สาระการเรียนรู้ 1. ที่มาของโปรแกรม CiRA Core 2. ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม CiRA Core 3. ขั้นตอนการขอ License โปรแกรม CiRA Core 4. แนะนำ กล่องเครื่องมือโปรแกรม CiRA Core เบื้องต้น ใบความรู้ รู้จักกับโปรแกรม CiRA Core
ที่มาของโปรแกรม CiRA Core CiRA CORE เป็นแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เกิดจากการความร่วมมือระหว่างสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือโดยนับ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2553 เป็นต้นมา Deep Learning ได้รับความ นิยมเป็นอย่างมาก ในสาขาของ AI และมีความต้องการใช้ในการ พัฒนาเพิ่มมากขึ้นจึงได้มีการขอทุนวิจัยจากภาครัฐบาลมาเพื่อ พัฒนาแพลตฟอร์มของคนไทยเอง จึงเป็นที่มาของ ทั้ง 3 มหาวิทยาลัยที่ร่วมมือกันพัฒนา CiRA CORE ขึ้นมา โดย CiRA CORE เวอร์ชั่นแรกเป็นรุ่น Python ซึ่งเป็นการเขียน โปรแกรมภาษา Python ลงไปและสามารถนำ ไปให้บริษัทขนาด ใหญ่ใช้งานได้ แต่ไม่สามารถนำ ไปให้กับ SMEs ได้เนื่องจากไม่มี โปรแกรมเมอร์ที่จะสามารถเขียนโปรแกรมได้ทาง CiRA จึงได้พัฒนาใหม่เพื่อให้สามารถใช้งานกันได้เท่าเทียมกันจึงเกิดเป็น CiRA CORE ในรูปแบบ LEGO ที่ทำ ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นและ ใช้งานได้ตั้งแต่ระดับ SMES ไปจนถึง StartUp และ บริษัทระดับใหญ่ 2 3
1. ดาวโหลดไฟล์ติดตั้ง CiRA Core 2 ไฟล์จากลิ้ง https://tinyurl.com/cira-core-win 2. ดาวโหลดไฟล์ 1-ROS_Melodic และ 2-CiRA-CORE_1.1 beta-03 ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม CiRA Core รูปที่ 1.1 แสดงลิ้งดาวโหลดโปรแกรม CiRA Core 2 3
ขั้นตอนที่ 2 1. เมื่อดาวโหลดเสร็จแล้วจะได้ไฟล์ Zip 2 ไฟล์ 2. แตกไฟล์ Zip ของ ROS_Melodic และ CiRA-CORE_1.1 beta-03 รูปที่ 1.2 แสดงไฟล์ Zip 4
ขั้นตอนที่ 3 รูปที่ 1.3 แสดงโฟวเดอร์เมื่อแตกไฟล์ Zip เมื่อแตกไฟล์ Zip 2 ไฟล์แล้ว จะได้ออกมาเป็นโฟลเดอร์ 1. โฟลเดอร์ ROS_Melodic 2. CiRA-CORE_1.1 beta-03 4 5
ขั้นตอนที่ 4 รูปที่ 1.4 แสดงโฟวเดอร์เมื่อแตกไฟล์ Zip 1. ทำ การติดตั้ง ROS_Melodic โดยการคลิกเข้าไป ที่ไฟล์ ROS _Melodic 2. คลิกขวาที่โปรแกรม ROS _Melodic 6
ขั้นตอนที่ 5 คลิก Run asadministrator รูปที่ 1.5 แสดงการติดตั้งโปรแกรม ROS_Melodic 6 7
ขั้นตอนที่ 6 คลิก Extract และรอการติดตั้ง ROS _Melodic รูปที่ 1.6 แสดงการติดตั้ง ROS_Melodic 8 9
รูปที่ 1.7 แสดงการติดตั้ง ciRA-CORE_1.1 beta-3 ขั้นตอนที่ 7 ทำ การติดตั้ง CiRA-CORE_1.1 beta-03 โดยการคลิกเข้าไปที่ไฟล์ CiRA-CORE_1.1 beta-03 > คลิก ขวาที่โปรแกรม CiRA Core 9
รูปที่ 1.8 แสดงการติดตั้ง ciRA-CORE_1.1 beta-3 ขั้นตอนที่ 8 คลิก Run asadministrator 10 11
ขั้นตอนที่ 9 คลิก Install และรอการติดตั้ง CiRA-CORE_1.1 beta-03 รูปที่ 1.9 แสดงการติดตั้ง CiRA-CORE_1.1 beta-03 11
ขั้นตอนที่ 10 ติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อย รูปที่ 1.10 แสดงโปรแกรมที่ติดตั้งเสร็จแล้ว 12 13
รูปที่ 1.11 แสดงการเปิดโปรแกรม ROS CORE ขั้นตอนที่ 11 ทำ การทดสอบโปรแกรมโดยการเปิดโปรแกรม ROS CORE เพื่อเปิดเรียกใช้ไลบรารี 12 13
ขั้นตอนที่ 12 ทำ การเปิดโปรแกรม CIRA CORE เมื่อได้หน้าต่าง ของโปรแกรมดังภาพถือเป็นการติดตั้งโปรแกรมสำ เร็จ รูปที่ 1.12 แสดงการติดตั้งโปรแกรม CIRA CORE สำ เร็จ 14
ขั้นตอนการการขอใช้ License โปรแกรม CiRA Core รูปที่ 1.13 แสดงเพจเฟสบุ๊ค CiRA EDUCATION ขั้นตอนที่ 13 *สำ หรับขอ License รายบุคคลเพื่อการศึกษา* เข้าไปที่เพจเฟสบุ๊ค CiRA EDUCATION 14 15
ขั้นตอนที่ 14 inbox ไปที่เพจเฟสบุ๊ค CiRA EDUCATION เพื่อขอ License (แนะนำ ตัวและบอกเหตุผลที่จะนำ ไปใช้) รูปที่ 1.14 แสดง Messenger เพจเฟสบุ๊ค CiRA EDUCATION 16
รูปที่ 1.15 แสดงลิงค์แบบฟอร์มสำ หรับขอ License ขั้นตอนที่ 15 *อ่านเงื่อนไขให้ครบถ่วนเเละทำ ตามเงือนไข* เมื่อได้รับลิงก์แบบฟอร์มกรอกข้อข้อมูลให้ถูกต้อง 16 17
รูปที่ 1.16 แสดง License ที่ได้รับทาง E-mail ขั้นตอนที่ 16 1. ทาง CiRA Core ส่ง License มาให้ทาง E-mail 2. Copy License (ดังรูปภาพในกรอบสีแดง) 18 19
รูปที่ 1.17 แสดงการใส่ License ขั้นตอนที่ 17 1. เปิดโปรแกรม CiRA Core 2. วาง License ที่ Copy มาในช่อง Enter License Key 3. คลิก Activate 4. ขอ License สำ เร็จ 19
หน้าต่างโปรแกรม CiRA Core รูปที่ 1.19 แสดงหน้าต่างโปรแกรม CiRA Core หน้าต่างโปรแกรม CiRA Core 20
แนะนำ กล่องเครื่องมือโปรแกรม CiRA Core เบื้องต้น Auto Ran ใช้สำ หรับเป็นจุดเริ่มต้น ของการทำ งาน Button Ran ใช้สำ หรับกดปุ่มเมื่อต้องการ เริ่มใช้งานโปรแกรม Debug ใช้สำ หรับแสดงผลข้อมูล Debug Global ใช้สำ หรับดูค่าของตัวแปล Global บน CiRA Core 20 21
Get ใช้สำ หรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย (จุดเชื่อมต่อกล่อง Set) Delay (ms) ใช้สำ หรับหน่วงเวลา Set ใช้สำ หรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย (จุดเชื่อมต่อกล่อง Get) IF Else ใช้สำ หรับการกำ หนดเงื่อนไข สำ หรับการเลือกเส้นทาง Label ใช้สำ หรับการแสดงผลข้อความ 22
Payload Combine ใช้สำ หรับรับข้อมูล Input จาก กล่อง Get และ Set Set Payload มีหน้าที่ประกาศหรือกำ หนดตัวแปร เพื่อส่งออกไปยังกล่องถัดไป Pipe Connection ใช้สำ หรับการเชื่อมเส้นทาง Speech ใช้สำ หรับนำ ไฟล์เสียง เข้ามาใช้งาน Set Player ใช้สำ หรับนำ ไฟล์เสียง เข้ามาใช้งาน 22 23
Sub Bernoulli ใช้สำ หรับสร้างโปรเจคย่อย wait Flows ใช้สำ หรับรอการทำ งาน Deep Detect ใช้สำ หรับนำ โมเดลเข้ามาใช้งาน หรือทดสอบโมเดล Deep Crop ใช้สำ หรับสร้างมุม ให้กับโมเดล Deep Train ใช้สำ หรับ Train โมเดล 24
Java Script ใช้สำ หรับการเขียนโปรแกรมภาษา Javascript เพื่อใช้สำ หรับจัดการหรือ ประมวลผลข้อมูล Python Script ใช้สำ หรับการเขียนโปรแกรมภาษา Python เพื่อใช้สำ หรับจัดการ หรือประมวลผลข้อมูล Python Script ใช้สำ หรับการเชื่อมต่อกับไลด์ เพื่อส่งข้อมูลรูปภาพหรือข้อความ Image File ใช้สำ หรับนำ ข้อมูลไฟล์ภาพนิ่ง เข้ามาใช้งาน Video File ใช้สำ หรับนำ ข้อมูลไฟล์วีดีโอ เข้ามาใช้งาน 24 25
Image Slide ใช้สำ หรับนำ ข้อมูลภาพนิ่งหลาย ๆ ภาพเข้ามาใช้งาน Image Subscribe ใช้สำ หรับดึงข้อมูลรูปภาพ จาก Webcam WebCam ใช้สำ หรับดึงภาพเคลื่อนไหว จากกล้อง Webcam GstCam ใช้สำ หรับเชื่อมต่อและดึงภาพ หรือวีดีโอจากมือถือ IP Camera ใช้สำ หรับการดึงภาพ จากกล้องวงจร 26
Image Capture ใช้สำ หรับรับข้อมูลภาพจากกล้อง เพื่อนำ ไปเก็บเป็นไฟล์ภาพ Deep Classif ใช้สำ หรับนำ โมเดลหรือ Dataset จาก Classif Train เข้ามาใช้งาน Classif Train ใช้สำ หรับ Train โมเดล หรือสร้าง Dataset DeepD->C ใช้สำ หรับนำ Classif Train และ Deep Train มาทำ งานร่วมกัน DeepD->D ใช้สำ หรับนำ Classif Train และ Deep Train มาทำ งานร่วมกันในการ แยกประเภท หรือจำ แนกประเภทวัตถุ 26 27
Face Rec ใช้สำ หรับตรวจจับใบหน้า Face Trainer ใช้สำ หรับจดจำ ใบหน้า Lotus Buzzer ใช้สำ หรับเขียนโปรแกรม ควบคุมเสียง Lotus OLED ใช้สำ หรับเขียนโปรแกรม ควบคุม Led Lotus Motor ใช้สำ หรับสั่งให้ Motor ทำ งาน 28 29
Lotus Servo ใช้สำ หรับสั่งให้ Servo ทำ งาน Seria Write ใช้สำ หรับเชื่อมต่อ Port Seria Read ใช้สำ หรับอ่านข้อมูลที่ส่งเข้ามา Move ใช้สำ หรับควบคุมการเคลื่อนที่ ของแขนกล MoveSep ใช้สำ หรับควบคุมการเคลื่อนที่ของ แขนกลแบบต่อเนื่อง 29