ความหมายและความสาคัญของเครือ่ งหมายความปลอดภยั
เคร่ืองหมายเพ่ือความปลอดภัย (Safety Signs) หมายถึง ส่ิงที่ใช้สื่อความหมายเก่ียวกับความ
ปลอดภัย โดยมีสี รูปแบบ และสัญลักษณ์ภาพ หรือข้อความท่ีแสดงความหมายเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์
ดา้ นความปลอดภัย
สถานท่ีปฏิบัติงานทุกแห่งต่างก็ปรารถนาท่ีจะปราศจากอันตราย และปลอดภัยจากการบาดเจ็บและ
อบุ ตั เิ หตตุ ่าง ๆ แต่ในกระบวนการทางานหลาย ๆ ประเภท จาเปน็ ตอ้ งเผชญิ กับความเสย่ี งทีไ่ มส่ ามารถควบคุม
อันตรายได้ท้ังหมดแม้จะใช้ทั้งมาตรการทางวิศวกรรม การบริหารจัดการ หรืออุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วน
บคุ คลแล้วก็ตาม ดังนั้นวิธีที่ดีท่ีสดุ ในการบริหารจัดการความเสย่ี งก็คือ การทาใหม้ ั่นใจวา่ เราสามารถหลีกเล่ียง
การสัมผัสกับอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในทุก ๆ ข้ันตอนของการทางาน ซึ่งวิธีหนึ่งท่ีได้รับการยอมรับกัน
โดยทว่ั ไปวา่ สามารถชว่ ยป้องกันอุบัติเหตุได้ กค็ ือการใช้ “เคร่ืองหมายเพ่ือความปลอดภัย (Safety Signs)” ไม่
ว่าจะเป็น ป้าย สัญลักษณ์ ฉลาก หรือเคร่ืองหมาย เพื่อแจ้งและย้าเตือนผู้ปฏิบัติงานให้รับทราบและตระหนัก
ถึงอันตรายที่อาจเกิดข้ึน เครื่องหมายเพ่ือความปลอดภัย ต้องมีความชัดเจนและมีข้อมูลเพียงพอ เพื่อส่ือได้
วา่ เป็นการหา้ ม การเตือน คาส่ัง ข้อแนะนา บอกทศิ ทาง หรือให้ข้อมูลด้านความปลอดภยั ซ่งึ โดยปกติแล้วเม่ือ
มองไปรอบ ๆ พ้ืนท่ีงานก็จะสังเกตเห็นป้ายชนิดต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยหรือ
ประชาสมั พนั ธ์ในเรอ่ื งอ่ืน ๆ แต่ปา้ ยทีเ่ ก่ียวข้องกับความปลอดภัยต้องมคี วามสาคญั เปน็ ลาดับแรกเสมอ จึงต้อง
ติดตง้ั อยูใ่ นตาแหน่งท่เี หมาะสมและไม่มีสิ่งใด ๆ มาบดบังทัศนวสิ ัยในการมองเหน็ ของผปู้ ฏิบัติงาน
นอกจากนี้ยังต้องม่ันใจว่าป้ายความปลอดภัยได้ถูกติดตั้งไว้ในตาแหน่งท่ีผู้ปฏิบัติงานสามารถมองเห็น
ได้โดยง่ายซ่ึงผู้ใช้งานหรือผู้ปฏิบัติงานควรจะสังเกตเห็นป้ายเตือนได้โดยทันทีท่ีเข้าถึงช้ินส่วนท่ีอันตรายของ
อุปกรณ์หรือเคร่ืองจักร หรือถ้าไม่มีข้อความเตือนก็ควรมีสัญลักษณ์ภาพท่ีสื่อถึงอันตราย ท้ังนี้เรายังสามารถ
นาไปประยกุ ต์ใช้ได้กบั วสั ดุทุกชนดิ ท่ีอาจกอ่ ให้เกิดความเส่ียงข้ึน เมอ่ื ผู้ปฏบิ ัติงานไปสมั ผสั แตะต้องดว้ ย
อิทธิพลของสตี ่อจติ ใจมนษุ ย์
ส่ิงท่ีอยู่รอบๆตัวเราน้ัน ลว้ นมอี ิทธพิ ลต่ออารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ไปจนถึงปฏิกิรยิ าตอบสนองทาง
กายของเรา สีกเ็ ช่นกนั เปน็ อีกหนึ่งปจั จัยทมี่ ีผลต่อปฏกิ ิริยาทางใจและทางร่างกาย เน่อื งจากสจี ะไปกระตุ้นต่อม
ไพเนียล (Pineal Gland) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่ออยู่เหนือสมอง ที่ส่งผลถึงฮอร์โมน ความรู้สึก จิตใจ อารมณ์ของแต่
ละบคุ คล ในเชงิ จติ วิทยา สีมีความเกยี่ วข้องกบั อารมณ์ของคนเรา พูดง่ายๆกค็ อื สแี ต่ละสมี ผี ลต่อสภาวะร่างกาย
ท่ีแตกต่างกันออกไปค่ะ จะขอยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น การที่เรามองดูสีแดงก็จะทาให้การเต้นของหัวใจของเรา
เร็วขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการเพ่ิมระดับของอะดรีนาลีนที่ถูกสูบฉีดเข้าไปในกระแสเลือด ดังนั้นหากเพื่อนๆเข้าใจถึง
ผลกระทบของสีแต่ละสี เพอื่ นๆกจ็ ะสามารถนาความรนู้ ีม้ าใชส้ รา้ ง Mood & Tone ใหก้ ับบ้านของเราได้
ก่อนอ่ืนจะขอแบ่งประเภทของสีแบ่งออกเปน็ 2 กลุ่มหลกั ๆ คือ สีโทนเย็น (Cool Colors) กับ สีโทน
ร้อน (Warm Colors) เริ่มกันที่สีโทนเย็น เช่น สีเขียวเหลือง สีเขียว สีฟ้า สีน้าเงิน และสีม่วง จุดประกาย
ความรู้สกึ สงบ ความปลอดภัย ความเงียบ ความสุขุมเยือกเย็นไปจนถึงความรูส้ ึกเศรา้ และหดหไู่ ดเ้ หมือนกนั ค่ะ
ในขณะท่ีสีโทนร้อน ได้แก่ สีเหลือง สีส้ม สีแดง และสีม่วงแดง เป็นต้น กระตุ้นอารมณ์จากความรู้สึกอบอุ่น
ความกระฉับกระเฉง ความตน่ื เต้น ไปจนถงึ ความรู้สกึ ไม่เปน็ มติ รและความโกรธ
สโี ทนเยน็ (Cool Colors)
หากต้องการความสงบ จินตนาการ หรืออยากให้สมองแล่น อาจใช้สีม่วงเพื่อสร้างสมดุลระหว่างแรง
กระตุ้นและความเงียบสงบซึ่งจะช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ในขณะที่สีม่วงอ่อนช่วยสร้างบรรยากาศที่
ปลอดโปร่งและลดความตึงเครยี ด จงึ เป็นสีที่เหมาะสาหรับทาบา้ น หอ้ งรับแขก หรือหอ้ งทางาน
ถ้าต้องการสภาพแวดลอ้ มท่ีสงบเย็น สบายๆ อาจจะต้องลองใช้สีเขยี วหรือสีน้าเงิน ทั้งสองสีนี้เป็นสีที่
เหมาะกับการพกั ผอ่ น เน่ืองจากตามหลกั วิทยาศาสตร์แล้ว สเี ขียวเป็นสที ี่ดวงตาของเรามองเห็นโดยตรงจากจอ
ตา (Retina) หรอื ทบ่ี างคนเรียกวา่ จอประสาทตา หรือจอรับภาพของตา ทาให้กลา้ มเนือ้ ตาตงึ เครียดนอ้ ยกวา่
ส่วนสฟี ้าเป็นสีทีแ่ นะนาให้ใช้กบั ห้องทีม่ ีผู้คนผ่านไปมาพลุกพลา่ น หรอื หอ้ งทคี่ นอ่ืนๆจะใช้เวลาในห้อง
นานๆ เน่ืองจากโดยทั่วไปแล้วสีฟ้าเป็นสีที่ช่วยให้ความรู้สึกสงบและสบายใจ ซ่ึงสามารถช่วยลดอัตราการเต้น
ของหัวใจและช่วยลดความดันโลหิตได้ ดังน้ันจึงเป็นความคิดท่ีดีเลยหากจะใช้สีฟ้าทาห้องนอนหรือห้องน้า
เพราะจะชว่ ยให้ร้สู ึกผ่อนคลายทงั้ ทางใจและทางกาย
สีโทนร้อน (Warm Colors)
เคยสังเกตกันไหมคะเพื่อนๆว่าร้านอาหารชอบใช้สีอะไรในการตกแต่ง น่ีเป็นอีกตัวอย่างหน่ึงของการ
ใช้สีช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาทางร่างกายและทางความรู้สึก ถ้าหากต้องการสรา้ งบรรยากาศทีก่ ระตุ้นความหิวหรือ
ความอยากรบั ประทานอาหาร คุณอาจจะต้องใชส้ ีโทนร้อน แบบสีเหลือง สสี ม้ หรือสแี ดงคะ่ เน่ืองจากสเี หลา่ น้ี
ส่ือถึงอาหารและสามารถช่วยเรียกน้าย่อยทาให้ผู้ท่ีได้รับชมเกิดอาการรู้สึกหิวขึ้นมาได้ ทั้งน้ีสีท่ีสว่างอย่างสี
เหลืองจะทาปฏกิ ิรยิ าสะท้อนแสงมากกว่า ซ่ึงอาจส่งผลต่อดวงตาทาให้รสู้ ึกแสบตาไปจนถึงระคายเคืองตาเวลา
ที่มองมากเกินไปหรือนานเกินไป ดังน้ันเราอาจใช้สีอื่นเข้ามาช่วยลดความสว่างลงตามความเหมาะและความ
เข้ากันของคู่สี สรุปง่ายว่าสีโทนร้อนเป็นสีที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา กระตุ้นความสนใจ ช่วยให้เจริญอาหาร จึง
เหมาะกับห้องรับประทานอาหาร ห้องน่ังเล่น และห้องรับแขก
สีกลาง (Neutral Colors)
สกี ลางหรือสีเอิรธ์ โทน หรือกค็ ือสีที่ไม่ได้อยู่ในโทนเย็นหรอื โทน
รอ้ น ไดแ้ ก่ สดี า สขี าว สีเทา รวมไปถึงสีน้าตาล สีเบจ และสีครีม สกี ลุ่ม
น้ีจะให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและเรียบง่ายสบายตา ซ่ึงเหมาะกับทุกห้อง
ของบ้านเลย แต่ก็มีข้อจากัดบางอย่าง เช่น การใช้สีดาหรือสนี ้าตาลเข้ม
ท่ีต้องใช้สีคู่อ่อนมาใช้จับคู่เพ่ือไม่ให้ห้องดูแคบหรือรู้สึกอึดอัด เช่นสี
น้าตาลกบั สีครมี หรอื สดี ากับสีเทา เป็นต้น
สพี าสเทล (Pastel Colors)
สีพาสเทลคือ สีที่ผสมกับสีขาวเพื่อลดความเข้มสดของแม่สีลง เช่น สีเขียวมิ้นท์ ท่ีให้ความรู้สึกอบอุ่น
อ่อนหวาน อ่อนเยาว์ นุ่มนวลชวนฝัน และผ่อนคลาย นิยมใช้ตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจย้อนยุค และเหมาะกับ
หอ้ งท่ไี ม่ตอ้ งการบรรยากาศจรงิ จัง
สเี อกรงค์ (Monochromes)
คือ การใชส้ ีเพียงสเี ดยี วเด่นชดั แต่มีการลดหล่ันน้าหนักสเี พ่อื ให้เกดิ ความเข้มออ่ น ยกตัวอย่างเชน่ เช่น
สีดา-เทา-ขาว ให้ความรู้สึกกลมกลืนแต่มีมิติ สามารถนาไปใช้ได้กับทุกห้องได้เพียงแต่ว่าอาจจะต้องยึดตาม
หลักโทนสีร้อน-เยน็ มาควบคูด่ ้วย