ก
คำนำ
สืบเน่ืองจากกฎกระทรวงว่าด้วยเรือ่ งระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา
2553 หมวด 2 ข้อ 14 กาหนดให้สถานศึกษา “จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในด้วย
การกาหนดมาตรฐานการศึกษาของศึกษาและจัดแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่มุ่งคุณภาพตาม
มาตรฐานการศึกษา” ดังนั้นเพื่อเป็นการจัดการศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้อง
กับนโยบายและยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ต้นสังกัดและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องและเตรียมการรองรับ
การประเมินคุณภาพภายนอก โรงเรียนบ้านโป่งคอม จึงได้จัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ฉบับนี้ข้ึน เพื่อใช้เป็นกรอบ ทิศทางและแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
ช่วงระหว่าง ปี 2562-2565
ขอขอบคุณคณะกรรมการสถานศึกษา บุคลากรและผู้มีส่วนเก่ียวข้องทุกท่านท่ีให้ความ
รว่ มมือในการจัดทาแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในครั้งนี้จนสาเร็จลุล่วงไปด้วยดี และหวังเป็นอย่าง
ย่ิงว่าแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาฉบับน้ีจะเป็นเครื่องมือและแนวทางในการผลักดันกลยุทธ์ตาม
แผนปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่สองของกระทรวงศึกษาธิการ และกลยุทธ์ข องสานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานไปสู่การปฏิบัติจนเกิดผลสาเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และเป็น
เครื่องมือในการบริหารและจัดการศึกษาของสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีภาพความสาเร็จ
คอื “ผเู้ รยี นเปน็ คนดีท่มี คี วามรูแ้ ละอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ”
(นายเจรญิ เมอื งวงศ์) (นางธนพรรณ ทศพรพรหม)
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน ผ้อู านวยการโรงเรยี นบา้ นโป่งคอม
สารบญั
หน้า
คานา ก
สารบัญ ข
ส่วนที่ 1 บทนา
1. สภาพบริบทท่วั ไป 1-5
2. ข้อมูลสารสนเทศ (ปกี ารศึกษา 2561) 6-12
3. ขอ้ มูลดา้ นการจัดการศึกษา (ปกี ารศึกษา 2561) 13-25
สว่ นที่ 2 การศึกษาสถานะสถานศกึ ษา
ผลการวเิ คราะหบ์ ริบทของสถานศกึ ษา (SWOT Analysis) 26-37
ส่วนที่ 3 ทศิ ทางการพฒั นาคุณภาพของสถานศกึ ษา
1. วิสัยทศั น์ 38
2. พนั ธกจิ 38
3. เปา้ หมาย 38
4. อตั ลักษณ์ 39-41
5. Model การบรหิ ารจัดการศึกษาของสถานศึกษา 42
6. แนวทางการขับเคลื่อน Model การบริหารจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา 43
ส่วนท่ี 4 กลยทุ ธ์พัฒนาการศึกษา
1. นโยบายการปฏริ ูปการศึกษา 46
1) ศาสตรพ์ ระราชา 46
2) ยุทธศาสตรช์ าตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2564) 48
3) แผนการศกึ ษาแห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) 49
4) นโยบายไทยแลนด์ 4.0 50
5) นโยบายรฐั บาลด้านการศึกษา 51
6) นโยบายการจดั การศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร 52
7) แผนพฒั นาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) 55
8) นโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน (สพฐ) 58
9) นโยบายสานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสุพรรณบรุ ี เขต 3 62
10) กฏกระทรวง การประกนั คณุ ภาพการศึกษา พ.ศ.2561 72
11) ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องให้ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย ระดบั การศึกษาขั้น
พืน้ ฐาน และระดบั การศึกษาขนั้ พื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ 75
2. การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา 79
1) การยกระดบั ทักษะภาษาอังกฤษ 79
2) โรงเรียนคณุ ธรรม 80
3) สะเตม็ ศึกษา 81
สารบญั (ต่อ) หน้า
การพฒั นาคณุ ภาพสถานศกึ ษา 82
4) การยกระดับผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น 83
5) หลักสูตรรายวิชาเพ่ิมเติม การป้องกนั การทจุ ริต
84
3. กลยทุ ธก์ ารพฒั นา 85
1) การกาหนดกลยุทธ์ 88
2) การกาหนดตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ 89
3) การกาหนดโครงการกิจกรรม 90
4) โครงการ/กจิ กรรมตามกลยทุ ธ์/เปา้ หมาย/งบประมาณ (ระยะ 1 ป)ี
สว่ นที่ 5 การควบคุมและการกากบั ตดิ ตาม
ภาคผนวก
๑
ส่วนท่ี 1 บทนา
1. สภาพบรบิ ททั่วไป
1.1 ช่อื สถานศกึ ษา โรงเรียนบ้านโปง่ คอม ต้งั อยเู่ ลขที่ 37 หม่ทู ี่ 7 ตาบลดา่ นช้าง อาเภอด่านชา้ ง
จังหวัดสพุ รรณบุรี รหสั ไปรษณยี ์ 72180 โทรศัพท์ 098-3541651 E-Mail : [email protected]
1.2 สงั กัดสานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาสพุ รรณบุรี เขต ๓ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั
พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
1.3 เปดิ สอนระดบั ช้นั อนบุ าล 1 ถึง ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6
1.4 สถานท่ตี ั้งทางภูมิศาสตร์ (ภาพถ่ายทางอากาศ: ตามพิกดั ที่ตั้ง)
1.5 แผนท่ีโรงเรยี น
๒
1.6 เขตพ้นื ท่บี รกิ าร
1) ช่ือหมูบ่ ้านโป่งคอมใต้ หมู่ท่ี 7 ตาบลดา่ นชา้ ง อาเภอด่านชา้ ง จงั หวดั สพุ รรณบุรี
1.7 ประวตั โิ รงเรียน
โรงเรยี นบ้านโป่งคอม ตั้งขึ้นเมือ่ พ.ศ. 2530 โดยนายเจรญิ เมอื งวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ท่ี 7 ตาบลด่านช้าง
อาเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผู้จัดหาทุนในการสร้างอาคารเรียนแบบถาวร ก่ึงชั่วคราว แต่ยังไม่ได้ทาการ
สอนอยา่ งถกู ต้อง จนกระทง่ั นายวเิ ชยี ร นม่ิ อนงค์ อาจารย์ใหญ่โรงเรียน บ้านพุน้าร้อน ได้ส่งครูมาช่วยสอน จานวน
2 คนและเปิดทาการสอนต้ังแต่วันท่ี 1 มิถุนายน 2532 โดยเปิดเป็นโรงเรียนสาขาของบ้านพุน้าร้อน เปิดสอนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 1 มจี านวนนักเรียนทั้งสน้ิ 25 คน เป็นชาย 16 หญิง 9 คน
วนั ที่ 29 เมษายน 2538 สานักงานการประถมศึกษาอาเภอดา่ นช้าง ไดม้ ีคาส่งั แต่งต้ัง นายมานพ กาฬภักดี
มาดารงตาแหน่งครูใหญโ่ รงเรยี นบ้านโป่งคอม เปน็ คนแรก โดยเปดิ ทาการสอน ต้งั แต่ชน้ั อนุบาล 1 ถึง
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 มนี กั เรยี นทงั้ สิ้น 72 คน มคี รทู าการสอน 2 คน
ปี พ.ศ. 2539 – 2539 นายมานพ กาฬภกั ดี ไดม้ าดารงตาแหนง่ ครูใหญ่
ปี พ.ศ. 2539 - 2543 นายภูษติ สุภาษิต ไดม้ าดารงตาแหน่งครูใหญ่
ปี พ.ศ. 2543 - 2544 นายพทิ ยา บางสวุ รรณ ไดม้ าดารงตาแหน่งครูใหญ่
ปี พ.ศ. 2544 - 2545 นายสรุ สหี ์ สาโรจน์ ไดม้ าดารงตาแหนง่ ครูใหญ่
ปี พ.ศ. 2545 – 2545 นายสายยนต์ ทรดี ไดม้ าดารงตาแหนง่ ครูใหญ่
ปี พ.ศ. 2547 - 2547 นายศักดา จริ โรจน์ ไดม้ าดารงตาแหน่งครูใหญ่
ปี พ.ศ. 2548 - 2549 นายประเสรฐิ นิลทับ ได้มาดารงตาแหนง่ ผูอ้ านวยการโรงเรียน
ปี พ.ศ. 2549 - 2551 นางทองแท้ วงศ์เสนา ไดม้ าดารงตาแหน่งผู้อานวยการโรงเรียน
ปี พ.ศ. 2552 – 2559 นายสายณั ห์ นิยมทอง ไดม้ าดารงตาแหน่งผูอ้ านวยการโรงเรียน
ปี พ.ศ. 2559 - 2562 นายยุทธการ เจียตระกูล ได้มาดารงตาแหน่งรักษาราชการแทนผู้อานวยการ
โรงเรียน
ปี พ.ศ. 2562 – ปจั จบุ ัน นางธนพรรณ ทศพรพรหม ไดม้ าดารงตาแหน่งผู้อานวยการโรงเรยี น
ปจั จบุ นั โรงเรียนเปดิ ทาการสอนตัง้ แตร่ ะดบั ชนั้ อนบุ าล 1 ถึงชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 มหี มบู่ า้ นในเขตบริการ
คือ หมู่ที่ 7 บ้านโป่งคอม การคมนาคมติดต่อกับอาเภอและจังหวัดสามารถติดต่อได้ ทางบกโดยรถยนต์ รถต่าง ๆ
และระยะทางจากโรงเรียนถึงตัวอาเภอดา่ นชา้ ง ประมาณ 23 กิโลเมตร ระยะทางจากโรงเรียนถึงสานักงานเขตพ้ืนที่
การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 ประมาณ 85 กิโลเมตร และระยะทางจากโรงเรียนถึงจังหวัดสุพรรณบุรี
ประมาณ 100 กิโลเมตร
โรงเรยี นบ้านโป่งคอม อยูใ่ นสหวทิ ยาเขตชาวดอย มจี านวน 13 โรงเรยี น เป็นโรงเรียนท่ีตงั้ อยู่
สภาพท่ีสูง และเป็นพื้นท่ีหมู่บ้านยากจน ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างท่ัวไป และเกษตรกรรม
นกั เรยี นในเขตบริการของโรงเรียนส่วนใหญ่เดินทางมาเรียนโดยรถจักรยานและผู้ปกครองมาส่ง ระยะทางประมาณ
3 – 5 กโิ ลเมตร สภาพสว่ นใหญ่ผ้ปู กครองมีฐานะยากจน
๓
1.8 ปรัชญา / คาขวัญ /สี /อตั ลกั ษณ์ / เอกลกั ษณ์ / สัญลักษณ์ของโรงเรยี น
ปรัชญาของโรงเรยี น “ปญฺญาว ธเนน เสยฺโย” ปญั ญาประเสริฐกว่าทรพั ย์
คาขวญั “เกง่ ในการเรียน เพยี รหาความรู้ คู่คุณธรรม นาประชาธปิ ไตย”
สีประจาโรงเรียน น้าตาล – ขาว
อัตลักษณ์โรงเรียน ระดับปฐมวัย “ยิ้มงา่ ย ไหวส้ วย”
ระดบั ประถมศึกษา “วชิ าการเดน่ เน้นคุณธรรม”
เอกลกั ษณ์ “สถานศึกษาท่มี ่งุ เนน้ ใหน้ กั เรียนเกง่ ดี มสี ุข”
วิสัยทัศน์ (VISION)
ภายในปี 2565 โรงเรียนบ้านโป่งคอม มุ่งจัดการศึกษาให้นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา
สภาพแวดลอ้ มน่าอยู่ มงุ่ พัฒนาการเรียนรู้ สร้างคนดี มีความเป็นไทย ก้าวไกลเทคโนโลยี ปฏิบัติตนตามกลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง
พนั ธกิจโรงเรยี นบา้ นโปง่ คอม
1.สง่ เสริมพฒั นาผู้เรยี นใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา
2.จดั สภาพแวดลอ้ มทน่ี ่าอยู่เอื้อต่อการเรยี นรู้
3.ส่งเสริมให้ผเู้ รียนมีทักษะชวี ติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
4.สง่ เสรมิ การอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมไทยไปพรอ้ มกบั การกา้ วทันเทคโนโลยี
5.สง่ เสรมิ พัฒนาผูเ้ รยี นใหม้ คี ณุ ธรรมจริยธรรมพรอ้ มเปน็ คนดีในสังคม
เปา้ ประสงค์โรงเรยี นบ้านโปง่ คอม
1.นกั เรียนทกุ คนมีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา
2.สภาพแวดล้อมสวยงาม สะอาด รม่ ร่นื นา่ อยนู่ ่าเรียน
3.นกั เรียนมีทักษะชวี ิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
4.นกั เรยี นรูจ้ ักอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทยและกา้ วทันเทคโนโลยี
5.นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและอยใู่ นสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านโป่งคอม (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560) ตามหลักสตู รแกนกลาง
การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 มุ่งใหผ้ เู้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคญั 5 ประการ ดงั น้ี
1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคดิ ความรคู้ วามเข้าใจ ความรสู้ กึ และทศั นะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมลู ข่าวสารและประสบการณ์
อนั จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรอง เพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง
ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ท่ีมี
ประสิทธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบท่มี ีต่อตนเอง และสงั คม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพือ่ นาไปสู่การสรา้ งองค์ความรหู้ รอื สารสนเทศเพ่ือการ
ตัดสินใจเก่ยี วกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๔
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และ
มีการตดั สินใจทมี่ ปี ระสิทธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบทเ่ี กดิ ขึน้ ตอ่ ตนเอง สงั คมและส่งิ แวดลอ้ ม
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดาเนนิ ชีวิตประจาวัน การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง การเรยี นร้อู ยา่ งตอ่ เน่ือง การทางาน และการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมด้วยการ
สร้างเสรมิ ความสมั พนั ธ์อนั ดรี ะหว่างบคุ คล การจดั การปญั หาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้
ทนั กับการเปลีย่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบ
ตอ่ ตนเองและผู้อื่น
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่างๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทางาน
การแกป้ ญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นโป่งคอม (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 มงุ่ พฒั นาผ้เู รียนให้มีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เพือ่ ใหส้ ามารถอยู่ร่วมกับ
ผูอ้ น่ื ในสังคมได้อยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซ่ือสัตยส์ ุจรติ
3. มีวนิ ยั
4. ใฝ่เรยี นรู้
5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
6. มุ่งมัน่ ในการทางาน
7. รักความเป็นไทย
8. มีจิตสาธารณะ
ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ตามนโยบายของ คสช.
1. มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์
2. ซือ่ สัตย์ เสียสละ อดทน มีอดุ มการณ์ในสงิ่ ท่ีดีงามเพ่ือส่วนรวม
3. กตัญญูตอ่ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์
4. ใฝ่หาความรู้ หมน่ั ศกึ ษาเลา่ เรยี นทงั้ ทางตรง และทางออ้ ม
5. รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม
6. มีศีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั ดีต่อผู้อ่นื เผอ่ื แผ่และแบ่งปนั
7. เข้าใจเรยี นรกู้ ารเปน็ ประชาธิปไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ท่ีถกู ตอ้ ง
๕
8. มรี ะเบียบวนิ ัย เคารพกฎหมาย ผนู้ อ้ ยรูจ้ กั การเคารพผู้ใหญ่
9. มีสติร้ตู ัว รู้คิด รทู้ า รปู้ ฏบิ ัติตามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั
10. รู้จกั ดารงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดารัสของพระบาท สมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัวรู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจาเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจาหน่าย และพร้อมที่จะขยายกิจการ
เมอื่ มีความพรอ้ ม เมอ่ื มภี ูมิคมุ้ กนั ท่ีดี
11. มีความเข้มแขง็ ทั้งรา่ งกาย และจติ ใจ ไม่ยอมแพต้ อ่ อานาจฝา่ ยต่า หรือกิเลสมีความละอายเกรงกลัว
ต่อบาปตามหลักของศาสนา
12. คานึงถึงผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง
1.9 ข้อมลู สภาพชมุ ชน (โดยสงั เขป)
ภาพชมุ ชนรอบบรเิ วณโรงเรยี นมลี ักษณะสงบเรียบร้อย ประชาชนอยู่กันอย่างสันติ ฐานะค่อนข้างยากจน มี
ประชากรประมาณ 500 คน บรเิ วณใกลเ้ คยี งโดยรอบโรงเรยี น ไดแ้ ก่ หมูบ่ า้ นและพน้ื ที่ทาการเกษตร อาชีพหลักของ
ชุมชน คือ ทาไร่อ้อย และไร่มันสับปะหลัง เน่ืองจาก มีสภาพพ้ืนที่เป็นท่ีราบ และเป็นอาชีพท่ีทาต่อจากบรรพ
บุรุษ สว่ นใหญน่ บั ถือศาสนาพทุ ธ ประเพณี/ศลิ ปวฒั ธรรมท้องถ่นิ ทีเ่ ป็นทรี่ จู้ กั โดยทัว่ ไป
1. ผูป้ กครองสว่ นใหญ่จบการศึกษาระดับ ป.4
ประกอบอาชพี ทาไร่ คดิ เปน็ ร้อยละ 98.00
ประกอบอาชีพรบั ราชการ คิดเป็นร้อยละ 2.00
นบั ถือศาสนาพทุ ธ คิดเป็นรอ้ ยละ 100
ฐานะทางเศรษฐกจิ /รายไดเ้ ฉลย่ี ต่อครอบครวั ตอ่ ปี 5,000 บาท
จานวนคนเฉลี่ยตอ่ ครอบครัว 5 คน
2.โอกาสและขอ้ จากดั ของโรงเรยี น
อยู่ไกลจากหมู่บ้านประมาณ 3 เมตร มีแหล่งเรียนรู้ในชุมชน คือ วัดจานวน 1 แห่ง สถานีอนามัย
จานวน 1 แห่ง หัตถกรรมทอเส่ือในครัวเรือนประมาณร้อยละ 20 ของจานวนครัวเรือนทั้งหมด โรงเรียน
ประถมศึกษาท่ีเปิดสอนระดับ ป.1-ป.6 จานวน 1 โรง แหล่งเรียนรู้ท่ีสาคัญอื่น ๆ อยู่ห่างไกลออกไป ได้รับการ
สนบั สนนุ จากชุมชนอย่างดียงิ่ ในดา้ นการระดมสรรพกาลังเพ่อื การศึกษาและวิทยากรท้องถ่นิ
๖
2. ข้อมลู สารสนเทศ (ปีการศึกษา 2561)
2.1 ขอ้ มูลผู้บรหิ าร (ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 10 มถิ ุนายน 2562)
1) ผู้อานวยการโรงเรียน ชือ่ -สกลุ นางธนพรรณ ทศพรพรหม โทรศพั ท์ 098-3541651
วฒุ กิ ารศกึ ษาสงู สดุ ปรญิ ญาโท ดารงตาแหน่งท่ีโรงเรียนนี้ ต้ังแต่วันที่ 1 มีนาคม 2562 จนถึงปัจจุบันรวม 3 เดือน
(ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 10 มถิ ุนายน 2562)
2) หัวหน้างานวชิ าการโรงเรยี น นางสาวน้าเพชรอนิ ทร์วงษ์ โทรศัพท์098-3430364
E-Mail: [email protected] วฒุ ิการศึกษาสงู สดุ ปรญิ ญาตรี ดารงตาแหน่งทโ่ี รงเรียนน้ี
ตัง้ แต่วนั ท่ี 1 กนั ยายน 2559 จนถงึ ปัจจุบัน รวม 2 ปี 9 เดือน การบริหารงานฝ่ายวชิ าการ
3) หัวหน้างาน 4 ฝา่ ย (ตามโครงสร้างการบรหิ ารงานของสถานศึกษา)
3.1 นายยทุ ธการ เจียตระกูล โทรศพั ท์ 082-3429149 E-Mail : [email protected]
วฒุ ิการศึกษาสูงสดุ ปริญญาตรี ดารงตาแหนง่ ท่โี รงเรียนน้ี ตั้งแต่วนั ท่ี 25 พฤษภาคม 2559 จนถึงปจั จบุ ัน รวม 3 ปี
1 เดอื น การบรหิ ารงานงบประมาณ
3.2 นายยทุ ธการ เจียตระกลู โทรศพั ท์ 082-3429149 E-Mail : [email protected]
วุฒกิ ารศึกษาสูงสุด ปริญญาตรี ดารงตาแหนง่ ทีโ่ รงเรยี นน้ี ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน
รวม 3 ปี 1 เดอื น การบริหารงานฝา่ ยบุคคล
3.3 นางสาวน้าเพชรอนิ ทร์วงษ์ โทรศัพท์098-3430364 E-Mail: [email protected]
วุฒิการศกึ ษาสงู สดุ ปริญญาตรี ดารงตาแหนง่ ท่ีโรงเรียนน้ี ตง้ั แตว่ ันท่ี 1 กันยายน 2559 จนถึงปัจจุบัน รวม
2 ปี 9 เดอื น การบรหิ ารงานฝ่ายวิชาการ
3.4 นายทนยภฤศ วงศสวุ รรณ โทรศพั ท์ 064-4094751 E-Mail : [email protected]
วุฒิการศึกษาสูงสุด ปริญญาตรี ดารงตาแหน่งท่ีโรงเรียนนี้ ต้ังแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 จนถึงปัจจุบัน
รวม 3 ปี 5 เดือน การบรหิ ารงานฝา่ ยทว่ั ไป
๗
2.2 ขอ้ มูลด้านการบริหาร (โครงสร้างการบริหารงาน 4 ฝ่ายของโรงเรยี น)
โครงสร้างการบรหิ ารสถานศกึ ษา
นางธนพรรณ ทศพรพรหม
ผอู้ านวยการสถานศึกษา
คณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน
นางสาวน้าเพชร อนิ ทรว์ งษ์ นายยุทธการ เจียตระกลู นายยุทธการ เจียตระกูล นายทนยภฤศ วงศสวุ รรณ
การบริหารวชิ าการ การบรหิ ารงบประมาณ การบรหิ ารบคุ คล การบรหิ ารท่วั ไป
คณะครู / นักเรียน /นกั การภารโรง
2.3 ขอ้ มลู ครูและบคุ ลากร
1) จานวนบคุ ลากร
บคุ ลากร ผบู้ ริหาร ขา้ ราชการครู พนักงาน ครอู ตั ราจ้าง เจ้าหนา้ ที่อนื่ ๆ รวมท้งั หมด
ราชการ
จานวน 1 2 1 1 1 6
2) วฒุ ิการศกึ ษาสงู สุดของบคุ ลากร ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท ปรญิ ญาเอก รวมทงั้ หมด
บคุ ลากร ต่ากว่าปรญิ ญาตรี 4 1 -6
จานวน 1
๘
3) จานวนครทู สี่ อนตรงตามสาขา/วชิ าเอก................3.................คน คิดเป็นร้อยละ 75
4) จานวนครทู ่สี อนตรงตามความถนดั .......................3................คน คิดเป็นร้อยละ 75
5) ข้อมูลวิทยฐานะ ตาแหน่ง อายงุ าน
ข่อื -สกลุ ตาแหนง่ อายงุ าน
นางธนพรรณ ทศพรพรหม ผู้อานวยการโรงเรยี น 33 ปี 4 เดือน
นายยทุ ธการ เจยี ตระกลู ครู 3 ปี 1 เดือน
นางสาวน้าเพชร อนิ ทรว์ งษ์ ครู 2 ปี 9 เดือน
นายทนยภฤศ วงศสุวรรณ พนักงานรชการ 3 ปี 5 เดอื น
นางอญั ชิสา ชอ่ ฮวด เจา้ หนา้ ท่ีธรุ การ 7 เดอื น
นางสาวนุชนารถ เขียวเซ็น ผชู้ ว่ ยครู 4 ปี 9 เดือน
2.4 ขอ้ มูลนักเรียน
จานวนนกั เรียน ปีการศกึ ษา ...2562.... รวม 29 คน (ขอ้ มูล ณ วนั ที่ 10 มิถนุ ายน 2562)
ระดับชัน้ เรียน จานวนห้อง เพศ รวม
ชาย หญิง
อ.1 - -- -
อ.2 1 3- 3
อ.3 1 41 5
รวม 2 71 8
ป.1 1 -- -
ป.2 1 13 4
ป.3 1 -- -
ป.4 1 74 11
ป.5 1 23 5
ป.6 1 1- 1
รวม 6 11 10 21
รวมทงั้ หมด 8 18 11 29
2.4.1) ขอ้ มูลสารสนเทศด้านนกั เรียน
2.1) จานวนนักเรียนในเขตพนื้ ทบ่ี รกิ ารทง้ั ส้ิน 29 คน นอกเขตบรกิ าร.......-........คน
2.2) จานวนนักเรียนท้ังสิน้ ในโรงเรยี น 29 คน ชาย 18 คน หญิง 11 คน
๙
2.3) จานวนนกั เรียนทมี่ ีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์ของกรมพลศึกษา 29 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100
2.4) จานวนนักเรียนทม่ี ีน้าหนกั ส่วนสงู ตามเกณฑข์ องกรมอนามยั 25 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 86.21
2.5) จานวนนกั เรียนที่มคี วามบกพรอ่ งเรียนรวม..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.......................
2.6) จานวนนักเรยี นมีภาวะทุพโภชนา..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ...............
2.7) จานวนนักเรยี นทมี่ ีความต้องการชว่ ยเหลือพิเศษ.........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.........................
2.8) จานวนนกั เรียนท่อี อกกลางคนั ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................
2.9) จานวนนกั เรยี นท่ีซา้ ชั้น..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ.........
2.10) จานวนนักเรยี นทจ่ี บหลักสูตรอนุบาล ๓ จานวน.......... คน คิดเปน็ ร้อยละ....................ประถมศกึ ษาปที ่ี
๖ จานวน..........คน คิดเป็นร้อยละ.......
2.5 ขอ้ มูลอาคารสถานที่
อาคารเรยี น/อาคารประกอบ
อาคารเรียน/อาคารประกอบ จานวน/หน่วย
อาคารเรยี นถาวร แบบ 105/29 1
อาคารอเนกประสงค.์ ...................... -
บ้านพักครู............................ -
ส้วมแบบ 4 ทน่ี ่งั 2
สนามฟุตบอล........................ 1
สนามวอลเลย์บอล................. -
สนามตะกรอ้ ......................... -
อาคารหอ้ งสมดุ (เอกเทศ) -
สระว่ายน้า -
สนามเด็กเล่น 1
หอประชุม -
โรงอาหาร -
สนามกีฬา -
ลานกฬี า -
โรงเรือนเพาะชา/เกษตร -
อน่ื ๆ............................................... ..............
๑๐
2.6 ขอ้ มลู ครภุ ัณฑ์ จานวน/หน่วย จานวน
นบั ทม่ี อี ยู่
ประเภทครุภัณฑ์
ชุด/ตัว 30
โตะ๊ -เกา้ อีน้ กั เรยี น ชดุ 12
เคร่ืองคอมพิวเตอร์ (PC) เครือ่ ง 4
เครื่องปริน้ เตอร์ หลัง 6
ตูเ้ กบ็ เอกสาร ............. .............
เครื่องถา่ ยเอกสาร (อดั สาเนา) ตวั 6
พัดลม เคร่ือง 4
โทรทศั น์ หลัง 2
ตเู้ ยน็ ชุด 1
โตะ๊ ทเบิลเทนนิส ............ ............
วทิ ยุเทป ชุด 1
เคร่ืองกรองนา้ ............. .............
เครอื่ งเลน่ วดี โิ อ ............ ............
ตู้บัตรรายการ ช้ัน 2
ชนั้ วางหนังสือ ........... ...........
อื่นๆ........................................................... ........... ...........
..................................................................
2.7 ข้อมลู งบประมาณ จานวน/บาท รายจ่าย จานวน/บาท
รายรับ 773,443 งบดาเนนิ งาน/เงนิ เดอื น-ค่าจ้าง 449,790
เงินงบประมาณ 155,502 งบพัฒนาคณุ ภาพ 96,416
เงินนอกงบประมาณ 117,040 เงินอนื่ ๆ คา่ จา้ งครู
เงินรายได้สถานศกึ ษา -
2.8 แหล่งเรยี นรู้ ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่
1) หอ้ งสมดุ มีขนาด 45 ตารางเมตร จานวนหนังสอื ในห้อสมุดทงั้ หมด 1,000 เลม่ การสบื คน้ หนังสอื และ
การยืม – คนื ใชร้ ะบบดวิ อี้ จานวนนกั เรียนทใี่ ช้บรกิ ารหอ้ งสมุดในปกี ารศึกษาน้ี คดิ เป็นจานวนเฉลี่ยการใช้ 18 คน /
วัน
๑๑
2) ห้องปฏบิ ัตกิ าร
ห้องปฏบิ ัติการคอมพิวเตอร์ จานวน 1 ห้อง
3) คอมพิวเตอร์ จานวน 12 เครอ่ื ง
ใชเ้ พ่ือการเรียนการสอน 5 เคร่อื ง
ใชเ้ พอื่ สบื ค้นขอ้ มลู ทางอนิ เทอร์เน็ต 5 เครอื่ ง
จานวนนกั เรียนท่สี ืบค้นข้อมลู ทางอินเตอร์เน็ตในปกี ารศึกษาท่รี ายงาน
เฉลีย่ 8 คน ต่อวัน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 49.50 ของนักเรยี นทัง้ หมด
ใชเ้ พอ่ื การบรหิ ารจดั การ 3 เครือ่ ง
4) แหล่งเรียนรภู้ ายในโรงเรียน สถติ ิการใช้จานวนคร้งั /ปี
แหล่งเรียนรู้ภายใน 125
ชอ่ื แหลง่ เรยี นรู้ 198
1. ห้องสมุด
2. ห้องคอมพวิ เตอร์
5) แหล่งเรยี นรู้ภายนอกโรงเรยี น สถิติการใช้
จานวนครั้ง/ปี
แหลง่ เรยี นรู้ภายนอก
ชอ่ื แหลง่ เรียนรู้ 4
4
1. อา่ งเก็บน้าหุบเขาวง 15
2. พพิ ิธภัณฑช์ ุมชนวัดพุนา้ ร้อน 2
3. วดั
4. โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบลบา้ นพนุ ้าร้อน
6) ปราชญ์ชาวบ้าน/ภมู ิปัญญาท้องถนิ่ ผทู้ รงคุณวุฒิ ที่สถานศกึ ษาเชญิ มาให้ความรู้แก่ครู นักเรียน ในปี
การศกึ ษาท่ีรายงาน
6.1 พระอธิการเฉลิมพลวันโปง่ คอมใต้ ใหค้ วามรูเ้ รอ่ื ง เก่ียวกบั การปฏิบัติธรรม และ ธรรมะสู่ความสงบ
สุข สถิตกิ ารให้ความรูใ้ นโรงเรียนแหง่ น้ี จานวน 6 ครัง้ /ปี
6.2 เจ้าหน้าทีจ่ ากสถานตี ารวจอาเภอดา่ นช้าง ให้ความรู้เก่ียวกับการจราจร และยาเสพติด สถิติการให้
ความรใู้ นโรงเรยี นแหง่ น้ี จานวน 2 ครั้ง /ปี
6.3 เจ้าหน้าทจี่ ากหนว่ ยงานการรกั ษาความปลอดภยั ไฟป่า ให้ความรเู้ กย่ี วกับ
การรักษาความปลอดภัย และวิธีการป้องกันภัยอันตรายในบ้านและชุมชนสถิติการให้ความรู้ในโรงเรียน จานวน 2
คร้ัง/ปี
๑๒
6.4 นางสิน พลายละหาร ให้ความรู้เก่ียวกับการทาน้ายาล้างจาน และน้ายาซักล้างชนิดต่าง ๆ
สถติ ิการใหค้ วามรู้ในโรงเรียนแห่งนี้ จานวน 6 ครงั้ /ปี
6.5 นางบญุ ฐม โชระเวช ให้ความรเู้ กยี่ วกับ การปลูกผักปลอดสารพิษ
สถิติการให้ความรูใ้ นโรงเรียนแหง่ นี้ จานวน 10 ครง้ั /ปี
6.6 โรงพยาบาลดา่ นช้าง ให้ความรเู้ ก่ียวกับ การรกั ษาสขุ ภาพฟัน
สถติ กิ ารให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้ จานวน 2 ครัง้ /ปี
6.7 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านพุน้าร้อน ให้ความรู้เกี่ยวกับ การดูแลรักษาสุขภาพ
รา่ งกาย ฉีดวคั ซีน ปอ้ งกันโรค กาจัดยุงลาย สถติ ิการให้ความร้ใู นโรงเรยี นแหง่ นี้ จานวน 4 คร้ัง / ปี
๑๓
3. ข้อมูลด้านการจดั การศกึ ษา (ปกี ารศกึ ษา 2561)
3.1 โครงสร้างหลกั สูตรสถานศึกษา
เวลาเรียน
กลมุ่ สาระการเรียนรู/้ กจิ กรรม ระดบั ประถมศกึ ษา
ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6
กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย 200 200 200 160 160 160
คณิตศาสตร์ 200 200 200 160 160 160
วทิ ยาศาสตร์ 80 80 80 120 80 80
สงั คมศกึ ษา ศาสนา
และวฒั นธรรม 80 80 80 120 120 120
ประวัตศิ าสตร์ 40 40 40 40 40 40
ศาสนาศีลธรรม จรยิ ธรรม
หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง วัฒนธรรม
และการดาเนินชวี ิตในสงั คม
เศรษฐศาสตร์ 40 40 40 80 80 80
ภูมิศาสตร์
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 40 40 40 80 80 80
ศิลปะ 80 80 80 80 80 80
การงานอาชีพและเทคโนโลยี 40 40 40 40 80 80
ภาษาตา่ งประเทศ 200 200 200 160 160 160
รวมเวลาเรียน (พื้นฐาน) 920 920 920 920 920 920
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ
หนา้ ท่ีพลเมือง 40 40 40 40 40 40
รวมเวลาเรยี นเพิม่ เตมิ 40 40 40 40 40 40
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
กจิ กรรมแนะแนว
กิจกรรมนกั เรยี น
- ลกู เสอื ยุวกาชาด 120 120 120 120 120 120
- ชมุ นุม
กิจกรรมเพอื่ สังคม
และสาธารณประโยชน์
รวมเวลากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน 120 120 120 120 120 120
รวมเวลาเรยี นท้งั หมด 1,080 1,080 1,080 1,080 1,080 1,080
รวมเวลาทง้ั หมด ไม่นอ้ ยกว่า 1,000 ช่วั โมง ไมน่ อ้ ยกวา่ 1,000 ชว่ั โมง
๑๔
3.2 ข้อมูลผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นระดบั สถานศึกษา ปีการศกึ ษา 2561
ระดับปฐมวัย
จานวน/รอ้ ยละของนกั เรียนทีม่ ผี ลการประเมินพฒั นาการแต่ละด้านในระดับ 3 ข้นึ ไป
ระดบั ชั้น ผลการประเมนิ พัฒนาการนกั เรยี นดา้ น ครบทัง้
อ.1 ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา 4 ด้าน
อ.2
อ.3 จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ
รวม
3 100 3 100 3 100 3 100 3
5 100 5 100 5 100 5 100 5
- --- -----
8 100 8 100 8 100 8 100 8
ระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
1) จานวน/ร้อยละของนักเรยี นที่มเี กรดเฉลย่ี ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นแต่ละรายวชิ าใน ระดับ 3 ข้นึ ไป
ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1-6
ระดบั ชัน้ รายวิชา (พ้นื ฐาน)
จานวน ภาษาไทย
นกั เรยี น ค ิณตศาสตร์
ิวทยาศาสต ์ร
สังคม ึศกษาฯ
ประวัติศาสต ์ร
ภาษา ัองกฤษ
สุข ึศกษาฯ
ิศลปะ
การงานอา ีชพฯ
ป.1 4 67.5 64 63 63 63.5 60 78 73 69
ป.3 12 67.36 71.36 72.27 77.18 74.18 75.09 77.46 75.09 78.18
ป.4 5 71 84 69 75 84 71.5 83 79 60.5
ป.5 2 70 82 86 91 80 73 59 71 63
ป.6 1 61 72.25 76.75 88.75 73.75 68.75 65.5 73 54.25
รวม 24 67.37 74.72 73.40 78.99 75.09 69.67 75.22 74.22 64.99
๑๕
2) จานวน/ร้อยละของนกั เรียนท่มี ผี ลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น ในระดบั ดีขึน้ ไป
ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1-6
ระดับช้นั จานวน ผลการประเมนิ ระดบั ดี รอ้ ยละ
นักเรียน ไมผ่ า่ น ผ่าน ดี ดเี ย่ียม ข้ึนไป 100
-
ป.1 4 - - 13 4
100
ป.3 12 - 2 5 5 8 100
100
ป.4 5 - - -5 5
ป.5 2 - - 11 2
ป.6 1 - - -1 1
รวม 24 - 2 7 15 22
3) จานวน/ร้อยละของนกั เรียนทีม่ ผี ลการประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ในระดับดีขนึ้ ไป
ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1-6
ระดบั ชน้ั จานวน ผลการประเมิน ระดบั ดี ร้อยละ
นกั เรียน ไมผ่ า่ น ผ่าน ดี ดเี ยี่ยม ขึน้ ไป 100
-
ป.1 4 - - -4 4
100
ป.3 12 - 228 10 100
100
ป.4 5 - - -5 5
ป.5 2 - - -2 2
ป.6 1 - - -1 1
รวม 24 - 2 2 20 22
4) จานวน/ร้อยละของนกั เรียนทมี่ ีผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา
ขัน้ พ้นื ฐานพุทธศกั ราช 2551 ในระดบั ผ่านขน้ึ ไประดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6
สมรรถนะสาคัญ จานวน ผลการประเมนิ ระดับ รอ้ ยละ
นกั เรียน ไมผ่ า่ น ผ่าน ดี ดีเย่ียม ผา่ น
1. ความสามารถในการส่ือสาร ขน้ึ ไป 100
2. ความสามารถในการคิด 1 - -1 - 100
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 1 - -1 - 1 100
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 1 - -1 - 1 100
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1 - -- 1 1 100
1 - -- 1 1 100
รวม
5 - -3 2 1
5
๑๖
5. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติข้นั พืน้ ฐาน (O-NET)
ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6
1) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ้ันพ้นื ฐาน (O-NET) ปีการศกึ ษา 2561
ระดับ/รายวิชา ภาษาไทย คะแนนเฉลี่ย ภาษาอังกฤษ
40.50 25.00
ระดับโรงเรียน คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์
ระดับ สพป.สพ 3 54.61 40.00 32.00 35.47
55.90 35.65 38.83 39.24
ระดบั ประเทศ 37.50 39.93
ผลตา่ งระดบั สพป.สพ 3 ต่ากวา่ ระดับ ตา่ กว่าระดบั
สพป.สพ 3 สูงกวา่ ระดบั ต่ากวา่ ระดับ สพป.สพ 3
กับระดับโรงเรยี น ร้อยละ 14.11 สพป.สพ.3 สพป.สพ 3 ร้อยละ 15.47
ร้อยละ 4.35 ร้อยละ 6.83
ผลตา่ งระดบั ประเทศ ต่ากว่า ตา่ กวา่
กบั ระดบั โรงเรยี น ระดบั ประเทศ สงู กวา่ ต่ากวา่ ระดับประเทศ
ร้อยละ 15.40 ระดบั ประเทศ ระดับประเทศ รอ้ ยละ 14.47
รอ้ ยละ 2.50 รอ้ ยละ 7.93
2) ผลการเปรยี บเทยี บผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ้ันพ้นื ฐาน (O-NET)
ปีการศกึ ษา 2560 – 2561
รายวชิ า/ปีการศกึ ษา คะแนนเฉล่ยี (ระดับโรงเรยี น)
ภาษาไทย ปีการศึกษา 2560 ปกี ารศกึ ษา 2561 สรปุ ผล
คณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ 37.03 40.50 เพ่ิมขึ้นรอ้ ยละ 3.47
ภาษาอังกฤษ
28.75 40.00 เพิม่ ขึน้ รอ้ ยละ 1.25
30.13 32.00 ลดลงร้อยละ 1.87
27.50 25.00 ลดลงรอ้ ยละ2.50
๑๗
6. ผลการประเมินทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดบั ชาติ (NT) ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3
1) ผลการประเมนิ ทดสอบความสามารถพน้ื ฐานของผเู้ รียนระดบั ชาติ (NT) ปีการศกึ ษา 2561
ระดับ/ความสามารถ คะแนนเฉลยี่
ดา้ นภาษา ดา้ นคานวณ ด้านเหตุผล รวมความสามารถ
ท้งั 3 ด้าน
ระดบั โรงเรยี น 55.71 52.85 52.85 53.80
ระดบั สพป.สพ 3 62.18 55.58 55.42 57.73
47.19 48.07 49.48
ระดบั ประเทศ 53.18
ต่ากวา่ ระดบั ต่ากว่าระดบั ตา่ กวา่ ระดบั
ผลตา่ งระดับ สพป.สพ 3 ต่ากว่าระดบั สพป.สพ 3 สพป.สพ 3 สพป.สพ 3
กับระดับโรงเรยี น สพป.สพ 3 รอ้ ยละ 2.73 ร้อยละ 2.57 รอ้ ยละ 6.07
สงู กวา่
ร้อยละ 6.47 สงู กวา่ สงู กวา่ ระดับประเทศ
ระดับประเทศ ระดบั ประเทศ ร้อยละ 3.70
ผลต่างระดับประเทศ สงู กวา่ รอ้ ยละ 5.66 ร้อยละ 4.51
กับระดบั โรงเรียน ระดบั ประเทศ
รอ้ ยละ 2.53
2) การเปรยี บเทียบผลการประเมนิ ทดสอบความสามารถพน้ื ฐานของผูเ้ รยี นระดบั ชาติ (NT) ปกี ารศึกษา 2560-
2561
ความสามารถ/ปกี ารศกึ ษา คะแนนเฉลยี่ (ระดับโรงเรียน) สรุปผล
ปีการศกึ ษา 2560 ปกี ารศกึ ษา 2561
ด้านภาษา 66.42 55.71 ลดลงรอ้ ยละ 10.71
ดา้ นคานวณ 55.71 52.85 ลดลงรอ้ ยละ 2.86
ดา้ นเหตผุ ล 55.00 52.85 ลดลงรอ้ ยละ 2.15
รวมความสามารถทั้ง 3 59.04 53.80 ลดลงร้อยละ 5.24
ดา้ น
๑๘
7. ผลการประเมินความสามารถการอา่ น (RT) ของนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1
1) ผลการประเมินความสามารถการอา่ น (RT) ปีการศึกษา 2561
ระดบั /สมรรถนะ การอา่ นออกเสยี ง คะแนนเฉล่ยี รวม 2 สมรรถนะ
63.16 63.58
ระดับโรงเรียน การอ่านรเู้ รอ่ื ง
ระดับสพป.สพ 3 74.90 64.00 77.37
ระดบั ประเทศ 66.16 68.72
ผลต่างระดบั สพป.สพ 79.85
ตา่ กวา่ ระดบั 71.27 ต่ากวา่ ระดบั
3 สพป.สพ 3 สพป.สพ 3
กบั ระดบั โรงเรียน รอ้ ยละ 1.74 ตา่ กวา่ ระดับ ร้อยละ 13.79
ผลต่างระดบั ประเทศ สพป.สพ 3
กับระดับโรงเรียน ตา่ กวา่ รอ้ ยละ15.85 ต่ากวา่
ระดบั ประเทศ ระดับประเทศ
รอ้ ยละ 3.00 ตา่ กว่า ร้อยละ 5.14
ระดับประเทศ
ร้อยละ 7.27
2) การเปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถการอ่าน (RT) ปีการศึกษา 2560- 2561
สมรรถนะ/ปีการศกึ ษา คะแนนเฉลย่ี (ระดับโรงเรียน)
การอา่ นออกเสยี ง ปีการศึกษา 2560 ปีการศกึ ษา 2561 สรปุ ผล
การอา่ นร้เู รอ่ื ง
รวม 2 สมรรถนะ 69.25 63.16 ลดลงร้อยละ 6.09
65.00 64.00 ลดลงร้อยละ 1.00
67.12 63.58 ลดลงรอ้ ยละ 3.54
๑๙
3.7 สรปุ ผลการประเมินคณุ ภาพภายนอกกรอบสาม
โรงเรียนรับการประเมินคุณภาพมาตรฐานการศึกษา จากสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ
การศกึ ษา (องค์การมหาชน) รอบ ๓ เม่อื วันท่ี……………เดือน………………… พ.ศ. …………….. โดยมผี ลการประเมินโดย
มผี ลการประเมนิ ดังนี้
1) ผลการประเมนิ ภายนอกระดบั การศกึ ษาปฐมวัย
ตัวบ่งชท้ี ี่ ชอื่ ตวั บง่ ชี้ ระดบั คณุ ภาพ
กลุ่มตัวบง่ ชพ้ี ืน้ ฐาน ดี
ดี
๑ เด็กมพี ฒั นาการดา้ นรา่ งกายสมวยั ดมี าก
ดีมาก
๒ เดก็ มพี ฒั นาการดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจสมวยั ดี
ดี
๓ เด็กมีพฒั นาการดา้ นสงั คมสมวัย ดี
ดี
๔ เด็กมพี ฒั นาการดา้ นสตปิ ัญญาสมวัย
๕ เดก็ มีความพร้อมศึกษาตอ่ ในขนั้ ตอ่ ไป
๖ ประสิทธิผลการจัดประสบการณ์เรียนรทู้ ่เี น้นเด็กเปน็ สาคญั
๗ ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการและการพัฒนาสถานศกึ ษา
๘ ประสทิ ธิผลของระบบการประกนั คุณภาพภายใน
กลมุ่ ตัวบ่งชี้อตั ลกั ษณ์ ดี
๙ ผลการพัฒนาให้บรรลุตามปรัชญา ปณธิ าน/วิสยั ทัศน์ พนั ธกจิ ดี
และวตั ถุประสงค์ของการจดั ตงั้
๑๐ ผลการพฒั นาตามจุดเนน้ และจดุ เดน่ ท่ีส่งผลสะท้อนเป็น
เอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา
กลมุ่ ตวั บ่งชมี้ าตรการสง่ เสริม ดี
ดี
๑๑ ผลการดาเนนิ งานโครงการพิเศษเพ่อื สง่ เสริมบทบาทของ
สถานศกึ ษา
๑๒ ผลการส่งเสริมพฒั นาสถานศึกษาเพือ่ ยกระดบั มาตรฐาน รกั ษา
มาตรฐานและพฒั นาสคู่ วามเปน็ เลิศทีส่ อดคลอ้ งกับแนวทางการ
ปฏริ ูปการศึกษา
๒๐
สรปุ ผลการประเมนิ ภายนอกระดับการศกึ ษาปฐมวยั ประเภทโรงเรยี น ใช่ ไม่ใช่
ผลรวมคะแนนประเมนิ สถานศกึ ษา 87.56 คะแนน ใช่ ไมใ่ ช่
มคี ุณภาพระดับดี ใช่ ไม่ใช่
การรองรบั มาตรฐานสถานศกึ ษาประเภทโรงเรยี น
ผลรวมคะแนนรวมทกุ ตวั บ่งชี้ ตงั้ แต่ ๘๐ คะแนน ขนึ้ ไป
มตี ัวบ่งช้ที ่ไี ดร้ ะดับดขี ึ้นไป ๑๐ ตัวบง่ ชี้ จาก ๑๒ ตวั บ่งชี้
ไม่มีตัวบ่งชี้ใดที่มีระดบั คุณภาพต้องปรับปรุงหรอื ต้องปรบั ปรงุ เร่งด่วน
ในภาพรวมสถานศกึ ษาจดั การศกึ ษาขน้ึ พนื้ ฐาน
: ระดับการศึกษาปฐมวยั (………………….. ปี)
สมควรรับรองมาตรฐานการศกึ ษา
ไม่สมควรรับรองมาตรฐานการศกึ ษา
จุดเดน่ จุดทคี่ วรพัฒนาและขอ้ เสนอแนะจากการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกรอบสามระดับการศกึ ษาปฐมวัยจุดเด่น
1.เด็กมสี ขุ ภาพกาย สุขนิสัย สุขภาพจิต สุนทรียภาพ มีวินัยและรู้รับผิดชอบสมวัย และสามารถปรับตัวเข้า
กับสังคมได้ เด็กมีทักษะพื้นฐานตามพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญาสมวัย
และมีความพรอ้ มศึกษาต่อในขัน้ ต่อไป
2.ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการและการพัฒนาสถานศึกษา ผลการส่งเสริมพัฒนาสถานศึกษาเพ่ือ
ยกระดับมาตรฐาน รักษามาตรฐาน และพฒั นาส่คู วามเป็นเลศิ ทส่ี อดคลอ้ งกับแนวทางการปฏริ ปู การศึกษา
3.ครูหรือผู้เล้ียงดูเด็กส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์จิตใจ ด้านสังคม ด้าน
สตปิ ญั ญา สง่ เสริมความสมั พนั ธท์ างบวกกับเด็กและครอบครัว
4.มีการประกันคุณภาพภายในอย่างมีประสิทธิภาพสถานศึกษาจัดทาแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ
ประจาปีรวมทัง้ แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย โดยการมีส่วนร่วมจากทุก
ฝ่ายมีการประชุมปรึกษาหารือเพื่อวางแผนในการทางาน มอบหมายหน้าที่ให้ผู้ที่เหมาะสมดาเนินงานมีการนิเทศ
ติดตามผล และประเมินผลอยา่ งต่อเน่ือง มกี ารปรบั ปรงุ แก้ไขจนมคี ุณภาพในระดบั ดมี าก เป็นที่ยอมรบั ของผู้เกี่ยวข้อง
ทกุ ฝ่ายและชุมชนโดยรอบ
๒๑
จุดควรพฒั นา
1.การส่งเสริมและพัฒนาเดก็ ให้สามารถปรบั ตัวเขา้ กับเพ่ือน ๆ ในหอ้ งเรียน และเดก็ ในหอ้ งเรียนอื่น ๆ ได้
2.ผลการดาเนินงานตามโครงการพเิ ศษเพ่ือสง่ เสริมบทบาทของสถานศึกษา และการแก้ไขปัญหา ขาดความ
ชดั เจนในเร่อื งวัตถปุ ระสงค์ เปา้ หมาย ลาดบั ขน้ั ตอน กิจกรรม การกากับตดิ ตามและการประเมินผล
3.ควรแยกการประกนั คณุ ภาพภายในระหว่างปฐมวัยและประถมศกึ ษา
ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพ
การศึกษา พ.ศ.2553
1.ดา้ นผลการจดั การศึกษา
1.1 ครูควรสง่ เสรมิ และพฒั นาเด็กให้สามารถปรับตัวเข้ากับเพ่ือน ๆ ในห้องเรียน และเด็กในห้องเรียนอ่ืนๆ
ไดด้ ้วยกิจกรรมสร้างความคุ้นเคยในห้องเรียน เช่นกิจกรรมตามมุมประสบการณ์ การร้องเพลง แสดงบทบาทสมมติ
กจิ กรรมเคล่อื นไหว กจิ กรรมเล่านิทาน ศกึ ษาแหล่งเรยี นรู้
1.2 การดาเนินการตามโครงการพิเศษ สถานศึกษาควรกาหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ ลาดับข้ันตอน
กิจกรรม การกากบั ตดิ ตามและการประเมินผล ดว้ ยการน้อมนาแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้
ในการบริหารจดั การดา้ นหลกั สตู ร กจิ กรรม การดาเนินชีวิตของเด็กปฐมวัยในสถานศึกษาและที่บ้านอย่างเป็นระบบ
ชัดเจน
2.ดา้ นการบรหิ ารสถานศึกษา
สถานศึกษาควรจัดทาแผนพัฒนา โครงการ กิจกรรม วัตถุประสงค์ เป้าหมาย และการประเมินผลท่ีชัดเจน
ในการดาเนนิ การตามมาตรการด้านความปลอดภัย และการป้องกัน การบาดเจ็บในเด็ก ในกรณีการเฝ้าระวัง และ
วเิ คราะห์ความเส่ยี งทจี่ ะเกดิ ขึน้ กบั เดก็ อยา่ งมรี ะบบ ด้วยการสารวจ บันทึกข้อมูลสม่าเสมอ มีการประเมินผล นาไปสู่
การดาเนินกิจกรรมปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมและวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างมคี ณุ ภาพ
3.ด้านการจัดการเรยี นการสอนทเี่ นน้ เดก็ เปน็ สาคญั
ครูหรอื ผู้เลยี้ งดูเด็กควรได้รับการพัฒนาในเรอื่ งการสง่ เสรมิ การเรยี นร้ทู ตี่ อบสนองตอ่ ธรรมชาตแิ ละพัฒนาการ
ของเด็ก ด้วยกิจกรรมคาถาม คาตอบ เล่าเร่ืองจากภาพ เร่ืองท่ีบ้าน สภาพในห้องเรียน การร้องเพลง กิจกรรมการ
เคลอื่ นไหว วาดภาพระบายสจี ากจนิ ตนาการ ปัน้ สงิ่ ท่ตี อ้ งการจากดนิ น้ามนั กจิ กรรมเลน่ ตามมุมประสบการณ์ รวมทั้ง
ส่งเสริมให้ครูศึกษาเพ่ิมเติมหรือศึกษาดูงานด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กจากสถานศึกษาแห่งอื่น ครู
ควรจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนด้านการอ่าน เขยี นเลข บูรณาการรว่ มกบั การพฒั นาด้านรา่ งกาย อารมณ์ และจิตใจ
ไปพรอ้ มกนั
4.ด้านประกนั คุณภาพภายใน
สถานศึกษาควรดาเนินการประกันคณุ ภาพภายใน ของระดับปฐมวัยแยกจากระดบั ประถมศึกษาอย่างมีระบบ
โดยนาผลจากการประเมนิ คณุ ภาพภายในและขอ้ เสนอแนะของ สมศ และต้นสังกัดมาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงคุณภาพ
อยา่ งตอ่ เน่ือง (กาหนดระยะเวลาในการพฒั นาทกุ ด้านภายใน 2 ปี)
๒๒
2) ผลการประเมินคณุ ภาพภายนอกระดบั การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
ตวั ชื่อตวั บง่ ช้ี ระดบั คณุ ภาพ
บง่ ชท้ี ่ี
ดีมาก
กลมุ่ ตวั บง่ ชี้พ้นื ฐาน ดมี าก
๑ ผู้เรียนมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตท่ดี ี ดี
ดี
๒ ผูเ้ รยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ ม ดี
ดี
ท่พี งึ ประสงค์ ดี
ดี
๓ ผูเ้ รียนมีความใฝร่ ู้และเรียนรอู้ ย่างตอ่ เนือ่ ง
ดี
๔ ผเู้ รียนคดิ เปน็ ทาเป็น
ดี
๕ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของผ้เู รยี น
ดี
๖ ประสทิ ธผิ ลของการจดั การเรียนการสอน
ดี
ท่เี น้นผูเ้ รียนเปน็ สาคญั
๗ ประสทิ ธภิ าพของการบรหิ ารจดั การ
และการพฒั นาสถานศกึ ษา
๘ พัฒนาการของการประกนั คณุ ภาพภายใน
โดยสถานศึกษาและต้นสงั กัด
กลุม่ ตัวบง่ ชี้อัตลกั ษณ์
๙ ผลการพัฒนาให้บรรลตุ ามปรชั ญา
ปณธิ าณ พนั ธกจิ และวตั ถปุ ระสงค์
ของการจดั ต้ังสถานศกึ ษา
๑๐ ผลการพฒั นาตามจกุ เน้นและจดุ เดน่
ที่สง่ ผลสะท้อนเปน็ อตั ลกั ษณ์
ของสถานศกึ ษา
กลุ่มตัวบง่ ชี้มาตรการส่งเสริม
๑๑ ผลการดาเนินงานโครงการพเิ ศษ
เพ่อื สง่ เสริมบทบาทของสถานศึกษา
๑๒ ผลการส่งเสริมพฒั นาสถานศกึ ษา
เพอ่ื ยกระดับมาตรฐาน รักษามาตรฐาน
และพัฒนาส่คู วามเป็นเลิศท่ีสอดคล้องกับ
แนวทางการปฏิรปู การศึกษา
๒๓
สรปุ ผลการประเมินภายนอกระดบั การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน
ผลรวมคะแนนประเมินสถานศกึ ษา 88.57 คะแนน
มคี ุณภาพระดบั ดี
การรองรบั มาตรฐานสถานศกึ ษา ระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ใช่ ไม่ใช่
ผลรวมคะแนนรวมทุกตวั บ่งชี้ ตั้งแต่ ๘๐ คะแนน ขนึ้ ไป ใช่ ไมใ่ ช่
ใช่ ไม่ใช่
มตี วั บง่ ช้ีทไี่ ดร้ ะดบั ดขี ้ึนไป ๑๐ ตัวบ่งชี้ จาก ๑๒ ตวั บง่ ชี้
ไมม่ ตี วั บง่ ชี้ใดทมี่ ีระดบั คุณภาพตอ้ งปรบั ปรุงหรอื ต้องปรับปรงุ เรง่ ดว่ น
ในภาพรวมสถานศึกษาจัดการศึกษาขน้ึ พ้นื ฐาน
: ระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน
สมควรรับรองมาตรฐานการศกึ ษา
ไมส่ มควรรับรองมาตรฐานการศึกษา
จุดเด่นที่ควรพัฒนาและข้อเสนอแนะจากการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
จุดเดน่
1.ผเู้ รียนมีน้าหนัก สว่ นสูง และสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์ รวมทงั้ ร้จู กั การดแู ลตนเองให้มีความปลอดภัย
มีสนุ ทรียภาพ เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ ผู้ปกครอง เป็นผู้เรียนท่ีดีของสถานศึกษาเป็นผู้มีการบาเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม
ผลการพฒั นาให้บรรลตุ ามปรัชญา ปณิธาน/วิสัยทัศน์ พันธกิจ และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถานศึกษา และตาม
จดุ เนน้ และจดุ เดน่ ทสี่ ่งผลสะทอ้ นเปน็ เอกลกั ษณข์ องสถานศกึ ษา
2.ประสทิ ธิภาพของการบริหารจัดการและการพัฒนาสถานศึกษา มีการพฒั นาไดด้ ที ุกดา้ น
3.ประสิทธผิ ลของการจดั การเรียนการสอน ทเี่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ ครมู คี วามมุ่งมัน่ ตงั้ ใจ ในการจัดการเรียน
การสอนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
4.พัฒนาการของระบบการประกันคุณภาพภายในโดยสถานศึกษาและต้นสังกัด ซึ่งเป็นไปอย่างเป็นระบบ
และต่อเน่อื ง
จดุ ควรพฒั นา
1.ผู้เรียนควรได้รับการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ที่มีผลสัมฤทธิ์อยู่ในระดับต้องปรับปรุงเร่งด่วน ต้อง
ปรับปรุง และพอใช้
2.สถานศกึ ษาควรนาผลประเมินการดาเนินงานของสถานศึกษา ไปพัฒนาครูแต่ละคนอยา่ งมีระบบ
๒๔
ข้อเสนอแนะเพื่อการพฒั นาตามกฎกระทรวงวา่ ด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวธิ ีการประกนั คุณภาพการศึกษา พ.ศ.
2553
1.ดา้ นผลการจดั การศกึ ษา
ผเู้ รียนควรได้รับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ท่ีมีผลสัมฤทธิ์ต่ากว่าระดับดี
ดว้ ยการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั พฒั นา การวัดและประเมินผลท่ีหลากหลาย
การออกแบบทดสอบทวี่ ัดการวิเคราะห์ เพ่อื ให้ผู้เรียนคุ้นเคยและชนิ กับแบบทดสอบท่หี ลากหลาย
2.ด้านการบริหารจดั การศึกษา
1.สถานศึกษาควรนาข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว ตามระบบบริหารคุณภาพ (PDCA) มาสรุปผลการ
ดาเนินงานท้ัง 3 ด้าน คือ ด้านเด็ก ด้านครูและด้านผู้บริหาร โดยข้อมูลเหล่าน้ีต้องแบ่งแยกในส่วนของปฐมวัยและ
ประถมศึกษาไวอ้ ยา่ งชดั เจน เพอ่ื จะได้จัดทาแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา และแก้ปญั หาได้ตรงจดุ
2.สถานศึกษาควรวเิ คราะหข์ อ้ มูลจากผลการประเมินคณุ ภาพภายนอกของ สมศ. ผลการประเมินตนเองของ
สถานศึกษา และผลการประกันภายในของต้นสังกัด เพ่ือหาข้อสรุปร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการจัดทา
แผนพัฒนาคุณภาพกรศึกษาปฐมวัย และต้องเป็นแผนที่สอดรับกับแผนพัฒนาคุณภาพระดับประถมศึกษา เพ่ือเป็น
การเตรยี มความพรอ้ มให้เดก็ มีความพร้อมศึกษาในขัน้ ต่อไป
3.ดา้ นการจัดการเรยี นการสอนท่ีเน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั
1.ควรพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของครูท่ีเน้นทักษะกระบวนการคิด ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ คิด
สงั เคราะห์ คดิ แก้ปัญหา คดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ โดยใช้กจิ กรรมค้นคว้า ทดลอง กระบวนการกลุ่ม การให้ผู้เรียนได้ลง
มอื ปฏิบัติจริงอยา่ งเปน็ ระบบตอ่ เนือ่ ง
2.ควรพฒั นาเครอ่ื งมือวดั ผลประเมินผลการจัดการเรียนการสอนใหค้ รอบคลุมจุดประสงค์ตัวชว้ี ัดในการวัดผล
ประเมนิ ผล
3.ควรพัฒนากระบวนการวิจัยเพ่ือแก้ปัญหาทางการเรียนรู้ของผู้เรียนและพัฒนาสื่อนวัตกรรมให้เหมาะสม
กบั ธรรมชาติของแตล่ ะวิชาอยา่ งเปน็ ระบบ
4.ด้านการประกนั คณุ ภาพภายใน
สถานศกึ ษาควรดาเนินการประกันคุณภาพภายในอย่างมีระบบและต่อเนื่อง โดยนาผลการประเมินคุณภาพ
ภายนอกและภายในของสถานศึกษา มาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง (กาหนดระยะเวลาใน
การพัฒนาทกุ ดา้ นภายใน 2 ปี)
๒๕
3.8 ผลงานที่ผ่านมาในรอบ 3 ปี
ผลการทดสอบระดบั ชาตขิ น้ั พื้นฐาน O-NET ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6
ประจาปีการศกึ ษา 2561
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ จานวนคน คะแนนเฉลีย่
ภาษาไทย 1 40.50
คณิตศาสตร์ 1 40.00
วิทยาศาสตร์ 1 32.00
ภาษาตา่ งประเทศ 1 25.00
ผลคะแนนการทดสอบระดบั ชาตขิ นั้ พนื้ ฐานปกี ารศกึ ษา 2557—2561
กลมุ่ สาระ 2558 คะแนนเฉล่ยี 2561
40.50
ภาษาไทย 34.17 2559 2560 40.00
คณติ ศาสตร์ 28.33 62.25 37.03
วิทยาศาสตร์ 55.00 28.75 32.00
สงั คมศกึ ษาฯ 30.50 46.00 30.13 -
ภาษาต่างประเทศ 38.00 45.00 -
27.50 27.50 25.00
27.50
ผลความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจากคณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนตลอดจนส่วน
ราชการต่าง ๆ ทาให้การดาเนินงานภารกิจต่าง ๆ ของโรงเรียนมีผลสาเร็จเป็นที่ยอมรับท้ังในระดับเครือข่ายของ
สถานศึกษา สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 และหน่วยงานอน่ื ๆ เปน็ อยา่ งดี
๒๖
สว่ นที่ 2
สรปุ ผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและการประเมนิ สถานภาพของโรงเรียน
1.การวเิ คราะหภ์ าพของโรงเรียน
โรงเรยี นบ้านโป่งคอม ไดน้ าขอ้ มลู จากรายงานประจาปีของสถานศึกษา (SAR) ข้อเสนอแนะในรายงานของ
สานักงานรบั รองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพการศึกษา (สมศ.) มาดาเนินการวางแผนพัฒนาอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงจะ
ปรากฏในแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจาปี เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้บรรลุตาม
วิสัยทศั น์ซ่ึงผลการวเิ คราะห์สถานภาพของสถานศกึ ษา ณ ปจั จุบันพอสรุปได้ดังนี้
2.ขั้นตอนการประเมินสภาพของโรงเรียน
การประเมินสถานภาพของโรงเรยี นบา้ นโปง่ คอม ไดอ้ าศยั หลกั การมีส่วนร่วมของผทู้ ีเ่ ก่ียวขอ้ ง ได้แก่ ผูบ้ ริหาร
คณะครู คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน นักเรยี น และผู้มสี ่วนไดเ้ สียตา่ ง ๆ ร่วมกันเสนอแนะ โดยมีข้ันตอนการ
ปฏบิ ตั ิดงั น้ี
1.ผมู้ สี ว่ นเกีย่ วขอ้ งร่วมกันพิจารณาความสาคัญของทุกประเด็นในแต่ละปัจจัย (2S4M/STEP) เพ่ือพิจารณา
ว่า แต่ละประเด็นมีผลกระทบกับโรงเรียนมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ทุกคนได้ศึกษาประเด็นต่างๆ ร่วมกันก่อนที่จะ
ประเมนิ ระดับความรนุ แรงของผลกระทบทม่ี ีตอ่ โรงเรยี น
2.ผมู้ สี ว่ นเก่ียวข้องแต่ละคนให้คะแนนผลกระทบท้ังที่เป็นโอกาส อุปสรรค สภาพแวดล้อมภายนอก และที่
เปน็ จุดแข็ง และจุดอ่อน สาหรบั สภาพแวดล้อมภายใน โดยถ้ามีผลกระทบมากที่สุดให้คะแนนเต็ม 5 คะแนน และถ้า
มผี ลกระทบน้อยให้คะแนนเทา่ กับ 1 ตามเกณฑด์ งั น้ี
คะแนน 1 หมายถงึ ประเด็นตัวชี้วัดมีผลกระทบตอ่ การดาเนินงานของโรงเรยี นนอ้ ยท่ีสดุ
คะแนน 2 หมายถึง ประเดน็ ตัวชี้วัดมผี ลกระทบตอ่ การดาเนนิ งานของโรงเรยี นน้อย
คะแนน 3 หมายถงึ ประเดน็ ตวั ช้วี ัดมผี ลกระทบต่อการดาเนนิ งานของโรงเรียนปานกลาง
คะแนน 4 หมายถงึ ประเด็นตวั ชว้ี ัดมผี ลกระทบตอ่ การดาเนินงานของโรงเรียนมาก
คะแนน 5 หมายถงึ ประเด็นตวั ชีว้ ัดมีผลกระทบตอ่ การดาเนินงานของโรงเรียนมากทส่ี ดุ
3.หาคะแนนเฉลี่ยของปจั จัยแตล่ ะดา้ น โดยแยกปัจจัยท่เี ป็นจดุ แข็งหรือจุดออ่ น สาหรบั ปัจจัยแวดล้อม
ภายใน และโอกาสหรอื อปุ สรรค สาหรบั ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอก
4.สรปุ ผลการวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมภายในและสภาพแวดล้อมภายนอกของโรงเรียน
๒๗
การวิเคราะห์องค์กร SWOT Analysis ของโรงเรียนบ้านโป่งคอม
1.การวิเคราะหป์ ัจจัยภายใน (Internal Environment)
1.1 ด้านโครงสร้างงานและนโยบาย (S1)
จดุ แข็ง จดุ อ่อน
1.โครงสร้างการบรหิ ารงานของโรงเรียนมีความชัดเจน 1.การปฏิบัติงานบางเรื่องขาดความต่อเน่ือง
เอือ้ ต่อการปฏบิ ัติงาน เกิดจากการเปล่ียนแปลงนโยบายของหน่วย
2.มกี ารกระจายอานาจแบ่งงานตามความถนดั เหนอื
ทาใหเ้ กิดความคล่องตวั ในการปฏิบัติงาน 2.การดาเนินงานตามนโยบายซ่ึงมีมากทาให้
3.มีความสมั พนั ธแ์ ละวฒั นธรรมองคก์ รทด่ี ี เกิดผลกระทบตอ่ การเรียนการสอน
1.2 ด้านการใชบ้ ริการและผลผลิต (S2)
จดุ แข็ง จุดออ่ น
1.โรงเรียนมคี วามพร้อมในการให้บริการทางการศึกษา 1.นักเรียนบางส่วนมีปัญหาด้านครอบครัว
แก่ประชากรวัยเรียนในพน้ื ท่บี ริการไดท้ กุ คน มีผลกระทบต่อนักเรียนในด้านจิตใจและด้าน
2.โรงเรียนจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมท่ี การเรียน
สอดคล้องกับความต้องการของผเู้ รียน 2 . แ ห ล่ ง เ รี ย น รู้ ภ า ย ใ น โ ร ง เ รี ย น ไ ม่ เ พี ย ง พ อ
3.นักเรียนได้รับการดูแลจากระบบดูแลช่วยเหลือ เชน่ หอ้ งสมดุ
นกั เรยี นท่ีเข้มแข็ง
4.คุณภาพของผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรมและ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ส่งผลต่อพฤติกรรมของ
นั กเ รี ย น ด้ า น กา ร เ รี ย น แ ล ะค วา มป ระพ ฤ ติ นั กเ รี ย น มี
ระดับผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนเพ่มิ ข้นึ
5.การจดั สภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ สุขอนามัย
และความปลอดภยั ของผ้เู รียน
1.3 ด้านบคุ ลากร (M1)
จุดแขง็ จุดออ่ น
1.บุคลากรมีความเข้มแข็ง ทุ่มเทการทางานให้กับทุก 1.บุคลากรบางส่วนยังขาดความเช่ียวชาญ
ภารกิจของโรงเรียน ในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศให้เกดิ ประโยชน์
2.มจี านวนครเู พียงพอกบั จานวนนกั เรียนและการบริหาร
จดั การ
3.ครูมีความตื่นตัวและกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเอง
นาความรูท้ ไ่ี ด้มาใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน
๒๘
1.4 ดา้ นการเงนิ (M2)
จดุ แขง็ จดุ อ่อน
1.โรงเรยี นไดร้ ับความร่วมมือจากชุมชนในการ 1.งบประมาณทีไ่ ด้รับจัดสรรจากรัฐบาลยังไม่
ระดมทรัพยากรทางการศึกษาเปน็ อย่างดี เพยี งพอต่อการบริหารจัดการ
2.การบริหารงบประมาณของโรงเรยี น ดาเนินไป
ตามแผนปฏบิ ตั กิ าร อยา่ งโปรง่ ใส ตรวจสอบได้
1.5 ดา้ นวสั ด/ุ อุปกรณ์ (M3)
จดุ แข็ง จุดออ่ น
1.โรงเรียนใช้อาคารสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ 1.โรงเรยี นมวี ัสดุอปุ กรณ์ชารดุ เส่อื มสภาพ
ในการจัดการเรียนการสอนและบริการชุมชน 2.อุปกรณ์ระบบเสียงตามสายเสื่อมสภาพ
อยา่ งคุ้มคา่ สง่ ผลตอ่ การประชาสัมพันธ์ของโรงเรยี น
2.โรงเรียนมีคอมพิวเตอร์ท่ีใช้ในการจัดการเรียน
การสอนอยา่ งเพยี งพอ
1.6 ด้านบรหิ ารจัดการ (M4)
จดุ แขง็ จุดอ่อน
1.โรงเรียนได้จัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี 1.การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศไม่เป็นระบบและ
ใช้เครื่องมือในการปฏิบตั งิ าน เ ป็ น ปั จ จุ บั น ท า ใ ห้ ข า ด ค ว า ม ค ล่ อ ง ตั ว
2.มีการนิเทศ กากับ ติดตามการจัดการเรียนรู้ ในการปฏิบตั ิงาน
อย่างตอ่ เนอ่ื ง 2.โรงเรียนขาดการรายงาน/ประชาสัมพันธ์
3.ผู้บริหารมีความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการ เผยแพรผ่ ลงาน
โรงเรียนใหบ้ รรลุภารกิจ
4.เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหาร
จดั การ
๒๙
2.ผลการวเิ คราะหป์ ัจจยั ภายนอก (External Environment)
2.1 ด้านสังคมและวฒั นธรรม (S)
โอกาส อปุ สรรค
1.ชุมชนมีความเข้มแข็ง ยินดีให้การสนับสนุน 1.คนในชุมชนมีรายได้เฉล่ียต่อครัวเรือน
ภารกิจของโรงเรียน อยใู่ นเกณฑ์ทต่ี า่
2.คนในชุมชนมีภูมิปัญญาท้องถ่ินที่สามารถนามา 2.สถานที่ต้ังของโรงเรียนอยู่ใกล้ตัวโรงงาน
เป็นจดุ เดน่ ของโรงเรียนได้ อุตสาหกรรมมีผลกระทบต่อจานวนนักเรียน
3 . ค น ใ น ชุ ม ช น ร่ ว ม กั น อ นุ รั ก ษ์ วั ฒ น ธ ร ร ม ในโรงเรยี น
การดารงชีวิตในท้องถิ่น ซึ่งสามารถให้เป็น 2.การย้ายถิ่นของผู้ปกครองทาให้นักเรียน
แหล่งเรยี นรแู้ ละสร้างจิตสานึกในด้านต่างๆ ให้กับ เ รี ย น ไ ม่ ต่ อ เ น่ื อ ง ส่ ง ผ ล ใ ห้ ผ ล สั ม ฤ ท ธ์ิ
นักเรียนได้ ทางการเรียนตา่
2.2 ด้านเทคโนโลยี (T)
โอกาส อปุ สรรค
1.ชมุ ชนเขา้ ถึงเทคโนโลยีไดส้ ะดวกมากขึ้น ส่งผลดี 1.มีการใช้เทคโนโลยีในทางลบ เช่น เล่นเกม
สง่ ผลดีตอ่ การประชาสัมพนั ธ์ของโรงเรียน ดูโทรทัศนม์ ากเกินไป
2.มีการบริการและเทคโนโลยีใหม่เกิดข้ึน เอ้ือต่อ
การเรียนร้ตู นเองท่หี ลากหลายมากขนึ้
2.3 ด้านเศรษฐกจิ (E)
โอกาส อปุ สรรค
1.คนในชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพและท่ดี นิ ทากนิ เปน็ 1.เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอยู่ในช่วงชะลอ
กรรมสิทธ์ขิ องตนเอง ตวั สง่ ผลกระทบตอ่ ชมุ ชนและโรงเรยี น
2.ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่า ทาให้รายได้
ของผปู้ กครองลดลง
2.4 ดา้ นการเมืองและกฎหมาย (P)
โอกาส อุปสรรค
1.นโยบายเรียนฟรีจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน มี 1.นโยบายด้านการศึกษามีการเปล่ียนแปลงบ่อย
สว่ นเพิม่ โอกาสทางการศึกษา ส่งผลตอ่ เนอ่ื งในการบริหารจดั การศึกษา
2.นโยบายการกระจายอานาจให้ท้องถิ่นมีส่วนให้
ส ถ า น ศึ ก ษ า ไ ด้ รั บ ก า ร ส นั บ ส นุ น ง บ ป ร ะ ม า ณ
บางสว่ นจากทอ้ งถ่ิน
๓๐
ตาราง 1 ตารางกาหนดน้าหนักประเดน็ ตัวชว้ี ัดตามสภาพแวดลอ้ มภายใน น้าหนัก
0.10
รายการปจั จยั สภาพแวดลอ้ มภายใน 0.15
S1 ดา้ นโครงสรา้ งและนโยบาย 0.29
S2 ด้านการให้บริการและผลผลิต 0.21
M1 ดา้ นบุคลากร 0.12
M2 ดา้ นการเงิน 0.13
M3 ดา้ นวสั ด/ุ อุปกรณ์
M4 ด้านบริหารจัดการ 1
น้าหนกั รวม นา้ หนกั
0.22
ตาราง 2 การกาหนดนา้ หนกั ประเดน็ ตวั ช้ีวัดสภาพแวดลอ้ มภายนอก 0.29
0.31
รายการปัจจัยสภาพแวดลอ้ มภายนอก 0.18
S ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม
T ด้านเทคโนโลยี 1
E ดา้ นเศรษฐกิจ
P ดา้ นการเมืองและกฎหมาย
น้าหนักรวม
ตารางกาหนดน้าหนกั ประเดน็ ตัวช้วี ัดของสภาพแวดลอ้ มภายใน
ตาราง 3 ปัจจัยด้านโครงสรา้ งและนโยบาย (S1 : Structure)
ประเดน็ ตวั ชว้ี ดั น้าหนกั
4.80
S1.1 โครงสรา้ งการบรหิ ารงานโรงเรียนมคี วามชัดเจน เอือ้ ตอ่ การปฏบิ ัตงิ าน -3.21
S1.2 การปฏิบัติงานบางเรื่องขาดความต่อเน่ือง เกิดจากการเปลี่ยนแปลง
นโยบายของหน่วยเหนือ 4.80
S1.3 มีการกระจายอานาจแบ่งงานตามความถนัดทาให้เกิดความคล่องตัว 2.35
ในการปฏิบตั ิงาน
S1.4 มคี วามสัมพนั ธ์และวฒั นธรรมองคก์ รทด่ี ี -1.70
S1.5 การดาเนินงานตามนโยบายซ่ึงมีมากทาให้เกิดผลกระทบต่อการเรียน
การสอน 7.04
นา้ หนักรวม
๓๑
ตาราง 4 ดา้ นผลผลิตของการบริการ (S2 : Service/Product) น้าหนกั
ประเด็นตวั ชวี้ ัด 4.90
S2.1 โรงเรียนมีความพร้อมในการให้บริการทางการศึกษาแก่ประชากร 5.00
ในวัยเรยี นในพืน้ ทีบ่ รกิ ารทกุ คน
S2.2 โรงเรียนจดั การเรยี นการสอนและกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับความต้องการ 4.95
ของผ้เู รยี น 4.80
S2.3 นกั เรยี นได้รบั การดแู ลจากระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เขม้ แขง็
S2.4 คุณภาพผู้เรียนด้านคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.85
ส่งผลต่อพฤติกรรมของนักเรียนด้าน การเรียนและ ความประพฤตินั กเรียน
มรี ะดับผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเพม่ิ ขน้ึ -2.25
S2.5 การจัดสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ สุขภาพอนามัยและ
ความปลอดภัยของผู้เรียน -2.15
S2.6 นักเรียนบางส่วนมีปัญหาด้านครอบครัวมีผลกระทบต่อนักเรียน 15.10
ในดา้ นจิตใจและด้านการเรยี น
S2.7 แหลง่ เรยี นรูภ้ ายในโรงเรียนไมเ่ พยี งพอ เชน่ หอ้ งสมดุ นา้ หนกั
4.90
น้าหนกั รวม -1.29
ตาราง 5 ปัจจยั ดา้ นบุคลากร (M1 : Man)
4.85
ประเดน็ ตัวชี้วดั 4.78
M1.1 บุคลากรมคี วามเข้มแขง็ ทมุ่ เทการทางานให้กับทุกภารกิจของโรงเรียน
M1.2 บุคคลกรบางสว่ นยังขาดความเช่ียวชาญในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 13.24
ให้เกดิ ประโยชน์
M1.3 มจี านวนของครเู พียงพอกับจานวนนกั เรียนและการบรหิ ารจดั การ นา้ หนัก
M1.4 ครูมคี วามตืน่ ตวั และกระตือรือรน้ ในการพฒั นาตนเองนาความรทู้ ี่ได้มา 4.90
ใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน
4.87
น้าหนักรวม
-1.57
ตาราง 6 ปัจจัยด้านการเงิน (M2 : Money) 8.20
ประเดน็ ตวั ชว้ี ดั
M2.1 โรงเรียนได้รับความร่วมมือจากชุมชนในการระดมทรัพยากร
ทางการศกึ ษาเป็นอย่างดี
M2.2 การบริหารงบประมาณของโรงเรียน ดาเนินไปตามแผนปฏิบัติการ
ประจาปี อยา่ งโปรง่ ใส ตรวจสอบได้
M2.3 งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลไม่เพียงพอต่อการบริหาร
จดั การ
นา้ หนักรวม
๓๒
ตาราง 7 ปจั จยั ดา้ นวสั ดุ / อุปกรณ์ (M3 : Materials) น้าหนัก
4.85
ประเดน็ ตวั ชี้วดั
M3.1 โรงเรยี นใชอ้ าคารสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอน 4.38
และบริการชมุ ชนอยา่ งค้มุ คา่ -1.14
M3.2 โรงเรยี นมวี ัสดอุ ุปกรณช์ ารุด เสือ่ มสภาพ -1.29
M3.3 โรงเรยี นมีคอมพิวเตอร์ทใี่ ช้จัดการเรยี นการสอนอย่างเพยี งพอ
M3.4 อุปกรณ์ระบบเสียงตามสายเส่ือมสภาพ ส่งผลต่อการประชาสัมพันธ์ 6.80
ของโรงเรียน
นา้ หนักรวม
ตาราง 8 ปัจจยั ดา้ นการบริหารจัดการ (M4 : Management)
ประเด็นตัวช้วี ัด นา้ หนกั
5.00
M4.1 โรงเรียนได้จัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี ใช้เป็นเครื่องมือ
ในการปฏบิ ตั ิงาน 5.00
M4.2 มีการนิเทศ กากับ ตดิ ตามการจัดการเรยี นรู้อย่างตอ่ เนือ่ ง -1.15
M4.3 การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศไม่เป็นระบบและเป็นปัจจุบันทาให้
ขาดความคล่องตัวในการปฏิบตั ิงาน -1.45
M4.4 โรงเรยี นขาดการรายงาน/ประชาสมั พันธ์ เผยแพรผ่ ลงาน 4.85
M4.5 ผูบ้ รหิ ารมคี วามมุ่งมั่นในการบริหารจัดการโรงเรียนให้บรรลุภารกิจ 4.80
M4.6 เปดิ โอกาสใหท้ ุกภาคสว่ นมสี ่วนร่วมในการบรหิ ารจัดการ 17.05.
นา้ หนักรวม
ตารางกาหนดน้าหนักประเด็นตวั ช้ีวัดของสภาพแวดล้อมภายนอก
ตาราง 9 ปจั จัยดา้ นสังคมและวฒั นธรรม (Social)
ประเด็นตัวช้วี ดั นา้ หนัก
S1 สถานที่ตงั้ ของโรงเรยี นอยู่ใกลโ้ รงงานอุตสาหกรรม มีผลกระทบต่อจานวน 4.58
นกั เรียนในโรงเรยี น
S2 ชมุ ชนมีความเข้มแขง็ ยินดีให้การสนบั สนุนภาพกจิ ของโรงเรยี น 4.85
S3 การย้ายถิ่นของผปู้ กครองทาใหน้ กั เรียนเรียนไมต่ อ่ เนือ่ งส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ -1.20
ทางการเรยี นตา่
S4 คนในชมุ ชนมีภูมิปัญญาท้องถ่ินท่สี มารถนามาเป็นจดุ เด่นของโรงเรยี นได้ -1.28
S5 คนในชุมชนร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรม การดารงชีวิต ซ่ึงสามารถใช้เป็น
แหล่งเรียนร้แู ละสร้างจติ สานกึ ดา้ นต่างๆ ให้กับนักเรยี นได้ -1.25
น้าหนกั รวม 5.97
๓๓
ตาราง 10 ปจั จยั ดา้ นเทคโนโลยี (Technology)
ประเดน็ ตัวชว้ี ัด นา้ หนกั
-1.43
T1 มกี ารใชเ้ ทคโนโลยใี นทางลบ เช่น เลน่ เกม ดโู ทรทัศนม์ ากเกินไป 4.45
T2 ชุมชนเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศมากข้ึน ส่งผลดีต่อการประชาสัมพันธ์
ของโรงเรียน 4.47
T3 มีการบริการและเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้น เอื้อต่อการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย
มากขึ้น 7.49
นา้ หนักรวม
ตาราง 11 ปัจจยั ด้านเศรษฐกจิ (Economic)
ประเด็นตัวชวี้ ดั นา้ หนัก
-1.29
E1 เศรษฐกจิ โดยรวมของประเทศอยู่ในช่วงชะลอตัว สง่ ผลกระทบต่อชมุ ชน
และสถานศึกษา -1.29
E2 ราคาพชื ผลทางการเกษตรตกต่า ทาให้รายได้ของผู้ปกครองลดลง 4.48
E3 ชมุ ชนมีอาชพี และท่ดี ินทากนิ เปน็ กรรมสิทธข์ิ องตนเอง 1.90
น้าหนกั รวม
ตาราง 12 ปจั จยั ด้านการเมืองและกฎหมาย (Politics)
ประเด็นตัวชีว้ ดั นา้ หนัก
4.90
P1 นโยบายดา้ นการศึกษามกี ารเปลี่ยนแปลงบ่อย สง่ ผลตอ่ ความต่อเน่อื งใน
การบริหารจัดการศกึ ษา 4.85
P2 นโยบายเรยี นฟรีจนจบการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน มีสว่ นเพิม่ โอกาสทาง
การศกึ ษา -2.25
P3 นโยบายกระจายอานาจให้ท้องถ่ิน มสี ว่ นใหส้ ถานศกึ ษาได้รบั การสนบั สนนุ 7.50
งบประมาณจากท้องถน่ิ
น้าหนกั รวม
3.สภาพของโรงเรยี น
ผลจากการวิเคราะห์สถานภาพแวดล้อมของโรงเรียนบ้านโป่งคอม อาเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
ดาเนินการโดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการไปดาเนินการวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการของ
โรงเรียน ผลการวเิ คราะห์แบง่ ออกเป็น 3 ประเด็น คือ
3.1 ผลการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายใน
3.2 ผลการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก
3.3 การประเมนิ สถานภาพของโรงเรียนบ้านโป่งคอม
๓๔
3.1 ผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน
ตารางแสดงคา่ นา้ หนักคะแนนเฉลี่ยปจั จัยสภาพแวดล้อมภายใน (2S4M)
ปจั จยั ภายใน น้าหนกั คา่ คะแนนเฉล่ีย น้าหนกั สรุป
คะแนนเฉลยี่
1.ดา้ นโครงสรา้ งและนโยบาย(S1) จุดแขง็ จดุ ออ่ น จุดแขง็ จดุ ออ่ น 0.08
2.ด้านผลผลิตและบรกิ าร(S2) 0.10 3.98 -2.45 0.06 -0.04 0.15
3.ด้านบุคลากร(M1) 0.15 4.80 -2.20 0.12 -0.05 0.47
4.ด้านการเงิน(M2) 0.29 4.84 -1.29 0.23 -0.06 0.25
5.ดา้ นวัสด/ุ อุปกรณ์(M3) 0.21 4.88 -1.57 0.17 -0.05 0.12
6.ดา้ นการบรหิ ารจดั การ(M4) 0.12 4.61 -1.2 0.09 -0.02 0.25
0.13 4.91 -1.30 0.10 -0.02 2.04
รวม 1.00
การวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มภายในของโรงเรียน คณะทางานได้ดาเนินการพิจารณาจากจุดแข็งและจุดอ่อน
ซึง่ ไดจ้ ากการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั งิ านโดยมีปจั จยั ที่ใช้ในการวเิ คราะห์ 6 ปจั จยั
3.1.1 ปัจจัยด้านโครงสร้างและนโยบาย พบว่า โครงสร้างการบริหารงานของโรงเรียนมีความชัดเจน เอื้อต่อ
การปฏิบัติงาน มีการกระจายอานาจ แบ่งงานตามความถนัด ทาให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน และมี
ความสมั พันธแ์ ละวัฒนธรรมขององคก์ รทด่ี ี แตก่ ม็ ีประเด็นเปน็ จุดอ่อน คือ การปฏิบัติงานบางเรื่องขาดความต่อเนื่อง
เกดิ การเปล่ียนแปลงนโยบายของหน่วยเหนือ และการดาเนินงานตามนโยบาย ซึ่งมีมาก ทาให้เกิดผลกระทบต่อการ
เรียนการสอนจึงสามารถสรุปได้ว่า เป็นปัจจัยท่ีเป็นจุดแข็งเนื่องจากโรงเรียนมีการจัดการองค์กรโครงสร้างและ
มีนโยบายการบรหิ ารงานทด่ี ี
3.1.2 ปจั จยั ดา้ นการให้บริการและผลผลิต พบว่า โรงเรียนมีความพร้อมในการให้บริการทางการศึกษาแก่
ประชากรในวัยเรียนในเขตพนื้ ทีบ่ รกิ ารได้ทุกคน มกี ารจัดการเรียนการสอนและกจิ กรรมที่สอดคล้องกับความต้องการ
นักเรียนได้รับการดูแลจากระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เข้มแข็ง คุณภาพผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรมและ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ส่งผลต่อพฤติกรรมของนักเรียนด้านการเรียนและความประพฤตินักเรียนมีระดับ
ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนเพ่มิ ขนึ้ และการจดั สภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้สุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของ
ผ้เู รียน แต่มจี ุดอ่อนอยู่บ้างคือนักเรียนบางส่วนมีปัญหาทางด้านครอบครัว มีผลกระทบต่อนักเรียนในด้านจิตใจและ
ด้านการเรียน พร้อมทั้งแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนไม่เพียงพอ เช่น ห้องสมุด ซ่ึงจัดว่าเป็นปัจจัยท่ีสาคัญที่จะช่วย
สง่ เสริมการเรียนรู้ของนักเรียน แต่โดยรวมสามารถสรุปได้ว่าด้านการให้บริการและผลผลิตเป็นจุดแข็งของโรงเรียน
บา้ นโป่งคอม
3.1.3 ปัจจัยด้านบุคลากร พบว่า บุคลากรมีความเข้มแข็ง ทุ่มเทการทางานให้กับทุกภารกิจของโรงเรียนมี
จานวนครูเพียงพอกับจานวนนักเรียนและการบริหารจัดการ ครูมีความต่ืนตัวกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเอง นา
ความรู้ท่ีมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน แต่ก็พบว่าบุคลากร บางส่วนยังขาดความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศใหเ้ กดิ ประโยชน์ แตป่ ัจจยั ดา้ นบคุ ลากรก็ถอื ว่าเป็นจดุ แข็งทมี่ ีความสาคัญของโรงเรียน
๓๕
3.1.4 ปัจจัยด้านการเงินจากการวิเคราะห์ สรุปได้ว่า โรงเรียนได้รับความร่วมมือจากชุมชนในการระดม
ทรพั ยากรทางการศึกษาเปน็ อย่างดี การบริหารงบประมาณของโรงเรียน ดาเนินไปตามแผนปฏิบัติการอย่างโปร่งใส
ตรวจสอบไดแ้ ตก่ ็พบว่าโรงเรียนมีจุดอ่อนในเร่ืองของงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากรัฐบาลไม่เพียงพอต่อการบริหาร
จัดการ
3.1.5 ปจั จัยดา้ นวสั ดอุ ุปกรณ์ จากการวิเคราะห์ สรุปไดว้ ่า โรงเรียนใช้อาคารสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ในการ
จัดการเรียนการสอน และบริการชุมชนอย่างคุ้มค่า โรงเรียนมีวัสดุอุปกรณ์ชารุด เส่ือมสภาพในเร่ืองอุปกรณ์ระบบ
เสยี งตามสาย ส่งผลกระทบตอ่ การประชาสมั พนั ธง์ านโรงเรียน
3.1.6 ปัจจยั ดา้ นการบรหิ ารจัดการ จากการวิเคราะหส์ รปุ ไดว้ า่ โรงเรยี นไดจ้ ัดทาแผนปฏบิ ตั ิการประจาปี ใช้
เปน็ เคร่อื งมือในการปฏบิ ตั ิงาน มีการนิเทศ กากบั ติดตาม การจัดการเรียนรู้อย่างตอ่ เน่อื ง
สรปุ ผลการวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายใน
ผลการวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมภายในตามปัจจยั ท้ัง 6 ประเด็น ดังกล่าวข้างต้นสรุปในภาพรวมได้ว่า ปัจจัย
ต่าง ๆ ดังกลา่ วเปน็ ปจั จยั ที่เปน็ จดุ แข็งของโรงเรียนที่เอื้อต่อการพัฒนาโดยการให้บริการด้านการศึกษาของโรงเรียน
บา้ นโปง่ คอม มกี ารจดั ระบบโครงสร้างและนโยบายดา้ นผลผลติ ด้านบคุ ลากร ด้านการเงิน วัสดุอุปกรณ์ และด้านการ
บริหารจัดการเป็นปัจจัยท่ีเอ้ือต่อการพัฒนาแต่ประสบปัญหาในประเด็นท่ีว่า งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจาก
รัฐบาลยังไม่เพียงพอต่อการบรหิ ารจัดการ ทาให้โรงเรียนพัฒนาไดไ้ ม่บรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ทไี่ ดต้ ้งั ไว้เท่าที่ควร
3.2 ผลการวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมภายนอก
ตารางสรุปผลการวิเคราะห์การประเมนิ สถานภาพขององค์กร
ปจั จยั ภายนอก น้าหนกั ค่าคะแนนเฉลี่ย น้าหนัก สรุป
1.ด้านสังคมและวฒั นธรรม (S) คะแนนเฉลี่ย
2.ด้านเทคโนโลยี (T)
3.ด้านเศรษฐกิจ (E) โอกาส อุปสรรค โอกาส อปุ สรรค
4.ด้านการเมืองและกฎหมาย (P)
0.22 3.02 -0.43 0.67 -0.29 0.38
รวม
0.29 2.95 -0.48 0.86 -0.41 0.45
0.31 1.57 -0.86 0.49 -0.42 0.07
0.18 3.10 -0.57 0.56 -0.32 0.24
1.00 1.14
คณะทางานได้ดาเนินการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกของโรงเรียนบ้านโป่งคอม โดยจาแนกปัจจัยใน
การวิเคราะห์ 4 ปัจจัย คือ
3.2.1 ปจั จยั ด้านสงั คมและวัฒนธรรม เน่ืองจากคนในชมุ ชนมีความเข้มแข็ง ยนิ ดใี ห้การสนับสนนุ ภารกิจของ
โรงเรียน และมีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความรู้ความสามารถ และมีความพร้อมในการถ่ายทอดให้กับนักเรียน ส่งผลให้
โรงเรียนพฒั นาเป็นจุดเดน่ ของโรงเรียนได้ และคนในชมุ ชนรว่ มกันอนุรกั ษ์วัฒนธรรมประเพณี ซงึ่ สามารถใช้เป็นแหล่ง
๓๖
เรียนรู้แล้วสร้างจิตสานึกในด้านต่างๆ ให้กับนักเรียน แต่ยังมีปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อโรงเรียน คือสถานท่ีตั้งของ
โรงเรียนอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม ผลกระทบต่อจานวนนักเรียนในโรงเรียนและปัญหาการย้ายถ่ินฐานของ
ผู้ปกครองทาให้นักเรียนเรียนไม่ต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่าน้ัน
จงึ สามารถสรุปไดว้ า่ ปัจจยั ด้านสังคมและวัฒนธรรมเอือ้ ต่อการพฒั นาของโรงเรยี นบ้านโปง่ คอม
3.2.2 ปัจจัยด้านเทคโนโลยี จากการวเิ คราะหส์ รปุ ได้ว่า เป็นปัจจยั ท่ีเอื้อต่อการพฒั นาและการให้บริการทาง
การศึกษาของโรงเรียน เน่ืองจากหน่วยงานภาครัฐให้การส่งเสริมสนับสนุนด้านความพร้อมของโรงเรียน ชุมชนมี
เทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นผลดีต่อการจัดการศึกษาของบุตรหลาน และการติดต่อประสานงานกับโรงเรียน ทาให้การ
เรียนรู้ ติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆท่ีทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์ แม้ว่าจะมีการนาเทคโนโลยีไปใช้อย่างผิด
วัตถุประสงค์ รวมทั้งผู้ปกครองบางส่วนยังขาดความรู้ ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่เป็นเพียงส่วนน้อยเท่าน้ัน
3.2.3 ปจั จัยด้านเศรษฐกจิ จากการวิเคราะหส์ รุปไดว้ า่ ปัจจัยทย่ี งั คงเอ้อื ต่อการพฒั นาและการให้บริการทาง
การศึกษาของโรงเรียน เน่ืองจากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐในด้านงบประมาณ และชุมชน มีความ
เป็นอยูแ่ บบพอเพยี ง มีรายได้พอเลี้ยงตวั
3.2.4 ปัจจัยด้านการเมืองและกฎหมาย เป็นปัจจัยท่ีเอ้ือต่อการพัฒนาทางด้านการศึกษาของโรงเรียน
แม้วา่ การปรบั เปลย่ี นคณะรัฐมนตรบี ่อยๆ ทาใหก้ ารทางานไมต่ ่อเน่ือง รวมทั้งการประสานราชการและความซ้าซ้อน
ในการจดั ทาระบบข้อมลู เพ่ือสนองนโยบายของหลายๆ หน่วยงาน ทีก่ ระทบตอ่ เวลาเรียน ระเบียบกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ทา
ใหค้ รเู กดิ ความตน่ื ตัวในการพัฒนาตนเองและพฒั นางาน เพอ่ื ความก้าวหน้าทางวชิ าชพี การเมอื งท้องถ่ินส่งผลกระทบ
ตอ่ บทบาท การมีสว่ นรว่ มของคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน ในการให้ความร่วมมือ สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ
ของโรงเรยี น แตม่ ผี ลตอ่ การพัฒนาการศกึ ษาของโรงเรียนเพียงเล็กนอ้ ยเทา่ นน้ั
สรุปผลการวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มภายนอก
ผลการวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอกตามปจั จยั ทั้ง 4 ประเด็นดงั กลา่ ว ขา้ งต้นสรุปในภาพรวมได้ว่าปัจจัย
ต่างๆ ดังกล่าวเป็นปัจจัยที่เอ้ือต่อการพัฒนาและการให้บริการทางการศึกษาของโรงเรียนวัดหนองโรง โรงเรียนมี
สภาพสังคมวัฒนธรรมท่ีดีงาม แข็งแกร่งมีการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น มีแหล่งเรียนรู้และแหล่งวัฒนธรรม ชุมชน
หน่วยงานภาครฐั และเอกชน ให้การส่งเสริมสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและงบประมาณ และเน่ืองจากการประกาศใช้
พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 ส่งผลให้การจัดการศึกษาของโรงเรียนบ้านโป่งคอม มีการพัฒนาใน
ทกุ ๆ ดา้ น อยา่ งเปน็ ระบบชดั เจนและต่อเนือ่ ง
๓๗
3.3 การประเมนิ สถานภาพของโรงเรยี น
ตารางสรุปการวเิ คราะหป์ ระเมนิ สถานภาพองคก์ ร
สภาพแวดลอ้ มภายใน สภาพแวดล้อมภายนอก
ปัจจยั สรุปน้าหนกั ปจั จัย สรุปนา้ หนกั
คะแนน คะแนน
1.ด้านโครงสรา้ งและนโยบาย(S1) 0.08 1.ด้านสงั คมและวัฒนธรรม (S) 0.38
2.ด้านผลผลติ และบริการ(S2) 0.15 2.ด้านเทคโนโลยี (T) 0.45
3.ด้านบุคลากร(M1) 0.47 3.ดา้ นเศรษฐกจิ (E) 0.07
4.ดา้ นการเงิน(M2) 0.25 4.ดา้ นการเมอื งและกฎหมาย (P) 0.24
5.ด้านวสั ด/ุ อปุ กรณ์(M3) 0.12
6.ด้านการบริหารจัดการ(M4) 0.25
3.4 สรุปผลการประเมินสถานภาพของโรงเรยี น
ผลการประเมินสถานภาพของโรงเรียน จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกและภายในของโรงเรียน
บา้ นโปง่ คอม ดังกลา่ วข้างต้น สามารถประเมนิ สถานภาพของโรงเรียนได้อยใู่ นลักษณะ “เอื้อและแข็ง (STAR)”กล่าวคือ
โรงเรียนมีโอกาสที่จะพัฒนาภารกิจในการจัดการศึกษาและให้บริการทางการศึกษากับชุมชนหรือกลุ่มเป้าหมายได้
อยา่ งเปน็ ระบบ และมปี ระสิทธิภาพ บุคลากรปฏิบัติหน้าท่ีตรงตามความรู้ความสามารถของตนเอง และมีการพัฒนา
ตนเองอย่างสม่าเสมอ ก่อให้เกิดการปฏิบัติหน้าท่ีท่ีมีประสิทธิภาพ การบริหารการจัดการท่ีเป็นระบบชัดเจนและมี
คุณภาพ ด้านผลผลิตและการให้บริการท่ีดีมีช่ือเสียงเป็นจุดแข็ง ในการพัฒนาภายใต้การส่งเสริมสนับสนุน จาก
ปจั จัยภายนอก ซ่งึ ไดแ้ ก่ปัจจยั ด้านสังคมและวัฒนธรรม ด้านเทคโนโลยี ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านการเมืองและกฎหมาย ซึ่ง
มรี ะเบียบพระราชบัญญตั ิท่เี อือ้ ต่อการดาเนินการ
สว่ นท่ี 3 ทิศทางการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา ๓๘
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านโปง่ คอม (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นแผนหรือแนวทาง หรือข้อกาหนดของการจัดการศึกษาของโรงเรียน
บา้ นโปง่ คอมที่จะใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพอื่ พฒั นาผเู้ รียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กาหนด มุ่งพฒั นาผเู้ รียน
ให้เปน็ คนดี มปี ัญญา มีความสุข มศี กั ยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพท่ีสุจริต ตลอดจนการรู้จักอนุรักษ์
วฒั นธรรม ประเพณีท้องถ่นิ โดยมุง่ หวังให้มีความสมบูรณ์ท้ังด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา อีกทั้งมีความรู้และ
ทักษะที่จาเป็นสาหรับการดารงชีวิต และมีคุณภาพได้มาตรฐานสากลเพื่อการแข่งขันในยุคปัจจุบัน ดังน้ันหลักสูตร
สถานศึกษาโรงเรียนบ้านโป่งคอม (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 จึงประกอบด้วยสาระสาคัญของหลักสูตรแกนกลาง สาระความรู้ท่ีเก่ียวข้องกับชุมชนท้องถ่ิน
และสาระสาคัญที่โรงเรียนพัฒนาเพิ่มเติม โดยจัดเป็นสาระการเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐานตามมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นรายปีในระดับประถมศึกษา และกาหนด
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงคข์ องโรงเรียนบ้านโป่งคอม ตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านโป่งคอม (ฉบับปรับปรุง
พทุ ธศกั ราช 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551
วิสัยทศั น์โรงเรยี น
วสิ ัยทศั น์ (VISION)
ภายในปี 2565 โรงเรียนบ้านโป่งคอม มุ่งจัดการศึกษาให้นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา
สภาพแวดลอ้ มน่าอยู่ ม่งุ พัฒนาการเรียนรู้ สร้างคนดี มีความเป็นไทย ก้าวไกลเทคโนโลยี ปฏิบัติตนตามกลักปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
พนั ธกิจโรงเรยี นบ้านโปง่ คอม
1.ส่งเสรมิ พฒั นาผ้เู รียนใหม้ คี ุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา
2.จดั สภาพแวดลอ้ มที่นา่ อยเู่ ออ้ื ต่อการเรียนรู้
3.สง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนมีทักษะชวี ติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
4.สง่ เสรมิ การอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมไทยไปพรอ้ มกบั การกา้ วทนั เทคโนโลยี
5.สง่ เสรมิ พัฒนาผู้เรยี นให้มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมพรอ้ มเป็นคนดีในสงั คม
เปา้ ประสงคโ์ รงเรียนบา้ นโป่งคอม
1.นักเรียนทุกคนมคี ุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา
2.สภาพแวดลอ้ มสวยงาม สะอาด รม่ รน่ื น่าอยนู่ า่ เรยี น
3.นกั เรียนมที ักษะชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
4.นกั เรียนรู้จกั อนรุ กั ษ์วัฒนธรรมไทยและก้าวทนั เทคโนโลยี
5.นกั เรียนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและอยใู่ นสังคมได้อยา่ งมคี วามสุข
๓๙
อัตลักษณ์
ระดบั ปฐมวยั “ย้ิมงา่ ย ไหวส้ วย”
ระดบั ประถมศึกษา “วิชาการเดน่ เน้นคณุ ธรรม”
เอกลักษณ์
“สถานศึกษาท่ีมงุ่ เน้นใหน้ กั เรยี นเกง่ ดี มีสขุ ”
สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นโป่งคอม (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 มุ่งให้ผเู้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคญั 5 ประการ ดงั น้ี
1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคดิ ความรคู้ วามเข้าใจ ความรสู้ กึ และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปลีย่ นขอ้ มูลขา่ วสารและประสบการณ์
อันจะเปน็ ประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรอง เพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง
ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการส่ือสาร ที่มี
ประสิทธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสงั คม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สรา้ งสรรค์ การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพื่อนาไปสกู่ ารสรา้ งองค์ความร้หู รอื สารสนเทศเพื่อการ
ตดั สนิ ใจเก่ยี วกบั ตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ
เปล่ยี นแปลงของเหตุการณต์ า่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และ
มกี ารตดั สนิ ใจทม่ี ีประสทิ ธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบท่ีเกิดขนึ้ ตอ่ ตนเอง สังคมและสงิ่ แวดล้อม
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดาเนินชวี ิตประจาวนั การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่รว่ มกนั ในสังคมด้วยการ
สรา้ งเสริมความสมั พนั ธอ์ นั ดีระหว่างบคุ คล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้
ทนั กบั การเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบ
ตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่างๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทางาน
การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านโป่งคอม (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 มุ่งพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพือ่ ใหส้ ามารถอยู่ร่วมกับ
ผ้อู ืน่ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ดังน้ี
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซ่ือสัตยส์ ุจรติ
3. มีวินัย
๔๐
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อย่อู ยา่ งพอเพียง
6. มุ่งมน่ั ในการทางาน
7. รกั ความเป็นไทย
8. มจี ติ สาธารณะ
ค่านิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ ตามนโยบายของ คสช.
1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
2. ซือ่ สัตย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณใ์ นสง่ิ ท่ดี งี ามเพ่ือส่วนรวม
3. กตัญญตู อ่ พ่อแม่ ผ้ปู กครอง ครูบาอาจารย์
4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรยี นทง้ั ทางตรง และทางอ้อม
5. รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
6. มศี ีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อ่นื เผ่ือแผ่และแบ่งปนั
7. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ทถี่ กู ตอ้ ง
8. มรี ะเบียบวินยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั การเคารพผใู้ หญ่
9. มสี ตริ ตู้ ัว รู้คดิ รู้ทา รู้ปฏบิ ัติตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว
10. รู้จกั ดารงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดารัสของพระบาท สมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัวรู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจาเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจาหน่าย และพร้อมท่ีจะขยายกิจการ
เมอ่ื มีความพร้อม เมือ่ มภี ูมิคุ้มกนั ทด่ี ี
11. มคี วามเขม้ แขง็ ทง้ั ร่างกาย และจติ ใจ ไม่ยอมแพต้ ่ออานาจฝ่ายต่า หรือกิเลสมคี วามละอายเกรงกลัว
ต่อบาปตามหลักของศาสนา
12. คานงึ ถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
กลยุทธ์สถานศกึ ษา (Strategy)
กลยทุ ธท์ ่ี 1 พฒั นาคุณภาพผ้เู รียนสมู่ าตรฐานการศกึ ษาทกุ ระดบั มีความรแู้ ละทกั ษะด้านเทคโนโลยี เพื่อเปน็
เคร่ืองมอื ในการเรยี นรู้
กลยุทธ์ท่ี 2 ปลกู ฝังคุณธรรมความสานึกในความเป็นชาติไทยระบอบประชาธปิ ไตย อนรุ กั ษ์วฒั นธรรม และ
สง่ิ แวดลอ้ มและมีวิถีชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
กลยทุ ธท์ ี่ 3 พฒั นาครูและบุคลากรทางการศกึ ษาทกุ คนส่มู าตรฐานวิชาชีพ สามารถจัดกิจกรรมการเรยี นการ
สอนไดอ้ ย่างมีคณุ ภาพ และใช้ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สารได้
กลยทุ ธ์ท่ี 4 สง่ เสรมิ การมสี ่วนรว่ มของคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นพน้ื ฐาน ชมุ ชน ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ินและ
องค์กรภายนอกในการรว่ มพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา
กลยทุ ธท์ ี่ 5 พฒั นาความพรอ้ มในดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารเพ่อื การเรียนรูแ้ ละการบริหารจัด
การศึกษา
กลยุทธ์ที่ 6 พัฒนาแหลง่ เรยี นรสู้ ภาพแวดลอ้ มในโรงเรียนใหร้ ม่ รน่ื น่าอย่ปู ลอดภัยและเอือ้ ตอ่ การเรียนรู้
๔๑
วิเคราะหป์ ระเดน็ กลยุทธ์ : มาตรฐานระดับการศกึ ษาปฐมวัย
ประเด็นกลยุทธ์ ขอ้ : มาตรฐานของสถานศึกษา
กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพผู้เรียนสู่มาตรฐาน มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของเด็ก
การศึกษาทุกระดับมีความรู้และทักษะด้าน มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและจัดการ
เทคโนโลยี เพอื่ เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ท่ีเน้นเด็กเป็น
สาคัญ
กลยุทธ์ท่ี 2 ปลูกฝังคุณธรรมความสานึกใน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก
ความเป็นชาติไทยระบอบประชาธิปไตย อนุรักษ์ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและจัดการ
วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมและมีวิถีชีวิต มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ท่ีเน้นเด็กเป็น
ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สาคัญ
กลยุทธ์ท่ี 3 พัฒนาครูและบุคลากรทางการ มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของเดก็
ศึกษาทุกคนสู่มาตรฐานวิชาชีพ สามารถจัด มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและจัดการ
กิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพ มาตรฐานท่ี 3 การจัดประสบการณ์ท่ีเน้นเด็กเป็น
และใช้ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสารได้ สาคัญ
กลยุทธ์ ท่ี 4 ส่ง เสริ มก าร มีส่ว น ร่ ว มขอ ง มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก
คณะกรรมการสถานศึกษาข้นพ้ืนฐาน ชุมชน มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและจดั การ
ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ินและองค์กรภายนอกในการร่วม มาตรฐานท่ี 3 การจัดประสบการณ์ท่ีเน้นเด็กเป็น
พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา สาคัญ
กลยทุ ธ์ที่ 5 พัฒนาความพร้อมในด้านเทคโนโลยี มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเดก็
สารสนเทศและการสื่อสารเพ่ือการเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและจัดการ
และการบริหารจัดการศกึ ษา มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็น
สาคญั
กลยุทธ์ท่ี 6 พัฒนาแหล่งเรียนรู้สภาพแวดล้อม มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของเด็ก
ในโรงเรียนให้ร่มร่ืนน่าอยู่ปลอดภัยและเอื้อต่อ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและจดั การ
การเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็น
สาคัญ
วเิ คราะหป์ ระเดน็ กลยทุ ธ์ : มาตรฐานระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน
ประเดน็ กลยุทธ์ ขอ้ : มาตรฐานของสถานศึกษา
กลยทุ ธ์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพผเู้ รียนสู่มาตรฐาน
การศึกษาทกุ ระดบั มคี วามรแู้ ละทักษะดา้ น มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพผูเ้ รียน
เทคโนโลยี เพ่อื เปน็ เครื่องมอื ในการเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ
มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนทเ่ี น้น
กลยทุ ธ์ท่ี 2 ปลูกฝังคณุ ธรรมความสานกึ ใน ผ้เู รียนเปน็ สาคัญ
ความเป็นชาตไิ ทยระบอบประชาธิปไตย อนรุ ักษ์
มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพผเู้ รยี น
มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ
๔๒
วัฒนธรรม และสง่ิ แวดล้อมและมีวถิ ีชวี ติ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้น
ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผู้เรียนเปน็ สาคัญ
กลยุทธ์ที่ 3 พฒั นาครแู ละบุคลากรทางการ มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพผู้เรยี น
ศึกษาทุกคนสู่มาตรฐานวชิ าชีพ สามารถจัด มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ
กจิ กรรมการเรียนการสอนได้อย่างมคี ุณภาพ มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้น
และใชภ้ าษาอังกฤษเพ่ือการสือ่ สารได้ ผูเ้ รียนเป็นสาคญั
กลยทุ ธ์ที่ 4 ส่งเสรมิ การมสี ว่ นรว่ ม มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพผู้เรยี น
ของคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ พน้ื ฐาน ชุมชน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ
ภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ และองค์กรภายนอกในการร่วม มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้น
พัฒนาคุณภาพการศึกษา ผเู้ รยี นเป็นสาคญั
กลยุทธ์ที่ 5 พัฒนาความพร้อมในด้านเทคโนโลยี มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพผู้เรียน
สารสนเทศและการสื่อสารเพ่อื การเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ
และการบริหารจดั การศกึ ษา มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนท่ีเน้น
ผูเ้ รยี นเป็นสาคญั
กลยุทธท์ ี่ 6 พัฒนาแหลง่ เรยี นรู้สภาพแวดลอ้ ม มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพผู้เรยี น
ในโรงเรียนให้รม่ รน่ื น่าอยู่ปลอดภัยและเออ้ื มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ
ตอ่ การเรียนรู้ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้น
ผ้เู รียนเปน็ สาคัญ
BPK Model การบริหารจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา
โรงเรยี นบ้านโปง่ คอมเป็นโรงเรยี นขนาดเล็ก สงั กัดสานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต
3 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดการเรียนการสอน ๒ ระดับ ต้ังแต่ชั้นอนุบาล ๑ – ช้ัน
ประถมศึกษาปีที่ ๖ ถึงแม้จะบริหารจัดการแบบเรียนรวม โรงเรียนบ้านโป่งคอมยังถือว่าเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มี
งบประมาณสนับสนุนค่อนข้างจากัด ประสบปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับบุคลากรครูที่ไม่ครบช้ัน และขาดแคลนสื่อ
เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศกึ ษา ตลอดจนห้องปฏบิ ัติการตา่ ง ๆ มไี ม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อการเร่งรัดพัฒนา
คุณภาพทางการศกึ ษาโดยเฉพาะในดา้ นการอา่ น คิด วเิ คราะห์ และพบว่ามนี ักเรียนอ่านเขยี นไมค่ ลอ่ งเป็นจานวนมาก
ทาให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่าเมื่อเทียบกับโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ สังเกตได้จากข้อมูลการทดสอบ
หลงั จากผ่านกระบวนการวดั และประเมนิ ผล ทง้ั NT และ O-NET ในแตล่ ะปี
การบรหิ ารโรงเรยี นขนาดเลก็ เรียนรวมสู่ความเป็นเลศิ ของโรงเรยี นบ้านโป่งคอมมวี ัตถุประสงคห์ ลกั เพือ่
พัฒนาคณุ ภาพ และสรา้ งเครอื ข่ายในการใช้ทรพั ยากรรว่ มกนั และเพือ่ ยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนใหส้ ูงข้นึ อกี
ทงั้ เปน็ แนวทางการบรหิ ารจัดการทต่ี ้องการเพม่ิ จานวนนกั เรียนตอ่ หอ้ งใหม้ ากขน้ึ
นอกจากมเี ป้าหมายที่ต้องการมุง่ สคู่ วามเปน็ เลิศทางวชิ าการแลว้ เป้าหมายสาคัญของโรงเรยี นมุ่งเนน้ ท่ีจะ
พัฒนานกั เรียนเต็มศกั ยภาพตามมาตรฐานของการประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา มีความต้องการให้นักเรยี นอ่าน
คล่อง เขียนคลอ่ ง คิด วเิ คราะหไ์ ด้ เป้าหมายด้านผลสมั ฤทธ์ิพ่งุ เปา้ ไปที่ O-NET ต้องเพิ่มสงู ขึ้น รวมทั้งจานวนนักเรยี น
๔๓
ตอ่ ห้อง ต้องเพิ่มขนึ้ ตลอดจนชมุ ชนผปู้ กครองมีความศรทั ธาและเชือ่ มั่น มีความพงึ พอใจในการจัดการศึกษาของ
โรงเรียน
การดาเนินงานบริหารโรงเรียนขนาดเลก็ โดยการบริหารจดั การที่ใช้ทฤษฎีเชิงระบบแบบ Twins Model
ของโรงเรียนบา้ นโปง่ คอม มอี งค์ประกอบดงั ตอ่ ไปนี้
B : Brainstorming หมายถึง การระดมความคดิ การมองการณ์ไกล การมีวิสยั ทัศน์ รว่ มกนั วางแผนพัฒนา
ให้มีความพอประมาณอยา่ งมเี หตมุ ผี ล แสดงความคดิ เหน็ รว่ มกนั ปรกึ ษาหา
P : Participation หมายถึง การมีส่วนร่วมประสานความร่วมมือกับสถานศึกษา หน่วยงานอ่ืนโดยเฉพาะ
ภาคี 4 ฝ่าย โดยกาหนดเป็นหลัก 5 ร คือ ร่วมคิด ร่วมทา ร่วมแก้ปัญหา ร่วมรับผิดชอบและร่วมภาคภูมิใจ ในการ
ปรับปรุงระบบประกนั คณุ ภาพภายในและการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา
K : Knowledge หมายถึง ความรู้ท่ีเกิดจากการศึกษาร่วมกันค้นคว้าเป็นความรู้ทางวิชาการได้ศึกษา
วิเคราะหท์ ิศทางและยทุ ธศาสตรข์ องหนว่ ยงานเหนือสถานศกึ ษาได้แก่เปา้ หมายเชิงยุทธศาสตร์ระดับชาติ แผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธิการ และแผนพัฒนา
การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน ความรู้จากภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ ความร้จู ากประสบการณข์ องทุกคน รวมท้ังความรทู้ างเทคโนโลยีท่ี
ทันสมัย ประกอบดว้ ยการมคี ุณธรรม
แนวทางการขับเคลอื่ น BPK Model การบรหิ ารจดั การศึกษาของสถานศึกษา
โรงเรียนบา้ นโปง่ คอม นาแนวคิดการเพ่มิ ผลผลิตตาม BPK MODEL และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั กระบวนการเรียนการสอนและการบริหารจัดการ ดงั น้ี
1.ด้านการบริหารจดั การสถานศึกษา
โรงเรยี นเปน็ โรงเรียนแนวคดิ การเพิม่ ผลผลิต ดังน้ันในการบริหารจัดการสถานศึกษาจึงเป็นไปตาม
หลักของการเพิ่มผลผลิตน้ันคือ การใช้วงจรคุณภาพ PDCA ในการวางนโยบาย การกาหนดแผนงาน โครงการ
กจิ กรรมดา้ นวชิ าการ การบริหารจดั การงบประมาณของสถานศึกษา บริหารอาคารสถานท่ีและจัดการแหล่งเรียนรู้ใน
สถานศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตลอดจนการ ประสานสัมพันธ์กับชุมชนให้มีส่วนร่วมในการ
ส่งเสริมการเรียนรู้ เพอ่ื การอยู่อย่างพอเพียงมีการดาเนินการตามนโยบาย แผนงานโครงการต่าง ๆ มีการติดตามผล
การดาเนินงาน และนาผลการตดิ ตามมาพัฒนาการดาเนนิ งานต่อไป
2.ดา้ นหลกั สูตรและการจัดการเรยี นการสอน
โรงเรยี นมีแผนการจดั การเรียนร้หู น่วยการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทุกระดับช้ัน มีการ
นิเทศติดตามประเมินผลการนาหน่วยการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการจัดกา รเรียนการสอนท่ี
บูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ มีการศึกษาวิเคราะห์วิจัย เพื่อพัฒนาการ
จัดการเรียนการสอนหน่วยการเรยี นรปู้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โรงเรียนมีสื่อและแหล่งเรียนรู้ทั้งในโรงเรียนและ
นอกโรงเรียน ที่นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากการปฏิบัติจริง เรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถ่ิน มีการวัดและประเมินผล
การจดั การเรียนการสอนทีห่ ลากหลาย โดยเฉพาะในรปู ของตลาดนัดวชิ าการ
๔๔
3. ดา้ นการจัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
โรงเรยี น มแี ผนงานโครงการส่งเสริมกจิ กรรมนักเรยี น ให้อยูอ่ ย่างพอเพียงจัดกิจกรรมลูกเสือเนตรนารี
ยุวกาชาด สอดคล้องกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมให้มีการจัดต้ัง ชุมนุมชมรม ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง มีการประยุกต์ใช้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นวัฒนธรรมหลักคาสอนทางศาสนาในการจัดกิจกรรมนักเรียน
ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มีการติดตามผลและ นาผลการติดตามมาปรับปรุง/พัฒนา กิจกรรมนักเรียน ตาม
หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
โรงเรียน มีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนเกิดจิตอาสา และมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม
และสาธารณประโยชน์ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผเู้ รียนมีส่วนรว่ มในการ แก้ปัญหาพัฒนา สถานศึกษา
ชุมชน ด้านเศรษฐกิจสังคมส่ิงแวดล้อมวัฒนธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีการติดตามผลและนาผล
การตดิ ตามมา ปรับปรุงพัฒนา การดาเนินกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ของผู้เรียนตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
4.ด้านการพฒั นาบคุ ลากรของสถานศึกษา
โรงเรยี น มีแผนงานโครงการพฒั นาบคุ ลากรของสถานศึกษาเพ่ือสร้างความรู้ความเข้าใจ และตระหนัก
ในคุณค่าของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีการประชุมอบรมสัมมนาศึกษาดูงานแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการ
ประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดาเนินชีวิตและปฏิบัติภารกิจหน้าที่ส่งเสริมให้บุคลากรแสวงหาความรู้
เก่ียวกบั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งอยา่ งสม่าเสมอจัดกิจกรรมส่งเสริมการดาเนินชีวิตและการปฏิบัติภารกิจหน้าท่ี
ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่บุคลากรของสถานศึกษามีการติดตามผล และ นาผลการติดตามมา
ปรบั ปรงุ พฒั นาการดาเนนิ โครงการกิจกรรมพัฒนาบุคลากรเพ่ือส่งเสริมการดาเนินชีวิตและปฏิบัติภารกิจหน้าท่ีตาม
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ ขยายผลและเผยแพร่ ผลการดาเนินชีวิตและปฏิบัติภารกิจหน้าที่ของ
บุคลากรตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
5.ด้านผลลพั ธ์/ภาพความสาเรจ็
สถานศึกษา
สถานศึกษาสะอาด ร่มรื่น ปลอดภัย เอ้ือต่อการเรียนรู้ในการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงบุคลากรและผู้เรียน มีการแบ่งปัน มีความสามัคคี ช่วยเหลือ เอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่กันรวมถึงมี ส่วนร่วมในการ
อนรุ กั ษ์และพื้นฟวู ฒั นธรรมภูมิปญั ญาทอ้ งถิน่ ตลอดจนมสี ว่ นร่วมในการดาเนินกิจกรรม อันเป็นประโยชน์ต่อ ชุมชน
สงั คมประเทศชาติ อย่างต่อเนื่อง
ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา
ผูบ้ รหิ ารมคี วามรู้ความเข้าใจอยา่ งถูกต้อง และนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติตน อย่างเป็น
เหตุเป็นผล พอประมาณกับศักยภาพของตน และสอดคล้องกับภูมิสังคม รวมถึงมีการสร้างภูมิคุ้มกันท่ีดี ต่อการ
เปลย่ี นแปลงต่างๆ ให้กับตนเอง และสถานศกึ ษา ตลอดจนเป็นแบบอยา่ งทด่ี ใี นการใชค้ วามรู้ควบคู่กับคุณธรรมในการ
ดาเนนิ ชวี ิต
บคุ ลากรของสถานศึกษา
บุคลากรของสถานศึกษาเกินกว่าครึ่งหนึ่ง มีความเข้าใจเก่ียวกับความหมายท่ีถูกต้องของปรัชญาของ
เศรษฐกิจ และมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนท่ีบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
บคุ ลากร เป็นแบบอยา่ งในการวางแผนการใช้จา่ ย ใช้จ่ายทรัพยอ์ ย่างพอประมาณ ไม่เกนิ ตัว และมีการออมทรัพย์ตาม
๔๕
ศกั ยภาพ และหรือ ใช้ทรพั ยากรอย่างประหยัดและคมุ้ คา่ รวมทัง้ มสี ่วนร่วมในการดแู ลการใชป้ ระโยชนจ์ ากสาธารณะ
สมบัติอยา่ งคมุ้ คา่ มวี ินัยในตนเอง มีการดาเนินชวี ติ ท่ไี มท่ าให้ ตัวเองและผูอ้ ื่นเดือดรอ้ น และมีอุปนิสัยเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผ่
แบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่นบริจาค ทาบุญ และมีส่วนร่วมในการทาตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม อย่างสม่าเสมอและ มี
ความรคู้ วามเขา้ ใจ เห็นความสาคัญ รวมถงึ รจู้ กั ใชท้ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมอย่างคุ้มค่า ตลอดจนมีส่วนร่วม
ในการอนรุ กั ษ์ ฟนื้ ฟสู ภาพแวดล้อมทางธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มในสถานศกึ ษาและชุมชน
นกั เรียน
1. ผเู้ รียนรู้และเข้าใจความหมายแนวคิดการเพิ่มผลผลติ และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. ผเู้ รียนสามารถนาหลกั แนวคดิ การเพม่ิ ผลผลิตและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับประยุกต์ใชก้ ับตนเอง
และครอบครัวได้
3. ผู้เรยี นสามารถเสนอแนวทางแก้ไขปญั หาในครอบครวั และชมุ ชนตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้
4. ผูเ้ รียนมสี ว่ นรว่ มในการพัฒนาชุมชนดา้ นสงั คม สิ่งแวดลอ้ ม และวัฒนธรรมโดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง
5. ผเู้ รยี นเข้าใจและสามารถวเิ คราะห์การบริหารจัดการองค์กรวสิ าหกิจชมุ ชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
6. ผเู้ รียนมีความตระหนักในความสาคญั ของการบรหิ ารจัดการในการพัฒนาชุมชนตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง
๔๖
สว่ นที่ 4 กลยุทธ์พัฒนาการศึกษา
1. นโยบายการปฏิรูปการศึกษา
พระราชกระแสรบั ส่ังพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นโยบายการปฏริ ปู การศึกษา
1) ศาสตรพ์ ระราชา ตาราแห่งชีวติ
หลกั การทรงงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รชั กาลที่ 9 มีดงั น้ี
แนวคิดหรือหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีความน่าสนใจ
ทีส่ มควรนามาประยกุ ต์ ใช้กบั ชีวิตการทางานเป็นอย่างยง่ิ หากท่านใดต้องการปฏิบตั ิตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
ท่านสามารถ นาหลกั การทรงงานของพระองค์ไปปรับใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ได้ดังนี้
1.จะทาอะไรต้องศึกษาข้อมูลใหเ้ ป็นระบบ
2.ระเบดิ จากภายใน จะทาการใด ๆ ตอ้ งเร่ิม จากคนทเี่ กีย่ วขอ้ งเสยี ก่อน ตอ้ งสรา้ งความเข้มแข็งจาก
ภายในให้เกิดความเข้าใจและอยากทา ไม่ใช่ การส่งั ให้ทา