ค ำน ำ คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ที่โรงเรียนพินิจราษฎร์บ ารุงจัดท าขึ้น เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองได้ใช้ศึกษาและท าความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียน การสอน แผนการสอนระเบียบและแนวปฏิบัติตน ตลอดจนข้อมูลต่าง ๆ ของโรงเรียน ซึ่งเป็นที่จ าเป็นอย่างยิ่ง ที่นักเรียนและผู้ปกครองจะต้องทราบ รายละเอียด ในเรื่องราวต่าง ๆ ดังกล่าว การเข้าเป็นนักเรียนในโรงเรียน นักเรียน จะต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด ส าหรับผู้ปกครอง จ าเป็นจะต้องทราบรายละเอียดของ ระเบียบ เพราะจะได้ช่วยควบคุม และค ากล่าวตักเตือน เพื่อมิให้นักเรียนประพฤติผิด ระเบียบของโรงเรียนส าหรับหลักสูตรการเรียนการสอน และแผนการสอน นักเรียน และผู้ปกครองก็จ าเป็นจะต้องศึกษาและท าความเข้าใจ ทั้งนี้ เพราะนักเรียนแต่ละคน มีความรู้ ความสามารถ และความสนใจซึ่งผู้ปกครองก็มีส่วนช่วยให้ค าปรึกษาหารือใน การตัดสินใจเลือกแผนการเรียนในระดับสูงขึ้นต่อไป ดังนั้น โรงเรียนพินิจราษฎร์บ ารุงจึงได้จัดท าคู่มือนักเรียนและ ผู้ปกครองขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้ใช้เป็นแนวทางในการศึกษาท าความเข้าใจและรับทราบ ในเรื่องการเรียนการสอนโรงเรียนพินิจราษฎร์บ ารุงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือนักเรียน ผู้ปกครองเล่มนี้คงจะอ านวยประโยชน์แก่นักเรียนในการที่จะเข้าศึกษาเล่าเรียน คณะผู้จัดท า (นายศราวุ ธ ศรีประภา ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพินิจราษฎร์บ ารุง น ( น) ำ น ค ำ น วิชาการเด่น เน้นคุณธรรม น ากี า พั นา สามัคคี ค น น กยิราเจ กยิราเถน "จะท าสิ่งไร ควรท าให้จริง"๑ แดง เหลือง
น . . ” ำ น การศึกษา คือ ชีวิต (ชีวิต คือ ความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ) น โรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน น นักเรียนอ่านออก เขียนได้ ลายมือสวย น โรงเรียนพินิจราษฎร์บ ารุง ตั้งอยู่บ้านยางตลาด หมู่ที่ 1 ต าบลยางตลาด อ าเภอยางตลาด จังหวัดกา สินธุ์ เนื้อที่ 20 ไร่ 2 งาน ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2464 โดยอาศัยศาลาวัดบ้านค้อ มีนายบุญจันทร์ ศรีพันล า เป็น ครูใหญ่คนแรก ปี พ.ศ. 2471 หลวงพินิจนนทราษฎร์ นายอ าเภอยางตลาดได้สร้าง อาคารเรียนขึ้นใหม่ เป็นเอกเทศในที่ดินปัจจุบันตั้งชื่อว่า “โรงเรียนประชาบาลต าบลยางตลาด (พินิจ ราษฎร์บ ารุง) มีโรงเรียนสาขา 4 โรงเรียน เปิดท าการสอนชั้น ป.1 – ป.6 ต่อมายุบเหลือเพียงชั้น ป.1 – ป. 4 ปี พ.ศ. 2491 ทางราชการได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนบ้านยางตลาด (พินิจราษฎร์บ ารุง ) ปี พ.ศ. 2500 เปิดท าการสอนตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก ถึงชั้น ป.4 และ ขยายเปิดชั้นประถมศึกษา ตอนปลาย ป.5, ป.6 และขยายถึง ป.7 ในปี พ.ศ. 2504 ปี พ.ศ. 2521 โรงเรียนใช้หลักสูตรพุทธศักราช 2521 เรื่อยมา และ ฉบับปรับปรุง 2533 2 ๓
ปี พ.ศ. 2545 เปลี่ยนชื่อโรงเรียนจากโรงเรียนบ้านยางตลาด (พินิจราษฎร์บ ารุง) เป็นโรงเรียน พินิจราษฎร์บ ารุง เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2545 ปี พ.ศ. 2546เปลี่ยนมาใช้หลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช 2544 และเปลี่ยนสังกัดจาก ส านักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ มาเป็นส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานปัจจุบันโรงเรียนมีเขตบริการ 6 หมู่บ้าน คือ บ้านยางตลาดหมู่ที่ 1 บ้านค้อหมู่ที่ 3 บ้านโคกหมู่ที่ 4 บ้านยางน้อย หมู่ที่ 6บ้านอร่ามมงคลหมู่ที่ 9 บ้านดอนปอแดงหมู่ที่ 20 โรงเรียนเปิดท าการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มี ครู จ านวน 46 คน ครูธุรการ จ านวน 1 คน ครูพี่เลี้ยงเด็กพิเศษ จ านวน 1 คน พนักงานราชการ จ านวน 1 คน ช่างไฟฟ้า 4 จ านวน 2 คน โดยมี นายศราวุธ ศรีประภา เป็นผู้อ านวยการโรงเรียน นายมนตรี รัตนศรี เป็นรองผู้อ านวยการโรงเรียน นายศราวุธ บัวใหญ่รักษา เป็นรองผู้อ านวยการโรงเรียน นายประสงค์ สกุลซ้ง เป็นผู้ช่วยผู้อ านวยการโรงเรียน ท ศน ( Vision ) “โรงเรียนพินิจราษฎร์บ ารุง เป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาตาม มาตรฐานการศึกษา พั นาการจัดกิจกรรมเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ บนพื้นฐานความเป็นไทย ใส่ใจสุขภาพ พร้อมน้อมน า หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบริหารจัดการสถานศึกษา และประสานชุมชน เข้ามามีส่วนร่วม” นธ ( Missions ) 1. ส่งเสริมและพั นาหลักสูตรสถานศึกษา ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการ จัดการศึกษา 2. ส่งเสริมและพั นาระบบการบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา 3. ยกระดับการจัดการเรียนการสอนเทียบเคียงมาตรฐานสากล (World Class Standard) และส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) 4. พั นาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามหลักสูตรสถานศึกษา มีศักยภาพเป็นพล โลก (World Citizen) และ มีอัจฉริยภาพมุ่งสู่เวทีการแข่งขันทางวิชาการทุกระดับ 5. พั นาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรสถานศึกษา และในระดับเดียวกับ มาตรฐานสากลบนพื้นฐานความเป็นไทย 6. ส่งเสริมและพั นาบุคลากรในการน านวัตกรรม / ผลวิจัยไปใช้ เพื่อความ เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ 4 5
7. พั นาศูนย์การเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ เพื่อสนับสนุนการพั นาให้ผู้เรียนมี อัจฉริยภาพ 8. ส่งเสริมให้องค์กรภายนอก ชุมชน ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้า มามีส่วนร่วมในการวางแผนในการพั นาคุณภาพการศึกษา 9. ส่งเสริม และสนับสนุน ให้คณะครูและบุคลากร น าหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง มาบูรณาการในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และบริหารจัดการศึกษา ้ำหมำ น 1. สถานศึกษามีหลักสูตรสถานศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการจัด การศึกษา และมาตรฐานสากล มุ่งเน้นพั นาผู้เรียนอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทุก กลุ่มเป้าหมาย 2. สถานศึกษาน าหลักสูตรไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีการ ประเมิน ทบทวน ตรวจสอบ ปรับปรุง และรายงานผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา 3. สถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการคุณภาพตามรูปแบบการบริหาร Pinij Model มุ่งเน้น การมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน 4. ครูจัดกระบวนการเรียนรู้ตามบันได 5 ขั้นของการพั นาผู้เรียนสู่ มาตรฐานสากล (Five Step for student Development) และเน้นผู้เรียนเป็น ส าคัญโดยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) 5. ครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการ สอน และบริหารจัดการ ชั้นเรียนเชิงบวก 6. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา มีคุณลักษณะของ ผู้เรียนตาม มาตรฐานสากล มีทักษะความรู้ ความสามารถขั้นสูงมากกว่าระดับปรกติ 7. ผู้เรียนมีความรู้ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ยึดหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 8. ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ยอมรับ การอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย 9. ผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิทัล คิดประดิษฐ์อย่างมีความสามารถใน การปรับตัว มีทักษะ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิผล มีความสามารถในการใช้ทักษะ ชีวิต และการใช้เทคโนโลยี 10. ครูมีความสามารถในการศึกษาค้นคว้าพั นางาน พั นาตนเองจาก แหล่งวิชาการต่าง ๆ ใช้แหล่ง เรียนรู้และพั นาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศในการ จัดการเรียนการสอน ใช้การวิจัย สื่อ นวัตกรรม มีการตรวจสอบ ประเมินผู้เรียน อย่างเป็นระบบ และน าผลมาพั นาผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง 11. สถานศึกษาพั นาครูให้เป็นผู้น าและมีความเชี่ยวชาญในการจัดการ เรียนรู้เฉพาะด้าน สามารถใช้ ภาษาต่างประเทศ และใช้เทคโนโลยีในการจัดการ เรียนรู้ 12. สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพ และสังคมที่เอื้อต่อการ เรียนรู้ การใช้บริการอย่างมีคุณภาพจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสนับสนุน การบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ 6 7
มีสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพระดับมาตรฐานสากลเพียงพอต่อนักเรียน มีเครือข่าย อินเทอร์เน็ตแบบความเร็วสูงเชื่อมโยงครอบคลุม พื้นที่ของโรงเรียน ำ ำ ำ หมำ ห ุ 07.30 – 08.00 น. รับเด็กจากผู้ปกครอง 08.00 – 08.30 น. ร่วมกิจกรรมจิตอาสาเขตบริการ สนามเด็กเล่น 08.30 – 08.45 น. กิจกรรมหน้าเสาธง 08.45 – 09.00 น. กิจกรรมสนทนา ข่าวเหตุการณ์ 09.00 – 09.20 น. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 09.20 – 09.40 น. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ 09.40 – 10.20 น. กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ 10.20 – 10.40 น. กิจกรรมเสรี 10.40 – 11.00 น. กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง 11.00 – 12.30 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน 12.30 – 13.00 น. ล้างหน้า / แปรงฟัน 13.00 – 14.30 น. สวดมนต์ / นั่งสมาธิ / นอนพักผ่อน 14.30 – 14.45 น. ตื่นนอน / เก็บที่นอน / ล้างหน้า / ทาแป้ง 14.45 – 15.00 น. ดื่มนม 15.00 – 15.30 น. กิจกรรมเกมการศึกษา 15.30 – 16.00 น. ผู้ปกครองรับกลับบ้าน ำ ำ ม ำ น น น ำ ฎ บ ำ ุ ้น นุบำ ีท ่ 1 – ้น นุบำ ีท ่ 3 8 9
ำ ด ำ น ู การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการส าคัญในการน าหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะส าคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็นเป้าหมายส าหรับ พั นาเด็กและเยาวชน ในการพั นาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอน พยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ ผ่านสาระที่ก าหนดไว้ในหลักสูตร 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้รวมทั้งปลูกฝัง เสริมสร้าง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ พั นาทักษะต่าง ๆ อันเป็นสมรรถนะส าคัญให้ผู้เรียน บรรลุตามเป้าหมาย คุ น ึ ค ข้อที่ 1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ข้อที่ 2 ซื่อสัตย์สุจริต ข้อที่ 3 มีวินัย ข้อที่ 4 ใฝ่เรียนรู้ ข้อที่ 5 อยู่อย่างพอเพียง ข้อที่ 6 มุ่งมั่นในการท างาน ข้อที่ 7 รักความเป็นไทย ข้อที่ 8 มีจิตสาธารณะ บทบำท ผู นแ ผู น การจัดการเรียนรู้เพื่อให้มีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ผู้สอน และผู้เรียนควรมีบทบาท ดังนี้ บทบำท ผู น 1) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วน าข้อมูลมาใช้ ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ท้าทายความสามารถของผู้เรียน 2) ก าหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และ ทักษะกระบวนการ ที่เป็น ความคิดรวบยอด หลักการ และความสัมพันธ์ รวมทั้ง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่าง ระหว่างบุคคลและ พั นาการทางสมอง เพื่อน าผู้เรียนไปสู่เป้าหมาย 4) จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือผู้เรียน ให้เกิดการเรียนรู้ 5) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม น าภูมิปัญญา ท้องถิ่น เทคโนโลยี ที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน 6) ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติของวิชา และระดับพั นาการของผู้เรียน 7) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพั นาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุงการจัดการ เรียนการสอนของตนเอง บทบาทของผู้เรียน 1) ก าหนดเป้าหมาย วางแผน และรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง 2) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งค าถาม คิดหา ค าตอบหรือหาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวิธีการ ต่าง ๆ 10 11
3) ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน สถานการณ์ต่าง ๆ 4) มีปฏิสัมพันธ์ ท างาน ท ากิจกรรมร่วมกับกลุ่มและครู 5) ประเมินและพั นากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง ฑ ำ ดแ ม นผ ำ น 1. การตัดสิน การให้ระดับและการรายงานผลการเรียน 1.1 การตัดสินผลการเรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ก าหนดหลักเกณฑ์การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อตัดสิน ผลการเรียนของผู้เรียน ดังนี้ 1) ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียน ทั้งหมด ตามเวลาในโครงสร้างเวลาเรียน 2) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดและผ่านตามเกณฑ์ที่ ก าหนด 3) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา 4) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่าน ตามเกณฑ์ที่ก าหนด ในการอ่านคิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ กิจกรรมเสริม หลักสูตร และกิจกรรมพั นาผู้เรียน เพื่อให้การจัดการเรียนรู้ บังเกิดผลผู้เรียน ต้องได้รับการพั นาอย่างเพียงพอในความรู้ ทักษะ คุณลักษณะที่ก าหนดในตัวชี้วัด โดยมีเวลาเรียน ที่เพียงพอต่อการพั นาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนตลอด ปีการศึกษา การตัดสินผลการเรียน ตัดสินเป็นรายวิชา โดยใช้ผลการประเมิน ระหว่างปีและปลายปี ตามสัดส่วนที่ก าหนด ทุกรายวิชาต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนตามแนวทางการ ให้ระดับผลการเรียนและผู้เรียน ต้องผ่านทุกรายวิชาพื้นฐาน 12 13
1.2 การให้ระดับผลการเรียน 1. การตัดสินผลการเรียนรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้ง 8 กลุ่ม สาระ และสาระการศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง ให้ใช้ระบบตัวเลขแสดงระดับผล การเรียน ดังนี้ ตัดสินผลการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผู้เรียนต้องเรียนรู้ตามกลุ่ม สาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม (กรณีจัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม) ครบทุกรายวิชาในแต่ ละชั้นปีตามโครงสร้าง หลักสูตรของโรงเรียน 2. การประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และการเขียน เป็นผ่านและไม่ ผ่าน ถ้ากรณี ที่ผ่านก าหนด เกณฑ์การตัดสินเป็นระดับคุณภาพ 3 ระดับ ดังนี้ ด บคุ ภำ 3 หมำ ถึ ด ่ ม ด บคุ ภำ 2 หมำ ถึ ด ด บผ ำ น ค ำมหมำ ค แนน ็น 4 ผลการเรียนดีเยี่ยม 80 – 100 3.5 ผลการเรียนดีมาก 75 – 79 3 ผลการเรียนดี 70 – 74 2.5 ผลการเรียนค่อนข้างดี 65 – 69 2 ผลการเรียนน่าพอใจ 60 – 64 1.5 ผลการเรียนพอใช้ 55 – 59 1 ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ า 50 – 54 0 ผลการเรียนต่ ากว่าเกณฑ์ขั้นต่ า 0 – 49 ด บคุ ภำ 1 หมำ ถึ ผ ำน ฑ ำ ม น ด บคุ ภำ 0 หมำ ถึ ไม ผ ำน 3. การประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์รวมทุกคุณลักษณะเพื่อการ เลื่อนชั้นและจบการศึกษา เป็นผ่านและไม่ผ่าน ในการผ่าน ก าหนดเกณฑ์การตัดสิน เป็นระดับคุณภาพ 3 ระดับ ดังนี้ ด บคุ ภำ 3 หมำ ถึ ด ่ ม ด บคุ ภำ 2 หมำ ถึ ด ด บคุ ภำ 1 หมำ ถึ ผ ำน ฑ ำ ม น ด บคุ ภำ 0 หมำ ถึ ไม ผ ำน การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เพื่อ ตัดสินให้ถือคะแนนฐานนิยม 4. การประเมินกิจกรรมพั นาผู้เรียน มี 3 ลักษณะ คือ 1) กิจกรรมแนะแนว 2) กิจกรรมนักเรียน ซึ่งประกอบด้วย (1) กิจกรรมลูกเสือ ยุวกาชาด โดย ผู้เรียนเลือกอย่างใดอย่าง หนึ่ง 1 กิจกรรม (2) กิจกรรมชุมนุม 3) กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ การประเมินจะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การ ปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่ก าหนดและให้ผลการประเมิน เป็น “ผ่าน” และ “ไม่ผ่าน” “ 14 15
ผ่าน” หรือ “ผ” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพั นาผู้เรียนทั้ง 3 กิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรม และมีผลงานตามเกณฑ์ที่ก าหนด “ไม่ผ่าน” หรือ “มผ” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพั นาผู้เรียน ทั้ง 3 กิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรมและมีผลงานไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ก าหนด 5. การประเมินกิจกรรมเสริมหลักสูตร การประเมินจะต้องพิจารณา ทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของ ผู้เรียนตามเกณฑ์ ที่ก าหนดและให้ผลการประเมินเป็น “ผ่าน” และ “ไม่ผ่าน” “ผ่าน” หรือ “ผ” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติ กิจกรรม และมีผลงานตาม เกณฑ์ที่ก าหนด “ไม่ผ่าน” หรือ “มผ” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติ กิจกรรม และมีผลงาน ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ก าหนด ในกรณีที่ผู้เรียนได้ผลของกิจกรรมเป็น “มผ” ครูผู้ดูแลต้องจัดซ่อมเสริม ให้ผู้เรียนท า กิจกรรม ในส่วนที่ผู้เรียนไม่ได้เข้าร่วมหรือไม่ได้ท าจนครบถ้วนแล้ว จึงเปลี่ยนผลจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้ ทั้งนี้ต้องด าเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปี การศึกษานั้น ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา 1.3 การเลื่อนชั้น ผู้เรียนจะได้รับการเลื่อนชั้น เมื่อสิ้นปีการศึกษาและมีคุณสมบัติ ตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1. ผู้เรียนมีเวลาเรียนตลอดปีการศึกษาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลา เรียนทั้งหมด 2. ผู้เรียนได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด / ทุกผลการเรียนรู้ และต้องมีผล การประเมินผ่าน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ทั้งหมด 3. ผู้เรียนมีผลการประเมินตั้งแต่ระดับ 1 ขึ้นไป ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 4. ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ในระดับ ผ่าน ขึ้นไป 5. ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับ ผ่าน ขึ้นไป 6. ผู้เรียนมีผลการประเมินกิจกรรมพั นาผู้เรียนในระดับ ผ่าน ขึ้นไป ทั้งนี้ ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณา เห็นว่าสามารถพั นา และสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ที่จะผ่อนผันให้เลื่อนชั้นได้ อนึ่ง ในกรณีที่ผู้เรียนมีหลักฐานการเรียนรู้ที่แสดงว่า มีความสามารถดีเลิศ สถานศึกษาอาจให้ โอกาสผู้เรียนเลื่อนชั้นกลางปีการศึกษา โดยสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วย ฝ่ายวิชาการของ สถานศึกษา และผู้แทนของเขตพื้นที่การศึกษาหรือต้นสังกัด ประเมินผู้เรียนและตรวจสอบ คุณสมบัติให้ครบถ้วน ตามเงื่อนไขทั้ง 3 ประการ ต่อไปนี้ 1) มีผลการเรียนในปีการศึกษาที่ผ่านมาและมีผลการเรียนระหว่างปีที่ก าลัง ศึกษาอยู่ในเกณฑ์ ดีเยี่ยม 2) มีวุ ิภาวะเหมาะสมที่จะเรียนในชั้นที่สูงขึ้น 3) ผ่านการประเมินผลความรู้ความสามารถทุกรายวิชาของชั้นปีที่เรียน ปัจจุบัน และความรู้ ความสามารถทุกรายวิชาในภาคเรียนแรกของชั้นปีที่จะเลื่อนขึ้น การอนุมัติให้เลื่อนชั้นกลางปีการศึกษาไปเรียน ชั้นสูงขึ้นได้ 1 ระดับชั้นนี้ ต้องได้รับ การยินยอมจากผู้เรียนและผู้ปกครอง และต้องด าเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนเปิด ภาคเรียนที่ 2 ของปีการศึกษานั้น ส าหรับในกรณีที่พบว่ามีผู้เรียนกลุ่มพิเศษประเภทต่าง ๆ มีปัญหาในการ เรียนรู้ ให้ สถานศึกษาด าเนินงานร่วมกับส านักงานเขตพื้นที่ 16 17
การศึกษา/ศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัด/ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา/ หน่วยงานต้นสังกัด โรงเรียนเฉพาะความพิการ หาแนวทางการแก้ไขและพั นา 1.4 การสอนซ่อมเสริม การสอนซ่อมเสริม เป็นการสอนเพื่อแก้ไข ข้อบกพร่อง กรณีที่ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ กระบวนการ หรือเจตคติ/คุณลักษณะไม่ เป็นไปตามเกณฑ์ที่ก าหนด สถานศึกษาต้องจัดสอนซ่อมเสริมเป็นกรณี พิเศษ นอกเหนือไปจากการสอนตามปกติ เพื่อพั นาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุตามมาตรฐาน การเรียนรู้/ตัวชี้วัดที่ ก าหนดไว้ เป็นการให้โอกาสแก่ผู้เรียนได้เรียนรู้และพั นา โดย จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและ ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล 1.5 การเรียนซ้ าชั้น ผู้เรียนที่ไม่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การเลื่อนชั้น จะต้อง เรียนซ้ าชั้น แต่ทั้งนี้อาจได้รับ การพิจารณาให้เลื่อนชั้นได้ หากผู้เรียนมีคุณสมบัติข้อ ใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้ 1. เวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 อันเนื่องจากสาเหตุจ าเป็นหรือเหตุสุดวิสัย แต่มีคุณสมบัติตาม เกณฑ์การเลื่อนชั้นในข้ออื่น ๆ ครบถ้วน 2. ผู้เรียนมีผลการประเมินผ่านมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดไม่ถึงเกณฑ์ ตามที่ก าหนดใน แต่ละรายวิชา แต่เห็นว่าสามารถสอนซ่อมเสริมได้ในปีการศึกษา นั้น และมีคุณสมบัติ ตามเกณฑ์การเลื่อนชั้น ในข้ออื่นๆ ครบถ้วน 3. ผู้เรียนมีผลการประเมินรายวิชาในกลุ่มสาระภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ศึกษาศาสนาและวั นธรรมอยู่ในระดับผ่านก่อนที่จะให้ผู้เรียน เรียนซ้ าชั้น สถานศึกษาควรแจ้งให้ผู้ปกครองและ ผู้เรียนทราบเหตุผลของการเรียน ซ้ าชั้น ฑ ำ บ ำ ศึ ำ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพินิจราษฎร์บ ารุง ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ก าหนดเกณฑ์ส าหรับการจบ การศึกษา ก าหนดเกณฑ์กลางส าหรับการจบการศึกษาเป็น 1 ระดับ คือ ระดับ ประถมศึกษา ดังนี้ (1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตาม โครงสร้างเวลาเรียนที่ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานก าหนด (2) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษา ก าหนด (3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่าน เกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษาก าหนด (4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่ สถานศึกษาก าหนด (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพั นาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่ สถานศึกษาก าหนด 18 19
ำ ำ ำนผ ำ น การรายงานผลการเรียนเป็นการสื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบ ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและ จัดท าเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะ ๆ หรือ อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของ ผู้เรียนที่สะท้อนมาตรฐาน การเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ำ ห ฐำน ำ ศึ ำ เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารส าคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูล และสารสนเทศ ที่เกี่ยวข้องกับ พั นาการของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการก าหนด ประกอบด้วย 1) ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) 2) ประกาศนียบัตร (ปพ.2) (ส าหรับนักเรียนจบการศึกษาภาคบังคับ คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3) 3) แบบรายงานผู้ส าเร็จการศึกษา (ปพ.3) 2. ำ ห ฐำน ำ ศึ ำท ่ ถำนศึ ำ ำหนด บด 1) แบบบันทึกการพั นาคุณภาพผู้เรียน (ปพ.5) เป็นเอกสารส าหรับ ผู้สอนใช้บันทึกเวลาเรียน ข้อมูลผลการวัดและประเมินผล การเรียนกลุ่ม สาระ การเรียนรู้ กิจกรรมพั นาผู้เรียน ข้อมูลการประเมินความสามารถในการอ่านคิด วิเคราะห์ และเขียน และ ข้อมูลการพั นาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน แต่ละคนที่เรียน ในห้องเรียนหรือกลุ่มเดียวกัน เพื่อใช้เป็น ข้อมูลในการจัด กิจกรรมการเรียนการสอน ปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริมและตัดสินผล การเรียนของ ผู้เรียน รวมทั้งใช้ เป็นหลักฐานส าหรับตรวจสอบ ยืนยันสภาพการเรียน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ และผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนแต่ละคน 2) แบบรายงานผลการพั นาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ.6) เป็นเอกสารส าหรับบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผลการเรียน พั นาการในด้านต่าง ๆ และข้อมูลอื่น ๆ ของผู้เรียน ทั้งที่สถานศึกษาและที่บ้าน เพื่อใช้ส าหรับสื่อสาร ระหว่างสถานศึกษากับผู้ปกครองของผู้เรียน ให้รับทราบและเกิดความเข้าใจ ในตัวผู้เรียนร่วมกัน 3) ใบรับรองผลการศึกษา (ปพ.7) เป็นเอกสารที่สถานศึกษาออกให้กับ ผู้เรียนเป็นการเฉพาะกิจเพื่อรับรองสถานภาพทางการศึกษา ของผู้เรียนเป็นการ ชั่วคราว ทั้งกรณีผู้เรียนยังไม่ส าเร็จการศึกษาและส าเร็จการศึกษาแล้ว ทั้งนี้มีอายุ การใช้งาน ได้ไม่เกิน 60 วัน 4) ระเบียนสะสม (ปพ.8) เป็นเอกสารส าหรับบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับ พั นาการและผลงานด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนทั้งที่ สถานศึกษาและที่บ้าน เพื่อประโยชน์ในการแนะแนวผู้เรียน ในทุก ๆ ด้าน 20 21
บ บ ำ น น ำ ฎ บ ำ ุ ำ บ น น 1. ให้ผู้ปกครองมาส่งนักเรียนที่โรงเรียนตั้งแต่เวลา 7.00 น. เป็นต้นไป 2. ให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนที่โรงเรียนตามเวลา ดังนี้ 2.1 ระดับก่อนประถมศึกษาให้มารับนักเรียนได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. 2.2 ระดับประถมศึกษาให้มารับนักเรียนได้ตั้งแต่เวลา 15.30 น. ไม่เกิน เวลา 17.00 น. โดยครูเวรประจ าวันจะดูแลการส่งนักเรียนจนถึงเวลา 17.30 น. 3. ในกรณีที่ท่านไม่สามารถมารับนักเรียนได้เองในเวลาที่ก าหนด ให้ผู้ปกครอง แจ้งครูประจ าชั้น ได้รับทราบ และทางโรงเรียนจะจัดครูเวรมาดูแทน และให้นักเรียน ท ากิจกรรมบ าเพ็ญประโยชน์และปฏิบัติตามมาตรการของโรงเรียน 4. ให้ผู้ปกครองรับ - ส่ง นักเรียน ได้ในจุดที่โรงเรียนก าหนดเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ ผู้ปกครองที่ขับขี่ยานพาหนะ รถมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ส่วนบุคคล มารับ-ส่ง นักเรียน ถึงหน้าอาคารเรียน หรือหน้าห้องเรียนของนักเรียน (เพื่อความปลอดภัยและการ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุกับนักเรียน) ำ แ ำ 1. ำ ไ ท ผม น น ำ นักเรียนชายจะไว้ผมสั้นหรือรองทรงสูงก็ได้ กรณีไว้ผมยาว ด้านข้าง ด้านหลัง ต้องยาวไม่เลยตีนผม ด้านหน้าและกลางศีรษะให้เป็นไปตาม ความเหมาะสม และมีความเรียบร้อย น นห นักเรียนหญิงให้ไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีที่ไว้ผมยาว ให้ถักเปียผม รัดผมด้วยยางรัดผมสีด า ใช้โบผูกผมสีขาว หรือ สีกรมท่า และห้าม สวมใส่เครื่องประดับ เช่น ต่างหูแฟชั่น แหวน กิ๊บติดผมสีสดใส 2. ค ื่ แบบน น ด บ น ถมศึ ำ ุดน น น น ำ 1. เสื้อนักเรียน ผ้าสีขาว แบบคอเชิ้ต แขนสั้น กระดุมหน้า เอวจั๊ม 2. กางเกงนักเรียนตามสีที่โรงเรียนก าหนดขาสั้น 3. ผ้ากันเปื้อนตามสีของห้องเรียน 4. เครื่องหมาย - หน้าอกเสื้อด้านขวา ปักชื่อและนามสกุลกระเป๋าเสื้อ นักเรียนด้านซ้ายปักด้วยอักษรย่อของโรงเรียน ด้ายหรือไหมสีน้ าเงิน 5. รองเท้าหนังสีด า แบบหุ้มส้น 6. ถุงเท้านักเรียนข้อสั้นสีขาว 22 23
น นห 1. เสื้อนักเรียน ผ้าสีขาว แบบคอบัว แขนสั้น นุ่งทับ 2. กระโปรงนักเรียนสีที่โรงเรียนก าหนดแบบจีบรอบ 3. ผ้ากันเปื้อนสีตามห้องเรียน 4. เครื่องหมาย - หน้าอกเสื้อด้านขวา ปักชื่อและนามสกุลกระเป๋าเสื้อนักเรียน ด้านซ้ายปักด้วยอักษรย่อของโรงเรียน ด้ายหรือไหมสีน้ าเงิน 5. รองเท้าหนังสีด า แบบหุ้มส้น 6. ถุงเท้านักเรียนข้อสั้นสีขาว ุด ศึ ำ ด บ น ถมศึ ำ 1. เสื้อพลศึกษาตามสีของห้องเรียน 2. กางเกงพละขาสั้นสีด า ตามแบบของโรงเรียน ุด ฒนธ ม 1. เสื้อสีชมพู ตามแบบของโรงเรียน 2. กางเกงลายไทย ตามแบบของโรงเรียน ด บ ถมศึ ำ ๑. ุดน น น น ำ 1. เสื้อนักเรียน ผ้าสีขาว แบบคอเชิ้ต แขนสั้น กระดุมหน้า 2. กางเกงนักเรียนขาสั้น สีกากี 3. เครื่องหมาย - หน้าอกเสื้อด้านขวา ปักชื่อและนามสกุลกระเป๋าเสื้อนักเรียน ด้านซ้ายปักด้วยอักษรย่อของโรงเรียน ด้ายหรือไหมสีน้ าเงิน 4. เข็มขัดหนังสีน้ าตาล ตามแบบของโรงเรียน 5. รองเท้าผ้าใบสีน้ าตาล แบบหุ้มส้น 6. ถุงเท้าข้อยาวสีน้ าตาล ไม่มีลวดลาย น นห 1. เสื้อนักเรียน ผ้าสีขาว แบบคอบัว แขนสั้น 2. กระโปรงนักเรียนสีน้ าเงิน/กรมท่าแบบจีบรอบ 3. เครื่องหมาย - หน้าอกเสื้อด้านขวา ปักชื่อและนามสกุลกระเป๋าเสื้อ นักเรียนด้านซ้ายปักด้วยอักษรย่อของโรงเรียน ด้ายหรือไหมสีน้ าเงิน 4. รองเท้าหนังสีด าแบบหุ้มส้น 5. ถุงเท้าข้อสั้นสีขาวไม่มีลวดลาย ๒. ุด ศึ ำ 1. เสื้อพลศึกษาตามแบบของโรงเรียน 2. กางเกงวอร์มสีด าขายาว 3. รองเท้านักเรียนชายสวมรองเท้าผ้าใบสีน้ าตาล ถุงเท้าสีน้ าตาล 4. รองเท้านักเรียนหญิงสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ถุงเท้าสีขาว ๓. ุด ู ื ุ ำ ำด ให้แต่งกายตามระเบียบการแต่งกายของ ลูกเสือและยุวกาชาด ๔. ุด ื้น มื แต่งกายชุดพื้นเมืองให้แต่งกายตามแบบที่โรงเรียน ก าหนดในวันศุกร์และวันส าคัญอื่น ๆ 24 25
ำ บน น 1. การรับนักเรียนตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ในชั้นอนุบาล 3 ขวบ ชั้นอนุบาลปีที่ 2, ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2. การรับย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา (ทุกระดับชั้น/ทุกชั้นเรียน) ๒.1 จ านวนนักเรียนเป็นไปตามเกณฑ์ที่ สพฐ.ก าหนด ถ้าเกินเกณฑ์ไม่ สามารถรับย้ายได้ ๒.2 ในกรณีที่รับย้าย (ระดับก่อนประถมศึกษา) จะต้องมีการประเมิน ความพร้อมด้านพั นาการ ทั้ง 4 ด้าน (ร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม สติปัญญา) ๒.3 ในกรณีที่รับย้าย (ระดับประถมศึกษา) จะต้องมีการประเมิน ความรู้ความสามารถตามเกณฑ์ ขั้นต่ าร้อยละ 60 ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ ุ ภำ แ ำ น ุบ ห ุ 1. ทางโรงเรียนจะให้นักเรียนท าประกันอุบัติเหตุทุกคน 2. กรณีที่นักเรียนเจ็บป่วยกรุณาแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ และถ้านักเรียน มีความจ าเป็น ในการรับประทานยาในขณะที่อยู่โรงเรียนควรแจ้งให้ครูพร้อมบอก ค าแนะน าในการใช้ยา กรณีที่เด็กป่วยควรให้ พักผ่อนอยู่บ้าน ำหำ ทางโรงเรียนเตรียมอาหารกลางวันและอาหารเสริม (นม) ให้กับนักเรียน ทุกคน ในกรณีที่นักเรียน แพ้อาหารหรือทานอาหารบางชนิดไม่ได้ กรุณาแจ้งให้กับ ทางโรงเรียนทราบด้วยและไม่อนุญาตให้น าขนมและของคบเคี้ยวทุกชนิดมา รับประทานในห้องเรียนทั้งก่อนและหลังโรงเรียนเลิก การซื้อ น้ าดื่ม เครื่องดื่ม ขนมคบเคี้ยว (ร้านค้าภายในสถานศึกษา อนุญาตให้นักเรียนซื้อได้ในช่วง เช้า เวลา 06.30 – 07.50 น. ก่อนจัดกิจกรรมเคารพธงชาติ และเวลา พัก เที่ยง 11.30 – 12.30 น.) นอกเหนือจากเวลาดังกล่าวไม่อนุญาตให้นักเรียนซื้อ “ยกเว้นอุปกรณ์การเรียน และได้รับอนุญาตจากครูประจ าชั้น/ประจ าวิชา เท่านั้น) การลงโทษนักเรียน 1. ในกรณีที่นักเรียนท าผิดระเบียบต่างๆของทางโรงเรียน โรงเรียนมี มาตรการ โดยด าเนินการ ดังนี้ 1.1 ว่ากล่าวตักเตือน 1.2 แจ้งผู้ปกครองทราบ 2. ในกรณีที่นักเรียนทะเลาะวิวาทในโรงเรียนหรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่ เหมาะสม นักเรียนจะถูกลงโทษ โดยไม่อนุญาตให้นักเรียนเล่นในช่วงเวลาพักและ ให้นั่งอยู่ในห้องเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ รวมทั้งเชิญผู้ปกครองมาพบ 3. กรณีที่นักเรียนท าลายทรัพย์สินของทางโรงเรียนและของเพื่อน นักเรียนต้องชดใช้และซ่อมบ ารุงให้คงเดิม ำ ใ ท ศ ท โรงเรียนพินิจราษฎร์บ ารุง อนุญาตให้นักเรียนน าโทรศัพท์มาไว้ เพื่อท ากิจกรรมหรือติดต่อกับผู้ปกครอง แต่ก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ ให้นักเรียน ปิดโทรศัพท์และน าโทรศัพท์ฝากไว้กับครูประจ าชั้น/ประจ าวิชา ในกรณีที่ต้องการ ใช้โทรศัพท์ ระหว่างวันให้ติดต่อกับครูประจ าชั้น/ครูประจ าวิชา เพื่อน ามาใช้ ส าหรับปฏิบัติกิจกรรม และสามารถรับโทรศัพท์คืนจาก ครูประจ าชั้นได้ตั้งแต่ เวลา 15.30 น. กรณีที่เกิดการสูญหายหรือเสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากการกระท าของ นักเรียน ทางโรงเรียนจะไม่รับผิดชอบทุกกรณี 26 27
บทบำท ผู ค 1. ในแต่ละห้องเรียนให้ผู้ปกครองคัดเลือกตัวแทนผู้ปกครองห้องเรียนละ 4 คน ได้แก่ ประธานห้องเรียน รองประธานห้องเรียน เลขานุการ และเหรัญญิก 2. คณะกรรมการตัวแทนผู้ปกครองประจ าห้องเรียนมีหน้าที่เข้าร่วมการ ประชุมและประสานงาน ระหว่างผู้ปกครอง ครูประจ าชั้น และโรงเรียน 3. ผู้ปกครองต้องเข้าร่วมการประชุมของโรงเรียนอย่างน้อย ภาคเรียนละ 1 ครั้ง 4. ผู้ปกครองสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของโรงเรียน ผ่าน ทางระบบออนไลน์ ซึ่งได้แก่ กลุ่มไลน์ของห้องเรียน Facebook , Web page และ ประกาศของโรงเรียน 5. ไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าห้องเรียนและขึ้นอาคารเรียนโดยไม่ได้รับ อนุญาต ยกเว้นได้มีการนัดหมาย กับทางครูผู้สอนหรือทางโรงเรียนไว้ล่วงหน้า ภำน น น น ำ ฎ บ ำ ุ โรงเรียนพินิจราษฎร์บ ารุง มีตัวแทนนักเรียนเข้าร่วมบริหารงานของโรงเรียน ในรูปแบบของสภานักเรียน โดยมีการเลือกตั้ง ปีละ 1 ครั้ง ุดแ ำ ด บ ้น นุบำ ชุดนักเรียนอนุบาล หญิง ชุดนักเรียนอนุบาล ชาย วั นธรรมอนุบาล หญิง ชุดวั นธรรมอนุบาล ชาย 28 29
ุดแ ำ ด บ ้น นุบำ ( ) ชุดพละศึกษาอนุบาล หญิง ชุดพละศึกษาอนุบาล ชาย หมำ ห ุ วันจันทร์,วันพฤหัสบดี สวมใส่ชุดนักเรียน วันอังคาร สวมใส่ชุดกิจกรรมตามแบบที่โรงเรียนก าหนด วันพุธ สวมใส่ชุดพละศึกษา วันศุกร์ สวมใส่ชุดวั นธรรม ุดแ ำ ด บ ้น ถมศึ ำ ชุดนักเรียนระดับประถมศึกษา หญิง ชุดนักเรียนระดับประถมศึกษา ชาย ชุดยุวกาชาดหญิง ป. 1-3 ชุดลูกเสือส ารอง ชาย 30 31
ุดแ ำ ด บ ้น ถมศึ ำ ( ) ชุดยุวกาชาดหญิง ป. 4-6 ชุดลูกเสือสามัญ ชาย ชุดพละศึกษาระดับประถม หญิง ชุดพละศึกษาระดับประถม ชาย ุดแ ำ ด บ ้น ถมศึ ำ ( ) ชุดวั นธรรมประถม หญิง ชุดวั นธรรมประถม ชาย หมำ ห ุ วันจันทร์,วันพฤหัสบดี สวมใส่ชุดนักเรียน วันอังคาร สวมใส่ชุดชุดกิจกรรมพั นาผู้เรียนลูกเสือ - ยุวกาชาด วันพุธ สวมใส่ชุดพละศึกษา วันศุกร์ สวมใส่ชุดวั นธรรม 32 33
.