The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

6 ธมนวรรณ 4-2 ทำไมคำพูดถึงมีผลต่อการใช้ชีวิตและจิตใจ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tamonwan.5219, 2022-02-09 06:10:49

6 ธมนวรรณ 4-2 ทำไมคำพูดถึงมีผลต่อการใช้ชีวิตและจิตใจ

6 ธมนวรรณ 4-2 ทำไมคำพูดถึงมีผลต่อการใช้ชีวิตและจิตใจ

ทำไมคำ
พูดถึงมี
อิทธิพล
ต่อการใช้
ชีวิตและ
จิตใจ

เรื่องราวที่ทำให้อยากเล่าเรื่องนี้

ตั้งแต่ตอนเด็กๆ มีเรื่องราวมากมาย พอเราโตขึ้นความฝันเราก็เปลี่ยนไปเรา
ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี ไม่ได้อยากเป็นหมอจริง แต่ด้วยความที่
หรือไม่ดี ใครมาพู ดยุยงอะไรหรือมาพู ด พ่ อ แ ม่ ฟัง ค ว า ม จ า ก ค น อื่ น ม า ด้ ว ย ค ว า ม
ให้เราเปลี่ยนความคิดจากเดิมที่มันดีอยู่ คิดที่อยากจะให้เรียนทางหมอก็ยังไม่
แล้วเราก็เชื่อหมด บางครั้งเราพยายาม เปลี่ยนแปลง ตอนนั้นพยายามจะไม่ฟัง
จะไม่เชื่อแต่เวลาที่ใครต่อใครมาพู ดโน้ม คำพู ดใครทั้งนั้นเพราะอยากตัดสินใจ
น้าวบ่อยๆก็ทำให้เราเชื่อเขาไปเต็มๆเลย ด้วยตัวเองทั้งเรื่องเรียนและเรื่องต่างๆ
ตอนเด็กๆเคยฝันว่าอยากเป็นหมอ เ ร า จึ ง เ ลื อ ก ที่ จ ะ เ ชื่ อ เ พื่ อ น ม า ก ก ว่ า
เพราะค่านิยมตอนนั้นคือเป็นหมอก็คือ ครอบครัว เพราะคิดว่าเพื่อนเป็นคนที่
อนาคตไกลได้เงินเดือนดี และเป็นหน้า ให้คำปรึกษาได้ดีที่สุด ณ.ตอนนั้น จนมี
เป็นตาในสังคม เป็นสิ่งที่พ่อแม่อยากให้ วันนึงได้ไปพู ดคุยกับพ่อแม่ และท่านก็
เป็นมากที่สุด เราไม่เคยคิดอยากจะเป็น เข้าใจในความคิดเรามากกว่าถึงแม้มัน
อ ย่ า ง อื่ น เ ล ย เ พ ร า ะ พ่ อ แ ม่ อ ย า ก ใ ห้ เ ป็ น จะไม่ได้ดีขึ้นขนาดนั้น แต่ท่านก็เลือกที่
อันนี้ จะรับฟังเรามากขึ้นแล้ว จากแต่ก่อนที่
รับฟังแต่ความคิดของคนอื่น

คำพูดของคนมีอิทธิพลต่อใจเรา

“คำพูด” นั้นมีอิทธิพลมากมาย
มันคือสารที่สามารถถ่ายทอดได้ทุก
สิ่งและทุกอย่าง คำพูดเป็นทั้งปัจจัย
สำคัญที่ทำให่เกิดการเปลี่ยนแปลง
ทั้งหมดทั้งมวลเพียงกระทำด้วย
วาจาที่ส่งออกไป คำพูดก็เหมือนกับ
ดาบสองคม เวลาที่ใครบอกเล่า
อะไรให้แก่เราได้รับรู้ มันก็จะมีทั้งดี
และไม่ดี คำพูดของคนอื่นจึงมี
อิทธิพลต่อเรามาก

อย่าปล่อยให้คำพู ดของคนอื่ นมามี
อิ ท ธิ พ ล ต่ อ ชี วิ ต เ ร า

สิ่งที่ต้องบอกคืออย่าให้คำพู ดของใครเข้ามามีอิทธิพลกับ
จิตใจของเราขนาดนั้น สิ่งที่เราควรทำหรือควรคิด
เมื่ อได้รับเสียงคำพู ดจากคนอื่ นที่กระทบกับจิตใจเรา ควร
ตั้งสติก่อน และตระหนักถึงดังนี้

รับรู้ และแก้ไข เราไม่สามารถห้ามใครพูดได้

อย่าปล่อยให้เกิดความทุกข์ สิ่งที่เราได้รับหรือได้ยิน เราต้องรับรู้ว่าความคิดต่างเป็นเรื่องปกติ ร้อยพ่อพัน
มาอาจเป็ นความตริงหรือความเห็นของคนอื่ นที่มีต่อ แม่ ทุกคนไม่อาจมีความเห็นที่ตรงกันได้ การขัดแย้ง
ตัวเรา แต่เมื่อเราได้ยินและรับรู้สิ่งเหล่านั้นก่อนอื่น เรา หรือความไม่พอใจซึ่งกันและกันอาจเกิดขึ้นได้ เมื่อ
ควรประเมินให้ดีเสียก่อนว่า อะไรที่สมควรแก้ไข หรือ ทัศนคติไม่ตรงกัน หรือการกระทำของใครไม่ตรงใจเรา
ปล่อยวางเอาไว้ตรงนั้นมากกว่าการเก็บมาคิดไม่รู้จบ หรือไม่ตรงใจของเขา แท้จริงแล้วความต่างคือสิ่งที่เรา
จะต้องเจอทุกที่ทุกเวลาไม่สามารถเลี่ยงได้หรอกใน
คำพู ดของคนอื่ นเป็นเพียงความคิดเห็น ชีวิตนี้ สิ่งที่เราจะทำให้ได้คือ ยอมรับในความต่าง และ
เข้าใจว่าทุกคนไม่อาจเป็ นไปในแบบที่เราต้องการได้
จำไว้ว่า ความคิดเห็น ไม่ใช่ ข้อเท็จจริงไม่ใช่สิ่งที่สามารถ
ตัดสินชีวิตของเราได้คนอื่นอาจแสดงความคิดเห็นถึงเราได้ ตั้งใจทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
เราไม่สามารถห้ามคนเหล่านั้นได้ ไม่ว่าจะต่อหน้ าหรือลับ
หลัง แต่เมื่อได้ยินมาหากเราไม่พอใจ และจะเดินเข้าไป มีบ้าง… บางครั้งที่คุณมักจะถูกต่อว่าหรือนินทาใน
ด่าทอหรือต่อว่า อาจไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาที่ก่อให้เกิดความ ทางไม่ดี ตรงนี้ก็อาจสมเหตุสมผลว่าทำไมคุณถึง
สุขนัก การดับทุกข์ที่แท้จริงต้องเริ่มจากจิตใจของเราเองตั้ง ตกเป็นประเด็นในการพูดถึงของใครบางคนได้ ถึง
สติและคิดว่า คำพูด ความเห็น ทัศนคติจองคนเหล่านั้น ก็ แม้บางเรื่องเขาไม่ควรจะพูดเลยก็ตาม แต่ถ้าหาก
เป็นความคิดของคนเหล่านั้น และมันไม่สามารถมาบ่งการ คุณตั้งใจทำดีที่สุดแล้ว แต่เขาก็ยังคอยพูดถึงคุณใน
ชีวิตของคุณได้ ทางไม่ดี หรือบั่นทอนจิตใจคุณอยู่ คุณไม่จำเป็น
ต้องแคร์เสียงนั้นเลย คุณทำดีที่สุดแล้วหนิ จริง
ไหม? จงภาคภูมิใจในตนเองเป็นดีที่สุด และหัด
ชื่นชมกับความตั้งใจของตัวเองบ้างเวลาทำอะไร
เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองสู้ต่อไปในวันข้างหน้ า

แคร์เป็นบางอย่าง ไม่ใช่แคร์ทุกอย่าง

การแคร์ความรู้สึกของคนอื่ นหรือความนึกคิดของเขา เป็นเรื่องที่ดีในบางครา แต่ไม่ใช่ทุกครา ต้องดู
ความเหมาะสม อย่าลืมดูแลความรู้สึกของตัวเองบ้าง มิฉะนั้นจะเกิดทุกข์ภายในจิตใจเนื่ องจากแคร์เสียงของ
คนอื่ นมากเกินไป มันไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่คุณต้องรักตัวเองบ้างนะ

ทำไมถึงเลือกที่จะเชื่ อคำพู ดของ
เพื่ อนมากกว่าครอบครัว

ต้องบอกก่อนว่าดิฉันเป็นคนที่เลือกเชื่ อเพื่ อนมากกว่าครอบครัว
เหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าครอบครัวไม่สำคัญนะ แต่ ณ.ตอนนั้นไม่ว่าพ่อแม่จะ
สอนอะไรมาเราก็รู้สึกขัดหูขัดตาไปหมด พ่อแม่ถึงจะเคยเป็นวัยรุ่นมา
ก่อนก็จริงแต่มันก็นานมาแล้ว ในเรื่องของความคิด ทัศนคติ และปัญหา
ต่างๆของสมัยนี้กับสมัยนั้รมันแตกต่างกันมาก พ่อแม่มักจะใช้คำว่าสั่ง
สอน และไม่ได้รับฟังเรา หรือแก้ปัญหาให้เรามากเท่าที่ควร และเวลาถูก
สั่งสอนใครก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ แต่เวลาที่ได้คุยกับเพื่ อนมันกับกลาย
เ ป็ น ว่ า ส า ม า ร ถ ป รึก ษ า กั น ไ ด้ ทุ ก เ รื่ อ ง ไ ม่ ว่ า จ ะ เ ป็ น เ รื่ อ ง เ รีย น ที่ คุ ย กั น ว่ า
อยากเรียนที่ไหน อยากทำอาชีพอะไร รวมไปถึงการถามสารทุกข์สุกดิบ
ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เครียดมั้ย ปัญหาบางปัญหาเราก็ไม่กล้าพู ดกับพ่อแม่
เพราะอาจจะทำให้เกิดการทะเลาะกันตามมา เราจึงเลือกที่จะหันมา
ปรึกษาเพื่ อน

วิธีการแก้ไขปั ญหา

มานั่งคุยปรับความเข้าใจกัน ให้ตรงกันในทุกๆเรื่องที่ค้างคาใจ
พูดคุยด้วยถ้อยคำที่สุภาพและไม่ตะโกน หรือพูดด้วยถ้อยคำที่นำมาสู่
การทะเลาะวิวาทกัน

คำพูดแง่ลบ ที่ควรเลิกบอกกับตัวเอง

1. มันยากเกินไป
เป็ นประโยคที่ดูเหมือนต้องการจะบอกกับตัวเองว่ายัง

ไงๆ ฉันก็ทำไม่ได้หรอก ทั้งที่ยังไม่ได้ลองลงมือทำมันเลย
สักนิด เพราะบางทีเรื่องบางเรื่องที่ดูยาก อาจจะกลายเป็น
เรื่ องที่ง่ายถ้าเราได้ลองเปิ ดใจทำมัน

2.ขี้เกียจ
เจ้า “ ความขี้เกียจ ” เนี่ยแหละ ที่เป็นศัตรูตัวสำคัญ

และคอยจ้องแต่จะขัดขวางความสำเร็จของใครหลายคนให้
ล้มเหลวกันมานักต่อนักแล้ว ซึ่งก็อดยอมรับไม่ได้เหมือนกัน
ว่า มันเป็นภัยร้ายที่คอยแอบแฝงอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน
จริงๆ ทางที่ดี เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มขี้เกียจ ก็ควรหาแรง
บันดาลใจดีๆ ให้กับตัวเอง หรือไม่ก็ควรที่จะลืม หรือสลัดมัน
ทิ้งออกไป

3.เอาไว้ก่อน
อย่ามัวแต่ผลัดวันประกันพรุ่ง สุดท้ายแล้วก็ทำให้ไม่

ได้ลงมือทำ และพอจะหันกลับมาทำ ก็ดูว่าจะสายเกินแก้ไข
ไปซะแล้ว

4.น่าเบื่อ
การพูดว่า เรื่องนั้น เรื่องนี้ ดูจะเป็นเรื่องที่ “ น่าเบื่อ ”

สุดๆ จะว่าไปแล้ว อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีในการช่วยให้หาย
เบื่อได้สักเท่าไรนัก
เพราะมันจะกลับกลายเป็นว่า เมื่อยิ่งพูดก็จะยิ่งทำให้เราเกิด
ความรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ าขึ้นมาจริงๆ และส่ง
ผลให้ไม่มีแรงบันดาลใจที่จะลงมือทำให้อะไรๆ มันออกมาดี
ได้อีกด้วย

5.ฉันผิดเอง
เราไม่จำเป็ นที่จะต้องนำความผิดโยนเข้ามาใส่ตัวเอง

ไปหมดซะทุกเรื่อง เพราะนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
มา หรือเป็นที่ดูดีในสายตาคนอื่นแล้ว ยังจะดูเป็นเหมือน
พวกคนอ่อนแอ ที่เอะอะก็ชอบเอาปัญหาเข้ามาใส่ตัว

ก า ร บู ล ลี่

บู ล ลี่ คื อ อ ะ ไ ร ? ก า ร บู ล ลี่ มี กี่ ป ร ะ เ ภ ท ?

การกลั่นแกล้งที่แสดงออกด้วยคำพูด หรือ มี 3 ประเภท
พฤติกรรมที่ก้าวร้าวต่อผู้อื่น ซึ่งมักเกิดขึ้นในสังคม การกลั่นแกล้งทางวาจา :
ที่มีช่องว่างระหว่างผู้ที่มีพละกำลัง หรืออำนาจ การสื่อสาร เพื่อกลั่นแกล้ง เช่น ล้อ
มากกว่าแสดงออกแก่ผู้ที่อ่อนแอกว่า และมีโอกาส
เกิดขึ้นซ้ำๆ โดยพบการบูลลี่ในโรงเรียน และในที่ เลียน,พู ดจาเหน็บแนม,ขู่ว่าจะทำอันตราย
ทำงานมาก นำไปสู่ปัญหาสภาพทางจิตใจที่ร้ายแรง การกลั่นแกล้งทางสังคม:
ได้ในอนาคต ทำให้เสียหน้า หรือแกล้งให้สูญเสียความ

ก า ร รั บ มื อ กั บ ก า ร บู ล ลี่ สัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างตั้งใจ เช่น ไล่เพื่อนออกจาก
กลุ่ม , ทำให้เกิดความอับอายในที่สาธารณะ
- ตอบโต้อย่างสุภาพ ด้วยคำพูดและการแสดงออกว่าไม่
ได้รู้สึกสนุก การกลั่นแกล้งทางกายภาพ:
- ใช้ความนิ่งเข้าสยบการบูลลี่ การนิ่งเฉยต่อการบูลลี่ การกลั่นแกล้งที่เกี่ยวข้องกับร่างกาย เช่น
ช่วยให้เรื่องการบูลลี่หายไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้
กระทำมักจะมีเจตนาให้เหยื่อตอบโต้ เพื่อเพิ่มความสะใจ การทุบตีทำร้ายร่างกาย
แต่ถ้าเราเลือเลือกที่จะนิ่งเฉย ผู้กระทำอาจจะรู้สึกเบื่อไป
เองในที่สุด
- ปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ หลายครั้งที่กา
รบูลลี่ส้ำเส้นเหยื่อจนกัดกินจิตใจ สร้างบาดแผล จน
ผู้ถูกกระทำไม่สามารถอยู่ในสังคมได้อีกต่อไป บาง
ครั้งอาจถึงเป็นโรคซึมเศร้า แบะจบลงด้วยการฆ่า
ตัวตาย ดังนั้นทางออกที่ดีคือการเข้าพบผู้
เชี่ยวชาญ


Click to View FlipBook Version