ผลการปฏิบัติงานที่ดี(Best Practice) เรื่อง กิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม ศูนย์การเรียนรู้ตำบลซับไม้แดง นางสาวบุณฑริกา ภุมมา ครู กศน.ตำบล ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอบึงสามพัน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดเพชรบูรณ์ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ รายงานผลการปฏิบัติงานที่ดี (Best Practice) ไตรมาสที่ 1 – 2 (เดือนตุลาคม ๒๕๖6 - เดือนมีนาคม ๒๕๖7) ประจำปี ๒๕๖7 ศกร.ตำบลซับไม้แดง จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงาน นำไปสู่การปฏิบัติ ที่ดี โดยยึดแนวทางตามยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจำปี๒๕๖7 สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยจังหวัดเพชรบูรณ์ และยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอำเภอบึงสามพัน ตลอดจนบริบทความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เพื่อกำหนดเป็นแนวปฏิบัติ และแนวทางในการดำเนินงานสู่ความเป็นเลิศ ของ ศกร.ตำบลซับไม้แดง ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมี ประสิทธิภาพ การจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานที่ดี (Best Practice) ประจำปี ๒๕๖6 ไตรมาสที่ 1 – 2 ของ ศกร.ตำบลซับไม้แดงฉบับนี้ สำเร็จลุล่วงด้วยดี ด้วยความร่วมมือของภาคีเครือข่าย คณะกรรมการ ศกร.ตำบล และผู้เกี่ยวข้องร่วมกันระดมความคิดเห็น โดยนำสภาพปัญหาและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา มาปรับปรุงเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยชอง ศกร.ตำบลซับไม้แดง เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานผลการปฏิบัติงานที่ดี (Best Practice) ประจำปี ๒๕๖7 ไตรมาสที่ 1 – 2 ของศกร.ตำบลซับไม้แดง ฉบับนี้ จะเป็นแนวทางในการดำเนินงานของบุคลากรและ ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ และมีคุณภาพตามเป้าหมาย ตลอดจนเป็นประโยชน์ ต่อชุมชนสังคม และประเทศชาติต่อไป นางสาวบุณฑริกา ภุมมา ผู้จัดทำ
สารบัญ เรื่อง หน้า 1. ชื่อผลงาน 1 2. สถานศึกษา/หน่วยงาน 1 3. ผู้นำเสนอผลงาน 1 4. ความสอดคล้อง 1 5. ที่มาและความสำคัญ 3 6. วัตถุประสงค์ 4 7. วิธีดำเนินการ 4 8. ตัวชี้วัดความสำเร็จ 5 9. การประเมินผลและเครื่องมือการประเมิน 5 10. ผลการดำเนินงาน 5 11. บทสรุป 6 12. กลยุทธ์หรือปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จ 9 13. ข้อเสนอแนะ 9 14. การอ้างอิง 9 15. ภาคผนวก 9
ผลการปฏิบัติงานที่ดี (Best Practice) กิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม ศกร.ตำบลซับไม้แดง ๑. ชื่อผลงาน กิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม ศกร.ตำบลซับไม้แดง ๒. สถานศึกษา ศกร.ตำบลซับไม้แดง อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอบึงสามพัน สำนักงานส่งแสริมการเรียนรู้จังหวัดเพชรบูรณ์ ๓. ผู้นำเสนอผลงาน นางสาวบุณฑริกา ภุมมา ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลซับไม้แดง เบอร์โทร 062-5955324 E-mail : [email protected] ๔. ความสอดคล้อง ๔.๑ จุดเน้นการดำเนินงาน กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ๑. สร้างโอกาสในการเข้าถึงการเรียนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ๑.๑ จัดทำระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ (Digital Learning Platform) รวมทั้ง แอปพลิเคชั่น หรือสื่อดิจิทัลที่มีคุณภาพครบวงจรเพี่อเพิ่มการเรียนรู้ช่อหางเรียนรูปแบบต่าง ๆทั้ง Online Onsite และ Onair ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ๑.๒ พัฒนาระบบสะสมหน่วยการเรียนรู้ในธนาาคารหน่วยกิต (Credit Bank System) ที่สมารถเชื่อมการศึกษาและการเรียนรู้ในทุกระดับและประเภท สร้างความคล่องตัวและเปิดทางเลือกให้กับ ผู้เรียนทุกระดับ เพื่อประโยชน์ในการับรองคุณวุฒิ หรือการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพต่อไป ๑.๓ พัฒนาระบบเทียบระดับการศึกษา เทียบเคียงหรือเทียบโอนผลการเรียน ทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ และสมรรถนะ ให้มีมาตรฐาน เชื่อมโยงกับการศึกษาและการเรียนรู้ทุกรูปแบบ เพื่อใช้ประโยชน์ ในการเข้าศึกษา การสะสมความรู้ หรือการรับรองคุณวุฒิระดับการศึกษาตามสถานศึกษาหรือต่างระบบได้ ๒. ยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ ๒.๑ พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร โปรแกรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ และวิธีการจัดกระบวน การเรียนรู้ ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เหมาะสมเงินและเป็นไปตามสภาพ ความตัองการ และความถนัด สอดคล้องกับสภาวการณ์ของประเทศและทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลก โดยมุ่งพัฒนาประชาชนทุกช่วงวัยให้มี ทักษะที่เหมาะสมและจำเป็นต่อการดำรงชีวิต จบแล้วมีงานทำสอดคล้องกับความต้องการตลาดแรงงาน ๒.๒ จัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้แบบ STEM Education (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตคาสตร์ ให้ครอบคลุมมากขึ้น มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง Active Leanding ทั้งในสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ๒.๓ จัดให้มีระบบแนะแนวทางสำหรับผู้เรียน (Coaching) และวางแผนทางเลือกทางการศึกษา และการเรียนรู้ที่หลากหลายให้กับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มเปราะบาง ในการเข้าถึงการศึกษา ๑
2 การเรียนรู้และการฝึกอาชีพอย่างเท่าเทียม เพื่อให้ผู้เรียนได้คันพบแนวทางการเรียนและเป้าหมายชีวิตที่ตนเอง ชอบ รวมทั้งการดูแล เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหา สุขภาวะทางจิตของผู้เรียน เพื่อให้สามารถอยู่ในสถานศึกษา ได้อย่างมีความสุข ๓. ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ๓.๑ พัฒนากระบวนการส่งเสริมให้ประชาชนมีนิสัยรักการเรียนรู้ มีกระบวนการทางสังคม ที่ส่งเสริมให้บุคคล กลุ่มบุคคล และชุมชนเกิดการเรียนรู้และพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการสร้าง สภาพแวดล้อมของชุมชน ท้องถิ่น สังคม ที่เอื้อตอการเรียนรู้ และสนับสนุนการสร้างกลไกการขับเคลื่อน ชุมชนในการปลูกฝังและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ๓.๒ ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย การเรียนรู้ที่ปลูกมีคุณธรรมจริยธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ อุดมการณ์ความยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ของชาติและท้องถิ่น เสริมสร้างวิถี ชีวิตของความเป็นพลเมืองและมีศีลธรรมที่เข้มแข็งรวมถึงการมีจิตอาสา โดยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการเพิ่ม ทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ๓.๓ พัฒนารูปแบบการดำเนินงามส่งเสริมการอ่านให้กับประชาชน พัฒนาแหล่งเรียนรู้ ที่มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่าน และพัฒนาศักยภาพการเรียนให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง และทั่วถึง อาทิ กาพัฒนาความพร้อม ของบุคลากรและให้บริการของหน่วยจัดการเรียนรู้ ห้องสมุดประขาชน มีการบริการที่ทันสมัย ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครีอข่ายส่งเสริมการอ่าน พร้อมทั้งพัฒนาสื่อและจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่หลากหลายให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ ต่าง ๆอย่างทั่วถึง ๓.๔ จัดให้มีการฝึกอบรมอาชีพในชุมชน เพื่อเป็นการเสริมสร้างทักษะใหม่ (New kill) เพิ่มสมรรถนะ (Upskill) หรือทบทวนทักษะ (Reskill) ให้แก่ประขาชน อาทิ อาชีพเกษตรกร อาชีพค้าขาย อาชีพบริการๆชุมชน อาชีพหัตถกรรม อาชีพอุตสาหกรรม ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างแอร์ ฯลฯ เพื่อเป็นเครื่องมือในการยกระดับทักษะความรู้ ช่วยประชาชนลดรายจ่ายในครัวเรือน สามารถประกอบอาชีพ หลักหรือเป็นอาชีพเสริมให้แก่ครอบครัวได้ ๓.๕ ส่งเสริม สนับสนุน สร้างโอกาสให้เกิด Soft Power เพื่อเปิดโอกาสในการต่อยอดสร้างมูลค่า และสร้างรายได้ รวมทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาต่อยอดศิลปะ วัฒนธรรม ภาษา และส่งเสริมภูมิปัญญา ท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ด้านการท่องเที่ยว/งานเทศกาล/ประเพณีไทย ดัานดนตรีและศิลปะด้านวรรณกรรม/หนังสือ ด้านสินคำและบริการ (อาหารไทย ผ้าไทย เครื่องหอมและ สมุนไพรไทย ฯลฯ) รวมทั้งการใช้พื้นที่เป็นสถานที่เรียนรู้ วัฒนธรรม ศิลปะ และประวัติศาสตร์ ๓.๖ พัฒนาทักษะฝีมือ พัฒนาการทางร่างกายและจิตใจกลุ่มผู้สูงอายุ ไห้สามารถพึ่งพาตนเองได้ สามารถดำเนินชีวิตได้เต็มตามศักยภาพ ๔. พัฒนาระบบการบริหารจัดการ และการบริการภาครัฐ ๔.๑ ทบทวน ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคำเนินงาน ภายได้พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อให้การบริหารจัดการในการจัด ส่งแสริม และ สนับสนุนการเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3 ๔.๒ จัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนเป็นรายบุคคล โดยการสำรวจข้อมูลครัวเรือน (ปักหมุด) เกี่ยวกับสถานภาพการศึกษาและความต้องการในการเรียนรู้ และจัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการ แก้ปัญหาเด็กตกหล่นและออกกลางคัน ติดตามและส่งต่อไปยังสถานศึกษาในระดับมีสูงขึ้น รวมทั้งเป็นข้อมูลใช้ ประกอบในการส่งเสริมกาวเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ๔.๓ พัฒนาความพร้อมในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ อาทิ การสนับสนุนงบประมาณ ในการลงทุนด้านเทคโนโลยี บูรณาการความร่วมมือกับภาคเอกชนในการสร้างความพร้อมด้านเทคโนโลยี และการสื่อสารหน่วยจัดการเรียนรู้ ให้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการประชาชน รวมทั้งสนับสนุนความร่วมเมือ ในการสร้างมาตรการส่งเสริมภาคเอกชนเพื่อการลงทุนด้านการศึกษาและการเรียนรู้ ๕. ส่งเสริมและสนับสนุนด้านบุคลากร ๕.๑ แก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา และส่งเสริมให้ความรู้ด้านการเงิน และการออม (financial Literacy) การวางแผนและสร้างวินัยทางการเงินให้กับบุคลากร โดยบูรณาการการ ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง ธนาคาร สหกรณ์ และสถาบันการเงินต่าง ๆ ๕.๒ พัฒนาสมรรถนะของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความพร้อมด้านวิชาการและทักษะ การจัดการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ รวมทั้งให้คำปรึกษาเส้นทาง การเรียนรู้ การประกอบอาชีพ และการดำเนินชีวิตของผู้เรียนได้ตามความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคล ๕.๓ พัฒนาขีดความสามารถของข้าราชการพลเรือนในสังกัด ไห้มีสมรรถนะที่สอดคล้อง และเหมาะสมตามสายงาน ประเภท ระดับ และมาตรฐานตำแหน่ง ๕. ความเป็นมาและความสำคัญ สำนักงาน สกร. เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจหลักตามแผนพัฒนา ประเทศ และนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการที่มุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยจะได้รับการพัฒนาใน ทุกมิติทั้งในด้านโอกาส ความเท่าเทียม ความเสมอภาค ความปลอดภัย และมีสมรรถนะที่สำคัญจำเป็นใน ศตวรรษที่ 21 และมีความพร้อมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน โดยเน้นการ พัฒนาคุณภาพ การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย อันจะนำไปสู่การสร้างโอกาส ความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ยกระดับคุณภาพและเพิ่ม ประสิทธิภาพ การให้บริการสำหรับทุกกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้รับบริการ โดยได้กำหนด จุดเน้นการดําเนินงาน สำนักงาน สกร. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พัฒนาหลักสูตรอาชีพที่เน้น New skill Up - skill และ Re - skill ที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ บริบทพื้นที่ และความสนใจ พร้อมทั้งสร้าง ช่องทางอาชีพในรูปแบบที่ความหลากหลายของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ผู้พิการ ผู้สูงอายุความต้องการของ ตลาดแรงงาน และกลุ่มอาชีพใหม่ที่รองรับ Disruptive Technology เพื่อการเข้าสู่การรับรองสมรรถนะและ ได้รับคุณวุฒิตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติรวมทั้งสามารถนพผลการเรียนรู้และ ประสบการณ์เทียบโอนเข้าสู่ ระบบการสะสมหน่วยการเรียนรู้(Credit Bank) เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ในการนี้ ศกร.ตำบลซับไม้แดง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอบึงสามพัน ได้ทำการศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการ จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์ พบว่าชุมชนมีความต้องการสร้างอาชีพและมีรายได้เสริม นอกจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม อีกทั้งวิทยากรมีความชำนาญด้านการสานตะกร้าหวายเทียม จึงได้ ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานที่สอดคล้องตามนโยบายและจุดเน้นดังกล่าว และมีความประสงค์
4 จะขับเคลื่อนนโยบายให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยดำเนินการโครงการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำอย่าง ยั่งยืน (ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน) หลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม เพื่อผู้เข้ารับการฝึกอาชีพนำความรู้ ไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ ต่อยอดอาชีพเพื่อมีอาชีพและสร้างรายได้เพิ่ม มีการรวมกลุ่มและนำความรู้ที่ ได้รับจากการฝึกอาชีพไปต่อยอดอาชีพในระดับชุมชน 6. วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอาชีพนำความรู้ไปประกอบอาชีพ ต่อยอดอาชีพ และสร้างรายได้เพิ่ม ตลอดจน มีการรวมกลุ่มและนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอาชีพไปต่อยอดอาชีพในระดับชุมชน ๗. วิธีดำเนินการ ๗.๑ กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ๑. เชิงปริมาณ : ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลซับไม้แดง จำนวน 11 คน ๒. เชิงคุณภาพ : ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลซับไม้แดงผ่านการฝึกอาชีพตามเกณฑ์ที่กำหนด 7.2 การดำเนินการจัดกิจกรรม โครงการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำอย่างยั่งยืน (ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน) หลักสูตรวิชาการสาน ตะกร้าหวายเทียมครั้งนี้ ดำเนินการตามแนววงจรคุณภาพของเดมมิ่ง (Deming Cycle : PDCA) ดังนี้ ด้านการวางแผน (P) 1) ครูศึกษาสภาพ ปัญหา และความต้องการ จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์ พบว่าชุมชนมี ความต้องการสร้างอาชีพและมีรายได้เสริมนอกจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม อีกทั้งวิทยากรมีความ ชำนาญด้านการสานตะกร้าหวายเทียม 2) วิเคราะห์งานตามบทบาทหน้าที่ และวิเคราะห์ความสอดคล้องที่เกี่ยวข้อง เช่นยุทธศาสตร์ และจุดเน้นการดำเนินงาน ศกร. วิสัยทัศน์/พันธกิจ ระบบประกันคุณภาพสถานศึกษา โดยดำเนินการดังนี้ 2.1) ครู ผู้เรียน และชุมชน ร่วมศึกษาเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพใน ชุมชน เพื่อวางแผนการดำเนินงาน ชี้แจงวัตถุประสงค์ ผลที่ผู้ร่วมโครงการจะได้รับ ทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วม โครงการ จำนวน 13 คน 2.2) ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพในชุมชน ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น วิทยากร ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการและเหมาะสมกับ สภาพชุมชนและกลุ่มเป้าหมาย 3) นำข้อมูลจากการวิเคราะห์ กำหนดกรอบการดำเนินงาน โดยดำเนินการดังนี้ 3.1) กำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการ 3.2) กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ 3.3) กำหนดวิธีดำเนินการ 3.4) กำหนดวิธีการประเมินผลและเครื่องมือการประเมินผล
ด้านการดำเนินงาน (D) 1) ครูประสานผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันวางแผนงานโครงการ 2) ครูร่วมกับวิทยากรปรับปรุงหลักสูตรการทำการสานตะกร้าหวายเทียม ให้มีความ เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และปรับปรุงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการสอนให้มีความทันสมัยมากขึ้น 3) จัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพโดยให้ความรู้และทักษะตามหลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม โดยให้ความรู้และฝึกทักษะให้กับผู้เรียนดังนี้ 3.1) วิเคราะห์ความต้องการปัญหาในการประกอบอาชีพของกลุ่ม 3.2) ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสานตะกร้าหวายเทียมข้าวจากกก 3.3) ประโยชน์จากการสานตะกร้าหวายเทียม 3.4) การสืบสานวัฒนธรรมการสานตะกร้าหวายเทียม ด้านการตรวจสอบและประเมินผล (C) 1) ครูและวิทยากรร่วมกันประเมินผลการดำเนินโครงการ 2) สรุปผลการดำเนินโครงการที่ได้จากการติดตามประเมินผลเมื่อสิ้นสุดโครงการโดยรวบรวม ผลงานที่เป็นจุดเด่น และจุดควรพัฒนา รวมทั้งข้อเสนอแนะจากการประเมินผล การนำไปใช้ประโยชน์ และ การจัดทำรายงาน เพื่อนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ 3) เผยแพร่ผลงานแนวแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ โดยการนำเสนอผลงาน ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะต่อที่ประชุม สกร.อำเภอบึงสามพัน เพื่อเป็นข้อมูลใน การวางแผนจัดกิจกรรมครั้งต่อไป ร่วมทั้งนำเสนอผลงานในรูปแบบต่าง ๆ ด้านการปรับปรุงและพัฒนาผลการปฏิบัติงาน (A) นำข้อเสนอแนะของผู้เรียน ชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาปรับปรุงรูปแบบและวิธีดำเนินงาน การส่งเสริมอาชีพ เพื่อเผยแพร่ให้ชุมชนอื่นที่มีสภาพบริบทเหมือนหรือใกล้เคียงกันได้นำไปใช้ในการจัด กิจกรรมส่งเสริมอาชีพต่อไป ๘. ตัวชี้วัดความสำเร็จ 8.1 ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะการสานตะกร้าหวายเทียม 8.2 ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบการสานตะกร้าหวายเทียม เพื่อจำหน่ายและสร้างรายได้ ๙. การประเมินผลและเครื่องมือการประเมินผล แบบประเมินความพึงพอใจ ๑๐. ผลการดำเนินงาน ผู้เรียน จำนวน 11 คน สามารถสานตะกร้าหวายเทียมได้ โดยมีการออกแบบลวดลายที่ทันสมัยมาก ขึ้น เพื่อให้เป็นที่ต้องการของตลาดในปัจจุบัน ๕
๑1. บทสรุป การสานตะกร้าหวายเทียม เป็นการฝึกอาชีพให้ประชาชนที่มีความสนใจ และว่างงาน เพื่อนำความรู้ ไปประกอบอาชีพต่อยอดอาชีพ และสร้างรายได้เพิ่ม โดยมีการดำเนินการตามแนวทางวงจรคุณภาพของ เดมมิ่ง (Deming Cycle : PDCA) ดังนี้ ด้านการวางแผน (P) 1) ครูศึกษาสภาพ ปัญหา และความต้องการ จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์ พบว่าชุมชนมี ความต้องการสร้างอาชีพและมีรายได้เสริมนอกจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม อีกทั้งวิทยากรมีความ ชำนาญด้านการสานตะกร้าหวายเทียม 2) วิเคราะห์งานตามบทบาทหน้าที่ และวิเคราะห์ความสอดคล้องที่เกี่ยวข้อง เช่นยุทธศาสตร์ และจุดเน้นการดำเนินงาน ศกร. วิสัยทัศน์/พันธกิจ ระบบประกันคุณภาพสถานศึกษา โดยดำเนินการดังนี้ 2.1) ครู ผู้เรียน และชุมชน ร่วมศึกษาเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพใน ชุมชน เพื่อวางแผนการดำเนินงาน ชี้แจงวัตถุประสงค์ ผลที่ผู้ร่วมโครงการจะได้รับ ทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วม โครงการ จำนวน 11 คน 2.2) ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพในชุมชน ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น วิทยากร ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการและเหมาะสมกับสภาพ ชุมชนและกลุ่มเป้าหมาย 3) นำข้อมูลจากการวิเคราะห์ กำหนดกรอบการดำเนินงาน โดยดำเนินการดังนี้ 3.1) กำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการ 3.2) กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ 3.3) กำหนดวิธีดำเนินการ 3.4) กำหนดวิธีการประเมินผลและเครื่องมือการประเมินผล ด้านการดำเนินงาน (D) 1) ครูประสานผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันวางแผนงานโครงการ 2) ครูร่วมกับวิทยากรปรับปรุงหลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม ให้มีความเหมาะสมกับ กลุ่มเป้าหมาย และปรับปรุงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการสอนให้มีความทันสมัยมากขึ้น 3) จัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพโดยให้ความรู้และทักษะตามหลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม โดยให้ความรู้และฝึกทักษะให้กับผู้เรียนดังนี้ 3.1) วิเคราะห์ความต้องการปัญหาในการประกอบอาชีพของกลุ่ม 3.2) ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสานตะกร้าหวายเทียม 3.3) ประโยชน์จากการสานตะกร้าหวายเทียม 3.4) การสืบสานวัฒนธรรมการสานตะกร้าหวายเทียมกก 3.๕) การใช้งานโปรแกรมสำนักงานเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และช่องทางการตลาดของชุมชน 6
ด้านการตรวจสอบและประเมินผล (C) 1) ครูและวิทยากรร่วมกันประเมินผลการดำเนินโครงการ 2) สรุปผลการดำเนินโครงการที่ได้จากการติดตามประเมินผลเมื่อสิ้นสุดโครงการโดยรวบรวม ผลงานที่เป็นจุดเด่น และจุดควรพัฒนา รวมทั้งข้อเสนอแนะจากการประเมินผล การนำไปใช้ประโยชน์ และ การจัดทำรายงาน เพื่อนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ 3) เผยแพร่ผลงานแนวแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ โดย การนำเสนอผลงาน ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะต่อที่ประชุม ศกร.อำเภอบึงสามพัน เพื่อเป็นข้อมูลในการ วางแผนจัดกิจกรรมครั้งต่อไป ร่วมทั้งนำเสนอผลงานในรูปแบบต่าง ๆ ด้านการปรับปรุงและพัฒนาผลการปฏิบัติงาน (A) นำข้อเสนอแนะของผู้เรียน ชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาปรับปรุงรูปแบบและวิธีดำเนินงาน การส่งเสริมอาชีพ เพื่อเผยแพร่ให้ชุมชนอื่นที่มีสภาพบริบทเหมือนหรือใกล้เคียงกันได้นำไปใช้ในการจัด กิจกรรมส่งเสริมอาชีพต่อไป 7
ผังงานแนวปฏิบัติที่ดี กิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม ศกร.ตำบลซับไม้แดง 8
๑๒. กลยุทธ์หรือปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จ 12.1 การมีส่วนร่วมของครู ผู้เรียน และชุมชนในการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของชุมชนทำให้รู้สภาพ ปัญหา และความต้องการพัฒนาชุมชนชองตนเองให้ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ 12.2 การนำเอาวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนทรัพยากรในชุมชน เป็นองค์ความรู้พื้นฐานใน การต่อยอดความรู้ให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน 12.3 ดำเนินการตามแนวทางวงจรคุณภาพของเดมมิ่ง (Deming Cycle : PDCA) ซึ่งเป็นการ ดำเนินการอย่างเป็นระบบ สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน โดยเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพปัญหา ความ ต้องการของชุมชนอย่างมีส่วนร่วมของครูผู้เรียน ชุมชน รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการวางแผนและออกแบบ กิจกรรมของครู ผู้เรียน ชุมชนตลอดจนมีการติดตามประเมินผลทุกขั้นตอน จึงทำให้สามารถพัฒนาผู้เรียนทั้ง สองกลุ่มได้บรรลุตามตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการหรือกิจกรรม ๑๓. ข้อเสนอแนะ 13.1 ควรส่งเสริมให้มีการพัฒนารูปแบบหลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียมอย่างต่อเนื่อง 13.2 ควรเผยแพร่และขยายความรู้หลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียมสู่ชุมชนอื่น ๆ 13.3 ควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลการสานตะกร้าหวายเทียม ได้จากคลัง ความรู้ที่ศูนย์การเรียนฯ ได้รวบรวมจัดเก็บไว้ได้อย่างหลากหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ของสถานศึกษา/ หน่วยงานต้นสังกัด สื่อออนไลน์ ได้แก่ Facebook YouTube การจำหน่ายสินค้าผ่านสื่อออนไลน์ ๑๔. เอกสารอ้างอิง เอกสารประกอบการอบรมแนวทางการนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) สถาบันพัฒนา การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภาคเหนือ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ หน้า 22 – 29 ๑๕. ภาคผนวก ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน - แบบประเมินความพึงพอใจ ภาคผนวก ข ภาพกิจกรรม 9
ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน แบบประเมินความพึงพอใจ
ภาคผนวก ข
ภาคผนวก ข ภาพการจัดกิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม ศกร.ตำบลซับไม้แดง ระหว่างวันที่ 15-17,19-23 กุมภาพันธ์๒๕๖7 ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 10 บ้านบ่อตาสัก ตำบลซับไม้แดง อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์
ภาพการจัดกิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรการสานตะกร้าหวายเทียม ศกร.ตำบลซับไม้แดง ระหว่างวันที่ 15-17,19-23 กุมภาพันธ์๒๕๖7 ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 10 บ้านบ่อตาสัก ตำบลซับไม้แดง อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์
คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา 1. นางสุกัญญา กาโกน ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอบึงสามพัน 2. นางสาวสุภาพรรณ โอบอ้อม ครูผู้ช่วย ๓. นางสาวนิสาชล แก้วมูลเมือง บรรณารักษ์ปฏิบัติการ ๔. นายสุรัตน์ บัวศรี ครูอาสาสมัครฯ ผู้จัดทำ นางสาวบุณฑริกา ภุมมา ครู กศน.ตำบล ผู้รวบรวม นางสาวบุณฑริกา ภุมมา ครู กศน.ตำบล