The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนจัดการเรียนรู้ วิชาเอกละคร ปวช1 ใหม่ เทอม2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนจัดการเรียนรู้ วิชาเอกละคร ปวช1 ใหม่ เทอม2

แผนจัดการเรียนรู้ วิชาเอกละคร ปวช1 ใหม่ เทอม2

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัสวิชา ๒๐๓๐๒-๒๐๐๒ ภาคเรียนที่ ๒ หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประเภทวิชา ศิลปกรรม จัดทำโดย นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ ภาควิชานาฏศิลป์ วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม


คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ จัดทำขึ้นสำหรับวิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัสวิชา ๒๐๓๐๒-๒๐๐๒ จำนวน ๖ หน่วยกิต ๑๒ ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประเภทวิชาศิลปกรรม สาขาวิชานาฏศิลป์ละคร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวง วัฒนธรรม จัดอยู่ในหมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ การจัดแผนการจัดการเรียนรู้ มีขั้นตอนการจัดทำโดยการศึกษาลักษณะรายวิชา จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา คำอธิบาย รายวิชา วิเคราะห์คำอธิบายรายวิชา มาเขียนหน่วยการเรียนหลัก และออกแบบหน่วยการเรียนย่อย พร้อมทั้งเขียนสมรรถนะประจำหน่วยการเรียนหลัก หน่วยการเรียนย่อย จากนั้นนำหน่วยการเรียนย่อย มา เขียนจุดประสงค์ทั่วไป และจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม สุดท้ายนำจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม มาจัดทำ เป็นเนื้อหาหลัก เนื้อหาย่อยและนำมาเขียนรายละเอียดของเนื้อหา ออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนการ สอน ตลอดจนใบงาน การวัดผลและประเมินผล แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ ได้ออกแบบเน้นกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง มีการ พัฒนาบทบาทของผู้เรียน เป็นผู้จัดการแสวงหาความรู้ สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตัวเอง โดยผู้เรียนจะมีส่วน ร่วมในการประเมินผลการเรียนรู้ของตนเองทุกครั้ง อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนบทบาทของผู้สอนจากผู้ให้ความรู้ มาเป็นผู้คอยชี้แนะ และเป็นผู้จัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อความสนใจในการเรียนรู้ เป็นผู้ร่วมเรียนรู้ ปลูกฝังให้ ผู้เรียนรู้จักการทำงานร่วมกัน รู้จักเสียสละ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีความเชื่อมั่น มีความซื่อสัตย์ เป็นคนดีทั้งกาย วาจาใจ มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ และสามารถนำความรู้ ความเข้าใจ ทักษะปฏิบัติ ทักษะความคิดไปประยุกต์ใช้ ในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานที่ต้องการของอาชีพต่อไป ขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล


สารบัญ หน้า คำนำ สารบัญ จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชา......................................... ๑ ตารางวิเคราะห์รายวิชา...................................................................................................... ๒ หน่วยการเรียนรู้รายวิชา.................................................................................................... ๓ หน่วยการเรียนรู้หลัก/หน่วยการเรียนรู้ย่อย....................................................................... ๔ กำหนดการเรียนรู้............................................................................................................. . ๕ ตารางวิเคราะห์โครงสร้างเนื้อหาวิชากับความสอดคล้องตรงตามจุดประสงค์และสมรรถนะ รายวิชา............................................................................................................ ๙ แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ ๑ เพลงแม่บทใหญ่.......................................................................... ๑๐ หน่วยที่ ๒ เพลงแม่บทเล็ก...................................................................... ๒๐ หน่วยที่ ๓ รำหน้าพาทย์สาธุการ..................................................................... ๒๗


จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชา วิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัสวิชา ๒๐๓๐๒-๒๐๐๒ หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประเภทวิชา นาฏศิลป์ละคร สาขาวิชา นาฏศิลป์ละคร ผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล .................................................................... จุดประสงค์รายวิชา เพื่อให้ ๑. เข้าใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา หลักการปฏิบัติของการฝึกหัดเบื้องต้น นาฏยศัพท์ เบื้องต้น องค์ประกอบของรำมาตรฐาน รำหน้าพาทย์ ๒. มีทักษะในการปฏิบัติท่ารำมาตรฐาน รำหน้าพาทย์ได้อย่างถูกต้องตามแบบแผน ๓. มีกิจนิสัยในการทำงานตระหนักและเห็นคุณค่าในวิชานาฏศิลป์ไทยส่งเสริมศิลปะนิสัย มีความอดทน ขยันหมั่นเพียรในการเรียน นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมเพื่อเป็นพื้นฐานใน การศึกษาต่อ สมรรถนะรายวิชา ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับที่มา ความหมาย องค์ประกอบของรำมาตรฐาน รำหน้าพาทย์ ๒. ปฏิบัติท่ารำ รำมาตรฐาน รำหน้าพาทย์ได้ถูกต้องตามแบบแผน คำอธิบายรายวิชา ประวัติความเป็นมาความหมายองค์ประกอบ ฝึกปฏิบัติท่ารำและเพลงขับร้อง ของรำมาตรฐานเพลงแม่บทใหญ่ เพลงแม่บทเล็ก(ออกต้นวรเชษฐ์) รำหน้าพาทย์เพลงสาธุการ


ตารางวิเคราะห์รายวิชา วิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัสวิชา ๒๐๓๐๒-๒๐๐๒ หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประเภทวิชา นาฏศิลป์ละคร สาขาวิชา นาฏศิลป์ละคร ผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล ที่ ชื่อหน่วย ระดับพฤติกรรมที่พึ่งประสงค์ พุทธิพิสัย ทักษะพิสัย จิตพิสัย ชม. ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๑ เพลงแม่บทใหญ่ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ๒ เพลงแม่บทเล็ก (ออกต้นวรเชษฐ์) ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ๓ รำหน้าพาทย์ สาธุการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ หมายเหตุ ระดับพุทธิพิสัย ๑ ความจำ ๒ ความเข้าใจ ๓นำไปใช้ ๔ วิเคราะห์ ๕ ประเมินค่า ๖ สังเคราะห์ ระดับทักษะพิสัย ๑ เลียนแบบ ๒ ทำตามแบบ ๓ ถูกต้องตามแบบ ๔ ทำอย่างต่อเนื่อง ๕ ทำจนเคยชิน ระดับจิตพิสัย ๑ เรียนรู้ ๒ ตอบสนอ ๓ สร้างคุณค่า ๔ จัดระบบ ๕ สร้างลักษณะนิสัย


วิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัสวิชา ๒๐๓๐๒-๒๐๐๒ หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประเภทวิชา นาฏศิลป์ละคร สาขาวิชา นาฏศิลป์ละคร ผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะรายวิชา ๑ เพลงแม่บทใหญ่ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับที่มา ความหมาย องค์ประกอบของรำมาตรฐาน รำหน้าพาทย์ ๒. ปฏิบัติท่ารำ รำมาตรฐาน รำหน้าพาทย์ได้ ถูกต้องตามแบบแผน ๒ เพลงแม่บทเล็ก(ออกต้นวรเชษฐ์) ๓ รำหน้าพาทย์ สาธุการ หน่วยการเรียนรู้รายวิชา


หน่วยการเรียนรู้หลัก/หน่วยการเรียนรู้ย่อย วิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัสวิชา ๒๐๓๐๒-๒๐๐๒ หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประเภทวิชา นาฏศิลป์ละคร สาขาวิชา นาฏศิลป์ละคร ผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล หน่วยที่ หน่วยการเรียนหลัก หน่วยการเรียนย่อย ๑ เพลงแม่บทใหญ่ ๑.๑ ประวัติความเป็นมา องค์ประกอบ ความ แตกต่างของรูปแบบรำมาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ๑.๒ เพลงขับร้องของรำมาตรฐานเพลงแม่บท ใหญ่ ๑.๓ นาฏยศัพท์และแม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่า รำเพลงแม่บทใหญ่ ๑.๔ การปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ ๒ เพลงแม่บทเล็ก(ออกต้นวรเชษฐ์) ๒.๑ ประวัติความเป็นมา องค์ประกอบ ความ แตกต่างของรูปแบบรำมาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ๒.๒ เพลงขับร้องของรำมาตรฐานเพลงแม่บท เล็ก ๒.๓ นาฏยศัพท์และแม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่า รำเพลงแม่บทเล็ก ๒.๔ การปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็ก ๓ รำหน้าพาทย์สาธุการ ๓.๑ ความหมายและที่มา ประเภทของเพลง หน้าพาทย์ โอกาสที่ใช้ ๓.๒ นาฏยศัพท์ที่ใช้ในการรำหน้าพาทย์ สาธุการ ๓.๓ การปฏิบัติท่ารำหน้าพาทย์สาธุการ


กำหนดการเรียนรู้/สมรรถนะประจำหน่วย วิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัสวิชา ๒๐๓๐๒-๒๐๐๒ หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประเภทวิชา นาฏศิลป์ละคร สาขาวิชา นาฏศิลป์ละคร ผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล สัปดาห์ หน่วยที่ หน่วยการเรียนรู้หลัก/ หน่วยการเรียนย่อย สมรรถนะประจำหน่วย ช.ม. เวลา ๑-๑๐ ๑ เพลงแม่บทใหญ่ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับประวัติ ความเป็นมาองค์ประกอบ ความ แตกต่างของรูปแบบรำ มาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ตามหลัก วิชาการ ๒. ปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ ตามแบบแผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑-๑๒๐ ๑๒๐ ๑.๑ ประวัติความเป็นมา องค์ประกอบ ความ แตกต่างของรูปแบบรำ มาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับประวัติ ความเป็นมาองค์ประกอบ ความแตกต่างของรูปแบบรำ มาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ตามหลัก วิชาการ ๒. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑-๒ ๒ ๑.๒ เพลงขับร้องของรำ มาตรฐานเพลงแม่บท ใหญ่ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับบทร้อง และความหมายของเพลงตาม หลักวิชาการ ๒. ปฏิบัติการขับร้องเพลงแม่บท ใหญ่ตามแบบแผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๓-๖ ๔ ๑.๓ นาฏยศัพท์และแม่ ท่าใช้ในการปฏิบัติท่ารำ เพลงแม่บทใหญ่ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับ หลักการปฏิบัตินาฏยศัพท์และ ๗-๑๒ ๖


สัปดาห์ หน่วยที่ หน่วยการเรียนรู้หลัก/ หน่วยการเรียนย่อย สมรรถนะประจำหน่วย ช.ม. เวลา แม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่ารำเพลง แม่บทใหญ่ตามหลักวิชาการ ๒. ปฏิบัตินาฏยศัพท์และแม่ท่า ใช้ในการปฏิบัติท่ารำเพลง แม่บทใหญ่ตามแบบแผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑.๔ การปฏิบัติท่ารำ เพลงแม่บทใหญ่ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับ หลักการปฏิบัติท่ารำแม่บทใหญ่ ตามหลักวิชาการ ๒. ปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ ตามแบบแผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑๓-๑๒๐ ๑๑๘ ๑๑-๑๕ ๒ เพลงแม่บทเล็ก (ออกต้นวรเชษฐ์) ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับประวัติ ความเป็นมาองค์ประกอบ ความ แตกต่างของรูปแบบรำ มาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ตามหลัก วิชาการ ๒. ปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็ก ตามแบบแผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะ นิสัยในการปฏิบัติงานด้วย ความรับผิดชอบ ๑๒๑- ๑๖๘ ๔๘ ๒.๑ ประวัติความเป็นมา องค์ประกอบ ความ แตกต่างของรูปแบบรำ มาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับประวัติ ความเป็นมาองค์ประกอบ ความแตกต่างของรูปแบบรำ มาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ตามหลัก วิชาการ ๒. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑๒๑- ๑๒๒ ๒


สัปดาห์ หน่วยที่ หน่วยการเรียนรู้หลัก/ หน่วยการเรียนย่อย สมรรถนะประจำหน่วย ช.ม. เวลา ๒.๒ เพลงขับร้องของรำ มาตรฐานเพลงแม่บทเล็ก ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับบทร้อง และความหมายของเพลงตาม หลักวิชาการ ๒. ปฏิบัติการขับร้องเพลงแม่บท ใหญ่ตามแบบแผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑๒๓- ๑๒๘ ๖ ๒.๓ นาฏยศัพท์และแม่ ท่าใช้ในการปฏิบัติท่ารำ เพลงแม่บทเล็ก ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับ หลักการปฏิบัตินาฏยศัพท์และ แม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่ารำเพลง แม่บทเล็กตามหลักวิชาการ ๒.ปฏิบัตินาฏยศัพท์และแม่ท่า ใช้ในการปฏิบัติท่ารำเพลง แม่บทเล็กตามแบบแผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑๒๙- ๑๓๔ ๖ ๒.๔ การปฏิบัติท่ารำ เพลงแม่บทเล็ก ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับ หลักการปฏิบัติท่ารำแม่บทเล็ก ตามหลักวิชาการ ๒. ปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็ก ตามแบบแผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑๓๕- ๑๖๘ ๓๓ ๑๖-๑๘ ๓ รำหน้าพาทย์สาธุการ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับการ รำ หน้าพาทย์สาธุการ ตามหลักวิชาการ ๒. ปฏิบัติกระบวนท่ารำเพลง หน้าพาทย์สาธุการ ตามแบบ แผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑๖๙- ๒๐๔ ๓๖


สัปดาห์ หน่วยที่ หน่วยการเรียนรู้หลัก/ หน่วยการเรียนย่อย สมรรถนะประจำหน่วย ช.ม. เวลา ๔.๑ ความหมายและ ที่มา ประเภทของเพลง หน้าพาทย์ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับ ความหมายและที่มา ประเภท ของเพลงหน้าพาทย์ตามหลัก วิชาการ ๒. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑๖๙- ๑๗๐ ๒ ๔.๒ นาฏยศัพท์ที่ใช้ใน การรำหน้าพาทย์สาธุการ ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับนาฏย ศัพท์ที่ใช้ในการรำหน้าพาทย์ สาธุการตามหลักวิชาการ ๒. ปฏิบัตินาฏยศัพท์ที่ใช้ในการ รำหน้าพาทย์สาธุการตามแบบ แผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑๗๑- ๑๗๒ ๒ ๔.๓ วิธีปฏิบัติกระบวน ท่ารำหน้าพาทย์สาธุการ ๑.แสดงความรู้เกี่ยวกับการรำ หน้าพาทย์สาธุการตามหลัก วิชาการ ๒. ปฏิบัติกระบวนท่ารำเพลง หน้าพาทย์สาธุการตามแบบ แผน ๓. แสดงพฤติกรรมลักษณะนิสัย ในการปฏิบัติงานด้วยความ รับผิดชอบ ๑๗๓- ๒๐๔ ๓๑ รวม ๒๔๐ ๒๔๐


ตารางวิเคราะห์โครงสร้างเนื้อหาวิชากับความสอดคล้องตรงตามจุดประสงค์ และสมรรถนะรายวิชา วิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัสวิชา ๒๐๓๐๒-๒๐๐๒ หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประเภทวิชา นาฏศิลป์ละคร สาขาวิชา นาฏศิลป์ละคร ผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล หน่วยที่ หัวข้อเนื้อหา ชม. จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๑ เพลงแม่บทใหญ่ ๑.๑ ประวัติความเป็นมา องค์ประกอบ ความแตกต่างของรูปแบบรำมาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ✓ ✓ ✓ ๑.๒ เพลงขับร้องของรำมาตรฐานเพลง แม่บทใหญ่ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ๑.๓ นาฏยศัพท์และแม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่า รำเพลงแม่บทใหญ่ ✓ ✓ ✓ ✓ ๑.๔ การปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ ✓ ✓ ✓ ๒ เพลงแม่บทเล็กออกเพลงต้นวรเชษฐ์ ๑.๑ ประวัติความเป็นมา องค์ประกอบ ความแตกต่างของรูปแบบรำมาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ✓ ✓ ✓ ๑.๒ เพลงขับร้องของรำมาตรฐานเพลง แม่บทเล็ก ✓ ✓ ✓ ✓ ๑.๓ นาฏยศัพท์และแม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่า รำเพลงแม่บทเล็ก ✓ ✓ ✓ ✓ ๑.๔ การปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็ก ✓ ✓ ✓ ๓ รำหน้าพาทย์สาธุการ ๔.๑ ความหมายและที่มาของเพลงหน้า พาทย์ ✓ ✓ ✓ ๔.๒ ประเภทของเพลงหน้าพาทย์ ✓ ✓ ✓ ๔.๓ นาฏยศัพท์ที่ใช้ในการรำหน้าพาทย์ สาธุการ ✓ ✓ ✓ ๔.๔ การปฏิบัติท่ารำหน้าพาทย์สาธุการ ✓ ✓ ✓


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัส ๒๐๓๐๒ – ๒๐๐๒ หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วย เพลงแม่บทใหญ่ เวลา ๑๒ ชั่วโมง สัปดาห์ที่ ๑ ผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล ๑. หัวข้อเรื่อง/งาน ๑.๑ ประวัติความเป็นมา องค์ประกอบ ความแตกต่างของรูปแบบรำมาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ๑.๒ เพลงขับร้องของรำมาตรฐานเพลงแม่บทใหญ่ ๑.๓ นาฏยศัพท์และแม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ ๑.๔ การปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ ๒. สาระสำคัญ การรำแม่บทใหญ่ เป็นบทเรียนฝึกหัดเบื้องต้นให้แก่นักเรียนในโรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร์ และสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มีการฝึกหัดวิชานาฏศิลป์ไทย เพื่อวางรากฐานการปฏิบัติทางนาฏศิลป์ไทยในแบบ ของการใช้บท ต่อจากการฝึกหัดรำเพลงช้า เพลงเร็ว คุณครูลมุล ยมะคุปต์ได้ขออนุญาตพระยานัฏกานุรักษ์ ให้บรรจุท่ารำชุดแม่บทใหญ่ เข้าเป็นบทเรียนหนึ่งในการฝึกหัดนาฏศิลปินที่โรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร์ (วิทยาลัยนาฏศิลปในปัจจุบัน) ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๘ จนถึงปัจจุบัน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ จุดประสงค์ทั่วไป ๓.๑.๑ รู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของรำแม่บทใหญ่ได้ ๓.๑.๒ รู้องค์ประกอบของรำแม่บทใหญ่ได้ ๓.๑.๓ รู้และเข้าใจประโยชน์ของการปฏิบัติท่ารำแม่บทใหญ่ได้ ๓.๑.๔ เข้าใจหลักการปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ได้ ๓.๑.๕ มีกิจนิสัยที่ดี ๓.๒ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ๓.๒.๑ อธิบายประวัติความเป็นมาของรำแม่บทใหญ่ได้ ๓.๒.๒ อธิบายองค์ประกอบของรำแม่บทใหญ่ได้ ๓.๒.๓ บอกประโยชน์ของการปฏิบัติท่ารำแม่บทใหญ่ได้ ๓.๒.๔ ปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ได้ถูกต้อง ๓.๒.๕ ปฏิบัติการทำงานด้วยความตั้งใจตรงเวลาและมีความรับผิดชอบ


๔. เนื้อหาการเรียนรู้ ๔.๑ ประวัติความเป็นมาเพลงแม่บทใหญ่ • องค์ประกอบ • ความแตกต่างของรูปแบบรำมาตรฐาน • โอกาสที่ใช้ ๔.๒ บทร้องและการขับร้องของรำมาตรฐานเพลงแม่บทใหญ่ • ความหมายของบทร้อง • การขับร้อง ๔.๓ นาฏยศัพท์และแม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ ๔.๔ การปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ ๕ ใช้รูปแบบ Smartphone - Based Learning Smartphone - Based Learning S: Smartphone • ใช้สมาร์ทโฟน เพื่อการเรียนรู้ทุกที่ ทุกเวลา M: Morality • พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม วินัย จิตอาสา A: Active Learning • เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ ด้วยสื่อที่หลากหลาย R: Research • พัฒนาสมรรถนะด้วยโครงงาน ลองผิดลองถูก T: Technology • ใช้ ICT สร้าง Creative Thinking ๖. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๖.๑ นักเรียนฝึกหัดเบื้องต้น ทบทวนเพลงช้า เพลงเร็ว ๖.๒ ให้นักเรียนดูวีดีทัศน์รำแม่บทใหญ่ ตั้งแต่เทพนมจนถึงบัวชูฝัก แล้วให้นักเรียน เปรียบเทียบกับท่ารำในเพลงช้า เพลงเร็วที่นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติมา แล้วให้นักเรียนตอบ คำถามต่อไปนี้ - มีท่ารำใดในเพลงแม่บทใหญ่ที่อยู่ในท่ารำเพลงช้า เพลงเร็วบ้าง ๖.๓ โยงเนื้อหาเข้าสู่ประวัติความเป็นมารำเพลงแม่บทใหญ่ ขั้นสอน ๑. นักเรียนศึกษาใบความรู้ที่ ๑ เรื่อง ประวัติความเป็นมาและองค์ประกอบการแสดง รำแม่บทใหญ่ ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ เรื่อง ประวัติความเป็นมาและองค์ประกอบการแสดงรำ แม่บทใหญ่ ๓. นักเรียนรับการฝึกหัดการขับร้องเพลงแม่บทใหญ่จากครู ๔. นักเรียนรับการถ่ายทอดท่ารำเพลงแม่บทใหญ่จากครูผู้สอน


ขั้นฝึกหัดทบทวน ๕. นักเรียนฝึกหัดทบทวนด้วยตนเองจากสื่อวีดิทัศน์ ในยูทูป ที่ครูได้จัดทำไว้ ขั้นวัดและประเมินผล ๖. นักเรียนรับการทดสอบปฏิบัติท่ารำทีละคน ๗. นักเรียนรับข้อเสนอแนะและแก้ไขท่ารำให้ถูกต้อง ๗. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ - เอกสารประกอบการสอนเรื่องการฝึกปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ - คลิปวิดีโอ การฝึกปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ https://youtu.be/sURTx1AoEKE - You tube ๘. เกณฑ์การประเมินทักษะปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทใหญ่ คะแนนเต็ม 10 คะแนน นักเรียนต้องทำคะแนนได้ 8 คะแนนขึ้นไปจึงจะผ่านเกณฑ์ การประเมิน ๙. ข้อเสนอแนะ - แนะนำให้นักเรียนไปทบทวนท่ารำจากสื่อ You tube


รำแม่บทใหญ่ ที่มาของการแสดงรำแม่บทใหญ่ รำแม่บทใหญ่มีปรากฏเป็นหลักฐานครั้งแรกจากมุขปาฐะของคุณครูลมุล ยมะคุปต์ และคุณครูเฉลย ศุขะวณิช ว่ามีการประดิษฐ์ท่ารำแม่บทใหญ่ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อประกอบการ แสดงละคร เรื่อง สุริยคุปต์ ของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ อธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้นโดยมี วัตถุประสงค์จะฟื้นฟูการรำแม่บทใหญ่ จากกลอนรำของเก่าและภาพท่ารำที่สืบทอดมาตั้งแต่ รัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๖ ประวัติการแสดงแม่บทใหญ่ในครั้งแรกนั้น พบว่ามีการกล่าวถึงในเอกสารหลายเล่มว่า คุณครูลมุล ยมะคุปต์ คุณครูศุภลักษณ์ ภัทรนาวิกและคุณครูมัลลี คงประภัศร์ เป็นผู้ร่วมกัน ประดิษฐ์ขึ้นจากภาพท่ารำของเก่า แต่รายละเอียดเกี่ยวกับการแสดงรวมถึงบทละครไม่มีผู้ใด กล่าวถึงเลย เนื่องจากในการศึกษาประวัติและผลงานของหลวงวิจิตรวาทการจากเอกสาร ไม่ปรากฏว่าละครเรื่องนี้เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ของ หลวงวิจิตรวาทการ ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับ การแสดงแม่บทใหญ่ในครั้งแรกจึงได้จากการสัมภาษณ์ผู้แสดง คนแรกคือ ครูส่องชาติ ชื่นสิริ (ฤทธิจรุง)เป็นหลัก และท่านผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง ในด้านเรื่องย่อ วิธีแสดง การแต่งกายและหัวข้อ อื่นที่เกี่ยวข้องกับการแสดงแม่บทในครั้งแรก ดังนี้ เรื่องย่อบทละครเรื่อง สุริยคุปต์ของพลตรี หลวงวิจิตรวาทการ บทละครเรื่องสุริยคุปต์เป็นบทละครเล่มเล็ก(ไม่สามารถค้นพบต้นฉบับได้) มีเนื้อเรื่องย่อดังนี้ สุริยคุปต์ เป็นกษัตริย์ครองเมืองสุริยคุปต์ พานางจันทรลักษณ์ซึ่งเป็นชายามาเที่ยวป่า พบนางยักษ์แปลงทำเสน่ห์ให้ท้าวสุริยคุปต์ หลงใหลและทอดทิ้งนางจันทรลักษณ์ไว้คนเดียว ในป่า จนนางเจ็บป่วยและสิ้นชีวิตในที่สุด วิญญาณของนางได้ล่องลอยมาพบท้าวสุริยคุปต์ กับนางยักษ์แปลง เพื่อแก้แค้นโดยวิญญาณนางจันทรลักษณ์ได้ท้าให้นางยักษ์แปลงมารำ ประกวดกัน ดังบทของนางจันทรลักษณ์กล่าวว่า นางยักษ์แปลงรับคำท้าร่วมรำประกวดแข่งขันกัน ปรากฎว่านางยักษ์แปลงรำสู้ไม่ได้จึง หนีไป สุดท้ายวิญญาณนางจันทรลักษณ์จึงได้ชี้แจงและต่อว่าท้าวสุริยคุปต์ ผู้แสดงรำแม่บทในการแสดงละครเรื่องสุริยคุปต์ คือ นางสาวส่องชาติ ชื่นสิริ (ฤทธิจรุง) แสดงเป็นวิญญาณนางจันทรลักษณ์ นางสาวสุวรรณา สุวรรณศร (ศราภัยพิพัฒน์) แสดงเป็นนางยักษ์แปลง ผู้ประดิษฐ์ท่าเชื่อมจากภาพท่ารำในการรำแม่บทในการแสดงละครเรื่องสุริยคุปต์มี 3 ท่าน คือ คุณครูลมุล ยมะคุปต์หม่อมครูต่วน(ศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก)และคุณครูมัลลี คงประภัศร์ เพลงที่ใช้ในการแสดง คือ เพลงชมตลาด เพลงชมตลาดเป็นเพลงสองชั้น จัดเป็นเพลง ประกอบฉิ่งตัดใช้ขับร้องประกอบการแสดงละครในบทชมบ้านเมือง หรือชมการแต่งตัวของ ละครในและละครนอกมาแต่โบราณ ต่อมาจึงได้นำมาร้องประกอบการแสดงทั้งแม่บทเล็ก และ แม่บทใหญ่ เพลงนี้เดิมไม่มีทางรับหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้แต่งทำนอง ปี่พาทย์รับ และใช้เป็นเพลงร้องประกอบการรำแม่บทตลอดมาจนปัจจุบัน


ไกรฤทธ์ กันเรือง และศิริวรรณ รัตนทัศนีย์ กล่าวว่า เพลงชมตลาดจัดเป็นเพลงจังหวะ พิเศษ เนื่องจากเพลงชมตลาดเป็นเพลงที่ใช้วิธีการตีจังหวะฉิ่ง ฉับแตกต่างจากเพลงไทย โดยทั่วไปที่ดำเนินการตีฉิ่งควบคุมจังหวะที่มีระยะห่างของการตีเท่ากันตลอดทั้งเพลง แต่วิธีการ ตีฉิ่งประกอบการร้องและบรรเลงเพลงชมตลาด ใช้วิธีการตีฉิ่งเพื่อควบคุมการดำเนินจังหวะที่มี ระยะห่างของการตีไม่เท่ากันตลอดทั้งเพลง โดยการตีฉิ่ง ฉับในจังหวะยาว 1 คู่ และตีฉิ่ง ฉับใน จังหวะสั้น 1 คู่ สลับกันตลอดทั้งเพลงดังได้แสดงวิธีการตีฉิ่งกำกับจังหวะลักษณะพิเศษในเพลง ชมตลาดสำหรับการร้อง 1วรรค (ตรวจสอบความถูกต้องโดยไกรฤทธิ์ กันเรือง) ดังนี้ การวางจังหวะในเพลง ชมตลาด 1 วรรค 1 2 3 4 5 6 7 วิธีการตีฉิ่งในเพลงชม ตลาด - ฉิ่ง - ฉับ - ฉิ่ง ฉับ การร้องตามจังหวะฉิ่ง -ฉับ - เทพ - พนม - ปฐม เอย การวางจังหวะในเพลง ชมตลาด 1 วรรค 1 2 3 4 5 6 7 วิธีการตีฉิ่งในเพลงชม ตลาด - ฉิ่ง - ฉับ - ฉิ่ง ฉับ การร้องตามจังหวะฉิ่ง -ฉับ - เออ - พรหม - สี่ หน้า สังเกตได้ว่าการตีฉิ่ง ฉับ 2 คู่ สำหรับการร้องและบรรเลงเพลงชมตลาด 1วรรคกำหนดให้ จังหวะเป็นเลขคี่เท่ากับการเคาะ 7 ครั้งเท่าๆ กัน ซึ่งแตกต่างจากเพลงในจังหวะทั่วไปที่กำหนด จังหวะให้เป็นเลขคู่เท่ากับการเคาะ 8 ครั้ง และในเพลงชมตลาดยังกำหนดระยะห่างระหว่าง การตีฉิ่ง ฉับคู่แรกให้มีความกว้างมากกว่าระยะห่างของการตีฉิ่ง ฉับ คู่ที่ 2 ด้วย และต้องตีฉิ่ง ควบคุมจังหวะเพลงชมตลาดให้มีความยาว 1 คู่ และสั้น 1 คู่สลับกันไปตลอดทั้งเพลง การบรรจุการรำแม่บทใหญ่ในหลักสูตรนาฏศิลป์ไทยภาคปฏิบัติ การฝึกหัดนาฏศิลป์ไทยเพื่อเป็นอาชีพในสถาบันการศึกษาในปัจจุบันนี้ ได้เริ่มขึ้นเมื่อ มีการตั้งโรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร์ ในพ.ศ.2477 โดยนำแบบแผนการฝึกละครหลวงในวัง เจ้านายที่สืบทอดมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์มาเป็นบทเรียนใช้ฝึกหัดนักเรียน เริ่มตั้งแต่การ ดัดร่างกายให้เหมาะสมกับการปฏิบัตินาฏศิลป์ไทย การฝึกหัดรำเพลงหน้าพาทย์ชั้นต้นได้แก่ การ “รำเพลง” ต่าง ๆ ประกอบด้วย เพลงช้า เพลงเร็ว เชิดกลอง และเสมอ เหมือนกันหมด ทุกคน และยังไม่มีการนำรำแม่บทใหญ่มาใช้ในการฝึกหัดผู้เรียนนาฏศิลป์ไทยแม้การฝึกหัด ละครในวังสวนกุหลาบยังไม่ปรากฏว่ามีการฝึกหัดรำแม่บทใหญ่อย่างในปัจจุบัน ภายหลังจาก คุณครูลมุล ยมะคุปต์ คุณครูมัลลี คงประภัศร์ และคุณครูศุภลักษณ์ ภัทรนาวิกได้ร่วมกัน


ประดิษฐ์ท่ารำชุดแม่บทใหญ่เพื่อประกอบละครเรื่องสุริยคุปต์ตามดำริของ พลตรีหลวงวิจิตร วาทการ ในพ.ศ.2477 แล้ว คุณครูลมุล ยมะคุปต์ได้ขออนุญาตพระยานัฏกานุรักษ์ให้บรรจุ ท่ารำชุดแม่บทใหญ่ เข้าเป็นบทเรียนหนึ่งในการฝึกหัดนาฏศิลปิน ที่โรงเรียนนาฏดุริยางค ศาสตร์(วิทยาลัยนาฏศิลปในปัจจุบัน) ตั้งแต่พ.ศ.2478 เป็นต้นมา การรำแม่บทใหญ่จึงได้ใช้ เป็นบทเรียนฝึกหัดเบื้องต้น ให้แก่นักเรียนในโรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร์ และสถานศึกษา ต่าง ๆที่มีการฝึกหัดวิชานาฏศิลป์ไทยเป็นอาชีพจนถึงปัจจุบันนี้เพื่อวางรากฐานการปฏิบัติ ทางนาฏศิลป์ไทยในแบบของการใช้บทต่อจากการฝึกหัดรำเพลง ซึ่งต้องเรียนในปีแรกๆของการ ฝึกหัดในแต่ละสถานศึกษา ดังปรากฏในหลักสูตรต่างๆดังตัวอย่างต่อไปนี้ หลักสูตรขั้นพื้นฐาน (มัธยมปีที่ 1-3) ของวิทยาลัยนาฏศิลป จัดให้นักเรียนนาฏศิลป์ ละครชั้นมัธยมปีที่ 2 ภาคเรียน 1 ได้ฝึกหัดรำแม่บทใหญ่ในรายวิชานาฏศิลป์ไทย(ละคร)2 รหัสวิชา ศ32204 ต่อจากการฝึกหัดรำเพลงช้า เพลงเร็ว เชิด เสมอซึ่งฝึกหัดในชั้นปี่ที่ 1 มาแล้ว หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต (ศิลปะการแสดง) จัดให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ภาคเรียน 1ดังปรากฏในหลักสูตรรายวิชานาฏศิลป์ไทยเบื้องต้น(พระ) รหัสวิชา PER 1104และนาฏศิลป์ ไทยเบื้องต้น(นาง) รหัสวิชา PER 1105 ซึ่งจัดให้ฝึกหัดแม่บทใหญ่ต่อจากการรำเพลง เช่นเดียวกัน ดังนี้“ศึกษาหลักนาฏศิลป์ไทยเบื้องต้น ฝึกปฏิบัติการรำพื้นฐานทางนาฏศิลป์ไทย เพลงช้าเพลงเร็ว รำแม่บทใหญ่ รำแม่บทเล็ก รำเชิด เสมอ และภาษาท่าทางนาฏศิลป์ไทยใน บทบาทตัวพระ” การรำแม่บทใหญ่ ใช้ฝึกผู้เรียนเมื่อผู้เรียนเหล่านั้นรำเพลงหน้าพาทย์ชั้นต้น (เพลงช้า เพลงเร็ว เพลงเชิด เสมอ)ได้แล้ว ครูจึงหัดให้นักเรียนรำทำบท เรียกกันว่า “ใช้บท” เป็นบทเรียนต่อมา การรำใช้บทเป็นการเน้นความหมายของคำหรือของบทให้กระชับเข้าด้วย การแสดงออกมาเป็นท่า และนับเป็นชั้นแรกที่เริ่มถ่ายท่ารำที่ยังไม่ได้ให้ความหมายของท่าเข้า ไปสู่ความหมายของชื่อที่บัญญัติไว้ว่าท่านั้น ๆ เรียกชื่อว่าอย่างนั้น ๆ ทำนองเดียวกับท่ารำต่างๆ ของอินเดียที่บัญญัติไว้ในคัมภีร์นาฏย-ศาสตร์ของภรตมุนี จากการศึกษาพัฒนาการแม่บทใหญ่ในงานนาฏศิลป์ไทย พบว่าได้เริ่มเกิดมีขึ้นใน รัชกาลที่6 โดยเริ่มจากการที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์บท ละครเรื่องพระภรตเบิกโรงโดยนำชื่อท่ารำจากคำกลอนของเก่ามาทรงพระราชนิพนธ์เป็นบท ละคร ประกอบด้วยคำกลอนจำนวน 14 คำกลอน ร้องด้วยเพลงชมตลาด มีผู้แสดงท่ารำจำนวน 1 คน และต่อมาในรัชกาลที่ 9 ได้มีการฟื้นฟูท่ารำจากภาพถ่าย โดยยึดคำกลอนของเก่าจำนวน 18 คำกลอนเป็นบทร้องใช้เพลงชมตลาดเช่นเดียวกันมาจัดทำเป็นบทรำประกอบละคร เรื่อง สุริยคุปต์โดยพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ มีผู้แสดงท่ารำจำนวน 2 คนและในตอนท้ายของบท ระบุว่าเป็นแบบรำที่มีมาแต่โบราณ โดยในที่สุดการรำชุดแม่บทใหญ่ที่ได้ฟื้นฟูขึ้นในรัชกาลที่ 9 นี้ได้นำมาเป็นแบบฝึกชุดแรกสำหรับการฝึกหัดการใช้บทสำหรับนักเรียนสายนาฏศิลป์ไทย ทั่วประเทศ โดยได้จัดทำเป็นแผนภาพแสดงการพัฒนาการเป็นลำดับดังนี้


เพลงที่ใช้ประกอบการรำแม่บทใหญ่ ทำนองเพลงที่ใช้ในการรำแม่บทใหญ่ ใช้เพลงชมตลาดประกอบการร้อง ทั้ง 18 คำ กลอนโดยใช้วิธีการร้องแบบ 2 คำรับทำนองปี่พาทย์ 1 ครั้ง วิธีการเช่นนี้คงได้เลียนแบบจาก การรำแม่บทนางนารายณ์ ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาตามบทละครในรัชกาลที่ 4ที่ปรับปรุงมาจากบท พระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ในรัชกาลที่ 1 ดังจะได้อธิบายโดยยกตัวอย่างบทละครประกอบ ดังนี้ ปี่พาทย์บรรเลงเพลงรัว ร้องเพลงชมตลาด เทพประนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาช้านางนอน ผาลาเพียงไหล่พิสมัยเรียงหมอน กังหันร่อนแขกเต้าเข้ารัง(รับปี่พาทย์) กระต่ายชมจันทร์จันทร์ทรงกลด พระรถโยนสารมารกลับหลัง เยื้องกรายฉุยฉายเข้าวัง มังกรเลียบท่ามุจลินทร์(รับปี่พาทย์) กินนรรำซ้ำช้างประสานงา ท่าพระรามาโก่งศิลป์ ภมรเคล้ามัจฉาชมวาริน หลงใหลได้สิ้นหงส์ลินลา(รับปี่พาทย์) ท่าสิงโตเล่นหางนางกล่อมตัว รำยั่วชักแป้งผัดหน้า ลมพัดยอดตองบังสุริยา เหราเล่นน้ำบัวชูฝัก (รับปี่พาทย์) นาคาม้วนหางกวางเดินดง พระนารายณ์ฤทธิรงค์ขว้างจักร ช้างหว่านหญ้าหนุมานผลาญยักษ์ พระลักษณ์แผลงอิทธิ์ฤทธี (รับปี่พาทย์) กินนรฟ้อนฝูงยูงฟ้อนหาง ขัดจางนางท่านายสารถี ตระเวนเวหาขี่ม้าตีคลี ตีโทนโยนทัพงูขว้างค้อน (รับปี่พาทย์) รำกระบี่สี่ท่าจีนสาวไส้ ท่าชะนีร่ายไม้ทิ้งขอน เมขลาล่อแก้วกลางอัมพร กินนรเลียบถ้ำหนังหน้าไฟ (รับปี่พาทย์) ท่าเสือทำลายห้างช้างทำลายโรง โจงกระเบนตีเหล็กแทงวิไสย กรดสุเมรุเครือวัลย์พันไม้ ประลัยวาตยังคิดประดิษฐ์ท(รับปี่พาทย์) กระหวัดเกล้าขี่ม้าเลียบค่าย กระต่ายต้องแร้วแคล้วถ้ำ ชักซอสามสายย้ายลำนำ เป็นแบบรำแต่ก่อนที่มีมา (รับปี่พาทย์) ปี่พาทย์บรรเลงเพลงเร็ว ลา การแต่งกายในการรำแม่บทใหญ่ การแต่งกายประกอบการแสดงรำแม่บทใหญ่ แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ของการ แสดงแต่ละครั้ง ได้แก่


1.การแต่งกายประกอบการแสดงละครเรื่องสุริยคุปต์ผู้แสดงสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการรำ แม่บทใหญ่ในการแสดงละครเรื่องสุริยคุปต์เป็นตัวนาง2 คน ได้แก่ วิญญาณนางจันทรลักษณ์ และนางยักษ์แปลง ซึ่งมีการแต่งกาย ดังนี้ 1.1วิญญาณของนางจันทรลักษณ์ แต่งกายดังนี้ นุ่งผ้าหน้านางสีขาว ใส่เสื้อผ้าต่วนแขนสั้นสีขาวด้านหลังเป็นผ้าเนื้อบางเบาติด ทาบที่แขนคล้ายปีก ใส่มงกุฎนาง สวมเครื่องประดับ 1.2นางยักษ์แปลง แต่งกายยืนเครื่องนาง 2. การแต่งกายประกอบการแสดงมาตรฐาน ชุดรำแม่บทใหญ่เป็นการแต่งกายที่นิยมใช้ ในปัจจุบัน คือการแต่งกายยืนเครื่อง พระ และ นางประกอบด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับดัง ภาพลายเส้นแยกตัวพระและนาง ดังนี้ การแต่งกายแบบยืนเครื่องตัวพระ


การแต่งกายแบบยืนเครื่องตัวพระดังภาพด้านบนนี้แสดงถึงการแต่งกายตัวพระทั้งแขนสั้นและ แบบแขนยาว โดยด้านขวาของผู้แสดงเป็นเสื้อแขนสั้น และด้านซ้ายของผู้แสดงเป็นเสื้อแขนยาว ประกอบด้วย 1.ข้อเท้า 2. สนับเพลา 3. ผ้านุ่ง 4.เจียระบาด, ชายแคลง 5.ฉลององค์(เสื้อ) 6. รัดสะเอว 7.ห้อยหน้า, ชายไหว 8.สุวรรณกระถอบ 9. ปั้นเหน่ง 10.กรองคอ 11.ทับทรวง 12.อินทรธนู (สำหรับเสื้อแขนยาว) 13.พาหุรัด (สำหรับเสื้อแขนสั้น)14.สังวาล 15. ตาบทิศ 16.ชฎา 17.ดอกไม้เพชร (ขวา)18.จอนหูหรือกรรเจียกจร 19.ดอกไม้ทัด (ขวา) 20.อุบะ, พวงดอกไม้ 21.ธำมรงค์ 22.แหวนรอบ 23.ปะวะหล่ำ 24.กำไลแผงหรือทองกร วิธีการแต่งกายตัวพระโดยสังเขป คือนุ่งสนับเพลาชักเชิง นุ่งผ้าจีบโจงหางหงส์ ห้อยข้างหรือ เจียระบาด สวมเสื้อหรือฉลององค์แขนยาวจรดปลายแขน ติดอินทรธนูบนหัวไหล่ ถ้าเป็น แขนสั้นใช้พาหุรัดติดที่ปลายแขนเสื้อแทนอินทรธนู ใส่ห้อยหน้า รัดสะเอว สวมเครื่องประดับ ต่าง ๆ การแต่งกายแบบยืนเครื่องตัวนาง


การแต่งกายยืนเครื่องตัวนางดังภาพด้านบนนี้ประกอบด้วยเครื่องแต่งกายต่างๆ ดังนี้ 1. ข้อเท้า 2. เสื้อในนาง 3. ผ้านุ่ง 4. เข็มขัด 5. สะอิ้ง 6. ผ้าห่มนาง 7. นวมนางหรือกรองศอ8. จี้นางหรือตาบทับ9. พาหุรัด 10.แหวนรอบ 11.ปะวะหล่ำ 12.กำไลตะขาบ 13.กำไลสวม , ทองกร 14.ธำมรงค์ 15.มงกุฎ 16.จอนหู หรือกรรเจียกจร17.ดอกไม้ทัด(ซ้าย) 18.อุบะ, พวงดอกไม้ (ซ้าย) วิธีการแต่งกายโดยสังเขป คือ ใส่เสื้อในนาง ห่มผ้าห่มนาง ใส่นวมนาง นุ่งผ้ายกจีบหน้านาง กรอมถึงน่อง ใส่เครื่องประดับ จี้นาง เข็มขัด สะอิ้ง ปะวะหล่ำ กำไลสวม มงกุฎ อุบะ ดอกไม้ทัด(ซ้าย) จำนวนและลักษณะของผู้แสดงรำแม่บทในปัจจุบัน ในการแสดงรำแม่บทใหญ่ซึ่งจัดเป็นชุดระบำมาตรฐานชุดหนึ่งในปัจจุบัน สามารถจัดผู้ แสดงได้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเป็นจำนวนคู่ โดยแบ่งเป็นผู้แสดงฝ่ายพระ และฝ่ายนาง โอกาสที่ใช้แสดง โอกาสที่ใช้แสดงรำแม่บทใหญ่จากอดีตตั้งแต่เริ่มมีการประดิษฐ์ชุดการแสดงนี้จนถึง ปัจจุบัน มีแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของการแสดง ดังนี้ 1.การแสดงรำแม่บทใหญ่ประกอบการแสดงละครเรื่อง สุริยคุปต์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ฟื้นฟูการรำแม่บทจากภาพและกลอนตำรารำ ปัจจุบันไม่นิยมนำมาแสดง 2.การแสดงรำมาตรฐาน ชุด รำแม่บทใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำการแสดงชุดแม่บทใหญ่ ออกแสดงในงานต่าง ๆ ในปัจจุบันได้แก่ การสาธิตการแสดงนาฏศิลป์ไทย การแสดงชุดหนึ่งใน การแสดงประเภทวิพิธทัศนา เป็นต้นอย่างไรก็ดีปรากฎว่ามีการนำการแสดงชุดแม่บทใหญ่มา จัดเป็นการแสดงน้อยมาก เนื่องจากความไม่เหมาะสมในด้านเวลาในการจัดการแสดงเพราะการ แสดงชุดรำแม่บทใหญ่มีเนื้อร้องที่ยาวมากถึง 18 คำกลอนและใช้เวลาในการแสดงยาวนานถึง 20 นาทีโดยประมาณ 3. บทเรียนการฝึกหัดรำใช้บทในการฝึกปฏิบัตินาฏศิลป์ไทยเนื่องจากการรำแม่บทใหญ่ ได้มีการนำมาบรรจุเป็นชุดการเรียนหนึ่งสำหรับผู้ศึกษานาฏศิลป์ไทย และจัดเป็นแบบฝึกชุด แรกของผู้ศึกษานาฏศิลป์ไทยในด้านการรำใช้บท ก่อนการเรียนนาฏศิลป์ไทยในระดับสูงขึ้นด้วย


แผนการจัดกิจกรรมการเรียรู้ที่ ๒ วิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัส ๒๐๓๐๒ – ๒๐๐๒ หน่วยที่ ๒ ชื่อหน่วย เพลงแม่บทเล็ก เวลาเรียน ๔๘ ชั่วโมง ผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล ๑. หัวข้อเรื่อง/งาน ๑.๑ ประวัติความเป็นมาองค์ประกอบความแตกต่างของรูปแบบรำมาตรฐานโอกาสที่ใช้ ๑.๒ เพลงขับร้องของรำมาตรฐานเพลงแม่บทเล็ก ๑.๓ นาฏยศัพท์และแม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็ก ๑.๔ การปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็ก ๒. สาระสำคัญ การรำแม่บทเล็ก เป็นระบำมาตรฐานชุดหนึ่งในโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ ปรายนนทุก ซึ่งเป็นการร่ายรำของพระนารายณ์แปลง ในบทของนางนารายณ์ ที่แปลงตัวเป็น หญิงงามรำล่อให้นนทุกหลงใหล โดยการให้นนทุกรำตาม เมื่อถึงเนื้อร้องที่ว่า “ฝ่ายว่านนนทุก ก็รำตาม ด้วยความพิสมัยเมื่อถึงท่านาคป่วนม้วนหาง ก็ชี้ลงที่เพลาพลันทันใด” นนทุกก็ชี้ลงที่ ขาของตัวเองถึงแก่ความตาย เรื่องราวข้างต้นจึงเป็นต้นกำเนิดของเรื่องรามเกียรติ์ การร่ายรำ ของพระนารายณ์แปลง ก็คือการรำแม่บทเล็กซึ่งใช้ทำนองเพลงชมตลาด ต่อมาเรียกการรำชุด นี้ว่าแม่บทเล็กหรือแม่บท นางนารายณ์ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ จุดประสงค์ทั่วไป ๓.๑.๑ รู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของรำแม่บทเล็กได้ ๓.๑.๒ รู้องค์ประกอบของรำแม่บทเล็กได้ ๓.๑.๓ รู้และเข้าใจประโยชน์ของการปฏิบัติท่ารำแม่บทเล็กได้ ๓.๑.๔ เข้าใจหลักการปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็กได้ ๓.๑.๕ มีกิจนิสัยที่ดี ๓.๒ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ๓.๒.๑ อธิบายประวัติความเป็นมาของรำแม่บทเล็กได้ ๓.๒.๒ อธิบายองค์ประกอบของรำแม่บทเล็กได้ ๓.๒.๓ บอกประโยชน์ของการปฏิบัติท่ารำแม่บทเล็กได้ ๓.๒.๔ ปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็กได้ถูกต้อง ๓.๒.๕ ปฏิบัติการทำงานด้วยความตั้งใจตรงเวลาและมีความรับผิดชอบ


๔. เนื้อหาการเรียนรู้ ๔.๑ ประวัติความเป็นมาเพลงแม่บทเล็ก องค์ประกอบ ความแตกต่างของรูปแบบรำมาตรฐาน โอกาสที่ใช้ ๔.๒ บทร้องและการขับร้องของรำมาตรฐานเพลงแม่บทเล็ก ความหมายของบทร้อง การขับร้อง ๔.๓ นาฏยศัพท์และแม่ท่าใช้ในการปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็ก ๔.๔ การปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็ก ๕ ใช้รูปแบบ อธิบายและสาธิตและสื่อออนไลน์ บน Smartphone Smartphone - Based Learning S: Smartphone • ใช้สมาร์ทโฟน เพื่อการเรียนรู้ทุกที่ ทุกเวลา M: Morality • พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม วินัย จิตอาสา A: Active Learning • เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ ด้วยสื่อที่หลากหลาย R: Research • พัฒนาสมรรถนะด้วยโครงงาน ลองผิดลองถูก T: Technology • ใช้ ICT สร้าง Creative Thinking ๖. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑ นักเรียนฝึกหัดเบื้องต้น ทบทวนเพลงแม่บทใหญ่ ๒ ให้นักเรียนดูวีดีทัศน์การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทุกให้ นักเรียนชม เพื่อให้นักเรียน เห็นองค์ประกอบของการแสดง และส่วนที่นักเรียนจะต้องเรียน รู้อยู่ในช่วงใดของการแสดง หลังจากชมแล้วให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ - มีท่ารำใดในเพลงแม่บทเล็กที่คล้ายกันหรือเหมือนกันกับเพลงแม่บทใหญ่บ้าง? ๓ นักเรียนและครูช่วยกันเฉลยคำถามและโยงเนื้อหาเข้าสู่ประวัติความเป็นมารำเพลง แม่บทเล็ก ขั้นสอน ๑. นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง ประวัติความเป็นมาและองค์ประกอบการแสดงรำ แม่บทเล็ก


๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ เรื่อง ประวัติความเป็นมาและองค์ประกอบการแสดงรำ แม่บทเล็ก ๓.นักเรียนรับการฝึกหัดการขับร้องเพลงแม่บทเล็กใหญ่จากครูโดยครูเปิดแผ่น บันทึกเสียงเพลงแม่บทเล็กให้นักเรียนฟัง และให้นักเรียนฝึกร้องเพลงตามครูทีละวรรค จน นักเรียนสามารถขับร้องเพลงได้ถูกต้อง ๔. นักเรียนรับการถ่ายทอดท่ารำเพลงแม่บทใหญ่จากครูผู้สอนทีละท่าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยครูใช้เทคนิคการสอนแบบอธิบายและสาธิต พร้อมทั้งใช้สื่อทางอินเตอร์เน็ตประกอบเนื้อหา ในช่วงรูปแบบของการแสดง ขั้นฝึกหัดทบทวน ๑. นักเรียนฝึกหัดทบทวนประกอบการขับร้องด้วยตนเองและปฏิบัติซ้ำ ๆจนสามารถ ปฏิบัติได้เองอย่างถูกต้องในแต่ละคำร้อง ขั้นวัดและประเมินผล ๑. นักเรียนรับการทดสอบปฏิบัติท่ารำทีละคน ๒. นักเรียนรับข้อเสนอแนะและแก้ไขท่ารำให้ถูกต้อง ๗. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ - ใบความรู้ เพลงแม่บทเล็ก ๘. เกณฑ์การประเมินทักษะปฏิบัติท่ารำเพลงแม่บทเล็ก คะแนนเต็ม 10 คะแนน นักเรียนต้องทำคะแนนได้ 8 คะแนนขึ้นไปจึงจะผ่านเกณฑ์ การประเมิน ๙. ข้อเสนอแนะ - แนะนำให้นักเรียนไปทบทวนท่ารำจากสื่อ You tube


ใบความรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เพลงแม่บทเล็ก ออกต้นวรเชษฐ์ ชั้น ปวช 1 (ใหม่) ผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล ครู วิทยะฐานะ ชำนาญการพิเศษ เวลา ๓๖ ชั่วโมง ประวัติความเป็นมา การร่ายรำแม่บทเล็กนี้ได้ปรากฏในตำราการฟ้อนรำของอินเดีย ซึ่งกล่าวถึงพระอิศวร ได้ฟ้อนรำให้โลกมนุษย์ได้ชม ชาวอินเดียเชื่อว่าที่ตำบลจิทัมพรัม ในอินเดียทางฝ่ายใต้ (ใน แคว้นมัทราส) เป็นที่ซึ่งพระอิศวรทรงแสดงการร่ายรำและต่อมาได้สร้างรูปปั้นปางนี้ การฟ้อน รำนี้เรียกว่า “นาฏราช” พวกพราหมณ์ ได้ถ่ายแบบนำไปเผยแพร่ ปัจจุบันยังมีสถานที่แห่งนี้ อยู่ สร้างขึ้นเมื่อ ราว พ.ศ. ๑๘๐๐ เป็นรูปพระอิศวรทรงแสดงการฟ้อนรำทั้งหมด ๑๐๘ ท่า มีปรากฏ ในตำรานาฏยศาสตร์มีท่ารำทั้งหมด ๓๒ ท่า และต่อมานำมาดัดแปลงเป็นท่ารำ ต่างๆ ๑๐ ท่า และบัญญัติ เรียกว่า พฤศจิเรจิตน์ (ท่าแมงป่องยกหาง) ท่ารำต่างๆที่ไทย นำมาประดิษฐ์เป็นท่ารำแม่บทเล็ก เช่น ท่าสอดสร้อยมาลา คือ ท่าร้อยดอกไม้ เป็นลักษณะ ของมือที่จีบที่ชายพกข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งตั้งวง เมื่อสอดจีบขึ้นก็เหมือนลักษณะการร้อย ดอกไม้ ท่ากวางเดินดงก็ประดิษฐ์ขึ้นมาจากท่าเดิน ของกวาง เมื่อนำมาประดิษฐ์ท่ารำต้องแบ มือทั้งสองข้าง หันฝ่ามือไปข้างหน้า ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นเก็บนิ้วหัวแม่มือนิ้วนาง นิ้วก้อย แล้วเหยียดนิ้วชี้และนิ้วกลางออกไป งอแขนเล็กน้อยระดับสะโพก การรำแม่บทตามบท นารายณ์ปราบนนทุกตามบทในหนังสือตำราฟ้อนรำเป็นแบบนาฏศิลป์ของไทย ที่เรารักษา สืบต่อกันมาแต่โบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราช นิพนธ์บทกลอนเป็นตำนานไว้ว่า “เรื่องนารายณ์กำราบปราบนนทุก ในต้นไตรดายุคโบราณ เป็นเรื่องดึกดำบรรพ์สืบกันมา ครั้งกรุงศรีอยุธยาเอามาใช้” แม่บทนางนารายณ์ เป็นการแสดงโขนตอนหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบ นนทุก ปรากฏในพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๑ ว่า “นนทุกล้างเท้าให้แล้วเทวดานางฟ้า จะแกล้งนนทุกโดยการดึงผมของนนทุก จนศีรษะล้าน นนทุกมีความโกรธแค้นมาก ได้นำเรื่อง นี้ทุลพระอิศวร และขอพรพระอิศวรโดยการให้นิ้วเพชร ซึ่งชี้ใครก็จะตาย เมื่อเทวดานางฟ้า มาขึ้นเฝ้าพระอิศวรและให้นนทุกล้างเท้า เหล่าเทวดาได้แกล้งนนทุกเช่นเคย นนทุกโกรธจึงใช้ นิ้วเพชรชี้เทวดานางฟ้า ได้รับความเดือดร้อน เทวดานางฟ้าเฝ้าพระนารายณ์ ได้ทูลขอให้ พระนารายณ์ไปช่วยปราบ พระนารายณ์ได้แปลงเป็นหญิงงาม รำล่อให้นนทุกหลงใหลโดยการ ให้นนทุกรำตาม ถ้านนทุกรำตามได้ถูกต้องก็จะยอมเป็นภรรยาของนนทุก นนทุกยอมทำตาม เมื่อถึงเนื้อร้องที่ว่า “ฝ่ายว่านนนทุกก็รำตาม ด้วยความพิสมัยใหลหลง ถึงท่านาคป่วนม้วนหาง ก็ชี้ลงที่เพลาพลันทันใด นนทุกก็ชี้ลงที่ขาของตัวเองถึงแก่ความตาย แต่ก่อนที่จะถึงแก่ความตาย นนทุกได้เห็นพระรามมีสี่กร และได้ตัดพ้อต่อว่าพระนารายณ์ว่าเอาเปรียบตนที่แปลงตัวเป็น


หญิงงามรำล่อให้ตนหลงใหล พระนารายณ์จึงบอกนนทุกว่าเมื่อนนทุก ลงไปเกิดในโลกมนุษย์ ให้นนทุกมี ๑๐ เศียร ๒๐ กร และพระองค์จะมีแต่ ๒ กร ก็จะสู้รบกับนนทุกได้ เรื่องราวข้างต้น จึงเป็นต้นกำเนิดของเรื่องรามเกียรติ์ การร่ายรำของพระนารายณ์แปลง ก็คือ การรำแม่บทเล็ก ซึ่งใช้ทำนองเพลงชมตลาด ต่อมาเรียกการรำชุดนี้ว่าแม่บทเล็กหรือแม่บทนางนารายณ์ บทร้องแม่บทนางนารายณ์ -ปี่พาทย์ทำเพลงรัว- -ร้องเพลงชมตลาดเทพนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาฉิดฉิน ทั้งกวางเดินดงหงส์บิน กินรินเลียบถ้ำอำไพ (รับ) อีกช้านางนอนภมรเคล้า แขกเต้าผาลาเพียงไหล่ เมขลาโยนแก้วแววไว มยุเรศฟ้อนในอัมพร (รับ) ลมพัดยอดตองพรหมนิมิต อีกทั้งพิสมัยเรียงหมอน ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์ (รับ) -ปี่พาทย์ทำเพลงวรเชษฐ์ เพลงเร็ว-ลาดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดง วงดนตรีที่ใช้ประกอบ ได้แก่ วงปี่พาทย์ สามารถบรรเลงได้ทั้ง วงปี่พาทย์เครื่องห้า วงปี่พาทย์เครื่องคู่ วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ วงปี่พาทย์เครื่องห้า ประกอบด้วย ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ตะโพน กลองทัด ปี่ใน ฉิ่ง วงปี่พาทย์เครื่องคู่ ประกอบด้วย ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเอกเหล็ก ระนาด ทุ้มเหล็ก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก ตะโพน กลองทัดหนึ่งคู่ ปี่ใน ปี่นอก โหม่ง ฉิ่ง ฉาบ วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ ประกอบด้วย ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก ตะโพน กลองทัดหนึ่งคู่ ปี่ใน ปี่นอก โหม่ง ฉิ่ง ฉาบ การแต่งกาย ลักษณะการแต่งกายรำมาตรฐานแม่บทนางนารายณ์ เรียกว่า “ยืนเครื่อง” แบ่ง ออกเป็น ๒ ลักษณะ ตามตัวละคร คือ ละครพระ และละครนาง ดัง รายละเอียด ดังนี้ เครื่องแต่งกายยืนเครื่องพระ ประกอบด้วย ๑.กำไลเท้า ๒.สนับเพลา ๓.ผ้านุ่ง ๔.ห้อยข้าง,เจียรบาด,ชายแครง ๕.ฉลององค์ ๖.รัดสะเอว ๗.ห้อยหน้า,ชายไหว ๘.สุวรรณกระถอบ ๙.ปั้นเหน่ง ๑๐.กรองคอ,กรองศอ ๑๑.ตาบหน้า,ตาบหน้า,ทับทรวง


๑๒.อินทรธนู ๑๓.พาหุรัด(แขนขวาแสดงเสื้อแขนสั้น ไม่ต้องมีอินทรธนู แขนซ้ายแสดงเสื้อ แขนยาวมีอินทรธนู) ๑๔.สังวาล ๑๕.ตาบทิศ ๑๖.ชฎา ๑๗.ดอกไม้เพชร(ขวา) ๑๘.จอนหู, กรรเจียก,กรรเจียกจร ๑๙.ดอกไม้ทัด(ขวา)๒๐.อุบะ,พวงดอกไม้ ๒๑.ธำมรงค์ ๒๒.แห วนรอบ ๒๓.ปะวะหล่ำ ๒๔.กำไลแผง,ทองกร


เครื่องแต่งกายยืนเครื่องนาง ประกอบด้วย ๑.กำไลเท้า ๒.เสื้อในนาง ๓.ผ้านุ่ง ในวรรณคดีเรียกว่า ภูษาหรือพระภูษา ๔.เข็มขัด ๕.สะอิ้ง ๖.ผ้าห่มนาง ๗.นามนาง ในวรรณคดีเรียกว่า กรองศอหรือสร้อยนวม ๘.จี้นาง ในวรรณคดี เรียกว่าทับทรวง ๙.พาหุรัด ๑๐.แหวนรอบ ๑๑.ปะวะหล่ำ ๑๒.กำไลตะขาบ ๑๓.กำไลสวม ใน วรรณคดีเรียกว่า ทองกร ๑๔.ธำมรงค์ ๑๕.มงกุฎ ๑๖.จอนหู ในวรรณคดีเรียกว่า กรรเจียก, กรรเจียกจร ๑๗.ดอกไม้ทัดซ้าย ๑๘.อุบะ หรือพวงดอกไม้(ซ้าย)


แผนการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะ ชื่อวิชา นาฏศิลป์ไทย ๒ รหัสวิชา ๒๐๓๐๒-๒๐๐๒ จำนวน ๒๔ ชั่วโมง หน่วยที่ ๓ รำหน้าพาทย์สาธุการ ครูผู้สอน นางขวัญตา วงศ์ไชยรัตนกุล สาระสำคัญ เพลงสาธุการเป็นเพลงที่ใช้ในพิธีกรรมทางพุทธศาสนานิกายเถรวาทครอบคลุมพื้นที่อุษาคเนย์ ฝั่งประเทศไทย ลาว เขมรมีความหมายถึงการน้อมกายใจเพื่อแสดงคารวะบูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งพระรัตนตรัยเทพเจ้าผู้สูงศักดิ์ และบูรพ-คณาจารย์ทั้งปวงได้รับการจัดรวมกลุ่มอยู่ในหมวดเพลงหน้าพาทย์ใช้สำหรับ ผู้สูงศักดิ์ สมรรถนะประจำหน่วย ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับที่มา ความหมาย องค์ประกอบของรำหน้าพาทย์ ๒. ปฏิบัติท่ารำ รำหน้าพาทย์ได้ถูกต้องตามแบบแผน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ - อธิบายประวัติความเป็นมาเพลงหน้าพาทย์สาธุการได้ - อธิบายองค์ประกอบเครื่องแต่งกาย เครื่องดนตรีและโอกาสที่ใช้เพลงหน้าพาทย์ สาธุการได้ - อธิบายนาฏยศัพท์ที่ใช้ในเพลงหน้าพาทย์สาธุการได้ - อธิบายท่ารำเพลงหน้าพาทย์สาธุการได้ ๓.๒ ด้านทักษะ - ปฏิบัติท่ารำเพลงหน้าพาทย์สาธุการได้ ๓.๓ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ มีวินัยในการเข้าเรียนและส่งงาน มีความรับผิดชอบในงานที่มอบหมาย มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ บนพื้นฐานหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตระหนักและเห็นคุณค่าในนาฏศิลป์ไทย ๔. สาระการเรียนรู้ - ประวัติความเป็นมาและนาฏยศัพท์ ของรำหน้าพาทย์เพลงสาธุการ - องค์ประกอบของรำหน้าพาทย์ เครื่องแต่งกาย เครื่องดนตรี จังหวะหน้าทับ, ทำนองเพลง โอกาสที่ใช้ เพลงสาธุการ - ความสำคัญของการรำหน้าพาทย์เพลงสาธุการ - การปฏิบัติท่ารำ หน้าพาทย์เพลงสาธุการ ๕. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนฝึกหัดเบื้องต้น ทบทวนเพลงช้า เพลงเร็ว เพลงแม่บทใหญ่และเพลงที่เรียนมา ตามตาราง การฝึกประจำสัปดาห์ ๕.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน


โดยการใช้คำถามนำเพื่อให้ผู้เรียนใช้พื้นฐานความรู้เดิม ดังนี้ - นักเรียนรู้จักเพลงหน้าพาทย์หรือไม่ - ครูอธิบายถึงความหมายของเพลงหน้าพาทย์และโยงสู่เพลงหน้าพาทย์สาธุการ ๕.๒ ขั้นสอน - แจกใบความรู้เรื่องเพลงหน้าพาทย์สาธุการ ให้นักเรียนศึกษาโดยใช้เวลา ๕ นาที ครูอธิบายเพิ่มเติมจากใบความรู้ แล้วให้นักเรียนทำกิจกรรมที่ เรื่อง ประวัติความเป็นมาและนาฏยศัพท์ องค์ประกอบการแสดง เพลงหน้าพาทย์สาธุการ - นักเรียนฟังเพลงหน้าพาทย์สาธุการ จาก ซีดีเพลงพร้อมร้องตาม ๒ เที่ยว เพื่อฟัง จังหวะหน้าทับ แล้วฝึกร้องทำนองเพลงตามซีดีเพลง - นักเรียนดูวีดีทัศน์เพลงหน้าพาทย์สาธุการเพื่อเป็นแนวทางในการเรียนปฏิบัติท่ารำ - นักเรียนปฏิบัติท่ารำเพลงหน้าพาทย์สาธุการตามครูทีละท่ารำ - นักเรียนปฏิบัติท่ารำเอง โดยการดูแลแก้ไขข้อบกพร่องจากครู เมื่อครูสังเกตว่า ปฏิบัติท่ารำได้แล้วจึงต่อท่ารำอื่น ๆ ต่อไป ปฏิบัติการสอนเช่นนี้จนจบเพลง - นักเรียนปฏิบัติท่ารำเพลงหน้าพาทย์สาธุการเข้ากับซีดีเพลงตามครู ๓ เที่ยว - นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อฝึกปฏิบัติท่ารำครูคอยดูแลแนะนำท่ารำ ๕.๓ ขั้นสรุป - ครูและนักเรียนปฏิบัติท่ารำเพลงหน้าพาทย์ตระนิมิต พร้อมกันอีก ๑ เที่ยว - สอบปฏิบัติท่ารำสาธุการ ในรูปแบบ รำคู่สี่ทิศ ๖. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ - ใบความรู้ เรื่องเพลงหน้าพาทย์สาธุการ - กิจกรรมที่ ๓ เรื่อง ประวัติความเป็นมาและนาฏยศัพท์ องค์ประกอบการแสดง เพลงสาธุการ ๗. การวัดผลประเมินผล ๗.๑ วิธีการวัด - ตรวจใบกิจกรรมที่ ๓ เรื่อง ประวัติความเป็นมาและนาฏยศัพท์ องค์ประกอบการแสดงเพลงหน้าพาทย์สาธุการ - สอบปฏิบัติท่ารำเพลงหน้าพาทย์สาธุการ ๗.๒ เครื่องมือวัด - ใบกิจกรรมที่ ๓ เรื่อง ประวัติความเป็นมาและนาฏยศัพท์ องค์ประกอบการแสดง เพลงหน้าพาทย์สาธุการ - แบบประเมินการสอบทักษะการปฏิบัติท่ารำ ๗.๓ เกณฑ์การประเมิน - นักเรียนทำกิจกรรมที่ ๓ ได้ ๕ ข้อขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน - นักเรียนปฏิบัติท่ารำได้อยู่ในเกณฑ์ดีถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ๘ . ข้อเสนอแนะ ๘.๑ ให้นักเรียนกลับไปฝึกฝนตนเองที่บ้านเพื่อให้เกิดทักษะท่ารำที่สวยงาม


๘.๒ นักเรียนนำใบความรู้ไปศึกษาเพิ่มเติมหรือค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ เช่น ห้องสมุด หรืออินเทอร์เน็ต


ใบความรู้ เรื่อง เพลงหน้าพาทย์สาธุการ เพลงหน้าพาทย์ เพลงหน้าพาทย์ คือเพลงที่ใช้บรรเลงประกอบกิริยา พฤติกรรมต่างๆ และอารมณ์ของตัวละคร เช่น เพลงโอดสำหรับร้องไห้ เสียใจ เพลงกราวรำสำหรับเยาะเย้ยสนุกสนาน เพลงเชิดฉานสำหรับพระรามตามกวาง เพลงแผละสำหรับครุฑบิน เพลงคุกพาทย์สำหรับทศกัณฐ์แสดงอิทธิฤทธิ์ความโหดร้าย หรือสำหรับหนุมานแผลงอิทธิฤทธิ์ หาวเป็นดาวเป็นเดือน เป็นต้น นอกจากนั้นยังหมายถึงเพลงที่บรรเลงประกอบกิริยา สมมุติที่แลไม่เห็นตัวตน เช่น เพลงสาธุการ เพลงตระเชิญ เพลงตระนิมิต เพลงกระบองกัน สำหรับเชิญเทพยดาให้เสด็จมา แต่ไม่มีใครมองเห็น การเสด็จมาของเทพยดาในเวลานั้น เช่น บรรเลงประกอบพิธีไหว้ครูครอบครูดนตรีและนาฎศิลป์ และยังเป็นเพลง ที่บรรเลง ประกอบกิริยาที่เป็นอดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน เช่น เมื่อพระเทศน์มหาชาติ กัณฑ์มัทรีจบลง ปี่พาทย์บรรเลงเพลงทยอยโอด คือ บรรเลงเพลงโอดกับเพลงทยอยสลับกัน เพื่อประกอบกิริยาคร่ำครวญ โศกเศร้า เสียใจของพระนางมัทรี ตัวเอกของกัณฑ์นี้ เมื่อทราบว่า พระเวสสันดรได้บริจาค สองกุมาร กัณหาและชาลีให้แก่พราหมณ์ชูชกไป พระได้เทศน์เรื่องนี้จนจบลงแล้ว แต่ปี่พาทย์เพิ่งจะบรรเลงเพลงประกอบเรื่อง อย่างนี้ถือว่าเป็นการบรรเลงประกอบกิริยาสมมุติที่เป็นอดีต เป็นต้น เพลงหน้าพาทย์นิยมบรรเลงดนตรีเพียงอย่างเดียว ไม่มีร้อง เพลงหน้าพาทย์แบ่งตามฐานันดร แบ่งออกเป็น ๒ ชนิด คือ ๑. หน้าพาทย์ธรรมดา ใช้บรรเลงประกอบกิริยาอารมณ์ของตัวละครที่เป็นสามัญชน เป็นเพลงหน้าพาทย์ไม่บังคับความยาว การจะหยุด ลงจบ หรือเปลี่ยนเพลงผู้บรรเลงจะต้องดูท่ารำของ ตัวละครเป็นหลักเพลงหน้าพาทย์ชนิดนี้โดยมากใช้กับการแสดงลิเกหรือละคร เช่น เพลงเสมอ เพลงเชิด เพลงรัว เพลงโอด ๒. หน้าพาทย์ชั้นสูง ใช้บรรเลงประกอบกิริยาอารมณ์ของตัวละครผู้สูงศักดิ์หรือเทพเจ้าต่างๆ เป็นเพลงหน้าพาทย์ประเภทบังคับความยาวผู้รำจะต้องยืดทำนองและจังหวะของเพลงเป็นหลักสำคัญ จะตัดให้สั้นหรือเติมให้ยาวตามใจชอบไม่ได้ โดยมากใช้กับการแสดงโขน ละครและใช้ในพิธีไหว้ครู ครอบครูดนตรีปละนาฎศิลป์ เช่น เพลงตระนอน เพลงกระบองกัน เพลงตระบรรทมสินธุ์ เพลงบาทสกุณีเพลงองค์พระพิราพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงอนงค์พระพิราพ ถือกันว่า เป็นเพลงหน้าพาทย์ ชั้นสูงสุดในบรรดาเพลงหน้าพาทย์ทั้งหลายเพลงหน้าพาทย์แบ่งตามหน้าที่การนำไปใช้ประกอบการแสดง ของตัวละคร แบ่งได้ ๗ ลักษณะ คือ ๑. เพลงหน้าพาทย์ประกอบกิริยาไปมา ได้แก่ เพลงเสมอใช้ประกอบกิริยาการเดินทางระยะใกล้ไปช้าๆ ไม่รีบร้อน เพลงเชิดใช้ประกอบกิริยาการเดินทางระยะไกลไปมาอย่างรีบร้อน เพลงโคมเวียน ใช้ประกอบกิริยาการเดินทางในอากาศของเทวดาและนางฟ้า เพลงแผละใช้ประกอบกิริยาการไปมาของสัตว์มีปีก เช่น นก ครุฑ


เพลงชุบใช้ประกอบกิริยาไปมาของตัวละครศักดิ์ต่ำ เช่น นางกำนัล ๒. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการยกทัพ ได้แก่ เพลงกราวนอก สำหรับการยกทัพ ของมนุษย์ ลิง เพลงกราวใน สำหรับการยกทัพของยักษ์ ๓. เพลงหน้าพาทย์ประกอบความสนุกสนานร่าเริง ได้แก่ เพลงกราวรำ สำหรับกิริยา เยาะเย้ย เพลงสีนวล เพลงช้า เพลงเร็ว สำหรับแสดงความรื่นเริง เพลงฉุยฉาย แม่ศรี สำหรับแสดง ความภูมิใจในความงาม ๔. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ได้แก่ เพลงตระนิมิต สำหรับ การแปลงกายชุบคนตายให้ฟื้น เพลงคุกพาทย์ สำหรับการแสดงอิทธิฤทธิ์ หรือเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัว เพลงรัว ใช้ทั่วไปในการสำแดงเดช หรือแสดงปรากฏการณ์โดยฉับพลัน ๕. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการต่อสู้และและติดตาม ได้แก่ เพลงเชิดนอก สำหรับการต่อสู้หรือการไล่ติดตามของตัวละครที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น หนุมานไล่จับนางสุพรรณมัจฉา หนุมานไล่จับ นางเบญกาย เพลงเชิดฉาน สำหรับตัวละครที่เป็นมนุษย์ไล่ตามสัตว์ เช่น พระรามตามกวาง เพลงเชิดกลอง สำหรับการต่อสู้ การรุกไล่ฆ่าฟันกันโดยทั่วไป เพลงเชิดฉิ่ง ใช้ประกอบการรำ ก่อนที่จะใช้อาวุธสำคัญหรือก่อนกระทำกิจสำคัญ ๖. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการแสดงอารมณ์ทั่วไป ได้แก่ เพลงกล่อม สำหรับการขับกล่อม เพื่อการนอนหลับ เพลงโลม สำหรับการเข้าพระเข้านาง การเล้าโลมด้วยความรัก เพลงโอด สำหรับ การร้องไห้ เพลงทยอย สำหรับอารมณ์เสียใจ เศร้าใจขณะที่เคลื่อนที่ไปด้วย เช่น เดินพลางร้องไห้พลาง ๗. เพลงหน้าพาทย์เบ็ดเตล็ด ได้แก่ เพลงตระนอน แสดงการนอน เพลงลงสรง สำหรับ การอาบน้ำ เพลงเซ่นเหล้า สำหรับการกิน การดื่มสุรา เพลงหน้าพาทย์ทั้ง ๗ ลักษณะล้วนเป็นเพลงหน้าพาทย์ที่นำมาใช้ในการแสดงต่างๆ เช่น ลิเก ละครและโขนอยู่บ่อยๆ เพลงสาธุการ เป็นเพลงที่ใช้ในพิธีกรรมทางพุทธศาสนานิกายเถรวาทครอบคลุมพื้นที่อุษาคเนย์ ฝั่งประเทศไทยลาว เขมรมีความหมายถึงการน้อมกายใจเพื่อแสดงคารวะบูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งพระรัตนตรัย เทพเจ้าผู้สูงศักดิ์และบูรพคณาจารย์ทั้งปวงได้รับการจัดรวมกลุ่มอยู่ใ นหมวด เพลงหน้าพาทย์ ใช้สำหรับผู้สูงศักดิ์ ที่มาของเพลงไม่ปรากฏผู้ประพันธ์และประพันธ์ขึ้นเมื่อไร นอกจากหลักฐานทางมุขปาฐะ เรื่องตำนานการเกิดเพลงสาธุการ ซึ่งสะท้อนรากฐานความเชื่อที่ผสมผสานคติฮินดูและพุทธในสังคม อุษาคเนย์ เล่าขานกันว่า พระอิศวรทรงพิโรธเมื่อทรงทราบว่า บรรดาเทพบุตรเทพธิดา บนสรวงสวรรค์ ต่างพากันไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังพระธรรมเทศนากันหมด จึงได้ท้าทายพระพุทธเจ้า ให้ลองอิทธิฤทธิ์ โดยเล่นซ่อนหากันไม่ว่าพระอิศวรจะซ่อนอยู่แห่งหนใด พระพุทธองค์ก็ทรงหยั่งรู้ด้วย พระปรีชาญาณ เมื่อถึงคราวพระพุทธองค์เป็นฝ่ายซ่อนบ้าง ก็ทรงเนรมิตพระองค์ เป็นละอองปรามณูแทรกอยู่ ในเส้นพระเกศาของพระอิศวร ในที่สุดพระอิศวรหาไม่พบจึงต้องยอมแพ้ และใช้บทเพลงสาธุการ บรรเลงถวายพระพุทธเจ้าเพื่ออัญเชิญให้ยอมเสด็จลงมาจากที่ซ่อนนั้นนับเป็นปฐมเหตุของการเกิด เพลงสาธุการขึ้น ครูดนตรีไทยโบราณได้นำเพลงนี้ไปผูกรวมกับเพลงอื่นๆในชุดโหมโรงพิธีกรรม รียกว่าโหมโรงเช้าและโหมโ รงเย็น สำหรับพิธีกรรมต่างๆเพื่อคว ามเป็นศิริ มง คล


แบบสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้การเรียน คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย / ลงในช่องคะแนนที่นักเรียนมีพฤติกรรมตรงกับเกณฑ์การประเมินดังนี้ ระดับการให้คะแนนการประเมิน ดี หมายถึง 3 คะแนน พอใช้ หมายถึง 2 คะแนน ปรับปรุง หมายถึง 1 คะแนน เลขที่ ชื่อ-สกุล รายละเอียดการประเมิน รวม 9 ระดับคุณภาพ ตั้งใจฝึ กปฏิบั ติ ช่วยเห ลือเพื่ อน มีควา มกระ ตือรือ ร้น 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1


แบบประเมินการสอบทักษะการปฏิบัติท่ารำ คำชี้แจง ให้ทำเครื่อง / ในช่องที่นักเรียนปฏิบัติได้จริง เลขที่ ชื่อ-สกุล รายละเอียดการประเมิน รวม 8 ระดับคุณภาพ ท่ารำถูกต้อง จังหวะถูกต้อง ลีลาท่ารำสวยงาม มีปฏิภาณไหวพริบ 3 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1


เกณฑ์การประเมิน นักเรียนปฏิบัติท่ารำได้อยู่ในเกณฑ์ดีถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ดี หมายถึง ได้คะแนน 7 - 8 พอใช้ หมายถึง ได้คะแนน 4 - 6 ควรปรับปรุง หมายถึง ได้คะแนน 0 - 3 ลงชื่อ............................... ครูผู้สอน


Click to View FlipBook Version