ขุมทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ หน้าท่ี 1 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถนิ่ ในเมอื งลา้ นนา
ผเู้ รยี บเรยี ง
ศ.ดร. พวงรัตน์ ขจิตวชิ ยานุกลู
กฤตญิ า กวนิ อฑั ฒ์์
สุทธิตา โคลดประโคน
ศิลปกรรม
มนตล์ ดา พิมพา
จัดทารูปเลม่
กฤตญิ า กวินอัฑฒ์์
มนตล์ ดา พมิ พา
พมิ พค์ รงั้ ที่ 1 กรกฎาคม 2565
ผูส้ นบั สนนุ
สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสขุ ภาพ
สานักสรา้ งเสรมิ วถิ ชี วี ติ สุขภาวะ (สานัก 5)
ภาคเหนอื มคี วามหลากหลายทางชีวภาพ คณุ ประโยชนท์ ี่มีอยู่มากของพืชพันธ์ุ และการได้อยู่กับ หน้าท่ี 2 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถนิ่ ในเมอื งลา้ นนา
ธรรมชาติมานานหลายช่ัวอายคุ น ทาใหม้ ีการทดลอง ปรับเปลี่ยน แก้ปัญหาจนเกิดความรู้สะสมถ่ายทอด
จากรนุ่ ส่รู นุ่ กลายเปน็ ภูมปิ ญั ญา หรอื ความรู้พื้นบ้านเก่ยี วกับสมนุ ไพร จวบจนปัจจุบัน ความโดดเด่นของ
พืชผักสวนครัวหรือพืชสมุนไพรแต่ละพ้ืนท่ีในท้องถ่ินมีคุณประโยชน์ท่ีแตกต่างกัน และสามารถนามา
สร้างสรรคเ์ มนูอาหาร ขนม หรอื ยารกั ษาโรคไดอ้ ย่างหลากหลาย
การได้มาของสมนุ ไพร จากแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติหรือท่ีปลูกไว้ในบริเวณบ้าน ริมรั้ว ล้วนต้อง
ผา่ นกาลเวลา จนแปรเปลี่ยนผา่ นแต่ฤดกู าล จนไดผ้ ลผลติ ของพชื พนั ธุ์ ที่มคี ณุ ค่าทาโภชนาการ และความ
เป็นเอกลักษณ์ของผลผลิตตามแต่ละฤดู จึงกลายเป็นความเฉพาะและมีความโดดเด่นจนเป็นท่ีต้องการ
เนื่องจากในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางสังคมท่ีมีทางเลือกให้กับผู้บริโภค ความต้องการในพืชผัก
สมุนไพรเพ่ือการบาบัดสุขภาพน้ันมากขึ้น ความสัมพันธ์กับระบบนิเวศธรรมชาติ จึงเกิดความไม่สมดุล
ปัจจัยการได้รับสารเคมตี กค้างจาการเพ่ิมผลผลิตของพืชพันธ์ุเริ่มเข้ามา และพืชพันธุ์บางชนิดท่ีเร่ิมลดลง
เพราะความเปล่ยี นแปลงของสังคม ความร้แู ละการอนุรักษ์ในพืชผักสวนครัวหรือพืชสมุนไพรพื้นบ้านเริ่ม
หายไปตามกาลเวลา
ด้วยเหตุนี้ คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าองค์ความรู้ในพืชผักและสมุนไพรพื้นบ้านท้องถิ่น จะ
สามารถนาไปสู่ผลลัพธ์ท่ีทาให้ผู้บริโภคได้สามารถเลือกวัตถุดิบเพ่ือสร้างเสริมสุขภาพท่ีดีของตนเองได้
รวมไปถึงกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารจะสามารถสร้างสรรค์เมนูอาหารจากวัตถุดิบท้องถ่ินของตนเอง
และการใหค้ วามสาคัญกบั การบรโิ ภคพชื พนั ธุ์ท้องถิน่ ตามฤดกู าล
“การสร้างเสริมสุขภาพทดี่ ี เรม่ิ ต้นจากวตั ถุดิบที่เราเลือกใช”้
คณะผู้จัดทา
บทนา 2
บทท่ี 1 รจู้ ักกบั พืชและสมุนไพรทอ้ งถนิ่ 4
• ความหมายผกั และสมนุ ไพรท้องถ่ิน 6
• ประโยชน์จากผกั และสมนุ ไพรท้องถิ่น 7
• เสริมภมู คิ ้มุ กนั ให้ร่างกายด้วยผกั และสมนุ ไพรท้องถ่ิน 9
บทท่ี 2 ฤดกู าลผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถ่ิน 15
• ผกั และสมุนไพรทอ้ งถิน่ ตามฤดกู าล 17
บทที่ 3 กนิ ผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ เป็นยา 20
• รสชาตผิ กั และสมุนไพร มสี รรพคุณทางยาอยา่ งไร 22
• ประโยชนข์ องผักและสมนุ ไพรทอ้ งถ่นิ 23
บรรณานุกรม 31
รู้ จั กกับพื ชและ สมุ นไพรท้องถิ่น . .. หน้าท่ี 5 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถนิ่ ในเมอื งลา้ นนา
ภูมิศาสตร์ทางภาคเหนือประกอบไปด้วย 17 จังหวัด พ้ืนท่ีรวมประมาณ
106,207 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 33 ของประเทศ ลักษณะภูมิประเทศของภาคเหนือมี
ความแตกต่างกันจงึ แบ่งออกเป็นภาคเหนือตอนบน พ้ืนที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาและป่าไม้
มีแอ่งเปน็ พ้ืนที่ราบระหว่างทิวเขา ส่วนภาคเหนือตอนล่างมีพ้ืนท่ีส่วนใหญ่ โดยมีภูเขาสูง
ด้านทศิ ตะวันออกและตะวนั ตก สามารถแบ่งได้ดงั น้ี
ภาคเหนอื ตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง
มี 9 จงั หวัด ประกอบด้วย มี 8 จงั หวัด ประกอบดว้ ยด้วยจังหวดั
จงั หวัดเชยี งใหม่ เชยี งราย พิษณโุ ลก อุตรดิตถ์ สโุ ขทัย กาแพงเพชร
แม่ฮ่องสอน ลาพนู นา่ นและตาก
พจิ ิตร และอุทัยธานี
ทรัพยากรนา้ ภาคเหนอื ยงั ถือเป็นแหล่งกาเนดิ แหลง่ ใหญข่ องประเทศถึงประมาณ
หนึ่งในสาม ลุ่มแม่น้าของภาคเหนือมีความสาคัญมากสาหรับภาคเหนือและภาคกลาง
คอื ปิง วงั ยม และน่าน มีพ้ืนท่ีรวม 64.15 ล้านไร่ รวมปริมาณน้าท่าเฉลี่ยต่อปีประมาณ
21,260 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากน้ี ด้านทรัพยากรป่าไม้และพืชพรรณธรรมชาติ
จาแนกตามลักษณะของพืชพรรณท่ขี นึ้ ดงั นี้
1 ป่าเบญจพรรณ หรือเรียกวา่ 2 ป่าดิบ ในภาคเหนือมีป่าดิบ
“ป่าผสมผลัดใบ” หรือ “ปา่ โปรง่ ผสม” แล้ง พบตามกลุ่มข้ึนริมห้วย ลาธารและ
ปา่ เบญจพรรณทม่ี ไี ม้สกั “ปา่ สัก” ซง่ึ มี ตามริมน้าแม่น้าใหญ่จนถึงระดับสูง
อยใู่ นทุกจงั หวดั ของภาคเหนือ ถ้าเป็น 1,000 เมตรเหนือระดับน้าทะเล และมี
พน้ื ที่ราบหรือบรเิ วณเชงิ เขาทีม่ ีดิน ป่าดิบเขาในประเทศไทยในภาคเหนือท่ี
คอ่ นขา้ งแหง้ หรอื เปน็ ดนิ กรวดลูกรงั จะมี ร ะ ดั บ สู ง ก ว่ า 1 , 0 0 0 เ ม ต ร จ า ก
ปา่ แดงหรอื ป่าแพะ ระดับน้าทะเลข้ึนไป มีไม้จาปีและไม้
กล่าวไดว้ ่า เมอื งหนาวขึ้นอย่ทู ว่ั ไป
บริเวณที่เป็นภาคเหนือทั้งหมด มีลักษณะภูมิประเทศท่ีประกอบด้วยท่ีราบลุ่ม
ตามหุบเขา และบริเวณภูเขาท่ีเป็นท่ีสูง บริเวณหุบเขาเป็นท่ีราบลุ่มมีลาน้าไหลผ่าน เป็น
ท่เี หมาะแกก่ ารกสิกรรมโดยเฉพาะการปลกู ข้าว ส่วนบริเวณทส่ี ูงภูเขาน้นั มปี ่าไม้และพันธ์ุ
ไม้ใหญน่ านาชนิดข้นึ ปกคลุม โดยเฉพาะไมส้ กั ซึง่ เป็นทรพั ยากรทางธรรมชาติที่สาคัญของ
ภมู ิภาค
ความหมายของพืชและ สมุ นไพรท้ องถ่ิน ... หน้าท่ี 6 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถนิ่ ในเมอื งลา้ นนา
“พฤกษศาสตร์พืน้ บ้าน”. หรือ “พชื ผักท้องถน่ิ ” สารานุกรมไทยเยาวชน
เลม่ ที่ 21 ได้ให้ความหมายของ “พฤกษศาสตร์พน้ื บา้ น”. วา่ เปน็ ศาสตรท์ ี่มี
ความสาคัญอกี สาขาหนงึ่ ของวชิ าพฤกษศาสตร์ ตรงกบั นิยามศัพทภ์ าษาองั กฤษว่า
"Ethnbotany" เรยี กกันมาต้งั แตป่ ี ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) จากการศึกษาพรรณไมท้ ี่
ชาวพ้ืนเมืองท้องถิ่นนามาใชป้ ระโยชนข์ อง ดร.จอห์น ดับเบลิ ยู ฮารช์ เบอร์เกอร์
(Dr. John W. Harshberger) พฤกษศาสตร์พ้นื บา้ นเป็นคาผสมระหวา่ ง
"พฤกษศาสตร์" หมายถงึ วชิ าที่ศกึ ษาในเรอื่ งพืช และ "พน้ื บ้าน" หมายถึง กล่มุ ชนใด
กลุ่มชนหนง่ึ ท่มี ีเอกลกั ษณ์อย่างใดอยา่ งหนึง่ ร่วมกัน อาจจะเปน็ การดารงชพี ใช้ภาษา
ท้องถน่ิ เดยี วกัน นับถือศาสนา หรอื ความเชื่อถอื เดยี วกนั กล่าวไดว้ า่ กลมุ่ ชนนัน้ มีจุด
รวมของว์ั นธรรม และขนบธรรมเนยี มประเพณีร่วมกนั (สารานกุ รมไทยเยาวชน)
สมุนไพร หมายถงึ พืชที่ใชท้ าเป็นเครือ่ งยา สมนุ ไพรกาเนิดมาจากธรรมชาติ
และมคี วามหมายตอ่ ชีวติ โดยเฉพาะในทางสุขภาพ อนั หมายถึงทัง้ การสง่ เสริมสุขภาพ
และการรักษาโรค (ราชบณั ฑฒิตยสถาน, 2525)
พืชสมุนไพร หมายถึง พชื สัตวจ์ ุลชีพธาตวุ ตั ถุสารสกัดด้ังเดิมจากพืชหรอื สตั ว์ท่ี
ใชแ้ ปรสภาพหรอื ผสม หรอื ปรุงเป็นยา หรืออาหารเพือ่ การตรวจวนิ จิ ฉัยบาบัดรักษา
หรอื ป้องกนั โรคหรอื ส่งเสรมิ สขุ ภาพร่างกายของมนุษย์ หรือสัตว์และใหค้ วามหมาย
รวมถงึ ถ่นิ กาเนิดหรอื ถิน่ ทอี่ ยขู่ องสิง่ ดังกล่าวด้วย (ราชบณั ฑฒิตยสถาน, 2542)
นอกจากนี้ ความหมายของคาว่า “พืน้ บ้าน” ไมไ่ ดห้ มายถึงเฉพาะชาวชนบท
หรอื ชาวไร่ ชาวนา แตอ่ าจจะเป็นกลุม่ ชนเมือง หากกลุ่มชนนน้ั ยังคงเอกลักษณ์ของกลมุ่
ตนไว้ได้ พฤกษศาสตรพ์ นื้ บา้ นจึงเป็นวิชาทศ่ี กึ ษาถงึ ความเกย่ี วข้องระหว่างพชื และกลมุ่
ชนพน้ื บา้ น ความหมายทช่ี ดั เจนของวชิ านก้ี ็คือ "การนาพืชและสมนุ ไพรมาใช้ของกล่มุ
ชนพ้นื บา้ นที่สืบทอดตอ่ กันมาจากบรรพบุรุษ หรอื ไดร้ ับการถ่ายทอดจากเพ่อื นบ้านใน
กลุม่ ของตน จนเปน็ เอกลกั ษณก์ ารใชพ้ ืชพรรณประจาท้องถิน่ น้ัน
หลั กการนาพืชและ สมุ นไพรท้ องถ่ินมาใช้ .. . หน้าท่ี 7 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถนิ่ ในเมอื งลา้ นนา
สาหรับการบรโิ ภคพชื ผักท้องถนิ่ มีข้อแนะนา 3 ประการ ดงั ตอ่ ไปนี้
บรโิ ภคตามฤดูกาล
การเลือกบริโภคพืชผกั และสมนุ ไพร
ตามฤดกู าลจะไดร้ ับธาตอุ าหารทเ่ี ป็นประโยชน์
ท่ีสมบรู ณม์ ากกวา่ ผักนอกฤดูกาล ทงั้ นก้ี ารเลือก
1 บรโิ ภคพืชผกั ตามฤดกู าลมักมีศัตรธู รรมชาติ
นอ้ ยกวา่ ขณะเดียวกันผักนอกฤดูกาลบางชนดิ
ผักเชยี งดา อาจมีใช้สารเคมที างเกษตรเพอ่ื ให้ได้ไดผ้ ลผลติ
ตรงตามความตอ้ งการซ่ึงสาเหตุน้ที าให้เกิดผล
ระมดั ระวังบรโิ ภคท่ีทราบแน่ชัด กระทบต่อสุขภาพของผ้บู รโิ ภค
ว่าไมเ่ ปน็ พษิ
ผักพื้นเมืองหลายชนิดมคี วามเป็น บุก
2พิษในตวั เอง เช่น ผักหนามซึ่งมีสารเคมีที่
เมอ่ื ถูกยอ่ ยสลายดว้ ยเอนไซม์ในกระเพาะแลว้ ได้
ไซยาไนต์ซ่งึ เป็นพษิ หรอื ผกั พวกบุก บอน มีผลกึ
ของแคลเซียม ออกซาเลตมากและระคายเคอื ง
ทาให้คันเม่อื รบั ประทาน การรบั ประทานผกั ใน
กลุ่มมพี ิษตา่ งๆ จงึ ต้องสอบถามวิธีการปรุง
จากผู้รจู้ ริงเพ่อื ความปลอดภยั
อาหารท่ีต้องรับประทานร่วมกบั ผกั และ
แกงอ่อมไก่ สมนุ ไพรหลายชนิด เชน่ นา้ พริกอ่อง ยาผกั รวม
แกงแค แกงอ่อม ข้าวยา เป็นต้น การเลือก
รับประทานอาหารในลกั ษณะดงั กล่าว
3 นอกจากจะมีประโยชน์ในเร่ืองการขบั ถ่ายแล้ว
ยงั สามารถก่อให้เกิดความสมดลุ ของธาตุ
เลอื กรบั ประทานอาหารที่ใชพ้ ชื ผัก อาหารและคณุ ค่าทางยาของพืช
และสมนุ ไพรท้องถ่ินบางชนิด
ท้องถ่ิน
สาหรบั การบริโภคสมนุ ไพรท้องถ่ินมขี อ้ แนะนา 4 ประการ ดงั ต่อไปนี้ หน้าท่ี 8 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถนิ่ ในเมอื งลา้ นนา
สมนุ ไพรมีชอ่ื พ้องหรอื ซ้ากันมากและใน 1
หลายทีพ่ น้ื ที่ต่างมชี อื่ เรยี กทแี่ ตกตา่ งกนั ไม่
ใชใ้ ห้ถูก
เหมือนกันจงึ ต้องรจู้ ักสมนุ ไพร
และเลือกใช้ใหถ้ กู ต้น ตน้
2
ใช้ใหถ้ กู ต้นสมนุ ไพรไมว่ ่าจะเปน็ ราก ใบ ดอก
เปลือก ผล เมลด็ จะมีฤทธ์ไิ มเ่ ท่ากัน ซ่งึ แต่ละ
ส่วน สว่ นจาเปน็ ต้องรูว้ า่ ส่วนใดใช้เปน็ ยา
และอาหารได้
สมุนไพรบางชนดิ ตอ้ งใชส้ ด 3
บางชนิดตอ้ งปนกบั เหลา้ บางชนิดใชต้ ม้
ใชใ้ หถ้ กู
จึงจาเปน็ ตอ้ งร้วู ิธีใชใ้ ห้ถูกต้อง
ขนาด
4
ใชใ้ หถ้ ูก สมุนไพรถ้าใชน้ ้อยไปก็ไม่สามารถรักษา
ได้ผล แต่ถ้ามากไปก็อาจเป็นอันตรายหรือ
วิธี เกดิ พษิ ตอ่ รา่ งกายได้
เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย หน้าท่ี 9 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถนิ่ ในเมอื งลา้ นนา
ด้ ว ย ผั ก แ ล ะ ส มุ น ไ พ ร ท้ อ ง ถ่ิ น . . .
การเลอื กรับประทานอาหารนนั้ ถือวา่ เป็นเรือ่ งท่ีดตี ่อสุขภาพของ
ผบู้ ริโภค อยา่ งไรกต็ ามสารอาหารที่เลือกรับประทานน้ันมีคุณค่าทางอาหารที่
แตกตา่ งกนั และยังสรา้ งเสริมภูมิคมุ้ กันให้กับร่างกายท่ีแตกตา่ งกนั อกี ดว้ ย หากเลอื ก
ทานผักหรอื สมุนไพรพืน้ บา้ นนั้นสามารถแบ่งตามกลุม่ ตา่ งๆ ได้ดังนี้
กลุ่มให้ค่าพลังงานต่า เหมาะกับผูท้ ่ีกาลงั ควบคมุ น้าหนกั เปน็ โรคเบาหวานและ
โรคความดนั โลหิตสงู
แมงลกั
ยอดฟักทอง ช่อื ผัก พลังงาน : ปรมิ าณ 100 กรมั
บอนคนู
ตะลิงปลงิ Kcal : 100 g.
บวบหอม
ผักกูดเขียว 18
ยอดฟักทอง 11
หนอ่ ไม้ไผต่ ง 16
หนอ่ ไมไ้ ผ่ปา่ 25
แมงลัก 16
27
29
32
กลุ่มโปรตนี เหมาะสาหรับเด็กที่เขา้ สู่ชว่ งวยั กาลังเจริญเติบโตและ หน้าท่ี 10 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ผู้ปว่ ยระยะพักฟนื้
ใบข้ีเหล็ก
ลกู เนยี ง ชือ่ ผกั พลังงาน : ปรมิ าณ 100 กรมั
ยอดกระถิน
กลุ่มปรมิ าณเย่อื ใย Kcal : 100 g.
ยอดแค
มะเขอื พวง ยอดชะอม 77
ใบยา่ นาง ลูกเนยี ง 108
ใบข้ีเหลก็ 80
ใบชะพลู 153
ผักกระเฉด 87
ยอดมะระ 119
40
79
เหมาะสาหรับผู้ท่ีขบั ถา่ ยยาก และการดูดซบั สารพษิ ใน
ทางเดนิ อาหาร ป้องกนั มะเรง็ ในทางเดินอาหารและ
ริดสีดวงทวาร
พลังงาน : ปริมาณ 100 กรมั
ชอ่ื ผกั Kcal : 100 g.
แมงลกั 32
ใบย่านาง 95
ฝักมะขามอ่อน 70
มะเขือพวง 46
ยอดชะอม 80
พรกิ ข้ีหนเู มด็ เล็ก 55
ผกั กมุ่ ดอง 108
ดอกข้เี หลก็ 98
กลุ่มปริมาณเยื่อใย ชอ่ื ผกั พลงั งาน : ปรมิ าณ 100 กรัม หน้าท่ี 11 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ใบทองหลาง
ผลมะอกึ Kcal : 100 g.
ใบยอ
ใบชะพลู 52
ยอดกระถิน 73
ผลมะอึก 119
77
53
กลมุ่ ธาตุเหล็ก เหมาะสาหรบั การสร้างเมด็ เลือดแดงและคนที่เป็นโรค
โลหิตจาง
ใบชะพลู
ดอกโสน ชอ่ื ผัก พลงั งาน : ปริมาณ 100 กรัม
ผักกระเฉด
ผกั แวน่ Kcal : 100 g.
มะเขอื พวง
แมงลกั 40
ยอดดกระถิน 15
ยอดมะกอก 46
ดอกโสน 32
ใบขเ้ี หล็ก 77
ใบชะพลู 46
54
87
119
กลมุ่ ฟอสฟอรัส เหมาะสาหรับผู้ท่ีต้องการเพมิ่ การสร้างกระดกู และฟัน หน้าท่ี 12 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
และการดูดซึมคารโ์ บไฮเดรต
ผักแขยง
ชอื่ ผกั พลงั งาน : ปริมาณ 100 กรัม
ผักแขยง
ยอดข้ีเหล็ก Kcal : 100 g.
ดอกขจร
ยอดชะอม 31
87
78
80
ดอกขจร ช่วยบารงุ สายตา และบารุงสุขภาพผิวหนัง เพิม่ ภมู ิคมุ้ กนั
ทาใหอ้ าการปว่ ยหายเร็วขึ้น
กลุ่มวติ ามินเอ
ชือ่ ผกั พลังงาน : ปรมิ าณ 100 กรัม
ยอดแพงพวยน้า ยอดมะระ
ผกั ปลัง ผักแวน่ Kcal : 100 g.
ใบแมงลกั
ยอดชะอม 79
ยอดแพงพวยน้า 15
ผกั เม็ก 32
ผกั ปลัง 80
ใบชะพลู 36
84
24
119
กลุ่มวิตามนิ เอ ชื่อผกั พลงั งาน : ปริมาณ 100 กรัม หน้าท่ี 13 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ใบตาลงึ
พรกิ ไทยอ่อน ยอดผักหวานบ้าน Kcal : 100 g.
ผกั กมุ่ ดอง ยอดและดอกขเ้ี หลก็ บา้ น
ยอดกระถิน 39
กล่มุ วิตามินบีหนงึ่ ผกั กูดเขยี ว 39
ยอดผกั หนาม 98
ผกั กดู ยอดสะเดา 77
ผักบงุ้ 25
พรกิ ไทยออ่ น 21
ผักกุม่ ดอง 76
27
94
108
เหมาะสาหรับบารุงประสาท บารุงหวั ใจ ชว่ ยป้องกันโรค
โลหติ จาง และโรคเหนบ็ ชา กลา้ มเนื้อ ชว่ ยใหก้ ลา้ มเน้อื หวั ใจ
ทางานเปน็ ปกติ พลังงาน : ปริมาณ 100 กรัม
ชอื่ ผัก Kcal : 100 g.
ยอดมะขาม 55
ยอดมะระ 79
ยอดมะกอก 46
ผกั ชีลาว 39
พริกหน่มุ 11
ผกั กดู เขยี ว 25
ใบยอ 73
กล่มุ วิตามนิ บีสอง เหมาะสาหรับการเจรญิ เตบิ โต บารุงหวั ใจ ปอ้ งกนั การเกิด หน้าท่ี 14 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
แผลในชอ่ งปาก รวมถึงโรคปากนกกระจอก ลดการเกิดมะเร็ง
ยอดตวิ้ หลอดอาหาร
ยอดแค
กระชาย พลงั งาน : ปริมาณ 100 กรัม
ช่ือผัก Kcal : 100 g.
ยอดผักหวานบ้าน 39
ยอดและดอกขี้เหลก็ บา้ น 98
ยอดกระโดน 96
ยอดต้วิ 63
ยอดผกั เม็ก 84
ดอกโสน 54
ใบยา่ นาง 95
ใบแมงลัก 32
ฝกั อ่อนมะขาม 55
ยอดแค 108
ยอดจิก 274
กระชาย 54
กลุม่ ไนอาซิน เหมาะสาหรบั การบารงุ สุขภาพผวิ หนัง ชว่ ยเผาผลาญ
อาหารทาให้เกิดพลังงาน ช่วยทาลายสารพษิ ในรา่ งกาย
ชะพลู รักษาภาวะเครยี ด และชว่ ยการไหลเวียนของเลือด
พลงั งาน : ปริมาณ 100 กรัม
ชอื่ ผัก Kcal : 100 g.
ชะพลู 119
ยอดชะอม 80
ผลมะแวง้ 59
ยอดกระถนิ 77
ฤดูกาลผักและสมุนไพรท้องถ่ิน
ผักและสมุ นไพรท้องถ่ินตามฤดู กาล .. . หน้าท่ี 16 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
พชื ผกั สมุนไพรตามฤดกู าล คอื ผักและสมุนไพรท่ปี ลูกและ
เกบ็ เกี่ยวในชว่ งทเ่ี หมาะสม การเพาะปลูกของผกั แตล่ ะชนิด
ต่างก็มีช่วงเวลาท่เี หมาะสม ในการเจริญเติบโต ไมว่ า่ จะเปน็
ปจั จยั ทางดา้ นอุณหภมู ิ ปริมาณน้าฝน และสภาพของดิน
การเก็บเกยี่ วทีต่ ้องอาศัยปจั จัยจากสภาพ
ของส่งิ แวดล้อมตามฤดูกาล
แม้วา่ เทคโนโลยใี นยคุ ปจั จบุ ัน ทาใหเ้ ราสามารถเลอื ก
บริโภคผักและสมนุ ไพรเหล่านไี้ ด้ตลอดทงั้ ปี โดยไมจ่ าเป็นต้อง
คานงึ ถึงฤดูกาลและสภาพแวดล้อม แต่ผักและสมนุ ไพรทไี่ มไ่ ด้
ปลูกตามฤดกู าลนน้ั อาจจะมคี วามเสยี่ งในเรอ่ื งของการใช้ปุ๋ย
และสารเคมี เพ่อื กาจดั ศตั รูพืชและเพอื่ เรง่ การเจริญเตบิ โต ให้
สามารถเกบ็ เกยี่ วไดต้ ามความตอ้ งการ แต่หากเราบริโภคผกั
และสมนุ ไพรเหลา่ นเี้ ขา้ ไป ก็อาจเพิ่มความเส่ียง
ในการไดร้ ับสารพษิ เข้าไปได้
ดังนน้ั การเลือกบรโิ ภคพืชผักและสมุนไพรตามฤดกู าล
นัน้ ถือเปน็ ทางเลอื กท่ีดอี ย่างหนง่ึ เพราะทาให้ได้รบั สารอาหาร
และคณุ คา่ ทางโภชนาการมากกว่า ชว่ ยลดความเสย่ี งจากการ
ไดร้ บั สารเคมี มีความสดใหมก่ วา่ รสชาตอิ ร่อยกว่า เพราะเกดิ
ตามฤดูกาลของปี และลดการเกดิ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ
ของผบู้ ริโภคโดยตรง
ผั ก แ ล ะ ส มุ น ไ พ ร ท้ อ ง ถ่ิ น ต า ม ฤ ดู ก า ล มี ดั ง น้ี . . . หน้าท่ี 17 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ฤดูรอ้ นหรอื ตลอดปี
มักเป็นผักท่ีทนแล้งหรือชอบน้าน้อย ได้แก่ ปลีกล้วย ผลขนุน ยอดมะขาม ยอด
มะพร้าว ยอดตาล มะเขือประเภทต่างๆ ปลีกล้วย ถ่ัว พริก ผักกาด ผักบุ้ง ผักไผ่ หอมด่วน
กระหล่า ผักก้านตอง ผักเส้ียว (ยอดใบชงโค) กระถิน ดอกแค ผักป๋ัง (ผักปลัง) ผักแคบ
(ตาลึง) ผกั ฮ้วนหมู ผักหละ (ชะอม)
ปลีกล้วย ดอกแค มะเขอื พวง
ผักบุ้ง ยอดใบชงโค
ผกั ปลงั พริกชฟี้ ้า ผลขนุน
ฤดูฝน หน้าท่ี 18 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
มักเป็นผักน้าเยอะหรืออยู่ในน้าอยู่แล้ว ทั้งที่ปลูกและขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่
หน่อไม้ซาง หน่อไม้บง เห็ดประเภทต่างๆ (เห็ดถอบ เห็ดขอน เห็ดถ่ัวเน่า เห็ดขมิ้น เป็นต้น)
ผักหวาน ผักเชียงดา ผักพ่อค้าตีเมีย ผักหนาม ดอกอาว ดอกนางเลว และดอก จ๊ีกุ๊ก
(เป็นพืชในจาพวกขิง ข่า) ผักปู่ย่า (ลักษณะชะอม) ฟักทอง ฟักเขียว บอน น้าเต้า ข้าว
ข้าวโพด ถ่ัวฝักยาว ผักกาด เผือกมัน ผักเฮือด มะแปบ (ถ่ัวชนิดหนึ่ง) บะนอย (บวบ) ผักกุ่ม
ผักแว่น ผักเผ็ด ผกั จมุ่ ปา่ เตา (สาหร่ายนา)
หน่อไม้ซาง ผักเชียงดา ผกั แว่น
ลาไย เหด็ ถอบ
เตา ผักหวาน ผักพอ่ คา้ ตเี มีย
ฤดหู นาว หน้าท่ี 19 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
มักจะเป็นผักทีช่ อบอากาศเยน็ และเป็นผักตระกูลกินใบทั้งหลาย ได้แก่ สะแล ผักขม
(ผักขม ผักโหม) ผักข้ีหูด มะค้อนก้อม (มะรุม) มะฮ่อย ( มะระ) ข้าว สะเรียม (สะเดา)
ปลีกล้วย มะเขือ ผักคะน้า ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ผักสลัด ถั่วฝักยาว ผักชี ผักเฮือด
มะเขือเทศ และต้นหอม เป็นต้น
ปลีกลว้ ย มะระ ผักขม
สะแล มะรุม
สะเดา ผกั ข้ีหูด ผกั เฮือด
กิ น ผั ก แ ล ะ ส มุ น ไ พ ร ท้ อ ง ถ่ิ น เ ป็ น ย า
กิ น ผั ก แ ล ะ ส มุ น ไ พ ร เ ป็ น ย า . . . หน้าท่ี 21 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ภาคเหนอื อดุ มสมบูรณ์ไปด้วยภเู ขา ปา่ ไม้จานวนมาก ชาวเหนอื มกี ารเรยี นรู้
การกินผักและอาหาร อยา่ งหลากหลาย จงึ เกิดเป็นแกงผกั สารพดั ชนิดขนึ้ มา เช่น
แกงผกั รวมหรือแกงแค อาหารจากเห็ดต่างๆ พืชผกั สมนุ ไพรแต่ละฤดูกาล ท่ีมใี ห้
รบั ประทานได้ตลอดทง้ั ปี จึงทาใหช้ าวเหนอื ได้รบั อาหารทีเ่ ปน็ เส้นใยอย่างสม่าเสมอ
ผักมีประโยชนท์ ี่ชาวเหนือนิยมรับประทาน เชน่ ผกั มว้ นไกห่ รอื เชียงดา ผกั เฮอื ด
มะระขี้นกหรอื บะห่อยขนี้ ก เปน็ ตน้
ในอดตี ผเู้ ์่าผแู้ ก่ สอนไว้วา่ ”ใหก้ นิ ข้าวเปน็ หลัก กินผกั เปน็ ยา กนิ ปลาเปน็ อาหาร”
แม้คากล่าวจะดูโบราณ แตค่ านม้ี ีคาอธบิ าย
ดร.ผาสขุ แกว้ เจรญิ ตา พยาบาลวิชาชีพชานาญการ รพ.ลับแล
จ.อุตรดติ ถ์ และนักเขียนหนงั สือการดแู ลสขุ ภาพด้วยการกนิ อย่าง “ธรรมชาตบิ าบดั ”
ให้ข้อมูลว่า “ความเชือ่ เดมิ ของการกนิ สมนุ ไพรไทยนั้น เรามกั คุ้นเคยและมองวา่ การ
ใชส้ มนุ ไพรนน้ั เพอื่ รักษาโรค หรือกินสมนุ ไพรรักษาโรคเหมือนกบั ยาแผนปจั จุบนั
แต่ทีจ่ รงิ แล้วในอาหารพนื้ บ้านนั้นมฤี ทธิเ์ ปน็ ยาสมุนไพรได้เช่นกนั โดยเฉพาะ
ขิง ข่า ตะไคร้ กระเทียม กระชาย หอมแดง ซ่งึ เป็นผกั พืน้ บ้านทีอ่ ยู่ในกลุ่มของฤทธิ์
รอ้ น ท่ปี รงุ อยใู่ นเคร่ืองแกงก็ช่วยปอ้ งกนั โรคหวดั และเสริมสร้างภูมคุ้มกนั ป้องกนั
โรคไดเ้ ชน่ กนั ส่วนผกั พ้นื บ้านที่ใหฤ้ ทธ์ิเยน็ ไดแ้ ก่ ใบอ่อมแซบ่ ย่านาง กม็ สี รรพคณุ ลด
ความร้อนในรา่ งกายลงเชน่ กนั
กลา่ วคอื นอกจากชาวเหนอื จะได้คุณค่าทางดา้ นโภชนาการจากอาหารท่มี ีพชื ผักและ
สมนุ ไพรแล้ว ยงั ไดร้ บั คุณคา่ ทางยาไปด้วยเชน่ กนั
“ กนิ ผกั แลว้ ดี เพราะมปี ระโยชน์ แลว้ จะรไู้ ด้ยังไงว่าผักชนดิ ไหนเปน็ ยา ใหด้ ูท่รี สผัก
(ดร.อษุ า กลน่ิ หอม)”
รสชาติผักและสมุนไพร มีสรรพคุณทางยาอย่างไร... หน้าท่ี 22 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
รสฝาด รสหวาน รสมนั
มีสรรพคุณทางยา คือ มีสรรพคุณทางยา คือ
ช่วยสมานแผล แก้ท้องร่วง มสี รรพคณุ ทางยา คอื บารุงเส้นเอน็ เปน็ ยา
บารงุ ธาตุในรา่ งกาย เช่น ชว่ ยใหม้ ีการดูดซึมได้ดขี ึน้ อายุวั์นะ เชน่ สะตอ
ยอดมะมว่ ง ยอดมะกอก ทาใหช้ ุม่ ชื้น บารงุ กาลัง เนียง ถั่วพู ฟักทอง
ยอดจิก ยอดกระโดน แก้ออ่ นเพลยี เช่น เห็ด
ผกั หวานป่า ผักขี้หูด บวบ กระถิน ชะอม
ขนุนอ่อน น้าเตา้ เชยี งดา ผักหวานบา้ น ต้างหลวง
รสเปรี้ยว
มีสรรพคณุ ทางยา คือ
ขบั เสมหะ ช่วยระบาย
เชน่ ยอดมะขามออ่ น
มะนาว ยอดชะมวง
มะดนั ยอดมะกอก
ยอดผกั ตว้ิ สม้ กงุ้
ผักกาดส้ม
รสขม รสเผ็ดรอ้ น รสหอมเย็น
มีสรรพคุณทางยา คอื มสี รรพคุณทางยา คือ แก้ มีสรรพคุณทางยา คอื
บารงุ โลหิต เจริญอาหาร ทอ้ งอดื แกล้ มจกุ เสียด ขบั บารุงหวั ใจ ทาให้สดช่ืน
ลม บารุงธาตุ เช่น ดอก แกอ้ ่อนเพลยี เชน่
ช่วยระบาย เชน่ กระทอื กระเทียม ดอก เตยหอม โสน ดอกขจร
มะระข้นี ก มะแวง้ ตน้ กระเจียวแดง ดีปลี พรกิ ไทย บวั ผกั บุ้งไทย เปน็ ต้น
ลงิ ลาว ยอดหวาย
ดอกข้ีเหล็ก ใบยอ สะเดา ใบชะพลู ขิง ขา่ ขม้ิน
กระชาย เร่ว
เพกา มะขม
ป ร ะ โ ย ช น์ ข อ ง ผั ก แ ล ะ ส มุ น ไ พ ร ท้ อ ง ถ่ิ น . . . หน้าท่ี 23 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
มีผักและสมนุ ไพรหลายชนิดท่ีใหส้ รรพคณุ ทางยา ช่วยรกั ษาอาการป่วยบางอาการของ
เราไดโ้ ดยอาจไม่ตอ้ งพง่ึ ยา ไดแ้ ก่
1 ผักเชียงดา
ผักเชียงดา มีชอ่ื ทอ้ งถน่ิ อื่นๆ วา่ ใบ
เชียงดา หรือเจียงดา มีสารสาคญั ทช่ี อื่
ว่า Gymnemic Acid ชว่ ยลดน้าตาล จากการศึกษาพบว่า การรบั ประทาน
ในเลือด มสี ารต้านอนุมูลอิสระ ช่วย ผักเชียงดาสดอยา่ งน้อย วันละประมาณ
ชาระล้างสารพิษตกค้างในร่างกาย 50-100 กรัม หรือ 1 ขดี จะสามารถช่วย
ป้องกนั และบาบดั โรคเบาหวานได้
เปน็ ยาบารุงกาลัง
กล่าวคือ ผกั เชยี งดามฤี ทธิ์เป็นยาเยน็
ภาพท่ี 1 ผกั เชียงดา ภาพจาก medthai.com ชว่ ยลดไข้ บารงุ ธาตใุ นร่างกาย โดยจะด่ืม
ชาเชยี งดาหรือบริโภคเป็นอาหารเมนูผกั
เชยี งดากไ็ ด้
2 ขเ้ี หล็ก หน้าท่ี 24 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ดอก
ใบ ภาพที่ 2 ผกั ขเ้ี หลก็ ภาพจาก greenscentsorganic.com
ขี้เหลก็ หรอื ข้ีเหลก็ หลวง จะมรี สขม โดยใบออ่ นและดอกออ่ นของขี้เหล็กมสี าร
ช่วยในเร่ืองการขับถ่าย เพราะใบขเ้ี หลก็ มี ชนิดหนึ่งคอื “บาราคอล” (Baracol) ท่ีมฤี ทธ์ิ
ฤทธ์ิเปน็ ยาระบาย ในตาราการแพทย์ ในการกลอ่ มประสาท ชว่ ยคลายเครยี ด เป็นยา
แผนไทย มีการใช้ประโยชน์ในหลายๆ นอนหลับออ่ นๆ โดยวธิ ีการแบบพน้ื บ้านนั้น
ด้าน เช่น บารุงโลหติ บารุงนา้ ดี ชว่ ยทา ควรตม้ ในน้าเดอื ด สัก 2-3 นา้ ก่อนนามาปรงุ
ให้เจรญิ อาหาร โดยสามารถใช้ประโยชน์ อาหารหรอื นาไปทาเป็นยา
จากข้ีเหล็กไดท้ ้ังตน้
3 มะระขน้ี ก
มะระข้นี ก หรอื มะไห่ มะนอย มีความขม ภาพที่ 3 มะระข้นี ก ภาพจาก arda.or.th
จึงมฤี ทธิก์ ระตนุ้ การย่อยอาหาร มีคณุ ค่า
ทางอาหารสงู ทงั้ ธาตฟุ อสฟอรัส ธาตเุ หล็ก กลมุ่ วิชาเภสชั กรรมคลินกิ คณะเภสัช
ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคามได้ศกึ ษา
มะระขน้ี กมรี สขมมากกว่ามะระจนี จงึ ผลของมะระขี้นกในการรักษโรคเบาหวาน
พบว่า สามารถช่วยลดและกระต้นุ การเผา
นยิ มกนิ ในหมผู่ ้ใู หญแ่ ละผู้สูงอายุ ผลออ่ น ผลาญน้าตาลในเลอื ด และลดการสร้าง
นา้ ตาลจากตบั
นาไปต้มหรือเผากินไดท้ ั้งลูก ผลแกต่ ้องนามา
ผ่ากลาง คว้านเมลด็ ออกเสยี ก่อน
ทางอายรุ เวทยงั ได้มีการนามะระขีน้ กมา
ใช้ในการรักษาโรคตบั บรรเทาอาการของ
โรคเกาต์ และข้ออกั เสบได้
4 ผกั แพว หน้าท่ี 25 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ภาพท่ี 4 ผกั แพว ภาพจาก Lupuswiki/Peterdehart3
ผักแพว หรือเรียกวา่ ผกั ไผ่ คอื ผกั ทชี่ ว่ ยดับกล่ินคาวของเน้ือสัตว์และเนื้อปลา หรอื ใส่
แกงแตง่ กลนิ่ อาหาร มวี ิตามินเอสูง ชว่ ยบารุงและรกั ษาสายตา
ใบ กนิ เป็นผักสด ชว่ ยขับลม และเจริญอาหาร รสเผ็ดของผักชว่ ยเพ่มิ การเผาผลาญ
ไขมนั ในเลอื ด เหมาะเป็นผักสมุนไพรลดความอ้วนได้ โดยไม่ขาดสารอาหาร เพราะอุดมไป
ดว้ ยเส้นใยและวิตามนิ ตอ้ งรบั ประทานในปริมาณที่มากพอหรือวันละไมน่ อ้ ยกวา่ 3 ขีด
5 ตาลงึ ผล
ดอก
ใบ
ภาพที่ 5 ตาลึง ภาพจาก technologychaoban.com
ตาลึง ทางภาคเหนอื เรียก “ผักแคบ” ทางอสี านเรียก “ผกั ตานนิ ” ชว่ ยบารงุ สายตา
รักษาเบาหวาน บารงุ ผวิ พรรณ เสริมภูมคิ ้มุ กันต้านทานโรค จากขอ้ มูลของสานักงานขอ้ มลู
สมุนไพร คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหดิ ล ระบวุ า่ ผกั ตาลึงมสี ารตา้ นอนุมูลอิสระ
“ฟลาโวนอยด์”ค่อนขา้ งสูง สามารถรกั ษาและปอ้ งกันโรคเบาหวานได้ เน่ืองจากมีงานวจิ ยั
ทพี่ บวา่ ตาลึงชว่ ยลดน้าตาลในเลือด ปอ้ งกันการเกิดโรคมะเรง็ และช่วยขับสารพษิ ในลาไส้
6 กระเจยี วแดง หน้าท่ี 26 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ใบ
ดอก ภาพท่ี 6 กระเจียวแดง ภาพจาก health.campus-star.com
กระเจียวแดง เรยี กอกี ชอ่ื วา่ อาขาว ดอกอ่อนของกระเจยี วแดงจะมีรสซ่าๆ
เปน็ ผักพน้ื บ้านทพี่ บมากในจงั หวัดเชยี งใหม่ และเผด็ เลก็ หนอ่ ย เป็นยาระบาย ขับลม ชว่ ย
อาจเรยี กในช่อื อ่ืนวา่ กระเจยี วโคก หรอื ป้องกนั อาการท้องผกู และดอก มีสรรพคณุ
ดอกดิน มี 2 ชนิด คอื กระเจยี วแดงและ ช่วยแกม้ ดลกู อักเสบสาหรบั สตรหี ลงั คลอด
โดยภาคเหนือนยิ มนาไปต้มและนามาจม้ิ กบั
กระเจียวขาว โดยทัง้ 2 ชนดิ เปน็ พืชปา่ นา้ พรกิ และปรุงเป็นแกงรวมกับผักอ่นื อีก
หลากชนิด
7 ผักเฮือด
ผลและเปลอื ก ผักเฮือด หรือผักฮี้ คือไม้ประวัติศาสตร์
เป็น”ไม้เสื้อเมือง”ของเมืองเชียงใหม่ ชื่อ
ภาพที่ 7 ผกั เฮือด ภาพจาก at-chiangmai.com สมุนไพรท่ีมีกล่าวถึงในตาราอายุรเวท และ
สิทธา ในอินเดีย ใช้เป็นยาท้ังภายนอก และ
ภายในบารุงเลือด มีฤทธิ์เย็น รสฝาดช่วย
สมานแผลของผู้ที่เป็นโรคกระเพาะและลาไส้
สามารถใช้ได้ท้ัง ใบ เปลือก ผลสุก และราก
หมอพื้นบ้านทางภาคเหนือ ใช้เปลือกของต้น
ผักเฮือดประมาณครึ่งหน่ึงของฝ่ามือสับเป็น
ชนิ้ ละเอยี ด ต้มดื่มแก้ปวดทอ้ ง
*ไมเ้ สอ้ื เมือง ในตานานพืน้ เมอื งกลา่ วถงึ ไวว้ า่ ขณะที่สามสหายสามกษัตริย์(พญามังราย พญางาเมือง พญาร่วง) หารอื กนั สรา้ งเมืองเชยี งใหม่
ปี พ.ศ.1839 มีพญาหนูเผอื กตัวใหญแ่ ละบรวิ าร ไตจ่ ากชยั ภมู เิ ขา้ โพรงต้นผักเฮือด (นิโครธ) ท้ัง 3 พระองค์ ทรงอัศจรรยใ์ จยิ่ง และทรงเหน็
เปน็ นิมติ อันดี จงึ เห็นพอ้ งตอ้ งกัน นาข้าวตอกดอกไมใ้ สพ่ านทองบชู า พรอ้ มสถาปนาใหเ้ ปน็ ”ไม้เสื้อเมอื ง”หรอื ”ไม้มิ่งเมอื ง”ของเมืองนพบุรี
ศรีนครพิงคเ์ ชียงใหม่ เป็นตน้ มา
8 หวั ปลี หน้าท่ี 27 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
หัวปลี มีธาตเุ หลก็ สูง ช่วยบารุง ภาพที่ 8 หัวปลี ภาพจาก Kapook.com
เลือด ปอ้ งกนั โลหิตจาง โดยเฉพาะ
ในหญิงต้ังครรภ์หรือคณุ แมห่ ลังคลอด หวั ปลีมีสารต้านอนุมูลอสิ ระทช่ี ่ือว่า มีทานอล
บุตร หัวปลมี ีเสน้ ใยเหนียวแน่น และ ซงึ่ งานวจิ ัยในวารสาร Food Science and
แคลอรีตา่ ใน 100 กรัม มพี ลงั งาน Biotechnology เมอื่ ปี 2010 ระบวุ ่า สารต้าน
เพียง 28 กิโลแคลอรี อนุมลู อิสระในสารสกดั จากหวั ปลเี ปน็ สารต้าน
อนมุ ลู อิสระท่ีมสี รรพคณุ ปอ้ งกนั เซลลถ์ กู ทาลาย
จงึ สามารถช่วยป้องกนั การอักเสบในร่างกายได้
9 ใบบวั บก
ใบบวั บก หรอื ผกั หนอก ภาพที่ 9 ใบบวั บก ภาพจาก theasianparent.com
มีสรรพคุณแก้ช้าใน สามารถ
ใชใ้ นการรักษา โดยใชส้ ว่ น จากการศกึ ษาทดลอง พบวา่ ใบ
ประกอบไดท้ ัง้ ตน้ มรี สหอม บวั บก มีส่วนท่ชี ่วยลดอาการเสน้ เลือด
เยน็ บารงุ หวั ใจ แกร้ ้อนใน ขอดได้ ในกลมุ่ ท่ีรบั ประทานใบบัวบกมี
การรั่วไหลของหลอดเลือดดาลดลง และ
กระหายน้า แก้กามโรค อาการเสน้ เลือดขอดกบ็ รรเทาลงด้วย
และยังมสี ารที่ชื่อว่า ไตร
เตอรป์ ินอยด์ ชว่ ยในการ
สมานแผลและรกั ษาโรค
ผิวหนงั บางชนิดได้
10 ผักปลัง หน้าท่ี 28 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ดอก
ผล ภาพที่ 10 ผักปลัง ภาพจาก preyapatsanisee39
ผักปลงั หรือช่ือเรยี กภาษาถ่ินวา่ ผกั ปัง๋ ในตาราไทยสรรพคุณทงั้ ตน้ มรี สเยน็ ต้มดมื่ แก้
ขดั เบา ลดไข้ โขลกพอกแกก้ ลาก ผน่ื คัน แกพ้ ษิ ฝดี าษ แกอ้ กั เสบ รากใช้แกโ้ รคมอื เท้าด่าง ใน
ผกั ปลัง 100 กรัม ให้พลงั งาน 21 กิโลแคลอรี
ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หวั หนา้ โครงการสาธิตการพ์ั นาผลิตภณั ฑฒ์จากสมนุ ไพร โรงพยาบาล
เจา้ พระยาอภยั ภูเบศร จ.ปราจนี บุรี กล่าวว่า “ผักปลัง” เปน็ ผกั พ้ืนบา้ นท่มี สี รรพคณุ ชว่ ยเพ่มิ
พรไี บโอติกส์ ช่วยเรอ่ื งการขบั ถา่ ยใหด้ ขี ึน้ กาจัดสารพษิ บารุงร่างกาย และลดความดันโลหติ สงู
เปน็ สมนุ ไพรปกป้องกระเพาะอาหาร
11 ผกั โขม
ภาพท่ี 11 ผกั โขม ภาพจาก technologychaoban.com ผั ก โ ข ม ห รื อ ผั ก ข ม ห รื อ ผั ก โ ห ม
มีสรรพคุณทางยา คือใบใช้รักษาแผลพุพอง
ต้นแก้อาการแน่นหน้าอกและหอบ รากปรุง
เป็นยาช่วยดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้คัน แก้
เสมหะ ผักโขม ให้พลังงานแก่ร่างกาย 43
กิโลแคลอรี มีสารเบต้า-แคโรทีน ช่วยต้าน
อนุมูลอิสระตัวก่อมะเร็ง คนไทยโบราณเชื่อ
ว่าหญิงแม่ลูกอ่อนควรกินผักโขมเพื่อบารุง
นา้ นม แก้ตกเลอื ด
12 ส้มปอ่ ย หน้าท่ี 29 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ฝกั
ภาพท่ี 12 ส้มป่อย ภาพจาก disthai.com
สม้ ป่อย หรอื ส้มขอน สม้ คอน (ไทยใหญ่,แม่ฮอ่ งสอน) เปน็ พชื ทท่ี างภาคเหนือถอื ว่า เปน็ ไม้
มงคล โดยมีความเช่อื ว่าหากบ้านใดมตี ้นส้มป่อยในบ้าน จะชว่ ยปอ้ งกันเพศภัยและเคราะห์
ตา่ งๆ ในทางชีวเคมี ฝักส้มปอ่ ยมีสารกลุ่มซาโพนิน เป็นแชมพธู รรมชาติท่ีเปน็ กรดออ่ นๆ ช่วย
รักษารังแค ชะลอผมหงอกก่อนวัย และยังมีสรรพคณุ ช่วยใหอ้ าหารมรี สเปรี้ยว ชว่ ยดบั กลิ่น
คาวปลา แก้ทอ้ งอืด แกพ้ ษิ ฝี และเสรมิ ภมู คิ ุ้มกนั ของร่างกายใหด้ ขี ้ึน
13 กระทือ
กระทือ หรือเรียกว่า กะทือปา่ กะแอบ ภาพที่ 13 กระทือ
เฮยี วแดง ภูมิปญั ญาท้องถิ่นนยิ มนาสว่ นเหงา้
ของต้นกระทอื และรากมาใชเ้ ปน็ ยาสมนุ ไพร ในบัญชียาหลักแห่งชาติ "ยาเลือดงาม"
สรรพคณุ ของกระทอื ชว่ ยแก้จุกเสยี ด แก้บิด ระบุว่า เหง้ากระทือร่วมกับสมุนไพรชนิดอ่ืนๆ
ขับผายลม แกอ้ าการเคล็ดขดั ยอก โดยนาหัว ในตารับ บรรเทาอาการปวดประจาเดือน
กระทือมาฝนแลว้ ใชน้ า้ ยาจากกระทอื ทา ชว่ ยใหป้ ระจาเดือนมาเป็นปกติ
บรเิ วณท่ีมีอาการเคล็ดขัดยอก ซ่ึงในน้ามนั
หอมระเหยจากเหงา้ จะช่วยบรรเทาอาการได้
14 ผักคราด ผักคราด หรอื ผักเผด็ หมแู มว้ จัดเปน็ ไม้ หน้าท่ี 30 : ขมุ ทรพั ยจ์ ากผกั และสมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ
ลม้ ลุกขนาดเล็ก พบขึน้ ได้ทั่วไป ในช่อ
ดอกและกา้ นดอกมสี าร สปิแลนทอล มี
ฤทธิท์ าใหช้ า ช่วยรกั ษาอาการปวดฟนั ได้
สว่ นตน้ สด แกฝ้ ีในลาคอ แก้ต่อมน้าลาย
อักเสบ หมอแผนไทยในปจั จุบนั จะใชผ้ ัก
คราดเพอ่ื เข้าตารับยาแกป้ วดบวม บา้ งก็
ทาเปน็ ยาหม่อง ทาเป็นนา้ มนั หรือทาเปน็
ลกู ประคบ แต่ไม่นิยมนามา บริโภค
ภาพท่ี 14 ผักคราด
มงี านวจิ ยั ทางด้านสารธรรมชาตทิ ดแทนการใช้
สารเคมที างการเกษตร พบวา่ สารสกดั ผัดคราดหวั
แหวนมฤี ทธิช์ ่วยยบั ยง้ั การระบาดของเพล้ียกระโดด
สนี ้าตาลไดเ้ ป็นอยา่ งดี และช่วยฆ่ายงุ ได้ดี
15 สะเดา สะเดา หรือภาษาถิ่นเหนือเรียกว่า
สะเลียม เป็นพืชผักสมุนไพรพ้ืนบ้าน ที่
ภาพท่ี 15 สะเดา ภาพจาก disthai.com มีเส้นใยอาหาร ช่วยต้านโรคเบาหวาน
ใช้เป็นยาฆ่าแมลงได้ดี โดยไม่มีพิษและ
อั น ต ร า ย ข้ อ มู ล ข อ ง ก ร ม อ น า มั ย
กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า สะเดาเป็น
ผักสมุนไพรพ้ืนบ้านที่อุดมไปด้วยคุณค่า
ทางโภชนาการ โปรตีน แร่ธาตุและ
วิตามินท่ีจาเป็นต่อร่างกาย มีสารต้าน
อนุมูลอิสระช่วยชะลอความเส่ือมของ
เซลลต์ า่ งๆ ในร่างกาย
ในผลวิจัยบางชิ้นเผยว่า สารพอลิแซ็กคาไรด์ และสารลิโมนอยด์ ท่ีพบในเปลือก
ใบ และผลสะเดา มคี ณุ สมบตั ชิ ่วยลดความเสยี่ งการเกิดเนื้องอก และมะเร็งได้
บรรณานกุ รม
กรณก์ าญจน์ ภมรประวัติธนะ. (2552). มะระข้ีนก. แหล่งที่มา:
https://www.doctor.or.th/article/detail/8931 (12 กรกฎาคม 2565).
ข้อมูลพืชสมนุ ไพร คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. (ม.ป.ป). แหล่งท่มี า:
https://pharmacy.su.ac.th (12 กรกฎาคม 2565).
จารณุ ี ภลิ ุมวงค์. (2560). ผกั พืน้ บ้าน...อาหารเปน็ ยา...รกั ษาสขุ ภาพ. แหล่งทีม่ า:
https://www.hrdi.or.th/Articles/Detail/26 (12 กรกฎาคม 2565).
ใจเพชร กลา้ จน. (ม.ป.ป). ผกั เฮือด. แหล่งที่มา: https://morkeaw.net/ficus-lacor-buch (12 กรกฎาคม
2565).
ฐานข้อมลู คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยอุบลราชธาน.ี (ม.ป.ป). ผกั ปลัง. แหล่งทีม่ า:
http://www.phargarden.com (12 กรกฎาคม 2565).
ฐานข้อมลู พืชผกั บทความเกษตร. (2559). กระเจยี ว. แหลง่ ท่ีมา: https://vegetweb.com (12 กรกฎาคม
2565).
ไทยรฐั ออนไลน.์ (2563). แนะนาเทรนดใ์ หม่ กนิ ผกั ให้ไดต้ ามฤดูกาล. แหล่งท่มี า:
https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/1761103 (12 กรกฎาคม 2565).
ไทยโพสต.์ (2564). กินผกั พ้นื บา้ นตามฤดูกาลเป็นยา ช่วยสร้างสมดลุ ร่างกายปอ้ งกนั โรค. แหล่งทม่ี า:
https://www.thaipost.net/main/detail/117584 (11 กรกฎาคม 2565)
นายเกษตร. 2556. ผกั ปลัง. หนงั สือพมิ พ์ไทยรัฐ, กรุงเทพฯ. 7 หน้า.
ผาสุข แก้วเจรญิ ตา. (2565). กินผกั พ้นื บ้านตามฤดูกาลเป็นยา ชว่ ยสรา้ งสมดุลรา่ งกายปอ้ งกันโรค.
แหล่งที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/117584 (12 กรกฎาคม 2565).
ภมู ปิ ญั ญาไทย. (2562). “ผกั ปลงั ” ผักสมนุ ไพรปลูกงา่ ย. แหล่งที่มา:
https://www.technologychaoban.com/thai-local-wisdom/article_107249
(12 กรกฎาคม 2565).
มงคล โมกขะสมิต. (2514). การศกึ ษาพษิ ของสมนุ ไพรไทย. วารสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
มหาเกา้ . (2562). ตาลึง ประโยชน์มากมาย สรรพคุณเดน่ ชดั มขี ้อมูลงานวจิ ยั . แหล่งทมี่ า:
https://board.postjung.com/1408170 (12 กรกฎาคม 2565).
รตั นา พรหมพชิ ัย. (2542). ผกั เฮอื ด.
แหล่งทม่ี า: https://www.at-chiangmai.com (12 กรกฎาคม 2565).
ศูนย์สนเทศภาคเหนือ สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม.่ (2548). ผักพื้นบา้ น อาหารไทย.
แหลง่ ทีม่ า: http://lannainfo.library.cmu.ac.th (12 กรกฎาคม 2565).
บรรณานุกรม
ส้มปอ่ ย ประโยชนด์ ๆี สรรพคุณเดน่ ๆ และข้อมลู งานวจิ ยั . (ม.ป.ป). ส้มป่อย งานวิจัยและสรรพคณุ 18ข้อ.
แหล่งท่ีมา: https://www.disthai.com (12 กรกฎาคม 2565).
สม้ ปอ่ ย ประโยชนด์ ีๆ สรรพคุณเดน่ ๆ และข้อมลู งานวิจัย. (ม.ป.ป). สะเดา งานวิจัยและสรรพคณุ 12ขอ้ .
แหลง่ ท่ีมา: https://www.disthai.com/17056969/ (12 กรกฎาคม 2565).
สถาบันวิจยั และพั์นาพ้นื ที่สงู . (2559). ผักเผด็ . แหลง่ ท่มี า:
https://hkm.hrdi.or.th/knowledge/detail/260 194 (13 กรกฎาคม 2565).
สนน่ั ธรรมธิ. (2550). ผักเฮือด. แหล่งท่ีมา: https://www.at-chiangmai.com (12 กรกฎาคม 2565).
สุภาภรณ์ ปติ ิพร. (2552). ส้มปอ่ ย สดุ ยอดผกั เพิ่มภูมิคมุ้ กัน กาจัดพิษกาย พิษใจ.
สานักพมิ พม์ ตชิ น. (2564). ปลกู พริก ต้องร!ู้ 10 สายพนั ธ์ุ พริกยอดนยิ มท่ตี ลาดต้องการ. แหล่งท่ีมา:
https://www.technologychaoban.com/featured/article_108191
(12 กรกฎาคม 2565).
สานกั วิทยบริการและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มาหาวทิ ยาลยั ราชภฏั กาแพงเพชร. (2561). ผกั โขมหนาม.
แหลง่ ท่ีมา: https://arit.kpru.ac.th (12 กรกฎาคม 2565).
อดุลย์ศกั ด์ิ ไชยราช. (2564). ตาลึง พชื ผกั เลศิ ลา้ ค่า แม้จะดอ้ ยราคา. แหล่งทีม่ า:
https://www.technologychaoban.com (12 กรกฎาคม 2565).
______________. (2565). ผกั เฮือด. แหลง่ ทมี่ า: https://www.technologychaoban.com/bullet-
news-today/article_215162 (12 กรกฎาคม 2565).
______________. (2565). ผกั โขม ผักขม ผกั โหม ผักพื้นบ้านคุณคา่ สูง. แหลง่ ที่มา:
https://www.technologychaoban.com (12 กรกฎาคม 2565).อุษา กลิน่ หอม. (2564). “กิน
อาหารใหเ้ ป็นยา” ต้องกนิ อยา่ งไร ถงึ จะได้ผล. แหล่งทีม่ า:
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/974318 (12 กรกฎาคม 2565).
Bookmark the permalink. (2564). มะระขีน้ ก สมุนไพรมากประโยชน์. แหล่งท่ีมา:
http://blog.arda.or.th (12 กรกฎาคม 2565).
Greenscentsorganic. (ม.ป.ป). ข้เี หล็ก สรรพคณุ และประโยชนข์ องขี้เหลก็ 61 ข้อ. แหลง่ ทม่ี า:
http://www.greenscentsorganic.com/article/65 (12 กรกฎาคม 2565).
Indigo Girl. (2562). 6 ประโยชน์ กระเจียวแดง. แหลง่ ทม่ี า: https://health.campus-
star.com/general/23903.html (12 กรกฎาคม 2565).
บรรณานุกรม
K@POOK. (2564). หัวปลี. แหลง่ ทีม่ า: https://health.kapook.com/view198278.html
(12 กรกฎาคม2565).
________. (2564). สรรพคุณใบบัวบก ประโยชน์เลอคา่ เพื่อความงามและสุขภาพ. แหลง่ ท่ีมา:
https://health.kapook.com/view130805.html (12 กรกฎาคม 2565).
________. (2563). 12 ผักรกั ษาโรค สรรพคณุ โชกโชนทุกชนิด. แหล่งทีม่ า:
https://health.kapook.com/view108507.html (12 กรกฎาคม 2565).
________. (2561). ผกั เชียงดา สรรพคณุ ไม่ธรรมดา เปน็ สมนุ ไพรลดน้าตาลในเลือด. แหลง่ ทีม่ า:
https://health.kapook.com/view202278.html (12 กรกฎาคม 2565).
________. (2564). มะระขี้นก สรรพคุณเพยี บ สมนุ ไพรใกลร้ ้ัว แกพ้ ิษร้อน ต้านเบาหวาน. แหล่งทมี่ า:
https://health.kapook.com/view125574.html (12 กรกฎาคม 2565).
Medthai. (2560). 74 สรรพคุณและประโยชน์ของผกั คราดหวั แหวน. แหลง่ ทม่ี า: https://medthai.com/
ผกั คราดหัวแหวน/ (13 กรกฎาคม 2565).
_______. (2560). สะเดา สรรพคณุ และประโยชนข์ องสะเดาไทย 86 ข้อ. แหล่งทมี่ า:
https://medthai.com/สะเดา/ (7 เมษายน 2565).
_______. (2562). ผักแพว สรรพคุณและประโยชนข์ องผกั แพว 34 ข้อ. แหลง่ ท่มี า:
https://medthai.com (12 กรกฎาคม 2565).
OKnation. (2554). ฝนั ปี 59 พลกิ เชียงใหม่เปน็ เมืองเกษตรปลอดภยั ทัง้ เมือง. แหล่งท่มี า:
http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=734898 (7 เมษายน 2565).
Peterdehart3. (2564). ผกั แพว สรรพคุณและประโยชน์ของผักแพว 34 ข้อ. แหล่งทม่ี า:
https://lupuswiki.com (12 กรกฎาคม 2565).
Thai Food. (2559). สะเดา. แหลง่ ทม่ี า: https://www.thai-thaifood.com/th/สะเดา/
(7 เมษายน 2565).
paolohospital. (2560). เรอ่ื งจรงิ จาก 8 "วิตามนิ B". แหลง่ ท่มี า:
https://www.paolohospital.com/th-TH/phahol/ (9 กรกฎาคม 2565).