เล่มรายงานวิเคราะห์ลายนิ้วมือ รายบุคคล

Name : ตวัอยา่งรายงานวเิคราะหล์ายนวิ้มอื Date of Birth : Gender : FALSE ID : * Date Report : 6/11/2566 * รายงานนี ้ เป็นขอ้มูลพืน้ฐานจากการวเิคราะหล์ายนิ ้วมอืตามหลกัวชิาการวทิยาศาสตรล์ายผวินิ ้วมอื(Dermatoglyphics Fingerprint) ทีม่คีวามเชือ่มโยงกบั สมองรวมถงึทฤษฎพีหุปัญญา อจัฉรยิภาพ 10 ประการ เพือ่คน้หาศกัยภาพทางสมอง ความถนัด ความสามารถ เฉพาะทางของแต่ละบุคคล ส าหรับใช ้เป็ นแนวทางในการพิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือกสายการเรียน หรือเลือกอาชพีการงานที ่ สอดคล้องเหมาะสม อย่างไรก็ตามรายงานนี ้ เป็นเพยีงการแนะแนวทาง ไม่ใชห่ลกั ประกนัหรอืรบัรองถงึความส าเรจ็หรอืความลม้เหลวทีจ่ะเกดิขึน้ในอนาคต เพราะยงัมเีหตุปัจจยัภายนอกอกีมากทีม่ผีลต่อการเปลีย่นแปลง

บทนา ลายนวิ้มอืสมัพนัธก์บัระบบประสาทสมอง International Institute of Hand Analysis วทิยาศาสตรล์ายผวินิว้มอื (Dermatoglyphics Fingerprint) มกีารทดลองวจิยัมายาวนานเชือถือ่ ได้ผลการทดลองพบว่าระบบประสาทสมองกบัลายนิว้มอืของคนเรานัน้มคีวามสมัพนั ธ ์กัน ค.ศ.1926 Dr.Harold Cummins และ Dr.Chales Midlo นิยามค าว่า Dermatoglyphics มาจากค าว่า Derma (ผิวหนัง) Glyph (รอยสัก) โดย Dr.Harold Cummins ได้รับการขนานนามว่าเป็ นบิดาของลายผิววิทยา เขาพบว่าโรคพนัธกุ์รรมกลุ่มดาวนซ์นิโดรม ลายนิ ้วมอืกลุ่มนีจ้ะมลักษณะพิเศษ ี เฉพาะตัว Lionel Sharples Penrose (1898-1972) Psychiatrist and professor of human (จิตแพทย์) นายแพทยผ์ูร้ิ ่ เริม่ เชือ่มโยงพนัธศุาสตร์กบัลายนิ ้วมอืพบว่ากลุ่มดาวน์ซินโดรม มี ลายนิ ้วมอืเป็นลายมดัหวาย (UL-Ulnar Loop) ทุกนิ ้ว และมเีสน้ลายมอืเป็นลายมือขาด (เส้นผ่านขวางยกพาดผ่านกลางฝ่ ามือ) ค.ศ.1823 Dr.Jan Evangelista Purkinje นักสรีรวิทยาชาวเชคโกสโลวาเกีย และอาจารย์ด้านกายวิภาค แห่งมหาวิทยาลัย BreslauAnatomy, Physiology คน้พบว่าลายผวิกอ่ตวัอยู่ในครรภม์ารดาตั ้งแต่สปัดาหท์ี ่ 13 สมบูรณเ์ต็มที ่ในสปัดาหท์ี ่ 21 และไม่เปลีย่นแปลงอกีเลย และไดแ้บ่งลายนิ ้วออกเป็น 9 แบบ ค.ศ.1832 Dr.Charles Bell ศัลแพทย์ ผู้ค้นพบความสัมพันธ ์ของ ระบบประสาทสมองกบัลายนิ ้วมอื ค.ศ.1893 Sir Francis Galton นักมนุษย์วิทยา ได้พิมพ์บทบทความลายนิ ้วมอื สามารถระบุตัวตนของบุคคล (อัตลักษณ์) ได้ ลายนิ ้วมอืคนเราไม่เหมอืนกนัและเป็นทียอมรับ่ จนถึงปัจจุบัน ค.ศ.1983 DR.HOWARD GARDNER ทฤษฏีพหุปัญญา 8 ดา้น ใชศ้าสตรก์ารวเิคราะหล์ายนิ ้วมอืกบัทฤษฏพีหุปัญญาในด้าน การศกึษาเป็นครั ้งแรก ค.ศ.1985 Dr. Chen Yi Mou PhD of Harvard University Research Dermatoglyphics Based on Multiple Intelligence theory of Dr. Howard Gardner, First apply dermatoglyphics to educational fields and brain physiology. ผศ.ดร.สมทรง ณ นคร ผลงานวจิยัองคค์วามรู้และงานวจิยัลายนิ ้วมือใน ต่างประเทศ ได้ถูกรวบรวมไว้ในหนังสือ "วทิยาศาสตร์และพนัธศุาสตรล์ายนิ ้วมอื โดย ผศ. ดร.สมทรง ณ นคร นอกจากนี ้ท่านยงัไดว้จิยั ศาสตรล์ายนิ ้วมอืดา้นการแพทย์ดา้นนิติ วทิยาศาสตร์ของคนไทย ซึ ่งไดร้บัการตพี ิมพ์ใน วารสารทั ้งใน และต่างประเทศทั ่วโลก และทีส่ าคญัอกี ประการคอืท่านใหก้ารสนับสนุน เป็นทีป่รกึษาใหก้บัเบรนเท็นสแกน เป็นอย่างดยีิ ่ง จงึขอขอบพระคุณท่านมา ณ ทีน่ีด้ว้ย หนังสือ "วิทยาศาตร ์ และพันธุ ศาสตรล์ายนิ ้วมอื" ดเูพิม่ เตมิผลงานวจิยั https://www.researchgate.ne t/profile/Somsong-Nanakorn

สวสัดีตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ รายงานฉบับนเี้ป็นผลการวเิคราะหล์ายนวิ้ของทา่น “การรจู้ ักตวัเอง คอืจดุเรมิ่ตน้ของความรทู้ ัง้ปวง” Knowing yourself is the beginning of all wisdom.(Aristotle) และนคี่อืคมู่อืทจี่ะท าใหท้า่นรจู้ ักตวัเองอยา่งลกึซงึ้เสมอืนมีGPS น าทางชวีติแนะน าให้ ทา่นอา่นรายงานฉบับนตี้ามขนั้ตอนเป็นล าดบั ไปจะชว่ยใหเ้ขา้ใจ ระบบความเชอื่มของศกัยภาพสมองกับลายนวิ้มอื ไดอ้ยา่ง ชดัเจน 1. กรณุาตรวจสอบวา่ทา่นไดร้ับรายงานนถี้กูตอ้งเป็นฉบับรายงานของทา่นเอง 2. แผนผังสมอง ศกัยภาพการท างานของสมองทสี่มัพันธก์ ับลายนวิ้ 2.1 ตามทปี่รากฎในรายงานฉบับนี้สมองแบง่ออกเป็นสองซกี ประกอบดว้ยสมองซกีซา้ยกับสมองซกีขวา สมองแตล่ะซกี นัน้จะมคีวามสมัพันธก์ ับลายนวิ้ลายนวิ้มอืขา้งขวาจะแสดงถงึการท างานของสมองซกีดา้นซา้ย และลายนวิ้มอืขา้งซา้ยจะ แสดงใหเ้ห็นถงึการท างานของสมองซกีดา้นขวา นวิ้มอืแตล่ะนวิ้ก็จะแสดงใหท้ราบถงึสตปิัญญาทแี่ตกตา่งกัน สตปิัญญาแต่ ละดา้นนัน้ก็จะมคีา่ทเี่ป็นศกัยภาพเฉพาะของตนเองของแตล่ะนวิ้ 2.2 คา่ TRC (Total Ridge Count คอืจ านวนวงเสน้ลายนวิ้มอืทัง้หมดจากศนูยก์ลาง Center ถงึจดุสนิ้สดุ Delta) จะแสดงให้ เห็นถงึความหนาแน่นของเซลลป์ระสาทสมองหมายความถงึคา่การท างานของสมองทมี่ศีกัยภาพสงูหรอืต า่ซงึ่จะสอดคลอ้ง กับจ านวนวงเสน้ลายนวิ้มอื (คา่ TRC) สว่นรปูแบบหรอื ชนดิของลายนวิ้มอืทแี่ตกตา่งกันก็จะแสดงถงึจรติหรอืคณุลกัษณะที่ แตกตา่งและคา่ ศกัยภาพของสมองทแี่ตกตา่งกันออกไป โดยปกตทิ ั่วไปคา่เฉลยี่ของจ านวนวงเสน้ลายนวิ้มอืของมนุษย์จะ อยรู่ะหวา่ง 8 ถงึ 35 จ านวนคา่ทสี่งูจะสะทอ้นถงึระดบั ศกัยภาพของสมองสว่นคอรเ์ท็กซท์สี่งูสง่ผลถงึศกัยภาพปัญญาดา้น ตา่งๆ ทเี่ชอื่มโยงกับลายนวิ้ของแตล่ะนวิ้ 2.3 กรณีแสดงผลคา่ TRC เป็น "x" เป็นการแสดงผลของลายนวิ้กลมุ่ Arch (SA, TA, AU, AL) ซงึ่มคีา่อยรู่ะหวา่ง = 0 ถงึ Infinity หมายถงึคา่ต า่สดุจะไดเ้ทา่กับศนูย์สว่นคา่ สงูสดุเป็นจ านวนอนันต(์Infinity) กรณีนหี้มายถงึสตปิัญญาดา้นนัน้ๆ มคีา่ความ ยดืหยนุ่ ในการปรับตวัต า่หรอื สงูขนึ้อยกู่ ับความชอบของตนเองและการไดร้ับการกระตนุ้และพัฒนาอยา่งถกูวธิี 2.4 คา่ความแตกตา่งระหวา่งสมองดา้นซา้ยและสมองดา้นขวา แสดงถงึแนวโนม้การท างานของแตล่ะดา้นอาจเทา่กัน 50:50 หรอืมคีวามแตกตา่งกันก็เป็นไปได้ถา้ตา่งกันไมเ่กนิ 5 % เป็นคา่เฉลยี่ปกติ แตถ่า้ตา่งกันเกนิกวา่นไี้ปเล็กนอ้ยก็ไมม่ผีลกระทบอะไรมากนัก ควรเพมิ่การพัฒนาสมองดา้นทคี่า่นอ้ยกวา่เพอื่ใหเ้กดิความ สมดลุมากขนึ้จะสง่ผลดกี ับการท างานและการจัดการความเครยีด 3. ศกัยภาพดา้นทเี่ดน่จากการวเิคราะหค์า่ TRC ของแตล่ะนวิ้จะท าใหค้น้พบจดุเดน่ ไดจ้ากการพจิารณาระดบัคา่ TRC ของ สมองซงึ่จะมคีวามสมัพันธก์ ัน ถา้มศีกัยภาพดา้นใดดา้นหนงึ่สงูโดดเดน่ ชดัยอ่มหมายความวา่ สตปิัญญาดา้นดงักลา่วนัน้คอื จดุเดน่หรอืจะเรยีกวา่เป็นพรสวรรคด์า้นเดน่ทตี่ดิตวัมาตงั้แตก่ าเนดิ (Born to be) หากไดร้ับการพัฒนาและสง่เสรมิอยา่ง ถกูตอ้งยอ่มกา้วสคู่วามเป็นเลศิ ได ้กรณีทมี่ศีกัยภาพดา้นอนื่ๆ ทมี่คีา่มากหรอืนอ้ยแตกตา่งกันไปก็จะท าใหท้ราบวา่ดา้นที่ นอ้ยคอืจดุออ่นทคี่วรจะไดร้ับการพัฒนาเพอื่สนับสนุนใหส้งิ่ทเี่ดน่มคีณุภาพมากขนึ้และไดแ้กไ้ขขอ้ดอ้ยทเี่ป็นจดุออ่นได้ อยา่งถกูตอ้ง 4. คา่เบยี่งเบนมาตรฐาน STDEV จากการตรวจคา่ TRC ในภาพรวมของสมองแตล่ะดา้นหากมคีา่เกนิ 3.0 จะเป็นขอ้บง่ ชถี้งึวา่มี คา่ ศกัยภาพดา้นทดี่อ้ยบางอยา่งซงึ่จะสามารถชชี้ดั ไดว้า่คอืดา้นใด ซงึ่เป็นแนวทางในการพัฒนาเพอื่สง่เสรมิศกัยภาพดา้นที่ เดน่ ใหด้ยีงิ่ขนึ้และแกไ้ขขอ้ดอ้ยไดอ้ยา่งถกูตอ้ง 5.ความฉลาดทางปัญญา 4 ประเภท IQ EQ AQ CQ รวมถงึรปูแบบการเรยีนรู้(Learning style- VAK) ทไี่ดจ้ากผลวเิคราะหน์ ี้ จะสามารถน าไปใชเ้ป็นแนวทางในการพัฒนาดา้นทเี่ดน่และพัฒนาดา้นทดี่อ้ยไดอ้ยา่งถกูตอ้งเฉพาะบคุคล 6.ปัญญา 10 ดา้นทมี่คีา่ TRC มากทสี่ดุและรองลงไป สามารถใชเ้ป็นแนวทางในการพจิารณาประกอบในการเลอืกสายการ เรยีนหรอือาชพีทเี่หมาะสมกับตนเองได้ 7.กลมุ่อาชพี 20 กลมุ่เป็นการผสมผสานปัญญาดา้นทเี่กยี่วขอ้งกัน น ามาใชป้ระกอบในการตดั สนิ ใจ เพอื่เลอืกสายการเรยีน หรอือาชพีทเี่หมาะสมกับตนเอง ขอแสดงความยนิดกี ับทา่นและขอบคณุทไี่ดใ้หค้วามเชอื่ถอืรับรายงานผลวเิคราะหก์ ับ Brainten Scan ผา่นกระบวนการ วเิคราะหด์ว้ยวทิยาศาสตรล์ายนวิ้มอื (Dermatoglyphics Fingerprint) ซงึ่จะชว่ยใหท้า่นไดเ้รยีนรเู้กยี่วกับตวัทา่นเอง “ไดค้น้พบพรสวรรคท์ ซี่อ่นไว ้น าไปใชใ้หเ้ต็มศกัยภาพ เพอื่อนาคตทเี่ป็นเลศิ ” คา แนะนา ในการอา่นผลรายงานวเิคราะหฉ์บบันี้ ศนูยฝ์ ึกอบรมพัฒนาศกัยภาพมนุษย์ เบรนเท็น สแกน

ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ 06 DL 25.00 28.00 IDL 01 หัวแมม่อืหัวแมม่อื 07 EW 22.50 23.50 EW 02 นวิ้ชี้นวิ้ชี้ 08 IDL 27.00 25.00 IDL 03 นวิ้กลาง นวิ้กลาง 09 EW 25.50 27.50 EW 04 นวิ้นาง นวิ้นาง 10 IDL 26.00 24.00 IDL 05 นวิ้กอ้ย นวิ้กอ้ย 254.0 TRC % % TRC ศกัยภาพการทา งานของสมองทสี่มัพนัธก์บัลายนวิ้ ศกัยภาพจากลายนวิ้ทเี่ชอื่มโยงกบัสมอง ประเภทลายนวิ้มอื (Fingerprint Type) และคา่ ศกัยภาพ (TRC-Total Ridge Count) นวิ้ที่ TYPE TYPE นวิ้ที่ 126.00 50 50 128.00 TRC TRC มือขวา มือซ้าย สมองซีกซ้าย สมองซีกขวา รูห้นา้ที ่การใชค้วามรูส้กึเชงิสรา้งสรรค์ชอบสุนทรียภาพ เชิง จินตนาการ คิดเป็ นภาพ สร ้างภาพดิดจากการจ าลอง สร ้างสรรค์ คิดนอกกรอบ ยืดหยุ่น สร ้างเป็ นภาพรวม คิดตาม ความเชือ่ความคดิรวบยอด ตามแรงจงูใจความเชือ่ รูช้ ือ่สิ ่งของ การใชเ้หตุผล เชงิวเิคราะห์ชอบลงมอืปฏิบัติ หลัก ข้อเท็จจริง คิดเป็ นภาษาข้อความ คิดภายใต้สถานการณ์จริง คิด ในกรอบ จรงิจงั สรา้งล าดบัขัน้ตอน คดิตามหลกัการทั ่วไป วางแผนและตัดสินใจ เดินตามแผน การท างานของ สมองซีกขวา การท างานของ สมองซีกซ้าย Brainten Scan ยึดถือ PDPA พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 จงึไม่แสดงภาพลายนิว้ของบุคคลในรายงานนี ้ ภาพลายนิว้ทีแ่สดงไวต้อ่ ไปนี ้ เป็นภาพตน้แบบของลายนิว้แตล่ะประเภท เพือ่ประกอบการอา่นรายงานเทา่นัน้ ลายก้นหอย (Whorl) ลายมัดหวายคู่ (Double Loop) ลายมัดหวายแท้ (Ulnar Loop) ลายโค้ง VR-Varaint อุบัติเหตุ (Arch) CW SW PE EW CP IP DL IDL UL RL SA TA AU AL VR

IDL 25.00 EW 23.50 IDL 24.00 IDL 28.00 EW 27.50 STDEV 2.07 EW IDL 22.50 27.00 DL IDL 25.00 26.00 EW 25.50 STDEV 1.87 STDEV คอืคา่เบยี่งเบนมาตรฐาน จ านวนคา่ทนี่อ้ย(ตัง้แต่ 0-3) มปีระสทิธภิาพดกีวา่ ถา้คา่ STDEV ตัง้แต่ 3.0 ขนึ้ไปแสดงวา่คา่ TRCของแต่ ละนวิ้มคีา่แตกตา่งกนัมาก สง่ผลใหป้ระสทิธภิาพของศักยภาพโดยรวมทมี่อียเู่ดมิลดลงไป (ยกเวน้กรณีลายนวิ้เป็นกลมุ่ Arch = X มคีา่ = 0 ถงึ Infinity -อนันต)์ มอืขวา สมัพนัธก์บัสมองซกีซา้ย เหตผุล ตรรกะ คณติ ศาสตร์สัญลักษณ์วเิคราะห์ระเบยีบ ความเป็นกลาง คา่ TRC-Total Ridge Count ของลายนวิ้ทสี่มัพนัธก์บัสมองสว่นทเี่กยี่วขอ้งกนั มอืซา้ย สมัพนัธก์บัสมองซกีขวา จนิตนาการ ดนตรีความจ า ความคดิ สรา้งสรรค์ศลิ ปะ อารมณ์สญัชาตญาณ STDEV คอืคา่เบยี่งเบนมาตรฐาน จ านวนคา่ทนี่อ้ย(ตัง้แต่ 0-3) มปีระสทิธภิาพดกีวา่ ถา้คา่ STDEV ตัง้แต่ 3.0 ขนึ้ไปแสดงวา่คา่ TRCของแต่ ละนวิ้มคีา่แตกตา่งกนัมาก สง่ผลใหป้ระสทิธภิาพของศักยภาพโดยรวมทมี่อียเู่ดมิลดลงไป (ยกเวน้กรณีลายนวิ้เป็นกลมุ่ Arch = X =มคีา่ ตัง้แต่ 0 ถงึ Infinity -อนันต)์ มือซ้าย - สมองซีกขวา มือขวา - สมองซีกซ้าย 01 - Frontal lobe สมอง กลีบหน้าส่วนหน้า บุคลิก ลักษณะนิสัย สภาวะ จิต การเขา้ใจผูอ้ืน่มนุษย์ สัมพันธ ์ 03 - Parietal lobe สมองส่วนกระหม่อม การเคลือ่นไหวรา่งกาย กลา้มเนือ้มดัใหญ่การ ปฏบิตั ิเกีย่วกบักฬา ี 05 - Occipital lobe สมองส่วนท้ายทอย ตา สายตา การมองเห็น เรียนรู ้จาก การมองเห็น การเข้าใจ มิติภาพ แผนภูมิ 04 - Temporal lobe สมองส่วนขมับ หู การ ได้ยิน การเข้าใจดนตรี การฟัง การได้ยิน สุนทรียะ ทาง ดนตรี การจ าแนกเสียง 08 - Parietal lobe สมองส่วนกระหม่อม การเคลือ่นกลา้มเนือ้มดัเล็ก ควบคุมการเคลือ่นไหวมอืนิ ้วมือ กลา้มเนือ้มดัเล็ก ควบคุมการ เคลือ่นไหวมอืนิ ้วมอืการหยิบ จับ สัมผัส 10 - Occipital lobe สมอง ส่วนท้ายทอย ตา สายตา การมองเห็น เรียนรู ้ จากการมองเห็น การเข้าใจ ธรรมชาติสนใจสิ ่งแวดลอ้ม การเขา้ใจพืน้ที ่การสงัเกต 09 - Temporal lobe สมองส่วนขมับ หู การได้ยิน การฟัง เรียนรู ้จาก การฟัง การสือ่สารดว้ยภาษา การเจ้าใจภาษา ความจ า การ จดจา ภาษา การสือ่สารดว้ย ภาษากาย 06 - Frontal lobe สมอง กลีบหน้าส่วนหน้า การน า การตัดสินใจ การเป็ นผู้น า การเข้าใจ ตัวเอง การท างานเชิงรุก แผนงาน กาจัดการ การตัดสินใจ 07 - Frontal lobe สมองกลีบหน้าส่วหลัง กระบวนการคิดวิเคราะห์ แผนงาน การคิดไตร่ตรอง การวิเคราะห์ ตรรกะ เทคโนโลยี 02 - Frontal lobe สมองกลีบหน้าส่วนหลัง กระบวนการคิดวิเคราะห์ เกีย่วขอ้งกบัจนิตนาการมิติ สัมพันธ ์3D ความคิด สร ้างสรรค์

ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ 23.5 0 22.50 46% 0% 28 0 25.00 54% 0% 99.00 0.00 100% 0% Type Aptitude Type Aptitude IDL 28.00 DL 25.00 Type Aptitude Type Aptitude EW 23.50 EW 22.50 สรปุภาพรวมมศกัยภาพพหปุ ญัญา 10 ประการทตี่ดิตวัมาแตก่า เนดิจากลายนวิ้มอื 10 นวิ้ 2.ลายมดัหวายคู่(Double loop) : Compliance 1.ลายกน้หอย (Whorl) : Dominance 3.มดัหวายแท้(UlnarLoop) : Influence 4.ลายโคง้ (Arch) : Steadiness บคุลกิทเี่ป็นลกัษณะเดน่ของคณุจากลายนวิ้ Potential สรปุภาพรวม บคุคลกิลกัษณะนสิยั ภาวะการนา การตดัสนิ ใจ ลกัษณะเดน่ 4 ดา้นทเี่ป็นคณุ การเขา้ใจผอู้นื่บคุลกิลกัษณะนสิยัและการปฏสิมัพนัธก์บัผอู้นื่การเขา้ใจตนเอง ภาวะผนู้า การบรหิาร การสอื่สารและการตดัสนิ ใจ Potential ลักษณะเดน่ /ดอ้ย ชอบคดินอกกรอบ เลยีนแบบเกง่ เป็นคนสองบคุลกิคอืเชอื่ฟังแตก่ ็รัก อสิระ ชอบท าอะไรหลายอยา่งในเวลาเดยีวกัน หรอืมสีองเป้าหมายในเวลาเดยีวกัน Potential พเิศษ ดเียยี่ม จนิตนาการชดัเจน สรา้งสรรคด์ ีมคีวามเป็นไปได้ ในทางปฏบิ ัต ิมักจะเป็นรูปแบบทเี่ป็นภาพรวมและมี รายละเอยีดในเชงิขนั้ตอนพรอ้มทจี่ะน าไปสานตอ่ ได้ ในทางปฏบิ ัติ มคีวามคดิรเิรมิ่ดีละเอยีดรอบคอบ ใสใ่จในรายละเอยีดมาก ตัดสนิ ใจอาจชา้ได้ไตร่ตรองใคร่ควรไดด้ว้ยตนเอง มแีผนงาน และมเีป้าหมายชวีติดีเคารพยดึมนั่และภาคภมูใิจในตัวเองสงู บรหิารจดัการไดด้ ีสามารถเรยีนรูแ้ละสรา้งแรงบันดาลใจจาก ประสบการณ์ทัง้ทสี่า เร็จหรอืลม้เหลว บคุลกิภาพ เป็นนักเหตผุล นักคดินักวเิคราะห์เรยีนรู้ เร็ว ยดึถอืตัวเองแตก่ ็ยดืหยนุ่ด ีมคีวามคดิสรา้งสรรคด์ ี สามารถเลยีนแบบไดเ้ป็นสองเทา่ หมายเหต ุโปรดอา่นรายละเอยีดเพมิ่เตมิพรสวรรค์ศักยภาพทางปัญญา 10 ดา้นจากลายนวิ้ทัง้ 10 และรายละเอยีดอนื่ๆ ในหนา้ถัดไป พเิศษ ดเียยี่ม จนิตนาการ,การคาดคะเน,มติ สิมัพนัธ์ตรรกะ , เหตผุล วเิคราะห์,คา นวณ ,การสอื่สาร,เทคโนโลยี 1.มคีวามสามารถในการไตร่ตรองดว้ยตนเอง มงุ่ความคดิ ไปทคี่ณุคา่ของชวีติบน หลักเกณฑข์องตน เขา้ใจจดุแข็งและขอ้ดอ้ยของตัวเอง 2.มคีวามมงุ่มนั่สงูเป็นอสิระ มคีวามเคารพในตนเองสงูรักอสิระเป็นตัวของตัวเอง 3.มคีวามสามารถในการเรยีนรู้และสรา้งแรงบันดาลใจไดจ้ากประสบการณ์ทสี่า เร็จ และลม้เหลวได้ มคีวามสามารถในการใชเ้หตผุล ตรรกะ มคีวามสามารถดา้น การค านวณ ดา้นวทิยาศาสตร์การใชเ้ทคโนโลยีการวเิคราะห์ ตา่งๆ พเิศษ ดเียยี่ม Potential พเิศษ ดเียยี่ม ขอ้มูลนี ้ เป็นขอ้สรุปเบือ้งตน้ที ่ เป็นลกัษณะเด่นของของตนเอง การวเิคราะหจ์ากลายนิ ้วที ่ เชือ่มโยงกบั สมองส่วนหนา้ ซึ ่งสามารถทราบถึงบุคลิก ลกัษณะนิสยัการปฏสิมัพนัธก์บัผูอ้ืน่ความเป็นผูน้ า การวางแผนงาน คดิวเิคราะห์บรหิารจดัการ การตดั สนิใจ การท างานเชงิรุก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลใน หนา้วเิคราะหน์ี ้ เป็นเพยีงเบือ้งตน้ทีจ่ะเชือ่มโยงไปสู่การวเิคราะหท์ีม่รีายละเอยีดประกอบต่างๆ อย่างละเอยีดต่อไป กลุ่ม ความคิด Thinking : Task focus นักคิด นักบริหาร การจัดการ ความเป็ นผู้น าเชิงรุก กลุ่ม ความรู ้สึก Feeling: People focus มติรภาพ มนุษยส์มัพนัธด์ีท าตามขัน้ตอน เลียนแบบ อ่อนโยน ประนีประนอม เกรงใจ เป็นผูน้ า นักบรหิารเชือ่มั ่นในตวัเอง รกัอสิระ ชอบแข่งขัน ชอบออกค าสั ่ง ไม่ชอบการถูกควบคุม ดือ้รัน้ ใจรอน คิดเร็ว ้ ท าเรว็มุ่งมั ่น ใชเ้หตุผลสูง เดนิหนา้เรว็เมือ่มีเป้ าหมาย มี ความอดทนสูง ระเบยีบประเพณีมคีวามยดืหยุ่นประนีประนอมสูง ซือ่สัตย์ อ่อนโยน มติรภาพ เห็นอกเห็นใจผูอ้ืน่ ไม่ชอบความขดัแยง้ยดึถือระเบียบ ปฏบิตั ิเกรงใจ ท าตามขัน้ตอน อาจจะไม่เด็ดขาดในการตัดสินใจ มาตรฐานสูง ละเอียดรอบคอบ มีความคิดเป็ นของตัวเอง นัก คิด นักวิเคราะห์ รอบรู ้ การจัดการ อยากรู ้อยากลอง ท า หลายอย่าง สนใจหลายอย่าง ตอ้งการขอ้มูลประกอบทีมากพอ่ ก่อนตัดสินใจ อาจล่าช ้าในการตัดสินใจ ความคิดสร ้างสรรค์ดี รักสงบ เรียนรู ้ได้(ช ้า-เรว็ขึนอยู่กับ้ อารมณ์และการพัฒนา) จดจ ารายละเอียดได้ดี ชอบศิลปะ มี อารมณอ์่อนไหว มคีวามซือ่สตัย์จงรกัภกัดสีูง

ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ DL IDL 25.00 28.00 EW EW 22.50 23.50 IDL IDL 27.00 25.00 EW EW 25.50 27.50 IDL IDL 26.00 24.00 IDL 28.00 พเิศษ ดเียยี่ม DL 25.00 พเิศษ ดเียยี่ม พรสวรรคป์ญัญา 10 ดา้นทตี่ดิตวัมาแตก่า เนดิจากลายนวิ้มอื 10 นวิ้ การเขา้ใจผอู้นื่บคุลกิลกัษณะนสิยัและการปฏสิมัพนัธก์บัผอู้นื่ การเขา้ใจตนเอง ภาวะผนู้า การบรหิาร การสอื่สารและการตดัสนิ ใจ หวัแมม่อืซา้ย 1.เกยี่วขอ้งกบัการสอื่สารระหวา่งบคุคล ภาวะการน า และความสามารถในการจัดการ ชอบทจี่ะปฏสิมัพันธ์และ หว่งใยผอู้นื่ 2.มักชนี้ าทัศนคติและความคดิเห็นของผอู้นื่จนถงึการโนม้นา้วใหผ้อู้นื่ยอมรับความคดิเห็นของตน ความสามารถในการสงัเกตอารมณ์และความคดิเห็นของผอู้นื่ 3.ชอบพบปะผคู้น เขา้สงัคมกบัผอู้นื่ไดด้ ีและรักษาความสมัพันธท์ดี่กีบัผอู้นื่การท างานเป็นทมี บคุลกิภาพ เป็นนักเหตผุล นักคดินักวเิคราะห์เรยีนรเู้ร็ว ยดึถอืตัวเองแตก่ย็ดืหยนุ่ด ีมคีวามคดิ สรา้งสรรคด์ ีสามารถเลยีนแบบไดเ้ป็นสองเทา่ ลักษณะเดน่ /ดอ้ย ชอบคดินอกกรอบ เลยีนแบบเกง่ เป็นคนสองบคุลกิคอืเชอื่ฟังแตก่ร็ักอสิระ ชอบท าอะไรหลายอยา่งในเวลาเดยีวกนัหรอืมสีอง เป้าหมายในเวลาเดยีวกนั ควรปรับปรงุ /สง่เสรมิ ก าหนดเวลาและเป้าหมายใหช้ดัเจน จัดล าดับความสา คัญ ลดขัน้ตอนการท างาน เพมิ่ความเด็ดขาดในการเลอืกและกลา้ ตัดสนิ ใจ หวัแมม่อืขวา 1.มคีวามสามารถในการไตรต่รองดว้ยตนเอง มงุ่ความคดิ ไปทคี่ณุคา่ของชวีติบนหลักเกณฑข์องตน เขา้ใจจดุ แข็งและขอ้ดอ้ยของตัวเอง 2.มคีวามมงุ่มั่นสงูเป็นอสิระ มคีวามเคารพในตนเองสงูรักอสิระเป็นตัวของตัวเอง 3.มคีวามสามารถในการเรยีนรู้และสรา้งแรงบันดาลใจไดจ้ากประสบการณ์ทสี่า เร็จ และลม้เหลวได้ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ก าหนดเป้าหมายชดัเจน และท าทลีะเป้าหมาย ตัดรายละเอยีดทไี่มจ่ าเป็น ลดขัน้ตอนการท างาน วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ก าหนดเป้าหมายชดัเจน และท าทลีะเป้าหมาย ตัดรายละเอยีดทไี่มจ่ าเป็น ลดขัน้ตอนการท างาน มคีวามคดิรเิรมิ่ดีละเอยีดรอบคอบ ใสใ่จในรายละเอยีดมาก ตัดสนิ ใจอาจชา้ได้ไตรต่รองใครค่วรไดด้ว้ยตนเอง มแีผนงานและมี เป้าหมายชวีติดีเคารพยดึมั่นและภาคภมูใิจในตัวเองสงูบรหิารจัดการไดด้ ีสามารถเรยีนรแู้ละสรา้งแรงบันดาลใจจาก ประสบการณ์ทัง้ทสี่า เร็จหรอืลม้เหลว สมองซีกซ้าย สมองซีกขวา มือขวา มือซ้าย 01 - ปัญญาด้าน มนุษย์สัมพันธ ์ (Interpersonal Intelligence) 06 - ปัญญาด้าน ความเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence) 02 - ปัญญาด้าน การจินตนาการ (Imagination Intelligence) 07 - ปัญญาด้าน ตรรกะ (Logical – Mathematical Intelligence) 03 - ปัญญาด้าน กลา้มเนือ้มดัใหญ่และ การเคลือ่นไหว (Bodily –Kinesthetic Intelligence) 08 - การใช ้ กลา้มเนือ้มดั เล็ก การแยกแยะด้วย สัมผัส-นิ ้วมอื 04 - ปัญญาด้าน ดนตรี (Musical Intelligence) 09 - ปัญญาด้าน ภาษา (Linguistic Intelligence) 10 - ปัญญาด้าน ธรรมชาติวิทยา (Naturalist Intelligence) 05 - ปัญญาด้าน มิติสัมพันธ์ (Visual – Spatial Intelligence)

EW 23.50 พเิศษ ดเียยี่ม ตรรกะ , เหตผุล วเิคราะห์,คา นวณ ,การสอื่สาร,เทคโนโลยี EW 22.50 พเิศษ ดเียยี่ม IDL 25.00 พเิศษ ดเียยี่ม IDL 27.00 พเิศษ ดเียยี่ม EW 27.50 พเิศษ ดเียยี่ม จนิตนาการ,การคาดคะเน,มติ สิมัพนัธ์ สมองสว่นหนา้กลบีหลงั (นวิ้ชี้ซา้ย และขวา) จนิตนาการ ความคดิการวเิคราะห ์การเชอื่มโยงมติ ิ 1. ชอบฟังเพลงมาก มดีนตรใีนหัวใจเสมอ 2. สามารถเขา้ใจ เขา้ถงึดนตรไีดเ้ป็นพเิศษ การประพันธ์การใหท้ านอง 3. เตน้ตามท านองโดยอตั โนมัต ิเมอื่ไดย้นิเพลงทชี่อบ 4. ความรสู้กึชอบผา่นการไดย้นิการฟัง สนใจในกจิกรรมทกุชนดิทเี่กยี่วกบัการฟัง เชน่เสยีงเพลง ดนตรตีา่งๆ คอนเสริต์ 5. ชอบทจี่ะไดร้ับการยกยอ่งทางวาจา มรีะบบการฟังทดี่ี 1. ชอบใชม้อืวาด หรอืเขยีน ขณะใชค้วามคดิ 2. ชอบถา่ยทอดความหมายผา่นการเคลอื่นไหวรา่งกายและการใชม้อื 3. มคีวามแมน่ย าสงูในเรอื่งการประสานงาน การท างาน และการควบคมุกลา้มเนื้อในการท างานฝีมอืการ เคลอื่นไหว การเขยีน การหั่น การตัดทปี่ราณีต 1. ใชภ้าษากายไดด้ ีเชน่ ใชร้า่งกายเคลอื่นไหวในการแสดงความคดิความรสู้กึ 2. ชอบการเรยีนรผู้า่นการลงมอืปฏบิ ัติเชน่การทดลอง หรอืการแสดงบทบาทสมมตุิ 3. ชอบเรยีน และจดจ าจากการสมัผัสทางกาย ไมว่า่จะเป็นรา่งกาย หรอื สงิ่ของทจี่ับตอ้งได้ 4. ชอบใชม้อืทัง้สองสรา้ง หรอื ปรับรปูรา่งสงิ่ตา่งๆ รวมทัง้ความสามารถพเิศษตา่งๆ ทางกายภาพ เชน่การทรง ตัว ความคลอ่งตัว ความยดืหยนุ่พละก าลัง ชอบท ากจิกรรม หรอืออกก าลังกายกลางแจง้ นวิ้นางซา้ย โสต ผสัสะการฟงั ,สนุทรยีภาพทางดนตรี มคีวามสามารถในการใชเ้หตผุล ตรรกะ มคีวามสามารถดา้นการคา นวณ ดา้นวทิยาศาสตร์การใชเ้ทคโนโลยีการ วเิคราะหต์า่งๆ นวิ้ชซี้า้ย นวิ้ชขี้วา นวิ้กลางซา้ย นวิ้กลางขวา 1.มสีมัผัสในเรอื่งทศิทางทดี่ีจดจ า และนกึ ไดถ้งึเสน้ทางทเี่คยเดนิทางผา่น สามารถจดจ าถนนหนทางไดด้ ี 2.มคีวามชดัเจน และระวังเป็นอยา่งมากในการจัดวาง และการจัดแสดงสงิ่ตา่งๆ รอบตัว และมภีาพทชี่ดัเจน ของการจัดวางในความคดิอยแู่ลว้ 3.สรา้งภาพในความคดิ ไดอ้ยา่งชดัเจน มคีวามสามารถในการวาดแบบแปลน การจัดพนื้ที่การจัดวางสงิ่ของ 4.มคีวามเขา้ใจ และหลักความคดิเกยี่วกบัภาพสามมติ ไิดด้ ีสามารถเขา้ใจ และรับรถู้งึภาพในความคดิ ไดช้ดัเจน ชอบใชว้ัตถแุข็งหรอืวัตถสุามมติ ิเป็นสอื่ชว่ยเรยีนรู้ จนิตนาการชดัเจน สรา้งสรรคด์ ีมคีวามเป็นไปไดใ้นทางปฏบิ ัต ิมักจะเป็นรปูแบบทเี่ป็นภาพรวมและมรีายละเอยีดในเชงิขัน้ตอน พรอ้มทจี่ะน าไปสานตอ่ ไดใ้นทางปฏบิ ัติ 1.มคีวามเขา้ใจดตีอ่ สาเหตแุละผลกระทบทเี่กดิจากสาเหตตุา่งๆ สามารถจดจ าเนื้อหาทไี่ดเ้รยีนรู้จากการท า ความเขา้ใจการวเิคราะหแ์ละการสรปุทมี่ปีระสทิธภิาพ 2.ชอบการใชค้วามสามารถทางคณติ ศาสตร์การหาเหตผุล การจัดหมวดหมู่การวเิคราะห์และการสรปุใหเ้ป็น ตัวเลข 3.คนุ้เคยกบัการคดิเชงินามธรรม ชอบใชเ้ทคโนโลยีและถามค าถามทตี่อ้งใชค้วามคดิ 4.ชอบจัดล าดับ รปูแบบ กฎดา้นตรรกะของสงิ่ตา่งๆ ทเี่ป็นเหตเุป็นผล และเป็นคนทมี่คีวามสามารถดา้นการ ค านวณ วทิยาศาสตร ์คอมพวิเตอร์ การใชก้ลา้มเนอื้มดัใหญ่ , จงัหวะ,การเคลอื่นไหวรา่งกาย การใชก้ลา้มเนอื้มดัเล็ก การแยกแยะดว้ยการสมัผสัการใชม้อืและนวิ้มอื

EW 25.50 พเิศษ ดเียยี่ม IDL 24.00 พเิศษ ดเียยี่ม IDL 26.00 พเิศษ ดเียยี่ม >22 4A 19-21 3A 16-18 2A 12-15 A 9-11 B 6-8 C 0-5 D X=0-Infinity X=0-Infinity VR อสิระในการคดิ -ท า สมาธอิาจไมม่ ั่นคง ชอบท าหลายอยา่งสนใจหลายอยา่งในเวลาเดยีวกนัระวังโรคทถี่า่ยทอดทางพันธกุรรม ขอ้ควรตระหนัก ตัวเลขทแี่สดงคา่ ศักยภาพทัง้หมดนี้จะเกดิมรรคผลไดก้ต็อ่เมอื่ไดร้ับการกระตนุ้และพัฒนาอยา่งถกูตอ้งเหมาะสมตามชว่งเวลาอายุ ของแตล่ะวัยดว้ย รวมถงึแรงจงูใจ และความพยายามของแตล่ะบคุคลเป็นสา คัญ พเิศษ ดเียยี่ม ดเียยี่ม ดมีาก ดี มคีวามพรอ้ม พฒันาได้ ตอ้งพฒันา ตารางแสดงคา่ TRC และความสมัพนัธก์บัศกัยภาพในการเรยีนรทู้ตี่ดิตวัมาแตก่า เนดิ SA,TA,AU,AL นวิ้นางขวา โสต การจา แนกการฟงั ,ความจา , เขา้ใจภาษา,การใชภ้าษา การสอื่สารดว้ยภาษา จกัษุการรบัรผู้า่นการมองเห็น ความสวยงาม,รปูภาพและแผนภมูิ จกัษุการสงัเกต,การอา่น, การเขา้ใจดว้ยการเห็น,การเขา้ใจธรรมชาติ 1. สามารถเขา้ใจสงิ่ทผี่อู้นื่ก าลังพดูผา่นการเชอื่มโยง และการท าความเขา้ใจทางภาษา เรยีนรจู้ากการฟัง 2. สามารถแยกแยะ จัดล าดับ จัดวางภาษาเขยีน และพดูไดอ้ยา่งมปีระสทิธภิาพ 3. เขา้ใจจากการรับฟัง สรปุความจากการฟังผอู้นื่เป็นผฟู้ ังทดี่ี นวิ้กอ้ยขวา นวิ้กอ้ยซา้ย 1. สามารถจดจอ่ ในบางสงิ่ไดอ้ยา่งหลงใหล และไมเ่ ปลยี่นแปลงไดเ้ป็นระยะเวลานาน 2. ชอบอา่นหนังสอืหรอืท าการวจิัยทางวชิาการเกยี่วกบั สตัว์และพชื 3. สามารถทอ่งจ าไดอ้ยา่งรวดเร็ว และจ าไดใ้นระยะยาวเมอื่ใชก้ารจดบันทกึความจ า 1. มคีวามสนใจเป็นอยา่งยงิ่ในโลกของความงาม ถกูดงึดดูไดด้ว้ยหนังสอืหรอืรปูภาพ ทสี่วยงาม 2. ชอบผอ่นคลายดว้ยการชนื่ชมรปูภาพหนังสอืภาพระบายสีไปสถานทแี่สดงงานศลิ ปะ 3. มกีารชนื่ชมเป็นพเิศษตอ่งานศลิ ปะ ภาพวาด 4. คน้พบวา่ สมัผัสทางการมองเห็นและการชนื่ชมเป็นสงิ่สา คัญมาก โดยเฉพาะทมี่ตีอ่ความประทับใจแรกพบ ตอ่ สงิ่ตา่งๆ 5. มักชนื่ชมรปูลักษณ์ภายนอก โดยเฉพาะการแตง่กาย และสสีนัทเี่ขา้กนั อย่างไรก็ตาม ความรู ้ ความสามารถ ศักยภาพ รูปแบบทางความคิด การกระท าบางคนอาจไม่สอดคล้องหรือแตกต่างไป จากข้อสรุป ตามทีก่ล่าวมานีก้ ็เป็นไปได้ทั ้งนี ้ เพราะมหีลายเหตุปัจจยัทีท่ าใหเ้กดิความเปลีย่นแปลง เป็นตน้ว่าการฝึกอบรม การเลีย้งดูสงัคม ประเพณีวฒันธรรม สิ ่งแวดลอ้ม รวมถงึสุขภาพ ความเจ็บป่วยต่างๆ ทางรา่งกายหรอืทางสมองก็มผีลกระทบ หรอืเป็นสาเหตุทีส่ ่งผล ใหเ้กดิการเปลีย่นแปลงไป เบีย่งเบนไปหรอืลดทอนคุณภาพลงไปไดเ้ชน่กนั หมายเหตุ.- *Infinity = X มคี่าตั ้ง แต่ 0 ถึง100 ขึน้อยู่กบัการกระตุน้ ฝึกฝน พฒันา ในชว่งอายุหรอืเวลาที ่ เหมาะสม เรยีนรู ้พัฒนาได้ไม่จ ากัด - RL อสิระในการคดิการแสดงออกทีแ่ตกต่าง นอกกรอบ สรา้งสรรคแ์นวคดิหรอืแกป้ัญหาทีแ่ตกต่าง ตามพหุปัญญาดา้นนั ้น ๆ - PE เป็นลายทีม่พีรสวรรคแ์ละความคดิ สรา้งสรรคด์เีป็นพเิศษ ตามพหุปัญญานี ้และมคีวามมุ่งมั ่นสู่ความส าเร็จสูง - CW เป็นลายทีม่พีรสวรรค์มศีกัยภาพเด่นชดัตามพหุปัญญาดา้นนี ้และและมคีวามมุ่งมัน่สู่ความส าเรจ็สงเป็ นพิเศษู ศกัยภาพในการเรยีนรูท้ีต่ดิตวัมาแต่กา เนิดนี ้จะเกดประสิทธิภาพ ิ ประสทิธผิลไดม้ากหรอืไม่ขึน้อยู่กบัองคป์ระกอบหลายด้าน เป็ นต้นว่า 1.การกระตุน้และการพฒันาที ่ เหมาะสมตามชว่งอายุของวยัตั ้งแต่ 0-16 ปี 2.การดูแลเลีย้งดูดา้นโภชนาการ และสภาพแวดลอ้ม 3.การออกก าลังกาย และพัฒนาการทางกายภาพ สุขภาพ 4.การส่งเสรมิและสนับสนุนการเรยีนรูท้ีส่อดคลอ้งกบัการพัฒนา พหุปัญญา ทั ้ง 10 ประการ

ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ TRC % % TRC % 126.00 50 50 128.00 100 1.จติ 2.ความคดิ 3.กลา้มเนอื้ 21 18 20 5.จกัษุ(ตา) 20 4. โสต(ห)ู 21 1 จติ (การรบัรู้การเรยีนร)ู้ Mental Function 2 ความคดิ (การวเิคราะห)์ Thought Function 3 กลา้มเนอื้ (การปฎบิตั )ิ เรยีนรผู้า่นการกระท า การลงมอืปฎบิ ัตจิรงิ จดจ าจากการไดผ้า่นการปฏบิ ัติ Kinesthetic หรอื สมัผัสโดยตรง การเคลอื่นไหวรา่งกาย ทักษะดา้นกฬีา ทักษะดา้นการประดษิฐ์ 4 โสต (การฟงั) Auditory 5 จกัษุ(การเห็น) ผัสสะการเห็น การรับสมัผัสผา่นการมองเห็นทางสายตา จดจ าจากการเห็น การสงัเกต Visual การเขา้ใจภาพ มติกิารเห็น การเขา้ใจธรรมชาติ สรปุภาพรวม ศกัยภาพการทา งานของสมอง ทงั้สองดา้น และความสามารถในการเรยีนรู้ + X 60-90 91-150 151-180 181-210 211- สมองซกีซา้ย สมองซกีขวา 254.00 TRC พเิศษ ดเียยี่ม ผลรวมของ TRC 21% บคุลกิลักษณะนสิยัการแสดงออก การเป็นผนู้ า การสอื่สารกบัคนอนื่การตัดสนิ ใจ การบรหิารจัดการ การประเมนิ สถานการณ์การควบคมุอารมณ ์การวางแผน การตัดสนิ ใจ 20% 21% 20% 18% ทักษะในการเรยีนรผู้า่นการคดิ ไตรต่รอง ตรรกะเหตผุล มติ สิมัพันธ ์การวเิคราะห ์การจนิตนาการการ คาดการณ์ลว่งหนา้ความคดิ สรา้งสรรค์ ผัสสะการฟัง การไดย้นิ สอื่ทางเสยีง จดจ าจากการไดย้นิ ไดฟ้ ัง รวมถงึชอบหรอืจะท าได้การเขา้ใจ ดนตร ีการสอื่สารดว้ยภาษา 20.87 18.11 20.47 20.87 19.69 ศักยภาพในการ เรียนรู ้ ผลรวมค่า TRC ช้า - ควรปรับปรุง ดี - พร้อมพัฒนา ดีมาก ดีเลิศ พเิศษ ดเียียม่ มือขวา มือซ ้าย หมายเหตุ X = 0 - Infinity ศักยภาพรวมการท างานของสมอง 5 ด้าน ตรรกะ เหตุผล คณิตศาสตร ์ สัญญาลักษณ์ วิเคราะห์ ระเบียบ ความเป็ นกลาง จินตนาการ ดนตรี ความจ า ความคิดสร ้างสรรค์ ศิลปะ อารมณ์ สัญชาญาณ

23.70 - 26.17 25.43 24.69 24% 26% 25% 25% 21% 20% 20% Learn through Moving Doing & Touching การเรยีนรดู้ว้ยการสมัผสัหรอืการลงมอืทา (Kinesthetic) ปัญญาดา้นการเคลอื่นไหวรา่งกาย แยกเป็นกลา้มเนื้อมัดใหญ่ (นวิ้กลางซา้ย) กลา้มเนื้อมัดเล็ก (นวิ้กลางขวา) : เป็นคนทเี่รยีนรดู้ว้ยการสมัผัสนัน้เป็นผทู้เี่รยีนรไู้ดด้จีากการสมัผัส การกระท า หรอื ประสบการณ์ทเี่จอมา ชอบการไดพ้ดูคนดว้ย การสมัผัสตัว ชอบเคลอื่นไหวทางรา่งกาย ชอบพบปะผคู้นมากกวา่ social มักจะชอบการเรยีนรนู้อกสถานที่ชอบท ากจิกรรม แสดงละคร หรอื ชอบเลน่กฬีา Learn through Listening การเรยีนรโู้ดยการไดย้นิ (Auditory) ปัญญาดา้นการการฟัง แยกเป็นการเขา้ใจดนตรี(นวิ้นางซา้ย) การเขา้ใจภาษา (นวิ้นางขวา) : เป็นคนทเี่รยีนรโู้ดยการไดย้นินัน้ เป็นผทู้ สี่ามารถเรยีนรไู้ดด้ที สี่ดุจากการฟังและการพดูรวมถงึสามารถสอื่สารขอ้มลูผา่นการฟังและการพดูไดด้ ีมักจะมคีวามสนใจ เกยี่วกบัการไดฟ้ ังเรอื่งราวตา่ง ๆ ชอบการเรยีนแบบนั่งฟังบรรยายจากผสู้อน ชอบน าเสนองานและพดูคยุแลกเปลยี่นความคดิเห็น บางคนชอบคยุโทรศัพทม์ากกวา่เขยีนหรอื สง่ขอ้ความ เวลาอา่นหนังสอืมักชอบทจี่ะอา่นออกเสยีงดัง และจะเป็นผมู้รีสนยิม สนุทรยีะทางเสยีงดนตรีชอบฟังเพลง ชอบการรับสอื่ผา่นทางเสยีง Learn through Seeing การเรยีนรโู้ดยการมองเห็น (Visual) ปัญญาดา้นมติ สิมัพันธ์นวิ้กอ้ยซา้ย และการเขา้ใจธรรมชาตินวิ้กอ้ย ขวา : เป็นการเรยีนรจู้ากการมองเห็น คนทจี่ะเรยีนรใู้น รปูแบบนี้ไดค้อืคนทสี่ามารถเรยีนรไู้ดด้จีากการมองเห็นและการอา่น การมองเห็นภาพ ผา่นสอื่ตา่งๆ อาจจะเป็นคนทฟี่ังสงิ่ใด แลว้จะมภีาพจนิตนาการเป็นเรอื่งราวในหัว เป็นคนทชี่อบดรูายละเอยีดจากสอื่ Socialตา่ง ๆ อกีทัง้ยงัเป็นคนทสี่ามารถสงัเกต อาการ ทา่ทางการแสดงออกจากผคู้นไดด้ ีและมปีฏกิริยิาตอบสนองไวตอ่ทา่ทางของคสู่นทนา เชน่สามารถสงัเกตไดว้า่ลกูคา้มี รอยยมิ้หนา้ตาสงสยั ไมพ่อใจ จับสญัญาญภาษากายคนอนื่ได้ 23.70 26.17 25.43 24.69 IQ EQ AQ CQ K A V 20.47 20.87 19.69 ศักยภาพความฉลาด 4 ประเภท ทีม่มีาแตก่ าเนิด EQ- Emotional Quotient ความฉลาดด้านอารมณ์ หมายถึง ความสามารถในการจัดการอารมณ์ตัวเอง การมีปฏิสัมพันธ ์ กบัผูอ้ืน่หรอืบุคคลภายนอกอืน่ๆ AQ-Adversity Quotient ความฉลาดด้านการแก้ไขปัญหา หมายถึงความสามารถในการรับแรงกดดัน อดทนและน าพา ตวัเองออกจากปัญหานั ้นได้ CQ-Creativity Quotient ความฉลาดในการรเิริม่สรา้งสรรค์ จนิตนาการหมายถงึความสามารถในการคดิรเิริม่สิ ่งใหม่ๆ การประดษิฐ์จติที ่รกัการแสวงหา IQ-Intelligence Quotient - ความฉลาดด้านสติปัญญา หมายถึงความสามารถด้านการคิด การวิเคราะห์ การ แก้ปัญหาอย่างเป็ นระบบ และเป็ นตรรกะ VAK - Learning Style (รูปแบบการเรียนรู ้) อ้างอิงจากกรวยแห่งการเรียนรู ้ของนักจิตวิทยา การศึกษา เอดการ ์ เดล (Edgar Dale) ไดแ้บ่งสือ่การ สอนตามประสบการณ์การเรียนรู ้จากรูปธรรมไปสู่ นามธรรม ได้ไล่ระดับของการเรียนรู ้ - ผู้เรียนจะเรียนรู ้ผ่านการอ่านและรับความรู ้ได้10 % - ผู้เรียนเรียนรู ้ผ่านการได้ยินและได้รับความรู ้20 % - การเห็นภาพผ่านการแสดงให้เห็น 30 % - การได้ยินและการมองเห็น ผ่านการทัศนศึกษา การสาธิต การดูนิทรรศการ ชมภาพยนตน์ั ้นมกีารเรยีนรูสู้งถง ึ 50 % - การน าความรูท้ี ่ไดจ้ากการอ่านและน ามาถกเถยีงนั ้นไดใ้น อัตราส่วน 70 % - การเรียนรู ้ผ่านประสบการณ์และกิจกรรมพัฒนาทักษะนั ้นได้ มากทีส่ ุดซึ ่งสูงถงึ 90 % สแกนอ่านวิธีพัฒนา QQuotient ดา้นต่างๆ เพิม่ เตมิ

ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ IDL DL EW EW IDL IDL EW EW IDL IDL โป้ งซ ้าย โป้ งขวา ชีซ้า้ย ชีข้วา กลางซ ้าย กลางขวา นางซ ้าย นางขวา ก้อยซ ้าย ก้อยขวา TRC 28 25 23.5 22.5 25 27 27.5 25.5 24 26 28 25 23.5 22.5 25 27 27.5 25.5 24 26 IDL EW IDL IDL EW IDL DL IDL EW EW Interper Musical Bodily-Small Naturalist Linguistic Bodily-Big Intraper Visual Imagin Logical TRC 28 27.5 27 26 25.5 25 25 24 23.5 22.5 % 11.02 10.83 10.63 10.24 10.04 9.84 9.84 9.45 9.25 8.86 28 27.5 27 26 25.5 25 25 24 23.5 22.5 11.02 10.83 10.63 10.24 10.04 9.84 9.84 9.45 9.25 8.86 พหุปัญญา 10 ดา้นและศกัยภาพในการเรยีนรู้ทีม่มีาแตก่า เนิด ดร.โฮเวิร ์ด การ ์ดเนอร ์ (Dr.Howard Gardner) นักจิตวิทยาผู้น าเสนอทฤษฎีพหุปัญญา 8 ด้าน แต่ปัจจบุนันี ้จ าแนกได้ 10 ดา้น ซึ ่งปัญญา แต่ละด้านจะมีความสัมพันธ ์กับสายการเรียนหรืออาชีพ แสดงผลปัญญาแตล่ะดา้นทั ้ง 10 ดา้น จากลายนิว้ >22 19-21 พิเศษ ดเียีย่ม ดเียีย่ม 4A 3A 16-18 12-15 ดีมาก ดี 2A A 9-11 6-8 มีควาพร้อม พัฒนาได้ B C 0-5 D ต้องพัฒนา ศักยภาพสมอง (TRC-Total ridge count) SA,TA,AU,AL * ไม่สามารถระบุความสามารถทีม่มีาแต่กา เนิด จงึกา หนดค่า เป็น X= 0 - Infinity จัดเรียงล าดับปัญญา 10 ดา้น ทีม่ศีกัยาภาพ จากมากทีส่ ุดและรองลงไป มคีวามสมัพนัธก์บัความถนัดสายการ เรียน และอาชีพ อัตรา % ในกราฟทท์ีแ่สดงนี ้ใชข้อ้มูลจากพหุปัญญา 10 ประการ (จาก 10 นิ ้ว)

สรปุผลวเิคราะหภ์าพรวม พรสวรรคป์ญัญา 10 ดา้น ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ สรปุคณุลกัษณะทางปญัญา 10 ดา้น ทเี่ชอื่มโยงลายนวิ้มอืกบัสมอง Type TRC. รวมเฉละกลมุ่ % นวิ้ 1.บคุลกิลักษณะนสิยัความเป็นผนู้ า การแสดงออก มนุษยส์มัพันธ์ IDL 28.00 จติ 01 หัวแมม่อืซา้ย 1.1 การประสาน ความรว่มมอื ในการท างานเป็นทมีการเขา้สงัคม 1.2 ความคดิ สรา้งสรรค ์การตคีวาม 1.2 .สญัชาตญิาน การเป็นผนู้ า การมงุ่มั่นตอ่เป้าหมาย 2. การบรหิารจัดการ การควบคมุความเด็ดขาดในการตัดสนิ ใจ DL 25.00 53.00 21% 06หัวแมม่อืขวา 2.1 การตัง้เป้าหมาย การปฏบิ ัตกิารเชงิรกุตอ่เป้าหมาย 2.2 การตัดสนิ ใจ ความรวดเร็ว และความเด็ดขาด 2.3 ศักยภาพรวมในการเป็นผนู้ า การเอาชนะตนเอง 3. จนิตนาการ การวางแผน ฉากทัศน์จ าลองสถานการณ์ลว่งหนา้ EW 23.50 ความคดิ 02 นวิ้ชซี้า้ย 3.1 การวางแผนและการจ าลองเหตกุารณ์การมโนสรา้งฉากทัศน์ 3.2 การจนิตนาการ มโนภาพ มติ สิมัพันธใ์นภาพ 3.2 การคาดการณ์เหตกุาร หรอื สถานการณ์ลว่งหนา้ 4.ตรรกะ การค านวณ วเิคราะห ์ ใหเ้ห็นไปตามแผน EW 22.50 46.00 18% 07 นวิ้ชขี้วา 4.1 การเชอื่มตอ่แผนตามฉากทัศน์กบัวธิกีารปฏบิ ัตจิรงิ 4.2 การเขา้ถงึเทคโนโลย ีการปรับตัวเขา้กบัเทคโนโลยี 4.3 ตรรกะ ค านวณ วเิคราะห์และการเชอื่มโยงขอ้มลู 5.กลา้มเนื้อ(มัดใหญ)่การเคลอื่นไหวรา่งกาย กายภาพ ศักยภาพดา้นกฬีา IDL 25.00 กลา้มเนื้อ 03 นวิ้กลางซา้ย 5.1 การเคลอื่นไหวรา่งกาย การลงมอืท า ความกระตอืรอืรน้ 5.2 การควบคมุกลา้มเนื้อ การประมวลผลจากสงิ่กระตนุ้ 5.2 ศักยภาพดา้นกฬีา กลา้มเนื้อมัดใหญ่ความแข็งแรงทนทาน 6.กลา้มเนื้อ(มัดเล็ก) การหยบิจับ การสมัผัส ทักษะการใชม้อืและนวิ้มอื IDL 27.00 52.00 20% 08 นวิ้กลางขวา 6.1 ความอดทนและความใสใ่จในรายละเอยีดในงาน 6.2 ศักยภาพกลา้มเนื้อมัดเล็ก เชน่ความยดืหยนุ่ตัว ทักษะการใชม้อื 6.3 ความถนัดในการควบคมุนวิ้และการเรยีงล าดับการกระท า 7.การเขา้ใจดนตร ีการเขา้ถงึดนตรีสนุทรยีะทางดนตรีการเรยีนรจู้ากการฟัง EW 27.50 การไดย้นิ 04นวิ้นางซา้ย 7.1 การเรยีนรจู้ากการฟัง การรับค าสงั่และการตอบสนองตอ่ดนตรี 7.2 ศักยภาพในการไดย้นิและการเขา้ใจดนตรีการชนื่ชอบดนตรี 7.3 การรับรจู้ากการฟังเสยีง จังหวะ การแยกแยะระดับเสยีง 8.การเขา้ใจภาษา การสอื่สารดว้ยภาษา ศักยภาพทางภาษา EW 25.50 53.00 21% 09 นวิ้นางขวา 8.1 การสอื่สาร การใชภ้าษา ภาษากายและการเชอื่มโยงภาษา 8.2 ศักยภาพในการรับรดู้า้นภาษา ศักยภาพดา้นการสอื่สาร 8.3 ศักยภาพทางภาษา ภาษาพดูเขยีน ภาษาขอ้ความ ภาษาCode (โคด้ ) 9.การเขา้ใจภาพ การรับรทู้างสายตาและศักยภาพทางสายตาดา้นมติขิองภาพ IDL 24.00 การมองเห็น 05 นวิ้กอ้ยซา้ย 9.1 การเขา้ใจภาพ การก าหนดระยะดว้ยสายตา การออกแบบ มติกิารเห็น 9.2 การชนื่ชมภาพ เขา้ใจมติภิาพ การออกแบบ การถา่ยภาพ 9.3 การสงัเกต และการเขา้ถงึมติคิวามสวยงามของภาพ การจ าแนกแยกสี 10.การเขา้ใจธรรมชาติการรับรทู้างสายตาทเี่กยี่วขอ้งกบัธรรมชาติ IDL 26.00 50.00 20% 10 นวิ้กอ้ยขวา 10.1 การเขา้ใจพนื้ท ี่การเขา้ใจสงิ่แวดลอ้มรอบตัว การปรับตัว 10.2 การปฏสิมัพันธก์บับคุคลสงิ่ของทอี่ยรู่อบตัว การเขา้ถงึธรรมชาติ 10.3 การจับสงัเกตจากการเห็น การเขา้ใจสงิ่แวดลอ้ม การอนุรักษ์ธรรมชาติ 254.00 254.00 จติ 53.00 ความคดิ 46.00 กลา้มเนื้อ 52.00 การไดย้นิ 53.00 การมองเห็น 50.00 254.00 พเิศษ ดเียยี่ม พเิศษ ดเียยี่ม พเิศษ ดเียยี่ม พเิศษ ดเียยี่ม พเิศษ ดเียยี่ม พเิศษ ดเียยี่ม พเิศษ ดเียยี่ม พเิศษ ดเียยี่ม พเิศษ ดเียยี่ม พเิศษ ดเียยี่ม จิต 53.00 21% ความคิด 46.00 18% กล ้ามเนื้อ 52.00 20% การได ้ยิน 53.00 21% การมองเห็น 50.00 20% >22 19-21 พเิศษ ดเียีย่ม ดเียีย่ม 4A 3A 16-18 12-15 ดีมาก ดี 2A A 9-11 6-8 มีควาพร้อมพัฒนา ได้ B C 0-5 D ต้องพัฒนา ศักยภาพสมอง (TRC-Total ridge count)

ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ ลา ดบั % 4 5 9 100.0 หมายเหต ุตา แหนง่นวิ้ 01-10 สามารถดภูาพประกอบไดใ้นหนา้เอกสาร ประเภทลายนวิ้มอื (Fingerprint Type) ลา ดบักลมุ่อาชพีทแี่นะนา 10 ลา ดบักลุม่อาชพีทแี่นะนา เรยีงตามพหปุ ญัญาดา้นทมี่ากทสี่ดุไปหานอ้ย พหปุ ญัญา 10 ดา้น (มอืซา้ย และ มอืขวา) มอืซา้ย ต าแหน่งนวิ้ล าดับท ี่ 01,02,03,04,05 คอืนวิ้ในมอืซา้ยเรยีงล าดับจากหัวแมม่อื ไปหานวิ้กอ้ย มอืขวา ต าแหน่งนวิ้ล าดับท ี่ 06,07,08,09,10 คอืมอืขวา เรยีงล าดับจากนวิ้หัวแมม่อื ไปหานวิ้กอ้ย หมายเลขนา หนา้ลา ดบักลมุ่อาชพีทแี่นะนา คอืตา แหนง่นวิ้ทงั้ 10 นวิ้ 8 10 1 2 3 6 7 9.45 9.84 07 นักวทิยาศาสตร์นักวจิัย แพทย ์วศิวกร(ผลติ ประดษิฐฯ์ ) นักซอรฟ์แวร์ไอทีครปิ โตเคอรเ์รนซ(ีCryptocurrency) บัญชีคณติ ศาสตร์การจัดการไอทีนักเศรษฐศาสตร์ 09 นักการทตูนักการเมอืง นักพูด ลา่ม การขับรอ้ง นักแปล ทนายความ ครอูาจารย(์ภาษา) กว ีวรรณกรรม โคด้ดงิ้ (Coding) นเิทศ สงัคมวทิยา นักพากย์คอนเทนต์(CONTENT) 06 นักคดิ นักปรัชญา-ศาสนา นักวจิัย นักวเิคราะห ์นักจติวทิยา บรรณาธกิาร นักวจิารณ์ โคช้ผปู้ระกอบการ Startup อาชพีอสิระ 03 นักกฬีา นักแสดง(การเตน้ร า) บัลเลต่ ์กายกรรม โคช้ สอนโยคะ-ฟิตเนส ยมินาสตคิ นักแสดงละคร 05 สายวทิย-์นักประดษิฐ ์วศิวกร (โยธา เหมอืงแร่ฯ)/ สายศลิ ปะ จติรกร ประตมิากรรม สถาปนกิ ผชู้า นาญ อญัมณีนัก ออกแบบภมูทิ ัศน ์ ชา่งภาพ ดไีซเนอร ์ ปัญญาประดษิฐ์AI 02 ประตมิากร ชา่งปั้น ศลิ ปิน มัณฑนากร วศิวกร นักน าทาง มัคคเุทศก ์นักสา รวจ นักออกแบบ ปัญญาประดษิฐ์AI 01 นักการขาย การตลาด นักธรุกจิ นักสงัคมศาสตร์ผนู้ ากลมุ่ทปี่รกึษาทางธรุกจินักการศกึษา ครอูาจารย(์สอื่สาร) 04 นักดนตรีนักรอ้ง วาทยกร(conductor) นักแตง่เพลง วศิวกรรมดนตรีดเีจ นักดนตรบี าบัด การจัดการบันเทงิ คอน เทนต์(CONTENT) 08 ศัลยแพทย ์ ศลิ ปงานฝีมอื ประตมิากร งานประณตี ศลิ ป์งานชา่งฝีมอืหัตถเวช เชฟ แพทยฝ์ ังเข็ม 10 สตัวแพทย์นักพฤกษศาสตร์นักกฏีวทิยา(แมลง) ธรณวีทิยา นเิวศวทิยา อสงัหาฯ การออกแบบภมูทิ ัศน ์นัก สา รวจธรรมชาต ิดาราศาสตร์ 11.02 10.83 10.63 10.24 10.04 9.84 9.25 8.86 หมายเหตุ X = Infinity การจดัลา ดบัอาชพีจากผลการวเิคราะหล์ายนิ ้วมอืนี ้สามารถน าไปใชป้ระกอบเป็นแนวทางในการเลอืกอาชพีการงาน หรือเลือกสาย การเรียนการศึกษา ที ่ เกีย่วขอ้งสอดคลอ้งกบักลมุ่อาชพีดงักลา่ว การจดัลา ดบัอาชพีนีอ้า้งองิมาจากจากผลการวเิคราะหล์ายนิ ้วที ่ สมัพนัธก์บัพหุปัญญาทั ้ง 10 ประการ ของแต่ละบุคคล กรณี ค่าเป็ น X รวมถงึการพฒันา การเรยีนรู้ซึ ่งจะมคี่าตั ้งแต่ 0-กระทั ่งไม่จา กดั (0-Infinity) = 0 ถึง Infinity(อนันต์) กลุ่ม ลาย SA,TA, AU,AL ไม่ทราบค่าทีแ่น่นอน

ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ ล าดับ คะแนน กลมุ่อาชพี 1 26.50 สอื่สารมวลชนและการเมอืง นักขา่ว เจา้หนา้ทสี่อื่สารมวลชน ประชาส2 26.50 การแสดงและการละคร นักแสดง ดารา โมเดลลงิ่ 3 26.30 คอมพวิเตอรแ์ละการผลตินักออกแบบเทคนคิพเิศษโปรแกรมเมอร์4 25.88 นติ-ิกฎหมาย ทนายความ ผพู้พิากษา นักวจิัยกฎหมาย 5 25.88 ดนตรแีละการประพันธ์นักดนตรดีา้นตา่งๆ นักแตง่เสยีง นักแตง่6 25.83 การบรหิารและการจัดการ นักบรหิาร บรรณารักษ์ บรหิารงานภาครั7 25.70 การศกึษา จติวทิยาและสงัคมวทิยา นักศกึษาศาสตร์นักการศกึษา นักวจิัยกา8 25.50 เกยี่วกบัภาษา นักอตุนุยิมวทิยา นักพดูลา่ม การขบัรอ้ง9 25.50 การแพทยแ์ละสขุภาพ แพทย์สตัวแพทย์นักวจิัยโรคแพทย์แพ10 25.42 การใหค้ าปรกึษาการวเิคราะห์ทปี่รกึษาองคก์ร ผจู้ ัดการทั่วไป นักเจรจา11 25.25 ปรัชญาและศาสนา นักปรัชญา นักเทศน์ ผนู้ าทางศาสนา ผนู้12 25.17 เกยี่วกบักฬีา นักกฬีาตา่งๆ โคช้กฬีา ศลิปะการกฬีา วทิ13 25.13 ศลิปะ ศลิปิน ชา่งภาพ ผกู้ ากบั ศลิป์ ประตมิากร14 25.00 การขายและการจัดการ การขายและการจัดการ การจัดการอตุสาห15 24.83 อกัษรศาสตร์นักเขยีนงานวรรณกรรม นักประวตั ศิาสตร์16 24.75 การจัดการทรัพยากรมนุษย์การวางแผนกลยทุธ์การวางแผนการตลา17 24.75 เทคนคิและเครอื่งกล งานชา่ง งานฝีมอื(อาหาร,เสรมิสวย..) งา18 24.60 การออกแบบและภมูทิ ัศน์นักออกแบบ นักสรา้งแบรนด ์ โฆษณา แ19 24.50 การบ าบดัและรักษาโรค นักวเิคราะหท์างการแพทย์ผชู้ว่ยทางการ20 24.50 บญั ชีการเงนิธนาคาร นักวเิคราะหก์ารลงทนุครปิ โตเคอรเ์รนซ(ีแนะนา 20 อาชพีทสี่อดคลอ้งโดยสรุปวเิคราะหต์ามศกัยภาพทางพแนะนา เลอืกลา ดบัอาชพีทเี่หมาควรเลอืกอาชพีที ่ เหมาะจากคะแนนตั ้งแต่ 15 ขึน้*กรณี ค่าTRC รวมต ่ากวา่ 15 หรอืมลีายนิ ้วบางนิทา ใหค้า่คะแนนรวมต ่า ดงันั ้นการเลอืกอาชพีกา**อยา่งไรก็ตาม กรณีลายนิ ้วมีArch (SA,AU,TA

สมัพันธ ์พธิกีร ด าเนนิรายการทวีี-วทิย ุนักการทตู นายหนา้ลอบบยี้สีต์ ผดู้แูลระบบคอมพวิเตอร์ผผู้ลติซอฟตแ์วร์โคด้ดงิ้ (Coding) ผผู้ลติสารคดีกราฟฟิคดไีซน์ งเพลง การสอนดนตรี รัฐและเอกชน เลขานุการ รศกึษา นักจติวทิยา คร ูผใู้หค้ าแนะน า ปรกึษานักสงัคมสงเคราะห ์นักบ าบดั โรคทางภาษา ง นักแปลภาษา บรรณาธกิารภาษา นักวจิัยภาษา ครูสอนภาษา มคัคเุทศก ์นักบนิ พทยแ์ผนจนีการพยาบาล า นักวจิารณ์เหตกุารณ์ตวัแทนประกนัภัย ครปิ โตเคอรเ์รนซ(ีCryptocurrency) ทปี่รกึษาทางการเงนิ น าทางความคดินักจติวยิา นักวชิาการ อาชพีอสิระ ทยาศาสตรก์ารกฬีา กายภาพดา้นกฬีา ร บรรณาธกิารศลิป์ หกรรม การจัดการโลจสิตกิส์ผจู้ ัดการผลติภัณฑ ์นักเศรษฐศาสตร์เจา้ของธรุกจิ ร ์คอนเทนต์(CONTENT) าด ผบู้รหิาร-จัดการ ผกู้ ากบันักวจิารณ์ภาพยนตรแ์ละเพลง านซอ่ม งานวศิวกรรม ฟชนั่การตกแตง่ เครอื่งประดบัวศิวออกแบบ สถาปนกิ รแพทย์เภสชักร นักวจิัยทางการแพทย์ (Crypt.) ผจู้ ัดการดา้นการเงนิการธนาคาร นักวจิัยทางการเงนิผเู้ชยี่วชาญดา้นภาษีนักเศรษฐศาสตร์ พหปุ ญัญา 10 ประการ (แตล่ะอาชพีผสมผสานจากหลายพหปุ ญัญา) าะสม เรยีงจากมากทสี่ดุไปหานอ้ย อาชพีทสี่อดคลอ้งกบักลมุ่อาชพี นไป (11-14 ปานกลาง 15-18 ดี 19-20 ดีมาก 21-23 ดีเลิศ 24 > พิเศษ ดเียีย่ม) นิ ้วเป็นกลมุ่ Arch ค่า TRC นิ ้วนั ้นๆ เป็น X ไม่สามารถนับไดไ้ม่ทราบคา่ทีแ่น่นอน ารงานจงึสามารถเลอืกจากลา ดบัคะแนนสงูสดุเรยีงลา ดบัลงไป A,AL) หลายนิ ้ว พจิารณาจากความชอบและการกระตนุ้พฒันาเป็นสา คัญ

ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ 0 ล าดับ คะแนน กลมุ่อาชพี 21 24.38 เทคโนโลยชีวีภาพและวทิยาศาสตรป์ระยกุต์นักวจิัยสาขาตา่ง ๆ ปัญญาประดษิฐ์AI(A22 24.25 ทันตกรรมและฟิสกิส์นักรังสีผเู้ชยี่วชาญดา้นสายตา แพทยท์า23 24.25 นเิวศวทิยา นักสา รวจ นักนเิวศวทิยา นักโบราณคดีนั24 24.25 การเกษตร วศิวกรการเกษตร นักวจิัยป๋ยุและพันธพ์ ชื25 24.13 การวจิัย นักวจิัย นักประดษิฐค์ดิคน้วศิวกรรมพันธุ26 24.00 สถาปัตยกรรม สถาปนกิการออกแบบ การกอ่ สรา้ง 27 23.83 เกยี่วกบัขอ้มลูผเู้ชยี่วชาญดา้นไอทีนักวเิคราะหร์ะบบสา28 23.75 วศิวกรรมคณติ ศาสตร์และวทิยาศาสตร์วศิวกร(วศิวกรดา้นตา่งๆ ) นักวจิัยสถติ ิปัแนะนา เลอืกลา ดบัอาชพีทเี่หมาควรเลอืกอาชพีที ่ เหมาะจากคะแนนตั ้งแต่ 1*กรณี ค่าTRC รวมต ่ากวา่ 15 หรอืมลีายนิ ้วทา ใหค้า่คะแนนรวมต ่า ดงันั ้นการเลอืกอาชี**อยา่งไรก็ตาม กรณีลายนิ ้วมีArch (SA,A

Artificial Intelligence) างเลอืก นักกายภาพบ าบดั ศลัยแพทย์ นักภมูศิาสตร์อสงัหา ฯ นักธรณีวทิยาและนักโหราศาสตร์ ช การจัดการฟารม์ ศลิปะและงานฝีมอื ศาสตร์นวตักรรม โคด้ดงิ้ (Coding) ารสนเทศ โคด้ดงิ้(Coding) นักวจิัยขอ้มลูผลติภัณฑ์นักออกแบบ ัญญาประดษิฐ์AI(Artificial Intelligence) าะสม เรยีงจากมากทสี่ดุไปหานอ้ย อาชพีทสี่อดคลอ้งกบักลมุ่อาชพี 15 ขึน้ไป (11-14 ปานกลาง 15-18 ดี 19-20 ดีมาก 21-23 ดีเลิศ 24 > พิเศษ ดเียีย่ม) วบางนิ ้วเป็นกลมุ่ Arch ค่า TRC นิ ้วนั ้นๆ เป็น X ไม่สามารถนับไดไ้ม่ทราบคา่ทีแ่น่นอน ชพีการงานจงึสามารถเลอืกจากลา ดบัคะแนนสงูสดุเรยีงลา ดบัลงไป AU,TA,AL) หลายนิ ้ว พจิารณาจากความชอบและการกระตนุ้พฒันาเป็นสา คัญ

ศกัยภาพความฉลาด 4 ประเภท ทมี่มีาแตก่า เนดิ ชอื่ตวัอยา่งรายงานวเิคราะห์ IQ 23.70 EQ 26.17 AQ 25.43 CQ 24.69 คา่ของ Q ตา่ง ๆ ทแี่สดงนี้น ามาจากหลาย นวิ้ประกอบกัน ตามหลักพหปุัญญาและวทิยาศาสตรล์ายนวิ้มอื หมายเหตุกรณีลายนวิ้ SA,TA,AU,AL * ไมส่ามารถระบคุวามสามารถในการเรยีนรทู้มี่มีาแตก่ าเนดิจงึก าหนดคา่เป็น X=0 - Infinity ดังนัน้กรณีทมี่ลีายนวิ้บางนวิ้เป็นกลมุ่ลายดังกลา่วน ี้จะท าใหค้า่ IQ,EQ,AQ,CQ ไมแ่น่นอน ขนึ้อยกู่ ับการกระตนุ้และพัฒนา IQ 23.70 ความฉลาดดา้นสติปัญญา หมายถึงความสามารถดา้นการคิดการวิเคราะห์การแกป้ ัญหาอยา่งเป็นระบบและเป็นตรรกะ EQ 26.17 ความฉลาดดา้นอารมณ์หมายถึงความสามารถในการจดัการอารมณ์ตวัเองการมีปฏิสมัพนัธ์กบัผอู้ื่นหรือบุคคลภายนอกอื่นๆ AQ 25.43 ความฉลาดดา้นการแกไ้ขปัญหาหมายถึงความสามารถในการรับแรงกดดนัอดทนและนา พาตวัเองออกจากปัญหาน้นัได้ CQ 24.69 ความฉลาดดา้นความคิดสร้างสรรคห์มายถึงความสามารถในการคิดริเริ่มสิ่งใหม่ๆ การประดิษฐ์จิตที่รักการแสวงหา IQ : Intelligence Quotient (ความฉลาดทางสตปิัญญา) ไอควิเป็นศักยภาพทางสมองทตี่ดิตวัมาแต่กา เนิด เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ยาก เป็นความสามารถทางเชาวน์ปัญญาคิดหาเหตุผลซ่ึงรวมไปถึงการคิด การเชื่อมโยงการใชเ้หตุผลการคา นวณ ไอคิว หรือความฉลาดทางสติปัญญา ส่วนหน่ึงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมไดค้ือพนัธุกรรม ประมาณ 50 % ส่วนที่สามารถควบคุมได้คือภาวะโภชนาการ สภาพแวดลอ้มที่ดีและเหมาะสม เป็นตน้วา่ อาหาร การออกกา ลงักาย การพกัผอ่น การอ่านหนงัสือ การเล่น การสนทนา การแกป้ ัญหา การท่องเที่ยว -อาหาร ให้ลูกไดร้ับสารอาหารที่ครบถว้น ในปริมาณพอเหมาะอยา่งถูกสุขลกัษณะ -การออกกา ลงักาย ให้กระโดดโลดเตน้อยา่งอิสระ ตามความสนใจเล่นกีฬาที่ลูกชอบ -การอ่านหนงัสือฝึกนิสยัรักการอ่านให้ลูกโดยอ่านหนงัสือให้ลูกฟังต้งัแต่ลูกยงัเลก็ๆ หาหนงัสือภาพให้ลูกดู -การเล่น เปิดโอกาสให้ลูกไดเ้ล่นซนบา้ง เช่น เล่นน้า เล่นทราย ฯลฯ -การสนทนา พอ่แม่ที่เอาใจใส่พดูคุยกบัลูกจะทา ให้ลูกเรียนไดด้ีและช่วยให้มีเชาวน์ปัญญาดี -การแกป้ ัญหา พอ่แม่เล้ียงดูลูกแบบทะนุถนอมปกป้องมากเกินไปจนตดัสินใจให้ลูกทุกอยา่ง -การท่องเที่ยว พาลูกไปเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจเหมาะกบัวยัเช่น สวนสตัว์สวนดอกไม้ ปัจจุบนัน้ีนกัวิจยัให้ความเห็นวา่ IQ มีส่วนเกี่ยวขอ้งกบัความสา เร็จในชีวิต เช่น การท างาน การเรยีนประมาณ 20 % ดูเพมิ่เตมิความฉลาดทาง EQ,AQ,CQ และแนวทางการพฒันา ... โดยการสแกน QR 23.70 26.17 25.43 24.69 IQ EQ AQ CQ

EQ : Emotional Quotient (ความ ฉลาดทางอารมณ์) อคีวิถงึแม้จะเป็นศักยภาพทาง สมองเหมือนกนัแต่กส็ามารถปรับเปลี่ยนเรียนรู้และพฒันาให้ดขีนึ้ได้ อีคิวคือความเฉลียวฉลาดทางอารมณ์, อจัฉริยะทางอารมณ์(Emotional Intelligence) หมายถึงความสามารถของบุคคลที่จะตระหนกัถึงความรู้สึกของ อารมณ์ตนเองและของผอู้ื่นสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้สามารถรอคอยการตอบสนองความตอ้งการ ของตนเองไดอ้ยา่งเหมาะสมถูกกาลเทศะ สามารถให้กา ลงัใจตนเองในการเผชิญปัญหาอุปสรรค ขอ้ขดัแยง้ต่างๆไดอ้ยา่งไม่คบัขอ้งใจรู้จกัขจดัความเครียดที่จะขดัขวางความคิดริเริ่มสร้างสรรคอ์นัมีคา่ของตน สามารถทา งานร่วมกบัผอู้ื่นท้งัในฐานะผนู้า และผตู้ามไดอ้ยา่งมีความสุขจนประสบความสา เร็จในการเรียนในอาชีพ ตลอดจนประสบความสา เร็จในชีวิต คนที่มีEQ สูงจะเป็นคนที่มีความเขา้ใจตนเองดีรู้เท่าทนัอารมณ์ของตน รู้จุดเด่นจุดดอ้ยของตน มีความสามารถในการควบคุม และจดัการกบัอารมณ์ตวัเองได้มีความเขา้ใจผอู้ื่นสามารถเอาใจเขามาใส่ใจเรา สามารถแสดงอารมณ์ต่อผอู้ื่นไดอ้ยา่งเหมาะสม มีความสามารถในการแกไ้ขขอ้ขดัแยง้ไดด้ีมีความสามารถในการสร้างสมัพนัธภาพกบัคนรอบขา้งได้มีมนุษยสมัพนัธ์ที่ดีมองโลกในแง่ดีสามารถจูงใจและให้กา ลงัใจตนเองได้ มีเป้าหมายในชีวิตและมีแรงจูงใจที่จะดา เนินชีวิตไปให้ถึงเป้าหมาย ที่วางไวไ้ด้ 10 วธิีเสริมสร้าง EQ 1. ฝึกรับรู้ความรู้สึกของผอู้ื่น รู้จกัเอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราไปใส่ใจเขา 2. รู้จกัการปฏิเสธ ปฏิเสธการทา ตามอารมณ์ตามใจตวัเองซะทุกอยา่งกลา้ที่จะปฏิเสธบางอยา่งที่คนอื่นบงัคบัให้เราทา ในสิ่งที่เราไม่ชอบ 3. ตรวจเช็คสภาวะของอารมณ์ตามอารมณ์ตวัเองให้ทนัอารมณ์ปกติอารมณ์ดีอารมณ์เสีย อารมณ์โกรธ ..... ฝึกให้อยู่ในอารมณ์ปกติไปถึงอารมณ์ดี 4. ประเมินความสามารถของเราอยา่งจริงใจอะไรดีกพ็ฒันาเพมิ่เติม อะไรดอ้ยกย็อมรับและแกไ้ข ทา จากนอ้ยไปหามาก 5. เปิดโอกาสต่อสิ่งใหม่ๆการกลวัความเปลี่ยนแปลงเป็นตวัยบัย้งัการสร้าง EQ เราตอ้งเพมิ่ EQ ของเราโดยการฝึกปรับตวัให้เขา้ กบัสถานการณ์ต่างๆ ได้และเปิดโอกาสต่อสิ่งใหม่ๆ 6. พอใจในสิ่งที่เรามีและสิ่งที่เราเป็นคน้พบตวัตนให้เจอวา่เราเป็นคนอยา่งไรและรักในสิ่งที่เราเป็น คนที่มีEQ สูงเป็นคนที่มนั่ใจ ในตนเองและไม่ยอมให้ความกดดนัจากคนอื่นมาลดคุณคา่ ในตวัเราเอง เราจะตอ้งสร้างความมนั่ใจให้เราเอง 7. เอาผิดเป็นครูเรียนรู้จากความผิดพลาดสิ่งที่จะช่วยเพมิ่พนู EQ ของเราคือการที่เรารู้วา่จะตอบสนองต่อความผิดพลาดไดอ้ยา่งไร ทุกคนลว้นทา สิ่งที่ผิดพลาดท้งัน้นัจงอยา่ ให้มนัมาครอบงา จนทา ให้เรากา้วเดินต่อไปไม่ไหว 8. การให้อภยัฝึกให้อภยับ่อย ๆ จะช่วยเพมิ่ EQ ของเราได้หลาย ๆ คนไม่ยอมให้อภยัเพราะมองวา่เป็นการยอมให้อีกฝ่ายกลบัเขา้มา ในชีวิตเขาอีกแต่ความจริงแลว้การให้อภยัถือเป็นอีกรูปแบบหน่ึงของการเขา้ใจความรู้สึกผอู้ื่น 9. เทคโนโลยดีีอยา่งไรแต่ตอ้งรักษาความห่างและความพอดี ไม่วา่จะเป็น email หรือเหล่า social Media ต่างๆ ท้งั Facebook twitter ขอ้ความต่างๆ ที่ไม่ดีที่เขา้มา สามารถเปลี่ยนอารมณ์ของเรา ให้แยล่งได้เราสามารถเพมิ่ EQ ไดโ้ดยการแยกแยะชีวิตงานกบัชีวิตส่วนตวัให้ชดัเจน ลองปิดมือถือแลว้ออกไปเดินชมสวนหรือกินขา้วกบัครอบครัวบา้ง เป็นการเปิดโอกาสให้กายและใจของตวัเองไดเ้ชื่อมต่อกบัคนอื่นและ ช่วยปรับปรุงอารมณ์ของเราเอง 10. ไม่มีใครสมบูรณ์แบบในโลกน้ีเลิกที่จะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ การไล่ล่าหาความสมบูรณ์แบบ ยิ่งจะทา ให้เรารู้สึกสิ้นหวงัการเพมิ่ EQ คือการไม่ไปยดึติดกบัสิ่งที่เราทา ไม่ได้ แต่ให้สนใจในการพฒันาและปรับปรุงตนเองในโอกาสหนา้ดีกวา่ AQ : Adversity Quotient(ความฉลาด ในการแก้ไขปัญหา) คือมีความยดืหยุ่นสามารถปรับตวัในการเผชิญปัญหาไดด้ีและพยายามหาหนทางแกไ้ขปัญหา เอาชนะอุปสรรคความยากลา บากดว้ยตวัเองไม่ยอ่ทอ้ง่ายๆ จริงๆ แลว้ความฉลาดในดา้นน้ีเริ่มก่อตวัข้ึน ต้งัแต่เป็นเด็กเพราะเด็กจะเรียนรู้วิธีการมองและจดัการปัญหาจากผใู้หญ่รอบขา้งวา่ ปัญหาน้นัเป็นปัญหาที่ ตอ้งยอมจา นน เป็นโอกาสหรือเป็นเรื่องน่าทา้ทายควรส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เด็กไดฝ้ึกเผชิญ กบัการแกป้ ัญหาดว้ยตวัเองและเผชิญกบัความยากลา บากหรืออุปสรรค

3 ปัจจยัที่เป็นข้นัตอนสา คญัของ AQ คือ 1.AQ การจินตนาการความเป็นไปไดท้ ี่ดีกวา่ที่คาดหมาย 2.AQ แปลงสิ่งที่จินตนาการให้เป็นวิสยัทศัน์ที่ชดัเจน 3.AQ การคงสภาพวิสยัทศัน์ที่ชดัเจนน้นัจนกวา่จะดา เนินการจนบรรลุเป้าหมาย 3ปัจจยัที่เป็นคุณสมบตัิหลกัของผทู้ี่มีAQ สูง 1.ทา ให้บุคคลน้นัมีความคล่องตวัอยู่เสมอไม่เหี่ยวเฉา 2.เป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ 3.มีจิตใจต่อสูอ้ยา่งไม่ยอ่ทอ้ CQ : Creativity Quotient(ความ ฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์จินตนาการ) ความฉลาดในการคิดสร้างสรรค์จินตนาการหรือแนวคิดใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ เช่น การเล่น งานศิลปะการประดิษฐส์ ิ่งของ CQ จะสมัพนัธ์กบัเรื่องการเล่น ถา้เด็กไดเ้ล่นอยา่งอิสระตามความชอบและเหมาะกบัวยัเด็กกจ็ะมีความคิดสร้างสรรค์ การปลูกฝังเรื่องน้ีจึงอยู่ที่พอ่แม่มีเวลา เล่นและทา กิจกรรมที่ส่งเสริมจินตนาการกบัลูก เช่น การเล่นศิลปะการหยบิจบัของใกลต้วัมาเป็นของเล่น การเล่านิทาน เป็นตน้ สิ่งที่พอ่แม่ทา ได้กค็ือ ตอ้งไม่เอากรอบความคิดเราไปปิดก้นัความคิดสร้างสรรคข์องเด็ก ปัจจยัหลกัในการจะส่งเสริม CQ ให้เด็ก ๆ มีจินตนาการและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ดงัต่อไปน้ี 1.กระตนุ้ ให้เด็กไดค้ิดโดยการเปิดโอกาสให้ถาม คน้หาขอ้สงสยัและแสดงความคิดเห็น 2.เสริมสร้างจินตนาการตามที่เด็กถนดัเช่น การฟังเพลงวาดรูป การแสดงบนเวทีต่างๆ 3. ให้โอกาสเด็กไดท้า สิ่งหน่ึงสิ่งใดดว้ยตวัเอง พร้อมให้คา ชมเชยกบัความพยายามของเขาและไม่ควรวิจารณ์ ผลงานที่เขาทา ออกมาดว้ยการเปรียบเทียบ หรือตดัสินวา่แคว่า่สวย หรือไม่สวยเพราะนอกจากจะทา ให้เขาเสีย กา ลงัใจและความมนั่ใจแลว้ยงัไปปิดก้นัความคิดสร้างสรรคข์องเขาอีกทางหน่ึง 4. ให้เด็กออกไปเปิดโลกกวา้งตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ที่ถูกเติมเตม็ดว้ยความคิดสร้างสรรคข์องเหล่านกัคิด และนกัสร้างสรรค์ไม่วา่จะเป็นพิพิธภณัฑ์นิทรรศการความรู้ต่างๆ

การพฒันาพหปุ ญัญา 10 ประการ และอาชพีทสี่อดคลอ้ง ตา แหนง่นวิ้หวัขอ้1.เกยี่วขอ้งกบัการสอื่สารระหวา่งบคุคล ภาวะการน า และความสามารถในการจัดการ ชอบทจี่ะ ปฏสิมัพันธ์และหว่งใยผอู้นื่ 2.มักชนี้ าทัศนคติและความคดิเห็นของผอู้นื่จนถงึการโนม้นา้วใหผ้อู้นื่ยอมรับความคดิเห็นของตนความสามารถในการสงัเกตอารมณ์และความคดิเห็นของผอู้นื่ 3.ชอบพบปะผคู้น เขา้สงัคมกบัผอู้นื่ไดด้ ีและรักษาความสมัพันธท์ดี่กีบัผอู้นื่การท างานเป็นทมี 1.วางแผนกอ่นลงมอืท า ประเมนิงานประสทิธภิาพของงาน และความสามารถในการท างานให้ สา เร็จ 2.มคีวามยดืหยนุ่ สามารถรับมอืกบัเหตกุารณ์เฉพาะหนา้ไดอ้ยา่งรวดเร็ว และสรา้งสรรค์สามารถ เปลยี่นแรงตา้น เป็นแรงสนับสนุนได้และสามารถหาทางออกไดท้กุกรณี 3.รักษาสญัญา และหาหนทางทจี่ะท าใหส้ญัญานัน้สา เร็จ 1.มคีวามสามารถในการไตรต่รองดว้ยตนเอง มงุ่ความคดิ ไปทคี่ณุคา่ของชวีติบนหลักเกณฑข์องตเขา้ใจจดุแข็งและขอ้ดอ้ยของตัวเอง 2.มคีวามมงุ่มั่นสงูเป็นอสิระ มคีวามเคารพในตนเองสงูรักอสิระเป็นตัวของตัวเอง 3.มคีวามสามารถในการเรยีนรู้และสรา้งแรงบันดาลใจไดจ้ากประสบการณ์ทสี่า เร็จ และลม้เหลวไ1.มคีวามสามารถพเิศษในการคดิการวางแผน หรอืแผนการของอนาคต สามารถวางโครงรา่ง เป้าหมาย และวสิยัทัศน์ใหต้นเองหรอืทมีงาน รวมถงึมกีารสรา้งแรงจงูใจใหต้นเอง เพอื่ใหส้ามารถท างานไดต้ามเป้าหมายตัง้ไวอ้ยา่งตอ่เนื่อง 2.มคีวามกลา้ทจี่ะเผชญิกบัความเสยี่ง ความทา้ยทาย ความเปลยี่นแปลง และยังมวีนิ ัยในตนเอง เพอื่ใหเ้ป็นไปตามเป้าหมายทตี่ัง้ไว้ หมายเหต ุ : EQ 1. สามารถจัดการ และควบคมุอารมณ์ไดด้มีาก 2. ไมโ่กรธ หรอืกงัวลจากองคป์ระกอบภายนอก หรอืเรอื่งทเี่กดิขนึ้เฉพาะหนา้ 3. เป็นคนมองโลกในดา้นบวก 1.นวิ้หัวแมม่อื : - การทา งานดา้นจติ ใจ - การปฏสิมัพนัธก์บัผอู้นื่ - การวางแผน - ความเขา้ใจตนเอง - การสรา้งความคดิและ ภาวะผนู้า - ความฉลาดทางอารมณ์

ตัวอยา่งรายงานวเิคราะห์ นวิ้ Typs TRC/% อาชพี การฝึกฝน/ขอ้เสนอแนะการพฒันา ความสามารถ น 28.00 - ผนู้ า - เจา้ของกจิการ - พนักงานขายตรง - ตัวแทนประกนั ชวีติ - นักการเมอืง - มสีว่นรว่มคา่ยพัฒนาภาวะผนู้ า - มสีว่นรว่มกจิกรรมของสงัคม / จติ สาธารณะ - มสีว่นรว่มในการเป็นคณะกรรมการ หรอื คณะบรหิารจัดการ - ศกึษาขอ้มลูชวีประวัตผิทู้ ปี่ระสบ ความสา เร็จ -ผจู้ ัดการ -ผอู้ านวยการ -เลขา หวัหนา้งาน ผชู้ว่ย - รว่มการบรหิารจัดการงานอเีวน้ท์ - รว่มกจิกรรมกลมุ่ - มสีว่นในการวางแผนงาน - รว่มการประชมุพจิารณา และการอภปิราย ตน ได้ 25.00 -ผนู้ าศาสนานักเทศน์ -จติแพทย์ -นักจติวทิยา -นักใหค้ าปรกึษา -ผเู้ชยี่วชาญ -นักวชิาการ - ศกึษาดา้นจติวทิยา - ไตรต่รองถงึวธิกีารเขา้ใจตนเอง - ฝึกการท าสมาธิ - รว่มกจิกรรมทางศาสนา - ศกึษาหนังสอืแนวคลาสสคิ ถ -นักลงทนุ -นักเขยีน -นักประพันธ์ - ฝึกเขยีนเรยีงความ - ฝึกการคดิ สรา้งสรรค์ - ฝึกเลา่นทิาน เลา่เรอื่งราวตา่งๆ ความฉลาดทาง อารมณ์ - เป็นทปี่รกึษาทางดา้น จติวทิยา - ครูอาจารย์ - นักธรุกจิ / ผบู้รหิาร - งานประชาสมัพันธ์ - ศกึษา หาความรดู้า้นจติวทิยา - ศกึษาเรอื่งของการบรหิาร การจัดการ (หวัแมม่อืซา้ย) การสมัพันธก์บั ผอู้นื่ /การวางแผน IDL (หวัแมม่อืขวา) ความเขา้ใจ ตนเอง/การคดิ ภาวะผนู้ า DL

ตา แหนง่นวิ้หวัขอ้1.มคีวามเขา้ใจดตีอ่ สาเหตแุละผลกระทบทเี่กดิจากสาเหตตุา่งๆ สามารถจดจ าเนื้อหาทไี่ดเ้รยีนรู้จากการท าความเขา้ใจการวเิคราะหแ์ละการสรปุทมี่ปีระสทิธภิาพ 2.ชอบการใชค้วามสามารถทางคณติ ศาสตร์การหาเหตผุล การจัดหมวดหมู่การวเิคราะห์และการสรปุใหเ้ป็นตัวเลข 3.คนุ้เคยกบัการคดิเชงินามธรรม ชอบใชเ้ทคโนโลยีและถามค าถามทตี่อ้งใชค้วามคดิ 4.ชอบจัดล าดับ รปูแบบ กฎดา้นตรรกะของสงิ่ตา่งๆ ทเี่ป็นเหตเุป็นผล และเป็นคนทมี่คีวามสามารถดา้นการค านวณ วทิยาศาสตร ์คอมพวิเตอร์ 1. สามารถอธบิายเหตกุารณ์หรอืแสดงความคดิเห็นไดอ้ยา่งชดัเจน และเป็นระบบ สามารถ กลั่นกรองขอ้มลูหรอืยกตัวอยา่งทสี่อดคลอ้งกนัเพอื่ใหผ้อู้นื่เขา้ใจแมจ้ะฟังเพยีงครัง้เดยีวก็ตาม 2. มคีวามสามารถในการโนม้นา้วผคู้นดว้ยภาษาพูด หรอืภาษาเขยีน ชอบเลน่เกมสเ์กยี่วกบัภาษาทมเีสยีงประกอบ เชน่เกมสท์ายค า 3. มคีวามสามารถในการทอ่งจ าบทกลอน หรอืบทกวตีา่งๆ จากความทรงจ า บางทอีาจเป็นนักเลา่ท1.มสีมัผัสในเรอื่งทศิทางทดี่ีจดจ า และนกึ ไดถ้งึเสน้ทางทเี่คยเดนิทางผา่น สามารถจดจ าถนน หนทางไดด้ ี 2.มคีวามชดัเจน และระวังเป็นอยา่งมากในการจัดวาง และการจัดแสดงสงิ่ตา่งๆ รอบตัว และมภีาพทชี่ดัเจนของการจัดวางในความคดิอยแู่ลว้ 3.สรา้งภาพในความคดิ ไดอ้ยา่งชดัเจน มคีวามสามารถในการวาดแบบแปลน การจัดพนื้ที่การจัด วางสงิ่ของ 4.มคีวามเขา้ใจ และหลักความคดิเกยี่วกบัภาพสามมติ ไิดด้ ีสามารถเขา้ใจ และรับรถู้งึภาพใน ความคดิ ไดช้ดัเจน ชอบใชว้ัตถแุข็งหรอืวัตถสุามมติ ิเป็นสอื่ชว่ยเรยีนรู้ 1. ชอบใชม้อืวาด หรอืเขยีน ขณะใชค้วามคดิ 2. ชอบถา่ยทอดความหมายผา่นการเคลอื่นไหวรา่งกายและการใชม้อื 3. มคีวามแมน่ย าสงูในเรอื่งการประสานงาน การท างาน และการควบคมุกลา้มเนื้อในการท างาน ฝีมอืการเคลอื่นไหว การเขยีน การหนั่ การตัดทปี่ราณีต 1. มคีวามชนื่ชมในผคู้น วัตถุและสงิ่ของตา่งๆ 2. มักถกูดงึดดูไดง้า่ย จากศลิ ปะทงี่ดงาม หรอืการเคลอื่นไหวทสี่วยงาม 3. แรงบันดาลใจทมี่ีจะมาจากการไดดู้หรอื ไดส้มัผัสศลิ ปะ 1. ใชภ้าษากายไดด้ ีเชน่ ใชร้า่งกายเคลอื่นไหวในการแสดงความคดิความรสู้กึ 2. ชอบการเรยีนรผู้า่นการลงมอืปฏบิ ัติเชน่การทดลอง หรอืการแสดงบทบาทสมมตุิ 3. ชอบเรยีน และจดจ าจากการสมัผัสทางกาย ไมว่า่จะเป็นรา่งกาย หรอื สงิ่ของทจี่ับตอ้งได้ 4. ชอบใชม้อืทัง้สองสรา้ง หรอื ปรับรปูรา่งสงิ่ตา่งๆ รวมทัง้ความสามารถพเิศษตา่งๆ ทางกายภาพ เชน่การทรงตัว ความคลอ่งตัว ความยดืหยนุ่พละก าลัง ชอบท ากจิกรรม หรอืออกก าลังกาย กลางแจง้ 3.นวิ้กลาง : - การทา งานดา้นกลา้มเนอื้ - การใชก้ลา้มเนอื้มดัเล็ก - การแยกแยะดว้ยการ สมัผสั - การใชก้ลา้มเนอื้มดัใหญ่ และการเคลอื่นไหว รา่งกาย 2.นวิ้ชี้: - การทา งานดา้นความคดิ - การใชเ้หตผุลเชงิตรรกะ - การแสดงออกทางภาษา - การจนิตภาพเชงิมติ ิ และการสรา้งมโนภาพ

นวิ้ Typs TRC/% อาชพี การฝึกฝน/ขอ้เสนอแนะการพฒันา ความสามารถ ร ถ EW 22.50 -นักคณติ ศาสตร์ -นักสถติ ิ -นักบัญชี -นักเศรษฐศาสตร์ -คดิค านวณทางคณติ ศาสตร์ -เลน่เกมสเ์กยี่วกบัตัวเลข -รว่มชมรมวทิยาศาสตร์ - เลอืกเรยีนวชิาเกยี่วกบัธรุกจิ -ฝึกฝนทักษะ ความจ า ที่ ทดี่ี - ทนายความ - นักปราศรัย - ผเู้ชยี่วชาญดา้นธรุกจิ - นักหนังสอืพมิพ์ - นักวทิยโุทรทัศน์ - พรเีซน็เตอร์ - พธิกีร - ฝึกการพูดปราศรัย - เรยีนภาษา - ฝึกพูดสนุทรพจน์ - เรยีนวชิาสอนการออกเสยีง - เลา่นทิาน - โตว้าที พ (นวิ้ชซี้า้ย) การจนิตนภาพ เชงิมติ ิและ สรา้งมโนภาพ EW 23.50 -ดไีซน์เนอร์ -นักวางแผนพนื้ที่ -สถาปนกิ -วศิวกร -นักสรา้งแผนที่ -ฝึกการจัดวางเชงิสามมติ ิ -ฝึกการออกแบบเชงิสรา้งสรรค์ -ฝึกตอ่จ๊กิซอว์ -ฝึกการจัดเรยีง หรอืจัดวางในพนื้ที่ IDL 27.00 - นักปฏับัตงิานดา้นเทคนคิ - นักเทคนคิหอ้งวจิัย - เภสชักร - ชา่งเทคนคิ - ฝึกพับกระดาษแบบญปี่่นุ - ตัดแปะกระดาษ - ท างานศลิ ปะ และงานฝีมอื แยกชนิ้สงิ่ของ และประกอบรวมใหม่ - นักศลิ ปะ - ผเู้ชยี่วชาญดา้นความงาม และศาสตรค์วามงาม - ปฏมิากร - จติรกร - ฝึกงานปั้น - เลน่กจิกรรมพนื้เมอืง - ฝึกโยคะ - ศกึษาดา้นศลิ ปกรรม (นวิ้กลางซา้ย) การใชก้ลา้มเนื้อ มัดใหญ่และการ เคลอื่นไหว รา่งกาย IDL 25.00 - นักแสดง - นักกฬีา - นักเตน้ - ชา่งยนต์ - นักศลิ ปะ ป้องกนัตัว - แพทยผ์า่ตัด - ฝึกการเคลอื่นไหวรา่งกาย - ท างานฝีมอืเลน่กฬีา - เลน่ละคร - รอ้งเพลงประสานเสยีงกบัวงออเคสตรา้ - เตน้ร า (นวิ้กลางขวา) การใชก้ลา้มเนื้อ มัดเล็ก/การ แยกแยะดว้ยการ สมัผัส (นวิ้ชขี้วา) การใชเ้หตผุล เชงิตรรกะ/การ แสดงออกทาง ภาษา

ตา แหนง่นวิ้หวัขอ้ 1. สามารถเขา้ใจสงิ่ทผี่อู้นื่ก าลังพูดผา่นการเชอื่มโยง และการท าความเขา้ใจทางภาษา เรยีนรจู้าการฟัง 2. สามารถแยกแยะ จัดล าดับ จัดวางภาษาเขยีน และพูดไดอ้ยา่งมปีระสทิธภิาพ 3. เขา้ใจจากการรับฟัง สรปุความจากการฟังผอู้นื่เป็นผฟู้ ังทดี่ี 1. ชอบฟังเพลงมาก มดีนตรใีนหวัใจเสมอ 2. สามารถเขา้ใจ เขา้ถงึดนตรไีดเ้ป็นพเิศษ การประพันธ์การใหท้ านอง 3. เตน้ตามท านองโดยอตั โนมัต ิเมอื่ไดย้นิเพลงทชี่อบ 4. ความรสู้กึชอบผา่นการไดย้นิการฟัง สนใจในกจิกรรมทกุชนดิทเี่กยี่วกบัการฟัง เชน่เสยีงเพลง ดนตรตีา่งๆ คอนเสริต์ 5. ชอบทจี่ะไดร้ับการยกยอ่งทางวาจา มรีะบบการฟังทดี่ี 1. สามารถบง่บอกถงึอารมณ์และความคดิของผอู้นื่ไดอ้ยา่งงา่ยดาย จากการสงัเกตการแสดงออกทางสหีนา้และทา่ทาง (ภาษากาย) 2. ชอบสงัเกตปรากฏการณ์ธรรมชาตลิ ักษณะเฉพาะของดอกไม้และสตัว์และสงิ่อนื่ๆ ในชวีติ 3. สามารถระบุและจัดกลมุ่พชื สตัว์และสงิ่ตา่งๆ ในธรรมชาตไิดง้า่ย หรอื สามารถแยกแยะความ แตกตา่งของสงิ่ตา่งๆ ทมีลี ักษณะคลา้ยคลงึกนั ได้ 4. มกีารสงัเกตทเี่ฉียบคม สามารถระบุและแยกแยะการจัดวาง รปูแบบ ลักษณะ สีและความ แตกตา่งของสงิ่รอบตัวได้ 1. สามารถจดจอ่ ในบางสงิ่ไดอ้ยา่งหลงใหล และไมเ่ ปลยี่นแปลงไดเ้ป็นระยะเวลานาน 2. ชอบอา่นหนังสอืหรอืท าการวจิัยทางวชิาการเกยี่วกบั สตัว์และพชื 3. สามารถทอ่งจ าไดอ้ยา่งรวดเร็ว และจ าไดใ้นระยะยาวเมอื่ใชก้ารจดบันทกึความจ า 1. มคีวามสนใจเป็นอยา่งยงิ่ในโลกของความงาม ถกูดงึดดูไดด้ว้ยหนังสอืหรอืรปูภาพ ทสี่วยงาม 2. ชอบผอ่นคลายดว้ยการชนื่ชมรปูภาพหนังสอืภาพระบายสีไปสถานทแี่สดงงานศลิ ปะ 3. มกีารชนื่ชมเป็นพเิศษตอ่งานศลิ ปะ ภาพวาด 4. คน้พบวา่ สมัผัสทางการมองเห็นและการชนื่ชมเป็นสงิ่สา คัญมาก โดยเฉพาะทมี่ตีอ่ความ ประทับใจแรกพบตอ่ สงิ่ตา่งๆ 5. มักชนื่ชมรปูลักษณ์ภายนอก โดยเฉพาะการแตง่กาย และสสีนัทเี่ขา้กนั หมายเหต ุ 1.กลมุ่ลายนวิ้ลายกน้หอย และ มดัหวายคู่ (Thinking) คอืกลมุ่ลายทมี่ปีระสทิธภิาพและศกัยภาพในทางความคดิหรอืกา2.กลมุ่ลายนวิ้ประเภทมดัหวายและลายโคง้(Feeling) คอืกลมุ่ลายมอืทเี่กยี่วขอ้งกบัสงัคม การเลยีนแบบ การปฏบิตัติาม3.การทจี่ะไดป้ระสทิธผิลมากนอ้ยขนึ้อยกู่บัชนดิของลาย และจา นวนคา่ (เสน้ TRC )รวมถงึความคมชดัความสมบรูณ์ขอ4.การกระตนุ้และการไดร้บัการพฒันาอยา่งเหมาะสมตามชว่งเวลาอายกุ็จะสง่ผลถงึประสทิธภิาพทดี่กีวา่ อยา่งไรก็ตาม ยงัมรีายละเอยีดทเี่กยี่วขอ้งเกยี่วกบัลายนวิ้มอืแตล่ะแบบทคี่วรพจิารณาประกอบ ศกึษาประกอบจากขอ้ดา้นลายผวินวิ้มอื 4.นวิ้นาง : - การทา งานดา้นการฟงั - ความเขา้ใจทางภาษา - การชนื่ชมดนตรี 5.นวิ้กอ้ย : - การทา งานดา้นการ มองเห็น - การสงัเกต - การรบัรดู้ว้ยการมองเห็น และการจดจอ่ - การสมัผสัความสวยงาม และการชนื่ชมผา่นการ มอง

นวิ้ Typs TRC อาชพี การฝึกฝน/ขอ้เสนอแนะการพฒันา ความสามารถ ก (นวิ้นางขวา) ความเขา้ใจภาษา EW 25.50 - นักแปล - กวี - นักขา่ว - พนักงานขาย - ผเู้ชยี่วชาญ - ภาษาตา่งประเทศ - ฝึกการใชเ้สยีง - ฝึกการเขา้ถงึในดนตรี - ฝึกจดจ าเสยีง - ศกึษาภาษาตา่งประเทศ - ฝึกการท าความเขา้ใจทางภาษา (นวิ้นางซา้ย) การชมื่ชมดนตรี EW 27.50 - นักดนตรี - นักประพันธเ์พลง - ครสูอนดนตรี - ผเู้ชยี่วชาญดา้นดนตรี - เรยีน และเลน่ดนตรี - หาความรดู้า้นดนตรี - ฝึกแตง่เพลง - รว่มกจิกรรม เกยี่วกบัการรอ้งเพลง ก IDL 26.00 - นักวชิาการ - นักโบราณคดี - อาจารย์ - นักวจิัย - นักวเิคราะห์และ ตรวจสอบอญัมณี - ฝึกฝนการใชส้ายตา - ฝึกการวาดรปูบนกระดาน - เลน่เกมสต์อ่ภาพ - ฝึกการจับครู่ ปูภาพ - ผทู้ าการทดลอง - นักชวีวทิยา - นักสตัวว์ทิยา - ฝึกสมาธิ - เลน่ตอ่จ๊กิซอว์ - เลน่เกมสก์ระดาน เชน่หมากรกุ - ฝึกการอา่นหนังสอื (นวิ้กอ้ยซา้ย) การสมัผัสความ สวยงาม และ การชมื่ชมผา่น การมอง IDL 24.00 - จติรกร - ชา่งภาพ - ศลิ ปิน - นักออกแบบโฆษณา - เรยีนศลิ ปะ จติกรรม - เรยีนการถา่ยภาพ แบบจ าลองสามมติ ิ - เลน่เกมสเ์ขาวงกต - ฝึกปั้นดนิเพอื่ชว่ยเพมิ่ความจ าจากการ มองเห็น ารบรหิารจดัการไดด้ ีมสีภาวะการนา ไดด้ ี ม องลายเสน้ดว้ย อมลูลายนวิ้มอืแตล่ะประเภท รวมถงึขอคา แนะนา จากผเู้ชยี่วชาญ (นวิ้กอ้ยขวา) การสงัเกต/การ รับรดู้ว้ยการ มองเห็น และ การจดจอ่

ประเภทของลายนวิ้มอืและลกัษณะนสิยัทสี่มัพนัธก์บัประเภทของลายนวิ้มอื จรติหรอืนสิยัดไูดจ้าก หวัแมม่อืซา้ย (อา่นประกอบ ขอ้มลูเพมิ่เตมิตามเอกสารประกอบ) ลายนวิ้มอืของบคุคลโดยสรปุแลว้จะมอียู ่ 2 กลมุ่ 4 ประเภท 15 ชนดิ ต าแหน่งลายนวิ้มอืทปี่รากฎทหี่ัวแมม่อืซา้ย คอืปัญญาดา้นเขา้ใจผอู้นื่หรอืมนุษยส์มัพันธ ์เป็นจรตินสิยัของแตล่ะบคุคล สามารถน าไปประยกุตใ์ชใ้นการพัฒนาจดุแข็ง แกไ้ขขอ้ดอ้ย เพอื่พัฒนาสคู่วามเป็นเลศิตามแนวทางของแตล่ะบคุคล หวัแมม่อืซา้ย บคุลกิภาพ ลกัษณะนสิยัจดุเดน่จดุดอ้ย การเขา้ถงึเป้าหมาย และการสอื่สารทเี่หมาะสม 1.ลายกน้หอย(W-Whorl) 6 แบบ ลกัษณะจา เพาะของลายกน้หอยจะมี1 จดุศนูยก์ลาง (Center) และ มี2 สนัดอน (Delta) คณุเป็นคนแบบไหนใน 15 ชนดิ สแกน QR เช็คฟรี ประเภทของลายนวิ้มอืและลกัษณะนสิยัทสี่มัพนัธก์บัประเภทของลายนวิ้มอื กลมุ่ความคดิ Thinking : นักคดินักบรหิาร การจัดการ ความเป็นผนู้ า ยดึถอืตัวเอง รักอสิระ มคีวามเชอื่มั่น มคีวามเป็นผนู้ า ชอบสงั่การ รัน้ ใจ รอ้น มงุ่มั่น ใชเ้หตผุลสงูเดนิหนา้เร็วเมอื่มเีป้าหมาย ไมช่อบการถกูควบคมุมคีวามอดทนสงู

1.1 CW (Concentric Whorl) มจีดุศนูยก์ลางเป็นวงกลม และวงกลมซอ้นออกมาหลายชัน้ แตล่ะวงจะเป็นอสิระ ไมเ่ ชอื่มตอ่กนั ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ ดอื้รัน้มากไป ตัดสนิ ใจเร็วไป ขาดความรอบคอบ อาจแข็งกรา้วไป ลมื ใสใ่จคนรว่มงาน วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ตัง้เป้าหมายใหช้ ัดเจน และรับฟังคนรอบขา้ง หาขอ้มลูเพมิ่เตมิ ฝึกใจเย็นลง วธิกีารสอื่สาร เนื่องจากเป็นผยู้อมรับเหตผุล จงึตอ้งมตี ัวอยา่งประกอบและเหตผุลทชี่ ัดเจนจงึจะสามารถโนม้นา้วได้ 1.2 SW (Spiral Whorl) มจีดุศนูยก์ลางเป็นวงมว้นคลา้ยเลข ๑(หนงึ่ไทย) แลว้มว้นวนออกมา โดยเชอื่มตอ่กนัออกมาอยา่งตอ่เนื่อง เสน้แตล่ะวงจะไมข่าดตอนจากกนั ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ ดอื้รัน้มงุ่มั่นตอ่เป้าหมาย ตัดสนิ ใจเร็ว ลมื ใสใ่จคนรว่มงาน ควรเพมิ่การชนื่ชมธรรมชาตริอบตัว วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ตัง้เป้าหมายใหช้ ัดเจน และรับฟังคนรอบขา้ง หาขอ้มลูเพมิ่เตมิ ฝึกใจเย็นลง วธิกีารสอื่สาร เนื่องจากเป็นผยู้อมรับเหตผุล จงึตอ้งมตี ัวอยา่งประกอบและเหตผุลทชี่ ัดเจนจงึจะสามารถโนม้นา้วได้ 1.3 PE (Peacock’s Eye) มจีดุศนูยก์ลางเป็นวงกลมคลา้ย CW ผสม SW แตจ่ะมพีเิศษคอืสนัดอนปิด อกีดา้นหนงึ่จะปิดประมาณ วงที่ 3-4 จงึท าใหม้องเห็นมลี ักษณะคลา้ยตานกยงู ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ ควรสง่เสรมิ ใหไ้ดใ้ชค้วามคดิ สรา้งสรรคอ์ยา่งเต็มรปูแบบ จะพัฒนาไดด้เีป็นพเิศษ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ตัง้เป้าหมายใหช้ ัดเจน เรยีนรจู้ากหลายทาง เพอื่สรา้งจนิตนาการและแรงบันดาลใจใหม่ๆ วธิกีารสอื่สาร เนื่องจากเป็นผยู้อมรับเหตผุล และมคีวามคดิ สรา้งสรรค์การชนื่ชมใหก้ าลังใจเป็นเรอื่งสา คัญ 1.4 EW (Elongated Whorl) มจีดุศนูยก์ลางเป็นวงรแีละบบีแคบ วงซอ้นรอบนอกคลา้ยกบั CW ,SW วธิกีารสอื่สาร เนื่องจากเป็นผยู้อมรับเหตผุล และมคีวามวติกกงัวลมาก จงึตอ้งใหข้อ้มลูและเหตผุลทชี่ ัดเจน วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ใหใ้ชเ้หตผุลมากวา่อารมณใ์นการตัดสนิ ใจเนื่องดว้ยเป็นคนมรีายละเอยีดและบรูณาการมากกบัทกุเรอื่งหรอือาจจกุจกิ จงึตอ้งจัดระเบยีบเรยีงล าดับความสา คัญ ลดขัน้ตอนตา่งๆ ในการสอื่สาร บคุลกิภาพ ภาวะผนู้ า มคีวามเป็นตัวเองสงูรักอสิระ ไมช่อบการถกูควบคมุเป็นคนมงุ่มั่น เป็นตัวของตัวเองสงู เป็นนักคดิหา เหตผุลและมคีวามพยายามสงูใสใ่จในภาพลักษณข์องตัวเอง มคีวามกระตอืรอืรน้แตข่นึ้อยกู่บัแรงจงูใจ ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย ชอบการแขง่ขัน ชอบเป็นผสู้งั่การ โดดเดน่ ในการแสดงออกทางความคดิและตัดสนิ ใจ สามารถรับแรง กดดันไดด้ ี บคุลกิภาพ ภาวะผนู้ า มคีวามเป็นตัวเองสงูรักอสิระ เป็นผทู้มี่กีารคดิหาเหตผุลชัดเจน ยดึถอืตนเอง ใสใ่จในภาพลักษณข์อง ตัวเอง มคีวามพยายามด ีแตเ่ ป็นคนดอื้รัน้ (รองจาก CW) ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย ชอบเป็นผคู้วบคมุชอบเป็นผสู้งั่การ โดดเดน่ ในการแสดงออกทางความคดิและตัดสนิ ใจ สามารถรับแรง กดดันไดด้ ีใสใ่จในรายละเอยีดมากกวา่ลาย CW บคุลกิภาพ เป็นผทู้มี่กีารคดิหาเหตผุล มคีวามคดิ สรา้งสรรคส์งูมองโลกในแงด่ ีคดิบวก ใสใ่จในภาพลักษณข์องตัวเอง ขอ้เดน่มพีลังความมงุ่มั่น แขง่ขันสา เร็จ ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย มองการณไ์กล ฉลาดคดิฉับไว เป็นผนู้ าทดี่ีมเีสน่หด์งึดดูสามารถแยกแยะสงิ่ตา่งๆ ไดด้ ี(มขีอ้สงัเกต ลายนกยงูปัดโป้งจะมอีทิธพิลในการลงมอืท าใหส้า เร็จมากกวา่ ปัดกอ้ย) บคุลกิภาพ ยดึหลกัการมาก เป็นคนทมี่เีหตผุล และยดึถอืตัวเองสงู ชอบความสมบรูณแ์บบ มรีายละเอยีดมาก ทัง้เป้าหมายและวธิกีาร ชอบตัวเลข เป็นนักวางแผน นักจัดการ ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย บรูณาการทางความคดิ ชอบประวตั ศิาสตร์ออ่นไหวงา่ยใชค้วามรสู้กึในการตัดสนิ ใจ มักจะมคีวามสบัสน ระหวา่งอารมณก์บัเหตผุล มคีวามวติกกงัวลใจมาก ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ เนอื่งจากเป็นคนนยิมความสมบรูณ์แบบแต่เป็นคนออ่นไหวใชค้วามรสู้กึในการตัดสนิ ใจ มักจะมคีวามสบัสนระหวา่ง อารมณก์บัเหตผุล มคีวามวติกกงัวลใจกบัเรอื่งเดมิทผี่า่นมา จงึควรสรา้งแรงบันดาลใจใหม่ๆ มงุ่ ไปขา้งหนา้กลา้ตัดสนิ ใจ

1.5 CP (Composite Whorl) มจีดุศนูยก์ลางเป็นขดเล็ก ๆ 2 วงซอ้นกนั วงซอ้นรอบนอก คลา้ยกบั CW ,SW 1.6 IP (Imploding Whorl) มจีดุศนูยก์ลางเป็นวงรแีคบ วงซอ้นรอบนอกคลา้ยกบั EW แตล่ ักษณะเสน้จะหา่งและวงจะเป็นทรงสงูกวา่เสน้ยดืยาวกวา่ วธิกีารสอื่สาร เนื่องจากเป็นผขู้าดความจดจอ่หรอื สมาธไิมค่อ่ยมั่นคง จงึตอ้งกระชับและตรงประเด็นในเรอื่งทเี่กยี่วขอ้ง 2.มดัหวายคู่ DL (Double Loop Whorl) มี2 แบบ ลกัษณะจา เพาะของลายมดัหวายคู่คอื จะมี2 จดุศนูยก์ลาง (Center) และ มี2 สนัดอน (Delta) กลมุ่ความคดิ Thinking : นักคดินักวเิคราะห ์รอบร ู้การจัดการ มาตรฐานสงู ,ละเอยีดรอบคอบ,มคีวามคดิของตัวเอง, อยากรอู้ยากลอง,ท าหลายอยา่ง สนใจหลายอยา่ง ตัดสนิ ใจชา้ 2.1 DL(Double Loop) มี2 จดุศนูยก์ลาง 2 สนัดอน แยกเป็นมัดหวายไหลบรรจบกนัของแตล่ะดา้น แยกเป็น 2 มัดทชี่ ัดเจน กลมุ่นี้มัดหวายจะมลี ักษณะทรงกลมมากกกวา่วงรี2 มัดจะคอ่นขา้งสมดลุกนั 2.2 IDL(Imploding Double loop) มี2 จดุศนูย์2 สนัดอน แยกเป็นมัดหวายไหลบรรจบกนัของ แตล่ะดา้น กลมุ่นี้มัดหวายจะมลี ักษณะยาวเป็นวงรมีากกกวา่ทรงกลม น ้าหนักมัดจะเทไปดา้นหนงึ่มากกวา่ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ มงุ่มั่นตอ่เป้าหมาย ฝึกฝนใหช้า นาญ ฝึกสมาธแิละการจ า ลดขัน้ตอนการท างาน วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ เนื่องดว้ยเป็นคนคดิหลายอยา่งมรีายละเอยีดมากไป จัดล าดับความคดิความสา คัญในการตัดสนิ ใจ ตัง้เป้าหมาย และ ก าหนดเวลาของแตล่ะงานใหช้ ัดเจน บคุลกิภาพ เป็นนักเหตผุล นักคดินักวเิคราะห์เรยีนรเู้ร็ว ยดึถอืตัวเองแตก่ ็ยดืหยนุ่ด ีมคีวามคดิ สรา้งสรรคด์ ีสามารถ เลยีนแบบไดเ้ป็นสองเทา่ วธิกีารสอื่สาร เนื่องดว้ยเป็นคนคดิหลายอยา่ง ตัดสนิ ใจไมเ่ด็ดขาด การสอื่สารตอ้งกระชับรวดเร็ว มรีายละเอยีดและขอ้มลูครบถว้น ควรแนะน าให้ มสีมาธมิากขนึ้กรณที ใี่หเ้ลอืกหรอืตัดสนิ ใจ พยายามจ ากดัตัวเลอืกใหน้อ้ยลง ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย ชอบคดินอกกรอบ เลยีนแบบเกง่ เป็นคนสองบคุลกิคอืเชอื่ฟังแตก่ ็รักอสิระ ชอบท าอะไรหลายอยา่งใน เวลาเดยีวกนัหรอืมสีองเป้าหมายในเวลาเดยีวกนั ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ ก าหนดเวลาและเป้าหมายใหช้ ัดเจน จัดล าดับความสา คัญ ลดขัน้ตอนการท างาน เพมิ่ความเด็ดขาดในการเลอืกและกลา้ ตัดสนิ ใจ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ก าหนดเป้าหมายชัดเจน และท าทลีะเป้าหมาย ลดขัน้ตอนการท างาน วธิกีารสอื่สาร เนื่องดว้ยเป็นคนคดิหลายอยา่ง ตัดสนิ ใจไมเ่ด็ดขาด การสอื่สารตอ้งกระชับรวดเร็วมรีายละเอยีดและขอ้มลูครบถว้น แนะน าใหม้ี สมาธมิากขนึ้ กรณที ใี่หเ้ลอืกหรอืตัดสนิ ใจ พยายามจ ากดัตัวเลอืกใหน้อ้ยลง ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ ก าหนดเวลาและเป้าหมายใหช้ ัดเจน จัดล าดับความสา คัญ ลดขัน้ตอนการท างาน เพมิ่ความเด็ดขาดในการเลอืก และ กลา้ตัดสนิ ใจ บคุลกิภาพ เป็นคนทยี่ดึถอืเหตผุล รักความอสิระ ยดึถอืตนเองมาก บรหิารงานโดยมองภาพรวม ไมล่งรายละเอยีด ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย ตัดสนิ ใจเร็ว ไมเ่ด็ดขาด เป้าหมายไมช่ ัดเจน ลังเล หรอืมหีลายเป้าหมายในเวลาเดยีวกนัเปลยี่นแปลงงา่ย ชอบงานอสิระทไี่มม่ขีอ้ผกูมัด ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ ควรฝึกฝนใหเ้ป็นผเู้ชยี่วชาญเฉพาะทางแลว้เลอืกอาชพีอสิระทรี่ักชอบ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ก าหนดเป้าหมายใหช้ ัดเจน และสรา้งพลังใหต้ ัวเอง รวมถงึก าลังใจสนับสนุนของคนรอบขา้ง เรยีนรแู้ละหนักแน่นกบั เป้าหมาย ไมเ่ ปลยี่นแปลงงา่ยๆ ไมค่วรมหีลายเป้าหมาย ท าใหส้า เร็จเป็นอยา่งๆ วธิกีารสอื่สาร เนื่องจากเป็นผยู้ดึตัวเองเป็นหลักจงึจ าเป็นตอ้งไดร้ับการสง่เสรมิแนะน าหรอืค าชมเพอื่สรา้งความเชอื่มั่นหรอื สรา้งก าลังใจ สา คัญ ทสี่ดุเป้าหมายตอ้งชัดเจน เรยีงล าดับความสา คัญ บคุลกิภาพ เป็นคนทยี่ดึถอืตนเองแตก่ ็ยดืหยนุ่ ไมจ่ดจอ่ตอ่เป้าหมายเทา่ทคี่วร ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย ขาดพลังจดจอ่และลมืงา่ย ขาดความมั่นใจเนื่องจากความจ าระยะสนั้ไมด่นี ัก จงึมักถามซา ้บอ่ย มหีลาย เป้าหมายในเวลาเดยีวกนั ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ ขาดพลังจดจอ่และลมืงา่ย ขาดความมั่นใจเนื่องจากความจ าระยะสนั้ไมด่นี ัก จงึมักถามซา ้บอ่ย มหีลายเป้าหมายในเวลา เดยีวกนั บคุลกิภาพ เป็นคนชอบความสมบรูณแ์บบ ยดึถอืตัวเองแตก่ ็ยดืหยนุ่ ได้มคีวามคดิเป็นของตัวเอง พถิพีถิ ัน ระเบยีบ รอบคอบ เป็นนักคดิ นักวเิคราะห์ ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย มคีวามรรู้อบดา้น คดิกอ่นพูด ปรับตัวเกง่ จะตัดสนิ ใจก็ตอ่เมอื่ผา่นการคดิวเิคราะหแ์ลว้ท าใหก้าร ตัดสนิ ใจบางเรอื่งจะลา่ ชา้เป็นคนสองบคุลกิคอืเชอื่ฟังแตก่ ็รักอสิระ

3.มดัหวายแท้UL (Ulnar Loop Whorl) มี2 แบบ จะมี1จดุศนูยก์ลาง (Center) และ มี1 สนัดอน (Delta) ลกัษณะโคง้ตวั U ควา ่ 3.1 UL(Ulnar Loop ) รปูแบบลายเป็นมัดหวาย ปัดเทไปทางนวิ้กอ้ย 3.2 RL(Radial loop ) รปูแบบลายเป็นมัดหวาย ปัดเทไปทางนวิ้หัวแมม่อื(นวิ้ โป้ง) 4.ลายโคง้ (Arch ) มี3 แบบ ไมม่ ีจดุศนูยก์ลาง (Center) และ ไมม่ ีสนัดอน (Delta) ลกัษณะเป็นลายโคง้ควา ่ลง 4.1 SA(Simple Arch ) รปูแบบลายโคง้ทรงราบ คว า่ลง ซอ้นกนัเป็นชัน้ขนึ้เรอื่ยๆ หลาย ๆ ชัน้ 4.2 TA(Tented Arch ) รปูแบบลายโคง้กระโจม ทรงสงูคลา้ยรปูเตน้ท์ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ เป็นคนเรยีนรไู้ดไ้มจ่ ากดัจงึควรเรยีนรฝู้ ึกฝน และแรงบันดาลใจเพมิ่เตมิตามแบบทรี่ัก ชอบ วธิกีารสอื่สาร สรา้งกจิกรรมทชี่นื่ชอบ ใหก้ าลังใจและเขา้ใจในความแตกตา่งของเขา กลมุ่ความรสู้กึ Feeling: มติรภาพ มนุษยส์มัพันธด์ ีออ่นโยน คอ่นขา้งเก็บตัว ไมก่ลา้แสดงออก ความคดิ สรา้งสรรคด์ ีเรยีนรไู้ดช้า้-เร็ว ขนึ้อยกู่บัอารมณแ์ละ การพัฒนา จดจ ารายละเอยีดไดด้ ีชอบศลิ ปะ มอีารมณอ์อ่นไหว มคีวามซอื่สตัย์ จงรักภักดสีงู ไมก่ลา้ตัดสนิ ใจ บคุลกิภาพ ปรับตัวเกง่ อารมณอ์อ่นไหว ชอบดนตรแีละศลิ ปะ เก็บตัว เรยีบงา่ย ตอบสนองชา้ ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย หากไดร้ับการสอนหรอืมตีน้แบบทดี่มีแีรงบันดาลใจจะมศี ักยภาพสงู แตม่จีดุออ่นมักท าตามใจ ตาม อารมณต์ ัวเอง ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิหาบคุคลตน้แบบ เรยีนรคู้น้หาสงิ่ทเี่รารัก ท าในสงิ่ทตี่ัวเองรักชอบ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ เป็นคนเรยีนรไู้ดไ้มจ่ ากดัจงึควรเรยีนรฝู้ ึกฝน และหาแรงบันดาลใจเพมิ่เตมิตามแบบทรี่ักชอบ บคุลกิภาพ เป็นคนอบอนุ่มเีสน่ห์มคีวามกระตอืรอืรน้ ชอบเรยีนร ู้มคีวามคดิ สรา้งสรรคด์ ี วธิกีารสอื่สาร เขาเป็นนักขอ้มลูมขีอ้สงสยัมาก จงึตอ้งมเีหตผุล มรีายละเอยีดใหค้รบถว้นและอธบิายเป็นขัน้เป็นตอน มตี ัวอยา่งประกอบดว้ยจะดี มาก วธิกีารสอื่สาร กระตนุ้ สง่เสรมิ ใหก้ าลังใจ แนะน าบคุคลตน้แบบเพอื่สรา้งก าลังใจ ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ ฝึกขัน้ตอนความรอบคอบ จะท าอะไรตอ้งคดิและไตรต่รองใหร้อบคอบกอ่น วธิกีารสอื่สาร กลมุ่นี้เป็นคนออ่นไหว อารมณข์นึ้สงูลงต า่ตอ้งเรยีนรเู้รอื่งอารมณแ์ละจังหวะในการทจี่ะสอื่สารพูดคยุหรอื ใหค้ าแนะน าใดๆ ถา้เขายัง ไมร่ ับไมพ่รอ้มก็ตอ้งรอจังหวะเวลา ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย กระตอืรอืรน้เขา้กบัคนอนื่ไดง้า่ย เรยีนรเู้ร็ว สนใจในศลิ ปะสมัยใหมห่รอื ศลิ ป์ประยกุต ์แตจ่ะเป็นคน อารมณร์อ้น ดว่นตัดสนิ ใจ อาจขาดความรอบคอบ บคุลกิภาพ เป็นคนออ่นโยน แตด่อื้เงยีบ ตอ่ตา้น ชอบคดินอกกรอบ คดิคดิตา่ง คดิ ไมเ่หมอืนคนอนื่ ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย ชอบคดิ สงิ่ใหมๆ่มคีวามคดิ สรา้งสรรคท์แี่ตกตา่ง เป็นเอกลักษณเ์ฉพาะตน เป็นนักสงัเกตการณ ์ ชอบให้ ค าแนะน าผอู้นื่แกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ไดด้ ี ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิหาบคุคลตน้แบบ เรยีนรคู้น้หาสงิ่ทเี่รารัก ท าในสงิ่ทตี่ัวเองรักชอบ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ก าหนดเป้าหมายชัดเจน ท าตามเป้าหมายอยา่งมงุ่มั่น เรยีนรจู้ากตน้แบบ และควรหาตัวอยา่งบคุคลทดี่เีป็นแนวทางสู่ ความสา เร็จ บคุลกิภาพ เป็นคนออ่นโยน มคีวามยดืหยนุ่เขา้กบัคนงา่ย มนุษยส์มัพันธด์ ีไมช่อบความขัดแยง้มคีวามเห็นอกเห็นใจผอู้นื่ ขเี้กรงใจ ท าตามขัน้ตอน ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย เป็นนักเรยีนรหู้รอืเลยีนแบบทดี่ีท าตามสงัคม หากไดร้ับการชนี้ าหรอืมตีน้แบบทดี่ีปั้นแตง่ ปรับปรงุไดง้า่ย ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิหาบคุคลตน้แบบ เรยีนแบบ ท าตามแบบผสู้า เร็จ มไีอดอลเป็นตน้แบบและแรงจงูใจ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ ก าหนดเป้าหมายชัดเจน ท าตามเป้าหมายอยา่งมงุ่มั่น เรยีนรจู้ากตน้แบบ หาบคุคลตัวอยา่งทดี่เีป็นแนวทางสู่ ความสา เร็จ กลมุ่ความรสู้กึ Feeling: มติรภาพ มนุษยส์มัพันธด์ ีออ่นโยน รับฟัง ซอื่สตัย์ ระเบยีบประเพณี,มคีวามยดืหยนุ่ ประนีประนอมสงู ,ขเี้กรงใจ ไมก่ลา้แสดงออก,ท าตามขัน้ตอน,ตัดสนิ ใจไมเ่ด็ดขาด

4.3 Au/AL(Radial Arch) รปูแบบลายโคง้ราบผสมกบัลายมัดหวายแท้(Arch with Ulnar loop) หมายเหตุลายนี้มี2แบบ คอื Au (ปัดกอ้ย)เป็นนักปฏบิ ัตอิยา่งอจัฉรยิะ AL (ปัดโป้ง) นักคดิอยา่งอจัฉรยิะ วธิกีารสอื่สาร เขาเป็นนักขอ้มลูมขีอ้สงสยัมาก จงึตอ้งมเีหตผุล มรีายละเอยีดทมี่ากพอและครบถว้น พรอ้มอธบิายเป็นขัน้เป็นตอน ลายนวิ้อบุตัเิหตุ(Variant) วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ จดจอ่ตอ่เป้าหมาย ใหก้ าลังใจ ฝึกฝนความชา นาญเฉพาะทาง เนน้การดแูลสขุภาพ วธิกีารเขา้ถงึความสา เร็จ เรยีนรหู้ลากหลายแลว้เลอืกในสงิ่ทเี่รารักชอบ หาตัวอยา่งผทู้ ปี่ระสบความสา เร็จเป็นตน้แบบ (Role Model) บคุลกิภาพ เป็นคนอบอนุ่มเีสน่ห์มคีวามกระตอืรอืรน้ ชอบเรยีนร ู้มคีวามคดิ สรา้งสรรคด์ ี วธิกีารสอื่สาร ดว้ยเพราะความไมม่ ั่นคงทางอารมณแ์ละสมาธกิ็ไมม่ ั่นคงดว้ย จงึตอ้งใสใ่จเป็นพเิศษ ชักชวน โนม้นา้วในเรอื่งทเี่ขาสนใจกอ่น สรา้งความสม้พันธแ์ละความไวว้างใจทกุครัง้ทจี่ะมกีารสอื่สารเรอื่งใดๆ ก็ตาม ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย อารมณอ์อ่นไหว เปลยี่นแปลงงา่ย ไมแ่น่นอน อาจมปี ัญหาทางสขุภาพทถี่า่ยทอดทางพันธกุ์รรมดว้ย ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิ ฝึกสมาธิและหนักแน่นกบัการคดิการท า ไมเ่ ปลยี่นแปลงบอ่ยๆ เนน้การออกก าลังกาย-สขุภาพ ลกัษณะเดน่ /ดอ้ย เป็นคนใฝ่ร ู้ชอบเรยีนรตู้ามตัวอยา่ง นักสรา้งสรรคด์า้นนามธรรมทางความคดิ สนใจในนวตักรรมใหมๆ่ มี ความสมดลุทางอารมณแ์ละใฝ่รู้ ควรปรบัปรงุ /สง่เสรมิเนื่องจากเป็นผทู้มี่คีวามเป็นตัวเองและมโีลกสว่นตัวสงูอาจจะขาดความตอ่เนื่องในการเรยีนรู้ มรีปูแบบไมแ่น่นอน อาจผสมจากหลายๆ ลายนวิ้เชน่ DL ผสมกบั CW หรอื AU ผสมกบั SW หรอืมลีายนวิ้หลายชนดิมากผสมกนั ในนวิ้เดยีว บคุลกิภาพ ลายนวิ้ของผทู้ยี่ดึถอืตัวเองแตก่ ็ยดืหยนุ่ ไดม้าก อารมณอ์อ่นไหว เปลยี่นแปลงงา่ย คดิแปลกแตกตา่ง เปลยี่นแปลงความคดิยากทจี่ะคาดเดา