The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ปี 2562-2564
โรงเรียนบ้านโป่งคอม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Yutthakan Chiatrakun, 2019-07-22 10:48:20

แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ปี 2562-2564

แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ปี 2562-2564
โรงเรียนบ้านโป่งคอม

๔๗

3.แกป้ ัญหาจากจุดเล็ก ควรมองปญั หาภาพรวมก่อนเสมอ แต่เมื่อจะลงมือแก้ปัญหานน้ั
4.ทาตามลาดบั ขั้นเริ่มต้นจากการลงมือทาในสิ่งที่จาเปน็ ก่อน เม่ือสาเร็จแลว้ กเ็ รมิ่ ลงมอื ส่ิงทีจ่ าเปน็ ลาดบั
ตอ่ ไป
5.ภูมิสังคม ภมู ิศาสตรส์ งั คมศาสตรก์ ารพฒั นาใด ๆ ต้องคานงึ ถึงสภาพภูมิประเทศของ บรเิ วณนน้ั ว่าเปน็
อยา่ งไรและสังคมวทิ ยาเกี่ยวกับลักษณะนสิ ัยใจคอคน ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณี
ในแต่ละท้องถิน่ ท่มี ีความแตกตา่ งกัน
6.ทางานแบบองคร์ วม ใชว้ ธิ ีคดิ เพ่ือการทางาน โดยวิธคี ิด อย่างองคร์ วม คือการมองส่ิงต่าง ๆ ท่ีเกดิ อย่าง
เปน็ ระบบครบวงจร ทุกสง่ิ ทุกอย่างมีมติ เิ ช่ือมต่อกัน
7.ไม่ตดิ ตาราเมื่อเราจะทาการใดน้นั ควรทางานอยา่ งยืดหยนุ่ กับสภาพและสถานการณ์นนั้ ๆ ไมใ่ ช่การ
ยึดติดอยู่กับแค่ในตาราวชิ าการ
8.รจู้ กั ประหยัด เรยี บง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด
9.ทาให้ง่าย ทรงคดิ ค้นดัดแปลงปรบั ปรุงและแก้ไขงานไม่ยงุ่ ยากซบั ซ้อน
10.การมสี ่วนร่วมเปิดโอกาสใหส้ าธารณชน ได้มาร่วมแสดงความคดิ เหน็
11.ต้องยึดประโยชน์สว่ นรวม
12.บรกิ ารท่จี ุดเดียวใช้หลกั การ “การบริการรวมทจี่ ดุ เดียว : One Stop Service”
13.ใช้ธรรมชาตชิ ่วยธรรมชาติ
14.ใช้ธรรมปราบอธรรม นาความจริงในเรื่องธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของธรรมชาติมาเป็นหลักการ
แนวทางปฏิบตั ิในการแก้ไขปญั หาและปรบั ปรุงสภาวะทไี่ มป่ กติเข้าสู่ระบบทป่ี กติ
15.ปลูกป่าในใจคน การจะทาการใดสาเร็จ ต้องปลูกจิตสานึกของคนเสียก่อน ต้องให้เห็นคุณค่าเห็น
ประโยชน์กบั สง่ิ ทจ่ี ะทา
16.ขาดทนุ คือกาไร “การให้” และ “การเสยี สละ” เป็นการกระทาอนั มีผลเป็นกาไร
17.การพ่งึ พาตนเอง
18.พออยูพ่ อกนิ สามารถอย่อู ยา่ ง“พออยพู่ อกิน”ให้ได้เสียก่อน แล้วจึงค่อยขยับขยายให้มีขีดสมรรถนะที่
ก้าวหนา้ ตอ่ ไป
19.เศรษฐกิจพอเพียงให้ดาเนินชีวิตไปบน “ทางสายกลาง” เพื่อให้รอดพ้นและสามารถดารงอยู่ ได้อย่าง
ม่นั คงและยัง่ ยืนภายใต้กระแสโลกาภิวตั นแ์ ละการเปลีย่ นแปลงต่าง ๆ
20.ความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต จริงใจตอ่ กัน
21.ทางานอยา่ งมีความสุข
22.ความเพียรการเริ่มต้นทางานหรือทาส่ิงใดนั้นอาจจะไม่ ได้มีความพร้อม ต้องอาศัยความอดทนและ
ความมุ่งมนั่
23.ร้รู กั สามคั คี
• รู้ คือ รูป้ ญั หาและรวู้ ธิ ีแก้ปัญหานั้น
• รัก คือ เมอื่ เรารถู้ งึ ปัญหาและวธิ ีแก้แลว้ เราตอ้ งมีความรกั ที่จะลงมือทาลงมือแก้ไขปัญหาน้นั
• สามัคคี คือ การแก้ไขปญั หาต่าง ๆ ไม่สามารถลงมือทาคนเดยี วไดต้ ้องอาศัยความ ร่วมมือรว่ มใจกนั
การศกึ ษาตอ้ งมงุ่ สร้างพื้นฐานให้แกผ่ ู้เรยี น 4 ดา้ น

๔๘

1. มีทัศนคติทีถ่ กู ตอ้ งตอ่ บา้ นเมือง มีความรู้ความเข้าใจต่อชาติบ้านเมือง/ยึดม่ันในศาสนา/ ม่ันคงในสถาบัน
พระมหากษัตริย/์ มีความเออ้ื อาทรตอ่ ครอบครัว และชมุ ชนของตน

2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม รู้จักแยกแยะส่ิงที่ผิด-ชอบ ช่ัว-ดี/ปฏิบัติแต่ส่ิงที่ชอบ ส่ิงที่ดีงาม/
ปฏิเสธสงิ่ ทผ่ี ิด สิง่ ทช่ี ่ัว/ชว่ ยกันสรา้ งคนดใี หแ้ ก่บา้ นเมอื ง

3. มีงานทา - มอี าชีพ การเล้ยี งดลู กู หลานในครอบครวั หรอื การฝึกฝนอบรมในสถานศึกษา ต้องมุ่งให้เด็ก
และเยาวชนรักงาน สู้งานทาจนงานสาเร็จ/การฝึกฝนอบรมทั้งในหลักสูตรและนอก หลักสูตรต้องมีจุดมุ่งหมายให้
ผู้เรียนทางานและมีงานทาในท่ีสุด/ต้องสนับสนุนผู้สาเร็จหลักสูตรมีอาชีพ มีงานทาจนสามารถเล้ียงตัวเองและ
ครอบครัว

4. เป็นพลเมืองดีการเป็นพลเมืองดีเป็นหน้าที่ของทุกคนครอบครัว-สถานศึกษาและสถาน ประกอบการ
ต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสทาหน้าที่เป็นพลเมืองดี/การเป็นพลเมืองดีคือ“เห็นอะไรท่ี จะทาเพ่ือบ้านเมืองได้ก็
ตอ้ งทา เช่น งานอาสาสมัคร งานบาเพ็ญ ประโยชน์ งานสาธารณกศุ ล ใหท้ า ด้วยความมนี ้าใจและเออื้ อาทร”

2) ยทุ ธศาสตรช์ าตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579)
ในการทจ่ี ะบรรลุวิสัยทัศน์และทาให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ อนาคตที่พึงประสงค์นั้น จาเป็นจะต้องมีการ

วางแผนและกาหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาในระยะยาว และกาหนดแนวทางการพัฒนาของ ทุกภาคส่วนให้
ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ดังน้ันจึงจาเป็นจะต้องกาหนดยุทธศาสตร์ชาติในระยะยาว เพ่ือถ่ายทอดแนว
ทางการพัฒนาสู่การปฏิบัติในแต่ละช่วงเวลาอย่างต่อเน่ืองและมีการบูรณาการ และสร้าง ความเข้าใจถึงอนาคต
ของประเทศไทยร่วมกัน และเกิดการรวมพลังของทุกภาคส่วนในสังคมท้ัง ประชาชนเอกชน ประชาสังคม ในการ
ขับเคล่ือนการพัฒนาเพื่อการสร้างและรักษาไว้ซ่ึงผลประโยชน์ แห่งชาติและบรรลุวิสัยทัศน์“ประเทศไทยมีความ
ม่ันคง ม่ังค่ังยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการ พัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรือคติพจน์
ประจาชาติ“มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อให้ ประเทศมีขีดความสามารถในการแข่งขัน มีรายได้สูงอยู่ในกลุ่มประเทศ
พัฒนาแล้ว คนไทยมีความสุข อยู่ดีกินดีสังคมมีความมั่นคง เสมอภาคและเป็นธรรม ซ่ึงยุทธศาสตร์ชาติ
ทจี่ ะใช้เป็นกรอบแนวทาง การพฒั นาในระยะ 20 ปี

ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ดงั น้ี
1) ยุทธศาสตรส์ ร้างความมั่นคงให้กับประเทศ
2) ยทุ ธศาสตร์สรา้ งความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศกั ยภาพคน
4) ยทุ ธศาสตรส์ รา้ งโอกาสบนความเสมอภาคและความเท่าเทยี มกนั ทางสงั คม
5) ยุทธศาสตร์การเตบิ โตบนคณุ ภาพชีวติ ท่ีเปน็ มิตรกับสิง่ แวดล้อม
6) ยทุ ธศาสตรก์ ารปรบั สมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ

๔๙

3) แผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579)
วิสัยทัศน์ “คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดารงชีวิต อย่างเป็นสุข

สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลก ศตวรรษท่ี 21” วัตถุประสงค์ในการ
จดั การศึกษา 4 ประการ คือ

1) เพ่ือพัฒนาระบบและกระบวนการจดั การศกึ ษาท่ีมีคุณภาพและมปี ระสทิ ธภิ าพ
2) เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดีมีคุณลักษณะทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับ บทบัญญัติของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทยพระราชบญั ญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติและยุทธศาสตร์ชาติ
3) เพ่ือพฒั นาสังคมไทยใหเ้ ป็นสังคมแห่งการเรยี นรู้และคุณธรรม จรยิ ธรรม รู้รักสามัคคี และร่วมมือผนึก
กาลังมุง่ สูก่ ารพฒั นาประเทศอยา่ งยัง่ ยนื ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
4) พัฒนาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลางและความเหลื่อมล้าภายใน ประเทศ
ลดลงเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษาดังกล่าวข้างต้น แผนการศึกษาแห่งชาติได้
วางเป้าหมายไว้ 2 ด้าน คือ เป้าหมายด้านผู้เรียน (Learner Aspirations) โดยมุ่งพัฒนา ผู้เรียนทุกคนให้มี
คณุ ลักษณะและทกั ษะการเรยี นรู้ ในศตวรรษที่ 21 (3Rs 8Cs) ประกอบด้วย ทกั ษะ และคณุ ลกั ษณะตอ่ ไปน้ี

3Rs ได้แก่ การอ่านออก (Reading) การเขียนได้ (Writing) และการคดิ เลขเปน็ (Arithmetic)
8Cs ไดแ้ ก่
- ทักษะด้านการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และทักษะการแก้ปัญหา
- ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม
- ทักษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์
- ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา
- ทักษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศและการรูเ้ ทา่ ทนั ส่ือ
- ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นรู้
- ความมเี มตตา กรุณา มีวินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
เป้าหมายของการจัดการศึกษา (Aspirations) 5 ประการ
ซึ่งมีตวั ชวี้ ดั เพอื่ การบรรลุเปา้ หมาย 53 ตวั ชี้วัด ประกอบด้วยเป้าหมายและตัวชี้วดั ทส่ี าคัญ ดังน้ี
1) ประชากรทกุ คนเข้าถึงการศกึ ษาท่ีมคี ุณภาพและมีมาตรฐานอยา่ งท่ัวถงึ (Access)
2) ผู้เรียนทุกคน ทุกกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างเท่า เทียม
(Equity)
3) ระบบการศึกษาท่ีมีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุขีดความสามารถเต็มตาม ศักยภาพ
(Quality)
4) ระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ เพ่ือการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่าและ บรรลุ
เปา้ หมาย (Efficiency)
5) ระบบการศกึ ษาท่สี นองตอบและก้าวทนั การเปลีย่ นแปลงของโลกทีเ่ ป็นพลวตั (Relevancy)

๕๐

4) ไทยแลนด์ 4.0
กระบวนทัศน์ในการพัฒนาประเทศภายใต้“ประเทศไทย 4.0”เป็นอีกนโยบายหน่ึงที่เป็นการวางรากฐาน

การพฒั นาประเทศในระยะยาว เปน็ จุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนไปสู่การเป็นประเทศที่ มั่นคง มั่งค่ังและย่ังยืน ตาม
วสิ ัยทัศน์รัฐบาลเป็นรูปแบบที่มีการผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ การปฏิรูปการวิจัยและการพัฒนา และ
การปฏิรูปการศึกษาไปพร้อม ๆ กัน เป็นการผนึกกาลังของทุกภาคส่วนภายใต้แนวคิด “ประชารัฐ” ท่ีผนึกกาลังกับ
เครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจการวิจัยพัฒนา และบุคลากรท้ังในและระดับโลกโดยภารกิจสาคัญในการขับเคลื่อน
ปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ เพ่ือต้องการปรับเปล่ียนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ “Value-Based Economy” หรือ
“เศรษฐกจิ ที่ขบั เคล่ือนด้วย นวัตกรรม” โดยมีฐานคิดหลัก คือ เปล่ียนจากการผลิตสินค้า “โภคภัณฑ์” ไปสู่สินค้า
เชิง“นวัตกรรม” เปลี่ยนจากการขับเคล่ือนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การขับเคล่ือนด้วยเทคโนโลยี
ความคิด สร้างสรรค์และนวัตกรรม และเปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตสินค้าไปสู่การเน้นภาคบริการมากขึ้น
เปล่ียนจากการเกษตรแบบดั้งเดิมในปัจจุบันไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ ท่ีเน้น การบริหารจัดการและเทคโนโลยี
(Smart Farming) โดยเกษตรกรต้อง ร่ารวยข้ึน และเป็นเกษตรกรแบบเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur)
เปลี่ยนจาก Traditional SMEs หรือ SMEs ท่ีมีอยู่และรัฐต้องให้ความ ช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลาไปสู่การเป็น
Smart Enterprises และ Startups บริษัทเกิดใหม่ท่ีมีศักยภาพสูงเปลี่ยนจาก Traditional Services ซึ่งมีการ
สร้างมูลค่าค่อนข้างต่าไปสู่ High Value Services และเปล่ียนจาก แรงงานทักษะต่าไปสู่แรงงานที่มีความรู้ความ
เช่ียว ช าญ และทักษะสูงสามารถรับมือกับโ อกาสและภัย คุกคามแบบใหม่ ๆ ที่เปล่ียนแปลง
อย่างเร็ว รนุ แรงในศตวรรษที่ 21 โดยประเทศไทยในอดีตที่ผา่ นมา มกี ารพัฒนาดา้ นเศรษฐกจิ เป็นไปอย่างต่อเน่ือง

“ประเทศไทย 1.0” เน้นการเกษตรเปน็ หลกั เชน่ ผลติ และขาย พืชไรพ่ ืชสวน
“ประเทศไทย 2.0” เน้นอุตสาหกรรมแต่เป็นอุตสาหกรรมเบา เช่นการผลิตและขายรองเท้า เครื่องหนัง
เคร่อื งด่มื เครือ่ งประดับ เครือ่ งเขียน กระเปา๋ เครอื่ งนุง่ หม่ เปน็ ตน้
“ประเทศไทย 3.0” เน้นอุตสาหกรรมหนักและการส่งออก เช่น การผลิตและขาย ส่งออก เหล็กกล้า
รถยนต์กล่นั นา้ มนั แยกก๊าซธรรมชาติปนู ซีเมนต์
“ประเทศไทย 4.0” ให้เป็นเศรษฐกิจใหม่ (New Engines of Growth) มีรายได้สูง โดยวางเป้าหมาย ให้
เกิดภายใน 5-6 ปีกับการวางภาพอนาคตทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนของประเทศ ท่ีพัฒนา โดยไทยแลนด์ 4.0 จะมุ่ง
พัฒนาเพ่ือให้เกิดผลจริงต้องมีการพฒั นาวิทยาการ ความคิด สร้างสรรค์นวัตกรรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการ
วจิ ยั และพัฒนาแล้วต่อยอดในกลมุ่ เทคโนโลยี และอตุ สาหกรรมเปา้ หมาย ดังน้ี
1. กลุ่มอาหารเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น สร้างเส้นทางธุรกิจใหม่ (New Startups) ด้าน
เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยอี าหาร เปน็ ต้น
2. กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์เช่น พัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ เทคโนโลยี
การแพทย์สปา เปน็ ตน้
3. กลุ่มเคร่ืองมือ อุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์และระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุม เช่น
เทคโนโลยหี ุ่นยนตเ์ ปน็ ต้น
4. กลมุ่ ดจิ ิตอลเทคโนโลยอี ินเตอรเ์ นต็ ท่เี ช่ือมตอ่ และบังคับอปุ กรณ์ต่าง ๆ ปญั ญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยี
สมองกลฝงั ตัว เชน่ เทคโนโลยีดา้ นการเงนิ อุปกรณ์เช่ือมต่อออนไลน์โดยไม่ต้องใช้คน เทคโนโลยีการศึกษา อี-มาร์
เก็ตเพลส อี-คอมเมิรซ์ เป็นตน้

๕๑

5. กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการท่ีมีมูลค่าสูง เช่น เทคโนโลยี การออกแบบ ธุรกิจ
ไลฟส์ ไตล์ เทคโนโลยีการทอ่ งเที่ยว การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการบริการ

5) นโยบายรัฐบาลดา้ นการศึกษา
นโยบายด้านการศึกษา ข้อท่ี 4 การศึกษาและเรียนรู้การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและ วัฒนธรรม เพื่อสร้าง

สังคมใหเ้ ข้มแข็งอยา่ งมีคุณภาพและคุณธรรมควบคูก่ ัน ดงั นี้
 จดั ใหม้ ีการปฏริ ูปการศึกษาและการเรียนรู้ ทั้งในระบบและการศึกษาทางเลือก

ไปพรอ้ มกัน
 ปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณและการเรียนรู้สนับสนุนการศึกษาให้

สอดคล้องกับ ความจาเป็นของผู้เรียน และลักษณะของพ้ืนท่ีของโรงเรียน ปรับปรุงและบูรณา
การระบบการกยู้ มื เพื่อการศึกษาใหม้ ีประสิทธิภาพ
นโยบายดา้ นการศึกษา ข้อที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการ
วิจัยและพัฒนา และนวตั กรรมเพ่ือนาไปสู่การผลติ และบรกิ ารทที่ ันสมัย

 สนับสนุนการเพ่ิมค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาของประเทศเพื่อมุ่งไปสู่
เป้าหมายให้ไม่ ต่ากว่าร้อยละ 1 ของรายได้ประชาชาติและมีสัดส่วนรัฐต่อเอกชน 30 : 70
เพื่อให้ประเทศสามารถ แขง่ ขันและกา้ วหน้าทัดเทยี มประเทศอืน่

 เร่งเสริมสร้างสังคมนวัตกรรม โดยส่งเสริมระบบการเรียนการสอนท่ีเช่ือมโยง
ระหว่าง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ผลิตกาลังคนในสาขาท่ีขาด
แคลน เช่ือมโยง ระหว่างการเรียนรู้กับการท่องจา อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม มี
ชอ่ งทางในการใช้เทคโนโลยี ระหวา่ งหน่วยงานและสถานศกึ ษา

 การปฏิรูประบบให้สิ่งจูงใจ ระเบียบและกฎหมายท่ีเป็นอุปสรรคต่อการทางาน
วิจัยและ พัฒนาไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์ส่งเสริมการจัดทาแผนพัฒนาการวิจัยและพัฒนาใน
ระดับภาค หรือ กลุ่มจังหวัดให้สอดคล้องความต้องการของท้องถิ่นและนาไปใช้ประโยชน์เชิง
พาณชิ ยไ์ ด้

 ส่งเสริมให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศใช้ประโยชน์จากผลการ
ศกึ ษาวจิ ยั และ พฒั นา และนวัตกรรมของไทยตามความเหมาะสม โดยให้มีนโยบายจัดซื้อจัดจ้าง
ภาครัฐท่ีเอ้อื อานวยสรา้ งโอกาสการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศ

 ปรับปรุงและจัดเตรียมให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดา้ นการวิจัย และพัฒนา และด้านนวัตกรรมซ่ึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาในการต่อยอดสู่
การใชเ้ ชงิ พาณิชย์ ของภาคอุตสาหกรรม

 ให้องค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ
ประชาชนทั่วไป มีโอกาสจัดการศึกษาท่ีมีคุณภาพท่ัวถึงและร่วมปฏิรูปการศึกษาและเรียนรู้
กระจายอานาจการบริหาร จัดการศึกษาสู่สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาและองค์กรปกครอง
ส่วนทอ้ งถ่ิน

๕๒

 พัฒนาคนในทกุ ชว่ งวัยโดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างความรู้และทักษะ
ใหมท่ ี่ สามารถประกอบอาชีพได้อยา่ งหลากหลาย รองรบั การเปลยี่ นแปลงในอนาคต

 ส่งเสริมอาชีวศึกษาและการศึกษาระดับวิทยาลัยชุมชน เพ่ือสร้างแรงงานที่มี
ทักษะตรง ตามความตอ้ งการทอ้ งถิ่นและตลาดแรงงาน

 พฒั นาระบบการผลิตและพัฒนาครูท่ีมีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเป็น
ครู ส่งเสริมให้ครูมีวุฒิตามวิชาท่ีสอน ให้สามารถนาเทคโนโลยีและเครื่องมือมาใช้เป็นเครื่องมือ
ชว่ ยครูหรอื เพอ่ื การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

 ทะนุบารุงและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆสนับสนุนให้ทุกองค์กร
มีบทบาท ในการปลูกฝังคณุ ธรรมจริยธรรม และพฒั นาคุณภาพชีวติ

 อนุรักษ์ฟ้ืนฟูและเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านและ
วัฒนธรรมสากล และการสร้างสรรค์งานศิลปะและวัฒนธรรมท่ีเป็นสากลเพ่ือเข้าสู่เสาหลัก
วฒั นธรรมของอาเซยี นและ ประชาคมโลก

 ปลูกฝังค่านิยม และจิตสานึกท่ีดีรวมทั้งสนับสนุนการผลิตสื่อคุณภาพเปิดพื้นท่ี
สาธารณะ ใหเ้ ยาวชนและประชาชนได้มีโอกาสแสดงออกอยา่ งสร้างสรรค์

6) นโยบายการจัดการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
นโยบายท่ี 1 ด้านการจัดการศึกษาเพ่อื ความม่นั คง
1. เสริมสร้างความม่ันคงของสถาบันหลัก และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข
1.1 น้อมนาแนวพระราชดาริสืบสานพระราชปณิธานและพระบรมราโชบายดา้ น การศึกษาหรือ
“ศาสตรพ์ ระราชา” มาใชใ้ นการจัดกระบวนการเรยี นรู้อย่างยั่งยนื
1.2 ปลูกฝังและเสริมสร้างวิถีประชาธิปไตย ความสามัคคีสมานฉันท์ สันติวิธี ต่อต้านการทุจริต

คอรปั ชัน่ และยดึ มน่ั ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ ทรงเปน็ ประมขุ
1.3 เสริมสรา้ งความรู้ความเขา้ ใจท่ีถูกต้องเก่ียวกับสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ ผ่านหลักสูตร

และกระบวนการเรียนร้ปู ระวัตศิ าสตรแ์ ละความเป็นพลเมอื ง
2. ปลกู ฝังผู้เรยี นด้านคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทพี่ งึ ประสงค์
2.1 สง่ เสรมิ สนับสนนุ การจัดกจิ กรรมทัง้ ในและนอกห้องเรียน ที่เอื้อต่อการพัฒนา คุณธรรมจริยธรรม

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามหลักสตู รและคา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
2.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ เช่น อาชญากรรม และความ

รนุ แรงในรปู แบบต่าง ๆ สง่ิ เสพตดิ ภยั พิบตั จิ ากธรรมชาตภิ ยั จากโรคอบุ ัตใิ หม่ ภัยจากไซเบอร์ ฯลฯ
นโยบายที่ 2 ด้านการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน และสง่ เสริมการจัดการศึกษาเพื่อสร้างขดี ความสามารถใน

การแขง่ ขัน
1. เสริมสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาผู้เรียนอย่างมีคุณภาพด้วยการปรับหลักสูตร การวัดและ

ประเมนิ ผลทเ่ี หมาะสม

๕๓

1.1 ปรับปรุงหลักสูตรในระดับปฐมวัยและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และ นาหลักสูตร
ไปสูก่ ารปฏบิ ัติใหเ้ กดิ ประสทิ ธิภาพ และจัดการเรยี นรใู้ หส้ อดคลอ้ งกบั หลกั สตู รตามความ จาเป็นและความต้องการ
ของผ้เู รียน ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ และสังคม

1.2 ส่งเสริมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีความม่ันใจในการส่ือสารภาษาอังกฤษ ภาษา ประเทศคู่ค้า
และภาษาอาเซียนอยา่ งนอ้ ย 1 ภาษา

1.3 พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลทุกระดับ ให้มีคุณภาพและมาตรฐานนาไปสู่การพัฒนา
คุณภาพผ้เู รียนเตม็ ตามศักยภาพ

๒. พัฒนาคณุ ภาพกระบวนการเรยี นรู้
2.1 พัฒนาผู้เรียนระดับก่อนประถมศึกษาให้มีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ

สตปิ ญั ญา ใหม้ ีความพร้อมเขา้ สู่การเรียนในระดบั ท่ีสงู ขนึ้
2.2 ส่งเสริมสนบั สนนุ ให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเขยี นได้ตามช่วงวยั
2.3 สง่ เสริมสนับสนนุ ให้ผู้เรียนมีนสิ ัยรักการอา่ น
2.4 สง่ เสรมิ การจัดการเรียนรทู้ ่ีใหผ้ เู้ รยี นได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมการปฏิบัติจริง (Active Learning) เน้น

ทักษะกระบวนการ ใหเ้ กิดทักษะการคิดวิเคราะห์คิดแก้ปัญหา และคิดสร้างสรรค์ ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้งใน
และนอกห้องเรียน

2.5 ส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รียนมที ักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี ๒๑
2.6 ปลูกฝงั ทักษะกระบวนการวทิ ยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์
2.7 สนับสนุนการผลิต จัดหา และใช้ส่ือการเรียนการสอน เทคโนโลยีนวัตกรรม และสิ่งอานวยความ
สะดวกท่ีหลากหลายรวมท้ังการพัฒนาห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษาในการจัดการเรียนรู้ได้ทั้งใน
ห้องเรียน และนอกหอ้ งเรียนเพ่อื ให้ผ้เู รยี นได้เรยี นรูอ้ ย่างเต็มศกั ยภาพ
2.8 ส่งเสริมการจัดหลักสูตรทักษะอาชีพ ควบคู่ไปกับวิชาสามัญ เช่น ทวิศึกษา (Dual Education),
หลกั สูตรระยะส้นั
2.9 ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาผู้เรียนที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ (ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสและผู้มี
ความสามารถพิเศษ) ใหเ้ ตม็ ตามศักยภาพดว้ ยรปู แบบทเี่ หมาะสม
2.10 ส่งเสริมสนับสนุนการจดั กจิ กรรมแนะแนวเพื่อการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ อย่างเข้มแข็ง
ตอ่ เนอ่ื งและเป็นรปู ธรรม
3. สรา้ งขดี ความสามารถในการแขง่ ขัน
3.1 ยกระดับผลการประเมินระดับนานาชาติตามโครงการ PISA (Programme for International
Student Assessment)
3.2 ส่งเสรมิ การพฒั นาศกั ยภาพผ้เู รยี นสู่ความเปน็ เลิศในด้านต่าง ๆ
3.3 ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงบูรณาการแบบสหวิทยาการ เช่น สะเต็มศึกษา (Science Technology
Engineering and Mathematics Education : STEM Education) เพ่ือพัฒนา กระบวนการคิด และการ
สร้างสรรคน์ วตั กรรมเพอ่ื สรา้ งมลู คา่ เพิม่ สอดคลอ้ งกับประเทศไทย 4.0
4. สง่ เสริมสนบั สนนุ การทาวิจัย และนาผลการวิจัยไปใช้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา
4.1 ส่งเสรมิ การทาวจิ ัยเพ่อื พฒั นาการบรหิ ารจัดการศึกษา

๕๔

4.2 ส่งเสริมการทาวิจยั เพ่อื พฒั นาหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้การวัดและประเมินผล โดยเน้นให้มีการ
วจิ ยั ในชนั้ เรยี น

นโยบายที่ 3 ด้านการส่งเสริม พัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
1. พัฒนาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ให้สามารถจดั การเรียนรู้อยา่ งมคี ณุ ภาพ ในรปู แบบ ที่หลากหลาย
เชน่

1.1 TEPE Online (Teachersand Educational personnel Enhancement Based on Mission
and Functional Areas as Majors)

1.2 ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชพี (Professional Learning Community : PLC)
1.3 การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการปฏิบตั ิจรงิ (Active Learning)
1.4 การพฒั นาครทู งั้ ระบบทีเ่ ชื่อมโยงกบั การเลื่อนวทิ ยฐานะ
2. พัฒนาระบบการบรหิ ารงานบคุ คลให้มีประสิทธภิ าพ โดยเชอื่ มโยงกับหน่วยงานท่ีเกยี่ วขอ้ ง ดังน้ี
2.1 การกาหนดแผนอตั รากาลงั การสรรหา การบรรจุแต่งตั้ง การประเมินและการพัฒนา
2.2 การสรา้ งแรงจงู ใจให้ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษามีขวัญและกาลังใจในการทางาน

นโยบายที่ 4 ด้านโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทยี ม การเข้าถึงบริการทางการศึกษา
1. เพม่ิ โอกาสการเขา้ ถงึ การศึกษาท่มี ีคุณภาพ

1.1 สง่ เสรมิ ประชากรวยั เรียนทุกคนให้ไดร้ ับโอกาสในการ
เข้ารบั บรกิ ารทางการศึกษาอยา่ งทว่ั ถึง มคี ณุ ภาพ และเสมอภาค

1.2 สร้างความเข้มแข็งของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ระบบส่งเสริมความประพฤติ นักเรียน
ระบบคุม้ ครองนักเรยี น และการสรา้ งภมู ิค้มุ กันทางสงั คม

2. ลดความเหล่ือมลา้ ทางการศกึ ษา
2.1 ประสานหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ในการจัดการศึกษาท่ีเหมาะสม สาหรับเด็กด้อยโอกาสท่ีไม่อยู่ใน

ทะเบียนราษฎร เชน่ เดก็ ไรส้ ญั ชาติเดก็ พลัดถิ่น เดก็ ตา่ งดา้ วเด็กไทยทีไ่ มม่ เี ลขประจาตวั ประชาชน เปน็ ต้น
2.2 ส่งเสรมิ สนบั สนุนการใช้เทคโนโลยีในการจัดการศึกษาให้ครอบคลุมทุกพ้ืนที่ อย่างท่ัวถึง เช่น การ

พัฒนาคุณภาพศกึ ษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Distance learning information technology : DLIT),
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล ผ่านดาวเทียม (Distance Learning Television :
DLTV) ฯลฯ

นโยบายท่ี ๕ ด้านการจัดการศึกษาเพ่ือสร้างเสริมคุณภาพชีวติ ท่เี ป็นมติ รกบั สิ่งแวดล้อม
1. จดั การศึกษาเพื่อสรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชีวติ

1.1 ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างจิตสานึกรักษ์ส่ิงแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และน้อมนาแนวคิด
ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงส่กู ารปฏบิ ัตใิ นการดาเนินชวี ติ

1.2 ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาพัฒนาหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้แหล่งเรียนรู้ และสื่อการ
เรยี นรตู้ า่ ง ๆ ท่เี ก่ยี วข้องกับการสรา้ งเสริมคณุ ภาพชวี ิตท่ีเปน็ มติ รกับสง่ิ แวดล้อม

1.3 สรา้ งเครือข่ายความรว่ มมือกบั ภาคสว่ นตา่ ง ๆ ในการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อม

๕๕

นโยบายที่ 6 ด้านการพัฒนาระบบบริหารจัดการและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัด
การศกึ ษา

1. พฒั นาระบบบริหารจัดการใหม้ ีประสทิ ธิภาพ
1.1 พัฒนาระบบการวางแผน การนาแผนไปสกู่ ารปฏบิ ตั กิ ารกากบั ตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผล

เพือ่ การบริหารจดั การทีม่ ีประสิทธภิ าพ โดยยึดหลกั ธรรมาภบิ าล
1.2 พฒั นาระบบงบประมาณและการสนบั สนุนค่าใชจ้ า่ ยเพื่อการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน
1.3 พัฒนาระบบเทคโนโลยดี ิจิทัลเพอ่ื การจดั การศกึ ษาท่ีมีมาตรฐานเชอ่ื มโยงและเขา้ ถึงได้
1.4 สร้างความเข้มแข็งและยกระดับคุณภาพสถานศึกษาตามบริบทของพ้ืนที่ เช่น โรงเรียนที่ประสบ

ปัญหาวิกฤตทางการศึกษา (ICU), โรงเรียนประชารัฐ (ดีใกล้บ้าน), โรงเรียนคุณธรรม, โรงเรียนห้องเรียนกีฬา,
โรงเรียนมาตรฐานสากล ฯลฯ

1.5 สง่ เสรมิ ระบบประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษาใหเ้ ข้มแขง็
1.6 ยกย่องเชิดชูเกียรติสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สถานศึกษา
และองค์คณะบุคคล ท่มี ีผลงานเชิงประจกั ษ์
2. สร้างความเขม้ แข็งในการบรหิ ารจัดการแบบมีส่วนรว่ ม
2.1 ส่งเสริมการบริหารจัดการเขตพ้ืนท่ีการศึกษาโดยใช้พ้ืนที่เป็นฐาน (Area-base Management),
รปู แบบการบรหิ ารแบบกระจายอานาจ “CLUSTERs” เปน็ ตน้
2.2 เขตพ้ืนที่การศึกษาจัดทาแผนบูรณาการจัดการศึกษาร่วมกับสานักงานศึกษาธิการ จังหวัด และ
สานกั งานศึกษาธกิ ารภาค
2.3 สร้างความเข้มแข็งในการยกระดับคุณภาพการศึกษารูปแบบเครือข่าย เช่น เครือข่ายส่งเสริม
ประสทิ ธภิ าพการจดั การศึกษา ศนู ยพ์ ัฒนากลุ่มสาระการเรยี นรูส้ หวิทยาเขต กลมุ่ โรงเรยี น ฯลฯ
2.4 สง่ เสริมและพัฒนาโรงเรยี นดว้ ยพลังประชารัฐอยา่ งต่อเนือ่ ง และย่งั ยืน
3. ส่งเสริมการมสี ว่ นรว่ มพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น
3.1 ส่งเสริม สนับสนุนผู้ปกครองชุมชน สังคม และสาธารณชน ให้มีความรู้ความเข้าใจ สร้างความ
ตระหนักในการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน การกากับดูแลตลอดจนการส่วนร่วมรับผิดชอบใน การพัฒนาคุณภาพ
ผเู้ รียน
3.2 ประสานสถาบันหรือหน่วยงานทางการศึกษาให้คัดเลือกผู้เรียนเข้าศึกษาต่อด้วยวิธีการท่ี
หลากหลาย

7) แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบบั ท่ี 12
(พ.ศ. 2560 – 2564) ประกอบดว้ ย 6 ยทุ ธศาสตร์ ได้แก่
ยุทธศาสตรท์ ่ี 1 ยทุ ธศาสตรพ์ ัฒนาหลกั สตู ร กระบวนการเรยี นการสอน การวัดและประเมนิ ผล
ผลผลติ /ผลลพั ธ์
ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีสูงขึ้น สามารถท่องจาและนาสิ่งที่จาไปฝึกคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์

คิดในเชิงสร้างสรรค์ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ มีทักษะการทางานร่วมกับผู้อื่น สอดคล้องกับทักษะ
ท่ีจาเป็นในศตวรรษที่ 21 มีคุณธรรมจริยธรรม ผู้สาเร็จการศึกษาทุกระดับ/ประเภท ได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพ

๕๖

มาตรฐาน มจี ติ สานกึ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข รวมท้ังสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความ
สามคั คปี รองดอง

กลยทุ ธ์
1.1 พัฒนากระบวนการเรียนการสอนท่ีมีคุณภาพ และจัดกิจกรรมเสริมทักษะพัฒนาผู้เรียน ในรูปแบบท่ี
หลากหลาย สอดคล้องกบั ทกั ษะทจี่ าเป็นในศตวรรษที่ 21
1.2 พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร การวัดและประเมินผลการศึกษาทุกระดับ/ประเภทการศึกษาให้
ทันสมัย สอดคลอ้ งกับความกา้ วหน้าทางวทิ ยาการและการเปล่ียนแปลงของสงั คมโลก
1.3 ส่งเสริมการพัฒนาเน้ือหาสาระท่ีทันสมัยในทุกระดับ/ประเภทการศึกษา เพ่ือการผลิต ส่ือการเรียน
การสอน ตาราเรยี นทมี่ คี ณุ ภาพ รวมท้ังตาราเรยี นอเิ ล็กทรอนกิ ส์
1.4 ปรับปรงุ ระบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาตใิ ห้สอดคลอ้ งกับหลักสตู รและกระบวนการ จัดการเรียน
การสอน
1.5 ส่งเสรมิ คุณธรรม จริยธรรม และความเปน็ พลเมืองและ
พลโลกตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในระบบการศึกษาอย่างเข้มขน้
ยทุ ธศาสตร์ที่ 2 ยุทธศาสตรผ์ ลิต พฒั นาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
ผลผลติ /ผลลพั ธ์
มกี ารผลติ ครูไดส้ อดคลอ้ งกับความต้องการในการจัดการศึกษาทกุ ระดับทุกประเภท มีครูครบตามเกณฑ์ มี
ครูประจาชั้นครบทุกห้อง และมีครูท่ีจบตรงวุฒิตามสาขาวิชาท่ีสอน ผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
มีจรรยาบรรณของวิชาชีพ รวมทั้งมีคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาท่ีมีสมรรถนะตามมาตรฐาน วิชาชีพ
สามารถใช้ศกั ยภาพในการสอนไดอ้ ย่างเตม็ ที่และขวญั กาลังใจท่ดี ใี นการปฏิบัตหิ น้าท่ี
กลยทุ ธ์
2.1 วางแผนการผลิต และพัฒนาครู คณาจารย์ อย่างเป็นระบบให้สอดคล้องกับความต้องการ ในการจัด
การศึกษาทกุ ระดบั / ประเภทการศึกษา
2.2 ปรบั ระบบการผลิตครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษาใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ
2.3 เร่งรดั พัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา รวมทั้งครูประจาการท่ีสอนไม่ตรงวุฒิ ครูท่ีสอนคละชั้น และครูใน
สาขาวชิ าที่ขาดแคลน
2.4 สร้างขวัญกาลังใจ สรา้ งแรงจูงใจให้กับครู คณาจารย์และบคุ ลากรทางการศกึ ษา
2.5 พัฒนาระบบบรหิ ารงานบุคคลของครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาให้มปี ระสทิ ธิภาพ
ยุทธศาสตร์ท่ี 3 ยุทธศาสตร์ผลิตและพัฒนากาลังคน รวมทั้งงานวิจัยท่ีสอดคล้องกับความต้องการ
ของการพัฒนาประเทศ
ผลผลติ /ผลลพั ธ์
มีการผลิตและพัฒนากาลังคนด้านอาชีวศึกษา และด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีท่ีมีคุณภาพ เพิ่มจานวน
บัณฑิตในสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลน มีสมรรถนะ มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน ตามมาตรฐานวิชาชีพ
และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ประชาชนได้รับการฝึกอาชีพตามความถนัด และความสนใจ รวมท้ังมี
ผลงานวิจัยและนวัตกรรมท่ีสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงพาณิชย์ การให้การรักษาพยาบาล และการ
พัฒนาความเปน็ ศนู ยก์ ลางด้านการศกึ ษาของภมู ิภาค

๕๗

กลยุทธ์
3.1 เร่งผลิตและพัฒนากาลังคนสาขาที่จาเป็นต่อการพัฒนาประเทศ อาทิ ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
แพทย์ และพยาบาล
3.2 เร่งผลิตและพัฒนาสมรรถนะกาลังคนด้านอาชีวศึกษาให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี
และรองรับพ้ืนท่เี ขตเศรษฐกิจพเิ ศษ
3.3 สง่ เสรมิ ภาพลักษณ์การอาชีวศึกษา เร่งปรับค่านิยม และวางรากฐานทักษะอาชีพให้แก่ผู้เรียน ตั้งแต่
วัยการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน
3.4 สง่ เสรมิ สนับสนุนการพฒั นาผูม้ คี วามสามารถพิเศษอย่างตอ่ เนอ่ื งทกุ ระดบั
3.5 เสริมสร้างความเข้มแข็งของกระบวนการผลิตและพัฒนากาลังคน โดยสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
ตามรูปแบบประชารัฐ ท้ังระหว่างองคก์ รภายในและต่างประเทศ
3.6 สง่ เสริมงานวจิ ัยและนวัตกรรมทสี่ ามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้จริง
ยุทธศาสตร์ที่ 4 ยทุ ธศาสตร์ขยายโอกาสการเขา้ ถึงบรกิ ารทางการศึกษา และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอด
ชวี ติ
ผลผลิต /ผลลพั ธ์
ผู้เรียนทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกันในทุกระดับและประเภทการศึกษา ได้รับการ
สนับสนุนค่าใช้จ่ายต้ังแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสามารถเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง
ตลอดชีวิต สถานศึกษาในภูมิภาค/ชนบท ได้รับการยกระดับคุณภาพในการ ให้บริการ เด็กพิการและด้อยโอกาสได้รับ
โอกาสทางการศึกษาท้ังในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน รวมท้ังสามารถเทียบโอนผลการเรียนและทักษะ
ประสบการณ์เพื่อขอรบั วฒุ กิ ารศกึ ษาเพิ่มข้นึ ได้
กลยุทธ์
4.1 ประกนั โอกาสการเข้าถึงบริการทางการศกึ ษาระดับการศกึ ษาข้นั พื้นฐานใหแ้ กผ่ ูเ้ รียนในทุกพน้ื ที่ ครอบคลุม
ถึงคนพิการ ผดู้ ้อยโอกาส และผมู้ ีความต้องการพเิ ศษ
4.2 ส่งเสรมิ การจัดการศึกษานอกระบบ และการเข้าถงึ แหล่งเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความสนใจ และวิถีชีวิตของ
ผู้เรยี นทุกกล่มุ เปา้ หมาย
4.3 เร่งสร้างความเข้มแข็งของระบบการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม อย่าง
กว้างขวาง
4.4 จัดหาทุนและแหล่งทุนทางการศกึ ษา
4.5 เรง่ พฒั นาแหลง่ เรียนรูท้ ี่เอื้อตอ่ การศกึ ษาและการเรียนรู้ตลอดชวี ิต อย่างมีคุณภาพมีความ หลากหลาย และ
สามารถให้บริการได้อยา่ งทั่วถึง
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 5 ยทุ ธศาสตร์สง่ เสรมิ และพฒั นาระบบเทคโนโลยีดจิ ิทัลเพอื่ การศกึ ษา
ผลผลิต /ผลลัพธ์
ผู้เรียน สถานศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับทุกประเภทการศึกษาเข้าถึงทรัพยากร และระบบ
เครือขา่ ยเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ มีองค์ความรู้เทคโนโลยี เพื่อการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนที่สูงขึ้น รวมทั้งมีศูนย์กลางในการจัดเก็บรวบรวมส่ือการเรียนการสอนแบบดิจิทัลท่ีทันสมัย และระบบ
ฐานขอ้ มูลกลางทางการศกึ ษาของประเทศทถี่ กู ต้องและเป็นปจั จบุ ัน

๕๘

กลยทุ ธ์
5.1 พัฒนาระบบเครือข่ายเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือการศึกษาและการบริหารจัดการท่ีทันสมัย และไม่ซ้าซ้อน ให้
ผรู้ บั บริการสามารถเข้าถงึ ไดอ้ ย่างท่ัวถึงและมปี ระสทิ ธิภาพ
5.2 พัฒนากระบวนการจัดท าระบบฐานข้อมูลกลางทางการศึกษาของประเทศ ระบบ การรายงานผล ของ
ฐานขอ้ มูลโดยเชื่อมโยงขอ้ มูลการศกึ ษาทุกระดับ/ประเภทการศกึ ษา ให้เปน็ อกภาพ เปน็ ปจั จบุ ัน และมมี าตรฐานเดียวกนั
5.3 ผลิตและพัฒนาโปรแกรมประยุกต์หรือส่ือการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้เรียน สถานศึกษา และหน่วยงาน
ทางการศกึ ษาทกุ ระดับ/ประเภทการศกึ ษา นามาใช้เพม่ิ คณุ ภาพการเรยี นรู้อยา่ งเป็นระบบ
5.4 จัดหาอุปกรณ์ /ทรัพยากรพ้ืนฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับผู้เรียนอย่างเพียงพอ ท่ัวถึง และ
เหมาะสมกบั การแสวงหาความรดู้ ้วยตนเองอยา่ งตอ่ เน่อื ง
ยุทธศาสตร์ที่ 6 ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริหารจัดการและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัด
การศึกษา
ผลผลติ /ผลลพั ธ์
ระบบบริหารจัดการมคี วามคล่องตวั ในการบรหิ ารงานการศกึ ษามากยิ่งขึน้ มคี วามโปร่งใส และเปน็ ที่ยอมรับของ
ผูร้ บั บริการ โครงสรา้ งของกระทรวงได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพโดยการ กระจายอานาจลงไปสู่ส่วนภูมิภาคและ
สถานศึกษา และมีกลไกการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนทรัพยากรเพ่ือการศึกษา สถานศึกษาทุก
ระดับทุกประเภทมีธรรมาภิบาลในการบริหาร รวมทั้ง ผู้เรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่
สูงขึน้ มีศกั ยภาพเพอ่ื ไปประกอบอาชีพ ในท้องถิน่ ได้
กลยทุ ธ์
6.1 ปรับปรุงกลไกการบรหิ ารจดั การการศึกษาใหเ้ ป็นไปตามหลกั ธรรมาภิบาล โดยเน้นดา้ น คณุ ธรรม
ความโปร่งใส ทง้ั ในระดบั ส่วนกลาง และในพ้นื ที่ระดับภาค/จงั หวดั
6.2 พัฒนาระบบบริหารงานงบประมาณ /การเงนิ ใหม้ ีประสิทธิภาพ
6.3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาตอบสนองการสร้างอาชีพและเพิ่มคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้า สร้าง
ความสมานฉนั ท์ และเสริมสร้างความมนั่ คงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
6.4 เร่งส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมรับผิดรับชอบในการจัดการศึกษา รวมท้ังสนับสนุน ทรัพยากร
เพื่อการศกึ ษา
6.5 เสริมสร้างภาพลักษณ์หน่วยงานให้เกิดความร่วมมือ และสร้างเครือข่าย/ความเป็นภาคีหุ้นส่วน กับ
องค์กรทงั้ ภายในและต่างประเทศ
6.6 สง่ เสรมิ และขยายผลให้สถานศกึ ษาระดับการศกึ ษาข้นั พื้นฐานท่ีมีความพร้อม พัฒนาเป็นสถานศึกษา
นิติบุคคลในกากบั
8) นโยบายสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน (สพฐ.)
นโยบายท่ี 1 จัดการศกึ ษาเพื่อความมน่ั คง
การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง จะเน้นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในเขตพ้ืนที่พิเศษ
เฉพาะ ท่ีมีความยากลาบากในการบริหารจัดการ เช่น การจัดศึกษาของสถานศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการจัดการศึกษาเพ่ือเสริมสร้างคุณภาพของประชากรวัยเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มท่ี

๕๙

ด้อยโอกาส และกลุ่มท่ีอยู่ในพ้ืนที่ห่างไกลทุรกันดาร เช่น พ้ืนท่ีสูง ชายแดน ชายฝ่ังทะเล และเกาะแก่ง เพื่อสร้าง
ความมัง่ คงของประเทศในระยะยาว

เปา้ ประสงค์
ผู้เรียนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเขตพ้ืนท่ีพิเศษเฉพาะ ได้รับการบริการ
การศึกษาขั้นพื้นฐานทม่ี คี ณุ ภาพเหมาะสมกบั สงั คมพหุวฒั นธรรม
เสริมสร้างคุณภาพประชากรวัยเรียนกลุ่มชาติพันธ์ุ กลุ่มท่ีด้อยโอกาส และกลุ่มท่ีอยู่ในพื้นที่ห่างไกลสูงใน
ถิ่นทุรกันดาร อาทิ พื้นที่สูง ชายแดน ชายฝั่งทะเล และเกาะแก่ง เพ่ือสร้าง ความม่ังคงของประเทศ
ในระยะยาว
นโยบายที่ 2 พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น
การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มุ่งเน้นพัฒนาประชากรวัยเรียนทุกคนและทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหมายรวมถึง
กลุ่มผู้เรยี นท่มี ีความตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษ กล่มุ ชาติพันธ์ุ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มที่อยู่ในพ้ืนที่ห่างไกลทุรกันดาร
ในทกุ มติ ิ โดยมีเป้าหมาย เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดม่ันการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติท่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง เป็นพลเมืองดีของชาติและเป็นพลโลกที่ดี มี
คุณธรรม จริยธรรม มีทักษะท่ีจาเป็นในศตวรรษที่ 21 มีความเป็นเลิศทางวิชาการ มีทักษะวิชาชีพ และมีทักษะชีวิตที่
เหมาะสมสอดคล้องกับสังคมปัจจุบัน โดยการพัฒนาระบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่
21 มีประเดน็ กลยทุ ธ์ ดงั นี้
1) ปรบั ปรุงและพัฒนาหลกั สตู รทุกระดับการศกึ ษาให้เอ้ือต่อการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนเป็นรายบุคคล มี
ทกั ษะทีจ่ าเป็นในศตวรรษที่ 21 นาไปสูก่ ารจดั การศึกษาเพอื่ การมงี านทา (Career Education)
2) พัฒนาผู้เรียนทุกคนใหม้ ีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดม่ันการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติท่ีดีต่อบ้านเมือง มีหลักคิดท่ีถูกต้อง เป็นพลเมืองดีของชาติและเป็น
พลเมืองโลกทีด่ ี มีคุณธรรม จริยธรรม
3) พฒั นาคุณภาพของผู้เรยี น ให้มีทกั ษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 มคี วามเป็นเลิศด้านวิชาการ นาไปสู่
การสรา้ งขดี ความสามารถในการแขง่ ขัน
4) พัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต มีสุขภาวะที่ดีสามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมี
ความสขุ
5) การจดั การศกึ ษาเพ่ือการบรรลุเป้าหมายโลกเพอ่ื การพัฒนาอย่างย่ังยืน (SDGs) เพ่ือสร้างเสริมคุณภาพ
ชีวติ ทเ่ี ป็นมติ รกบั ส่งิ แวดลอ้ ม ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
6) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ และ 7) นา Digital Technology มาใช้ในการ
จัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนเป็นรายบุคคลตามสมรรถนะ ความต้องการ และความถนัด สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
อย่างตอ่ เนอื่ งตลอดชวี ติ
เป้าประสงค์
1. ผู้เรียนทุกคนมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดม่ันการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี

พระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข
2. มีทัศนคติท่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง และเป็นพลเมืองดีของชาติ และการพลเมืองโลก

ทีด่ ี (Global Citizen)

๖๐

3. ผู้เรียนทุกคนมีคุณธรรม จริยธรรม มีค่านิยมที่พึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและ
ผอู้ ่ืน มัธยสั ถ์ อดออม โอบออ้ มอารี มีวนิ ยั รักษาศีลธรรม

4. ผู้เรียนทุกคนได้รับการพัฒนาและสร้างเสริมศักยภาพในแต่ละช่วงวัยอย่างมีคุณภาพมีทักษะที่จาเป็นใน
ศตวรรษท่ี 21 มีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ มีทักษะส่ือสารภาษาอังกฤษ และภาษาท่ี 3 มีนิสัย
รักการเรยี นรู้และการพฒั นาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชวี ิต และมีทักษะอาชีพตามความต้องการและ
ความถนัด

5. ผู้เรียนท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ มีพัฒนาการตามศักยภาพของแต่ละบุคคล ทั้งในด้านที่มี
พัฒนาการปกติและด้านท่ีมีความบกพร่องหรือความแตกต่างทางการเรียนรู้ หรือความสามารถพิเศษ
ตามท่ีระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลหรือแผนการให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว
ซึ่งจัดทาขึ้นบนพ้นื ฐานความต้องการจาเปน็ เฉพาะของผู้เรียน

6. ผู้เรียนท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ มีความพร้อมสามารถเข้าสู่บริการช่วงเช่ือมต่อ(Transitional
Services) หรือการส่งต่อ (Referral) เข้าสู่การศึกษาในระดับเดียวกันและที่สูงข้ึน หรือการอาชีพหรือ
การดาเนนิ ชวี ติ ในสังคมไดต้ ามศกั ยภาพของแต่ละบคุ คล

7. ผู้เรียนทุกคนมีทักษะชีวิต มีสุขภาวะท่ีเหมาะสมตามวัย มีความเข้มแข็ง อดทน และสามารถ
พ่ึงตนเองได้ในสังคมอนาคตที่ซับซ้อนและการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามรูปแบบใหม่ สามารถ
ป้องกนั ตนเองจากปญั หายาเสพติดได้

นโยบายท่ี 3 พฒั นาผบู้ ริหาร ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา
การปรับเปลี่ยนระบบการผลิตและพัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกประเภท ตั้งแต่การจูงใจ คัด
สรร ผู้มคี วามสามารถสงู
ให้เข้ามาเป็นครูคุณภาพ มีระบบการพัฒนาศักยภาพและสมรรถนะอย่างต่อเน่ืองครอบคลุมท้ังเงินเดือน เส้นทาง
สายอาชีพ ปรับเปลี่ยนบทบาทครูให้เป็นครูยุคใหม่ที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพตรงตามความต้องการ
เป็นมืออาชีพ มีทักษะวิชาชีพขั้นสูง โดยปรับบทบาทจาก “ครูสอน” เป็น “โค้ช” หรือ “ผู้อานวยการการเรียนรู้”
สรา้ งเครือขา่ ยพัฒนาครใู หม้ กี ารแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหวา่ งกัน รวมถงึ การพฒั นาครูท่ีมีความเชี่ยวชาญด้านการสอน
มาเป็นผู้สร้างครูรุ่นใหม่อย่างเป็นระบบ และวัดผลงานจากการพัฒนาผู้เรียนโดยตรง นอกจากนี้ มีการออกแบบ
วางแผนการผลติ และพฒั นาครูอย่างเป็นระบบ ต้ังแต่การกาหนดมาตรฐานวิชาชีพขั้นสูง เงินเดือนค่าตอบแทนและ
สวัสดกิ ารตา่ ง ๆ ใหส้ ามารถจูงใจบุคคลท่ีเก่ง ดี มีความรู้ มาเป็นครู มีการวางแผนอัตรากาลังระยะยาว (20 ปี) ร่วมมือ
กับสถาบันการศึกษาในการผลิตครู และมีการวางแผนการพัฒนาครูอย่างต่อเนื่อง โดยนา Digital Platform มา
เป็นเครื่องมือท้ังการพัฒนา อบรมครู และการจัดทาฐานข้อมูลกาลังคน เพ่ือเก็บรวบรวมข้อมูลประวัติครู ประวัติ
การพฒั นา ฝึกอบรม นาไปสู่การวเิ คราะห์ วางแผนกาลงั คนไดอ้ ย่างตอ่ เนื่อง

เป้าประสงค์
ผู้บริหาร ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาทุกประเภท เป็นบุคลากรทีม่ ีคุณภาพ มปี ระสิทธิภาพ เปน็ มือ
อาชพี และมีทักษะวิชาชพี ขัน้ สูง

๖๑

นโยบายท่ี 4 สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และลดความเหล่ือม
ลา้ ทางการศกึ ษา

การสร้างโอกาสทางการศึกษา เพ่ือให้ประชากรในวัยเรียนทุกคน และทุกกลุ่มเป้าหมาย ซ่ึงหมายรวมถึง
กล่มุ ผู้เรียนที่มคี วามตอ้ งการจาเป็นพิเศษ กลุ่มชาตพิ นั ธ์ุ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มที่อยู่ในพ้ืนที่ห่างไกลทุรกันดาร
ได้เข้าถึงการบริการการศึกษาที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานโดย 1) เน้นการสร้างความร่วมมือกับองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถ่ิน ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับพื้นที่ เพ่ือวางแผนการจัดการศึกษาทั้งระบบต้ังแต่การสา
มะโนประชากรวัยเรียน การรับเด็กเข้าเรียน การตรวจสอบติดตามการเข้าเรียน การติดตามเด็กนักเรียนออก
กลางคัน ตลอดจนการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับพ้ืนที่ และการระดมทุนเพื่อพัฒนาการศึกษา 2) ปรับปรุง
พัฒนาสถานศึกษาทุกแห่งให้มีมาตรฐานในด้านต่าง ๆ สอดคล้องกับบริบทเชิงพ้ืนที่ เช่น มาตรฐานด้านโครงสร้าง
พ้ืนฐานและส่งิ อานวยความสะดวก ได้แก่ อาคารเรียน อาคารประกอบ หอประชุม สนามกีฬา ห้องเรียน ห้องพิเศษ วัสดุ
ครุภัณฑ์ เป็นต้น มาตรฐานด้านครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตรฐานด้านการบริหารจัดการ มาตรฐานด้านระบบ
งบประมาณ มาตรฐานด้านความปลอดภัย และมาตรฐานด้าน Digital Technology เป็นต้น 3) สร้างความ
เข้มแข็งในการบริหารจัดการศึกษาสาหรับผู้เรียนท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ 4) ปรับเปล่ียนกระบวนการ
งบประมาณต้ังแต่การจัดสรรงบประมาณอุดหนุนตรงไปยังผู้เรียนและสถานศึกษาโดยตรง และมีความเหมาะสม
เพียงพอ และ 4) นา Digital Technology มาเป็นเคร่ืองมือในการลดความเหลอื่ มล้าและสร้างโอกาสในการเข้าถึง
การบริการการเรยี นรู้ทีม่ ปี ระสิทธภิ าพ
เปา้ ประสงค์

สร้างโอกาสให้ประชากรวัยเรียนทุกคนเข้าถึงการบริการการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานเสมอกัน และลด
ความเหลอ่ื มลา้ ด้านการศกึ ษา

นโยบายท่ี 5 เพิ่มประสิทธภิ าพการบรหิ ารจดั การ
การเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จะเน้นการพัฒนาหน่วยงานใน
สังกัด ให้เป็นหน่วยงานที่มีขนาดท่ีเหมาะสมกับบทบาทภารกิจ สามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพและ
ประสทิ ธิภาพ แยกแยะบทบาทหน่วยงานแต่ละระดับอย่างชัดเจน เช่น ระดับปฏิบัติ ระดับท่ีทาหน้าท่ีในการกากับ
ติดตาม เป็นหน่วยงานท่ีมีขีดสมรรถนะสูง ยึดหลักธรรมาภิบาล และโปร่งใส เป็นองค์กรท่ีปราศจากการทุจริต
คอรัปช่ัน ปรับวัฒนธรรมการทางานให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมท่ีจะ
ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างย่ิงการนานวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูล
ขนาดใหญ่ ระบบการทางานที่เปน็ Digital เขา้ มาประยกุ ตใ์ ช้อย่างค้มุ คา่ และปฏิบตั งิ านเทียบได้กับมาตรฐานสากล
รวมทั้งมีลักษณะเปิดกว้าง เช่ือมโยงถึงกันและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความ
ต้องการของประชาชนไดอ้ ย่างสะดวก รวดเรว็ โดยมีประเด็นกลยุทธ์ ดังน้ี
1) เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการศึกษาของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา และสถานศกึ ษา
2) สร้างเครือข่ายความรว่ มมอื และสง่ เสรมิ ให้ทกุ ภาคส่วนของสังคมเข้ามามสี ่วนร่วมบริหารจัดการศึกษา
3) ยกระดับการบริหารงานของสถานศึกษาให้มีอิสระ นาไปสู่การกระจายอานาจ 4 ด้าน ให้สถานศึกษา
เป็นศนู ย์กลางในการจดั การศกึ ษาตามบรบิ ทของพ้นื ท่ี
4) ปรบั เปล่ยี นระบบงบประมาณเพ่อื สนบั สนุนผเู้ รยี นและสถานศึกษาอยา่ งเหมาะสม เพยี งพอ และ

๖๒

5) ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษา หน่วยงานทุกระดับนา Digital Technology มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพ
การบรหิ ารอย่างเป็นระบบ นาไปสู่การนาเทคโนโลยี Big Data เพื่อเช่ือมโยงข้อมูลด้าน ต่าง ๆ ตั้งแต่ข้อมูลผู้เรียน
ข้อมูลครู ข้อมูลสถานศึกษา ข้อมูลงบประมาณ และข้อมูลอ่ืน ๆ ท่ีจาเป็นมาวิเคราะห์เพ่ือให้สถานศึกษา สามารถ
จัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคลตามสมรรถนะ และความถนัด และสามารถวิเคราะห์เป็นข้อมูลใน
การวางแผนการพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ยข์ องประเทศ ต่อไป

เปา้ ประสงค์
สถานศึกษา และหน่วยงานระดับภูมิภาคมีความอิสระในการจัดการศึกษา เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ
มีมาตรฐานสอดคล้องกับบรบิ ทของพนื้ ท่ี
9) นโยบายสานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบรุ ี เขต 3

๖๓

๖๔

๖๕

๖๖

๖๗

๖๘

๖๙

๗๐

๗๑

๗๒

10) กฎกระทรวง การประกนั คณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. 2561

๗๓

๗๔

๗๕

11) ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ใหใ้ ชม้ าตรฐานการศกึ ษา
ระดับปฐมวัย รบั การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน และระดบั การศึกษา
ขั้นพน้ื ฐานศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ

๗๖

๗๗

๗๘

๗๙

2. การพัฒนาคณุ ภาพสถานศกึ ษา

1) การยกระดับทักษะภาษาองั กฤษ
ดว้ ยภาษาองั กฤษ เป็นภาษาสากลทมี่ ีการใชอ้ ยา่ งแพร่หลายมากที่สุดภาษาหนึ่ง โดยที่องค์ความรู้ที่สาคัญของ
โลกส่วนใหญ่ถูกบันทึกและเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษ จึงมีความจาเป็นที่ต้องจัดให้ มีการเรียนการสอน
ภาษาอังกฤษเพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือ เข้าถึงองค์ความรู้และก้าว
ทันโลก รวมถงึ พัฒนาตนเองเพ่อื นาไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขันของประเทศไทยต่อไปเพื่อให้บรรลุ
เป้าหมายดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดนโยบาย การปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ในระดับ
การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ดงั น้ี
1. ใช้กรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษท่ีเป็นสากล ได้แก่ The Common European
Framework of Reference for Languages (CEFR) เป็นกรอบความคิดหลักในการ จัดการเรียนการสอน
ภาษาอังกฤษของประเทศไทย ท้ังในการออกแบบหลักสูตร การพัฒนาการเรียน การสอน การทดสอบ การวัดผล
การพัฒนาครูรวมถงึ การกาหนดเป้าหมายการเรยี นรู้
2. ปรับจุดเน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้เป็นไปตามธรรมชาติของการเรียนรู้โดยเน้น การสื่อสาร
(Communicative Language Teaching : CLT) โดยปรับการเรียนการสอนจากการเน้น ไวยากรณ์
มาเป็นเน้นการสอ่ื สารท่เี ร่ิมจาก การฟงั ตามด้วยการพูด การอ่าน และการเขียนตามลาดบั
3. ส่งเสริมใหม้ กี ารเรยี นการสอนภาษาอังกฤษท่ีมีมาตรฐานตามกรอบมาตรฐานหลัก ด้วยหลักสูตรแบบเรียน
สื่อการเรยี นการสอน แต่ด้วยวิธีการที่แตกต่างกันได้ท้ังนี้ตามความพร้อมของ แต่ละสถานศึกษาและแสดงถึงความ
ถนดั และความสนใจของผ้เู รียน
4. ส่งเสรมิ การยกระดบั ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษ ไดแ้ ก่

4.1) ขยายโครงการพิเศษด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ได้แก่ (1) English Program (EP), (2)
Mini English Program (MEP) และ (3) International Program (IP) สาหรับ ผู้เรียนที่มีความสามารถทาง
วิชาการสูง (4) English Bilingual Education (EBE) โดยจดั การเรียน การสอนวิชาวิทยาศาสตร์สังคมศึกษา และ
ศิลปศึกษาแบบสองภาษา (ภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ) และ (5) Englishfor Integrated Studies (EIS) ด้วยการ
สอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตรเ์ ปน็ ภาษาองั กฤษ

4.2) พัฒนาห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ (Enrichment Class) เพื่อให้ผู้เรียนที่มี ศักยภาพทาง
ภาษาอังกฤษสามารถใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารทางสังคม (Social Interaction) และด้านวิชาการ (Academic
Literacy) และพฒั นาหอ้ งเรยี นสนทนาภาษาองั กฤษ (Conversation Class) ทเี่ น้นทักษะการฟงั และการพูด อย่าง
น้อยสัปดาห์ละ 2 ช่ัวโมง รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรและรายวิชา ภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความ
พรอ้ มในการใช้ภาษาอังกฤษสาหรับประกอบอาชีพ โดยเฉพาะสาหรับผู้เรียนที่จะจบชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 และใน
โรงเรยี นขยายโอกาส

4.3) จัดกิจกรรมและสภาพแวดล้อมท่ีส่งเสริมความสามารถด้านภาษาอังกฤษ เช่น (1) การเข้าค่าย
ภาษาอังกฤษแบบเข้ม ระยะ 2-4 สัปดาห์ (84 - 170 ชั่วโมง) ในช่วงปิดภาคเรียน สาหรับนักเรียนท่ัวไป และ
ค่ายนานาชาตสิ าหรับนกั เรียนท่ีมีความสามารถสูง (2) การเพ่ิมช่ัวโมงเรียน การเรียนอย่างต่อเน่ืองครึ่งวัน/ท้ังวัน/
หรือมากกว่าน้ัน รวมทั้ง (3) การจัดสภาพแวดล้อม/บรรยากาศ ที่ส่งเสริม/กระตุ้นการฝึกทักษะการสื่อสาร เช่น

๘๐

English Literacy Day, English Zone, English Corner, การประกวดแข่งขันต่าง ๆ ป้ายสารนิเทศและการเพ่ิม
กจิ กรรมการอา่ นในและนอกหอ้ งเรียน ด้วยเนอ้ื หาสาระทีห่ ลากหลาย เปน็ ตน้

4.4) ให้มีการเรียนการสอนวิชาสนทนาภาษาอังกฤษเปน็ การท่ัวไป และมีการเรียน การสอนภาษาอังกฤษ
แบบเข้มข้น รวมถึงจัดให้เป็นสาระเพ่ิมเติมในลักษณะวิชาเลือกได้ด้วย เพ่ือให้ ผู้เรียนเลือกเรียน ตามความสนใจ
ความถนัด และศกั ยภาพ

5. ยกระดับความสามารถในการจัดการเรียนการสอนของครูให้สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ ที่เน้นการสื่อสาร
(CLT) และเป็นไปตามกรอบความคิดหลัก CEFR โดยจัดให้มีการประเมินความรู้ พื้นฐานภาษาอังกฤษสาหรับครู
(ผู้สอน) เพ่ือให้มีการฝึกอบรมครูตลอดจนพัฒนาระบบติดตามแก้ ปัญหาและช่วยเหลือครูและให้มีกลไกลการเพ่ิม
ประสิทธิภาพการเรียนการสอน ที่มีการวางแผนอย่าง เป็นระบบและมีความหลากหลายเพ่ือตอบสนองความ
แตกต่างของระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ เพื่อให้สามารถยกระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษได้จริง
นอกจากนีค้ วรมีระบบการฝกึ ฝน และ การสอบวัดระดบั ความสามารถออนไลน์เพ่ือการพฒั นาต่อเนื่องดว้ ย

6. ส่งเสริมให้มีการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการศึกษาเป็นเคร่ืองมือสาคัญในการช่วย พัฒนา
ความสามารถทางภาษาของครูและผู้เรียน ท้ังการส่งเสริมให้มีการผลิตการสรรหา e-content, Learning
applications รวมถึงแบบฝึกและแบบทดสอบท่ีได้มาตรฐานและมีคุณภาพสาหรับการเรียนรู้ รวมท้ังส่งเสริมให้มี
การใช้ช่องทางการเรียนรู้ผ่านโลกดิจิทัลยกตัวอย่างเช่น การเรียนรู้การฟังการออก เสียงท่ีถูกต้องตาม Phonics
จากสื่อดิจิทัล กระทรวงศึกษาธิการมุ่งมั่นที่จะทาให้การปฏิรูปเกิดผลอย่างแท้จริงต่อนักเรียน ครูห้องเรียน โดยมี
เป้าหมาย แผนปฏิบัติการ แผนปฏิรูป ตามยุทธศาสตร์ชาติที่ชัดเจน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ต่าง ๆ อย่างเป็น
รปู ธรรม เชน่ การยกระดบั ภาษาองั กฤษของผ้เู รียนผา่ นโครงการ Bootcamp ร่วมกับภาคประชารัฐ ปรับหลักสูตร
ภาษาอังกฤษ เปลย่ี นกจิ กรรมการเรยี นการสอนใหต้ ่ืนตัวเรอื่ ง ภาษาในทุกโรงเรยี น จดั ต้ังศูนย์พัฒนาครู๑๘ แห่งท่ัว
ประเทศ พัฒนาครูภาษาอังกฤษ 20,000 คน กาหนดมาตรฐานภาษาอังกฤษในแต่ละช่วงช้ัน โดยใช้มาตรฐาน
CEFR ใชเ้ ทคโนโลยตี ่าง ๆ ช่วยเสรมิ แอปพลเิ คชัน่ ECHO English ทาใหส้ ามารถเรียนภาษา ได้ทุกทที่ กุ เวลา

2) โรงเรยี นคณุ ธรรม
การปฏิบัติตามแนวทางโรงเรียนคุณธรรม เป็นวาระสาคัญของชาติอันดับแรกที่จะนาพาความ เชื่อมั่นศรัทธา

ต่ออนาคตของประเทศชาติโดยให้ความสาคญั ในเร่ืองการสบื สาน พระราชปณิธาน เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 10
กระทรวงศกึ ษาธิการ จึงกาหนดกรอบแนวคิดท่ีสาคัญ ของโรงเรียนคุณธรรม 5 ด้าน ท่ีมีความเช่ือมโยงกันในทุกมิติ
และถือเปน็ การสร้างใหน้ กั เรยี นมคี ณุ ธรรม นาความรู้ดังนี้

1. ความพอเพียง : ดารงชีวิตด้วยความพอเพียง ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ รู้จัก ความพอดี พอเหมาะ และใช้ชีวิต
แบบเรยี บงา่ ย

2. ความกตัญญู : เป็นพ้นื ฐานดา้ นคณุ ธรรมของทุกคน และเปน็ สัญลักษณ์ของ คนดีเราจึง ต้องมีความกตัญญู
ตอ่ พ่อแมซ่ ึง่ เปรียบเสมอื นพระในบา้ น และกตญั ญตู อ่ ครูอาจารยซ์ ่ึงเปรียบเสมือนพระที่โรงเรยี น

3. ความซือ่ สตั ย์สุจริตสรา้ งชาติ : ความซ่ือสัตย์เป็นพื้นฐานสาคัญในการดารงชีวิต คาพูด หรือ การกระทาทุก
อย่างควรมาจากใจ

๘๑

4. ความรับผิดชอบ : ความรับผิดชอบซ่ึงเป็นส่ิงสาคัญในการเจริญสัมมาชีพต่อไปในวันข้าง หน้า ยึดม่ันกฎ
กตกิ าในการทางานอยา่ งเสมอต้นเสมอปลาย คงเส้นคงวาในความดี ปากตรงกับใจ และอย่าหลงลืมตัว

5. คุณธรรมจรยิ ธรรม : การยดึ ม่ันคุณธรรม จริยธรรมเป็นเร่ืองสาคัญ และต้องดารงตนให้เป็นแบบอย่างของ
สงั คม ตวั ชี้วดั โรงเรียนคุณธรรม 7 ข้อ ดงั นี้

1. มีอดุ มการณ์คุณธรรมต่อการพัฒนาในโรงเรยี นคณุ ธรรม
2. มกี ลไกและเคร่ืองมอื ในการปฏิบตั ิคณุ ธรรมจรยิ ธรรมรว่ มกนั ทั้งโรงเรยี น
3. มีพฤติกรรมทพี่ งึ ประสงค์ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความพอเพียงความกตัญญูความซ่ือสัตย์สุจริตอดทน และ
เสียสละในโรงเรียนเพม่ิ มากขนึ้
4. พฤติกรรมทไี่ ม่พงึ ประสงค์ลดน้อยลง
5. มกี ระบวนการมีสว่ นรว่ มและสรา้ งความรบั ผิดชอบ จากผ้เู กย่ี วข้องในโรงเรียน
6. มอี งค์ความร้นู วตั กรรมด้านคณุ ธรรม และบูรณาการรว่ มกนั ไวใ้ นชนั้ เรยี น
7. เปน็ แหล่งเรยี นรู้ดา้ นคุณธรรม

3) สะเต็มศึกษา
STEM Education คือ การสอนแบบบรู ณาการข้ามกลุ่มสาระวิชา (Interdisciplinary Integration) ระหว่าง

ศาสตรส์ าขาตา่ ง ๆ ได้แก่วิทยาศาสตร์ (Science : S) เทคโนโลยี (Technology: T) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineer:
E) และคณิตศาสตร์ (Mathematics: M) โดยนาจุดเด่นของธรรมชาติ ตลอดจนวิธีการสอนของแต่ละสาขาวิชามา
ผสมผสานกนั อยา่ งลงตวั เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นนาความรู้ทกุ แขนงมา ใชใ้ นการแก้ปญั หาการค้นคว้าและการพัฒนาส่ิงต่าง ๆ
ในสถานการณ์โลกปจั จบุ นั ซ่ึงอาศัยการจัดการเรยี นร้ทู ่คี รผู ้สู อนหลายสาขาร่วมมือกันเพราะในการทางานจริงหรือ
ในชีวติ ประจาวันนั้นต้องใช้ความรู้ หลายด้านในการทางานทั้งส้ินไม่ได้แยกใช้ความรู้เป็นส่วน ๆ นอกจากน้ี STEM
Educationยงั เป็นการ สง่ เสริมการพัฒนาทกั ษะสาคัญในโลกโลกาภวิ ัตน์หรือทักษะทจ่ี าเปน็ สาหรบั ศตวรรษที่ 21

STEM Education เปน็ การจดั การศึกษาที่มีแนวคดิ และลักษณะดังนี้
1. เปน็ การบูรณาการขา้ มกลุม่ สาระวิชา (Interdisciplinary Integration) นั่นคือเป็น การบูรณาการระหว่าง
ศาสตร์สาขาต่าง ๆ ได้แก่วิทยาศาสตร์ (S) เทคโนโลยี (T) วิศวกรรมศาสตร์ (E) และคณิตศาสตร์ (M) ทั้งน้ี ได้นา
จุดเด่นของธรรมชาติตลอดจนวธิ กี ารสอนของแต่ละสาขาวชิ ามาผสมผสานกนั
2. เป็นการบูรณาการที่สามารถจัดสอนได้ในทุกระดับช้ันตั้งแต่ชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาตอน ปลายโดยพบว่า
ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้กาหนดเป็นนโยบายทางการศึกษาให้แต่ละรัฐนาSTEM Education มาใช้ผลจาก
การศึกษาพบว่าครูผู้สอนใช้วิธีการสอนแบบ Project-based Learning, Problem-based Learning, Design-
based Learning ทาให้นักเรียนสามารถสร้างสรรค์พัฒนาช้ิน งานได้ดีและถ้าครูผู้สอนสามารถใช้ STEM
Educationในการสอนได้เร็วเท่าใดก็จะย่ิงเพิ่มความสามารถ และศักยภาพผู้เรียนได้มากขึ้นเท่านั้นซึ่งในขณะนี้ใน
บางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกามีการนา STEM Education ไปสอนต้ังแต่ระดับวัยก่อนเรียน (Preschool) ด้วย
นอกจาก STEM Education จะเปน็ การบูรณาการศาสตร์ท้ัง 4 สาขา ดังท่ีกล่าวข้างต้นแล้วยังเป็นการบูรณาการ
ด้านบริบท (Context Integration) ท่ีเกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวันอีกด้วยซึ่งจะทาให้การสอนน้ันมีความหมายต่อ
ผู้เรียนทาให้ ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการเรียนนั้น ๆ และสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันได้ซ่ึงจะเพ่ิม
โอกาส การทางานการเพิ่มมูลค่าและสามารถสรา้ งความแขง็ แกร่งให้กบั ประเทศดา้ นเศรษฐกจิ ได้

๘๒

4) การยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน
การยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเป็นภารกิจท่ีสาคัญที่สุดของสถานศึกษา ที่ควรดาเนิน การเพ่ือพัฒนา

นกั เรยี นทุกคนท่ไี ดเ้ ข้าเรยี น และจบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และคุณภาพสูงตามเกณฑ์ เป้าหมาย และมาตรฐาน
ของหลกั สตู รให้นักเรยี นได้พัฒนาเตม็ ศกั ยภาพ

ขั้นที่ 1 Taking Stock คือ การตรวจสภาพปัจจุบันเก่ียวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหรือผล การประเมิน
คุณภาพโรงเรียน เพื่อวิเคราะห์ว่าโรงเรียนเรามีคุณภาพมากน้อยเพียงใดเป็น การวิเคราะห์ และจัดทาฐานข้อมูล
(Baseline) เช่น พจิ ารณาจากผลการสอบ O-NET, NT หรือผลสมั ฤทธ์ิทางการ เรียนประจาปขี องสถานศึกษา

ขน้ั ที่ 2 Setting Goal เปน็ การกาหนดเปา้ หมายความสาเรจ็
1) ผลการประเมนิ คุณภาพภายในระดับดมี าก
2) กลมุ่ สาระการเรยี นรหู้ ลกั อย่างนอ้ ยร้อยละ ๙๐ อยใู่ นระดับดมี าก
3) ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นโดยเฉพาะการประเมิน O-NET จะตอ้ งเพิ่มข้ึนอย่างนอ้ ยร้อยละ 3 ของฐานเดมิ
ขั้นท่ี 3 Developing Strategies and implementing มุ่งพัฒนากลยุทธ์แล้วนากลยุทธ์สู่ การปฏิบัติ
ตัวอยา่ งของกลยทุ ธ์ เชน่
1) ขับเคลื่อนห้องเรียนคุณภาพ หรือประกันคุณภาพแต่ละรายวิชา แต่ละกลุ่มสาระการเรียน รู้แม้แต่ครูทุก
คนตอ้ งตัง้ เปา้ หมายในการพัฒนาคณุ ภาพ และดาเนนิ การยกระดับคุณภาพให้ได้ตามเป้า หมาย ดังนั้นการนิยามว่า
“ผู้นาการเปล่ียนแปลง ก็คือ ผู้ท่ีทางานสาเร็จใครสามารถทาผลงานปีน้ีได้ดี กว่าปีที่แล้ว เรียกว่า ผู้นาการ
เปล่ียนแปลง
2) ปฏิรปู การบรหิ ารจัดการห้องเรียนประจาชน้ั กาหนดเกณฑ์“ห้องประจาชัน้ /ทป่ี รึกษาคุณภาพ”
3) บรหิ ารจัดการสถานศกึ ษาท่เี นน้ การขบั เคลอ่ื นเชงิ ทฤษฎีอย่างเปน็ ระบบตามกรอบหลกั วิชา
ขั้นท่ี 4 Documenting Progress เป็นขั้นตอนการประเมินรวบรวมเอกสารหลักฐานท่ีแสดง ถึง
ความก้าวหน้าของงานตามเป้าหมาย
ทัง้ นี้การดาเนนิ งานแต่ละข้นั ตอนเน้น “การมีส่วนร่วม” ของ ครูอาจารย์ผู้เกี่ยวข้องฝ่ายต่าง ๆ เช่น กรรมการ
สถานศึกษา เครือข่ายผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่า เป็นต้น มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ (มสวร.) ได้
สงั เคราะห์วิธีการปฏิบตั ิทเี่ ปน็ เลศิ (Best Practices) เรือ่ ง การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จาก 16 โรงเรียน
ดีเด่นแลว้ จาแนกเปน็ ประเด็นหลกั เพ่ืออธิบายวธิ ีปฏบิ ัติ ดงั น้ี
1. การบรหิ ารจัดการเพือ่ ยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน มวี ิธีการดาเนินการ ดงั นี้

1.1 การจัดการความรู้เพอื่ กาหนดนโยบาย และจัดทาแผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา ของโรงเรยี น
1.2 การวเิ คราะหส์ ภาพการจดั การศึกษาของโรงเรยี น
1.3 การกาหนดยทุ ธศาสตร์ในการพฒั นากระบวนการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น
1.4 การนิเทศภายในแบบกลั ยาณมิตร
1.5 การประสานงานกับผูป้ กครองเพ่ือเฝา้ ระวังและติดตามแกไ้ ขปญั หา
2. วิธกี ารยกระดับผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ดาเนนิ การได้ 3 รูปแบบ คือ
รูปแบบที่ 1 การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้นตามเกณฑ์ท่ีคาดหวัง มีวิธีการ
ดาเนินการ ดงั นี้
1) การปรับเปล่ยี นท่าทีของครูในการจัดการเรยี นรู้

๘๓

2) การกาหนดเกณฑ์ท่ีคาดหวังและเกณฑ์การประเมินผล
3) การจัดกลุม่ ผเู้ รยี นทเ่ี หมาะสม
4) การกาหนดรูปแบบการพฒั นาการเรียนรู้และการจดั กจิ กรรม
รปู แบบท่ี 2 การยกระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนเพ่ือมุง่ สคู่ วามเป็นเลศิ
1) การจดั การเรียนรูแ้ บบห้องเรยี นพเิ ศษ
2) การจดั กิจกรรมการเรยี นรูเ้ พ่ือสง่ เสรมิ ความเป็นเลิศ
รูปแบบท่ี 3 การชว่ ยเหลอื นกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ์การจบหลักสตู ร
1) การดแู ลใกลช้ ิดเพอื่ ปรับพฤตกิ รรมและใหโ้ อกาสนักเรยี น
2) การเพมิ่ พนู ผลสมั ฤทธิ์เพ่อื ใหไ้ ดต้ ามเกณฑ์การจบหลักสตู ร
5) หลกั สตู รรายวชิ าเพิม่ เตมิ การปอ้ งกันการทุจรติ
1) ชื่อหลักสูตร “รายวิชาเพม่ิ เติม การปอ้ งกันการทจุ ริต”
2) จดุ มงุ่ หมายของรายวิชา เพื่อให้นกั เรียน
2.1 มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผล ประโยชน์สว่ นรวม
2.2 มีความรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต
2.3 มีความร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั STRONG : จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
2.4 มคี วามรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับพลเมอื งและมคี วามรบั ผิดชอบต่อสังคม
2.5 สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้
2.6 ปฏิบัตติ นเปน็ ผูล้ ะอายและไมท่ นตอ่ การทุจริตทกุ รูปแบบ
2.7 ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้ท่ี STRONG : จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ ริต
2.8 ปฏิบัติตนตามหน้าท่ีพลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
2.9 ตระหนักและเห็นความสาคัญของการต่อต้านและป้องกันการทุจริต
3) คาอธิบายรายวิชา ศึกษาเก่ียวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม
ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต STRONG : จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริตรู้หน้าที่ของพลเมือง แล
รบั ผดิ ชอบต่อสังคม ในการต่อต้านการทุจริต โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง
การทาโครงงานกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่าน
และการเขียนเพือ่ ใหม้ คี วามตระหนกั และเห็นความสาคญั ของการต่อต้าน และการปอ้ งกันการทจุ ริต
4) ผลการเรยี นรู้
4.1 มีความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผล ประโยชน์ส่วนรวม
4.2 มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ
4.3 มีความรูค้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั STRONG : จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต
4.4 มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั พลเมืองและมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม
4.5 สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้
4.6 ปฏิบัติตนเปน็ ผลู้ ะอายและไม่ทนตอ่ การทจุ ริตทุกรูปแบบ
4.7 ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ท่ี STRONG : จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทจุ รติ
4.8 ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ทีพ่ ลเมอื งและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม

๘๔

3. กลยุทธก์ ารพัฒนา

1) การกาหนดกลยุทธ์
ในการกาหนดกลยุทธ์ของสถานศึกษา ได้มีการนายุทธศาสตร์ กลยุทธ์ จุดเน้น นโยบายในส่วนต่าง ๆ ทั้งของ

กระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและหน่วยงานต้นสังกัด คือสานักงานเขตพ้ืนที่
การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต ๓ มากาหนดเป็นกลยุทธ์ ในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาของ
สถานศกึ ษา ดังน้ี

1. พฒั นาคุณภาพผเู้ รียน
2. พัฒนากระบวนการบรหิ ารจัดการ
3. พัฒนากระบวนการจดั การเรียนการสอนและการจัดประสบการณ์ท่ีเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั
4. สรา้ งโอกาส ความเสมอภาค ความเท่าเทยี ม ด้านบริการ
ทางการศึกษา

กลยุทธอ์ งค์กร เป้าหมาย
1. พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น
2. พัฒนากระบวน การบรหิ ารและ 1. ผู้เรยี นมผี ลสัมฤทธิ์ทางวชิ าการท่ดี แี ละสูงขน้ึ
จดั การ
2. ผเู้ รยี นมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
3. พัฒนากระบวนการเรียนการสอน 1. มีเป้าหมาย วิสยั ทัศน์ พันธกิจท่สี ถานศึกษากาหนดชัดเจน
และการจดั ประสบการณ์ที่เน้นผ้เู รียน
เป็นสาคัญ 2. มรี ะบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา

3. ดาเนนิ งานพัฒนาวชิ าการที่เนน้ การพฒั นาคณุ ภาพ ผู้เรียน
รอบดา้ น ตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลมุ่
เปา้ หมาย

4. พัฒนาครแู ละบุคลากรใหม้ ีความเชีย่ วชาญทางวชิ าชพี

5. จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมทเ่ี อ้ือต่อการ
จัดการเรยี นรอู้ ย่างมคี ุณภาพ

6. จัดระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อสนับสนนุ การบริหาร
จัดการและการจัดการเรยี นรู้

1.จัดประสบการสง่ เสริมผเู้ รยี นทุกดา้ นและจัดการเรยี นรู้ ผ่าน
กระบวนการคดิ และปฏบิ ตั ิจริงสามารถนาไประยุกตใ์ ชใ้ นการ
ดาเนินชวี ิต

2. ใช้ส่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการ
เรียนรู้

3. มกี ารบรหิ ารจัดการชน้ั เรียนเชงิ บวก

4. ตรวจสอบและประเมนิ ผู้เรยี น อย่างเป็นระบบ และนาผล
มาพฒั นาผู้เรยี น

5. มกี ารแลกเปล่ียนเรียนรแู้ ละให้ข้อมูลป้อนกลับ เพ่ือ
ปรบั ปรงุ และพฒั นาการจัดการเรียนรู้

๘๕

กลยทุ ธอ์ งคก์ ร เป้าหมาย

4. สร้างโอกาส ความเสมอภาค 1. ส่งเสริมประชากรวัยเรยี นใหไ้ ด้รบั โอกาสในการเข้ารบั
ความเทา่ เทยี ม ด้านบริการ บรกิ ารทางการศึกษาอย่างทัว่ ถึง มคี ุณภาพ และเสมอภาค
ทางการศึกษา
2. สร้างความเขม้ แข็งของระบบดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี น ระบบ
สง่ เสริมความประพฤติ นักเรียนระบบคมุ้ ครอง และการสรา้ ง
ภูมคิ ุ้มกันทางสังคม

3.ส่งเสริมโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทียมการ
เขา้ ถึงบริการทางการศึกษา

2) ตัวช้ีวดั ความสาเรจ็

เป้าหมาย ตัวช้วี ดั ความสาเร็จ

กลยทุ ธท์ ่ี 1 พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น

1. ผูเ้ รยี นมผี ลสมั ฤทธ์ทิ าง 1.ร้อยละของนักเรียนมีความสามารถในการอ่านการเขียน การสอ่ื สาร

วิชาการที่ดแี ละสูงขึ้น และการคิดคานวณ สูงกว่า เปา้ หมายท่ีสถานศกึ ษากาหนด

2. ร้อยละของนักเรยี นมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น ตามหลักสตู ร
สถานศึกษาสงู กว่าเป้าหมายท่ีสถานศึกษากาหนด

3. ร้อยละของนักเรยี น มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คิดอยา่ งมี
วจิ ารณญาณอภปิ ราย แลกเปลีย่ นความคดิ เห็น

4. รอ้ ยละของนักเรยี นมีความสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม มกี าร
นาไปใช้และเผยแพร่

2. ผู้เรียนมีคณุ ลกั ษณะ 1. รอ้ ยละของนักเรยี นมีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
อนั พึงประสงค์ และการสื่อสาร เพ่ือพัฒนาตนเอง และสังคมในด้านการเรียนรู้ การ

สอื่ สาร การทางาน อยา่ งสรา้ งสรรค์ และมคี ุณธรรม

2. รอ้ ยละของนักเรียน มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติทดี่ ี พรอ้ มท่ี

จะศึกษาต่อในระดับที่สูงขึน้ และมีทักษะการทางาน
และงานอาชพี

3. รอ้ ยละของนักเรยี นมีคณุ ลักษณะ ค่านิยมทด่ี สี ูงกว่าเปา้ หมายที่
สถานศกึ ษากาหนดเปน็ แบบอย่างได้

4. รอ้ ยละของนักเรียน มคี วามภมู ิใจในท้องถิ่น เหน็ คุณค่าของความเป็น
ไทยมสี ว่ นรว่ มในการอนุรักษว์ ัฒนธรรม ประเพณี
และภูมิใจไทย

5. รอ้ ยละของนักเรียน สามารถอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและ
หลากหลาย

6. ร้อยละของนักเรยี น มีสุขภาวะ และจติ สงั คมสูงกว่าเป้าหมายท่ี

๘๖

เป้าหมาย ตัวชีว้ ดั ความสาเรจ็

สถานศึกษากาหนด

กลยุทธท์ ี่ 2 พฒั นากระบวนการบรหิ ารและจัดการ

1. มีเป้าหมาย วิสยั ทัศน์ 1. โรงเรยี นมเี ป้าหมาย วสิ ยั ทศั น์ และพันธกจิ ทส่ี อดคลอ้ งกับบรบิ ท
พันธกจิ ที่สถานศึกษา ของสถานศกึ ษา ความต้องการของชมุ ชน นโยบายรัฐบาล แผนการ
กาหนดชดั เจน ศึกษาแห่งชาติ ทันต่อการเปล่ียนแปลง

2. มรี ะบบบริหารจดั การ 1. โรงเรียนมรี ะบบบริหาร จัดการคุณภาพท่ีชัดเจนและมปี ระสทิ ธิภาพ
คณุ ภาพของสถานศึกษา 2. โรงเรียนมีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา

3. บุคลากรและผเู้ กย่ี วข้องให้ความรว่ มมือ และมีสว่ นรว่ มในการบริหาร

จัดการคณุ ภาพของสถานศึกษา

4. โรงเรียนนาข้อมลู สารสนเทศของสถานศกึ ษา มาใช้ ปรับปรุง พัฒนา

งานอย่างต่อเน่ือง

3. ดาเนินงานพัฒนาวิชาการ 1. นกั เรยี นทุกคนและทุกกลุ่มเปา้ หมาย ไดร้ บั การพฒั นา ทักษะวชิ าการ

ท่เี นน้ การพฒั นาคุณภาพ อยา่ งรอบดา้ นตามหลักสูตรสถานศกึ ษา และสามารถเช่ือมโยงกับชีวิต

ผู้เรยี นรอบดา้ น จรงิ และเป็นแบบอยา่ งได้

ตามหลกั สตู รสถานศึกษา

และทุกกล่มุ เปา้ หมาย

4. พฒั นาครแู ละบุคลากรใหม้ ี 1. ร้อยละของครูและบุคลากรท่ไี ด้รบั การพัฒนา และมีความรู้

ความเชียวชาญทางวิชาชพี ความสามารถ เชี่ยวชาญในวิชาชีพ ตรงตามความต้องการของครูและ

สถานศกึ ษา

2. ครูและบุคลากรทางการศึกษานากระบวนการชุมชนแหง่ การเรยี นรู้

ทางวชิ าชีพมาพฒั นางาน/พัฒนาผู้เรยี นอยา่ งต่อเน่ือง

5. จัดสภาพแวดล้อม 1. สถานศกึ ษามสี ภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท้งั ภายในและภายนอก

ทางกายภาพและสงั คม สะอาด ร่มรืน่ สวยงาม ปลอดภยั และเอื้อต่อการเรยี นรู้

ทเ่ี อื้อต่อการจัดการเรียนรู้ 2. สถานศึกษาจดั ส่ิงอานวย ความสะดวก สื่อเทคโนโลยีและบริการทาง

อยา่ งมีคณุ ภาพ การศึกษาอย่างเพยี งพอและทั่วถึง

3. สถานศกึ ษา มีแหล่งเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับศักยภาพของนักเรยี นทุก

กลมุ่ เป้าหมาย

6. จดั ระบบเทคโนโลยี 1. สถานศกึ ษามีระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ สาหรับใช้ในการบรหิ าร

สารสนเทศ เพอ่ื สนับสนุน จัดการศึกษาที่สอดคล้องกบั บรบิ ทของสถานศึกษา

การบริหารจดั การ

และการจัดการเรยี นรู้

2. สถานศึกษา สามารถพฒั นาระบบเทคโนโลยใี หท้ นั สมยั เอ้ือต่อการ

จดั การเรยี นรู้ และการบริหารจัดการ

๘๗

เป้าหมาย ตัวชี้วดั ความสาเร็จ

กลยทุ ธ์ที่ 3 พัฒนากระบวนการเรียนการสอนและการจัด

ประสบการณ์ที่เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั

1. จดั ประสบการณ์ส่งเสริม 1. รอ้ ยละของครทู จ่ี ัดประสบการณ์สง่ เสรมิ ให้เดก็ มีพฒั นาการครบทุก

ผเู้ รยี นทกุ ด้านและจดั การ ด้านอย่างสมดุล เต็มศักยภาพ

เรียนรู้ผ่านกระบวนการคิด 2. รอ้ ยละของครูทจี่ ัดการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการคิดและปฏบิ ัติจรงิ

และปฏิบตั ิจริง สามารถ ตามมาตรฐานตัวชวี้ ัดของหลกั สูตร
นาไปประยุกต์ใช้
3. รอ้ ยละของครูมแี ผนการจัดการเรียนรู้ ท่สี ามารถนาไปจัดกจิ กรรมได้
ในการดาเนินชีวิต
จรงิ นักเรียนสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตได้

4. ร้อยละของครมู นี วตั กรรมในการจัดการเรียนรู้ และมีการเผยแพร่

อย่างหลากหลาย

2. ใช้สอ่ื เทคโนโลยี 1. รอ้ ยละของครูท่ใี ช้สอื่ เทคโนโลยีสารสนเทศในการจดั การเรยี นรูแ้ ละ

สารสนเทศ สรา้ งโอกาสให้ผเู้ รยี น แสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง

และแหล่งเรยี นรทู้ ี่เอ้ือต่อ 2. ร้อยละของครูท่ีจัดบรรยากาศ ทีเ่ ออื้ ตอ่ การเรียนรู้ มกี ารใชแ้ หล่ง

การเรียนรู้ เรียนรู้ และภมู ิปัญญาท้องถน่ิ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน

3. มกี ารบริหารจดั การ 1. รอ้ ยละของครมู ีการบริหารจดั การชัน้ เรยี น โดยเน้นการมีปฏสิ มั พนั ธ์

ช้นั เรยี นเชงิ บวก เชงิ บวก ใหเ้ ด็กรกั การเรียนรู้ และสามารถเรียนรรู้ ่วมกนั อย่างมีความสุข

4. ตรวจสอบและประเมนิ 1. รอ้ ยละของครูท่มี ีการตรวจสอบและประเมิน ผ้เู รยี นอย่างเปน็ ระบบ

ผู้เรยี นอย่างเป็นระบบ มีข้ันตอน โดยใชเ้ ครื่องมอื วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผลท่เี หมาะสมกบั

และนาผลมาพัฒนาผเู้ รียน เป้าหมายการจดั การเรียนรู้

2. รอ้ ยละของครทู มี่ ีการให้ข้อมูลยอ้ นกลบั แก่ผ้เู รยี นและนาผลการ

ประเมนิ มาปรบั ปรุงพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ และพัฒนาผู้เรยี น

5. มกี ารแลกเปลีย่ นเรียนรู้ 1. ร้อยละของครูท่ีมีเครอื ขา่ ย ชมุ ชนแห่งการเรียนร้ทู างวิชาชีพระหวา่ ง

และให้ขอ้ มูลปอ้ นกลับ ครแู ละผเู้ กย่ี วข้อง

เพอ่ื ปรบั ปรุงและพัฒนา 2. รอ้ ยละของครู ผ้เู กีย่ วข้องมกี ารแลกเปลยี่ นเรียนรู้ และให้ข้อมูล

การจดั การเรียนรู้ สะท้อนกลบั เพ่ือปรบั ปรุงพัฒนาการจัดการเรยี นรู้

กลยุทธท์ ี่ 4 สร้างโอกาส ความเสมอภาค ความเท่าเทยี ม

ดา้ นบริการทางการศกึ ษา

1. ส่งเสรมิ ประชากรวยั เรียน 1. ร้อยละของประชากรวัยเรียนในเขตบริการ ได้รบั บริการ

ให้ไดร้ ับโอกาสในการเขา้ ทางการศกึ ษา

รบั บรกิ ารทางการศึกษา

อย่างท่วั ถึง มคี ุณภาพ 2. ร้อยละของเด็กทผ่ี ่านการจัดประสบการณใ์ นระดับปฐมวยั

และเสมอภาค 3. ร้อยละของผู้เรยี น ท่ีผา่ นเกณฑ์การจบการศกึ ษาช้ันสูงสุดของ

สถานศกึ ษา

๘๘

เปา้ หมาย ตวั ชว้ี ัดความสาเรจ็

4. สถานศกึ ษาให้บริการจัดการศกึ ษาในเด็กดอ้ ยโอกาสที่ไมอ่ ยู่ใน

ทะเบียนราษฎร์ เชน่ เด็กไร้สญั ชาติ เด็กพลัดถนิ่ เดก็ ต่างด้าว เดก็ ไทยท่ี

ไมม่ เี ลขบตั รประจาตวั ประชาชน

2. สร้างความเขม้ แข็งของ 1. สถานศกึ ษามรี ะบบดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี นทเี่ ขม้ แขง็

ระบบดแู ลช่วยเหลือ 2. ร้อยละของผเู้ รยี นทีไ่ ด้รบั การ ดแู ลช่วยเหลือ ใหไ้ ด้รับ การศึกษาแต่

นกั เรียน ระบบส่งเสริม ละกลุ่มเปา้ หมายทั้งเด็กปกติ และด้อยโอกาส
ความประพฤตนิ ักเรยี น 3. สถานศึกษามีมาตรการและแนวทางในการดูแลความปลอดภยั ของ
ระบบคุ้มครองนกั เรยี น ผู้เรียนทงั้ ใน และนอกสถานศึกษา
และสร้างภมู ิคมุ้ กัน
4. ร้อยละของผเู้ รยี นได้รบั การสรา้ งภูมิคมุ้ กัน และมที ักษะชวี ติ ให้
ทางสังคม
สามารถดารงชีวิตได้อยา่ งปลอดภยั

3. สง่ เสริม สนบั สนุนการใช้ 1. สถานศึกษา ใชเ้ ทคโนโลยใี นการจดั การศกึ ษา เช่น การพัฒนา

เทคโนโลยีการจดั การศกึ ษา คุณภาพการศึกษาผ่านดาวเทียม (DLTV)

ให้มีคณุ ภาพอยา่ งเทา่ เทยี ม 2. ร้อยละของนักเรียนท่ีมีความร้ทู กั ษะ ในการใช้ เทคโนโลยี

3) โครงการ/กจิ กรรม

กลยุทธ์ โครงการ/กิจกรรม

กลยทุ ธท์ ี่ 1 พฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รียน

1.1 ผลสัมฤทธทิ์ างวชิ าการ 1. โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน

2. โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอา่ น และพัฒนาหอ้ งสมุด

3. โครงการสง่ เสรมิ การแข่งขันทางวขิ าการ

1.2 คุณลกั ษณะองั พึงประสงค์ 1. โครงการสง่ เสริมคุณธรรม จรยิ ธรรม และฝึกทกั ษะชีวติ

2. โครงการสง่ เสริมสุขภาวะทางร่างกายและจติ สังคม

กลยทุ ธท์ ี่ 2 พัฒนากระบวนการบริหารและจัดการ

1. โครงการพฒั นาระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษา

2. โครงการนิเทศภายในสถานศึกษา

3. โครงการส่งเสริมพัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษา

4.โครงการพฒั นาระบบข้อมูลสารสนเทศ

5.โครงการพัฒนาพัสดุและสินทรพั ย์

6.โครงการปรบั ปรุงอาคารสถานท่แี ละสง่ิ แวดล้อม

7.โครงการสนับสนนุ คา่ ใชจ้ า่ ยในการจัดการศกึ ษา

8.โครงการอาหารกลางวัน

๘๙

กลยุทธ์ โครงการ/กิจกรรม

กลยุทธท์ ี่ 3 พฒั นากระบวนการเรยี นการสอนและการจัดประสบการณ์ทเี่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ

1. จัดประสบการณ์สง่ เสรมิ ผู้เรยี นทกุ ดา้ น 1. โครงการพัฒนาการเรยี นการสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั

และจัดการ เรยี นรูผ้ า่ นกระบวนการคิดและ

ปฏิบตั ิจริง สามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นการ

ดาเนนิ ชวี ติ

2. ใช้ส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ 1. โครงการส่งเสรมิ กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น

เรยี นรู้ท่เี อ้ือตอ่ การเรียนรู้ 2. โครงการกิจกรรมวันสาคญั

3.โครงการส่งเสริมประชาธิปไตย

3. มกี ารบรหิ ารจัดการชนั้ เรียนเชงิ บวก

4. ตรวจสอบและประเมิน ผูเ้ รยี นอยา่ งเป็น

ระบบ และนาผลมาพัฒนาผเู้ รียน

5. มีการแลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ ละใหข้ ้อมลู

ป้อนกลับ เพื่อปรบั ปรงุ และพัฒนาการจัดการ

เรียนรู้

กลยทุ ธท์ ่ี 4 สร้างโอกาส ความเสมอภาค ความเท่าเทยี ม

ด้านบรกิ ารทางการศึกษา

1. ส่งเสริมประชากรวยั เรียนให้ไดร้ บั โอกาส 1. โครงการส่งเสรมิ สร้างสมั พันธใ์ นชมุ ชน

ในการเขา้ รับ บริการทางการศกึ ษาอย่าง ถึง

มีคุณภาพและเสมอภาค

2. สรา้ งความเขม้ แข็งของระบบ ดูแล 1. โครงการสง่ เสริมระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียน

ช่วยเหลอื นกั เรยี น ระบบส่งเสริมความ

ประพฤติ นกั เรยี น ระบบคมุ้ ครอง นกั เรยี น

และสรา้ งภูมคิ ้มุ กนั ทางสงั คม

3. สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การใช้เทคโนโลยกี ารจดั

การศกึ ษาใหม้ ีคุณภาพอยา่ งเท่าเทียม

๙๐

สว่ นท่ี 5 การควบคมุ และกากบั ตดิ ตาม

ตามประกาศสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง แนวปฏิบัติการดาเนินงานประกัน
คุณภาพการศึกษา ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พ.ศ.2561 โดยให้สถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ดาเนนิ การดังต่อไปน้ี

1. ให้สถานศึกษาแต่ละแห่งจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน สถานศึกษา เพื่อให้เกิด
การพัฒนา และเพื่อเป็นกลไกในการควบคุม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษาให้เกิดการพัฒนาและ
สร้างความเชื่อม่นั ให้กับสังคม ชมุ ชน และผู้มสี ว่ นเกีย่ วข้อง

2. จดั ให้มรี ะบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ดงั น้ี
2.1 กาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษา
ปฐมวยั และหรอื ระดบั การศึกษาขนั้ พ้นื ฐานทกี่ ระทรวงประกาศใชแ้ ละให้สถานศึกษา กาหนดเป้าหมายความสาเร็จ
ตามมาตรฐานของสถานศึกษาตามบรบิ ท ท้ังน้สี ามารถเพมิ่ เติมมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา นอกเหนือจากที่
กระทรวงศกึ ษาธิการ ประกาศใชไ้ ดโ้ ดยใหส้ ถานศึกษาและ ผู้เกี่ยวข้อง ดาเนินการและรับผิดชอบร่วมกัน
2.2 จัดทาแผนพัฒนาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ทีส่ อดคลอ้ งกบั สภาพปัญหา และความต้องการ
จาเป็นของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยสะท้อนคุณภาพความสาเร็จอย่างชัดเจน ตามมาตรฐานการศึกษาของ
สถานศึกษา
2.3 ดาเนินการตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
2.4 ประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โดยกาหนดผู้รับผิดชอบ และ
วิธกี ารทีเ่ หมาะสม
2.5 ติดตามผลการดาเนินการเพ่ือพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน ของสถานศึกษา และ
นาผลการตดิ ตามไปใช้ประโยชน์ในการปรบั ปรงุ พัฒนา
2.6 จัดทารายงานผลการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ตามมาตรฐานการศึกษา
ของสถานศกึ ษา นาเสนอรายงานผลการประเมินตนเองต่อคณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้ความเห็นชอบ
และจัดสง่ รายงานดังกลา่ วต่อส านักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา เปน็ ประจาทกุ ปี
2.7 พัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพโดยพิจารณาจากรายงานผลการประเมินตนเอง (Self-
Assessment Report : SAR) และตามคาแนะนาของสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาหรือสานักงาน คณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน เพ่อื ใหก้ ารประกันคณุ ภาพการศึกษาเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและ พฒั นาอย่างตอ่ เน่อื ง
3. สถานศึกษาแต่ละแห่งให้ความร่วมมือกับสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา
(สมศ.) ในการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา เพ่ือปรับปรุงและพัฒนา คุณภาพการศึกษาตาม
ข้อเสนอแนะของสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) และหน่วยงานต้นสังกัดหรือ
หน่วยงานทก่ี ากับดูแล เพอื่ นาไปสู่การพฒั นาคุณภาพและมาตรฐานของสถานศกึ ษา
จากประกาศสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เร่ือง แนวปฏิบัติการดาเนินงานประกัน
คุณภาพการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ.2561 ทางสถานศึกษาได้มีข้ันตอนในการติดตามผลการ
ดาเนนิ การเพอ่ื พัฒนาสถานศกึ ษาใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานของสถานศึกษา และนาผลการติดตามไปใช้ประโยชน์
ในการปรบั ปรุงพฒั นา

๙๑

การบรหิ ารแผน
โรงเรียนบ้านโป่งคอม ใช้หลักธรรมภิบาล (Good Governmance) ในการบริหารแผนพัฒนาคุณภาพการจัด
การศกึ ษาของโรงเรยี น ซงึ่ มอี งคป์ ระกอบที่สาคัญ 6 ประการ ดังนี้

1.หลักนิติธรรม คือการดาเนินการ จะต้องถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คาสั่งต่างๆ ท่ี
เก่ียวข้องเป็นหลกั ในการดาเนินการในทกุ ข้ันตอน

2.หลักคุณธรรม คือ การดาเนนิ การจะตอ้ งคานึกถงึ ความถูกต้อง ไม่ผิดศลี ธรรมอันดีงามไม่ทาให้ผู้ที่มีส่วน
เกี่ยวข้องและมีส่วนไดส้ ว่ นเสียเดือดร้อน

3. หลกั ความโปรง่ ใส คือ การดาเนินการจะต้องสามารถตรวจสอบได้ทุกขนั้ ตอน
4.หลักความมีส่วนร่วม คือ การดาเนินการจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องและมีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามี
สว่ นร่วมในการดาเนินการ

5.หลักความรับผิดชอบ คือ การดาเนินการจะต้องมีผู้ท่ีได้รับมอบหมาย และต้องมีผู้รับผิดชอบ พร้อมท่ี
จะปรบั ปรงุ และแก้ไขตอ่ ไป

6.หลักความคุ้มค่า คือ การดาเนินการต้องตระหนักว่ามีทรัพยากรค่อนข้างจากัด ดังนั้น ในการบริหาร
จดั การจาเป็นจะตอ้ งยดึ หลกั ความประหยดั ความคุ้มค่า และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

การกากับตดิ ตาม
โรงเรยี นบา้ นโปง่ คอม กาหนดแนวทางการกากับ ติดตาม การดาเนนิ งานในการบรหิ ารแผนพัฒนาคุณภาพ

การจดั การศึกษาของโรงเรยี น พ.ศ.2562-2565 โดยยดึ หลกั วงจรคุณภาพ (PDCA : DEMING CYCLE) ของ
Dr. Edward W. Dming ดงั น้ี

1. P : PLAN การวางแผนการจดั ทาโครงการ
- วัตถปุ ระสงคเ์ หมาะสม และสอดคล้องกับแผนของพนั ธกิจหรือไม่
- มกี ารกาหนดผ้รู ับผิดชอบหรือไม่
- ระยะเวลาดาเนนิ การทีก่ าหนดไวเ้ หมาะสมหรือไม่
- งบประมาณทกี่ าหนดเหมาะสมหรือไม่
- มีการเสนอเพอื่ ขออนมุ ตั ิก่อนดาเนินการหรอื ไม่

2. D : DO การกากบั ติดตามการปฏบิ ตั ิโครงการ
- มีการกาหนดข้นั ตอนหรอื วธิ กี ารดาเนนิ การหรอื ไม่
- มีผรู้ ับผดิ ชอบดาเนินการตามทก่ี าหนดหรือไม่
- มกี ารประสานงานกับผทู้ ีเ่ กย่ี วขอ้ งหรือไม่
- มกี ารประสานงานกับผู้ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งมากนอ้ ยเพยี งใด
- สามารถดาเนนิ การตามระยะเวลาที่กาหนดหรือไม่
- สามารถดาเนินการไดต้ ามงบประมาณทก่ี าหนดไว้หรอื ไม่

3. C : CHECK ตรวจสอบและตดิ ตามผลการดาเนนิ งาน
- ไดม้ กี ารกาหนดวธิ ีการ/รปู แบบการประเมนิ หรอื ไม่
- มีรปู แบบของการประเมนิ เหมาะสมหรอื ไม่

๙๒

- ผลการประเมนิ ตรงกบั วัตถุประสงคท์ วี่ ่างไว้หรอื ไม่
- ปญั หา/จดุ ออ่ นทีพ่ บในการดาเนินการมีหรือไม่
- -ข้อดี/จดุ แขง็ ของการดาเนินการมีหรอื ไม่
4. A : ACTION นาข้อมลู ทไ่ี ด้จากการกากับติตามการดาเนนิ การไปปรับปรงุ ต่อไป
- มีการระดมสมองเพอื่ หาทางแก้ปญั หา/จุดอ่อนที่คน้ พบ
- มีการระดมสมองเพ่ือหาทางเสริมข้อดี/จดุ แขง็ เพ่มิ ขึ้น
- มีการนาผลท่ีได้จากการระดมสมองเสนอผู้บริหารเพ่ือพิจารณาสาหรับใช้วางแผนจัดทาโครงการ

ในคร้ังตอ่ ไป
- กาหนดกลยุทธใ์ นการจดั ทาแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในคร้งั ต่อไป

ระบบการตดิ ตามและประเมินผล
โรงเรยี นบ้านโปง่ คอม ได้กาหนดใหม้ รี ะบบการติดตามและประเมินผลการบรหิ ารจดั การแผนพฒั นา

คณุ ภาพการจดั การศกึ ษาโรงเรยี นบ้านโปง่ คอม พ.ศ.2562-2565
1.มอบหมายหนา้ ทร่ี บั ผิดชอบ
2.จัดทาคาสง่ั แต่งต้ังผรู้ ับผิดชอบ
3.จัดทาปฏิทินการปฏิบัติงานและการติดตามประเมินผล
4.ดาเนินการตามปฏิทินการปฏิบตั ิงานและการตดิ ตามประเมนิ ผล
5. รายงานผลการปฏบิ ตั งิ านและการตดิ ตามประเมนิ ผล โดยแบง่ เป็น 2 ระยะ คือ
5.1 ระยะท่ี 1 รายงานผลการปฏบิ ัตงิ านและการตดิ ตามประเมินผลระหว่างปฏบิ ตั ิ
5.2 ระยะท่ี 2 รายงานผลการปฏิบตั งิ านและการตดิ ตามประเมินผลเม่ือดาเนินการเสรจ็ ส้นิ แล้ว
6.นาข้อมูลท่ีได้จากการรายงานท้ัง 2 ระยะ มาศึกษาวิเคราะห์ เพื่อนาผลจาการศึกษาวิเคราะห์ดังกล่าว

ไปพฒั นาหารบรหิ ารจดั การคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียนใหด้ ยี ิง่ ขึ้นต่อไป

การรายงานผล
1.รายงานผลการดาเนินงาน เมอื่ สนิ้ สดุ แตล่ ะกจิ กรรม ทีก่ าหนดให้ โดยผ้รู ับผิดชอบโครงการ/กจิ กรรม
2.เมื่อส้นิ ปีการศึกษา โรงเรยี นประเมนิ คุณภาพภายใน สรุปและรายงานตอ่ ผู้ท่ีเกี่ยวขอ้ ง และหน่วยงานต้น

สังกดั นาผลจากการสรุปไปเปน็ ข้อมลู ในการวางแผนแก้ไข ปรบั ปรงุ พฒั นาการดาเนนิ งานในการการศึกษาต่อไป


Click to View FlipBook Version