Vocabulary
โครงสร้างและการเจริญเตบิ โตของพืชดอก
จดั ทา โดย
น.ส.แพตรี ไวยมยั ม.5/6 เลขที่ 6
Tracheid
tracheid ความหมาย คอื เทรคดี :เซลล์ชนดิ หน่งึ ของ
ไซเลม มีรปู ร่างยาวปลายแหลม เมือ่ เจริญเตม็ ทีจ่ ะไมม่ ี
นวิ เคลียส ผนังเซลลห์ นาไมเ่ ทา่ กันท้ังเซลล์
Vessel member
vessel member ความหมาย คอื เวสเซลเมมเบอร์ :
เซลชนิดหน่งึ ของไซเลม มลี กั ษณะเป็นทอ่ สนั้ ๆ ผนงั เซล
หนาและ ผนังตรงหวั ท้ายของเซลเปดิ ติดตอ่ กับเซลอนื่
เรยี งกนั เปน็ ทอ่ ยาว เมื่อเจริญเต็มท่ีจะไม่มี นิวเคลียส
tracheary element
Tracheary elements เปน็ เซลล์หลักท่ที าหน้าท่ีลาเลียง
น้าและแร่ธาตุ ประกอบด้วย vessel member (vessel
element หรอื vessel unit) และเทรด (tracheid) เม่ือ
เจริญเต็มท่ี จะมรี ูปร่างยาว มี secondary wall ท่ี
ประกอบด้วย lignin ไมม่ ีโพรโทพลาสต์ และมี lumen
กวา้ ง เทรดมรี ูปร่างกลมหรือเป็นเหล่ยี มยาว
Sclereid
สเคลอเรนไคมา (sclerenchyma) เปน็ เซลลพ์ ชื ท่ีมีผนังเซลล์ชั้นที่สอง พบตาม
บริเวณทเ่ี ป็นเนื้อแข็งๆของพืช เชน่ เปลอื กหรือเนื้อไมท้ ีส่ าก เส้ียนในเนือ้ ผลไม้
แบ่งได้เปน็ สองชนิดคอื แบบทร่ี ปู ร่างยาว ปลายแหลม เรียก ไฟเบอร์ (fiber) พบ
ในส่วนที่เป็นเส้นใยของพืช กับสเคลอรดี (sclereid) มีรูปร่างกลมหรอื รี ส้ันกวา่ ไฟ
เบอร์
Complex permanent tissue
เป็นเนอ้ื เยื่อถาวรที่ประกอบขนึ้ ด้วยเซลล์หลายชนิดอยู่รวมกันเปน็ กลุ่ม ท่เี รยี กวา่
มัดท่อลาเลียง (vascular bundle) ซึง่ ประกอบดว้ ยไซเลม็ (xylem) และโฟลเอม็
(phloem) ไซเลม็ (xylem)
Fiber
เสน้ ใย หมายถึง สิ่งทีม่ ลี กั ษณะเปน็ เส้นยาวเรยี ว องคป์ ระกอบของเซลล์ สว่ น
ใหญ่ เป็นเซลลโู ลส เกิดจากการรวมตวั ของพอลิแซคคาไรด์ (polysaccharide)
ของกลูโคส (glucose) ซึ่งโมเลกุลของเซลลโู ลสเรียงตวั กนั ในผนังเซลล์ของพชื เปน็
หนว่ ยเสน้ ใยขนาดเลก็ มาก เกดิ การเกาะจบั ตัวกันเป็นเสน้ ใยขนึ้
Sclerenchyma
สเคลอเรนไคมา (sclerenchyma) เปน็ เซลล์พชื ทีม่ ผี นงั เซลล์ชน้ั ท่สี อง พบตาม
บรเิ วณท่เี ป็นเน้ือแขง็ ๆของพชื เชน่ เปลอื กหรอื เนื้อไม้ทส่ี าก เสย้ี นในเนอ้ื ผลไม้
Xylem
ทอ่ ลาเลียงน้า (Xylem) และท่อลาเลียงอาหาร (Phloem) ... ทอ่ ลาเลียง จากภาพ
ทางซ้ายเปน็ ทอ่ ลาเลยี งน้า (Xylem) มลี ักษณะท่ีสาคญั คอื เซลล์ตอ่ กนั เปน็ ทอ่
หนา กลวง ผนงั เซลล์พอกดว้ ยลิกนนิ ลาเลียงนา้ และแรธ่ าตทุ ิศทางเดียว คอื
จากลา่ งขึน้ บน จากรากสลู่ าตน้ ก่ิง ก้าน ใบ ดอก
cork cambium
คอร์กแคมเบยี ม ทาหน้าท่สี ร้างคอร์ก เพอื่ ทาหน้าท่แี ทนเซลล์เอพเิ ดมสิ
\
Collenchyma
คอลเลงคมิ า (collenchyma) เป็นกล่มุ เซลลท์ ม่ี ีผนงั หนาไมส่ มา่ เสมอ ทาหนา้ ที่ให้ ความแขง็ แรงกับพชื เซลล์มรี ปู รา่ ง
ยาวอยู่ชิดกัน พบมากบรเิ วณใต้ชน้ั เอพเิ ดอร์มิส ก้านใบ
parenchyma
พาเรงคิมา (parenchyma) เปน็ เซลล์พืชพ้ืนฐานทพ่ี บไดท้ ่ัวไปตลอดทง้ั ต้นพืช
หน้าทข่ี ึน้ อยู่กบั ตาแหน่งท่พี บ เชน่ อยู่ทใี่ บ ทาหน้าที่สงั เคราะหด์ ว้ ยแสง ในลาต้น
และรากช่วยในการลาเลยี งและเก็บสะสมอาหาร ในใบจะมีพาเรงไคมาสองชนดิ
คือ พาลิเซด พาเรงไคมา (palisade parenchyma) มลี ักษณะกลมหลายเหลยี่ ม
หรือยาว การเรียงตัวมกั มีชอ่ งวา่ ง
Permanent tissue
เนือ้ เย่อื ถาวร ( permanent tissue ) เป็นเนอ้ื เยือ่ ซึง่ เจริญเติบโตเตม็ ท่ีแล้ว
ประกอบด้วนกลมุ่ เซลล์ที่ เปล่ยี นแปลงมาจากเนอ้ื เยื่อเจรญิ มรี ปู ร่างคงท่ี ไม่มี
การแบ่งตวั เพม่ิ ขนึ้ อกี และมหี น้าท่ีเฉพาะอยา่ ง
simple permanent tissue
เนื้อเย่ือถาวรเชงิ เด่ียว ( simple permanent tissue ) ประกอบด้วยกลุ่มเซลลช์ นดิ
เดียวกันทาหนา้ ทอี่ ย่างเดยี วกนั แบง่ ได้หลายชนดิ ตามหน้าที่และส่วนประกอบ
ภายในเซลล์
vascular cambium
vascular cambium ความหมาย คอื วาสคิวลารแ์ คมเบยี ม : เน้อื เยือ่ ในพืชใบเลย้ี ง
คู่ อยู่ระหว่างโฟลเอม กับไซเลม ทาหนา้ ท่ี แบง่ ตวั สร้างเน้ือเย่ือโฟลเอมและไซเลม
ให้เพิ่มมากขนึ้ เพ่อื การเจรญิ เตบิ โตของลาต้น
Epidermis
pidermis เปน็ เนื้อเยอื่ ถาวรเชงิ เด่ยี ว อยชู่ ัน้ นอกสุด เปน็ ส่วนที่สมั ผสั กบั ภายนอก
ปกคลุมสว่ นต่าง ๆ ของพืชทง้ั ราก ลาต้น ใบ ดอก ผล เมลด็ มีกาเนดิ มาจากช้ัน
Protoderm เม่อื มกี ารเจรญิ ขัน้ ที่ 2 จะสลายไป เนอื่ งจากมชี ้ันของ cork ท่ีเกิดขึน้
ใต้ epidermis เจริญดันออกมา เซลล์ epidermis มหี นา้ ท่หี ลายอย่าง เช่น
ป้องกนั อันตราย
Lateral meristem
เน้ือเย่อื เจริญดา้ นขา้ ง (Lateral meristem) หรือเนอ้ื เยื่อเจรญิ ขนั้ ทตุ ิยภูมิ
(Secondary meristem) เป็นเน้ือเยอ่ื เจรญิ ท่เี กิดภายหลังในโครงสรา้ งทีม่ กี าร
เจรญิ ข้ันที่สอง เชน่ รากและลาตน้ เซลลข์ องเนอื้ เย่อื เจรญิ ส่วนนม้ี ีลกั ษณะเปน็ รปู
สเ่ี หล่ยี มผนื ผา้ มผี นงั เซลล์บาง และจดั เรยี งเซลลอ์ ยา่ งเป็นระเบยี บ
Intercalary meristem
เนือ้ เย่ือเจริญเหนือข้อ (Intercalary meristem) เปน็ เนอ้ื เยือ่ เจริญทรงกระบอกที่
พบอยู่บริเวณเหนือขอ้ ของพชื ใบเล้ยี งเดย่ี ว โดยเนือ้ เย่อื เจรญิ บรเิ วณนี้จะทาให้
ปล้องยืดยาวออกไป บทความเก่ียวกับแพทยศาสตรน์ ี้ยงั เป็นโครง คณุ สามารถ
ชว่ ยวิกพิ ีเดยี ได้โดยเพ่ิมข้อมูล ดเู พ่ิมท่ี สถานียอ่ ย
Apical meristem
เนื้อเยอ่ื เจริญสว่ นปลาย (Apical meristem) พบบริเวณปลายยอดไม้, ปลายราก
และตาไม้ เม่อื แบง่ เซลลแ์ ลว้ ทาใหป้ ลายยอด ปลายรากยดื ยาวออกไปหรือตาแตก
กิ่งก้านใหม่ เนอื้ เยอื่ เจริญมีขนาดเลก็ มากเมอ่ื เปรยี บเทียบกับเนอื้ เย่ือเจริญ
ดา้ นขา้ งท่มี ีรปู รา่ งเปน็ ทรงกระบอก
Meristem
เนอื้ เย่อื เจรญิ (อังกฤษ: meristem) คือเนอื้ เยอ่ื ในพชื ที่ประกอบไปดว้ ยเซลล์ทีย่ ัง
ไมผ่ ่านการเปล่ียนสภาพ (เซลล์ท่ีสามารถแบ่งตวั ได้) ซ่งึ มกั พบในตาแหน่งท่พี ชื มี
การเจริญเติบโต โดยปกตแิ ล้วเซลลพ์ ืชท่ีทาการแบง่ ตัวแล้วจะไม่สามารถแบ่งตัว
ออกมาไดอ้ ีก เนื้อเย่อื เจริญจงึ เป็นองคป์ ระกอบสาคัญในการแบง่ ตวั ของเซลล์
เนอ่ื งจากประกอบไปด้วยเซลลใ์ หม่ที่จะถกู นาไปขยายเนอ้ื เย่ือและนาไปสสู่ รา้ ง
อวัยวะใหม่ เพอ่ื เปน็ โครงสร้างพืน้ ฐานใหก้ ับตน้ พืช
phloem
เปลือกช้นั ใน หรือ " phloem (โฟฺล-) (phloem) เปน็ กลุม่ ทีล่ าเลียงสารอาหารทส่ี งั เคราะหข์ น้ึ
ท่ีใบไปยังสว่ นต่าง ๆ ของพชื จนถงึ ราก เซลลท์ สี่ าคญั มี 2 ชนิด คอื เซลล์หลอดตะแกรง
(sieve tube member) เปน็ เซลลท์ เี่ ปน็ แท่งยาว ยงั มีชีวิตอยู่ แต่ไม่มนี ิวเคลยี ส หวั และทา้ ย
เปน็ รูพรุน เปน็ เซลล์ท่ีทาหนา้ ท่ลี าเลียงสารอาหาร และเซลล์ข้างเคียง