เป็นเอกพจน์และสิ่งนั้นต้องอยู่ห่างไกลตัวผู้พู ด
ใช้แทนได้ทั้งประธาน(subject) และกรรม(object)
Ex : Those are foreigners.
9
หน้าที่เเละการใช้งาน
Pronoun
5. Indefinite Pronoun
คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นคนใด สิ่งใด หรือที่
ใด โดยสรรพนามประเภทนี้ส่วนมากนับเป็นเอกพจน์ (singular)
แต่ก็มีบางคำเป็นพหูพจน์ (plural) ด้วย เช่น one, all, some,
any, somebody, something, someone, many, both
เช่น
Ex. : Everybody is here for celebrating Christmas
Day together.
(ทุกคนมาฉลองวันคริสมาตส์ด้วยกัน)
Ex. : Many have suffered from starvation.
(หลายคนต้องทนทุกข์ทรมานจากความอดอยาก)
6. Interrogative pronoun
คำสรรพนามใช้แทนคำนามในการแสดงคำถาม ที่ไม่มีคำ
นามตามหลัง (ถ้ามีคำนามตามหลังจะเป็น Adjective)
ประกอบด้วยWho, Whom, Whose, What และ Which
หมายเหตุ : คำสรรพนามเหล่านี้จะใช้แทนคำนามอยู่แล้วจึงไม่ได้
ต้องมีคำนามตามหลัง ถ้ามคำนามตามหลังจะหลายเป็นคำ
คุณศัพท์ทันที
Ex. : Whose car is that? (รถคันนั้นเป็นของใคร?)
Ex. : Which candy is gone? (ลูกอมอันไหนหายไป?)
10
หน้าที่และการใช้งาน
Pronoun
7. Relative Pronoun
คำสรรพนามที่เอาไว้ใช้ขยายประโยคให้ประธานหรือกรรมใน
ประโยคยาวขึ้น และมีรายละเอียดมากขึ้น ดังนี้
1.) who
ใช้เมื่อพูดถึงคน เราจะใช้คำว่า who ตามหลังคำนามด้าน
หน้าที่เกี่ยวกับคน และคำว่า who จะต้องทำหน้าที่เป็นประธาน
ของกริยาที่ตามมาด้านหลัง เช่น Rihanna is a singer who
owns a cosmetics brand.
2.) whom
ใช้เมื่อพูดถึงคน แต่เป็นกรรมของคำกริยาที่ตามหลัง
หมายความว่าเราจะใช้คำ who และ whom สลับกันไม่ได้ เช่น
Dr. Watson is a committee whom the board likes.
3.) which
ใช้เพื่อขยายสิ่งของหรือสัตว์ ซึ่งจะมีความหมายเหมือนกับคำ
that แต่เป็นทางการมากกว่า เหมาะสำหรับการเขียนเรียงความ
เช่น This species of fish, which is found in
Thailand, is rare.
4.) where
ใช้เพื่อบอกสถานที่ เช่น The park where I met you
was closed.
5.) that
ใช้เมื่อพูดถึงคน สัตว์ และสิ่งของ เช่น Cookies that I
like were sold out.
11
Pronoun Chart
12
Let’s
Practice
13
Exercise 1
Directions : Fill in the blanks with the correct pronouns.
จงเติมคำสรรพนามลงในช่องว่าง
14
Exercise 1
15
Exercise 2
Directions : Fill in the blanks with the correct pronouns.
จงเติมคาสรรพนามลงในช่องว่าง
Exercise 2 16
17
Answer
Key
Answer Key 1 18
19
Answer Key 1
20
Answer Key 2
21
Answer Key 2
22
บรรณานุกรม
ครูบ้านนอก. 2551. Pronouns Types. (ออนไลน์). เข้าถึงข้อมูล
ได้จาก : https://www.kroobannok.com/692. (วันที่ค้น
ข้อมูล 26 กุมภาพันธ์ 2565)
English Daily. 2558. หลักการใช้ Pronoun ฉบับเข้าใจง่าย.
(ออนไลน์). เข้าถึงข้อมูลได้จาก
:https://www.dailyenglish.in.th/pronoun/. (วันที่ค้นข้อมูล
26 กุมภาพันธ์ 2565)
True ปลูกปัญญา. 2564. หลักการใช้ Pronoun
คำสรรพนาม ในภาษาอังกฤษ. (ออนไลน์). เข้าถึงข้อมูลได้จาก
:https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content
/90712/-laneng-lan-. (วันที่ค้นข้อมูล 26 กุมภาพันธ์ 2565)
ค
ประวัติผู้เขียน
ชื่อ : นางสาวยอดชีวัน คันธี
ชื่อเล่น : ต้อกแต้ก อายุ : 21 ปี
กำลังศึกษา : ชั้นปีที่ 2 คณะครุศาสตร์
สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
: 084-5094648
: พอ ใจ
: taekkersone_285
: yodcheewan8312@gmail.com
!!
Pronouns
By…Teacher Yodcheewan
Somtimes you need to fall
before you can fly.