The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเขียนชีวประวัติและอัตชีวิตประวัติ วิชาภาษาไทย ม.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การเขียนชีวประวัติและอัตชีวิตประวัติ

การเขียนชีวประวัติและอัตชีวิตประวัติ วิชาภาษาไทย ม.3

การเขยี นชวี ประวัติและอัตชวี ติ ประวตั ิ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

ครูผสู้ อน นางสาวกนั กานต์ โรจน์สวุ รรณ

การเขียนชีวประวัตแิ ละอัตชวี ิตประวัติ

การเขียน

การเขยี น เป็นวิธีการส่ือสารรปู แบบหนึ่ง เพือ่ ถ่ายทอด
เรือ่ งราว แนวคดิ จติ นาการ หรอื ประสบการณต์ า่ งๆ ใหผ้ อู้ า่ น
ไดท้ ราบ เกิดความรู้ ความเพลิดเพลนิ สรา้ งประสบการณ์
ร่วมกับผู้เขยี น

การเขยี นชวี ประวตั แิ ละอตั ชวี ิตประวตั ิ

การเขยี นอตั ชวี ประวตั แิ ละชวี ประวตั ิ
*อัตชีวประวตั ิ คือ ประวตั สิ ่วนตวั ของผเู้ ขยี นเอง
*ชีวประวตั ิ คอื เรือ่ งราวเกี่ยวกับชวี ิตของบุคคลจริง
ทีผ่ ้อู ่นื เขยี นถงึ

การเขยี นชวี ประวัติและอัตชีวิตประวัติ

การเขียนอตั ชวี ประวัติหรือชวี ประวตั ิ จดั เปน็ งานเขยี นสารคดี
ประเภทหน่งึ คือสารคดีทว่ั ไป ซึ่งมเี นื้อหาเพ่ือใหส้ าระความบันเทิง
เพลดิ เพลินควบค่กู นั ไปการเขยี นอัตชวี ประวตั ิและชวี ประวัติ สารคดี
อัตชวี ประวัตแิ ละชวี ประวตั ิ เป็นงานเขยี นรอ้ ยแก้ว ทีก่ ลา่ วถงึ เรอ่ื งราว
และพฤตกิ รรมของบุคคลที่น่าสนใจ โดยใชศ้ ิลปะการเรยี บเรียง
เพอื่ ให้บทเรียนชีวิตแก่ผู้อา่ น

การเขียนชวี ประวตั ิและอัตชวี ติ ประวตั ิ

ลักษณะของสารคดอี ตั ชวี ประวตั แิ ละชีวประวตั ิ

จะตอ้ งเป็นเร่ืองราวของบคุ คลจรงิ ๆ ท่นี า่ สนใจ นา่
ศกึ ษา แสดงเรื่องราวความเป็นมา ความสาเร็จและความ
ล้มเหลวในชีวติ มผี ลงานทีน่ ่าสนใจ ทีเ่ ปน็ ประโยชนแ์ ละคนร่นุ
หลงั นามาเป็นแนวทางได้

การเขียนชวี ประวัติและอัตชวี ิตประวตั ิ

การเขียน

การเขยี น เป็นวิธกี ารสื่อสารรปู แบบหนงึ่ เพอื่ ถ่ายทอดเร่ืองราว
แนวคิด จติ นาการ หรือประสบการณต์ ่างๆ ใหผ้ อู้ า่ นได้ทราบ เกิด
ความรู้ ความเพลดิ เพลนิ สร้างประสบการณ์รว่ มกับผเู้ ขียน

ผูเ้ ขียนตอ้ งมีความเป็นกลาง มคี ุณธรรมและต้องใชศ้ ิลปะในการ
เขียนท่ดี ี นา่ อา่ น เข้าใจง่ายและเรา้ ความสนใจของผู้อ่าน

การเขยี นชีวประวตั แิ ละอัตชีวติ ประวัติ

ประเภทของสารคดชี วี ประวตั ิ

๑. ชีวประวตั แิ บบจาลองลกั ษณ์
๒. ชวี ประวตั แิ บบสดุดี
๓. ชีวประวตั ิแบบรอบวง
๔. ชีวประวตั แิ บบประเมินคา่
๕. อัตชวี ประวัติ

การเขยี นชีวประวตั แิ ละอัตชีวิตประวัติ

๑. ชีวประวตั แิ บบจาลองลกั ษณ์ คอื การเขียนที่เน้นการอธิบาย
รปู ร่าง ความคิด รสนยิ ม อุปนิสยั อยา่ งตรงไปตรงมาของเจา้ ของ
ประวัติ โดยใช้ภาษาท่ีสละสลวย

๒. ชีวประวตั แิ บบสดุดี คอื การเขียนชีวประวตั ทิ ่ีมุ่งสรรเสรญิ
บคุ คลของเจ้าของประวตั ิ กลา่ วถึงเฉพาะด้านที่ดี ควรยกย่องเพยี ง
อย่างเดียว มีความคลา้ ยคลงึ กบั วรรณคดเี ฉลิมพระเกียรตสิ มยั โบราณ

การเขยี นชวี ประวตั ิและอัตชวี ิตประวตั ิ

๓. ชีวประวตั ิแบบรอบวง คอื การเขียนชวี ประวัติทม่ี งุ่ ใหผ้ อู้ ่าน
เห็นความสาคัญเฉพาะดา้ นใดดา้ นหนึ่ง แตเ่ สนอขอ้ เท็จจรงิ มากกว่า
การสรรเสรญิ เยินยอ

๔. ชวี ประวตั ิแบบประเมนิ คา่ คือ การเขียนถงึ บุคคลทย่ี งั มชี วี ิตอยู่
โดยเน้นทผี่ ลงานของบุคคล ว่าเขาทาอะไร ประสบความสาเรจ็ อย่างไร
และมแี นวโน้มอย่างไรในอนาคต

การเขยี นชวี ประวัติและอัตชวี ติ ประวัติ

๕. อัตชีวประวตั ิ การทผ่ี ู้เขียนเล่าประวัตขิ องตนเอง อาจเลา่
โดยตรงหรอื เล่าในเชิงบนั ทกึ และแสดงประวตั ิของตนลงไป

การเขียนชวี ประวัตแิ ละอตั ชวี ิตประวตั ิ

แนวทางการเขยี น

๑.ไม่ควรมุ่งเพยี งเพ่อื จะบอกวา่ เปน็ บคุ คลใด แต่ควร
ชใ้ี ห้เห็นวา่ เขาเป็นคนอยา่ งไร ทาไมจึงเปน็ เชน่ น้นั

๒. เขียนดว้ ยความบรสิ ุทธ์ใิ จ ไมม่ อี คติ

การเขียนชีวประวตั ิและอัตชีวติ ประวัติ

๓. เขียนจากเรอื่ งของคนที่มีตัวตนจรงิ ทมี่ อี ายุยนื ยาว
พอสมควรหรอื เกนิ ครงึ่ หนึง่ ของชวี ิตของเขาหรอื บคุ คลท่เี สยี ชวี ติ
แล้ว เปน็ บคุ คลทมี่ ีชอื่ เสียงไมใ่ ชเ่ รือ่ งของบุคคลสมมติ

๔. เขยี นประวัตบิ คุ คลทนี่ า่ สนใจ เป็นแบบอยา่ งในการ
ดาเนนิ ชีวิตที่ดี ท้งั ท่ีประสบความสาเร็จและลม้ เหลว เพือ่ ให้
ขอ้ คดิ เตอื นใจผอู้ า่ น

การเขยี นชีวประวัตแิ ละอตั ชวี ิตประวตั ิ

๕. ไมค่ วรเขียนด้วยสานวนหรอื โวหารท่ยี กยอเกินควร
ในการเขียนชีวประวัติ ผู้เขียนจาเปน็ ต้องศึกษาคน้ ควา้ หา
ขอ้ มลู ข้อเทจ็ จรงิ เกยี่ วกับประวตั ขิ องบคุ คลน้ันอยา่ งถ่องแท้
ในเรอื่ งตา่ งๆ และเลอื กนาเสนอขอ้ มลู ให้เหมาะสม มคี วาม
น่าสนใจท่สี ุด

การเขยี นชวี ประวัติและอตั ชวี ิตประวัติ

ตัวอยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ

ฉันช่อื นางสาวนิตมิ า แดงสกล ช่ือเลน่ เอิร์น เกดิ วันเสาร์ ท่ี ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๖
ปจั จบุ ันอายุ ๒๓ ปี ชอบการต์ ูนโดเรมอ่ น แต่จะชอบสชี มพู เพราะทาใหฉ้ ันรสู้ ึกนมุ่ นวลออ่ นหวาน
อบอนุ่ และมพี ลัง อาหารโปรดของฉนั คอื สม้ ตา ไก่ยา่ ง ข้าวเหนยี วหมปู ้งิ ฉนั เกดิ ทสี่ ถานอี นามัยรบั
ร่อ จ. ชุมพร (แรกเกิดฉันมีน้าหนัก ๓ กิโลกรมั ๒ ขีด) มพี ีน่ ้องทัง้ หมด ๒ คน รวมทั้งตัวฉนั เอง
และพ่ีชาย ๑ คน พ่ีชายของฉันหา่ งกบั ฉัน ๕ ปี ช่อื นายวัชพงษ์ แดงสกล อายุ ๒๘ ปี พ่ีชายได้
แต่งงานมลี กู ชาย ๑ คน ฉันจงึ รักหลานชายคนแรกของครอบครัวฉนั มาก ส่วนพอ่ ของฉัน
ช่ือ นายอวิ้ เลย่ี ง แดงสกล อายุ ๔๘ ปี แม่ของฉนั ช่ือ นางละเอยี ด แดงสกล อายุ ๔๘ ปี

การเขียนชวี ประวตั ิและอตั ชวี ติ ประวตั ิ

ตัวอยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ (ต่อ)

ครอบครวั ของฉันประกอบอาชพี เกษตรกรรม ทาเก่ยี วกับสวนปาลม์ และสวนยาง ใน
สภาพครอบครวั ของฉนั อยกู่ นั อยา่ งอบอ่นุ รักใคร่ ช่วยเหลือซงึ่ กันและกนั ทกุ ๆ คนจะ
คอยเอาใจใสก่ นั จะคอยเป็นหว่ งกันอยู่เสมอ แต่นสิ ัยสว่ นตวั ของฉนั จะเป็นเดก็ ค่อนข้าง
เอาแตใ่ จตวั เอง ซึง่ เปน็ ลกู สาวคนเล็ก ทุกคนในบ้านจึงตามใจตลอด จนตดิ เปน็ นสิ ัย
อยากไดอ้ ะไรกต็ ้องได้เสมอ ฉันจะสนิทกับแมม่ าก ปรึกษาพดู คยุ กบั แม่ไดท้ กุ ๆ เรอ่ื ง แม่
จะสอนและใหข้ ้อคิดอยู่เสมอ

การเขยี นชีวประวัตแิ ละอตั ชวี ิตประวตั ิ

ตัวอยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ (ต่อ)

ต่อมาฉันได้เริ่มเข้าศกึ ษาที่ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก จากนนั้ กเ็ ขา้ ศกึ ษาต่ออนบุ าลทโ่ี รงเรยี น
บ้านหาดใน ซึง่ ตอนนั้นฉนั ยังจาไดพ้ อเขา้ อนบุ าลวนั แรก ฉันรอ้ งตามแมม่ ากท้ังวันจน
แมม่ ารบั กลบั บา้ นตอนเย็น เชา้ มากต็ ้องสะพายกระเป๋าสชี มพูกับป่ินโตและกระบอกน้า
สีชมพูทง้ั หมด ไปโรงเรยี นจะมีพอ่ คอย รับ-ส่ง อยตู่ ลอด กิจกรรมการเรียนการสอน
ส่วนมากครูจะให้ปน้ั ดินนา้ มนั ระบายสี หดั เขียน ก-ฮ ฟังครเู ลา่ นทิ านกอ่ นนอน
ออกกาลงั กายในตอนเชา้ หลังจากเขา้ แถวเสร็จ ดื่มนม พอบา่ ยสามโมงครง่ึ กน็ ่งั รอพอ่
มารับ พอเหน็ ของเลน่ ท่ีอยา่ งได้กจ็ ะบอกพ่อกบั แมซ่ ้อื ให้ ถ้าไมซ่ อ้ื ให้กจ็ ะร้องไห้

ตะโกน เสยี งดัง จนกว่าพ่อกบั แมจ่ ะซอื้ ให้ เป็นตน้

การเขยี นชีวประวตั ิและอัตชีวิตประวัติ

ตวั อยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ (ตอ่ )

พออายยุ ่างเข้า ๗ ขวบได้เข้าศึกษาตอ่ ในระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ โรงเรยี นเดมิ
เนอ่ื งจากใกลบ้ า้ นและฉันได้สาเรจ็ การศึกษาชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ในชว่ งเดก็ ฉันจะชอบ
เขยี นคดั ลายมือ เขียนเรยี งความวันพอ่ และวนั แม่ และเปน็ ตัวแทนของหอ้ งเรียนอยูเ่ สมอ
บางคร้งั ก็ได้เปน็ ตวั แทนโรงเรียนไปแข่งขนั คดั ลายมือ ปั้นดินน้ามัน ไดท้ ่ี ๑ และ ได้ที่ ๒
ช่วงเวลาอยทู่ ่ีโรงเรียนกจ็ ะเลน่ กับเพ่อื นๆ อยา่ งสนุกสนานจนไดบ้ าดแผลกลับบ้านอยู่
ทกุ วนั ส่วนมากจะเปน็ ท่หี วั เขา่ ขาทั้ง ๒ ข้าง

การเขียนชวี ประวตั ิและอตั ชวี ติ ประวตั ิ

ตัวอยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ (ตอ่ )

ใกลจ้ ะสาเร็จการศกึ ษาชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เปน็ ช่วงทีต่ ้องสอบเข้าศึกษาต่อช้ัน
มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ฉนั และเพ่อื นๆ ได้ไปสอบโรงเรยี นประจาจังหวัดชมุ พรและโรงเรยี น
ในตัวเมือง ทั้งสอบและหยบิ ฉลากแต่กไ็ มไ่ ด้ ฉนั รู้สกึ เสียใจมาก แตพ่ ่อกับแมค่ อยอยู่
ขา้ งๆ และปลอมใจฉนั เสมอ ฉันจงึ ตดั สินใจไปสมัครเรียนโรงเรยี นใกล้ๆ บ้าน คอื
โรงเรียนทา่ ขา้ มวิทยา สอบเลอื กห้องฉันไดอ้ ยู่ห้อง ๓ รุ่นฉันมีทง้ั หมด ๕ ห้องเรียน
พ่อจึงบอกให้ต้ังใจเรยี นให้มากกว่านี้ ถา้ ขออะไรก็จะตามใจเสมอ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
ฉนั ไดเ้ รียนหอ้ ง ๓ และพยายามตั้งใจเรยี นและขยันใหม้ ากกว่าเดมิ

การเขยี นชวี ประวัตแิ ละอตั ชีวติ ประวตั ิ

ตวั อยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ (ต่อ)

ใกลจ้ ะสาเร็จการศึกษาชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ พอ่ จึงใหฉ้ นั ไปสมคั รสอบโรงเรยี นประจา
จงั หวัดชุมพรเพ่ือศึกษาตอ่ ช้ันมัธยมตอนปลาย พอ่ อยากใหฉ้ นั เรยี นสายสามญั แตต่ อนน้นั
ฉนั เรม่ิ มีความรสู้ กึ ไมอ่ ยากเรยี นสายสามญั จงึ เลอื กไปศึกษาต่อสายอาชพี ไดศ้ ึกษาที่
วิทยาลัยเทคนคิ ชมุ พร เขต ๑ เรยี นแผนกการขายและการตลาด ทาใหพ้ ่อไมพ่ อใจอยา่ ง
มาก แต่ทาอะไรไม่ได้เพราะฉนั ไม่อยากไปเรียนสายสามัญ เพราะฉนั คิดแค่ว่ามาเรยี น
สายอาชพี จะสบายเขา้ ออกไดต้ ลอดเวลา

การเขยี นชีวประวัติและอัตชวี ติ ประวตั ิ

ตัวอยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ (ตอ่ )

เมื่อไดเ้ ข้ามาศึกษาตอ่ ระดบั ปวช. แลว้ กไ็ มไ่ ด้สบายอย่างที่คดิ เพราะทกุ ๆ โรงเรยี นก็จะมี
ระเบยี บและวนิ ัยทีแ่ ตกตา่ งกนั ฉนั สามารถไว้ผมยาวไดแ้ ต่ตอ้ งมดั ผมให้เรียบรอ้ ย ทกุ ๆ
เดอื นครกู ็จะตรวจผมเช่นเดมิ ฉนั โดนครูตดั ผมแทบทกุ ครง้ั เพราะครูจะให้ปล่อยผมลงมา
ซง่ึ ฉันไดซ้ อยผมมาตลอด พอเรียนอยู่ ปวช. ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ฉนั ต้องออกไปฝกึ งาน
ตามสถานประกอบการ

การเขยี นชวี ประวัตแิ ละอัตชีวติ ประวัติ

ตวั อยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ (ต่อ)

ฉนั ได้ไปฝึกทีร่ ้าน 7-11 วันแรกทไ่ี ด้ฝึกงานทาใหฉ้ นั ตอ้ งรอ้ งไหเ้ พราะทั้งเหนอื่ ยและ
ผจู้ ดั การพูดจาแรง แต่พอผ่านไป ๒-๓ วันฉันเริ่มรู้งานและนิสยั ใจคอผจู้ ดั การและพ่ๆี
รว่ มงานจรงิ ๆแล้วมันก็ไมไ่ ด้เหนื่อยมาก ผูจ้ ดั การกใ็ จดีแตเ่ ขาเปน็ คนพูดจาเสียงดงั ฉนั ก็
อดทนและทาจนผ่าน อีกอย่างฉนั ยังไดเ้ งินเดือนทุกๆ เดอื น จนฝึกงานเสร็จ มนั เป็นเงิน
จานวนหน่งึ ฉันภมู ิใจมากท่ตี วั เองทาได้ จึงนาเงินทั้งหมดใหแ้ ม่ แม่จงึ พาฉันไปซือ้ สร้อยคอ
ฉนั จึงเกบ็ และรักษาไวจ้ นปัจจุบัน

การเขยี นชวี ประวัติและอัตชีวติ ประวัติ

ตัวอยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ (ต่อ)

ต่อมาฉันใกลจ้ ะสาเรจ็ การศึกษาในระดับ ปวช. พ่อจงึ พดู วา่ อยากใหเ้ รยี นหมอหรือครู
ไดท้ างานขา้ ราชการ ฉนั จงึ ลองสมัครสอบครูที่มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสุนนั ทาแต่ไมไ่ ด้
จงึ มาสอบท่มี หาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ฉนั สอบได้จงึ ทาใหพ้ ่อกับแมภ่ ูมใิ จแล้วหนงึ่ ขนั้
ฉนั จึงตดั สนิ ใจมาศึกษาคณะครศุ าสตรท์ ี่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดสุ ติ

การเขยี นชวี ประวตั ิและอัตชีวิตประวัติ

ตวั อยา่ งของการเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ (ต่อ)

สงิ่ ที่น่าภาคภมู ใิ จของฉนั คอื ฉนั ได้มีประสบการณก์ ารฝกึ งานตอนสมัยเรียน ปวช. ๓
ทาใหเ้ ปน็ ความทรงจาท่ดี แี ละฝึกให้ฉันอดทน แต่ในตอนน้ีฉนั รสู้ ึกภูมิใจและปลม้ื ใจมากที่
ไดม้ าเรยี นคณะครศุ าสตร์ เอกการประถมศกึ ษาเป็นรนุ่ แรกของมหาวิทยาลัยราชภฏั สวน
ดสุ ติ ฉนั จะพยายามทาตวั อยา่ งทดี่ ีใหก้ บั รุน่ น้องๆ รุ่นตอ่ ๆ ไป การทฉี่ นั เรียนครทู าใหพ้ ่อ
กับแมภ่ มู ิใจในตัวฉนั แลว้ หนึ่งข้ัน ฉันจงึ พยายามเรียนใหจ้ บเพื่อใบปรญิ ญาไปฝากพอ่
กบั แมจ่ ะไดด้ ใี จและยิ่งภมู ใิ จในตวั ฉันมากขน้ึ

ตวั อยา่ งของการเขยี นชวี ประวตั ิ

มนสั โอภากลุ ... ช้างปา่ ต้น คนสพุ รรณ ต้องถือว่าช่วงตน้ ศักราชใหมน่ ี้ คนไทย
โดยเฉพาะชาวสุพรรณบรุ มี เี ร่อื งให้ภูมใิ จสองเรอ่ื งด้วยกัน เรื่องแรกตลาดรอ้ ยปีสามชุกไดร้ ับ
รางวัล อนุรกั ษม์ รดกทางวัฒนธรรมระดบั ดี (Award of Merit) ในภมู ิภาคเอเชยี แปซฟิ กิ
ปี ๒๕๕๒ จากองค์การศึกษาวทิ ยาศาสตรแ์ ละวัฒนธรรมแหง่ สหประชาชาติ (ยูเนสโก)
โดยนายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเปน็ ตัวแทนชาวชมุ ชนสามชุกและตลาดเกา่ ร้อยปี
รับมอบรางวัล เมอ่ื วันท่ี ๑๑ ธ.ค. ๒๕๕๒ ทผ่ี า่ นมา

ตัวอยา่ งของการเขยี นชวี ประวตั ิ (ต่อ)

มนัส โอภากลุ เปน็ ชาวสพุ รรณโดยกาเนดิ นกั ปราชญ์ในด้านพระเครื่อง
เมอื งสพุ รรณฯ นกั ประวตั ศิ าสตร์ทอ้ งถ่ินผทู้ ุ่มเทกาลงั กายใจศกึ ษาค้นคว้าพลิกอิฐพลิกหิน
ทีละกอ้ น พิเคราะหเ์ ร่อื งราวเกี่ยวกับประวตั ศิ าสตร์เมอื งสพุ รรณด้วยตวั เอง จนสามารถ
โตแ้ ย้ง ทว้ งตงิ ขอ้ มลู ในส่วนคลาดเคลื่อนบดิ เบือนจากความเป็นจรงิ เก่ียวกบั ประวตั ศิ าสตร์
เมอื งสพุ รรณไดอ้ ยา่ งมเี หตุมีผล และเป็นที่ยอมรบั ของนกั ประวตั ศิ าสตร์จาก
สถาบันการศึกษาต่างๆ

ตวั อยา่ งของการเขยี นชวี ประวัติ (ตอ่ )

ชื่อ ‘มนสั โอภากุล’ อาจไม่เปน็ ทร่ี ู้จกั สาหรบั คนหนุ่มสาวในยุคน้ี เพราะสว่ นมากจะ
ไปคุ้นหูเอากบั นามลกู ชายผ้โู ด่งดังเป็น ขุนพลเพลงเพ่อื ชวี ติ ‘ยนื ยง โอภากลุ ’ หรอื แอด๊
คาราบาว เสยี มากกว่า แต่ถา้ เอาช่ือเดียวกนั นไี้ ปถามกล่มุ นกั สะสมพระเครือ่ ง โดยเฉพาะ
พระเครือ่ งเมืองสุพรรณ และนักประวตั ศิ าสตร์ ย่อมไมม่ ใี ครไม่รจู้ กั ครูมนสั เป็นแน่

จากผลงานเขยี นเจาะลกึ เรอื่ งราวเมอื งสุพรรณ อาทิ ประวตั ศิ าสตร์เมืองสพุ รรณ,
พระผงสพุ รรณ, พระกรเุ มืองสพุ รรณ, อูท่ องกบั พระพทุ ธบาทวัดเขาดสี ลักฯ, ศลิ ปะพระ
บูชาแห่งเมอื งสยาม ฉบบั พุทธศลิ ปแ์ หง่ สยาม ฯลฯ ย่อมเป็นเครื่องการันตีภมู ริ ู้ระดับ

เซยี นแห่งเซียน ได้เปน็ อย่างดี

ตัวอยา่ งของการเขยี นชวี ประวัติ (ต่อ)

ครมู นสั โอภากุล นอกเหนอื จากเขียนตาราเกี่ยวกบั พระเคร่อื งเมอื งสุพรรณ
เขียนคอลมั นป์ ระจาใหก้ บั นติ ยสารแนวพระเครอื่ งหลายฉบับ เขยี นบทความเชิงวชิ าการแล้ว
กอ่ นหน้านี้ท่านยงั เคยเปน็ นกนอ้ ยในไร่สม้ ทาหนงั สอื พมิ พ์ท้องถ่นิ ในชื่อหนงั สอื พมิ พ์
คนสุพรรณ

นอกเหนือจากด้านงานเขียนซง่ึ ครมู นสั ได้สาแดงใหป้ ญั ญาชนไดป้ ระจักษถ์ งึ ขีด
ความสามารถแล้ว ในอดตี ครมู นสั ยังเปน็ นักกฬี าท่ีฝึกฝนจนเชียวชาญกฬี าหลายประเภท
โดยเฉพาะบาสเกตบอลเคยสร้างชื่อเสียงโดง่ ดังระดบั ประเทศมาแล้ว จากการเปน็ นกั กฬี า
ทีมบาสเกตบอลชายทมี ป่วยพ้ง(อนิ ทรีบนิ )ของโรงเรยี นเผยอิง ครองแชมป์ชนะเลศิ หลาย

สมัยตดิ ตอ่ กัน กระทั่งหนงั สอื พมิ พจ์ ีนให้ฉายาวา่ ๕ เสือ

ตัวอยา่ งของการเขยี นชวี ประวัติ (ตอ่ )

หนั มาดูทางด้านดนตรี ครมู นัส โอภากุล เคยก่อตง้ั วงดนตรีสากลในชอ่ื มนสั และ
สหาย ซึ่งถอื ไดว้ ่าเปน็ วงดนตรีสากลวงแรกของจังหวัดสุพรรณขณะนั้น ก่อนเปล่ยี นชื่อวง
เปน็ ช.ส.พ. ในเวลาตอ่ มา และดว้ ยการทาหนา้ ที่หวั หน้าวง ช.ส.พ. นี้เอง ทาให้ครมู นสั ไดม้ ี
โอกาสเลน่ ดนตรี หนา้ พระทีน่ ง่ั ในคราวทีใ่ นหลวงเสด็จเพอ่ื ทรงเปดิ เข่ือนชลมารคพจิ ารณ์
พร้อมทงั้ เสด็จเยอื นโครงการชลประทานโพธพิ์ ระยา อาเภอเมืองสพุ รรณบุรี พ.ศ. ๒๔๘๗

ตัวอยา่ งของการเขยี นชวี ประวตั ิ (ตอ่ )

จากความสามารถดา้ นดนตรีสากลจนสรา้ งสามารถกอ่ ตั้งวงเอง ไดก้ ลายเป็น
เบา้ หลอมให้ลูกชายคนสดุ ทอ้ ง ยืนยง โอภากุล ประพมิ พ์ประพายเจริญรอยตาม
รวมท้งั ไดร้ บั การสนบั สนุนจากบิดาใหร้ กั หลงใหลในมนตเ์ พลงเสยี งดนตรตี งั้ แต่วัยเดก็
จนประสบความสาเร็จพัฒนาตนเปน็ หวั หนา้ วงดนตรียงิ่ ใหญข่ องประเทศ ๒๔๘๗

จบการนาเสนอ


Click to View FlipBook Version