แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1
กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
รายวิชา วิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน รหัสวชิ า ว21101
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1
เร่อื ง สารและการจาแนกสสาร จานวน 20.00 ชั่วโมง
เวลา 3.00 ช่ัวโมง
1. สาระสาคญั
สารที่อยู่รอบตัวเราล้วนมีลักษณะเฉพาะตัวท่ีแตกต่างกัน สารบางชนิดสามารถสังเกตได้จาก
ลักษณะภายนอกของสารได้ เช่น สี สถานะ เป็นต้น ซึ่งเป็นสมบัติทางกายภาพของสาร แต่สมบัติบาง
ชนิดของสารเกิดจากการทาปฏกิ ริ ิยาเคมี ทาใหเ้ กิดสารใหม่ทมี่ ีองค์ประกอบแตกต่างไปจากเดิม เช่น การ
เผาไหม้ การเกิดสนมิ เป็นต้น ซงึ่ เป็นสมบัติทางเคมีของสาร การระบุว่าสารแต่ละชนดิ เปน็ สารประเภทใด
จาเป็นต้องใช้สมบัติของสารมาวิเคราะห์ เชน่ การใช้สถานะ การใช้เน้อื สาร และการใชข้ นาดของอนภุ าค
มาเป็นเกณฑ์ในการจาแนกสาร
2. มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธ์ระหวา่ งสมบัตขิ อง
สสารกบั โครงสรา้ งและแรงยึดเหนยี่ วระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาตขิ องการเปลี่ยนแปลงสถานะของ
สสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี
3. ตัวชี้วดั
1. อธบิ ายและเปรยี บเทียบการจัดเรียงอนภุ าค แรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนุภาค และการเคล่ือนที่
ของอนุภาคของสสารชนิดเดยี วกันในสถานะของแข็ง ของเหลว และแกส๊ โดยใชแ้ บบจาลอง (ว2.1ม.1/9)
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายการจดั เรยี งอนภุ าค แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนภุ าค และการเคล่ือนท่ขี องอนุภาคของ
สารชนิดเดยี วกันในสถานะต่างๆได้ (K)
2. เปรยี บเทียบการจดั เรียงอนภุ าค แรงยึดเหนยี่ วระหว่างอนุภาค และการเคล่อื นที่ของอนภุ าค
ของสารชนดิ เดียวกนั ในสถานะต่างๆ ได้ (P)
3. รบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่และงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย (A)
5. สมรรถนะสาคญั
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน
4. มจี ติ สาธารณะ
7. สาระการเรยี นรู้
- สสารทกุ ชนิดประกอบด้วยอนุภาค โดยสารชนิดเดยี วกันทีม่ ีสถานะของแข็ง ของเหลว แกส๊ จะมี
การจดั เรียงอนุภาค แรงยดึ เหนยี่ วระหวา่ งอนภุ าค การเคลอื่ นทข่ี องอนภุ าคแตกตา่ งกนั ซ่งึ มีผลตอ่ รูปรา่ งและ
ปริมาตรของสสาร
- อนภุ าคของของแข็งเรียงชิดกัน มแี รงยึดเหนย่ี วระหว่างอนุภาคมากทส่ี ดุ อนุภาคสั่นอยูก่ บั ท่ี ทาใหม้ ี
รูปร่างและปรมิ าตรคงท่ี
- อนุภาคของของเหลวอยูใ่ กล้กัน มแี รงยึดเหน่ยี วระหว่างอนุภาคนอ้ ยกวา่ ของแข็งแต่มากกว่าแกส๊
อนภุ าคเคลือ่ นท่ไี ด้แต่ไม่เปน็ อิสระเท่าแก๊ส ทาใหม้ ีรูปร่างไม่คงท่ี แตป่ รมิ าตรคงที่
- อนภุ าคของแก๊สอยหู่ า่ งกันมาก มแี รงยดึ เหนีย่ วระหวา่ งอนภุ าคน้อยท่ีสุด อนุภาคเคล่อื นที่ได้อยา่ ง
อสิ ระทุกทิศทาง ทาให้มีรูปร่างและปรมิ าตรไมค่ งที่
8. การจัดกระบวนการเรยี นรู้
1. ขน้ั สรา้ งความสนใจ
1. ครอู ธบิ ายความหมายของสารและสสาร
“สสาร คือ ส่ิงท่ีมีมวล ตอ้ งการท่ีอยู่ และสามารถสมั ผัสได้ หรอื อาจหมายถึงสง่ิ ต่างๆ ที่อยู่รอบตัว
เรา ส่วน สาร คอื เนือ้ ของสสารทีแ่ สดงสมบัตแิ ละองค์ประกอบของสสารชนดิ นัน้ ๆ”
2. ครูให้นักเรียนยกตวั อยา่ งสสาร ประมาณ 10 ชนดิ
3. ครูยกตัวอย่างสสารใหน้ กั เรียน เพือ่ ใหน้ ักเรยี นระบวุ ่าเปน็ สารหรือไม่ เชน่ แสงอาทิตย์อากาศ
คลน่ื ไมโครเวฟ นา้ พลงั งานความรอ้ น ถา่ น เหลก็ ธนบตั ร ทองแดง และไม้
2. ข้นั สารวจและคน้ หา
1. ครูถามคาถาม prior knowledge กระตนุ้ ความคดิ ของนักเรยี น
2. ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 4 กล่มุ โดยใหแ้ ต่ละกลมุ่ ศึกษา เรอ่ื ง สมบัติของสาร จาก
หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1หน้าที่ 3
3. ครนู าน้าสม้ สายชใู ส่ลงในบีกเกอร์ A และนา้ ใส่ลงในบีกเกอร์ B มาให้นกั เรยี นศกึ ษา และตอบ
คาถามต่อไปนี้
- นกั เรียนคดิ วา่ สารในบีกเกอร์ A และ B เป็นสารชนิดเดียวกันหรอื ไม่
(แนวคำตอบ พิจำรณำคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน)
4. ครใู ห้นกั เรยี นตรวจสอบสารในบกี เกอร์A และ B แล้วถามคาถามนกั เรยี นดังนี้
- สาร A และ B ทีน่ ักเรยี นตรวจสอบ มลี กั ษณะอยา่ งไร
(สำร A และ B เปน็ ของเหลว ไมม่ สี ี แต่สำร A มีกลิ่นฉนุ เมื่อทดสอบด้วยกระดำษ
ลิตมสั พบว่ำสำร A มฤี ทธ์เิ ปน็ กรด สว่ นสำร B ไมเ่ ปลี่ยนสีกระดำษลิตมสั )
- นกั เรียนคดิ ว่าลกั ษณะใดเป็นสมบตั ิทางกายภาพ
(สถำนะของสำร สี กลนิ่ เป็นต้น)
- นกั เรียนคิดว่าลกั ษณะใดเป็นสมบตั ิทางเคมี
(ควำมเปน็ กรด-เบส เปน็ ตน้ )
5. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายเรอื่ ง สมบตั ขิ องสาร โดยครูยกตวั อย่างใหน้ ักเรยี นเหน็ จากการ
นาสาร A และ B ทมี่ ลี ักษณะภายนอกทเ่ี หมือนกนั แต่ไม่ใช่สารเดียวกัน ดงั น้นั จงึ จาเป็นต้อง
อาศยั สมบตั ิของสารเขา้ มาตรวจสอบ จึงทาให้รู้ว่าสารท้ังสองเปน็ สารตา่ งชนดิ กนั
6. ครเู กริน่ นาเข้าสเู่ รอ่ื งถัดไปว่า การจาแนกสารจาเป็นต้องใชส้ มบัตขิ องสารมาวเิ คราะห์
7. ครูยกตัวอยา่ งการจาแนกสารโดยใชส้ ถานะของสาร ซงึ่ เปน็ สมบตั ทิ างกายภาพมาให้นกั เรียน
ศึกษา โดยใหน้ ักเรยี นศึกษาในหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 4
8. ครูยกตวั อยา่ งสถานะของปรอท ซง่ึ เป็นสารท่ีมี 3 สถานะเช่นเดียวกับน้า ใน Science focus
มาใหน้ กั เรียนไดศ้ ึกษาในหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หนา้ ที่ 4
9. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มศึกษา เรอื่ ง การจาแนกสารโดยใชเ้ น้ือสารและอนุภาคของสารเป็น
เกณฑ์ จากหนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1หน้าที่ 5
10. ครแู จกภาพแต่ละชุดให้แต่ละกลมุ่ โดยภาพแตล่ ะชดุ มี ดังน้ี
สม้ ตา น้าผลไม้ป่ัน น้าเกลือ น้านม กาแฟ สลดั นา้ แปง้ ทองคาขาว นา้ พริก แอลกอฮอลเ์ ชด็
แผล นา้ ส้มสายชู หมอก ควนั จากทอ่ ไอเสยี แก๊สหงุ ตม้ เป็นตน้
11. ครแู จกใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง การจาแนกสารเพื่อให้แตล่ ะกลุ่มรว่ มกันจาแนกสารจากภาพ แลว้
บนั ทกึ ลงในใบงานที่ 1.1
3. ขนั้ ลงข้อสรปุ
1. ครสู ุ่มตวั แทนแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง การจาแนกสาร
2. ครเู สริมและเพ่ิมเตมิ ความรใู้ ห้กบั ตวั แทนนักเรยี นท่ีออกมานาเสนอ
3. ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสมบตั ขิ องสาร การจาแนกสาร เปรยี บเทียบการจดั เรียงอนุภาค
และการเคล่ือนท่ีของสารทัง้ 3 สถานะ
4. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดลงในแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
9. ส่ือการเรยี นการสอน
1) หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตรม์ .1 เลม่ 1
2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ม.1 เล่ม 1
3) ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื งการจาแนกสาร
4) PowerPoint หรอื ภาพสารตา่ งๆได้แก่ ส้มตา นา้ ผลไม้ป่ัน น้าเกลอื นา้ นม กาแฟ สลดั
นา้ แป้ง ทองคาขาว นา้ พริก แอลกอฮอล์ น้าส้มสายชู หมอก ควันจากท่อไอเสีย แกส๊ หงุ ต้ม เป็นต้น
5) อุปกรณก์ ารทดลอง เร่ือง ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส
10. การวดั ผลประเมนิ ผล
การวัดผลประเมนิ ผลดา้ น วิธีการวดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การผ่าน
10.1 การประเมินกอ่ น
เรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพ
ก่อนเรียน จริง
- แบบทดสอบก่อน - เฉลยใบงานที่ 1.1
เรยี นหน่วยการ - ตรวจใบงานที่ 1.1เรอื่ ง เร่อื ง การจาแนกสาร รอ้ ยละ 60 ผ่าน
เรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง การจาแนกสาร เกณฑ์
สารรอบตวั -เฉลยใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง ร้อยละ 60 ผา่ น
-ตรวจใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง สารรอบตัว เกณฑ์
10.2 ประเมนิ ระหวา่ ง สารรอบตวั ระดับคุณภาพ 2
การจัดกิจกรรมการ - แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์
เรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ม.1
เลม่ 1 ระดับคุณภาพ 2
1) สารและการ - ประเมินการเสนอ ผา่ นเกณฑ์
จาแนกสาร ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง - แบบประเมินการ
การจาแนกสาร นาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2
2) การนาเสนอ ผ่านเกณฑ์
ผลงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
การทางานรายกลมุ่ การทางานรายกลมุ่
3) พฤตกิ รรมการ
ทางานรายกล่มุ
ลงช่ือ……………………………………ผอู้ อกแบบการเรียนรู้
(นางสาวนงลักษณ์ ปาจตุ ิ)
ตาแหน่ง ครผู ชู้ ่วย
…..………/……….……/……………
11. ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………….......................................................................…
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
ลงช่อื ………………………...............……..
(นางสาววนสั นนั ท์ สอนสมนกึ )
ครู
......../......../.........
12. ความคิดเห็นของผู้ผ้ชู ่วยรองผู้อานวยการกล่มุ งานบรหิ ารงานวชิ าการ
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
ลงชอื่ ………………………...............……..
(นางอจั ฉรา วงศอ์ ามาตย)์
ครู วทิ ยฐานะ ชานาญการพเิ ศษ
ตาแหน่ง หัวหน้ากลุม่ งานบรหิ ารงานวชิ าการ
......../......../.........
13. ความคิดเหน็ ของผอู้ านวยการโรงเรยี น
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
ลงชอื่ …………………………….....................
(นายกติ ิศกั ด์ิ ไทวะกิรติ)
ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี นโนนเจริญพทิ ยาคม
........../......../..........
14. บันทกึ ผลหลังสอน
14.1 ผลการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………….......................................................................…
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
14.2 ปญั หา/อปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………….......................................................................…
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
14.3 แนวทางการแก้ปญั หา
…………………………………………………………………………………………….......................................................................…
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………………..............................................................
ลงชอ่ื ……………………………................ครผู สู้ อน
(นางสาวนงลักษณ์ ปาจุติ)
ตาแหน่ง ครผู ้ชู ่วย
ใบงานท่ี 1.1
เรือ่ ง การจาแนกสาร
คาชีแ้ จง : จงบันทกึ ชอื่ สารจากภาพ และใช้สมบัติทางกายภาพของสารเปน็ เกณฑ์ในการจาแนกชนดิ ของ
สารโดยขีดเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องท่ีกาหนดให้
สมบัติทางกายภาพ
ชื่อสาร สถานะ เนอื้ สาร อนภุ าค
ของ ของ แกส๊ สาร สาร สาร สาร คอลลอยด์
แขง็ เหลว เนอ้ื เดยี ว เนอ้ื ผสม ละลาย แขวนลอย
ใบงานที่ 1.1 เฉลย
เร่อื ง การจาแนกสาร
คาชี้แจง : จงบันทึกช่อื สารจากภาพ และใช้สมบัตทิ างกายภาพของสารเป็นเกณฑ์ในการจาแนกชนิดของ
สารโดยขดี เครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งที่กาหนดให้
สมบัติทางกายภาพ
ชอ่ื สาร สถานะ เนอื้ สาร อนภุ าค
ของ ของ แก๊ส สาร สาร สาร สาร คอลลอยด์
แขง็ เหลว เน้ือเดียว เน้อื ผสม ละลาย แขวนลอย
หมอก
ส้มตำ
นำผลไมป้ ่นั
นำเกลือ
แก๊สหงุ ตม้
นำส้มสำยชู
ทองคำขำว
แอลกอฮอลเ์ ชด็
แผล
กำแฟ
สลัด
นำพรกิ
ควันทอ่ ไอเสยี
นำแปง้
นำนม
นำโคลน